สันโดษ
ความเคลื่อนไหวล่าสุด:
17 พฤศจิกายน 2020
วันที่สมัครสมาชิก:
25 ตุลาคม 2007
โพสต์:
9,940
กระทู้เรื่องเด่น:
1
พลัง:
16,870

โพสต์เรตติ้ง

ได้รับ: ให้:
ถูกใจ 16,822 2,157
อนุโมทนา 44 0
รักเลย 0 0
ฮ่าๆ 0 0
ว้าว 4 0
เศร้า 0 0
โกรธ 0 0
ไม่เห็นด้วย 0 0

แชร์หน้านี้

สันโดษ

เป็นที่รู้จักกันดี

สันโดษ เห็นครั้งสุดท้าย:
17 พฤศจิกายน 2020
    1. สาวปีใหม่
      สาวปีใหม่
      ขอบคุณสันโดษและคณะ ที่พาไปเที่ยวเวียตนาม .... ก๋วยเตี๋ยวอร่อยมากเลยย....:cool::cool::cool:
    2. benjrt
      benjrt
      [IMG]
      ร้อนจัง อย่าลืมครีมกันแดดนะครับ เดี๋ยวผิวคล้ำครับ งุงิงุงิ
      อ่อ อย่าลืมดื่มน้ำเช่นกัน จะได้สดชื่น
    3. ฐาณัฏฐ์
      ฐาณัฏฐ์
      [IMG]

      ตามหาสันโดษ ที่อเมซอลกัน

      เหตุเกิดจากคุณสันโดษหายไปจากเวปพลังจิตอย่างไร้ล่องลอย
      ทิ้งไว้แต่ปริศนา ให้หมาหลงฉงนพร้อมจดหมายบอกเป็นโค๊ตลับ ว่า
      " เด็กแห่งอนาคต "

      [IMG][IMG][IMG] [IMG][IMG]
      ผมถอดรหัสได้ดังนี้
      เด็ก แปลว่า เดียงสา หรือ อุแว้ว หรือ ช่วยด้วย
      แห่ง แปลว่า ที่นี่
      อนาคต แปลว่า อนาคอนด้า

      รวมความว่า ช่วยด้วย ฉันอยู่ที่อนาคอนด้า หรือ แอฟริกา โว่โวโวเย้ หุหุ
    4. joni_buddhist
      joni_buddhist
      มาแว้วววววว
    5. boontar
      boontar
      ขอแนะนำ สันโดษ's profile
      แยกเป็น ห้องวิทย์,ภัยภิบัติ,Black hole,จักรวาลคู่ขนาน, etc.
    6. AddWassana
      AddWassana
      [IMG]
      สวัสดีค่ะคุณสันโดษ ขอบคุณจัง...
    7. satan
      satan
      ต้นเหตุแห่งความฝันตามคัมภีร์โบราณ
      ใครบ้างที่นอนหลับ "ฝัน" แล้วพอตื่นขึ้นมามองข้ามเลยความฉงนสนเท่ห์ ไม่พยายามหาสาเหตุ หาเหตุผลมาตีความ หรือบางคนอาจถึงขั้นวิ่งไปหาเปิดหนังสือทำนายเลยก็ได้ว่า "ฝันนั้นบ่งบอกถึงอะไร"

      แม้ทุกวันนี้วิทยาศาสตร์นำคนออกท่องอวกาศ การแพทย์สามารถเปลี่ยนหัวใจมนุษย์ แต่ด้วยเรื่องราวของความฝันแล้ว ก็ยังเปรียบดั่งห้องมืดลงกลอนที่ไร้กุญแจไข ซ้ำยังอัดแน่นไปด้วยเรื่องลี้ลับ เดินขนาบมาพร้อมกับความเชื่อ แฝงไปด้วยเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือยังเป็นเรื่องที่มิอาจหยั่งถึงในความอัศจรรย์ของกลไกทางสมองและร่างกายของมนุษย์

      ผู้จัดการรายวันนำคุณสู่ห้วงแห่งความฝัน โดยนำผู้ศึกษาในสาขาต่างๆ มาเป็นผู้บอกเล่า

      ต้นเหตุแห่งความฝันตามคัมภีร์โบราณ

      เริ่มต้นสั้นๆ จากพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ได้แปล "ฝัน" ที่เป็นนาม คือ การเห็นเป็นเรื่องราวเมื่อหลับ แต่โดยปริยายหมายถึงการนึกเห็นในขณะตื่นอยู่ ซึ่งไม่อาจจะเป็นจริงได้

      คำแปลอาจทำให้หลายคนแย้งเถียงในใจ เพราะฝันที่ไม่เป็นเรื่องเป็นราวก็มี หรือฝันที่ไม่ได้หลับก็อาจเป็นจริงได้

      มาพูดถึงการทำนายฝัน คงจะกล่าวได้ว่าเป็นศาสตร์เร้นลับที่สืบทอดและใช้กันมาแต่โบราณกาล เมื่อเปิดอ่านในหนังสือทำนายฝันที่บรรจุเนื้อหาความฝันและคำทำนายไว้ รวมทั้งลอบดูเกจิหมอดูหลายคนที่รับพยากรณ์ดวงชะตาในทุกรูปแบบไม่เว้นแม้การทำนายฝัน พวกเขามักอธิบายต้นเหตุของความฝันไว้โดยยึดตามคัมภีร์โบราณซึ่งจำแนกลักษณะฝันออกเป็น 4 ประการ และหากติดตามต่อไปอีก ก็จะทราบว่ากฎ 4 ข้อนี้เกือบจะเป็นพื้นฐานของสารบบความฝันที่เกี่ยวพันโลดแล่นอยู่ในทุกวงการ

      "สุขี สิงห์บรบือ" หรือ "มหาแซม" แห่งเว็บมหาหมอดูดอทคอม ก็ยึดหลักพื้นฐานของความฝัน 4 ประการนี้ เริ่มจาก บุรพนิมิต เป็น ความฝันที่เกิดจากอำนาจกุศลจิตและอกุศลจิตของผู้ฝันเอง เป็นเรื่องราวของอดีตที่มาปรากฏในฝันบอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลางร้ายหรือโชคลาภในอนาคต บางคนจะเรียกฝันประเภทนี้ว่าการระลึกชาติ

      ประการที่สอง จิตนิวรณ์ คือ ความฝันที่เกิดตามอารมณ์ผูกพัน หรือการฝักใฝ่จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งของผู้ฝัน รวมไปถึงเรื่องที่พบเห็นแล้วจดจำไว้ไม่ลืมเลือน

      เทพสังหรณ์ เป็นความฝันที่เกิดขึ้นจากเทวดาบันดาล เพื่อสำแดงแจ้งเหตุการณ์ล่วงหน้า เน้นเรื่องมงคล แต่ถ้าเป็นฝันร้ายเรื่องร้ายก็เป็นเหมือนการตักเตือนผู้ฝันให้ระวังและป้องกันภัย

      สุดท้ายเป็น ธาตุโขภะ เป็นความฝันที่เกิดเพราะธาตุพิการ คือ กายไม่ปกติ กินมาก นอนมาก ท้องอืดท้องเฟ้อ ธาตุไม่ย่อย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวลานอนหลับไม่สนิท ความฝันลักษณะนี้ถูกแยกส่วนออกมาเป็น ฝันที่ไร้สาระไม่มีมูลความจริง ไม่ให้ประโยชน์ ซึ่งโดยมากจะเป็นความฝันไม่ค่อยดี

      พกท้ายคัมภีร์ยังทำนายไปถึงวันและเวลาของฝันอีกด้วย

      มีคำอธิบายวันฝันว่า ฝันวันไหนจะส่งผลถึงผู้ใด เช่น ฝันคืนวันอังคาร ดีร้ายของความฝันจะตกอยู่กับพ่อแม่พี่น้องของผู้ฝันเอง ส่วนเวลาฝันจะบ่งบอกถึง อาการและจิตใจของผู้ฝัน และกำหนดคำทำนายฝันว่าจะเป็นเท็จจริงในทางดีหรือทางร้าย

      ที่แปลกแยกออกมา คือ หลับฝันในตอนกลางวัน กลับถูกบันทึกไว้ว่า ไม่ต้องหลงเชื่อ และถ้าฝันร้ายหรือฝันไม่เป็นมงคล ยังมีคาถากำกับไว้ให้ท่องหรือภาวนา เพื่อให้บรรเทาหรือกลับทางให้ฝันที่ทำนายว่าร้ายกลายเป็นเรื่องดี

      ความฝัน ภาคนักบำบัดด้วยพลังหิน

      "จุฑามาศ ณ สงขลา" ผู้ที่ได้รับการยอมรับจากแวดวงว่าเชี่ยวชาญเรื่องไพ่ทาโรต์ การเยียวยาจิตใจด้วยพลังหิน และเธอยังศึกษามาเกี่ยวกับเรื่องความฝันด้วย

      เธอเริ่มเรื่องต้นเหตุแห่งความฝันตามตำรับคัมภีร์โบราณที่กล่าวมาในข้างต้น แต่การศึกษาของเธอด้านการบำบัดจิตใจ เธอจึงให้คำอธิบายใหม่ว่า "ความฝัน คือ การทำงานร่วมกับจิตใต้สำนึก ...การตีความฝัน เป็นทางเลือกของการบำบัด เพราะเป็นวิธีการวิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับจิตใจ ตีความจากจิต เยียวยาจิตวิญญาณ อย่างเช่น คนป่วยหนัก ต้องรื้อฟื้นจิตวิญญาณขึ้นมาใหม่ และมันเกี่ยวเนื่องกับความฝัน ...แต่การศึกษาความฝัน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครสอนกัน เพราะไม่มีหมอดูศึกษากันอย่างจริงจังกันถึงขั้นรับทำนายฝันอย่างเดียว แค่นำมาเป็นข้อย่อยในการทำนาย"

      จุฑามาศเล่าว่า ฝันทั่วๆ ไปจะเกิดจากจิตที่ฟุ้งซ่าน ไม่มีอะไรแน่ชัด จะมีบางคนที่ฝันแม่นเป็นจริงทุกครั้ง แต่ต้องเป็นคนฝึกสมาธิและมีจิตใจแน่วแน่ ส่วนคนฝันซ้ำเรื่องเดียวกัน เกิดจากจิตใต้สำนึกของคนที่รู้สึกผิด มีบาดแผลทางอารมณ์ และค่อนข้างจะเป็นฝันร้าย"

      "ฝันมันบอกอะไรได้บ้างในตอนนี้ มันเหมือนวิเคราะห์ดวงชะตา มันช่วยทำให้เรารู้อะไรล่วงหน้า ช่วยในการทำนาย และเป็นลางบอกเหตุได้ เช่น ฝันที่เป็นลางสังหรณ์ จะทำให้เรารู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ยิ่งบางคนเชื่อในความเหลื่อมซ้อนของมิติ เช่น ไปสถานที่บางแห่งแล้วรู้สึกว่าเคยมาแล้ว คุยกับบางคนแล้วรู้ว่าเคยคุยแบบนี้มาแล้ว เขาจะเชื่อในความฝัน ...แต่ถ้าฝันแล้ววิตกกังวล จิตกระสับกระส่าย ไม่นิ่ง ไม่หยุดนิ่งที่จะแก้ไข ฝันก็ไม่มีความหมาย เพราะส่วนใหญ่ฝันลางบอกเหตุมีเอาไว้ให้แก้ไข ให้เตรียมใจ เตรียมพร้อมที่จะยอมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ...ถ้าใจเรานิ่งเมื่อไหร่ หรือฝึกสมาธิ ฝันเราจะชัดเจนขึ้น สามารถกำหนดความฝันว่าจะให้ฝันเรื่องอะไรหรือบังคับให้ฝันต่อเนื่องได้ ฝันจะแม่นขึ้นด้วย"

      ความฝัน จากภาคนักจิตวิทยา

      "ต้องเข้าใจก่อนว่า ฝันมันมีประโยชน์อย่างไร" คือความต้องการแรกที่ "นายแพทย์ สุจริต สุวรรณชีพ" ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิตยกขึ้นมาเป็นประโยคนำ

      ที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาอธิบายต่อว่า ถ้าคนไม่ฝันจะตกอยู่ในภาวะกดดัน เพราะความฝันทำให้คนหลับต่อได้ โดยเลือกจะตื่นเป็นเฉพาะกรณี เช่น ฟ้าร้องไม่ตื่น แต่นำไปฝันแทน ลูกร้องถึงตื่น ส่วนที่สองคือความฝันที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ คือ คนเราฝันเพื่อให้ความหวัง สนองความต้องการในชีวิตประจำวันที่ไม่สำเร็จ ซึ่งเป็นการทำให้จิตใจผ่อนคลายได้ส่วนหนึ่ง สรุปแล้ว ฝันเป็นกลไกทางจิต เพื่อช่วยลดความตึงเครียดในขณะที่กำลังตื่น

      เล่าต่อหลังจากนั้น จิตแพทย์นำเราเข้าสู่ต้นเหตุแห่งการฝันตามหลักการทางจิตเวช โดยแบ่งต้นเหตุของความฝันออกเป็น 3 ส่วน และหากตัดเรื่องเทวดาเรื่องเหนือธรรมชาติออกก็ยังมีสาระบางส่วนคล้ายคลึงกับคัมภีร์ฝันของคนในสมัยก่อน

      ต้นเหตุที่หนึ่ง เป็นฝันที่มาจากความเจ็บปวดของร่างกาย และฝันโดยมีสิ่งแวดล้อมรอบตัวเป็นตัวกระตุ้น เช่น ฝันว่าปวดปัสสาวะ ฝันจากทีวีที่เปิดทิ้งไว้ เสียงฬาร้อง เสียงฝน เสียงแตรรถ สองคือ ฝันต่อจากเรื่องค้างคาในชีวิตประจำวันที่ยังทำไม่จบ ยังตัดสินใจไม่ได้ ยังไม่ประสบความสำเร็จสมหวัง และข้อท้ายสุด คือ ฝันอันเนื่องมาจากเรื่องที่เจ็บช้ำ ฝังใจ บีบคั้น เสียหาย และถูกกดไว้ให้ลืมมาตั้งแต่ในอดีต

      นายแพทย์สุจริต ยกตัวอย่างการวิเคราะห์ฝันตามทฤษฎี ซิกมันด์ ฟรอยด์ ด้วยว่า รูปแบบของความฝันจะผันแปรเปลี่ยนไปเป็นสัญลักษณ์บางอย่าง

      "ความฝันเป็นความคิดต่อเนื่องจากขณะที่เราตื่น เพื่อคิดให้มันจบให้มันสมหวังในความฝัน ฝันละเมอ ฝันดังไปหน่อย ก็เป็นเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจเหมือนกัน... ฝันว่าเข้าสอบไม่ทัน ขาดนั่นขาดนี่ เปิดข้อสอบมาแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง แสดงว่าช่วงนั้นมีความกดดันมาก เวลาที่เรามีความกดดันเราจะหวนไปฝันเรื่องที่เคยอยู่ในสถานการณ์กดดันในอดีต อย่างผู้ชายฝันว่ารถหายซ้ำๆ ปรากฏว่าเมื่อก่อนขับรถไปรับส่งแฟนทุกวัน แต่พอเลิกราก็รู้สึกเสียใจฝังใจ พอเกิดความไม่สบายใจเจ็บช้ำเมื่อไหร่ก็ฝันว่ารถหาย แล้วจะไม่ได้คืนอีก ...ความกลัวที่ฝังใจ ไม่ว่าจะเป็นการถูกทำร้ายมาในอดีต ถูกข่มขืน หรือเกิดความสูญเสีย ฝันร้ายก็จะออกมาว่าถูกสัตว์ร้ายขย่มขู่ไล่ล่าอยู่เรื่อยๆ ...ฝันเห็นงู แล้วจะได้คู่ ตามจิตวิเคราะห์ งูเป็นสัญลักษณ์ของอวัยวะเพศชาย แต่ฝันตรงๆ ไม่ได้มันน่าเกลียดไป จึงเบี่ยงเบน ไม่ฝันให้ตรงไปตรงมา และออกมาเป็นรูปแบบสัญลักษณ์"

      อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า "คนเราฝันกันทุกคืน แต่มีช่วงนิดเดียวเท่านั้นที่จะจำฝันได้คือก่อนตื่น และการฝันก็เป็นอาการที่บ่งบอกว่า คุณกำลังหลับไม่สนิท เพราะหากหลับลึกจริงๆ แล้วจะจำฝันไม่ได้"

      ทางด้าน จิตแพทย์ของโรงพยาบาลกรุงเทพ "ผศ.ดร.นพ. ประกอบ ผู้วิบูลย์สุข" เขาเริ่มเรื่องของความฝันในทางวิทยาศาสตร์ว่า ปกติทุกคืนที่คนนอนหลับ จะฝันเป็นรอบๆ ช่วงละประมาณ 5 – 6 ครั้งต่อคืน ทุกๆ 90 นาทีจะมีการฝัน โดยแบ่งการนอนออกเป็นระดับตื้น ระดับลึก การฝัน และเป็นวัฏจักรหมุนเวียนต่อไปเรื่อยๆ เขาบอกว่า แต่จะมีเพียงฝันที่กระแทกอารมณ์เท่านั้นที่จะอยู่ในความทรงจำไปถึงตอนเช้า ส่วนยานอนหลับ ยากล่อมประสาททางเภสัชวิทยา จะทำให้เวลาของการฝันสั้นลง และทำให้คนรู้สึกว่าหลับสนิทขึ้น

      "จริงๆ เราไม่รู้มากนักว่าทำไมคนเราถึงฝัน แต่ฝันเป็นช่วงสำคัญในการย่อยข้อมูล หรือจัดเก็บข้อมูลของความทรงจำที่เกิดขึ้นในเวลากลางวันให้เป็นระบบ ...ส่วนความฝันในทางจิตวิทยามันเกิดขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล ไม่เชื่อมโยงกันเลย มันเกิดขึ้นโดยเอาเรื่องแพะมาชนแกะ ถ้าคนฝันในลักษณะที่ตื่นอยู่เราจะเรียกว่า เสียสติ เพราะไม่อยู่ในโลกแห่งความจริง ไร้เหตุผลและความเป็นไปได้ คนโรคจิตจะเป็นแบบนี้"

      ส่วนอีกมุมหนึ่งของจิตวิเคราะห์ จิตแพทย์ประกอบ บอกว่า "ความฝันเป็นสิ่งที่โผล่ออกมาจิตใต้สำนึก ในเวลาที่จิตสำนึกอ่อนแรง"

      "เรามีความทรงจำฝังลึกในอดีตอย่างไร บางทีเมื่อจิตใจอ่อนแอ ไม่สามารถจัดเก็บความฝันได้ มันก็จะโผล่ออกมา สิ่งที่เจอบ่อยๆ คือ เป็นความขัดแย้งในจิตใจ ที่มิอาจจะโต้ตอบได้ ภาพที่เห็นจะบ่งบอกสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง ภาพที่มีในฝันจะบ่งบอกได้ว่าภาพใดหมายถึงอะไร ...ความฝันบางทีหาสาเหตุทางจิตใจไม่ได้ แต่กลับบ่งบอกถึงภาวะความเจ็บป่วยทางร่างกาย กรณีตัวอย่างเช่น คนไข้รายหนึ่งฝันซ้ำๆ ว่าเจ็บหลังมานาน หลังจากนั้น 6 เดือนตรวจพบว่าเป็นมะเร็งตรงจุดที่ฝันพอดี หรือ คนไข้ฝันซ้ำซากว่ามีแมลงอะไรมาไต่ที่แขน ต่อมา 2 ปีให้หลังพบว่าเป็นมะเร็งผิวหนังตรงจุดที่ฝัน เราจึงพบว่าบางทีความฝันมันบอกโรคได้เหมือนกัน ...ส่วนฝันซ้ำๆ ทั่วไป ถ้าเอาด้านจิตวิเคราะห์มาอธิบาย คือ ความขัดข้องความขัดแย้งมันยังไม่ถูกแก้ไข เพราะฉะนั้นมันเลยได้แต่ฝันๆๆ" เขาเล่า

      เปรียบเทียบ ทำนายฝัน กับ วิเคราะห์ฝัน

      ตัวอย่างการทำนายฝันจากเว็บไพศาลดอทคอม ได้ให้คำตอบไว้สำหรับคนที่ฝันแล้วใคร่รู้ความหมาย มีคำทำนายฝันเรียงเป็นอักษรตั้งแต่ ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก ซึ่งเป็นรูปแบบสากลที่ใช้ในการทำนายฝัน

      ยกตัวอย่างฝันหลายเรื่องที่แทบจะทราบคำทำนายกันในหมู่คนไทยทั่วไป หรืออีกหลายเรื่องที่เมื่อหลายคนฝันแล้วต้องแสวงหาคำทำนายมาตอบให้ได้ ดังเช่น

      ฝันเห็นโลงศพแต่ไม่เห็นศพ ตั้งซ้อนกัน หรือมีคนหามโลงศพผ่านมา ทายว่า จะได้ข่าวดีหรือลาภทางไกล หรือเปลี่ยนแปลงหน้าที่การงานไปในทางดี

      ฝันว่าถูกไล่ออกจากงาน หรือต้องออกจากหน้าที่และตำแหน่งในตำราต่างประเทศ จะถือว่าเป็นฝันร้าย และจะถูกสบประมาท หรือถูกเหยียดหยาม แต่ในตำราไทย ถือว่า จะหมดเคราะห์และจะได้โยกย้ายหน้าที่ดีขึ้นกว่าเดิม

      ฝันว่าฟันหัก ถ้าฟันบน ทายว่าจะเสียญาติผู้ใหญ่ข้างฝ่ายบิดา ถ้าฟันล่าง ทายว่า จะเสียญาติผู้ใหญ่ข้างมารดา ถ้าฝันว่ามีฟันงอกขึ้นใหม่ทายว่า จะมีคนมาขออาศัยในบ้าน

      ฝันเห็นไฟไหม้เคหะหรือบ้านเรือนของตน ทายว่า จะได้รับเคราะห์อย่างหนัก อาจเกิดถ้อยร้อยความ หรือโดนย้ายที่อยู่หรือที่ทำงาน ถ้าฝันว่าไฟไหม้สิ่งของภายในบ้าน ทายว่า จะได้รับเคราะห์ หรือโยกย้ายเปลี่ยนแปลงที่อยู่ หรือที่ทำงาน หรืออาจมีการเดินทางไกล ถ้าฝันว่าไฟไหม้แต่ไม่เห็นแสงไฟมีแต่ควันดำหรือขาวครึ้ม ทายว่า จะหมดเคราะห์ หรือรับเคราะห์แล้ว จะมีลาภ

      ฝันเห็นคนตาย ทายว่า จะได้ลาภหรือหมดเคราะห์ ถ้าฝันว่าตนเองตาย จะหมดเคราะห์ และจะได้ลาภติดตามมา

      ฝันว่าได้ไปร่วมพิธีในงานศพ หรือเห็นผู้คนพลุกพล่านในงานศพ ทายว่า จะได้รับข่าวดีเกี่ยวกับหน้าที่การงาน หรือการค้าขาย ถ้าเป็นคดีความ จะได้ชัยชนะฝ่ายตรงข้าม

      ฝันว่าได้สวมแหวนทองหรือแหวนเพชร ทายว่า ที่เป็นโสดจะได้พบเนื้อคู่ ที่มีเรือนหรือมีครรภ์ ก็จะได้บุตรหญิงน่ารักเป็นศรี หรือมิฉะนั้นก็จะได้ลาภทางเสี่ยงโชค

      การทำนายฝันเป็นเรื่องที่ทั้งวงการหมอดูและแพทย์ยอมรับว่า เป็นสถิติที่คนโบราณบันทึกกันมา มีความพ้องกับความจริงบ้าง บังเอิญบ้าง แต่ความน่าเชื่อหรือความแม่นยำตามความรู้สึกก็แตกต่างกันไปแต่ละบุคคล

      "ทางจิตเวชจะไม่ทำนายฝัน การทำนายฝันแบบจดบันทึกเป็นสถิติที่มีมาแต่โบราณก็จริง แต่จริงไม่จริงไม่ทราบ เพราะฝันอย่างทำนายอีกอย่าง ความแน่นอนมันไม่ค่อยมี คนมักจะเห็นว่าความฝันมันสำคัญไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่เรื่องไร้สาระในความฝันมันมีเยอะ หากฝันซ้ำๆ นั่นอาจจะมีนัยสำคัญ" นายแพทย์สุจริต แสดงความคิดเห็น

      ส่วนจิตแพทย์ประกอบ บอกว่า "ส่วนตัวแล้วไม่เชื่อ" เพราะ หากนำหนังสือทำนายฝันเพียง 3 เล่มมาเทียบกันดู จะเห็นว่าคำทำนายไม่เหมือนกันแม้แต่เล่มเดียว

      อย่างไรก็ตาม แม้จิตแพทย์จะยืนยันว่า ความฝันเป็นเรื่องไม่แน่นอนและแล้วแต่ความวิตกของบุคคล แต่หากจะเทียบกับสัญลักษณ์ทางจิตวิเคราะห์ หรือนัยของการตีความฝันกันแบบง่ายๆ หลายประการหลายๆ ฝัน ก็ยังคงเห็นความเหมือนในความแตกต่าง

      อย่างเช่น ฝันว่างูรัด หรือเลื้อยมาพันร่างกาย ทายว่า ถ้าเป็นคนโสดจะได้พบเนื้อคู่ในกะทันหัน ฝั่งตรงข้าม จิตแพทย์อธิบายความฝันเรื่องงูว่า เป็นสัญลักษณ์แทนอวัยวะเพศชาย ซึ่งหมายถึงผู้ฝันกำลังกระหวัดคิดเกี่ยวกับเพศตรงกันข้ามอยู่

      ฝันว่าตนเองเหาะเหินเดินไปในอากาศได้ ทายว่า จะมีเคราะห์ หรือมิฉะนั้นก็จะป่วยเจ็บ, ฝันว่ากระโดดจากที่สูงลงมาที่ต่ำ หรือกระโดดข้ามฝั่งน้ำ ทายว่า จะได้รับเคราะห์หรือโชคร้ายจากการงานในหน้าที่ เกี่ยวกับภาพฝันนี้ ทางจิตแพทย์ก็กล่าวไว้เช่นกันว่า ลักษณะฝันที่ผู้ฝันยืนอยู่บนที่สูง เพราะกำลังอยู่ในภาวะกดดัน กำลังพิสูจน์ประสิทธิภาพในการทำงาน หรืออยู่ในช่วงตัดสินใจเรื่องใหญ่ที่ตนคิดว่าอาจผิดพลาดได้

      ฝันติดชาร์ต

      ส่วนฝันเรื่องใดเป็นที่นิยม และทายได้แม่น จิตแพทย์บอกเสียงเดียวกันว่า ที่ต้องเคยฝันกันทุกคน คือ "ฝันว่าปวดฉี่" ทว่าฝันอื่นๆ พวกเขาอธิบายตามสภาวการณ์ที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ของแต่ละคนมากกว่า คือ ฝันอะไรก็ได้ที่ตีความไปถึงความวิตกกังวลที่ทุกคนล้วนต้องประสบ

      ส่วนจุฑามาศ เธอแจกแจงว่ามีฝันอันใดบ้างที่คนนิยมฝันกันบ่อย และมักจะเป็นจริง ได้แก่ ฝันว่าขับรถ จะได้อะไรดีๆ ตามมา ฝันว่าได้เพชรพลอย จะได้ข้าวของสวยงามมีค่า หรือ ฝันเห็นคนที่ตายไปแล้ว ฝันว่าผมร่วง ทำของแตก หรือฝันว่าหลงทางไปในที่ไกลๆ

      ถามถึงฝันที่ใบ้หวยบ้าง เพราะคงเป็นฝันที่คนมากมายต้องการฝันก่อนวันหวยออก มหาแซมกล่าวถึงภารกิจนี้ว่า ความฝันที่จะเป็นจริงหรือเกิดขึ้นจริงๆ เป็นความฝันที่ในวันเสาร์ ส่วนที่ตีเป็นเลขนั้นก็ใช้หลักทั่วๆ ไป เช่น ฝันเห็นช้าง เป็นเลข 9 เป็นต้น

      ทางจุฑามาศ เธอคิดว่า "คนชอบฝันแล้วเอาไปตีความเป็นเลขหวย คือ การเตรียมตัว เตรียมจิตตัวเองให้ฝัน แม่นไม่แม่นต้องพิสูจน์กันเอาเอง"

      จากความคิดของเธอจะเห็นความเหมือนกับจิตแพทย์ทั้งสองนาย คือ "...ฝันเป็นตัวเลข คนใบ้หวยเข้าไปนอนแป๊บเดียวออกมาบอกหวย คนทำเป็นอาชีพทำได้ มันเหมือนเป็นการสะกดจิตตัวเอง ต้องทำบ่อยๆ ใช้การฝึกฝน จริงไม่จริงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ พระบางองค์รู้จิตใจผู้อื่น หรือมีญาณหยั่งรู้ล่วงหน้า ก็น่าจะมีจริง แต่มันไม่ใช่กิจของสงฆ์ บอกไปก็จะมีแต่ทำให้ศีลเสื่อม ญาณเสื่อม เพราะไปเพิ่มกิเลสให้ผู้คนเปล่าๆ อย่างบางคนฝึกสมาธิและมีความสามารถพิเศษ ก็อาจจะล่วงรู้ได้เหมือนกัน เราบอกว่าไม่เชื่อก็ไม่ได้ หรือถ้าเชื่อก็พิสูจน์ไม่ได้"

      ภาพฝันขาวดำหรือสี่สี

      จิตแพทย์ทั้งสองรายยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า สีในฝันบ่งบอกถึงสติปัญญา

      เขาทั้งสองกล่าวว่า บุคคลส่วนใหญ่จะฝันเป็นภาพขาวดำ โดยไม่มีเหตุผลเพราะเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่เป็น แต่ถ้าบุคคลใดฝันเป็นภาพสี มีการยืนยันทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า มีแนวโน้มว่าจะมีไอคิวสูงกว่า ฉลาดกว่า มีจินตนาการสูงกว่า เพราะคนเหล่านี้จึงจะสามารถสร้างหยิบเลือกสีสันมาประกอบอยู่ในภาพฝันได้ ซึ่งไม่นับว่ากำลังฝันในเรื่องที่ต้องมีการระบุสีอยู่แล้ว ยิ่งถ้าฝันเป็นสี พร้อมทั้งรับได้ถึงรูป รส กลิ่น เสียง ไอคิวยิ่งจะบวกขึ้นไปอีกโข

      ความพยายามของการพิสูจน์ แปล ทำนาย วิเคราะห์ ในความหมายของความฝันทั้งมวล คงจะพอสรุปในด้านดีได้ว่า ความฝันคือประตูไปสู่จิตใต้สำนึก เพื่อให้คนเราค้นหาสาเหตุทางร่างกาย จิตใจ จิตสำนึก ไปถึงจิตใต้สำนึกที่เป็นปัญหาอักเสบอยู่โดยเราไม่รู้ตัวหรือไม่เคยสังเกตมาก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อให้เราเข้าใจตัวเอง และเข้าใจในจิตใจของตัวเองได้มากขึ้น รวมไปถึง ความฝันยังเป็นสัญญาณให้เราดูแลตัวเองและเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ

      จิตแพทย์กล่าวว่า ความร้ายแรงของความฝันร้าย อาจส่งผลกระทบไปถึงความเจ็บปวดของจิตใจ ทำให้ไม่เป็นอันทำงาน ไม่กล้าหลับไม่กล้านอน หรือทำให้คนกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ แต่ก็ได้ให้ข้อคิดทิ้งท้ายไว้เช่นกันสำหรับผู้ที่วิตกในเรื่องของความฝันว่า "ฝันไม่ทำร้ายเรา เท่ากับความคิดที่เราทำร้ายตัวเอง"

      ในภาคหมอดู มหาแซม ยกทางธรรมเข้าข่ม "พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "คนที่ฝันร้าย คือฝันเห็นสิ่งต่างๆ ที่น่ากลัวน่าหวาดเสียวนั้น ก็เป็นเพราะเหตุที่ไม่มีสติสัมปชัญญะในเวลานอนหลับ แต่ผู้ที่มีสติตั้งมั่น มีสัมปชัญญะสมบูรณ์อยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งหลับแล้ว ก็จะฝันแต่สิ่งที่ดีเสมอ ไม่ฝันถึงสิ่งชั่วร้ายหรือน่าหวาดกลัวเลย" "ความฝันดีย่อมเกิดจากจิตใจที่สงบ...ถ้าเราอยากฝันดี ก็ควรตั้งใจดี มีจิตเมตตาแก่คนทุกคน ก่อนจะถึงเวลาหลับ"

      คนเรานั้นเมื่อหลับนอนอาจจะมีนิมิต (ฝัน) มาปรากฏในฝันไปในเรื่องต่างๆ อาจจะมีทั้งให้คุณและเกิดโทษจริงบ้างไม่จริงบ้าง อาจจะมีทั้งให้คุณและเกิดโทษจริงบ้างไม่จริงบ้าง นิมิตบอกโชคลาภบ้าง บอกลางร้ายให้รู้ล่วงหน้าก็มี
      ต้นเหตุของความฝัน (เพราะเหตุใดคนเราถึงฝัน) 4 ประการ
      1. บุรพนิมิต ความฝันเกิดจากเรื่องราวในอดีตมาปรากฏให้คนนั้นฝันไป มักเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริงมาปรากฏบอกลางหรือโชคลาภ
      2. จิตนิวรณ์ ความฝันเกิดเพราะมีอารมณ์จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความฝันอย่างนี้เป็นเพราะอารมณ์จิตใจของผู้ฝันได้ผูกพัน
      กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่อย่างมากตลอดเวลา เมื่อหลับไปก็เกิดความฝันในสิ่งนั้น ในเรื่องนั้น ที่ผู้ฝันฝักใฝ่อยู่ หรือได้พบเห็นแล้วจดจำโดยไม่มีวันลืม
      3. เทพสังหรณ์ ความฝันเกิด ขึ้นเพราะเทวดาบันดาล ความฝันเช่นนี้เป็นเพราะเทวดาผู้ปกปักรักษาคุ้มครองธรรมะ ได้ดลบันดาล
      ให้ผู้ฝันเกิดความฝันไป เพื่อสำแดงแจ้งเหตุการณ์ล่วงหน้า โดยเฉพาะเรื่องมงคล แต่ถ้าเป็นฝันร้ายเรื่องร้ายก็เป็นเหมือนการตักเตือน
      ผู้ฝันให้ระวังภัยและป้องกัน
      4. ธาตุโขภะ ความฝันเกิดเพราะกินมาก นอนมาก จนท้องไส้อืด ท้องขึ้นท้องเฟ้อ ธาตุไม่ย่อย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวลานอนหลับไม่สนิท
      จึงฝันไปไร้สาระไม่มีมูลความจริง หรือให้ประโยชน์แต่อย่างใด วันของความฝัน ฝันวันอาทิตย์ ท่านฝันคืนวันอาทิตย์ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่คนทั้งหลาย (คนอื่นๆ)
      ฝันวันจันทร์ ท่านฝันคืนวัน จันทร์ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่วงศ์ญาติของท่าน
      ฝันวันอังคาร ท่านฝันคืนวันอังคาร ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ พ่อแม่พี่น้องของท่านเอง
      ฝันวันพุธ ท่านฝันคืนวันพุธ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ บุตรและภรรยาหรือสามีของท่าน
      ฝันวันพฤหัสบดี ท่านฝันคืนวันพฤหัสบดี ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ ครู อาจารย์ และมิตรสหายของท่าน
      ฝันวันศุกร์ ท่านฝันคืนวันศุกร์ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ สัตว์เลี้ยงของท่าน
      ฝันวันเสาร์ ท่านฝันคืนวันเสาร์ ดีร้ายของความฝันนั้นได้แก่ ตัวท่านเอง เวลาที่ฝัน ฝันเวลากลางวัน ไม่จำเป็นต้องเชื่อฝันกลางวัน(ความฝันที่นิยมถือเป็นความจริงได้ ต้องฝันเวลากลางคืนไม่มีแสงอาทิตย์) อนึ่งลาภ ลาภ เป็นของมีค่าหรือเงินทองที่ได้มาโดยไม่คาดฝัน หรือค้าขายได้กำไรมากมายอย่างไม่นึกฝัน โชค หมายถึงคราวหรือจังหวะ ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับดวงชะตาของผู้นั้นเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าได้ระมัดระวังตัวดี แล้วก็จะดีได้ ฝันเวลาหัวคํ่า หรือเวลาสองยาม เป็นฝันที่ไม่อาจเป็นจริงไปได้ เพราะว่าท้องไส้ไม่ปกติ ทำให้ความฝันวุ่น จิตใจวุ่น แต่ถ้าหลับสนิทบางทีก็จริง ฝันตอนดึก ประมาณ 4 ทุ่ม ถึงตี 2 เป็นความฝันที่จะปรากฏเป็นความจริงขึ้นมา ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน หรือสองเดือนแน่ๆ ฝันยามใกล้รุ่ง ตอนตี 2 ถึงสว่าง เป็นความฝันที่จะเกิดขึ้นเป็นความจริงในเวลา 3 วัน หรือไม่เกิน 15 วัน
      หากฝันร้ายจะทำอย่างไรดี?
      หากคุณฝันร้ายหรือฝันไม่เป็นมงคล ตื่นเช้ามาให้รีบเล่าความฝันให้คนอื่นฟัง (แก้ฝัน) หรือให้ท่องหรือภาวนาคาถานี้นะครับ เรื่องร้ายๆ จะกลับกลายเป็นดีหรือเรื่องร้ายๆ จะบรรเทาเบาบางลง ท่องนะโม 3 จบก่อนนะครับ
      นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
      ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
      โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโธ
      ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
      พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ

      ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
      โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
      ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
      ธัมมานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ

      ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
      โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
      ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง
      สังฆานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ ฯ
      ข้อคิดเรื่องความฝันในแง่จิตวิทยาและการดำเนินชีวิต
      หากฝันดี ฝันเห็นแต่สิ่งที่ดีๆ สวยๆ งามๆ เป็นมงคล ในเวลาหลับ ตื่นขึ้นมาตอนเช้าสุขภาพจิตก็จะดี สดชื่น ทำให้การดำเนินชีวิตในวันนั้นดี ทำอะไรก็ไม่กังวลมีความมั่นใจ.....แต่ถ้าฝันร้ายก็จะตรงกันข้าม

      พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "คนที่ฝันร้าย คือฝันเห็นสิ่งต่างๆ ที่น่ากลัวน่าหวาดเสียวนั้น ก็เป็นเพราะเหตุที่ไม่มีสติสัมปชัญญะในเวลานอนหลับ แต่ผู้ที่มีสติตั้งมั่น มีสัมปชัญญะสมบูรณ์อยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งหลับแล้ว ก็จะฝันแต่สิ่งที่ดีเสมอ ไม่ฝันถึงสิ่งชั่วร้ายหรือน่าหวาดกลัวเลย"
      "ความฝันดีย่อมเกิดจากจิตใจที่สงบ...ถ้าเราอยากฝันดีก็ควรตั้งใจดี มีจิตเมตตาแก่คนทุกคน ก่อนจะถึงเวลาหลับ"

      http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9470000069634
    8. ฐาณัฏฐ์
    9. ภัทรศีล
      ภัทรศีล
      ตามไปดูติดๆค่ะ
    10. kurei
      kurei
      55+-ขอบคุณฮะ...เรย์ลงไม่เป็น
      เรย์ว่าเรย์ลืมอะไรตั้งนานแหละ-*-
      ตั้งกะเข้าบรอดใหม่ๆ
      ว่าจะบอกว่าพี่สวยมากๆเลยอะฮะ...แหะๆชมช้าไปปะเนี้ย?><~
    11. kurei
      kurei
      One Republic - Say (All I Need) Lyrics

      Do you know where your heart is?
      Do you think you can find it?
      Or did you trade it for something
      Somewhere better just to have it?
      Do you know where your love is?
      Do you think that you lost it?
      You felt it so strong, but
      Nothings turned out how you wanted
      Well, bless my soul
      You
    12. เต้าเจี้ยว
      เต้าเจี้ยว
      ขอพลัง สถิตย์อยู่กับท่าน
    13. แพน้อย
      แพน้อย
      chu chu chu .... [IMG] .....รักสันโดษมั่กมั่ก
    14. k.kwan
      k.kwan
      อ่าว... ลืมลืม อยู่ห้องเดวกัน ห้องดับจิต ตะลิ๊ดติ๊ดชึ่ง อุอุอุ...
      [IMG] [IMG] แบบว่า หลับหูหลับตา ปั่นอะ ลืมไปว่า เสร๊อ... เสร่อ... โต๊ดนะ ตะเอง
    15. yingclub
      yingclub
      ขอบคุณข้อความดีๆจากพี่สันโดษมากค่ะ
    16. yingclub
      yingclub
      ตามไปดูแล้วนะจ๊ะ
    17. k.kwan
      k.kwan
      ความหมายของคำว่า เมีย (WIFE)

      W = Without = ปราศจาก
      I = Information = แจ้งให้ทราบ
      F = Fighting = ต่อสู้ (ทะเลาะ)
      E = Every Day = ทุก ๆ วัน

      รวมความก็คือ
      Without Information Fighting Every day
      แปลเป็นไทยก็คือ
      หาเรื่อง ทะเลาะได้ ทุก ๆ วัน โดย ปราศจาก การ แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

      [IMG]

      ปล.เห็นว่าตาหลกดี เลยเอามาฝาก ช่วยฮาหน่อยนะ ...
    18. azalia
    19. titawan
      titawan
      สวัสดีคะ ขอบคุณมากคะ ฟ้าดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังพักก่อนคะเพราะไข้เพิ่งลดไป
    20. azalia
  • Loading...
  • Loading...
  • Loading...
Loading...