ข้อความจากต่างมิติ - วิหารแห่งการกลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาว (The Temper of Rejuvenation)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 19 เมษายน 2012.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    ข้อความนี้ เป็นข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากครายออนนะครับ
    และก็เป็นอีกข้อความหนึ่ง ที่อ่านแล้วรู้สึกตื่นเต้นตามไปด้วยมากๆ
    เพราะอยากให้มันเกิดขึ้นเร็วๆหนะครับ เพราะครายออนบอกว่า อีกไม่นานนี้
    มนุษย์ก็จะค้นพบความลับบางอย่างของ Stem cell และ embryonic cell แล้ว
    รวมถึงจะค้นพบความลับของการทำให้กลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาวใหม่อีกครั้งหนึ่งแล้วด้วย
    ซึ่งนั่นจะทำให้มนุษย์รู้วิธีที่จะทำให้แขน-ขาที่ขาดหายไป งอกกลับคืนมาใหม่ได้

    ฟังดูเผินๆแล้ว..ก็คงจะรู้สึกว่ายากที่จะเชื่อถือได้ใช่ไหมหละครับ..
    แต่สไตน์ครายออนหนะ..เขาไม่พูดอะไรขึ้นมาลอยๆหรอกนะครับ..ลองอ่านกันดูนะครับ

    แต่อย่างไรเสีย ผมก็ต้องกล่าวไว้ก่อนเหมือนทุกๆครั้งว่า

    "โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลทุกๆข้อมูลเสมอนะครับ"

    ...............................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2014
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon

    ตอนที่ 1:


    สวัสดีที่รักทั้งหลาย ฉันคือครายออนแห่งหน่วยบริการแม่เหล็ก


    ที่ๆฉันอยู่นี่ มันไม่มีกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงเหมือนในมิติที่ 3 หรอกนะ

    ดังนั้น มันจึงเป็นการยากสำหรับฉัน ที่จะส่งข้อความที่ synchronize กับโลกแห่งความเป็นจริง
    ที่พวกคุณกำลังอยู่พอดี ให้กับพวกคุณ หรือถึงผู้ร่วมงานของฉัน (นาย Lee – ผู้แปล)
    ดังนั้น บ่อยครั้งพวกเราจึงใช้วิธีการบอกข้อมูลที่เกี่ยวกับพลังงานและศักยภาพทั้งหลายที่อยู่ที่นี่
    ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่ในกาลเวลาของพวกคุณแทน และนั่นแหละคือข้อความสื่อสารในครั้งนี้หละ

    พวกเรามีเรื่องที่จะพูดอยู่แค่ไม่กี่เรื่องเอง แต่พวกเราจำเป็นจะต้องพูดอย่างช้าๆ และอย่างถูกต้องด้วย
    เพราะว่าพวกเรากำลังจะพูดถึงเรื่องที่ผู้ร่วมงานของฉันยังไม่เคยรู้มาก่อนเลย
    ดังนั้น ฉันจะทำให้เขามองเห็นภาพจากนิมิตก่อน แล้วจากนั้น เขาถึงจะแปลมันออกมาแบบ real time ไปพร้อมๆกันได้

    แม้แต่เสียงที่พวกคุณกำลังได้ยินอยู่นี้ หรือจิตสำนึกที่พวกคุณกำลังรับรู้กันอยู่นี้ และพลังงานที่อยู่รอบๆตัวเขาในเวลานี้
    ก็มาจากความสามารถของเขา ในการผสานเข้ากับโลกแห่งจิตวิญญาณซึ่งอยู่ในสภาวะควอนตัม
    ซึ่งนี่แหละที่ทำให้เขาสามารถสื่อสารข้อความที่แม้แต่เขาก็ไม่รู้มาก่อน แบบ real time ออกมาได้

    เวลาที่เขาสื่อสาร เขาจะแยกตัวเองออกมาต่างหาก เหมือนอย่างที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้
    และเขาจะคอยรับฟังด้วยความอยากรู้อยากเห็น ว่าข้อความที่จะสื่อสารมานั้นจะคืออะไร แต่มันไม่ใช่การเข้าทรง

    ผู้ชายที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอีตัวนี้ (นาย Lee – ผู้แปล) เป็นคนที่ฉันมีข้อตกลงด้วย แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่เขาไม่เคยกล่าวถึงมากนัก
    เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ฉันบอกกับเขาว่า “พวกเราจะต้องสื่อสารกันทางโทรจิตแบบนี้” เขาตอบว่า “ฉันขอปฏิเสธที่จะถูกเข้าทรง”
    ดังนั้น ฉันจึงเสนอวิธีการผสานเข้าด้วยกันให้กับเขาแทน และฉันก็บอกกับเขาว่า

    “ถ้าคุณจะยอมผสานเข้ากับฉันในช่วงเวลาเหล่านี้ มันก็จะมีสักวันหนึ่งที่การผสานนี้จะเกิดขึ้นอย่างถาวร” แล้วเขาก็เห็นด้วย

    ดังนั้นเขาจึงถามฉันว่า “การผสานกันแบบนี้มันเป็นเรื่องผิดปกติหรือเปล่า?” ฉันจึงบอกเขาไปว่า “ไม่เลย”
    เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกคนสามารถทำได้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ว่าให้มานั่งต่อหน้าผู้คน
    แล้วทำการสื่อสารทางโทรจิตอย่างที่พวกคุณกำลังเห็นอยู่นี้นะ แต่หมายถึงให้มีประตูเชื่อมต่อโดยตรงกับพระผู้สร้าง
    ที่อยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างแทน

    มันไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติแต่อย่างใดเลย เพราะว่ามันคือสิ่งที่มนุษย์ทุกคน สามารถรู้สึกได้ด้วยสัญชาติญาณอยู่แล้ว
    ว่านั่นคือสิ่งที่ตัวเองต้องการ ซึ่งก็คือการเชื่อมต่อกับบ้านของตัวเองนั่นเอง

    สิ่งเหล่านี้ได้ถูกทำมานานแล้ว และทำไปหลายครั้งแล้วด้วย โดยมนุษย์ก่อนหน้านี้
    และก่อนหน้านั้นพวกเขาก็เคยทำกันมาแล้วด้วย และก่อนหน้านั้นอีก พวกเขาก็เคยทำกันมาแล้วเช่นกัน
    (เดี๋ยวจะอธิบายไว้ในข้อความสื่อสารคราวหน้า) ซึ่งผลจากการผสานรวมกันอย่างพอเหมาะพอดี ในท้ายที่สุดแล้ว
    จะทำให้พวกคุณสามารถเชื่อมต่อกับแหล่งกำเนิดได้ และทำให้พวกคุณไม่เป็นมนุษย์ในแบบที่พวกคุณให้คำนิยามกันไว้นี้อีกต่อไป

    บรรดาผู้ที่เคยมาบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์เอาไว้บนโลก ตอนนี้พวกเขาก็ยังคงอยู่ที่นี่ เพราะว่าพวกเขาไม่ตาย
    พวกเขาอยู่ในสภาวะควอนตัม และพวกเขาก็สามารถที่จะไปที่ไหนก็ได้ที่พวกเขาต้องการ
    พวกเขาอาศัยอยู่ในที่ต่างๆของโลก เช่น ที่เทือกเขาแชสต้า และในเกาะฮาวาย (ในประเทศของคุณ)
    และในจุดที่เป็นประตูมิติจุดอื่นๆของโลกด้วย

    พวกคุณหลายคนที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ รู้ว่าฉันกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ และนั่นแหละคือคำมั่นสัญญา
    ของสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “โลกทั้งหลาย” ทุกๆโลก ที่เข้าสู่กระบวนการอย่างหนึ่ง
    ซึ่งเมื่อพวกเขาสามารถผ่านจุดแห่งการตัดสินใจบางจุดไปได้แล้ว พวกเขาก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการใหม่
    และพวกเขาก็จะเปลี่ยนโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเขาไปสู่รูปแบบอื่น ที่ไม่ใช่มิติที่สามอีกต่อไป

    ............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2012
  3. Duangchan Rach

    Duangchan Rach Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2011
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +28
    รออยู่คะ รออ่าน น่าสนใจอีกแล้ว
     
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)


    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    http://spiritlibrary.com/kryon/channelings/the-recalibration-of-knowledge

    ตอนที่ 2:

    การสื่อสารที่เป็นความลับของฉัน


    ฉันพยายามจะไม่ทำให้มันเป็นความลับ แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็จะไม่เปิดเผยความลับ
    ของหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกคุณยังไม่รู้หรอก เพราะว่าโลกแห่งจิตวิญญาณได้ให้สัญญากับมนุษย์ไว้ว่า


    “เพราะว่าในขณะนี้ ดาวเคราะห์ของพวกคุณ
    คือดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรี
    ดังนั้น พวกเราจึงไม่สามารถบอกใบ้ให้พวกคุณได้

    ดังนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะถูกเปิดเผยออกมาได้
    จะต้องมีอยู่แล้วในศักยภาพของความคิดของมนุษย์
    และทุกๆแนวความคิดเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ใดๆที่อาจจะมีขึ้นมาในอนาคต
    มันจะต้องมีอยู่แล้วที่ไหนซักแห่งในจิตใจของมนุษย์ซะก่อน
    ไม่เช่นนั้นแล้ว พวกเราก็จะไม่พูดมันออกมา”

    เพราะว่านี่คือการให้ความเคารพแก่กระบวนการทดสอบที่อยู่ต่อหน้าพวกคุณในขณะนี้
    และเป็นการให้ความเคารพแก่ประสบการณ์ที่พวกคุณมาที่นี่เพื่อที่จะมีด้วย

    “มันคือข้อตกลงระหว่างพวกคุณกับพวกเรา”

    บางที..นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่พวกคุณได้ยินเรื่องนี้จากผู้รับสาส์นก็ได้ เรื่องที่ว่าพวกเราจะไม่เปิดเผยสิ่งใดๆ
    ที่ยังไม่ได้มีอยู่แล้วที่นี่ โดยวิธีใดวิธีหนึ่งอย่างเด็ดขาด แต่มันคือความจริง

    แต่อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว กระแสความคิดแห่งการสร้างสรรของมนุษย์
    ไม่ว่าจะเป็นกระแสความคิดที่เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์, เกี่ยวกับศักยภาพความเป็นไปได้
    หรือเกี่ยวกับปรัชญาก็ตาม มันอาจจะต้องใช้เวลายาวนานถึงสิบปีหรือมากกว่านั้น
    กว่าที่มันจะไปถึงหูของมนุษย์โลกส่วนใหญ่ได้

    เพราะฉะนั้น ในวันนี้ฉันจะบอกอะไรบางอย่างแก่พวกคุณ ซึ่งพวกเราเห็นว่ามันมีศักยภาพแห่งความเป็นไปได้อยู่ที่นั่นแล้ว
    มันไม่ใช่การทำนายอนาคต เพราะว่ามันมีอยู่บนโลกเรียบร้อยแล้ว

    ดังนั้น ฉันจึงจะพาพวกคุณผ่านอะไรบางอย่างไปอย่างรวดเร็ว

    ........................

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2012
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon

    ตอนที่ 3:


    พลังงานของปี 2012


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต-ซุ้มกระบี่)

    พวกคุณกำลังอยู่ในพลังงานใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น มันเป็น “พลังงานใหม่” ที่แตกต่างจากในอดีตอย่างสิ้นเชิง
    เมื่อสิ้นสุดปี 2011 แล้วย่างเข้าสู่ปี 2012 มันได้นำพาสิ่งที่พวกเราเคยพยากรณ์เอาไว้นานมาแล้วมาให้แก่พวกคุณ
    มันคือ “ซุ้มกระบี่” (The Bridge of Swords) มันคือซุ้มกระบี่ที่พวกเราเคยกล่าวถึงไปแล้วก่อนหน้านี้
    ซึ่งก็คือซุ้มกระบี่ที่มนุษย์จะใช้เพื่อเดินลอดไปจากพลังงานหนึ่งไปสู่อีกพลังงานหนึ่ง
    และมันก็ถูกป่าวประกาศไปทั่วจักรวาลนี้

    มันถูกป่าวประกาศโดยผู้ที่เคยมาช่วยเพาะเมล็ดพันธุ์เอาไว้บนโลก
    และโดยผู้ที่เคยช่วยเพาะเมล็ดพันธุ์ให้กับพวกเขาอีกที
    และโดยผู้ที่ทำแบบเดียวกันนี้ก่อนหน้านั้นอีกที และโดยผู้ทำก่อนหน้านั้นอีกทีด้วย
    และตอนนี้ พวกเขาทั้งหมดนี้กำลังยืนล้อมรอบพวกคุณอยู่ อยู่ข้างหน้าพวกคุณ อยู่ในทางเดินชีวิตของพวกคุณ
    พวกเขากำลังยืนถือกระบี่ไขว้กันเป็นซุ้มกระบี่อยู่เหนือศรีษะของพวกคุณ
    พวกเขากำลังเฉลิมฉลองชัยชนะให้แก่พวกคุณ คล้ายๆกับงานมงคลสมรสของคนในกองทัพ
    ที่จะมีเพื่อนสนิทในสนามรบมายืนเข้าแถวและไขว้กระบี่ทำเป็นซุ้มให้พวกคุณเดินลอดไป
    นั่นแหละคือซุ้มกระบี่หละ และนั่นแหละคือสิ่งที่พวกคุณกำลังทำอยู่หละ

    โอ..ที่รักทั้งหลาย..มันอาจจะฟังดูว่าลึกลับสำหรับพวกคุณอีกแล้ว แต่ผู้ที่กำลังยืนถือกระบี่ไขว้กันอยู่เหล่านี้
    คือผู้ที่เคยผ่านพ้นสิ่งที่พวกคุณได้ผ่านพ้นมาแล้วนี้เหมือนกัน พวกเขาจึงรู้ว่ากำลังมีอะไรเกิดขึ้นอยู่
    และรู้ว่า มันจะนำพาพวกคุณไปสู่ที่ไหนด้วย พวกเขารอคอยให้ถึงเวลานี้มานานแสนนานแล้ว
    พวกเขามีจำนวนมากมายก่ายกอง และมาจากส่วนต่างๆของจักรวาลแห่งนี้ด้วย และพวกเขาทั้งหมดนี้ก็รู้ด้วย

    ……………………
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2014
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon

    ตอนที่ 4:

    ความช่วยเหลือสำหรับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้

    พวกคุณได้รับความช่วยเหลือมาโดยตลอด อะไรเกิดขึ้นกับดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่กำลังเริ่มที่จะนุ่มนวลลงแล้ว?
    จิตวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายคือผู้ถือแสงสว่างเอาไว้ และก็ได้ทำเช่นนั้นมาหลายปีแล้ว
    พวกเขาคือผู้ที่สามารถส่องแสงสว่างท่ามกลางความมืดให้ชาวโลกคนอื่นๆมองเห็นได้
    นั่นแหละคือสิ่งที่พวกคุณพากันทำมาแล้วหลายปี และมันก็คือการสู้รบเพื่อเลื่อนระดับขึ้นไปด้วย

    แม้ว่าพวกเราจะใช้วิธีการเปรียบเทียบบ่อยเหลือเกินแล้วก็ตาม แต่การเปรียบเทียบที่พวกเรากำลังจะใช้ต่อไปนี้
    จะทำให้พวกคุณเข้าใจได้ง่ายขึ้น

    ลองคิดดูสิว่าถ้าชาวโลกพากันเดินอยู่แต่ในความมืดมิดมานับพันๆปีแล้วนี่ และแม้ว่ามันจะเป็นแค่ความมืดมิดเฉยๆเท่านั้น
    มันไม่ใช่ความชั่วร้ายหรือความลึกลับอะไรเลย แค่มันไม่มีแสงสว่างเท่านั้นเอง แต่ความมืดมิดนี้
    ก็ทำให้มนุษย์ไม่สามารถรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้แล้ว เพราะว่ามันยากที่จะทำเช่นนั้นได้
    ถ้ามนุษยชาติทั้งผองยังคงเดินอยู่ในความมืดมิดอยู่ เพราะว่ามันยากที่จะรู้ได้ว่าพวกคุณจะต้องทำยังไง

    เพราะว่าในขณะที่กำลังเดินอยู่นั้น พวกคุณมองไม่เห็นอะไรเลย ดังนั้น พวกคุณจึงใส่ใจแต่กับตัวเองเท่านั้น
    ใส่ใจแต่กับเรื่องที่จะเอาชีวิตให้รอดไปวันๆเท่านั้นมากกว่าเรื่องอื่นๆ เพราะนั่นเป็นเรื่องที่จำเป็นที่สุดนั่นเอง

    เพื่อที่จะอยู่ให้รอด พวกคุณจึงพากันสะสมผู้คนเอาไว้รอบๆตัวเองเพื่อความปลอดภัยและเพื่อความสะดวกสบาย
    พวกคุณสามารถที่จะได้ยินเสียงของพวกเขาได้ พวกคุณสามารถที่จะรู้สึกถึงพวกเขาได้
    พวกคุณสามารถสะสมสิ่งที่เรียกว่ากลุ่มคนขึ้นมาได้ แล้วพวกคุณก็เกาะกลุ่มกันอยู่ในความมืด

    อันนี้คือการเทียบเคียงเพื่อให้เห็นถึงสภาพของโลกที่พวกคุณรู้จักอยู่นี้เท่านั้น

    และที่สงครามเกิดขึ้นได้ก็เพราะว่า พวกคุณอยู่ในความมืด พวกคุณไม่สามารถมองเห็นคนอื่นๆได้
    ดังนั้น พวกคุณจึงหวาดกลัวพวกเขา และเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาที่จะปกป้องโลกแห่งความเป็นจริงของตัวเอง
    นั่นแหละคือวิถีที่มันเป็นมาแล้ว และเป็นมาเกือบจะตลอดระยะเวลาในประวัติศาสตร์ของมันเลยทีเดียว

    แต่อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้น แสงสว่างก็ปรากฎขึ้น

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    แล้วเกิดอะไรขึ้นหละเมื่อแสงสว่างปรากฎขึ้นในความมืด แม้ว่าจะเพียงริบหรี่ก็ตาม?

    ทันใดนั้น หลายคนก็เริ่มที่จะมองเห็นทางเดินแล้ว ลองจินตนาการดูสิว่า การที่จะต้องเดินอยู่ในความมืด
    จากจุด A ไปถึงจุด B เป็นระยะเวลายาวนานหลายศตวรรษแล้ว แล้วจู่ๆก็มีแสงสว่างปรากฎขึ้นบนทางเดินแบบนี้
    มันจึงไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวต่อสิ่งที่ไม่รู้จักอีกต่อไปแล้ว เมื่อพวกคุณสามารถมองเห็นมันได้อยู่ตรงหน้าพวกคุณ!

    พวกคุณจึงมีอิสระที่จะรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้
    เพราะว่าพวกคุณสามารถมองเห็นแล้วว่า คนอื่นๆก็เหมือนกันกับพวกคุณดีๆนี่เอง!
    พวกคุณจึงมีอิสระที่จะคิดที่จะฝันได้ พวกคุณจึงมีอิสระที่จะมีความรู้ได้

    ………………….
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2014
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)


    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon

    ตอนที่ 5:


    ข้อความพิเศษตอนนี้ คือข้อความที่ฉันได้เคยบอกกับพวกคุณไปแล้วว่ามันจะต้องเกิดขึ้น
    พวกคุณอาจจะเรียกมันว่า “การปรับตั้งค่าใหม่ให้กับความรู้ของดาวเคราะห์โลก” ก็ได้นะ
    (The Recalibration of Knowledge on the Planet)

    เพราะว่าตอนนี้ความอ่อนโยนกำลังเกิดขึ้นกับโลกใบนี้อยู่ อย่างช้าๆ จนพวกคุณไม่รู้ตัว
    พลังงานของดาวเคราะห์โลกกำลังเคลื่อนจากความเป็นเพศชายไปสู่ความเป็นเพศหญิงมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
    หรืออาจจะพูดได้ว่า มันกำลังปรับความสมดุลให้กับความไม่สมดุลอยู่

    ซีกโลกทางเหนือและซีกโลกทางใต้ กำลังจะมารวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ดังนั้น มันจึงจะไม่มีอีกแล้วคำว่า
    "ซีกโลกเหนือแห่งความเป็นลูกผู้ชาย" แต่มันจะมีก็แต่ซีกโลกเหนือที่สมดุลแล้วแทน
    และมันจะต้องเป็นไปแบบนี้แหละ สำหรับทวีปแอฟริกา เพื่อที่มันจะได้ทำในสิ่งที่มันกำลังจะทำ
    (ตามคำพยาการณ์ที่อยู่ในช่วงถัดไป)

    จงคอยดูทวีปแอฟริกาในแผนที่ไว้ให้ดี แล้วพวกคุณจะรู้ว่าฉันกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่
    ความสมดุลจะต้องเกิดขึ้น และมันก็กำลังเกิดขึ้นอยู่แล้วด้วย
    แอฟริกากำลังจะกลายเป็น “โลกใหม่” อย่างแท้จริงภายใน 75 ปีข้างหน้านี้


    แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพวกคุณเยียวยารักษาทวีปๆหนึ่งได้ และทำให้สิ่งจำเป็นพื้นฐานในชีวิตทั้งหลาย
    กลายเป็นสิ่งที่สามารถหาได้ทั่วไป โดยปราศจากการควบคุมของโรคภัยไข้เจ็บ และของผู้นำเผด็จการทั้งหลาย?

    คำตอบก็คือ การเริ่มต้นอันมหัศจรรย์ของอารยะธรรมที่ไร้พรมแดน
    และไม่มีอะไรที่จะถูกทอดทิ้ง ยกเว้นแต่ความยากจนเท่านั้น
    จงคอยจับตาดูให้ดี และ “ถอยออกมา”


    อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าโลกเริ่มอ่อนโยนลง และมีแสงสว่างมากขึ้นด้วย?
    แม้แต่ผู้ก่อการร้าย ก็ยังจะเปลี่ยนไปด้วยหนะสิ

    มนุษย์โลกเอ๋ย ฉันขอเชิญพวกคุณให้คอยจับตาดูไว้ให้ดี
    ฉันขอเชิญพวกคุณให้คอยจับตาดูพวกมันเอาไว้ทั้งหมดเลย
    แล้วพวกคุณจะได้เห็นบางสิ่งบางอย่าง
    ที่พวกคุณไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นได้ เกิดขึ้นจริงๆ

    ตอนที่สหภาพโซเวียดล่มสลายนั้น มีพวกคุณซักกี่คนที่สามารถตอบได้ว่า
    ทำไมมันถึงเกิดขึ้นได้โดยไม่มีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้น?
    นั่นก็เพราะว่า ผู้คนที่อยู่ที่นั่นไม่สามารถที่จะค้ำจุนพลังงานเก่าเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้วหนะสิ
    เพราะว่ามันถึงเวลาของมันแล้ว

    เพราะว่าตามหลักของ “ฟิสิกส์แห่งจิตสำนึก” (physics of consciousness) แล้ว
    ถ้าไม่มีกลุ่มของมนุษย์กลุ่มใดให้ความร่วมมือและเห็นพ้องต้องกันกับพลังงานเก่านั้นอีกต่อไปแล้ว
    มันก็จะคงอยู่ไม่ได้อีกต่อไป


    แล้วอะไรจะเกิดขึ้นถ้าชาวโลกส่วนใหญ่ไม่ต้องการสงครามอีกต่อไปแล้ว?
    จริงๆแล้ว พวกคุณก็กำลังเห็นสิ่งนี้ค่อยๆเกิดขึ้นอยู่แล้ว

    มีใครเคยบอกพวกคุณมาก่อนหรือไม่ว่า
    เวลาที่พวกคุณกำลังอยู่นี้ มันเลยเวลาที่จะเกิดสงครามโลกครั้งใหม่ไปแล้ว?
    แต่ถ้ายังอยู่ในมิติที่ 3 นี้ต่อไปพวกคุณก็จะยังมีโอกาสอยู่
    หรือถ้าพวกคุณยังอยู่ในกระบวนทัศน์ของพลังงานเก่าอยู่
    พวกคุณก็จะยังมีโอกาสที่จะเกิดสงครามโลกขึ้นอีกครั้งอยู่

    ฉันอยากจะให้พวกคุณคอยจับตาดูอยู่ซักสองสามศตวรรษ แต่ฉันไม่มีนาฬิกา
    (ครายออนหมายถึงว่า ณ.ฟากฝั่งโน้นของม่านพราง ที่ครายออนอยู่ มันไม่มีกาลเวลาอยู่
    มันจะมีก็แต่ศักยภาพแห่งความเป็นไปได้เท่านั้น) ฉันแค่จะบอกพวกคุณว่า มันใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว
    (สำหรับโลกแห่งจิตวิญญาณแล้ว คำว่าใกล้จะเกิดขึ้นแล้วนี่ อาจจะหมายถึงระยะเวลานานเป็นสิบปีก็ได้)

    ฉันอยากจะให้พวกคุณคอยจับตาดูการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นให้ดี สักสองสามศตวรรษ
    พวกคุณกำลังจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนหลายอย่าง แต่การเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
    ก็อาจจะไม่ชัดเจนก็ได้ (มันแอบแฝงซ่อนเร้นอยู่) แต่การเปลี่ยนแปลงพวกที่ชัดเจนทั้งหลาย
    พวกคุณจะได้เห็นก่อนการเปลี่ยนแปลงพวกที่ไม่ชัดเจน

    เช่น ประเทศคิวบา, เกาหลีเหนือ, อิหร่าน และแน่นอน เวเนซูเอล่าด้วย
    ฉันอยากจะให้พวกคุณคอยจับตาดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น
    เมื่อตอนที่พวกเขาเหล่านี้เริ่มประจักษ์ชัดว่า พวกเขาไม่มีพันธมิตรใดๆเหลืออยู่บนโลกนี้อีกแล้ว!

    เพราะว่าแม้แต่ “พี่น้อง” ของพวกเขาเอง ผู้ที่เคยให้การสนับสนุนพวกเขาให้เกลียดชังบางประเทศอยู่
    ก็ยังจะพูดว่า “เอาหละ..บางทีอาจจะไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว เพราะดูเหมือนว่า
    มันไม่มีประโยชน์ต่อพวกเราอีกต่อไปแล้ว”

    จงคอยจับตาดูปรากฎการณ์ synchronicity ทั้งหลาย ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ให้ดี
    บรรดาผู้นำทั้งหลาย ทั้งที่ตายไปแล้ว และที่กำลังจะตายในปีหน้านี้หรือราวๆนั้นด้วย
    จะนำพาวิถีทางแบบเก่าๆตายไปพร้อมกับตัวเองด้วย

    และจงคอยจับตาดูผู้ที่จะมาแทนที่พวกเขาให้ดี และจงจดจำสิ่งที่ฉันได้บอกกับพวกคุณ
    เกี่ยวกับศักยภาพแห่งความเป็นไปได้เหล่านี้ ในการชุมนุมครั้งนี้ไว้ให้ดีด้วย

    ..........................
     
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)


    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon

    ตอนที่ 6:


    พลังงานเก่ายังมีชีวิตอยู่ แต่มันไม่มีความสุข


    ฉันอยากจะบอกอะไรกับพวกคุณบางอย่าง ว่าพลังงานเก่ามันตายอย่างหวาดเสียวและกรีดร้อง
    แต่พลังงานเก่ามันก็ไม่เคยยอมแพ้หนึ่งหรอกนะ เพียงแต่ว่ามันตายไปอย่างเจ็บปวดและตายไปอย่างช้าๆเท่านั้นเอง
    แต่มันก็จะยังมีการยื้อยุดฉุดลากไปอีกนาน เพราะว่ามันจะมีกลุ่มคนที่มีความเชื่อว่า มีทางเดียวเท่านั้น
    ที่จะทำให้ได้มาซึ่งสิ่งที่พวกเขาต้องการ ซึ่งนั่นก็คือการเล่นละครตบตา, การทำสงคราม, และการทำให้หวาดกลัว
    ดังนั้น พวกเขาจึงอยากจะดีดตัวขึ้นมาตรงที่ๆพวกคุณรู้สึกว่าปลอดภัยแล้วอยู่ตลอดเวลา
    เพื่อที่จะฉุดลากพวกคุณให้จมไปกับพวกเขาอีก

    พวกเขาเกลียดความจริงที่ว่า โลกกำลังจะทำให้พวกเขาอ่อนโยนลง
    ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามที่จะรัวเสียงหอกเสียงดาบต่อไป หรือทำการคุกคามอยู่ต่อไป
    แล้วก็ทำให้มันเป็นข่าวดังข่าวใหญ่ต่อไปด้วย

    แต่มนุษย์โลกเอ๋ย พวกเขาไม่ใช่ผู้คนส่วนใหญ่ของโลกหรอกนะ
    แต่พวกเขาแค่มักจะพูดเสียงดังที่สุดเท่านั้นเอง

    เวลาที่พวกคุณเดินไปไหนต่อไหนด้วยความมีสุขภาพที่ดีพร้อมสมบูรณ์เต็มที่
    พวกคุณก็จะรู้สึกดีมากๆเลยใช่ไหม แต่ถ้าหัวแม่เท้าของพวกคุณกำลังเจ็บอยู่หละ พวกคุณจะนึกถึงอะไร?

    พวกคุณก็จะนึกถึงแต่หัวแม่เท้าที่กำลังเจ็บอยู่หนะสิ! เพราะฉะนั้น พวกคุณจึงได้เห็นแต่สื่อมวลชน
    พูดถึงแต่เรื่องหัวแม่เท้าที่กำลังเจ็บอยู่นี้ไม่เลิกซะที จนทำให้พวกคุณรู้สึกท้อแท้หดหู่ ฉันรู้ว่าพวกคุณเข้าใจข้ออุปมานี้

    .................
     
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)


    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon

    ตอนที่ 7:


    อีกครั้งหนึ่ง..เรื่องเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ


    หลายปีก่อนผู้ร่วมงานของฉันเคยรู้สึกขัดใจที่จะต้องบอกข้อความสื่อสารจากฉันออกไป เกี่ยวกับเรื่องสภาพภูมิอากาศ
    เพราะว่า “มันใช่ภาวะโลกร้อนไหม?” ไม่ใช่เลย “แล้วมันจะดีขึ้นไหม?” ก็ไม่อีกนั่นแหละ
    เพราะว่ามันเป็นวัฏจักรที่จะต้องใช้เวลาครบรอบถึงสองชั่วอายุคน

    ดังนั้น มันจึงจะมีแผ่นดินไหวอยู่ต่อไป, มีสึนามิ, มีภูเขาไฟระเบิด,และมีพายุอยู่ต่อไป
    เพราะนี่คือกระบวนการปรับตั้งค่าใหม่ให้กับชีวิตในมหาสมุทร และมนุษย์ก็จะต้องผ่านพ้นมันไปให้ได้
    ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม นี่คือวัฏจักรๆหนึ่ง วัฏจักรที่เป็นที่รู้จักกันดีและถูกคาดหวังเอาไว้อยู่แล้ว
    แต่เพราะว่ายุคสมัยนี้พวกคุณยังไม่เคยผ่านมันมาก่อน พวกคุณจึงยังไม่เข้าใจมันดีพอ

    ฉันอยากจะบอกพวกคุณว่า พวกคุณเองก็มีสัญชาติญาณการหยั่งรู้เช่นเดียวกันกับที่สัตว์ทั้งหลายมีนั่นแหละ
    เพื่อเอาไว้ใช้เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้พวกคุณปลอดภัยในช่วงเวลาและสถานที่ๆจำเป็น
    แต่พวกคุณกลับไม่เชื่อสัญชาตญาณของตัวเองซะนี่

    โอ..พวกคุณจะใช้ “เทพในที่จอดรถ” แต่ไม่ยอมใช้ “เทพในชีวิต” เลย

    (หมายถึง เวลาเราขับรถไปที่ไหนที่หาที่จอดรถยากๆ เรามักจะลุ้น หรือภาวนาขอให้มีที่จอดรถ
    แล้วทันใดนั้นรถคันข้างหน้าก็ถอยออกมาพอดี เราจึงมีที่จอดพอดี เรียกว่ามีเทพแห่งที่จอดรถตรงนั้นช่วย – ผู้แปล)

    เรื่องเล็กๆน้อยๆนี้มันง่ายสำหรับพวกคุณที่จะเข้าใจ แต่ว่าเรื่องใหญ่ยังเป็นเรื่องลึกลับสำหรับพวกคุณอยู่
    แต่มันก็เป็นกระบวนการเดียวกันนั่นแหละ นั่นก็คือ

    “ข้าแต่พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ข้าควรจะอยู่ที่ไหน?”
    “ข้าแต่พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ข้าควรจะไปที่ไหน?”


    แล้วจิตวิญญาณก็จะตอบคำถามนั้นของพวกคุณ ณ.ตอนนั้นเลย
    โดยที่พวกคุณจะรับรู้คำตอบได้จากสัญชาตญาณการหยั่งรู้

    แต่สิ่งแรกที่พวกคุณมักจะทำก็คือ การพูดออกมาว่า

    “นั่นไม่ใช่เลย เพราะว่านั่นเป็นความคิดของฉันเองต่างหากหละ
    ไม่ใช่เลย..เสียใจนะ..ฉันกำลังรอคอยเสียงตอบลงมาจากฟ้าอยู่”


    พวกคุณยังไม่เข้าใจอีกหรือว่า
    นั่นแหละคือวิธีการที่พระเจ้าใช้พูดกับแต่ละคนหละ
    ซึ่งก็คือ พูดผ่านทางเสียงเล็กๆที่จับมือพวกคุณไว้นั่นแหละ
    และก็คือสัญชาตญาณการหยั่งรู้อันแรก
    ที่ผุดขึ้นมาหลังจากถามคำถามออกไปแล้วนั้นแหละ

    บางครั้งพวกคุณก็ได้คำตอบก่อนที่จะถามคำถามด้วยซ้ำไป
    เพราะว่าพวกเรารู้ว่าพวกคุณกำลังจะถามคำถามนั้นออกมา
    เพราะว่าบางครั้งพวกเราก็ร้อนใจอยากจะให้คำตอบนั้นแก่พวกคุณมาก
    หรือตื่นเต้นมากเพราะลุ้นอยู่ว่าพวกคุณจะถามคำถามนั้นหรือไม่
    ดังนั้น พวกเราจึงตอบคำถามนั้นให้กับพวกคุณก่อนที่พวกคุณจะถาม
    เพื่อเป็นการบอกทางเอาไว้ก่อน นี่คือการชี้แนะแนวทางให้
    นั่นคือสิ่งที่จะคาดหวังได้ ซึ่งมันมาพร้อมกับแนวความคิดในการฟื้นฟูดาวเคราะห์โลกดวงนี้

    และปีนี้ก็เป็นปีแรกที่มันจะถูกทำให้เกิดขึ้นมากขึ้นด้วย

    คราวนี้..พวกคุณจะยอมรับมัน หรือว่าจะโยนทิ้งมันไป
    เพราะคิดว่ามันเป็นความคิดที่พวกคุณปรุงแต่งมันขึ้นมาเองหละ?


    ......................
     
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon


    ตอนที่ 8:

    การเปิดเผยถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในฟิสิกส์


    ตอนนี้..เรามาพูดถึงเรื่องฟิสิกส์กันเถอะ เพราะว่าตอนนี้พวกเราสามารถที่จะเปิดเผยอะไรบางอย่างได้แล้ว
    ซึ่งเป็นสิ่งที่สวยงาม ที่กำลังเริ่มเกิดขึ้นแล้วในวงการวิทยาศาสตร์ของพวกคุณ
    และก็กำลังเริ่มที่จะถูกมองเห็น และเป็นที่เข้าใจกันบ้างแล้วด้วย

    สิ่งที่พวกคุณมีอยู่ตรงหน้าพวกคุณขณะนี้ก็คือ สุภาพบุรุษคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่บนพื้น
    เขาชื่อยาวี (Yawee) ซึ่งฉันรู้จักเขาเป็นอย่างดี

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - Dr. Todd Ovokaitys)

    [ตอนนี้ Kryon กำลังพูดถึง ดร. Todd Ovokaitys อยู่ ซึ่งเป็นนายแพทย์และเป็นนักวิจัยด้าน DNA
    และยังเป็นสมาชิกในทีมของครายออนอีกด้วย เขากำลังนั่งอยู่บนพื้นในห้องประชุมแห่งนี้
    ดร. Ovokaitys ได้รับการระบุโดย Kryon ว่าในอดีตเขาเคยเป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวเลมูเรียมาก่อน
    และเคยทำหน้าที่เป็นผู้เก็บรักษาความสัตย์จริงต่างๆภายใน “วิหารแห่งการกลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาว”
    (Temple of Rejuvenation) ของชาวเลมูเรียมาก่อนด้วย

    ซึ่งเรื่องนี้ ครายออนกล่าวไว้เมื่อปี 1994 ในหนังสือของครายออนเล่มที่ 2]

    ข้อมูลที่ธนาคารหน่วยความจำ Akashic ถ่ายทอดเข้าไปในตัวของมนุษย์แต่ละคนนั้น มันน่าสนใจมากใช่ไหมหละ?

    Akash ของพวกคุณ ก็คือหน่วยความจำของจิตวิญญาณของพวกคุณเอง
    ที่ถูกออกแบบมา ให้ปลดปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับ Akash ของพวกคุณออกมา
    เมื่อพลังงานของโลกเปลี่ยนแปลงไป จนถึงระดับที่มันมีความเหมาะสม
    ที่จะเริ่มต้นเกิดกระบวนการเปิดเผยได้แล้ว


    (หมายเหตุ1: สรุปว่าข้อมูลที่อยู่ใน Akashic record นี้ จะค่อยๆถูกปลดปล่อยออกมาให้พวกเราได้รู้
    ก็ต่อเมื่อระดับพลังงานของโลกเพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับที่เหมาะสมกับเรื่องที่จะเปิดเผยนั้นๆแล้วเท่านั้น – ผู้แปล)


    (หมายเหตุ 2: Akashic record หรือ “บันทึกแห่งฟ้า” คือบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียกทุกๆอย่าง
    ที่เกิดขึ้นในชีวิตของแต่ละคน และในทุกๆภพชาติเอาไว้ ซึ่ง ระบบบันทึกแห่งฟ้านี้ มันมีส่วนประกอบอยู่ 3 ส่วนด้วยกัน ซึ่งได้แก่

    1. ถ้ำแห่งการสรรสร้าง (The Cave of Creation)
    2. โครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์ของโลก (The Crystalline Grid)
    3. DNA ของมนุษย์ (Human DNA)


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ – ผู้แปล)

    “ข้อความจากต่างมิติ-ระบบบันทึกแห่งฟ้า-the-akashic-system-โดยครายออน”

    http://palungjit.org/threads/ข้อความจากต่างมิติ-ระบบบันทึกแห่งฟ้า-akashic-system-โดยครายออน.284651/

    ..............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2014
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    http://spiritlibrary.com/kryon/channelings/the-recalibration-of-knowledge


    ตอนที่ 9:

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - Nicola Testa)

    Nikola Tesla เคยสร้างวัตถุไร้น้ำหนักในห้องปฏิบัติการของเขาได้
    ซึ่งก็คือสิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “การต้านแรงโน้มถ่วง” นั่นเอง
    เขารู้วิธีที่จะส่งกระแสไฟฟ้าแบบไร้สาย (แต่โดยผ่านทางพื้นดิน ไม่ใช่ผ่านทางอากาศ)
    ผ่านทางพื้นโลก (ไม่ใช่ทางบรรยากาศ) และเขาก็ผิดหวังที่เขาไม่สามารถพิสูจน์ได้ดีกว่านั้น
    เพราะว่าเทคโนโลยีในสมัยนั้นยังไม่มี และยิ่งไปกว่านั้นระดับพลังงานของโลกแบบที่ตระหนักรู้ได้ในตอนนั้น
    ก็ยังไม่พร้อมสำหรับเขาอีกด้วย เขาจึงไม่สามารถผ่านพ้นอุปสรรคด้านความเชื่อของคนอื่นๆได้


    แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขากลับมาแล้ว และก็..เช่นเดียวกันกับไอสไตน์
    แล้วพวกคุณจะรู้ว่าเป็นพวกเขา เมื่อพวกคุณได้เห็นสิ่งที่พวกเขาทำ


    ตอนนี้พลังงานของโลกของพวกคุณ กำลังอยู่ในระดับที่เหมาะสม
    และพร้อมแล้วสำหรับทฤษฎีบางทฤษฎี
    ที่เคยเป็นทฤษฎีที่เกิดขึ้นก่อนเวลาอันสมควรของพวกมันเองมาก่อน
    แม้ว่าในตอนนั้น พวกมันจะมีความถูกต้องพอๆกับในตอนนี้ก็ตาม


    จงจับตาดูการพลิกโฉมหน้าใหม่ของวิทยาศาสตร์ทั้งหมดให้ดี
    เพราะว่ามันจะระเบิดขึ้นอย่างทันทีทันใด พร้อมกับวิธีการแก้ปัญหาใหม่ๆ
    ในเรื่องที่พวกคุณได้ค้นหาวิธีการแก้ปัญหากันมานานหลายปีแล้วนั้น
    แล้วพวกคุณก็จะพูดว่า "ทำไมพวกเขาถึงไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยนะ?"


    แต่อย่างไรก็ตาม จงคาดหวังถึงเรื่องปฏิกิริยา Cold Fusion ด้วย เพราะฉันเคยบอกพวกคุณมาก่อนหน้านี้แล้วว่า
    การทดลองเกี่ยวกับปฏิกิริยา Cold Fusion อันนั้น เป็นการทดลองที่ให้ผลการทดลองที่ถูกต้องแล้ว
    (ครายออนกำลังกล่าวถึงการทดลองของ Ponds และ Fleshman เมื่อในอดีต ที่ได้รับความสำคัญน้อยมากๆ)

    และสาเหตุที่การทดลองหลายๆครั้ง ไม่สามารถให้ผลการทดลองซ้ำเหมือนเดิมได้
    นั่นก็เพราะว่า การทดลองเหล่านั้น ไม่ได้ตระหนักถึงคุณลักษณะบางอย่างของแม่เหล็ก
    ที่ไปมีผลกระทบต่อการทดลองเหล่านั้นด้วยนั่นเอง

    [การทดลองเหล่านั้น ได้ดำเนินการในชั้นใต้ดิน ที่มีการติดตั้งสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าไว้รอบๆตัวพวกเขา]

    พวกเขาคิดไปว่ามันเป็นแค่เรื่องของสารเคมีเฉยๆเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่
    มันเป็นการค้นพบโดยบังเอิญด้านฟิสิกส์ ที่ยังคงความลึกลับอยู่จนกระทั่งบัดนี้
    แต่มันเป็นผลของการรวมด้านเคมีและแม่เหล็กเข้าด้วยกัน ซึ่งมีน้อยคนนักที่กำลังพยายามทำอยู่ในขณะนี้

    สิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับเทสล่าก็เช่นเดียวกัน เขาสามารถสังเกตเห็นวัตถุบินออกจากโต๊ะทำงานได้จริงๆ
    แต่เขาก็ไม่รู้จริงๆว่าเพราะอะไร แต่เขารู้ว่ามันจะต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับการออกแบบด้านแม่เหล็กอย่างแน่นอน
    แต่เขาก็ไม่สามารถเริ่มต้นออกแบบด้านแม่เหล็กที่ว่านั้นได้ เพราะข้อจำกัดด้านเครื่องมือและเทคโนโลยีในสมัยนั้น
    พวกคุณนึกออกไหม? ตอนนี้พวกคุณก็เข้าใจถึงความท้อแท้ใจของเขาแล้วนะ
    นั่นแหละคือสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นกับความก้าวหน้าของโลกใบนี้หละ

    ..............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2014
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon

    ตอนที่ 10:


    สนทนากับ Yawee [ชื่อสำหรับ ดร. ทอดด์]

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - Dr. Todd Ovokaitys)

    ตอนนี้ทอดด์อยู่ที่นี่แล้ว และในพลังงานใหม่นี้ บันทึกแห่งฟ้าตั้งแต่สมัยเลมูเรียของเขา
    ก็เริ่มที่จะเปิดเผยให้เขาได้เห็นในสิ่งที่เขาเคยรู้แล้ว พลังงานนี้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า และปลดปล่อยความทรงต่างๆ
    ที่ถูกบันทึกไว้ (engram) ออกมาสู่จิตสำนึกของเขา แต่เขาก็ไม่ได้รับพวกมันมาทั้งหมดในคราวเดียวกันหรอกนะ
    พวกคุณก็ด้วยเช่นเดียวกัน

    ก่อนหน้านี้ เขาได้เริ่มต้นแสวงหาวิสัยทัศน์นั้นมาแล้ว [พูดถึงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับ DNA ของเขา เมื่อหลายปีที่แล้ว]
    แต่ตอนนี้เขากำลังจดจำเรื่องต่างๆที่กำลังถูกปลดปล่อยออกมาให้เขาทีละน้อยๆได้แล้ว

    ข้อความต่างๆของฉันที่ส่งถึง Yawee เกี่ยวกับการปรับจูนต่อมไพเนียลแบบล้ำลึกของเขาไม่ได้มาจากอีเทอร์
    ซึ่งเขาก็รู้อยู่แล้ว แต่เราอยากจะพูดว่า เขาต้องการการกระตุ้นเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
    เพื่อที่เขาจะได้ตรงกับนาฬิกาของปี 2012 [หัวเราะ]

    และมันก็ได้ผล และเขาก็จะมีความพร้อมแบบทันเวลาพอดี แต่เขารู้ข้อมูลนี้อยู่แล้ว เขาสะดุดใจ
    และรับรู้ถึงโทนของเสียงที่ใส่เข้าไปด้วยกันอยู่แล้ว (ครายออนน่าจะกำลังพูดถึงโปรเจกร้องเพลงประสานเสียง
    ของชาวเลมูเรียของ ดร.ทอดด์นะครับ เพราะช่วงหลังจากนี้ไปอีก ครายออนก็มีพูดถึงเรื่องนี้ด้วยอีกครั้งหนึ่ง - ผู้แปล)
    เพราะว่าเขารู้เรื่องเกี่ยวกับวัฏจักรของฟิสิกส์ที่ไม่มีใครพูดถึงดีอยู่แล้ว ... และเพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงจะมาพูดถึงมันกัน

    ........................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • todd_2010.jpg
      todd_2010.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.2 KB
      เปิดดู:
      1,894
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2014
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)


    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon


    ตอนที่ 11:

    วิหารแห่งการกลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาว (Temple of Rejuvenation)


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    ในยุคสมัยของอาณาจักรเลมูเรีย ดร. Todd เคยเกิดเป็นคนชื่อยาวี (Yawee) มาก่อน
    และเขาก็มีสิ่งที่เรียกว่า “วิหารแห่งการกลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาว” (Temple of Rejuvenation) อยู่
    ซึ่งในสมัยยุคแอตแลนติส ก็เคยมีความพยายามที่จะฟื้นฟูวิหารนี้ขึ้นมาหลายครั้งต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
    เพราะว่ายาวีไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย

    ยาวีมีคุณสมบัติพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง ที่ชาวเลมูเรียก็รู้กันว่ามันไม่ธรรมดา
    ซึ่งคุณสมบัติที่ว่านั้นก็คือ เขามีอายุยืนยาวกว่าชาวเลมูเรียโดยทั่วไปถึง 3 เท่าตัว
    เพราะฉะนั้น เขาจึงมีความลับบางอย่างเก็บไว้กับตัวเขาเองอยู่
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความลับเกี่ยวกับพลังงาน และ DNA

    ในวิหารแห่งการกลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาวนี้ เขาได้ค้นพบอะไรบางอย่าง
    ที่กำลังจะเป็นผลงานที่กำลังจะถูกค้นพบอยู่ในขณะนี้ด้วย

    แต่เพราะว่าฉันไม่มีนาฬิกา ดังนั้นฉันจึงไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันถึงจะถูกค้นพบจริงๆ?
    แต่เดี๋ยวพวกคุณก็จะได้รู้เอง


    ดังนั้น ตอนนี้ฉันจึงจะพูดกับยาวี เพื่อที่จะสอนเขาต่อไป: สวัสดีตอนเช้ายาวี
    [หมายเหตุ เวลาในตอนนั้นไม่ใช่ตอนเช้า เพราะว่าการประชุมในครั้งนี้มีขึ้นเกือบจะ 17:00 น.อยู่แล้ว
    แต่หลายคนก็ไม่เคยสังเกตเห็นจุดนี้ มันเป็นมุขตลกของ Kryon.]


    ดร.Todd: สวัสดี ท่านคุรุแห่งแม่เหล็ก


    Kryon: เราเคยพูดคุยกันมาก่อนแล้ว เราเคยทำเช่นนี้มาก่อนแล้ว แต่เราทำแบบเป็นการส่วนตัว
    คุณไม่ได้กำลังถูกประจาน เพราะว่าพวกเราจะถ่ายทอดข้อความแบบนี้ด้วยความรักเสมอ
    แต่เพียงเพื่อที่จะเค้นเอาประเด็นต่างๆที่มีอยู่ที่นั่นเรียบร้อยแล้ว ให้ออกมาเท่าที่จะเป็นไปได้เท่านั้นเอง
    ดังนั้น พวกมันก็จะออกมาประจวบเหมาะกับนาฬิกาของคุณพอดี [อีกครั้ง, พูดถึงกาลเวลาแบบที่เป็น 3D ของพวกเรา]

    คุณจำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับวิหารแห่งการกลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาวนี้ ไม่ว่าจะในแง่มุมไหนก็ตาม?
    คุณจำได้ไหมว่ามีพลังงานอะไรอยู่ที่นั่น?



    ดร.Todd: มันมีการใช้งานของแกนแม่เหล็กที่อยู่ภายในของโลก ที่ถูกทำให้เข้มข้นขึ้นเป็นพิเศษแล้วในบางพื้นที่
    และถูกทำให้เข้มข้นสูงขึ้นไปอีกโดยระดับความสูง


    Kryon: คุณจำได้แล้ว..ที่รักทั้งหลาย จงฟังและจงอ่านให้ดีว่า Temple of Rejuvenation นี้
    ตั้งอยู่บนยอดเขาของอาณาจักรเลมูเรีย ซึ่งในสมัยนั้นอาณาจักรเลมูเรียเองก็เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลกอยู่แล้ว
    ซึ่งจนทุกวันนี้มันก็ยังคงเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลกอยู่ เพียงแต่ว่าเดี๋ยวนี้ มันจมอยู่ใต้น้ำเท่านั้นเอง

    และทุกวันนี้มันถูกเรียกว่าฮาวาย ซึ่งหมู่เกาะฮาวาย ก็คือหมู่ของยอดเขา ของภูเขายักษ์ลูกหนึ่งเท่านั้นเอง
    และถ้าวัดความสูงจากข้างล่างขึ้นไปข้างบนสุด มันก็จะเป็นภูเขาที่สูงและใหญ่ที่สุดในโลก

    มันมีหิมะปกคลุมที่ยอดเขา แม้ในทุกวันนี้ก็ด้วย พวกคุณสามารถจินตนาการถึงความสูงที่สูงกว่า 20,000 ฟุตของมันออกไหม?
    พวกคุณนึกออกไหมว่ามันจะสูงใหญ่ขนาดไหน ถ้าสามารถมองเห็นมันได้จากบนอวกาศโน่น?

    นี่แหละคือที่ๆชาวกลุ่มดาวลูกไก่ (Pleiadians) เลือกที่จะลงมาเป็นสถานที่แรกหละ
    เพราะว่ามันเคยเด่นชัดจริงๆ


    ยาวี คุณอาจจะยังจำได้ว่า คุณเคยหนาวอยู่เสมอ หนาวอยู่ตลอดเวลา
    เพราะว่าคุณไม่สามารถที่จะมีเครื่องทำความร้อนในวิหารนั้นได้
    เพราะว่าถ้าไม่เช่นนั้นแล้วกระบวนการนี้มันก็จะไม่ได้ผล!

    ตอนที่คุณได้เห็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ยุคปัจจุบันกำลังทำกันอยู่ บนหน้าจอที่ผู้ร่วมงานของฉันเคยนำมาให้ดูนั้น
    [พูดถึงวีดีโอที่นาย Lee เคยเอามาให้ดูก่อนหน้านี้เกี่ยวกับเรื่อง macro-entanglement]
    คุณเห็นอะไรที่น่าสนใจจนทำให้คุณจำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้บ้างไหม?

    พวกเรากำลังพูดถึงเรื่องอุณหภูมิกันอยู่ พวกเรากำลังพูดถึงความหนาวซึ่งหนาวมากๆกันอยู่
    แต่มันก็ช่วยให้ความต้านทานในกระแสการไหลของพลังงานลดน้อยลงได้จริงๆ อันที่จริงนี่คือตัวเร่งปฏิกิริยา
    ที่จะทำให้ความแรงของแม่เหล็กเพิ่มสูงขึ้นได้ถึง 10, 100 หรือแม้แต่ 1000 เท่าเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ
    โดยปราศจากการใช้เครื่องจักรกลที่ต้องใช้เทคนิกใดๆทั้งสิ้น

    มันคือสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง ท่ามกลางหลายสิ่ง
    ที่ทำให้คุณสามารถทำในสิ่งที่คุณได้ทำไปแล้วในวิหารแห่งนั้นได้

    .................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2014
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)


    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon


    ตอนที่ 12:

    ฉันต้องการจะถามคุณว่า คุณจำได้มากแค่ไหน เกี่ยวกับเครื่องไม้เครื่องมือทางกายภาพ
    ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการดังกล่าวนี้? และที่ฉันถามคุณเรื่องนี้ก็เพราะว่า ฉันอยากจะรู้ว่า
    Akash ของคุณเตรียมความพร้อมไว้ให้คุณมากน้อยแค่ไหนแล้วเท่านั้นเอง


    พวกเราเคยพูดกันไปแล้วว่า มันมีอะไรบางอย่างที่เรียกว่า
    “มนุษย์เป้าหมาย” (target Human) ด้วยใช่ไหม?



    ดร.Todd: ในช่วงเวลานี้ สิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญ ก็คือตัวขับแม่เหล็ก (magnetic driver)
    ที่มีรูปทรงเรขาคณิตพิเศษบางอย่าง ทั้งที่อยู่เหนือและอยู่ใต้สิ่งที่เรียกว่า “มนุษย์เป้าหมาย”
    ดังนั้น มันจึงมีทั้งแม่เหล็ก และมีทั้ง “จุดศูนย์” (No-zone point หรือ zero point)
    ที่จะไปสร้างการ entanglement ขึ้นมา และมันก็มีความสำคัญของการหมุนในทิศทางตรงกันข้ามกัน
    และการสปินในทิศทางตรงกันข้ามกันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย


    (หมายเหตุ: ปรากฎการณ์ Entanglement ของอนุภาคระดับ Quantum เป็นปรากฏการณ์ที่อนุภาคตัวหนึ่ง
    เช่น อิเล็กตรอน สามารถ “รับรู้” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอนุภาคอีกตัวหนึ่งซึ่งเป็นคู่ของมันได้
    แม้ว่าทั้งสองจะถูกแยกห่างจากกันไกลแค่ไหนก็ตามแต่ – ผู้แปล)

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - entanglement)


    Kryon: ดีมาก น่าประทับใจมาก เอาหละคราวนี้ ปัญหาข้อใหญ่ก็คือ
    นั่นก็หมายความว่า “มนุษย์ถูกทำให้ entangle กันใช่หรือไม่?”
    แล้วการ entangle ของมนุษย์ที่ว่านั้น
    มนุษย์คนนั้น entangle แบบควอนตัมกับอะไร? คุณจำได้ไหม?

    ฉันขอถามคุณว่า มีมนุษย์กี่คนที่อยู่ในห้องนั้น?


    ดร.Todd: ประมาณ 10 คนครับ


    Kryon: ถูกต้องแล้ว แล้วมีมนุษย์คนไหนที่เป็นคนพิเศษไหม?


    ดร.Todd: มีครับ คือมนุษย์คนที่เป็น “แม่แบบ” ครับ


    Kryon: ถูกแล้ว! อา..ถูกต้องแล้ว..แล้วคุณจำคุณลักษณะพิเศษอะไรของมนุษย์ต้นแบบคนนั้นได้บ้างไหม
    หมายถึงคุณลักษณะที่สามารถสังเกตได้เวลาที่เรามองดูเขาหนะ? เพราะว่าคุณยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้
    ดังนั้น วันนี้ พวกเราจึงกำลังจะกระทุ้งความทรงจำของคุณซะหน่อย คุณคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม?


    ดร.Todd: แน่นอน ได้อยู่แล้วครั

    ........................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2014
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)


    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon


    ตอนที่ 13:


    Kryon: เดี๋ยวฉันจะกลับมาที่คุณใหม่นะยาวี แต่ตอนนี้ฉันจะต้องพูดถึงกระบวนการหนึ่งซะก่อน
    เพื่อที่พวกคุณทุกๆคนจะได้เข้าใจว่ามีอะไรกำลังเกิดขึ้นอยู่

    ในกระบวนการนี้ มันมีการเปิดเผยเอาไว้แล้ว และตอนนี้ฉันจะพาพวกคุณเข้าไปในโครงสร้างระดับอะตอมกัน
    ฉันเคยทำเช่นนี้มาก่อนแล้ว แต่ฉันยังไม่เคยพาพวกคุณมาถึงสภาวะนี้เลย

    ฉันอยากให้พวกคุณมองดูที่อิเล็กตรอนตัวหนึ่งพร้อมๆกับฉัน สมมุติว่าพวกคุณอยู่ที่นั่นและมีขนาดเล็กพอๆกับมัน
    มาถึงตรงนี้ค่อยๆพูดช้าๆนะ ผู้ร่วมงานของฉัน เพราะว่าตัวคุณเองยังไม่เคยได้รับการอบรมเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน
    และมันก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่คุณจะต้องถ่ายทอดข้อความออกมาเท่าที่มันถูกสื่อมาเท่านั้น
    อย่าไปต่อเติมส่วนใดของมันทั้งสิ้น (ครายออนพูดกับนาย Lee)

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - Spinning electron)

    นักฟิสิกส์บอกว่าอิเล็กตรอนสปิน (spin) แต่จริงๆแล้วพวกมันไม่ได้สปิน
    หรือหมุนปั่นแต่ประการใดเลย เพราะว่าพวกมันทำเช่นนั้นไม่ได้
    เพราะว่าอิเล็กตรอนไม่มีพื้นที่ผิว เพราะว่าพวกมันคือพลังงาน
    ดังนั้นพวกมันจึงไม่สปิน แต่พวกมันมีศักย์ไฟฟ้าแทน


    ทุกๆอนุภาคที่อยู่บนโลกใบนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกคุณสามารถมองเห็นได้
    ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลแห่งนี้ ล้วนถูกสร้างขึ้นมา
    ให้มีความเป็นขั้วเหมือนกันหมดทั้งสิ้น
    อันนี้เป็นข้อมูลใหม่สำหรับพวกคุณแล้วนะ

    ทุกสิ่งทุกอย่างถูกสร้างมาให้มีความเป็นขั้ว
    และทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกออกแบบมาให้ทำให้ตัวเองสมดุลให้ได้
    และเพราะความเป็นขั้วที่พวกคุณเรียกกันว่า “ขั้วบวก” และ “ขั้วลบ” นี้เอง
    จึงทำให้พวกมันต้องเคลื่อนที่ และพยายามที่จะทำให้ตัวมันเอง
    อยู่ภายในสนามหนึ่งๆ ด้วยความสมดุลให้ได้

    ซึ่งพวกมันที่ว่านี้ ก็หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างเลยทีเดียว
    ทั้งที่เป็นวัตถุธาตุทางกายภาพและอื่นๆด้วย

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    แต่อย่างไรก็ตาม ความเป็นขั้วทั้งหมด ก็มีแนวโน้มที่จะถูกทำให้ลำเอียงได้
    โดยสิ่งที่ฉันจะเรียกว่า “แรงกดดันจากเพื่อน” (peer pressure)
    ดังนั้น เมื่ออิเล็กตรอนที่มีสิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่าประจุ (หรือสปิน และมีขั้ว) เช่น ประจุบวกเป็นต้น
    ก็จะถูกดึงดูดโดยพวกที่มีประจุลบ เพื่อให้พวกมันทั้งหมดนี้ กลายเป็นกลางขึ้นมาให้ได้นั่นเอง
    พวกมันค้นหาซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะทำให้ตัวเองเป็นกลางและอยู่ในความสมดุล
    พวกมันค้นหาความสมดุล เพราะว่าถ้าพวกมันไม่อยู่ในความสมดุลแล้ว พวกมันจะไม่มีความสุข

    ที่ฉันใช้คำนี้ ก็เพราะว่า ฉันต้องการที่จะเน้นย้ำถึงสภาวะของอนุภาคทางฟิสิกส์ที่ยังไม่พบความสมดุลเท่านั้น
    และเพื่อที่จะทำให้ผู้ที่แม้ไม่ได้อยู่ในแวดวงวิทยาศาสตร์ด้วย ก็สามารถที่จะเข้าใจซาบซึ้งถึงสภาวะนี้ได้ด้วย


    แต่..แม้แต่กับอะตอมทั้งหลายเองก็เถอะ มันก็ไม่ใช่ว่าทุกๆอะตอม
    จะต้องมีจำนวนอิเล็กตรอนที่จับคู่กันได้ลงตัวพอดีเสมอไปหรอกนะ
    เพราะว่ามันไม่มีกฎสำหรับอะตอมว่า อิเล็กตรอนจะต้องถูกสร้างขึ้นมาเป็นจำนวนเลขคู่เสมอ

    ดังนั้น บ่อยครั้งมันจึงมีสิ่งที่ฉันเรียกว่า “ยังขาดคู่” (odd one out) ซึ่งเมื่อใดที่เกิดสิ่งนี้ขึ้น
    อะตอมทั้งอะตอม ก็จะมีประจุเป็นบวก หรือ เป็นลบทันที ขึ้นอยู่กับว่ามันขาดคู่อะไรไป
    และเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น อะตอมๆนี้ ก็จะค้นหาอะตอมอื่นๆที่ยังไม่ครบคู่เหมือนกัน แต่มีประจุที่ตรงกันข้ามกัน
    ซึ่งปรากฎการณ์นี้ มีชื่อเรียกว่า “อำนาจแม่เหล็ก” (Magnetism)

    ฉันเพิ่งอธิบายเรื่องอำนาจแม่เหล็กจบไปเดี๋ยวนี้เอง ซึ่งตอนนี้นักวิทยาศาสตร์รู้ส่วนหนึ่งของมันเรียบร้อยแล้ว
    แต่สิ่งที่พวกเขายังไม่รู้ก็คือ “ทุกสิ่งทุกอย่างมีความเป็นทวิภาวะ” พวกเขาก็สงสัยมันอยู่เหมือนกัน
    และมันก็มีทฤษฎีอยู่หลายทฤษฎี ที่จะแสดงให้เห็นประเด็นที่ว่านี้ในไม่ช้านี้
    และที่ฉันบอกกับพวกคุณไปในวันนี้ก็เพราะว่า เรื่องนี้มันมีอยู่ในใจของใครบางคนตลอดเวลาอยู่แล้ว


    ดังนั้น จากสิ่งที่เล็กที่สุด ไปจนถึงสิ่งที่ใหญ่ที่สุด และแม้กระทั่งแกแล็กซี่เอง
    ก็ยังมีความเป็นขั้วด้วย เพราะว่าที่ใจกลางของแกแล็กซี่ของพวกคุณ
    สิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “หลุมดำ” นั้น แท้ที่จริงแล้วมันคือ “เครื่องผลัก/ดันควอนตัม”
    และเดี๋ยวอีกสักครู่ฉันจะบอกพวกคุณว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น


    .....................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2014
  16. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)


    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon


    ตอนที่ 14:


    คราวนี้ก็มาถึงคำถามสำคัญอีกแล้ว และฉันก็จะขอตอบคำถามนั้นตอนนี้ด้วยซะเลย
    ว่าทำไมทุกสิ่งทุกอย่างถึงต้องมีขั้วด้วย? ทำไม่มันถึงถูกสร้างมาให้เป็นแบบนี้ด้วย
    แม้ว่าจะลึกลงไปจนถึงระดับของอิเล็กตรอนก็ตาม?


    สิ่งที่มีขนาดเล็กที่สุด แม้ว่าจะเล็กเท่ากับสิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า
    Higgs Boson (หรืออนุภาคพระเจ้า)
    และอนุภาคควาร์กทั้งหลายก็ตาม พวกมันก็ต่างมีขั้วด้วย
    ไม่มีชิ้นส่วนไหนของธรรมชาติเลย ที่พวกคุณจะพบว่ามันไม่มีขั้ว


    อ้าว..ทำไมหละ? เดี๋ยวฉันจะบอกพวกคุณว่าทำไม ซึ่งพอฟังแล้วนักฟิสิกส์จะต้องหัวเราะแน่ๆเลย
    แต่ไม่ใช่หัวเราะเยาะนะ แต่เพราะว่าพวกเขาเห็นด้วยต่างหากหละ เพราะว่าถ้ามันไม่เป็นแบบนี้ (ไม่มีขั้ว – ผู้แปล)
    จักรวาลนี้ก็คงจะเป็นสถานที่ๆน่าเบื่อ ไม่มีอะไรตื่นเต้นหนะสิ

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    เพราะว่า โดยการสร้างให้ทุกๆอนุภาคมีความเป็นขั้วอยู่ในตัว
    ก็เท่ากับว่าพวกคุณได้สร้างจักรวาลที่มีความแอ็กทิฟขึ้นมาแล้ว
    ซึ่งมันก็จะคอยทำให้ตัวเองอยู่ในความสมดุลตลอดเวลา
    และจะไม่เคยได้หยุดพักอยู่นิ่งๆเลย

    เพราะถ้ามันไม่เป็นแบบนี้ มันก็จะอยู่นิ่งๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
    และก็จะไม่มีการสร้างสรรค์อะไรขึ้นมาด้วย
    เพราะฉะนั้น ถ้าปราศจากความเป็นขั้วแล้ว มันก็จะไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่
    เพราะว่าชีวิตถูกสร้างขึ้นมาให้มีความเป็นขั้วแบบใดแบบหนึ่งเสมอ
    ซึ่งก็คือ ขั้วในอนุภาคระดับอะตอมนั่นเอง


    ชีวิตคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับการมีตัวตนอยู่ของจักรวาล
    เพราะว่าหากปราศจากชีวิตแล้ว
    มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมีวัตถุธาตุทางกายภาพอยู่

    แต่พวกคุณกลับคิดว่ามันเป็นเพราะอย่างอื่น ใช่ไหมหละ? เพราะว่าพวกคุณคิดว่า
    ชีวิตคือสิ่งที่อุบัติขึ้นโดยบังเอิญบนดาวเคราะห์ดวงหนึ่งๆใช่ไหมหละ?


    โอ..พวกคุณนี่ช่างสมกับอยู่ในมิติที่ 3 นี่ซะจริงๆเลยนะ!
    แต่มันไม่ใช่เลย! เพราะว่าชีวิตคือสิ่งที่ถูกออกแบบมา!!


    .......................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2014
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon


    ตอนที่ 15:


    เรามาสนทนากันต่อดีกว่านะ เพราะว่ามันกำลังจะไปถึงจุดบางจุดแล้ว

    “ยาวี คุณเพิ่งอธิบายไปว่า กระบวนการแห่งการสร้าง macro-entanglement ขึ้นมาในวิหารแห่งนั้นเป็นอย่างไร
    สิ่งที่คุณได้กล่าวถึงไปแล้วคือ “แม่เหล็ก” และ “จุดศูนย์” (null point) ทั้งหลาย ใช่ไหม? ดีมาก!

    บางทีคุณอาจจะเข้าใจแล้วว่า แม่เหล็กเหล่านั้น และจุดศูนย์เหล่านั้น
    มีอยู่ในแม้กระทั่งในใจกลางของแกแล็กซี่ของพวกคุณเองเลยทีเดียว


    ดร.Todd: แน่นอนสิครับ


    Kryon: ดังนั้น นั่นก็หมายความว่า แกแล็กซี่นี้
    ก็กำลังอยู่ในสภาวะ entangle กับตัวมันเองอยู่หนะสิ

    นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไม กระจุกดาวทุกๆกระจุก
    และระบบสุริยะ ทุกๆระบบ ถึงไม่มีการเคลื่อนที่แบบนิวโตเนี่ยน


    (Newtonian movement : คือการเคลื่อนที่แบบสุ่ม ไม่เป็นระเบียบ สะเปะสะปะ – ผู้แปล)

    แต่พวกมันทั้งหมด กลับเคลื่อนที่ไปด้วยกัน รอบๆจุดศุนย์กลางเดียวกัน
    เสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน นั่นก็เพราะว่าพวกมัน entangle กันอยู่นั่นเอง


    ฉันเพิ่งบอกเหตุผลของมันให้พวกคุณทราบไปแล้ว เดี๋ยวนักวิทยาศาสตร์ของพวกคุณ
    ก็คงจะเริ่มเข้าใจกันในอีกไม่ช้านี้ เพราะว่าเรื่องนี้มันเป็นความลึกลับมานานแสนนานแล้ว
    แต่ว่าตอนนี้พวกคุณก็รู้กันแล้วนะ


    ดังนั้น สิ่งที่คุณมีแล้วในตอนนี้ก็คือ เรื่อง macro-entanglement
    และสิ่งที่ใหญ่ที่สุด ที่พวกคุณสามารถที่จะจินตนาการออกก็คือแกแล็กซี่
    ซึ่งมันก็มีการ entangle กับตัวมันเองอยู่


    แต่มันจะเป็นไปได้ไหม ที่จะยังมีประเด็นการ entanglement อื่นๆอยู่อีก ในชีวิตประจำวันของพวกคุณ
    ที่พวกคุณยังมองไม่เห็น หรือยังไม่ยอมรับ หรือยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย?

    และคำตอบก็คือ “มี” งั้น..เราจะไปที่เรื่องนี้กัน

    โอ..มนุษย์ที่รักทั้งหลาย..สิ่งที่ฉันกำลังจะบอกพวกคุณต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่สวยงาม และมันก็เกี่ยวกับ DNA ด้วย
    ซึ่งยาวีรู้เรื่องนี้แล้ว เขารู้แล้วว่าจะทำให้เกิดปาฏิหาริย์บางอย่างขึ้นได้อย่างไร


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - DNA)

    อันที่จริงแล้ว แบบพิมพ์เขียวดั้งเดิมของ DNA นั้น เป็นสิ่งที่มีความสมบูรณ์แบบ
    ซึ่งนายแพทย์ที่ดีคนนี้ ที่ในปัจจุบันชาตินี้ (ที่เกิดมาเป็น ดร.Todd คนนี้)
    จะบอกกับพวกคุณว่าอย่างนั้น ซึ่งฉันเองก็เคยบอกเรื่องนี้แก่พวกคุณมาก่อนหน้านี้แล้วเหมือนกัน


    แบบพิมพ์เขียวดั้งเดิมของ DNA ที่อยู่ในตัวพวกคุณ
    มันมีความสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว แต่พวกคุณที่กำลังนั่งอยู่ที่นี่
    กลับมี DNA ที่ทำงานได้ไม่ดีเลย

    มันฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันอยู่ เพราะว่ามันมีความสมบูรณ์แบบ
    และมันก็ถูกออกแบบมาให้ทำให้มีอายุขัยที่ยืนยาวด้วย
    แต่ว่าทำไม มันกลับทำอะไรบางอย่างที่ตรงกันข้ามกับสัญชาตญาณอันนั้นหละ?


    DNA ถูกออกแบบมาให้ทำหน้าที่เป็นแหล่งของข้อมูลข่าวสาร
    ที่สามารถรับเอาพลังงานที่อยู่รอบๆตัวของมันเข้ามาได้
    ซึ่งพลังงานที่ว่านั้น ก็ถูกสร้างมาจากจิตสำนึกของมนุษย์นั่นเอง
    ด้วยเหตุนี้ มันจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวมันเอง
    เพื่อให้เหมาะสมต่อระดับพลังงานที่มันอยู่ตลอดเวลา

    หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าระดับพลังงานของโลกต่ำ
    มันก็จะต่ำด้วย นั่นเอง มันเป็นเครื่องจักรระดับควอนตัมอย่างหนึ่ง
    และถ้าจิตสำนึกของมนุษย์สร้างพลังงานควอนตัมที่ต่ำๆขึ้นมา
    มันก็จะทำงานได้ไม่ดีด้วย

    ……………………….
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DNA-2.jpg
      DNA-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.5 KB
      เปิดดู:
      2,537
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2014
  18. ธารธรา

    ธารธรา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +17
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon


    ตอนที่ 16:

    ฉันอยากจะอธิบายเรื่อง “ชีวิต” ให้พวกคุณเข้าใจซักหน่อย แต่ไม่ได้หมายถึง “ชีวิตทางกายภาพ” หรอกนะ
    แต่หมายถึง “ชีวิตทางจิตวิญญาณ” (Spiritual life) ต่างหากหละ

    ดังนั้น ผู้รู้ทั้งหลายเอ๋ย จงหยุดเอาไว้ก่อนนะ เพราะว่าหลายๆคน อาจจะไม่ชอบเรื่องนี้ก็ได้

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    “ชีวิตทางจิตวิญญาณ” ตามนัยยะของผู้ที่อยู่ในโลกแห่งจิตวิญญาณแล้ว
    หมายถึง “การมีชีวิตเมื่อมนุษย์คนนั้นเริ่มมีทางเลือกอิสระแล้ว”


    แล้วมันหมายถึงเมื่อไหร่หละ?

    “มันก็คือตอนที่มนุษย์เริ่มหายใจเองเป็นครั้งแรกแล้วหนะสิ”
    ไม่ใช่ตอนที่ยังอยู่ในครรภ์นะ


    มาถึงตรงนี้อาจจะมีหลายคนแย้งว่า

    “นั่นไม่ใช่แล้ว นั่นหนะผิดแล้ว เพราะว่าจิตวิญญาณที่ยังอยู่ในครรภ์ของมารดาดวงนั้น ก็มีชีวิตแล้ว!”

    แต่ช้าก่อน ก็บอกแล้วไง ว่าฉันกำลังพูดถึงเรื่องการมีชีวิตด้านจิตวิญญาณอยู่
    (ช่วงที่เด็กยังอยู่ในครรภ์นั้น ก็ถือว่าเด็กมีชีวิตทางกายภาพแล้ว
    แต่ยังไม่ได้เริ่มต้นดำเนินชีวิตบนเส้นทางของจิตวิญญาณ
    ที่เกี่ยวเนื่องกับความคิด และความเชื่อ – ผู้แปล)

    นั่นแหละ คือสิ่งที่ผู้ที่อยู่ในโลกแห่งจิตวิญญาณมองเห็นหละ และมันก็คือ
    ตอนที่พวกคุณข้ามมาจากอีกฟากฝั่งหนึ่งของม่านพราง แล้วเริ่มหายใจเองเป็นครั้งแรกนั่นแหละ


    เด็กทารกที่ยังอยู่ในครรภ์มารดานั้น ยังไม่มีทางเลือกอิสระ
    เพราะว่าทารกคนนั้น ยังผูกพันธ์พึ่งพาอยู่กับทางเลือกอิสระของผู้เป็นมารดาอยู่
    จนกว่าจะคลอดออกมาซะก่อน ถึงจะถือว่าเริ่มมีทางเลือกอิสระ

    จริงๆแล้ว ตอนที่อยู่ในครรภ์ มันคือการที่จิตวิญญาณดวงนั้น กำลังเตรียมความพร้อมที่จะมีทางเลือกอิสระอยู่
    และมันก็มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับด้านจิตวิญญาณอยู่มากมาย ที่พวกเราได้เคยพูดถึงกันไปแล้วก่อนหน้านี้
    ว่าจิตวิญญาณดวงนั้น จะตอบสนองอย่างไรบ้าง แต่ตอนนี้ ฉันกำลังพูดถึงชีวิตในความเป็นขั้ว (ทวิภาวะ) อยู่
    ฉันกำลังพูดถึงทางเลือกอิสระอยู่

    แต่เดี๋ยวเรามาพูดถึงเรื่อง “เด็กในท้อง” กันสักประเดี๋ยวก็ได้ เพราะว่ามันเป็นกระบวนการที่ฉันอยากจะให้พวกคุณรู้
    ฉันอยากจะพูดถึงช่วงเวลา 240 วันที่เด็กทารกยังอยู่ในครรภ์สักหน่อย

    ในช่วงเวลานั้น เด็กทารกจะมี DNA ที่สมบูรณ์แบบมากๆ
    และเพราะว่าเด็กยังไม่ได้เริ่มหายใจเอง
    ดังนั้น DNA ของเด็ก จึงยังไม่เริ่มวัดระดับพลังงานของโลก
    เพราะว่ามันยังถูกห่อหุ้มอยู่ในครรภ์ พวกคุณเคยรู้เรื่องนี้มาก่อนไหม?

    ว่าเด็กที่ยังอยู่ในครรภ์มารดา คือเด็กที่สมบูรณ์แบบ
    เพราะฉะนั้น DNA ของเด็ก จึงมีคุณสมบัติตามข้อมูลใน “บันทึกแห่งฟ้า”
    (Akashic record) ของเด็กคนนั้นเอง และตามข้อมูลของบิดามารดาทุกประการ
    แต่มันอาจจะแตกต่างออกไป ในแบบที่พวกคุณยังไม่เคยรู้มาก่อน

    “สรุปว่า ตอนนั้น DNA ของเด็ก ยังคงมีความสมบูรณ์แบบอยู่
    ตามที่ถูกออกแบบมา ทั้ง 100% เต็ม”

    ข้อมูลที่เป็นชุดคำสั่งทั้งหลายในระดับควอนตัม ที่อยู่ภายใน DNA ของเด็กคนนั้น
    จะติดต่อสื่อสารกับ “ร่างกายเนื้อ” ของเด็กคนนั้นอยู่ตลอดเวลา
    เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการหายใจเองเป็นครั้งแรก

    คราวนี้ ฉันจะขอเปิดเผยสิ่งที่ยาวี หรือ ดร.Todd รู้แล้ว ให้พวกคุณได้รู้บ้างหละ

    ………………….
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • earthlog.jpg
      earthlog.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.6 KB
      เปิดดู:
      1,951
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2014
  20. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากครายออน (Kryon)
    เรื่อง: การปรับตั้งค่าใหม่ของความรู้ (The Recalibration of Knowledge)

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่: 14 มกราคม 2012

    ที่มา:
    The Recalibration of Knowledge > Kryon


    ตอนที่ 17:


    คำอธิบายเกี่ยวกับวิหารแห่งการกลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาว


    ภายในวิหารแห่งการกลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาว จะมีมนุษย์อยู่ 2 คน
    ซึ่ง entangle กันอยู่ในระดับควอนตัม
    มนุษย์คนหนึ่งคือ “มนุษย์เป้าหมาย” ส่วนอีกคนหนึ่งคือ “แม่แบบ”
    การทำให้มีอายุขัยที่ยืนยาว จะทำโดยอาศัยความรู้เกี่ยวกับ DNA
    ที่ยาวีเคยมีอยู่นี้แหละ

    ซึ่งก็คือ การทำให้มนุษย์เป้าหมาย และมนุษย์แม่แบบ
    เกิดการ entangle ซึ่งกันและกัน
    แล้วเกิดการถ่ายทอดคุณสมบัติบางอย่าง จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต - DNA transfer)

    มีทางเดียวเท่านั้น ที่กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งก็คือ
    เมื่อ DNA จะต้องมีคุณสมบัติแบบควอนตัมเท่านั้น ซึ่งมันก็มีอยู่แล้ว


    ก็อย่างที่พวกเราได้พร่ำสอนพวกคุณมาโดยตลอด เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 10 ปีมาแล้วนั่นแหละว่า
    กว่า 90% ของ DNA ของพวกคุณ ที่ไม่ได้ถูกเข้ารหัสไว้ และถูกมองว่าเป็น “DNA ขยะ” นั้น
    แท้ที่จริงแล้ว มันคือส่วนที่เป็นชุดข้อมูลคำสั่งแบบควอนตัมนั่นเอง


    เพราะฉะนั้นแล้ว โมเลกุลของ DNA จึงจะต้องมีคุณสมบัติอะไรบางอย่างแบบควอนตัมอยู่ด้วย
    เพียงแต่ว่ามันยังไม่ถูกค้นพบเท่านั้นเอง แต่คุณสมบัติเหล่านั้นพวกมันก็มีอยู่จริงๆ
    และเกี่ยวข้องกับชุดข้อมูลคำสั่งทั้งหลาย ที่จะไปสั่งการสารเคมี ที่มีอยู่มากกว่า 3 พันล้านหน่วย
    ในโมเลกุลของ DNA ด้วย

    ซึ่งเรื่องนี้เป็นความจริงอย่างมาก โดยเฉพาะกับสารเคมีที่ทำหน้าที่ผลิตยีน
    ที่อยู่ในส่วนของ DNA ที่เป็นส่วนที่ถูกเข้ารหัสไว้ เพื่อทำหน้าที่สร้างโปรตีน


    แต่เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ฉันจะบอกพวกคุณว่า DNA คือสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
    และสามารถเปลี่ยนแปลงโลกแห่งความเป็นจริงของทุกสิ่งทุกอย่าง ที่พวกคุณคิดว่า
    มันเป็นเรื่อง “ธรรมดา” ไปแล้ว นั้นได้ (เช่น เรื่องการแก่ ที่มนุษย์คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่ง
    แต่ DNA ก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้ด้วย – ผู้แปล)


    ยาวี..คุณอธิบายได้ดีมาก เกี่ยวกับสภาวะที่จะทำให้มนุษย์เป้าหมายเกิดการ entangle กับมนุษย์แม่แบบ

    คราวนี้ พวกเราจะมาเปิดเผยว่า “มนุษย์แม่แบบ” จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ คือ


    1). จะต้องเป็นเพศหญิง
    2). จะต้องกำลังตั้งครรภ์อยู่

    ..รู้แล้วใช่ไหม..


    ดร.Todd พูดแทรกขึ้นมาว่า: นั่นแหละคือแหล่งของ DNA ที่สมบูรณ์แบบ!


    Kryon: ถูกต้องแล้ว! ดังนั้น ความลับของวิหารแห่งการกลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มเป็นสาวก็จะมีอยู่ 2 ชั้น คือ:

    1). DNA ที่สมบูรณ์แบบบนโลก จะมีอยูในเด็กทารกที่ยังอยู่ในครรภ์
    และพวกคุณก็สามารถที่จะถ่ายโอน
    คุณสมบัติที่สมบูรณ์แบบบางอย่างของมันไปใช้ได้ด้วย
    ก่อนที่มันจะเริ่มดูดซับเอาพลังงานของโลกเข้าไป

    2). พวกคุณสามารถทำให้ตัวเองมีอายุขัยที่ยืนยาวได้
    และสามารถที่จะเยียวยารักษาโรคภัยไข้เจ็บได้
    โดยการติดต่อสื่อสารในระดับควอนตัมกับโมเลกุลของ DNA


    พวกคุณมองเห็นนัยยะอะไรในนี้บ้างไหม?

    มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถไปอยู่บนโต๊ะสำหรับมนุษย์แม่แบบได้ นั่นก็คือ ผู้หญิงที่เฉลียฉลาด
    และมีพลังแห่งสตรีเพศอันศักดิ์สิทธิ์ ที่กำลังตั้งครรภ์ พวกคุณเริ่มที่จะมองเห็นความสวยงามของเรื่องนี้หรือยัง?
    พวกคุณเริ่มที่จะมองเห็นนัยยะที่ซ่อนอยู่ของเรื่องนี้หรือยัง? และพวกคุณรู้ไหมว่ามันจะโยงไปที่ไหนต่อ?


    ………………………..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...