กรณีแบบนี้จะสามารถบวชเป็นพระได้หรือไม่

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Aekkapat, 2 มิถุนายน 2014.

  1. Aekkapat

    Aekkapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +318
    หากไม่สามารถจำบทสวดมนต์ได้ (ได้แค่บทง่าย ๆ บทสวดยาว ๆ ยาก ๆ จำไม่ได้)

    หากไม่ชำนาญในความรู้ทางสงฆ์ ต่าง ๆ เช่น การจัดวางตำแหน่งพระพุทธรูปว่าควรจัดตำแหน่งใด, จุดธูปบูชาไม่รู้ว่ากรณีไหนใ่ช่กี่ดอก, ไม่รู้ว่าเข้าพรรษาตอนไหน ออกพรรษาตอนไหน, งานพิธีต่าง ๆ ก็ไม่รู้เรื่อง, และ อื่น ๆ อีกมาก

    หรือ พูดง่าย ๆ ว่า ไม่มีความเข้าใจและความรู้ทางสงฆ์เลย

    แบบนี้จะสามารถบวชได้หรือไม่

    ขอเป็นโจทย์บังคับนะครับว่า ไม่สามารถพัฒนาทางความรู้ทางสงฆ์ได้เลย กรณีแบบนี้จะสามารถบวชได้หรือไม่ครับ หากคน ๆ นี้ พร้อมจะตัดกิเลสทุกอย่าง และสามารถตัดได้แน่หากได้เป็นพระจริง ๆ แต่ดันขาดความรู้ทางสงฆ์ในด้านต่าง ๆ ซึ่งไม่สามารถจำหรือเข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ ในทางสงฆ์ได้
     
  2. Deep Blue

    Deep Blue เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +887
    ถ้าไม่มีคุณลักษณะที่เข้าเกณฑ์ต้องห้ามตามที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้
    คนคนนั้นย่อมมีสิทธิ์บวชได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2014
  3. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    สิ่งที่ทำไม่ได้หรือไม่รู้ หากได้สดับศึกษา มีความเพียรขวนขวายอยู่ ย่อม"รู้"ได้และ"ทำได้"อย่างถูกต้องในภายหลัง ไม่มีใครเกิดมาแล้วรู้หรือทำอะไรๆได้เองโดยไม่ต้องเรียนหรือฝึกหัดมาก่อน...

    การบวชพระ หากบวชเพราะ"เห็นภัย"ในวัฏฏะ ไม่ได้บวชเพราะเกรงใจใครหรือเพราะไม่รู้จะทำอะไรดีหรืออยากสบาย ผู้บวชควรศึกษาวิถีทางการดำรงชีพอย่าง"พระแท้"ให้ดี เสียก่อน ซึ่งได้แก่การทำความรู้จักกับพระวินัยบัญญัติของภิกษุ"ที่พระพุทธเจ้า"ทรงวางไว้เพื่อความขัดเกลาอันยิ่งแก่กุลบุตรผู้ปรารถนาพ้นทุกข์"โดยส่วนเดียว"..ทั้งนี้เพราะผู้บวช"เพราะไม่รู้" นึกว่าบวชเพื่อห่มผ้าเหลือง เมื่อบวชแล้วยังประพฤติตนเยี่ยงฆราวาส โอกาสที่จะพาตนไปนรกอบายภูมินั้นง่ายกว่าฆราวาสหลายเท่าตัว..จึงควรทราบว่า กิจของพระที่พระพุทธองค์ทรงกำหนดไว้มี๒อ่ย่างคือ ๑.ศึกษาพระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน และ ๒. การเจริญวิปัสสนา..

    หากพร้อมที่จะทำกิจทั้ง๒ นี้ได้ ก็พึงเร่งพาตนไปบวชเสีย เพราะหนทางแห่งการพ้นทุกข์ได้สะดวก คือการสละเพศฆราวาส บวชเป็นภิกษุนั่นเอง..
     
  4. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ผู้จะบรรลุธรรมได้ ต้องมีป้ญญา มีความเข้าใจในทางธรรม(ธรรมชาติ) หลักๆก็ไตรลักษณ์ รู้อริยสัจ คือ เข้าใจทุกข์ รู้เหตุ และเพียรในวิธีขจัดเหตุ เจริญมรรคเพื่อนิโรธ หากมีปัญญาพอที่จะเข้าใจ ธรรมดังกล่าว ก๋เพียงพอต่อความเป็นสมณะแล้ว เรื่องกฏระเบียบ เรื่องวินัยบางอย่าง เรื่องของการสวดมนต์ การจัดวาวหิ้งพระ การรู้วันเวลาข้างขึ้นข้างแรม อะไรนั่น ล้วนเป็นแค่สมมติบัญญติที่ไม่สำคัญ ไม่เอื้อประโยชน์ต่อความพ้นทุกข์เลย ไม่จำเป็นต้องไปรู้ก็ยังได้ หรือแม้แต่ไม่บวชเป็นสมณะก็ยังได้ เส้นทางความพ้นทุกข์เปิดรับแก่ทุกคน ไม่จำกัดแต่การต้องบวชเป็นสมณะเท่านั้น ทุกคนมีปัญญา แต่ใครจะมีปัญญาถูกต้อง และมากพอสำหรับความพ้นทุกข์เท่านั้น
     
  5. ปวรรุจ

    ปวรรุจ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +44
    ถ้าโจทย์ขนาดนี้ อยู่บ้านเถอะครับ
     
  6. Tom & Jerry

    Tom & Jerry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +536
    บวชได้สบายมาก ความรู้ที่ขาดค่อยไปศึกษาเอาตอนเป็นพระแล้ว
    บ่อยไป...เห็นพระนั่งท้ายแถว ยังต้องกางหนังสือสวดมนต์...
     
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ที่กล่าวมาทั้งหมด บวชได้ครับ

    ค่อยเรียนรู้ได้ครับ
     
  8. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    ก่อน บวชไม่รู้ไม่เป็นไร พอบวชเป็นพระแล้วคุณก็ต้องศึกษาวินัยของสงฆ์ อัน มี ศีล และ ข้อวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ และ พระธรรม คำสอนของพระศาสดา (พุทธวจน)อยู่ดี เพราะเป็นไฟท์ บังคับ คุณเองก็มี สติ สัมปชัญญะ และสุขภาพดี อันไม่เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุธรรม อันเกษม ได้ ส่วนเรื่องพิธีการต่างๆ ที่คุณเห็นพระสงฆ์ ปฏิบัติในปัจจุบันทุกวันนี้ ในครั้งพุทธกาล พระศาสดา ไม่เคยสอน ถ้าคุณต้องการปฏิบัติ จริงก็บวชและ อยู่กับวัดที่เจ้าอาวาสพา คณะสงฆ์ ปฏิบัติ อย่างเดียวก็ยังพอมี
     
  9. babae

    babae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +470
    สิ่งที่ต้องศึกษาคือศีล สิ่งต้องทำให้มากคือสมาธิ สิ่งที่ต้องเจริญให้ถึงที่สุดคือ ปัญญา ถ้าทำได้ผมก็พร้อมจะกราบคุณ ไม่ต้องบวชพระผมก็กราบคุณ
     
  10. ภูตจิ๋ว

    ภูตจิ๋ว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2012
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +41
    ในสมัยพุทธกาลนะ ดูสิ จูฬปันถก มหาปันถกเป็นพี่ชาย เป็นพระอรหันต์ ไปเอาน้องชายมาบวช พอเอาน้องชายมาบวช ตัวเองเป็นพระอรหันต์ อู๋ย! ลูกศิษย์ลูกหามหาศาลเลย ก็สอนน้องชาย จูฬปันถก ให้ท่องคาถาคาถาหนึ่ง ท่องไม่ได้ ท่องอย่างไรก็ท่องไม่ได้ พอท่องไม่ได้ พี่ชายก็บอกให้ไปสึกซะ เพราะตัวเองเป็นพระอรหันต์ แค่นี้ทำไมทำไม่ได้ นี่เป็นพี่เป็นน้องกันนะ

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห็นถึงอำนาจวาสนา ไปยืนดักรอที่ปากประตู นั่นจะไปสึกไง พระพุทธเจ้าไปดักหน้า “จูฬปันถก เธอจะไปไหน”

    “จะไปสึกครับ”

    “ทำไมสึกล่ะ”

    “พี่ให้สึกครับ”

    “เธอบวชเพื่อใคร เวลาบวช บวชกับใคร”

    “บวชเพื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า”

    “ฉะนั้น เธอมานี่ เธอไม่ต้องไปสึก เอาผ้าขาวมาให้ลูบนะ เธอจงลูบผ้าขาวนี้ ขาวหนอๆ เธอลูบผ้าขาว ลูบไป”

    ด้วยความลูบผ้าขาว เพราะเราก็นึกว่าผ้าขาวๆ เอามือลูบ มันลูบๆ ไป มันเริ่มสกปรก จิตใจมันเริ่มเศร้าหมอง เพราะผ้าขาวมันสกปรก ลูบไปๆ ปิ๊ง! เป็นพระอรหันต์เลย มันมีเหตุการณ์ว่า เขาถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า คนที่จะเป็นพระอรหันต์ได้ต้องมีปัญญามากใช่ไหม ต้องมีภาวนามยปัญญาของมันเต็มที่ใช่ไหม แล้วทำไมท่องบทสวดมนต์บทเดียวทำไมท่องไม่ได้ ทำไมท่องไม่ได้

    พระพุทธเจ้าบอกหมด เพราะว่าเวลาอดีตชาติเคยบวชเป็นพระ เห็นเขาท่องปาฏิโมกข์อยู่ พอเด็ก ดูสิ พระบวชใหม่เวลาหัดท่องปาฏิโมกข์มันท่องถูกๆ ผิดๆ เพราะปาฏิโมกข์เป็นเล่ม เราท่องเป็นเล่มๆ เลยนะ พอท่องไปมันก็มีความผิดพลาดใช่ไหม แต่เขาเป็นคนมีปัญญามาก เขาชำนาญมาก เขารู้ไปหมด เขาเห็นตัวอักษรไปหมดเลย เวลาใครท่องผิดมันก็ยิ้มมุมปาก หัวเราะ หัวเราะ จนผู้ที่หัดท่องเขินอาย จนไม่กล้าท่อง จนเลิกไป กรรมอันนั้นทำให้โง่

    แล้วทำไมลูบผ้าขาวๆ แล้วทำไมเป็นพระอรหันต์ล่ะ

    สมัยหนึ่งเคยไปเกิดเป็นกษัตริย์ แล้วออกตรวจพลสวนสนามไง กษัตริย์เวลาขี่รถเทียมม้า ฝุ่นมันเกาะหน้า เอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดไง พอเช็ดแล้ว โอ้โฮ! กษัตริย์ใช่ไหม มันก็ต้องละเอียดอ่อนใช่ไหม พอเห็นถึงความสกปรกแล้วมันฝังใจ นี่กรรมฐานมันฝังใจมาก พอกรรมฐานฝังใจ ลูบผ้าขาว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารู้ถึงอนาคตังสญาณ รู้ถึงจริตนิสัยของคน พอสอนไปเป็นพระอรหันต์เลย นี่พระอรหันต์ เห็นไหม

    ที่มา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...