ติดตามสถานะการณ์

Somkiat Osotsapa

ประเทศไทยน่าจะรอดจากภัยอีโบล่า
สิ่งที่รัฐบาลไทยต้องไม่ทำโดยเด็ดขาด คือ การส่งทีมแพทย์ พยาบาลไปรักษาผู้ป่วยอีโบล่าในสามประเทศนั้น
การปฏิบัติงานรักษาคือ การสร้างกลุ่มผู้เสี่ยงระดับ very high risk ทันที
เมื่อป่วย ต้องลำเลียงขนมารักษาในประเทศไทย เมื่อเชื้ออีโบล่าเข้าประเทศ อะไรก็เกิดขื้นได้
แล้วจะป้องกันมิให้ผู้สงสัยว่าจะมีเชื้อเข้ามาในประเทศได้อย่างไร เมื่อมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมหาศาลตามที่ cdc คาดการณ์ไว้ในอีกหนื่งเดือน สองเดือนข้างหน้าเป็นต้นไปในระดับ exponential ยิ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม เดินทางในระดับเดิม โอกาสที่จะมาป่วยในประเทศไทยยิ่งมีมาก
เมื่อวันที่7-15 สิงหาคม เราช่วยกันวิเคราะห์เส้นทางบินของผู้โดยสารจากสามประเทศ คุณสวยถืก บืกบืน เล่าให้พวกเราฟังถืงการตรวจสอบผู้โดยสาร ซื่งตอนนั้นแย่มาก จุดเปลี่ยนเครื่องก่อนบินเข้าไทยที่สำคัญ คือ ปารีส และลอนดอน
ข้อมูลนี้ทำให้ทางรัฐบาลเทคแอคชั่น สร้างระบบตรวจสอบ กักกัน ที่ดีก่อนอเมริกามาร่วมสามเดือน
ตอนนี้ สายการบินต่างๆในยุโรปที่เคยบินตรงไปสามประเทศนั้นระงับการบินหมดแล้ว เช่น บริติช แอร์เวส์ แอร์ ฟรานซ์ เอมิเรทส์ โคเรีย และอื่นๆ มีเพียงสายการบินบรัสเซล แอร์ไลนส์ และแอร์ มอรอคที่บินตรงอยู่
จุดเปลี่ยนเครืองที่สำคัญคือ บรัสเซล และคาซาบลังกา บรัสเซลแอร์ไลน์บินไปสิบเก้าสนามบินในอาฟริกา
พวกหน่วยแพทย์ที่ให้ความช่วยเหลือ และองค์กรต่างๆใช้เครื่องเช่าเหมากัน charter flight สายการบินของอเมริกาไม่มีบินตรงไปอาฟริกา
สำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุขของไทยทำรายงานประจำสัปดาห์ บอกว่าณ วันที่ 15 ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารที่เดินทางไปสามประเทศ และคองโกเข้ามา 8 คน ส่งไปตรวจ 2 คน จำนวนลดลงมาก
ก่อนหน้านั้นบันทืกไว้ได้ร่วมสองพันกว่าคน
นายกรัฐมนตรีควรได้รับข้อมูลนี้ประจำทุกสัปดาห์ ประเทศอื่นๆเขารายงานตรงต่อนายก และประธานาธิบดี รายงานของกระทรวงควรแยกตัวเลขเป็นสัปดาห์ จะได้อ่านง่ายหน่อย
และควรสั่งการให้ ตม ทำรหัสผู้โดยสารกลุ่มนี้เป็นพิเศษ เข้ามาเมื่อไร ออกไปเมื่อไร คงเหลือกี่คน เป็นคนไทยไปค้าขายกี่คน จังหวัดอะไรบ้าง จะช่วยให้ประเทศไทยปลอดภัยขื้น
กระทรวงการต่างประเทศเตือนคนไทยไม่ให้เดินทางไปสามประเทศและคองโกแล้ว ควรแจ้งให้ดังกว่านี้นะครับ
Africa Ring
อาฟริกามีประชากรทั้งทวีป 1100 ล้านคน ประชากรในสามประเทศที่อีโบล่าระบาดราว 40 ล้านคน ตอนนี้ แตกตื่นกันทั้งอาฟริกา ปิดพรมแดนป้องกันโรคเข้าประเทศเป็นการใหญ่
ที่กลัวกันว่าจะระบาดไปทั่วอาฟริกา จนคนอาฟริกันต้องอพยพหนีภัยมายุโรปกัน ชาวอาฟริกัน ยิ่งกลัวมากกว่า
ประเทศที่ห้ามคนเดินทางไป มากับสามประเทศนั้น คือ
เคนยา เคป เดอ วัวร์ มอริเชียส เซชิล คาเมรูน.............หมดทั้งทวีปนั่นแหละ
ที่น่าสนใจคือ ห้ามรับคนจากไนจีเรีย เซเนกาล อูกันดา คองโก้ด้วย ยังงี้ แสดงว่าลาม
ผมเชื่อข้อมูลของประเทศอาฟริกามากกว่าขององค์การอนามัยโลก องค์การนี้รอรัฐบาลรายงานมาบอก จริงเท็จไม่รู้
สายการบินของไนจีเรีย เซเนกาลหยุดบินเข้าสามประเทศด้วย
เวลานี้ ผู้ตัดสินว่าจะบินหรือเปล่าไม่ใช่รัฐบาล เพราะเป็นธุรกิจเอกชน สหภาพพนักงานเป็นผู้ตัดสินครับ
ติดตามเบลเยี่ยม และคาซาบลังกาให้ดี
ยุโรป กำลังมีปัญหาเรื่องประสานงานกัน เพราะการขนส่งเชื่อมโยงกันหมด มีจุดเข้าง่ายอยู่มาก เข้าไปได้เดินทางได้ทั่ว
แล้วจะระงับการระบาดได้อย่างไร ยากมาก ผมหวังพื่งวัคซีนสามตัวของรัสเซีย ผลิตจากเชื้ออีโบล่าหนื่ง ใช้วิศวกรรมพันธุกรรมอีกหนื่ง รัสเซียบอกว่าเริ่มทดลองใช้ได้ในสองเดือน หกเดือน
ประเทศที่จะสร้างวัคซีนได้ จะสร้างเชื้อโรคเป็นอาวุธชีวภาพได้ด้วย คำประกาศของรัสเซียแปลได้ว่าอย่ายุ่งกับกรูนาเว้ย ปูตินยอกว่า อีโบล่าไม่มีทางเข้ารัสเซียได้ รัสเซียเป็นประเทศที่สครีนคนเข้าออกเป็นล้านๆคน มากที่สุดในโลก
ผมคิดว่าไทยควรคุยกับรัสเซียเรื่องวัคซีนไว้บ้าง
นโปเลียนแพ้สงครามเพราะโรคไทฟัสของรัสเซีย เยอรมันก็โดนด้วย
ประเทศเรารักสงบ ให้ยักษ์เค้าเล่นกันเถอะ
ไม่ให้คนมีเชื้อเข้าประเทศคือวิธีการที่ดีที่สุดครับ

 

Thanong Fanclub

หนังสือAbsolute Zeroตีพิมพ์ในปี1999บอกล่วงหน้าวิกฤติอีโบล่าในสหรัฐฯได้แม่นยำ



ชัดเจนว่าการแพร่ระบาดอีโบล่าเป็นสงครามชีวะภาคที่วางแผนมานาน หนังสือAbsolute Zero เขียนโดยFrederick Aldrichและตีพิมพ์ในปี1999บอกวิกฤติอีโบล่าได้แม่นยำยิ่งกว่าจับวาง เนื้อเรื่องของหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับอีโบล่า โดยที่ชาวแอฟริกันคนหนึ่งเป็นพาหะนำเชื้ออีโบล่ามาแพร่ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัสโดยไม่มีอะไรเป็นอุปสรรค ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าไม่ต้องห่วงไม่ต้องกังวล แต่ไม่มีอะไรน่ากลัวจริงหรือ แล้วพระเอกซึ่งเป็นคนธรรมดาก็ออกมาช่วยสกัดอีโบล่าเป็นฮีโร่
หนังสือAbsolute Zeroคือนิยาย แต่บังเอิญเหลือเกินที่ตรงกับเรื่องจริงในปัจจุบันที่นายThomas Eric Duncan ชาวไลเบอเรียเดินทางจากแอฟริกามาสหรัฐฯและล้มป่วยลงด้วยอีโบล่า ได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลTexas Health Presbyterianแห่งเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัสและเสียชีวิตที่นั่น มีนางพยาบาล2คนติดเชื้อไวรัสอีโบล่าจากนายDuncan เมืองดัลลัสตอนนี้กำลังถกกันอยู่ว่าจะประกาศดัลลัสเป็นเขตภัยพิบัติโรคระบาดหรือไม่
ไม่มีอะไรบังเอิญจริงๆ
thanong
20/10/2014
ปล. หนังสือAbsolute ZeroมีขายในAmazon.com ลองเข้าไปค้นดู
Book Description
Publication Date: May 4, 1999
Ebola. The very sound conjures up hideous images, images that cannot begin to convey the horrors of the disease itself.
An African man carrying the virus has arrived unhindered in Dallas. Experts assure the public there is no cause for fear. But is there really nothing to fear?
Absolute Zero is the tale of an attack on America, of an unlikely hero who saved millions. One man, his life as ordinary as any among us, did something he could never have anticipated, something he never intended. It is a cautionary tale for those who believe that biological weapons are unlikely to be used here. Pray that it never comes to pass.
[ame="http://www.amazon.com/Absolute-Zero-Frederick-Aldrich-ebook/dp/B008MKPLSQ/ref=sr_1_1?ie=UTF8&qid=1413732988&sr=8-1&keywords=absolute+Zero"]Absolute Zero - Kindle edition by Frederick Aldrich. Literature & Fiction Kindle eBooks @ Amazon.com.[/ame]

 

Somkiat Osotsapa

ข้อมูลสถานการณ์ โรงพยาบาล พิธีฮัจจ์ที่ซาอุดิอารเบีย การเดินทางในอาฟริกา
หน่วยราชการ บริษัท ของไทยจำนวนมาก ต้องติดต่อ ค้าขายกับอาฟริกาที่มีประชากร 1100 ล้านคน ไทยส่งออกข้าว ยาง คอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และสินค้าไปขายที่นั่น นักธุรกิจด้านอัญมณีมีธุรกิจที่นั่นมาก
นี่คือแหล่งข้อมูลที่ดีมากในสถานการณ์ที่กำลังเกิดการระบาดของอีโบล่าในอาฟริกา
อย่างย่อ พอเป็นตัวอย่าง ครับ
ซาอุห้ามประชาชนจากสามประเทศเดินทางไปร่วมพิธีฮัจจ์ แต่ตอนนี้กำลังเกิดโรคระบาดไข้หวัดใหญ่ที่นั่น อัตราตาย 42% ป่วยไปแล้ว 800 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวซาอุ โรคนี้เข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับอูฐ นมอูฐ พี่น้องที่ไปพิธีฮัจจจ์ หากไม่สบาย หาหมอเลยครับ หมอไทยเก่งมาก เตรียมรับมือไว้แล้ว จะมีพี่น้องมุสลิมกลับมาร่วมหนื่งหมื่นคน
ถ้าไม่จำเป้นอย่าไปในสามประเทศนี้เด็ดขาด ระบบโรงพยาบาลพังแล้ว ยาไม่มี หมอหนียะย่ายพ่ายจะแจกันหมด ป่วยเรื่องเล็กๆ ถืงตายได้ เดินทางเข้าออกลำบากมาก
ถ้ากระทรวงพาณิชย์จะขายข้าว เขาขายผ่านเบนิน และอีกห้าหกประเทศ เรื่องสำคัญในการขายของคือหาเรือให้ได้
ตอนนี้จีนหยุดการทำเหมืองแร่เหล็กในไลบีเรียเรียบร้อย
ข้อมูลจากแหล่งนี้เร็วและเชื่อถือได้ครับ น่าจะมีประโยชน์ในงานของกระทรวงสาธารณสุขด้วย
www.internationalsos.com
กดที่Ebola in west africa

 

จีนบริจาคเงิน 180 ล้านบาท ช่วยแอฟริกาตะวันตก Mon, 20/10/2014 - 17:50

รัฐบาลจีนบริจาคเงินกว่า 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 180 ล้านบาท ช่วยเหลือประเทศในแอฟริกาตะวันตกที่ประสบภาวะขาดแคลนอาหาร เนื่องจากการระบาดของไวรัสอีโบลา

<iframe width="615" height="346" src="//www.youtube.com/embed/3mIAwmsVjpo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

นายเบร็ท เรียร์สัน ผู้แทนโครงการอาหารโลก หรือ"ดับเบิลยูเอฟพี" ประจำประเทศจีน แถลงว่ารัฐบาลจีนบริจาคเงิน 6,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 180 ล้านบาท ผ่านดับเบิลยูเอฟพี เพื่อนำไปช่วยเหลือ 3 ประเทศในแอฟริกาตะวันตกที่ประสบภาวะขาดแคลนอาหาร เนื่องจากการระบาดของไวรัสอีโบลา ได้แก่ กินี เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย โดยมีผู้เสียชีวิต 4,546 คน

ขณะที่รัฐบาลของทั้ง 3 ประเทศ ได้ออกมาตรการกักบริเวณผู้ติดเชื้อและควบคุมการเดินทาง เพื่อควบคุมการระบาด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขนส่งอาหารและพืชผลการเกษตร

ขณะเดียวกันความตื่นตระหนกทำให้ประชาชนต่างกักตุนอาหาร ส่งผลให้ราคาอาหารและข้าวของที่จำเป็นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น นำไปสู่ภาวะขาดแคลนอาหาร

ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนได้ส่งหน่วยบรรเทาทุกข์จำนวนมากไปช่วยควบคุมการระบาดในแอฟริกาตะวันตก ปัจจุบันมีชาวจีนอาศัยอยู่ 3 ประเทศที่มีการระบาด ประมาณ 10,000 คน

Tags : ข่าวต่างประเทศ WFP จีน ภาวะขาดแคลนอาหาร อีโบลา แอฟริกาตะวันตก

จีนบริจาคเงิน 180 ล้านบาท ช่วยแอฟริกาตะวันตก - ข่าวไทยพีบีเอส - Thai P...

 

รายการข่าวซีเอ็นเอ็นถูกวิจารณ์หนักโพสต์ภาพล้อเลียนอีโบลา Tue, 21/10/2014 - 08:53

ทีมงานของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นโพสต์ภาพล้อเลียนการระบาดของอีโบลา กลายเป็นเรื่องที่สร้างความไม่พอใจให้กับคนในโลกออนไลน์

<iframe width="615" height="346" src="//www.youtube.com/embed/w-iF38MNC6c" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

โปรดิวเซอร์ของรายการ New Day รายการข่าวช่วงเช้า โพสต์ในทวิตเตอร์ส่วนตัว โดยมีผู้ประกาศ และทีมงานชาย 2 คนที่ใส่ชุดป้องกัน โดยภาพดังกล่าวทำให้หลายคนคิดว่าต้องการสื่อว่าหวาดกลัวอีโบลา ปรากฎว่าหลังจากโพสต์ภาพนี้ไปไม่ถึง 1 ชั่วโมง ต้องรีบลบออกเพราะถูกวิพากวิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม โดยมีผู้มาคอมเม้นต์ว่า รสนิยมในการเล่นตลกของพวกคุณแย่มาก เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และมีการสำรวจความคิดเห็นทางอินเทอร์เน็ต ปรากฎว่า ร้อยละ 71 ระบุว่าเป็นการล้อเลียนที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

ทั้งนี้เรื่องราวแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับ CNN มาแล้วเมื่อเดือนเมษายน ปรากฎว่าทวิตเตอร์ของรายการ New Day รายงานข่าวผิดว่า เปเล่ นักฟุตบอลชื่อดังระดับตำนานเสียชีวิตแล้ว ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นอย่างมาก

Tags : ข่าวต่างประเทศ CNN New Day ทวิตเตอร์ ล้อเลียน วันใหม่ ThaiPBS สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น อีโบลา

รายการข่าวซีเอ็นเอ็นถูกวิจารณ์หนักโพสต์ภาพล้อเลียนอีโบลา - ข่าวไทยพีบี...

 

ประเทศในละตินอเมริกาและแคริบเบียนประชุมร่วมป้องกัน-สู้อีโบลา Tue, 21/10/2014 - 08:48

การประชุมสุดยอดเพื่อรับมือวิกฤตอีโบลาของกลุ่มประเทศในภูมิภาคละตินอเมริกาและแคริบเบียนปิดฉากลงแล้ว โดยประเทศที่เข้าร่วมการประชุมให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในกรณีหากเกิดการระบาดในภูมิภาค

<iframe width="615" height="346" src="//www.youtube.com/embed/2paJiQPfaKw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

การประชุมสุดยอดนัดพิเศษว่าด้วยวิกฤตอีโบลาของกลุ่มประเทศในภูมิภาคละตินอเมริกา และแคริบเบียน ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงฮาวานา เมืองหลวงของคิวบา ปิดฉากลงแล้ว โดยคิวบาและชาติสมาชิกที่เข้าร่วมการประชุมให้คำมั่นว่า จะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในกรณีที่เกิดการระเบิดของเชื้อไวรัสอีโบลาในภูมิภาค นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นพ้องจะหาทางให้ความช่วยเหลือประเทศในแอฟริกาตะวันตกที่เป็นศูนย์กลางการการระบาดของไวรัสอีโบลาครั้งเลวร้ายที่สุด ซึ่งคร่าชีวิตผู้ติดเชื้อไปแล้วกว่า 4,500 คน นับตั้งแต่เกิดการระบาดเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอีโบลาในภูมิภาคละตินอเมริกา และแคริบเบียน แต่การระบาดของเชื้อก็สร้างความหวั่นวิตก หลังจากพบผู้ติดเชื้อนอกพื้นที่การระบาดทั้งในสหรัฐฯ และสเปน

ขณะที่คิวบา ยื่นมือให้ความช่วยเหลือภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกในการต่อสู้กับไวรัสอีโบลา โดยส่งทีมแพทย์และพยาบาล 165 คน พร้อมด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าไปในเซียร์ราลีโอนแล้ว และในสัปดาห์นี้จะส่งแพทย์และพยาบาลเข้าไปในไลบีเรียและกีนีอีก 296 คน

Tags : ข่าวต่างประเทศ การประชุมยอดเพื่อรับมือวิกฤตอีโบลา คิวบา ละตินอเมริกาและแคริบเบียน วันใหม่ ThaiPBS อีโบลา แอฟริกาตะวันตก

ประเทศในละตินอเมริกาและแคริบเบียนประชุมร่วมป้องกัน-สู้อีโบลา - ข่าวไทย...

 

ปธน.โอบาม่า วอนชาวอเมริกันอย่าตื่นตระหนกอีโบลา Sun, 19/10/2014 - 07:37

ผู้นำสหรัฐฯ ขอให้ชาวอเมริกันอย่าตื่นตระหนกกับไวรัสอีโบลา พร้อมขอให้ยกเลิกความคิดที่ห้ามผู้เดินทางจากแอฟริกาตะวันตกเข้าสหรัฐฯ เพราะมาตรการดังกล่าวจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น

<iframe width="615" height="346" src="//www.youtube.com/embed/Og0jcNZh94Y" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า แถลงประจำสัปดาห์โดยเน้นเรื่องการระบาดของไวรัสอีโบลา โอบาม่ากล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.หลายคนเสนอให้รัฐบาลออกกฏห้ามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกินี, ไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน เข้าสหรัฐฯ ซึ่งเขากล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้เพราะจะทำให้การเดินทางของเจ้าหน้าที่และการส่งความช่วยเหลือยากลำบาก รวมถึงอาจทำให้คนที่อยู่ในแอฟริกาตะวันตกพยายามลักลอบเข้าประเทศเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น

ส่วนสถานการณ์ในสหรัฐฯตอนนี้ มีผู้ติดเชื้อเพียง 3 คนเท่านั้นและเชื้ออีโบลาไม่ได้ติดต่อกันได้ง่าย จึงขอให้ชาวอเมริกันอย่าตื่นตระหนก แม้มีความเป็นไปได้ที่จะพบผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯเพิ่มอีก

Tags : ข่าวต่างประเทศ ชาวอเมริกัน บารัค โอบาม่า สหรัฐฯ แอฟริกาตะวันตก ไวรัสอีโบลา

ปธน.โอบาม่า วอนชาวอเมริกันอย่าตื่นตระหนกอีโบลา - ข่าวไทยพีบีเอส - Thai...

 

สหรัฐฯ แต่งตั้งผู้ประสานงานป้องกันอีโบลา-ธนาคารโลกครวญโลกกำลังจะพ่ายแพ้ Sat, 18/10/2014 - 21:25

สหรัฐฯแต่งตั้งผู้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสอีโบลา ขณะที่ธนาคารโลกประกาศว่ากำลังจะพ่ายแพ้ในสงครามการต่อสู้กับไวรัสอีโบลา เพราะมีผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

<iframe width="615" height="346" src="//www.youtube.com/embed/yoO275n5egk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่งตั้งให้นายรอน ไคลน์ เป็นผู้ประสานงานด้านอีโบลา ซึ่งได้รับฉายาว่า "ซีซาร์แห่งอีโบลา" เพื่อทำหน้าที่ประสานงานระดับสูง กับหน่วยงานราชการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องการการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลา แม้นายไคลน์ไม่มีประสบการณ์ด้านการแพทย์ แต่มีความเชี่ยวชาญด้านการประสานงานและการจัดการ และมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับทั้งหน่วยงานราชการและรัฐสภาสหรัฐฯ รวมทั้งเคยได้รับมอบหมายงานจากรัฐบาล ทั้งด้านนโยบายในประเทศและต่างประเทศ

ส่วนนายจิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลก ประกาศว่า โลกกำลังจะพ่ายแพต่อการต่อสู้กับไวรัสอีโบลา เพราะจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่า 4,500 คน และมีผู้ติดเชื้อกว่า 9,200 คน ซึ่งคาดว่าก่อนถึงเดือนธันวาคมนี้ จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 10,000 คน

ขณะที่สหประชาชาติระบุว่าการระดมทุนแก้ไขวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาได้เพียงร้อยละ 40 ของยอดเงินที่ตั้งไว้ 30,000 ล้านบาท เพราะนานาชาติขาดความเป็นเอกภาพในการแก้ปัญหา

ด้านนายจอร์จ เปเรซ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโรคเขตร้อนของคิวบา ระบุว่าคิวบาเตรียมส่งแพทย์และพยาบาล 461 คน ไปยังเซียร์รา ลีโอน, ไลบีเรีย และกินี ในสัปดาห์หน้า เพื่อตั้งเต็นท์เป็นโรงพยาบาลสนาม และรักษาผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลา ซึ่งได้รับคำชมจากนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ

ขณะที่สหรัฐฯ ก็เตรียมส่งทหาร 3,000 นาย ซึ่งมีทั้งวิศวกร เจ้าหน้าที่แพทย์ และหน่วยอื่นๆ ไปยังแอฟริกาตะวันตกเพื่อช่วยควบคุมการระบาดของไวรัสอีโบลา

Tags : ข่าวต่างประเทศ บารัค โอบามา ไวรัสอีโบลา

สหรัฐฯ แต่งตั้งผู้ประสานงานป้องกันอีโบลา-ธนาคารโลกครวญโลกกำลังจะพ่ายแพ...

 

สธ.เตรียมโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้ออีโบลา Sun, 19/10/2014 - 07:32

กระทรวงสาธารณสุข เตรียมพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์ 30 แห่งทั่วประเทศรองรับผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา ขณะที่พบชายวัย 60 ปีเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 หลังเดินทางกลับจากการประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย

<iframe width="615" height="346" src="//www.youtube.com/embed/ojXlHi9Vet8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจความพร้อมการรองรับผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาและโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ 2012 หรือเมอร์สโควี ที่สถาบันบำราศนราดูร ซึ่งเป็นโรงพยาบาล 1 ใน 4 แห่งที่มีห้องผู้ป่วยแยกโรคและห้องปฏิบัติการตรวจตัวอย่างสิ่งต้องสงสัยติดเชื้อและตรวจรักษาผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ต้องสงสัยติดเชื้อ

นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลเลิศสิน โรงพยาบาลนพรัตราชธานีและโรงพยาบาลราชวิถี ที่มีศักยภาพรองรับผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลา รวมทั้งป้องกันความปลอดภัยให้กับบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ กระทรวงสาธารณสุขยังเตรียมพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์กว่า 30 แห่งทั่วประเทศสามารถรองรับผู้ป่วยได้ด้วย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2557

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ล่าสุดพบผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 เป็นชายวัย 60 ปี หลังเดินทางกลับจากการประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย 4 วันและได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนถูกส่งตัวมาติดตามอาการที่สถาบันบำราศนราดูร และรอผลยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง กระทรวงสาธารณสุขได้ให้อาสาสมัครสาธารณสุขเฝ้าระวังติดตามผู้ที่เดินทางกลับจากการประกอบพิธีฮัจญ์ในระยะเวลา 14 วัน หลังเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง

Tags : ข่าวสาธารณสุขและสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข สถาบันบำราศนราดูร เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 เมอร์สโควี ไวรัสอีโบลา

สธ.เตรียมโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้ออีโบลา - ข่าวไทยพีบีเอ...

 

In Pics :เพนตากอนตั้ง "E-TEAM" เคลื่อนที่เร็วรับมืออีโบลาระบาดทั่วสหรัฐฯ หลัง “รพ.เทกซัส” ลงนสพ.ขอโทษวินิจฉัยพลาด โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ตุลาคม 2557 16:51 น.



เอพี/เอเจนซีส์/เอเอฟพี - กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯประกาศตั้ง E-TEAM หน่วยอีโบลาเคลื่อนที่เร็วที่มีเจ้าหน้าที่ 30 คนเพื่อช่วยเหลือสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคระบาดสหรัฐฯ หรือ CDC ไม่ให้โรคอีโบลาสามารถระบาดได้ในประเทศหลังจากก่อนหน้านี้ พยาบาล 2 คนจากโรงพยาบาลเทกซัส เฮลท์ ไบเพีสทีเรียนติดเชื้ออีโบลาจากการรักษาคนไข้ชาวไลบีเรีย และล่าสุดทางโรงพยาบาลต้องออกแถลงการณ์ขอโทษต่อประชาชนสหรัฐฯอย่างเป็นทางการที่เกิดความผิดพลาดขึ้นในขั้นตอนการวินิจฉัยโรคให้กับโทมัส อีริก ดันแคน ที่เสียชีวิตจากโรคร้าย

หลังจากที่มีเสียงตำหนิจากประชาชนในการรับมือโรคอีโบลาจนทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นครั้งแรกในสหรัฐฯถึง 2 คน จนทำให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯบารัค โอบามาได้แต่งตั้งให้ รอน เคลน (Ron Klain) อดีตตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงานของรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตรองประธานาธิบดีอัล กอร์ขึ้นเป็น “Ebola czar” ที่มีความรับผิดชอบในวิกฤตอีโบลาโดยตรง แต่เคลนได้รับเสียงวิจารณ์จากทางสื่อสหรัฐฯว่า เขาไม่มีความชำนาญด้านการแพทย์จึงไม่มีความเหมาะสมในตำแหน่งนี้ และในช่วงสุดสัปดาห์ที่มีการประชุมรับมืออีโบลาถึง 2 วัน แต่เคลนกับไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมด้วย ซึ่ง CNN รายงานว่าเคลนจะทำหน้าที่ประสานงานในการให้ข่าวสารเกี่ยวกับอีโบลาให้ตรงกันกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ หรือวุฒิสภา รวมไปถึงทำเนียบขาว

ทั้งนี้การประกาศการตั้ง E-TEAM หน่วยการแพทย์เคลื่อนที่เร็วรับมืออีโบลาของเพนตากอนเกิดจากการร้องขอในวันเสาร์(18)ของกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ซึ่งทำหน้าที่ดูแลสำนักงานควบคุมและป้องกันโรคระบาดสหรัฐฯ หรือ CDC ต่อกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯให้ช่วยเหลือยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคอีโบลาถ้าหากเกิดขึ้นในประเทศ

จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯแถลงว่า “การตั้ง E-TEAM ของเพนตากอนนั้นเป็นมาตรการเชิงรุกที่ให้ความมั่นใจกับประชาชนสหรัฐฯถึงการรับมืออย่างฉับไว มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยในการระบาดของอีโบลาในประเทศ”

และเคอร์บียังแถลงต่อว่า ทั้งนี้ ชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯได้สั่งการให้ U.S. Northern Command Command (USNORTHCOM) ที่มีหน้าที่ประสานงานและช่วยเหลือตามคำร้องขอของหน่วยงานราชการพลเรือนสหรัฐฯให้ “เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่การแพทย์ 30 นาย และฝึกฝนคนเหล่านั้นเพื่อให้เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วรับมืออีโบลาในสหรัฐฯเมื่อมีการขอความช่วยเหลือ รวมถึงส่งข่าวไปให้กับเจ้าหน้าที่การแพทย์พลเรือนในสหรัฐฯ”

โดยสมาชิกในหน่วยจะถูกดึงตัวมาจากกรมกองต่างๆในสังกัด รวมไปถึงพยาบาลฉุกเฉินอีก 20 คน แพทย์ 5 คนที่ได้รับการฝึกรับมือโรคติดต่อ และผู้ให้การอบรมอีก 5 คนที่ได้รับการฝึกในกระบวนการรับมือโรคระบาด

และเพนตากอนจะส่งเจ้าหน้าที่ทั้งหมดนี้ไปเข้ารับการฝึกอย่างหนักหน่วงเป็นเวลา 7 วันที่ค่ายฟอร์ตแซมฮูสตัน( Fort Sam Houston) ในซาน อันโตนิโอ รัฐเทกซัส ซึ่งเนื้อหาการฝึกอบรมจะประกอบไปด้วยการควบคุมการติดเชื้อและอุปกรณ์ป้องกันการติดต่อโรคระบาดระดับร้ายแรง ซึ่งคาดว่าการฝึกฝนจะเริ่มต้นได้อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ และสถาบันวิจัยทางการแพทย์ของกองทัพสหรัฐฯด้านโรคติดต่อ(Army Medical Research Institute of Infectious Diseases)จะเป็นผู้ให้การอบรม

และหลังจากเสร็จสิ้นการอบรม เจ้าหน้าที่ทั้งหมด 30 นาย จะเดินทางกลับไปยังหน่วยที่ตั้งเดิมของตน และรอเรียกตัวภายใน 30 วัน เพื่อในกรณีหากมีการร้องขอเพื่อเดินทางไปยังทุกพื้นที่ทั่วสหรัฐฯ

นอกจากนี้โฆษษกเพนตากอนยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า สมาชิกของทีมส่วนใหญ่จะมาจากฐานทัพต่างๆใกล้กับซาน อันโตนิโอ แต่เจ้าหน้าที่จากกองทัพเรือสหรัฐฯจะเดินทางมาจากส่วนอื่นๆของประเทศ

และหน่วยเคลื่อนที่เร็ว 30 นายนั้นจะต้องใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อซึ่งต่างจากชุดกองกำลัง 4,000 นายที่เพนตากอนจะจัดส่งไปยังไลบีเรียเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลไลบีเรียรับมือโรคระบาด ทหารกลุ่มนั้นจะไม่มีหน้าทีต้องเข้าใกล้ผู้ป่วยติดเชื้อแต่อย่างใด

“เจ้าหน้าที่ประจำ E-TEAM นี้จะรับผิดชอบเฉพาะในสหรัฐฯเท่านั้นตามการร้องขอของหน่วยงานสาธารณสุขในประเทศ พวกเขาจะไม่ถูกส่งไปยังแอฟริกาตะวันตกแน่นอน” เคอร์บีกล่าว

ซิลเวีย เบอร์เวล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯได้ส่งจดหมายอย่างเป็นทางการร้องขอไปยังฮาเกลในวันเสาร์(18) โดยเบอร์เวลขอให้เพนตากอนช่วยจัดตั้งทีมเคลื่อนที่เร็วให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 25 ตุลาคม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปฎิบัติการของกระทรวงสาธารณสุข/CDC ภายใน 72 ชม.ทีมีการร้องขอ

แต่ในจดหมายเบอร์เวลกล่าวว่า หากจำเป็นต้องมีมาตรการกักกันโรคเกิดขึ่นในสหรัฐฯ ทีมหน่วยเคลื่อนที่เร็วนี้จะไม่ใช่ผู้มีส่วนต้องรับผิดชอบ

โดยก่อนหน้านี้ เอเอฟพีรายงานว่าโรงพยาบาลเทกซัส เฮลท์ ไบเพรสทีเรีย ในดัลลัส รัฐเทกซัส ต้นการระบาดได้ออกจดหมายขอโทษอย่างเป็นทางการใช้ชื่อหัวจดหมาย “ถึงชาวชุมชนดัลลัส” ผ่านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ดัลลัส ทริบูน นิวส์ ว่า “ในฐานะของสถาบันทางการแพทย์ของชุมชน ทางโรงพยาบาลได้ทำผิดพลาดในการรับมือการระบาดของโรคร้ายที่คาดไม่ถึงนี้ และจากความผิดพลาดในการให้ข้อมูลกับทีมการรักษาในครั้งแรกของประวัติการเดินทางคนไข้ข้อมูลที่ โทมัส อีริก ดันแคน ที่เพิ่งเดินทางมาจากแอฟริกานั้นไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทีมการรักษาทุกคนรับทราบถึงแม้ว่า “ประวัติการเดินทางคนไข้นี้จะได้ระบุในข้อมูลผู้ป่วยก็ตาม” แถลงการณ์ของโรงพยาบาลเทกซัส เฮลท์ ไบเพรสทีเรียน ที่ลงนามโดยประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาล บาร์เคลย์ เบอร์ดาน ( Barclay Berdan )

และแถลงการณ์ยังระบุต่อว่า “ทางโรงพยาบาลได้วินิจฉัยโรคของดันแคนผิดพลาด ทางเราขออภัยมา ณ ที่นี้” และยังเพิ่มเติมว่า “อุปกรณ์และเทคโนโลยีของโรงพยาบาลยังไม่ได้มาตรฐานเพียงพอเพื่อรับมือกับโรคร้ายเหมือนอย่างเช่นที่เคยเป็นความภาคภูมิใจเมื่อครั้งในอดีต และเป็นส่วนหนึ่งของพันธสัญญาและปรัชญาของโรงพยาบาล”

ด้านแอนโธนี เฟาซี (Anthony Fauci )หัวหน้าสถาบันการแพทย์สหรัฐฯด้านภูมิคุ้มกันและโรคระบาด ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการวันอาทิตย์ของสถานี ABC สหรัฐฯระบุว่า ได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการใหม่สำหรับเจ้าหน้าที่การแพทย์ในการรับมืออีโบลา โดยกำหนดให้ผู้ปฎิบัติงานไม่ให้เปิดเผยร่างกายส่วนใดในระหว่างการรักษาคนไข้ หลังจากก่อนหน้านี้ CDC แนะนำชุดป้องกันอีโบลาขั้นพื้นฐานแต่ในส่วนช่วงคอกลับไม่มีสิ่งใดปกปิด รวมไปถึงส่วนข้อมือที่อาจโผล่ออกมาเนื่องจากถุงมือไม่ได้ขนาด โดยชุดป้องกันมาตรฐานนั้นต่างจากชุดแฮสแมต(Hazmat) ที่เจ้าหน้าที่จากCDC หรือเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดที่พักของผู้ป่วยติดเชื้อสวมใส่ที่ปกปิดมิดชิด รวมไปถึงมีท่ออากาศหายใจในตัว





















In Pics :ྐྵ

 

ภัยคุกคามโลก!รมต.อียูเห็นพ้องร่วมมือป้องกันอีโบลา-ผู้ติดเชื้อนอร์เวย์ฟื้นไข้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 ตุลาคม 2557 01:00 น.



เอเอฟพี - เหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปเมื่อวันจันทร์(20ต.ค.) เห็นพ้องเพิ่มความพยายามจำกัดการแพร่ระบาดของอีโบลา เพื่อป้องกันไม่ให้มันกลายเป็นภัยคุกคามโลก ในนั้นรวมถึงใช้มาตรการต่างๆเพื่อรับประกันว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนานาชาติจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ขณะที่เริ่มมีข่าวดีเกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ ด้วยสตรีชาวนอร์เวย์ที่ติดเชื้อระหว่างร่วมภารกิจด้านการแพทย์ในแอฟริกาตะวันตก กลายเป็นผู้ป่วยรายล่าสุดที่ฟื้นไข้จากไวรัสมรณะชนิดนี้

ถ้อยแถลงของเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศ 28 ชาติสมาชิกอียู หลังเสร็จสิ้นการประชุมที่ลักเซมเบิร์ก ระบุว่า "สิ่งจำเป็นสำหรับควบคุมการแพร่ระบาดคือทุกชาติต้องมีความสามัคคีและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่นเดียวกับเพิ่มความพยายามให้มากขึ้น" พร้อมชี้ว่าเหล่าประเทศที่ได้รับผลกระทบและชาติเพื่อนบ้านจำเป็นต้องการได้รับความช่วยเหลือตามความจำเป็นและอย่างเหมาะสม

ผลสรุปของการหารือครั้งนี้จะหยิบยกไปพูดคุย ณ ที่ประชุมซัมมิทของเหล่าผู้นำอียู ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ระหว่างวันพฤหัสบดี(23) และวันศุกร์(24)นี้ ซึ่งจะเป็นอีกครั้งที่วิกฤตอีโบลาจะเป็นหัวข้อหลักของการประชุม

เหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศเห็นพ้องว่าคณะกรรมาธิการยุโรปควรหามาตรการดูแลทีมงานด้านการแพทย์นานาชาติอย่างเหมาะสม ในนั้นรวมถึงทางเลือกสำหรับการอพยพทางการแพทย์เพื่อรับประกันว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งประจำการอยู่แถวหน้าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดให้พ้นจากเงื้อมมืออีโบลาที่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษา

มาตรการดังกล่าวถือเป็นประเด็นหลักของความพยายามเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ต่างชาติเข้าไปยังไลบีเรีย เซียร์ราลีโอนและกินี เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของอีโบลา ซึ่งจนถึงตอนนี้คร่าชีวิตชาวบ้านใน 3 ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดข้างต้นมากกว่า 4,500 ศพแล้ว

ทั้งนี้ที่ประชุมยังบอกด้วยว่ามีความจำเป็นที่ต้องจัดตั้งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขอาสาสมัครจากประเทศสมาชิกอียูให้เร็วที่สุดและมีเป้าหมายคือส่งเข้าไปประจำการในพื้นที่ต่างๆที่ต้องเผชิญกับวิกฤตด้านสาธารณสุข "อียูควรวางเป้าหมายช่วยเหลือประเทศที่ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการป้องกันตนเองจากอีโบลาแก่พวกเขา" ถ้อยแถลงระบุ

ความเคลื่อนไหวของสหภาพยุโรป มีขึ้นหลังท่ามกลางข่าวดีเกี่ยวกับสถานการณ์อีโบลาที่คลี่คลายลงไปในหลายชาติ ในนั้นรวมถึงกรณีที่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ไนจีเรียเป็นประเทศที่ปลอดจากเชื้อไวรัส “อีโบลา” อย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (20 ต.ค.) หลังผ่านพ้นระยะฟักตัวของเชื้อ 2 รอบ รวมทั้งสิ้น 42 วัน โดยไม่มีการรายงานยืนยันว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะรายใหม่อีก ขณะที่อีโลบา คร่าชีวิตผู้คนในดินแดนแห่งนี้ไปทั้งสิ้น 8 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 20 คน

การประกาศอย่างเป็นทางการของไนจีเรียคราวนี้ บังเกิดขึ้นหลังจากชาติในแอฟริกาตะวันตกอีกรายหนึ่ง คือ เซเนกัล ได้รับการรับรองว่าปลอดอีโบลาแล้วในวันศุกร์ (17) ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกกล่าวเตือนว่า ทั้งสองประเทศไม่ควรคลายมาตรการระมัดระวัง เนื่องจากเชื้อไวรัสนี้ยังคงอาละวาดหนักในพื้นที่อื่นๆ ของภูมิภาคแถบนี้

ขณะเดียวก็มีอีกหนึ่งข่าวดี โดยเมื่อวันอาทิตย์(19ต.ค.) รัฐบาลสเปนแถลงยืนยัน ไม่พบเชื้อไวรัสอีโบลาหลงเหลือในตัวนางเตเรซา โรเมโร พยาบาลชาวสเปนที่กลายเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะรายแรกนอกทวีปแอฟริกาแล้ว หลังผลการตรวจเลือดของเธอล่าสุดที่ดำเนินการโดยทีมแพทย์จากโรงพยาบาลการ์โลส เตรสในกรุงมาดริด ที่เธอเข้าพักตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา มีผลออกมาเป็นลบ

ล่าสุดองค์การแพทย์ไร้พรมแดน เผยในวันจันทร์(20ต.ค.) ว่าสตรีชาวนอร์เวย์ที่ติดเชื้ออีโบลาระหว่างปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สังกัดของพวกเขาในเซียร์ราลีโอน เวลานี้ฟื้นตัวจากอาการป่วยและออกจากห้องไอซียูของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยออสโลแล้ว "เราดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่าเพื่อนร่วมงานของเราหายป่วยแล้ว" โยนาส ฮาเกนเซน โฆษกองค์การแพทย์ไร้พรมแดนสาขานอร์เวย์กล่าว

ท่ามกลางความกังวลต่อการแพร่ระบาดของอีโบลานอกแอฟริกาตะวันตก ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้เตือนถึงอันตรายของความตื่นตระหนกในชาติตะวันตก หลังพบมีการแจ้งเท็จผู้ติดเชื้อหลายต่อหลายครั้ง ตามหลังพยาบาล 2 คนของโรงพยาบาลเทกซัส ที่ให้การดูแลคนไข้อีโบลาชาวไลบีเรีย เกิดติดเชื้อไวรัสมรณะนี้เสียเอง ขณะที่ฝรั่งเศสและเบลเยียม เป็น 2 ชาติล่าสุด ที่ดำเนินการตามอย่างอเมริกา อังกฤษและแคนาดา ที่ใช้มาตรการคัดกรองเข้มข้นต่อผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเหล่าประเทศที่ได้รับผลกระทบจากอีโบลาหนักหน่วงที่สุด

อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ประเทศดังกล่าวข้างต้น ยังไม่มีแผนระงับเที่ยวบินที่มาจากเซียร์ราลีโอน กินีและไลบีเรีย ด้วยความกังวลว่ามันจะก่อผลในทางตรงข้าม ด้วยเหล่าผู้โดยสารอาจใช้หนทางอื่นในการเดินทางมายังต่างแดนและเป็นไปได้ที่จะปกปิดความจริงว่าเคยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อหรือไม่ ซึ่งจะส่งให้การสังเกตอาการและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสยากยิ่งขึ้นไปอีก

 

อนามัยโลกการันตี “ไนจีเรีย” ปลอดเชื้อ “อีโบลา” อย่างเป็นทางการ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ตุลาคม 2557 18:57 น.



เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ไนจีเรียเป็นประเทศที่ปลอดจากเชื้อไวรัส “อีโบลา” อย่างเป็นทางการในวันนี้ (20 ต.ค.) หลังผ่านพ้นระยะฟักตัวของเชื้อ 2 รอบ รวมทั้งสิ้น 42 วัน โดยไม่มีการรายงานยืนยันว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้อีก

รุย กามา วาซ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำไนจีเรียกล่าว ที่กรุงอาบูจา เมืองหลวงของไนจีเรียว่า “ตอนนี้ไวรัสหมดไปแล้ว การแพร่ระบาดในไนจีเรียถูกกำราบจนอยู่หมัด”

“เรื่องนี้เป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจซึ่งแสดงให้โลกเห็นว่า อีโบลาสามารถควบคุมได้”

ครั้งแรกที่มีการตรวจพบเชื้ออีโบลาที่ไนจีเรีย ดินแดนที่มีประชากรมากที่สุด และเป็นประเทศอุตสาหกรรมแถวหน้าของทวีปแอฟริกา ก็เกิดความหวั่นเกรงว่า โรคร้ายชนิดนี้จะแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ ที่มีประชากรราว 170 ล้านคนแห่งนี้รวดเร็วดุจไฟลามทุ่ง



อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีวันสิ้นโลกก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง และบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีส่วนในการควบคุมการแพร่ระบาดได้กล่าวยกย่องเหล่าเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถติดตามผู้สัมผัสโรคได้อย่างครอบคลุม

ในภาพรวมแล้ว พบว่ามีผู้เสียชีวิต 8 คนในหมู่ผู้ติดเชื้อทั้งหมด 20 คนที่ได้รับการยืนยันในเมืองลากอส ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของไนจีเรีย และในเมืองพอร์ตฮาร์คอร์ต ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันของประเทศ ขณะที่มีผู้เข้ารับการสังเกตอาการเกือบ 900 คน



ทั้งนี้ ไนจีเรียถูกประกาศให้เป็นประเทศปลอดเชื้ออีโบลาอย่างเป็นทางการ หลังจากเซเนกัลถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ปลอดเชื้อเมื่อวันศุกร์ (17)

บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขที่เฝ้าระวังเพื่อควบคุมเชื้อไวรัสชนิดนี้ไม่ให้แพร่ระบาดไปทั่วโลก ได้ติดตามตรวจสอบสถานการณ์ที่ไนจีเรีย และเซเนกัลอย่างละเอียด

นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกอีโบลาไปแล้วกว่า 4,500 คน และมีผู้ติดเชื้อเกือบ 10,000 คน โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นประชากรในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตนอกแอฟริกาตะวันตก โดยเฉพาะในสเปนและสหรัฐฯ ได้จุดประกายให้เกิดกระแสตื่นกลัวว่า ไวรัสชนิดนี้จะแพร่กระจายลุกลามออกไป และกระตุ้นให้มีการเร่งวางมาตรการรับมือที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกเหนือจากการกวดขันติดตามผู้สัมผัสโรค ไนจีเรียยังได้ตั้งจุดตรวจสุขภาพเพื่อคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้า และขาออกตามสนามบิน และท่าเรือทุกแห่งอบ่างเข้มงวด

แคเมอรูน ซึ่งมีชายแดนติดกับภาคตะวันออกของไนจีเรียได้ประกาศปิดพรมแดนตามมาตรการป้องกันไว้ก่อน แต่ไนจีเรียไม่ได้ปิดพรมแดน

นอกจากนี้ ไนจีเรียไม่ได้ออกประกาศห้ามการเดินทาง แม้ว่าสายการบินชั้นนำ “เอริคแอร์” ของไนจีเรียจะยกเลิกเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากเชื้ออีโบลาเช่นเดียวกับกินี


͹

 

เพนตากอนตั้งทีมหนุนปราบอีโบลา รมว.อียูประชุมวางมาตรการรับมือ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ตุลาคม 2557 22:06 น.



เอเจนซีส์ - ไนจีเรีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกา ประกาศอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (20 ต.ค.) ว่า ปลอดพ้นจากเชื้อไวรัสอีโบาแล้ว ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของอเมริกา แถลงถึงแนวทางใหม่สำหรับการดูแลผู้ป่วยอีโบลาจะรวมถึงการใช้ชุดป้องกัน “ปิดมิดชิดเต็มตัว” ขณะที่เพนตากอนประกาศเตรียมตั้งทีมช่วยเหลือภายในประเทศ หากจำเป็น

รุย กามา วาซ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำไนจีเรีย แถลงที่เมืองหลวงอาบูจา ว่า เวลาผ่านไปแล้ว 42 วัน ซึ่งเท่ากับ 2 เท่าตัวของระยะเวลาในการฟักตัวของเชื้ออีโบลา ปรากฏว่าประเทศนี้ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสนี้อีกเลย ดังนั้น “ตอนนี้ไวรัสหมดไปแล้ว การแพร่ระบาดในไนจีเรียถูกกำราบจนอยู่หมัด”

การประกาศอย่างเป็นทางการของไนจีเรียคราวนี้ บังเกิดขึ้นหลังจากชาติในแอฟริกาตะวันตกอีกรายหนึ่ง คือ เซเนกัล ได้รับการรับรองว่าปลอดอีโบลาแล้วในวันศุกร์ (17) ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม วาซ กล่าวเตือนว่า ทั้งสองประเทศไม่ควรคลายมาตรการระมัดระวัง เนื่องจากเชื้อไวรัสนี้ยังคงอาละวาดหนักในพื้นที่อื่นๆ ของภูมิภาคแถบนี้

ทางด้านสหรัฐฯ ดร. แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติของอเมริกา เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (19) ว่า พยาบาล 2 คนที่ดูแลผู้ป่วยอีโบลาในเมืองดัลลัส ติดเชื้อเนื่องจากผิวบางส่วนไม่ได้รับการปกปิด

ฟอซีเสริมว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) กำลังทบทวนหลักปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย จากเดิมที่อิงกับแบบแผนขององค์การอนามัยโลก (ฮู) ซึ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ทุรกันดารที่มักเป็นสถานที่กลางแจ้ง และไม่มีการฝึกอบรมที่เข้มงวดให้แก่เจ้าหน้าที่ ส่งผลให้บางส่วนของหลักปฏิบัติมีช่องโหว่ เป็นต้นว่า ผิวหนังบางส่วนไม่ได้รับการปกปิด

แนวทางใหม่นั้น คาดว่าจะมีการกำหนดมาตรฐานเคร่งครัดขึ้น เช่น ชุดป้องกันคลุมตลอดทั้งตัว และหมวกคลุมปิดคอ รวมถึงมีการกำหนดกฎเข้มงวดในการถอดชุดและฆ่าเชื้อที่มือ และแต่งตั้ง “ผู้จัดการประจำสถานที่” คอยตรวจสอบการสวมและถอดชุดป้องกัน

แนวทางใหม่ยังอาจรวมถึง “ระบบคู่หู” ที่เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบกันและกันขณะเข้าและออกจาก “ห้องพักรอ” ที่แยกจากห้องผู้ป่วยและเป็นห้องสำหรับสวมและถอดชุดป้องกัน

ทั้งนี้ อเมริกาตื่นตัวในการยกระดับการป้องกันอีโบลา หลังจากที่พยาบาล 2 คนในดัลลัสติดเชื้อจากการดูแลโธมัส อิริก ดันแคน ชาวไลบีเรียที่เดินทางมาเยี่ยมคู่หมั้นในสหรัฐฯ และกลายเป็นบุคคลแรกที่ตรวจพบเชื้ออีโบลาในอเมริกา

พยาบาลทั้งคู่คือ นีนา ฟาม และแอมเบอร์ จอย วินสัน ถูกวินิจฉัยว่า ติดเชื้ออีโบลาหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น โดยที่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าได้รับเชื้อในตอนไหน

จากประวัติการรักษาของดันแคนชี้ว่า ฟามดูแลผู้ป่วยรายนี้หลังจากที่เขาย้ายเข้าแผนกผู้ป่วยวิกฤตเมื่อวันที่ 29 กันยายน หรือหลังจากห้องฉุกเฉินรับเข้ารักษากว่า 30 ชั่วโมง และเกือบ 27 ชั่วโมงหลังจากนั้น วินสันจึงเข้ามาดูแลดันแคนด้วย

ครั้งแรกที่ฟามดูแลดันแคน เธอไม่ได้เอ่ยถึงชุดป้องกัน ซึ่งอาจเป็นเรื่องปกติที่แพทย์และพยาบาลไม่ได้บันทึกการป้องกันตัวเองในบันทึกการรักษา อย่างไรก็ดี ในเช้าวันรุ่งขึ้น ฟามระบุว่า เธอสวมเสื้อคลุม หน้ากาก และรองเท้านิรภัย ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เธอใช้ทุกครั้งหลังจากนั้น

สำหรับวินสัน เธอระบุว่า สวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ที่รวมถึงชุดป้องกันสารพิษและหน้ากาก ซึ่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลระบุว่า หน้ากากปิดจมูกและปากเป็นอุปกรณ์ตัวเลือกที่สอดคล้องกับแนวทางของซีดีซี ณ เวลานั้น

อย่างไรก็ดี วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบ 21 วัน ซึ่งเป็นระยะฟักตัวของอีโบลา ดังนั้นจึงเท่ากับว่า คู่หมั้นและคนในบ้านซึ่งดันแคนไปพักอยู่ขณะล้มป่วย ตลอดจนเจ้าหน้าที่กลุ่มแรกของโรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสไบทีเรียนที่ทำการรักษาดันแคน และยังไม่แสดงอาการติดเชื้อนั้น ปลอดภัยไม่เป็นโรคนี้ และได้รับการปล่อยตัวจากการถูกกักกันโรคแล้ว

ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า รัฐมนตรี ชัค เฮเกล สั่งให้จัดตั้งทีมสนับสนุนเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขพลเรือนในการรับมืออีโบลาภายในประเทศ หากมีความจำเป็น

ทีมสนับสนุนนี้จัดตั้งโดยพลเอกชัค จาโคบี ผู้บัญชาการของกองบัญชาการทหารสหรัฐฯด้านเหนือ โดยประกอบด้วยพยาบาลผู้ป่วยวิกฤต 20 คน, แพทย์ 5 คนที่ได้รับการฝึกอบรมด้านโรคติดต่อ และครูฝึกด้านหลักปฏิบัติป้องกันโรคติดต่อ 5 คน

เมื่อจัดตั้งแล้ว ทีมสนับสนุนจะเข้ารับการฝึกอบรมพิเศษในการควบคุมโรคติดต่อและอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่ฟอร์ต แซม ฮูสตันในเทกซัส และอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมเป็นเวลา 30 วัน

ทางด้านยุโรป บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป (อียู) นัดหารือกันที่ลักเซมเบิร์กในวันจันทร์ เพื่อพยายามวางระเบียบมาตรการร่วมในการต่อสู้กับอีโบลา

การประชุมนี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่สเปนเปิดเผยว่า เทเรซา โรมีโร พยาบาลที่กลายเป็นผู้ติดเชื้ออีโบลานอกแอฟริกาตะวันตกคนแรกของโลกนั้น เวลานี้หายจากโรคนี้แล้ว

ก่อนการหารือที่ลักเซมเบิร์ก แฟรงก์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี แถลงว่า อียูควรส่ง "ทีมเจ้าหน้าที่พลเรือน” ไปยังแอฟริกาตะวันตก

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทูตอียูคนหนึ่งเผยว่า อังกฤษที่อยู่ระหว่างการส่งเรือพร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์และอุปกรณ์ไปยังเซียร์ราลีโอน หวังว่า การประชุมครั้งนี้จะสามารถผลักดันให้อียูออกมาตรการเกี่ยวกับวิกฤตอีโบลาที่ดำเนินมาถึงจุดพลิกผันสำคัญแล้ว

นักการทูตอีกคนสำทับว่า ขณะนี้ สามชาติตะวันตกกำลังรับบทเป็นผู้บุกเบิกให้ความช่วยเหลือสู่ประเทศที่เผชิญวิกฤตอีโบลารุนแรงที่สุด ประกอบด้วยอเมริกาที่จะให้ความช่วยเหลือไลบีเรีย, อังกฤษช่วยเหลือเซียร์ราลีโอน, และฝรั่งเศสช่วยกินี

ทั้งนี้ การระบาดครั้งล่าสุดของอีโบลาทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 4,500 คนนับจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเกือบทั้งหมดอยู่ในแอฟริกาตะวันตก โดยที่เกือบ 2,500 คนเสียชีวิตในไลบีเรีย

ྐྵ

 

สดร.เผยภาพดาวหางเฉียดดาวอังคารจากกล้องไทยในชิลี
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ตุลาคม 2557 18:06 น.


@ดาวหางไซดิงสปริง (C/2013 A1) ขณะที่ผ่านเนบิวลามืด LDN74 ณ วันที่ 19 ต.ค.57 เวลา 00:40 UTC ก่อนเฉียดใกล้ดาวอังคาร ในภาพดาวอังคารอยู่ทางด้านล่างซ้าย ภาพถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์ทางไกลอัตโนมัติซีกฟ้าใต้ ดำเนินการโดย สดร.

สดร.เผยภาพ “ไซดิงสปริง” ดาวหางเฉียดดาวอังคารจากกล้องไทยในชิลี ทั้งก่อนและหลังเหตุการณ์ พร้อมลระบุ นักดาราศาสตร์ต่างจับตาดาวหางดวงนี้ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ปลายระบบสุริยะเมื่อหลายพันปีก่อน และมีองค์ประกอบเสมือน “แคปซูลกาลเวลา” ให้นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษากำเนิดระบบสุริยะ

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เผยภาพดาวหาง “ไซดิงสปริง” (Siding Spring) ดาวหางที่เพิ่งเฉียดดาวอังคารไปเมื่อเวลา 01.27 น. เมื่อวันที่ 20 ต.ค.57 ตามเวลาประเทศไทย ผ่านทางเว็บไซต์ของสถาบัน (สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) - หน้าแรก) โดยเป็นภาพที่บันทึกได้ทั้งก่อนและหลังการเฉียดใกล้ดาวอังคารด้วยกล้องโทรทรรศน์ทางไกลอัตโนมัติซีกฟ้าใต้ของไทยซึ่งตั้งอยู่ในประเทศชิลี

ข้อมูลที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ สดร.ยังระบุด้วยว่า ดาวหางไซดิงสปริงมีกำเนิดเมื่อ 4 พันล้านปีก่อนในบริเวณเมฆออร์ต (Oort Cloud) ที่อยู่ปลายระบบสุริยะ และใช้เวลาเป็นล้านปีเดินทางเข้าสู่ระบบสุริยะชั้นในเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการเฉียดใกล้ดาวอังคารนี้เป็นครั้งแรก และองค์ประกอบของดาวหางยังเปรียบเสมือน ไคปซูลกาลเวลา” ที่บันทึกองค์ประกอบดั้งเดิมของระบบสุริยะในอดีตเอาไว้ การศึกษาองค์ประกอบของดาวหางจะช่วยให้เราศึกษาต้นกำเนิดระบบสุริยะได้

“นอกไปจากนี้ การที่ดาวหางเฉียดผ่านดาวอังคารอาจจะทำให้ฝุ่นละอองที่ประกอบเป็นหางของดาว หางบางส่วนตกลงบนพื้นผิวของดาวอังคาร ซึ่งอาจจะสามารถสังเกตเห็นได้เป็นฝนดาวตกโดยหุ่นยนต์สำรวจอวกาศออพพอร์จูนิตี (Opportunity) และ คิวริออซิตี (Curiosity) และนักดาราศาสตร์ทั่วทุกมุมโลกก็กำลังจับตาดูเพื่อศึกษาดาวหางดวงนี้ โดยคาดว่าจะมีการรายงานการค้นพบเบื้องต้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” เว็บไซต์ สดร.ระบุ

ทั้งนี้ ไซดิงสปริงเป็นดาสวหางที่มีความกว้างประมาณ 1 ไมล์ ถูกค้นพบโดย โรเบิร์ต แมคนอต (Robert McNaught) จากหอดูดาวไซดิงสปริง (Siding Spring Observatory) ในออสเตรเลียเมื่อเดือน ม.ค.2013 ที่ผ่านมา ซึ่งองคืประกอบที่เป็นเศษฝุ่นและก้อนกรวดทำให้องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) ต้องโปรแกรมให้ยานโคจรสำรวจดาวอังคารทั้งหมดหลบอยู่ในด้านที่ปลอดภัยจากเศษฝุ่นเหล่านั้น แต่ก็อยู่ในตำแหน่งที่เตรียมพร้อมสำหรับบันทึกภาพและเก็บข้อมูลของดาวหางด้วย


@ดาวหางไซดิงสปริง (C/2013 A1) ณ วันที่ 20 ต.ค.57 เวลา 00:40 UTC หรือ 6 ชั่วโมงหลังดาวหางได้ผ่านเข้าใกล้ดาวอังคารมาประมาณหกชั่วโมง ในภาพแสงทางด้านบนขวา เป็นแสงจากดาวอังคาร สาเหตุที่จำเป็นต้องวางดาวเอาไว้นอกกรอบภาพเพื่อป้องกันความเสียหายต่อกล้องโทรทรรศน์ ภาพถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์ทางไกลอัตโนมัติซีกฟ้าใต้ ดำเนินการโดย สดร.


@ภาพวาดจากนาซาจำลองเหตุการณ์ระหว่างดาวหางเฉียดใกล้ดาวอังคาร และยานโคจรหลบอยู่อีกฝั่งที่ปลอดภัย ส่วนภาพหรือข้อมูลของดาวหางคาดว่าจะถูกเผยออกมาหลังจากนี้ (นาซา/เอเอฟพี)

ʴ

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก



เกิดปรากฏการณ์แสงออโรร่าทางตอนเหนือของนอร์เวย์และสวีเดน หลังจากกระแสลมสุริยะเข้าปะทะกับสนามแม่เหล็กโลก จนทำให้เกิดพายุแม่เหล็กระดับ G1 ซึ่งแสงออโรร่าส่วนใหญ่จะเป็นสีเขียว ทั้งนี้คาดการณ์ว่าแสงออโรร่ามันจะสว่างไปจนถึงวันที่ 24 ตค.57



นอกจากนี้ที่จุดมืด 2192 บนดวงอาทิตย์ได้มีการปะทุรังสี X-ray ภายในระยะเวลาแค่ 2 วัน จากระดับต่างๆ ไปแล้วมากถึง 20 ครั้ง ขณะที่จุดมืด 2192 กำลังหมุนมาตรงหน้าโลก แต่การปะทุบน 2192 ส่วนใหญ่ไม่มีการพ่นมวล CME ออกมา?? หรือว่านาซ่ากำลังปกปิดข้อมูลอะไรไว้อยู่ เพราะการปะทุหลายระลอกขนาดนี้มันไม่ปกติแล้ว??



เกิดปรากฏการณ์แสงออโรร่าทางตอนเหนือของนอร์เวย์และสวีเดน | สถานการณ์ภัยพิบัติ

 

Chatporn Sawangkarn

ย้อนรอยไวรัสสยองโลก หายนะแห่งมนุษยชาติ
โดย Marsmag 1 สิงหาคม 2557 15:08 น.



มหันตภัยจากอีโบล่าที่กำลังแพร่ระบาดในทวีปแอฟริกา ณ ขณะนี้ นอกจากจะสร้างความวิตกอกสั่นขวัญผวาให้กับคนทั่วโลก เนื่องจากการขยายตัวของมันแล้ว อีโบล่ายังสร้างความน่ากลัวแบบ “เงียบๆ แต่แฝงพิษสง” ให้น่ากลัวเล่นๆ ก็แค่มีไข้ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อและศีรษะ ก่อนที่จะมีอาการคลื่นไส้และท้องร่วง แถมผู้ป่วยบางรายมีเลือดออก และสามารถเผยแพร่ได้จาก ‘คนสู่คน’ ด้วยการมีเพศสัมพันธ์

หลายคนที่ติดตามข่าวด้านสุขภาพมาเป็นระยะๆ ก็เคยผ่านการได้ยินโรคชื่อประหลาดแต่ “แฝงพิษสง” มาก็เยอะ ไม่ว่าจะเป็น โรควัวบ้า โรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก 2009 ซึ่งก็สร้างความสะพรึงให้ระทึกโสตประสาท และก็ผ่านมันได้ให้สยองกันเล่นๆ ทุกที

แต่เดี๋ยวก่อน บางคนอาจจะไม่รู้ว่า ในประวัติศาสตร์ภัยพิบัติทางการแพทย์นั้น มีการระบาดของโรคต่างๆ ที่คร่าชีวิตคนได้เป็นล้านๆ ภายในเวลาอันสั้น

1. โรคติดต่อจากสงคราม Peloponnesian



เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์แรกสุดของการบันทึกโรคระบาดร้ายแรง โดยเกิดขึ้นในช่วง 430 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยเกิดมาจากสงครามระหว่างเอเธนส์ กับสปาร์ต้า ซึ่งคร่าชีวิตชาวเอเธนส์ไปราว 30,000 คน (เทียบเท่ากับประชากรทั้งอาณาจักรถึงสองในสาม ณ ขณะนั้น)

ทั้งนี้ มีการบรรยายถึงโรคดังกล่าวว่าในตอนแรก ประชาชนก็มีสุขภาพดีตามปกติ แต่จู่ๆ เริ่มมีอาการที่ศีรษะ ตาแดง แถมยังมีที่ลิ้น เลือดออกจากปาก และส่งกลิ่นเหม็น ส่วนบริเวณร่างกายก็มีแผลพุพอง ซึ่งถึงแม้จะมีบางส่วนที่รอดมาได้ แต่ก็ต้องสูญเสียนิ้วมือ ดวงตา และ อวัยวะเพศไปเช่นกัน

2. โรคอันโตไนน์ (Antonine)



จากเชื้อโรคที่ติดมาจากทหารหลังจากสงครามในอาณาจักรเมโสโปเตเมีย สามารถทำให้ระบาดไปได้กว้างไกลทั้งอาณาจักรโรมัน โดยการสันนิษฐานจาก Galen นายแพทย์ชาวกรีก โรคนี้ซึ่งเกิดขึ้นช่วงปี ค.ศ.165 และตั้งตามชื่อของ Marcus Aurelius Antonines หนึ่งในสองจักรพรรดิที่เสียชีวิตจากโรคนี้

สำหรับอาการของโรคนั้น มักจะมีไข้ ท้องร่วง และเกิดอาการอักเสบ แถมบางคนยังมีอาการผิวแห้ง และมีหนองตามตัว ซึ่งโรคอันโตไนน์นี้ทำให้ชาวกรุงโรมเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 5,000 คน แค่ในระยะเวลา 15 ปี (ค.ศ.165 ถึง 180) ก็สามารถทำให้คนตายไปได้ถึง 5 ล้านคน

3. โรคระบาดจัสติเนียน



โรคระบาดในช่วงยุคกลาง ที่เกิดขึ้นในจักรวรรดิไบแซนไทน์ ระหว่าง ค.ศ.541 ถึง ค.ศ. 750 ซึ่งการระบาดของโรคนี้มาจากเชื้อ Yersinia Pestis ซึ่งจุดที่มีผู้ตายมากที่สุดอยู่ที่ ฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

โดยคร่าชีวิตผู้คนไปเฉลี่ย 10,000 ราย ต่อวัน และยอดรวมของผู้เสียชีวิตทั่วโลก อยู่ที่ 25 ล้านคน จนถึงขนาดที่ว่า ภาพของศพผู้เสียชีวิตนั้น นำมากองรวมกันเป็นพะเนินเทินทกกันเลยทีเดียว ซึ่งโรคนี้นี่เองเป็นจุดกำเนิดของโรค “กาฬมรณะ” ในช่วงศตวรรษที่ 14

4. กาฬมรณะ



นี่คือโรคระบาดที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ เพราะด้วยเชื้อ Yersinia Pestis (ซึ่งเป็นตัวเดียวกับโรคระบาดจัสติเนี่ยน) ที่เผยแพร่มาจากสัตว์จำพวกหนู ทำให้คนตายเป็นจำนวนมาก สร้างความปั่นป่วนทั้งการเกิดกลียุคหลายด้าน ทางศาสนา สังคม และเศรษฐกิจมากมาย

โรคกาฬมรณะ หรือ Black Death คาดว่าน่าจะมาจากจีนหรือเอเชียกลาง และแพร่มาตามเส้นทางสายไหมลามมาจนไครเมียในปี ค.ศ.1346 ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายได้พรากชีวิตผู้คนไปราว 75 ถึง 200 ล้านคน จากระยะเวลาแค่ 2 ปี (ค.ศ.1348-1350)

5. ไข้หวัดสเปน



หลังจากควันไฟสงครามโลกครั้งที่ 1 ดับลงในปี ค.ศ.1918 ภัยร้ายของโรคระบาดก็เกิดขึ้นทันที เมื่อมี “โรคไข้หวัดสเปน” หรือ Spanish Flu ได้ถือกำเนิดขึ้นหลังจากนั้น ซึ่งโรคดังกล่าวเกิดมาจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ A ชนิดย่อย H1N1 ซึ่งถือกำเนิดจากแคมป์ทหารชั่วคราวในเมือง Kansas ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ก็สามารถแพร่กระจายไปได้ทั่วโลกในเวลาไม่นาน

ความร้ายแรงของโรคนี้ทำให้ประชากรหายไปจากโลกกว่า 50 ล้านคน (มากกว่ายอดผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 เสียอีก) ซึ่งในสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว ก็ปาไปที่ 500,000 รายแล้ว

 

Kaokala Fc

21 ต.ค. หลังถล่มเบอร์มิวด้ายับ เฮอริเคน กอนซาโลเข้าถล่มอังกฤษ เที่ยวบินดีเลย์-ยกเลิกอื้อ ผู้โดยสารหลายพันคนติดค้าง


(ภาพ..ความเสียหายที่เกาะเบอร์มิวดา จากเฮอริเคน กอนซาโล)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พายุเฮอริเคน กอนซาโล ถล่มสหราชอาณาจักรแล้ว ส่งผลให้เกิดลมกระโชกแรงจัดและฝนตกหนัก จนทำให้มีเที่ยวบินถึง 10% รวมทั้งเครื่องบินขนาดใหญ่จำนวน 20 ลำ ที่จะบินขึ้นลงที่ท่าอากาศยานระหว่างประเทศฮีทโธรว์ ในอังกฤษต้องถูกยกเลิกและดีเลย์ เป็นเหตุให้ผู้โดยสารหลายพันคน ติดค้างอยู่ในสนามบิน รอเวลาจนกว่าเครื่องบินจะสามารถขึ้นลงได้ตามปกติ



พายุเฮอริเคน กอนซาโลได้เคลื่อนตัวถึงไอร์แลนด์ เมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ 20 ต.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) และเข้าถล่มบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษในช่วงเย็น และคาดว่าจะเคลื่อนตัวถึงสกอตแลนด์ในช่วงเที่ยงคืนของวันเดียวกัน



ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอังกฤษได้ประกาศเตือนภัยพายุเฮอริเคนกอนซาโล ในระดับ ‘สีเหลือง’ โดยคาดว่าอิทธิพลของเฮอริเคนกำลังแรงลูกนี้ จะก่อให้เกิดลมกระโชกแรงสุดในวันอังคารที่ 21 ต.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) หลังจากก่อนหน้านี้ พายุเฮอริเคน กอนซาโลได้ส่งผลให้เกิดความเสียหายและไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างเกือบทั้งเกาะ ขณะถล่มเกาะเบอร์มิวด้ามาแล้ว



เฮอริเคน กอนซาโลถล่มอังกฤษ เที่ยวบินดีเลย์อื้อ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

Kaokala Fc

21 ต.ค. เดือนก.ย.2557อุณหภูมิโลกสูงที่สุดในรอบ134ปี



สหรัฐเผยเดือนก.ย.ที่ผ่านมาเป็นเดือนที่อุณหภูมิเหนือพื้นดินและพื้นมหาสมุทรของโลกสูงที่สุด นับตั้งแต่มีการจดบันทึกเมื่อปีพ.ศ.2423
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่21ต.ค.ว่า องค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศสหรัฐ (เอ็นโอเอเอ) รายงานว่าเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เป็นเดือนที่อุณหภูมิเฉลี่ยเหนือพื้นดินและมหาสมุทรของโลกสูงที่สุด ตั้งแต่มีการจดบันทึกอุณหภูมิโลกเมื่อปีพ.ศ.2423 เป็นต้นมา และเป็นเดือนก.ย.ที่มีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของศตวรรษที่20ติดต่อกันเป็นปีที่38
เอ็นโอเอเอเผยอีกว่าเมื่อเดือนที่แล้วพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติ ยกเว้นพื้นที่ตอนกลางของรัสเซีย พื้นที่บางส่วนของภาคตะวันออกและภาคเหนือในแคนาดา และพื้นที่ขนาดย่อมในนามิเบีย
ขณะที่พื้นที่ที่ได้รับการบันทึกว่ามีอุณหภูมิสูงเป็นพิเศษได้แก่ พื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกา ภูมิภาคชายฝั่งทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกาใต้ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย บางส่วนของตะวันออกกลาง และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ตัวเลขอุณหภูมิที่ใช้ในการสรำรวจได้มาจากแอ่งมหาสมุทรหลักจากมหาสมุทรทั่วโลก โดยเฉพาะทางตะวันออกเฉียงเหนือและบริเวณเส้นศูนย์สูตรของมหาสมุทรแปซิฟิก
เมื่อนำอุณหภูมิเฉลี่ยเหนือพื้นดินและมหาสมุทรมารวมกันเอ็นโอเอเอพบว่า เดือนก.ย.ที่ผ่านมามีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่15.72องศาเซลเซียส หรือเพิ่มขึ้น0.72องศาเซลเซียส จากอุณหภูมิเฉลี่ยของศตวรรษที่20 ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่าเดือนพ.ค. มิ.ย. ส.ค.และก.ย. ของปีนี้ล้วนแต่มีอุณหภูมิอุ่นขึ้น ขณะที่เดือนก.พ.เป็นเดือนเดียวของปี2557ที่อุณหภูมิไม่เพิ่ม ส่วนอุณหภูมิเหนือมหาสมุทรเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เป็นเดือนที่มีอุณหภูมิสูงที่สุด สูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของศตวรรษที่20 0.66องศาเซลเซียส
เดือนก.ย.2557อุณหภูมิโลกสูงที่สุดในรอบ134ปี | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

Kaokala Fc

21 ต.ค. วิกฤติอีโบล่า ! ยูเอ็นช่วยเหลือเพิ่มครั้งใหญ่ให้ 3 ประเทศไลบีเรีย กินี และเซียร์ราลีโอนแล้ว



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอักกรา ประเทศกานา เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ว่าประธานาธิบดีจอห์น มาฮามา ผู้นำกานา และประธานประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก ( อีโควาส ) แถลงเมื่อวันจันทร์ ว่าความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมครั้งใหญ่จากโครงการอาหารโลก ( ดับเบิลยูเอฟพี ) ทยอยเดินทางถึง 3 ประเทศซึ่งเป็นพื้นที่แพร่ระบาดรุนแรงที่สุดของเชื้อไวรัสอีโบลา คือไลบีเรีย กินี และเซียร์ราลีโอนแล้ว



ทั้งนี้ นอกจากดับเบิลยูเอฟพีจะนำทั้งอาหารกว่า 800 เมตริกตัน ยารักษาโรคและของใช้จำเป็นพื้นฐานมามอบให้กับประชาชนแล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในทั้ง 3 ประเทศจะได้รับมอบอุปกรณ์ป้องกันทางการแพทย์ชุดใหม่อีกจำนวนมากด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้นำกานาแสดงความกังวลต่อกรณีที่ทั้งไลบีเรีย กินี และเซียร์ราลีโอน ยังคงขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์เพื่อดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา และจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในการประชุมของอีโควาสในเดือนหน้า



นอกจากนี้ มาฮามายังแสดงความชื่นชมที่ไนจีเรียได้รับคำยืนยันจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้เป็นประเทศปลอดเชื้อไวรัสมรณะอย่างเป็นทางการ หลังไม่พบผู้ป่วยเพิ่มในรอบ 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยฮูให้สถิติของไนจีเรียหยุดเอาไว้ที่ติดเชื้อ 20 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 8 ศพ



ขณะเดียวกัน ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป ( อียู ) ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม อยู่ระหว่างหารือมาตรการรับมือกับเชื้อไวรัสอีโบลา ที่ตั้งแต่เดือนมี.ค. คร่าชีวิตประชากรโลกไปแล้วกว่า 4,550 ศพ เบื้องต้นอาจมีการแต่งตั้งผู้ประสานงานในนามของสหภาพ และบริจาคเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมด้วย

ยูเอ็นช่วยเหลือเพิ่มครั้งใหญ่ให้ประเทศอีโบลาระบาด | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

Kaokala Fc

21 ต.ค. โคโลราโด สหรัฐเสนอให้ควบคุมอาหารผสมกัญชา



เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐโคโลราโด สหรัฐ เสนอให้ลูกอม และลูกกวาดที่มีส่วนผสมของกัญชา ซึ่งโดยธรรมชาติมักจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดและล่อตาล่อใจเด็กจำนวนมาก ว่าควรจะได้รับการควบคุม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่21ต.ค.ว่า หน่วยงานด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมรัฐโคโลราโด เสนอให้สินค้าที่มีส่วนผสมของกัญชาที่มีอยู่ในลูกอม ลูกกวาด และขนมสีสันต่างๆ ถูกจำกัดไม่ให้เด็กรับประทาน หลังจากเมื่อปี2555 รัฐโคโลราโดและวอชิงตัน สองรัฐแรกที่ผ่านกฎหมายจากการลงคะแนนเสียงของประชาชนให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย
ด้านผู้ปกครองต่างกังวลว่าบุตรหลานอาจจะบริโภคลูกอม ลูกกวาด ที่มีส่วนผสมของกัญชาโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากสินค้าประเภทนี้มีลักษณะไม่ต่างจากสินค้าแบบเดิมที่เคยมีมา
ทั้งนี้หน่วยงานด้านสาธารณสุขกล่าวว่า การอนุญาตให้จำหน่ายลูกอมผสมกัญชาอาจจะทำให้ผู้บริโภคสับสน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผู้ลงคะแนนผ่านร่างกฎหมายต้องการ ฉะนั้นหน่วยงานจึงต้องการยื่นร่างกฎหมายผ่านสภานิติบัญญัติท้องถิ่นของรัฐในเดือนก.พ.ที่จะถึงนี้ ซึ่งเนื้อหาของข้อเรียกร้องส่วนใหญ่ได้ผ่านกฎหมายซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี2559นี้ ที่กำหนดให้สินค้าที่มีส่วนผสมของกัญชาต้องมีการประทับตรา กำหนดรูปลักษณ์ สี หรือสัญลักษณ์มาตรฐาน เพื่อบ่งบอกว่าสินค้ามีส่วนผสมของกัญชาและห้ามเด็กบริโภค
ขณะที่กลุ่มนักรณรงค์เคลื่อนไหวเผยสถิติพบว่ามีเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ล้มป่วยหลังบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาเข้าไป ซึ่งจากรายงานระบุว่ามีผู้ใหญ่เสียชีวิตไป2ราย ส่วนตำรวจได้แจ้งเตือนผู้ปกครองให้ระมัดระวังบุตรหลานอาจได้รับลูกอมหรือลูกกวาดที่มีส่วนผสมของกัญชาซึ่งมีหน้าตาไม่ต่างกับลูกกวาดทั่วไป ในช่วงเทศกาลวันฮาโลวีนที่กำลังจะมาถึงซึ่งตรงกับวันที่31ต.ค.นี้
โคโลราโด สหรัฐเสนอคุมอาหารผสมกัญชา | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์