ซูกระแท้ว....แซวกระทู้....

...สวัสดีปีใหม่ครับ ขอบารมีแห่งพระรัตนตรัย ปกปักคุ้มครองทุกท่านได้พบความสุข ความเจริญถ้วนทั่วกันทุกท่านเทอญ...สาธุ
...........จากความเดิมที่ผมพูดถึงแม่ยายที่ท่านป่วยไม่สบายเมื่อวันก่อน วันนี้ท่านได้สิ้นใจ อย่างสงบแล้วครับ เป็นการจากไปขณะที่ท่านมีอาการดีขึ้นเป็นลำดับจากที่นอนติดที่ไม่สามารถเดินได้ จนขณะเมื่อวันที่ 1 มกราคม ท่านเดินได้เองแค่มีคนพาพยุงนิดหน่อย ผมพาท่านไปปล่อยปลาปล่อยเต่ากับครอบครัว พาท่านไปไหว้หลวงปู่ทวดวัดช้างให้ แต่สุดท้าย ชีวิตก็อนิจจัง ไม่สามารถหลีกหนีความตายได้ ถึงเวลาก็ต้องไปทุกผู้ทุกนาม ได้แต่มองปลงอนิจัง ชีวิตคนเรานี้มันไม่เที่ยงจริงๆ จากภาพผมถ่ายไว้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2558 นี้ครับ....

 

สวัสดีค่ะคุณbob13
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ
วันนี้ไปวัดดอยธรรมเจดีย์ที่สกลนคร
พระท่านเมตตาแสดงธรรมเรื่องนี้พอดีเลยค่ะ
"ทุกข์ ..." ความทนอยู่ไม่ได้ ภาวะที่ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ สภาพที่ทนได้ยาก

 

ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ เราเองไม่ช้าก็ต้องตามท่านไป ชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอนเลย ธรรมะสวัสดีค่ะ

วัฏจักรชีวิตบทที่ 41 50 นิยายธรรมะ หลวงพ่อจรัญ
https://www.youtube.com/watch?v=1k_fM7vbe8A

 

Russian Politician Warns Of WW3 After January 15th - "Get Ready To Mobilize!"
คำเตือนเรื่องสงครามโลกครั้งที่3หลังวันที่15มกรานี้
เหมือนจะเป็นคำขู่ไปยังฝ่ายอเมริกา
นั่นทำให้น่าเชื่อได้ว่า
สงครามโลกคงยังไม่น่าจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ เพราะถ้าจะเกิดขึ้นจริง คงไม่ต้องออกมาขู่

 

*************************
ขู่แน่ๆค่ะ อเมริกาเป็นทวีป ส่วนรัสเซียเป็นประเทศ :boo:

 

http://palungjit.org/threads/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%89%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94.544298/



คลิก อันนี้ใช่ไหมคะ

 

ทาน....
บุญ....
กุศล...
ต่างกันอย่างไร???

 

by walailoo in การทำทาน

อ่าน เรื่องนี้แล้ว ทำให้นึกถึงเกี่ยวกับ “จิต”
ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประทาน

เมื่อเห็นผู้ใดให้ทาน หากไม่มีใจอนุโมทนากับทานนั้นๆ

ก็จงอย่า คิดตำหนิติติง ต่อทานนั้นๆ

เพราะ การทำทานทั้งปวง ไม่ว่าจะทำด้วยเหตุอันใดก็ตาม

ผลที่ได้รับคือ เป็นการฝึกจิต ให้ละความตระหนี่ถี่เหนียว ที่มีอยู่

หากเห็นผู้ใดทำทาน หากมีจิตคิดอนุโมทนา ยินดีกับทานนั้นๆ จงอนุโมทนา

หากเห็นผู้ใดทำทาน หากมีจิตติติงทานนั้นๆ ให้แค่รู้ว่ามี
แต่อย่าปล่อยให้ก้าวล่วงออกไปทาง วจีกรรม กายกรรม

หากสร้างเหตุออกไปทางวจีกรรม กายกรรมแล้ว
ผลคือ เวลาทำทาน มักมีผู้คอยว่ากล่าว ท้วงติงเสมอ

แทนที่จะได้ทำทาน สมความมุ่งมาตรปรารถนา
กลับกลายเป็น ทำทานด้วยจิตที่ขุ่นมัว

เรื่องนี้ เคยเจอมากับตัวเองแล้ว
เพียงแบ่งปันเรื่องราว เกี่ยวกับ การขัดขวางในการทำทานของผู้อื่น

เช่น นานมาแล้ว เคยไปทำสังฆทาน ที่วัด เจอพระเตะตระกร้อ
ความไม่ชอบใจต่อภาพที่มองเห็น มีจิตกล่าวติติง พระอะไรไม่สำรวม

สุดท้าย ตอนถวายสังฆทาน พระอื่นๆติดกิจ ก็พระรูปนั้นแหละ เป็นผู้รับสังฆทาน
กลับไปเล่าให้พี่ที่ทำงานฟังกับเรื่องราวที่เจอ

พี่เขาบอกว่า แกนี่ แทนที่จะได้บุญ อุตส่าห์หิ้วของไปตั้งไกล
กลับได้ใจที่เป็นอกุศลมาแทน พระจะเป็นอะไร จะทำอะไร ก็เรื่องของพระ

ตอนนั้น ปริ๊ดพี่เขานะ หนอยแน่ะ เล่าให้ฟัง ดันมาว่าเราอีก
หลังจากนั้น จึงค่อยๆรู้มากขึ้นว่า หากเราคิดทำทานแล้ว นั่นคือ การให้สำเร็จแล้ว

เพียงแค่รู้ว่า มีความรู้สึกนึกคิดอย่างไร กับ ภาพที่มองเห็น
เราไม่จำเป็นต้องพูด แต่สามารถเลือกสร้างเหตุได้

ทั้งหมดนี้ ไม่ว่าใครจะทำทานกับใคร หรือทำอย่างไร
ล้วนเกิดจากเหตุปัจจัยที่มีอยู่ และ ที่ทำให้เกิดขึ้นใหม่ ของผู้นั้น
จึงไม่ควรไปนำภาพ ที่มองเห็น มาเป็นอารมณ์ ทำให้จิตเกิดความขุ่นมัว

https://walailoo2010.wordpress.com/category/การทำทาน/

ธรรมะสวัสดีค่ะ

 

คนไม่รู้จักทาน
ทำทาน ก็ไม่ถึงทาน
คนไม่รู้จักบุญ
ทำบุญ ก็ไม่ถึงบุญ
คนไม่รู้จักกุศล
ทำกุศล ก็ไม่ถึงกุศล

มันจึงพากันผิดๆเพี้ยนๆกันมากขึ้นทุกวันในสังคมชาวพุทธ???

 

**************************
ขอความกรุณาให้ท่านอธิบายด้วยค่ะว่าจะต้องทําอย่างไรจึงจะได้ทั้ง ทาน บุญ และกุศล ค่ะ


ท่านพุทธทาสว่า "คนสมัยนี้เอาแต่ไหว้ พอบอกให้ประพฤติธรรมก็กำหู"

 

รอท่านผู้ทรงคุณวุฒิมาตอบก่อนดีกว่า
ผมมันเป็นผู้ทรงคุณวุ้นกะทิ

 

ทาน เป็นกริยา ให้เกิดบุญ แปลว่า การให้ โดย ไม่เอาตังค์ค่ะ

บุญ เป็นวิบากกรรมฝ่ายดี (ตรงกันข้ามกับบาป ที่เป็นวิบากกรรมฝ่ายชั่ว)


กุศล แปลว่า ความดี

เช่น

การทำทาน โดยเจตนาสงเคราะห์ (เป็นกุศล(ความดี)) ผู้รับทานให้เกิดความสุข เป็นเหตุให้เกิดบุญ(วิบากกรรมฝ่ายดี ก็จะผลิดอกออกผลดี ในกาละเทศะต่างๆไป)

นี่ความเข้าใจของผู้น้อยนะคะ

 

แหม ตั้งใจตอบ ยังกะตอบข้อสอบ เลย

ที่จริง กะลอกคำตอบ พี่ติง สะหน่อย (พี่ติงตอบช้าจังค่ะ)

 

บุญกุศลตัวจริง
พระธรรมเทศนาพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจ­ารย์ (ลี ธมฺมธโร)
ให้เสียงโดย ภิกขุ กิจฺจวิชฺโช
https://www.youtube.com/watch?v=ruZfePo3WaA&list=PL31B2FE0B514BBDB7

ขอให้เจริญในธรรมทุกๆท่านค่ะ

 

ท่านพี่ระมิงค์มาทำให้สงสัยแล้ว ถือเป็นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อ่านมาตอบให้กระจ่างด้วยนะคะ
จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

 

ขอบคุณท่านผู้ทรงคุณวุฒิค่ะ สาธุๆๆ

 

พี่รอให้พายุมาตอบก่อนค่ะ
พี่ก็กะลอกพายุเหมือนกัน ๕๕๕๕

 

ทําทานคลุมศีลไม่ได้
มีศีลคลุมทานได้
แต่ภาวนาคลุมได้ทั้งทานและศีล
เอ แล้วจะเกี่ยวกับคําถามที่ท่านตั้งมาหรือไม่คะนี่ แต่ ในฐานะที่ท่านตั้งปัญหาขึ้นมาแล้ว ก็ต้องถามละว่าในส่วนตัวท่านล่ะคะ เห็นว่าอย่างไร (คิดเอาจากคําที่ท่านบ่นๆอยู่เลยต้องแซว จะได้เข้ากับ "แซวกระทู้...".เอ๊ะ ชักเข้าท่า)
ธรรมะสวัสดีค่ะ

 

ที่เปิดประเด็นคำถามนี้ขึ้นมา ก็เพราะระยะหลังนี้ ได้ยินการทำบุญหลายแบบ จนอดคิดที่จะสงสัยไม่ได้ว่า อะไรคือบุญ อะไรคือทาน อะไรคือกุศล ความจริงเรื่องนี้ผมพิจารณาไว้แต่เมื่อครั้งเข้ากรรมฐานสมัยที่ยังหลงทางอยู่นั้น จนพอจะเห็นแนวทางอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้คิดจะนำมาแจกแจงอะไรออกไปให้คนรอบข้างฟัง เนื่องจากผมคิดว่า คนอื่นๆก็คงจะรู้แล้วเหมือนกัน....

พักนี้มีการรวบรวมปัจจัยสร้างพระพุทธรูปกันมากมาย และใหญ่โต เช่นนี้เป็น ทาน บุญ หรือกุศล?
มีการทำบุญหลายๆแบบโดยเอาคำว่าจักรพรรดิ เข้าไปผนวกเอาไว้ คือทำบุญเอาจักรพรรดิกันมาก เช่นนี้เป็น ทาน บุญ หรือกุศล
มีการปล่อยโค กระบือ ปลาไหล หอยขม เพื่อให้ความขื่นขมหายจากไป เช่นนี้ เป็น ทาน บุญ หรือกุศล
การรวมกันบริจาคสร้าง โบสถ์ วิหาร ศาลา ห้องน้ำห้องส้วม ให้กับวัด เป็นทาน บุญ หรือกุศล
การบริจาคดอกดาวรวย ช่วยกันแกะ โรยพื้น ให้พระสงฆ์เดินย่ำไป เป็นทาน บุญ หรือกุศล
การบริจาคเงิน สร้างรูปหล่อถวายหลวงปู่สด แม่ชีจันทน์ เป็นทาน บุญ หรือกุศล
การสวดมนต์ข้ามปี เป็นทาน บุญ หรือกุศล
การทำสมาธิ จงกรม เป็นทาน บุญ หรือกุศล
การเลี้ยงดูบุพการี เป็นทาน บุญ หรือกุศล

ทาน บุญ กุศล นี้มีอานิสสงค์ต่างๆกัน ด้วยเจตนาที่ต่างกัน ย่อมให้ผลที่แตกต่างกัน
ทุกวันนี้ผมเห็นคนทำทานมาก เพราะซื้อเขากินไม่ไหว มันแพงมากมั๊ง...:boo:
ไม่ใช่อย่างนั้นครับ...อย่าพึ่งเครียด...ผมก็เขียนซะเครียดไปอย่างนั้นเอง...

คนทำบุญ นั้นมีน้อยกว่าคนทำทาน ในจำนวนที่น้อยนี้ส่วนมากยังเข้าใจว่าใช้เงินซื้อบุญเอาได้ คือไม่ใช่ทำบุญ เรียกว่าซื้อบุญ ซื้อจักรพรรดิ ซื้อสวรรค์ ซื้อภพภูมิ วันหน้าคงมีซื้อนิพพาน มีวันนั้นเมื่อไร ผมจะไล่ตัวเองเข้าป่าไปซะ...ไม่ต้องตามหา เพราะผมไม่เคยปรากฎหน้าให้เห็น เดินเหยียบเนตรมัจฉากันก็ไม่รู้จักว่าผมเป็นใครอยู่ดี แต่ก็ไม่สำคัญ ไม่ต้องรู้จักหน้ากันก็ไม่เป็นไร เอาว่าอ่านที่ผมเขียนๆไว้ตั้งมากมาย ก็คงอ่านออกถึงตัวตนภายในผมได้ว่าเป็นคนประเภทไหนกันนะ...

ว่าถึงกุศล ซึ่งให้อานิสสงค์มาก แต่หาคนทำได้น้อยยิ่งนัก ด้วยสมัยนี้คนอยากรวย อยากมีเมียเยอะๆ สมมุติว่ามีเมียได้เยอะๆจริงๆแล้วมันมีความสุขยังไง ถามคนเป็นเมียไหมว่าดีใจไหมที่เป็นเมียน้อย หรือเป็นเมียหลวง ดีใจไหมที่ผัวตัวเองมีเมียเยอะๆ เออ..ผัวฉันเก่ง ผัวฉันมันแน่ หรือว่าชอบแบบผัวมีเมียคนเดียวมากกว่า แล้วถ้าผู้หญิงทำบุญแล้วปรารถนามีผัวเยอะๆบ้างจะดีไหม ผัวหล่อๆ รวยๆ ใจดี ขี้เล่น ไม่งี่เง่า ไม่เอาแต่ใจ มีอะไรประเคนถวายให้คุณเมียให้หมด มีแบบนี้สัก500คน เอาแบบนี้บ้างได้ไหม? นี่มันตัณหาทั้งนั้น ทำบุญจะเอาเรื่องแบบนี้มันจะได้บุญไหม มันจะเรียกว่าทำบุญหรืออย่างไร จะเรียกว่าทำทานหรือว่ามันคืออาหารถวายพญามารเสียมากกว่า

ทำให้ผมสงสัยขึ้นมาว่า พุทธบริษัทฯ ทุกวันนี้ มีความเข้าใจเรื่อง ทาน บุญ กุศล หรือไม่ ? ถ้าไม่เข้าใจเรื่องนี้แล้ว ก็ทำให้ถูกต้องเหมาะสมไม่ได้ ประสาอะไรจะไปเข้าใจคำว่า ศีล ที่มีเอาไว้เพื่อพูดข่มเหงกันเท่านั้นเอง หาได้ประพฤติตนให้มีศีล เป็นศีลแต่อย่างใด...

ปล. ที่แม่ต้อย ส่งลิงค์ หลวงพ่อลี มาให้ ท่านเทศน์ได้ดีมากเลยนะครับ ทันสมัยตลอดกาลแม้ว่าจะผ่านมา 58 ปีแล้วก็ตาม ท่านเป็นอดีตชาติ พระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งเป็นมหาราชที่ผมยกย่องอีกพระองค์หนึ่ง...ขอบคุณที่แชร์มาให้ฟังครับ

 

สิ่งที่อาจารย์กล่าวมาทั้งหมดก็คือ"การทําความดี"ที่อยู่ฝ่ายขาว(กุศลบุญ) เพราะในขณะที่ทําอยู่นั้นจิตเป็นกุศล(กุศลาธรรมา)แต่จะได้บุญมากน้อยเพียงไรย่อมขึ้นอยู่ที่ว่า"หวัง" หรือ"อยาก"หรือต้องการสิ่งตอบแทน อย่างที่หลวงพ่อจรัญบอกว่าทําบุญหนึ่งบาทหวังกําไรเกินร้อย ยิ่งหวังมากหรืออยากมาก เปอเซ็นต์ของบุญจะลดน้อยลง อย่างที่อาจารย์ว่าแหละค่ะ"ติดบุญ" ส่วนการทําสมาธิถ้าจะให้ผลบุญมากก็คือ ต้อง ละ ปล่อย วาง ไม่ติดทั้งบุญทั้งบาป ไม่มีความ"อยาก"เหลืออยู่ ที่ท่านว่าก็จริง สร้างพระ ทัวร๗วัด ตามหาพระอรหันต์เพราะคนเราปัจจุบันนี้สร้างกันแต่วัตถุภายนอกซึ่งที่แท้จริงแล้วควรสร้าง(ธรรมใจ ทําใจ)สิ่งที่ไกล้ที่สุดและสําคัญที่สุดก็คือ "ใจ"เราเอง
สาธุธรรมค่ะ
เดี๋ยวรอให้ท่านราคุเรียวซายมาต่อ