ผีขัดขวางนั่งสมาธิ

ตอนผมบวชเป็นพระ ผมลองนั่งสมาธิครั้งแรก ทำไปประมาณ 2 นาที พบว่าตัวเองอยู่ในลักษณะผีอำขยับตัวไม่ได้ หูได้ยินเสียงผู้หญิงหัวเราะติดต่อกันนานมาก และ มีเสียงเด็กเป่าปากเสียงคล้ายตดรอบตัว แต่โชคดีที่ไม่เห็นตัวผี และที่รอบกุฏิไม่มีบ้านคนหรือไม่มีเด็กและผู้หญิงอยู่ใกล้เลย ไม่ทราบว่าทำอย่างไรจะไม่ให้ผีมาหลอกอีก

 

ก็อย่าไปกลัวสิครับ... บางทีเหมือนอยู่ในภวังค์กึ่งหลับกึ่งตื่น จิตอาจจะแต่งขึ้นมาเองก็ได้
เพราะถ้าสติไม่ไวพอ เราไม่มีทางรู้ได้เลย ว่าที่เจอเป็นของจริงหรือแค่ฝันไป...

 

เข้าไปหาผีเลย ผีเค้ารู้ว่า ถ้าเราไม่กลัว เค้าก็ไปแล้ว

เค้าไม่สนุกด้วย สู้ไปหลอกคน ที่ยังกลัวดีกว่า

 

เมื่อได้ยินเสียงปุ๊บผมก็รีบลืมตาขึ้นขณะที่นั่งสมาธิและพยายามสอดส่ายสายตาไปทั่วแต่ก็ไม่เห็นอะไรเลย และได้ยินแค่เสียง ที่สำคัญคือ เสียงเด็กเป่าลมมันข้างหูผมเลย และผมขยับก็ตัวไม่ได้ซัก 5 นาที ซึ่งในตอนนั้นมันหัวค่ำผมก็ไม่น่าจะง่วง

 

ใช้เมตตาครับผมถ้าเจออีก

แผ่เมตตาให้เลยครับ

แผ่ให้เขาอาจจะเป็นมิตรกับเราอีกด้วยนะครับ...

 

ลืมตา ก็จะไม่พบอะไร เพราะที่จิตท่านสัมผัส

เป็นเรื่องของโลกวิญญาน มิติที่มาทับซ้อนกัน:boo:

 

หลวงพ่อบอกว่าที่เราเห็น ได้ยิน หรืออะไรต่างๆล้วนเป็นสิ่งที่จิตเราคิดขึ้นก่อนว่าเราต้องเจอต้องเห็น มันก็เลยทำให้เกิดตามนั้น อย่าไปสนใจ

 

ให้จิตตั้งมั่น สวดมนต์แผ่เมตตาให้เค้าให้มากๆๆค่ะ
ไม่ให้เค้ามาก่อกวนในการปฎิบัติธรรมค่ะ
ถ้าคุณกลัวมากๆให้ขอบารมีหลวงพ่อที่คุณนับถือช่วยเหลือค่ะ
หรือ คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ค่ะ
อนุโมทนาสาธุค่ะ

 

ในระหว่างที่เราปฏิบัติธรรมและพบเห็นสัมผัสสิ่งต่างๆ
นับเป็นความโชคดีของเรามากๆ
ที่จะได้ทำบุญ

***ถ้าเป็นผีจริง เราแผ่เมตตาให้เค้าจะได้รับบุญจากเราถ้ามากพอเค้าจะได้ไปเกิดใหม่ แต่ถ้าไม่มากเค้าจะมีความสุข

***ถ้าเป็นเจ้ากรรมนายเวรเรา เราแผ่เมตตาให้เค้าจะอโหสิกรรมให้กับเรา

***ถ้าเป็นแค่นิมิต เราแผ่เมตตา หัวใจเราจะเข็มแข็ง และอิ่มบุญเป็นพลังบุญที่สะสมเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ค่ะ

กราบอนุโมทนาสาธุ
และเป็นกำลังใจให้คุณปฏิบัติต่อไป อย่าท้อนะ สู้สู้ ค่ะ ^_^

 

คาถานี้เลย สัม ปะ จิต ฉา มิ ของพระองค์ที่10
ไม้อ่อน เเผ่เมตตา
ไม้กลาง เจริญมนต์ อาราธนาประปริต
ไม้เเข็ง ปลดประคดเอว เเล้วท่อง อะ มะ สัง อัง คุ คาถา มัดผี

 

เคยลองแล้วหรือครับ ขนาดใช้คาถามัดผี ระวังจะยิ่งโดน เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

 

ผมนั่งสมาธิแล้วเห็นผีครับ ตอนเรียนอยู่ ม.3 อ.ให้นั่งสมาธิในห้องเรียน เพื่อนในห้องนั่งสมาธิแล้วไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด แต่ผมเห็นผีครับ จองหน้าผมแบบใกล้ๆเลยครับ ผมก็พยายามจอง (แบบไม่กลัว) จองจนผมไม่ไหวแล้วต้องลืมตา แต่ในขณะนั่งสมาธิผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เหมือนมีแค่ผมกับผีตนนั้น พอลืมตา ผมเหงื่อออกมาก อ.ถามว่าเป็นอะไร ผมบอกว่าผมเห็นผี อ.บอกว่าน่าจะเป็นเจ้ากรรมนายเวร หลังจากนั้นผมก็ไม่กล้านั่งสมาธิอีกเลย (เพ่งพระพุทธรูปธรรมดาให้เป็นพระที่เป็นแก้วใส แต่กลับเป็นผีได้ไงไม่รู้)

 

อยากจะบอกว่าก่อนนั่งสมาธิ ควรจะไหว้พระสวดมนต์ ให้จิตมีสติดีขึ้นเสียก่อน และทำให้มีพระเป็นที่ยึดเหนี่ยวในใจด้วย แล้วค่อยมาเจริญภาวนา เพราะความกลัวทำให้ขาดสติทำให้
เหนอะไรตามจิตใต้สำนึกซึ่งอาจเป็นสัญญาที่สะสมนอนอยู่ในก้นบึ้ง หากเหนภาพน่ากลัว
ในจิตจริงๆ ก้ให้ภาวนา เห็นหนอๆ ๆ หรือกลัวหนอ ๆ ๆ หรือพุทโธ ก้ดีภาวนาเพื่อเอาสติมายันจิตไว้เพื่อไล่ความกลัวออกไป จิตจะเกิดสมาธิและหายกลัวและภาพที่ว่าจะเลือนหายไปเองและทำให้หายกลัวในที่สุดเพราะอยุ่ภายใต้กฎอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สิ่งทั้งหลายเกิดจากจากการปรุงแต่งของจิต และกฏแห่งกรรม ดังนั้นสิ่งที่เห็นได้ถึงจะเห็นก้ไม่ควรจะยึดถือเอาไว้ เพราะไม่ใช้ของแท้ยังเป็นของไม่จริงอยู่มาก ตามภาษาของวิปัสสนาเค้าว่าไว้ ตอนที่เห็นภาพน่ากลัวพยายามให้มีสติอยู่กับตัว อย่าทิ้งสติและคิดเสียว่าการนั่งสมาธิทุกครั้งทำไปเพื่อให้จิตสงบเกิดปัญญา และต้องการใช้เพื่อการดับทุกข์และแก้ทุกข์ด้วย

 

ครูบาอาจารย์ท่านโดนมาหนักหนากว่าเราท่านยังผ่านได้ เราเท่านี้เอง
วิธีของผม ผมดูใจตัวเองเลยครับว่ากลัวอะไร ใครกลัว กลัวทำไม ทำไมถึงกลัว ทำใจเด็ดเลย ตายเป็นตายดูซิว่านั่งแล้ว ทำบุญแล้วยังจะรังแกกันให้้ตายได้ก็ให้มันรู้ไป ตั้งใจจะภาวนาแล้วนี่หน่าเป็นไงเป็นกัน ครับ พอไม่กลัวตายแล้วก็ไม่รู้ว่าจะกลัวอะไรทำไมด้วยครับ (ลึกๆแล้วถ้าเราตั่งใจจริงเขาก็จะอนุโมทนา)ด้วยครับ ถ้าผ่านได้ด้วยอุบายไหนวิธีไหนผมก็อนุโมทนาด้วยนะครับ เป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติทุกท่านครับ

 

น่ากลัวจังครับ;k06

 

เราก็เคยเป็นนะ

อาการของการนั่งสมาธิแล้วเห็นผี เราก็เป็นและเป็นมาตั้งแต่เด็กเมื่อก่อนไม่รู้จะแก้ไขยังไงพอนอนแล้วร่างกายหลับแต่จิตไม่หลับแถมสัมผัสกับผี ทั้งจับมือ เห็นบ้าง ได้ยินบ้างแล้วแต่ว่าเค้าจะมาในรูปแบบไหน ก็พยายามหาสาเหตุมาตลอดคือผีบางตนเค้าอยากขอส่วนบุญ มาแกล้ง หรือต้องการให้ช่วยอะไรซักอย่าง เค้าเห็นเราสามารถสื่อสารกับเค้าได้เค้าก็มา เมื่อเห็นก็บอกเค้าไปว่าจะตักบาตรไปให้หรือว่าแผ่เมตตาให้เค้า ถ้าเป็นตอนนั่งสมาธิคุณต้องทำจิตใจให้นิ่งอย่าไปกลัวแล้วคุณจะข้ามผ่านตรงนี้ไปได้จะไม่สัมผัสกับผี ร่างกายจะเข้าสู่สมาธิ คือสำหรับเรานะเวลาจะเข้าสมาธิจะต้องสัมผัสกับผีก่อนในหลายๆครั้งจึงจะเข้าสู่สมาธิได้ ก็ไม่รู้นะว่าจะเหมือนกันรึป่าว แต่เมื่อนั่งสมาธิเสร็จเราก็อธิษฐานโมทนาบุญให้เค้าซะ คิดซะว่าช่วยเค้านะ ได้บุญด้วย ตัวเราเมื่อก่อนก็พยายามทุกอย่างเพื่อให้หายจากอาการเห็นผีเวลานอน แต่ในเมื่อมันนำพามาเป็นแบบนี้แล้วตอนนี้เราทำใจและไม่กลัวพวกเค้า พระบอกเราว่าเราจิตละเอียดคิดซะว่าช่วยเหลือเค้า หรือบางทีอาจเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่เราเคยทำกรรมไว้ก็ทำบุญและขออโหสิกรรมให้เค้าซะ..

 

55

55 เคยสวดนะโมตัสสะเวลาโดนอำอ่ะ ผีไม่กลัวแถมสวดตามอีกแล้วก็หัวเราะด้วย อายผีเลยอ่ะ

 

สวดมนต์ไล่ผีได้ยังไงหว่า

เขามาขอส่วนบุญก็อุทิศแบ่งปันไปให้ เขาได้รับแล้วเขาก็อนุโมทนาแล้วก็ไปเท่านั้นเอง
อย่าไปคิดว่าไล่เลย ให้คิดว่าเมตตาต่อดวงวิญญาณที่ตกทุกข์ดีกว่า คิดดี ทำดี ใจดี ผีคุ้มครอง ดังตัวประโยคว่า คนดีผีคุ้มไงล่ะครับ

 

คิดเสียว่าวันหน้าเราก็ต้องเป็นผี หนีไม่พ้น ถ้าวันนี้เราเป็นกังวลกับสิ่งที่ได้รับรู้ วันหน้าเป็นผีก็คงต่างคนต่างวิ่งกันกระเจิง(ผีเหมือนกัน) คิดเสียว่าเป็นเครื่องทดสอบจิตใจ เหมือนลมพัดผ่าน ถ้าเราไม่ยี่หระ ปล่อยวาง มันก็หายไปเอง คิดเสียว่าเป็นเวทนาอย่างหนึ่ง ถ้าเราเอาจิตไปผูกกับมัน ยิ่งผูกก็ยิ่งแน่นขึ้น(กังวล) ไม่ต้องทน แค่เพียงรับรู้รับทราบแล้วปล่อยวาง อะไรที่เข้ามาสัมผัสก็สัมผัสได้เพียงร่างกายเท่านั้น ปกติร่างกายมันก็ไ่ม่เทีี่ยงอยู่แล้ว เดี๋ยวเจ็บ เดี๋ยวปวด จะมีผีมาอีกอย่างก็ช่าง เราไปหยูดยั้งความไม่เที่ยงของสังขารไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าจิตไม่ไปยึดเหนี่ยว เรื่องไหน ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป เพราะมันเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา