เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

เอาข้อคิดดีดีมาฝากขอรับ

กราบ กราบ กราบ ครูบาอาจารย์ ขอรับ

 

รวมเหรียญพญาเต่าเรือน หลวงตาเล็ก วัดใหม่ฯ​

​

คุณพี เสาวภา : เจ้าของเหรียญ

 

​

กราบ กราบ กราบ ครูบาอาจารย์ ค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน (มอญ) ค่ะ​

 

พระบูชาปางนาคปรก ๙ นิ้ว หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน (มอญ)

กราบ กราบ กราบ ค่ะ​

คุณพี เสาวภา : เจ้าของพระ

 

ปรับบัญชีล่าสุด โมทนา สาธุการร่วมกัน
ถอน 11,000 บาท ไปกาชาดไทย 10,000 บาท อีก 1,000 บาท สร้างระฆัง และหอระฆัง สระบุรี จำชื่อวัดไม่ได้ อาทิตย์หน้าแจ้งให้ทราบ ​

 

กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ปาน ค่ะ​

 

มากราบท่านปู่ ท่านย่า ขอโชค ขอลาภ กราบ กราบ กราบ ​

 

กราบแม่พิมพา วัดท้องไทร ขอโชค ขอลาภ กราบ กราบ กราบ ​

 

อ่านข้อหนึ่ง ให้ชัดๆน่ะครับ

ตอนหลวงตาเล็ก ป่วย นอนซมในกุฏิน่ะครับ ไม่มีใครเอาไปส่งโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นภาระ เอาไปส่งโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายค่ารถ ค่าหมอ ค่ายา ต้องเฝ้าดูแล ผมเลยเล่าไปที่ไหนสักที่ ว่า ครั้งแรกที่ผมไปเจอ ท่านนอนเป็นไข้สูงมาหลายวันครับ ไม่มีใครมาสนใจ เนื่องจากแผลอักเสบ โดนแมวข่วน ไปถึงท่านจะให้ผมล้างแผล ผมจับตัวท่านร้อนยังกับไฟ เลยไม่รอช้าอุ้มขึ้นรถ ไปหาหมอที่โกรกพระ ทำแผล ให้ยา ให้น้ำเกลือ จนไข้ทุเลา จึงกลับวัด

หลังจากนั้น ท่านก็ป่วย บ่อยๆตามวัย สารวัตร อารยาและผม เลยมาคิดมุขกัน เอาเงินไว้ ค่าหมอ ค่ายา ให้มีคนทำข้าวต้มปลาส่งและ มีเบี้ยเลี้ยง ให้ สายตรวจมาที่วัด ทุกวันในตอนกลางคืน

เหรียญรุ่นนี้ที่เรียกว้่า สารวัตรสร้าง ตอกโค็ดแบบนี้ น่าจะเป็นเหรียญ ช่วยหลวงตา เพราะช่วยท่านจริงๆครับ
ท่านมาอ่านนี่ อ่านไปตามความเป็นจริงน่ะครับ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงตาเล็ก วัดใหม่ฯ ค่ะ​

 

พระเดชพระคุณ พระครูบุญศรี อินทวัณโณ พิธีเททองพระชุดแพโบสถ์น้ำ
๒๒ มีนาคม ๒๕๔๑ วัดใหม่ศรีสุทธาวาส คุ้งมัทรี พยุหะคีรี นครสวรรค์​

 

QUOTE=พี เสาวภา


แต่ที่เล่ามายาว กับหลวงปู่พระครูบุญศรี ผมเจอของผมเอง และเป็นอาจารย์ องค์เดียวที่ผมถือดอกไม้ธูปเทียน ไปขอเป็นศิษย์ ทางคาถาอาคม และท่านครอบให้อย่างถูกวิธี ตามแต่ที่โบราณท่านกำหนดมา และจากนั้น ผมมีแค่หลวงปู่ อาจาย์ของผมองค์เดียวที่ผมพูดได้ว่า รับผมเป็นศิษย์ แบบ เอ่ยวาจารับ และ รับลูกของผมอุปการะเป็นบุตรบุญธรรม ลูกผมป่วย หรือ ดื้อ ผมจะฟ้องหรือรายงาน ท่านเป็นประจำว่า หลวงปู่ฝากให้ผมช่วยดูไว้น่ะครับ หลวงปู่ต้องเมตตาสั่งสอนเขาให้ด้วย และอย่าให้เขามีอันตราย

ตอนมาบวช สองครั้ง ผมบวชวัดเดียวคือวัดหน้าต่างนอก กับพระอาจารย์แม้น เพราะถูกอัธยาศัยของท่าน และผมเป็นศิษย์ สายหลวงปู่ปาน หลวงพ่อจงครับ เป็นโดยมรดก ตกทอดกันมา ตอนมาบวชที่วัด งานไหว้ครู ผมเลยรับครูฤาษีด้วย เพราะเห็นว่า หลวงพ่อจงท่านยังนับถือ และ เมื่อจะเรียนคาถาอาคม ก็ต้องไหว้ครู คือ พระครูฤาษีครับ เพราะเป็นต้นทาง คาถา อาคม แต่ไม่ได้เจาะจงที่องค์ไหน นับถือทุกองค์

ที่เล่ามายาว จะสรุปว่า ไม่มีใครเหมือนหลวงปู่บุญศรี และที่ผมนับถือท่าน ผมไม่ได้นับถือแบบลูกศิษย์ไปฟังเทศน์ ไปขอของดี แต่ผมปรนนิบัติท่านเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ ท่านเจ็บป่วย ผมพยาบาล พาไปหาหมอ หลายครั้ง คราวท่านเป็นไข้ตัวร้อนมาก ผมก็อุ้มท่านขึ้นรถไปหาหมอ เช็ดตัว ป้อนข้าวให้ท่าน

ครั้งสุดท่าน ก่อนท่านละสังขารก็เป็นผมพาท่านไปที่ โรงพยาบาล ประชารังสรรค์ ที่ปากน้ำโพ ไปฝากเพื่อนผมที่เป็นหมอ เรียนจุฬามาด้วยกัน และเป็นผู้อำนวยการอยู่ที่นั้น ชื่อ หมอกวง จนได้ห้องพิเศษ รักษาแทบจะฟรี แต่ไอ้กวงบอกผมว่า อีแก่มากแล้ว ( มันเป็นคนจีน ) เจาะ แรงๆ ก็เส้นเลือดแตก ทำอะไรมากๆก็ไม่ได้จะให้ยาแรงๆก็กลัวจะเป็นอันตราย แค่ประคองไว้ ผมก็บอกมันว่า ถือว่ามึงช่วยกูก็แล้วกัน ให้ท่านหาย ไม่ทรมาน พออายุมากแบบท่าน มีหลายโรคมารุมล้อมน่ะครับ และ รับประกัน ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าผม ที่เงียบเรื่องโรคของท่านมาตลอด และทุกอย่างเป็นไปตามสังขาร ท่านเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แต่ไม่ใช้ superman ครับ

ยังมีต่อ เล่าลึกกันเลยก็ได้ เพราะมีพวกมาช่วยยืนยันแล้ว...แหะๆ

QUOTE=พี เสาวภา;6861237

เรื่อง หลวงปู่ บุญศรี ป่วยนี่ยาวน่ะครับ

ผมจะไม่เขียนมาก เดี๋ยวผมกับตาช้างจะกลายเป็น ตัวเอกอีกด้าน จะมีพระเอก ผู้ร้าย ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง ซึ่งผมไม่สนใจ ผมพอใจทำ และ บุญผมได้ของผม ผมไม่สนใจสิ่งรอบข้างท่าน ในยุคหลังๆ ผมไม่มีความต้องการจะรื้อฟื้น ใครอ่านแล้ว ก็อ่านแค่เฉยๆครับ สมัยหลวงตายังอยู่ ผมเหนื่อยมากตอนนั้น และ หลวงตาไม่อยู่แล้ว ก็ตัวใครตัวมันครับ ใครเป็นศิษย์แบบไหน ว่ากันไป ผมรักทุกคน ถือว่าเป็นศิษย์อาจารย์เดียว

แต่จะบอกไปตามความจริงว่า ที่จริงผมเล่าไปที แล้ว เอาละเอียดหน่อย ครั้งหนึ่ง ผมไปกราบหลวงตาตามปกติ ไปถึงตอนเช้าเพราะผมออก ประมาณ ตี สี่ ไปถึงเช้าพอดีจะได้ ถวายอาหารเช้าท่าน ผมแวะซื้อข้าวต้มที่ปั้มท์ประจำ

ไปถึงท่านนอนอยู่ และ นอนรอ พอเห็นผม ท่านเรียก สันติ ทำแผล ให้หน่อย บริเวณแขนของท่านมีแผลบวม เนื่องจาก รอยแมวข่วน ( สันนิษฐาน ) ผมกราบท่านเสร็จ จะทำแผลให้ ไปจับตัวท่าน ตัวท่านร้อนจี๋ทีเดียว เป็นไข้ครับ ผมกราบเรียนถามท่านว่า หลวงปู่เป็นมากี่วันแล้ว ท่านบอกว่า สองสามวัน ท่านยังมีสติดี แต่ ซีด ตัวร้อนมาก และ อ่อนแรงมาก

ผมบอกท่านว่า หลวงปู่เป็นไข้สูง มีแผล แดงบวมมาก ผมทำให้ไม่พอหรอกครับ ต้องไปหาหมอ ตกลงไม่ต้องฉัน ผมอุ้มท่านขึ้นรถ บึ่งไปหาหมอ ( ประจำตัวท่าน ) ที่โกรกพระทันที หลวงปู่ท่านผอม ไม่หนักน่ะครับ อุ้มสบายๆ ระยะทางไกลประมาณ ยี่สิบกว่ากิโลมั้ง ไปถึงก็อุ้มไปเคาะเรียกหมอ ที่ คลีนิกทันที หมอ เปิดประตู และ คุ้นหน้ากัน หมอ รีบรักษาทันที่ ทำแผล ฉีดยา และ ให้น้ำเกลือท่าน ผมรออยู่ถึงบ่าย ที่จริงหมอจะให้นอนที่นั่น หลวงตาท่านไม่เอา บอกดีแล้ว จะกลับวัด ก็ตามใจท่าน ไปถึงวัดมีคนมารอแล้วน่ะครับ แต่คราวนี้แห้วครับ เพราะท่านป่วย อย่าไปกวนท่าน ผมกันน่าดู วันนั้น

ผมจำได้ว่าคืนนั้นค้างที่วัด คอยพยาบาลท่าน ที่จริง ผมไปถามคนแถวนั้นน่ะครับ ไม่อยากรื้อฟื้น เอาแต่ว่า ไม่มีใครรับสถานะอะไร ผลก็เป็นแบบนั้นครับ ระยะหลัง ท่านป่วยบ่อย เหตุการณ์ตามที่จารย์ช้างว่า หมอที่นครสวรรค์ ผมก็เป็นคนพาไป และ เป็นเพื่อนที่เรียนจุฬามากับผม ทำให้ผมฝากได้ ท่านไปนอนนาน เป็นอาทิตย์ ไปๆ กลับๆ จนมาละ สังขาร

ส่วนการจ้างคนทำอาหารเบาๆส่ง กลายเป็นชักศึกเข้าบ้าน ผมจะเล่าแค่นี้

ส่วนเรื่องตำรวจ มาสายตรวจที่วัด เราทำสมุดไว้ให้ตำรวจจด วันและเวลาที่แวะมา และ ผมคอยโอนเงินให้ คอยเช็คสมุดทุกอาทิตย์ ทำมาข้ามปี จนเหตุการณ์เงียบๆ และ ท่านมาป่วยหนัก ตำรวจก็จางๆไป ทำไมต้องมีตำรวจ เรื่องมันยาว เล่าไป ไม่มีประโยชน์ครับ

เหตุการณ์ที่ผมได้มารู้จักท่าน นับถือท่าน ทำให้ผมเห็นโลกเยอะขึ้น และ ดูพระ ดูคนเป็นขึ้น และผมเบื่อคน ก็มาจากเหตุการณ์หลายๆปีนี้ และ ที่เห็น มนุษย์ ใจประเสริฐ ก็จากเหตุการณ์นี้ [/QUOTE]

********************************​

คุณพี เสาวภา เขียนเหตุการณ์เมื่อคราวหลวงตาท่านป่วย ขออนุญาตยกมาค่ะ

 

********************************​

คุณพี เสาวภา เขียนเหตุการณ์เมื่อคราวหลวงตาท่านป่วย ขออนุญาตยกมาค่ะ[/QUOTE]

อยากเล่าเรื่องกฐินปีนี้เหมือนกัน แต่ไม่เล่าดีกว่าจะชวนคุณแพม มาเล่าเรื่องเหรียญอีกด้าน ดูว่าจะมาไหม แต่จากผลสรุปนี้ เงินที่เหลือ สองแสนบาท จาก จำนวน ห้าแสนบาท เลยย้ายไปทอดที่วัดหลวงพี่ อำนาจ ที่พี่น้องร่วมกัน ๑๐๐๐ บาทไปด้วย วัดที่ อุทัยธานีน่ะครับ

 

​

เหรียญพัดยศ หลวงตาเล็ก วัดใหม่ฯ​

QUOTE=พี เสาวภา;8292572

ภาพนี่สวยงามมากครับ

เหรียญรุ่น สอง วัดสร้าง พัดยศ พิเศษ สร้างก่อนหล่อ พระพุทธสิหิงค์ หลายปี พระพุทธรูปด้านหลัง ปางสมาธิมาเหมือนกัน ตามสไตล์ หลวงตา ที่รู้อะไรก่อน ....ทุกครั้งไม่มีพลาด

ส่วนยันต์เจ้าคุณ นรฯ ยันต์น้ำเต้า มะ อะ อุ พ ฆ อ ( หมายถึงสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และ อุล่าง ( ความหมายถึงเจ้าคุณ อุดม )

เจ้าคุณอุดม สร้างความดีมาตลอด มาโดยข้อหาจับยัด ต้องสึกมาเป็นทิด ข้อหา เครื่องราชฯ ตอนท่านสร้างวัด สร้างวัตถุมงคลเจ้าคุณนรฯแจก ท่านเอาตัว อุ มาลงไว้ใต้ยันต์ หมายถึงท่านสร้าง

ท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านได้ เมตตาทำนายไว้ก่อนว่าท่านเจ้าคุณ อุดม จะ เดือดร้อนเพราะบริวาร

เหรียญนี้ มีปริศนาซ่อนไว้หลายชั้น ค่อยๆคิดไปน่ะครับ ท่านเจ้าคุณนรฯ เคยรู้จักหลวงปู่บุดดา ท่านเจ้าคุณนรฯ เป็นพระธรรมยุต ส่วนหลวงปู่บุดดาเป็นพระมหานิกาย พอมารู้จักกัน ท่านเจ้าคุณนรฯ เห็น หลวงปู่บุดดา เป็นเหมือนพญานกอินทรีย์ ในป่าใหญ่ โบยบินไปไหนตามอิสสระ แสวงหา โมกธรรมและสันโดษ ( หลวงปู่บุดดา ท่านสำเร็จมาก่อนหน้าแล้ว ) เลยต้องการ จะตามหลวงปู่บุดดาไป แต่ พระเดชพระคุณ สมเด็จพุฒโฆษาจารย์ ไม่ทรงอนุญาตให้ไป ( ตอนนั้นผมเข้าใจว่า ท่านเจ้าคุณนรฯ อาจจะยังอายุไม่มาก พึ่งพ้นนวกะมา น่าจะบวชมา ๖ ปี )

หลวงตาเล็กน่าจะเป็นพระยุคเดียวกับหลวงปู่ บุดดา เป็นพระภิกษุ ๕ แผ่นดินเหมือนกัน แต่หลวงตาอ่อนอาวุโสกว่า อย่างน้อย ๑ รอบ การแยกมหานิกายของหลวงปู่บุดดา น่าจะเกิดไม่นานหลังจากที่ พระบาทสมเด็จ รัชกาลที่ ๔ ทรง แยก ออกเป็นสองนิกาย

ผมเองก็ไม่ทราบว่า หลวงตาไปเกี่ยวข้องกับท่านเจ้าคุณนรฯได้อย่างไร??? ท่านถึงเอายันต์น้ำเต้าของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และ เจ้าคุณนรฯมาไว้ หลังเหรียญรุ่น ๑ และ รุ่น ๒ แต่ เหรียญสองรุ่นนี้สำคัญครับ เพราะหลวงตาท่านมีดำริห์ และมี นัยยะ ซ่อนอยู่ น่าจะมีอะไร ซ่อนๆอยู่ด้วย ยันต์ท่านเองมีเพียบ แต่ไม่เอา และ เหรียญรุ่น ๑ ออกมาหลังเจ้าคุณนร ฯ ล่ะสังขารในปีเดียวกัน เรียกว่าไล่ตามกันมา ยุคนั้น หลวงตามาที่วัดใหม่แล้ว ยังไม่มีคนที่เรียกว่า คนใน ไปเป็นคณะศิษย์แน่นอน ส่วนใหญ่น่าจะยังเป็นวุ้นอยู่ ท่านอยู่ที่นั่นเงียบๆ ทำเหรียญแจก ซึ่งคงเป็นชาวบ้านแถวนั้น ยังไม่มีคนมารู้จักท่านมากมายอย่างไร

ท่านแม่ชีก็ไปเจอหลวงตา หลังปี ๒๕๓๕ มาแล้ว ซึ่งหลัง เหรียญรุ่น แรก ร่วม ยี่สิบกว่าปี

ส่วนหลวงปู่บุดดาก็ไม่แน่ใจว่ามาเกี่ยวข้องกับ หลวงตาตรงไหน แต่ หลวงปู่บุดดา ท่านสนิทสนมกับ หลวงพ่อวัดท่าซุงมากครับ จนครั้งหนึ่งคนคิดว่าเป็นหลวงพ่อ ฤาษีลิงขาว แต่ด้วยวัยที่ต่างกันมาก ข่าวลือจึงหยุดไปเอง /QUOTE]




เหรียญพัดยศ หลวงตาเล็ก วัดใหม่ฯ โดยคุณพี เสาวภา ขออนุญาตยกมาค่ะ

 

หลังจากหลวงตาเล็ก วัดใหม่ ละสังขาร ยังมีเงินเหลือในบัญชีที่ได้จากการจำหน่ายเหรียญรุ่นสารวัตรสร้าง เอาไว้ใช้ค่ารักษา พยาบาล หลวงตาเล็ก ในยามฉุกเฉิน อีกประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ บาทเศษ
ท่านพูนศิลป์ ทำงานอยู่ ธ.กรุงเทพ ศิษย์หลวงตาเล็ก ร่วมงานกันสร้างแพโบสถ์น้ำมาก่อน มาชักชวนให้ไปช่วยเหลือ พระตาบอด ชื่อหลวงพ่อเสงี่ยม โคกสำโรง ท่านเป็นพระธุดงค์
บวชแต่เป็นเณร อยู่กับหลวงปู่สด วัดปากน้ำ ตอนเจอกันครั้งแรก ท่านอยู่สังกะสีึ มุงจาก อยู่องค์เดียว ตกระกำ ลำบาก ก็เลยร่่้วมกับพรรคพวกสร้างกุฏิให้ ๑ หลัง
หลวงพ่อเสงี่ยม บอกว่า งานปริวาสกรรมในแต่ละปี พระธุดงค์ในป่า มาปักกลดกันมาก เป็นร้อย เจ็บป่วยต้องเดินทางไป รพ.พยาบาล ที่ลพบุรี ระยะทาง ๔๕ กม.
ไม่มีรถ อยากจะซื้อรถตู้สักคัน เอาไว้นำพระเ็จ็บป่วยไป โรงพยาบาล ก็เลยถวายให้ท่านหมดบัญชี ไปรวมกับเพื่อนซื้อรถตู้ได้ ๑ คัน สำหรับพาพระเจ็บป่วยไป โรงพยาบาล เรื่องสงเคราะห์พระเจ็บป่วย อาพาธ
เรื่องแบบนี้ทำมานานหลาย ๑๐ ปี อานิสงส์ที่ได้ ทำให้ชีวิตนี้ ไม่ตก ไม่ต่ำ ไม่เจ็บ ไม่จน​

 

***กราบ หลวงตาครับ
พายุมาชะอำอีกแล้วครับ ฝนตกตั้งแต่เมื่อคืน เพิ่งหยุดครับ
แต่ท้องฟ้ายังมืดอยู่เลยครับ แหะๆ***

 

***กราบอนุโมทนาบุญ ทุกๆอย่างที่ท่าน อ.ช้างทำด้วยนะครับ
และขอลูก รวย รวย รวย***

 

อยากเล่าเรื่องกฐินปีนี้เหมือนกัน แต่ไม่เล่าดีกว่าจะชวนคุณแพม มาเล่าเรื่องเหรียญอีกด้าน ดูว่าจะมาไหม แต่จากผลสรุปนี้ เงินที่เหลือ สองแสนบาท จาก จำนวน ห้าแสนบาท เลยย้ายไปทอดที่วัดหลวงพี่ อำนาจ ที่พี่น้องร่วมกัน ๑๐๐๐ บาทไปด้วย วัดที่ อุทัยธานีน่ะครับ[/QUOTE]

***กราบ อนุโมทนาบุญ ทุกๆอย่างครับ***