ติดตามสถานะการณ์

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก



ข่าวภัยพิบัติรอบโลก 13 ต.ค.57 :ไซโคลนถล่มอินเดียตาย 6 ราย , ไต้ฝุ่นหว่องฟงอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน , ภูเขาไฟระเบิดที่ ฟิลิปปินส์และชิลี

- พายุไซโคลนระดับ 3 ฮุดฮุด เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางตะวันออกของประเทศอินเดียแล้วในช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ ส่งผลทำให้มีคนตายทันที 6 ราย บาดเจ็บอีก 35 คน แม้ก่อนหน้านี้จะมีการอพยพประชาชนกว่า 4 แสนคน อย่างไรก็ตามตอนนี้ไซโคลนยังเคลื่อนที่อยู่ในเมืองวิสาขปัตนัม

- พายุไต้ฝุ่นหว่องฟง ลดกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้วในเวลานี้ และกำลังขึ้นฝั่งคิวชูของญี่ปุ่น

- ภูเขาไฟ มายอน ที่ยังมีพลังมากที่สุดในประเทศฟิลิปปินส์ เริ่มปล่อยลาวาไหลออกจากปากปล่องภูเขาไฟอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ (12 ต.ค.) ทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่า ภูเขาไฟลูกนี้อาจจะระเบิดในไม่ช้า โดยลาวาเคลื่อนที่อย่างช้าๆ เป็นระยะทางประมาณ 350 เมตร จากยอดเขา

- ภูเขาไฟโคปาอวย (Copahue) ทางตอนใต้ของประเทศชิลีเกิดการปะทุพ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้าลอย 1000 เมตร

ข่าวภัยพิบัติรอบโลก 13 ต.ค.57 :ไซโคลนถล่มอินเดียตาย 6 ราย , ไต้ฝุ่นหว่องฟงอ่อนกำลังเป็นพายุโซน

 

ฮูชี้อีโบลา-วิกฤติสุขภาพร้ายแรงในโลกยุคใหม่
โดย ทีมข่าวต่างประเทศ 14 ต.ค. 2557 05:15



นายโจเซฟ แทมบา ประธานสหภาพแรงงานบุคลากรการแพทย์แห่งไลบีเรีย เรียกร้องสมาชิกสหภาพนัดหยุดงานหรือชะลอการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาพร้อมกันทั่วประเทศ เมื่อ 13 ต.ค.เพื่อกดดันรัฐบาลอนุมัติการจ่ายเงินค่าเสี่ยงภัยให้แก่บุคลากรการแพทย์เพิ่มเติม หลังพบเจ้าหน้าที่เสียชีวิตจากอีโบลา 95 ราย แต่ครอบครัวไม่ได้รับเงินชดเชย และเจ้าหน้าที่ซึ่งติดเชื้อไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลแต่อย่างใด ทั้งนี้ นายแทมบาระบุว่า เจ้าหน้าที่ของคลินิกไอส์แลนด์ในกรุงมอนโรเวีย ซึ่งเป็นศูนย์ดูแลผู้ติดเชื้ออีโบลาขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ เริ่มชะลอการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.เป็นต้นมา ทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 11 รายในเวลา 3 วัน

วันเดียวกัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อแห่งสหรัฐฯ (ซีดีซี) ประกาศตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่หญิงของโรงพยาบาลเท็กซัส เฮลท์ เพรสไบธีเรียน ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เป็นผู้ติดเชื้ออีโบลารายที่ 2 ในสหรัฐฯ เพื่อหาสาเหตุว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวติดเชื้อไวรัสอีโบลาจากนายโทมัส เอริก ดันแคน ผู้ป่วยอีโบลารายแรกในสหรัฐฯได้อย่างไรทั้งที่สวมอุปกรณ์ป้องกันครบถ้วน ขณะที่สหภาพพยาบาลสหรัฐฯ ระบุว่าหน่วยงานรัฐบาลไม่เคยฝึกอบรมเพื่อเตรียมให้บุคลากรการแพทย์พร้อมรับมือไวรัสอีโบลามาก่อน ถือเป็นความผิดพลาดที่ระบบ ไม่ใช่ตัวบุคคล ขณะที่องค์การอนามัยโลก (ฮู) ประกาศให้ไวรัสอีโบลาเป็นวิกฤติด้านสุขภาพที่ร้ายแรงที่สุดในโลกยุคใหม่.

ฮูชี้อีโบลา-วิกฤติสุขภาพร้ายแรงในโลกยุคใหม่ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

อึ้ง!! พบปลิง 3 นิ้ว ในรูจมูกสาวสกอต
โดย ข่าวต่างประเทศ 13 ต.ค. 2557 17:38



พบปลิง 3 นิ้ว ในรูจมูกสาวสกอต หลังกระดึ๊บออกมาตอนสาวเจ้าอาบน้ำ โร่ให้แพทย์เอาออกให้ คาดแอบเกาะจมูกมาจากเวียดนาม...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แพทย์โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศสกอตแลนด์ พบปลิงดูดเลือดขนาด 3 นิ้ว ติดอยู่ในโพรงจมูกของนางสาวดาเนลา ลิเวรานี สาววัย 24 ปี จากเมืองเอดินเบอระ ในประเทศสกอตแลนด์ นานหลายเดือน

โดยดาเนลาเล่าว่า เธอได้ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มระหว่างการท่องเที่ยวในประเทศเวียดนาม หลังจากนั้นเธอมีอาการเลือดกำเดาไหลอยู่บ่อยๆ เมื่อเดินทางกลับถึงบ้าน เธอสังเกตเห็นก้อนสีดำติดอยู่ในรูจมูกของเธอ เธอคิดว่าเป็นก้อนเลือดที่แข็งตัวแล้วจึงพยายามดึงออก แต่มันกลับผลุบเข้าไปในรูจมูกของเธอ จากนั้นขณะที่เธอกำลังอาบน้ำ เธอเห็นก้อนสีดำหลุดลงมาเกือบถึงริมฝีปากของเธอ เธอจึงไปดูใกล้ๆ ที่กระจก และพบว่า มันเป็นปลิง หลังจากนั้นเธอจึงรีบเดินทางไปโรงพยาบาล โดยแพทย์ต้องใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมง จึงจะสามารถนำปลิงออกมาจากจมูกเธอได้

(ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : independent.co.uk)

อึ้ง!! พบปลิง 3 นิ้ว ในรูจมูกสาวสกอต - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

สหรัฐสั่งยกเครื่องมาตรการป้องกันอีโบลา



รัฐบาลสหรัฐประกาศแก้ไขมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระะบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศใหม่ทั้งหมด เพื่อเร่งหาสาเหตุการที่พยาบาลสาวติดเชื้อไวรัสมรณะจากชายชาวไลบีเรียซึ่งเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/jU3NP6yAZrE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

CDC: We have to rethink Ebola protocols - YouTube



Dallas nurse had extensive contact with Ebola patient - YouTube

วันอังคาร 14 ตุลาคม 2557 เวลา 09:39 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ว่านพ.ทอม ฟรีเดน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐ ( ซีดีซี ) แถลงเรื่องการรื้อกระบวนการควบคุมและป้องกันการแพร่ระะบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศ เพื่อทบทวนและปรับปรุงใหม่ทั้งหมด หลังนายโธมัส เอริค ดันแคน ชายชาวไลบีเรียซึ่งนำเชื้อไวรัสมรณะเข้ามาในสหรัฐและเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แพร่เชื้อต่อให้กับหนึ่งในพยาบาลซึ่งรับหน้าที่ดูแล

ทั้งนี้ พยาบาลคนดังกล่าวได้รับการอนุญาตจากครอบครัวให้เผยชื่อ คือน.ส.นีนา แฟม อายุ 26 ปี และนอกจากแฟมแล้ว เจ้าหน้าที่อีกราว 70 คนของโรงพยาบาลเทกซัสเพรสบิเทียเรียน ในเมืองดัลลัส สถานที่ทำงานของแฟมและรับรักษาดันแคน ต้องเข้ารับการกักบริเวณเพื่อเฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 21 วัน ซึ่งอยู่ในระยะการฟักตัวของเชื้อไวรัสอีโบลาด้วย

ขณะที่ผลการสืบสวนเรื่องการติดเชื้อของแฟมยังไม่ได้รับความกระจ่างมากนัก นอกจากมีการยืนยันว่า เธอสวมเครื่องป้องกันอย่างรัดกุมตลอดเวลาที่เข้า-ออกห้องของผู้ป่วย และเธอเข้าไปถูพื้นทำความสะอาดห้องหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลส่วนหนึ่งระบุว่า ดันแคนเคยท้องเสียอย่างหนักครั้งหนึ่ง และพยาบาล "มีปัญหา" กับการเก็บกวาดของเสียจากร่างกายผู้ป่วย

ด้านสมาคมพยาบาลแห่งรัฐเทกซัสออกแถลงการณ์ปกป้องแฟม โดยเรียกร้องให้รัฐบาลวอชิงตันยุติการโยนความผิดให้กับเธอ หลังซีดีซีกล่าวหาว่า แฟมไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัย ซึ่งนพ.ฟรีเดนออกมากล่าวขอโทษแล้ว

สหรัฐสั่งยกเครื่องมาตรการป้องกันอีโบลา | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

เอลซัลวาดอร์แผ่นดินไหว 7.4 แมกนิจูด



แผ่นดินไหวรุนแรง 7.4 แมกนิจูด นอกชายฝั่งของเอลซัลวาดอร์ เบื้องต้นยังไม่เกิดความเสียกหายแต่มีการเฝ้าระวังสึนามิตลอดแนวชายฝั่งแล้ว

วันอังคาร 14 ตุลาคม 2557 เวลา 11:55 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซานซัลวาดอร์ ประเทศเอลซัลวาดอร์ เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ว่าสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ( ยูเอสจีเอส ) รายงานการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.4 แมกนิจูด เมื่อเวลา 21.51 น. ตามเวลาท้องถิ่นของเอลซัลวาดอร์ ( 10.51 น. วันอังคารตามเวลาในประเทศไทย ) โดยมีจุดศูนย์กลางลึกลงไปใต้ทะเลราว 70 กิโลเมตร และห่างจากกรุงซานซัลวาดอร์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 170 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ยูเอสจีเอสออกประกาศเตือนภัยสีเหลืองด้วย เพื่อเป็นสัญญาณเตือนว่ามีความเสี่ยงที่แรงสั่นสะเทือนจะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์ รวมถึงอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตเช่นกัน ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิกยังไม่พบแนวโน้มการก่อตัวของคลื่น แต่มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ความเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำตามแนวชายฝั่งของนิการากัว ฮอนดูรัส และเอลซัลวาดอร์อย่างใกล้ชิด

เอลซัลวาดอร์แผ่นดินไหว 7.4 แมกนิจูด | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

คาตาลันยกเลิกลงประชามติแยกตัวจากสเปน



ทางการแคว้นคาตาลันซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสเปน ประกาศยกเลิกการจัดลงประชามติเรื่องการแยกเอกราชในวันที่ 9 พ.ย. แต่เตรียมใช้ "วิธีอื่น" แทน


<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/sD8qYtAbCHM?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันอังคาร 14 ตุลาคม 2557 เวลา 10:03 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ว่าคณะผู้บริหารแคว้นคาตาลันออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ ยกเลิกแผนการจัดลงประชามติว่าด้วยการแยกเอกราชออกจากสเปน ตามกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 พ.ย. นี้ โดยนายอาร์เทอร์ มาส ประธานาธิบดีแห่งแคว้นคาตาลัน จะเผยนโยบาย "ทางเลือก" สำหรับทุกฝ่ายในวันนี้ ซึ่งจะเป็นการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างแท้จริง

การตัดสินใจดังกล่าวของทางการคาตาลันมีขึ้นหลังคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสเปนมีคำวินิจฉัยเมื่อปลายเดือนก.ย. ระงับการลงประชามติของแคว้นคาตาลันอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งเป็นไปตามคำร้องของนายกรัฐมนตรีมาริอาโน ราฮอย ซึ่งประกาศอย่างชัดเจนว่า ผืนแผ่นดินทุกตารางนิ้วในสเปนไม่สามารถแยกออกจากกันได้

แคว้นคาตาลันตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสเปน มีประชากรอาศัยอยู่ราว 7.5 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 16 ของประชากรสเปนทั้งประเทศ และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสเปนซึ่งฝืดเคืองอย่างหนักในระยะหลัง เนื่องจากมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่พอกับโปรตุเกสทั้งประเทศ

คาตาลันยกเลิกลงประชามติแยกตัวจากสเปน | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ดันน้ำตกไผ่สีทองแหล่งเที่ยวใหม่



พิษณุโลกผลักดัน “น้ำตกไผ่สีทอง”ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัด ยันทุกอย่างปลอดภัย เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติไหลลงลำน้ำเข็ก มีความสูงลดหลั่น 9 ชั้น สวยงามแตกต่างกันไป



วันอังคาร 14 ตุลาคม 2557 เวลา 09:57 น.
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายคำเงินแก้วอินทิม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 บ้านตอเรือต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลกว่า ชาวบ้านตอเรือ ได้เตรียมพัฒนาเส้นทางเข้าน้ำตกไผ่สีทอง ซึ่งเป็นน้ำตกที่ชาวบ้านค้นพบ และทาง จ.พิษณุโลก กำลังเตรียมเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดฯ เนื่องจากในช่วงนี้น้ำตกไผ่สีทองมีความสวยงาม มีน้ำไหลเย็นฉ่ำ แต่ละชั้นสวยงามแตกต่างกันไปท่ามกลางธรรมชาติของป่าเบญจพรรณ



โดยน้ำตกดังกล่าว นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางผ่านทางหลวงหมายเลข 12 สายพิษณุโลก - หล่มสัก เลี้ยวขวาเข้าถนนบ้านแก่งจูงนาง-บ้านรักไทยอำเภอเนินมะปราง ประมาณ 15 กม.ก็จะถึงน้ำตกไผ่สีทอง ซึ่งได้มีการสำรวจเบื้องต้นแล้วพบว่ามีความสวยงามถึง 9 ชั้น แต่ละชั้นสวยงาม และลดหลั่นกันไป แต่ที่งดงามมากคือ ชั้นที่ 5 และชั้นที่ 9 ซึ่งเป็นโขดหินสูงกว่า 15 เมตร น้ำตกไหลเย็นฉ่ำนักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมน้ำตกทั้ง 9 ชั้น ในระยะทาง 1.5 กม. ได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตามในวันที่ 21 ต.ค. นี้ ทางจังหวัดฯจะเปิดตัวเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติผสมผสานกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เนื่องจากบริเวณนั้นจะมีสวนเกษตรพืชผักผลไม้หลากหลายชนิด โดยจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มาก









นอกจากนี้ในอนาคตจะจัดให้มีการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ในพื้นที่อีกทางหนึ่ง พร้อมกันนี้ทางจังหวัดพิษณุโลกจะได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างทำฝายชะลอน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำให้สามารถไหลได้ตลอดปีด้วย.

ดันน้ำตกไผ่สีทองแหล่งเที่ยวใหม่ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

เกาหลีเหนือเผยภาพถ่ายชุดล่าสุดของท่านผู้นำ



ทางการเกาหลีเหนือเผยแพร่ภาพถ่ายชุดล่าสุดของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุด โดยมีจุดสังเกตสำคัญอยู่ที่การใช้ไม้เท้าช่วยพยุงร่างกายตลอดเวลา ถือเป็นการสยบข่าวลือเรื่องการหายตัวไปนานกว่า 1 เดือนเพราะถูกยึดอำนาจและป่วยหนัก

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/s1ZJzryVaa8?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันอังคาร 14 ตุลาคม 2557 เวลา 08:19 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ว่าสำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) เผยภาพถ่ายชุดล่าสุดของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ขณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างและพัฒนาที่อยู่อาศัย "ไวซอง" สำหรับนักวิทยาศาสตร์ในโครงการดาวเทียมของรัฐ และยังเดินทางต่อไปเยี่ยมชมสถาบันพลังงานธรรมชาติและวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งรัฐ ซึ่งเพิ่งก่อสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ด้วย



ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจ คือการที่นายคิม จอง-อึน ปรากฏตัวพร้อมถือไม้เท้าสีดำเอาไว้ในมือข้างซ้ายตลอดเวลาเพื่อช่วยในการทรงตัว ขณะที่หนังสือพิมพ์ "โนดอง ชินมุน" สื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง ตีพิมพ์ภาพผู้นำสูงสุดของประเทศบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ฉบับวันอังคาร แต่เป็นภาพถ่ายที่เห็นเพียงท่อนบนเท่านั้น



แม้รายงานของเคซีเอ็นเอจะไม่ได้ระบุวันที่และเวลาของเหตุการณ์ในภาพชุดล่าสุดของนายคิม จอง-อึน อย่างชัดเจน และไม่เผยข้อมูลอย่างชัดเจน ว่าเพราะเหตุใดท่านผู้นำต้องใช้ไม้เท้าช่วยในการทรงตัว แต่นักวิเคราะห์เชื่อเป็นความต้องการยุติกระแสข่าวลือจากโลกภายนอก เกี่ยวกับอาการป่วยของผู้นำหนุ่มแห่งเกาหลีเหนือ ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อกันว่ามีอายุราว 30-31 ปี และบทวิเคราะห์ต่างๆนานาเกี่ยวกับความพยายามล้มล้างอำนาจตระกูลคิม



นายคิม จอง-อึน ปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. โดยเป็นการเดินทางไปร่วมชมคอนเสิร์ตกับภรรยา คือนางรี ซอล-จู แล้วหายหน้าไปนับจากนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเกาหลีเหนือยืนยันมาโดยตลอด ว่าสุขภาพของท่านผู้นำยัง "แข็งแรงดี"
เกาหลีเหนือเผยภาพถ่ายชุดล่าสุดของท่านผู้นำ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

Kaokala Fc
13 ต.ค. ฮือฮา เชื่อเจอ"โครงกระดูกแวมไพร์"ในยุโรปตะวันออก อายุกว่า 700 ปี มี"แท่งหมุดปักหน้าอก"



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผุ้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีเชื่อว่า ได้ขุดพบโครงกระดูกของผีดูดเดือด หรือแดร๊กคิวล่า ในสุสานแห่งหนึ่งในประเทศบัลกาเรีย โดยโครงกระดูกดังกล่าวมีแท่งหมุดปักหน้าอก ตามความเชื่อว่าเป็นวิธีสังหารพวกแวมไพร์



โดยศาสตราจารย์นิโคไล โอฟชารอฟ นักโบราณคดี เผยว่า เขาเชื่อว่า โครงกระดูกนี่เป็นศพของแวมไพร์ หรือแดร๊กคิวล่า ซึ่งถุกกระทำพิธีสังหารด้วยการใช้แท่งหมุดปักที่หน้าอก อย่างไรก็ตาม ในช่วงยุคโบราณ การใช้หมุดปักอกนี้ยังใช้กระทำกับศพของคนที่ฆ่าตัวตายด้วย

โดยร่างกระดูกนี้มีอายุตั้งแต่ยุค ค.ศ.ที่ 1300 และเชื่อว่าได้เสียชีวิตลงด้วยเหตุผลบางอย่าง ก่อนจะถูกผู้คนนำหมุดมาปักที่หน้าอกเพราะเป็นแวมไพร์ นอกจากนี้ กระดูกขาข้างหนึ่งของเขายังถูกเคลื่อนย้ายออกไปด้วย

ฮือฮา เชื่อเจอ"โครงกระดูกแวมไพร์"ในยุโรปตะวันออก อายุกว่า 700 ปี มี"แท่งหมุดปักหน้าอก" (ชมภา

 

Kaokala Fc
14 ต.ค. ของเล่นใหม่'เฟซบุ๊ก'!ส่งสติกเกอร์ในช่องคอมเมนต์ได้แล้ว



'เฟซบุ๊ก'ผุดฟีเจอร์ใหม่ ให้คอโซเชียลมีเดียส่งสติกเกอร์ในช่องคอนเมนต์ได้แล้ว

'เฟซบุ๊ก'ผุดของเล่นใหม่ให้ชาวโลกโซเชียลมีเดียได้สนุกกันอีกครั้ง เมื่อผู้ใช้สามารถกดส่งสติกเกอร์แทนคำพูดผ่านช่องแสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกับที่่ส่งในช่องสนทนาได้แล้ว



ทั้งนี้แนวคิดฟีเจอร์ส่งสติกเกอร์ในช่องความคิดเห็น หรือช่องคอมเมนต์ เป็นโปรเจ็คที่ทดลองสร้างขึ้นเพียงชั่วความคืนโดยทีมงานของเฟซบุ๊ก โดยเมื่อลองให้เพื่อนร่วมงานในบริษัททดลองใช้พบว่าแต่ละคนชอบมาก ทางทีมงานจึงพัฒนาต่อยอดขึ้นเป็นเวอร์ชั่นสมบูรณ์ เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้เช่นกัน

ผู้สนใจทดลองใช้สามารถคลิกหน้ารูปยิ้มด้านขวาของช่องแสดงความคิดเห็นได้เลย ของเล่นใหม่'เฟซบุ๊ก'!ส่งสติกเกอร์ในช่องคอมเมนต์ได้แล้ว - โพสต์ทูเดย์ ข่าวดิจิตอลไลฟ์

 

Kaokala Fc
13 ต.ค. “แพทย์-พยาบาลไลบีเรีย” รวมตัวผละงานเที่ยงคืนนี้ หลังต่อรอง “ค่าตอบแทนสู้อีโบลา” ไม่คืบ



เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ในไลบีเรียจะเริ่มต้นการผละงานในเที่ยงคืนวันจันทร์(13)นี้เป็นต้นไปหลังจากรัฐบาลไลบีเรียล้มเหลวในการหาขอสรุปเรื่องค่าตอบแทนที่เหมาะสมในประเทศที่เป็นหนึ่งในศูนย์กลางระบาดของโรคอีโบลาที่คร่าชีวิตชาวไลบีเรียไปกว่า 2,000 คน ซึ่งทางสหภาพเจ้าหน้าที่การแพทย์ไลบีเรียต้องการค่าตอบแทน 1,200 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับพยาบาลในหอผู้ป่วยอีโบลา พร้อมประกันชีวิต และต้องการสถานที่ทำงานที่ปลอดเชื้อมากกว่านี้สวนทางกับความเป็นจริงที่ได้รับเพียง 80 ดอลลาร์ต่อเดือน

เจ้าหน้าที่การแพทย์ในไลบีเรียจำนวนมากเริ่มต้นประท้วงผละงานเพื่อเรียกร้องค่าตอบแทนในวันจันทร์(13)เพื่อร้องขอค่าตอบแทนที่เหมาะสมสำหรับเจ้าหน้าที่แนวหน้าที่ต้องปฎิบัติงานกับคนไข้โรคอีโบลา และการผละงานครั้งนี้ส่งผลทำให้เกิดความพยายามในการกำจัดอีโบลาของรัฐบาลไลบีเรียต้องมีอุปสรรค

โดยสหภาพเจ้าหน้าที่การแพทย์ไลบีเรียที่ประกอบได้วย แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ด้านอื่นต้องการให้มีค่าตอบแทนที่เหมาะสม รวมไปถึงการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมสำหรับการทำงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่การแพทย์ในแอฟริกาตะวันตกต้องจบชีวิตเป็นจำนวนมากเพราะอีโบลา และในสัปดาห์ที่ผ่านมาอีโบลาได้คร่าชีวิตแพทย์ที่มีชื่อเสียงของประเทศไปอย่างน้อย 2 คน

อย่างไรก็ตามมีเจ้าหน้าที่การแพทย์บางส่วนได้เริ่มผละงานก่อนหน้านี้โดยอ้างว่า ที่โรงพยาบาลไม่มีอุปกรณ์ป้องกันโรคอีโบลาที่เหมาะสมเพื่อที่จะทำให้มีความมั่นใจสามารถทำงานต่อไปได้ แต่ จอร์จ วิลเลียมส์ (George Williams) เลขาธิกาใหญ่สมาพันธ์เจ้าหน้าที่การแพทย์แห่งชาติไลบีเรีย หรือ National Health Workers Association of Liberia ที่มีสมาชิกถึง 10,000 คนกล่าวว่า ทางสมาพันธ์ต้องการเรียกร้องเพิ่มค่าตอบแทนให้ผู้ปฎิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยอีโบลาขึ้นราว 12,000 ดอลลาร์ต่อเดือน รวมไปถึงประกันสุขภาพ และปรับปรุงให้สถานทำงานมีความปลอดเชื้อเพิ่มมากขี้น

โดยวิลเลียมส์ระบุว่า ในขณะนี้เจ้าหน้าที่การแพทย์ไลบีเรียได้รับค่าตอบแทนราว 80 ดอลลาร์ ซึ่งต่างจากอัตราทางการระบุไว้เกือบ 500 ดอลลาร์

Tolbert Nyenswah ผู้ช่วยสาธารณสุขไลบีเรีย ให้สัมภาษณ์เอพีว่า ผู้ทำงานในวงล้อมโรคอีโบลาได้รับค่าตอบแทนต่ำกว่าเมื่อเริ่มการระบาดของที่ 700 ดอลลาร์ มาจนถึงในอัตราปัจจุบันที่ 435 ดอลลาร์ต่อเดือนเพราะจากปัญหาสภาพเศรษฐกิจของประเทศ

ซึ่งตัวแทนจากเจ้าหน้าที่การแพทย์และรัฐบาลไลบีเรียได้ร่วมเจรจาในวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาและต้องเข้าสู่โหมดล็อกทางการเมืองเพราะรัฐบาลไลบีเรียปฎิเสธจะทำตามข้อเสนอของทางสมาพันธ์ และวิเลียมส์กล่าวต่อว่า “เป็นความผิดของรัฐบาลไลบีเรีย ดังนั้นหากประชาชนไลบีเรียที่คิดว่า “มากเกินไป” ควรจะหันกลับไปถาม “รัฐบาลไลบีเรีย”

 

Kaokala Fc

13 ต.ค. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขไลบีเรีย บางส่วนยังคงเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ สวนกระแสข้อเรียกร้องให้ผละงานประท้วง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายค่าความเสี่ยงเพิ่มในการต่อสู้กับอีโบลา ไลบีเรียเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดของไวรัสอีโบลา

จนท.สาธารณสุขไลบีเรีย ทำงานปกติไม่สนประท้วง



เจ้าหน้าที่สาธารณสุขไลบีเรีย บางส่วนยังคงเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ สวนกระแสข้อเรียกร้องให้ผละงานประท้วง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายค่าความเสี่ยงเพิ่มในการต่อสุ้กับอีโบลา

วันจันทร์ 13 ตุลาคม 2557 เวลา 20:45 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมันโรเวียประเทศไลบีเรีย เมื่อวันที่13 ต.ค.ว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไลบีเรียบางคนยังมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติโดยไม่สนเสียงเรียกร้องให้ผละงานประท้วงท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาอย่างไรก็ตาม ภาพก็ยังไม่ชัดเจนเพราะมีรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่บางคนก็ทำตามข้อเรียกร้องหยุดงานประท้วงทั้งนี้ สมาคมบุคลากรสาธารณสุขแห่งชาติต้องการให้รัฐบาลเพิ่มเงินค่าความเสี่ยงรายเดือนสำหรับเจ้าหน้าที่ที่รักษาผู้ป่วยอีโบลา

ไลบีเรียเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดของไวรัสอีโบลาซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า4,000 คนในไลบีเรีย,เซียร์รา ลีโอน,กินี และไนจีเรียตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในเดือนมี.ค.

นางมาร์กาเรตชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกหรือฮู กล่าวว่า การระบาดของอีโบลาเป็นภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของสังคมและรัฐบาลในประเทศยากจนอย่างมาก

เฉพาะในไลบีเรียจนถึงขณะนี้ มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข95 คนเสียชีวิตจากอีโบลาและสมาคมบุคลากรสาธารณสุขแห่งชาติกล่าวหาว่ารัฐบาลไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอในการปกป้องพวกเขาจึงเรียกร้องให้มีการผละงานประท้วงเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายค่าความเสี่ยง700 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนซึ่งปัจจุบันนี้ ได้ไม่ถึง500 ดอลลาร์ต่อเดือนขณะที่เงินเดือนพื้นฐานอยู่ระหว่าง200-300 ดอลลาร์สหรัฐ


จนท.สาธารณสุขไลบีเรีย ทำงานปกติไม่สนประท้วง | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

สธ.-สปสช. จัดลงตัวเคลียร์งบเงินเดือนปี 58
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ต.ค. 2557 10:39



สธ.-สปสช.ได้ข้อสรุปร่วมเบื้องต้นเรื่องจัดสรรงบเงินเดือนปี 58 เผยงบเงินเดือนสธ.คิดเป็นร้อยละ 3 หรือ 1,800 ล้านบาท ให้เขตสุขภาพ แต่ละเขตจะได้รับ 100 ล้านบาท ส่วนอีกร้อยละ 1 ให้สป.สธ.จัดสรร...

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการหารือร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกรณีการจัดสรรงบประมาณปี 2558 ว่า ล่าสุด สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้หารือร่วมกับคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง ซึ่งมี ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เป็นประธาน เพื่อหารือการจัดสรรงบประมาณปี 2558 แบบใหม่ให้แก่โรงพยาบาลในสังกัด สธ.นั้น ได้มติเบื้องต้น คือ วิธีการกระจายเงินเดือนให้แก่บุคลากรใน สธ.ทั้งหมด โดยเงินเดือนของบุคลากรใน สธ. คิดเป็นร้อยละ 3 หรือประมาณ 1,800 ล้านบาท จะมีการแบ่งการกระจายดังนี้ ในระดับเขตสุขภาพจะได้ร้อยละ 2 หรือประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยแต่ละเขตจะได้รับเงินเดือนประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อกระจายให้แต่ละโรงพยาบาลตามเขตของตนเอง แต่ขอย้ำว่าผู้ที่ถือเงิน ยังคงเป็นที่ สปสช.ทำหน้าที่กระจายเงิน



นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ส่วน สป.สธ.จะได้รับงบเงินเดือนเพื่อจัดสรรร้อยละ 1 หรือประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อทำหน้าที่กระจายงบให้แก่พื้นที่ที่จำเป็นต้องได้รับงบฯเพิ่ม อาทิ พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พื้นที่ที่เสี่ยงภัย จะได้รับเงินเดือนมากกว่าพื้นที่ปกติ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องดีที่ได้มีการหารือกัน ซึ่งจะทำให้โรงพยาบาลต่างๆ มั่นใจมากขึ้น โดย ในวันนี้ (13 ต.ค.) สป.สธ.ได้เรียกประชุมผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) เพื่อชี้แจงนโยบายในการปฏิรูปการเงินการคลังสุขภาพ โดยได้แจ้งถึงความคืบหน้าจากการหารือกับ สปสช.ด้วย.

สธ.-สปสช. จัดลงตัวเคลียร์งบเงินเดือนปี 58 - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ผู้พเนจร จากฟากฟ้า

ตอน 1 ทวีปมู (Mu) หรือ เลมูเรีย (LeMUria) มหาทวีปที่สาปสูญ


.
ประวัติอารยธรรมเลมูเรีย
อารยธรรมเลมูเรียเริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 50,000 ปีที่แล้ว(ช่วงปลายยุคน้ำแข็ง ซึ่งกำลังละลาย) หลังจากนั้นใช้เวลาอีกประมาณ 10,000 ปี ในการรวบรวมกันขึ้นเป็นชุมชน และมันก็ใช้เวลาค่อยๆก่อตัวขึ้นเป็นรูปเป็นร่างจริงๆ อีก 5,000 ปี ในการรวมกันขึ้นเป็นสังคมที่มีศูนย์กลางการปกครองเดียว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณแปซิฟิก และยืนยงอยู่ได้ยาวนานถึง 20,000 ปี
.
มันคืออารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก มันไม่ได้ยิ่งใหญ่ในแง่ของจำนวนประชากร แต่ยิ่งใหญ่ในแง่ของ "ระดับจิตสำนึก" มันไม่ใช่อะไรที่พวกคุณจะสามารถเทียบติดได้เลย เพราะว่ามันเป็นหนึ่งในอารยธรรมตั้งต้นของมนุษยชาติ
.
ดาวเคราะห์โลกเคยหมุนรอบตัวเองด้วยแกนที่เอียง 28 องศา นั่นคือเมื่อก่อนโน้น ไม่ใช่ในตอนนี้ ยิ่งกว่านั้นสภาพทางธรณีวิทยาของดาวเคราะห์โลกเมื่อ 40,000 ปีก่อน ก็แตกต่างไปจากปัจจุบันนี้เป็นอย่างมากด้วย
มนุษย์เคยอยู่ในช่วงปลายของยุคน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมาก่อน และมนุษย์ก็เคยประสบกันมันมาก่อนแล้ว อุณหภูมิของดาวเคราะห์โลกใบนี้ ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่มีอยู่ในโลก ว่ามากน้อยแค่ไหน วัฏจักรน้ำบนโลกเป็นตัวควบคุมอุณหภูมิของโลกและกระแสลม สิ่งที่เรากำลังจะบอกก็คือ ความแตกต่างกันอย่างมหาศาลของโลกในยุคนั้นกับในยุคนี้ ในยุคนั้น 1 ใน 3 ของน้ำที่มีอยู่บนโลก คือน้ำแข็ง นั่นจึงทำให้มหาสมุทรในยุคนั้น มีความแตกต่างกับในยุคนี้ ที่พวกเรารู้จักเป็นอย่างมาก
.
ระดับน้ำทะเลเฉลี่ยในมหาสมุทรในตอนนั้น ต่ำกว่าในตอนนี้ถึง 133 เมตร หรือประมาณ 400 ฟุต พวกคุณพอจะนึกภาพออกไหมว่า ทวีปต่างๆของพวกคุณ น่าจะมีหน้าตาอย่างไร ถ้าผืนแผ่นดินอยู่ต่ำกว่าทุกวันนี้อีก 400 ฟุต ส่วนของภูเขาที่จมอยู่ใต้น้ำในตอนนี้ ก็จะโผล่ขึ้นมา มันจะแตกต่างไปอย่างมาก
.
รอบๆ ฐานของเกาะที่พวกคุณเรียกกันว่า “เกาะฮาวาย” ซึ่งมันเคยเป็น และยังเป็นภูเขาที่มีความสูงมากที่สุดในโลก ถ้าวัดจากฐานของมัน ชาวเลมูเรียพวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาอาศัยอยู่ในแอ่ง ในหุบเขา ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล และรอบๆอาณาจักรของพวกเขาก็โอบล้อมไปด้วยน้ำ แต่ว่าทะเลหลักๆทั้งหลาย ก็ถูกกั้นไว้ด้วยแนวเขาสูงต่างๆมากมาย ที่ทุกวันนี้ไม่สูงอีกต่อไปแล้ว แต่ว่าแนวเขาเหล่านั้นก็ตั้งอยู่บนแนวรอยต่อของเปลือกโลก และนี่แหละคือการตระเตรียมการ คือสถานการณ์ ที่สลับซับซ้อน
.
แต่ว่ามันมีแผ่นดินอยู่ในบางส่วนของก้นมหาสมุทรแปซิฟิกจริงๆ ชาวเลมูเรียก็รู้อยู่แก่ใจตลอดเวลาว่า พวกเขาเสี่ยงต่อการจมอยู่ใต้ทะเล และควรจะย้ายขึ้นไปอยู่ในที่ๆสูงกว่า แต่ตราใดที่อุณหภูมิของโลกยังคงเย็นอยู่ พวกเขาก็เลยยังไม่เป็นอะไร แต่พวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาอาศัยอยู่ในเงาของ “จุดร้อน” ที่ๆพวกคุณเรียกกันว่ารอยเลื่อนของเปลือกโลกขนาดใหญ่ (Tectonic plates) หรือวงแหวนแห่งไฟ(The Ring of Fire) และพวกเขาก็รู้ว่า มันอาจจะเลื่อนอีกซักวัน เพราะว่ามันก็เคยเลื่อนมาก่อนหน้านั้นแล้ว เกาะที่พวกเขาพึ่งพาอาศัยอยู่ทั้งหลาย ก็ล้วนแต่เคยเป็นภูเขาไฟที่ยังตื่นอยู่มาก่อนทั้งนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงตกอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทุของภูเขาไฟเหล่านี้
.
หลังจากนั้นเมื่อ 15,000 ปีก่อน น้ำแข็งเริ่มละลาย ความสมดุลของน้ำบนโลกเปลี่ยนไป เกิดน้ำท่วมโลกรอบที่ 1 และไหลเข้าท่วมอาณาจักรเลมูเรีย ที่เป็นแอ่งนั้นจนหมดสิ้น พังพินาศลงด้วยภัยพิบัติ Pole shift หรือขั้วโลกพลิก
.
อารยธรรมของชาวเลมูเรียเจริญรุ่งเรืองสุดขีด ในช่วง 35,000 – 15,000 ปีที่แล้ว
.
ก็เห็นพ้องต้องกันครับว่า อาณาจักรที่เก่าแก่ยืนนานที่สุดในโลกที่เป็นอารยธรรมของ"มนุษย์โลก"จริงๆนั้น คือ มู:ทวีปแห่งมารดร นครอันตธานที่จมหายลงใต้ทะเลแปซิฟิกใต้เมื่อกว่า 15,000 ปีก่อน

 

Kaokala Fc
14 ต.ค. โตเกียวอ่วมแน่ !ญี่ปุ่นเตือนภัย ไต้ฝุ่น หว่องฟง ถึงวันนี้



ชาวโตเกียวลุ้นระทึก ไต้ฝุ่นหว่องฟงมาถึงแน่วันนี้ ขณะที่ทางการญี่ปุ่นเตือนระวังเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่มบนเกาะคิวชู หลังอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นแรงสุดแห่งปี ทำให้เกิดฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝนได้หลายร้อยมิลลิเมตร



เมื่อวันที่ 14 ต.ค.สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นหว่องฟง พายุไต้ฝุ่นรุนแรงสุดแห่งปี เคลื่อนตัวถล่มเกาะโอกินาวา ทางภาคใต้ของประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 ต.ค. จากนั้นได้เคลื่อนตัวขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก และเกิดดินโคลนถล่มบนเกาะคิวชู เมื่อเช้าวันที่ 13 ต.ค.ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทางการญี่ปุ่นกำลังเกิดความวิตกกังวลถึงอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นกำลังแรงลูกนี้ ซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝนได้หลายร้อยมิลลิเมตรในช่วง 24 ชม.นั้น อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่มขึ้นได้



ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอิทธิพลของไต้ฝุ่น หว่องฟงแล้วกว่า 60 คน และสูญหาย 1 คน ซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนัก จนต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นระเนระนาดจำนวนมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการต้องอพยพประชาชนหลายแสนคนให้ไปพำนักในที่ปลอดภัย รวมถึงเที่ยวบินกว่า 300 เที่ยว ต้องถูกยกเลิก และรถไฟความเร็วสูง บนเกาะคิวชู ต้องหยุดให้บริการขณะพายุเคลื่อนตัวผ่านเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา



ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นรายงานเตือนว่า พายุไต้ฝุ่นหว่องฟงจะเคลื่อนตัวถึงกรุงโตเกียว นครหลวงในวันอังคารนี้ (14 ต.ค.) โดยถึงแม้ พายุไต้ฝุ่นลูกนี้ได้ลดระดับความรุนแรงลงแล้ว เพียงแต่ก็ยังถือเป็นพายุใหญ่ที่สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงได้ตลอดเวลา
http://www.thairath.co.th/content/456665

 

Mathurose Phachpangan ผ่าน TheAsianParent Thailand

เกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อคลอดลูก
Written by theAsianparent Editorial Team

สำหรับคนที่เตรียมตัวคลอดลูก อยากรู้ว่าการคลอดลูกมีกระบวนการอะไรบ้าง แล้วคุณต้องเตรียมตัวในการคลอดลูกอย่างไร เราจะเล่าให้ฟัง หากคุณเตรียมตัวมาดี การคลอดลูกจะเป็นไปได้ง่ายขึ้นและคุณจะไม่เกิดอาการช็อคกับอะไรบางอย่างที่ต้องเจอ

เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงอย่างเราจะกลัวการเจ็บท้องคลอดลูกแต่ทันทีที่ลูกคลอดออกมาสู่โลกกว้างและเราได้เห็นเขาเป็นครั้งแรกก็ทำให้เราปลาบปลื้ม เต็มไปด้วยความรักและความยินดีจนลืมความเจ็บปวดไปทันที


@เกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อ “คลอดลูก”

แม้ว่าคุณแม่หลายท่านจะแย้งว่าแต่ละคนก็จะมีประสบการณ์การคลอดลูกที่แตกต่าง ความรู้สึกและรายละเอียดที่แปลกกันออกไป แต่สำหรับผู้ที่จะกลายเป็นแม่คนในครั้งแรกแล้ว ความรู้สึกนี้ ยิ่งเห็นได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับบรรดาคุณแม่มือใหม่ที่อดตื่นเต้นไม่ได้กับการมีลูกในครั้งแรก ก็จะขวนขวายหาข้อมูลเกี่ยวกับการคลอดลูกและการเลี้ยงดูลูกจากสารพัดแหล่งเพื่อเตรียมรับมือกับการปรับตัวครั้งสำคัญนี้

สิ่งที่รู้ ๆ กันแน่ ๆ หากคุณจะคลอดลูกโดยวิธีธรรมชาติคือการปวดท้องคลอด ความรู้สึกบางคนก็บอกว่าเหมือนปวดท้องเมนส์แต่มากกว่าประมาณ 10 เท่า บางคนก็บอกว่ามันเหมือนปวดท้องอยากถ่ายอุจจาระ เมื่อปากมดลูกเปิดเต็มที่ก็ถึงเวลาคลอดลูก ณ จุดนี้ประสบการณ์แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนคลอดลูกง่าย บางคนคลอดลูกยาก แล้วแต่สภาพร่างกายและปัจจัยหลาย ๆ อย่าง

แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่จะไว้ใจทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลทั้งคุณแม่และคุณลูกเป็นอย่างดีในห้องคลอด แต่การรู้กระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกน้อยหลังคลอดลูกก็จะช่วยให้ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

หลังจากที่คลอดลูกออกมาแล้ว

สิ่งแรกที่คุณหมอทำด้วยความระมัดระวังก็คือ การตัดสายสะดือของทารกที่ลำเลียงอาหารและออกซิเจนจากรกในครรภ์มารดาสู่ลูก แต่คุณหมอจะต้องแน่ใจเสียก่อนว่า ทารกได้รับเลือดจากรกในครรภ์ที่เพียงพอและไม่เสี่ยงต่อภาวะโลหิตจางและขาดธาตุเหล็ก
หลังจากการตัดสายสะดื้อเสร็จสิ้นลง พยาบาลก็จะทำความสะอาดเจ้าตัวน้อยอย่างคร่าว ๆ เพื่อกำจัดเมือกที่ห่อหุ้มตัวทารก
จากนั้นพยาบาลก็จะดูดน้ำคร่ำในปากและจมูกของทารกเพื่อเป็นการกระตุ้นและช่วยให้ทารกเริ่มหายใจ และคุณแม่ก็จะได้ยินเสียงร้องไห้ครั้งแรกของเจ้าตัวเล็ก
จากนั้นพยาบาลจะนำทารกมาวางไว้บนหน้าอกของคุณแม่เพื่อกระตุ้นสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกหลังคลอดลูก
ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจคัดกรองสุขภาพของทารกแรกเกิด เพื่อเช็คอัตราการเต้นของหัวใจ การทำงานของกล้ามเนื้อ ระบบการหายใจ การตอบสนองของกล้ามเนื้อ และความซีดจางของสีผิวเด็ก ขั้นตอนนี้นับว่าเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมากหลังคลอดลูก เนื่องจากแพทย์จะตรวจพบความผิดปกติต่าง ๆ และเร่งดำเนินการรักษาต่อไปอย่างทันท่วงที ในโรงพยาบาลบางแห่งแพทย์อาจตรวจความสมบูรณ์ของทารกขณะที่อยู่ในอ้อมกอดของคุณแม่ในห้องทำคลอด แต่โรงพยาบาลบางแห่งก็มีห้องปฎิบัติการเฉพาะสำหรับทารก
ลำดับต่อไปคือการติดป้ายชื่อที่ข้อมือของคุณแม่และทารก ขั้นตอนนี้นับว่ามีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้นคุณพ่อและคุณแม่ควรสังเกตให้แน่ใจว่าพยาบาลติดป้ายชื่อที่ถูกต้องให้ลูกก่อนที่จะพาลูกออกจากห้องทำคลอด
ปัจจุบันนี้โรงพยาบาลส่วนใหญ่จัดทำกรอบรอยเท้าเพื่อมอบให้คุณแม่เป็นที่ระลึกจำนวนหนึ่งชุด และอีกหนึ่งชุดจะเป็นรอยเท้าที่ทางโรงพยาบาลจะเก็บเอาไว้เพื่อเป็นฐานข้อมูลประจำตัวเด็ก
คุณหมอจะหยอดหรือป้ายยาปฎิชีวนะที่ตาของทารกเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้น จากนั้นพยาบาลจะชั่งน้ำหนัก วัดความสูงของทารกและฉีดวิตามินเคเพื่อให้เลือดจับตัวได้ดีและมีประสิทธิภาพ
ถ้าหากว่าเจ้าตัวน้อยแข็งแรงสมบูรณ์ดีและร่างกายมีอุณหภูมิปกติ พยาบาลจะอาบน้ำสระผมและห่อเจ้าตัวเล็กให้อบอุ่นก่อนจะพาทารกไปยังห้องเด็กอ่อน
ที่สุดในชีวิตกับการคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติ

ข้อควรปฏิบัติเมื่อคลอดลูกด้วยการผ่าท้อง

ประสบการณ์คลอดลูกเองหลังจากที่เคยผ่าคลอดมาก่อน

Categories: การคลอดบุตร, คลอดธรรมชาติ

"คลอดลูก" มีกระบวนการขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

 

ข่าวข้น รับอรุณ



14 ตุลาคม 2521 เป็นวันที่หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี เตรียมละสังขาร หลังนิมิตว่าต้องเกิดอุบัติเหตุ คอหัก ศีรษะแตก เพื่อชดใช้หนี้นกที่ท่านเคยหักคอสมัยเด็ก ‪#‎NationTV‬



เนื่องจากวันที่ 14 ตุลาคม 2521 ได้เกิดอุบัติเหตุกับหลวงพ่อจรัญ หรือ พระธรรมสิงหบุราจารย์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี ตามที่หลวงพ่อจรัญท่านได้รู้ล่วงหน้า ว่าจะต้องเกิดเหตุกับท่าน ซึ่งหลวงพ่อจรัญได้เล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ 6 เดือนเศษ ท่านได้นั่งสมาธิและเห็นนิมิตบอกว่า วันที่ 14 ตุลาคม 2521 เวลาเที่ยงสี่สิบห้า ท่านต้องจากวัดตายไปใช้หนี้นกที่ท่านเคยหักคอสมัยเด็ก ซึ่งหลวงพ่อจรัญท่านก็คิดว่าน่าจะเป็นจริง จึงได้ทำการลาญาติโยม มอบสิ่งของเงินทองให้มัคนายก แต่งตั้งเจ้าอาวาสรองรับเอาไว้ เพื่อเตรียมที่จะละสังขาร



ครั้งถึงวันที่ 14 ตุลาคม 2521 หลวงพ่อจรัญได้รับหนังสือจากหลวงพ่อธรรมญาณ เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ให้เขาจะประชุมเจ้าคณะอำเภอกันทั้งหมดที่จังหวัดลพบุรี ขณะนั่งรถถึงบริเวณตลาดปากบาง ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงๆ ซึ่งหลวงพ่อก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส คอหัก ศีรษะแตก ระหว่างประสบอุบัติเหตุหลวงพ่อก็เห็นเจ้ากรรมนายเวรของท่านที่ท่านได้ทำกรรมเอาไว้ในสมัยเด็ก ท่านจึงได้ตั้งอธิษฐานจิตและในที่สุดท่านก็รอดชีวิตมาได้อย่างอัศจรรย์

ซึ่งนับจากนั้นมาในทุกวันที่ 14 ตุลาคม ของทุกปี ที่วัดอัมพวัน จึงจัดงานทำบุญขึ้นทุกปี เพื่อให้เป็นธรรมสังเวชกับลูกศิษย์ของหลวงพ่อ ซึ่งก็จะมีลูกศิษย์มาร่วมงานกันทุกปีเป็นจำนวนมาก

 

พยาบาลสหรัฐฯ 76% ไม่รู้วิธีรับมืออีโบลา
by พรรณิการ์ วานิช 13 ตุลาคม 2557 เวลา 21:11 น.

ในขณะที่สหรัฐฯและยุโรปเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการระบาดของอีโบลาอย่างเข้มข้น หลังเริ่มมีผู้ติดเชื้อนอกแอฟริกาตะวันตก กลับมีข้อมูลที่น่าตกใจออกมาว่าพยาบาลในสหรัฐฯเกือบร้อยละ 80 ไม่รู้ว่าต้องรับมือกับผู้ป่วยอีโบลาอย่างไร

ในวันนี้ สนามบินนานาชาติ 5 แห่งของสหรัฐฯ ได้เริ่มมาตรการเฝ้าระวังการระบาดของอีโบลา และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศจะอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมรับมือกับอีโบลา หลังจากสหรัฐฯต้องตกที่นั่งเดียวกับสเปน นั่นก็คือมีพยาบาลที่ติดเชื้ออีโบลาจากการดูแลผู้ป่วย โดยยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่าการติดต่อเกิดได้อย่างไร ทั้งที่พยาบาลทั้งชาวสเปนและอเมริกัน สวมถุงมือและอุปกรณ์ป้องกันเชื้ออย่างรัดกุมตามระเบียบทุกประการ

แต่ท่ามกลางสถานการณ์เตรียมพร้อมที่ดูแข็งขัน บรรดาแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในหลายประเทศ กลับไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตนเอง เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็มีตัวเลขปรากฏชัดเจนว่าในบรรดาผู้ติดเชื้ออีโบลากว่า 8,000 คน มีอย่างน้อย 416 คน หรือร้อยละ 5 ที่เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขซึ่งติดเชื้อจากผู้ป่วย และเสียชีวิตไปแล้ว 233 ราย และตอนนี้ กรณีพยาบาลสเปนและอเมริกันที่ติดเชื้ออีโบลา ก็เป็นเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดีว่าแม้แต่ในประเทศพัฒนาแล้วที่การระมัดระวังป้องกันโรคอยู่ในระดับสูงสุด ก็ยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อจากคนไข้สู่บุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างเต็มที่

ท่ามกลางความไม่แน่นอนเช่นนี้ มีการเปิดเผยสถิติที่น่าตกใจออกมาจาก National Nurse United สมาคมพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ทางสมาคมสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพยาบาล 2,000 คนทั่วประเทศ เพื่อวัดความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในสหรัฐฯในการรับมือกับอีโบลา ผลที่ออกมาพบว่าพยาบาลถึงร้อยละ 76 ยอมรับว่าโรงพยาบาลที่ตนเองทำงานอยู่ ไม่เคยมีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับหลักการทำงานเมื่อมีผู้ป่วยอีโบลาเข้ามรักษาตัวในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นการแยกผู้ป่วยออกจากผู้ป่วยคนอื่นๆ หรือการป้องกันแพทย์และพยาบาลจากการติดเชื้ออีโบลา

นอกจากนี้ พยาบาลถึงร้อยละ 85 ยังยอมรับว่าโรงพยาบาลที่ตนเองสังกัดไม่เคยจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอีโบลาในแบบที่ให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการถามคำถามหรือฝึกปฏิบัติเลย มีเพียงการให้ข้อมูลคร่าวๆเท่านั้น ซึ่งพยาบาลส่วนใหญ่ตระหนักดีว่าความไม่พร้อมเช่นนี้ เป็นสิ่งที่น่ากังวลใจอย่างมาก แต่ดูเหมือนว่าเวลาในการเตรียมพร้อมก็ได้หมดลงแล้ว เพราะอีโบลาเดินทางมาถึงสหรัฐฯและยังไม่มีใครรู้ว่าเชื้อโรคนี้แพร่ระบาดจากบุคลากรทางการแพทย์ออกมาสู่โลกภายนอกแล้วรึยัง

CDC หน่วยควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ ยอมรับว่าอาจมีการพบผู้ติดเชื้ออีโบลาในสหรัฐฯเพิ่มอีกหลายเคส เนื่องจากเป็นไปได้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่ดูแลนายโธมัส ดันแคน ผู้ป่วยอีโบลาในโรงพยาบาลที่เท็กซัส ที่ติดเชื้อจากนายคันแคนเช่นเดียวกับพยาบาลคนแรก และพวกเขาก็อาจแพร่เชื้อไปสู่คนใกล้ชิดแล้วโดยไม่รู้ตัว

พยาบาลสหรัฐฯ 76% ไม่รู้วิธีรับมืออีโบลา - VoiceTV

 

ดูไบผวาอีโบลาสั่งย้ายผู้โดยสารลงจากเครื่อง
by บุญญิสา เพ็งบุญมา 14 ตุลาคม 2557 เวลา 10:09 น.

สายการบินดูไบ สั่งย้ายผู้ป่วย 5 คน ทันที หลังพบมีอาการไข้ หวั่น เชื้อไวรัสอีโบลา ขณะสหรัฐฯ ชี้ มีความเป็นไปได้ต่ำมาก




สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงาน ลูกเรือเที่ยวบินดูไบได้เคลื่อนย้ายผู้โดยสารบนสายการบินพาณิชย์เร่งด่วน หลังพบผู้โดยสาร 5 คน มีอาการไข้ ทันทีที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบิน บอสตัน โลแกน เมื่อวานนี้ แต่หน่วยงานสาธารณสุขของสหรัฐ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ต่ำมากสำหรับการติดเชื้อไวรัสอีโบลาบนสายการบินดังกล่าว เนื่องจากไม่พบหลักฐานว่า ผู้ป่วยเดินทางไปยังประเทศที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อก่อนหน้านี้แม้แต่รายเดียว ซึ่ง นางเชลลี่ ดิแอซ โฆษกกรมควบคุมโรคระบาดของสหรัฐ ย้ำว่า โอกาสที่ผู้โดยสารจะติดเชื้อนั้นมีน้อยมาก

ขณะที่ โฆษกสายการบินเอมิเรตส์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของบอสตัน โดยระบุว่า ความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึง

ดูไบผวาอีโบลาสั่งย้ายผู้โดยสารลงจากเครื่อง - VoiceTV

 

'วาติกัน' เรียกร้องคาทอลิกทั่วโลกยอมรับเกย์
by Chatnarong Muangwong
14 ตุลาคม 2557 เวลา 11:43 น.

สภาบิชอปโรมันคาทอลิก ออกเอกสารรายงานขั้นต้นในการประชุมประจำปี ระบุว่าโบสถ์โรมันคาทอลิกควรเปิดกว้างให้กับกลุ่มคนรักเพศเดียวกันมากขึ้น พร้อมระบุด้วยว่า กลุ่มคนเหล่านี้เป็นกลุ่มที่มีพรสวรรค์และมีความสามารถในการสร้างสรรค์สังคม

"สภาบิชอปโรมันคาทอลิก" ในนครรัฐวาติกันออกเอกสารรายงานขั้นต้นของการประชุมประจำปีครั้งล่าสุด เรียกร้องให้โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกทั่วโลกให้การยอมรับกลุ่มคนรักเพศเดียวกันมากขึ้น โดยระบุกลุ่มคนรักเพศเดียวกันเป็นกลุ่มคนที่มีพรสวรรค์และมีความสามารถในการสร้างสรรค์สังคมว่า และคู่รักเพศเดียวกันหลายคู่เองก็มีการช่วยเหลือเกื้อกูล เสียสละ และสนับสนุนซึ่งกันและกันประหนึ่งคู่ชีวิต

เอกสารดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงมุมมองครั้งสำคัญของคริสตจักโรมันคาทอลิก เนื่องจากพฤติกรรมรักเพศเดียวกัน โดยเฉพาะการแต่งงานของคนเพศเดียวกันนั้นถูกต่อต้านจากกลุ่มเคร่งศาสนานิกายโรมันคาทอลิกมาโดยตลอด

เอกสารรายงานดังกล่าวมีความหนา 12 หน้า เกิดจากการอภิปรายและถกเถียงในที่ประชุมสภาตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการประชุมดังกล่าวมีสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเข้าร่วมในฐานะผู้นำการประชุม เอกสารรายงานระบุด้วยว่า โบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกทั่วโลกควรแสวงหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อสร้างความเป็นพี่เป็นน้องกับกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน ตราบใดที่แนวทางนั้นๆ ไม่กระทบต่อความเชื่อเกี่ยวกับครอบครัวและการแต่งงานของชาวคาทอลิก

สำนักข่าวรอยเตอร์สวิเคราะห์ว่า แม้ว่าเอกสารดังกล่าวจะไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อจุดยืนของวาติกัน ศูนย์กลางคริสตจักรโรมันคาทอลิก ซึ่งไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมรักเพศเดียวกัน ตลอดจนต่อต้านการแต่งงานของกลุ่มคนรักร่วมเพศแต่อย่างใด แต่เอกสารรายงานการประชุมครั้งล่าสุดนี้ก็ได้เลือกใช้ภาษาที่นุ่มนวลและเห็นอกเห็นใจต่อกลุ่มคนรักเพศเดียวกันมากกว่าสมัยพระสันตะปาปาองค์ก่อนๆ เช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สที่มองว่ารายงานดังกล่าวเป็นสัญญาณที่ดี เพราะที่ผ่านมาคริสตจักรโรมันคาทอลิกมองว่าพฤติกรรมรักเพศเดียวกันเป็นบาปมาโดยตลอด

ทั้งนี้ เนื้อหาในเอกสารการประชุมที่ตกเป็นที่สนใจไปทั่วโลกนี้เป็นเพียงรายงานการประชุมขั้นต้นเท่านั้น โดยหลังจากนี้ ที่ประชุมสภาพระสังฆราชโรมันคาทอลิกจะอภิปรายความชัดเจนเกี่ยวกับมุมมองแบบคาทอลิกต่อครอบครัวและการแต่งงานทั้งหมดอีกรอบ ซึ่งจะใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และคาดว่าจะมีการตัดสินแนวทางที่ชัดเจนของคริสตจักรโรมันคาทอลิต่อกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน ตลอดจนการแต่งงานของคนรักเพศเดียวกันอีกครั้งในการประชุมปีหน้าด้วย

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกล้มเลิกการต่อต้านกลุ่มคนรักเพศเดียวกันตลอดระยะเวลา 18 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขสูงสุดของคริสจักรโรมันคาทอลิกในเดือนมีนาคม 2556 ที่ผ่านมา และเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกในประวัติศาสตร์ที่มีท่าทีเปิดกว้างต่อกลุ่มคนรักเพศเดียวกันอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม เอกสารที่เรียกร้องให้โบสถ์โรมันคาทอลิกยอมรับกลุ่มคนรักเพศเดียวกันฉบับดังกล่าวถูกต่อต้านจากพระสังฆราชหลายองค์ที่เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าการประชุมในอีก 1 สัปดาห์ที่เหลือ ตลอดจนการถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในแวดวงคริสตจักรโรมันคาทอลิกจะเข้มข้นขึ้นอย่างมาก

'วาติกัน' เรียกร้องคาทอลิกทั่วโลกยอมรับเกย์ - VoiceTV