ร่างกายไม่ใช่เรา จิตนี่ก็ไม่ใช่เราแล้วอะไรล่ะที่เป็นเรา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 3 พฤศจิกายน 2015.

  1. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,431
    ขันธ์ 5 นั่นเองทำให้เราดำรงความเป็นเราอยู่ได้ทุกวันนี้
    ถ้าไม่มีขันธ์ 5 ก็ไม่มีเรา ตายเมื่อไหร่ก็ไม่มีเราแล้ว

    ไปสวมขันธ์ 5 อันใหม่ ความเป็นเราก็ปรากฏขึ้นมาอีก

    ตายจากร่างนั้นไปสวมร่างนี้เรื่อยไป ไม่จบสิ้น
    ไปสวมเอาเฉย ๆ หรอก

    ร่างกายอันนี้ ความคิดความรู้สึกความจำอันนี้
    ของเขาของเราไม่ต่างกันหรอก เหมือนกัน
    หาความหมายอะไรไม่ได้หรอก สักแต่ว่าเท่านั้นแหละ
    มันเหมือนกัน กายเขา กายเรา ความคิดความรู้สึกความจำของเขาของเรา
    มีเหมือนกัน ไม่ต่างกัน
    เมื่อไม่ต่างกันมันจะหาความเป็นเขาเป็นเรามาจากไหน
    ที่ว่ากายเขา กายเรา ต่างกัน เราสำคัญมั่นหมายไปเอง
    เมื่อไม่ต่างกันมันจะมีเขามีเราได้ยังไง
    ที่มันมีอยู่ก็สักแต่ว่ามีเท่านั้นแหละ
    อวิชชา เอา ธาตุ 4 ขันธ์ 5 อายตนะ 12 มาปรุงเป็นสังขารขึ้นมาเท่านั้นเอง

    อวิชชาปัจจยาสังขารา ตามนั้น

    เราดำรงความเป็นเราอยู่อย่างนี้แหละ

    ผมคิดอย่างนี้
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ดำรงอยู่ด้วยสัมมาทิษฐิสาธุ
    ขอให้พบหนทางถอดถอนการปรุงเเต่งเพื่อดำรงอยู่
    ได้ตามความปรารถนาหากเมื่อต้องการ
     
  3. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ข้องใจลายเซ็นมาก...อยากบอกเหลือเกินว่า....ถึงบ้านเลย
    มานานหลายปีแหละ
    คนดีเสียหายมานานแล้ว....
    แล้วใงต่อดี..
     
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    อย่าไปพวงกับคนดี จนเกินเหตุ
    ใส่ใจให้ความเกรงใจต่อผู้ประพฤติธรรม
    ซึ่งพบยากพอควร...
    แล้วไงต่อดี......ก็แสวงหาครูบาอาจารย์
    ที่โลกเสื่อมใสอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ใช่ง่ายในยุคนี้
    อาจเจออย่างเณรคำนั่งเจ็ตเหิรฟ้าภาค 2
     
  5. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    555+
    ถ้าบุญสัมพันกันก็มาสงเคราะห์
    84000พระธรรมขันธ์ แท้อยู่ที่ตน
    เห็น รัก เห๋นโลภ เห็นโกรธ เห๋นหลงในตนแล้วรู้ดับ
    รู้ รู้แค่รู้ ว่างคือวาง
     
  6. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ธรรมมะคือธรรมชาติ ทุกอย่างพิจารณาเป็นธรรมได้หมด ไม่ว่า หนัง เพลง สิ่งที่อยู่รอบตัว สัตว์บุคคล
    วิ่งให้เหนื่อยทำไม. ตัวไม่รู้ตัว. รอบโลกก็หาไม่เจออ
     
  7. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    หนูไม่พะวงแล้ว
    กรรมใครก็กรรมใครเนอะ
     
  8. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    กายและใจคือเรา เพียงแต่กายเป็นอนัตตา ใจคือจิตอยู่ที่กลางท้อง เป็นตน เป็นเรา เป็นอัตตา จิตที่ไม่ไปจับฉวยว่าตัวว่าตน ว่าเรา ของเรา ของของเรา นี่คือละสักกายทิฏฐิ
     
  9. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    กายก็ไม่ใช่เราใจก็ไม่ใช่จิต จิตก็ไม่ใช่ใจ. จิตก็ไม่ใช่อัตตา. เราก็ไม่ใช่เรา จิตมันไม่เคยฉวยอะไร มันไม่รุ้ไม่ชี้ กับอะไรทั้งนั้น 5555555
    ทุกสิ่งมีเหตุมีผล. ทุกสิ่งมีเหตุปัจจัยในการเกิด สิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี ไม่มีเราในกาย ในกายไม่มีเรา. อ้าวแล้วเราคือใคร แล้วใครคือเรา. แล้วเรามีอะไร แล้วอะไรๆที่มีมันคือเรารึ? 555555
     
  10. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    1.รู้จักตัดปลิโพธ
    2.เวลาทำสมาธิต้องเข้าใจว่าภาคสมถะกรรมฐานให้จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ พูดง่ายๆคือไม่ต้องคิด เวลาภาวนาที่เรียกว่าวิปัสสนากรรมฐานค่อยคิด
    3.กรรมฐานมี 40 กอง ตามสายหลวงปู่มั่น
    4.หลีกออกจากเหล้า กินเป็นบางโอกาส ไม่ใช่ปฏิบัติธรรมแล้วกินเหล้าเป็นประจำ ผมกินปีละ 2-3 ครั้ง
    5.อย่าเป็นคนดูถูกคน ต้องรู้จักมีน้ำใจหรือให้เกียรติคนอื่น
    6.รู้จักรุกรู้จักรับ
    และ 7.เป็นคนดี คิดดี พูดดี ทำดี
     
  11. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ผู้จะเข้าสู่เส้นทางธรรมนี้สิ่งที่ต้องมีคือ ทาน ศีล ภาวนา ทานคือการสละออก ศีลคืออริยศีล และภาวนาคือการใช้สติปัญญาตรึกตรอง พิจารณา พิจารณาอะไรก็พิจารณาธรรม ธรรมที่ไหน? ธรรมทุกที่ที่ผัสสะ.
    ทานไม่กล่าวถึง แต่อริยศีลคืออะไร? ศีลของอริยบุคคล คืออะไร พอรุ้ไหมครับ
    การปฏิบัติต้องทำจริง มิใช่เล่น รึมีข้ออ้าง นั้นมันปุถุชน. ปุถุชนก็แค่คนดี ก็พอ นั้นสำหรับปุถุชน ก็ok ไม่จำต้องมีศีลก็ได้ มีทานก็พอ ทานสละออกนะ ก็เพียงพอสำหรับคนดีคนหนึ่ง. แต่มิใช่มนุษย์ศีลรึอริยบุคคลขั้นแรกคือขั้นศีล ก็แล้วแต่จิตของแต่ละดวงที่จะก้าวเดินตามทางที่เลือกไว้ ดีๆๆๆ55555
     
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เราเองเจตนางดดื่มแอลกอฮอล์มากว่า ๕ ปีแล้ว
    ตกผลึกแล้ว เกิดมาไม่เคยเห็นแม่ดื่มเหล้า
    จนแม่เสียชีวิต.....พ่อก็ไม่แตะ
    ทำไมเราจะงดสิ้นเชิงไม่ได้
    สังคมสังคังก็ให้เขากินกันไป
    ถ้าหยุดกันทั้งประเทศ โรงกลั่น
    เขาบรรลัยขาดรายได้รัฐก็ขาดภาษี
    เอาเอาเข้าไป....
     
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    จะอาศัยโลกบำเพ็ญธรรม
    การขวางโลก ก็บำเพ็ญไม่ได้
    การไหลไปตามโลกบางทีก็เจือด้วยอกุศล
    ต้องทำตามคำพังเพย"รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง"
    ใช่มิใช่
     
  14. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ถูกครับ แต่ถูกแค่ครึ่งเดียว มนุษย์อาศัย ธาติทั้ง4 และขันธ์5 สติปัญญาในการพ้นโลก แค่อาศัยโลกในการผัสสะ
    ครับ โลกมันเป็นของมันยังนี้ เราแค่สุ้กับจิตตนเท่านั้น เป็นสมรภูมิที่นักต่อสู้เค้าลงสู้กัน แพ้เป็นเรื่องธรรมดา แต่นักสู้ทุกคนแม้จะแพ้ก็ลุกขึ้นสู้ทุกครั้งที่แพ้ จนความพ่ายแพ้ทำอะไรมันไม่ได้ และสุดท้ายไม่ว่ามันจะแพ้ ยังไง มันก็จะลุกขึ้นมาสู้ทุกครั้ง อย่างไม่ย่อท้อ จนมันมีแต่บาดแผลความเจ็บปวด น้ำตา ไม่ว่าสุดท้ายมันจะแพ้จนตายรึมันจะชนะ แต่สิ่งหนึ่งที่มันประกาสก้องทั่วสากลโลกดังราชสีห์คำรามคือมันภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ ไม่เสียชาติเกิดแล้วได้ต่อสู้เช่นเดียวกับเสด็จพ่อที่เคยต่อสู้มาเมื่อ2500กว่าปีที่แล้ว แต่คนส่วนมากเป็นล้านๆคนไม่เคยสุ้เลย มันแพ้ตั้งแต่เห็นธงข้าศึกแล้ว มันขี้ขลาด มันกลัว มันยอมให้กิเลสย้ำยีมันตลอดมาและตลอดไป
    ท่านละเป็นนักสู้รึเป็นแค่ไอ้ขี้ขลาด ขี้แพ้ 555555
    สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย แต่สู้มีโอกาศไม่เกิด ถ้าไม่สู้มันก็เกิด ก็ทุกข์และตาย ตลอดชั่วกัปชั่วกาล และอาจเกิดเป็นแมงกุ๊ดจี่ที่คลุกแต่ขี้ควาย555555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2015
  15. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .......ทุกข ควรกำหนดรู้ ทุกขสมุทัยควรละ นิโรธควรทำให้แจ้ง มรรคควรเจริญ:cool: แยกกิจ.....อะไรเรียกว่าทุกข์?
     
  16. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    พูดไปสองไพ่เบี้ย..นิ่งเสียตำลึงทอง
    ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2015
  17. ชมทรัพย์

    ชมทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +248


    คิดแบบนี้แหละ

    เราคือใจ แต่ใจเดิมๆนี้มันโง่ เที่ยวหลง เที่ยวรักเที่ยวโกรธ ยึดโน้นยึดนี้เป็นตัวเป็นตน เป็นภพเป็นชาติ เป็นวัฏฏะทุกข์
    เป็นเหตุให้น้อมธรรมะคำสังสอนของพระพุทธเจ้า มาปฏิบัติตน ทำให้เจริญด้วยกุศล จนพ้นเป็นใจที่ฉลาดรู้รอบ ถึงซึ่งธรรมว่าง
     
  18. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326

    ร่างกายนี้ไม่มี ในเรา จิตใจนี้ไม่มีในเรา แล้วอะไรละที่เป็นของเรา

    คำตอบคือ ก็ความยึดมั่นในความไม่มีร่างกายนี้ในเรา ความยึดมั่นว่าจิตนี้ไม่มีในเรา ไงละ

    สภาวะธรรมที่แท้จริง คือความเข้าไปรู้ธรรม รู้สภาพแห่งความจริง เมื่อรู้แล้วให้ปล่อยวาง อย่าไปยึดมั่น ในความเป็นสัจจธรรมความจริงที่รู้ที่ปรากฏ

    จิตที่มีปัญญา เป็นอธิปัญญา ย่อม วางลงทุกสิ่ง แม้สิ่งที่กำลังวางลง มันวางลงด้วยเช่นกัน
    1วางของที่ต้องวาง
    2วางความรู้ที่รู้ว่าต้องวาง
    3วางใจ ไม่ข้องแวะ ดับที่ใจดับที่ผัสสะที่กระทบใจ ไม่มีอะไรให้กระทบให้สัมผัส

    นั่นแหละวางโดยสมบูรณ์ ครับ สาธุ
     
  19. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ความไปยึดมั่นในความไม่มีกายไม่มีใจของตนนี้แลเป็นอวิชาเป็นเหตุแห่งทุกข์ประการหนึ่ง

    ความดับลงเพราะการไม่ไปยึดมั่นในธรรมที่รู้ที่เข้าใจนี้แลคือความไม่มีเหลือในความมีและไม่มีโดยแท้จริง
     
  20. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ธรรมข้อนี้ลึกมากต้องใช้ปัญญาพิจารณานะครับ
    สมุทัย มันไปได้2ทาง ทางหนึ่งคือก่อผลคือทุกข์อีกทางคือดับผลคือมรรค
    ธรรมดาของจิตเมื่อผัสสะย่อมน้อมไปทางก่อ คือส่งออก แต่ถ้ามีสติ คือเบรคและใช้ปัญญาพิจารณามันจะกลับมากลายเป็นดับคือยอมรับมันตามธรรมดา
    นี่คืออริยสัจ4ที่แท้จริง เหตุหรือสมุทัย ถ้าส่งออกผลคือทุกข์ ถ้าไม่ส่งออก. ผลคือมรรค. ที่ไม่ส่งออกเรียกว่านิโรธ. ส่งออกเรียกสมุทัย ผลที่เกิดแต่เหตุคือที่ได้บอกไปแล้ว ถ้าส่งออก ทุกข นิโรธ มรรค
    สมุทัยคือเหตุ เหตุนั้นคือสมมุติ. เมื่อผัสสะจึงมีเหตุ เหตุนั้นจึงเป็นที่มาของอาการทั้งปวง.
    ส่วนผู้สว่าง ดับสมมุติคือวิชชา จึงวิมุติ
    ผัสสะจึงไม่มีผลใดๆต่อไป ตาเห็นก็สักแต่เห็น ฯลฯ
    นี่จึงเวียนครบรอบของฝ่ายดับ. เหตุดับ อุปทานก็ดับ อาการต่างๆก็ดับหมด
    คำว่าดับเป็นเพียงภาษาสมมุติให้พอเข้าใจในสิ่งที่เป็นไปเท่านั้น มิใช่ให้ดับเหมือนดับไฟ. ธรรมดาส้่งต่างๆมันมีอยุ่มันทำงานตามหน้าที่ ตามโปรแกรมที่มีมา แต่เมื่อเข้าใจ และแจ้งแล้วมันจึงไม่สามารถมีผลใดๆได้อีกเลย จึงเรียกวิมุตติ พอจะเข้าใจนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...