ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. krittima helga

    krittima helga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +247
    ---เอ..มันไม่ระยิบระยับนะเพราะมันไม่เกิดดับๆ..มันก็เป็นสีๆของมันอย่างนั้นเปรียบเหมือนเม็ดทรายที่กลมเป็นแก้วไม่หมนไม่กระพริบเหมือนมีอยู่ทั่วไปเต็มไปหมด...เฮ้อ...มันเป็น..ปัจตัง..จิงๆนั่นแหละ...chearrchearrchearr
     
  2. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ใช่เลยครับๆ, ส่วนที่ผมบอกว่ามันระยิบระยับนั้น ผมก็คงใช้คำพูดเกินเลยไป เพราะผมไม่รู้จะอธิบายมันยังไง เพราะมันไม่เคลื่อนทที่ก็จริง แต่ก็เหมือนมันสั่นสะเทือนในตัวของมันเอง ที่คุณอธิบายว่า "มันก็เป็นสีๆของมันอย่างนั้นเปรียบเหมือนเม็ดทรายที่กลมเป็นแก้วไม่หมนไม่กระพริบเหมือนมีอยู่ทั่วไปเต็มไปหมด" ตรงกว่าครับ ขอบคุณครับ

    เอ่อ,, แล้ว "ปัจตัง" คืออะไรเหรอครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2014
  3. krittima helga

    krittima helga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +247
    ---ปัจจตัง..คือ..รู้ของใครของมัน..เห็นของใครของมัน..เข้าใจของใครของมัน..ยกตัวอย่างเช่น..nununo..ถามเจ้ว่า..เจ้ๆๆ..อันนี้คืออะไร..เจ้บอกว่า..อันนี้คือพริกกินแล้วมันเผ็ด..nu,พริกมันเผ็ดขนาดไหนเจ้,,เจ้ก็บอกว่า..อยากรู้ก็ลองกินดูซิ..แล้วเธอก็กินพริก..แล้วเธอก็บอกว่า..มันเผ็ดฉิบหายวายวอดเลยเจ้...ไอ้เผ็ดฉิบหายวายวอดของเธอนั่นแหละ.เป็นปัจจตัง...มีเธอรู้อยู่คนเดียวของเธอ..ว่าเผ็ดขนาดไหน..อย่างไร..เท่าไหร่..บอกให้คนอื่นเข้าใจดว้ยไม่ได้อย่างแท้จริง..อย่างมากก็แค่เลียบๆเคียงๆ...เขาถึงบอก..ธรรมแท้..สอนกันจริงๆไม่ได้..ตอ้งเป็นเองถึงเอง..เห็นเอง..และรู้เอง..นั่นแหละจ้าาาาา(deejai):VO
     
  4. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ขอบคุณครับ, เข้าใจล่ะครับ

    วันนี้ 29 เมษายน 2014 จะเกิด Solar eclipse นะครับ ซึ่งเป็นเหตุการณ์พิเศษสุดท้ายของเดือนนี้, ก็ไม่รู้ว่าบ้านเราจะเห็นสุริยุปราคาหรือเปล่านะครับ, เพราะอย่างตอนวันที่ 15 เมษา ที่ผ่านมา, จันทรุปราคาที่พระจันทร์เต็มเป็นสีแดงนั้นบ้านเราก็ไม่เห็น, ก็ตั้งแต่วันนี้ไปพลังงานแสงสว่างก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง, และต่างมิติก็บอกไว้ว่า วันที่ 1 พ.ค. 2014 ฝ่ายมืดก็จะปล่อยพลังงานด้านมืดมาต้านไว้ด้วย(น่าจะรวมถึงมนุษย์ต่างดาวฝ่ายมืดด้วย), ซึ่งอาจจะทำให้เกิดพลังงานที่ฉุนเฉียวได้ง่าย, ให้คิดว่าเรากำลังอยู่ในสนามรบที่สองฝ่ายกำลังประจัญบานกันในขั้นสุดท้ายตลอดปีนี้ที่เหลือนะครับ, และอดทน เพราะไม่มีทางอื่นแล้ว นอกจากผ่านมันไปให้ได้ครับ.


    สามารถติดตามสถานการณ์สุริยุปราคาที่ลิ้งค์นี้ของท่าน Falkman นะครับ

    https://www.facebook.com/pages/War-Room-Falkman/202990213074602
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2014
  5. ฅนล้านนา

    ฅนล้านนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +1,000
    ตามไม่ทันแหล่ะ.มัวแต่ก้าวกระโดดอยู่:p
     
  6. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ผู้แปล : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความแปลข้างล่าง

    ที่มา : Heavenletter #4903 Roses Blossoming in Fullness, April 28, 2014 | Illuminations Now!!

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    Heavenletter #4903 Roses Blossoming in Fullness, April 28, 2014

    ดอกกุหลาบกำลังบานอย่างเต็มที่


    ผู้แปล: ขออนุญาตแปลเฉพาะท่อนที่เกี่ยวกับการเปรียบเทียบกับดอกกุหลาบนะครับ

    God said:
    A rose does not ask itself: “How am I growing today? What nutrient am I missing? Am I ahead of all the roses, or am I behind?”

    Roses know how to blossom. Roses don’t have to think about it. Roses do not ask themselves: “Have I arrived?” They simply arrive, arrive, meaning in full bloom. Every moment leads to their blossoming in fullness.

    A rose in bloom fades, you think. The blossom dries up. The blossom fades only to return. What you gain, you have gained. The body may fade to dust, but your soul never. You resurrect. There is an instant when the soul leaves its body, yet your soul is on a continuum and is forever. Only on Earth is there temporary. In the case of Being, nothing is temporary, for Being is Infinite. Infinite are the expressions of Being. Being is more than a one-shot chance. In fact, all things except Being, Soul, and Love are so temporary that they are illusion. Being, Soul, Love are True and Real.. The Oneness of Us, the One of Us is True, and the only True there is. Being never ends. Being is forever. Beloveds, you are Being. You are My Being. You are the Oneness I AM.



    พระเจ้า:

    ดอกกุหลาบไม่เคยถามตัวมันเองว่า: วันนี้ฉันจะเติบโตขึ้นอย่างไร? สารอาหารอะไรบ้างที่ฉันยังขาดไป? นี่ฉันกำลังเติบโตอยู่เบื้องหน้าดอกกุหลาบทั้งหมดหรือไม่, หรือว่าฉันบานน้อยกว่าดอกอื่นๆ?

    ดอกกุหลาบทั้งหลายรู้วิธีที่จะบานอยู่แล้ว, พวกมันไม่จำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย, พวกมันไม่ต้องถามตัวเองว่า: ฉันมาถึงหรือยัง? เพราะพวกเขาจะถึงโดยสามัญทั่วไปอยู่แล้ว, หมายถึงบานเต็มที่. ทุกๆขณะเวลาล้วนนำพาไปสู่การบานสะพรั่งอย่างเต็มที่.

    ส่วนดอกกุหลาบที่กำลังเหี่ยวจางลง, ดอกกุหลาบกำลังแห้งเหือด, ดอกกุหลาบที่บานแล้วนั้นเหี่ยวจางและแห้งลงก็เพื่อจะกลับมาใหม่, คุณได้เข้าใจมากขึ้นว่า, ร่างกายอาจจะสลายกลายเป็นฝุ่น, แต่จิตวิญญาณของคุณไม่เคยสลาย, คุณจะกลับมาใหม่, อย่างต่อเนื่องเมื่อจิตวิญญาณละจากร่างกายของมันไป, จิตวิญญาณของคุณจะดำเนินต่อไปและเป็นเช่นนั้นตลอดกาล, เพียงบนโลกเท่านั้นที่มันเป็นแบบชั่วคราว. ในกรณีของการเป็นรูปธรรมชีวิต, ไม่มีอะไรเลยที่ชั่วคราว, รูปธรรมชีวิตคือการไม่มีสิ้นสุด, ความไม่สิ้นสุดคือประสบการณ์ต่างๆของรูปธรรม. รูปธรรมนั้นอยู่มากกว่าโอกาสครั้งหนึ่งสั้นๆ. อันที่จริงคือ, ทุกอย่างที่ไม่ใช่รูปธรรมชีวิต, จิตวิญญาณ, และความรัก, ทุกอย่างที่ไม่ใช่สามสิ่งนี้ล้วนมีอยู่เพียงชั่วคราว ซึ่งพวกเขาเป็นเพียงภาพมายา. แต่รูปธรรม, จิตวิญญาณ, ความรัก(Being, Soul, and Love) คือความแท้จริงและมีอยู่จริง... ความเป็นหนึ่งเดียวของเรานั้นคือความจริง, และมีเพียงความจริงเท่านั้นที่มีอยู่, รูปธรรมไม่เคยมีจุดสิ้นสุด. รูปธรรมอยู่ตลอดกาล, ที่รักทั้งหลาย, คุณคือรูปธรรม, คุณคือรูปธรรมของฉัน, คุณคือหนึ่งเดียวกันกับที่ฉันเป็น.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2014
  7. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ผู้แปล : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความแปลข้างล่าง

    ที่มา : Removing The Shadow In The New Earth Matrix ~ James Tyberonn | Cosmic Love

    Removing The Shadow In The New Earth Matrix ~ James Tyberonn

    กำจัดเงามืดออกไป ในโลกแห่ง Matix แบบใหม่



    AA Metatron,

    มนุษย์ที่รักทั้งหลาย, ในช่องทางสื่อสารหลักของคุณนั้น "ประวัติศาสตร์" ที่คลาดเคลื่อนถูกตีแผ่อย่างครึกโครม, ไม่มีการสื่อสารใดๆที่หยิบยื่นความแท้จริงทางจิตวิญญาณอย่างสมบูรณ์ให้กับคุณ. มรดกของคุณที่ได้รับจากสิ่งมีชีวิตที่มาจากนอกโลกยังคงเป็นที่ไม่รู้ว่ามีอยู่, และจริงๆแล้วคือมันถูกซ่อนไม่ให้คุณรู้, รวมถึงความสำคัญของประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของดาวเคราะห์โลกนี้, มันถึงเวลาแล้วที่จะปล่อยเรื่องเล่านิทานต่างๆที่หลอกลวงทิ้งไปเสีย, และเข้าใจใหม่ได้ว่าแท้จริงแล้วคุณคือใคร!

    มันคือเวลานี้แล้วที่คุณควรยอมรับพลังอำนาจของคุณ, และดำเนินตามสัจจะและความท้าทายของความรับผิดชอบต่อการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์, มันคือเวลานี้แล้วที่จะกวาดสิ่งสกปรกออกจากตาทั้งสองที่หลับไหล... และก้าวเข้าสู่แสงสว่าง, มันคือเวลานี้แล้วที่จะกำจัดเงามืดทิ้งไป!

    Masters, เราจะบอกคุณว่า ไม่มีสิ่งใดเลยที่จะสามารถอยู่ในเงามืด ในการเลื่อนระดับขึ้นนี้ของดาวเคราะหโลก... ในปีที่สองนี้ของโลกใหม่.

    การค้นพบต่างๆที่น่าพิศวงกำลังเกิดขึ้น, ความผิดพลาดต่างๆที่ผ่านมากำลังถูกเปิดเผย... และในอีกไม่นานนี้, เหตุผลและหลักฐานตามหลักธรรมชาติของคุณและความจริงแท้ จะเป็นที่ยอมรับและไม่สามารถปฏิเสธมันได้อีกต่อไป.


    ความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และต้นกำเนิดที่แท้จริงของคุณนั้นจำเป็นต้องถูกเปิดเผยต่อมนุษยชาติอย่างให้ความสำคัญ... และเมื่อความจริงได้เป็นที่ยอมรับแล้ว, ประตูมากมายก็จะถูกเปิดขึ้น, และมันจะมีความหมายต่างๆอย่างยิ่งใหญ่และงดงามเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ สำหรับความสำเร็จของมนุษยชาติ.

    มันคือเวลาแห่งการตื่นขึ้น, เพื่อจะกำจัดเงามืดและค้นพบความแท้จริงของคุณ, คุณไม่สามารถอยู่อย่างชิวๆได้อีกต่อไป, คุณไม่สามารคงอยู่ในสภาวะสูญเสียความทรงจำได้อีกต่อไป.

    Archangel Metatron

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2014
  8. หนุ่มยาดอง

    หนุ่มยาดอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +680
    คุณnunuฯ:cool::cool::cool::cool::cool::cool:
    (ขอติงนิดนึงว่าเอ่อ.ดอกมันใหญ่ไปหน่อยอ่ะคับ (ล้นเฟรมอิๆ)
     
  9. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ขอบคุณครับ, เปลี่ยนรูปใหม่ให้แล้วเน้อ
     
  10. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    อาการที่เห็นเม็ดๆจุดๆเหมือนตอนปิดทีวีแล้วมันซ่าๆ
    เราเห็นมาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
    เวลาที่มองไปในอากาศโดยไม่สนใจตึกรามบ้านช่อง
    หรือไม่โฟกัสไปที่คนจะเห็นชัดมากๆ
    อาการนี้จะเห็นทั้งตอนหลับตาและลืมตาด้วย
    (สมัยเด็กๆเคยเอื้อมมือคว้าด้วยล่ะ 555)
    เคยไปปฏิบัติธรรม เวลาที่มองไปในความมืด
    เม็ดๆพวกนั้นจะยิ่งสว่างขึ้น วิบๆมากขึ้นด้วยค่ะ

    ขอบคุณที่ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกันนะคะ
     
  11. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    คล้ายกันมากเลยครับ, ช่วงนี้เห็นชัดมากขึ้นไหมครับ, แม้จะเป็นตอนกลางวัน แต่ถ้าลองอยู่ในห้องไม่ต้องเปิดไฟ แล้วมองที่ผนังอะครับ, เห็นชัดกว่าแต่ก่อนไหมครับ, เพราะตอนนี้ผมเห็นมันตั้งแต่ตื่นขึ้นมาพอหายสลึมสลือผมก็เห็นมันอยู่ตลอดเวลาเลยอะครับ, มันสว่างขึ้น จึงมองเห็นได้ง่ายโดยไม่ต้องพยายามเบลอภาพที่มองเลยครับ, แต่ไม่ได้รบกวนภาพที่เรามองปรกตินะครับ, เพียงแค่เห็นมันเป็น foreground ของภาพที่เรามองอะครับ. ซึ่งพอเราปรับโฟกัสมามองที่มัน, ก็จะเห็นเป็นมวลยุบยิบจนหาพื้นที่อากาศที่ว่างๆไม่ได้แล้วอะครับ. อากาศทุกที่ที่ผมเห็นตอนนี้มันกลายเป็นแบบนี้ไปหมดแล้วอะครับ. มันเหมือนสิ่งที่ผมเห็นตอนหลับตามันซ้อนกันอย่างชัดเจนกับสิ่งที่ผมเห็นตอนลืมตาไปแล้วอะครับ.

    ออกไปปั่นจักรยาน, ผมก็เห็นมันอยู่ทั่วไปหมดจนผมใช้เวลาตอนปั่นจักรยานเพื่อดูเม็ดแสงในอากาศมากกว่าดูวิวข้างถนนแล้วอะครับ เพราะฉะนั้นอะไรๆที่เกิดขึ้นมันก็คือสัญญาณหนึ่ง จากอีกหลายๆสัญญาณอื่นๆที่เกิดขึ้นทั่วโลกว่ามันใกล้แล้วนะครับ สำหรับยุคใหม่, ถ้าผมไม่ผิดปรกติไปเอง, อย่างน้อยก็มีคนเห็นเหมือนกันแล้วนะครับ, ซึ่งน่าจะมีหลายคนเลยล่ะ เพียงแต่ยังไม่ได้สังเกต.

    ผมคิดว่า, สัญญาณหรือการเปลี่ยนแปลงของแต่ละชีวิตในช่วงของการเปลี่ยนแปลงนี้นั้น, มีทั้งที่เหมือนกันและไม่เหมือนกันนะครับ. ลองอ่านข้อความต่างมิติที่เปรียบเทียบกับดอกกุหลาบในโพสข้างบนนะครับ, แล้วคุณจะรู้ว่า เมื่อมันถึงเวลา ยังไงมันก็จะเป็นไปโดยอัตโนมัติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วครับ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2014
  12. yimriver

    yimriver เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +313
    หวัดดีจ๊ะ...ขอเป็นเพื่อนและแลกเปลี่ยนประสบการณ์อีกคนนะจ๊ะ โชคดีที่เข้ามาเวปนี้และมีคนที่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน ส่วนของเราเห็นเป็นแสงระยิบระยับคล้ายแสงประกายของเพชรเราเห็นมาหลายปีแล้ว แต่ช่วงนี้เป็นวงกลมใส แต่ไม่กระพริบระยิบระยับเหมือนเมื่อก่อน แต่เหมือนเรามองดาวบนท้องฟ้า ล่าสุดมีดวงหนึ่งขยายใหญ่ขึ้นแล้วพุ่งแสงมาตรงหน้าผากเรา จนตกใจช่วงนี้เลยทำจิตไม่ให้นิ่ง ถ้าจิตนิ่งเมื่อไหร่ก็จะเห็น หยุดนั่งสมาธิก่อน แต่เวลานอนกับปวดเอวมาจนขยับไม่ได้ อยากขอคำแนะนำจากคนอื่นๆบ้างว่าควรทำตัวอย่างไร เพราะเล่าให้คนที่ไม่เข้าใจฟังเขาก็หาว่าเราเพี้ยน เลยต้องอยู่อย่างเงียบๆคนเดียว สงสัยอยู่คนเดียว ดีที่เจอกระทู้นี้ จึงรู้ว่ายังมีคนคล้ายกับเราอีกหลายคน...
     
  13. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ท่าน AA เครยอน, เคยเล่าให้ฟังในข้อความต่างมิติครับ, ว่า Angel ก็คือ Fire of a bush(พุ่มแห่งเปลวไฟ) เหมือนที่โมเสสเคยบอกไว้นั่นแล่ะครับ, ไม่ใช่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายมีปีกนะครับแบบที่เราเห็นในนิยายหรือภาพยนตร์นะครับ, ซึ่งที่คุณบอกว่าเห็นเป็นแสงใหญ่ขึ้นและเคลื่อนที่มาหาคุณ, ก็อาจจะเป็น Angel ที่กำลังมาหาหรือสื่อสารกับคุณก็ได้ครับ, สมัยเป็นเด็ก ผมก็เคยกึ่งหลับกึ่งตื่น แล้วเห็นดาวหนึ่งบนฟ้า มันลอยเข้ามาใกล้เราเรื่อยๆ แล้วใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นลูกไฟคอยลอยตามหลังเรา(เยื้องไปทางขวา)ไปเรื่อยๆอยู่ตลอดอะครับ.

    ซึ่งผมก็พึ่งมารู้ว่ามันคล้ายกับลูกกลมเป็นเปลวไฟที่ไม่มีวันหมด เหมือนที่เครยอนบอกไว้ใน Demystifying The New Age - Part 3, ตามลิ้งนี้นะครับ

    Demystifying The New Age - Part 3 > Kryon

    จะมีอยู่ตอนหนึ่งที่เครยอนพูดถึงลักษณะของ Angel นะครับ, รู้สึกว่าพี่ชยุตก็แปลข้อความนี้แล้วด้วยนะครับ, แต่รู้สึกจะอยู่อีกกระทู้หนึ่งนะครับ, ลองหาดูนะครับ.

    และหลังจากประสบการณ์ครั้งนั้นที่ผมเห็นในฝัน, ผมก็พยายามอยากเห็นอีก มันก็ไม่ได้อะครับ, คือเหมือนยิ่งพยายาม มันก็ยิ่งเกิดกิเลสว่า อยากเห็นอะครับ. ส่วนที่นอนแล้วชาที่เอวแล้วขยับไม่ได้, อันนี้ผมก็บอกไม่ได้อย่างชัดเจนนะครับ, แต่ที่ผมเป็นก็จะ ชาตรงก้น ขา แขน เพราะว่านอนทับมันนานไปด้วยครับ ต้องเปลี่ยนท่านอนบ่อยๆครับ.


    เจอแล้วครับ, ข้อความจากเครยอนที่มีการอธิบายถึงลักษณะของ ANGEL, พี่ชยุตแปลไว้ในกระทู้ที่ลิ้งนี้นะครับ, อยู่ในเนื้อหาของตอนที่ 3 นะครับ

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...วามลึกลับของยุคพลังงานใหม่-ตอนที่-3-a.528314/


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2014
  14. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    ตอนใช้ยานพาหนะ อย่ามัวแต่ดูเม็ดแสงนะครับ อิอิอิ (^^)
     
  15. หนุ่มยาดอง

    หนุ่มยาดอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +680
    พักผ่อนบ้างนะครับ ผมเป็นห่วง:cool:
    (เริ่มเป็นแฟนคลับคุณเข้าแล้ว อิๆ)
     
  16. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946

    สงสัยต้องสังเกตตัวเองและผู้คนรอบข้างดูซะแล้ววว...ในวันที่ 1 พฤษภาคม ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
     
  17. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    สามารถอ่านเพิ่มเติมข้อมูลที่ลิ้งนี้นะครับ

    Reminder of what to do on April 30, 2014 … gathering for the Light Beams and Liberation of Gaia ! | Illuminations Now!!

    Tomorrow, May 1st, during Beltane and the New Moon the elite cabal will be grounding LOW vibrating FEAR-BASED energies through powerful ley line nodes into the ley lines to keep on enacting the Faraday Cage!

    วันที่ 1 พฤษภา, ระหว่างเทศกาลเฉลิมฉลองและ New Moon, กลุ่ม elite cabal จะกำลังขึงแผ่พลังงานที่มีแรงสั่นสะเทือนต่ำ ซึ่งเป็นพื้นฐานของพลังงานที่ทำให้รู้สึกกลัว, ส่งผ่านเข้าสู่พลังอำนาจของ Ley Line Nodes เพื่อที่จะยังสามารถใช้ Faraday Cage ได้(น่าจะหมายถึงกรงพลังไฟฟ้าหรือเปล่า ไม่แน่ใจนะครับ:ผู้แปล).
     
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - Faraday Cage)

    พรุ่งนี้ คือวันที่ 1 พฤษภาคม 2014 นี้ ในระหว่างงานเฉลิมฉลองของเทศกาล Beltane และในคืนเดือนดับ
    กลุ่มอภิสิทธิ์ชนฝ่ายมืด จะเชื่อมต่อพลังงานที่มีระดับความสั่นสะเทือนต่ำๆ
    และเป็นพลังงานที่มีรากฐานมาจากความกลัว ลงมายังพื้นโลก
    ผ่านทางจุดศูนย์รวมอันทรงพลังของเส้น ley line ทั้งหลาย เพื่อให้กระจายไปสู่เส้นเลไลน์ทั่วโลก
    เพื่อที่จะกระตุ้นให้เกิดสภาวะ "กรงของฟาราเดย์" หรือ Faraday cage ขึ้น ต่อไป


    หมายเหตุ:

    1.ดาวเคราะห์โลกเรามีโครงข่ายพลังงานห่อหุ้มอยู่นะครับ
    และเส้นพลังงานเหล่านี้แหละที่เขาเรียกว่าเส้นเลย์ไลน์ ซึ่งมันก็จะมีกระจุก หรือ จุดศูนย์รวมกระจายอยู่ทั่วโลก

    2. Faraday Cage หรือ กรงของฟาราเดย์ ก็คือกรงหรือสภาวะคล้ายกรง
    ที่มีพลังงานไหลเวียนอยู่ในนั้น ทำให้สภาวะภายในกรง แตกต่างจากนอกกรง
    คือพลังงานจากภายนอกกรง จะไม่สามารถแทรกซึมผ่านเข้ามาในกรงได้เลย

    และตามความหมายของข้อความสั้นๆนี้ก็น่าจะประมาณว่า
    ฝ่ายมืด ไม่ต้องการให้ "แสงสว่างจากมิติที่สูงกว่า" ผ่านเข้ามาในโลกของเราได้อีก
    เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นเพราะถูกกระตุ้นโดยแสงสว่าง
    และคลื่นความถี่ที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงกว่านี้ ก็จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    ดังนั้น พวกเขาจึงคิดที่จะขังชาวโลกเอาไว้ในกรงของฟาราเดย์นี้ซะเลย
    ไม่ให้ได้รับพลังงานจากมิติที่สูงกว่าเหล่านั้นอีก อะไรทำนองนั้นหนะครับ

    แต่ในความคิดเห็นผมนะครับ พวกเขาจะทำไม่สำเร็จหรอก
    เพราะว่ามันมีปัจจัยหลายอย่างมาเกี่ยวข้อง เช่น

    - ฝ่ายแสงสว่างก็จะขัดขวาง เพราะมีวิวัฒนาการทุกๆด้านสูงกว่าอยู่แล้ว
    - ปัจจัยที่สองก็จะประมาณว่า เจ้ากรงของฟาราเดย์นี้มันก็มีจุดอ่อนของมันอยู่
    คือมันจะไม่สามารถป้องกันพลังงานที่มีความสม่ำเสมอเช่นแรงโน้มถ่วงของโลกได้
    (อันนี้ผมอ่านคร่าวๆในเน็ตมานะครับ)
    - ส่วนปัจจัยที่สามก็จะคือ พลังงานจากมิติที่สูงกว่าที่ว่านี้ มันเป็นของหลากมิติ
    มันยากที่จะป้องกันโดยธรรมชาติของตัวมันเองอยู่แล้ว ผมเข้าใจว่าอย่างนั้นนะครับ

    3. การไปอ่านข้อความในอินเตอร์เน็ต ที่ก่อให้เกิดความกลัวขึ้นแบบนี้
    หรือทำนองนี้ ต้องใช้วิจารณญาณให้ดี เพราะว่ามีหลายครั้ง และหลายแหล่ง
    ที่ต้นตอของข่าวลือ หรือ ข้อมูลทำนองนี้ ก็จะมาจากกลุ่มอิลลูมินาติเองนั่นแหละ
    เพราะว่าสิ่งที่สำคัญซะยิ่งไปกว่า "ปฏิบัติการของพวกเขา" ก็คือ
    "ความกลัว" ที่เกิดจากชาวโลกอย่างเราๆนี่แหละครับ..
    นั่นแหละคือผลสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาหละ
    โดยเฉพาะความกลัวที่มาจากบรรดาผู้ที่มี "พลัง" ในการรับและส่งพลังงงาน
    มากกว่าคนอื่นๆ เช่น พวก Lightworker หรือผู้ปฏิบัติจิตทั้งหลาย
    ก็จะยิ่งไปกระตุ้นให้ระดับความสั่นสะเทือนของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก
    ลดต่ำลงได้อย่างมาก มากกว่าคนทั่วๆไป ถึง 10 เท่า

    ประมาณว่าพวก light worker หรือผู้ที่ฝึกจิตมาดีแล้วหลายคน
    จะมีพลังในการถ่ายทอดพลังงานมากกว่าคนทั่วๆไปถึง 10 เท่าหนะนะครับ
    ซึ่งข้อมูลนี้ผมอ่านเจอจากข้อความต่างมิติรูปธรรมไหนก็จำไม่ได้แล้ว
    และนี่แหละคือเหตุผลที่พวกเขาบอกและย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
    เพียงแค่กลุ่มคนพวกนี้ (light worker) ไม่กี่ % ของจำนวนประชากรโลกทั้งหมดเท่านั้น
    ก็สามารถที่จะนำพาไปสู่กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นของโลกได้แล้ว
    และก็อย่างที่ท่าน Hilarion พูดไว้บ่อยๆว่า "ขอบเขตของการส่งผลกระทบ"
    ของพวกเราแต่ละคน ไม่ใช่แค่บริเวณรอบๆตัวเราเท่านั้นนะครับ
    แต่หมายถึงภายในรัศมีหลายไมล์ออกไปเลยทีเดียว

    ดังนั้น จงพึงใช้วิจารณญาณให้ดี ในการรับรู้ข้อมูลที่สั่นสะเทือนในด้านลบแบบนี้ให้ดี
    เพราะว่าบางที เราอาจจะตกเป็นเครื่องมือของพวกเขาไปเองโดยไม่รู้ตัวก็ได้

    สรุปว่า ยังไงเสียก็แค่อ่านผ่านๆ และรับรู้ไว้ แต่อย่าไปวิตก หรือ กังวล หรือ ตกใจ
    หรือแม้กระทั่งตื่นตูมไปกับข่าว หรือข้อมูลพวกนี้อย่างเด็ดขาด
    จงรักษาระดับความสั่นสะเทือนแห่งความรัก-เมตตา และสูงๆทั้งหลาย
    ของตัวเองเอาไว้ให้ดี และ มั่นคง ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้

    ...................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2014
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มันต้องอาศัย "ความเข้าใจ" แล้ว "การตื่น" ก็จะค่อยๆพัฒนาขึ้น
    หมายถึงตื่นรู้หนะนะครับ ไม่ใช่ตื่นนอน

    แล้วจากนั้น คุณก็จะไม่ตกใจ ไม่กลัว ในสิ่งที่เป็นธรรมชาติของตัวเองอีก
    เพราะว่าดูเหมือนคุณอาจจะยังไม่ตื่น แม้ว่าคุณจะมีรหัสอะไรบางอย่าง
    ถูกไขออกมาให้ได้ใช้แล้วก็ตาม

    มันต้องอาศัยความเข้าใจครับ..ซึ่งได้มาจากหลายๆทาง
    ทั้งจากภายนอกและภายในของเราเอง

    แต่ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลนะครับ ปล่อยให้เป็นไปโดยธรรมชาติ
    เพราะว่าตัวตนที่สูงกว่าของคุณเอง และ/หรือ ครูบาอาจารย์
    หรือผู้นำทางทั้งหลายที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าของคุณ
    พวกเขาฉลาดมากกว่าที่เราคิดเอาไว้ซะอีก
    ดังนั้น พวกเขาจึงจะมีวิธีที่จะทำให้ หรือ ช่วยให้ หรือเอื้ออำนวยให้
    คุณได้ตื่นขึ้น หรือ ได้พบวิธีการตื่นขึ้น หรืออะไรก็ตามแต่ทำนองนี้
    เองนั่นแหละครับ ..อย่าเป็นห่วงไปเลย

    ตัวอย่างเช่น คุณได้มาอ่านข้อความในกระทู้นี้
    ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนะครับ และโดยเฉพาะ ใครที่ได้อ่านแล้ว..

    ในตอนแรกๆ รู้สึกแต่ว่า "มันน่าสนใจมากๆ" น่าสนใจมากจริงๆ
    จนแทบจะวางไม่ลงเลยหละ มันรู้สึกขนลุกเวลาอ่าน
    มันรู้สึก "โดนใจ" เข้าอย่างจัง แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
    รู้แต่ว่ามัน "โดน" และ มันน่าสนใจมากๆเท่านั้น

    แต่อีกความคิดส่วนหนึ่ง มันก็ขัดแย้งกับสิ่งที่เคยรู้มา
    หรือถูกสอนมาเหลือเกิน จนไม่รู้จะทำยังไง
    จนข้อมูลในหัว และ ความรู้สึกในใจ มันตีกันยุ่งไปหมดเลย
    จนบางที ถ้าสมองเป็นฝ่ายชนะ ก็จะออกมาอาละวาดในกระทู้นี้เป็นระยะๆ
    เพราะว่าเมื่อตรึกตรองด้วยเหตุด้วยผลแบบที่สมองมันชำนาญแล้ว
    มันเป็นไปไม่ได้เลย มันเหลวไหล หลอกลวง และไร้สาระทั้งเพเลย
    อะไรแบบนั้นหนะครับ

    แต่ถ้าท่านใดที่มีความสมดุลในการใช้งานสมองและหัวใจมากพอ
    ก็อาจจะยังไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ขัด แค่รับรู้เอาไว้ก่อน ก็ไม่เสียหายอะไร

    แต่พอติดตามอ่านไปๆ มากเข้าๆ และนานเข้าๆ
    สักพักหนึ่ง ก็จะพบว่า..
    เออ..ข้อมูลพวกนี้ มันก็ไม่ได้ไปปลุกระดมให้เรา
    ไปทำอะไรเลวร้าย หรือเสียหายอะไรเลยนี่นา
    มิหนำซ้ำ หลายๆจุดที่พวกเขาแนะมาหรือสอนมา
    ก็เป็นอะไรที่สอดคล้องกับ "แก่นแท้" ของจุดประสงค์หลัก
    ของคำสอนในลัทธิความเชื่อหลักๆที่เราเองรู้จักดีอยู่แล้ว ด้วยซ้ำไป

    เพียงแต่ว่า..เพียงแต่ว่า..หลายๆเรื่อง มันลึก และ กว้างกว่า และ เป็นสากลมากกว่า
    และอธิบายในแบบที่..ทุกๆเรื่องที่พวกเขาเคยพูดถึงมาในอดีต
    และที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ มันเชื่อมโยงกันไปหมด หาจุดสะดุดไม่ได้เลย
    หรือหาข้อที่มันขัดแย้งกันเองไม่ได้เลย

    มันจะไม่เหมือนลัทธิทางความเชื่อหลายลัทธิ เช่น ศาสนาบางศาสนาเป็นต้น
    ที่พอพูดถึงเรื่องนี้แล้ว มันก็จะมีจุดสะดุดที่เข้ากันไม่ได้กับเรื่องนั้น เป็นต้น
    และหลายครั้ง เราก็จะพบว่า มัน "ตัน" เอาซะเฉยๆอย่างนั้นแหละ
    คือ "จบ" หาคำตอบของคำถาม หรือหาคำอธิบายของเหตุ-ผล ของมันไม่ได้เลย
    เพราะไม่มีที่ไหนกล่าวเอาไว้ในตำรา หรือ ถึงกล่าวไว้ก็คลุมเคลือ ไม่น่าเชื่อถือ
    หรือมิหนำซ้ำ "ท่าน" ก็ยังห้ามถาม ห้ามพูดถึง และห้ามคิด
    ถึงเรื่องบางเรืองอีกด้วย เพราะอ้างว่าเดี๋ยวจะเป็นบ้า

    แล้วก็น่าแปลก ที่พวกเราก็ว่านอนสอนง่ายมากๆ คือ
    เอ๊า ท่านบอกว่าห้ามคิดก็ห้ามคิด..แล้วเราก็สอนลูกหลานต่อๆกันไปว่า
    เรื่องนี้ "ท่าน" ห้ามคิดนะ

    ซึ่งในความเห็นของผม คำว่า "ท่าน" ที่ผมใส่เครื่องหมายคำพูดเอาไว้นี้
    ผมรู้สึกมาโดยตลอดว่า อาจจะไม่ใช่พระศาสดาเสียด้วยซ้ำไป
    เพราะว่าคำสอนดั้งเดิมของพระศาสดา อาจจะถูกดัดแปลงแก้ไข
    หรือใส่ไส้ หรืออะไรก็แล้วแต่ อย่างที่ต่างมิติพูดอยู่เสมอว่า
    ตำราทางศาสนาของทุกๆศาสนา มีทั้งของจริงและของปลอมสอดแทรกอยู่ในนั้น
    ทุกๆศาสนานั่นแหละ ไม่ยกเว้นแม้แต่ศาสนาเดียว

    แต่พอดีกว่านะครับ..อย่าไปพูดถึงเขาอีกเลย
    ........................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2014
  20. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    พูดได้ดีและ "ถูกจังหวะ" มากเลยพี่ชยุต

    เพราะช่วงนี้ ทั้ง SaLuSa กับ Hilarion ก็เน้นเรื่องการฝึก Discernment(การแยกแยะวินิจฉัย) เป็นพิเศษ

    อีกอย่าง ในช่วงนี้ จะมีการชำระล้างให้บริสุทธิ์เกิดขึ้นแบบหนักหน่วง
    ทำให้มีการปล่อยหรือระเบิดออกของสิ่งตกค้างออกมาหนักๆ
    เช่น ระเบิดอารมณ์ ความคับแค้น สิ่งติดค้างในใจที่อยู่ลึกๆ อะไรเทือกนี้ออกมามากสู่ผิวนอกให้ปรากฏชัด

    ซึ่งอาจทำให้เกิดความรู้สึกต่อมาได้ว่า ตัวเราเป็นแสงสว่างจริงหรือเปล่า ตัวเราดีจริงหรือเปล่า อะไรเทือกๆนี้
    อันนำไปสู่ ความคลางแคลงใจความลังเลสงสัยในตัวเอง ได้
    ซึ่งเป็นความหวั่นไหวสั่นคลอน ไม่มั่นคง เปราะบาง ไม่มั่นใจในตัวเอง
    อันส่งผลให้ระดับความถี่เราต่ำลง ขอบเขตพลังงานหดเล็กลง ความเข้มของพลังงานน้อยลง

    ตรงจุดที่เรากำลังเปราะบางนี่แหล่ะ อาจเป็นโอกาสให้ฝ่ายมืดถือเป็นจุดอ่อนได้

    ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา หลายๆข้อความจากต่างมิติในตอนนี้ จึงบอกให้ เมตตาต่อตัวเอง ให้อภัยตัวเอง
    และเมตตตากับให้อภัยต่อทุกอย่างรายรอบตัวเราด้วย ยังไงล่ะคะ

    พยายามอดทนและเข้มแข็งให้ได้ด้วยตัวเองทุกๆคนนะคะ สู้ๆ
    :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...