คนตายที่โรงพยาบาล แล้วนำศพเข้าบ้านทำงานศพ 5 วัน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mohdsabiq, 8 มิถุนายน 2008.

  1. mohdsabiq

    mohdsabiq สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    คนตายที่โรงพยาบาล แล้วนำศพเข้าบ้านทำงานศพ 5 วัน มีคนบอกว่ามันจะทำให้ลูกหลานแย่ ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงอย่างไร
     
  2. บัวพ้นน้ำ

    บัวพ้นน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    437
    ค่าพลัง:
    +198
    -*- ไม่มีทางหรอก ถ้าลูกหลานจะแย่ ก้อแย่เพราะตัวเขาทำตัวเขาเองทั้งนั้น ศพไม่เกี่ยวค่ะ ขนาดเค้าตายไปแล้ว ยังโยนความผิดให้เค้าอีกเนอะ คนมีชีวิตนี่น่ากลัวจิงๆ
     
  3. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    ไม่เกี่ยวหรอกครับ

    คนจะดีไมดีอะไรมันขึ้นอยู่กับการกระทำ ไม่ได้ขึ้นกับสิ่งที่จากไปแล้ว ความกตัญญูครั้งสุดท้ายที่ลูกหลานอุตสาห์นำศพมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ยิ่งแสดงถึงความไม่รังเกียจ ความรักความกตัญญูที่มีต่อผู้ที่จากไป น่าสรรเสริญมากกว่า

    ธรรมดาแล้วไม่ว่าคนหล่อ สวยงาม มั่งมีเงินทอง ยศถาบรรดาศักดิ์ขนาดไหน พอตายไป ต่างคนก็พากันกลัว รังเกียจ รีบพาไปไว้วัด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2008
  4. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    อันนี้ถ้าเป็นคติทางล้านนา บางแห่งบางที่ เขาก็มีคติว่า "ถ้าตายโหง หรือตายผิดปกติธรรมดา เอาไว้วัด
    ถ้าไปตายโรงพยาบาลด้วยอุบัติเหตุ หรือตายผิดปกติธรรมดา ก็เอาไว้วัด " เพราะเขาถือว่า ถ้าเอาไว้บ้าน วิญญาณจะเฮี้ยน อะไรทำนองนี้แหละ

    ถ้าตายด้วยโรคภัยไข้เจ็บ คือไปตายที่โรงพยาบาล ถ้าบ้านพอมีที่ทาง ก็จะเอาศพบำเพ็ญกุศลที่บ้าน แต่ถ้าบ้านคับแคบ ไม่สะดวก ก็เอาไปไว้วัด "

    ส่วน ที่คุณถามมา หลายท่านก็ตอบให้แล้วขอรับ
     
  5. apple_meppo

    apple_meppo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +135
    คุณพ่อเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

    24 เมษายน ฌาปณกิจ 29 เมษา

    ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ไม่ได้ล้อมสายสิญจน์รอบบ้าน

    ---------

    ไม่เห็นมีปัญหาใด ๆ เลย

    --------
     
  6. Famnakub

    Famnakub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +1,677
    คุณพ่อ คุณแม่เสียที่โรงพยาบาลทั้งคู่ ( ต่างวาระกัน) และได้นำมาตั้งบำเห็ญกุศลศพที่บ้าน ก็ไม่เห็นมีปัญหาใดๆลูกหลานก็เจริญก้าวหน้าดี บ้านของท่านท่านสร้างมา แล้วทำไมท่านจะอยู่ไม่ได้ละคะ อย่าคิดมากเลยค่ะคุณทำดีแล้ว บางที่ห้ามอาจเพราะว่าที่บ้านไม่สะดวกเรื่องสถานที่ ข้าวของเครื่องใช้มากกว่าค่ะ
     
  7. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    8 ปริศนาธรรมงานปลงศพ

    พิธีศพของคนไทยความหมายมาก
    มีหลายหลากปริศนาธรรมพึงจำไว้
    แต่เริ่มต้นมัดตราสังยังร่างกาย
    จวบสุดท้ายเผาเป็นขี้เถ้าเล่าบอกธรรม

    1.
    มัดตราสังเป็นสามเปราะเคาะความหมาย
    เมื่อวางวายมัดคอไว้ความหมายล้ำ
    การผูกมัดหมายถึงบ่วงห่วงให้จำ
    ที่คอนั้นบ่วงรักลูกผูกมัดใจ
    มัดที่มือคือบ่วงรักภักดิ์ผัว-เมีย
    เมื่อตายเสียยังห่วงหาอาทรไห้
    ส่วนสมบัติและทรัพย์สินนั้นกินใจ
    มัดติดไว้ที่ข้อเท้าให้เศร้าตรม
    สามบ่วงนี้ผูกติดจิตติดนิสัย
    เมื่อบรรรลัยนิพพานไปไม่ได้สม
    ต้องเวียนว่ายในวัฏฏะสังคคม
    เป็นอารมย์ที่ยึดติดจิตอุปไมย

    2.
    ยามพระสงฆ์นั่งสวดพร้อมน้อมรับศีล
    ศพไม่ได้ยินบุตรหลานก็เคาะโลงให้
    แท้จริงใบ้แขกรับศีลผินประไพ
    เป็นความหมายบอกผู้คนยลพระธรรม
    อย่าทำตัวให้ประมาทขาดสติ
    ไม่ทิฏฐิละทิ้งไปในคำสอน
    หมดโอกาสได้กระทำยามม้วยมรณ์
    จะอ้อนวอนเคาะโลงไงไม่ได้ฟัง

    3.
    ยามพระสงฆ์สวดภาษาว่าบาลี
    หมู่คนดีฟังไม่รู้อยู่หน้าหลัง
    เข้าใจว่าพระสวดให้คนตายฟัง
    อโธ่ถัง! พระสวดสอนคนตอนเป็น
    หวังให้คนเอาไปใช้ปฏิบัติ
    ใช้ยืนหยัดดำรงตนพ้นทุกข์เข็ญ
    หากฟังแล้วไม่เข้าใจไม่จำเป็น
    ขอให้เน้นสำรวมจิตคิดสิ่งดี

    4.
    บวชหน้าไฟมักเข้าใจกันให้ผิด
    ต่างก็คิด"จูงคนตาย"ไปวิถี
    พ้นนรกสู่สวรรค์ชั้นที่ดี
    จึงบางทีแย่งกันบวชผนวชกัน
    แท้ที่จริงเป็นการลงปลงสังเวช
    ถึงสาเหตุเกิดเจ็บตายไม่เหหัน
    เกิดมาแล้วไม่แคล้ววายตายด้วยกัน
    เพียงเท่านั้นมนุษย์นี้มีอะไร
    เมื่อปลงได้ก็อยากได้หนีไปบวช
    ไปผนวชหนีแสงสีโลกีย์วิสัย
    ประพฤติธรรมเพื่อหลุดล้นให้พ้นไป
    เพื่อจะได้สู่มรรคผลหนนิพพาน


     
  8. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    5. การนิมนต์พระจูงศพพบแห่งเหตุ
    เป็นจิตเจตให้คนคิดจิตสันนิษฐาน
    ใช้พระธรรมองค์สัมมาฯมีมานาน
    ดำรงการดำรงตนเป็นคนดี
    ยามมีชีพดำรงตามพระธรรมสอน
    ตามขั้นตอนองค์สัมมาหาวิถี
    เอาคนตายให้พระนำตามวิธี
    สังวรนี้ไว้สอนคนสนใจทำ

    6.
    การเวียนศพซ้าย 3 รอบชอบความหมาย
    การเวียนว่ายเกิดตายในภพสาม
    มีกามภพ,รูปภพ,อรูปภพ ประสบตาม
    ทุกเมื่อยามอยู่วนเวียนกรรมเกวียนกง
    เมาตัณหาอุปทานการกิเลส
    น่าสังเวชเป็นทุกข์ใจให้ลุ่มหลง
    ไม่จบสิ้นมัวเวียนว่ายตายอยู่ยง
    ต้องละหลงทวนกระแสแห่ศพเวียน

    7.
    น้ำมะพร้าวล้างหน้าศพลบกิเลส
    เป็นจิตเจตน์ความสะอาดไม่พลาดเปลี่ยน
    ดั่งน้ำทิพย์อันบริสุทธิ์ดุจกระเษียร
    ชำระเปลี่ยนให้จิตใจใส่ดวงธรรม

    8.
    เผาศพแล้วเหลือขี้เถ้าเคล้าเศษอัฐิ
    เขาเขี่ยคัดเถ้าไปมาน่าสอบถาม
    จัดเป็นรูปร่างคนจนสวยงาม
    คือหมายความกลับชาติใหม่ใช้กรรมเวร

    ปริศนาธรรมคนเก่าก่อนสอนให้คิด
    แฝงนิมิตบอกความนัยให้คนเห็น
    เป็นข้อคิดก่อเกิดธรรมความจำเป็น
    และฝากเน้นถึงกรรมดีที่พึงทำ.....

    *************************

    นพกรณ์ กุลตวนิช ผู้ประพันธ์
     
  9. ผู้อยากรู้

    ผู้อยากรู้ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +0
    ขนาดท่านยังไม่เสีย ท่านสั่งลูกไว้ว่าถ้าตายอย่าเอาพ่อไปวัด พ่ออยากอยู่บ้านของเรา เป็นครั้งสุดท้าย เห็นด้วยกับท่านนะค่ะ เมื่อสาระนั้นมาถึง
     
  10. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ความกตัญญูกตเวที ต่อบุพการีและผู้มีพระคุณ ทำให้ประสบความสุขความเจริญ
     
  11. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,328
    ฤกษ์สะดวกดีที่สุด
     

แชร์หน้านี้

Loading...