นายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๖ สมชาย วงศ์สวัสดิ์..ไม่แขวนพระ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๖ ไม่แขวนพระ
</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER></CENTER>


ทันทีที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ถูกคัดเลือกจากพรรคร่วมรัฐบาลให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๖ ของประเทศไทย ประวัติและเรื่องราวต่างๆ ของท่านถูกสื่อมวลชนนำมาเผยแพร่ทุกแง่มุม และแง่มุมหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย คือ "พระเครื่องที่นายกคนที่ ๒๖ ยึดเป็นสรณะ" ซึ่งใครเลยจะคิดว่า "นายกรัฐตรีคนที่ ๒๖ ไม่แขวนพระ"
แม้จะสะสมพระเครื่องพระบูชาไว้จำนวนมาก ซึ่งอาจจะทำให้คนทั่วๆ ไปคิดว่า นายกสมชายจะหยิบกล้องขึ้นมาส่องพระ แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เพราะเขาจะใช้เวลาว่างอ่านหนังสือธรรมะ ทั้งนี้ "คม ชัด ลึก" ได้สัมภาษาณ์นายสมชายไว้เมื่อครั้งยังเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยท่านได้ให้เหตุผลที่ไม่แขวนพระไว้อย่างน่าคิดว่า
"คำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งขลังทั้งศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าพระเครื่อง ใครมีติดตัวไว้รับรองได้เลยว่า เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อตัวเองแล้ว สิ่งสำคัญศาสนาพุทธมีคำสอนมากมายที่ชาวพุทธทุกคนควรเห็นคุณค่าของการศึกษาหลักธรรม" <CENTER></CENTER>


พร้อมกับอธิบายให้ฟังว่า ตามคำสอนของท่านที่ได้นำมาใช้กับชีวิตการทำงานนั้นก็คือ ไม่ยินดียินร้าย ไม่ยึดมั่นถือมั่น เพราะเห็นชัดว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็ดับไป เหมือนลมฟ้าอากาศ ต่อไปเราก็ค่อยเปลี่ยนกำหนดความรู้สึกที่ดีๆ คือ ปีติและสุข กำหนดปีติสุขทุกครั้งที่ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า คิดอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ซึ่งเราสามารถกำหนดให้เราเป็นสุขได้ พยายามมีสติ มีสัมปชัญญะ มีสมาธิ ประคับประคองความรู้สึกปีติสุขให้ติดต่อกันต่อเนื่องกัน ปีติสุขก็จะค่อยๆ เต็มเปี่ยมในจิตใจของเรา เราสามารถสร้างปีติสุขได้โดยอาศัยอำนาจของสมาธิด้วยการระลึกถึงความดีสร้างความสุข
ปกติแล้วถ้าไม่มีตำแหน่งทางการเมือง หรือกระทั่งเมื่อครั้งเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม แม้จะมีคนขับรถประจำตำแหน่งก็ตาม แต่เขามักจะขับรถไปไหนมาไหนด้วยตนเอง โดยให้เหตุผลว่า "ชีวิตนี้ผมไม่ค่อยไว้ใจใครมากไปกว่าตัวเอง"
ด้วยเหตุที่เป็นคนชอบขับรถเอง นายสมชายเกือบกลายเป็นผีเฝ้าถนนถึง ๒ ครั้ง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อครั้งเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดเชียงราย ปี ๒๕๒๖ ระหว่างขับรถเข้าทางโค้งไปตามไหล่ทางหุบเขาของถนนซึ่งมีอยู่นับร้อยๆ โค้ง แม้จะชำนาญเส้นทางอย่างดี แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถหักหลบรถแล้วหมุนพวงมาลัยไม่คืน ทำให้รถไหลตกลงไปตามไหล่ทางที่ลาดชันมาก <CENTER></CENTER>


"ผมขับรถเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปตามปกติ พอดีมีรถคันหนึ่งวิ่งสวนกินทางเรามานิดหน่อย ผมจึงหักหลบ ผมคิดว่าคงหลบพ้นแล้ว แต่ปรากฏว่าพวงมาลัยรถกลับไม่หมุนคืน ทำให้รถไหลไปตามถนนเรื่อยๆ เสียดสีกับไหล่เขาไปเป็นทางยาว จนในที่สุดก็ตกลงไปอยู่คูข้างทางที่ลาดชัน นึกว่าต้องตกลงไปเจอกับยมบาลที่รออยู่ในหุบเหวเสียแล้ว" นายสมชายเล่าถึงเหตุการณ์เฉียดตายพร้อมทำท่าทางประกอบ
หลังจากนั้นอีกไม่นาน ก็มีเหตุการณ์เฉียดตายอีกครั้ง โดยเป็นช่วงเวลาที่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ภายหลังได้มาติดต่อเรื่องการขอย้ายตำแหน่งของภรรยา (เยาวภา วงศ์สวัสดิ์) เมื่อเสร็จแล้วก็ได้เดินทางกลับ เพื่อมาทำงานยังจังหวัดเชียงราย
ทันทีระหว่างนั่งรถบัสก็หลับมาอย่างสบายใจ ช่วงเวลานั้นเองก็มีความรู้สึกว่ามีฝนตก มีเสียงฟ้าผ่า ทำให้สะดุ้งตื่นขึ้นมา ยิ่งตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นภาพรถบัสที่นั่งอยู่พลิกคว่ำตกลงข้างทาง เสียงตัวรถเสียดสีกับก้อนหินตลอดเส้นทาง
"ก่อนหน้านั้นผมไม่ทราบเหมือนกันว่า รถมันเสียหลักได้อย่างไร เพราะผมหลับมาตลอด พอตื่นขึ้นมาก็เห็นว่า รถกำลังจะตกลงข้างทางด้วยความลาดชัน พอได้สติผมก็กอดเก้าอี้ไว้อย่างแน่น ทำให้ประคองตัวเองรอดจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้ หลายคนได้รับบาดเจ็บ ผมไม่รู้ว่ามีใครเสียชีวิตบ้างหรือเปล่า ส่วนตัวผมหัวโนนิดหน่อย ก็ไม่ได้สนใจใคร เมื่อปีนออกจากรถมาได้ก็รีบเดินทางกลับทันที" นายสมชายเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ราวเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน
เมื่อถามว่ามีพระอะไรดี นายสมชายตอบสวนกลับมาว่า "ใครทำความดีไว้ รู้จักมองโลกในแง่ดี จิตใจไม่เคียดแค้นใด ความดีนั่นแหละที่จะออกมาช่วยยามที่ชีวิตตกอยู่ในอันตราย ความดีเหล่านั้นก็จะช่วยให้รอดตายจนกลายเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ได้"

ภริยาศรัทธาพ่อท่านคล้าย

พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์" อดีตเจ้าอาวาสวัดสวนขัน ต.สวนขัน กิ่ง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ศิษยานุศิษย์และประชาชนที่เคารพนับถือศรัทธาพ่อท่านคล้าย เชื่อถือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวาจา พูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น
พ่อท่านคล้ายจะพูดจากับทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และแจ่มใส อารมณ์เยือกเย็นอยู่ตลอดเวลา ท่านมักจะให้พรทุกคน "ขอให้เป็นสุข เป็นสุข"
ขณะเดียวกัน ผู้ที่เคารพนับถือท่าน ต่างพากันกลัวคำตำหนิ เพราะผู้ที่ถูกตำหนิทุกรายล้วน แต่พบความวิบัติ คนส่วนมากจึงหวังที่จะได้รับคำอวยพร เพราะคำเหล่านั้นเป็นการพยากรณ์ที่แม่นยำ ทั้งในทางดีและทางเสื่อมเสีย
คนที่ไปนมัสการหวังที่จะได้วัตถุมงคล บ้างขอน้ำมนต์ ชานหมาก แหวน ผ้ายันต์ เหรียญ รูปหล่อ รูปพิมพ์ ซึ่งพ่อท่านคล้ายก็มีเมตตาให้ทุกคน ยิ่งชานหมากของท่าน หากใครได้รับจากมือท่านเป็นต้องหวงแหนอย่างที่สุด
พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ เป็นพระสงฆ์ที่ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๖ ให้ความเคารพนับถือมาตลอด โดยมีรูปพ่อท่านคล้ายบูชาไว้ที่บ้าน ขณะเดียวกันก็แขวนพระเครื่องของพ่อท่านคล้ายด้วย โดยให้เหตุผลว่า "แขวนเพื่อให้เป็นมงคลแก่ชีวิต อย่างน้อยก็เพื่อให้ตัวเรามีสิ่งที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่ให้กระทำการอะไรที่ผิดศีลผิดธรรม"
นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่ นางเยาวภา ปฏิบัติจนกลายเป็นกิจวัตรไปแล้ว คือ "อ่านหนังสือธรรมะของท่านพุทธทาสก่อนนอน"
ทั้งนี้จะอ่านหนังสือธรรมะทุกประเภท ทั้งเรื่องการทำสมาธิ หลักการมีสติสัมปชัญญะ รวมทั้งหนังสือธรรมะอื่นๆ
สำหรับสิ่งที่ได้จากการอ่านหนังสือธรรมะนั้น นางเยาวภาบอกว่า อ่านแล้วก็ได้ข้อคิดในการเตือนสติตัวเองทุกครั้ง ซึ่งหากเรามองคนที่หลงวัตถุก็ซื้อหาวัตถุชนิดที่ไม่จำเป็นเอามาไว้เต็มบ้าน จนเกินความต้องการ โดยไปกู้หนี้ยืมสินหาซื้อมา อุปกรณ์แห่งวัตถุนิยมนี้เมื่อได้มาก็เป็นการสร้างความสุขทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายก็จริง
ขณะเดียวกัน ถ้านำหลักธรรมะมาใช้ประกอบกับความคิดก่อนตัดสินใจซื้อ สิ่งเหล่านี้ยิ่งมองยิ่งไม่มีความหมาย ไม่มีความสะอาด ไม่มีความสว่าง และไม่มีความสงบ

"ไตรเทพ ไกรงู"
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
---------------
ที่มา:~คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/2008/09/27/x_phra_j001_222849.php?news_id=222849

 

ท่านมีพระอยู่ที่ใจแล้ว

 

อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ ... ท่านแขวนพระธรรม ท่านกราบพระรัตนตรัย

ความดีที่ท่านทำขอให้คุณพระคุ้มครองท่านครับ