เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

รบกวนคุณ tjs ช่วยดูดวงของพี่สาวให้ด้วยคะ เกิดวันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2491 ปีชวด ว่าดวงเป็นอย่างไรบ้างทำไมไม่มีความสุขเหมือนคนอื่น ตั้งแต่เด็กจนอายุขนาดนี้แล้วชีวิตก็ไม่ค่อยมีความสุขเลยต้องมีภาระมากมาย สุขภาพร่างกายก็ไม่ค่อยดี โชคลาภก็ไม่ค่อยมีบันปลายชีวิตจะเป็นอย่างไรบ้าง ทำกรรมอะไรไว้ และมีวิธีแก้ไขอย่างไรชีวิตถึงจะมีความสุขทั้งกายและใจมากกว่านี้คุณ tjs ช่วยตอบให้ละเอียดด้วยนะคะ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านใดปกปักรักษาอยู่หรือเปล่า คุณtjs ช่วยบอกชื่อท่านด้วยนะคะ ขอบพระคุณล่วงหน้ามากคะ คุณtjs (เกือบสองอาทิตย์แล้วคะรบกวนช่วยดูให้ด้วยนะคะเป็นพระคุณอย่างสูงคะ)

 

================

ขออภัยด้วยครับ

จากการตรวจกรรมเบื้องต้น อดีตทำกรรมไว้หลายส่วนปัจจุบันก็มีสร้างทบเข้าไปอีก ความดีก็มี แต่กรรมให้ผลตามวาระ รวบยอดในบางช่วงเวลา เดี่ยวขอตรวจในสมาธิแล้ววันจันทร์จะตอบให้นะครับ สาธุ

 

กราบสวัสดีค่ะท่าน แผ่นฟ้าขอน้อมจิตอนุโมทนาบุญกับท่าน tjs ด้วยทุกประการเจ้าค่ะ
กำลังทยอยอ่านธรรมที่ท่านอธิบายไว้ค่ะ และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยในการสนทนาธรรม แบ่งปันเรื่องราว และบอกกล่าวปัญหาชีวิต ทุกเรื่องเป็นธรรมทานเจ้าค่ะ ขอน้อมจิตโมทนาบุญ สาธุ ....

แผ่นฟ้าได้ ส่ง Pm ขอความเมตตาท่านไปแล้วเจ้าค่ะ

 

รบกวนพี่ก้องช่วยตรวจสอบครับ

พี่ก้อง ครับ รบกวนพี่ช่วยตรวจสอบพระให้ด้วยครับพี่ รายละเอียดที่ได้คุยกันทางข้อความครับ

 

ขออนุญาตถามท่าน tjs เรื่องที่สงสัยหน่อยนะคะว่า

1.เราสามารถสื่อธรรมทางความคิดได้ แต่ไม่สามารถนำมาพูดหรือบรรยายให้
คนฟังทางวาจาได้ บุคคลนั้นเป็นเช่นไรคะ เรียกว่าขาดสติทางธรรมหรือเปล่าคะ

2.ถ้าบุคคลนั้นไม่อาจถูกใครชักนำ หรือจูงจิตได้ เขามีสติระดับใดคะ

 

อนุโมทนาครับ ทุกสิ่งมีหน้าที่ของมันหากทุกสิ่งแค่ทำตามหน้าที่ที่มีเท่านั้นมนุษย์ก็จะไม่ทุกข์อีกเลย ในกายนี้จิตนี้ ถ้าปล่อยให้มันทำหน้าที่ของมัน เราแค่ต้องรู้ว่าอะไรมีหน้าที่อะไรแล้วปล่อยไปตามธรรมชาติของมันอย่าไปฝืนไปยั้งมันและควบคุมอย่าให้มันทำเกินหน้าที่ที่มันต้องทำก็พอ ทุกสรรสิ่งในโลกนี้ล้วนเหมือนกันหมดทั้งจักรวาล อนันตจักรวาล สาธุ

 

อนุโมทนากุศลด้วยค่ะ ขออารธนาบารมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทุกพระองค์ พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ พระพรหมเทวดาทั่วสากลพิภพ โดยมีหลวงปู่ปานวัดบางนมโคและหลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุงเป็นที่สุด ได้โปรดปกปักรักษาคุ้มครอง จขกทและครอบครัว จงปราศจากทุกข์ภัยใด ๆ มีความปราถนาสมหวังทุกประการทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยเทอญ

 

ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ในรอบสัปดาห์ก่อนและสัปดาห์นี้ มีภาระหลายอย่างแทบไม่มีเวลาเลยครับ

สำหรับคำถามในโพสและข้อความ กระผมจะทะยอยตอบให้นะครับ ขอให้รอก่อนนะครับ

ขอเวลาทำงานและจัดการภาระกิจต่างๆให้เรียบร้อยก่อนนะครับ สาธุ

 

=================

ขออนุโมทนาครับ สาธุ

 

สวัสดีครับ ท่าน tjs

วันนี้ขณะที่ผมดู Youtube เกี่ยวกับหมอดูอยู่ พิธีกรพูดถึงหมอดูท่านนี้ว่า หมอดูท่านนี้ใช้วิชชาจับยามในการดูดวง ทันใดนั้น จิตผมก็รู้สึกสนใจเรื่องการจับยามขึ้นมาทันทีเลย ขณะจิตต่อมา ผมรู้สึกได้ว่า การที่จิตเราสนใจเรื่องการจับยามนั้น เหตุเพราะครูบาอาจารย์ท่านดลจิตดลใจให้เราสนใจนั้นเอง และขณะที่ผมเขียนข้อความนี้ ผมก็รู้สึกขึ้นมาในจิตอีกว่า วิชชาการจับยามนี้ เป็นวิชชาของฤาษี แสดงว่า พรหมฤาษีท่านมาชี้แนะผมอย่างนั้นเหรอ? แสดงว่า ตอนนี้ท่านมาเป็นครูบาอาจารย์ผมมาแฝงมาปฏิสัมพันธ์จิตกับจิตผมแล้วอย่างนั้นเหรอ? แสดงว่า บรมครูองค์ใหญ่ผมท่านอนุญาติให้พรหมฤาษีท่านเข้ามาในจิตผมแล้วอย่างนั้นเหรอ? แต่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธวิชชานี้นะครับ ในส่วนตัวผม ผมไม่ชอบวิชชาอะไรที่มันต้องเรียนรู้มากๆ ใช้การจำมากๆ หรือยุ่งยาก แต่เท่าที่ผมค้นหาความหมายใน Google ประมาณว่า วิชชาการจับยามนั้น ไม่ต้องใช้วันเดือนปีเกิด ใช้เพียงเวลา(00:00)ที่ผู้สอบถามมาถามปัญหาแค่นั้น แล้วนำเวลา(00:00)นั้นมาตรวจจับยาม

คำถามคือ

1. การจับยาม มีประโยชน์อย่างไร? แล้วมันจะแม่นยำกว่าการใช้ญาณตาทิพย์หรือทิพยจักษุญาณหรือญาณบารมีอื่นๆ อย่างนั้นเหรอ?

2. ใช้เวลา(00:00)แค่นี้แล้วมันจะแม่นเหรอ? สำหรับคนไม่มีญาณและคนมีญาณ ถ้าใช้เวลาแค่นี้ในการตรวจดู แสดงว่า ความแม่นยำมันต้องขึ้นอยู่กับกำลังของญาณมากกว่าความรู้ทางโลกหรือเปล่าครับ?

3. วิชชาจับยามนี้ต้องเห็นภาพนิมิตประกอบด้วยหรือไม่? ต้องมีญาณบารมีหรือความรู้ข้อมูลทางโลกในส่วนอื่นประกอบด้วยในการจับยามหรือไม่?

4. ขอให้ท่าน tjs ช่วยแนะนำเคล็ดลับหรือหัวใจสำคัญของ 'วิชชาจับยาม' หน่อยครับ และข้อมูลที่ผมจำเป็นต้องเรียนรู้ด้วยครับ?

ขอบคุณมากครับ.

-----------------------

ข้อความคำถามข้างต้นนี้ท่านจักตอบเราหรือไม่ ก็แล้วแต่ท่าน...

เพิ่มเติม

** เมื่อจิตไหลไปตามจิตอื่นที่ดลใจ โดยขาดสติปัญญาในการพิจารณาให้ถ่องแท้ **

เมื่อวานขณะผมยืนส่องกระจก จิตผมก็เกิดอาการสงสัยขึ้นมาว่า วิชชาจับยามมันเป็นวิชชาที่เหมาะกับเราแล้วหรือ? ทำให้จิตผมรู้สึกได้ถึงอดีตชาติที่เคยทำบารมีมานั้น มีวิชชาที่ลุ่มลึกละเอียดแม่นยำกว่าวิชชาจับยามนี้ ผมจึงมองตนเองในกระจกและตั้งจิตอธิษฐานว่า "ถ้าวิชชาหรือบารมีใดที่เราได้เคยทำไว้ดีแล้วในอดีตชาติ มีความแม่นยำลุ่มลึกละเอียดมากกว่าวิชชาจับยามนี้ ก็ขอให้วิชชานั้นจงบังเกิดขึ้นในจิตเรา ณ ขณะจิตดวงนี้เถิด" และต่อมา ขณะอาบน้ำทำให้จิตผมได้คิดพิจารณาและรู้ด้วยบรมครูดลใจให้รู้ว่า จุดประสงค์ที่ผมต้องมาโพสในกระทู้ของคุณ tjs เพื่ออะไร? ทุกคอมเม้นท์มันเป็นกุศลอุบายที่จักดึงคุณ tjs ให้เข้าสู่ความไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์องค์ใด ไม่ว่าจะเป็นญาณบารมีใดที่ใช้ เมื่อคุณ tjs เข้าสู่ความไม่ยึดมั่นถือมั่นหรือนอกจากหลุดพ้นทุกข์แล้ว คุณ tjs ก็จักหลุดพ้นจากอำนาจที่ครอบงำทั้งปวงและจิตคุณก็จักเป็นอิสระจากโลกทิพย์ เพราะสิ่งที่เห็นรู้และเข้าใจ ไม่ว่าจะด้วยประสบการณ์ที่ผ่าน,ความคิดและด้วยญาณบารมีใดก็ตาม สิ่งเหล่านี้มันเกิดแต่กรรมที่เคยกระทำไว้ ทำให้เราหลุดจากวงโคจรของการสร้างบารมีที่เคยตั้งปณิธานไว้ว่า "จักเป็นดั่งโพธิที่พึ่งแก่เหล่าสรรพสัตว์ทุกยาม" ขอคุณ tjs จงพิจารณาให้เห็นแจ้งด้วยความไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวงที่เป็นมายาเถิด 'ตนจักแจ้งและหลุดพ้นจากอำนาจที่ครอบงำก็ด้วยตนนั้นแล' สาธุ !

ย้อนความ พรหมเมศวร์อวตาลอะไรนั้นที่มาเข้าฝันเรา และองค์บรมครูเราพระพุทธชินสีห์ท่านเตือนสติเราและให้จิตเราคิดพิจารณาก่อน เมื่อเรารู้มั่นในกิจหน้าที่อันแท้จริงแล้ว เราจึงพูดไปแบบนั้น พูดไปตามกิจหน้าที่จริงของเราในชาตินี้ ดั่งข้อความเก่าข้างล่างนี้

********************
3. สรุปแล้วผมตอบท่านนั้นไปว่าอย่างไร?
==============
- ยังไม่ตอบท่านไปแบบชัดเจน จนกว่ามีความกระจ่างในสิ่งที่คุณสงสัยแต่ในจิตนั้น ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพราะส่วนลึกแล้วจิตคุณรู้ดีว่ามีวาสนาบารมีส่วนนี้เคยสั่งสมมาครับ

- สิ่งที่ท่าน tjs พูดก็ใช่ในส่วนหนึ่ง แต่แท้จริงแล้ว หลังจากที่จิตผมพิจารณาแล้ว ผมตอบท่านไปว่า “วิถีแห่งจิตเรามาเพื่อสอนธรรมเป็นหลัก มาชี้แนะเพื่อให้เกิดการหลุดพ้น” หลังพูดจบ จิตผมก็รู้สึกว่า “ไม่ได้ปฏิเสธในการรักษาคน” แต่นั้นไม่ใช่หนทางหลักของเรา ทุกอย่างเราต้องเป็นต้องทำต้องช่วยเหลือคนอยู่แล้ว เพราะเรามาเพื่อเป็นครูของครู และเป็นครูของเหล่าเทพเทวดาอย่างที่อดีตชาติเราเคยเป็นและเพื่อช่วยให้คนได้เข้าถึงความเป็นอริยะให้มาก เราจึงต้องรู้ทุกอย่างที่ควรรู้ นี้คือ กิจหน้าที่หลักของเราในชาตินี้ แต่อีกความรู้สึกหนึ่งก็สงสัยว่าจะทำได้เหรอ? หรือเราอุปทานไปถ่ายเดียว.
*********************

เพราะพระพุทธชินสีห์ท่านรู้ถึงเหตุปัจจัยการมาของจิตครูบาอาจารย์ของคุณ tjs ไม่ว่าจักเป็นชื่ออะไรที่ตั้งขึ้นมาก็ตาม ญาณบารมีที่ปรุงขึ้นมาเพื่อให้คุณ tjs เข้าใจแบบนั้นก็ตาม มาครอบงำจิต ถ้าเรามีสติ,ฌานวิปัสสนาญาณและจิตปัญญาที่ด้อยบารมีธรรมกว่าผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นครูบาอาจารย์ของเรา ณ ชั่วขณะจิตนั้นโดยมิได้พิจารณารู้ถึงเหตุปัจจัยในบารมีธรรมที่เคยสั่งสมมาในภพอดีตแล้วนั้น เราจักไม่เห็นแจ้งในสัจธรรมความจริงของการสร้างบารมีธรรมโดยตั้งมั่น เหตุและผลในการสอนธรรมในคืนนั้นของพระพุทธชินสีห์ ท่านต้องการชี้แนะผม,คุณ tjs และผู้ทำเหตุปัจจัยและบารมีธรรมถึงพร้อมแล้วเท่านั้น ให้ได้เข้าถึงความหลุดพ้นอันแท้จริงหรือเข้าถึงสุญญตาสภาวะอันตั้งมั่น เหตุเพราะ เมื่อจิตเราเข้าถึงสภาวะนี้แล้ว จิตเราจักมีกำลังของสติ,กำลังของฌานวิปัสสนาญาณและกำลังของจิตปัญญาที่มากกว่าตั้งมั่นกว่าครูบาอาจารย์ของตนเอง ถึงกาลนั้น เราจักแจ้งในสิ่งทั้งปวงที่บังตาเราไว้ มิใช่ครูบาอาจารย์ท่านไม่ดี ท่านก็มีดีในส่วนของท่าน ท่านก็สร้างบารมีในแบบในแนวทางของท่านตามภูมิจิตภูมิธรรมที่มี แต่บารมีธรรมที่คุณ tjs เคยกระทำสั่งสมมาในอดีตนั้นสูงส่งกว่าละเอียดกว่ารู้แจ้งกว่าด้วยจิตปัญญา และการเคารพครูบาอาจารย์เพื่อสร้างบารมีร่วมกันก็เป็นสิ่งที่ประเสริฐแล้วก็ควรดำเนินต่อไปแต่ควรสร้างบารมีธรรมด้วยจิตปัญญาเดิมของคุณ tjs อันเห็นแจ้งกว่าเป็นตัวนำทาง จึงจักถือได้ว่าเป็นการสร้างบารมีธรรมด้วยจิตปัญญาในแนวทางของพระพุทธองค์โดยแท้ เราควรจักเดินในเส้นทางต่อจากเส้นทางเดิมที่เราเคยสร้างสั่งสมบารมีธรรมไว้โดยตั้งมั่นดีงามแล้วในระดับหนึ่ง จึงจักยังบารมีธรรมของเราให้ตั้งมั่นมากขึ้นและยิ่งๆ ขึ้นไปได้ คุณ tjs จงพิจารณาเถิด สาธุ !

 

คุณเจ้าของกระทู้
มาพบกระทู้นี้ดีใจมากเพราะอยากทราบเกี่ยวกับเรื่องของตัวเองที่ควรแก้ไข ขอรบกวนช่วยคุณแนะนำด้วย ขอขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
1. ดิฉันเกิดวันพฤหัสบดี ปีมะเมีย2499 แฟนเกิดปีวอก2497 อยู่กันมานานเหมือนทุกวันนี้ดิฉันต้องชดใช้เขาอยู่ตลอดเวลา มีวิธีแก้ไขไหมคะ
2 และที่บ้านที่อยู่นี้ดิฉันมีโอกาสจะอยู่จนถึงบั้นปลายของชีวิตใหมเพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาจนบัดนี้ย้ายมา10 กว่าที่แล้ว
3. การสวดมนต์ภาวนาของดิฉันทุกวันนี้ถูกต้องหรือเปล่า มีใครคุ้มครองอยู่หรือไม่
4. มีโอกาสจะขายที่สวนได้เมื่อไหร่คะ
ขอขอบพระคุณมากคะ มีอะไรขอให้ช่วยแนะนำด้วยนะคะเพราะดิฉันสวดมนต์แบบไม่มีครูอาจารย์ทำมาเป็นเกือบ 20 ปีแล้ว นั่งสมาธิไม่สงบต้องช่วยบทสวดมนต์ช่วยในการกำหนดลมหายใจ ขณะนี้ดีขึ้นบ้างแต่ไม่ถึงจุดสงบแต่อยู่ในสภาวะที่ดึงจิตตัวเองได้ ใช้เวลาสวดมนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง ทำสมาธิ 10-20 นาที ตอนนี้เวลาทำสมาธิเวลาหลับตาสักพักจะเห็นวงกลมสีม่วงเท่าหัวแม่มือลอยวูบวาบ บางครั้งเหมือนจะเห็นเป็นหน้าคนลอยไปลอยมาจับไม่ได้บางทีก็มีแสงสีทองสีเหลืองวูบวาบมาเป็นสาย ดิฉันเป็นอะไรที่ผิดปกติหรือเปล่าคะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ขอบรบกวนด้วยค่ะ

 

ธรรมในโลกนี้มี2ประการตามที่พระพุทธองค์ตรัสกล่าวไว้
1 โลกิยะธรรม ธรรมของฆารวาส เพื่อความเจริญของฆารวาส
2 โลกุตตระธรรม ธรรมของผู้ออกบวชหรือของพระสาวก เพื่อความหลุดพ้น
ส่วนอนุตรธรรมที่พูดกัน ต้องทราบก่อนว่า อยู่ในธรรมข้อใด จากพระไตรปิฏก พระอนุตตระธรรมนี้ คือธรรม ข้อ โลกุตตระธรรม เป็นธรรมของนักบวช ผู้ปราถนาแห่งความหลุดพ้น
ในภัทรกัปป์นี้ไม่มีใครรู้แจ้งเกินไปกว่าพระพุทธเจ้า และสั่งสอนอธิบายพระธรรมได้ดีเกินไปกว่าพระพุทธเจ้า อนุตตระธรรมมีอธิบายไว้มากมายในพระไตรปิฏก ลองไปหาอ่านดูครับ อ่านแล้วอย่าเพิ่งด่วนสรุปใดๆ ให้ลองนำไปปฏิบัติให้ได้ทำได้แล้ว ท่านก็จะทราบเองครับ ว่า การมีชีวิตอยู่อย่าง
โลกุตระธรรม เป็นธรรมที่ธรรมดาแต่เป็นความธรรมดาที่อยู่เหนือโลก และหากมองคนอื่นๆรอบๆตัวเราช่างต่างกับเรา ที่ต่างกันเพราะคนส่วนมาก ยังไหลไปตามกิเลสตัณหามาก ยังยึดติดมากในเงิน ทอง ลาภ ยศ สรรเสริญ ตำแหน่ง ความดี เด่น ความเก่ง ความหล่อ ความสวย อะไรเหล่านี้เป็นต้น แต่โลกุตระธรรมมองสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้น่าหลงไหลยึดติดอะไร
โลกุตระธรรมเป็นธรรมที่เหนือโลก เหนื่อชาวโลกที่เขาเป็นกันอยู่ ความสุขที่เป็นบรมสุขที่เข้าถึงได้ยาก ย่อมเข้าถึงๆได้ด้วยอนุตระธรรมหรือโลกุตตระธรรมนี่เองครับ สาธุ

 

===================

1 การที่เราไม่สามารถสื่อธรรมแก่บุคคลอื่นได้ ไม่ใช่เพราะขาดสติทางธรรม หากแต่ขาดความเข้าใจในวิธีการ สื่อสาร เพราะทุกสิ่งในโลกนี้ ย่อมมีวิถีทางของมัน หากแต่เรายังไม่รู้ไม่ทราบ และยังขาดประสพการณ์ในการทำมัน ทุกอย่างจึงต้องฝึกฝนเรียนรู้ ยกตัวอย่างเช่น การจะเป็นบรมครูสอนผู้อื่น มันก็ไม่ได้เป็นได้ทันที หากแต่จะต้องสั่งสมสิ่งเล็กน้อยต่างๆที่ต้องฝึกฝนเรียนรู้จนตกผลึกเป็นความชำนาญหรือความสามารถพิเศษนั่นเอง

ขอให้เริ่มต้นนับ1แล้วค่อยๆทำไป ศึกษาเรียนรู้ทางผู้อื่นที่เขาทำได้ดีกว่ารราเป็นแบบอย่างแล้วค่อยทำไป
ภาษาไทย นี่ก็ยากในการเรียนรู้ ก่อนอื่นต้องรู้ว่า การสื่อสาร ประกอบด้วยอะไร หัวใจสำคัญที่เรากำลังจะพูดคืออะไร เราจะบอกแก้ใคร เขามีพื้นฐานแค่ไหน แล้วเราควรใช้คำสอนคำกล่าวแบบใด อันมีใจความหลักสื่อถึงสิ่งที่เราต้องการจะบอก หรืออื่นๆอีกหลายอย่าง ขอให้ค่อยๆฝึกนะครับ

2 บุคคลนั้นไม่สามารถถูกชักจูงได้ หมายถึง
2.1 เขาอาจขาดสติปัญญา ด้อยปัญญาในเรื่องนั้นที่เรากล่าว เขาจึงไม่เข้าใจไม่รับรู้ไม่เกิดปัญญาแก่เขา ครับ
2.2 เราอาจกล่าวไม่ดีทำให้เขาไม่เข้าใจ อันนี้ไม่เกี่ยวกับเขาแต่เกี่ยวกับเราที่ต้องแก้ไข
2.3 เขาอาจมีสติปัญญาดี แต่มีเหตุปัจจัยปิดกั้น หรือไม่พร้อมในเวลานั้น จึงควรแก้ไขทำลายเครื่องปิดกั้นเสียก่อน เช่นถ้าเขากำลังวุ่นวายกับการขายของ แล้วจะให้เขาเข้ามานั่งฟังพระเทศในเวลานั้นได้อย่างไร เราก็ต้องแก้ไขให้เขาหยุดการขายของก่อน แล้วจึงดึงเขามาฟังธรรมเป็นต้น ดังนั้นต้องพิจารณาให้ดี หรือบางทีเราไปแสดงธรรมผิดที่ผิดทางก็เช่นกัน มันไม่เอื้ออำนวยต่อการสดับรับฟังก็ต้องแก้ไขใหม่ หาสถานที่ที่เหมาะสมเป็นต้น ครับ

สุดท้ายขอให้ศึกษาเรียนรู้จากหลายๆที่แล้วลองปฏิบัติไปเรื่อยๆ
อีกนิด การสื่อสาร เรื่องคำพูด ทำนองเนื้อหา และจังหวะจะโคนในการพูดก็สำคัญ ที่ต้องฝึก
อย่างปัจจุบัน ก็มีหลักสูตรมากมายที่เขาอบรมกัน นั้นเพราะเขาพยายามรวบรวมสิ่งต่างๆที่ต้องทำเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จในงานหรือกิจนั้นๆนั่นเอง ครับ

เรื่องเหล่านี้มีให้ศึกษาอีกมากมายครับ สาธุ

 

=================
ย่อหน้าหลังที่กล่าวมา ล้วนเป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง เกือบทั้งสิ้น หากจะมีแต่ส่วนหนึ่งที่เห็นต่างคือ

สำหรับผม ผมยังไม่มีความสามารถในการเป็นครูอาจารย์ใคร อนึ่งแม้เราจะมีความเจริญก้าวหน้าในธรรม ในบางเรื่องมากกว่าครูอาจารย์ อันนี้จริงเท็จไม่อาจทราบได้เพราะไม่เคยมองในเรื่องนี้ หากแต่สนใจเฉพาะจิตของตนว่าเป็นอย่างไร อีกอย่างผมจะไม่เป็นศิษย์ที่เก่งกว่าครูอาจารย์ แต่จะขอเป็นศิษย์ที่มีความดียิ่งๆกว่าอันเป็นของเฉพาะตนที่แข่งกับตน ไม่แข่งหรือเปรียบเทียบกับใคร

ส่วนการสร้างบารมีก็อย่างที่เคยกล่าวไว้ เราต้องขอบารมีครูอาจารย์ท่านเสมอ เพราะเป็นความผูกพันธ์ที่แยกขาดจากกันไม่ได้เหมือนมารดาบิดากับบุตร ขอให้เชื่อมั่นในความดีในสายแห่งบารมี ทำอะไรย่อมสำเร็จสมปราถนาไม่ช้าก็เร็ว ชีวิตเรายังต้องเผชิญวิบากกรรมที่รออยู่ ดังนั้นทำอะไรก็ไม่ควรประมาท สติปัญญาในธรรมสามารถช่วยเราได้จริง แต่บางครั้ง กายเราก็มีความสำคัญ บางครั้งเทพพรหมท่านก็ช่วยคุ่มครองประคองกายเราให้แข็งแรงปลอดภัย ก็เพื่อประโยชน์ ที่ดีนั่นเอง หลายสิ่งหลายอย่างอาจจะเข้าใจยากแต่หากเราเชื่อมั่นและตั้งใจจริง ความรู้จริงจะปรากฏแก่ท่านครับ สาธุ

 

================

สำหรับครูอาจารย์ ท่านไม่ต้องการอะไรแค่ปราถนาให้ลูกศิษย์ได้ดี ถ้าทำได้ท่านก็ปลื้มใจยินดีอนุโมทนเป็นที่สุด

แต่ถ้าหากพวกเราที่เป็นลูกศิษย์ มีความประมาท เก่งไม่จริง เกิดพลาดท่า ก็ตกม้าตายทุกราย เพราะอวดตน ในที่สุดก็พ่ายแพ้ต่อกิเลสมาร
ที่บอกว่า ยังเก่งไม่จริงคือ ต้องยกจิตให้ได้ถึงพระอนาคามีแล้วเท่านั้น ถ้าทำได้จริงก็แสดงว่า ปลอดภัยไม่มีอะไรให้กังวล แต่ที่ผ่านมาอาจารย์ที่เก่งๆ เก่งไม่จริงดีไม่จริง ไม่เคารพเทพพรหม ในที่สุดเมื่อมารมารุกราน ก็ถูกตีย่อยยับ กลับกลายเป็นคนชั่วทำบาป หลอกลวงผิดลูกเมีย หลอกลวงเงินทอง สร้างบาปกรรมไม่จบสิ้น

ดังนั้น เรื่องครูอาจารย์เทพพรหมยังมีอะไรให้คิดอีกมาก เพราะเรายังต้องดำเนินชีวิตบนโลกใบนี้ เราจึงจำเป็นต้องรู้วิชาการทางโลกที่เทพพรหมท่านมีความชำน่าญกว่าเราประสิทธิ์ให้ เพื่อสงเคราะห์ปุถุชน ส่วนธรรมะของพระพุทธเจ้า ให้ใช้ประคองกาย วาจา จิตของตนให้สะอาด และสั่งสอนผู้อื่นตามสภาวะการณ์อันเหมาะสม

คือมันมีความจำเป็นที่ต้องใช้ทั้งร้อน เย็น ศาสตร์ และศิลป์ นั่นเอง เพราะโลกใบนี้มีคนหลายประเภทเหลือเกิน หรือเราจะเลือกช่วยเฉพาะพวกหัวกะทิ บัวปริ่มน้ำอย่างนั้นหรือ แต่สำหรับผมไม่ใช่ ปณิธาณของกระผมคือ ไม่มียกเว้น ปราถนาช่วยทุกสรรพสัตว์ ครับสาธุ

 

มีเรื่องสอบถามพี่ก้องครับ
1.เวลานั่งสมาธิแล้วจะมีเสียงพากย์(เสียตัวเอง) ขณะที่จิตหลงไปคิด หรือหลงไปนึก เสียงก็จะเตือนว่าไหลไปคิดแล้วนะ กลับมา เป็นอยู่หลายครั้งครับ
2.ขณะนั่งได้ระยะนึง เสียงพากย์ ก็จะมาบอกว่า ให้ลองพิจารณากายดูซิ หรือไม่ก็ ให้แยกระหว่าง กายกับจิต ว่าเพียงสักแต่ว่ารู้แค่กาย ส่วนจิต ก็ดูเฉยๆ
3.เคยสงสัยในหลายๆเรื่อง เลยถามเสียงพากย์ ว่าสิ่งนี้ถูก หรือ สิ่งนี้ผิด เสียงพากย์ ก็จะตอบมาว่าให้ทบทวนดู ว่าสิ่งที่เกิดส่งผลให้เกิดกุศลหรืออักกุศล ถ้าเกิดกุศล ถือว่าถูก ถ้านอกเหนือจากนั้น ผิด
4.บางทีก็จะมีเสียงคน มาบอกว่าให้ปฏิบัตแบบนี้ แบบนี้
อยากถามพี่ก้องว่า เสียงพากย์(เสียงเราเอง) เสียงคนที่มาบอก(เสียงใครก็ไม่รู้) คืออะไรครับ เชื่อถือได้ไหมบางทีก็ไม่รุ้ว่าเขาเตือนถูกหรือผิด กลัวหลงทางครับ
รบกวนอีกอย่างครับ ต้นเดือน พค ผมจะเข้ารับการประเมิณเพื่อเข้าบรรจุเป็นข้าราชการครับ และหลังจากประเมิณแล้ว ผมมีคิวเข้ารับการผ่าตัด ขอให้พี่ก้อง ช่วยแผ่เมตตา และอวยพรให้ผม โชคดีและปลอดภัยด้วยครับ อย่าได้มีปัญหาใดๆมาขัดขวางทั้งสองเรื่องครับ
ขอบคุณพี่ก้องมากๆครับ

 

ก่อนอื่นเราต้องขออโหสิกรรมจากคุณ tjs ด้วยครับ

แต่สิ่งที่เราพูดบรรยายไปนั้น เป็นไปด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ขององค์บรมครูและของเรา ถ้าทำให้คุณ tjs เข้าใจคลาดเคลื่อนทั้งในเรื่องของเทพพรหมและครูบาอาจารย์ ทำให้คุณ tjs เข้าใจว่าผมไม่เคารพต่อท่านทั้งหลาย แต่แท้จริงแล้วมิใช่ ทุกสิ่งทุกตัวอักษรทุกอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นผ่านข้อความนั้นย่อมบ่งบอกอย่างชัดเจนถึงอารมณ์ความรู้สึกและเจตนาของผู้พูดทั้งผมและคุณ tjs เพราะสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่รายละเอียดในการพูดคุยกัน และการเคารพในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสัมมาทิฐินั้นผมย่อมมีแน่นอนไม่เป็นอื่น แต่สิ่งที่เราเห็นด้วยตาหรือด้วยญาณบารมีบางครั้งมันก็ไม่ใช่ของจริงที่มีอยู่จริง มันอาจมีมายาบังไว้หรือถูกปรุงแต่งขึ้นมาด้วยอำนาจบางอย่าง ซึ่งถ้าเราขาดซึ่งสติปัญญาที่ลุ่มลึกและตั้งมั่นในการพิจารณาอย่างถ่องแท้แล้ว เราก็ย่อมไม่เห็นความจริงอันเป็นสัจธรรมอันแท้ด้วยจิตปัญญาตามคำสอนของพระพุทธองค์ ขอให้คุณ tjs เข้าใจในเจตนาที่แฝงอยู่ อย่างไรเราก็ขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้ด้วยครับ เพราะทุกสิ่งอย่าง ก็คือ 'บททดสอบทางจิตของเรา' ทั้งนั้นครับ ถ้าเราคิดว่ามันใช่มันก็ใช่ครับ สาธุ!

จาก จิตผู้ที่ไม่มีอะไรเลย...

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ดอกหอม อ่านข้อความ
รบกวนคุณ tjs ช่วยดูดวงของพี่สาวให้ด้วยคะ เกิดวันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2491 ปีชวด ว่าดวงเป็นอย่างไรบ้างทำไมไม่มีความสุขเหมือนคนอื่น ตั้งแต่เด็กจนอายุขนาดนี้แล้วชีวิตก็ไม่ค่อยมีความสุขเลยต้องมีภาระมากมาย สุขภาพร่างกายก็ไม่ค่อยดี โชคลาภก็ไม่ค่อยมีบันปลายชีวิตจะเป็นอย่างไรบ้าง ทำกรรมอะไรไว้ และมีวิธีแก้ไขอย่างไรชีวิตถึงจะมีความสุขทั้งกายและใจมากกว่านี้คุณ tjs ช่วยตอบให้ละเอียดด้วยนะคะ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านใดปกปักรักษาอยู่หรือเปล่า คุณtjs ช่วยบอกชื่อท่านด้วยนะคะ ขอบพระคุณล่วงหน้ามากคะ คุณtjs (เกือบสองอาทิตย์แล้วคะรบกวนช่วยดูให้ด้วยนะคะเป็นพระคุณอย่างสูงคะ)
================

ขออภัยด้วยครับ

จากการตรวจกรรมเบื้องต้น อดีตทำกรรมไว้หลายส่วนปัจจุบันก็มีสร้างทบเข้าไปอีก ความดีก็มี แต่กรรมให้ผลตามวาระ รวบยอดในบางช่วงเวลา เดี่ยวขอตรวจในสมาธิแล้ววันจันทร์จะตอบให้นะครับ สาธุ
"คุณ tjs วันนี้วันพุธแล้วคะ กรุณาช่วยตอบให้ด้วยนะคะจะเป็นพระคุณ"

 

ขอถามท่าน tjs นะคะ
1. เป็นไปได้ไหมคะที่คนๆหนึ่งปฏิบัติเรียนรู้ธรรมะ เข้าใจธรรมะได้ด้วยตนเอง
โดยไม่ได้มีญาณบารมีครูบาอาจารย์ที่ท่านเมตตาแนะนำ เป็นเพราะเรานั้นมีกรรม
หรือไม่มีวาสนา ไม่มีครูบาอาจารย์ดังเช่นคนอื่นเขา
2.เคยจะไปอยากเป็นศิษย์ ท่านบอกยังไม่รับเป็นศิษย์ เป็นเพียงผู้สอนธรรม และ
อาจารย์ที่นับถือเป็นก็บอกว่าไม่ใช่ เป็นคนแนะนำในฐานะกัลยาณมิตรเท่านั้น
3.จะรับฟังผู้อื่นเสมอหากเขาสามารถแนะนำและบอกให้เราเกิดปัญญาได้แม้แต่
เวลาทำงานถ้าลูกน้องโต้แย้งหรือแนะนำที่มีเหตุผลกว่าพร้อมเปิดใจรับฟังเสมอ
หากเขามีเหตุผลที่ดีกว่าเรา เราก็พร้อมจะทำตาม
4.มีคนบอกว่าเราไม่ฟังใคร ที่จริงไม่ใช่เป็นคนมีนิสัยแบบนั้น ตอนเป็นข้าราชการ
รับฟังปัญหาของประชาชนที่ยากจนและเดือดร้อนด้วยความเคารพ ตอนให้เงิน
แก่ขอทานก็น้อมและย่อตัวให้ ไม่เคยถือเขาเรา เราเหมือนกัน แต่แตกต่างกัน
ด้วยกรรมจึงทำให้เราต่างกัน รู้ในคุณค่าของคนเสมอ
5.แต่หากคนรวย ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทำไม่ถูกต้อง ก็ไม่ยอมลดราวาศอกให้
เห็นคนผิดรังแกคนถูก หรือเอาเปรีบกันในหมู่ข้าราชการก็ไม่ยอมจะเข้าข้างคนผิด
ถึงแม้ว่าเขาจะมีอำนาจมากกว่า
เพราะเรานิสัยอย่างนี้หรือเปล่า ที่ทำให้เราขาดศาสตร์และศิลป์ในการใช้ชีวิต
ใช้แต่ความถูกต้อง และถูกใจ แต่ไม่ค่อยยอมใคร เลยไม่มีใครกล้าคบ
ถ้าไม่ถูกใจเดี๋ยวเราจะเล่นงานเขา
โปรดช่วยชี้แนะในส่วนที่ไม่ดีด้วยคะ

 

====================

อย่าได้กังวลครับ ผมและคุณผ่านแล้วไม่ติดอะไร เพราะมีสติปัญญามากพอควรแล้วมีกำลังพอควรสามารถประคองตนไปได้

แค่สิ่งที่ผมกล่าวผมกล่าวถออกมานั้นก็ปราถนาให้ปุถุชนสหายอื่นๆผู้ยังหลงมัวเมาอยู่หรือยังไม่เข้าใจอยู่ให้เกิดความเห็นที่ลงลึกในความจริงที่ควรทำความเข้าใจ เพื่อการปฏิบัติตนให้ถูกต้องนั่นเอง ครับ
เทพและธรรม ต้องนำเอาธรรมนำหน้า ส่วนเทพก็เป็นไปเพื่อช่วยเสริมทางโลกเท่านั้นเองครับ

ท่านมหาเมตตาเข้าใจถูกต้องทุกอย่างแล้วครับ ขออนุโมทนาครับ สาธุ