สติธรรม ....... หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ บ่อยครั้งที่พวกเราถูกหลวงปู่ท่านดุในเรื่องของการไม่สำรวมระวัง ท่านมักจะดุว่า "ให้ทำ (ปฏิบัติ) ไม่ทำ ทำประเดี๋ยวเดียว เดี๋ยวออกมาจับกลุ่มกันอีกแล้ว ทีเวลาคุย คุยกันได้นาน" ปฏิปทาของท่านต้องการให้พวกเราตั้งใจปฏิบัติ ตั้งใจทำให้จริง มีสติ สำรวมระวัง แม้เวลากินข้าว ท่านก็ให้ระวังอย่าพูดคุยกันเอะอะเสียงดัง" สติ นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่จะทำให้เราได้หยุดคิด พิจารณาก่อนที่จะทำ จะพูด และแม้แต่จะคิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่าสิ่งนั้นดีหรือชั่ว มีคุณประโยชน์หรือเสียหาย ควรกระทำหรือควรงดเว้นอย่างไร เมื่อยั้งคิดได้ก็จะช่วยให้พิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างละเอียดประณีต และสามารถกลั่นกรองเอาสิ่งที่ไม่เป็นสาระไม่เป็นประโยชน์ออกให้หมด คงเหลือแต่เนื้อที่ถูกต้องและเป็นธรรมซึ่งเป็นของควรคิด ควรพูด ควรทำแท้ๆ สวัสดีตอนเช้าครับ ^_______^
อุบายวิธีทำความเพียร หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ ครั้งหนึ่งที่ได้สนทนาปัญหาธรรมกับหลวงปู่ ท่านเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า...เขามาถามปัญหาข้า ข้าก็ตอบไม่ได้อยู่ปัญหาหนึ่ง ผู้เขียนเรียนถามท่านว่า "ปัญหาอะไรครับ " ท่านเล่าว่า " เขาถามว่า ขี้เกียจ (ปฏิบัติ) จะทำอย่างไรดี" หลวงปู่หัวเราะ ก่อนที่จะตอบต่อไปว่า "บ๊ะ ขี้เกียจก็หมดกัน ก็ไม่ต้องทำซิ" สักครู่ท่านจึงเมตตาสอนว่า "หมั่นทำเข้าไว้...ถ้าขี้เกียจให้นึกถึงข้า ข้าทำมา 50 ปี อุปัชฌาย์ข้าเคนสอนไว้ว่า ถ้าวันไหนยังกินข้าวอยู่ก็ต้องทำ วันไหนเลิกกินข้าว...นั่นแหละถึงไม่ต้องทำ" สวัสดีตอนเย็นครับ ^___________^
[IMG] ในเบื้องต้น วันนี้ข้าน้อยไปวัดไร่ขิง เอาของไปถวายที่วัด ทำบุญซ่อมพระอุโบสถ ทำบุญค่าใช้จ่ายต่างๆภายในวัด ฯลฯ ถือศีล๘ และสวดมนต์เจริญพระกรรมฐาน ขอกัลยาณมิตรกัลยาณธรรม แลสรรพชีวิตอันไม่มีประมาณ หมื่นโลกธาตุ แสนโกฐจักรวาล ทั้งที่รู้และไม่รู้จงมีส่วนแห่งผลบุญบารมี ในทาน ศีล ภาวนาที่ข้าน้อยได้ทำมาตั้งแต่อดีตกาล ปัจจุบันกาล แลอนาคตกาล ในท่ามกลาง ขอให้ทุกๆท่านจงเจริญในอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ปราศจากโรคาพยาธิ เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป ปรารถนาสิ่งใดที่ชอบประกอบด้วยธรรมทั้งทางโลกและทางธรรม ขอให้สำเร็จทุกประการ ตราบเข้าสู่มรรผลนิพพานเทอญ ในที่สุด ขออนุโมทนาบุญบารมีในทาน ศีล ภาวนา ของทุกๆท่านแลสรรพชีวิตอันไม่มีประมาณ ด้วยขอรับ สาธุ... [IMG]
แนะวิธีวางอารมณ์ หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ หลวงปู่เคยพูดเสมอว่า"ผู้ปฏิบัติต้องหมั่นตามดูจิตรักษาจิต" สำหรับคนที่ไม่เคยปฏิบัติแล้วไม่รู้จะดูที่ไหนอะไร จะดูอะไร รู้สึกสับสน แยกไม่ถูกเพราะไม่เคยดู ไม่เคยสังเกตอะไร เคยอยู่แต่ในความคิดปรุงแต่ง อยู่กับอารมณ์แต่แยกอารมณ์ไม่ได้ ยิ่งคนที่ยังไม่เคยบวช คนที่อยู่ในโลกแบบวุ่นวาย ยิ่งดูจิตของตนได้ยาก ผู้ฝึกจิตถ้าทำจิตให้มีอารมณ์หลายอย่างจะสงบไม่ได้ และไม่เห็นสภาพของจิตตามเป็นจริง ถ้าทำจิตใจให้ดิ่งแน่วแน่อยู่ในอารมณ์เดียวแล้ว จิตก็มีกำลังเปล่งรัศมีแห่งความสว่างออกมาเต็มที่ มองสภาพของจิตตามความเป็นจริงได้ว่า อะไรเป็นจิต อะไรเป็นกิเลส อะไรที่ควรรักษา อะไรทีควรละ สวัสดีตอนเย็นครับ [IMG]