เรื่องเด่น ปัญหาของการหลงไปกับเหตุผลทางโลก

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 26 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,289
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    BuddhaOverSeaCloud.jpg
    ปัญหาของการหลงไปกับเหตุผลทางโลก

    aj-prasert-6.jpg
    วันนี้ความมีเหตุผลเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เราทำอะไรๆ อย่างมีเหตุมีผล แต่ด้วยความหลงของมนุษย์ เหตุผลของมนุษย์จึงมาจากฐานความหลงด้วยเช่นกัน จึงทำให้เราคิดวนอยู่ในกรอบความคิดของตัวเอง แล้วก็คิดว่าสิ่งที่เราคิดนั้นถูกเพราะมีเหตุผลสนับสนุนมากมาย เช่นถ้าวันที่ผู้คนเชื่อว่าโลกแบนแล้วมีใครสักคนบอกว่าไม่ใช่หรอก โลกไม่ได้แบนโลกนี้กลม คนที่เชื่อว่าโลกแบนนั่นล่ะถูกแล้วก็จะพูดจากระแนะกระแหนว่าถ้าอย่างนั้นหากเราอยู่ที่เส้นศูนย์สูตร คือช่วงกลางๆ ของโลก เวลาทานข้าวหรือดื่มน้ำก็คงสำลักแย่เลย พร้อมชวนพรรคพวกที่เชื่ออย่างเดียวกันหัวเราะเย้ยหยันอย่างผู้รู้ โดยเฉพาะหากเรื่องนั้นๆ เป็นเรื่องที่แหวกจากคิดเดิมๆ ที่เรามี เช่น ภิกษุทั้งหลาย! กายนี้ไม่ใช่ของเธอทั้งหลาย…. ถ้าได้ยินอย่างนี้ล่ะ เราก็จะเอาเหตุผลภายใต้กะลาครอบหรือประสบการณ์เล็กๆ ของเราที่มีขึ้นมาเถียงอีกเช่นเคย นี่จึงทำให้สัตว์โลกวนเวียนแค่ในความคิดและเหตุผลของตัวเองเท่านั้น
    วันนี้ต่างจากสมัยพุทธกาลมาก ดังนั้นองค์ประกอบหรือเหตุปัจจัยที่จะทำให้คนเข้าถึงธรรมจึงแตกต่างกันมาก องค์ประกอบหรือเหตุปัจจัยที่ทำให้คนถึงธรรมจึงมาจาก ๓ ปัจจัยที่จะต้องถึงพร้อม โดยยืนยันทั้งจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสารีบุตรคือคำว่า
    “ใครกันเป็นโสดาบัน?”

    “ผู้ประกอบพร้อมแล้วด้วย อริยมรรคมีองค์ ๘ ข้าพระองค์เรียกผู้นั้นว่า โสดาบัน”

    “ถูกแล้วๆ แม้เราเองก็เรียกคนเช่นนั้นว่า พระโสดาบัน”

    คำว่าผู้ประกอบพร้อมนั่นยืนยันอย่างแน่นอนว่า บุคคลนั้นจะเข้าสู่สัมมาฯทั้งหมด ๘ องค์ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้เอง แต่ที่จะชี้คือ เมื่อจัดหมวดเข้าสู่ไตรสิกขาให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจคือ ปัญญา ศีล สมาธินั้นทั้ง ๓ หมวดต้องถึงพร้อมจริงๆ
    จะแสดงให้เห็นง่ายๆ แล้วทุกคนจะเห็นภาพตาม เราจะเริ่มจากจุดนี้ก็แล้วกัน วันนี้สื่อลามกมากมาย ซึ่งนั่นเป็นเหตุในการกระตุ้นจิตใจสัตว์ทั้งหลายที่เข้าไปเสพหรือหมกมุ่นให้มีสภาพกระสันเกิดกามตัณหาฝังตัวเป็นอนุสัยพร้อมจะปะทุขึ้นมาเมื่อมีแรงกระตุ้น ดังนั้นจึงทำให้เกิดการสมสู่ทางเพศกันอย่างกว้างขวางเป็นผลตามมาเพราะการเห็นสั่งสมเข้าไปบ่อยๆ (อย่างนี้เรียก อิทัปปัจจยตา เพราะสิ่งนี้ๆ เป็นปัจจัย สิ่งนี้ๆ จึงเกิดขึ้น) นั่นจึงเป็นเหตุแล้วส่งผลให้ผู้ใหญ่ลักลอบสมสู่กัน รวมถึงส่งผลสู่เด็กนักเรียนท้องในวัยเรียน เมื่อทั้งผู้ใหญ่ก็พลาดจนตั้งท้อง ทั้งเด็กนักเรียนก็ท้องในวัยเรียนจึงส่งผลให้การทำแท้งเป็นไปอย่างกว้างขวาง เมื่อการทำแท้งกว้างขวาง ก็จะเริ่มเกิดการเสียชีวิตของทั้งเด็กที่ไปทำแท้งเสียชีวิตและที่แน่ๆ เด็กทารกในท้องก็ต้องเสียชีวิตจากการกระที่เกิดขึ้น
    จะเห็นว่าความเป็นเหตุเป็นผลนั้นเกิดเป็นกระแสที่ดูเหมือนยากที่จะหยุดได้ เพราะต่อให้ไล่ขึ้นไปอีกก็จะมีเหตุไปเรื่อยๆ เช่นอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ และอื่นๆ อีกมากที่เป็นเหตุ ดังนั้นจึงดูเหมือนกับว่าจะหยุดไม่ได้เลย ทำได้ก็เพียงชะลอเท่านั้น การแก้ไขนั้นก็ไม่สามารถไม่ทำในองค์รวมแต่ทำได้ในลักษณะตัวบุคคลคือพรากออกมาจากเรื่องนั้นๆ นั่นรอดได้เป็นคนๆ เท่านั้นเอง
    แล้วเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่จะสื่อ เมื่อถึงตรงนี้เรามองได้เลยว่าอีกไม่นาน การทำแท้งเสรีต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะความเห็นใจเด็กๆ ที่ท้อง เมื่อมองย้อนไปในมุมผู้ที่มีหน้าที่ทำแท้งคือหมอ ก็ต้องลงมือช่วยเพราะเหตุผลมันบีบเข้ามา ไม่ช่วยก็ไม่ได้เพราะเป็นเหตุผลด้านมนุษยธรรม การทำปาณาติบาตต่อทารกซึ่งคือมนุษย์คนหนึ่งจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าสมมติเหตุการณ์นี้เกิดใน ๕ ปีข้างหน้า หมอในช่วงแรกอาจจะไม่ยอมแต่ก็มีถูกบีบให้มองไปที่การช่วยเหลือเด็ก เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งนี้จะเริ่มกลายเป็นเรื่องปรกติธรรมดาไปในที่สุด ไม่มีใครพูดถึงอีกแล้วก็ทำกันเป็นปรกติ หากมีสาวกประกาศธรรมแล้วบอกว่าการทำปาณาติบาตเป็นเรื่องผิดไม่ควรทำ ทุกคนในวันนั้นจะเถียงอย่างมีเหตุผลของมนุษยธรรมต่อเด็กน้อยผู้น่าสงสารที่ต้องเสียอนาคตไปหากผู้ใหญ่ไม่ช่วย
    เห็นภาพไหม? ถ้าเข้าใจ ย้อน Time machine กลับมาที่ปัจจุบันวันนี้ทุกคนหลงใหลในสื่อ ทีวี การละเล่นกันมากขนาดไหน ทุกคนจะเห็นว่าใครๆ ก็ทำกัน บ้านไหนๆ ก็มีกัน หลงใหลเพลิดเพลินกัน วันนี้สาวกผู้เห็นความจริงเข้าไปบอกเรื่องเหล่านี้ คนจะนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่ามันไม่ดียังไงก็มันให้ความสุข ความสนุกสนานไม่ใช่หรือ? หากเราเห็นภาพไม่ว่าการผิดศีลซึ่งวันนี้ศีลทุกข้อกำลังอยู่ในจุดที่คนมากกว่าครึ่งทำมันโดยไม่รู้สึกผิด วันข้างหน้าคนเกือบทั้งหมดจะไม่รู้สึกว่ามันผิดอีก นั่นจะส่งผลให้เราทุกคนเห็นเลยว่า การบรรลุธรรมที่ประกอบด้วย ปัญญา ศีล สมาธิอย่างถึงพร้อมจะเกิดขึ้นไม่ได้ แล้วเขาจะมีเหตุผลมาสนับสนุนการไม่มีศีลของเขาอย่างชอบธรรม…เป็นอันปิดฉากการบรรลุธรรม เพราะสัญชาตญาณเถื่อนในสัตว์โลกจะไม่สามารถถูกขัดเกลาได้ เมื่อสันดานที่ปลูกฝังอย่างเหนียวแน่นและที่สำคัญไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันไม่ดีแล้วจะเอาปัญญาที่ไหนมาจัดการได้อีก
    เคยได้ยินคำนี้ไหม “โลกจะไม่เกื้อกูลต่อการบรรลุธรรมอีก”
    ตอนนี้ผู้ที่เห็นความจริงยังพอมี ยังพอเข้าใจได้ จึงสามารถนำตนเข้าถึงความเป็นอริยะได้


    แต่ผู้ที่มีเหตุผลสารพัด และเป็นคนเจ้าเหตุเจ้าผลเป็นนักวิเคราะห์ นักวิจารณ์ ก็คงหลงวนไปกับประสบการณ์ภายใต้กระแสโลกที่นับวันจะรุนแรงจนยากที่จะโงหัวขึ้นมาเห็นความจริงได้อีกเพราะศีลถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว
    อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
    ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๗
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    ขอบคุณที่มา :- https://makkanuka.wordpress.com/2015/03/01/too-much-excuse/
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,289
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    ผู้เดินตามมรรค – บนทางสู่ความรู้แจ้ง
    ความเข้าใจผิดของนักปฏิบัติธรรม
    aj-prasert-9.jpg
    วันนี้คนที่เข้ามาปฏิบัติธรรม ไปสำนักไหน ๆ ก็ให้เดินจงกรม นั่งสมาธิกันทั้งนั้น แล้วคนที่เข้ามาปฏิบัติก็ทำ ๆ กัน ๕ วัน ๗ วัน ๘ วัน ๑๕ วัน แล้วก็กลับบ้านแล้ววันสุดท้ายทุกคนก็ยิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุขที่ได้มาปฏิบัติ ได้บุญมาก จากนั้นก็ดำเนินชีวิตเหมือนก่อนที่จะมาเข้าปฏิบัติทุกกระเบียด ทุกคนคงคิดว่าพวกเขาเป็นคนดีเป็นพื้นฐานอยู่แล้วกระมัง การปฏิบัติธรรมจึงเป็นเหมือนอาหารเสริมแบบจะกินก็ได้ ไม่กินก็ได้ เพราะเราก็ทานข้าวทานผักกันอยู่ทุกวัน


    ถ้าเราไม่รู้ทุกข์ เราทุกคนจึงไม่รู้เหตุของทุกข์ ทุกวันนี้เพราะเราไม่รู้จักทุกข์ เราจึงวิ่งเข้าไปสร้างกันแต่เหตุแห่งทุกข์ แล้ววิ่งโร่มาปฏิบัติธรรม เดินจงกรม นั่งสมาธิกัน

    ถ้ามีไฟก็มีควันหากวันนี้เราสร้างเหตุแห่งทุกข์ตั้งแต่หลงไหลในกามทั้งหลาย ยังมุ่งร้ายเบียดเบียนผู้อื่น ทั้งทางกาย วาจา หรือใจ ทุกข์ยังคงมี นั่นก็คือมีไฟก็มีควัน ถ้าพอมีควัน(ทุกข์) ก็ฉีด Air Refresher มันจะหายได้อย่างไร ทำไมไม่คิดจะดับไฟ แต่มัวมาจัดการปลายเหตุกันทุกครั้ง
    เพราะไม่มีใครรู้จักอริยมรรคมีองค์ ๘ เราจึงวิ่งไปทำที่ผลแก้กันที่ผลเสมอ ไม่มีใครจัดการที่เหตุกันเลย ไม่คิดจะดับไฟ แต่ทุกคนไม่ต้องการให้มีควัน ที่นั่งสมาธิกันก็คือจะมาจัดการให้ควันหาย มันทำผิดทางแล้ว
    ถือศีล ละอกุศล ฝึกที่จะมีสติ สัมปชัญญะ ถ้าทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จะเกิดผลเป็นสมาธิ ไม่ใช่ทำสมาธิเพื่อหยุดฟุ้งซ่าน มันไม่ดูแปลก ๆ ไปหน่อยหรือ? จะไปทำได้อย่างไร? เอาพัดมาพัดควัน มันต้องดับเหตุของควันคือจัดการกับควัน วันนี้ทุกคนสับสนกันอย่างหนัก จะใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ แต่จะตัดออกที่ผลคือทุกข์อย่างเดียว
    มาปฏิบัติธรรม ๕ วัน ๗ วัน แล้วมานั่งสอบอารมณ์ ถามว่าทำไมนั่งสมาธิไม่สงบ เห็นการเกิดดับใช่แบบนี้ไหม
    พูดเล่นพูดจริงกันเนี่ย แกล้งถาม แกล้งโง่ หรือยังไงกัน?
    ปฏิบัติธรรมไม่ใช่มา เดินจงกรม นั่งสมาธิ การเดินจงกรม นั่งสมาธิเป็นบทฝึกให้เกิดสติ สัมปชัญญะ เมื่อเกิดความตั้งมั่นจะสามารถพิจารณาเข้าไป เกิดปัญญาเห็นความจริงได้ แต่ในภาพรวมแล้วการปฏิบัติธรรมคือการมาเดินทางให้พ้นไปจากทุกข์
    ทุกวันนี้ทุกข์ไหม แล้วละเหตุแห่งทุกข์กันบ้างไหม
    เหตุของมันมาจากการทำผิดทางกายก็ศีลข้อ ๑ – ๓ ทำผิดทางวาจา ก็ศีลข้อ ๔ แค่เรื่องศีลนี้ถ้ายังผิดอยู่ ทุกข์จะมีไหม? นี่ถามแบบครูถามนักเรียนหน้าห้องเรียน มีแน่ ๆ แล้วถ้าทำผิดศีลไม่ว่าข้อไหน ๆ แสดงว่าไฟมีแล้วก็ยังลุกโพลง ๆ ควันจะมีไหม? มีแน่ ๆ แล้วมานั่งสมาธิจะสงบไหมเพราะใจมันจะวนเวียนเวียนวนอยู่กับเรื่องที่เราทำผิด อย่างนี้ตอบเองได้ ไม่ต้องไปสอบอารมณ์หรอก พระจะได้เบาแรง

    บางคนบอกว่าฉันไม่ได้ผิดศีลแต่แฟนฉันผิดศีลแต่ฉันทุกข์ ลูกของฉันไปทำไม่ดีไม่สมควรฉันก็ทุกข์ ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ อันนี้มันเริ่มที่ต้นตอ เราได้ยินกันบ่อยเรื่องยึดมั่นถือมั่น เราก็เลยนึกว่าถ้าไม่ยึดมั่นก็แปลว่างั้นก็ไม่ต้องสนใจหรือ ไม่ใช่ ต่อให้ถอนความยึดมั่นแล้วก็ยังดูแลได้แบบเดิมนั่นล่ะ แต่ไม่ทุกข์ เอาทุกข์ออกอย่างเดียวไม่ได้หยุดการกระทำที่ดีที่ควรทำ

    ฟังง่ายทำยากต้องเข้ามาฝึกอย่างถูกต้อง ถ้าอย่างที่พวกเราเข้าใจเขาไม่ได้เรียกปล่อยวาง เขาเรียกปล่อยปละละเลย พอบอกปล่อยวางก็คือการไม่ทำอะไรวางมันเถอะเดี๋ยวทุกข์ ถ้าอย่างนี้ผิดแล้ว เอาง่าย ๆ ได้ลูกหมามาตัวหนึ่ง มันขี้บนเทอเรสหน้าบ้าน หน้าที่เราต้องฝึกหมาให้ขี้ในที่ในทางที่เราต้องการเพื่อให้เป็นระเบียบ พอมันขึ้นมาฉี่มาขี้ที่เทอเรสทำไง ดุ..ตี..จัดการพาไปในที่ที่ควร ถ้าดุแล้วตีเพราะโกรธอย่างนี้ไม่ใช่การฝึกหมาที่ดี แต่คนที่จะเป็นมืออาชีพในการฝึกเขาจะมีบทลงโทษบ้าง บทชมเชยบ้างตามสถานการณ์แต่เขาไม่มีอารมณ์กับมัน แม้ต้องทำซ้ำซากแค่ไหนก็ตามเขาจะรู้ว่านิสัยหมาแต่ละตัวแตกต่างกัน ไม่มีอารมณ์กับหมา เมื่อทำไปอย่างนี้ เดี๋ยวผลก็คือหมาจะเปลี่ยนพฤติกรรมได้ในที่สุด แบบนี้เรียกปล่อยวาง จะเห็นว่าไม่ก่อให้เกิดเป็นอารมณ์
    ถ้าศีลแข็งแรงดีแล้ว ไม่ทำผิดอีกทั้งกาย วาจา แต่ใจยังคงทุกข์อยู่ อย่างนี้ง่ายขึ้นหน่อยล่ะ มาเข้าหมวดจิตสิกขา ศึกษากันเรื่องของจิตของใจกันเพราะความเห็นผิดมี ความยึดมั่นมี ตัณหามี ความทุกข์ก็ยังมี เริ่มจัดการกันที่จิต ทุกข์ก็ลดลงอีกระดับ แต่ยังไม่หมดหรอก
    เห็นการเกิด-ดับในกาย เวทนา จิต ธรรม ที่ว่าเป็นวิปัสสนานั้น มันยังไม่ได้เกิดปัญญาในสัมมาทิฏฐิเลย รู้ ๆ เห็น ๆ จากความตั้งมั่น นั่นยังไม่ขึ้นขั้นตอนการถอดถอนความเห็นผิดเลย จะถึงความเป็นอริยะ คือคนไม่เถื่อน ไม่ใช่มาทำกันจุด ๆ เดียว
    พระพุทธเจ้าจึงตรัส พระโสดาบันคือ “ผู้ประกอบพร้อมแล้วด้วยอริยมรรคมีองค์ ๘” มรรคทั้ง ๘ ข้อพร้อมสมบูรณ์จนกลายเป็นหนึ่งเดียว คือเป็นเส้นทางที่เข้าสู่ใจ ไม่ต้องฝืนทำดีฝืนละชั่ว ทุกอย่างกลายเป็นอัตโนมัติเป็นวิถีชีวิตที่ไม่ต้องตั้งใจทำด้วยซ้ำ

    วันนี้ให้เข้าใจก่อนว่ามาปฏิบัติธรรมแปลว่ามาเดินทางทำให้ทุกข์ลดลง ๆ ไปเรื่อยจนหมดไปดับไปในที่สุด นั่นต้องมาจากการละเหตุที่จะทำให้เกิดทุกข์ในวิถีชิวิตประจำวัน มาเข้าคอร์สเพื่อมาศึกษาวิธีการและฝึกปรือให้เกิดความชำนาญ ถ้าทำอย่างนี้เดินทางอย่างนี้ชีวิตจะมีความสุขขึ้นเรื่อย ๆ ทุกข์ก็เห็นไปเรื่อย ๆ ละวางความยึดถือลงได้มากขึ้น ๆ ทุก ๆ วัน ถ้าแบบนี้ยิ่งปฏิบัติธรรมยิ่งมีความสุข ไม่ใช่มาเครียดกับการไม่มีเวลาเดินจงกรม (ทั้ง ๆ ที่เดินกันวันละไกล ๆ ) ไม่สามารถนั่งสมาธิได้ (นั่งก็หลับ หรือไม่ก็กลายเป็นไปนั่งหลับตาคิดงานต่อหน้าพระ)
    ศึกษาให้เข้าใจกันก่อนดีไหม แล้วหนทางแห่งการพ้นทุกข์ก็คงไม่ยากเกินกว่าใครจะปฏิบัติ
    เหตุดับ-ผลดับแน่
    จัดการดับเหตุ อย่ามัวไล่แก้ผลเลย มันเหนื่อยเปล่า
    อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
    ๑๓ กันยายน ๒๕๕๗
    ขอบคุณที่มา :- https://makkanuka.wordpress.com/2015/02/25/misunderstanding-of-practioner/
     
  3. mrmos

    mrmos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,191
    ค่าพลัง:
    +1,095
    sa65.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...