นิพพาน(ชั่วคราว)ไม่มีการรอคอย

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 17 มีนาคม 2022.

  1. เด็กชายปราบ

    เด็กชายปราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2022
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +32
    เวลาดูคำสอนเพี้ยนๆดูไม่ยาก
    ก้มักจะขัดพุทธวจนะอย่างเดียว
    แล้วก้จะอยู่ที่ว่า สุดแล้วแต่ใครจะเก็ตไม่เก็ต

    ต่างจากพุทธวจนมาก สมเหตุสมผล..ไม่มีอะไรหักล้างได้..สมกับปฏิสัมภิทา..มีญาณหยั่งรู้ของจริง.แม่นยำ..

    ของเก๊..บรรลุขั้นนั้นขั้นนี้.แต่ความแม่นยำไม่เคยมี..เก๊ดูง่ายนะครับ
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    สอนให้เพียร สอนให้รอ สอนให้อดทน
    อดกลั้น รอจนวันสำเร็จจะมาถึง
    (แต่ไม่รู้เมื่อหรั่ย)นั่นเป็นแนวทางของผู้
    หวังพุทธภูมิหรือเปล่าฮับ
    สอนให้พ้นภพชาติ ต้องพ้นในวินาทีนี้
    (ปัจจุบันขณะ)
    พ้นได้เพราะเข้าใจว่าอะไร เป็นอะไร
    จึงไม่ต้องปล่อยไม่ต้องวาง
    เพราะธรรมแท้ ไม่มีอะไรให้ทำการยึด
    และไม่มีอะไรให้ต้องทำการวาง
    ฮับ
     
  3. เด็กชายปราบ

    เด็กชายปราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2022
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +32
    ไม่ใช่คำสอนพุทธะภูมิหรอกครับ

    คำสอนพระพุทธเจ้าล้วนๆ
    พุทธภูมิ สอนไม่ได้หรอกครับ เพราะไม่ได้บรรลุอะไร
    กิเลสก็ยังเต้มกะบาลเหมือนปุถุชน
    สอนเรื่องการทำทาน การทำสมาธิแบบโลกก้ได้อยู่
    เอาคำสอนพระพุทธเจ้ามาสอนก้ได้อยู่

    มันจึงมีการเรียน ปริยัติ เมื่อลงมือทำเรียกการปฏิบัติ
    ผลจากการปฏิบัติ เรียกปฏิเวธ


    ขาดการเรียนที่ถูกต้อง ก็เลย มีคำสอนเพี้ยนๆมาเยอะมวกกกกกกก


    ปริยัติ ขาดการเรียน ผลการปฏิบัติก็ไม่ตรง ปฏิเวธก็เพี้ยน
    แม้เรียนปริยัติ แต่ขาดการปฏิบัติ ปฏิเวธก้ไม่เกิด

    จะกลายเป้นเหยื่อ ได้ง่ายมวกกกกก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2022
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ท่านอยู่บนหลังเสือนั่น
    นะ่ปลอดภัยสบายดีอยู่
    แล้ว
    อย่าคิดอยากลงมา มัน
    อันตรายฮับ
    ส่วนลุงแมวไม่มีโอกาสขึ้นขี่เสือ จึงไม่มี
    เสือตัวไหนติดใจแค้นลุง 555
     
  5. โรบิน123

    โรบิน123 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2020
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +19
    555 ลุงเอาอะไรมาพูด เด๋วนี้เขามีเมตตาแล้ว
     
  6. เด็กชายปราบ

    เด็กชายปราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2022
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +32
    เสือโหยป่าวฮะ ช่องสามสีเรยนะ.
     
  7. เค็นชิโร่

    เค็นชิโร่ Set zero

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2021
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +62
    เมื่อไหร่ที่เห็นว่า
    "อะไรมันก็เป็นแบบนั้นเอง"

    ใจมันจะกลับไปสู่สิ่งเดิม
    กลับสู่ธรรมชาติเดิมๆของมัน
    ไม่อิน หรือ จมไปกับเรื่องราวต่างๆ
    ...ความทุกข์ก็เลยตัดจบ

    จริงๆแล้วการไม่จมในเรื่องสมมุติตั้งแต่แรก...
    แล้วมองทุกๆสิ่งไหลเรื่อยผ่านไป
    คนก็ยังเป็นคน
    สิ่งของก็เป็นสิ่งของ...ของมันอย่างนั้น
    นี่ต่างหาก
    ....การเห็นโลกอย่างที่มันเป็น
    ไม่ลงไปทุกข์ตั้งแต่แรก

    แต่บางครั้งคนธรรมดา....
    ถ้าเผลอหลงไหลไปกับเรื่องราวต่างๆ
    ....จนทำให้เกิดทุกข์
    ก็ตั้งสติ....
    ถอยหลังออกมาเป็นเพียงผู้มองดูสถานะการณ์
    จะพบว่า....
    มันก็แค่ธรรมชาติหนึ่งที่เกิดขึ้น...
    ....แล้วมันก็จบไป...ไร้ความเป็นเรื่องราวใดๆ
    ....แค่นั้นเอง
     
  8. โรบิน123

    โรบิน123 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2020
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +19
    สุดท้ายประจบสอพอก้ชนะ ห้วยแตกชิบหาย
     
  9. โรบิน123

    โรบิน123 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2020
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +19
    การประจบมีข้อดีนะ ข้อแรกเลยอารมโทสะไม่เกิด ประจบไว้ชีวิตไม่เสียหาย55
     
  10. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ผู้ใดเกาะติดคัมภีร์ หรือ
    ยึดติดครูอาจารย์
    ผู้นั้นชื่อว่าได้ขึ้นไปอยู่บนหลังเสือเรียบ
    ร้อยแล้ว 55
     
  11. เด็กชายปราบ

    เด็กชายปราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2022
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +32
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
    เทวตาสังยุต นฬวรรคที่ ๑ โอฆตรณสูตรที่ ๑
    [๑] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้-
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้วเทวดาองค์หนึ่ง มีวรรณงาม ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้วถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค แล้วได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ
    [๒] เทวดานั้น ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กราบทูลคำนี้กะพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ข้าพระองค์ขอทูลถาม พระองค์ข้ามโอฆะได้อย่างไร ฯ
    พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ท่านผู้มีอายุ เราไม่พักอยู่ ไม่เพียรอยู่ ข้ามโอฆะได้แล้ว ฯ
    ท. ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ก็พระองค์ไม่พักไม่เพียร ข้ามโอฆะได้อย่างไรเล่า ฯ
    พ. ท่านผู้มีอายุ เมื่อใด เรายังพักอยู่ เมื่อนั้น เรายังจมอยู่โดยแท้ เมื่อใดเรายังเพียรอยู่ เมื่อนั้น เรายังลอยอยู่โดยแท้ ท่านผู้มีอายุ เราไม่พัก เราไม่เพียร ข้ามโอฆะได้แล้วอย่างนี้แล ฯ
    เทวดานั้นกล่าวคาถานี้ว่า
    นานหนอ ข้าพเจ้าจึงจะเห็นขีณาสวพราหมณ์ผู้ดับรอบแล้ว ไม่พัก ไม่เพียรอยู่ ข้ามตัณหาเป็นเครื่องเกาะเกี่ยวในโลก ฯ
    [๓] เทวดานั้นกล่าวคำนี้แล้ว พระศาสดาทรงอนุโมทนา ครั้งนั้นแล เทวดานั้นดำริว่า พระศาสดาทรงอนุโมทนาคำของเรา จึงถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค ทำประทักษิณแล้วก็หายไป ณ ที่นั้นแล ฯ
    อ้างอิง
    เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ บรรทัดที่ ๑ - ๒๙. หน้าที่ ๑ - ๒.
     
  12. เด็กชายปราบ

    เด็กชายปราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2022
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +32
    ใครก้ไมรู้ ยึดติดปฏิสัมภิทา ตั้ง สอง อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2022
  13. เด็กชายปราบ

    เด็กชายปราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2022
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +32
    ปุถุชน ไปตีความ ไม่พักไม่เพียรผิด
    กลายเป็นไปด้อยค่าความเพียร

    พระองค์ ตอบเทวดาเพราะ เทวดา ถาม

    ถ้าพระองค์ พัก ก็เปรียบดั่ง จม
    จมอยู่โลกียะ ไม่จบสิ้นไม่มีวัน ได้ขึ้นมา

    พอพระองค์ เพียร ได้ชื่อว่า ลอย

    เมื่อลอยข้ามไปถึงฝั่งได้ จึงพ้น
    เมื่อพ้นแล้ว จึงไม่มีพักไม่มีเพียร

    พระองค์ย่อมตอบด้วยอาการนั้นอยู่แล้ว ว่าข้ามโอฆะได้ด้วย อาการนี้

    ปุถุชนกิเลสหนา ตีความเข้าข้างกิเลสตัวเอง

    ด้อยค่าความเพียร
     
  14. เด็กชายปราบ

    เด็กชายปราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2022
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +32
    มีแต่พระอรหันต์ จะตอบได้เต็มปาก ว่าไม่พักไม่เพียรเพราะพ้นไปแล้ว

    ปุถุชนผุ้เจริญสติปัฏฐาน แม้พระอริยะทั้ง 3ผล ย่อม ขึ้นชื่อว่า ลอย
    เพราะกำลังมุ่งความเพียร ไม่จม
     
  15. เค็นชิโร่

    เค็นชิโร่ Set zero

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2021
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +62
    แต่ละคนไม่เหมือนกันจิฮับลุงแมว
    เรื่องสัจธรรมไม่ใช่ทุกคนจะฟังเข้าใจ
    บางคนยังไงก็ต้องเร่งปุ๋ย...ด้วยวิธีการต่างๆ
    เพราะจิตแต่ละคน...ไม่มีใครเหมือนใคร
    ลุงแมวอาจจะฟังธรรมะเข้าใจ
    ....แต่พอในชีวิตจริง
    มันเป็นแบบนั้นหรอป่าว?
    ลองมองมือถือ...ในมือ
    ....รู้สึกว่ามันเป็นของเราไหม
    ความรู้สึกเป็นเจ้าของ...มันซ่อนอยู่ลึกๆ
    ...ไอ้ความลึกนี่ล่ะ...ที่มันยาก
    บางทีเราคิดว่า...เข้าใจในธรรมแล้ว
    ลองมือถือตกน้ำจ๋อม....
    ใจหล่นวูบทันที...
    ....ความยึดในใจที่ซ่อนอยุ่แสดงตัวให้เห็นทันที
    เมื่อไหร่สูญเสียสิ่งนั้น...จึงเข้าใจว่ามีอุปทาน
    ในเวลาปกติมันซ่อนไว้เนี๊ยนเนียน
    ....จนแทบเหมือนไม่มี...ไม่รู้สึกตัว

    แค่ความเข้าใจเรื่องสัจธรรม
    ...อย่างเดียว
    จิตปล่อยวางลงไม่ได้หมด....
    และยิ่งในบางคน...จิตไปอยุ่ในฝั่งลบ
    สัจธรรมทั้งหลายจะเข้าใจไม่ได้เลย
    ทำไมต้องมีวิธีการ?
    ทำไมต้องมีมรรคมีองค์8?

    เพราะจะทำให้จิตของบางคนที่อยุ่ฝั่งติดลบ
    ขยับเข้าใกล้ศูนย์
    คือไม่บวก...ไม่ลบ....
    ....จะได้เห็นความจริงตรงหน้า
    เพราะงั้นบางคน...ยังต้องขี่เสืออยุ่ฮับ

    ส่วนแบบจำลองของนิพพาน
    ดูได้จากขณะที่จิตเป็นฌาน...
    ตอนที่ไม่มีตัณหาขับเคลื่อน...ไม่มีอกุศลภายใน
    ส่วนในชีวิตจริง...อาจเจอนิพพานชั่วคราวได้
    ....แต่ลุงแมวต้องดูดีๆ
    ...มันมีตัวตนแอบซ่อนลึกๆอยุ่หรือไม่?
    อาจจะมี? .... แต่มองไม่เห็นก็ได้
    ....เพราะงั้น
    จะขี่เสือกะได้...แค่อย่าไปรักเสือกะพอ55

    #เลียเเผล๊บๆ
     
  16. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    แนนมองคำว่าลอยแบบนี้นะ
    เวลาเราฝึกแบบมุ่งดีมุ่งเอาอย่างเดียวไม่ได้เห็นปัจจุบันจิต จิตมันว่างเบาจากลอยจากกิเลสก็จริง แต่มันก็ไม่พ้นโอฆะอยู่ดี มันได้แค่ลอยเหนือโอฆะอยู่แบบนั้น ไปไม่ถึงฝั่งสักที

    แต่ถ้าเผลอเมื่อใด ก็พร้อมที่จะตกลงมาจมได้เสมอ

    ดังนั้นไม่ว่าจะจมหรือลอย ก็ถือว่าไม่เคยเหยียบฝั่ง
     
  17. เด็กชายปราบ

    เด็กชายปราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2022
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +32
    ลอยอยู่มันเห็นฝั่ง มันก้ไปตามฝั่งได้

    จมอยู่มันก้ตายอย่างเดียว


    เมื่อเพียรอยู่ จึงชื่อว่าลอย เมื่อลอยอยู่ก็มองเห้น ว่าทางไหนทิศไหน

    ก้มุ่งตรงไปทางนั้น ด้วยความเพียร

    เข้าใจไหมครับ คุณแฟน
     
  18. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    อาการลอยอยู่ก็เหมือนกับคนที่คิดว่าตนพ้นกิเลส เข้าถึงนิพพาน แต่ขาดการกำหนดรู้ ขาดการเห็นแจ้งในอริยสัจจ เกิดจากการข่มกิเลสให้ระงับไปชั่วคราว

    ดังนั้นคนที่ลอยอยู่ก็จะลอยอยู่แบบนั้นด้วยความเข้าใจผิดว่าต้นพ้น แต่ความจริงก็แค่บังคับให้ตนลอยเหนืออยู่เฉยๆ ไม่ได้แตะฝั่งแต่อย่างใด

    จะเคลื่อนผ่านโอฆะแบบไม่ลอยไม่จมได้อย่างไร ก็ว่ายน้ำไป หรือ นั่งเรือไป โดยการกำหนดรู้อย่าางเดียว

    จมอยู่รู้อยู่ ลอยก็รู้อยู่ ไม่สุดโต่งไปข้างใดข้างหนึ่ง


    จาก คุณแฟนต้า ช่วยแก้คำผิดด้วยค่ะ
     
  19. เด็กชายปราบ

    เด็กชายปราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2022
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +32
    ฟังดีดีนะ

    เมื่อเพียรอยู่ จึงชื่อว่าลอย

    เมื่อกำหนดรู้จึงชื่อว่าเพียร

    ขาดการกำหนดรู้เมื่อไรก้คือจม

    เมื่อกำหนดรุ้ก้ลอย

    การกำหนดรู้ เมื่อบ่อยๆเข้า บ่อยเข้า ผลงานก้เกิดขึ้น

    ผลงานที่เกิดขึ้น คือความเป็นไปเอง จึงแล่นไปถึงฝั่งได้

    กำหนดรู้ทำให้ลอย ผลของการกำหนดรู้ทำให้แล่นไป
    มรรคเจริญ

    อริยะมรรค จึงมีสองส่วน

    ส่วนตบแต่ง คือการ กำหนดรู้
    ส่วนที่พ้นการตบแต่ง โพชฌง 7


    เข้าใจไหมครับ คุณพัดลม
     
  20. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    กำหนดอยู่รู้อยู่ก้อชื่อว่า ไม่พักไงคะ ถึงได้ไม่จม งงไรคะคุณปราบ

    แต่ถ้าขาดการกำหนดรู้ ก็จะเกิดได้ทั้งจมและลอย จึงไม่ควรขาดการกำหนดรู้ในทุกสถานะกาณณื ทุกสภาวะอารมณ์ ไม่งั้น จะอยู่กับที่ ไม่สามารถเคลื่อนที่ move on ไปขึ้นฝั่งได้

    การกำหนดรู้ไม่ได้ทำให้ลอย แต่ไม่ทั้งจมไม่ทั้งลอย อยู่กลางๆ เหมือนได้พายเรือเคลื่อนไปข้างหน้าทีละน้อย แม้ไม่รู้และไม่สนว่าฝั่งอยู่อีกไกลแค่ไหน

    อย่าเอานิ้วมาแหย่พัดลมนะคะ
    จะปั่นให้ขาดเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...