ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

วันนี้ได้ร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ จำนวน 300 บาทครับ 28/11/2556 - 08:41:40

 

นับเป็นเรื่องอจินไตยจริงๆ ครับพี่เสือ พี่ปุ๊ อาก้อน อาจิ๋ว พี่ทิพย์ พี่เอื้อย น้องซิน..และถ้าไม่เห็นกับตา หรือไม่เคยปฏิบัติจนถึงแล้ว ก็ไม่มีวันเข้าใจหรอกครับ

ผมเอง...อย่างเก่งก็เพียงพระบรมสารีริกธาตุเสด็จบ้างนานๆ ครั้ง แต่น้องท่านนี้ พระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุ พระธาตุเสด็จแทบทุกว้ัน บางที่ขับรถอยู่ก็มีพระธาตุเสด็จผ่านกระจกหน้ารถดังเพี๊ยะ..มาสถิตอยู่บนคอนโซลหน้า บางครั้งก็มีพระพิมพ์ พระรูปหล่อลอยองค์ของพระอริยเจ้าเสด็จมาในโถพระธาตุตามภาพอยู่เนืองๆ ครับ

ผมวาสนาดีที่ได้รู้จักท่านเหล่านี้ (เป็นฆราวาสทั้งหมด) จำนวน 4 ท่านครับ และที่เล่ามานี้ไม่ได้ต้องการโปรโมตหรือเชียร์ใคร เพราะเจ้าตัวก็ไม่ประสงค์ที่จะแสดงตัว แต่ผมนำมาเล่าสู่กันฟังก็เพียงให้ทราบว่า เรื่องอจินไตยในยุคดิจิตอลนั้นก็ยังมีอยู่ครับ และดูเหมือนจะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยคนจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนค่อนข้างชัดเจนแล้วครับ

 

ผมเคยนำพระธาตุของหลวงปู่มั่นที่ท่านอาจารย์ฆราวาสผมท่านหนึ่งได้อัญเิชิญให้และมอบให้ผมไว้บูชา โดยผมได้แบ่งไปถวายพระคุณเจ้าที่เป็นพระอาจารย์ผมองค์หนึ่งที่วัดในกทม. ซึ่งผมได้ซื้อตู้และผอบใส่พระธาตุถวายท่านอย่างเรียบร้อย และท่านได้นำไปบูชาที่หิ้งพระในกุฏิของท่าน

เมื่อวันพุธที่ 20 พ.ย. ท่านได้โทรหาผมเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันทีี่ 17 พ.ย. วันพระขึ้น 15 ค่ำ (วันลอยกระทง) ประมาณสองนาฬิกาหลังจากท่านสวดมนต์และปฏิบัติภาวนาเสร็จแล้ว ท่านเห็นแสงสีทองพุ่งปราดเข้ามาในกุฏิ แต่ท่านก็ไม่ได้เปิดไฟกุฏิดูว่ามีเกิดอะไรขึ้น พอรุ่งเช้าท่านก็พบเหล็กไหล 1 องค์เสด็จมาอยู่ในตู้พระธาตุหลวงปู่มั่น (แต่ไม่ได้เข้าไปในผอบพระธาตุ) ขนาดหัวไม้ขีดไฟ แล้วบอกผมว่าถ้าว่างก็ให้มารับไปบูชา แต่เนื่องจากผมติดภาระกิจอยู่ต่างจังหวัดกว่าจะกลับก็วันที่ 27 พ.ย. ผมจึงเรียนให้ท่านทราบว่าผมจะไปพบท่านหลังวันที่ 27 พ.ย.

บ่ายสองโมงวันที่ 28 พ.ย. ผมก็ไปพบท่าน ท่านได้หยิบโถแก้วเล็กๆ ที่ใส่น้ำผึ้งแช่เหล็กไหลนั้นไว้ ท่านบอกผมว่า ดูสิ..เมื่อตอนมาใหม่ๆ ขนาดเท่าหัวไม้ขีดไฟตอนนี้ขนาดประมาณเมล็ดถั่วลิสงไปแล้ว (ตามภาพ...ผมพยายามถ่ายหลายภาพ แต่ถ่ายยังไงก็ไม่ชัดสักทีทั้งๆ ที่ขออนุญาตท่านแล้ว)

พระอาจารย์บอกว่า เหล็กไหลนี้เสด็จมาเพื่อรักษาพระบรมสารีริกธาตุ ให้ขึ้นบูชาไว้ที่หิ้งพระบรมสารีริกธาตุที่บ้านผม ไม่ต้องนำติดกาย ผมจึงนำใส่ผอบวางบนสำลีที่ชุบน้ำผึ้งไว้ และนำไปวางบูชาไว้ตรงหิ้งพระบรมสารีริกธาตุ (พระทันตธาตุ) และพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐมครับ

ผมก้มลงกราบท่านและซึ้งในความเมตตาที่ท่านให้ผมเสมอมามิได้ขาด
นับเป็นเรื่องอจินไตยที่ผมอยากเล่าสู่กันฟังครับ

 

วันนี้สืบหาพระเครื่องดีขอแนะนำพระเครื่องดีหรือของขลังดีที่เหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบันนี้มาก โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมสนใจตระกรุดอยู่ดอกนึงว่า จะดีจริงสมคำร่ำลือหรือไม่ เลยสั่งเช่าทางเวบมาดอกนึง เมื่อมาถึงลองจับดู ฮู้แรงว่ะ พอนำไปให้ครูอาจารย์ดู "เหนียวชิปหาย" ของใครว๊ะ พอบอกชื่อให้ทราบ แกเลยบอก "อ๋อมิน่าล่ะเหนียวน่าดู สายนี้ขลังอยู่แล้ว ท่านใช้กสิณไฟเสก" วันนี้เลยนำมาเล่าให้ฟัง ถ้าออกจากบ้านยามนี้ เพื่อให้อุ่นใจ พกท่านไว้ก็ดีเหมือนกัน บอกเลยครับ ผมเช่า "ตระกรุดในบาตร" ของ "หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี" ราคา 300.- มาลองตรวจดูครับ เมื่อรู้ได้แก่ตัว และครูอาจารย์สอบทาน เลยแนะนำกันให้เหมาะกับสถานการณ์ครับ

สัปดาห์นี้เอาแค่นี้ก่อนครับ เพราะกำลังติดพันกับอารยะขัดขืนอยู่ แต่ขอบอกเดี๋ยวนี้แขวน 3 ดอก คือตระกรุดหลวงพ่อตัด วัดชายนา ตระกรุดหลวงพ่อคง วัดเขากลิ้ง ตระกรุด พ่อท่านเอื้อม วัดบางเนียน ครับ ใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ได้พอดี

​

 

ขอสอบถามครับ เดือนธันวาคม 2556 นี้ วันที่จะถวายสังฆทานตรงกับวันอาทิตย์ที่ 29 หรือเปล่าครับ

 

วันทำบุญประจำเดือนที่โรงพยาบาลสงฆ์เดือนนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2556 ครับ

 

โอนเงินร่วมบุญ เข้าบัญชี 3481232459 วันที่3ธค.2556 เวลา11:39น.
จำนวน200บาท ครับ
อนุโมทนา สาธุ ครับ

 

ผมขอร่วมทำบุญประจำเดือน ธ.ค.56ด้วยนะครับ

ผมนายศิริมาโนชญ์ จันทรคุปต์ โอนเข้าบัญชีแล้วนะครับ จำนวน100 บาทเมื่อในวันที่ 3 ธ.ค.56 และขออนุโมทนากับทุกๆคนด้วยนะครับ

 

ขอบพระคุณครับ

 

ผมขอร่วมทำบุญประจำเดือน ธ.ค.56ด้วยนะครับ
500 บาทครับ
โอนเงิน วันที่ 3 ธค ครับ อนุโมทนาครับ
ขอให้ประเทศไทยจงบังเกิดความสงบสุข และความสามัคคีของคนในชาติ เทอญ

 

จากพี่ที่นับถือท่านหนึ่ง

คนที่ไม่ได้ทำธุรกิจอะไร หรือรับแต่เงินเดือนเท่านั้น
อาจมองว่า ตนเองไม่รู้จะไปก้าวหน้าอย่างไร มีลาภอะไร
หรือจะเกิดโชคลาภใหญ่ๆให้ร่ำรวยดีขึ้นเร็วๆกับเขาบ้างอย่างไร

ที่จริงแล้ว คนเราหากมีวาสนา ชะตาลิขิต ชีวิตมีพลังเกื้อหนุน
ไม่ว่าวันนี้ทำอาชีพอะไร ก็จะมองเห็นช่องทางเพิ่มได้เองในวันใดวันหนึ่ง
ทุกอาชีพที่สุจริต ได้รับการยอมรับนับถือทั้งสิ้น อย่าท้อ อย่าน้อยใจ อย่าสิ้นหวัง

เรามาถึงวันนี้ได้ ก็ไม่ธรรมดาแล้ว เกินครึ่งทางฝั่งฝันกันแล้ว
อาจไม่ได้มีมากเท่ากันทุกคนไป แล้วแต่บุญกุศล ช่องทางและโอกาสของแต่ละคน

หากเราได้ตัวช่วยดีๆ รวมกับการขยัน รอบคอบ หาโอกาสเพิ่มในการดำรงชีพของเราเองแล้ว รับรองว่าจะมีช่องทางมาหาและเพิ่มจังหวะดีๆของชีวิตโดยเราเองยังแปลกใจ

พระเครื่องเป็นพลังใจที่ดี แต่อย่าลืมพลังกายและการหาโอกาสในชีวิตด้วยครับ

 

โอนเงินร่วมบุญ วันที่6ธค.2556 เวลาประมาณ 13 น.
จำนวน100บาท ครับ
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านทุกประการ ครับ

 

วันที่ 7 ธ.ค. 2556 ผมได้นำพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาแบบอจินไตยจำนวนหลายร้อยองค์และพระเจดีย์อะคลีลิคไปถวายพระอาจารย์ เพื่อให้ท่านนำไปบรรจุในพระเจดีย์ในวัดต่างๆ ในอนาคตนั้น หลังจากที่ได้สนทนาธรรมกันแล้ว พระอาจารย์ได้มอบพระเนื้อโลหะให้องค์หนึ่ง บอกว่าเก็บไว้บูชาโดยเล่าประวัติให้ฟังว่า

สมัยท่านยังเด็ก...เรียนชั้นประถมหกในจังหวัดทางภาคใต้ ท่านนั้นจัดเป็นเด็กที่ชอบมีเรื่องต่อยตีอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งท่านได้ไปขอให้คุณตาท่านหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ บ้านท่านซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่บ้านว่าคุณตาท่านนี้มีวิชาอาคมมากมาย และจะขอให้คุณตาได้ช่วยเสกหรือทำให้ท่านหนังเหนียวไม่แตกเพราะจะออกไปต่อยตีกับเด็กโตกว่าจำนวนมาก คุณตาก็กล่าวว่าถ้าช่วยครั้งนี้แล้วท่านจะต้องเลิกเกเรและบวชเณรนะ ในเวลานั้นท่านก็รับปาก หลังจากคุณตาท่านทำพิธีให้แล้ว ท่านก็ออกไปต่อยตีกับเด็กโตกว่าถึงสิบกว่าคนและก็พบว่าตนเองนั้นไม่ได้เสียเลือดและหนังเหนียวอย่างที่หวังไว้

หลังจากเหตุการณ์นั้น ท่านก็ได้กลับมาให้คุณตาบวชตามสัจจะ แต่ก่อนบวช คุณตาก็ได้พาท่านไปยังห้องพระของท่านแล้วกล่าวว่า ให้ท่านเลือกพระเครื่องได้องค์หนึ่งใช้ติดกายขณะบวชเรียน ซึ่งในห้องพระนั้นท่านเห็นพระเครื่อง เครื่องลางของขลังและศาสตราวุธมากมาย แต่ท่านยังเลือกไม่ได้ จนคุณตากล่าวว่าเลือกได้หรือยัง ท่านเลยตัดสินใจว่า ขอพระ..องค์ที่คุณตาห้อยอยู่ได้มั้ย คุณตาหัวเราะแล้วกล่าวว่าพระองค์นี้ติดตัวท่านไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำทุกที่ที่ท่านทำราชการอยู่ แต่อย่างไรก็ตามคุณตาก็มอบพระองค์นั้นให้ท่านไว้..

หลังจากบวชเณรแล้ว คุณตาได้เป็นโยมอุปัฎฐากท่านขณะบวชอยู่ทางใต้และต่อมาท่านได้ขึ้นมาจำพรรษาอยู่ที่วัดในกรุงเทพ จนกระทั่งท่านทราบข่าวว่าคุณตาท่านนั้นได้ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อปีพ.ศ.2549

หลังจากนั้นท่านได้ถามผมว่า...

"โยมพอจะเดาได้มั้ยว่า คุณตาที่มอบพระองค์นั้นให้ท่านนั้นเป็นใคร"

ผมเองก็เหลือที่จะเดาก็เลยกล่าวว่า

"ผมไม่ทราบจริงๆ ครับพระอาจารย์"

ท่านกล่าวว่า "คุณตาท่านนั้นชื่อว่า ขุนพันธรักษ์ราชเดช"

และพระ..องค์ที่ท่านได้ขอคุณตาไว้นั้น ท่านได้มอบให้ผมไว้บูชาซึ่งผมจะนำบูชาติดกายไว้อย่างแน่นอน

 

http://palungjit.org/threads/พบปะ-พ...้องพี่-แบบกันเอง.293134/page-1205#post8615147

 

องค์นี้ครับ

 

กิจกรรมที่ รพ.สงฆ์ ประจำเดือนนี้คือวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2556 ซึ่งเป็นเดือนที่ครบ 6 ปี ในการเริ่มทำกิจกรรมทั้่งการบริจาคเงินและทำบุญถวายสังฆทานภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์อาพาธ ที่ รพ.สงฆ์ ครับ โดยมีการนัดพบเพื่อจัดเตรียมสังฆทานอาหารที่โรงอาหารด้านข้าง รพ.สงฆ์ในเวลา 7.30 น.-8.00 น. เหมือนเช่นเคย

จึงขอแจ้งให้ผู้ที่สนใจได้ทราบทั่วกัน ผมและกรรมการของทุนนิธิฯได้เบิกเงินจากบัญชีของทุนนิธิฯ มาเรียบร้อยแล้ว และจะได้ทยอยบริจาคไปยัง รพ.ต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อยภายในสัปดาห์นี้ โดยมีรายละเอียดการบริจาคสำหรับเดือนธันวาคม 2556 ดังนี้ (สำเนาการโอนเงินจะได้นำมาลงให้อนุโมทนากันต่อไปครับ)

1. รพ.สงฆ์
- ถวายค่าสังฆทานอาหาร 6,000.- (ประมาณการพระสงฆ์ไว้200 รูป โดยจะถวายเป็นอาหารกล่องๆ ละ 30.-)
- ถวายค่าเวชภัณฑ์ส่วนกลาง 5,000.-
- ถวายค่าโลหิต 5,000.-

รวม 16,000.-

2. รพ.ภูมิภาค
- รพ.แม่สอด จ.ตาก 8,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน 5,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย 8,000.-
- รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ 8,000.-
- รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 8,000.-
- รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 5,000.-
- รพ.สงขลา จ.สงขลา 8,000.-
- รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 5,000.-

รวม 55,000.-

รวมเงินตามข้อ 1+2=71,000.-(เจ็ดหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน)

โดยรายละเอียดอื่นๆ ผมจะได้ทยอยนำมาแจ้งให้ทราบต่อไป

พันวฤทธิ์
15/12/56

 

นี่คือการทำบุญในกิจกรรมครั้งแรกของทุนนิธิฯ เมื่อ 6 ปีที่แล้วครับ

 

สัปดาห์ที่ผ่านมางดบทความสืบหาพระเครื่องดีครับ เนื่องจากจิตใจอยู่กับสถานการณ์บ้านเมือง เลยไม่ได้มีเวลาลูบคลำพระเครื่องและพระพิมพ์ต่าง แต่ข้อมูลมีเตรียมไว้แล้ว ขอผลัดไปก่อนครับ

 

โอนร่วมบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

19/12/13 เวลา 08.31

500 บาท

ขอโมทนาบุญกับผู้ร่วมบุญทุกท่าน สาธุ สาธุ สาธุ

 

พรหมวิหาร กับการวางใจไว้ให้ถูกที่ ให้สวยงาม

การใช้พรหมวิหารธรรม เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ในที่นี้ย่อมเหมาะสมยิ่ง ผู้ได้รับกรรมถึงเป็นถึงตาย หรือได้รับความทรมานบาดเจ็บมากน้อยหนักเบา สูญเสียต่างๆ ก็ตาม ในฐานะผู้ดูเราต้องปลงใจลงว่า นั่นเขาได้รับผลแห่งกรรมที่เขาเองต้องเคยทำมาแล้ว

ส่วนผู้ทำกรรม ก่อความทุกข์ความทรมานเสียชีวิตเสียเลือดเนื้อ หรือทรัพย์สินเงินทองแก่ผู้อื่นนั้น ในฐานะผู้ดูเราต้องพยายามคิดให้พอเข้าใจว่า เขาตามกันมาเพื่อทวงหนี้กรรม จิตใจของทั้งสองฝ่ายทุกข์ร้อนด้วยกัน ไม่มีฝ่ายใดเป็นสุขได้เลย

เราต้องไม่เข้าไปร่วมความร้อนรนนั้นด้วย ถ้าเราไปมองผู้ทำกรรมอย่างโกรธแค้นเกลียดชังในความร้ายกาจโหดเหี้ยมอำมหิตของเขา เราก็จะทำร้ายตนเอง ไม่ใช่ใครที่ไหนทำ พึงใช้เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ในคู่กรณีทั้งสองฝ่าย เมตตาที่เขาต้องทุกข์ด้วยกัน

เราทำบุญกุศลใดไว้ ก็ตั้งความกรุณาอุทิศให้ผู้เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขาทั้งสองฝ่าย ให้ตัวของเขาด้วย เพื่อให้พอมีความสงบเย็นแม้เท่าที่กำลังจิตของเราสามารถช่วยได้ ขณะเดียวกันมีมุทิตายินดีกับตัวเองกับใครทั้งหลายอื่น ที่ไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นคู่กรณี

ไม่ต้องมีจิตใจที่เร่าร้อนทนทุกข์ทรมาน และมีอุเบกขาคือ พยายามวางใจเป็นกลาง ไม่เอียงไปเมตตากรุณาฝ่ายหนึ่งจนทำให้คิดไม่ดีในอีกฝ่ายหนึ่ง ให้ใจตั้งอยู่ในเมตตาทั้งสองฝ่าย

ที่สำคัญการวางใจนี้ต้องให้เป็นไปอย่างจริงใจ เมตตาอย่างจริงใจ กรุณาอย่างจริงใจอุเบกขาอย่างจริงใจ นั่นแหละจึงจะเป็นกรรมดีที่สมบูรณ์จริง อันจักให้ผลดีได้จริง

: ธรรมเพื่อความสวัสดี
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก