เพื่อการกุศล ล็อกเกตฉากทองหลวงพ่อวิชัยวัดถ้้ำผาจมรุ่น"สัพพะโรคาวินาสสันตุ"จัดส่งให้ครบทุกท่านแล้วครับ

​

พี่ๆครับผมขอเล่าประสบการณ์พระกริ่งขวานฟ้าฯหลวงพ่อวิชัย เขมิโยได้ไหมครับไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกันกับกระทู้ล็อกเก็ตนี้รึปล่าวนะครับแต่ก็อยากเล่าอ่ะครับ

ผมต้องไปนอนห้องเพื่อนที่อยู่ตึกเดียวกัน เพื่อนผมมันอยากให้ไปนอนเป็นเพื่อนกันคืนแรกผมก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีคนจ้องมองอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำอะไรก็เหมือนมีสายตาคู่นั้นตามดูอยู่ตลอดเวลาจนมีความรู้สึกกลัวไปเลย ขอเพื่อนออกไปนอนห้องผมเองดีกว่า เวลานั้นก็สักตีสองได้ก็รีบเผ่นออกจากห้องเพื่อนไปเลยครับ นอนห้องตัวเองได้สามวัน เลยว่าลองใหม่ใจเราคงจะคิดไปเองแหละ พอกลับไปนอนก็นอนไม่ค่อยหลับชอบตื่นมากลางดึกทุกคืนเลย มีอยู่คืนเป็นคืนวันพระผมตื่นมากลางดึกแล้วมองไปๆมาเห็นเป็นผู้ชายนั่งบนหลังตู้หอยขา ไม่เห็นหน้าเป็นเงาดำตัวใหญ่ๆ ระยะห่างกันแค่เมตรเศษๆเอง ผมตื่นขึ้นมาขยี้ตานึกว่าฝันไป เงาผู้ชายคนนั้นก็ยังอยู่แต่พยายามมองหน้าก็ไม่เห็น หันซ้านหันขวาแล้วกลับไปมองที่เดิมก็ยังเห็นอยู่เลยครับ ในใจคิดว่า ผีแน่ๆ! ก็กลัวอ่ะครับทำไงดี นึกถึคงคำหลวงปู่หลวงพ่อท่านว่าเจอผีให้สวดมนต์แล้วแผ่เมตตา สวดอย่างไรก็ก็ไม่ไปครับยังนั่งห้อยขาอยู่บนหลังตู้่อยู่นั่นละ ทำยังไงก็ไม่ไปสวดสู้กันอยู่นานผลสุดท้ายก็หายไปเองเกือบครึ่งชั่วโมงที่เห็นภาพชายคนนั้น เหมือนเป็นการยั่วให้ผีโกรธรึปล่าวผมก็ไม่รู้ กลางวันๆทำงานอยู่ในห้องเดินไปๆมาๆเหมือนมีคนมากระแทกบ้าง ชนบ้างให้ขนลุกทุกวัน บางคืนตื่นขึ้นมากลางดึกก็เห็นผีผู้ชายคนเดิมมาชะโงกหน้าดูผมแบบใกล้ๆเลย อีกอย่างเข้าห้องน้ำไอ้หมวกคลุมผมเจ้ากรรมดันมีเสียงขยี้ขยำเองได้น่ะซิครับ แล้วเป็นรอยขยี้จนยับเลยด้วยทั้งๆที่ผมใส่อาบน้ำและแขวนไว้ทุกครั้งก็ไม่เคยจะทำยับ เจอแบบนี้ผมว่าสงสัยคงจะต้องย้ายกลับห้องถาวรแล้วงวดนี้

​

มาเล่าให้พี่ๆกลุ่มเข้าวัดฟังว่า ผมเจอผี พี่ๆเลยบอกว่า อาราธนาพระกริ่งขวานฟ้าฯ หลวงพ่อวิชัยซิ เขาว่ากันว่าดีด้านคุ้มครองป้องกันภัยอะไรต่อมิอะไร พี่เขาเล่าให้ผมฟังเยอะเลย ผมว่า ผมก็แขวนพระอยู่แล้วไม่เห็นต้องแขวนกริ่งอีกเลย พระท่านก็อธิษฐานจิตมาคล้ายๆกันแหละ ยิ่งพี่เขาเอามาให้ดูองค์ใหญ่ผมว่าขี้เกียจแขวนหนักอ่ะครับ พี่เขาก็บอกว่าไม่ใช่ว่าพระที่แขวนจะเหมือนกันหมดแต่ละองค์ท่านอธิษฐานจิตมาเพื่อมีวัตถุประสงค์ต่างๆกันเช่น บางองค์ท่านอธิษฐานด้านเมตตาค้าขาย บางองค์อธิษฐานด้านลาภ ดังนั้นไม่ใช่ว่าพระที่แขวนไม่ดีแต่เป็นเพราะครูบาอาจารย์ท่านอธิษฐานมาเพื่อช่วยเหลือคนต่างๆกันไป พี่เขาคะยั้นคะยอให้แขวนหลวงพ่อวิชัยผมก็เคารพท่านมากอยู่แล้วและเคยกราบท่านประจำที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผมเลยตัดสินใจลองเอามาแขวนดูเผื่อจะดีอย่างที่เขาว่าจริงไม่เสียหายอะไร อีกอย่างก็เคารพท่านอยู่แล้วด้วย พอแขวนมาไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยครับที่เคยเจอมาก็ไม่เห็นมีอะไรแล้วอย่างที่ตื่นมากลางดึกแล้วเห็นเงาก็ไม่เจอ ที่เคยมาชะโงกหน้าก็ไม่มี แบบมีคนมากระแทกให้รู้สึกก็ไม่มีครับผมแขวนมาสองอาทิตย์เข้าอาทิตย์ที่สามแล้วครับ เหตุการณ์เป็นปกติดีทุกอย่างครับ ครั้งแรกๆมีบ้างที่ว่าเหมือนมีคนเคาะและเปิดประตูห้องน้ำเองแต่ก็หลังจากนั้นก็ไม่เจออะไรอีกเลยครับ

 

​

หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย (พรรษา ๕๐)​

ทางคณะได้นำล๊อกเกตฉากทองและหยกทั้งหมดถวายให้ หลวงพ่อวิชัย เขมิโย นำไปอธิษฐานจิตโดยไว้ในห้องนอนท่านซึ่งหลวงพ่อได้เมตตาอธิษฐานให้ราว 3 ราตรี ท่านได้บอกว่าได้อาราธนาบารมีของ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์ที่มีชื่อเสียงในอดีตมาเสริมพลังบารมีให้กับล๊อกเกตชุดนี้ ประสิทธิ์ประสาทให้มีพุทธคุณยอดเยี่ยมเลยทีเดียว สามราตรีนี้ท่านได้เมตตาเล่าว่าท่านได้ภาวนา คาถาหัวใจปาติโมกข์ ซึ่งหลวงพ่อได้กล่าวว่า"เป็นยอดคาถาครอบคลุมในทุกๆด้าน" วันนี้หลังจากคณะเราได้ไปขนมงคลวัตถุออกจากห้องของหลวงพ่อก็ได้ขอเมตตาหลวงพ่ออธิษฐานจิตล๊อกเกตทั้งหมดรวมถึงฉากธรรมดาซึ่งเพิ่งนำไปด้วยกันซ้ำอีกครั้งเป็นคำรบที่สอง ซึ่งท่านเคยอธิษฐานไว้ครั้งแรกแล้ว หลวงพ่อได้เคยพูดถึงล๊อกเกตฉากธรรมดาสีเขียวไว้ว่า"หลวงพ่อเห็นคนโบราณมากันมากมาย ท่านท้าวเวสสุวรรณปกติใส่ชุดธรรมดาแต่มาแปลกคราวนี้กลับทรงชุดสีทองงดงามมากและยังมีพระมหากษัตริย์ในอดีตมากันอย่างมากมายเหลือเกิน" ดังที่ผู้เขียนได้เคยเขียนไว้แล้วตั้งแต่ต้น

​

หลวงพ่อวิชัย เขมิโย เมตตาอธิษฐานจิตล๊อคเกตและหยก ฯลฯ​

พอถึงครั้งนี้จึงได้นำล๊อกเกตฉากธรรมดาไปให้หลวงพ่อเมตตาอธิษฐานจิตด้วยกันทั้งหมดเลยทีเดียว ล๊อกเกตฉากสีเขียวแบบธรรมดานี้ผนึกใส่กล่องไว้หนาแน่น เมื่อหลวงพ่ออธิษฐานจิตเรียบร้อย ท่านได้เอ่ยปากถามว่า "ในกล่องนี้คืออะไรของดีนะเนี่ย" ได้เรียนท่านว่า "เป็นล๊อกเกตฉากธรรมดา" จึงได้แกะกล่องแล้วเปิดให้ท่านดู ดังนั้นผุ้เขียนเชื่อมั่นว่าพุทธคุณของมงคลวัตถุฉากสีเขียวแบบธรรมดาคงกระทบจิตท่านเป็นแน่ นั่นแสดงว่า ทั้งฉากสีทองและฉากธรรมดาคงมีพุทธคุณไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนทีเดียว หลังจากอธิษฐานจิตเรียบร้อยได้กราบเรียนท่านเรื่องต่างๆนาๆมากมาย

​

จนผู้เขียนได้เรียนถามหลวงพ่อว่า "หลวงพ่อบุญส่ง ฐิตสาโรกับหลวงพ่ออ่องรู้จักหลวงพ่อด้วย" ท่านได้กล่าวว่าสองรูปนี้เป็นพระที่ปฏิบัติปฏิบัติชอบไม่ค่อยพูดกับใครมุ่งหน้าแต่การปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นเพียงอย่างเดียว หลวงพ่อได้พูดถึงหลวงพ่อบุญส่งเพิ่มเติมว่า ตอนหลวงพ่อไปวิเวกที่เมืองจันท์พบหลวงพ่อบุญส่งทีนี้ไปธุดงค์ในป่าที่ขาดแหล่งน้ำ ทำท่าจะไปไม่ไหวแล้ว หลวงพ่อบุญส่งเห็นว่ามีแมงป่องสามตัวเกาะบนยอดจอมปลวกใหญ่เป็นเรื่องที่แปลกมาก หลวงพ่อบุญส่งท่านคงมีจิตสัมผัสรู้อะไรสักอย่างจึงใช้ขวานตัดยอดจอมปลวกแล้วปรากฎเป็นน้ำใสสะอาดพุ่งออกมาจากยอดจอมปลวกนั้นจึงได้รอดกันมาอย่างปาฏิหาริย์..

​

หลวงพ่อวิชัย เขมิโย พิจารณาล๊อคเกตฉากธรรมดา​

 

​

ตัวอย่างล๊อกเกต หลวงพ่อวิชัย เขมิโย รุ่น สัพพะโรคาวินาสสันตุ ​

ลักษณะล๊อกเกตดังกล่าวนี้ ด้านหน้า เป็นรูปพระเดชพระคุณหลวงพ่อ มียันต์เศรษฐีบริเวณไหล่ และมีลายเซ็นองค์ท่าน พร้อมข้อความสัพพะโรคาวินาสสันตุ ด้านหลังอุดแผ่นหยกกันมะเร็งเพื่อให้แผ่นหยกได้แนบกับเนื้อตัวของผู้ใส่เพื่อดูดและกำจัดโรคร้ายที่อยู่ในร่างกายให้หมดสิ้นด้วยอานุภาพของธาตุหยกเองและอานุภาพแห่งพระรัตนตรัย แต่มีข้อแม้ที่สำคัญคือ ไม่เกินกว่ากฎของกรรม!


โดยหยกที่สั่งมานี้มาจากแม่สายซึ่งเป็นหยกพม่าแท้มีคุณสมบัตินานาประการ ซึ่งเป็นที่ทราบกันมาอย่างยาวนานแล้วโดยเฉพาะชาวจีนมักจะนำหยกมาทำเป็นภาชนะเพื่อการบริโภครูปร่างต่างๆเชื่อว่าทำให้มีอายุยืน เช่นพระนางซูสีไทยเฮาจอมนางแห่งราชสำนักของราชวงศ์ชิง พระนางสั่งของทุกชิ้นทำจากหยกโดยเฉพาะจาน ชามและถ้วยชา ชุดเสวย รวมไปถึงอ่างล้างหน้า พระองค์เชื่อในคุณสมบัติของหยกที่จะสามารถทำให้พระองค์คงความงามและมีอายุยืนยาวได้อย่างไม่น่าเป็นไปได้ แม้แต่ชุดหยกที่ใช้หุ้มศพของจักพรรดิและพระมเหสีของจีน เพราะเชื่อว่าจะคงสภาพศพได้โดยไม่เน่าเปื่อย และชาวจีนอีกจำนวนมากที่นิยมคล้องหยกเพื่อความสวยงาม แสดงสถานะทางสังคมและการมีสุขภาพดี

นอกจากนี้ที่สำคัญอย่างที่สองคือ ประคำหยกที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านพกติดตัวท่านตลอดก็ได้นำมาบรรจุใส่ไว้ในล๊อกเกตชุดนี้ทุกชิ้นทุกอัน

และสิ่งสำคัญชิ้นสุดท้ายคือ ผ้าสังฆาฏิ ซึ่งเป็นเจตจำนงค์จากองค์หลวงพ่อซึ่งท่านได้สั่งให้บรรจุไว้หลังล๊อกเกตนี้ทุกชิ้นทุกอันอีกเช่นเดียวกัน ผ้าสังฆาฏินี้หลวงพ่อเมตตาเล่าว่ากำจัดสิ่งชั่วร้ายต่างๆนาๆได้อีกด้วย ท่านเคยเล่าให้ศิษย์ฟังว่า ถ้าตบผ้าสังฆาฏิเวลาขึ้นธรรมมาสถ์สามครั้งแล้วบริกรรมคาถาจะไม่มีใครสามารถทำอันตรายด้วยทั้งคุณผีคุณไสยและคุณคนได้เลย

 

​

อาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม​

ทางคณะได้นำล๊อกเกตหลวงพ่อวิชัยฉากทองเข้าร่วมพิธีอธิษฐานจิตมีดหมอของ ท่านอาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม เมื่อวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา หลายๆท่านคงสงสัยว่าท่านอาจารย์ธรรมนูญนี้เป็นใครและท่านเก่งในด้านใดบ้าง อาจารย์ธรรมนูญเป็นศิษย์สาย ปู่พ่วง พงษ์แพทย์ อาจารย์ธรรมนูญเป็นผู้สืบทอดวิชาโดยตรงมาจาก อาจารย์บุญรอด และอาจารย์ทองหล่อ พงษ์แพทย์ ซึ่งทั้งคู่เป็นบุตรของปู่พ่วง ความเก่งกาจในเรื่องวิชาของปู่พ่วงนั้นหลายๆท่านคงเคยได้ยินมาบ้างแล้วจากที่ต่างๆเช่น การเพ่งปรอทให้ตายและเป็นกายสิทธิ์แข็งเป็นหิน และทรงอานุภาพต่างๆ ท่านยังเป็นอาจารย์ฆราวาสของ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค อีกด้วย แม้ว่าอาจารย์ธรรมนูญเองจะได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆมาจากอาจารย์บุญรอดและอาจารย์ทองหล่อก็ตาม

​

พิธีกรรมอันเข้มขลัง​

แต่ทั้งนี้ครูบาอาจารย์ที่สำคัญหรือพระอาจารย์ใหญ่ของสำนักบัวแปดกลีบนี้จริงๆไม่ใช่ท่านทั้งสามที่เอ่ยมาหรอกครับ จริงๆแล้วคือครูบาอาจารย์ที่ไม่มีกายเนื้อเหมือนกับท่านคอยคุมอยู่เบื้องหลังนั่นคือ ท่านย่าเฒ่านันทะมาตาเถรี ภิกษุณีในสมัยพุทธกาลผู้ทรงวิชชาสามและอภิญญาหกและทรงปฏิสัมภิทาญาณ เมื่อเวลาสำนักจะจัดงานพุทธาภิเษกจะต้องบอกกล่าวท่านตลอด สำนักนี้ไม่เน้นไสยเวทย์แต่เน้นพุทธคุณ ธรรมคุณและสังฆคุณเป็นหลัก ยึดมั่นตามหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง การมาของท่านย่าเฒ่าที่ลงมาช่วยเหลือมนุษย์นี้ช่างมหัศจรรย์นัก โดยการมาเข้าฝันสตรีท่านหนึ่งซึ่งไม่มีความรู้ด้านคาถาอาคมใดๆมาก่อนเลยและ ที่สำคัญสตรีท่านนี้ยังเป็นภรรยาของอาจารย์ทองหลอีกด้วย ภรรยาอาจารย์ทองหล่อเล่าว่ามีสตรีโบราณนุ่งชุดขาวมาสอนการเจริญกรรมฐานและคาถาบางอย่าง

​

ล๊อกเกตหลวงพ่อวิชัยฉากทองอยู่ในเป้สีเขียวครับ ได้รับพลังเต็มๆ​

อาจารย์ทองหล่อคิดว่าภรรยาตนอาจจะพูดโกหกจึงต้องท้าให้มีการพิสูจน์เกิดขึ้นด้วยการ เตรียมอาสนะฟูกนุ่มไว้ เมื่อถึงเวลาภรรยาท่านจะเป็นผู้อัญเชิญท่านย่าเฒ่ามานั่ง ครั้นถึงเวลาจริงที่ภรรยาท่านอัญเชิญท่านย่าเฒ่ามานั่งนั้นอาจารย์ทองหล่อได้ยินเสียงคนเดินลงส้นเท้าดังๆขึ้นมาบนบ้านและเสียงนั้นมุ่งหน้ามาทางเบาะและที่อาจารย์ทองหล่อนั่งอยู่ เมื่อเสียงปริศนานั้นมาถึงก็หยุดลงบริเวณเบาะ สังเกตเห็นได้ชัดเจนคือเบาะเป็นหลุมยุบตัวลงไปเหทือนมีคนนั่งอยู่บนเบาะนั้นแต่เพียงแค่ไม่เห็นตัวคนที่นั่งเท่านั้นเอง หลังจากนั้นภรรยาอาจารย์ทองหล่อก็ทำท่าคุยกับบุคคลไร้ตัวตนที่อยู่ที่เบาะแล้วหันมาบอกอาจารย์ทองหล่อว่าในตัวอาจารย์ทองหล่อสักยันต์อะไรไว้บ้าง คาถาที่ใช้ปลุกและอื่นๆที่เป็นเรื่องส่วนตัวที่อาจารย์ทองหล่อรู้เพียงคนเดียว เมื่อได้ยินดังนั้นอาจารย์ทองหล่อถึงกับกราบและยอมรับท่านย่าเฒ่าเป็นอาจารย์

​

พระอาทิตย์ทรงกลดตลอดพิธีการ​

ที่สำคัญที่สุดในสำนักนับแต่บัดนั้น สืบทอดมาถึงอาจารย์ธรรมนูญซึ่งอาจารย์และท่านย่าเฒ่าก็ยังติดต่อกันสม่ำเสมอ ในวันที่คณะเรานำเข้าพิธีอธิษฐานจิตของอาจารย์นั้น ระหว่างทำพิธีก็เกิดเหตุอัศจรรย์คือ พระอาทิตย์ทรงกลดตลอดระยะเวลาที่ทำพิธีทั้งหมดจนเสร็จสิ้นพิธี จึงเป็นที่แน่นอนว่าความศักดิ์สิทธิ์ของล๊อกเกตนี้ย่อมมีพลานุภาพอย่างแน่นอน

 

​

ทางคณะได้ขอเมตตาพระโพธิญาณมุนี(หลวงพ่อเมือง)วัดป่ามัชฌิมาวาส จังหวัดกาฬสินธ์ อธิษฐานจิตเป็นเวลา 5 นาที

 

​

หลวงปู่หริ อัคคสิริ วัดระหาน จ.สุพรรณบุรี​

หลวงปู่สิริ วัดระหาน สุพรรณบุรีอายุกว่า 90 ปีได้เมตตาอธิษฐานจิตให้เป็นเวลา 15 นาที หลวงปู่เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างยิ่ง มีคนเคยนำพระและล๊อกเกตของท่านไปให้หลวงพ่อรูปหนึ่งพิจารณาท่านได้เอ่ยว่า"หลวงพ่อรูปนี้เก่งด้านลาภนะ หลวงพ่อเห็นเป็นยันต์มหาลาภขึ้นมาเลยทีเดียว "ทั้งที่หลวงพ่อท่านไม่เคยเห็นและรู้จักหลวงปู่เลย ซึ่งจากการที่ผู้เขียนเคยไปกราบท่านและได้เคยกราบเรียนถามท่านว่าท่านสวดอะไร ท่านเคยเล่าว่าสวดคาถาพระสีวลีลงไป โอ้โหแทบจะไม่ต้องคิดเลยว่าวัตถุมงคลที่ได้รับการอธิษฐานจิตจากหลวงปู่จะเด่นด้านลาภเพียงใด ทางคณะได้นำไปขอเมตตาหลวงปู่อธิษฐานในครั้งนี้จึงนับว่าน่าจะได้บารมีด้านลาภที่หลวงปู่ท่านเจริญอยู่เป็นนิตย์นั่นเอง

 

​

หลวงพ่อสมบุญ ปิยธมโม วัดลำพันบอง จ.สุพรรณบุรี​

พระครูสุวรรณธรรมานุยุต ( ลพ.สมบุญ ปิยธมโม ) เจ้าอาวาส วัดลำพันบอง ต. หนองโพธิ์ อ. หนองหญ้าไซ จ. สุพรรณบุรี อายุ 92 ปี 71 พรรษา ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ราว 10 นาที ลพ. สมบุญเป็นศิษย์ของพระครู กัณหา ซึ่งเป็นอาจารย์สอนไสยเวทย์เช่น วิชาเขียนเลขยันต์ วิชาทำตะกรุด วิชาทำน้ำมนต์ ไล่ภูตผีปีศาจ แก้คุณไสยวิชา เมตตามหานิยมวิชา คงกระพันชาตรี วิชานั่งกรรมฐานและวิชาแพทย์แผนโบราณ ลพ. สมบุญฯ ท่านออกธุดงค์รับใช้ครูบาอาจารย์มาโดยตลอดทุกๆปี ต่อมา ลพ. สมบุญฯ ท่านได้ย้ายไปจำพรรษาที่ วัดวังคอไห วัดดอนมะเกลือและกลับมาจำพรรษาที่ วัดป่าสะแกอีกครั้ง ในปี 2507 ชาวบ้านได้นิมนต์ลพ. สมบุญฯ ให้มาจำพรรษาที่ วัดลำพันบอง ซึ่งทรุดโทรมอย่างหนักในขณะนั้น โดยได้รับการสนับสนุนจาก พระครู กัณหาฯ เจ้าอาวาส วัดป่าสะแก ในทุกด้าน เมื่อลพ. สมบุญฯ ท่านได้จำพรรษาที่ วัดลำพันบอง ในตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาส วัดลำพันบอง ท่านและชาวบ้านได้ช่วยกัน ปฏิสังขรเสณาสนะ กุฏิสงฆ์และอื่นๆ ตลอดจนพัฒนาถนนรอบๆบริเวณ วัดลำพันบอง ให้ชาวบ้านสัญจรไปมาอย่างสะดวกสบาย จนเป็นศูนย์รวมของชาวบ้านทั้งไกลและใกล้ตราบถึงทุกวันนี้ วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2511 ประสบการณ์วัตถุมงคลของท่าน ลูกศิษย์ท่านถูกยิงด้วยปืนลูกซองไม่เข้า รวมไปถึงปืนพกสั้นก็ไม่เข้า สตรีถูกงูจงอางกัดก็ไม่เข้า สตรีจะถูกข่มขืนก็รอดพ้นปลอดภัยมาได้เพราะบูชาสิงห์มหาอำนาจของท่านพกติดตัวไว้ ฯลฯ ลพ. สมบุญฯ ท่านเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ใจดีมีเมตตา สมถะอยู่อย่างเรียบง่าย ท่านมีลูกศิษย์ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

 

​

หลวงปู่นิ่ม โชติธัมโม วัดพุทธมงคล จ.สุพรรณบุรี​

"พระครูสุนันทโชติ" หรือ "หลวงปู่นิ่ม โชติธัมโม" เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งของเมืองสุพรรณ เป็นพระเกจิที่ได้รับการยก ย่องว่าเคร่งครัดพระธรรมวินัย ใส่ใจวัตรปฏิบัติของสงฆ์ชื่อเสียงของท่าน เป็นที่รับรู้กันทั่วถึงประสบการณ์ที่เล่าขานด้านวัตถุมงคล ฝากตัวเป็นศิษย์ พระเทพวุฒาจารย์ (หลวงปู่เปลื้อง) พระเกจิอาจารย์ใหญ่เมืองสุพรรณบุรี ที่สืบวิชาอาคมของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท และ หลวงปู่สอน วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี และยังเป็นศิษย์ พระธรรมมหาวีรานุวัตร สืบสายจากหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม พระเกจิอาจารย์ในอดีตที่ถ่ายทอดวิชาให้หลวงปู่นิ่มมากที่สุด คือ หลวงปู่กล้าย วัดหงส์ฯ พร้อมกันนี้ก็ได้ร่ำเรียนคาถาเคล็ดวิชาอาคมจาก หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ, สมเด็จพระสังฆราช (ป๋า) วัดโพธิ์ฯ, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อแช่ม วัดนวลนรดิศ, หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่, หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง, หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว, หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม, หลวงพ่อสม วัดดอนบุปผาราม, หลวงพ่อหรุ่น วัดเสาธงทอง, หลวงพ่อกาพย์ วัดจรรย์, หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ และหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นต้น

​

ในช่วงเวลาว่าง ท่านมักเดินทางไปสนทนาธรรมกับ หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย เพราะเป็นสหธรรมิกรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อน เมื่อได้สนทนากันแล้ว หลวงพ่อแต้มแนะนำให้มาสร้างวัดหนองปรือ (วัดพุทธมงคล) ต.สระแก้ว ด้วยพื้นที่ที่เงียบสงบ เหมาะสมแก่การปฏิบัติธรรมและเจริญพระกรรมฐาน กล่าวขวัญกันว่า หลวงปู่นิ่ม เมืองสุพรรณเก็บตัวเงียบมานาน แต่คน สุพรรณฯ รู้จักดี ด้วยความที่มีชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก จึงได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายรุ่น ทั้งเหรียญพระ พระผง รูปหล่อ พระกริ่ง ฯลฯ เพื่อมอบให้ผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์และเสนาสนะภายในวัด ปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงปู่นิ่มที่ได้รับความนิยมในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสม โดยเฉพาะเครื่องรางของขลัง "ปูหนีบทรัพย์" ซึ่งสร้างจากตำราโบราณ จากนั้นก็ลองทำเครื่องรางปูหนีบทรัพย์ และปลุกเสกด้วยคาถาที่ระบุไว้ ตอนนั้นแกะด้วยไม้ระกำ พอปลุกเสกได้แล้วก็เอาวางไว้ที่หัวนอน ครั้งแรกที่หลวงปู่นิ่มทำปูหนีบทรัพย์ ลักษณะเป็นแหวนปูหนีบทรัพย์ ทำอย่างโบราณลงยันต์กำกับไม่ค่อยสวยนัก ทำไว้ 3 ขนาด ว่ากันว่าดีทางด้านเงิน โชคลาภ ลงทุน เสี่ยงโชค ดังนั้นทางคณะเชื่อว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อวิชัยจึงได้รับพลังเมตตาบารมีโชคลาภค้าขายจากองค์หลวงปู่นิ่มด้วยครับ

ปัจจุบัน สิริอายุ 84 พรรษา 64 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพุทธมงคล (หนองปรือ) หมู่ที่ 7 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ท่านใดว่างสามารถแวะไปกราบได้ครับ

 

​

หลวงพ่อทองเหมาะ ธรรมมทีโป วัดชีปะขาว จ.สุพรรณบุรี​

ทางคณะได้ขอเมตตา หลวงพ่อทองเหมาะ วัดชีปะขาว สุพรรณบุรี เมตตาอธิษฐานจิตล๊อกเกตหลวงพ่อวิชัย ท่านได้อธิษฐานจิตราวสองถึงสามนาทีจึงเป็นที่เรียบร้อย ประวัติหลวงพ่อทองเหมาะนี้ท่านอุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๔ ก.พ. ๒๕๐๒ ณ.อุโบสถวัดชีปะขาวโดยมี พระสุนทรธรรมคณี วัดลานดา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อขมและ หลวงพ่อเกลี้ยง วัดชีปะขาว เป็นพระกรรมวาจารย์และอนุสาวนาจารย์โดยลำดับ บวชแล้วไปจำพรรษา ณ.วัดลานคา กับพระพี่ชายคือ พระครูสุวิบูลย์สังฆกิจ (ประจวบ สมฺปณโณ ) และไปศึกษาพระเวทย์วิทยาคมกับ หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ เจ้าตำรับตุ๊กแกร้องได้อันโด่งดังโดยหลวงพ่อครื้นเมตตาถ่ายทอดวิชาตุ๊กแกร้องได้ให้ จากนั้นก็ได้ไปเรียนวิชาน้ำมนต์เดือดและวิธีเสกพระแบบวัดปากน้ำกับ หลวงพ่อเล็ก วัดลาดหอย ศิษย์ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ผู้เป็นลุงของท่าน และเรียนวิชาต่างๆอีกมากมายกับ อาจารย์หล่อ ศิษย์ฆราวาสของ หลวงพ่ออ่ำ วัดชีปะขาว หลานชายแท้ๆของหลวงพ่อเนียม วัดน้อย ระหว่างนั้นท่านกับพระพี่ชายก็ได้ออกรุกขมูลทุกปี โดยบางปีเข้าไปถึงเขมรได้พบปะแลกเปลี่ยนร่ำเรียนพระเวทย์อีกมาก เคยถูกลองของมาก็ไม่น้อย จนกระทั่งเริ่มชราหลวงพ่อจึงหยุดเดินรุกขมูลในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ท่านเด่นในเรื่องตระกรุดยิงฟันไม่เข้าและวิชาจับโจรร้ายให้อยู่กับที่ได้ตำรวจสามารถเข้าจับได้โดยง่าย

 

​

พระครูไพบูลย์รัตนาภรณ์ (สมบูรณ์ รตนญาโณ) วัดหงส์รัตนาราม กรุงเทพฯ​

หลวงพ่อสมบูรณ์ รตนญาโณ วัดหงษ์รัตนาราม เป็นพระเถระที่มีพลังจิตสูง มีคนนำวัตถุมงคลของหลวงพ่อสมบูรณ์ไปให้หลวงพ่อรูปหนึ่งดู ทั้งๆที่ท่านไม่รู้จักกันมาก่อน ท่านเอ่ยว่า "พระองค์นี้เสกแรงเหมือนอาจารย์ทางหมอเขมร" คณะเรา นำล๊อกเกตหลวงพ่อนำไปให้หลวงพ่อสมบูรณ์อธิษฐานจิต ซึ่งท่านอธิษฐานจิตนานราว 15-20 นาทีท่านสวดเจริญพุทธมนต์และพระคาถาต่างๆตั้งแต่ชุมนุมเทวดา และบทสรรเสริญคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้าและสังฆเจ้า หลังจากเสร็จสิ้นการเจริญพุทธมนต์แล้วหลวงพ่อท่านได้นั่งสมาธิแบบชักลูกประคำให้อีก ประวัติโดยย่อคือ หลวงพ่อศึกษาไสยเวทย์มาตั้งแต่วัยเยาว์ ทำให้ท่านมีชื่อเสียงในหมู่บ้านในเรื่องการเป่าฝีและปราบผีปอบ ผีกะ และอีกหลายๆอย่างมาตั้งแต่เล็ก ต่อมาท่านได้บวชกับ หลวงปู่เครื่อง วัดสระกำแพงใหญ่และศึกษาวิชากับ หลวงปู่ใหญ่ลา ที่เลิศในด้านการทำตะกรุดฝนแสนห่า จากประสบการณ์ของศิษย์ท่านได้ผลในด้านป้องกัน โชคลาภอย่างมากมาย และที่สำคัญอีกอย่างคือตะกรุดหนุนดวงที่ใครใช้มักประสบความสำเร็จแทบทุกรายไป

 

​

พระครูเกษมวรกิจ (หลวงพ่อวิชัย เขมิโย) วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย​

วันนี้ทางคณะจัดสร้างได้นำล๊อกเกตถวายหลวงพ่ออธิษฐานจิตอีกวาระในวันที่ 6 กันยายน2558 ในครั้งนี้หลวงพ่อว่า "ดีมากๆยอดเยี่ยม" และนอกจากนี้ยังมอบจีวรผืนใหญ่มาให้ทางคณะนำมาตัดไว้ด้านหลังพระปางปราบพญาชมพูบดีซึ่งทางคณะเลียนพิมพ์มาจากพระสมัยอยุธยา นอกจากนี้หลวงพ่อได้มอบเส้นเกศาของท่านมาบรรจุไว้ด้านหลังล๊อกเกตอีกด้วย พระอาจารย์รูปหนึ่งที่อุปัฎฐากองค์หลวงพ่อได้นำมวลสารที่ท่านได้รวบรวมไว้จากวัดถ้ำผาจมมอบให้มาอีกสี่สิบกีโลกรัมเพื่อจัดสร้างพระ ผู้เขียนได้สนทนาธรรมกับท่านหลายเรื่อง ท่านได้กรุณาเล่าให้ฟังในเรื่องของสามเณรอภิญญาเป็นชาวเชียงตุงแต่กำเนิดได้ติดสอยห้อยตามพระอาจารย์ไปวิเวกตามที่ต่างๆ สามเณรรูปนี้สามารถหยั่งรู้เรื่องราวในอดีตและอนาคตได้

​

และยังมีพระอาจารย์ไม่มีขันธุ์หลายๆองค์มาสอนวิชาต่างๆให้อีกด้วย สามเณรน้อยจึงมีวิชาที่จะสามารถถอดกายทิพย์ลงไปยังที่ต่างๆได้ สถานที่ๆเณรน้อยรูปนี้เคยไปได้แก่ภายในถ้ำผาจม เณรเล่าว่าเดินลึกลงไปในถ้ำลงไปข้างใต้แม่น้ำสาย เส้นทางนี้ลึกลงไปใต้ดินมากและสามารถไปโผล่ทางถ้ำผาปูน ฝั่งพม่าได้ การเดินทางผ่านถ้ำมืดลึกลงไปใต้ถ้ำนั้นมีน้ำไหลผ่านตลอด พอเณรเดินทางไปถึงก็มีเตียงทองมารอรับและจมลงสู่ก้นถ้ำ ตัวของสามเณรน้อยไม่เปียกเลย ภายใต้ลำน้ำนั้นเป็นเมืองใหญ่โตมโหฬารมีตาปะขาวเฝ้าอยู่ ตาปะขาวใจดีตอนรับขับสู้เณรอย่างดี เมื่อกลับมาถึงถ้ำผาจม สามเณรก็ใช้กายทิพย์กราบหลวงพ่อทองทิพย์ เมื่อกราบเสร็จหลวงพ่อทองทิพย์(พระพุทธรูปสำคัญประดิษฐานภายในถ้ำผาจม)ได้พูดเสียงเย็นๆว่าจะสอนวิชาต่างๆให้ มีวิชาหลายๆอย่างที่เณรน้อยรูปนี้เรียนรู้มา

​

นอกจากนี้เณรยังเคยพบกับ หลวงพ่อปาน และ หลวงพ่อฤาษี เณรเล่าอีกว่าในบรรดาพระที่มาสอนทั้งหมด หลวงพ่อฤาษีเป็นพระดุที่สุดท่านว่าหลายๆอย่างที่เกี่ยวกับการดำรงตนเป็นสมณะ สอนเรื่องการกำหนดพุทโธทุกย่างก้าว มีสติจ่อกับพุทโธ และมีอีกหลากหลายเรื่องราวที่เกินรู้เกินคิดปุถุชนอย่างเราอีกมาก ดังนั้นผลของการปฏิบัติทำให้สามเณรกำหนดรู้ภายในจิตตลอดเวลาเมื่อมีคนเรียกเณรจึงไม่ได้ตอบกลับไป และเหมือนไม่สนใจผู้เรียกทั้งโยมและพระมองว่าเณรรูปนี้ไม่มีสัมมาคารวะเอาเสียเลย แต่เณรบอกว่าเณรกำหนดจิตในจิตอยู่จึงไม่ได้ยินสิ่งภายนอกมัวแต่จดจ่อกับการภาวนา จึงเป็นข้อคิดว่าบางทีเราไปเรียกหรือนิมนต์พระแล้วท่านไม่สนใจเรา ใจเรากลับไปตำหนิท่านว่าหยิ่งยโส อะไรแบบนี้ เมื่อท่านได้อ่านโพสต์นี้คงต้องเปลี่ยนใจนะครับ เพราะถ้าเราไปตำหนิท่านโดยเราไม่รู้เรื่องราวที่แท้จริงก็ทำให้เราเองนี่แหละเป็นผู้ที่ต้องตกนรก ปัญหาทั้งหมดนี้สามเณรน้อยรูปนี้ลำบากต่อการอยู่ในประเทศไทยด้วยอุปสรรคหลายประการด้วยกันทั้งไม่แตกฉานในภาษาไทยและยังมีผู้เข้าใจผิดจำนวนมากอีกด้วย เล่ามาเสียยาวหลายท่านคงมองว่าแล้วเกี่ยวกับหลวงพ่อเราอย่างไรไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกันสักอย่าง อดใจทนอ่านอีกนิดนะครับ

​

ด้วยนิสัยอยากรู้ของสามเณรน้อยนึกอยากรู้อะไรก็นึกรู้ไปหมดจึงนึกสงสัยในองค์หลวงพ่อ จึงได้ถอดกายทิพย์มาดูหลวงพ่อวิชัยที่ถ้ำผาจม เณรบอกว่าไม่เห็นหลวงพ่อเห็นแต่เป็นดวงแก้วใสประกายพฤกษ์สว่างขนาดใหญ่มากแล้วพุ่งขึ้นข้างบนไปเร็วมาก เณรเองพยายามจะตามแสงนั้นขึ้นไปก็หาไม่พบ ผู้เขียนเคยอ่านหนังสือของ ดร.บรรจบ บรรณรุจิ เกี่ยวกับเรื่องจิตวิญญาณว่า การที่วิญญาณของบุคคลที่มีภพภูมิที่ต่ำกว่าจะไม่สามารถพบเห็นวิญญาณของบุคคลที่อยู่ในภพภูมิที่สูงกว่าจนกว่าวิญญาณผู้ที่อยู่สูงกว่าจะบังคับให้เป็นรูปที่หยาบเสมอกันได้ ดังนั้นเปรียบเหมือนกับผู้ที่เป็นพระอริยบุคคลกับสามัญชนที่ไม่อาจจะเทียบความรู้และคุณธรรมกันได้เลยจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมสามเณรน้อยรูปนี้จึงไม่สามารถเห็นหลวงพ่อและตามหลวงพ่อได้ทันก็เพราะว่าคุณธรรมของเณรนั้นยังห่างไกลหลวงพ่อยิ่งนักจึงเกินกว่าที่จะตามท่านได้ทันฉันใดก็ฉันนั้น หลังจากที่เณรน้อยรูปนี้ได้ประสบเหตุการณ์นี้กับตนเองทำให้เณรจึงค่อนข้างกลัวและเกรงหลวงพ่อของพวกเรามากทีเดียว ปัจจุบันเณรรูปนี้กลับไปอยู่ที่เชียงตุงบ้านเกิดของท่านด้วยเหตุผลต่างๆที่ได้เอ่ยไว้ข้างต้น ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเล่าที่เล่าโดยพระผู้ทรงศีล สุดแท้แต่ท่านผู้อ่านว่าจะเชื่อหรือไม่เท่านั้น...

 

​

ทางคณะผู้จัดสร้างได้นำล๊อกเกตฉากทองหลวงพ่อวิชัยไปอธิษฐานที่จังหวัดชัยภูมิ โดยได้ขอเมตตาจาก พระอาจารย์สุริยัน จันทวัณโณ พระอาจารย์สุริยันนี้หากท่านได้ไปสัมผัสคงจะทราบว่า ท่านมีจิตรู้อันแจ่มใสเพียงใดที่สามารถมองบุคคลผู้มีเรื่องทุกข์ร้อนได้ทะลุปรุโปร่งราวกับตาเห็นเลยทีเดียวและยังแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่จะสามารถเสริมบุญบารมีหรือให้พ้นจากทุกข์โศกโรคภัยต่างๆนาได้อย่างแท้จริง ในครั้งนี้ท่านพระอาจารย์ได้อธิษฐานล๊อกเกตให้นานราว 2-3 นาที นับว่าไวมาก หลายๆท่านคงสงสัยว่าทำไมท่านอธิษฐานไวเสียเหลือเกิน เมื่อมีผลย่อมจะต้องมีเหตุุปัจจัย ท่านได้พูดเบาๆว่า "ของเต็มหมดแล้วไม่ต้องอธิษฐานอะไรกันให้นานอีก และของพระอริยเจ้าเสียด้วยเนี่ยเอ้าเรียบร้อย" สุดท้ายท่านได้เมตตาพรมน้ำพระพุทธมนต์สู่วัตถุมงคล

​

ท่านเคยปรารภถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อไว้หลายๆอย่างด้วยกันตั้งแต่ มีพระที่วัด........นำพระกริ่งขวานฟ้าฯไปให้พระอาจารย์พิจารณาถึงสามรอบด้วยกันท่านกล่าวถึง พุทธคุณของพระกริ่งนี้ทุกรอบที่นำไปให้พิจารณาว่า "ครอบคลุมหมดทุกด้านและหาใครจะทำได้เช่นนี้ยากแล้ว" นอกจากนี้ คณะของพระดังกล่าวได้พกวัตถุมงคลหลากหลายประเภทหลากหลายชนิดทั้งพระรุ่นใหม่และพระกรุแต่ท่านกลับชี้มาที่พระกริ่งองค์นี้องค์เดียวแล้วบอกว่า "ทั้งห่อผ้านี้พระกริ่งองค์นี้ดีที่สุด" พระอาจารย์ยังกล่าวถึงแหวนสัตตภุชงค์ฯว่า"หลวงพ่อวิชัยท่านมีวิชานี้จริงเป็นวิชาเฉพาะสามารถระงับยับยั้งโรคมะเร็งได้จริง"

​

พระกริ่งขวานฟ้า หลวงพ่อวิชัย เขมิโย ​

​

แหวนสัตตภุชงค์โพชฌงคปริตร แหวนกันโรค-กันมะเร็ง ​

ท่านเคยกล่าวถึงคุณธรรมของหลวงพ่อไว้ว่า "หลวงพ่อวิชัยเป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านพิจารณาจากแสงสาวกภูมิแสงแบบหนึ่ง พุทธภูมิแสงจะเป็นอีกแบบหนึ่ง" ล๊อกเกตนี้จึงดีด้วยมงคลวัตถุและดีเยี่ยมด้วยครูบาอาจารย์ผู้อธิษฐานจิตโดยเฉพาะพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ล๊อกเกตรุ่นนี้หลวงพ่อวิชัยท่านได้อธิษฐานจิตให้ถึงสามราตรีกับสองวาระมาแล้วคงไม่ต้องสงสัยอีกเลยว่าจะมีพุทธคุณในด้านใดบ้างแล้วยังมีพระอาจารย์ผู้มีจิตรู้อันแจ่มใสกล่าวยืนยันเช่นนี้ด้วยแล้วยิ่งเสริมความมั่นใจให้กับผู้นำไปบูชาได้เป็นอย่างดี

 

ขอเชิญร่วมพิธีอธิษฐานจิตล็อกเก็ตหลวงพ่อวิชัยวัดถ้้ำผาจมรุ่น"สัพพะโรคาวินาสสันตุ" ณ สำนักปฏิบัติธรรมกรรมฐาน พุทธเกษตร ดินแดนสุขาวดี คลอง6 ปทุมธานีในวันพรุ่งนี้วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน 2558

เวลา 15.00 น. เริ่มพิธีบวงสรวง
เวลา 16.00 น. พิธีอธิษฐานจิตล็อกเก็ตโดยหลวงพ่อวิชัย เขมิโยและคณะสงฆ์
เวลา 17.00 น. สวดมนตร์ทำวัตรเย็น

ขอเรียนเชิญสานุศิษย์ทุกท่านมาร่วมงานด้วยนะครับ​

 

สาธุครับ วันที่เท่าไรครับ

 

วันพรุ่งนี้ครับ วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน 2558​

 

สวัสดีครับ ขอแจ้งการโอนเงินร่วมบุญล็อกเก็ตครับ จำนวน 2,050 บาท เมื่อเวลา 17.59 น. ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่โอนเงินให้ช้านะครับ สถานที่จัดส่งล็อกเก็จที่ระลึก pm ไปแจ้งครับ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนบุญกับคุณสุเมต และกับทุกๆท่านด้วยนะครับ

 

เรียนคุณ runkey ทราบ
ต้องขออภัยด้วยเนื่องจากยอดล็อกเก็ตที่เปิดให้สั่งจองได้เต็มไปแล้ว ดังนั้นยอดเงินที่คุณโอนมาผมจะขอโอนเงินคืนให้นะครับ
แต่คุณก็ยังสามารถบูชาล็อกเก็ตได้หลังจากที่ได้ทำพิธีอธิษฐานจิตต่างๆเสร็จแล้ว โดยจะเปิดให้ทำบุญโดยตรงที่วัดถ้ำผาจม
สำหรับรายละเอียดต่างๆ จะแจ้งให้ทราบในลำดับถัดไปครับ

ขอขอบพระคุณและขอโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

 

งานพุทธาภิเษก สำนักปฏิบัติธรรมกรรมฐาน พุทธเกษตร ดินแดนสุขาวดี คลองหก จ.ปทุมธานี


​

โต๊ะบวงสรวง
​

พิธีพุทธาภิเษกพระพิมพ์ทรงเครื่องจักรพรรดิปรางปราบพญาชมพูบดียืนนั้นผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย ของที่นำเข้าร่วมพิธี มีล๊อกเกตทุกฉากของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระพิมพ์ปางพญาชมพูบดีเนื้อดินเผาแบบมีเคลือบและไม่เคลือบ

​

หลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย เป็นประธานในการสวดพุทธคุณ​

​

ล็อคเกตและวัตถุมงคลต่างๆ ที่เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก​

ในพิธีนี้แม้ว่าจะดูทุลักทุเลไปบ้างแต่สิ่งศักสิทธิ์ท่านทราบในเจตนารมย์ของผู้สร้างซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้ประกาศออกไมค์ว่า "พิธีนี้ที่พวกหนุ่มๆทำกันนี่ดีจริงๆ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงมาช่วยแผ่เมตตาวัตถุมงคลในวันนี้ให้ศักสิทธิ์ มาแบบทรงชุดนักรบเตรียมพร้อมรบเลย แล้วมีเทวดามาร่วมกันมากมายทรงชฎาแหลมสูง ทรงชุดสีทองมากันแน่นขนัดไปหมด"

​

ผู้เขียนเชื่อว่าของเหล่านี้ทรงมหิธานุภาพอย่างแน่นอนแล้ว..

 

​

ภาคประสบการณ์​

หลวงพ่อเมตตาเล่าให้ผู้เขียนฟังเมื่อวันอาทิตย์ที่11ที่ผ่านมาหลังจากพุทธาภิเษกเสร็จว่า มีลูกศิษย์ท่านชื่อโยมพร (ถ้าจำไม่ผิด) ได้รับ มอบสติกเกอร์รูปหลวงพ่อ ที่ผู้เขียนได้ทำถวายเพื่อแจกเมื่อวันพุทธาภิเษกพระโคนสมอปางปราบพญาชมพูบดีที่สำนักปฏิบัติธรรมพุทธเกษตรคลองหก จ.ปทุมธานี เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ครั้นศิษย์ผู้นี้หลังได้รับแจกจากหลวงพ่อก็กลับไปบ้านทางภาคอีสานไม่แน่ใจว่ายโสธร หรือที่ใด ก็นำติดตัวไปด้วย จู่ๆมีคนตามให้ไปดูคนที่กำลังถูกผีปอบเข้าสิง ก็พกสติกเกอร์ติดตัวไปด้วยพอเดินทางไป ได้ครึ่งทางกับบ้านที่ผีปอบเข้าสิงคน ผีปอบร้องออกมาว่า"หลวงพ่อวิชัยมาแล้ว กูไปก่อนแล้ว" แล้วผีก็ออกไป เป็นอันว่าไม่ได้ทันเห็นผีปอบเพราะไปได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น จึง นับว่าเป็นคุณของพระรัตนตรัยคุ้มครองได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบารมีของหลวงพ่อของพวกเรานี้

 

มหาพุทธาภิเษก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2558 ณ.อุโบสถ วัดถ้ำตะโก จ.ลพบุรี​

​

อุโบสถ วัดถ้ำตะโก จ.ลพบุรี​

ล๊อกเกตหลวงพ่อวิชัย เขมิโยได้ทำพิธีพุทธาภิเษกครั้งสุดท้ายเรียบร้อยแล้วครับ เมื่อวันที่ 11ตุลาคม 2558โดยหลวงพ่อได้เมตตาอธิษฐานจิตเดี่ยว โดยหลวงพ่อได้อธิษฐานอยู่ราวชั่วโมงเศษจึงเป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

​

คณะสงฆ์สวดพุทธมนต์ต่างๆ จนจบพิธีฯ​

หลังจากที่ได้อธิษฐานเรียบร้อยหลวงพ่อได้เมตตาเล่าว่า" หลวงพ่อที่รูปปั้นนี้ท่านมาร่วมอธิษฐานจิตแผ่พลังบารมีลงในวัตถุมงคลนี้ด้วยนะ (รูปปั้นหลวงพ่อเพา)ลอยเข้ามาจากทางหน้าต่าง แล้วท่านมาแผ่พลังลงในวัตถุมงคลนี้ด้วยนะ นอกจากนี้มีเทวดาทรงมงกุฎสั้นๆมาร่วมด้วยมีรัศมีด้านหลังเหมือนธรรมจักร ที่เป็นธรรมจักรนั้นส่องแสงออกมาเป็นเพชรพลอยน่าอัศจรรย์นัก" หลวงพ่อเมตตาเล่าต่ออีกว่า" พออธิษฐานจิตไปสักพักจิตท่านก็วูบลงถึงสามครั้ง ในครั้งแรกหลวงพ่อจีวรดำๆรูปนั้นได้มาอยู่ในพิธีอีก(ท่านเรียกหลวงพ่อเพาว่าหลวงพ่อจีวรดำ) แล้วมาพร้อมเทวดาทรงเครื่องสีชมพูมีผิวพรรณเป็นสีชมพูทั้งหมดไม่ได้มาเพียงแค่องค์เดียว มาเป็นกลุ่มใหญ่เลย

​

พอวูบครั้งที่สองจิตหลวงพ่อเห็นพระสงฆ์มาร่วมกันอย่างมากมายไม่ใช่มีแต่เพียงพระสงฆ์อย่างเดียวนะมีเทวดามากันมากมาย พระสงฆ์ก็ไม่คุ้นหน้าตาเลย ครั้งที่สามเห็นกลุ่มเทพยดาทรงเครื่องสีทองทรงมงกุฎสูง เป็นพวกเทวดากษัตริย์มากันมากมาย สลับหน้าตากันไปนี่พวกท่านเหล่านี้มาอนุโมทนาในกุศลที่พวกเราได้ทำกันนะ "จากที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเห็นนั้นหลวงพ่อท่านไม่ทราบว่าหลวงพ่อในรูปปั้นนี้ชื่ออะไร ท่านได้แต่เรียกหลวงพ่อจีวรดำพอท่านอธิษฐานจิตเสร็จท่านเห็นรูปปั้นท่านก็บอกว่าหลวงพ่อรูปนี้แหละมา จริงๆแล้วท่านเคยพบกับหลวงพ่อเพาในครั้งที่พุทธาภิเษกเมื่อครั้งที่แล้ว ซึ่งหลวงพ่อเพามาเกือบเสร็จสิ้นพิธีแล้วแต่ครั้งนี้มาตั้งแต่เริ่มต้นเลย"

​

หลวงพ่อเพา พุทธสโร วัดถ้ำตะโก/อัฐิหลวงปู่เพาแปรสภาพเป็นพระธาตุ​

วัตถุมงคลหลวงพ่อเพาที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากหลวงพ่อเพาแล้ว เซียนพระคงทราบดีว่าสภาพงามๆไม่หนีจากตัวเลขหกหลัก เพราะหลวงพ่อเพาเป็นที่ทราบกันดีว่าวัตถุมงคลท่านครบเครื่องทุกๆด้าน ทั้งป้องกัน เมตตา และอื่นๆมากมาย อีกทั้งตอนที่ท่านยังมีชีวิตผู้คนประสบปาฏิหาริย์ต่างๆ ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าท่านคงเป็นพระอริยเจ้าชั้นสูง ประจักษ์พยานอย่างหนึ่งคือ อัฐิท่านหลังจากมรณภาพมาได้เกือบร้อยปี ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุดุจพระอริยสงฆ์สาวกในสมัยพุทธกาล ดังนั้นผู้เขียนเชื่อว่าท่านต้องเป็นพระอรหันต์ประเภทปฏิสัมภิทาญาณอย่างแน่นอน สมัยที่ท่านยังมีชีวิตท่านได้เป็นหลักศรัทธาทางใจของบุคคลชั้นสูงในราชสำนักตลอดถึงองค์ในหลวงรัชกาลที่ 5 ในพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ท่านมาแผ่อิทธิจิตลงมาในมงคลวัตถุของหลวงพ่อวิชัยครั้งนี้จึงนับเป็นโอกาสที่พวกเราจะได้มีโอกาสเป็นเจ้าของแทนที่จะต้องไปเสียเงินเช่ามาในราคาแสนแพง

​

พระนางจามเทวี ทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรหริภุญชัย อันเป็นอาณาจักรโบราณในภาคเหนือของประเทศไทยในปัจจุบัน
​

ต่อมาที่หลวงพ่อเห็นเทวดาเข้ามาในพิธีมีธรรมจักเปล่งรัศมีด้านหลังเป็นปนะกาย หลวงพ่อได้กรุณาบอกภายหลังกับคุณหมออานุภาพว่าเป็นจิตของพระแม่จามเทวีได้เข้ามาร่วมพิธีอธิษฐานจิตในครั้งนี้ ส่วนกลุ่มหรือคณะเทวดาทรงเครื่องสีชมพูหลวงพ่อเมตตาเล่าว่าน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของคณะเทวดาที่ต้องการสื่อความหมายว่าวัตถุมงคลนี้เด่นเรื่องเมตตาซึ่งเต็มเปี่ยมหรือเมตตาชั้นยอดเยี่ยมแล้ว

​

ส่วนกลุ่มเทวดาที่เป็นพระบูรพกษัตริย์นั้นทรงเครื่องมหาพิชัยมงกุฎที่หลวงพ่อว่าใส่ชฎาแหลม ทรงชุดสีทอง นั้นเด่นในด้านลาภและป้องกัน ซึ่งท่านมาตามคำอัญเชิญของผู้อัญเชิญในพิธี หลวงพ่อยังได้บอกเพิ่มเติมว่า มีพญานาคมาแต่เป็นตัวน้อยๆไม่ใหญ่นัก พิธีนี้หลวงพ่อเมตตากล่าวว่าการมาของกลุ่มพระและเทวดาดูพรั่งพร้อมมากกว่าพิธีครั้งที่แล้วและท่านได้กล่าวกับท่านเจ้าอาวาสว่า"หลวงพ่อจีวรดำนั้น(หลวงพ่อเพา)ท่านช่วยเหลือวัดอยู่ขอให้บอกกล่าวท่านเมื่อจะทำอะไรก็ตาม "