ฮือฮา! ‘อดีตพระยันตระ’ กลับไทย โผล่บ้านเกิดปากพนัง

ฮือฮา! ‘อดีตพระยันตระ’ กลับไทย โผล่บ้านเกิดปากพนัง-ปชช.แห่กราบไหว้ หลังคดีหมดอายุความ




วันที่ 23 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า นายวินัย ละอองสุวรรณ หรืออดีต “พระยันตระ อมโรภิกขุ” ที่หลบหนีไปอยู่สหรัฐอเมริกาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม บ้านบางบ่อ ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่คดีต่างๆ โดยเฉพาะคดีที่ก้าวล่วงองค์สมเด็จพระสังฆราช ได้หมดอายุความลง ทั้งนี้ นายวินัย ละอองสุวรรณ เดินทางกลับมายังประเทศไทยแบบเงียบๆ มาอาศัยอยู่ในอำเภอปากพนัง และยังคงแต่งกายด้วยผ้าคล้ายจีวรออกสีเขียว ทับเสื้อแขนยาว ผมยาวสีขาวผูกรวบไว้ หนวดเคราขาวยาว รูปร่างอ้วนสมบูรณ์

โดยผู้ใกล้ชิดนายวินัย ละอองสุวรรณ ระบุว่า นายวินัยได้เดินทางมายังนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์โดยเดินทางมากับผู้ติดตามจำนวน 2 คนโดยพระยันตระได้เดินทางเข้ามาทางประเทศมาเลเซียและเข้าประเทศไทยทางชายแดนมาเลเซีย เพื่อมากราบพระครูสุธรรมสมาจาร หรือ “พ่อท่านเชื่อง” เจ้าอาวาสวัดรัตนาราม หรือวัดบางบ่อ อำเภอปากพนัง ที่เป็นพระอุปัชฌาจารย์ ของนายวินัย เมื่อครั้งอุปสมบท และได้มาพักอยู่ที่อาศรมที่ปลูกสร้างขึ้นหลังบ้านเดิมของนายวินัย



ซึ่งขณะที่มาพักอยู่ที่ อ.ปากพนัง นั้น มีผู้ที่ยังเคารพนับถือเดินทางมาเยี่ยมเยียน และเชิญไปยังสถานที่ต่างๆ หลายจังหวัดในภาคใต้ และทราบว่านายวินัย จะเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาในวันที่ 13 พ.ค. นี้ ซึ่งทราบว่าจะปักหลักอาศัยอยู่ที่อเมริกาตลอดไป

รายงานล่าสุดเมื่อคืน วันที่ 22 เม.ย. นายวินัย หรืออดีตพระยันตระได้ไปที่ อ.ขนอม และพักค้างคืนที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช และจะเดินทางกลับ อ.ปากพนัง มาพักที่บ้านเกิดในวันนี้







ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวลือแพร่สะพัดตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ประชาชนจำนวนมากได้เดินทางไปกราบไหว้ นายวินัย ละอองสุวรรณ หรือ อดีตพระยันตระ ที่บ้านบางบ่อ ใกล้วัดรัตนาราม ต.ปากพนัง ฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จากการตรวจสอบไปยังชาวบ้านใน ต.บางบ่อ อ.ปากพนัง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอดีตพระยันตระ ได้รับการยืนยันว่าอดีตพระยันตระพร้อมสาวกจำนวนกว่า 10 คน ได้เดินทางมาที่บ้านเกิดตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ในขณะนี้ได้เดินทางออกจาก อ.ปากพนัง ไปหลายวันแล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะเดินทางไปพำนักใน จ.สงขลา และ จ.ภูเก็ต

สำหรับเรื่องการเข้าเมืองนั้น มีการพูดกันวงในว่า อดีตพระยันตระเดินทางกลับเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากคดีความต่างๆ ผ่านมา 20 ปีเศษแล้ว คดีจึงหมดอายุความ ซึ่งในขณะนี้คาดว่าคณะของอดีตพระยันตระ น่าจะพำนักอยู่ใน จ.สงขลา หรือ จ.ภูเก็ต



สำหรับคดีของอดีตพระยันตระ ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2537 ชื่อของ “พระยันตระ อมโรภิกขุ” หรือ “พระวินัย อมโร” ในวัย 40 ปี เป็นข่าวโด่งดังหลังจากมีสีกากลุ่มหนึ่งร้องเรียนไปยังกรมการศาสนาว่า พระยันตระ หรือ นายวินัย ละอองสุวรรณ ประพฤติตนไม่เหมาะสมแก่สมณเพศ เพราะได้ล่อลวงสีกาไปเสพเมถุนจนตั้งครรภ์ และคลอดบุตรสาวออกมาโดยมีเทปสนทนาระหว่างพระยันตระกับสีกาออกมาใช้เป็นหลักฐานด้วย

การออกมาเปิดโปงเรื่องนี้กลายเป็นข่าวช็อกของวงการพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่งเพราะต้องยอมรับว่าในสมัยนั้นพระยันตระได้รับความศรัทธาเลื่อมใสจากพุทธศาสนิกชนมหาศาลตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นนักพรตฤาษีกระทั่งอุปสมบทเป็นพระสงฆ์ในธรรมยุติกนิกายในปีพ.ศ. 2517 ณ วัดรัตนาราม อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จนมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย




ทั้งนี้เทศบาลเมืองปากพนัง โดย นายพิเชษฐ์ กล้าสุคนธ์ นายกเทศมนตรีเมืองปากพนัง และคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมพระอาจารย์ยันตระ ณ ชุมชนต้นหาด เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา พร้อมโพสต์รูปผ่านโซเชียลมีเดีย






�����! �ʹյ����ѹ��В ��Ѻ��� ������ҹ��Դ�ҡ��ѧ-���.�����Һ���� ��ѧ���������ؤ��� : ����ʴ�͹�Ź�

 

ท่านกลับเมืองไทยก็แสดงว่าคนที่คิดร้ายกะท่านตอนนี้หมดอำนาจวาสนาบารมีไปแล้ว

ท่านให้หวยแม่น
ถามท่านในสมาธิ ท่านให้งวดที่ผ่านมา 62
เราก็ซื้อแบบไม่ได้กลับ ดันออก 26 ซะนี่
ซื้อล๊อตเตอรี่ น่ะค่ะ
หวยไม่ซื้อเพราะบาป

ถ้าข่าวนี้ออกเร็วหน่อยคงถูก 13 แน่ เพราะตามข่าวเป็นวันที่ท่านจะเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาในวันที่ 13 พ.ค. ข้างล่างสามตัวออก 013
หลักฐานยืนยันข้างล่างค่ะ

จริงๆแล้วเรื่องถามตัวเลขเนี่ยเป็นอุบายอย่างหนึ่งของข้าพเจ้าว่านิมิตที่เราพบเห็นเป็นของจริงหรือของปลอม
ก็พิสูจน์กันง่ายๆด้วยวิธีนี้แหละ ว่าคิดไปเองหรือเปล่า




ยังนับถือท่านเหมือนเดิมแหละค่ะ แม้ท่านจะไม่ได้ใส่เครื่องแบบนักบวชพุทธแบบไทย คือ โกนผม โกนคิ้ว นุ่งห่มเหลือง ท่านก็บวชใจได้

ถ้าเป็นฌานโลกีย์ นี่ให้ได้แค่เลขตัวเดียวค่ะ ที่เหลือให้ไปเดาเอาเอง เช่น เทวดา พรหม เพราะเค้ายังติดในสมบัติทิพย์เค้าอยู่ ถ้าให้เราถูกสองตัวตรง นั่นก็คือ เค้าต้องเสียสมบัติทิพย์ของเขาไป ใครจะยอมเสีย

เมื่อก่อนเกิดเรื่องราวที่ทำให้ท่านต้องอพยพไปอยู่ต่างประเทศ ได้เคยสอบถามท่านทางสมาธิว่า ท่านจะเข้านิพพานชาตินี้หรือเปล่า ท่านก็เฉยๆ ไม่ตอบ ที่ถามเช่นนั้นเพราะเราต้องการเข้านิพพานชาตินี้ก็จำเป็นต้องหาครูบาอาจารย์ที่ท่านเข้านิพพานชาตินี้ด้วย มิฉะนั้นเกิดท่านปรารถนาพุทธภูมิ ก็จะกระเตงกันไปกระเตงกันมา ไม่เข้านิพพานซักที ลำบากเราไปด้วย

มาตอนหลังเมื่อเร็วๆนี้ก็ได้สอบถามท่านทางสมาธิว่า ท่านจะเข้านิพพานชาตินี้หรือเปล่า ตอนนี้ท่านก็บอกว่าท่านจะกลับบ้านเดิมของท่านที่นิพพานแล้ว ก็ดีใจกับลูกศิษย์สายสุญญตารามทุกท่านด้วยนะคะ ที่ท่านหัวเรือใหญ่จะเข้านิพพานชาตินี้ ลูกศิษย์ก็คงเข้านิพพานไปตามๆกัน ไม่ต้องกะเตงลำบากกันในวัฏสงสารอีก

ธรรมโอวาทของพระอาจารย์

ถ้ายังหวั่นไหวโลกธรรมแปด ให้หมั่นเจริญ ศีล สมาธิ ปัญญา

ศีลห้าเป็นตัวกั้นอบายภูมิ จะไม่ตกต่ำไปกว่านี้อีก ถ้าใครรักษาศีลห้าอยู่แล้ว ในบางโอกาสก็ให้รักษาศีลแปด

พระภิกษุในสมัยแรกๆ ที่ยังไม่มีการบัญญัติศีล 227 (ศีลปาฏิโมกข์) ท่านก็รักษาศีลแปดและเดินตามทางอริยมรรคมีองค์แปดซึ่งใครๆ ก็ทำได้

ศีลแปดเป็นข้อฝึกปฏิบัติเพื่อละความยินดีพอใจในเรื่องกามราคะทั้งหลายของภพสาม คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ กามภพได้แก่ อบายภูมิ มนุษย์ ทิพย์

พระโสดาบัน คือ ผู้ที่ละสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส ถ้าละวิจิกิจฉาได้ จะหมดคำถามว่า อะไร ทำไม

พระอนาคามี คือผู้ที่ยังติดข้องอยู่ในเรื่อง เกียรติ มีมานะถือตัวถือตน หรือยังมี ego อยู่ ซึ่งละเอียดขึ้นไปอีกมากกว่ากามราคะ

ถ้าเราเป็นผู้หวั่นไหวอยู่ ให้หมั่นเจริญ ศีล สมาธิ ปัญญา ความหวั่นไหวจะค่อยๆ หมดไปเอง

คำโบราณที่ว่า สววรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ นิพพานอยู่ข้างในใจเรานี่เอง สิ่งนี้เป็นปัจจุบันธรรม แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่า นรก สวรรค์ นิพพาน ไม่มี สิ่งเหล่านี้มีจริง เราต้องปฎิบัติที่ใจเรานี้เอง แล้วมันก็จะโยงใยไปถึงเอง

"รักษาจิตให้ดี ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง มีสติอย่าให้พร่อง ความเศร้าหมองจะหายไป" ครอบคลุมทุกอย่างคือการปฏิบัติเพื่อพระนิพพานไว้ทั้งหมด

"รักษาศีลให้บริสุทธ์อย่างน้อยศีลห้า ท่องเอาไว้เสมอว่า ไม่เอา ไม่มี ไม่เป็นอะไรอีก และต้องมีสติตลอดเวลา"

ที่มา. Bloggang.com

พระอาจารย์ส่งพลังทิพย์จากแดนไกลมาช่วยรักษาโรคร้าย แค่หลับแล้วตื่น โรคก็หายเป็นปลิดทิ้ง

..ก่อนหน้านั้น ที่ช่วงไข้หวัดนก 2009 ระบาดใหม่ๆ และยังไม่มียารักษาให้หายได้ ป่วยแล้วก็ตายกันไปหลายคน ข้าพเจ้าน่าจะติดเชื้อไข้หวัดนกนี้ด้วย เพราะไปศุนย์การค้าแห่งหนึ่ง แล้วต่อจากนั้นสองสามวันก็มีอาการเป็นไข้ตัวร้อนสูงมาก กินยาลดไข้ แต่ไข้ไม่ยอมลดเลย ไข้สูงตลอดเวลาและนอนซมหลายวัน ตอนนั้นก็สงสัยว่าจะติดเชื้อไข้หวัดนก 2009 เลยตัดสินใจตายว่าถ้าเราตายในขณะนี้จะขอไปนิพพาน แล้วก็หลับไป ช่วงที่หลับไปข้าพเจ้านอนป่วยอยู่บนโซฟาแล้วหลับไปนั้น ข้าพเจ้าฝันเห็นพระวินัย อมโรภิกขุ แห่งวัดป่าสุญญตาราม จ.กาญจนบุรี มายืนมองดูข้าพเจ้าที่นอนซมเพราะพิษไข้บนโซฟา แปลกแต่จริง เมื่อข้าพเจ้าตื่นขึ้นมา อาการไข้ตัวร้อนสูง หายไปยังกะปลิดทิ้ง ..

ที่มาจาก ช่วงท้ายๆของบันทึกธรรม.. http://www.bloggang.com ..หลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุง มาช่วยเมื่อเจ็บป่วย/



ชีวิตเป็นเรื่องง่าย อย่าทำให้มันยาก
ขอบคุณภาพจาก facebook ฟาร์มสุขสวนกระแส
ข้อความจาก http://www.bloggang.com/viewdiary.php?

 

มิน่ายอดบริจาคของDMC ถึงได้ตกฮวบ จนDMCต้องรับจ๊อบพิเศษขนแรงงาน เอ๊ย!!! ผู้ใจบุญต่างด้าว

 

เข้าใจว่า รายนี้มีโลกีย์อภิญญาอยู่นะ แต่ทางธรรมแล้วคงจะนับถืออะไรไม่ได้

ตอนหนีไปอยู่อเมริกา ก็มีคดีขับรถชนคนตายที่อเมริกาเสียด้วยนะ

 

กฎหมายไทยแม่งโคตรอ่อน
หนี 20 ปี เดี๊ยว ไอ้เณรคำ ก็กลับมาเหมือนกัน

 

คนไทยใจพุทธ ไม่อาฆาต รู้จักอโหสิกรรม

แล้วคำว่านักบวช พระ ต่างกันตรงไหน

คนที่บวชแล้ว ปลุกเสกอย่างเดียว เอาแต่วัตถุ สบาย

คนที่บวชแล้ว เทศน์สอน ปฏิบัติ คงไม่สนใจใฝ่หากับสิ่งใด ๆ แล้ว

น่าสงสาร โยมหัวลูกโป่ง ศรัทธา นำปัญญา ช่วย ๆ กันบ้างเถิด กินข้าวอาหารเสียปล่าว ?

 

คนลืมกรรม แต่กรรมไม่เคยลืมคน

 

ประเทศนี้มีชาวพุทธไม่มากนัก จึงมีเรื่องอย่างที่เห็นอยู่นี้ ....เป็นธรรมดา....

 

เฮ้อ...ไม่รู้จะพูดยังไง

 

คนโง่ๆ ยังมีให้หลอกแดกอีกเยอะ อยู่เมืองไทยเมืองที่คนกราบไหว้ต้นไม้ กินน้ำส้วม รับรองไม่อดตาย ....

 

ศรัทธาของคน ก็ทำใหศาสนาเสื่อม เพราะศรัทธาอย่างไม่มีปัญญา ศรัทธาที่ตัวตน ไม่ได้ศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า และพระพุทธองค์

น่าจะมีคนมาจัดการเอาเรื่องบ้าง ห้ามปรามบาง คอยจับตามองบ้างก็ดีซินะ

 

พระอาจารย์ท่านนึงของผม ที่เกศาเริ่มเป็นพระธาตุแล้ว ได้เคยกล่าวไว้ว่า ยันตระนี่ เคยเป็นลูกศิษย์ในอดีตชาติของท่าน แต่เป็นศิษย์คิดล้างครู
สำหรับชาติปัจจุบันนี้ ไม่พ้นอบาย

 

ตกลงท่าน teww นับถือศาสนายันตระ ไม่ใช่ศาสนาพุทธใช่ไหมครับ? จึงไม่เห็นว่าพระพุทธองค์ ที่เป็นอาจารย์ใหญ่แห่งอาจารย์ทั้งปวง เป็นอาจารย์ของตนเอง ดังนั้น จึงไม่สามารถนิพพานชาตินี้ได้?

 

ไม่วิจารณ์ดีกว่า เราเองก็ไม่รู้อะไรจริงอะไรหลอก แต่ที่แน่ๆที่เห็นๆในที่แจ้งชายคนนี้มีปฎิปทาในการเผยแพร่ศาสนามาตั้งแต่ผมยังไม่เกิด จนเกิดคดีความต่างๆซึ่งทุกยุคทุกสมัยก็มีไม่พ้นเรื่องผู้หญิง แม้แต่ในยุคพระพุทธเจ้าก็ยังมี ดังนั้นผมก็ไม่ฟันธงว่าอดีตพระยันตระจะผิดจริงหรือจะถูกใส่ความ

แต่ผมมีข้อคิดอย่างนี้
1. ถ้าผิดจริง ทำไมอเมริกาให้ลี้ภัยในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง ทำไมต้องรับคนๆนี้เป็นพลเมือง?
2. ท่านเชื่อหรือไม่มีผู้มีอำนาจสมุนเป็นนักการเมืองกลุ่มนึง ที่มีแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศมีความพยายามทำลายศาสนาพุทธในไทย หวังผลในอีก 50-100 ปีข้างหน้า วัดจะถูกแทนที่ด้วย ....ทั้งหมด
3. ยันตระจากไทยทำอะไรที่อเมริกา? เท่าที่เห็นก็ยังเผยแพร่ธรรมะต่อ แม้จะมีข้อครหาต่างๆจากไทย แต่ตัวเค้าก็ยังปฎิบัติตัวเหมือนพระอยู่ จนกระทั่ง
4. คดีขับรถชนคนตาย นั่นอาจเป็นสาเหตุจริงๆที่ทำให้ยันตระ ปาราชิกตัวเอง เลิกโกนผม เลิกครองผ้าแบบพระ หันไปเป็นฤาษีแทน
5. ถ้ายันตระโลภ และมากด้วยกาม ถ้าจะโกงหรือยักยอกเงินสุญญตารามเป็นหมื่นล้าน เสพสุขทั้งชาติก็ไม่หมด แต่ทำไมเขาไม่ทำ ทั้งๆที่มีข่าวโจมตีเล่นงานเค้ามาเป็นปี

ก็ดูกันไปครับ ไม่มีใครหนีกรรมพ้น แต่จะให้เพ่งโทษด่าหรือกล่าวหาคนที่ยังยึดศาสนาพุทธเป็นที่ตั้งอย่างนี้ ผมไม่วิจารณ์ดีกว่า

 

อุเบกขาครับ ไม่ขอเพ่งโทษ เพราะโทษใครคนนั้นจะต้องได้รับอยู่แล้วไม่โลกนี้ก็โลกหน้า ยังศรัทธาและเชื่อในคำสอนขององค์พระทศพล พระพุทธ พระธรรม และพระปฏิบัติปฎิบัติชอบอยู่ ก็เลือกเอาแล้วแต่ศรัทธาจริตของตน ส่วนท่านไหนเราไม่ถูกจริตเราก็ไม่คบด้วย ก็เท่านั้น

 

ก็ไม่ขออธิบายล่ะค่ะ สักวันเมื่อคุณเข้าถึงธรรมแล้วคุณจะเข้าใจ ไม่ใช่แบกตู้พระไตรปิฏกเป็นเปรียญธรรมเก้าแล้วฉันดีฉันเด่นฉันถูกต้องไปทุกเรื่อง ควรเอาตู้พระไตรปิฏกลงแล้วหมั่นรับฟังความเห็นของผู้อื่นบ้าง เพื่อเป็นการให้เกียรติเขาเหล่านั้น

เข้าถึงธรรม นี่หมายถึง ไม่มีคนดี ไม่มีคนชั่ว ไม่มีพระ ไม่มีมาร ไม่มีพุทธ ไม่มีคริสต์ ไม่มีอิสลาม ถ้ายังมีอยู่นี่ยังไม่เข้าถึงธรรม

ครูอาจารย์ที่แนะนำธรรมมะให้ดิฉัน มีทั้งในขณะนั่งสมาธิและไปรับฟังที่วัด ก็มีหลายท่าน ทั้งที่มีชีวิตและเสียชีวิตไปแล้ว พระอาจารย์ท่านก็เป็นเพียงท่านหนึ่งที่เข้ามาในวิถีญาณของดิฉัน จะเชื่อไม่ก็เป็นเรื่องปัตจัตตัง

ขอยืมคำตรัสของพระพุทธเจ้าค่ะ..ทุกท่านมีธาตุผู้รู้ในตัวเองที่เรียกว่าพุทธะ ต้องตรัสรู้ด้วยตัวเอง เราตถาคตเป็นเพียงผู้ชี้แนะ มิสามารถบังคับให้ใครตรัสรู้ตามตถาคตได้..

 

มันก็ไม่มีอะไรให้คุณต้องอธิบายอยู่แล้วนี่ครับ
ก็ถ้านับถือศาสนาพุทธ ก็มีพระพุทธองค์เป็นบรมครู
ถ้ามีพระพุทธองค์เป็นบรมครู แล้วยังทำให้ถึงนิพพานไม่ได้ ต้องหาครูคนอื่นมาสอนอีก ก็คงต้องพิจารณาดูครับ

 

สำหรับตัวดิฉัน พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันท่านก็ไม่ได้สั่งสอนอะไรมาก
ใช้มโนมยิทธิขึ้นไปกราบท่านที่นิพพาน
ท่านก็ให้พรที่เป็นข้อปฏิบัติเฉพาะตัว ..ให้เป็นคนดีมีศีลธรรม..

ส่วนการติดขัดปัญหาทางธรรม จะอาศัยแต่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวคงไม่ได้หรอก
จะให้เปิดพระไตรปิฏกอ่านน่ะเหรอ ก็ไม่ทันรับประทานกิเลสหรอก

ท่านที่เป็นพระอรหันต์ ท่านก็ต้องมาช่วยๆกันประคับประคองอยู่แล้ว
มาแนะนำในสิ่งที่ท่านถนัด ในสิ่งที่ท่านปฏิบัติได้

ก็ได้ครูอาจารย์ที่เป็นทั้งผี(หมายถึงพระอรหันต์ที่ท่านเข้านิพพานไปแล้ว)และคน(หมายถึงพระอรหันต์ที่ยังมีชีวิตอยู่)มาช่วยแนะนำ รวมทั้งพระอาจารย์ด้วย

ไม่ได้นึกถึงพวกท่านๆเลย ท่านเมตตามาแนะนำเอง
หลายครั้งเจ็บป่วยเจียนตาย ท่านก็ส่งพลังทิพย์มารักษาให้จนหายเป็นปกติ

 

ผิดแล้วครับ ผู้เข้าถึงธรรมย่อมสามารถแยกแยะสิ่งถูกผิดได้
สิ่งใดเป็นกุศล สิ่งใดเป็นอกุศล สิ่งใดคือมาร สิ่งใดไม่ใช่มาร
สิ่งใดเป็นสัมมาทิฏฐิ สิ่งใดเป็นมิจฉาทิฏฐิ สิ่งใดเป็นนิมิตจริง สิ่งใดเป็นนิมิตลวง

ที่บอกว่า "เข้าถึงธรรม นี่หมายถึง ไม่มีคนดี ไม่มีคนชั่ว
ไม่มีพระ ไม่มีมาร ไม่มีพุทธ ไม่มีคริสต์ ไม่มีอิสลาม ถ้ายังมีอยู่นี่ยังไม่เข้าถึงธรรม"

สิ่งนี้เป็นเพียงข้อความ ในลักษณะผู้เข้าถึงความว่างเปล่า
ผู้เข้าถึงความเป็นสุญญตา ย่อมสามารถแยกแยะชี้บอกทางได้

ไม่งั้นแล้วผู้เข้าถึงธรรม ตามวัดต่างๆ คงจะไม่ต้องมีรั้วรอบขอบชิด กุญแจก็คงขายไม่ออก เพราะไม่มีคนชั่ว

อนัตตา สุญญตา คิดบวก โลกสวย เช่นนี้ ซึ่งก็เป็นผลดีเฉพาะตน แต่พาให้บั่นทอนอายุพระศาสนา

เหตุจาก ความหลงของละคนที่ยังไม่สิ้นอวิชชา

 

+++ หวยเบอร์ +++

เรื่องหมอดูหมอเดาอะไรต่าง ๆ นี้ เรื่องหวยเรื่องเบอร์ มันจะถูกแต่ตอนแรก ๆ ภายหลังมันจะโกหก หลวงพ่อทดสอบมามากแล้ว ดูสิว่า เขาเป็นอาจารย์ใบ้หวยกันอย่างไร เราภาวนามาแทบเป็นแทบตาย ไม่เห็นให้หวยอย่างเขาได้ เอ้า ! พออธิษฐานจิตเข้าไปแล้ว หวยมันก็ไล่กันมาเป็นแถว ๆ เลย บางที ๔ งวด ๕ งวด บางที ๗ งวด บางทีนั่งอยู่เฉย ๆ มันก็รู้ ถ้ารู้แล้วเราก็เฉย ๆ ไป แต่บางทีก็ทดลองเขียนเอาไว้ว่ามันจะออกตามนี้ไหม เอาทิ้งเอาไว้ มันออกหมดทุกตัว ทีนี้พอภายหลังมานึกว่า เออ ! จะโปรดญาติโยมบ้างละ พอไปนึกเข้ามันก็ไล่เข้ามาเป็นแถวเหมือนกัน มากกว่าเก่า เสร็จแล้วบอกใบ้ตัวไหนจมไปทุกตัว หลังจากนั้นมาก็เลยเข็ดหลาบ เรื่องของจิตนี้มันตลกเก่ง มันหลอกเก่ง เพราะฉะนั้น เราภาวนาแล้วเราอย่าไปอยากรู้อยากเห็น ให้มั่นใจในการประกอบกิจในปัจจุบันนี้ ภาวนาอยู่ในปัจจุบันนี้ อย่าไปอยากรู้โน่นรู้นี่ ถ้าเราตั้งใจอยากจะรู้โน่นรู้นี่ มันจะหลอกทันที

... หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ...