ถ้าภรรยาสวดมนต์ทุกคืนแต่สามีนอนฟังเฉยๆบุญภรรยาจะเยอะกว่าจนทำให้ศิลไม่เสมอกันมั้ยค่ะ?

ถ้าภรรยาสวดมนต์ทุกคืนสามีก็นอนฟังทุกคืนแต่ไม่เคยสวดมนต์กับภรรยาเลย แบบนี้ศิลจะยังเสมอกันอยู่ไหนค่ะ สามีไม่ชอบไปวัด บอกให้ไปก็ยากมาก ไม่สวดมนต์เพราะเป็นคนไม่ชอบท่องหนังสือ ไม่ตื่นตักบารต แต่ก็ไม่เคยบ่นขัดภรรยาในการสวดมนต์ไหว้พระทำบุญ แต่สามีเป็นคนชอบให้ทานสัตว์ คนตกทุกข์ ถือว่าเป็นคนจิตใจดี แบบนี้เค้าเรียกศิลเสมอกันไหมค่ะ เพราะเห็นเค้าบอกว่า สามีภรรยาจะอยู่ด้วยกันได้ต้องมีศิลเสมอกัน
ขอบพระคุณค่ะ

 

เพิ่มเติมค่ะ ****

แล้วภรรยาสวดมนต์อุทิศให้เทวดาประจำตัวสามีทุกคืน แบบนี้ท่านได้รับมั้ยค่ะ

 

เทวดาเค้าได้รับเช่นกัน คุณภาวนา เค้าให้ทาน ดีกว่าไปทำความชั่วอย่างอื่น

ควรทำตัวเองให้เป็นตัวอย่าง มีความสุขในการสวดมนต์ อย่าไปคิดกังวลให้เป็นห่วง

ลองตอนแผ่เมตตาสิ อธิษฐานขอให้เค้ามาประพฤติธรรมร่วมกับเรา

 

ลองไปค้นคำว่า "สมชีวิตาธรรม ๔" ดูนะครับ

แล้วจะทราบคำตอบพร้อมเหตุผล

 

จุดหลักคือ กรรมที่ทำมากันในอดีตที่ต้องมาเจอกันเป็นคู่กัน จะ คู่ทุกข์ คู่ยาก คู่บรรลัย คู่เวรคู่กรรม คู่รักคู่พราก คู่บุญ คู่บารมี ก้อว่ากันไป...กรรมอดีตมันส่งผลของมันอยู่

อยู่ที่ปัจจุบัน...คิดกันยังไงทำกันยังไง พื้นฐานทุกศาสนามีศีล5 เป็นของกลางติดตัวมา บุญกุศลที่เกิดขึ้นจาก กาย วาจา และ ใจ บุญบาปก้อเหมือนกัน เพียงแต่ต่างการที่ให้เรามีสติปัญญา...รู้เหตุของทุกข์เพื่อหาทางออกจากทุกข์ ที่ถูกวิธีเท่านั้นไม่มีอะไรไปมากกว่านี้ ในส่วนรายละเอียดที่จะทำอย่างไรก้อเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

จึงถือว่าศีลทั้งสองคนยังอยู่ในระดับเท่ากันใกล้เคียงกัน...อย่าไปคิดตรรกะว่า สามีไม่สวดมนต์แล้วไม่ได้บุญ...สามีนอนฟังจนหลับเป็นสมาธิทำให้ศีลบริสุทธิ์ แต่ภรรยาไปกังวลเท่ากับว่าศีลมันขุ่นมั่วถึงภรรยาจะมีความศรัทธาเข้าใจก้อตาม(ขาดเฉลียว)...ยิ่งแย่กว่าสามีเสียอีก ทุกอย่างต้องอยู่ในความพอดีถึงจะเกิดผล.....พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม หนอออออ

 

ใครทำบุญ คนนั้นก็ได้รับผลบุญ เมื่อเราแผ่เมตตาให้แก่เขา คนและสัตว์จะได้รับผลบุญเต็ม เมื่อเขาได้อนุโมทนา คนเรามาอยู่ด้วยกันก็เพราะผลของบุญกรรมที่ทำกันมา..ไม่ใช่ศีล..