กิเลสแก้ยากมาก เพราะมุ่งแก้กิเลสผู้อื่น

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ข้าน้อยๆ, 1 พฤษภาคม 2011.

  1. ข้าน้อยๆ

    ข้าน้อยๆ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +17
    การละกิเลสยากมาก เพราะเหตุใดหรือแม้พิจารณาให้ดีย่อมได้รับความเข้าใจพอสมควรว่าการละกิเลสยากมาก เพราะพากันไปมุ่งละกิเลสผู้อื่น ไม่มุ่งละกิเลสตนเอง กิเลสจึงท่วมบ้านท่วมเมืองอยู่ทุกวันนี้ จนบดบังแสงแห่งพระพุทธศาสนา แสงแห่งพระธรรมคำทรงสอนในสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ามากขึ้นทุกเวลานาที

    อย่าไปมุ่งเพ่งเล็งแก้กิเลสของผู้อื่น แม้ปรารถนาเป็นผู้พ้นทุกข์ ทุกข์ที่เกิดจากกิเลสเพราะการเพ่งเล็งแก้กิเลสผู้อื่นนั้น นอกจากจะไม่ทำให้กิเลสของตนเบาบางห่างไกลออกไป ยังจะเพิ่มกิเลสของตนให้มากขึ้น

    กิเลสของใครคนใด ใครคนนั้นต้องแก้ ไม่ใช่คนอื่นจะไปแก้ให้ได้ สมเด็จพระบรมครูยังทรงมีพระพุทธดำรัสไว้ว่าทรงเป็นผู้ชี้ทางให้ ผู้ปรารถนาแห่งจุดหมายปลายทางต้องปฏิบัติดำเนินไปด้วยตัวเอง

    (แสงส่องใจ ๒๕๔๘ สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

    :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2011
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    *
    [​IMG]

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่าน

    <IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 600px; HEIGHT: 300px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/likebox.php?href=http%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fpages%2FBuddhaSattha%2F158726110822792&width=600&connections=20&stream=true&header=false&height=300" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>
    *<!-- google_ad_section_end -->
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p>
     
  3. เนตรอิศวร

    เนตรอิศวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2011
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +425
    สาธุ....ข้าแต่องค์พระผู้เจริญ
    .....ประเสริฐแท้....ผู้ที่ได้ถือคบไฟ แล้วเที่ยววิ่งร้องด้วยความร้อนมือ ว่าร้อนๆ เมื่อมีผู้บอกแก่เขาว่า หากไม่ยากร้อนก็ให้ทิ้งดุ้นไฟเสีย หากเขาทิ้งตามคำบอกเขานั้นก็จะไม่ร้อน แต่หากเขานั้นยังหลงเสียงสีของเปลวไฟ เขขนั้นก็ย่อมต้องร้อนมือและเที่ยววิ่งร้อนอยู่ต่อไป ตามคำแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง.
    ................สาธุ ขออนุโมทนาบุญ มาด้วยประการ ณ ฉะนี้.
     
  4. ไม่เน้นขาย

    ไม่เน้นขาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +61
    ทำตัวเองให้ได้ก่อน ก่อนที่จะไปสอนเค้า
     
  5. Red-X

    Red-X เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +1,217
    มี 5 ขันธ์ยังเอาไม่รอด ไปรับของคนอื่นมาอีกเป็น 10 ขันธ์ก็ทุกข์แย่เลย อนุโมทนา สาธุ ขอบคุณที่นำมาเตือนสติค่ะ
     
  6. อนันตา.

    อนันตา. ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +105
    [​IMG]
     
  7. จันทรเพ็ญ

    จันทรเพ็ญ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +2
    (*) ขอโมทนาคะ สาธุ (*)
     
  8. pigba3

    pigba3 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +4
    การแก้กิเลสแก้ยังไงก็ไม่หมดไปจากโลก จะแก้ต้องแก้ที่ใจว่าพอเพียงกับความต้องการของตัวเองหรือป่าว มากไปก็ไม่มีสุข น้อยไปก็ไม่มีสุข สูขทุกอย่างขึ้นอยู่มี่ร่าง จิต ใจ นั้นหลอมรวมเพื่อเป็นตัวตน เหตุแห่งการแก้กิเลสนั้นยากแท้หยั่งถึง เว้นแต่ความพอดีและพอเพียงแก่ตนเองและผู้อืน ไม่มีใครดับทุกในใจได้แต่จะดับต้องดับที่จินั่นแหละถึงจะพ้นทุกข์ พระพุทธองค์ท่าน ทรงดับทุกข์แก่ผู้อื่นเสมอ เพราะพระเมตตาของพระองค์ แม้ร่างกายของพระองค์จะแตกดับแร้วยังทรงแก้ปัญหาแห่งการดับทุกข์ให้แก่ผู้อื่นจนถึงวันที่ท่านทรงปรินิพพาน การกระทำต่างๆๆ ก็เช่นเดียวกันคนเราย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าเราจะดับทุกข์ตัวเองด้วยวิธีไหน อ่านเจอในคำสอนจององค์พระที่บอกว่าท่านจะเกิดเป็นชาติสุดท้าย เพราะฉะนั้นความสุขกับความทุกจึงอยู่ด้วยกันตลอด การที่คนเรามีความสุขมากเกินไปก็เป็นทุก มีความทุกมากเกินไปก็เป็นทุก เราจะอยู่กันตรงไหนถึงจะคือคำว่าพอดี ก็คือมีทั้งสุขและทุกคละเคล้ากันไป คนเราเกิดว่าทุกคนมีกรรมทั้งนั้น การแก้กรรมก็อยู่ที่การกระทำของบุคคลนั้น ถ้าเราไม่มีเงินมากแล้วเราจะเอาเงินไปแก้กรรมได้อย่างไร แค่จะกินยังไม่มี ต้องทำโน้นทำนี่ อย่างนี้คนที่แก้กรรมได้ก้หลุดพ้นทั้งหมดเหรอ คนไม่มีเงินก็ยังต้องเป็นคนมีกรรมอยู่เหรอ แล้วเราจะเอาอะไรมาวัดว่าเราแก้กรรมสำเร็จแล้ว แม้แต่ตัวเองยังมีทุกอยู่เรย การทำความดีคือการแก้กำที่ดีที่สุด ถึงแม้จะไม่มีเงินแต่อยู่ที่ใจถ้าใจเป็นกุศลแค่ขออนุโมทนาเราก็ได้แร้วทำเยอะก็ได้เยอะเช่นนั้นเหรอ ตัวข้าพเจ้าเงินยังไม่พอใช้เรยจะให้แก้กำแล้วเงินที่มีอยู่เอาไปแก้กรรมหมด เงินที่จะเลี้ยงปากท้องก็ไม่มีเป็นทุกไปอีก แร้วอย่างนี้คิดว่าแก้กำได้มัย คนจนไม่มีสิทธิมีสิทธิแค่คนรรวย แร้วคนจนหล่ะคะเค้าจะแกกรรมกันยังไงคะ คนเราย่อมมีทุก ทุกวันยังต้องไปปลดทุกเรยไม่ปลดข้างทางก็ในห้องน้ำ แล้วคนที่ไม่ปลดทุกมีบ้างหรือป่าว แร้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าแก้กรรมสำเร็จ เมื่อตายไป เรารู้หรือป่าวว่าไปไหน มาบอกคนอื่นได้ด้วยเหรอคะ พระพุทธศสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ทุกๆๆศาสนาสอนให้เป็นดนดี แล้วเราเป็นคนดีหรือยัง พอเพียงกับคำว่าพดีหรือยัง ถ้ายังนั่นแหละคื่อยังไม่ดีพอสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของเราได้คืออะไรเรายึดอะไรเป็นที่ตั้งหล่ะคะแล้วยึดแร้วเรายึดตลอดไปหรือป่าวหรือเป็นบางครั้งเวลาเราคิดจะยึดเหนี่ยว ในโลกนี้คนดีกับคนชั่วเป็นของคู่กัน ทุกอย่างย่อมต้องการคู่ถ้าไม่เข้าคู่กันแร้วก็ย่อมเกิดความไม่สมดุล การจะทำอะไรนั้นขึ้นอยู่ที่จิตใจของตนเองมากกว่าว่าเราต้องการทำสิ่งไหนมากกว่ากันนั่นแหละเราถึงจะรู้ว่าเราดีพอหรือพอดี กิเลสไม่สามรถหมดไปจากใจหรอกต้องมีความคิดถึงแม้ว่าจะแวปๆ นั่นก็คือกิเลสก็คือความอยากนั่นแหละ อยากโน่นอยากนี่ไปหมด ไม่รู้ว่ามันจะอยากอาไรกันนักก็ไม่รู้อย่างดิฉันอยากโน่นอยากนี่แต่พอได้ความอยากแล้วสิ่งที่เหลือก็คือความทุก อยากให้ลองอ่านดู ถ้าพูดผิดก็ติเตียนได้ คำพูดของคนเราย่อมมีผิดพลาดได้ ถ้าคิดว่าตัวเองไม่มีข้อติอันนี้ก้เป็นไปไม่ได้อยู่แร้ว คนอะไรจะไม่มีที่ติเลยย่อมเป็นไปไม่ได้ การพิมพ์เช่นนี้ก้ออกมาจากจิตใจเพราะ โลกของเราต้องถ่อยทีถ้อยอาสํยมันถึงจะเย็น ถ้าไม่พูดแร้วจะรู้ได้งัย คนไม่พูดก็คือคนเป็นใบ้ คนเป็นใบ้ก็มีภาษามือ คนตาบอดก็มีอักษรเบลล์ แร้วคนหูหนวกหล่ะ จะตะโกนบอกเค้ายังไงดีมีอาไรช่วยบอกเค้าได้บ้าง คนที่น่าสงสารที่สุดก็คือคนหู้หนวกใจบอดไงคะ
     
  9. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    อนุโมทนา สาธุ กับท่านจขกท. เห็นด้วยอย่างยิ่ง สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือบุคคลที่หลงตัวเองว่าดีแล้ว วิเศษแล้ว เหนือผู้อื่นแล้ว เที่ยวเพ่งเล็งแก้กิเลสผู้อื่น หารู้ไม่ว่าตัวเองกลับพอกพูนไปด้วยกิเลสอย่างแน่นหนา กลับไม่รู้ตัวอีก
    น่าอนาถใจแท้ๆ
     
  10. อกนิษฐกา

    อกนิษฐกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +117
    สมเด็จพระบรมครูยังทรงมีพระพุทธดำรัสไว้ว่าทรงเป็นผู้ชี้ทางให้ ผู้ปรารถนาแห่งจุดหมายปลายทางต้องปฏิบัติดำเนินไปด้วยตัวเอง

    สาธุ สัพพะทานัง ธรรมะทานัง ชินาติ

    สาธุ นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ

    สาธุ นิพพานัง ปะระมังสุขัง
     
  11. san_tode

    san_tode เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +131
    ต้องเริ่มจากตัวเองครับ อนุโมทนา สาธุ ด้วยคนครับ
     
  12. คนรักชาติ

    คนรักชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +181
    [​IMG]
    ขอบุญบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยะทุกพระองค์ พระโพธิสัตย์ทุกพระองค์โดยมีบุญบารมีของหลวงปู่ดู่และหลวงปู่ทวดเป็นที่สุดช่วยดลบันดาลให้จิตข้าพเจ้าฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีของผู้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่โพส ฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีผู้โพสกระทู้ ฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีผู้อ่านกระทู้ และฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีของผู้ตอบกระทู้ ข้าพเจ้าอยากมีส่วนร่วมกับบุญบารมีของพวกท่านทั้งบุญบารมีในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
    พุทธังอนันตัง ธัมมังจักรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจะโยโหตุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...