ทุกข์ หรือ สุข มีค่าเท่ากัน..

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 27 ตุลาคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    ธรรมไหลไปสู่ธรรม 9
    ทุกข์ หรือ สุข มีค่าเท่ากัน
    [​IMG]

    โลกธรรม 8 ธรรมที่ครอบงำสัตว์โลก และสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามธรรมนั้น คือ

    มีลาภ
    เสื่อมลาภ


    มียศ
    เสื่อมยศ


    มีสรรเสริญ
    มีนินทา


    มีสุข
    มีทุกข์

    ทั้งนี้ หลวงพ่อชาเคยให้โอวาทเปรียบเทียบไว้ว่า
    ผู้ใดยึดในทุกข์ ก็ประดุจโดนงูเห่ากัด
    ผู้ใดยึดในสุข ก็เสมือนจับงูเห่าข้างหาง
    และจะโดนมันแว้งกัดเอาในภายหลัง
    ดังนั้นความสุขกับควะมทุกข์ อารมณ์ชอบใจกับไม่ชอบใจนั้น จึงมีค่าเท่ากัน
    ถ้าหลงยึดเข้าแล้วก็ให้โทษแก่เราเหมือน ๆ กัน
    เมื่อเราคุ้มครองจิตโดยอาศัย สติดี สัมปชัญญะดี ความพากเพียร ถูกต้อง
    พรั่งพร้อมด้วยความเกรงกลัว ความละอายต่อบาป
    และความอดทนอดกลั้นต่ออารมณ์ที่รุนแรงแล้ว
    เราย่อมจะเป็นผู้อยู่เหนืออารมณ์ ด้วยจิตที่รู้ ตื่น และเบิกบาน
    รู้ว่า โลกธรรม 8 เกิดขึ้นแล้วก็จะดับไป
    โดยที่ใจของเราไม่เกิดความหวั่นไหวคล้อยตามไปด้วย
    เปรียบเหมือนเราอยู่ในบ้านที่ปลอดภัย และอบอุ่น
    ไม่ว่าโลกภายนอกจะเป็นอย่างไร ฝนจะตกหรือแดดจะออก
    อากาศจะร้อนหรือหนาว บรรยากาศจะสงบนิ่งหรือมีพายุพัด
    เราเพียงแต่มองดูความเป็นไปจากทางหน้าต่างเท่านั้น
    โลกธรรมที่เกิดขึ้นกับเราก็เหมือนธรรมชาติ เหมือนลมฟ้าอากาศ
    เป็นสิ่งไม่อยู่ในอำนาจการควบคุมของเรา
    เราทำได้แต่เพียงพิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริง
    แล้วปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติอย่างนั้น
    แต่บางครั้งบ้านของเราก็เกือบจะพังเหมือนกัน
    เสื่อมลาภ เสื่อมยศ ถูกนินทา ได้รับทุกข์
    บางครั้งเราก็ถูกกระทบจากสิ่งเหล่านี้อย่างรุนแรง
    แต่เราก็ต้องอดทน และให้เวลาเป็นเครื่องแก้
    แม้จะเกิดความฟุ้งซ่านวุ่นวาย ความเดือดร้อนใจเพียงใดก็ตาม
    ให้ตั้งสติ พิจารณาทบทวนความคิดของตัวเองให้ถูกต้อง

    คิดให้เป็น
    คิดให้ดี
    คิดให้ถูก

    เมื่อคิดถูกต้อง สอดคล้องกับหลักธรรมแล้ว จิตใจของเราจะค่อย ๆ เย็นลงเอง
    ข้อสำคัญมันจึงอยู่ที่ความคิด ถ้าคิดผิด เกิดความทุกข์ทันที
    แต่ถ้าคิดดี คิดถูก ก็ให้ความสุขแก่ตนเองได้
    อย่างนี้เรียกว่า ใจเป็นศีล
    คือ ตั้งเจตนาให้ถูกต้องต่อความรู้สึกนึกคิดทั้งปวง
    เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับคนส่วนใหญ่
    แม้จะมีศรัทธามาก เคยฟังเทศน์ฟังธรรมบ่อยครั้ง
    หรือศึกษาปฏิบัติธรรมมานานมากแล้ว ก็ยังอาจจะจับหลักไม่ได้
    เพราะ ธรรมะยังไม่เข้าถึงใจ นั่นเอง
    เมื่อใดก็ตามที่ประสบกับความทุกข์ เราต้องนึกถึงพุทธภาษิต
    ที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ที่ว่า
    "ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ ธรรมเหล่านั้นย่อมดับไปด้วยเหตุ"





    ที่มา: ประตูสู่ธรรม
    http://www.dharma-gateway.com
     

แชร์หน้านี้

Loading...