เรื่องเด่น ต้องฝึกอย่างไร... ตายไปถึงจะฝึกสติปัฏฐาน 4 ต่อได้?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 26 มกราคม 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,654
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +70,138
    ?temp_hash=dd3fa6b67f9ea1c0d1bb66ac61d7a57a.jpg


    ต้องฝึกอย่างไร...ตายไปถึงจะฝึกสติปัฏฐาน 4 ต่อได้?

    .
    .
    ถ้าท่านทั้งหลายฝึกหัดปฏิบัติธรรมอยู่เนืองๆ
    ท่านทั้งหลายก็จะสามารถเปลี่ยน
    จากใจที่เศร้าหมอง เป็นใจที่ผ่องใสได้
    เมื่อต้องจากโลกนี้ไปด้วยใจที่ผ่องใส
    อย่างน้อยก็ไปสบาย...สุคติภูมิ
    แล้วถ้าเราฝึกหัดปฏิบัติได้ดี
    ถึงแม้ว่าเราต้องจากโลกนี้ไป
    เราก็สามารถฝึกปฏิบัติต่อได้
    เบื้องต้นต้องมีกายหยาบๆ
    อยู่ๆเราจะไปรู้จิตรู้ใจทำได้ไหม?
    มันยังทำไม่เป็น
    เป็นสภาวะละเอียดเลยต้องใช้กาย
    #เพราะฉะนั้นจุดแข็งของความเป็นมนุษย์
    #คือการมีกายหยาบเพื่อฝึกสติปัฏฐาน
    แต่พอเราฝึกไปจนจิตมันตื่นแล้ว
    แม้กระทั่งวางกายแล้ว รู้จิตรู้ใจได้ไหม?
    เข้าถึงสภาวะที่ประณีตกว่าได้ไหม?
    ....มันทำได้
    เพราะฉะนั้นตรงนี้
    ถึงแม้ว่าเราต้องจากโลกนี้ไป
    เราก็สามารถฝึกปฏิบัติต่อได้ในภพภูมิต่อๆไป
    ตรงนี้นะ ถ้าใครฝึกจนกายใน
    หรือนามกายมันเคลื่อนออกมา
    แล้วเราจะพบว่า ความเป็นสติสัมปชัญญะ
    มันอยู่ที่นามกาย มันไม่ได้อยู่ที่กายหยาบ
    นั่นแหละมันสามารถฝึกสติปัฏฐานต่อได้
    เดินสภาวธรรมได้
    ปกติถ้าสอนบางคน
    ลูกศิษย์หัวดีๆหน่อยเดินสภาวะ
    พวกที่ชอบถอดกายมันมีอยู่
    แล้วจะพบว่าเวลาถอดมา เดินสภาวะ
    มันจะละเอียดกว่าตอนที่เรา
    เดินสภาวะอยู่ในกายหยาบ ละเอียดกว่ามาก
    ความคมชัดความอะไรละเอียดกว่ามาก
    เพราะกายหยาบมันเหมือนตัวดึง
    แต่พอเราถอดปลั๊กออกแล้ว
    มันเหลือเพียงพลังงาน
    เหลือแต่กระแสเพียวๆ
    การเดินสภาวะจะเฉียบคมมาก
    ก็มีลูกศิษย์ที่เก่งในเรื่องของการถอดตัวนี้
    แล้วถอดมาเดินสภาวะ
    ตอนอยู่ในกายหยาบยังเดินไม่เก่ง
    แต่หลุดปุ๊บเดินเก่งกว่า
    เพราะว่ามันไม่มีตัวดึง
    แต่พูดแบบนี้ก็ไม่ใช่ต้องพยายามไปถอด
    แล้วเดินสภาวะนะโยม
    คือให้เป็นเรื่องอัธยาศัยของแต่ละคน
    แต่ให้รู้ว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งจิตมีความตั้งมั่น
    อยู่ที่ไหนก็ฝึกสติปัฏฐาน 4 ได้
    ถึงแม้ไม่มีกายหยาบก็ฝึกสติปัฏฐาน 4 ต่อได้
    เป็นเรื่องของนามกาย
    เป็นเรื่องของจิตตั้งมั่นข้างใน
    เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่า
    ถ้าเราต้องตายตอนนี้ไปเราจะหมดโอกาส
    ไม่ต้องไปกังวลแบบนั้น
    #ถ้าปัจจุบันโยมสามารถฝึกจนมีสติที่ตั้งมั่นได้
    #ต่อให้โยมต้องล้มตัวลงตรงนี้
    #โยมก็ไปฝึกสติปัฏฐานสี่ต่อได้
    แต่ถ้าโยมไม่ฝึกตอนนี้
    ตายไปหวังจะไปฝึกจะทำได้ไหม?
    ก็หลงภพ หลงภูมิไปเรื่อย
    เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปมองอนาคต
    ว่าบางคนเราบุญน้อย
    กว่าจะได้พบพระพุทธศาสนา
    ก็ตอนแก่เฒ่าแล้ว
    สำคัญที่ปัจจุบัน...
    ถ้าปัจจุบันโยมทำได้ดี
    ผลอนาคต ก็เกิดจากปัจจุบันนั่นเอง
    ถ้าเราฝึกปัจจุบัน เรามีสติตั้งมั่น
    ตายไปโยมก็จะมีสติต่อได้
    โดยเฉพาะคนที่ถอดกายก็จะพบว่า
    จริงๆแล้วความตายคือการเคลื่อน
    จากภพหนึ่งไปสู่ภพหนึ่งเท่านั้นเอง
    มันคือการเปลี่ยนภาชนะ
    หรือแม้กระทั่งเวลาความฝัน
    ถ้าเรามีสติทรงตัวในฝัน
    มันจะรู้สึกตัวในความฝันได้
    เดินสภาวะต่อได้
    ไปลองฝึกกันดูว่า...
    ไม่ว่ามันจะถอดกายก็ดี
    หรือแม้กระทั่งเวลาฝันแล้วเรามีสติก็ดี
    เดินสภาวะต่อได้ ทั้งในระดับของสมาธิ
    แล้วก็ระดับของวิปัสสนาญาณ
    พลิกมาเป็นแยกรูปแยกนามของละเอียด
    แล้วสลัดคืนสู่ความบริสุทธิ์ได้
    .
    .
    โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
    11 พฤศจิกายน 2563
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,654
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +70,138
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,654
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +70,138
    มนุษย์เรา
    สิ่งที่โชคดีที่สุด ก็คือ
    เราได้มีกายหยาบ
    ได้มีโอกาสที่จะเจริญกายคตาสติ
    เป็นอุปกรณ์การฝึกสติที่ง่ายที่สุด
    อยู่ ๆ เราไปรู้จิตรู้ใจเลย..เราทำได้ไหม?
    ทำไม่ได้เมื่อจิตยังไม่ตั้งมั่นนะ
    เวลาจิตที่ยังไม่ตั้งมั่น..
    ไปดูอะไร..ก็ไหลไปกับสิ่งนั้น
    ที่ว่าเรารู้จิตรู้ใจเนี่ย
    เราดูความคิด.. ก็ไหลไปกับความคิด
    ดูอารมณ์.. ก็ไหลไปกับอารมณ์
    ดูความรู้สึก. ก็ไหลไปกับความรู้สึก
    นี่ไม่ใช่สภาวะที่สติตั้งมั่น
    เพราะฉะนั้น..
    ฐานกายนี่แหละ
    ที่จะทำให้เราตั้งสติได้ง่ายที่สุด
    ก็คือ การระลึกรู้กาย
    รู้สึกตัวขึ้นมาเนือง ๆ
    ปลุกการตื่นรู้ขึ้นมา
    จะอาศัยลมหายใจ
    การกระเพื่อมหน้าอกหน้าท้อง
    ความรู้สึกที่มือบ้าง
    ที่แขนบ้าง ที่เท้าบ้าง
    ที่การเคลื่อนไหวของกายบ้าง
    ก็อาศัยร่างกายนี่แหละ
    เป็นอุปกรณ์ของการเจริญสติปลุกการตื่นรู้ขึ้นมา
    จะเริ่มจากส่วนใดส่วนหนึ่งของกายก็ได้
    เพราะฉะนั้น..
    ทุกส่วนของร่างกาย
    เป็นอุปกรณ์การฝึกได้ทั้งหมดแหละ
    ใหม่ ๆ ในสติมันยังมีกำลังน้อย
    ก็จะรู้สึกตัวได้เป็นส่วน ๆ
    ผุบ ๆ โผล่ ๆ
    ส่วนใหญ่แล้วจะผุบมากกว่าโผล่ด้วย
    ก็ต้องค่อย ๆ ฝึกปฏิบัติไปนะ
    ใหม่ ๆ ใช้การขยับตัวช่วยจะช่วยได้มาก
    ขยับมือรู้สึกตัว
    ขยับแขนรู้สึกตัว
    ขยับขารู้สึกตัว
    รู้เนื้อรู้ตัวขึ้นมาอยู่เสมอ
    ค่อย ๆ ปลุกการรับรู้ขึ้นมา
    สติ ก็คือ การรับรู้
    ปลุกการรับรู้ขึ้นมา
    .......................................
    โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร



    ?temp_hash=94baa168989cc12ea5c0d030f5877181.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...