อย่ามัวเก็งภัยพิบัติ จนลืมไปว่าสงครามโลกยังมีตัวเลขให้นับต่อไปได้อีก

สงสารเจ๊...แกบ้างนะครับ ความฝันแกยังไม่เป็นจริง

 

ตัวอย่างอันหนึ่งที่ เห็นได้เลยเรื่องกฏอนิจจัง

คือทักษิณ

ก่อนปี 47 น่าจะประมาณปลายทักษิณ 1

แม้วยิ่งใหญ่มาก ใครๆก็คิดว่าแม้วจะครองอำนาจไปเรื่อยๆ

ทักษิณเคยประกาศว่า จะอยู่ 20 ปี

เพื่อนเราเคยมาคุย

เราบอกว่า มันไม่ใช่กราฟเส้นตรง แบบลิเนียร์ ที่เรากำลังเห็น

ที่เราเห็น นะตอนต้นๆของเส้น

ที่เรายังไม่เห็นคือตอนที่ มันจะหักมุมแบบหัวดิ่ง หรือฟันเลื่อย

เราบอกว่าการเมือง มันเป็นกราฟแบบนี้แหล่ะ

แต่ทุกคนมักเอาช่วงต้นๆกราฟ มาทำนายช่วงต่อๆไปของกราฟ

เป็นมาทุกสมัยแล้ว สมัยจอมพล.ป จอมพล.ถนอม

ก็มักคิดว่าเขาต้องครองอำนาจต่อไปเรื่อยๆ

แต่ในที่สุด ก็หาเป็นเช่นนั้นไม่

ทักษิณและระบบของเขาก็เช่นกัน

ก็อยู่ภายใต้กฎอันนี้ ยิ่งพยายามไปฝืน

และยิ่งทำชั่ว ทำกรรม หนักขึ้น

บั้นปลายย่อมมีจุดจบที่อเน็จอนาถยิ่งนัก

 

ทุกอย่างมันมีเหตุปัจจัย
ทำไมคนบางคน เห็นครั้งแรกรู้สึกถูกชะตา หรือไม่ชอบหน้ากัน
ลูกบางคนเกิดมาพ่อแม่ทุกข์มาก สร้างความทุกข์ให้พ่อแม่ ราวกับเกิดมาเพื่อการนี้
ทำไมแม้วและเครือข่าย ถึงสร้างปัญหากับประเทศชาติได้มากมายถึงเพียงนี้

เรื่องทุกเรื่อง มันมีที่มา มีที่ไป
มันไม่ได้มี่ที่มาแค่ชาตินี้
มันมีที่มามาหลายภพหลายชาติแล้ว

พระเทวทัต เมื่อตั้งจิตอธิษฐานด้วยความพยาบาท
ขอจองเวรกับพระพุทธเจ้าทุกภพทุกชาติ เท่าเม็ดทรายในกำมือ
นับแต่ชาตินั้นเป็นต้นมา ก็ได้ทำกรรมกับพระองค์มาตลอด

เล่าให้ฟัง ให้ฉุกคิด

พระสงฆ์หลายรูป ที่หลายคนเคารพนับถือ เคยบอกว่า
ในหลวงคือพระโพธิสัตว์ จะมาเป็นพระพุทธเจ้าองค์นึงในอนาคต
เราอยากย้อนให้ไปดู เปรียบเทียบ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน กับพระเทวทัต
พระโพธิสัตว์หรือแม้แต่ใครๆก็ตาม
ย่อมมีศัจตรู คู่อาฆาตจองล้างจองผลาญติดตามกันมา
บางคนอาจเรียกว่าเจ้ากรรมนายเวร
แต่เราว่ามันใหญ่กว่านั้น
เพราะเจ้ากรรมนายเวรทั่วไป
อาจไม่ใช่ประเภทผูกขาดติดตัวแบบกรณีพระเทวทัต

พระเทวทัตบางชาติก็ไม่ได้เกิดมาเจอ พระพุทธเจ้า
ก็ไม่ได้สร้างกรรมชั่ว
เขาก็สร้างกรรมดี สร้างบารมีของเขาไป
บางชาติเขาเกิดเป็นกษัตริย์ด้วยผลแห่งกรรมดี

เขาถึงมีบารมีของเขา
ทำให้เกิดมาจองเวรพระพุทธเจ้าได้จนถึงชาติสุดท้าย

แม้ว่าหลายชาติ เมื่อพระเทวทัตเกิดมาจองเวรกับพระพุทธเจ้า
แต่สุดท้ายแพ้ภัยตนเอง
แต่ก็มีบางชาติ พระเทวทัต เป็นฝ่ายทำร้ายหรือฆ่าพระพุทธเจ้าได้สำเร็จก็มี

คิดง่ายๆ ศัจตรูของเจ้าพ่อ มันต้องระดับเจ้าพ่อ
ศัจตรูของกษัตริย์ มันต้องระดับกษัตริย์ ไม่งั้นมันสู้กันไม่ได้

ผู้ที่จะมาขอผูกขาดจองล้างของผลาญ
กับผู้ที่มีบารมีระดับพระโพธิสัตว์ได้
เขาย่อมมีบารมีของเขาพอตัว มีสาวก พวกพ้องบริวาร เช่นกัน

 

พูดถึงเรื่องนี้ มีตัวอย่างจริง
เพื่อนเรา คนหนึ่ง อายุมาก แต่เราไม่ได้อายุเท่าเขา
คนที่เราว่าแปดสิบกว่า ยังเดินเหินคล่อง ที่กินยาลูกลืมแม่นั่นแหล่ะ
เขาและภรรยา มีลูกเต้าทำการทำงานดี รับราชการ ไม่ได้มีปัญหาอะไร

มีอยู่วันนึง มีเด็กสาวจากต่างจังหวัดมาเช่าอยู่ข้างบ้าน
แล้วตั้งครรภ์ คลอดลูกสาว หน้าตาคงน่ารักน่ะ
แต่แม่เด็ก อายุน้อยยังวัยรุ่น อาจไม่พร้อมเท่าไหร่
แต่ก็น่าจะไม่มีอะไร เพราะเรื่องแบบนี้มันก็มีอยู่ทั่วไป

แต่ที่มันมีเรื่อง ก็เพราะเพื่อนเราคนนี้ และภรรยาเขาชอบเด็กคนนี้มาก
หมายถึงเด็กทารกน่ะ อยากได้เด็กคนนี้มาเป็นลูกตน ทั้งๆที่อายุมากแล้ว
ไม่รู้เป็นไง มันนึกรัก อยากได้เด็กมาครอบครอง
พยายามเดินเรื่อง ทั้งที่อำเภอ และติดต่อพ่อแม่ของเด็วัยรุ่นที่ต่างจังหวัด
จนสุดท้ายได้ทารกคนนี้เป็นลูกบุญธรรม จดทะเบียนเรียบร้อย

รักเด็กคนนี้มาก เหมือนลูกจริงเลยล่ะ
ส่วนลูกจริงๆ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่หมดแล้วก็ไม่ว่าอะไร
ทุกคนไม่อยากให้เด็กคิดมาก พยาามปฏิบัติเหมือนเป็นน้องเป็นนุ่งจริงๆ

เพื่อนเรา ก็จัดการแบ่งสมบัติให้เท่ากันหมดเลย ทั้งลูกจริงลูกบุญธรรม

แต่ตั้งแต่เลี้ยงจนเด็กคนนี้โตเป็นวัยรุ่น
สร้างความทุกข์ให้ครอบครัวเพื่อนเราตลอด
ทั้งขโมยเงิน เอาทองไปจำนำหลายหมื่น เอาไปเลี้ยงเพื่อน
ด่าพ่อ ขังแม่ ไม่ให้กินข้าว แม่ป่วยช่วยตนเองไม่ได้

เพื่อนเราเขาธรรมะธัมโม เขาบอกว่า เป็นกรรมของเขา
เขาบอกว่า เขาจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จนวันที่เขาตายก็หมดกัน

และมีอยู่วัน เขามาเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับที่มาของเรื่องนี้
เขาว่า ก่อนที่เขาจะได้เด็กคนนี้เป็นลูกไม่นาน ก่อนที่เด็กจะเกิด

มีอยู่คืนหนึ่ง เขาฝันไปว่า เห็นผู้ชาย ร่างกายกำยำ สูงใหญ๋
มายืนต่อหน้า หน้าตาขมึงทึง แบบโกรธแค้นมาก
แล้วกล่าวออกมาว่า

มึงหนีมาอยู่ที่นี่เองหรือ !!!!
กูตามหามึงมานานแล้ว!!!

 

ความโลภ ทำให้เป็นแบบนี้ครับ จุดอ่อนของคนส่วนใหญ่คือ โลภ

 

เห็นข่าวไครเมีย ชักเข้มข้นขึ้นทุกวัน

อย่าลืมสงครามเกิดเพราะผู้นำทั้งนั้นแหล่ะ

เมื่อใด ด้านมืดมันบ่งการ ใครทัดทานก็ไม่ฟัง

ไอ้ด้านมืดที่ว่า

ถ้าคนเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ เรือง นรก สวรรค์ อินทร์ พรหม เทวดา

ย่อมรู้ว่าคนเรามีเทวดาประจำตัว

เทวดาที่ว่า มันก็มีทั้งดีและไม่ดี บางทีก็เป็นมิจฉาทิษฐิ

บางทีแทนที่จะดลใจให้ทำสิ่งดีๆ

ก็พากันส่งเสริมยุยง ไปในทางเสื่อม

ดังนั้นเวลาทำบุญ ก็ควรอุทิศให้เทวดาประจำตัวเขาด้วย

เพื่อเขาจะได้เป็นสัมมาทิษฐิ

ไม่พาเราไปในทางเสื่อม

ใครจะว่าตรูลิเกก็ชั่งหัวเผือก

 

ผมก็เชื่อว่าสงครามกำลังจะมาเหมือนกัน รอดูไป

 

ขอว่าเรื่องคนๆนั้นอีกสักหน ให้สิ้นกระแสความ

ที่ว่าเขาปราถานาเป็นประธานาธิบดีน่ะ ใครๆเขาก็พูดกัน

เราก็เชื่อเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เชื่อตามที่เขาพูดกัน เดี๋ยวจะมีคนว่าไม่เป็นกาลามสูตรเอาอีก

เราเชื่อเพราะประมวลจากพฤติกรรมต่างๆ ที่ผ่านมาในอดีตของเขา ตั้งแต่แรก

ไม่ใช่ตามที่คนเขามาตื่นตัวต่อต้านภายหลัง

เอาว่า สรุปรวมความ เราเชื่อ

ขี้เกียจสาธยาย ว่าอะไรมั่ง

แต่ความเชื่อที่ว่า มันคือความเชื่อของเรา

ที่เราจะเล่าคือ เพื่อนคนนึง คนที่ว่าอายุแปดสิบกว่านี่แหล่ะ

แต่ก่อนเขาก็นิยมชมชอบแม้ว

เขาเล่าให้เราฟังว่า ตอนนั้น เขาชอบแม้วอยู่

เขาทราบเรื่องเกี่ยวกับเรื่องประธานาธิบดีที่ว่า

มาแต่ครั้งนั้นแล้ว ซึ่งสมัยนั้นเขาไม่เชื่อ

เขามีพระที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง เป็นพระครู

เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในเขตปริมณฑล

หลวงตาอายุประมาณ 8-90

หลวงตาที่ว่า มาเล่าให้เขาฟังในตอนนั้น ซึ่งตอนนั้นเขาไม่เชื่อ

หลวงตาเล่าว่า รู้ไหม เขาคนนั้นน่ะ ต้องการเป็นประธานาธิบดี

หลวงตารู้ได้ไง

หลวงตาเล่าว่า ลูกศิษย์ของหลวงตาคนนึง เป็นภรรยาเศรษฐีระดับประเทศคนนึง

กิจการที่ว่า บอกไป แทบจะทุกคนน่ะ จะร้องอ๋อ

ภรรยาเศรษฐีคนนี้ มีลูกสาวเรียนที่เดียวกับลูกสาวของคนๆนั้น

ลูกสาวภรรยาเศรษฐีมาเล่าให้แม่ตนเองฟังว่า

ลูกสาวของคนๆนั้นมาเล่าว่า

ต่อไป พ่อตนจะเป็นประธานาธิบดี

ตรงนี้ เพื่อนเรามีความเห็นว่า

เป็นไปได้ตอนกินข้าวในครอบครัว พ่อ แม่ ลูก พ่ออาจจะโม้กับลูก

ลูก เลยมาเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง

พอลูกสาวมาเล่าให้แม่ฟัง แม่เขาเป็นลูกศิษย์หลวงตารูปนี้ มาเล่าต่อให้พระฟังอีกที

พระรูปนี้ เราไม่เคยไปกราบ ท่านมรณะภาพไปประมาณ ปี หรือ สองปีแล้ว

ด้วยโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลจุฬา และมอบร่างให้นักศึกษาแพทย์ ยังไม่ได้เผา

ตอนนี้ตัวบุคลที่ยืนยันได้ ก็คือเพื่อนของเรา ที่ยังไม่ตาย

แต่คงสาวไปไม่ถึงภรรยาเศรษฐีคนนั้นแล้ว

 

กิเลสของมนุษย์ ที่ไขว่คว้ากันอยู่มันก็มีแค่

กิน กาม เกียรติ

สัตว์ จะมีแค่ กิน กับ กาม

นักบวช ท่านเหลือแค่กิน

แต่การกินของท่าน แต่พอประมาณ เพื่อมีชีวิตต่อไป และปฏิบัติธรรม

การใช้ชีวิต แบบมนุษย์ธรรมดาทั่วๆไป

กิเลส 3 ตัวนี้ก็ส่งเสริมกันเองซึ่งกันและกัน

แม้แต่เรื่องกิน บางคนก็พยายามกินอาหารที่ไปปรุงแต่งเรื่องกาม

ให้มีความกำหนัดมากขึ้น

พอมีเกียรติ การกินก็ต้องเป็นไปตามศักด์ศรีฐานะของตน จะกินแบบกระจอกๆก็ไม่ได้

สัตว์ พอกินอิ่มก็จบ ไปต้องกินแบบมีฐานะ มีศักดิ์ศรี อะไร

การเสพกาม เสร็จก็จบ

ไม่ต้องไปสรรหาว่ากินอะไรถึงมีพลังวังชา ไม่ต้องไปกินถั่งเช้า

สัตว์ต่อสู้กันอาจเพราะเรื่องกิน กับกาม

แต่สำหรับมนุษย์เรื่องกินจริงๆ

อาจไม่ใช่ชนวนเหตุในการทะเลาะ

แต่ถ้าหมายถึงการสะสมทรัพย์สิน ย่อมมีการแก่งแย่งกันได้เช่นกัน

ก็มองได้ว่าเทียบกับเรื่องกินของสัตว์ ก็พอได้

เรื่องกาม มนุษย์ก็ฆ่ากันได้เช่นกัน และเป็นได้กับมนุษย์ทุกระดับชั้น

สงครามในอดีต บางครั้งก็เกิดขึ้นเพราะแย่งหญิงงาม

ส่วนเรื่องเกียรติแม้สัตว์ไม่มี แต่มนุษย์น่ะมีเต็มที่

ทะเลาะกัน ฆ่ากันได้เพราะเรื่องเกียรติ เรื่องศักดิ์ศรี

หรือเพื่อต้องการอำนาจ เพราะนั่นหมายถึงเกียรติ

สงครามเพื่อต้องการขยายอำนาจ

เพื่อต้องการเกียรติก็มีมาหลายหน

คนบางคน รวยล้น รวยเสียล้นจนเกินพอ

เรื่องกิน จะสรรหาอะไรในโลก ก็คงไม่ใช่เรื่องยาก

เรื่องกาม จะอย่างไร เท่าไหร่ กับใคร ก็คงใช้เงินซื้อหามาได้

คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น หรือเป็นเรื่องที่ปรารถนาอยู่ แต่ยังไม่สำเร็จ

เหลือแต่เรื่องอำนาจ เรื่องเกียรติ

ที่ตนเองมองว่า ยังไม่ถึงจุดสูงสุด

แม้สำหรับบางคน อาจคิดว่าโอโห เป็นตั้ง....ถีอว่าเป็นจุดสูงสุดของคนธรรมดาแล้ว

แต่สำหรับคนบางคน มันไม่พอ

เพราะกิเลส ไม่เคยพอ แม้เราปรนเปรอมันเท่าใด

มันก็พยายามหาสิ่งที่ประณีต ที่ยาก ที่ดีกว่า ไปเรื่อยๆ

ครองประเทศแล้ว ก็อยากครองโลก

ครองโลกแล้วก็อยากครองจักรวาล

มันไม่พอ สำหรับคนบางคน

 

อย่าเครียดครับ เก็บมัน ดีกว่า

 

หลายคนชอบยกกาลามสูตร
ที่เห็นบ่อยๆก็เรื่องคนทำนายภัยพิบัติ กับฝ่ายต้านคนทำนายภัยพิบัติ
ตอนนี้ก็เห็นพวกเสื้อแดงยกเอามาใช้มั่ง

อย่างที่เคยบอก บางคนเอาธรรมะพระพุทธองค์มาเพื่อสนับสนุนความเชื่อของตน
โดยมิได้ไปดูว่า ธรรมะนั้นๆ ที่ยกมาพระพุทธเจ้าตรัสในสถานการณ์ใด กาลใด
ถ้าลองอ้างว่า ต้องใช้กาลามสูตรก่อน
คือไม่เชื่ออะไรไปเสียทุกอย่าง โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
มันก็จะต่างอะไรกับ คนที่เชื่อไปเสียทุกอย่าง โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

ผู้ใหญ่เตือนลูกหลานว่า อย่าออกไปตากแดด จะเป็นไข้
เด็กก็ว่า ไม่เชื่อ เพราะกาลามาสูตร
ว่าอย่านอนดึก จะเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง
ก็ว่า ไม่จริง ไม่เกี่ยวกัน ไม่เชื่อดอก กาลามสูตรนะ
วิศวกร บอกว่า ใส่เหล็กแค่นี้ ตึกพังนะ เจ้าของบอกว่า ไม่เชื่อ แค่นี้ก็พอแล้ว
ใช้กาลามสูตร

เรื่องจริง..
เราก็เคยดื้อด้านแบบนี้ แต่นั่นมันสมัยเด็ก สัก7-8 ขวบ
เคยไปเล่นแถวสระ ที่เขาเรียกสระบัว แต่ว่ายน้ำไม่เป็น
วันนั้นเพื่อน 2 - 3คน มันกระโดดน้ำลงตูมๆ

ไอ้เราก็อยากลงมั่ง มันก็รู้ว่าเราว่ายน้ำไม่เป็น
มันบอกว่าน้ำลึกนะ ท่วมหัว
แต่เราเห็นมันลอยคอ โผล่มาแค่หัว
มันเหมือนกับเดินเฉยๆ

หรอกตูมั้ง นึกว่าตูไม่รู้หรือ
ตอนนั้น ไม่รู้จักกาลามสูตรดอก กระโดดตูมลงไป
มิดหัวเลย แต่พวกมันคนนึงลากเข้าฝั่ง ดีไม่ตายไปทั้งคู่
เพราะตอนมันมาช่วย ล็อคคอมันแน่นจนมันหายใจไม่ออกไปด้วย

 

พระพุทธเจ้าตอนตรัสรู้ใหม่ เสด็จไปหาปัจวัคคีย์
ท่านปัจวัคคีย์ พากันหลบ ไม่ยอมพบหน้า
พระพุทธเจ้าตรัสว่า เราตรัสรู้แล้ว
ปัจวัคคีย์ไม่เชื่อ
พระองค์บอกว่า ช้าก่อน ฟังเราก่อน

เราเคยบอกท่านไหมว่า เราตรัสรู้แล้ว ในกาลก่อนน่ะ

เมื่อตอบว่าไม่เคย

เมื่อตอนนี้ เราบอกว่าเราตรัสรู้แล้ว จงฟังเราก่อน

เห็นไหม มีที่ไหน ที่พระพุทธเจ้าบอกว่า อย่าเชื่อเรานะ
มีแต่ให้เชื่อพระองค์เพราะถ้าไตร่ตรองแล้วก็รู้ว่า
พระองค์เป็นคนที่ไม่เคยพูดปด ใช่ไหมเล่า

ไปลองอ่านพุทธประวัติดูได้เลย พระพุทธเจ้าไปโปรดสัตว์ สอนธรรมะที่ไหน
พระองค์ไม่เคยบอกว่า อย่าเพิ่งเชื่อเรานะ

ที่พระองค์ตรัสว่าอย่าเพิ่งเชื่อเพราะว่าเป็นพระพุทธเจ้านั้น
เพราะ อย่าเพิ่งเชื่อโดยทันที
มิใช่ต้องการให้ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า แบบที่เสื้อแดงคนนึงยกมา

ลองไม่เชื่อคนนำทาง มันจะไปถูกทางหรือ
คนบอกว่า ไปเชียงใหม่ ต้องขึ้นเหนือ เพราะเขาไปมาแล้ว
คนฟังบอก ไม่เชื่อว่ะ ตูลงใต้ดีกว่า
มันต้องอ้อมโลกนะนั่นมันถึงกลับมาเชียงใหม่ได้

ทางพ้นทุกข์มีหนทางเดียวคือมรรคมีองค์ 8 คนอยากพ้นทุกข์ดันไม่เชื่อ
หรือดันไปเชื่อลัทธิตันตระ พุทธนิกายนึงแถวเนปาล
เสพเมถุน กินเหล้า แล้วมันจะบรรลุได้ล่ะหรือ

 

ทีนี้ ไอ้แค่ไหนที่ว่าอย่าเพิ่งเชื่อโดยทันที
สมัยนั้น พระองค์เพิ่งประกาศศาสนาใหม่ๆ นิกายก็มีกันเยอะ
คำว่าพระพุทธเจ้านั้น เป็นคำที่คนใฝ่ฝัน สำหรับคนที่ต้องการบรรลุถึงความดับทุกข์

ใครๆก็อาจอ้างว่าตนเองเป็นพระพุทธเจ้าได้
สมัยนี้ยังมีเลยหลายคนยังอ้างว่าตนเป็นพระศรีอาริย์ ในเวบนี้ก็มี

การจะเชื่อใครเพราะเขาอ้างว่า เขาเป็นพระพุทธเจ้าทันทีจึงยังไม่ได้ ประการนึง
อีกประการนึง คำสอนนั้น ถูกต้องจริงไหม สอนให้พ้นทุกข์จริงไหม อีกประการนึง

แต่ตอนนี้ มันสองพันกว่าปีแล้วนะครับท่าน

คำสอนพระองค์ก็เผยแพร่มาไม่รู้เท่าไหร่
อยากรู้อย่ากค้นคว้าในพระไตรปิฎกก็มีให้อ่าน
คำสอนดีจริงไหม ถูกต้องไหม ลองใช้หัวสมองไตร่ตรองดูก็รู้
สอนให้คนไม่เบียดเบียนกันดีไหม สอนให้ละเว้นขั่วดีไหม สอนให้ทำดีไหม
สอนให้กตัญญูดีไหม สอนให้เมตตาช่วยผู้อื่นดีไหม สอนให้ทำจิตให้สงบดีไหมเล่า
จะได้ไม่เป็นไมเกรน บ้าตาขวาง เห็นอะไรไล่ขวิด ดีไหมเล่า

คนรุ่นเก่า หรือพระสงฆ์ที่ผ่านมา ที่เขาปฏิบัติตามคำสอนพระพุทธเจ้า
เขาปฏิบัติแล้ว เขาเป็นคนดี พระดี มีคุณวิเศษ ก็มีให้เห็นออกเกลื่อนมาทุกยุคทุกสมัย

ท่านเหล่านั้น สงบ เมตตา ดูแล้วน่าเลือมใส
ไม่ใช่เห็นแล้วอึดอัด พลุ่งพล่าน ใช่ไหมเล่า

เราเห็นตัวอย่างจากการปฏิบัติตามคำสอน ของพระพุทธเจ้าแล้ว
เราเคารพ เลื่อมใสท่านเหล่านั้นใช่ไหมเล่า

แค่ผู้ที่ปฎิบัติตามคำสอนพระพุทธเจ้า
เรายังเห็นแล้วว่าเขาเป็นคนดีเลย
แล้วจะไปสงสัยอะไรอีกกับคำสอน พระพุทธเจ้าอีกนะ นี่มันสองพันกว่าปีแล้วนะ

มันเลยคำว่าอย่าเชื่อโดยทันทีไปแล้วนะ
เลยไปแล้วตั้งสองพันกว่าปีเลยเชียวนะ

ใครที่ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า โดยอ้างกาลามสูตร
จะต้องรออีกสองพันกว่าปีใช่ไหม

รอให้หมดกาลสมัยของพระพุทธเจ้าก่อนใช่ไหม
ถึงจะเชื่อพระองค์น่ะ

ตามสบายเลยนะครับ เราไปก่อนล่ะ

 

เรื่องเครื่องบิน MH370 หายไปใหน?

ขออนุญาตครับ

แล้วเรื่องนี้ละครับ มาจากไหน? มีพรรคพวกส่งมาให้?

ที่จริงวันนี้กะจะไม่พูดเรื่องเรื่องเครื่องบิน MH370 แต่เมื่อวานนี้ทาง รมต.ต่างประเทศมาเลเซียเอง ก็ส่งจดหมายขอความร่วมมือกับ ไทยเพื่อขอข้อมูลเครื่องบิน และขออนุญาตในการบินผ่านน่านฟ้า ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น หลอกให้ประเทศแถบนี้ ออกติดตามในบริเวณ...อ่าวไทย สิ้นเปลืองงบประมาณไปหลายล้าน ทั้งที่ตัวเองก็รู้ว่าเครื่องบิน เรดาร์ทหารตรวจจับได้ล่าสุด ทางช่องแคบมะละกา

ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่าง อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์เองก็ดูเงียบผิดปรกติ ทั้งๆที่เรดาร์สิงคโปร์ น่าจะดีที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ผมเกรงว่างานนี้ มาเลเซียกำลังจะดึงเรา เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง ระหว่างชาติ มหาอำนาจ เพราะแว่วๆว่า เกมส์นี้มหาอำนาจบางชาติ ได้หลายอย่างมาก เช่น ถ้าจะส่งเรือรบ หรือเรือบรรทุกเครื่องบิน ตลอดจนกำลังพลเข้ามาเพิ่มเติม โดยอ้างให้ความช่วยเหลือ ย่อมไม่เป็นที่ผิดสังเกตของ ประกอบกับให้สื่อมวลชน เสนอข่าวอื่นเป็นการเบี่ยงประเด็น เบี่ยงความสนใจไปเรื่อยๆ อย่าลืมนะครับว่า มาเลเซียเอง ก็มีความขัดแย้งกับจีน ในกรณีหมู่เกาะพิพาท ในทะเลจีนใต้อยู่แล้ว นายกฯ และ รมต.ต่างประเทศของเรา ผมไม่คิดว่าจะอ่านเกมส์นี้ออก เพราะวันๆหนึ่งแค่ การเมืองภายในก็แทบเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว (อย่าหาว่าดูถูกนะครับ) ตอนนี้มีบางสำนักข่าวได้ตั้งข้อสังเกตว่า การสูญหายของเครื่องบิน MH370 น่าจะมีความเชื่อมโยงกับ การเมืองระหว่างประเทศ รวมถึงแผนเตรียมการในเรื่องของสงคราม และทางรัฐบาลสหรัฐเอง ก็มีความวิตกกังวลว่า อดีต จนท.เทคนิคของ NSA เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อาจจะเปิดเผยแผนการนี้ให้กับทางรัสเซียได้รับทราบ

PressTV - Snowden might reveal US war plans to China, Russia: Intelligence experts

หมายความว่าถ้า ช่วงนี้มีการเคลื่อนย้ายกำลังทหาร ในทะเลจีนใต้ แม้กระทั่งมหาสมุทรอินเดียของรัฐบาลสหรัฐ เพื่อปิดล้อมจีน และรัสเซีย ก็ย่อมสามารถทำได้ ภายใต้ภาระกิจค้นหาซากเครื่องบิน MH370 มันก็จะเข้าไปสอดคล้องกับ กรณีแรกที่ผมกล่าวไปก็คือ ในเริ่มต้นนั้นมาเลเซียพุ่งเป้าไปที่ อ่าวไทยและทะเลจีนใต้ ทั้งๆที่รู้ว่า ดาวเทียมหารของตนจับสัญญาณล่าสุดได้ ฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งสหรัฐเองก็รับลูก ส่งทั้งเครื่องบินและเรือรบเข้ามาช่วนในภาระกิจค้นหา โดยไม่ลังเลใจ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเรือรบดังกล่าว ออกจากในพื้นที่แถบนั้นรึยังนะครับ

ปีที่แล้วถ้าท่านจำได้ เมื่อครั้งพายุไห่เยี่ยนพัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อปีที่ผ่านมา สหรัฐ ญี่ปุ่น อังกฤษแม้กระทั่งอิสราเอล มีความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ในการให้ความช่วยเหลือทั้งๆที่ รัฐบาลสหรัฐเองก็แทบเอาตัวไม่รอด และปัจจุบันก็ทั้งเรือรบสหรัฐ และทหารอเมริกันก็มาประจำการในฟิลิปปินส์เป็นการถาวรนะครับ ซึ่งเรื่องนี้ทางหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือเริ่มตั้งข้อสังเกต และมีความวิตกกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งมันไปตรงกับยุทธศาสตร์สหรัฐ ที่ต้องการส่งทหารเข้ามาในภูมิภาคเอเชียมากกว่า ภูมิภาคอื่นของโลก ซึ่งไม่น่าจะเป็น "ความบังเอิญ"

ICHRP raises concern over heightened US military presence after Typhoon Haiyan

บางคนอาจจะสงสัยว่า เขาสามารถสร้างพายุได้หรือ? ผมก็อยากให้พวก ท่านเข้าไปศึกษาข้อมูลดูครับ ตอนนี้เทคโนโลยีทางทหารของ มหาอำนาจบางประเทศไปไกลกว่าที่เราคิดมาก สิ่งที่ถูกเปิดเผยออกมานั้น เป็นไปเพื่อโฆษณาหรือขายสินค้าเท่านั้น เทคโนโลยี ที่เป็นความลับทางทหารรับรองว่า จะไม่ถูกเปิดเผยง่ายๆ แน่นอน มิเช่นนั้นเขาคงไม่ตั้งหน่วยงานด้านการข่าว ซีไอเอ NSA มาดักฟังโทรศัพท์ หรือส่งดาวเทียมทหารขึ้นสอดแนมใช่ไหมครับ?

Philippines Typhoon linked to ‘Man-Made’ Microwave Pulses

ในขณะเดียวกันตอนนี้ ก็มีกระแสข่าวว่าทางรัฐบาลสหรัฐ พยายามที่จะดึงจีนออกมา เพื่อโดดเดี่ยวรัสเซีย ในกรณีวิกฤติการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครน เป็นการค่อยๆทำลาย ประเทศในกลุ่ม BRICS ด้วยกัน

U.S. woos China to isolate Russia over Ukraine - CBS News

เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกครับที่จู่ๆ เราจะได้เห็นสตรีหมายเลขหนึ่งของโลก เดินทางมาเยือนจีน ในห้วงเวลาที่สถานการณ์ของโลกกำลังเกิดความขัดแย้ง และมีความเป็นไปได้ว่า บารัค โอบามา คงไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับ ทั้งจีนและ รัสเซีย ในเวลาเดียวกัน(ผมเดานะครับ) จึงหาวิธีที่จะดึงจีนออกมาจาก รัสเซีย

First lady Michelle Obama faces scrutiny for China trip with daughters, mom - CBS News

นอกจากสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนแล้ว สถานการณ์ในตะวันออกกลางเอง ทางนายกฯ ของอิสราเอล เบนยามิน เนธันยาฮู ก็ได้มีมติเพิ่มงบประมาณ และสั่งให้กองกำลังของอิสราเอล เตรียมการในการโจมตีอิหร่านในปี 2014 เกือบ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับกระแสข่าวก็หน้านั้นว่า มีความเป็นไปได้ที่อิสราเอล จะทำสงครามโดยลำพัง

Netanyahu orders IDF to prepare for possible strike on Iran during 2014 Will Israel attack Iran? Israel News | Haaretz

สอดคล้องกับสื่อสหรัฐเองก็ได้รายงานเช่นกันว่า ทางกองกำลังของอิสราเอลนั้น ได้เตรียมการที่จะใช้กำลังโจมตี โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยไม่สนใจเวทีการเจรจา ระหว่างชาติตะวันตก และรวมถึงสหรัฐ หมายความว่า ทางอิสราเอลจะไม่สนใจ แล้วว่าเกมส์นี้ บารัค โอบามา จะเห็นด้วยหรือไม่? เพราะที่ผ่านมา บรรดาผู้แทนในสภาครองเกรส ได้ล็อบบี้รัฐบาลวอชิงตันมานานแล้ว แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ

IDF Continues to Prep Iran Strike | Washington Free Beacon

เพราะฉะนั้นเบื้องหลังการสูญหายของเครื่องบิน MH370 นั้น ซับซ้อนกว่าที่คิดมาก และแม้ว่าต่อไปจะปรากฎกระแสข่าวการค้นพบ ร่องรอยหรือซากเครื่องบิน ก็คงเป็นการเบี่ยงประเด็น ดึงความสนใจของคนทั่วโลก ให้เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือพุ่งเป้าไปที่นักบิน หรือกลุ่มก่อการร้ายเท่านั้น หลักฐานหรือท้อเท็จจริง คงจะไม่ปรากฎออกมาง่ายๆ จนกว่าบรรดาผู้อยู่เบื้องหลังจะเปิดเผยออกมาเอง เพราะหลักฐาน ร่องรอยการบันทึกต่างๆถูกปิด และถูกทำลายอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งคนที่ทำย่อมมีความเชี่ยวชาญ และความรู้เป็นอย่างมาก ภาษาบ้านเราก็เมือนกับ การฆ่าหรือลักพา แล้วนำศพไปซ่อนหรือทำลายทิ้ง เพื่อไม่ให้รู้ว่าผู้ตายเป็นใครนั่นแหละครับ

ท้ายที่สุดเรื่องนี้คงจะไม่ต่างอะไรกับ กรณีเหตุการณ์อื่นๆ ที่ยังคงเป็นปริศนาและกลายเป็นประเด็นที่ยังค้างคาใจคนทั้งโลกไปอีกระยะเวลาหนึ่ง เพราะตราบใดที่ไม่ปรากฎหลักฐานที่ชัดเจน คงจะมีอีกหลายทฤษฎีตามมา
เผอิญเมื่อวานนี้ ผมไปนดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งนะครับ ก็คือ "Non-Stop" เพราะเห็นว่าเข้ากับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งกล่าวถึงเรื่องเครื่องบิน ถูกจี้และจารกรรม โดยผู้โดยสารบนเครื่อง แต่เจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่พื้นดิน ไม่สามารถรับรู้เหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังเป็น ผู้โดยสาร 2 คน เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ และการแฮคข้อมูล ผ่านสัญญาณโทรศัพท์และเครือข่ายที่ให้บริการใน เครื่องบินลำดังกล่าว แต่จัดฉากให้ตำรวจอากาศ นายหนึ่งที่มี บุคลิกของการติดเหล้า และมีปัญหาด้านการทำงานในอดีต และเรื่องส่วนตัว ทั้งเรื่องครอบครัวการเงิน เพื่อที่จะใส่ร้ายว่าเป็น ผู้อยู่เบื้องหลังการ จี้เครื่องบินในครั้งนี้ โดยการแฮคเข้าไปยังเบอร์โทรศัพท์ ของตำรวจนายนี้ ผ่านเครือข่ายที่ให้บริการในเครื่องบิน พร้อมส่งข้อความเรียกร้องเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อแลกกับชีวิตผู้โดยสารลำดังกล่าว แล้วพร้อมกับส่งหมายเลขบัญชี ซึ่งภายหลังเป็นของตำรวจนายนี้ ทั้งนี้เพื่อให้ รัฐบาลสหรัฐ ตำรวจสากล รวมทั้งคนบนเครื่องเข้าใจว่า ตำรวจนายนี้กำลังจะจี้เครื่องบิน ซึ่งเป็นการจัดฉากหรือสร้างสถานการณ์ขึ้น ซึ่งเป้าหมายของคนลงมือ "ไม่ใช่" เรื่องเงินแต่เป็นเรื่องการเมือง และความผิดหวังต่อรัฐบาลประเทศของตน
ผมคิดไปคิดมาแล้ว พล็อตเรื่องไม่ต่างอะไรกับ เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับ MH370 ครับ เพราะช่วงหลังเริ่มมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยอ้างว่านักบิน และกัปตันชื่นชอบนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล และพยายามมุ่งประเด็นไปที่เรื่องส่วนตัว ซึ่งก็เป็นแนวทางการสืบสวน ทั่วๆไปอยู่แล้ว เพราะเราไม่คุ้นเคย และคนส่วนใหญ่ไม่รู้ ว่าแท้จริงแล้ว เทคโนโลยีที่เราใช้อยู่นั้น แท้จริงถูกออกแบบมาเพื่ออะไร และทำอะไรได้บ้าง นอกจากการใช้งานปรกติในชีวิตประจำวัน

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกแบนไม่ให้เข้าฉายใน มาเลเซียในตอนนี้ครับ ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด หรือไม่ก็คงกลัวจะกระทบความรู้สึกของคนในประเทศ และญาติพี่น้องของผู้สูญหาย

 

ไขปริศนา..บทสุดท้าย MH370 และหักเหลี่ยมโหด สองโครตไอ้เหี้ยม


ขออนุญาตครับ

เขาบอกมาผมก็ขอบอกต่อนะครับ

ในที่สุดก็เป็นไปตามที่คาดคำนวณจุดสูญหายไปของเที่ยวบิน MH370 พร้อมลูกเรือและผู้โดยสารอีก 279 คน ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา เมื่อมี 3 ประเทศเริ่มออกมายืนยันจุดเครื่อ...งจมลงไปใต้ทะเล คือ อินเดีย จีน และมาเลย์ ว่าเครื่องบินน่าจะตกในทะเล เพราะดาวเทียม Inmarsat ของอังกฤษ มีการค้นพบชิ้นส่วนต้องสงสัยขนาดใหญ่ อยู่บริเวณทิศใต้ ของมหาสมุทรอินเดีย อยู่ทางฝั่งตะวันตก ของเมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย ห่างไปราว 2,400 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลมาก และมหาสมุทรก็ลึกเกินจินตนาการ มีสภาพคลื่นลมแรง และอากาศหนาวเย็น สอดคล้องกับที่ เสธ เคยวิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้ ว่าการสูญหายของเครื่องบินนี้ ต้องถูกทำให้จมลงจุดบริเวณนี้เพื่ออำพราง ส่วนคนอื่นจะมีสมมุติฐานอย่างไร ก็แล้วแต่ความเชื่อ

แต่การข่าวเชิงลึกระหว่างประเทศที่ได้รับมา ประมวลสรุปโดยย่อๆ คือ เริ่มต้นจากลุงแซม ขนวัตถุนิวเคลียร์และอาวุธชีวภาพใส่คอนเทนเนอร์ ด้วยเรือที่ติดธงสัญชาติตัวเอง มาที่เกาะเล็กๆ ชื่อสาธารณรัฐเชสเซลเลส ที่อยู่ทางตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย จากนั้นขนต่อมาที่มาเลย์ และใส่ตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นเครื่องบินลำนี้ จะนำไปลงที่ปักกิ่ง ของจีน (ไม่แน่ชัดว่าองค์กรใดสั่งของนี้) และประจวบกับมีการขนชิพคอมพิวเตอร์วงจรไฮเทค โดยผู้โดยสารไต้หวันกลุ่มหนึ่ง ไปลงเครื่องที่ปักกิ่ง ของจีน เช่นกัน ซึ่งชิพนี่สามารถทำให้ขีปนาวุธตรวจไม่พบด้วยเรด้าห์ เพื่อไปขายและถ่ายทอดเทคโนโลยีให้จีน

เมื่อจีนและรัสเซียรู้ระแคะระคาย จึงวางแผนจะบังคับเครื่องบินเที่ยวนี้ ไปลงที่สนามบินไหหลำ ของจีน เพื่อตรวจดูว่ามันคือสินค้าอะไรกันแน่ที่ในตู้คอนเทนเนอร์ แต่ก่อนเครื่องบินจะขึ้นมีความผิดปกติคือไม่รู้หน่วยใด มีการสังหารหน่วยซีลลุงแซมนอกราชการ ที่มีความเชี่ยวชาญการรบสูง และออกมาทำงานลับ จำนวน 2 คน ที่มาเลย์ เพื่อคุ้มครองสินค้ามีมูลค่าสูง ให้กับบริษัทลุงแซม ลักษณะคล้ายๆ ฆ่าตัดตอน หรือฆ่าปิดปาก

เมื่อเครื่องบินเทคออฟขึ้นจากมาเลย์ช่วงเที่ยงคืนกว่า มุ่งหน้าทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตรงไปทางทะเลจีนไต้ ราว 1.30 ชม. จากจุดเริ่มต้นบิน เข้าใกล้เรดาห์พาณิชย์ของเวียดนาม ได้มีเครื่องบินชนิดรบกวนสัญญาณ Primary เรด้าห์ (ชนิดที่เห็นทั่วไปที่สนามบินใช้) เช่น AWAC บินจากจุดระยะทำการที่ใดสักแห่ง ประกบเครื่องบินนี้ทำให้สัญญาณ Primary เรด้าห์ตรวจไม่พบ แล้วก็มีเครื่องบินล่องหนจากเรดาห์ได้ เสตลล์ รูปร่างคล้ายจานบินสีดำ บินประกบอีก 1-2 ลำ เพื่อควบคุมทิศทางเครื่องบินตามต้องการ

ส่วนภายในเครื่องบิน ทีมหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่แฝงตัวมา อาจร่วมกับลูกเรือ หรือนักบิน ทำการเข้าไปในห้องนักบิน ทำการปิดระบบ Secondary เรด้าห์ (คล้ายระบบ SMS) ที่ใช้เป็นสากล สำหรับส่งตำแหน่งเครื่องบินพาณิชย์ ให้หอควบคุมการบินทราบตำแหน่งละติจูด และลองติจูด โดยมีการปิดระบบนี้ระยะห่างเวลา 10-14 นาที ทำให้สัญญาณตำแหน่งเครื่องบินหายวับไปจากจอ Secondary เรด้าห์ภาคพื้นดินทันที ก่อความโกลาหลขึ้นในเวลาต่อมา

จากนั้นผู้จี้ควบคุมเครื่องบิน ก็หันทิศทางเครื่องบินกลับด้าน ย้อนมาทางเดิมมุ่งหน้าทิศตะวันตกเฉียงไต้ เพื่อไม่ให้ผ่านประเทศไทย เพราะอาจจะโดนโจมตีด้วยเครื่องบินขับไล่ได้ แล้วเตรียมพร้อมสำหรับทีมตัวเอง โดยใส่อุปกรณ์หน้ากากอ๊อกซีเจนรับการเปลี่ยนแปลงความดันเฉียบพลัน (อุปกรณ์ป้องกันเหมือนนักบินเจ๊ตขับไล่เหนือเสียง) และคนพวกนี้ต้องมีประสบการณ์ และถูกฝึกมาให้ทนต่อแรงกด และ G (แรงโน้มถ่วง) มหาศาล ทำการปรับเพดานบินจาก 25,000 ฟุต พุ่งโด่งขึ้นสูงลิ่วเกินกำหนดไปที่ 45,000 ฟุต

และทิ้งตัวลดเพดานบินลงต่ำอย่างรวดเร็ว ช่วงนี้หน้ากากอ๊อกซิเจนจะตกลงมาอัตโนมัติ ผู้โดยสารจะรีบคว้ามาครอบปากและจมูก แต่เขาก็ตัดอ๊อกซิเจนในห้องผู้โดยสารทั้งหมดอีก เหลือไว้เฉพาะพวกบังคับเครื่องบิน จนเพดานบินลดต่ำเหลือ 5,000 ฟุต ส่งผลให้ผู้โดยสาร และลูกเรืออื่นน๊อคสลบไปทันที (เด็ก 2 คนอาจตายทันทีช่วงนี้) จากการเปลี่ยนแปลงความดัน โดยไม่มีใครสามารถต่อต้านการบังคับใดๆ ได้เลย เป็นเวลานานหลายชั่วโมง

ส่วนเครื่องบิน เสตลล์ และ AWAC ก็ทำหน้าที่นำทางเครื่องลำนี้ที่ตกอยู่ในสภาพเหมือนคนตาบอด เครื่องบินทั้ง 3 ชนิด ได้บินผ่านมาทางใกล้ชายแดนทางตอนไต้ของไทย ผ่านน่านฟ้ามาเลย์ จุดนี้เรดาห์ชนิด Primary เรด้าห์ของชายชุดฟ้าของไทย และของทหารมาเลย์ จับสัญญาณเครื่องบินพาณิชย์นี้ได้ แต่จับตำแหน่งเสตลล์ และ AWAC ล่องหนเรดาห์ไม่ได้ ในตำแหน่งใกล้เคียง และเวลาใกล้เคียงกัน อีกทั้งมีชาวบ้าน ชาวประมงทั้งไทย และมาเลย์ จำนวนมากจากหลายจุด ได้ยินเสียงบูมกระแทกอากาศดังสนั่น พร้อมเห็นเครื่องบินพาณิชย์ขนาดใหญ่ และเสตลล์สีดำ ด้วยตาเปล่า บินประกบเครื่องบินลำนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว

แต่มาเลย์ไม่ยอมแถลงทันที เพราะว่าอับอายที่ต้องเปิดเผยว่า ประเทศตนเองมีช่องว่างในระบบการป้องกันภัยความมั่นคงทางอากาศ เมื่อเครื่องบินๆ ต่ำผ่านช่องแคบมะละกาไปได้ เครื่องบินทั้ง 3 ชนิด ก็ปรับเส้นทางใหม่อีกครั้ง โดยเชิดหัวขึ้นความสูงปกติ มุ่งหน้าขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือสู่ตอนเหนือของมหาสมุทรอินเดีย ตามเส้นทางการบินพาณิชย์ปกติ คาดเดาว่าเพื่ออำพรางเครื่องบินให้แฝงตัว เข้าไปในหมู่เครื่องบินพาณิชย์จำนวนมาก ที่กำลังบินไปเส้นทางเดียวกัน เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต และยังเกี่ยวเนื่องกับสนามแม่เหล็กโลกด้วย เพราะโลกมีการหมุนรอบตัวเอง

แล้วก็บินคงระยะห่างจากฝั่งสม่ำเสมอ เพื่อให้พ้นรัศมี Primary เรด้าห์ ของประเทศอินเดีย และศรีลังกา โดยมีเครื่องบิน 2 ชนิดบินประกบอารักขาและนำทางตลอดเวลา ต่อมาเครื่องบินปรับทิศทางลดต่ำเฉียงลงไปทางไต้อีกครั้งตรงเรื่อยๆ แต่ก่อนเข้าถึงหมู่เกาะมัลดีพ ได้ปรับเพดานบินลงต่ำลงมากอีกครั้ง เพื่อหลบ Primary เรด้าห์ ผ่านไปที่เกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งทางตอนไต้ของหมู่เกาะมัลดีพ จนชาวบ้านจำนวนมากเห็นตัวเครื่องบินในระยะต่ำมาก ขนาดเห็นประตูเครื่องบินชัดเจน และมองแถบสีของเครื่องบินชัดเจนทีเดียว เมื่อผ่านมัลดีพแล้วก็ตรงลงไต้ไปอีก โดยมีเรือพิฆาตของลุงแซมอารักขา บินต่ออีกสักพักก็ถึงเกาะดิเอโก้ กราเซีย ฐานทัพลับในมหาสมุทรอินเดียของลุงแซม ในเช้าวันที่ 9 มี.ค.57

เครื่องบินลำนี้ลงจอดที่สนามบินของกองทัพลุงแซม ที่มีรันเวย์ขนาดรองรับได้อย่างสบาย เมื่อเครื่องบินจอดสนิท กระบวนการขนถ่ายคอนเทนเนอร์ลงจากเครื่องบิน และค้นเอาชิพวงจรไฮเทคจากตัวผู้โดยสารไต้หวัน ก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตามแผนที่วางไว้ แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่บริษัทผลิตเครื่องยนต์ของเครื่องบิน ที่เขาต้องติดอุปกรณ์ติดตามเครื่องยนต์เขาทุกเครื่อง จับสัญญาณได้ว่าเครื่องยนต์เขายังทำงานอยู่ด้วยระยะเวลา 6-7 ชั่วโมงจากจุดสูญหายครั้งแรก

และเพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมด การข่าวว่ามีการถอดกล่องดำบันทึกการบิน 3 จุดในเครื่อง ออก เพื่อไม่ให้ค้นพบไขความจริงได้ในอนาคต จากนั้นให้นักบินลุงแซมใส่ชุดประดาน้ำ ขับเครื่องบินโดยสารดังกล่าวเทคออฟขึ้นจากฐานทัพนั้นอีกครั้ง พร้อมเครื่องบินอีกลำหนึ่งพร้อมหน่วยช่วยเหลือ โดยบินมุ่งหน้าไปทิศทางตะวันออกเฉียงไต้จนน้ำมันเครื่องบินหมด เพื่อไม่ให้เกิดคราบน้ำมันให้เห็นตรวจพบจากผิวน้ำได้ แล้วนักบินคนนั้นได้ออกจากตัวเครื่องก่อนที่ลำตัวเครื่องบินจะกระแทกพื้นน้ำ ขณะนั้นสัญญาณ ping ก็เปิดตัวเองขึ้นอัตโนมัติเป็นครั้งสุดท้าย จนดาวเทียมอังกฤษจับสัญญาณได้ ในเช้าวันที่ 9 มี.ค. 57 นั่นเอง

ส่วนนักบินของลุงแซมคนนั้น ก็ขึ้นเครื่องบินที่รอรับและช่วยเหลือกลับขึ้นเครื่องไป ปล่อยทิ้งให้เครื่องบิน MH370 พร้อมผู้โดยสารทั้งหมด จมลงในทะเลลึก ทิศไต้ของมหาสมุทรอินเดีย มีระยะห่างจากเมืองเพิร์ธ ของออสเตรเลีย ราว 2,400 กิโลเมตร ดำดิ่งจมลงก้นทะเลที่ลึกสุดขั้วเกินจินตนาการ คลื่นขนาดใหญ่มหาศาล สภาพอากาศแปรปรวนและเลวร้าย ญาติของผู้โดยสาร ลูกเรือ และนักบิน วันนี้คงต้องทำใจ รอเพียงว่าจะกู้เอาซากเครื่องบินลำนี้ขึ้นมาได้อย่างไร เพราะมันยากแสนยาก และต้องใช้งบประมาณอีกมหาศาลจริงๆ

แต่การข่าวที่เผยแพร่ออกมา จะไม่มีทางที่จะบอกความจริงนี้ต่อสาธารณะไปได้ เพราะมันยากที่จะทำใจยอมรับในความโหดร้ายของมนุษย์ด้วยกันเอง ดังนั้นการออกข่าวต่อไปนี้จะมีเพียงเครื่องบินลำนี้ บินตรงจากช่องแคบมะละกา ลงไปทางตะวันตกเฉียงไต้ จนไปตกที่จุดนี้เท่านั้น และมันจะมืดมิดปกปิดอยู่ให้เป็นตำนานเล่าขานตลอดไป ขนาดข่าวของนิตยสารลุงแซมฉบับหนึ่ง ที่น่าจับคนเขียนข่าวเอาหัวโขกผนังบ้าน คือ ออกข่าวว่าพบร่องรอยการจอดเครื่องบินลำนี้บนดวงจันทร์ไปโน่น..แม่เจ้า ยังดีนะที่ไม่ออกข่าวว่าพบปีกเครื่องบินที่ดาวอังคาร และหางเครื่องบินที่ดาวพฤหัส...นี่แหละฝีมือการออกข่าวบิดเบือนของหน่วยข่าวกรองลุงแซมล่ะ

 

ก่อนนี้ กระแสภัยพิบัติค่อนข้างแรง
ส่วนกระแส สงครามโลกกลับพูดกันถึงน้อย
ภัยพิบัติที่เขาเก็งกัน มันไม่ใช่เล็กๆ ประเภทคนตายเกินครึ่งโลก
เห็นบอกกันว่าไทยเหลือมากที่สุด ประมาณ 30 เปอร์เซนต์ จึงกลายเป็นมหาอำนาจ

แต่ที่หลวงพ่อฤาษี หวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ท่านเตือน ก็มักจะเตือนเกี่ยวกับสงครามเสียมากกว่า
จึงบอกให้ลูกศิษย์พกพระคำข้าว พระหางหมาก
ส่วนทางสายหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ก็มีพระผงจักรพรรดิ

ไอ้เราก็คิดเล่นๆมาแต่ตอนนั้นแล้วว่า
ถ้าคนมันตายกันเกินครึ่งโลก ตายกันสัก 70 - 80 เปอร์เซนต์อย่างที่ว่า
มันจะมีแรงมาทะเลาะกันอีกหรือ
รอดตายมาได้ มันน่าจะรักกันมากกว่าเก่านะ รวมทั้ง เหลืองแดง ในเมืองไทยก็เหอะ

ทำให้ไม่มั่นใจ ว่า
ถ้าจะมีทั้งภัยพิบัติอย่างใหญ่ และสงครามโลกแบบเกิดติดๆกัน
อะไรจะเกิดก่อนกัน

ความเชื่อของเรา สงครามน่าจะมาก่อนนะ
เว้นเสียแต่ หลังจากภัยพิบัติอะไรอย่างที่ว่า เกิดมาแล้วทิ้งช่วงไปสัก 30- 40 ปีขึ้นไป
แล้วจึงเกิดสงครามก็เป็นอีกเรื่อง

พอมาถึงตอนนี้ กระแส ความขัดแย้งทั่วโลก มีมากขึ้น
ทั้งอาหรับสปริง ทั้งไครเมีย ทั้งเครื่องบินมาเลย์
ไม่รู้จะมีอไรมาเพิ่มอีกหรือป่าว
คงต้องติดตามต่อไปก็แล้วกันครับ

 

เคยอ่านเจอว่าหลวงปู่สิม เคยบอกว่าครั้งที่ 1 มี 2 มี อาตมาว่าครั้งที่ 3 ก็น้าจะมีนะ

 

ที่มาข้อมูลครับ..สำหรับท่านที่ต้องการทราบแหล่งที่มาของข้อมูล

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.224217974434904.1073741953.187529244770444&type=1

 

ยังสงสัยอยู่ ว่าหากเกิดจริง

จะเป็นจริงดังที่ไอน์สไตน์ได้เคยกล่าวไว้ไหม

ว่า หากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 แล้ว

หลังจากนั้น

มนุษย์จะใช้ขวานหินทำสงครามกัน

 

หลายวันก่อน ได้พูดเรื่องพระ
บางคนมักตำหนิพระ บางทีใช้คำรุนแรงว่าเป็นเดียรถีร์ก็มี

การตำหนิหรือด่าว่าพระหรือทำกรรมกับพระ กรรมหนักหนามาก
ด้วยเหตุที่พระสงฆ์เป็นผู้สืบทอดพระศาสนา
หากพระสงฆที่ไปด่าว่าท่านนั้น ท่านยังไม่ถึงอาบัติปาราชิก
เพียงแต่อาบัติอย่างอื่น ยังถือว่าเป็นพระอยู่

อาจมีคำถามว่า งั้นพระประพฤติไม่ดี ควรปล่อยไปหรือ
อันนั้นก็ไม่ควร แต่ควรแยกแยะให้ดีว่า ไม่ถูกจริตเราหรือไม่ถูกพระธรรมวินัย หนักเบาแค่ไหน
และบอกกล่าว เพื่อให้รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดได้ แบบนี้ช่วยพระศาสนาเสียด้วยซ้ำ

พระพุทธเจ้าของเรา มีชาตินึง
เพียงแค่ปรามาสพระพุทธเจ้า หรือพระปัจเจก ว่าสมณะหัวโล้น
กรรมชาตินั้น มีผลให้พระองค์กว่าจะตรัสรู้ ต้องใช้เวลาบำเพ็ญเพียรถึง 6 ปี
สลบไป 3 หน เรียกว่าทุกข์ยากแสนสาหัสมาก
ในขณะที่พระพุทธเจ้าบางองค์ในอดีต สามารถตรัสรู้อย่างง่ายดายรวดเร็วมากก็มี

แล้วคนที่เตะถีบพระน่ะ กรรมขนาดไหนก็ไม่รู้นะ
เพราะมันกระทบกระเทิอนจิตใจไปทั้งประเทศ
ถ้าไปทำกรรมนักบวชศาสนาอื่น อาจรลุกลามไปทั่วประเทศ
และเลยเถิดไปต่างประเทศด้วยก็ได้