ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ภาพบรรยายบุญทุนนิธิ ฯ เดือนมีนาคม 2558 ตอนที่ 6







































สาธุครับ

 

ภาพบรรยายบุญทุนนิธิ ฯ เดือนมีนาคม 2558 ตอนที่ 7

























สาธุครับ

 

ภาพบรรยายบุญทุนนิธิ ฯ เดือนมีนาคม 2558 ตอนที่ 8

แถมท้ายภาพปล่อยปลาครับ









สาธุครับ

พบกันในวันที่ 26 เมษายน 2558 นี้
ณ โรงพยาบาลสงฆ์ครับ

สาธุครับ

 

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/yizOvwT0bv99uaAk" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/75e/tAvPj6.jpg" /></a>http://
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/yizOxiMpBwroFwy7" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/ee9/01JEqa.jpg" /></a>http://
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/yizOy0JMaDiZe8hw" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/d48/2bqCZs.jpg" /></a>

 

กิจกรรมที่ รพ.สงฆ์ ประจำเดือนนี้จะได้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน 2558 โดยนัดพบเพื่อจัดเตรียมสังฆทานอาหารที่โรงอาหารด้านข้างของ รพ.สงฆ์ในเวลา 7.30 น.-8.00 น. เหมือนเช่นเคย

จึงขอแจ้งให้ผู้ที่สนใจได้ทราบทั่วกัน ผมและกรรมการของทุนนิธิฯ ได้เบิกเงินจากบัญชีของทุนนิธิฯ และได้ทยอยบริจาคให้เงินไปเรียบร้อยแล้วในวันนี้ โดยมีรายละเอียดการบริจาคสำหรับเดือนเมษายน 2558 ดังนี้ (สำเนาการโอนเงินจะได้นำมาลงให้อนุโมทนากันต่อไปครับ)

1. รพ.สงฆ์

- ถวายค่าสังฆทานอาหาร 6,000.- (ประมาณการพระสงฆ์ไว้170 รูป โดยจะถวายเป็นอาหารกล่องๆ ละ 35.-)
- ถวายค่าเวชภัณฑ์ส่วนกลาง 5,000.-
- ถวายค่าโลหิต 5,000.-

รวม 16,000.-

2. รพ.ภูมิภาค

- รพ.แม่สอด จ.ตาก 5,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน 5,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย 8,000.-
- รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ 5,000.-
- รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 5,000.-
- รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 5,000.-
- รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส 5,000.-
- รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 5,000.-

รวม 43,000.-

รวมเงินบริจาคในเดือนนี้ ตามข้อ 1.+2. = 59,000.- (ห้าหมื่นเก้าพันบาทถ้วน)

จึงขอประชาสัมพันธ์มาให้ทราบทั่วกันครับ

พันวฤทธิ์
23/4/58

​

สำเนารายงานการโอนเงินบริจาคทางธนาคารและทางธนาณัติที่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมกับใบอนุโมทนาบัตรและรายงานการรักษาพยาบาลเท่าที่ได้รับมา ณ วันที่ 25/4/58 โดยในวันพรุ่งนี้ (26/4/58) จะได้มีการถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์อาพาธประมาณ 140 รูป ที่ตึกกัลยาณิวัฒนา รพ.สงฆ์ครับ

พันวฤทธิ์
25/4/58

 

สืบหาพระเครื่องดีสัปดาห์นี้ ขอต่ออีกหน่อยกับเหรียญหลวงพ่อโสธร รุ่นอัญเชิญขึ้นจากน้ำ รุ่น 2 สร้างเมื่อปี 2555 โดยหลังจากที่ได้รู้ความศักดิ์สิทธิ์จากการตรวจทางจิตของครูอาจารย์แล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อนเลยให้น้องไปหาเช่าถึงวัดหลวงพ่อฯ เลย โดยสั่งแบบลงยาไป 2 ชดๆ ละ พัน (องค์ละ 200.-) รวมเป็นสองพัน ส่วนของน้องเช่ามาอีก 8 ชุด และนำมาแจกจ่ายกันเรียบร้อยแล้ว องค์พระทำได้สวยครับ มีหน้ากากเงิน กับหน้ากากทอง วันนี้เลยเอาหน้ากากเงินมาให้ดูกันก่อน ส่วนที่วัดหลวงพ่อฯ ของยังมีอีกครับ สัปดาห์นี้ ถ้ามีเวลาไปหาบูชากันน้ะครับ

ของหลวงพ่อฯ มีหลายรุ่นในวัด แต่เจตนาในการสร้าง รวมถึงพิธีการที่เบื้องบนรับรู้ เจตนาหรือพิธีการอาจหาจากโบชัวร์ได้ แต่การรับรู้ของเบื้องบนที่ท่านลงมาทำให้หรือไม่ ต้องใช้กำลังจากอภิญญาของฌาณลาภีบุคคลเท่านั้น จึงจะตรวจสอบได้ ซึ่งในรุ่นนี้ ผมได้ให้ผู้ที่มีคุณวิเศษในด้านนี้ ตรวจสอบให้แล้ว จึงกล้านำมาลงให้ทราบกันครับ ไม่เหลือเบื่อกว่าแรง เก็บไว้ครับเก็บไว้

พันวฤทธิ์
23/4/58

 

วันนี้โอนทำบุญจำนวน 100.08 บาท จากตู้ไทยพาณิชย์ครับ

 

คุณประสิทธ์ โอฬาริกเดช,ครอบครัว โอฬาริกเดช และ ครอบครัว จั่นประดับและ ญาติธรรมขอร่วมบุญฝากกระแสกับ "ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร" เพื่อบริจาคเงินบำรุงโรงพยาบาลสงฆ์และโรงพยาบาลอื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาลภิกษุสงฆ์หรือสามเณรอาพาธ
อนุโมทนา สาธุ ขอรับ

 

ภาพบรรยายบุญทุนนิธิ ฯ เดือนเมษายน 2558 ตอนที่ 1































สาธุครับ

 

ภาพบรรยายบุญทุนนิธิ ฯ เดือนเมษายน 2558 ตอนที่ 2





















































สาธุครับ

 

ภาพบรรยายบุญทุนนิธิ ฯ เดือนเมษายน 2558 ตอนที่ 3

































สาธุครับ

 

ภาพบรรยายบุญทุนนิธิ ฯ เดือนเมษายน 2558 ตอนที่ 4



































สาธุครับ

 

ภาพบรรยายบุญทุนนิธิ ฯ เดือนเมษายน 2558 ตอนที่ 5















































สาธุครับ

 

ภาพบรรยายบุญทุนนิธิ ฯ เดือนเมษายน 2558 ตอนที่ 6

































โมทนาสาธุกับทุกท่านครับ

พบกันเดือนพฤษภาคมนี้ครับ

สาธุครับ

 

ขอเปิดสักทีก็แล้วกัน หลังจากที่คณะของทุนนิธิฯ ได้ซุ่มจัดทำเหรียญของคณาจารย์ที่จะแจกให้ผู้ที่ร่วมบุญตามกติกาในกระทู้ และตั้งใจมอบให้ครูอาจารย์ที่ได้เมตตาอธิษฐานจิตให้ เพื่อให้ดอกผลในการจัดบูชาเหรียญที่คณะทุนนิธิฯ จะมอบให้ทางวัดนั้น นำไปใช้เพื่อเป็นสาธารณกุศลและใช้บำรุงวัดที่นับวันจะเสื่อมโทรมขาดผู้ดูแลและขาดงบประมาณในการซ่อมแซมเสนาสณะกุศลต่างๆ

คณะกรรมการทุนนิธิฯ ได้พิจารณาอย่างละเอียดและถี่ถ้วน ทั้งจริวัตรของครูอาจารย์ท่านนี้ รวมถึงพิจารณาจากภูมิจิตภูมิธรรมของท่านโดยละเอียดทุกแง่มุม จึงได้ตกลงใจที่จะสร้างเหรียญของครูอาจารย์ที่ทรงคุณข้างต้นขึ้นมา โดยได้เลือก ลพ.สนอง อตตทโม แห่งวัดนครไทยวราราม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก มาดำเนินการขออนุญาตจัดสร้างเหรียญให้ท่าน เพื่อมอบให้เป็นสมบัติของวัดตามวัตถุประสงค์ข้างต้น และท่านได้เมตตาตั้งชื่อรุ่นของเหรียญรุ่นนี้ว่า "สมปราถนา" โดยทุนนิธิฯ ได้นำถวายบล๊อคให้ท่านพิจารณาและอธิษฐานจิตเมื่อเดือน ธ.ค.57 ส่งมอบเหรียญให้ท่านต้นเดือน ก.พ.58 โดยท่านขอเวลาในการอธิษฐานจิตโดยการเสกเดี่ยวเป็นเวลา 3 เดือน และนัดให้ทำพิธีรับมอบเหรียญจากเพื่อให้คณะกรรมการมูลนิธิของวัดเป็นสักขีพยานพร้อมกับทำลายบล๊อคในวันที่ 31 พ.ค. นี้
ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเหรียญทองแดงประมาณ 100 เหรียญ คณะกรรมการทุนนิธิฯ จะได้นำกลับมามอบให้ผู้ที่ทำบุญผ่านกระทู้นี้ตามที่ได้เรียนมาให้ทราบถึงกติกาในการแจกเหรียญให้ฟรีในกระทู้นี้แล้วต่อไป

การอธิษฐานจิตของท่านข้างต้นนี้ ผมได้คุยกับท่านถึงเรื่องฤกษ์ เรื่องยันต์ เรื่องการจารที่เหรียญ (ท่านบอกจะจารให้ทุกเหรียญในระหว่างที่ปลุกเสก ทั้งๆ ที่ท่านไม่ค่อยสบาย) นับว่าเป็นความเข้มขลังเฉพาะตัวของท่านมาก รวมถึงกลยันต์หลังเหรียญที่เว้นว่างไว้ 3 ช่อง เพื่อใส่หัวใจธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ลงไป โดยใช้วิธีจารจิตทั้งหมด นับว่าเป็นคณาจารย์โบราณที่หาได้ยากในปัจจุบัน

มาลองดูประวัติของท่านคร่าวๆ จากเวบของ นสพ. คม ชัด ลึก กันครับ


วัดนครไทยวราราม หรือวัดหัวร้อง (วัดใต้) เป็นวัดโบราณคู่ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หรือเมืองบางยาง พ่อขุนบางกลางท่าว ตามจารึกสุโขทัยหลักที่ ๒ วัดศรีชุม มีโบราณสถานสำคัญ คือ วิหารโบราณทรงโรง ตามแบบสถาปัตยกรรมพื้นเมือง หลังคามุงด้วยกระเบื้องไม้ สมัยอยุธยาตอนต้น หรือสุโขทัยตอนปลาย ประดิษฐาน หลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ แกะสลักจากไม้ พอกหุ้มด้วยปูนสอดินองค์ใหญ่ พระพุทธรูปโบราณที่ชาวนครไทยเคารพและศรัทธา รวมทั้งสาวกซ้ายขวาอีก ๒ องค์ ก็สร้างด้วยไม้เช่นกัน


ต้้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วัดหัวร้องเป็นอารามที่มีพระอมตเถราจารย์ชื่อดัง เรืองพระเวทย์มาแต่โบราณ คือ หลวงปู่หุย ผู้ทรงอาคม ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น แต่มีอายุพรรษาสูงกว่า หลวงพ่อเรือง วัดบ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก พระเกจิอาจารย์ร่วมสมัย เจ้าของผ้ายันต์นกคุ้มกันไฟ ที่เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ลงไว้บนเพดานศาลาไม้โบราณวัดหัวร้อง ที่ประสบอัคคีภัย แต่เพลิงไฟไม่สามารถเผาไหม้ทำลายได้

นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมี พระเถรรัตตัญญู ผู้มีศีลาจารวัตร อันงดงาม เก็บตัวเจริญภาวนา สมณธรรม ด้วยความ สมถะ สันโดษ ปล่อยวางไม่ยึดติดใน ลาภ ยศ ตำแหน่ง หรือ สมณศักดิ์ เก็บตัวอยู่เงียบๆ จึงเปรียบเสมือนช้างเผือกย่อมอยู่ในป่าใหญ่ คือ พระครูนครบุราณานุรักษ์ หรือ หลวงพ่อสนอง อตฺตทโป

หลวงพ่อสนอง เป็นพระเถระที่มีศีลาจาริวัตรอันงดงาม ตั้งมั่นอยู่ในสัมมาปฏิบัติ มุ่งเจริญสมาธิเพื่อความสงบ ตามที่หลวงพ่อพันธ์ได้สอนไว้จนเชี่ยวชาญ สมถะ สันโดษ พูดน้อย และได้ศึกษาสรรพวิชาเพิ่มเติมจากตำรายันต์ โบราณของหลวงปู่หุย อดีตเจ้าอาวาสวัดหัวร้อง ในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งมีอาวุโสสูงกว่า หลวงพ่อเรือง วัดบ้านดง อ.ชาติตระการ

ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๒ หลวงพ่อสนอง ท่านเห็นว่า ตำแหน่งเจ้าคณะปกครองมีภารกิจมาก ยากแก่การแสวงหาความสงบ สงัด แห่งสมณธรรมได้ และท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว รับธุระพระศาสนาสนองงานคณะสงฆ์มาถึงเวลาอันสมควร รวมทั้งท่านมิได้ติดยึดในยศถาบรรดาศักดิ์ ซึ่งเป็นสมมุติสัจจะ ท่านได้บอกกับคณะศิษย์เสมอว่า “หนัก คือ ยึด ว่าง คือ วาง สว่าง คือ ปัญญา รู้จักพอก่อสุขทุกสถาน ความสุขสงบที่แท้จริง จึงจะปรากฏ”

ท่านจึงได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอนครไทย ที่ได้ปฏิบัติศาสนกิจ รับธุระพระพุทธศาสนามายาวนานกว่า ๑๗ ปี ด้วยวัยเพียง ๔๔ ปี พรรษา ๒๔ ทั้งๆ ที่ยังมีอนาคตที่ยาวไกลถึง พระราชาคณะ เพื่อมุ่งปฏิบัติเจริญกรรมฐาน สมาธิภาวนา วันละ ๒-๓ ชั่งโมง มาโดยตลอด และเก็บตัวอยู่กับ ความสงบ นิ่ง เงียบ สันโดษ

ในคราวฉลองอายุ ๖๐ ปี เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๗ คณะศิษย์ได้จัดสร้างเหรียญรูปเหมือน, รูปหล่อลอยองค์ และรูปหล่อขนาดบูชา ๕ นิ้ว พร้อมด้วยพระปิดตา เนื้อผงว่านและปูนที่กระเทาะจากวิหารโบราณวัดหัวร้อง ที่หลวงพ่อสนองได้บูรณปฏิสังขรณ์ ถวายให้ท่านปลุกเสก และแจกแก่คณะศิษย์หมดไปจากวัดภายในเวลาอันรวดเร็ว เป็นพระเครื่องที่มีพุทธคุณเข้มขลัง ประสบการณ์สูงส่งในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เป็นที่หวงแหนของผู้มีไว้สักการบูชาเป็นยิ่งนัก หลวงพ่อสนองได้มีเมตตาใช้สรรพวิชาที่ หลวงพ่อพันธ์ วัดบางสะพาน สอนไว้ใช้ในการสงเคราะห์ ฉลองศรัทธาแก่คณะศิษย์ที่มารบเร้าขอของดีจากท่าน คือ ลงตะกรุด นะปถมัง ด้วยพระยันต์พระเจ้า ๑๖ พระองค์ และผ้ายันต์ โดยท่านจะเลือกฤกษ์งามยามดี ในดิถี วันเสาร์ ๕ เพียงวันเดียวเท่านั้นในการประกอบพิธี โดยตั้งเครื่องบูชาครู แล้วลงตะกรุดแต่เช้ามืด จนเสร็จ แล้วจึงนำมาปลุกเสก ๗ เสาร์ ๗ อังคาร ก่อนมอบให้คณะศิษย์

หลวงพ่อสนอง อตฺตทโป จึงเป็นเถรรัตตัญญูรูปสำคัญ ที่มีศีลาจารวัตรอันงดงาม ปล่อย วาง จาก ยศ ลาภ มุ่งเจริญสมณธรรม อันเป็นสร้างพระในตนเอง สมเป็น พุทธบุตร สังฆชิโนรส ที่หาได้ยากยิ่งรูปหนึ่งในสังฆมณฑลสยามประเทศ ที่สามารถกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจอย่างแท้จริง สมคำบุราณที่ว่า ช้างเผือกย่อมอยู่ในป่าใหญ่ อย่างแท้จริง

ชาติภูมิหลวงพ่อสนอง

“สนอง ขำคง” เป็นชื่อและสกุลเดิมของหลวงพ่อสนอง เกิดที่ บ้านนาบัว ต.นาบัว อ.นครไทย เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๔๗๘ อุปสมบทที่พัทธสีมาวัดนาบัว เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๔๙๘ โดยมี พระครูประพัฒน์สรศีล (ชม) วัดหัวร้อง เจ้าคณะอำเภอนครไทย เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนสอบได้นักธรรมโท ในปี พ.ศ.๒๕๐๑ และดำรงตำแหน่งเลขานุการเจ้าคณะอำเภอนครไทย

เมื่อพ.ศ.๒๕๐๕ พระครูประพัฒน์สรศีล ได้ลาสิกขา หลวงพ่อสนอง ขณะนั้นอายุได้ ๒๗ ปี พรรษา ๗ จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรักษาการเจ้าคณะอำเภอนครไทย ต่อมา พ.ศ.๒๕๐๙ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นโท ที่พระครูนครบุราณานุรักษ์

พ.ศ.๒๕๑๑ เป็น พระอุปัชฌาย์ และใน พ.ศ.๒๕๑๗ เป็นพระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก จนในพ.ศ.๒๕๒๒ จึงลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอนครไทย เพื่อมุ่งปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิภาวนา แสวงหาความสงบ ในสมณเพศอย่างแท้จริง ดังพุทธพุจน์ที่ว่า นตฺถิ สนฺติ ปรมํสุขขํ สุขใดยิ่งกว่าใจสงบไม่มี



จากข้างต้นนี้เป็นประวัติของท่านเท่าที่พอจะหาได้ในเวบ ส่วนความสามารถทางจิตนั้น นับว่าท่านเป็นหนึ่งไม่รองใครเหมือนกัน ซึ่งจะรู้ได้สำหรับผู้ที่มีตาใน หรือพวกฌาณลาภีบุคคลเท่านั้น เพราะบางทีก็เห็นน้ำมนต์ที่พรมออกมาจากท่าน เป็นรูปดอกไม้สีงามที่หาไม่ได้ในโลกนี้เป็นต้น ส่วนเรื่องเหรียญนั้น ท่านที่ทำบุญบริจาคและได้ทำตามกติกาแล้ว ส่ง pm. มาเลย ผมบันทึกไว้หมดแล้ว และจะจัดส่งฟรีให้ภายในต้นเดือนหน้าเป็นต้นไปครับ หลวงพ่อสนองปัจจุบันมีอายุมากกว่า 80 ปีแล้ว ผมว่าเหรียญรุ่นนี้จะเป็นรุ่นสำคัญทีเดียวสำหรับ อ.นครไทย เพราะท่านอธิษฐานจิตให้ยาวนานกว่า 3 เดือน ที่ห้องนอนของท่าน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ขนาดเหรียญตะกั่วลองพิมพ์ที่ผมมอบให้ท่านไว้ 10 เหรียญ ในปัจจุบันมีผู้เช่าหาไปจากวัดแล้วเหรียญละไม่ต่ำกว่าสามพันบาท ผมว่าเหรียญรุ่นนี้ต่อไปจะหาได้ยาก เพราะทุนนิธิฯ ได้ทำให้ท่านทั้งหมด หกพันกว่าเหรียญเท่านั้นเอง (รวมที่จะนำมาแจกให้ฟรีไว้แล้วด้วย) จึงขอให้ท่านที่ได้ไปเก็บไว้ให้ดีครับ

พันวฤทธิ์
6/5/58

 

ผมขอร่วมทำบุญประจำเดือน พ.ค.58ด้วยนะครับ

ผมได้โอนเงินร่วมทำบุญกับทุนนิธิฯจำนวน100บาทเมื่อวันที่ 6 พ.ค.58และผมขออนุโมทนากับทุกคนด้วยนะครับ

 

ขอร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ
ประจำเดือน พ.ค. 58 จ.น. 500 บาท
วันที่ 08/05/15 เวลา 14.05 น. โอนเงินให้เรียบร้อยแล้ว
อนุโมทนาบุญด้วยครับ...

 

แจ้งโอนเงินร่วมบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ
ประจำเดือน พ.ค. 58 จำนวน 500 บาท
วันที่ 11/05/15 เวลา 18.39 น. โอนเงินเรียบร้อยแล้ว
ขอโมทนาสาธุบุญกับทุกท่านค่ะ...

 

วันนี้ผมและครอบครัวร่วมทำบุญ 300 บาท (17/05/2015 17:07)และ ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ