สอบถามเรื่องสังฆาทิเสสครับ ขอความเมตตาด้วครับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย champ007, 5 พฤศจิกายน 2015.

  1. champ007

    champ007 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    ตอนนั้นกระผมได้บวชเข้าพรรษาเมื่อปี54 วัดนิกายธรรมยุต
    เหตการณ์เกิดขึ้นเมื่อใกล้จะออกพรรษาแล้ว อยู่ดีๆเกิดกำหนัดขึ้น เลยแอบดูรูปอนาจาร ปกติจะดูเฉยๆ หลังๆจับของลับตัวเองแต่ไม่มีเจตนาจะสำเร็จความใคร่

    ขอย้ำนะครับไม่มีเจตนาเพราะทราบเรื่องสังฆาทิเสส ปกติผมเคร่งมากๆในเรื่องการปฏิบัติ บิณฑบาตร ทำวัตรเช้า-เย็น นั่งสมาธิก่อนทำวัตรเย็นทุกวัน สวดมนต์เองก่อนนอนซะด้วยซ้ำ ทำแบบนี้ไม่เคยขาดเพราะอยากตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ให้เต็มที่ (ยกเว้นตอนนั้นป่วยเข้ารพ.) เพราะคณะผมเองนั้น เรื่องพระธรรมวินัยนี่เคร่งมาก แต่ไม่ทราบทำไมผมถึงเป็นแบบนั้น

    เรื่องมีอยู่ว่าวันนึงได้แค่จับๆลูบๆแล้วอยู่ดีๆเกิดสำเร็จความใคร่ขึ้นมาเอง คือมันจะออกมาแล้วผมยิ่งไปจับเพื่อให้หยุดกับกลายเป็นมันออกมาเยอะมากๆ ในตอนนั้นจิตผมตกมากคือไม่อยากให้มันออกมาเลย และทำไมไม่หยุดแต่แรกๆ

    เมื่อหลังจากการทำความสะอาดก็ไปถามเพื่อนพระว่าจะบอกพระพี่เลี้ยงดีไม๊ เพื่ีอนพระบอกว่า อย่าเลยเดี๋ยวท่านจะโมโหอาละวาด เป็นเรื่องเป็นราว เขาบอกว่าถ้าจิตไม่คิดหรือตั้งใจก็ชั่งมันเหอะ ผมเลยเงียบไปตั้งแต่นั้นจนบัดนี้

    ตอนนี้อยู่ดีๆมานึกถึงเพราะดูหนังเรื่องอาปัติแล้วมันฝุดเข้ามาในหัวบ่อยพอสมควรตอนดูหนัง

    ผมเลยอยากขอคำตอบจากท่านผู้ใหญ่หลายๆท่านโปรดเมตตาถามว่ามันอาบัติไม๊ แล้วไปแก้ที่ไหนดีครับ ผมไม่อยากให้พ่อแม่รู้เลย กลัวท่านจะเสียใจ ช่วงที่ผ่านมาก็เป็นมะเร็งในสมองอีกแต่ตอนนี้ดีขึ้นมากๆครับแม้ยังไปทำงานไม่ได้แต่ก็หวังว่าจะกลับไปช่วยที่บ้านให้เร็วที่สุดเพราะค่าใช้จ่ายจากการรักษาผมสูงมากๆ กระผมบวชนิกายธรรมยุตครับ รบกวนช่วตอยคำถามทีครับ ขอบคุณครับทุกๆท่าน
     
  2. cappu

    cappu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,438
    จะเข้าอาบัติสังฆาฯได้ ต้องประกอบด้วยองค์สาม คือ

    1. ภิกษุมีความกำหนัด 2. เจตนาทำให้เคลื่อน 3. น้ำอสุจิเคลื่อนจากฐาน

    ตามข้อมูลที่ท่าน จขกท ว่าไม่มีเจตนา ก้อถือว่าไม่ครบองค์ ไม่เข้าอาบัติสังฆาฯนะครับ แต่จากที่เล่าบอกว่า เอามือไปจับ แบบนี้เข้าข่ายเจตนาอยู่เหมือนกัน

    ไม่อยากให้เปนกังวลนะครับ แต่ถ้าเอาที่สบายใจถ้าต้องอาบัติสังฆาฯ ต้องกลับมาบวชใหม่เพื่ออยู่ปริวาสกรรมถึงจะพ้นอาบัติตัวนี้ ไม่มีวิธีแก้นอกเหนือจากนี้ สำคัญนะครับอาบัติตัวนี้เพราะถ้าไม่แก้จะติดข้ามภพข้ามชาติไปตลอด จนกว่าจะได้อยู่ปริวาสกรรม
     
  3. champ007

    champ007 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    ไม่ทราบว่าต้องอยู่นานมากขึ้นไหมครับ เพราะมันตั้งสี่ปีที่แล้วครับ
     
  4. cappu

    cappu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,438
    ไม่ครับ ถือว่าโชคดีครับเพราะคุณได้สารภาพบอกกล่าวต่อเพื่อนพระภิกษุตั้งแต่วันแรกที่ทำ เพราะถ้าไม่บอกต่อพระรูปหนึ่งรูปใด เท่ากับเป็นการปกปิดอาบัติ เช่าถ้าปกปิด 1ปี ต้องอยู่ปริวาสกรรมเท่าจำนวนวันที่ปิดปิด คือ 1ปีเช่นกัน

    ดังนั้นคุณอยู่ปริวาสกรรมได้ตามปกติ คือแค่ 10 วัน ก้ออกจากอาบัติได้แล้วครับ
     
  5. champ007

    champ007 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    แล้วจำเป็นต้องบวชวัดเดิมไหมครับ หรือไปวัดอื่นแล้วไปแก้ไขที่อื่นได้เลยขอรับ
     
  6. cappu

    cappu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,438
    วัดไหนก้อได้ครับ ส่วนงานปริวาสจะมีจัดตลอดเกือบทั้งปี ลองเสิร์ซหาในกูเกิ้ลดูนะครับจะมีปฏิทินบอกวันและสถานที่

    สะดวกที่ไหนไปที่นั่นแหละครับ
     
  7. champ007

    champ007 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบพระคุณพี่มากๆครับ ที่ทำให้กระผมพ้นจากผลกรรมที่เคยทำไว้ในชาตินี้
    ช่วงนี้ผมเลยนั่งสมาธิหม่นหมองเลยครับ แต่ตอนนี้ขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ขอให้พลังสมาธิรักษามะเร็งที่เหลืออยู่ก่อนแล้วจะบวช1เดือนและเพิ่มอีกสิบวันที่อยู่ปริวาสกรรม ขอให้ผลบุญคำแนะนำของพี่กลับคืนถึงตัวพี่ครับ ขอบคุณครับ
     
  8. วัชรเมธี

    วัชรเมธี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +13
  9. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    การต้องอาบัตสังฆาทิเสส นี้ถือว่าเป็นการพ่ายแพ้ต่อใจที่ไหลตามกิเลส แต่ก็ยังสามารถแก้ไขได้โดยการเข้าปริวาสกรรม นั้นคือครั้งแรก และเป็นการขอโอกาสในการบวชต่อเพื่อต่อสู้กับใจนี้ แต่ถ้าผิดอีกครั้งก็ต้องเข้าปริวาสกรรมเป็นครั้งที่2และควรลาสิขาเสีย เพราะเหตุว่าตนได้พ่ายแพ้จิตตน ไม่สามารถครองเพศบรรพชิกได้อีกแล้ว เพื่อพระพุทธศาสนาจะได้มิเสื่อม ส่วนตัวเราก็จะได้ไม่สร้างกรรมต่อตัวเองต่อพระศาสนา
    การเข้าปริวาสนั้นมิใช่สิ่งดีนะครับ นั้นคือการที่พระภิทษุสงฆ์ได้พ่ายแพ้แก่ใจตนไม่สามารถชนะจิตตนในการดำเนินทางสุ่เส้นทางแห่งพรหมจรรย์นี้
    การบวชที่สำคัญคือการบวชจิตบวชใจ ตัวเราเท่านั้นที่รุ้ว่าเราเป็นยังไง เราบวชใจรึบวชกาย หากบวชแล้วพ่ายแพ้แก่ใจก็มีโอกาสแก้ตัวได้แค่ครั้งเดียว เพื่อเอาชนะใจดวงนี้ให้ได้ แต่ถ้าเราพ่ายแพ้ก็ควรสึกออกมา ยังมีโอกาสกลับเข้าไปสุ่เส้นทางสายนี้ได้ อย่างสง่าเมื่อเรามั่นใจได้ว่าเราชนะกิเลสแห่งใจนี้ได้ ไม่ต้องอาบัตอีกแล้ว.
    เพราะฉะนั้นมันจึงขึ้นอยุ่กับว่าเราจะบวชจิตรึบวชกายละ ถ้าบวชจิตพลาดพลั้งไปก็แก้ไขได้1ครั้ง ส่วนถ้าพลาดอีกก็เข้าปริวาสแล้วรีบสึกเสียมิใช่บวชมาผิดแล้วผิดอีกจนเป็นความเคยชิน นั้นมันบวชกายมิได้บวชใจการบวชใจผิดแค่ครั้งเดียวก็กลัวนรกแล้ว. มีความละอายชั่วเกรงกลัวต่อบาป เหตุเพราะไม่สามารถเอาชนะกิเลสในจิตตนได้ เมื่อรุ้ตัวว่าชนะไม่ได้แล้วจะอยุ่ในเพศบรรพชิกเพื่ออะไรเพื่อฉันบิฑบาตรชาวบ้านฟรีๆรึ? ข้าวทุกคำที่ฉันของชาวบ้านนั้นนะ กว่าจะเป็นข้าวเป็นกับอันแสนเลิศรสนั้น มันแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและเลือดของผุ้ที่หามานะนั้น ยายแก่ๆต้องตื่นตี4ทุกวันเพื่อหุงข้าวทำกับข้าวด้วยความปราณีต เพื่อให้พระสงฆ์ได้ฉันเพื่อเลี้ยงสังขารทำทุกขให้แจ้ง เพื่อตนจะได้บุญกุศล นั้นมัน นรกทุกคำนะที่ตักเข้าปากหากจิตเราพ่ายแพ้ต่อกิเลส เพราะเราจะไม่สามารถทำทุกขให้แจ้งได้ด้วยจิตที่พ่ายแพ้นี่ นี่มันเป็นแบบนี้ ผมแค่ชี้เท่านั้น ท่านเองต้องใช้สติปัญญาพิจารณาเองนะครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...