soul2006
ความเคลื่อนไหวล่าสุด:
14 มกราคม 2020
วันที่สมัครสมาชิก:
3 พฤศจิกายน 2006
โพสต์:
1,026
พลัง:
5,169

โพสต์เรตติ้ง

ได้รับ: ให้:
ถูกใจ 5,169 8,649
อนุโมทนา 0 0
รักเลย 0 0
ฮ่าๆ 0 0
ว้าว 0 0
เศร้า 0 0
โกรธ 0 0
ไม่เห็นด้วย 0 0
ที่ตั้ง:
แหลมสมิหลา
อาชีพ:
รับราชการ

แชร์หน้านี้

soul2006

เป็นที่รู้จักกันดี, จาก แหลมสมิหลา

soul2006 เห็นครั้งสุดท้าย:
14 มกราคม 2020
    1. เซลล์
      เซลล์
      ณ บอร์ดแห่งนี้ ก็เป็นโต๊ะกลมสำหรับการเสวนาอยู่แล้วครับ อิอิ
      ผมก็ปูเสื่อรอคุณ soul อยู่แล้วเช่นกันครับ
    2. ภูติอาคเนย์
      ภูติอาคเนย์
      มาเยี่ยมครับคุณแบมสบายดีหรือเปล่าครับ
      อย่าหักโหมงานหนักนะรักษาสุขภาพด้วย
      ธรรมรักษาเด้อ
    3. เซลล์
      เซลล์
      มาเยี่ยมครับคุณ soul และคุณ mead
      ประสบการณ์ผม ถือว่าน้อยมากครับ แต่ถ้าหากว่าพอเป็นประโยชน์ ก็ยินดีครับ
      ว่างๆคุณ soul และคุณ mead มาเล่าให้ผมฟังบ้างนะครับ เพื่อจะช่วยให้เราเข้าใจศาสตร์ต่างๆได้อย่างลึกซึ้งขึ้นนะครับ :d
    4. mead
      mead
      อรุสวัสดิ์ตอนสายๆครับคุณโซล
      ขอตามมาอ่านเรื่องคุณเซลล์ด้วยคนครับ
      เป็นประสบการณ์ตรงที่มีประโยชน์มาก ขอบคุณคุณเซลล์ด้วยครับ ;)
    5. เซลล์
      เซลล์
      ขยายความต่อจากในกระทู้นะครับ
      เรื่องที่เมื่อเราทำสมาธิแล้ว มีการออกท่าทางออกมา

      -หากเราไป tap กับข้อมูลความรู้ตรงนี้ จะเห็นภาพในสมาธิก่อนครับ แล้วจึงออกมาเป็นท่าทางออกมาครับ

      -อีกอย่างนึง คือ การจดจ่อกับฐานข้อมูลเดิม และแสดงออกมาครับ ซึ่งตรงนี้ต้องระวังครับ เพราะอาจจะเป็นภาพนิมิตที่เราสร้างขึ้นมาก็ได้ครับ เพราะตอนที่ผมไปปฎิบัติสมาธิที่นึง อาจารย์ที่คุมกรรมฐานเค้าจะให้ปิดตา และนั่งอยู่ในห้องมืด จากนั้นผู้คุมกรรมฐานจะใช้จิตไปเร่งธาตุในเหล็กไหล เพื่อจะรวมพลังงานในการระเบิดเส้นแสงที่กั้นมิติอยู่ครับ จุดประสงค์คือให้เราทราบว่า โลกเรามีมิติที่ซ้อนกันอยู่ โดยมีเส้นแสงเป็นตัวกั้นมิติ สิ่งที่ผมรับทราบในขณะนั้นขณะที่เอาผ้าปิดตา ก็คือ จะมีแสงสว่างจ๊าแวบเข้ามาที่ตาที่สาม และเสียงจะดังเหมือนกับระเบิดครับ และมิติก็จะเปลี่ยนไป ไปอยู่อีกที่หนึ่ง ซึ่งเป็นมิติในอดีตที่ซ้อนกันอยู่ ซึ่งข้างๆเยื้องออกไป จะมีผู้หญิงท่านนึง ซึ่งผมรู้สึกได้ว่า เค้าจะตีขาตัวเอง ดังมากๆ เมื่อออกจากกรรมฐานออกมาแล้ว เค้าจะบอกว่า มีเทพมาลง ทำให้เค้าแสดงท่าทางอย่างนั้น (จริงๆแล้วอาการดังกล่าวนั้น เกิดจากความเชื่อที่เค้าคิดว่า เค้ามีเทพคุ้มครองอยู่ครับ)

      ซึ่งไม่ว่าการฝึกโยคะอาสนะ ไทเก๊ก มวยภายในต่างๆ ที่สุดคือ ไม่มีท่าครับ

      เป็นการเคลื่อนไหวตามกระแสปราณภายในครับ

      หากท่าทางเราออกมาจากกระแสปราณภายใน ต้องลองสังเกตดูว่า จิตภายในเราเคลื่อนรึเปล่า หากเคลื่อนไม่ลื่นไหล เรามักจะเคลื่อนไหวไปตามความรู้สึกนึกคิดของเราครับ

      เคล็ดลับทุกอย่างที่ผมฝึกมา ที่สุดแล้วมีอย่างเดียวคือ กายรวมใจ และสติครับ

      การฝึกที่ดีที่สุด เราต้องเข้าใจก่อนว่า เราไม่ได้กำลังฝึกโยคะ ฝึกไทเก๊ก หรือเดินจงกลม แต่เรากำลังฝึกสติให้มีกำลัง ที่ตั้งของจิต ไม่มีตำแหน่ง แต่เป็นจุดที่กายกับใจรวมกันครับ เป็นการฝึกจิตภายในให้มีกำลัง หากเราขาดการพิจารณาตรงจุดนี้ ท่าทางที่ออกก็จะเป็นแค่การออกกำลังกายภายนอกอย่างเดียวครับ ซึ่งไม่ว่าเราจะขยับอวัยวะตรงส่วนไหนในชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นการฝึกสติได้ทั้งหมดครับ

      ส่วนเรื่องภายในจิต เราต้องตามดูจิตในทุกขณะครับ ต้องรู้ว่าสิ่งที่เราพิจารณานั้นเป็นส่วนที่มาจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 รึเปล่า ต้องระวังกับดักของอัตตาครับ แล้วทำให้มันไร้สำนึกไปทีละอย่าง อะไรเกิดก่อน ดับก่อนครับ ต้องพิจารณาว่า สิ่งที่เรารับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 นั้น มีแดนเกิดจากไหน จากฐานข้อมูลจากอดีตของเราหรือไม่ หากตามดูทันก็ให้รีบวาง เพราะนั่นเป็นกับดักของอัตตาครับ

      ซึ่งคุรุของผมท่านหนึ่ง ในอดีตท่านเคยเป็นคุรุ 1 ใน 8 ขององค์ทาไลลามะครับ
      ลูกศิษย์หลายๆท่านก็จะสังเกต และมักจะถามท่านว่า ท่านเป็นหลวงปู่เทพโลกอุดรหรือไม่ ซึ่งเค้าจะสังเกตจากกิริยาท่าทาง สัญลักษณ์ต่างๆ ว่าเหมือนกัน
      ท่านก็จะด่ากลับไปตลอดครับ และท่านก็ไม่เคยตอบว่าท่านเป็นใคร เพราะท่านคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมายึดติดกับตัวบุคคล ท่านจะสอนอยู่อย่างเดียว คือ เรื่องกายรวมใจครับ
      ในตอนฝึกพลังแรกๆ ผมเคยไปพบท่านด้วยความบังเอิญครับ คือไปวัดที่นึง ตอนนั้นค่อนข้างไฟแรง นั่งสมาธิมาอย่างช่ำชอง รับรู้พลังงานต่างๆได้อย่างดี แต่ขาดสติ อิอิ ท่านก็มักจะให้ถาม คือ ท่านจะทราบวาระจิต และก็ตอบกลับไปครับ ตอนนั้นก็ถามคำถามท่านไปบางอย่าง ท่านก็ด่ากลับมาว่า แค่อนุบาล แต่มาถามคำถามมหาลัย ช่วงนั้นฮากันทั้งวงเลยครับ เลยกลับมาคิดว่า ท่านเตือนเราเรื่องอัตตา ท่านมักจะสอนเสมอว่า ต้นหญ้า กับต้นไม้ใหญ่ เมื่อลมพัดมาแรงๆ อะไรที่ล้ม คือ ท่านจะสอนเรื่องการอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นการละลายอัตตา เพื่อพร้อมต่อการรับรู้ธรรมครับ หากเราไม่ทำตัวเสมอดิน และใจเป็นน้ำ เรียนอะไรไปก็ไม่ได้ผล กลับเป็นการเพิ่มอัตตาในตนเองให้มากขึ้นครับ
      พูดมาซะยาวเลย หวังว่าคุณโซลคงไม่เบื่อไปก่อนนะครับ เพราะผมเห็นว่าคุณโซลก็เป็นเพื่อนนักเรียนเหมือนผมเหมือนกัน เลยอยากให้ได้ในสิ่งดีๆครับ หากมีสิ่งไหน ที่ผมพอทราบ จากประสบการณ์โดยตรง ผมก็ยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์ให้ทราบนะครับ
    6. เซลล์
      เซลล์
      ยินดีครับ หากคุณโซลสนใจตรงไหน สามารถสอบถามมาได้ครับ
      หากผมพอรู้จะได้แจ้งให้ทราบอีกทีครับ
    7. kindred
      kindred
      อรุณสวัสดิ์ค่า คุณโซล เด๋วบายๆจะออนไปหาน้า
    8. kindred
      kindred
      สวัสดีค่ะ
      ขอสมัครเป็นเพื่อนด้วยคน ทำไงอ่ะ
    9. mead
      mead
      มาทักทายหลังห้องครับ :p คุณโซล
      ห้องวิทย์กำลังสนุกกับการทดลองที่น่าตื่นเต้นอยู่นะครับ
      ไม่ทราบว่าคุณโซลสอนวิชาอะไรอยู่ครับ เด็กโตหรือเด็กเล็กๆเอ่ย?
      เชื่อว่าเด็กๆคงรักครูคนนี้เอามากๆ ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยดีเหลือเกินนะครับ
      (deejai)
  • Loading...
  • Loading...
  • เกี่ยวกับ

    ที่ตั้ง:
    แหลมสมิหลา
    อาชีพ:
    รับราชการ

    ลายเซ็น

    @@ ความทุกข์ เกิดขึ้นที่จิด เพราะเห็นผิด เมื่อผัสสะ @@
    อายตนะ + อารมณ์ + วิญญาณ = ผัสสะ --> เวทนา
    --------------------------------------------
Loading...