ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ข้อความสื่อสารประจำวันจากท่าน มนุษย์ต่างดาวมิติที่10
ประจำวันที่ 22 มกราคม 2014
ที่มา:ดาวนาเม็ก....(-E-๑) สถานที่ตั้ง มิติที่10ในจินตนาการของคนไม่เต็มทั้งหลาย....อยู่ที่ไหน็ไปหาเองเด้อ



เธออย่าไปสนใจเลย เขาไม่ได้สนใจค้นหาการเปลี่ยนแปลงพลังงาน จิตใจอะไรบ้าบอ แบบนั้นหรอก
เขาสนใจแต่จะหาคนที่เห็นด้วยกับความเชื่อของตัวเองมากกว่านะเจ้าของกระทู้นี้

ถ้ามีใครที่แสดงความเห็นที่ขัดแย้ง จริงๆๆก็คือพูดความจริงที่แทงใจดำเจ้าของกระทู้ว่า
กำลังหลอกตัวเองว่ามีพัฒนาการอันสูงส่ง
กำลัง เปลี่ยนแปลงพลังงาน
จิตใจอะไรบ้าบอ ...


และชี้ว่าข้อความในกระทู้นี้ต่างมิติอะไรนี่มันไร้สาระ
(นอกจากจะลิเกๆๆแล้วผมว่ามันสำนวนเหมือนในคอลัมน์หมอดูคำทำนายของไพ่ทาโร่ ดูดวง ตามราศีเกิด 12 ราศีนะ)
เอาเวลาไปทำสิ่งที่มีสาระไม่ดีกว่ามาหมกหมุ่นอยู่
แต่ข้อความต่างมิติบ้าบออะไรที่เพี้ยนสุดกู่
นี้ไม่ดีกว่าหรอ

เขาก็จะรับไม่ได้ ก็จะหลอกตัวเองว่าคนอื่นคงไม่มีเปลี่ยนแปลงพลังงาน จิตใจอะไรบ้าบอ แบบตัวก็เลยไม่เข้าใจข้อความตัว
ทำนองพ่อไม่เข้าใจตุ้ม ......

ถ้าเป็นผู้ส่งสารจริงอย่าง เจ้าตัวอ้างจะคอยมาปกป้องคำสอนจะเป็นจะตายหรือครับ
อย่างกับตัวเองสื่อออกมาเอง มนุษย์เรานี่มันยึดมั่นถือมั่นจริงๆๆ ไปซิไปตั้งกระทู้อื่นอย่ามากระทู้นี้
กระทู้นี้มันกระทู้คนที่มีความคิดแบบเดียวกับ อั๊ว พอกับสื่อของเสื้อสีต่างๆๆในตอนนี้เลยวุ้ย.....

ที่พูดนี่ เตือนด้วยความหวังดีนะว่าเอาเวลาไปทำสิ่งที่มีสาระมากกว่ามานั่งหลอกตัวเองดีกว่านะ
แต่รู้ว่าคงไม่สนใจคำเตือนของเราหรอก เพราะยุคนี้มานยุคกากตะกอน

ความคิดของคนยุคนี้มัน มักจะเห็นว่าความหวังดีของคนอื่นการเตือนที่จริงใจเป็นเรื่องอกุศลเรื่องจะคอยทำลายตัวเองความเชื่อตัวเองเพราะไม่ชอบไปเสีย
ทั้งๆๆที่ไร้สาระนะจ๊ะ
ต่อให้พระพุทธเจ้ามาเตือน ผู้คนในยุคนี้ที่ร้องหาพระพุทธเจ้าทั้งวัน มันก็คงไม่ฟังไม่รู้จักไม่สนใจหรอก จริงไหม? ดีไม่ดีเอามีดฟันหัวขาดเลยล่ะ


ดังนั้น พระพุทธเจ้าก็จะปลงและหุบปากไม่พูดอะไรอีกเสีย
ส่วนยุคใหม่นะหรือ มันก็แค่ความพยายามเฟ้อฝันเพื่อหนีจากโลกความจริงอันโหดร้ายไปหาโลกในจินตนาการแค่นั้น
เป็น ภาษาโฆษณาชวนเชื่อตื้นๆ ทางการเมืองกับการตลาด
และแน่นอนว่า นิวเอจนั้นก็ไม่ต่างไปจาก "ร่ม" ของศาสนากระแสหลัก ที่ย่อมต้องเต็มไปด้วยธุรกิจการพาณิชย์ แฟชั่นของไลฟ์สไตล์
ไปจนถึงความศรัทธางมงาย

ท่าน มนุษย์ต่างดาวมิติที่10

ปล. ผมไม่ได้พูดเองนะครับผมแค่เด็กส่งสาร แค่แปลภาษาดาวนาเม็ก....(-E-๑)

 

จะต้องให้บอกอีกสักกี่ครั้งกี่หนว่า......
ข้อความเหล่านี้เขา "แปล" มาให้อ่านกันๆๆๆ...
หากใครจะตีโพยตึพายไม่พอใจในข้อความ
ก็ให้เมล์ไปบอกเจ้าของคำพูดตามเวปที่ลงไว้ให้ทุกครั้งที่ได้แปล...
ทีหนังสือที่ใครต่อใครแปลออกมาขาย ๆ กัน...เห็นขายดี อ่านกันสนุก
ไม่เคยได้ยินว่ามีใครไปโวยวาย "ผู้แปล" กะเขาสักราย...
แม้กระทั่ง ไบเบิล พระไตรปิฏก ฮวงโป ท่านกฤษณะ
ตรุงปะ โอโช โตลสตอยและอีกมากมาย...
ที่ยกมาคุย ๆ กันนี่ ก็แปลมาทั้งนั้น...
เพราะที่ว่ามาทั้งหมดนี่ มันเป็นอักษรไทยกันตั้งแต่ต้นเมื่อไหร่กัน...
ทั้งผู้คนที่เอ่ยนามมาทั้งหมดนี้ ก็ล้วนไปอยู่มิติไหน สวรรค์ชั้นไหนแล้วก็ไม่รู้ด้วย...
ดังนั้น...ก็น่าจะบอกได้ว่า...ที่แปลกันออกมาทั้งหมดนั่น
เป็นข้อความของผู้ที่เคยเป็นมนุษย์แต่บัดนี้ไปอยู่อีกมิติหนึ่งแล้วเช่นกัน...
แล้วผู้ที่นำมาโพสท์หรือผู้ที่นำมาแปล รวมทั้ง พระถังซำจั๋งด้วย...
พวกเขาต้องรับผิดชอบด้วยไม๊นี่...
อะไรกันนักกันหนา...ต่างก็โตรอตายกันทั้งนั้น
จะมาฟาดงวงฟาดงากันท่ากันทางกันเพื่ออะไรกัน...
ต่างคนต่างแยกกันไปหาความรู้ไม่ได้หรือ...
ลองนิ่ง ๆ หายใจลึก ๆ แล้วพิจารณากันดูดีไม๊...

*****เอาน่าเหล่าผู้เฒ่าทั้งหลาย...
ช่วยปล่อยให้เด็ก ๆ เขาเดินไปตามทางเขาเถอะ...
เมื่อไหร่ที่เขารู้ว่าไม่ถูก ไม่ใช่ เขาก็หาทางกลับเองแหละ...
ชาตินี้ไม่ทัน ก็ยังมีตั้งหลายชาติรออยู่...
ขนาดพระเทวทัต...ทำแย่ ๆ ต่อพระพุทธเจ้าตั้งสามครั้ง
พระพุทธเจ้ายังทำนายเลยว่า...จะได้เป็นปัจเจกในกาลข้างหน้ากะเขาเหมือนกัน...
แล้วนี่แค่คนธรรมดา ๆ แปลให้อ่านกันเพลินๆ...
จะต้อนให้เขาไปขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้าหรือเป็นอรหันต์กันเดี๋ยวนี้มันก็เก่งเกินไปนา...
และฉันก็ยังสงสัยอยู่นะ...ว่าพระเทวทัตเป็นญาติพระพุทธเจ้าแท้ ๆ
ทำไมท่านยังปล่อยให้พระเทวทัตทำเรื่องให้ตกนรกไปได้...
ทำไมไม่ไปกดดันให้พระเทวทัตขึ้นสวรรค์...
หรือว่า...ให้ลงนรกไปก็ดีเหมือนกันจะได้รู้ว่าสวรรค์มันดีกว่าตรงไหน...

ส่วนที่ว่า ถูกทาง ผิดทาง...ก็ช่างเขาเฮอะ...ลูกหลานก็ไม่ใช่
ใครคิดว่าของใครถูก ก็เดินกันไป...
การที่เที่ยวไปบอกว่า ของฉันถูก ของเธอผิด...
มันช่างเหมือนหลานฉัน ห้าขวบกับเจ็ดขวบทะเลาะกัน
เสียเวลากันเปล่า ๆ ...
"ทางใครก็ทางมัน ดูแลตนให้ดีแล้วกัน"...

และก็คำว่า"ความรัก" ที่มันไปทิ่มไปตำหัวใจใครนี่ ก็อยากจะบอกว่า
ฉันเองก็คิดมานานแล้วว่า ที่พุทธเจ้าทรงตัดสินใจยอมสอนยอมบอกสิ่งที่ท่านรู้แล้วนี่...
ก็เพราะ ท่าน "รัก" ท่านเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
หากท่านไม่รัก...ท่านก็ไปเองคนเดียวแต่ต้นแล้ว...
เพียงแต่ท่านไม่ได้พูด เขียน...ว่า รัก เท่านั้น
แต่การกระทำก็บอกได้ว่า รัก ....
หรือมีชาวพุทธที่คิดแตกต่างไปจากนี้...
หรือมีชาวพุทธไม่รู้ว่า เพราะพระพุทธเจ้าทรงรักเพื่อนมนุษย์
จึงทรงสละเวลาถ่ายทอดความรู้ให้จนกระทั่งทุกวันนี้...
หรือมีชาวพุทธคิดว่า เพราะท่านไม่รักเพื่อนมนุษย์ จึงตัดสินใจออกมาสั่งสอน...

"ความรัก" ของพระพุทธเจ้า
คือ "ความรัก" ที่แสดงออกด้วยการกระทำอันปราศจากซึ่งเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น
เป็นความรักที่บริสุทธิ์ มิต้องการสิ่งใดตอบแทน
แม้กระทั่งถูกทำร้าย ท่านก็ยังคง "รัก" อยู่....

คำว่า "รักเป็นทุกข์" นั้น...คือ รักที่เจือด้วยกิเลสตัณหา...อย่ามาเหมารวมกัน...

อจิตตะ...

 

แหม่...ข้าพเจ้าไม่คิดว่า "ความอยากเป็นฮีโร่" มันจะมาจากหัวใจที่เข้าถึงความรักและความเมตตาที่แท้จริงหรอกนะ แต่คนเราก็มักจะมองและตัดสินผู้อื่นจากสิ่งที่ตัวเองเป็น

ยังไงก็เถอะ ขอสงวนพื้นที่นี้ไว้ให้คนที่เขาต้องการเสพความรู้ที่แตกต่างไปบ้างเถอะนะ.....

 

คุณอจิตตะเป็นอะไรมากเปล่า ไหนว่าถูกทาง ผิดทาง...ก็ช่างเขาเฮอะ...
ลูกหลานก็ไม่ใช่
ทำไมตัวเองไม่ทำตามที่พูดแหละครับ
ท่าน มนุษย์ต่างดาวมิติที่10ท่านพูดกับเจ้าของกระทู้
ว่าอย่าเสียเวลามาหมกหมุ่นเรื่องไร้สาระเลย
ไม่ได้พูดกับท่าน....มหาเทพGabrielเลยและจะเมลล์ไปถามได้ไงเนี่ย

อีกอย่างท่านมหาเทพGabriel มีเว็ปซะด้วย ตลกจริง
หรือเป็นเว็ปของตาคนที่สื่อสารล่ะ
ถ้างั้นท่าน มนุษย์ต่างดาวมิติที่10 ท่านก็คงไม่เสียเวลาท่านคงจะไปพูดกับท่าน....มหาเทพGabrielตรงๆๆแล้วล่ะ

ท่านมนุษย์ต่างดาวมิติที่10 โอ้....ท่านติดต่อมาอีกแล้ว

ว่าตอนนี้กำลังจิ๊บกาแฟอยู่กับท่าน....มหาเทพGabrielอยู่ที่คาเฟ่แห่งหนึ่งในดาวไซย่า

"นี่ท่านGabrielท่านไปสื่อสารอะไรกับดาวโลกหรือ"
"เฮ้ย อั๊วเปล่า มันมีคนแอบอ้างว่าเป็นอั๊ว อั๊วเอาเวลาไปเล่นหุ้นหมดที่ตลาดหลักทรัพย์จักรวาลแอนโดมิดร้า อั๊วจะเอาเวลาไหนมาทำเรื่องไร้สาระพรรคนั้น"
"เอ้าหรือท่าน แต่เขาเชื่อเป็นตุตะไปแล้วนะ"
"นี่แหละมนุษย์ .........บางพวก แยกโลกความจริงกับความฝันไม่ออกหรอกท่าน"
"ท่านก็ลงไปเตือนเขาบ้างสิท่าน"
"โอ๊ยเขาไม่ฟังผมหรอกเขาจะหาว่าเสือก อวดเก่งอวดดี อยากเป็นฮีโร่"
"จริงของท่าน ผมเองก็ชั่งใจอยู่นานทั้งๆๆที่รู้ว่าความคิดของคนยุคนี้มัน
มักจะเห็นว่าความหวังดีของคนอื่นการเตือนที่จริงใจเป็นเรื่องอกุศลเรื่องจะคอยทำลายตัวเองความเชื่อตัวเองเพราะไม่ชอบไปเสีย"
"เอาน่าท่านเขาไม่ฟังท่านก็หุบปากไปซิ"
"นั้นจริง ผมจะหุบปาก"


จบการสื่อสาร ...................

ที่ท่านมนุษย์ต่างดาวมิติที่สิบ ท่านทำแบบนี้ให้คนมาด่าว่าท่านเสือกเรื่องชาวบ้านก็เพราะท่านเป็นจิตวิญญาณที่สูงส่งเหมือนพระพุทธเจ้าไง555
พุทธเจ้าทรงตัดสินใจยอมสอนยอมบอกสิ่งที่ท่านรู้แล้วนี่...
ก็เพราะ ท่าน "รัก" ท่านเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
หากท่านไม่รัก...ท่านก็ไปเองคนเดียวแต่ต้นแล้ว...
ท่านมนุษย์ต่างดาวยอมให้ คนด่าว่าเสือกเพื่อชี้ทางให้คนหลงทางนี่(ตัดสินไม่ตัดสินก็ดูจากพฤติกรรมและกันเคยถามตัวเองไหมว่านี่กูทำบ้าอะไรอยู่ว่ะเนี่ย...เคยทบทวนดูไหม)
ก็เพราะ
ท่านเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
หากท่านไม่รัก...ท่านก็ไปเองคนเดียวแต่ต้นแล้ว...
เหอๆๆ

 

เอ้าที่พูดนี่ ไม่ใช่ว่าตัดสินผู้อื่นจากสิ่งที่ตัวเองเป็นหรือครับ ถึงว่ามีคนอยากเป็นฮีโร่
แหมว่าเองอีก

ยังไงซะนี่เป็นกระทู้นะครับย่อมจะต้องเป็นพื้นที่ที่เปิดให้คนได้แสดงความเห็นได้อิสระ
ไม่ใช่ไม่ถูกใจไปกระทู้อื่นสิ อย่ามากระทู้นี้กระทู้นี้สำหรับพวกเดียวกับอั๊ว
เป็นพื้นที่ของพวกอั๊ว งั้นก็เขียนสิว่ากระทู้นี้สำหรับพวกเชื่อเหมือนอั๊วสนับสนุนความคิดอั๊ว
ประกาสไปเลย ชาวบ้านจะได้เข้าใจและไม่เข้ามา

ยังไงปกติการตั้งกระทู้ก็ควรจะมีการสงวนพื้นที่นี้ไว้ให้คนที่เห็นต่างบ้างนะครับ....
ไม่งั้นก็เท่ากับเป็นกระทู้ที่หมกมุ่นกับการอวยความคิดของกลุ่มก้อนตัวเอง!

แล้วจะต่างอะไรกับ สังคมในปัจจุบันที่มีการแบ่งเป็นก๊กๆๆให้ข้อมูลด้านเดียวล่ะ

 

ขอโพสท์ใหม่อีกครั้ง เพราะได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสถานนะการณ์...
และเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย...
ปล."ความรัก" ในข้อความนี้มีความหมายว่า "ความปรารถนาดีที่ปราศเงื่อนไข"=ผู้แปล



THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2014
January 19-26, 2014
วันที่โพสท์ _Tue ,21/1/2014
ผู้แปล: อจิตตะ

ในขณะที่คุณยังคงวนเวียนไปตามวงจรชีวิตในแต่ละวัน
คุณต้องไม่ลืมที่จะชื่นชมและให้รางวัลแก่ตัวเองเสมอ
สำหรับภารกิจที่กำลังทำและที่ยังได้เดินอยู่บนโลกใบนี้...
บทบาทที่คุณต้องเล่นในการเปิดเผยแผนของเบื้องบน
ด้วยการปรากฏตัวของคุณนี้เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง
เพราะ “พวกคุณคือความรัก”(รัก =คือความปรารถนาดีที่ปราศจากเงื่อนไข=ผู้แปล)
ซึ่งมีเหล่าทวยเทพและผู้ที่คอยให้คำแนะนำอยู่รอบๆตัวคุณมากกว่าที่ผ่าน ๆ มา
เรารู้สึกยินดีที่คุณรับฟังและตอบสนองในสิ่งที่เราพูด
ซึ่งการเปิดเผยที่จะเกิดขึ้นในปีนี้มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆที่จะเกิดขึ้นได้ทุกวัน
ดังนั้นการสื่อสารที่ดีและชัดเจนด้วยมุมมองของมิติที่สูงขึ้น
ย่อมยังประโยชน์ให้แก่คุณ...แก่คนที่คุณรัก...และแก่โลกของคุณ
อีกทั้งคำแนะนำต่าง ๆ และในสิ่งที่ต้องทำที่คุณสมควรได้รับ
เพื่อการก้าวไปข้างหน้าของคุณและผู้คนในแวดวงของคุณ...
ซึ่งบัดนี้...ก็มีความพร้อมแล้ว

คุณอย่าได้เคลือบแคลงในสิ่งที่ได้รับจากเราเลยนะ
หากคำพูดนั้นเป็นไปเพื่อการนำทางและให้คำแนะนำแก่คนใกล้ชิดของคุณ
เพราะสิ่งที่คุณบอกพวกเขา บางทีก็อาจเป็นสิ่งที่ผู้รับจำเป็นต้องรู้
เพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางในการปรากฏตัวของพวกเขา
และมีความเป็นไปได้อย่างมากที่บางสิ่งที่คุณได้บอกไป
จะเป็นคำตอบที่ ”ใช่เลย” สำหรับพวกเขาด้วย
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเพียงคำแนะนำหรือการบอกใบ้ก็ตาม
ซึ่งก็อาจเป็นสิ่งที่พวกเขากำลังตามหาอยู่ก็เป็นได้...


สิ่งเดียวที่จะช่วยให้คุณไม่ใส่อารมณ์ลงไปในข้อความที่คุณต้องแบ่งปัน คือ “อุเบกขา”
และหากคุณไม่ลืมว่าคุณเป็นเพียง”ผู้ส่งสาร”
สิ่งที่คุณพูดและส่วนที่คุณทำ ณ.ขณะนั้น ก็จะบรรลุผลสำเร็จ
แต่หากผู้รับทำเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่คุณพูด
ก็ขอให้เชื่อเถอะว่าอย่างน้อยเขาก็ได้รับข้อมูลที่เขาต้องการแล้ว
และก็จงปล่อยไว้งั้นแหละ...ดีสุด...

การสื่อสารที่ตรงไปตรงมาและลุ่มลึกโดยผ่านจากผู้หนึ่ง
หรือผ่านคนอย่างคุณสู่ผู้ที่คุณต้องดูแลด้วยการให้คำแนะนำ...
นั่นเป็นสิ่งที่ผู้มีระดับจิตสำนึกที่สูงกว่าต้องการและต้องทำ
ขอให้คุณพูดด้วยความรักและความเมตตา
และก็ปล่อยให้ผู้รับตัดสินใจเอาเอง
ว่าเขารับได้กับสิ่งที่ได้รับโดยผ่านคุณหรือไม่
และนี่คือการบริการส่งต่อซึ่ง”ความรัก” แด่ผู้ที่อยู่ในแวดวงของคุณ
ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ก็ยินดีรับ”ความรัก”นี้ด้วยความซาบซึ้งใจ...

ทุกวันนี้ เหล่าจิตวิญญาณบนโลกก็ยังคงวนเวียน
เพื่อค้นหาการคำตอบจากคำถามที่พวกเขาไม่เคยได้รับ
แต่หากทันทีที่ความคิดในมุมมองใหม่ได้มีโอกาสเข้าไปสู่ความตื่นรู้
เขาก็จะนำมาเรียงลำดับเพื่อผนึกเข้าสู่ศูนย์รวมความรู้ของเขา
และความช่วยเหลือของคุณก็จะได้รับการขอบคุณอย่างมากมาย
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยได้ยินคำชื่นชมจากปากของพวกเขาเหล่านั้นก็ตามเถอะ
แต่สิ่งที่คุณพูดออกไปมันเหมือนเป็นยาบรรเทาความเจ็บปวด
และปลอบประโลมใจให้แก่เหล่าจิตวิญญาณที่มีปัญหาเหล่านั้น...
นี่แหละ...ที่เราเคยเรียกคุณว่า “ทูตของเรา” ในสารฉบับต้นๆ

และในขณะที่โลกต้องการความรัก ความเมตตากรุณา
และ”ขันติ”จากคุณมากกว่าที่ผ่านมา
ซึ่งคุณคุณต่างก็ได้รับการฝึกฝนจนเชี่ยวชาญพอที่จะเป็น”ผู้ให้”ในลักษณะนี้แล้ว
เราบอกคุณได้เลยนะว่า “ต่อไปนี้ไม่มีใครจะมาพูดว่าคุณแอบหลับในขณะทำงานได้อีก”
เพราะความเป็นจริง "แม้กระทั่งยามหลับ...คุณก็ยังคงปฏิบัติภารกิจนี้อยู่เลย"

ความหลากมิติของคุณยังคงเดินเครื่องอยู่ตลอดเวลา
เพื่อประโยชน์ของผู้คนมากมายที่ยังต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องพัก
ดังนั้น ในแต่ละวัน คุณสามารถขอรับความช่วยเหลือ
จากกระบวนการเลื่อนระดับของคุณ
ในสิ่งที่คุณต้องการด้วยตัวคุณเองเสมอ
คำตอบจากมิติที่สูงกว่าของคุณกับคำแนะนำที่พระเจ้าเห็นชอบ
จะจัดส่งและตอบคุณในทันทีทันใด
ซึ่งคุณก็ต้องเปิดใจรับกับคำตอบนั้นและส่งต่อในสิ่งที่คุณได้รับด้วยนะ
แต่ในบางครั้งคำร้องขอกับคำแนะนำที่คุณต้องการอาจมาล่าช้าไปบ้าง
ซึ่งคุณต้องฝึกสังเกตุโดยใช้“ขันติ” และ “ความเพียร” เข้ามาช่วย
แต่หากคุณมีความมานะอุตสาหะในเรื่องนี้
ความตระหนักรู้ของคุณก็จะเพิ่มขึ้น
จนคุณอดที่จะขอบคุณกับสิ่งที่คุณได้รับไม่ได้
และยังทำให้คุณมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า
“แท้จริงแล้วคุณมิได้เดินอยู่บนโลกนี้คนเดียวหรอกนะ”

“เรา” คือหนึ่งในครอบครัวแสงสว่างของคุณ
ที่ได้ตัดสินใจเข้ามาช่วยขจัดปัญหาต่างๆที่ยังอุดตัน
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดขัดในการเลื่อนระดับจิตให้สูงขึ้นไปของคุณ
“เรา”สามารถทำงานร่วมกับคุณได้ตลอดวันตลอดคืน
เพื่อช่วยให้คุณได้ทำความเข้าใจ ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องทำเพื่อก้าวไปข้างหน้า
กับพลังงานและคลื่นแสงสว่างจากจักรวาล
ที่กำลังไหลบ่ามาอย่างท่วมท้นเพื่อส่องสว่างให้แก่ดาวเคราะห์ดวงนี้
เพราะเมื่อใดก็ตามที่แสงสว่างเหล่านี้มาถึง
ก็มักจะต้องเร่งเปิดตัวรูปแบบของจิตสำนึกที่ดี
และวิธีการปฏิบัติที่พร้อมจะพาคุณก้าวขึ้นสู่ความเข้าใจยิ่งขึ้น
เพื่อให้คุณนำความเข้าใจนั้นมาปรับใช้กับอาณาจักร(จิตสำนึก=ผู้แปล)ของคุณเอง

ขณะนี้พวกคุณส่วนใหญ่ก็เริ่มเข้าใจในความเป็นจริงแล้วว่า
คุณและทุกผู้ทุกนามต่างก็เป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรของจักรวาลนี้
ดังนั้นถึงแม้ว่าตอนนี้คุณยังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงตัวคุณเอง
แต่คุณก็สามารถเป็นผู้ช่วยเปิดทางให้แก่ผู้ที่กำลังตื่นรู้
ได้ค้นหาคำตอบด้วยจิตวิญญาณของเขาเองกับเส้นทางที่คุณเคยได้เดินผ่านมา
...เช่นกรณีที่ได้เคยพบเห็นมาแล้ว
กับผู้ที่ได้ค้นพบอิสระภาพจากกงล้อของการเวียนว่ายตายเกิด
และสามารถปลดปล่อยตัวเองได้แล้ว
ก็กลับมาและยื่นมือเข้าช่วยเหลือพี่พี่น้องๆของตน
เพื่อให้พวกเขาทุกคนได้รับ”อิสระภาพ”นั้นร่วมกัน...

Until next week…
I AM Hilarion

©2014 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace
Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety
and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit, copyright and websites are included.
WELCOME! - The Rainbow Scribe
MOVING INTO LUMINOSITY
Thank you for including the above website link when posting this message.

 

หนู (อโศก)...อ่านข้อความฉันให้มันเข้าใจซะก่อนค่อยโพสท์ก็ได้นะ...ไม่ต้องรีบ
กระทู้ไม่หายไปไหนหรอก...
ที่หนูโพสท์มานี่ ผู้คนเขานั่งขำกัน...
ไม่เชื่อหนูลองย้อนกลับไปอ่านที่ตัวเองโพสท์ใหม่ซิ...
อย่าทำร้ายตัวเองอย่างนี้เลยนะ...
เพราะหน้าที่การงานที่ดีที่หนูต้องทำต่อไปข้างหน้ายังรอหนูอยู่...

อ่านให้ดีดี...ค่อย ๆอ่านแล้วค่อยกระฟัดกระเฟียดก็ไม่สายไปหรอก...
"ฉันรอได้...เพราะฉันยังไม่ว่างที่จะตายตอนนี้หรอกนะหนู..."

 

ตอบ หนู (อโศก)...ฉันเห็นด้วยกับหนูนะ...ในเรื่องที่ว่าให้ประกาศไปเลยว่า...

"กระทู้นี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีวุฒิภาวะในการใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล...
และหากไม่สนใจในข้อมูลแนวนี้ ก็โปรดได้อย่าเสียสละเวลาเข้ามาอ่าน...ขอขอบคุณล่วงหน้า..."

อืม...ชอบความเห็นของหนูในเรื่องนี้จริง ๆ...
เพราะมันเหมือนกับเวลาที่เราจะซื้อหนังสือ
ก็จะมีข้อความว่า หนังสือประเภทอะไร...แนวไหน
ไม่สนใจก็ไม่ต้องซื้อ...อ่านไปสองหน้าไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อ...
ดีดี....เป็นความคิดที่ดี...
หาก จขกท...ได้อ่านแล้วน่าจะลองพิจารณาดูก็ดีนะ...

และจะบอกหนูให้รู้...เผื่อจะพึ่งเข้ามาอ่าน...
ถึงแม้ว่า จขกท จะตั้งกระทู้โดยใช้ชื่อคนเดียว
แต่กระทู้นี้ได้เริ่มมาหลายปีแล้ว และบัดนี้เขาทำงานเป็นทีมละหนู...

 

That's I like !


กดไลท์ให้เลย ไรเนี่ย ผมจูนพลังโฮ่วอี้มา
ยังไม่ทันใช้เลย คุณอโศกมาแว่บเดียวยิง
เป้า "โดน" เลยอ่า


ร่างนี้รับพลังนารายณ์ไ้ด้ดีนะเนี่ย ...

 

กระทู้ไม่ใช่หนังสือ ย่อมมี Two way communication


ดังนั้น เมื่อมีผู้ใหญ่ที่ดีอย่างคุณลุง "เทพอภิบาล" มา เราควรยินดี ที่ลุงมาแสดงความ
คิดเห็นที่หาได้ยากในกระทู้นี้นะครับ ผมจึงบอกว่าให้คิดว่า "จักรวาลสื่อสารกับเราโดย
ผ่านใครก็ได้" ไงล่า อาจจะสื่อผ่านลุงเทพอภิบาล หรือคุณอโศก ก็ได้ ใครจะไปรู้


มันไม่ผิดหรอก ถ้ามีคนคิดต่างในกระทู้เนี่ย


เพราะมันคือ กระทู้เปิดสาธารณะ ไม่ใช่หนังสือที่เป็น One way comฯ ที่สำคัญคือ
เราควร "ใจกว้าง เปิดรับฟัง" นะครับ ความแตกต่างหลากหลาย คือ ธรรมะ ธรรมชาติ
อย่างหนึ่ง อันเป็นธรรมชาติในชีวิตจริง ที่เราจะเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ตรง มิใช่ใช้
การแปล การอ่าน การจำ การทำความเข้าใจครับ


ผมเป็นแค่คนเข้ามาอ่าน แต่อยากอ่านความคิดของลุงเทพฯ พอเจอข้อความใจแคบ
แบบไล่ให้ออกจากกระทู้นี่ บ่องตงน้า "หมดรมณ์" เลย บรรยากาศห่วยๆ กลับมาอ่า

 

คนอ่านไม่ได้อ่านแต่ของที่โพส เขาอยากอ่านความเห็นต่างด้วย


ตรงนี้ ไม่เข้าใจว่า สาวกบริวารที่เอาแต่หลับหูหลับตาปกป้องกันนี่ เข้าใจไหมครับ?
ผมคือ คนอ่าน ผมอยากอ่านครับ แต่ขอโทษ "ผมอยากอ่านความคิดเห็นต่างบ้าง"
โดยเฉพาะความคิดเห็นของลุงเทพฯ และมันไม่ควรไปอยู่ในกระทู้อื่น


จะบ้าเหรอ? ความเห็นต่าง จะให้แยกไปอีกกระทู้ แล้วตรูจะอ่านเข้าใจมั้ยเนี่ย?


ความเห็นต่างมันก็ต้องอยู่ในกระทู้นี้แหละ มันจะอยู่กระทู้อื่น แยกไปไ้ด้ยังไงกันเล่า
เน้น ผมคือ คนอ่านและรออ่านความเห็นต่างอยู่ครับ ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ ไม่ชอบอะไรนะ
ผมชอบ ผมเชื่อ แต่เรามองไม่รอบด้าน มองเห็นแต่ด้านนี้ แล้วไม่เห็นด้านอื่น เรามัน
ก็อยากมองให้รอบได้บ้าง คนบางคนอุทิศเวลามาให้เราเห็นมุมมองที่แตกต่าง เราจะ
เห็นได้ ก็ต้องมาอ่านกระทู้เดียวกันนี่แหละสิน่า (คงมึนอ่า ถ้าต้องไปอ่านกระทู้ที่แยก
ต่างหาก แต่เป็นความเห็นต่าง อันเี่กี่ยวข้องกับกระทู้นี้)


ใจกว้างเข้าไว้ครับ อย่าไล่ใคร อย่ายึดถือว่ากระทู้เป็นตัวกูของกูเลยครับ อัตตาเ็ต็มๆ

 

เขาหมายถึงคนที่ไม่ชอบ หรือเกลียด แนวทางของข้อความในกระทู้นี้
แต่ก็ยังเที่ยวเข้ามาพูดจาในทางลบอยู่เรื่อยๆหนะครับ
ซึ่งก็คงเหมือนอย่างที่ท่าน Gabriel บอกนั่นแหละครับ
ว่าเขาเข้ามาถามซื้อกล้วยหอม ในร้านขายเสื้อผ้า ครั้งแล้วครั้งเล่า
แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวัง และความไม่พอใจ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เพราะว่าในร้านขายเสื้อผ้าไม่มีกล้วยหอมขายให้เขา

และอีกอย่างหนึ่ง ที่แม้แต่ครายออนก็ยังเคยพูดเอาไว้เลยว่า
ข้อความมันก็เลือกคนอ่านของมันเองด้วย ไม่ใช่แต่เราเลือกมัน
เพราะว่าบางที เมื่อข้อมูลในฐานข้อมูลในสมองของเรา
ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ข้อความนั้นๆนำเสนอ เราก็ไม่อาจจะเข้าใจมันได้

แต่เชื่อเถอะครับ ว่ามีคนเข้าใจอยู่แน่นอน
แม้ว่าคุณหรือใครอาจจะไม่เข้าใจเลยก็ตาม
และอีกอย่างหนึ่ง ผมก็บอกแล้วไงครับว่า
การที่ใครจะชอบ หรือ เชื่อ ข้อความพวกนี้หรือไม่
มันไม่ใช่ และ ก็ไม่เคยใช่หน้าที่ความรับผิดชอบของผมเลย
ผมเสียสละเวลามาแปลและโพสต์ให้อ่าน เสร็จแล้ว ก็เป็นอันจบครับ


.................................................................

 

มาอ่านแล้วจิตตก ไม่ชอบใจ ไม่ถูกจริต แต่ถูกดัดจริตแทน

ทางสวรรค์มีนะจ้ะ เอาเม้าไปคลิกที่ ไอคอนกากบาท มุมบนขวาสุด คลิกเลย จร้า ทางสวรรค์ อยู่ในมือคุณล่ะ อิอิอิ

 

อย่ายอมให้ "ขบวนการเห็บเหา" กลืนกิน


มันคืออะไรรู้ไหม? ยกตัวอย่างเช่น หลวงปู่ฯ รูปหนึ่ง มีแววว่าจะดัง เป็นที่มา
แห่งลาภสักการะได้ เห็บเหามันจะค่อยๆ แฝงตัวเข้ามา ทำทีว่าช่วยเหลือเรา
สารพัดประการ แล้วมันจะค่อยๆ กลืนเงียบ โดยการ "เขี่ยทิ้งหลวงปู่ฯ" ออก
ไป เหมือนที่ หลวงปู่เณรคำ โดยแฉ นั่นแหละ พวกเห็บเหารอบตัวนี่ มันหัก
หลัง วางแผนจะฮุบทอง ทองเป็นพันกิโลฯ มั้ง มันเล่นงานหลวงปู่ฯ เสร็จมัน
จะได้จัดการทองกันเอง เหมือนคราวหลวงตามหาบัวตายน่ะแหละ เขาถึงให้
"ท่าน" หนึ่ง เข้ามาจัดการไงละ กรณีหลวงปู่เณรคำ ก็ไม่่ต่างกัน โอเค เขามี
ความผิดจริง มันก็ส่วนหนึ่ง แ่ต่อย่าลืมว่าเจ้าพวกเห็บเหามันทำอะไรด้วย


เว็บพลังจิตก็โดน ปัจจุบัน เว็บสโนว์คนก่อตั้ง แทบไม่มีอำนาจอะไรในเว็บแล้ว
เพราะพวกเห็บเหา เข้ามารวมหัว พูดอะไรไปพวกนี้รวมหัวกัน เว็บสโนว์ก็กลาย
เป็นหัวเดียวกระเทียมลีบ มันเป็นแบบนี้ไปหมดทุกหย่อมหญ้าไปแล้ว


แม้แต่คนที่เอาเนื้อหาธรรมของนิวเอจไปเผยแพร่ เขาก็มีวิธีส่งคนเข้ามาประกบ
อย่างบ้านสวนพีรามิดนี่ ก็ของอิลูมินาติ เขาก็มีวิธีควบคุม มีคนห้อมล้อมคอยคุม
พูดไปคงไม่มีใครเชื่อ เหอๆๆ ก็พูดไปงั้นแหละ พวกนี้ จะเล่นงานทุกคนที่ เห็น
ต่าง หรือพยายามเปิดหูเปิดตา ให้เสาหลักได้มองอะไรรอบด้าน ก็เพื่อครอบงำ
ให้ตามืดบอด ให้ไม่รู้ความจริงอะไรมากไปกว่า "ในกะลาครอบ" เพื่อจะควบคุม
ให้เป็น "หุ้นเชิด" ทำงานให้ตนไป โดยไม่มีใครยื่นมือเข้ามาได้เลย (เผด็จการ)


โดนเข้ากะตัวแล้ว จะรู้สึกเ้ด้ออออ ...

 

ประโยคข้างล่างนี้...

"กระทู้นี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีวุฒิภาวะในการใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล...
และหากไม่สนใจในข้อมูลแนวนี้ ก็โปรดได้อย่าเสียสละเวลาเข้ามาอ่าน...ขอขอบคุณล่วงหน้า..."

เป็นความปรารถนาดีต่อผู้อ่านดอกนะ...
เพราะหากผู้ที่มีวุฒิภาวะไม่พร้อมที่จะใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล...
เกิดเผลอเข้ามาอ่าน ก็อาจเกิดอารมณ์เสีย กระฟัดกระเฟียด
หรือเอาหัวไปชนข้างฝาและพรุสวาสออกมาว่า "มันพูดอะไรของมันวะ"...
แล้วจะเกิดอาการปวดหัวตัวร้อน เปลืองตังส์ซื้อยาอีก...
ความหวังดีเยี่ยงนี้ น่าจะเป็นเรื่องดีนะเราว่า...
ลองอ่านใหม่อย่างช้า ๆ ดูซิ...หวังดีชัด ๆเลยนะ...

ฉันละชอบคำเหล่านี้จัง "เห็บ เหา สาวก บริวาร"...

 

จะได้ครูดี ไม่ใช่จะมีวาสนาง่ายๆ


คนเราไม่มีใครหรอก เ่ก่งเลยโดยไม่มีครู ผมเองไม่ชอบหาครูใหม่ๆ เพราะ
ผมมีครูแล้ว ถ้าผมไม่ได้มีครูมาก่อนนี้มาก ผมคงเข้าหา และร้องขอบางคน
เป็นครูของเราแล้วแต่เพราะผมมีหนี้เยอะ ใช้หนี้ครูที่ช่วยเหลือผมมายังไม่
หมด ผมจึงไม่อยากมีหนี้กับครูคนใหม่ เพิ่มเข้าไปอีก


การได้ครู เป็นวาสนาที่ดี ยิ่งครูดี ยิ่งหายาก


ผมไปเอาครูเยอะมาก ครูมีชีวิตนะครับ เป็นคนนี่แหละ ผมเลยต้องหยุดที่
ความพอดี ไม่อยากให้มันเกิน มากเกิน จะเกินอินทรีย์จะรับได้ไหว เราจึง
ได้แต่ "แนะนำให้คนอื่น" เท่านั้น เมื่อเราเห็นครูดีๆ หาได้ยากปรากฏ เรา
ก็แนะนำ แต่เราก็เข้าใจว่าบางคนรังเกียจที่จะเป็นลูกศิษย์คนอื่น จะเป็นก็
แต่ครูคนอื่นเขาไปเลย ลัดไปเลยโดยเรียนรู้การเป็นศิษย์ก่อนค่อยเป็นครู


การทำหน้าที่ได้ดี ทำให้มีวาสนาถึงครูดีๆ ได้ แต่ถ้าปล่อยโอกาสทิ้งไปก็
อย่ามาเสียใจทีหลัง หลายครั้งต่อหลายครั้ง ที่เพื่อนดี เพื่อนจริงใจ เตือน
กัน เพราะเห็นว่าครูคนนี้ เขาดีจริง มีจิตเมตตา และความรู้มากจริงแต่ทว่า
เพื่อนก็ไม่เคยเห็นคุณค่าเรา ไม่เคยเห็นคุณค่าครู มองแต่ว่า เรายัดเยียด
อะไรไปให้เขาบ้าง เขาไม่อยากได้ครูบ้าง


ก็ไม่เป็นไร ผมมาไม่บ่อย ที่มาคงเพราะครูท่านนั้นมีพลังดี จูนมาได้ แต่ถ้า
เพื่อนเขาไม่เอาเพื่อนอย่างเรา นิยมพวกเห็บเหา ปล่อยให้มันไล่คนดีๆ ที่
เขาเตือนด้วยความจริงใจ จนหายไปหมด มันก็ไม่ต่างจากพระราชาที่ไม่รู้
จักเลือกคนดีๆ ไว้รอบกายหรอก ...


โชคดี เราได้ร่วมบารมีกับคุณอโศกและลุงเทพฯ นับเป็นวาสนาของเราแท้ๆ

 

ใคร"อยาก"ทำอะไรก็ทำไป
ข้าพเจ้าอยากอ่านอย่างเดียวค่ะ ไม่อยากเยอะ^___^
รออ่านอยู่นะคะ
ขอบคุณสำหรับผู้แปลให้อ่านค่ะ(f)

 

Cluster, Group, Stata เขาก็ระบุอยู่แล้วอย่าทำให้มันสับสนปนเปมากไปเลยนะ
เดี๋ยวมันจะไม่มีเอกลักษณ์ในตัวเอง

 

เรื่อง "ความอยาก"


เถรวาทมองว่าไม่ดี เป็นกิเลส เป็นสิ่งที่ต้องตัดทำลาย
มหายานมองว่า "กิเลสเป็นโพธิ" และลุงเทพฯ ก็แนะแนวนี้
ส่วนข้อความต่างมิติ สื่อว่า คือ Free will หรือเจตจำนงค์เสรี
ไม่ใช่ความผิดอะไร เรามีอิสระในความปรารถนานั้นๆ


ไม่ทราบว่า "ใครกันแน่ ที่ทำให้สับสนปนเป?"

 

ขออนุญาตตอบนะคะ

ส่วนตัวคิดว่า "ความอยาก"เป็นได้ทุกอย่างค่ะ ทั้งกิเลส โพธิ หรือเจตจำนงเสรี

ส่วนคนที่จะเกิดความสับสนปนเปได้ คือคนที่ยังต้องเชื่อตามบุคคลอื่นๆๆๆ