ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

มันส์มากครับ มาปูเสื่อรอติดตามอ่านตอนต่อไปครับ ^__^

 

มาเป็นกำลังใจให้พี่นะคร้าบบบบ...ติดตามอย่างลับ...อิอิ...(^๐๐^)

 

โอ้ว์!!! เหมือนรถไฟที่วิ่งมาด้วยความเร้วสูงแต่อยู่ๆก้แตะเบรคเอี๊ยด!!! อุ๊ต๊่ะ!
ผู้โดยสารในโบกี้ตีลังกาสามสิบห้าตลบตามด้วยตีลังการาวดอบร์ทั้งโบกี้เลย55
จบตอนแบบนี้...แทบจะลงแดงนอนดิ้นเลย....pity_pig;9kpig_cryy2

 

มาติดตามตอนต่อไปครับ..คุณสวนพลู

 

.หน้าแม่ก็เปลี่ยนไป........จากคนผิวขาว กลับกลายเป็นดำ...........นั่งหลังค่อม...แล้วก็ไม่ยอมคุยกับผม.........หลวงพ่อท่านเหลือบมามองแม่ผมอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่พิธีเริ่ม และตั้งแต่มาถึงวัดตั้งแต่แรกแล้ว..........เมื่อหลวงพ่อทาบเห็นแม่ผม เปลี่ยนโหมด.......ท่านจึงบอกว่า........................

..............
....นั่นแหละ..ดีแล้ว..เยี่ยม......
.....สมัย๕๐ปีก่อน..ละครวิทยุกันตนา...เขาก็ใช้..สไตล์นี้.......
..ไม่งั้น..เขาจะโด่งดัง..รวยจน..มาลงทุนทำละครทีวี..ได้เรอะ...
.....ละครวิทยุเรื่องผีออกทุกวัน..เวลาเดิม..คนก็นั่งเฝ้ากัน..รอเหตุการณ์
ที่จะเกิดขึ้นต่อไป..แล้วละครวิทยุ..กันตนา..ไม่มีใครทราบหรอกครับ..ว่า
ตอนต่อ..เป็นยังไง..เพราะคุณประดิษฐ์ กัลจารึก..แกแต่งของแกเอง...
...และ..ไม่ได้พิมพ์..เป็นหนังสือ......
.....ไม่เหมือน..สมัยนี้..ละครทีวีผีๆ..เรื่องผีซ้ำซาก..ทำซ้ำ..หลายรอบ..แถม
ถึง..ทำครั้งแรก..ก็ทำมาจากเรื่อง..ที่ทำเป็นหนังสือมาก่อน..คนที่เคยอ่าน..ก็รู้เรื่อง
ล่วงหน้าแล้ว....
....แถมยุคนี้..อ่านแต่ละตอน..จากในหนังสือพิมพ์ล่วงหน้า..และยังมี..นิตยสารที่เล่า
แต่ละตอน..ของละครเรื่องนั้นๆ..ก่อนหน้าอีก..แล้วมันจะไปมันเหมือน....
.......อะไร...ที่คุณไม่ทราบล่วงหน้า....................
.........เวลา...ที่ผู้หญิงเที่ยวป่าดิบ....แล้วปวดฉี่ตอนดึก.....
.........ตอนที่ทุกคน..หลับหมดแล้ว......เธอเดิน...เข้าไปที่ชายป่า...
........หลบบังต้นไม้....มีแต่เสียงหริ่งเรไร..แว่วมา...เธอถอด(..)แล้วนั่งยองๆลง
.......สายตา..มองไปที่ความมืดมิดข้างหน้า..ด้วยใจที่เต้นระทึก..จนหู..
....แทบไม่ได้ยินเสียงอื่น..นอกจากเสียงหัวใจตัวเองเต้น............
...........แล้วเสียงอื่น....ก็..เงียบสนิทลงพร้อมกัน.........
........พร้อมกับ..สายตาเธอที่ต้อง..เบิกโพลง..เพราะ..........
......................จบ.............
...............................................................
.....อะไรทำนองนี้...คุณจะรู้มั้ยว่า...ตาเธอต้องเบิกโพลง..เพราะอะไร.........
...................อยากรู้ก็ต้อง...ติดตาม...........
..............................................................
....นี่ผมยกตัวอย่าง..เล่นๆ..ของเทคนิคแบบนี้..ไม่ต้องมาขอให้เล่าต่อนะ..ว่า..
..............เบิกโพลงเพราะ..อะไร.........

 

***พี่ครับ แหม๋กำลังเพลินเลย ไม่ต่อหรือครับ อิอิ***

 

เมื่อครั้งยังเด็ก .........(8)
สวัสดีคุณอา และพี่น้องทุกๆท่านนะครับ ขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมติดตามร่วมอ่าน มาชวนคุยมาให้ความเห็น ให้กำลังใจกัน ......ก็ขอตอบคำถามคุณอาก่อนเลยครับ .........แม่เริ่มไปหาท่านตั้งแต่......ผมน่าจะประมาณ ประถมปลายครับ......หลังจากงานรับขันต์ที่จัดด้วยตัวเอง..........และสิ่งที่นำพาไป ก็มีคนในสลัมนั่นแหละครับ มาชวนไป............จำไม่ได้ว่าใครชวนครับ........ส่วนอีกข้อเดี๋ยวเฉลยในเรื่องครับคุณอา............หลังจากแม่ผมได้เข้าสู่โหมดฤาษี.....หางตาของหลวงพ่อทาบ ที่ท่านคอยชำเลืองดูแม่ผมอยู่เรื่อย.....ก็กลายมาเป็นมองโดยตรงและไม่ได้ชำเลืองอีกต่อไป .....หลวงพ่อท่านก็พูดว่า อ้าว! ปู่...มาแล้วหรอ.....แม่ผมในร่างทรงก็นิ่งเงียบ........หลังโก่ง นั่งขัดสมาธิ ไม่ไหวติง......หลวงพ่อทาบจึงบอกว่า เอ้า! …………ช่วยกันพยุงท่านมานี่หน่อย...(หลวงพ่อทาบนั่งบนตั่ง ที่สูงประมาณ เดินไปแล้วเอาก้นหย่อนได้เลย ไม่ต่ำไป ไม่สูงไป)....คนสองคน (จำไม่ได้ว่าใครบ้าง)มาช่วยกันพยุงให้แม่ผมลุกขึ้น......สอดมือเข้าไปที่รักแร้ พยายามฉุดให้ลุก แม่ก็ลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ.....ด้วยจริตที่เหมือนคนชราภาพ.....เดินมามีคนพยุง แต่หลังก็ยังโก่งอยู่ ......ได้ไม่กี่ก้าว ก็ถึงบริเวณด้านหน้าหลวงพ่อทาบ......ในขณะเดียวกัน รอบๆ...บริเวณนี้ก็ยังเจี้ยวจ๊าวด้วยเสียงคนทรงทั้งหลายแหล่....วิ่งกันครื้นเครง ในบางส่วนที่บอกว่าตัวเองเป็นกุมาร.......บางส่วนที่เป็นองค์แขก ก็เอานิ้วกลางกับนิ้วแตะกัน ไว้กลางหน้าอก บ้างก็นั่ง บ้างก็ยืน หาความเป็นระเบียบไม่ได้ ใครอยากจะทำอะไรตรงไหนก็ต้องปล่อยเลยตามเลยอีเหละเขะขะกันไปหมด คนประมาณหลักร้อย ในศาลาที่มีพื้นที่จำกัด ........เมื่อแม่ได้ถูกพยุงไปถึงหน้าหลวงพ่อทาบ หลวงพ่อก็บอกว่า มา! ให้ปู่มานั่งตรงนี้.......นั่นคือ ตรงข้างๆหลวงพ่อทาบ ในที่นั่งเดียวกัน.....ตรงจุดนี้น่าสังเกตคือ 1.แม่ผมเป็นผู้หญิง 2. อาสนะสงฆ์ 3.ไปครั้งแรกไม่เคยรู้จักมาก่อน.......เมื่อแม่ได้นั่งข้างๆหลวงพ่อ ผมก็ต้องนั่งข้างล่าง ทั้งสองคุยกันแบบถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน..............แต่แม่ผมก็ไม่ใช่แม่ผมแน่ๆในตอนนั้น เสียงเป็นเสียงผู้ชายแก่ๆ แต่กังวาน เมื่อคุยกันได้พักนึง ผมไม่ค่อยได้ยินอะไรมาก.....เพราะเสียงคนทรงเจ้าเพียบเลย บวกกับการที่นั่งข้างล่าง และไกลไปหน่อย ..และแม่ผม(ต่อไปนี้จะเรียกว่าปู่นะครับ เพราะน่าจะไม่ใช่แม่ในตอนนั้น).......ก็อยากกินหมาก (ตามประสาคนโบราณ ซึ่งพื้นเพเดิมแม่ผมไม่ได้กินหมาก แต่พอเริ่มรับขันต์เข้ามา แม่กลายไปเป็นคนติดหมาก).............หลวงพ่อทาบท่านก็สั่งให้ลูกศิษย์ ทำหมากให้ 1 คำ โดยใช้เชี่ยนหมากเดียวกันกับหลวงพ่อทาบนั่นแหละครับ.......เมื่อปู่รับมาเคี้ยวเสร็จ ..แล้วก็มีร่างทรงกุมารเด็กๆวิ่งมาทางที่หลวงพ่อทาบสนทนากับปู่อยู่หลวงพ่อทาบท่านก็เห็นแต่ไม่ทำอะไรแต่ปู่เห็นปุ๊บ! ท่านชี้นิ้วไปที่ร่างทรงนั้น ร่างนี้ร้องกรี๊ดดดดดด..ดังลั่นเลย..แล้วก็วิ่งหนีกลับไปแบบหวาดกลัว ไปหลบอยู่ไกลๆนู้น.ร่างทรงนั้นเป็นผู้หญิง ที่มากับคณะอื่น ไม่ใช่คณะผม...เมื่อหายชุลมุนหลวงพ่อทาบก็ถามว่า มาวันนี้จะเอาอะไรหล่ะปู่ ......ปู่ตอบว่า ไม่ได้เอาอะไรมากหรอก แค่ให้ร่างกูมันรู้ว่ากูหน่ะอยู่กับมัน และไอ้ร่างกูมันก็อยากได้รูปปั้นกูไว้บูชา กูสงสารมันมันไม่มีเงิน มันไม่รู้จะไปหาที่ไหน ก็เลยดลให้มันมาที่นี่.........หลวงพ่อทาบ กล่าวต่อว่า อ้าว........แล้วก็เพิ่งมากบอกนี่ปู่..จะได้ให้ลูกศิษย์ไปหยิบมาให้ ........ปู่พูดสวนว่า ...ไม่ต้องหรอก....เดี๋ยวจะให้ร่างนี่มันไปกับกูไปหยิบมาเอง...(แล้วนี่คือการไปครั้งแรก...วัตถุมงคลอะไร ก็ไม่รู้ไปวางอยู่ที่ไหน ห้องน้ำก็เพิ่งรู้จักทางได้ไม่นาน)......แล้วปู่ในร่างแม่ผม .......ก็ลุกขึ้นยืนหลังค่อมๆ.......เพียงแค่ลุกขึ้นยืนเท่านั้นแหละ ในศาลา เหมือนถูกสะกดทัพ.....องค์เด็กเล็กๆ หยุดเล่น หยุดวิ่ง...เสียงเบาลง องค์อื่นๆ ก็ไม่ออกฤทธิ์ ออกเดช เหมือนเดิม และแม่ผมก็เดินแบบหลับตา...หลังค่อมๆ เดินช้าๆ.....พอจะมีคนช่วยพยุง หลวงพ่อทาบ ท่านก็ห้าม บอกว่า ....ไม่ต้องหรอก เขาไปของเขาได้.....ผมก็นั่งอยู่ข้างๆหลวงพ่อ แต่ห่างได้สองช่วงนั่ง....บางบทสนทนาก็พอได้ยิน..... เมื่อแม่เดินไป....ทางด้านหลังของศาลา คลื่นของคนทรงก็สงบลง แล้วก็ นั่งแหวกเป็นทาง ให้ปู่เดิน..........จบเด้อ ..............หยุดเสาร์อาทิตย์นะครับ เจอกันตอนหน้า

 

สวัสดีค่ะ คุณลุง และพี่ๆสมาชิกทุกๆท่านค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณลุงและคุณสวนพลูทุกวันค่ะ

 

นึกว่าจะไม่ได้อ่านต่อเย้นนี้ก่อนนอนซะแล้วเรา...แบบนี้ค่อยพอทุเลาอาการลงแดงลงได้บ้าง..ค่อยข่มตาหลับลงได้ถึงแม้จะต้องใช้ความพยายามอยู่มากอักโขก้ตาม55 คาดว่าพี่สวนพลูคงจะเขียนไปด้วยร่ายอาคมนะหลงไหลไปด้วยแน่ๆ...อีกตั้งสองวัน..แคร๊กแคร๊ก!! จะกระอักเลือดมั้ยนะเรา...โอมนะโมโต๋เต๋ นะโมโต๋เต๋ ....

 

......
..เอาละเข้าใจแล้ว..อธิบายมาเรียบร้อย....
..ครั้งแรก..ตอนก่อนหน้านั้น..อาก็เข้าใจผิด..นึกว่ามาหลายครั้งแล้ว
.....ไอ้ที่เข้าใจผิดอีกอย่าง...คือ..นึกว่า..พวกฤาษีนี่..น่าจะแข็งแรง
....เพราะ..เป็นต้นตำรับ..โยคะ.......
....แถม..นี่เป็น..เทพฤาษี..เพราะอยู่กลุ่ม..ฤาษีชั้นสูงสุด..เป็นอมตะ
.......เห็นใน..ตำราว่า..ท่านเกิดจากพระพรหม.......
....แต่ไหง..พอมาทรงร่าง..กับเดินเหินไม่สะดวก..แถมแก่หง่อม...
....เลยไม่แน่ใจว่า..จะเป็น..ท่านเดียวกับ..ในตำราที่เคยอ่านรึเปล่า..
..............................
..ขอบคุณ..สำหรับ..บทความและเป็น..กำลังใจให้

 

ติดตามอ่านกันต่อไปครับ..ชอบคุณครับ.

 

เรื่องปู่ฤาษีนารอท ผมเคยถามหลวงพ่อสมคิด วัดเขาวงศ์ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ฝั้น ถามท่านว่า มีจริงมั้ย มีตัวตนมั้ยท่านตอบอย่างเร็วเลยครับ ว่า เอ้า! มีจริงซิท่านมีตัวตน อยู่มาหลายพันปีแล้ว .......ผมก็ถามว่า แล้วท่านเป็นใครในชั้นภพภูมิ ท่านก็ยิ้มๆ ผมไล่ตั้งแต่พรหม เทพ เทวดา ท่านก็ยิ้มๆ ไม่พูด ท่านก็บอกว่า เอาน่า มีตัวตนก็แล้วกัน.....เมื่อท่านกล่าวอย่างนี้ผมก็ต้องหยุดถามต่อเพราะท่านพูดน้อยอยู่แล้ว..... ทีนี้ก็เหลือพระโพธิสัตว์ที่ผมยังไม่ได้ไล่เรียง กับการทรงตัวอยู่ในโลกแบบฤาษีจริงๆ คือมีกายเนื้อจริงๆ และอยู่ด้วยฌาณ และธรรมปิติ อันนี้ออกแนวลี้ลับครับ ถ้าจะถามแม่ แม่ผมก็ไม่มีความรู้เรื่องภพภูมิเลย ก็ตอบยากครับ แต่แม่บอกว่า ในฝันเคยไปหาปู่ในป่าแห่งนึง ท่านอยู่ในถ้ำที่สวยงาม บนหน้าผา ข้างล่างก่อนถึงมีสัตว์ป่าดุร้ายเยอะแยะ คร่าวๆครับ

 

ขอขอบพระคุณในกำลังใจ และการติดตามครับ สัปดาห์หน้า ก็จะเขียนถึงแค่วันพุทธครับ ตั้งแต่ วันที่ 4-10 ลาไปแอ่วเหนือครับ พักร้อนบ้างครับ ร่วมงานบวชน้องๆที่เชียงราย แล้วจะเที่ยวต่อเลยครับ

 

***รอ ตอนต่อไปครับ
เชื่อเรื่อง ปู่ฤาษีนารอท ว่ามีจริงๆครับ ***

 

.......
...เกร็ด..และ..ข้อสังเกต.....
......เอ้ากลับ..กันมาวิชาการกันบ้าง...เอาแต่ปาฎิหารย์อย่างเดียว..สมองไม่พัฒนา...
.........................ความจริง..พระองค์นี้..มีคนพูดถึงกัน..จะเป็นร้อยปีแล้ว...
...วิจารณ์..พิจารณากัน..หลากหลาย..แง่...ทั้งเนื้อทั้งพิมพ์..ยิ่งช่วงสามสิบปีหลัง..ก็ออก..กันมาเป็น..หนังสือเล่มใหญ่ๆ...แต่ความที่..องค์พระท่าน..สูงส่งทั้งพุทธคุณ..ราคา..ความสวยงาม..ความเก่า...มันจึงมี..อะไรซ่อนมากกว่าที่จะ..พิจารณากันได้หมด..ก้แล้วแต่ผู้วิเคราะห์เน้น..ด้านโน้น..ด้านนี้..แต่ส่วนใหญ่..ก็เพื่อ..
..การพิจารณา..เพื่อนำมาพิสูจน์..ว่า..เก๊..หรือ..แท้..แต่เกือบทั้งหมด..
....ไม่ลงไปในแก่นแท้....ว่า..พระออกมาเป็นแบบนี้..ได้ย้งไง....
......ทำไมถึงเป็นแบบนี้...ซึ่งก็ว่ากันไม่ได้..ซึ่งถ้าว่ากัน..คนไม่มากที่สนใจ..
....เพราะ..เขาสนใจว่า..ดูยังไงถึง...จะฟันธง..ได้..อย่างงี้ถึงจะขายออก..
......จะเป็นได้ก็แค่..บทความทางวิชาการมากกว่า.......
.......แต่คนอีกพวก....เขาถือว่า..เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ..เพราะถ้าไม่เข้าใจ..
...ที่มา..เขาก็จะทำให้เหมือนเนี๊ยบ..ไม่ได้....
.....ใช่แล้วครับ..คนพวกนี้คือ..นักปลอมพระ.....ต้องเข้าใจให้ดีเพราะอะไร...
.....เพราะ..พระเป็น..หลักแสน..ขึ้นไป..
........ถ้าไม่เนี๊ยบ..จะไปขาย..หมาที่ไหน.....อย่าเอาพวกปลอมระดับ..
มัธยม..มาเกี่ยว..เพราะพระระดับนี้..ต้องเป็นปลอมระดับปริญญาตรี..ขึ้นไป(..คนมาอ่านใหม่จะไม่เข้าใจ..ผมพูดถึง..ระดับการปลอม..ไม่ใช่คนปลอม..จบปริญญาตรี...)
.......ทุกขั้นตอน..ต้องละเอียด..ผู้รู้จริง..มีไม่น้อย...แต่ที่มาโชว์ในเน็ต..นี่ดูๆแล้ว..ของปลอมน่าจะเกินครึ่ง...
......แล้วทำไม..ผมถึงต้องมาพูดถึง...พระองค์นี้..
......ก็เพราะ..พระองค์นี้..มีความแปลกกว่า..พระองคึ์อื่น..
.....ทั้งพิมพ์..และ..การทำ......
......ก็ลองเดาๆ..เอา...แต่ไม่เฉลยนะ..เด๊๋ยวพรุ่งนี้มาว่าต่อ..

 

สวัสดีค่ะคุณสวนพลู ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยนะคะ เที่ยวให้สนุกเดินทางปลอดภัย บุญรักษาคุณครูบาอาจารย์คุ้มครองค่ะ

 

สวัสดีค่ะ คุณลุง และพี่ๆสมาชิกทุกๆท่านค่ะ คุณลุงมาออกแขกเรื่องน้ำย่อยอีกแว้ว.......อย่าลืมมาติดตามเยอะๆนะคะ ลินขอแอบไปนอนคิดก่อนว่าท่านคือพิมพ์ใด ติ๊กต๊อกๆๆๆ เป็นกำลังใจให้คุณลุงและคุณสวนพลูทุกวันค่ะ

 

โชคดีไปนะเราที่ช่วง4-10 ต้องไปถือศีลที่วัดท่าซุงพอดีเลย 555 ช่วงนี้อาคมของพี่สวนพลูคงจะยังไม่กำเริบ..พอทน..พอทน..อิอิ

ไปเชียงรายเที่ยวนี้มีแวะทานชาของอาจารย์คำรณมััยคับ..เจอของอะไรดีๆที่เชียงรายก้นำมาฝากน้องๆบ้างเน้อคับ...

 

***รอ พี่ มาเฉลยครับ***

 

สวัสดีครับคุณอา และสมาชิกทุกท่านมาตามอ่านบทความวิชาการสาระดีๆครับ