บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ที่ที่อยู่ไม่มีดอกมะลิเลย ทั้งจังหวัด ก็เลยเก็บดอกแก้วมาลอยน้ำแทน มองดูก็สวยไปอีกแบบ...

 

อวดเข้าไป....วันนี้นึกเรื่องยังไม่ออกค่ะ ก็ดูของคุ้นๆ เคยๆ ไปก่อนนะ

 

มธุรดาเทวี นางผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความรัก นางในดวงใจ

 

ยังไม่เห็นใครเลยที่เอาชนะโลกธรรมแปดได้ ไหลตามมันอยู่ร่ำไป ไม่เหนื่อยกันบ้างหรืออย่างไรนะ

การคลุกคลีนำมาสู่ความวุ่นวายกาย วุ่นวายใจ การเสพ...ถ้าเป็นไปแต่พอดีมันก็ดี ถ้ามันเกินมันก็ไม่ดี เพราะฉะนั้นจะคิด จะทำ จะพูดอะไร ให้เป็นไปแต่พอดี จะดีกว่า

รักมิตร....อย่ายัดเยียดกิเลสตัณหาอุปาทานให้มิตร

 

กิเลสมันพาให้อ้างไปเรื่อยๆ นะ

พออยากจะทำอะไรหรือพูดอะไร มันมักจะมีข้ออ้างเสมอๆ

ข้ออ้างที่ทำให้ดูดี แต่จริงๆ มันก็มาจากความอยากทั้งสิ้น

 

นิทานเสียงแห่งเทพ (2)
วันที่ 25-10-2014

P 15:35 ไผสิลงอีกแระ ปวดท้ายทอย
N 15:35 ลงมาแมะ อ้าวเงียบ แอนเสีย
A 15:37 บ่เสีย ซ่อมแล้ว
P 15:37 ท่านแม่
N 15:38 ท่านแม่ที่ไหนหนอ
P 15:38 ผู้ไร้จิตแล้วไร้กาย ไม่ทุกข์แล้ว ปรารถนาที่จะเกิดถึงเกิด เราจะรอท่านแม่
N 15:39 สาธุการ ท่านคือใคร
P 15:40 ยามีนญามุนีนาคีนาคราช
N 15:40 ท่านเป็นใครมาจากไหน โปรดเล่าเรื่องราวให้เรารับรู้หน่อยได้ไหม
P 15:42 ผู้บำเพ็ญมาแล้วหลายกัปหลายอสงไขย ไม่ยึดแล้วแต่สวรรค์จะเปิดประตูภพเชือมมนุษย์เข้าหาเทพเพื่อชักจูงหลุดพ้นบ่วงทั้งหลาย
N 15:42 สาธุ
P 15:42 ผู้เป็นลูกหลานย่อมทราบเรื่องนี้
N 15:43 ผู้เป็นลูกหลาน ท่านมาเพื่อส่งข่าวอะไรหรือเปล่า
P 15:44 ใกล้แล้วท่านแม่ใกล้ถึงเวลาแล้ว
N 15:44 เราก็รู้สึกอย่างนั้น เพราะเรารู้สึกเบื่อมนุษย์มากๆ
P 15:45 เกินกำลังมนุษย์แล้วเทพจักต้องได้ช่วย
N 15:45 ทำไมต้องช่วย
P 15:46 ท่านจะกลับมาแล้วท่านจะต้องช่วย
N 15:46 อีกนานแค่ไหน
P 15:46 อีกมินาน
N 15:47 สิบปีถึงหรือเปล่า ???????????????

 

ความฝันนำมาสู่เรื่องราว

เคยฝันนานแล้ว มีพระมาหาบอกว่ามีท่านผู้หนึ่งต้องการพบให้ตามไป ก็เลยตามท่านไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง มีหมอกควันสีขาวๆ ลอยอยู่ตามพื้น ที่แห่งนั้นเป็นลานกว้างใหญ่ ได้พบพระภิกษุชรารูปหนึ่ง ท่านนั่งอยู่บนแท่นเหนือกว่าทุกคนในที่นั้น สถานที่แห่งนั้นมีแต่พระภิกษุ

แล้วท่านก็กล่าวว่าจะต้องทำพิธีให้เราแล้ว ปล่อยไม่ได้แล้วมันจะเลยกำหนด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหมายถึงอะไร พระภิกษุหนุ่มสองรูปที่ยืนอยู่ข้างๆ เรา ไปหยิบถาดกลมทองคำขนาดใหญ่ที่จัดวางสิ่งของเป็นสีทองเต็มถาด มาส่งให้เรา เมื่อมองสิ่งของที่อยู่เต็มถาดนั้น สิ่งนั้นคือพระรูปหล่อสมเด็จโตที่ทำด้วยทองคำเป็นร้อยๆ องค์ ถาดนั้นหนักมาก

พระสองรูปนั้น บอกให้นำไปประเคนพระภิกษุชราที่นั่งอยู่บนแท่น แล้วก็ให้กราบ จากนั้นพระก็สวดมนต์ เรากราบพระภิกษุชรานั้น เสร็จแล้วท่านก็เดินลงมาจากแท่น แล้วถามว่าจะให้ทำพิธีบังสกุลให้ด้วยหรือเปล่า.....

 

วันนี้หวนกลับไปเรื่องเก่าๆ อีกแล้ว โดนผัสสะกระทบทุกวัน มันฟุ้ง มันปรุงดีจริงๆ น้ำมันอยู่นิ่งๆ ก็ดีอยู่แล้ว มากวนให้ขุ่นทำไมหนอ???

 

"...ขอครวญคำข้ามฟ้าลอยมาแด่เธอ น้ำคำวอนพร่ำเพ้อละเมอจากใจ รักเราสองสัมพันธ์แต่รักนั้นอยู่ไกล เฝ้าหลงอาลัย ร้องครวญไปฝากหัวใจล่องลอย...." (เพลงดังในอดีตที่ชอบอีกเพลงหนึ่ง)

"...เป็นกะลาให้ถือแม้เธอคือขอทาน เป็นบัลลังก์ตระการแม้เธอคือนางพญา เป็นโลงทองรองรับแม้ดับชีวา เป็นวิมานผ่านฟ้าแด่เทพธิดานงคราญ..."

เห็นรักแท้ในนั้นเลย จะมีสักกี่คนหนอที่จะมีรักแท้อย่างนี้ อย่าไปตั้งหน้าตั้งตาหาดีกว่า มันก็เป็นแค่เพียงภาพมายาลวงใจให้เข้าไปติด ไปยึดไว้ ทุกวันนี้มองไม่เห็นอะไรเลย ไม่มีมิตร ไม่มีคนรัก ไม่มีศัตรู ไม่มีอยู่จริงๆ

 

โลกียสุข โลกียธรรม มีได้ก็มีเสีย มีสุขก็มีเสื่อม ทุกรูปนามล้วนได้พบเจอ แต่ต่างไม่ยอมรับความจริง เฝ้าเพียรแสวงหาสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน เพียงต้องการเปลี่ยนที่ทุกข์ ระหว่างโลกียะกับโลกุตระ จึงต่างกันสิ้นเชิง เมื่อมาเสวนากันก็ไปคนละทิศละทาง

จิตและใจอยู่ที่ไหน หากันให้เจอ เมื่อเจอแล้วดูแลรักษาไว้ให้ดี อย่าให้หม่นหมอง ทรงความสดใสเบิกบานไว้ กิเลสจรๆ ต่างๆ ไม่ต้องไปรับมันมาไว้ใส่ใจ กิเลสภายในก็หมั่นเฝ้าระวังอย่าปล่อยให้มันออกมาทำร้ายตนเองและผู้อื่น

เจ้ากิเลสทั้งหลายเหล่านี้ มันชอบพาเราอ้างไปต่างๆ นาๆ ในเวลาที่ต้องการทำ พูด คิด ..... กิเลส ก็คือ โลภะ โทสะ โมหะ เป็นตัวนำแล้วตัณหาก็จะตามมา ความทะยานอยากต่างๆ นั่นแหละ ตัวโลภะเนี่ยมันแทรกจิตอยู่ตลอดเวลา "โลภ" คนเราโลภโดยไม่รู้ตัวเห็นมีอยู่มาก เพราะอะไรจึงไม่รู้ตัว เพราะคติที่มีอยู่ในใจ คติมันมาจากไหนล่ะ มันก็มาจากอวิชชา

โลภในอาหาร ต้องกินอาหารดีๆ กินมากๆ หรือเก็บกักตุนไว้
โลภในที่อยู่อาศัย ต้องมีบ้านหลังโต มีเฟอร์นิเจอร์สุดอลังการ มีๆๆๆๆๆ ทุกอย่างที่ใจมันอยากมี
โลภในเครื่องนุ่งห่ม ต้องเลิศหรู ทันสมัยตามแฟชั่น หรือตามสังคมที่ตนเองอยู่
โลภในยารักษาโรค ไม่ได้ป่วยแต่อยากสวย อยากหล่อ ก็หามากินกัน เป็นต้น
(โลภในคู่ครองคนรัก อยากมีมากๆ คิดว่านั่นคือสุข)
โลภที่เกี่ยวกับโลกธรรมแปด ลาภ ยศ สรรเสริญ ฯลฯ

เมื่อไม่ได้หรือได้มาน้อยก็เป็นทุกข์ เป็นเพราะขาดสันโดษ ได้มาก็ทุกข์อีกนั่นแหละ เพราะมันเกินความจำเป็น

สะสมเพาะบ่มกิเลสในใจให้งอกงามไปทุกวันโดยไม่รู้ตัว ก็ทำได้แค่มองนะ ช่วยเหลืออะไรใครไม่ได้หรอก

มันคือโลก โลกนี้มันก็มีอย่างนี้แหละ โลกสมมติ

ไร้ตัวตน ไร้รูป ไร้นาม

ยึดติดมากก็ปรุงแต่งมาก ปรุงแต่งมากก็มีกรรมมาก มีกรรมมาก ก็เวียนว่ายตายเกิดมาก

 

มีผู้ทำนายว่า นั่นคือจิตตานุภาพ เรามีจิตตานุภาพ คิดหวังสิ่งใดก็จะได้สิ่งนั้นสมความปรารถนาทุกประการ ก็อย่าเพิ่งเชื่อนะคะ

 

คนอะไรไปที่ไหนก็คุยคนเดียวทุกที่ มีแต่ช่วยคนอื่น ไม่เห็นมีใครมาช่วยเราบ้างเลย งง...เหมือนกัน ชีวิต!!!

คงจะไม่อ่อนหวาน ขาาาาาาาาาา ค่ะ ขาาาาาาาาา ค่ะ อิอิ....ก็ว่ากันปาย

โดนสอบอารมณ์ทุกวันค่ะ สนุกดี หลากหลาย เป็นหุ่นยนต์ซะบ้างก็ดีนะ ตื่นมาโปรแกรมไว้เลยว่าวันนี้จะคิด จะทำหรือพูดอะไรบ้าง? คิดถึงตอนเป็นพระ 555 ไปเป็นตอนไหนเนี่ย?

ก็มีหลายๆ นิมิตบอกมาอย่างนั้น ในอดีตปล่อยวางได้ง่ายๆ กว่าปัจจุบัน ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นหนอ ยังเห็นโลกมาน้อยอยู่มั้ง โลกยังสวยสดงดงามในใจ ปัจจุบันวางใจไว้ตรงกลาง ได้บ้างไม่ได้บ้าง ฮิ้วววววว...

มีความลับที่เป็นท๊อปซีเครตค่ะ คงบอกให้ใครรู้ไม่ได้ อิอิ แต่มีเรื่องท๊อปซีเครตที่อยากเล่ามากๆ ค่ะ นั่นก็คือ เรื่องของสามเณรสามรูป

 

เป็นกำลังใจค่ะ.(f)

 

ขอบคุณค่ะ

 

เน็ตหลุด หมดกันที่พิมพ์ๆ ไว้ นึกก่อนค่ะ..........

วันหนึ่ง ณ วิหารสมเด็จองค์ปฐม วัดพระธาตุห้าดวง ได้เข้าไปนั่งกรรมฐานคนเดียว ปรากฏนิมิตสามเณรผิวพรรณขาวงดงามขึ้นสามรูป จิตบอกว่าเป็นพี่น้องกัน บวชเณรทั้งสามพี่น้องเลย เป็นใครหนอ?

วันนั้นก็สงสัย แต่ขี้เกียจคิด เก็บไว้ก่อน หุหุ วันนี้สงสัยขึ้นมาอีกแระ พอทบทวนเรื่องถูกเชิญไปร่วมงานบวชพระที่เป็นเด็กเล็กๆ คนหนึ่งอายุประมาณเจ็ดขวบ (นิมิตค่ะ) เค้าบอกว่าเด็กคนนี้มีบุญญาธิการมาก ต้องบวชพระ (คงจะคนละเรื่องกันนะ)

ก็เลยขอนำเรื่องราวของสามเณรที่บรรลุธรรมเมื่อครั้งพุทธกาลมาให้อ่านกันค่ะ (อย่างย่อๆ ไม่เกี่ยวกับที่เกริ่นไว้ข้างต้นนะคะ)

สังกิจจสามเณร
- เกิดที่เชิงตะกอน แม่ตายถูกเผา ทารกไม่เป็นอันตราย
- ถูกสัปเหร่อแทงด้วยหลาวเหล็กที่หางตา(ของทารก)
- อายุ ๗ ขวบ พระสารีบุตรบรรพชาให้
- บรรลุพระอรหันต์ ในเวลาปลงผมเสร็จ
- แสดงปาฏิหาริย์ให้โจรเห็น จนโจรกลับใจขอบวช

สุมนสามเณร
- อายุ ๗ ขวบ เป็นลูกของเพื่อนพระอนุรุทธะ
- พระอนุรุทธะบรรพชาให้ บรรลุอรหันต์ในเวลาปลงผมเสร็จ
- ปราบพญานาค ที่สระอโนดาต
- นำน้ำในสระอโนดาตมาล้างพระบาทพระพุทธเจ้า
- พระพุทธเจ้าประทานอุปสมบทให้

โสปากสามเณร
- อายุ ๗ ขวบ ทะเลาะกับลูกอา ถูกอาจับมัดกับคนตายในป่าช้า
- อยู่ในข่ายพระญาณของพระพุทธเจ้า ฟังคาถาแรก บรรลุโสดาบัน
- แม่มาตาม ทรงใช้ฤทธิ์ปิดบังไม่ให้เห็น (เหมือนยสกุลบุตร)
- ฟังคาถาที่สองก็บรรลุอรหันต์ แม่บรรลุโสดาบัน
- พระพุทธเจ้าอุปสมบทให้ โดยการตรัสถามปัญหา ๑๐ ข้อ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่

 

ผู้ชายคนนั้นมาหาอีกแล้ว (ในฝัน) หน้าตาคมคายเหมือนแขกขาว แววตานั้น แฝงด้วยความรัก เป็นห่วงเป็นใย เค้าเป็นใครกันหนอ? เราจดจำได้ดี เพราะเค้ามาหาในระยะสามปีนี้ ประมาณสี่หรือห้าครั้งได้ ไม่เคยพูดจาแทะโลม มีแต่แนะนำว่าควรทำอย่างไร ไม่ควรทำอย่างไรในสิ่งที่เรากำลังจะทำ "เพื่อน" ใช่หรือไม่? เค้าเป็นเพื่อนใช่หรือไม่? ในความฝันเราพูดคุยกับเค้าทุกครั้งเลย เหมือนไม่ใช่คนแปลกหน้า.....แต่ความจริงในชีวิต เราไม่เคยรู้จักหรือพบเห็นเค้ามาก่อนเลย

เมื่อคืนไปทั่วอีกแล้ว จำรายละเอียดไม่ได้เหมือนเคย 555 จำได้แต่ภาพเหตุการณ์แต่ว่าพอจะเล่า มันเล่าไม่ได้ อธิบายไม่ถูก ไปที่บ้านไม้หลังใหญ่เหมือนบ้านร้าง เพราะบ้านหลังใหญ่มาก แต่ไม่มีคนอยู่ เราเข้าไปในบ้านคนเดียว มีหลายห้องใหญ่ๆ เป็นห้องว่างๆ ไม่มีอะไรเลย แล้วมีผู้ชายเข้ามาจะทำร้าย ใช่เค้าทำร้ายเรากัดที่คอเราด้านขวา แต่กัดไม่เข้าเพราะไปติดผมที่เราปล่อยยาว ไม่ได้รวบไว้ เราร้องให้คนช่วย มีคนเดินผ่านมาพอดี ชายคนนั้นก็เลยปล่อยเรา เราวิ่งหนีออกมา 555.....สงสัยกินผัดซีอิ๊วก่อนนอน

มีอีกค่ะ ยังไม่จบ อีรุงตุงนังดีเจงๆ ฝันเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ติดกันมาสามคืนแระ คืนนี้ก็เจออีก (ไปยุ่งอะไรกับเด็กนักหนา) รู้สึกเหมือนไปเลี้ยงเด็ก 555 เลี้ยงต้อยหรือเปล่าไม่รู้นะ......จะกลับบ้านแระ ก็เลยขอไปอาบน้ำก่อน เดินไปเข้าห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมมีหลายห้อง แต่ละห้องมีคนยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ เพราะมีคนใช้อยู่ทุกห้อง มีห้องหนึ่งที่ปิดไว้แต่ไม่มีใครใช้ เหมือนเค้ารออะไรบางอย่าง มีคนเปิดประตูห้องนั้นแล้วก็ปิดไว้อย่างเดิม

สักพักมีผู้ชายสองคนและผู้หญิงหนึ่งคนเดินมา บอกให้ทุกคนหลบทาง แล้วพวกเค้าก็เปิดประตูห้องนั้นออกมา ภาพที่อยู่ในห้องน้ำนั้น คือผู้หญิงสองคนนอนแก้ผ้าแช่อยู่ในอ่างน้ำไม่กระดุกกระดิก เธอทั้งสองตายอยู่ในนั้น มีเสียงคนที่ยืนรอจะอาบน้ำซุบซิบกันถึงเรื่องราวของเธอทั้งสอง ว่าสองคนนี้เป็นคู่รักกัน ต้องการให้ทุกๆ คนยอมรับในเรื่องที่เธอทั้งสองรักกัน ความรักของเธอมีอุปสรรคจึงตัดสินใจตายไปพร้อมกัน

แล้วผู้ชายก็แบกร่างของเธอทั้งสองพาดบ่า เดินออกไป เมื่อร่างทั้งสองขึ้นมาจากน้ำ กลับเป็นร่างผอมๆ สีเขียว แขนขากางออก และมีน้ำเหลืองสีเขียวๆ พุ่งออกมาเปื้อนเปรอะชายที่แบก.....ไปเห็นคนตายหรือเนี่ย???

จบความฝันภาคพิสดารค่ะ ที่จริงมีมากกว่านี้นะ เป็นเพราะก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊ว 55555555

แต่เมื่อคืนมีเพื่อนที่เป็นผู้หญิงหลายคนเลยมารับเราไปเที่ยว ไปเลี้ยงกาแฟและขนมเค้กด้วย แหมๆ ไฮโซนะคะ เพราะไปนั่งดื่มกาแฟสดกับเค้กราคาแพง หุหุ

ปล. เหตุเพราะไม่สำรวมกายวาจาใจในระหว่างวัน แถมบริโภคอาหารเกินความจำเป็น ทำให้จิตฟุ้งปรุงแต่ง นำเรื่องราวในระหว่างวันมาปะติดปะต่อเป็นความฝัน

 

พึงพิจารณา

การได้พบปะ พูดคุยกับคนมากมายโดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มันส่งผลเสียอย่างนี้นี่เอง

จิตปรุงแต่งตลอดเวลา สังขารขันธ์ทำงานตลอดเวลา จิตไม่ว่าง มีสิ่งแปลกปลอมสอดแทรกเข้ามาได้ง่ายๆ ล้วนแต่เป็นกิเลสทั้งสิ้น สติตามไม่ทัน ที่ไม่ทันเพราะมัวแต่ส่งจิตออกนอก ไหลไปตามธรรมารมณ์ต่างๆ

เมื่อวานคุยหลายที่พร้อมๆ กันค่ะ ก็คิดว่าคุยธรรมะไม่น่าจะมีอะไร น้ำเสียเมื่อมารวมกับน้ำดี น้ำดีย่อมกลายเป็นน้ำเสีย แม้น้ำดีจะมีปริมาณมากกว่าก็ได้ชื่อว่าเป็นน้ำเสียซะแล้ว

 

คุยไปคุยมาก็มาเห็นธาตุอีกแระ ธาตุทั้งสี่ ดินน้ำลมไฟ มีอยู่เท่านี้แหละ แต่ปรุงแต่งให้เป็นรูปร่างหน้าตา เป็นร่างกาย พอเป็นร่างกายขึ้นมา ก็มีสวยมีหล่อ มีรัก มีหวง มียึดไว้เป็นเจ้าของ มีของเธอ ของฉัน พอได้ยินได้ฟังอะไรที่มันขัดกับสิ่งที่ตนยึดไว้ ก็มีพอใจ ไม่พอใจ มันจะมีไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด..............

เพราะธาตุทั้งสี่มาประชุมกัน จึงมีขันธ์ห้า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แบ่งเป็นรูป 4 นาม 1 (อิอิ จำตามที่เค้าท่องๆ กันมาอ่ะ)

แปลกเนอะคนเรา แล้วก็เอาธาตุทั้งสี่นี่แหละมาทะเลาะกัน ดิน (กระดูก ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง) ของเธอสวยนะ (555) น้ำ (น้ำเลือด น้ำเหลือง เสมหะ น้ำลาย ปัสสาวะ) ของเธอขุ่นนะ (555) ลมของเธอเหม็นนะ (555) ไฟของเธอร้อนแรงนะ (555) ไม่เห็นมีใครคุยอย่างนี้เลย มีแต่บอกว่าหน้าตาสวยนะ หล่อนะ กายของเธอหรือของเขาอบอุ่นดีนะ ฯลฯ

ไปเห็นเค้าทะเลาะกันในเฟสทุกวัน มันก็เลยจินตนาการ จับผิด จับถูก ก็จ้องจับกันไป รู้สึกเหนื่อย เหนื่อยที่ใจ เหนื่อยกับการเล่นเกมส์ชีวิต อยากจะพักแล้ว เหนื่อยเล่นเกมส์กับพวกเธอ เหนื่อยกับการมองพวกเธอ เหนื่อยกับการรับรู้เรื่องของพวกเธอ

เธอจะรู้บ้างมั้ย....ว่าฉันเหนื่อย

"...ความกลิ้งกลอกยอกย้อนให้เจ็บจิต
........ทำพูดคิดสิ่งใดจึงไร้ผล.........
....ไม่ประกอบด้วยชอบตอบอารมณ์...
.....ความนิยมโลมโลกให้โศกนาน....."