พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    19. พระขุนแผนกุมารทอง ผิวเคลือบ หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา จ.อยุธยา รุ่น สุดยอดมหาเมตตา รุ่นนี้นิยม ปี2541 ให้บูชา 250 บาท

    upload_2022-2-10_14-19-52.png


    สุดยอดเมตตามหาเสน่ห์นะครับรุ่นนี้มวลสารดีมากครับผงเก่าของเมืองอยุธยามาเป็นมวลสาร

    พระครูพุทธสิริวัฒน์” หรือ “ หลวงพ่อเมี้ยน พุทฺธสิริ” ท่านมีนามเดิมว่า “เมี้ยน โภคทรัพย์” เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะเส็ง ซึ่งตรงกับปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ที่บ้านหาดทราย หมู่ ๙ ต.กบเจา อ.บางบาล จ.อยุธยา โยมบิดาของท่าน นายแก้ว เกิดโภคทรัพย์ ส่วนโยมมารดาชื่อ นางทองม้วน เกิดโภคทรัพย์ ท่านมีพี่น้องทั้งหมด ๘ คน

    ชีวิตในวัยเด็กของหลวงพ่อเมี้ยน เป็นเหมือนเช่นเด็กทั่วไป จะแตกต่างก็ตรงที่เป็นเด็กที่ชื่นชอบเรียนรู้ศึกษาเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องสมุนไพร ยาแผนโบราณ เนื่องจากบิดาของท่านเป็นหมอกลางบ้าน และท่านมักจะตามบิดาไปรักษาคนเจ็บป่วยอยู่เสมอ ทำให้ท่านได้รับวิชาความรู้เหล่านี้ไปด้วย ขณะเดียวกัน หลวงพ่อเมี้ยน ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นเด็กอยู่ ก็ยังมีอุปนิสัยที่ชื่นชอบการศึกษาพระธรรมคำสอน ในเวลาต่อมาท่านจึงได้มีโอกาสเข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร ได้เรียนภาษาบาลีที่วัดดาวดึงษาราม ธนบุรี และด้วยความตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ทำให้ท่านสามารถสอบได้ชั้นมูล ๒ และสอบได้นักธรรมชั้นตรี สร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวท่านเอง

    แต่เนื่องจากมีเหตุให้ท่านต้องสึกออกมาเพื่อช่วยเหลืองานที่บ้านในระยะหนึ่ง ท่านก็เต็มใจเป็นอย่างดี เพราะเป็นเด็กที่มีความกตัญญูรู้คุณ จนเมื่อโอกาสที่เหมาะสมมาถึงเพราะอายุที่ต้องอุปสมบทแล้ว ท่านจึงเข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดโพธิ์กบเจา เมื่อปี ๒๔๘๑ โดยมี พระครูปุ้ย วัดธรรมโชติการาม หรือ วัดขวิด เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการหลิ่ว วัดพิกุลโสคันธ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระครูหลิ่ม วัดโพธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาในทางธรรมว่า " พุทฺธสิริ "

    หลังจากบวชแล้ว หลวงพ่อเมี้ยน ท่านได้ปฏิบัติกรรมฐานอย่างเคร่งครัดและศึกษาในพระปริยัติธรรม ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ดำรงตนอยู่ในศีลธรรมเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อเข้าสู่พรรษาที่ ๗ หลวงพ่อเมี้ยนจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เจ้าอาวาสวัดโพธิ์กบเจา ท่านได้พัฒนาดูแลปกครองวัดโพธิ์กบเจาด้วยดีเสมอมา อีกทั้งยังเป็นที่พึ่งทางจิตใจของชาวบ้านอีกด้วย

    หลวงพ่อเมี้ยนท่านยังใฝ่รู้ใฝ่เรียนในด้านพุทธาคมจากครูบาอาจารย์หลายท่าน ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก , หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบและอื่นๆอีกหลายท่าน ด้วยความแก่กล้าสามารถของหลวงพ่อเมี้ยนในด้านพุทธาคม จนทำให้ท่านได้รับฉายานามว่า เจ้าตำรับ ๕ ม. คือ น้ำมัน น้ำมนต์ มีดหมอ ไม้ครู ชานหมาก โดยเฉพาะการจารอักขระเลขยันต์ “นะฉัพพรรณรังสี” ที่ถือได้ว่า เป็นยันต์ประจำตัวของท่าน เพราะหลวงพ่อเมี้ยนท่านจะใช้ยันต์นะฉัพพรรณรังสี ในการปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆได้อย่างเข้มขลัง จนทำให้เกิดประสบการณ์แก่ผู้บูชามานักต่อนัก

    มรณภาพ

    หลวงพ่อเมี้ยน มรณภาพ เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ สิริอายุได้ ๘๑ ปี ๖๐ พรรษา สร้างความอาลัยให้กับญาติโยมเป็นอย่างมาก แต่สรีระสังขารของหลวงพ่อเมี้ยนได้ถูกบรรจุไว้ในโลงแก้วภายในวัด เพื่อให้สาธุชนได้กราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
    วัตถุมงคล
    วัตถุมงคล ของ หลวงพ่อเมี้ยน ได้สร้างขึ้นมาหลายรุ่นและหลายรูปแบบ ออกหลายวัด แต่ไม่ว่าจะออกที่วัดไหน หาก หลวงพ่อเมี้ยน ได้ปลุกเสกอธิษฐานจิตแล้ว ล้วนเกิดประสบการณ์เพราะเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณสูง ซึ่งโดยมากแล้ววัตถุมงคล ของ หลวงพ่อเมี้ยน จะโดดเด่นด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด หรือใช้ไล่ภูตผีปีศาจก็ดีนัก ในส่วนของพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ ก็ถือว่าดีเช่นกัน

    #บารมีพระขุนแผนเคลือบ# [รุ่นสุดท้าย พ.ศ. ๒๕๓๙]

    #ยิงไม่เข้า#

    เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๕ นายพร ทรัพย์ปราชญ์ ภูมิลำเนาอยู่อำเภอโคกสูง
    จังหวัดลพบุรี วันหนึ่งนายพรเขาได้มาธุระที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    นายพรไปถึงบ้านเวลาก็มืดค่ำแล้ว ปรากฏว่ามีโจรกลุ่มหนึ่งเข้าปล้นบ้านของเขาและจับเขาไว้
    #พวกโจรใช้ปืนยิงนายพรถูกที่โหนกแก้มด้านขวาของนายพร พวกโจรคิดว่านายพรตายแล้วก็พากันหนีไปหมด ปรากฏว่าตรงบริเวณที่โหนกแก้มของนายพรเป็นจุดแดงไหม้ ก็ปรากฏว่าปืนยิงไม่เข้าน่ะ
    “เพราะว่าในกระเป่าเสื้อของนายพรมีพระขุนแผนเคลือบสุดท้าย (วัดโพธิ์กกเจา) ที่นายพรได้เช่าบูชาไปจากวัดโพธิ์เพียง ๓ องค์เท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนนายพรเสร็จก็พากันมาเช่าบูชาพระขุนแผนเคลือบสุดท้าย (วัดโพธิ์กกเจา) ที่วัดโพธิ์ไปคนละหลายองค์

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2022
  2. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,337
    ค่าพลัง:
    +6,401
    ขอจองครับ
     
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458

    รับทราบครับ ขอบคุณครับ
     
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    สนใจรายการไหนสอบถามได้ครับ
    Tel. 0652696697
    Line : himhirose
    เพิ่มค่าจัดส่ง 50 บาท

    ***ช่องทางการโอนเงินค่าบูชาครับ
    1. พร้อมเพย์ : 0652696697
    2. ธ.กรุงศรีอยุธยา เลขที่ 795-1-05564-7
    ชื่อ นายเธียรวิชญ์ จรัญเดชากาญจน์

    _/I\_ "ขอบคุณลูกค้าทุกท่านครับ" _/I\_
     
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    พระผงศักสิทธิ์ วัดพลับ พิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ ปี16 หลวงปู่โต๊ะเสก ให้บูชา 800 บาท ปิดรายการครับ


    received_1083439298860178.jpeg

    received_409483990780888.jpeg

    received_415106190156389.jpeg
    วัตถุมงคลรุ่นนี้ได้รวบรวมโดยหลวงตาเหลือ วัดราชสิทธารามหรือวัดพลับโดยผงส่วนใหญ่มาจากเมืองอู่ทอง จ.สุพรรณบุรีตั้งแต่ต้นสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้วนำผงแป้งดังกล่าวมาปั้นเป็นแท่งและลบผงให้เป็นผงวิเศษทั้ง 5 แล้วมาผสมเนื้อพระโดยมีพระมหาบรรจงเป็นผู้กดพิมพ์พระในช่วงปี 2514-16 เป็นระยะเวลา 2 ปี เมื่อกดพิมพ์แล้วเสร็จได้นำไปขอให้ หลวงปู่โต๊ะปลุกเสกตลอดไตรมาส แล้วจึงนำมาเตรียมบรรจุในฐานพระแต่ผู้จัดสร้างได้ลาสึกจากเพศบรรพชิตเสียก่อน พระที่สร้างจึงค้างอยู่ที่วัด โดยมีพระเถระรูปหนึ่งท่านเก็บรักษามาเกือบ 40 ปี พระรุ่นนี้หลวงปู่โต๊ะท่านได้นำไปแจกที่วัดถ้ำสิงห์โตทองจ.ราชบุรี และผงแป้งที่ได้มาจากเมืองอู่ทองก่อนมาลบเป็นผงวิเศษได้ให้หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆฯ ตรวจสอบ ซึ่งหลวงพ่อครื้นท่านบอกว่า มีพุทธคุณดีมาก นอกจากนี้พระรุ่นนี้ยังได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ของวัดพลับในปี 2516 โดยมีตราปั๊มรับรองจากวัดโดยตรง

    +++พระผงวัดราชสิทธาราม ( วัดพลับ ) ปี 2516 หลวงปู่โต๊ะปลุกเสก พระวัดพลับองค์นี้จัดสร้างในปี16ครับ โดยใช้ผงเก่าจำนวนมากมาบดผสมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นประธานพิธี หลวงปู่โต๊ะปลุกเสกส่วนใหญ่ด้านหลังจะมีหมึกแดงปั๊ม(บางองค์ก็ไม่ปั๊ม)
    พระได้ถูกเก็บไว้หลายปีก่อนจะนำมาออกให้บูชาอีกครั้งในปี 2534เพื่อฉลองในงานอนุสรณ์ครบรอบ169ปี สังฆราชสุก(ไก่เถื่อน)มวลสารดีพิธีใหญ่ น่าบูชามากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2022
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    สวัสดียามเช้าครับ
     
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    20. พระผงของขวัญพิมพ์ประทานพรพระครูประกาศสมาธิคุณวัดมหาธาตุกรุงเทพฯปี2506 เนื้อผงว่าน หลังยันต์ นิยม ให้บูชา 450 บาท ปิดรายการครับ

    upload_2022-2-10_11-53-42.png


    เนื้อหามวลสารประกอบด้วย ผงพุทธคุณ ว่าน และผงเกสรดอกไม้ พระรุ่นนี้
    ปลุกเสกพร้อม
    หลวงปู่ทวด วัดพระเชตุพน วัดโพธิ์ท่าเตียน ปี06
    พิธีมหาพุทธาภิเศก
    ปลุกเสกโดย พระครูวิสัยโสภณทิม วัดช้างให้ ผู้สร้าง ลป.ทวด เนื้อว่าน และ พระเกจิคณาจารย์ระดับประเทศ อีกหลายท่าน เช่น
    พระครูวิสัยโสภณ อาจารย์ทิม วัดช้างไห้
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
    พ่อแม่ครูอาจารย์ สายพระป่า ศิษย์หลวงปู่มั่นหลายรูป
    คุณย่าบุญเรือน โตงบุญเติม ร่วมอธิฐานจิต
    และพระคณาจารย์ทั่วประเทศ อีกหลายรูป
    ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก
    เนื้อหาในองค์พระ มวลสารเข้มข้น
    ทั้งผงเก่า มวลสารใหม่ และผงเกสรว่านดอกไม้บูชาพระศักดิ์สิทธิ์ ดินสังเวชนียสถาน อินเดีย ดินศักดิ์สิทธิ สถานที่มงคลทั่วไทย
    พระเนื้อผงรุ่นนี้สร้างในปี 2506
    โดยมีส่วนผสมผงวิเศษ เช่นผงพระกรุบางขุนพรหม
    ผงพระกรุวัดสามปลื้ม ผงวิเศษวิชาธรรมกายหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ผงวิเศษหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    ว่านดินกากยายักษ์ 2497
    หลวงปู่ทิม วัดช้างไห้ มอบมวลสารให้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2022
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    สมเด็จหลังยันต์นิยม
    พระครูสุพจน์ วัดสุทัศน์ พระดีพิธีใหญ่น่าสะสมบูชาครับ

    FB_IMG_1644302445985.jpg

    FB_IMG_1644302449046.jpg
     
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
  11. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    ปิดรายการครับ
     
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    ***( ของดี วิหารเซียน ชลบุรี )
    ไม่ต้องไปหา ของหมดไป ตั้งนานแล้ว

    สายจีนรู้กัน มานาน แต่สายไทย ยังไม่รู้
    องค์ลื้อตงปิน เนื้อผง ของ เซียน อ.สง่า

    พลังอำนาจ เทียบเท่า พระเครื่อง หลักสิบล้าน ของไทย พลังขององค์หลีตงปิน เมตตา แคล้วคลาด ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง หนุนชะตา แก่ผู้บูชา

    เชื่อไหม!!! เก่งหรือ ไม่ ในหลวง ร.9 ยังประคอง
    ท่าน อ.สง่า ท่านต้องมี ดี อะไร สักอย่าง ??

    เป็นบุคคล ได้รับการ ยกย่อง จาก รัฐบาลจีน จากคนธรรมดา แต่ อ.สง่า สื่อญาณ รับ ใช้ ทำตาม
    เทวบัญชา พระเทวจารย์ หลีตงปิน

    สมัยที่ สร้างวัดญาณสังวรวราราม ชลบุรีใหม่ๆ
    นั้น ได้ประสบปัญหาและ อุปสรรคนานาชนิด ทั้งที่เกิดจากคนงานก่อสร้าง และจากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน จึงได้เชิญผู้ที่มีสมาธิจิตดี มาตรวจดูว่าเป็นเพราะเหตุใด ก็พบว่าบริเวณที่สร้างวัดนั้นมี ความสัมพันธ์กับ พระนเรศวรมาก และมี ดวงวิญญาณ ของผู้ที่ตายจากสงครามอยู่มากเป็นเหตุให้การทำงานมีอุปสรรค
    ความทราบถึงองค์สมเด็จ พระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชท่านก็เลยได้เดินทางมาทำ พิธีแผ่เมตตาให้แก่ดวงวิญญาณเหล่านั้นด้วยพระองค์เองแต่ปรากฏว่า ยิ่งแผ่เมตตาก็ยิ่งมีดวงวิญญาณพากันมามากขึ้นจนท่านต้องมีบัญชาให้ไปตามตัว
    ซินแสสง่า(ผู้ก่อตั้งวิหารเซียน) มาช่วยตรวจดูให้
    ซึ่งเมื่อท่านมาตรวจดูแล้วก็รู้ว่าจุดที่
    สร้างวัดเคยเป็นที่เดินทัพและเกิด สงครามมาก่อน ท่านจึงได้เผาฮู้ตรงใจกลาง
    ของที่นั้นซึ่งก็ได้มีคนที่ตาดี ได้เห็นองค์ท่าน"ลื่อตงปิน"เสด็จมาบนหลังมังกร ซึ่งเมื่อท่านมาถึงพวกวิญญาณทั้งหลาย ก็กระเจิงหมด ซึ่งสถานที่ท่านได้เผาฮู้นั้นได้กลายเป็นใจกลาง พระอุโบสถในปัจจุบันนี้"

    ประวัติ เซียน ลื้อท่งปิน วิหารเซียน จ.ชลบุรี

    ท่าน อ.สง่า ผู้ก่อตั้ง วิหารเซียนที่ชลบุรี ท่านบอกว่า องค์ลื่อตงปิน สามารถสื่อกับท่านได้โดยทางจิตแต่ท่านไม่เคยเห็นตัวองค์ท่าน ทางนิมิตเลย ท่านบอกว่าตำแหน่งของ ท่านลื่อตงปิน มีหน้าที่เหมือน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย มี หน้าที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อยและปรามปรามผู้ร้าย

    มูลเหตุที่ท่านได้รู้จักกับองค์ท่านนั้นเนื่องมาจากคุณแม่ของอ.สง่าท่านป่วย เป็นโรคทานอะไรไม่ได้ ทำให้ไม่มีกำลังแม้แต่จะลุกยืน ตอนนั้นพวกญาติท่านก็พาไปหาซินแสหรือหมอแผนปัจจุบันมาหลายท่านก็ไม่ดีขึ้น ประจวบกับท่านอ.สง่าในสมัยนั้นไม่ค่อยเชื่อในเรื่องการเผาฮู้ต้มกินแล้วจะ หาย ยิ่งพวกเข้าทรงเจ้าต่างๆท่านไม่เชื่อเลย แต่เมื่อเป็นความต้องกรของญาติๆก็เลยได้แต่
    ลองทำดูเพราะไม่มีวิธีอื่นแล้ว จนวันหนึ่งได้เชิญคนทรงมาซึ่งคนทรงนี้ตามปกติจะไม่ใช่ร่างทรงของท่านองค์ เซียนลื่อตงปิน แต่เป็นร่างทรงเทพ องค์อื่น แต่วันนั้นพอทำพิธีอัญเชิญ ปั๊บ

    ท่านลื่อตงปินก็มาประทับทรง ทันทีและก็ บอกว่าจะช่วยให้คุณแม่ของ อ.สง่าลุกเดิน ได้หาย
    ภายใน3เดือน แต่มีข้อแม้ว่า อ.สง่าจะต้อง ทำงานรับใช้ท่าน ซึ่งท่านอ.สง่าก็ได้ถามว่าจะให้ทำ อะไรถ้าให้เป็นร่างทรงแบบนี้ ท่านไม่เอาและ ท่านก็ไม่เคย
    ศึกษาศาสตร์แนวนี้ มาก่อน ท่านลื่อตงปิน ก็บอกว่าไม่เป็นไรท่านจะ คอยช่วยบอกให้เองว่าจะ ต้องทำอะไร แล้วท่านก็เขียนฮู้ ให้ อ.สง่าเก็บไว้เผาให้คุณแม่
    ของท่านละลายน้ำดื่ม ซึ่งก็ปรากฏว่าพอครบ3เดือนคุณแม่ท่านก็แข็งแรง เป็นปรกติเดิน
    ได้ดังเดิม ท่านลื่อตงปิน ก็มาทวงสัญญา อ.สง่าจึงต้อง ยอมทำงานรับใช้ ท่านสงเคราะห์มนุษย์ โดยที่ท่านกับ
    อ.สง่า จะ สื่อสัมผัสทางใจกัน เหมือนเป็น อาจาร กับลูกศิษย์
    อภินิหาร ขององค์เซียนลื่อตงปินที่ วิหารเซียนมี เยอะครับ เอาไว้มีเวลาจะมาเล่าเป็นเรื่องๆไปครับ เช่นเรื่องตอนช่วยสร้าง วัดญาณสังวร ชลบุรี ตอนปราบมังกรเขียว ตอน ไฟไหม้โรงแรมที่พัทยา ตอนที่ช่วยกิจการของเจ้าของผลิตภัณฑ์จาก ไก่รายใหญ่ ตอนช่วยเจ้าของ ตึกใบหยกทาวเวอร์ ตอนช่วยแบงค์กสิกรที่จะล่มช่วง IMF

    อีก อย่างหนึ่งคือ เพื่อนผมคนหนึ่งเขาบูชา พระผงท่านลื่อตงปิน จากที่ วิหารเซียนที่ ชลบุรีไป วันหนึ่งก็เจอนักจับ พลังพระ ขณะที่นักจับ พลังพระกำลังตรวจพระ ของคนอื่นอยู่ว่าดียังไง จู่ๆเขาก็หันมาที่เพื่อนของกระผมแล้วถามว่า เขาห้อยพระอะไรอยู่

    (พระอยู่ใน เสื้อ ไม่ได้ห้อยออกมาข้างนอก)

    เพราะเขาเห็นรัศมี สีชมพู พุ่งออกมาดี ทางเมตตาร่มเย็น และพลังนี้ หมุนวน กลับไปกลับมา เหมือน หยิน และหยาง ซึ่งตั้งแต่เขาตรวจพระมาไม่เคยเจอ แบบนี้เขาก็เลยขอดูพระ ของเพื่อนผม พอเขาเห็นพระเเล้วเขาก็เลยหายสงสัยว่าทำไมจึง
    มีพลังแบบนี้ พระนี้คิดว่าที่ทางวิหารเซียน

    ยังมีอยู่นะครับไม่แน่ใจ นานแล้ว คงหมดจากวิหารเซียน แล้วละ ประสบการณ์ ปากต่อปาก โดนกวาด เก็บเข้ารัง เซฟธนาคาร ใบสั่งจาก ผู้ศรัทธา เจ้าของธุรกิจ แจกให้ ลูกหลานไว้ใช้กันเฉพาะกลุ่ม เนื้อผง องค์หลีตงปิน ปิดทองเดิม พิเศษ กรรมการ


    สำหรับพระพุทธรูปที่อยู่ในโบสถ์เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มากชื่อ"พระ พุทธหทัยนเรศวร์"สร้างขึ้นจากฝาบาตรพระที่ลงอักขระถึง 84000ฝาด้วยกัน อีกทั้งยังได้อัญเชิญ เทพระดับพรหมมารักษา
    พระพุทธรูป และภายในองค์ท่านยังได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุถึง84000องค์ ซึ่งเท่าที่ผมทราบมาน่าจะเป็นพระพุทธรูปที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุมากที่สุด เพราะพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุเกือบเต็มบาตรพระเลยครับ ใครผ่านไปก็ลองแวะไปขอพรท่านดูนะครับและอย่าลืมแวะชมวิหารเซียนกับพระพุทธ รูปเขาชีจรรย์ที่ แกะสักด้วยเลเซอร์ ด้วยครับ

    ช่วงที่สร้างวัดญาณสังวรใหม่ๆ นอกจากจะประสบปัญหาจากดวงวิญญาณเก่าแก่แล้ว ยังมีปัญหาเรื่องเวลาฝนตกแล้วน้ำจะท่วมถนนทางเข้าขาดทำให้การก่อสร้างต้อง หยุดชะงักและไม่คืบหน้า ทางอ.สง่าได้พิจารณาดูแล้วพบว่าเขาที่อยู่เบื้องหลังของวิหารเซียนในตอนนี้
    (ตอนนั้นวิหารเซียนยังไม่ได้ก่อตั้ง)
    เป็นที่อยู่ของมังกรเขียว ที่ดุร้ายตัว หนึ่งเวลาฝนตกจะชอบออกมาเล่นน้ำฝน เป็นประจำ จึงทำให้เกิดน้ำท่วมทางขาดเป็นประจำ มังกรเขียวตัวนี้มีหน้าที่เฝ้าบ่อเงินกับบ่อทอง
    (ตอนนี้ได้กลายเป็นที่ตั้ง ของวิหารเซียนไปแล้ว)
    ท่านจึงมีความคิดที่จะปิดปาก. ถ้ำพญามังกรตัวนี้ไว้ ซึ่งท่านลื่อตงปิน ก็ได้มาแนะนำว่าให้เอา

    ดินทับฟ้าไว้จึงจะ ปิดปากถ้ำไม่ให้ พญามังกรตัวนี้ออกมาอาละวาดได้ ดังนั้นถ้าใครพอมีความรู้เรื่อง
    ฮวงจุ้ยจะต้องเคยเห็น รูปปลาดำปลาขาว

    (สัญลักษณ์หยิน-หยางที่หน้าอกนักพรตไท้ก๊ก)

    ซึ่งแทนความหมายฟ้า-ดิน โดยสีขาวหมายถึงฟ้า สีดำหมายถึงดิน ตามปกติเครื่องหมายนี้สีขาวจะต้องอยู่ข้างบนและสีดำจะต้องอยู่ข้างล่าง แต่ที่วิหารเซียนจะกลับกันจากที่อื่นคือสีดำจะอยู่บนสีขาวจะอยู่ข้างล่าง เคยมีนักดูฮวงจุ้ย ชื่อดังที่รับดูฮวงจุ้ยเป็นอาชีพได้ไปที่วิหารเซียน และ เคยปรามาส ท่าน อ.สง่าว่าไม่รู้จริงสร้าง
    ผิดหลัก ท่านก็ได้แต่หัวเราะ ไม่ว่าอะไร ท่านมาเฉลยให้ผมฟังว่าที่ท่านทำอย่างนี้เพื่อจะได้เอา
    ดินทับฟ้าสะกด ปิดปากถ้ำ มังกรเขียวไว้นั่นเอง
    และตอนนี้มังกรเขียวตัวนั้นก็

    ได้กลายเป็นพาหนะของ ท่านลื่อตงปินไปแล้ว อ.สง่าท่าน จึงเขียนฮู้มังกรเขียว แจกฟรี

    ใครสนใจไปขอได้ที่วิหารเซียนครับ และมีอย่างผ้ายันต์มังกรเขียวด้วย

    ท่านบอกว่าถ้ามีเรื่องเดือดร้อนอะไรให้เผาฮู้กลางแจ้งจุดธูป)

    บอกองค์เซียน ลื่อตงปิน ท่านแล้วอธิษฐาน ครับ

    ฮู้นี้มีผู้เคยประสบเหตุบ่อย ๆ คือมีอยู่ท่านหนึ่งได้รับฮู้แบบผ้ายันต์ไปซึ่งตามปกติท่านจะแจกแบบ
    กระดาษซะ เป็นส่วนใหญ่ ก็พับเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ ระหว่างทางขับรถกลับบ้านก็ประสบอุบัติเหตรถพังยับแต่ตนเองไม่เป็นอะไร ก็ไม่ได้เอะใจอะไรแต่เมื่อกลับไปถึงบ้านเอาอู้ออกมาจากกระเป๋า

    เสื้อปรากฏว่า ฮู้ขาดเป็นสองท่อน ก็เลยรีบมาเล่าให้ท่านอ.สง่าฟัง ท่านก็บอกว่ามังกรเขียวเขา ออกไป รับแทนไม่งั้นจะเจ็บหนักแน่ ที่น่าแปลก คือฮู้ นั้นเป็นผ้ายันต์ แต่ขาดเหมือนโดนฉีกออกจากกัน อย่างแรง
    มันเหลือเชื่อมาก ประสบการณ์ ตรงล้วนๆ ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง
     
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    21. พระผงพญาเต่าเรือน หลวงปู่หลิว ปี38 รุ่นครบรอบ 90 ปี ให้บูชา 300 บาท

    upload_2022-2-10_11-49-6.png
    พญาเต่าเรือนเนื้อผง รุ่นแซยิด 90ปี
    หลวงปู่หลิว สร้างปี38 สวยสมบูรณ์
    มีประสบการณ์มากมาย ปั๊มโค๊ตทุกองค์

    คาถาบูชาหลวงปู่หลิว

    “ ให้ตั้งนโม 3 จบ นะมะพะทะ นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ นะอุทะกะ เมมะอะอุ แล้วตั้งจิตอธิษฐานขอพระบารมีพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งที่เสวยพระชาติเป็นพญาเต่าเรือน ให้ช่วยพ้นภัยอันตรายที่ประสบอยู่ สำหรับตัวคาถา 4 ตัวคือ นาสังสิโม นั้นท่านว่าเป็นหัวใจของพญาเต่าเรือน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2022
  15. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    22. สุดยอดมวลสารสมเด็จโต!!! พระสมเด็จหลวงปู่เลี่ยม วัดศรีเรืองบุญ พิมพ์เจดีย์
    ศิษย์ในองค์ หลวงปู่ภู วัดอินทร ให้บูชา 600 บาท


    upload_2022-2-10_12-14-38.png

    ประวัติของหลวงปู่เลี่ยมแห่งวัดศรีเรืองบุญนั้นหาอ่านค่อนข้างยากครับเพราะท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าจึงไม่ค่อยมีบันทึกอะไรไว้มากแต่จากการรวบรวมข้อมูลจากหนังสือเก่าๆหลายเล่มรวมทั้งหนังสือประวัติวัดในจ.นนทบุรีทำให้เราทราบว่าหลวงปู่เลี่ยมนั้นท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดอยู่ในช่วงปี2457-2480และท่านได้มรณภาพเมื่อปี24884สิริอายุได้82ปี พื้นแพท่านนั้นเป็นคนทางภาคตะวันออกเมื่อบวชแล้วก็ได้ออกเดินธุดงค์เป็นเวลาหลายสิบปีจนเมื่อได้เดินทางมาแถวจ.นนทบุรีได้มาปักกลดอยู่ข้างวัดศรีเรืองบุญ ท่านเป็นพระที่มีความสำรวมและมีศิลบริสุทธิ์จึงเป็นที่ศรัทธาแก่ชาวบ้านประกอบกับที่ท่านมีความเชี่ยวชาญทางด้านแพทย์แผนโบราณจึงได้สงเคราะห็ชาวบ้านเอาไว้หลายคนและช่วงนั้นที่วัดศรีเรืองบุญเองก็ไม่มีเจ้าอาวาสประกอบกับวัดก็เสื่อมโทรมไม่ค่อยมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาชาวบ้านจึงพร้อมใจกันอาราธนาท่านให้อยู่เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อซึ่งตอนนั้นท่านอายุราวๆ55ปีแล้วเริ่มเข้าสู่วัยชราและวัดศรีบุญเรืองเองก็เป็นวัดเล็กๆที่รายล้อมไปด้วยสวนมีความสงบเหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรท่านจึงรับเป็นเจ้าอาวาสในที่สุด เพราะท่านนั้นเชี่ยวชาญในเรื่องแพทย์แผนโบราณและมีพระเวทย์วิทยาคมที่แก่กล้าน้ำมนต์ที่ใช้รักษาโรคของท่านนั้นเด็ดขาดนักโดยเฉพาะโรคพิษสุนัขบ้าที่แม้แต่คนที่เพ้อคลั่งจนเห่าหอนแล้วเมื่อมาถึงมือท่านและท่านทำน้ำมนต์รดให้แล้วนั้นเป็นอันหายขาดไม่ต้องเป็นผีที่ถูกฝังลงหลุมแต่อย่างใดผู้คนจึงศรัทธาในตัวท่านนักเมื่อท่านคิดจะบูรณะและปฎิสังขรณ์และสร้างเสนาสนะขึ้นมาใหม่ก็มีคนมาช่วยเหลือจนแล้วเสร็จจนท่านเกรงใจเพราะท่านไม่มีสิ่งใดตอบแทนท่านจึงตั้งใจสร้างพระเครื่องเนื้อผงแจกขึ้นมาโดยท่านได้ลบผงวิเศษที่เด่นทางเมตตาขึ้นมาผสมกับปูนเปลือกหอยนำไปบดในรางบดยาผสมด้วยกล้วยน้ำว้ากดพิมพ์ขึ้นมาเป็นองค์พระที่มีพิมพ์มากถึง20กว่าพิมพ์โดยลูกศิษย์ที่มีความสามารถในเชิงช่างได้แกะพิมพ์ล้อสมเด็จหลวงปู่ภูวัดอินทร์ขึ้นมานอกจากนั้นก็ยังล้อพิมพ์วัดเฉลิมพระเกียรติ์และหลวงพ่อคร้ามวัดพระเงินด้วยแต่ก็มีบางพิมพ์ที่แกะขึ้นมาเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองก็มี ตอนที่ท่านลบผงและสร้างพระท่านจะปิดกุฎิเพื่อไม่ให้ผงปลิวลอยไปโดนผู้ใด พระที่ท่านทำแจกนั้นท่านทำขึ้นมาเรื่อยๆตั้งแต่ปี2470และปลุกเสกเรื่อยมาตลอด10ปีพระนั้นแจกน้อยกว่าสร้างจึงมีพระเหลือตกค้างอยู่มากและพระเครื่องของท่านนั้นก็เก็บอยู่ในปี๊บอย่างดีไม่ได้บรรจุกรุแต่อย่างใดพระจึงค่อนข้างสะอาดและไม่มีคราบกรุองค์ที่ผ่านการใช้มานิดหน่อยเนื้อจะดูจัดจ้านสมกับพระยุคเก่าที่ปัจจุบันนี้พระของท่านมีอายุร่วม80ปีแล้ว ถ้าถามถึงความเก่าก็ไม่แพ้ของหลวงปู่ภู ความจัดของเนื้อก็ไม่แพ้สำนักไหน ความสวยงามและความตั้งใจทำก็ดีแถมเจตนาสร้างก็บริสุทธิ์เพราะแจกฟรี

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2022
  16. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    23.
    ของดีที่น่าบูชา!!!พระผงอิทธิเจ หลวงพ่อผึ่ง วัดสว่างอารมณ์ราษฎร์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

    1.พิมพ์ ชินราชเล็ก
    2.พิมพ์ สมเด็จเจ็ดชั้น ปิดรายการนี้

    ให้บูชา องค์ละ 300 บาท



    upload_2022-2-10_12-42-13.png

    upload_2022-2-10_12-46-55.png
    “ สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ ” เป็นคำพังเพยสมัยใหม่ที่ค่อนข้างจะถูกต้อง แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ที่โชควาสนาและกาลเวลา ดั่งเช่นพระเครื่องของ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ สร้างสถานการณ์ให้เกิดแก่คนที่เครื่องบินตกแล้วไม่เป็นอะไร จึงทำให้มงคลวัตถุของหลวงพ่อสดมีชื่อเสียงกระเดื่องเลื่องลือกระฉ่อนไปทั่ว ประกอบกับคุณธรรมความดีในการประพฤติปฏิบัติของหลวงพ่อสดหาจุดติเตียนมิได้ จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนมงคลวัตถุของหลวงพ่อสดให้ดีเด่นในแนวหน้าของบรรดาพระเครื่องรุ่นราวคราวเดียวกัน ถือได้ว่า ผงวิเศษอิทธิเจ ปถมัง มหาราช ของ หลวงพ่อสด นั้นเป็นเลิศ

    จะอย่างไรก็ดี เมื่อก่อนหลวงพ่อสดคิดจะสร้างมงคลวัตถุ ก็มานำเอาผงวิเศษของ หลวงพ่อผึ่ง ไปผสมผสานกัน เพราะท่านทั้งสองเป็นพระสงฆ์รุ่นราวคราวเดียวกัน

    หลวงพ่อผึ่ง มีอายุสูงกว่า หลวงพ่อสด 1 ปี อุปสมบทก่อนหลวงพ่อสด 1 พรรษา อยู่กุฏิเดียวกัน ไปศึกษาหาความรู้ทางวิปัสสนากรรมฐานด้วยกัน อาจารย์เดียวกัน ทำผงวิเศษก็ทำด้วยกัน เมื่อตอนอยู่ร่วมกัน หลวงพ่อสดมาจำพรรษาอยู่ธนบุรี ส่วนหลวงพ่อผึ่งอยู่บ้านนอก อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง เป็นการรักถิ่นฐานอันเป็นภูมิกำเนิดของหลวงพ่อผึ่ง ทั้งหลวงพ่อผึ่งและหลวงพ่อสดต่างมุ่งในการส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป






    หลวงพ่อผึ่ง หลวงพ่อสด มีจิตปรารถนาที่จะสร้างพระเครื่องไว้ในบวรพุทธศาสนา เพื่อเป็นการเผยแพร่พุทธธรรม พุทธสักการะ เพื่อบูชาหรือเพื่อสืบพระศาสนา จึงดำริสร้างผงวิเศษเก็บสะสมไว้โดยมิได้ว่างเว้น แสดงให้เห็นถึงปณิธานอันแน่วแน่ของท่านทั้งสอง ผงที่ทำนั้นคือ ผงอิทธิเจ ปถมัง ปิโย และมหาราช ในการทำผงวิเศษมิใช่ทำขึ้นได้ง่ายๆ จะต้องใช้เวลาไม่น้อย กว่าจะได้ผลวิเศษตามความต้องการ

    ผู้เขียนไม่มีความรู้ในทางนี้ จึงไปนมัสการเรียนถาม ท่านเจ้าคุณสุวรรณโมลี ขณะนั้นเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เพราะท่านเป็นลูกบ้านอำเภอสองพี่น้อง ทั้งเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อผึ่ง หลวงพ่อสด ที่วัดสองพี่น้องด้วย พอทราบการทำผงวิเศษของหลวงพ่อผึ่งและหลวงพ่อสด อยู่บ้างพอสมควร

    ท่านเจ้าคุณฯเล่าถึงการทำผงวิเศษ “ ปิโย ” ซึ่งแปลว่า “ รัก ” เอาชอล์กมาเขียนอักษรของ “ ปิ ” ลงบนกระดานดำ อันหมายถึงคำว่า “ ปิโย ” โดยเขียนแล้วลบๆๆๆๆ โดยมิได้หยุด ดังนี้

    ปิโย เทวมนุสสานัง ปิโยมะมะ
    ปิโย พรหมฺมนุสตมัง ปิโยมะมะ
    ปิโย พรหมฺมนุสตมัง ปุสิสะวาจัง ปิโยมะมะ
    ปิโย มาคะสุปันฺนานัง เสนาวาจัง ปิยังมะมะ
    ปิยินทรียัง นมามิหัง ปิยังมะมะ ฯลฯ

    เท่าที่กล่าวมาข้างบนนั้น เป็นเพียงกล่าวโดยย่อยังไม่หมด เมื่อจะทำ ผงอิทธิเจ ปถมัง หรือ มหาราช ก็ต้องท่องบทสวด อิทธิเจ ปถมัง มหาราช เช่นเดียวกัน


    ท่านเจ้าคุณเล่าว่า เมื่อท่านเป็นเด็ก เห็นหลวงพ่อผึ่ง หลวงพ่อสด ใช้ดินสอพองเขียนบนกระดานดำ (ไม่ใช่ชอล์ก) จะทำผงชนิดไหนก็เขียนตัวอักขระขอมลงไป แล้วเขียนซ้ำรอยเดิม พร้อมกับท่องคาถากำกับไปด้วย เขียนไปลบไป ท่องคาถาไปจนครบนโมพุทธายะ

    ถ้าเป็นผง “ ปิโย ” ก็จะอธิษฐานว่า “ ปิคงกระพัน ปิเมตตา ปิสิเน่หา ปิมหาอุด ” ลบเรื่อยไป แล้วสร้างยันต์องค์พระ

    ชั้นล่างของยันต์องค์พระเรียกว่า “ ตรีนิ ” ท่อนที่สอง “ อัครนิ ” ท่อนที่สาม “ ชาตานิ ” ส่วนยอดขององค์พระ คือ อุณาโลม ยนฺฌายเต นโมพุทธายะสัทโนพุทโธ ฯลฯ

    ท่านเจ้าคุณเล่าต่อไปว่า ตอนที่ท่านเป็นเด็กเห็น หลวงพ่อผึ่ง หลวงพ่อสด เดินเก็บเกสรดอกไม้ทุกๆ วัน นำเอามารวบรวมเก็บไว้เพื่อป่นให้ละเอียดผสมวิเศษของท่าน โดยเฉพาะ หลวงพ่อสด เก่งผงมหาราช

    หลวงพ่อผึ่ง สร้างพระเครื่องก่อนหลวงพ่อสดหลายสิบปี ต่างก็เอาผงที่ทำมาผสมปนเปกันเพื่อให้เกิดความขลัง หลวงพ่อผึ่ง สร้างพระก่อนก็เอาของหลวงพ่อสดมาก่อน พอหลวงพ่อสดสร้างพระวัดปากน้ำก็มาเอาผงวิเศษของหลวงพ่อผึ่งไปผสมด้วยเช่นกัน

    หลวงพ่อผึ่ง มาสร้าง วัดสว่างอารมณ์ราษฎร์ หลวงพ่อสดเข้าไปอยู่ธนบุรี จำพรรษาอยู่ที่วัดปากน้ำ อ.ภาษีเจริญ หลวงพ่อหอมไม่ได้ไปไหนอยู่ที่ วัดสองพี่น้อง หลวงพ่อชั้วไปอยู่ วัดละครทำ จะอย่างไรก็ดี ทั้ง หลวงพ่อสด หลวงพ่อผึ่ง หลวงพ่อหอม และหลวงพ่อชั้ว ยังไปมาหาสู่กันเสมอๆ เมื่อหลวงพ่อสดสร้างพระเครื่องเนื้อผงก็เอาผงของหลวงพ่อผึ่งมาผสม ส่วนหลวงพ่อสดนั้นยังไม่ได้สร้างอะไรเลย เพียงแต่ทำผงวิเศษเก็บไว้ๆ เท่านั้น หลวงพ่อชั้วสร้างพระผงยาเมื่อ พ.ศ.2482 ก็คงจะมาเอาผงของหลวงพ่อผึ่งและหลวงพ่อสดไปผสมด้วย ดังนั้น ทั้งพระของหลวงพ่อสด หลวงพ่อผึ่ง และพระผงยาของหลวงพ่อชั้ว ต่างมีผงวิเศษผสมอยู่ด้วยกัน

    ชาวตลาดบางลี่ จ.สุพรรณบุรี เล่าให้ฟังว่า ในขณะที่ หลวงพ่อผึ่ง จำพรรษาอยู่ที่ วัดสองพี่น้อง หลวงพ่อสดเดินทางมาจากวัดปากน้ำ เพื่อมาเยี่ยมหลวงพ่อผึ่ง ขณะนั้นหลวงพ่อสดยังเป็นพระธรรมดา ยังหาได้มีชื่อเสียงแต่ประการใดไม่ เมื่อทั้งสองพบกัน ทำการทดสอบความรู้ทางวิปัสสนากรรมฐานที่ได้เล่าเรียนมาว่า ยังมีความขลังดีอยู่หรือ ไม่ใช่เป็นการอวดอุตริมนุษยธรรม


    ท่านให้ลูกศิษย์วัดนำเอาถ้วย 2 ใบรินน้ำชาใส่ลงไปในถ้วย แล้วหลวงพ่อผึ่ง หลวงพ่อสด นั่งสมาธิอยู่ด้านหน้าถ้วยทั้ง 2 ใบ
    ปรากฏว่า ถ้วยของหลวงพ่อสดเปลี่ยนเป็นน้ำธรรมดา ไม่มีรสชาติแต่ประการใด ส่วนถ้วยของหลวงพ่อผึ่งนั้น กลายเป็นเหล้าโรงไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผู้ดูอยู่รอบๆ ต่างแปลกใจไปตามๆ กัน ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้นได้


    เมื่อครั้ง “ สมเด็จป๋า ” หรือ สมเด็จพระสังฆราชอริยวงศาคตญาณ สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ 17 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (ปุ่น ปุณฺณสิริ) ยังเป็นเด็กลูกศิษย์วัดสองพี่น้องอยู่

    คืนวันหนึ่ง หลวงพ่อผึ่ง ฝันเห็นช้างเผือกเชือกหนึ่งเดินเข้าออกประตูกุฏิของท่าน หลวงพ่อผึ่งทำนายว่า คงจะมีใครคนใดคนหนึ่งในบรรดาลูกศิษย์วัดสองพี่น้องทั้งหลาย คนหนึ่งจะได้เป็นช้างเผือก เป็นใหญ่เป็นโตไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

    ซึ่งก็เป็นความจริง เด็กชายเล็กๆ คนหนึ่งชื่อ ปุ่น วิถีชีวิตค่อยๆ ก้าวย่างขึ้นสู่บัลลังก์ สมเด็จพระสังฆราช แห่งประเทศไทย โดยไม่มีใครคาดฝัน แต่หลวงพ่อผึ่ง ท่านไม่ทันได้ชมบุญบารมีของ สมเด็จป๋า เพราะท่านถึงแก่มรณภาพเสียก่อน

    หลวงพ่อทั้งสองนั่งนิ่งเพ่งถ้วยน้ำชา พร้อมกับบริกรรมคาถาไปด้วย ชั่วพักเดียวต่างก็ลืมตาขึ้น บอกให้พระ-เณรซึ่งนั่งดูพิธีกรรรมอยู่โดยรอบ ลองดื่มน้ำชาในถ้วยดูซิว่าเป็นอย่างไร

    ดังได้กล่าวมาแล้วว่า หลวงพ่อผึ่ง หลวงพ่อสด ต่างทำผงวิเศษเก็บไว้ๆ เป็นจำนวนมาก หลวงพ่อผึ่ง ดำริสร้างพระเนื้อผงขาวแบบตระกูลพระสมเด็จขึ้นมาเป็นพิมพ์ต่างๆ แปลกออกไปจากพระสมเด็จ ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า หลวงพ่อผึ่ง สร้างมงคลวัตถุขึ้นเมื่อใด ผู้ที่เห็น หลวงพ่อผึ่ง สร้างพระก็จำ พ.ศ. ไม่ได้ชัดเจน

    ทำให้เห็นได้ว่า ทั้ง หลวงพ่อผึ่ง และ หลวงพ่อสด ต่างเตรียมการที่จะสร้างมงคลวัตถุ เพื่อเป็นการเผยแพร่พุทธศาสนาให้คงอยู่ไปอีกนานเท่านาน มาเป็นเวลานานไม่น้อยกว่า 10 ปีทีเดียว ท่านจึงพยายามคร่ำเคร่งอยู่กับการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อให้เกิดฌานสมาบัติอันแก่กล้า ยังความขลังให้เกิดแก่มงคลวัตถุที่ท่านได้สร้างขึ้น เพื่อพุทธบูชาเพื่อสืบพระศาสนาให้ยืนยาว

    ในการสร้างพระสมเด็จ หลวงพ่อผึ่ง ใช้สายสิญจน์ 108 เส้น วงรอบบริเวณที่จะพิมพ์พระเป็นวงกลม ผู้ที่จะพิมพ์พระต้องชำระล้างร่างกายให้สะอาด ต้องล้างมือล้างเท้าก่อนเข้าไปในวงสายสิญจน์ เวลาพิมพ์พระต้องทำใจให้บริสุทธิ์ ห้ามพูดห้ามคุยกัน กว่าจะได้พระจำนวน 84,000 องค์ ต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ เสร็จแล้วเอาเข้าอุโบสถในที่ชุมนุมสงฆ์สวดเช้า-เย็นกลางคืนอีกเป็นเวลา 3 เดือน เสร็จแล้วท่านเอามาปลุกเสกเดี่ยวในกุฏิของท่านตั้งแต่เวลา 21.00 น. จนถึงเวลา 24.00 น. ทุกๆ คืนจนครบไตรมาส บางทีก็ปลุกเสกคู่กับหลวงพ่อสด



    หลังจากพิธีกรรมปลุกเสกเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อผึ่ง ก็นำเอาพระเหล่านั้นแจกศิษยานุศิษย์ ใครไปหาท่านๆ ก็มอบให้คนละหนึ่งองค์ โดยไม่มีผลตอบแทนแต่ประการใด เป็นการเผยแพร่พุทธศาสนาให้มั่นคงถาวรอีกนานเท่านาน

    ท่านแจกให้คนละหนึ่งองค์จริงๆ ใครจะขอเอาไปฝากเพื่อนฝูง หรือญาติพี่น้อง ท่านจะไม่ยอมให้เป็นอันขาด ท่านบอกว่า ขอให้เขามารับเองด้วยใจศรัทธาจะเกิดความขลังมากกว่าการเอาไปฝากกัน ถือว่าเป็นการขาดศรัทธา

    เมื่อท่านแจกให้ท่านจะพูดว่า “ ให้เก็บรักษาให้ดี ต่อไปจะหายาก ”

    ดังได้กล่าวมาแล้วว่า วัดสว่างอารมณ์ราษฎร์ เป็นที่ราบลุ่ม สูงกว่าระดับน้ำทะเลเพียง 1 เมตรเท่านั้น น้ำจึงท่วมทุกๆ ปี ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากชาวบ้านเป็นอย่างดี ใครก็ตามที่มาทำงานกับท่าน ท่านจะแจกพระให้กับทุกๆ คน ผู้หญิงมักจะแจกเป็น รูปนางกวัก ผู้ชายจะเป็น พิมพ์ประทานเอหิภิกขุ หรือที่เรียกกันโดยทั่วๆ ไปว่า “ พุทธกวัก ”

    พระรุ่นที่ท่านแจกมีคนนำเอาไปใช้ถูกเหงื่อไคล เนื้อสวยงามมาก คล้ายกับเนื้อพระสมเด็จวัดเกศไชโย บางองค์ลงรักปิดทอง กาลเวลาผ่านไปเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 97 ปี ทองที่ปิดแตกระแหง สีเหลืองอร่ามน่าใช้มาก มีจำนวนน้อยหาได้ยากมาก
    พอจะประเมินได้ว่า พระหลวงพ่อผึ่ง สร้างขึ้นในขณะที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดสองพี่น้องก่อน พ.ศ.2462 อย่างแน่นอน แต่จะก่อนสักกี่ปีหาทราบชัดเจนได้ไม่ หากจะคำนวณก็คงจะไม่น้อยกว่า 95-97 ปี นับว่าเป็นพระเครื่องของพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุค่อนข้างมากทีเดียว

    เมื่อ หลวงพ่อผึ่ง มาสร้างและจำพรรษาที่ วัดสว่างอารมณ์ราษฎร์ ท่านได้นำเอาพระของท่านซึ่งทำไว้เป็นจำนวนมากมาแจกให้แก่ผู้มีศรัทธามาช่วยกันทำงานให้กับวัดอีกด้วย ท่านแจกเรื่อยมาเป็นเวลานานอีกเป็นปีๆ อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่า 5 ปี

    เมื่อท่านสร้างโบสถ์เสร็จในราว พ.ศ.2467 ท่านเอาพระที่เหลืออยู่ทั้งหมดประมาณหลายปีบ ประจุเข้าไว้ใต้องค์พระประธานทั้งหมด ถือได้ว่าพระดังกล่าวอยู่ในพิธีกรรมของศาสนาอีกเรื่อยมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 53 ปี จนกระทั่งเปิดกรุเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2520













     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2022
  17. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    24. ของดีที่ถูกลืม!!! พระผงวัดจันทรังสี ปี14 พิธีเดียวกับพระผงปากน้ำ รุ่น 4 ให้บูชา องค์ละ 350 บาท ปิดรายการครับ


    upload_2022-2-10_14-15-14.png




    พระผงของขวัญวัดจันทรังษี(หลวงพ่อโยก) สร้าง ปี2514 สร้างขึ้นโดยหลวงพ่อแต้ม ปณฑฺโต วัดจันทรังษี จ.อ่างทอง ท่านเคยมาเล่าเรียนที่วัดปากน้ำภาษีเจริญและฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ดังนั้นเมื่อท่านกลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดจันทรังษีแล้วพบว่า วัดอยู่ในสภาพทรุดโทรมท่านจึงได้ดำริที่จะพัฒนาวัดให้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้น ท่านจึงนำความดังกล่าวไปปรึกษาพระครูอุปถัมถ์ธรรมกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ อันเป็นลูกศิษย์ และเป็นคนตำบลหัวไผ่ เช่นเดียวกับหลวงพ่อแต้ม โดยนำผงที่สร้างพระของขวัญวัดปากน้ำ ในคราวแรกจำนวนหนึ่งและได้เสาะหาผงตามตำราลักษณะ การสร้างพระผงวัดปากน้ำรวบรวมขึ้นไว้ และได้นำเส้นเกษาของหลวงพ่อปากน้ำมาผสม(โดยมีส่วนผสมของพระของขวัญวัดปากน้ำ ภาษีเจริญเป็นจำนวนมาก)เพื่อขอผงวิเศษกลับไปสร้างพระพิมพ์และขออนุญาตนำพระที่สร้างขึ้นดังกล่าวมา เข้าพิธีปลุกเสกพระผงของขวัญวัดปากน้ำรุ่นสี่ด้วย สำหรับพิมพ์พระนั้นคุณสมพร สินธุวิชัยเป็นผู้แกะพิมพ์พระถวาย โดยการพิมพ์พระนั้นได้ทำการพิธีผสมผงกดพิมพ์และปลุกเสกโดยพระอาจารย์เถรานุ เถรสายธรรมกายในคณะเนกขัมและในโบสถ์วัดปากน้ำภาษีเจริญ…เมื่อได้รับ การปลุกเสกพระเครื่องจนครบไตรมาส หรือ ๑ พรรษาแล้ว จึงมีการนำพระเครื่องส่วนใหญ่มาเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติมอีก ที่วัดกษัตราธิราชเสร็จแล้วจึงนำมาที่วัดจันทรังษีเพื่อออกแจกจ่ายแก่ผู้ สนใจต่อไป ส่วนพระเครื่องอีกส่วนหนึ่งที่เหลืออยู่ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญไม่ได้นำกลับ มาด้วยนั้นได้นำเข้าพิธีปลุกเสกบรรจุวิชาธรรมกายอยู่ที่วัดปากน้ำ รวมระยะเวลานานถึง ๘ พรรษา…ที่มาของชื่อพระ(หลวงพ่อโยก) สาเหตุที่นายช่างต้องใช้หลวงพ่อโยกมาเป็นต้นแบบนั้นเนื่องมาตั้งแต่สมัยที่ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำฯ ได้เดินทางมาวางศิลาฤกษ์อุโบสถของวัดจันทรังษี ท่านได้ดำริไว้ว่าหากทางวัดจะจัดสร้างพระเครื่องพระผงขึ้น ขอให้จำลองแบบจากหลวงพ่อโยก เพราะถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่วัด

    พระผงของขวัญ วัดจันทรังษี อ่างทอง
    กำเนิดพระของขวัญ เดิมมีอยู่ว่า ท่านเจ้าประคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำได้เป็นผู้กำหนดให้ฤกษ์การสร้างพระอุโบสถของวัดจันทรังษี หลังจากที่ท่านวางศิลาฤกษ์ให้แล้วท่านได้ดำริไว้ว่า หากวัดจันทรังษีจะสร้างพระผงขึ้นเพื่อเป็นการหาทุนสร้างโบสถ ขอให้จำลองเอาจากแบบพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีมาแต่โบราณคู่วัดคู่บ้านของชาววัดจันทรังษี ซึ่งผู้คนในถิ่นนั้นเคารพนับถือกันหนักแน่นอยู่แล้ว เหตุที่เป็นดังนี้เนื่องจากท่านเจ้าอาวาสวัดจันทรังษีพระครูบัณฑิตานุรักษ์(แต้ม บัณฑิโต)เป็นศิษย์ของวัดปากน้ำแต่เดิม และได้กราบลาท่านมาครองวัดจันทรังษีถิ่นกำเนิด แต่โบสถ์ไม่ทันแล้ว พระมงคลเทพมุนีหลวงพ่อวัดปากน้ำก็มาสิ้น ท่านพระครูเจ้าอธิการวัดจันทรังษีเลยตัดสินใจสร้างพระชุดนี้ขึ้น โดยนำผงที่สร้างพระของขวัญในคราวแรกจำนวนหนึ่งและได้เสาะหาผงตามตำราลักษณะการสร้างพระผงวัดปากน้ำรวบรวมขึ้นไว้….และได้นำเส้นเกษาของหลวงพ่อปากน้ำมาผสม(โดยมีส่วนผสมของพระของขวัญวัดปากน้ำภาษีเจริญเป็นจำนวนมาก).สำหรับพิมพ์พระนั้นคุณสมพร สินธุวิชัยเป็นผู้แกะพิมพ์พระถวาย โดยการพิมพ์พระนั้นได้ทำการพิธีผสมผงกดพิมพ์และปลุกเสกโดยพระอาจารย์เถรานุเถรสายธรรมกายในคณะเนกขัมและในโบสถ์วัดปากน้ำภาษีเจริญ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๕ กรรมพิธีการสร้างและปลุกเสกถูกต้องครบถ้วนเหมือนเมื่อครั้งหลวงพ่อปากน้ำสร้างพระของขวัญวัดปากน้ำทุกประการ
    พระผงของขวัญ วัดจันทรังษีมีสัณฐานอยู่ในรูปกลีบบัว ขอบโดยรอบยกสูงเป็นเส้นนูน ภายในตรงกลางจำลองเป็นรูปพระพุทธรูปประทับนั่งสมาธิอยู่เหนืออาสนะเป็นรูปนูนเด่น จำลองจากรูปหลวงพ่อโยก ด้านหลังแบนเรียบ จารึกอักษรไทยว่าวัดจันทรรังษีเป็นส่วนลึกตามส่วนโค้ง มีอักษรขอมตอนต่อแถวว่า มะอะอุ หมายถึง พระรัตนตรัย.เนื้อหามีทั้งเนื้อออกขาวจนถึงขาวอมเหลือง

    หลวงพ่อโยกเป็นพระประธานในโบสถ์ของวัดจันทรังษี เป็นพระปูนปั้นสมัยอยุธยา โดยตอนแรกนั้นไม่มีพระอุโบสถ หลวงพ่อโยกไม่มีฐาน วางอยู่บนพื้นดิน ตากแดดตากฝน
    หลวงพ่อโยกนั้น ท่านศักดิ์สิทธิ์มาก ใครมาบลบานอะไรก็มักจะได้ โดยในตอนที่มาถวายของแก้บน เขาเล่ากันว่าหลวงพ่อท่านจะโยกซ้ายโยกขวาให้เห็น.สำหรับน้ำมนต์ของหลวงพ่อท่านก็ศักดิ์สิทธิ์ ใครเจ็บไข้ได้ป่วยนำน้ำมนต์ไปดื่มแล้วมักหายเจ็บหายไข้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2022
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    25. พระผงเม็ดกระดุม ผงศักดิ์สิทธิ์ หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดรางหมัน สุดยอดประสบการณ์
    ให้บูชา 450 บาท ปิดรายการครับ




    upload_2022-2-10_14-39-4.png

    upload_2022-2-10_14-39-14.png
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2022
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    26. ของดีอยากบอกต่อ!!! พระผงลื้อตงปิน วิหารเซียน อ.เซียน สง่า กุลกอบเกียรติสร้าง ให้บูชา 300 บาท ปิดรายการครับ

    FB_IMG_1644403285280.jpg
    FB_IMG_1644403287947.jpg
    FB_IMG_1644403290684.jpg


    พระผง พระวิสุทธิเทพ องค์ ลื้อตงปิน 1 ใน 8 เซียน
    ท่าน อาจารย์ เซียน สง่า กุลกอบเกียรติ สร้างพลัง พุทธคุณ เทียบเท่า พระสมเด็จวัดระฆัง ในสายจีน ซูฮกยก เป็น เบอร์หนึ่ง ความเก่ง ไม่แพ้ แป๊ะโรงสี โง้วกิมโค้ย อ.เจ้าสัว ซีพี เพราะ ท่าน อ.สง่า ก็ เป็นหนึ่งใน อาจารย์ ของ เจ้าสัวซีพี อีกท่าน หนึ่ง เช่นกันไม่แน่จริง ทางรัฐบาลจีน มอบรางวัล บุคคลทรงคุณค่า ให้การยอมรับ ท่าน อ. เซียน สง่า
    พระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร
    บอก อ.เซียน สง่า เป็น คนที่ไม่ธรรมดา
    ลป.โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ยังยอมรับ ว่า สายเทพเจ้าจีนนั้น มี อยู่ ญาณ แรง จริง โดย เฉพาะ แปดเซียน เมื่อครั้ง รับนิมนต์ ไปนั่งปรก อธิษฐานจิต ที่ วัดมังกร เยาวราช ได้เจิม เป่า นะปัดตลอด ติด ที่ป้ายวัด ด้วย เพราะท่าน ได้รับ การบวช จาก พระโพธิสัตว์กวนอิม

    เชื่อไหม!!
    ท่าน อ.เซียน สง่า เก่ง หรือ ป่าว ไม่ รู้ แม้ แต่ ในหลวง ร.9 ยังประคอง ท่าน อ.เซียน สง่า พระเทพท่าน ยัง ให้การ นับถือ ท่าน อ.เซียน สง่า เป็นพิเศษ
    ด้วย ให้ภาพบรรยาย

    แล้ว ท่าน อ.เซียน สง่า มีดี อะไร อย่า งง เพราะเศรษฐีเมืองไทย และ ต่างประเทศ จะทำโครงการหมื่นล้าน แสนล้าน ถ้า อ.เซียน สง่า บอกไม่ สำเร็จต้อง เป็น อัน ล้มเลิก โครงการ แม่นยำ
    รู้อนาคต ล่วงหน้า

    สมัยที่ สร้างวัด ญาณสังวรวราราม ชลบุรีใหม่ๆนั้น ได้ประสบปัญหา และ อุปสรรคนานาชนิด ทั้งที่เกิดจากคนงานก่อสร้าง และจากสภาพภูมิ อากาศที่แปรปรวน จึงได้เชิญ ผู้ที่มีสมาธิจิตดี มาตรวจดูว่าเป็นเพราะเหตุใด ก็พบว่าบริเวณที่สร้างวัด นั้นมี ความสัมพันธ์ กับ พระนเรศวร มากและมี ดวงวิญญาณ ของผู้ที่ตายจาก สงครามอยู่มากเป็นเหตุให้การทำงานมีอุปสรรค ความทราบถึงองค์สมเด็จ พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชท่านก็เลย ได้เดินทางมาทำ พิธีแผ่เมตตา ให้แก่ดวงวิญญาณ เหล่านั้นด้วยพระองค์ เองแต่ปรากฏว่า ยิ่งแผ่เมตตาก็ยิ่งมี
    ดวงวิญญาณ พากันมามาก ขึ้นจนท่าน ต้องมีบัญชาให้ไป ตามตัว ซินแส อ.เซียน สง่า กุลกอบเกียรติ


    (ผู้ก่อตั้งวิหารเซียน) มาช่วยตรวจดู ให้ ซึ่งเมื่อท่านมาตรวจดูแล้วก็รู้ว่าจุดที่ สร้างวัด เคยเป็นที่ เดินทัพและเกิด สงครามมาก่อน ท่านจึงได้เผาฮู้ ตรงใจกลาง ของที่นั้นซึ่งก็ได้มีคนที่ ตาดีได้ เห็นองค์ท่าน"ลื่อตงปิน"เสด็จมา บน หลังมังกร ซึ่งเมื่อท่านมาถึงพวกวิญญาณ ทั้งหลาย ก็กระเจิงหมด ซึ่งสถานที่ท่านได้เผาฮู้นั้นได้กลายเป็นใจกลาง พระอุโบสถในปัจจุบันนี้"

    ประวัติ เซียน ลื้อท่งปิน วิหารเซียน จ.ชลบุรี
    ท่าน อ.สง่า กุลกอบเกียรติ ผู้ก่อตั้ง วิหารเซียนที่ชลบุรี ท่านบอกว่า องค์ลื่อตงปิน สามารถสื่อ กับท่านได้โดย ทางจิต แต่ ท่าน ไม่เคยเห็น ตัว องค์ท่าน ทางนิมิต เลย ท่านบอกว่า ตำแหน่ง ของ ท่านลื่อตงปิน มีหน้าที่เหมือน รัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย มี หน้าที่คอยดูแล ความสงบเรียบร้อย และ ปรามปรามผู้ร้าย
    มูลเหตุ ที่ท่านได้รู้จัก กับองค์ท่าน ลื้อตงปิน นั้นเนื่องมา จากคุณแม่
    ของ อ.เซียน สง่า ท่านป่วย เป็นโรคทานอะไรไม่ได้ ทำให้ไม่มีกำลังแม้แต่จะ ลุกยืน ตอนนั้นพวกญาติท่านก็พาไปหา ซินแส หรือ หมอแผน ปัจจุบันมา หลายท่าน ก็ไม่ดีขึ้น ประจวบกับ ท่านอ.เซียน สง่าในสมัยนั้น ไม่ค่อยเชื่อในเรื่องการเผาฮู้ ต้มกินแล้วจะ หาย ยิ่งพวกเข้า ทรงเจ้า ต่างๆท่านไม่เชื่อ เลย แต่เมื่อเป็น ความต้องการ ของ ญาติๆก็เลยได้แต่ ลองทำดูเพราะ ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
    จนวันหนึ่งได้เชิญ คนทรงมา ซึ่งคนทรง นี้ตามปกติจะไม่ใช่ ร่างทรงของ ท่านองค์ เซียนลื่อตงปิน แต่เป็นร่างทรงเทพ องค์อื่น แต่วันนั้นพอ ทำพิธีอัญเชิญปั๊บ ท่านลื่อตงปิน ก็มาประทับทรง ทันที และ ก็บอกว่าจะ ช่วยให้คุณแม่ ของ อ.เซียน สง่า ลุกเดิน ได้หายภายใน 3 เดือน แต่มีข้อ แม้ว่า อ.เซียน สง่า จะต้องทำงาน รับใช้ท่าน ซึ่งท่าน อ.เซียน สง่า ก็ได้ถามว่าจะให้ทำอะไรถ้า ให้เป็นร่างทรง แบบนี้ ท่านไม่เอา และ ท่านก็ไม่เคย ศึกษาศาสตร์ แนวนี้ มาก่อน ท่านลื่อตงปิน ก็บอกว่าไม่เป็นไร ท่านจะ คอยช่วยบอก ให้เองว่าจะ ต้องทำอะไร แล้วท่าน ก็เขียนฮู้ ให้ อ.เซียน สง่า เก็บไว้เผา ให้ คุณแม่ ของ ท่าน ละลายน้ำดื่ม ซึ่งก็ปรากฏว่าพอ ครบ 3 เดือน คุณแม่ท่านก็แข็งแรง เป็นปรกติเดิน ได้ดังเดิม ท่านลื่อตงปิน ก็มา
    ทวงสัญญา อ.เซียน สง่า จึงต้อง ยอมทำงานรับใช้ ท่านสงเคราะห์มนุษย์ โดยที่ท่าน กับ อ.เซียน สง่า จะสื่อ สัมผัสทางใจ กัน เหมือนเป็น อาจาร.กับลูกศิษย์ อภินิหาร ขององค์ เซียนลื่อตงปิน ที่วิหารเซียนมี เยอะ เอาไว้มีเวลา จะมาเล่า เป็นเรื่องๆไป
    เช่นเรื่อง ตอน ช่วยสร้างวัดญาณสังวร ชลบุรี ตอนปราบมังกรเขียว ตอน ไฟไหม้โรงแรม ที่พัทยา ตอนที่ช่วยกิจการ ของเจ้าของ ผลิตภัณฑ์ ไก่
    รายใหญ่ CP ตอนช่วย เจ้าของ ตึกใบหยกทาวเวอร์ ตอนช่วย แบงค์กสิกร ที่จะ ล่มช่วง IMF
    อีก อย่างหนึ่งคือ มีคนหนึ่งเขาบูชา พระผงท่าน ลื่อตงปิน จากที่ วิหารเซียน เมื่อ ครั้ง อ.สง่า ยังมีชีวิต ไป
    วันหนึ่ง ก็ไป เจอ นักจับ พลังพระ ขณะที่นักจับ พลังพระกำลัง ตรวจพระ ของคนอื่น อยู่ว่า ดียังไง จู่ๆเขาก็หันมา ที่ ชายคนนี้ แล้วถาม ว่า เขา ห้อยพระอะไรอยู่

    (พระ อยู่ใน เสื้อ ไม่ได้ห้อย ออกมาข้างนอก)
    เพราะเขาเห็น แสง รัศมี สีชมพู พุ่งออกมาดีทางเมตตา ร่มเย็น และพลังนี้ หมุนวน กลับไปกลับมา เหมือน หยิน และ หยาง ซึ่งตั้งแต่เขาตรวจพระมาไม่เคยเจอ แบบนี้ เขาก็เลยขอดู พระ พอเขาเห็นพระ แกเลย หายสงสัย ว่าทำไมจึงเกิด มีพลังแบบนี้ได้ เจอ พลังสายญาณเทพเจ้าจีน ครั้งแรก ต้องทึ้ง เพราะ แรง จริง
    และ มีพระเกจิชื่อ ดังทาง ภาคตะวันออก ไม่ขอ เอ่ยนาม มีโยมไปขอ ของดี ท่านบอกกลับไปที่ บ้านโยม นะ มีของดีอยู่ ไปค้นดูดีดี ละ
    คนจีน มีหนวด ยาว ถือแส้ คุ้มครองบ้านโยม พอ
    กลับบ้านไป ค้นดู เจอพระผง ตามรูป ถึงรู้ ตรงตาม ที่พระ ท่านบอกไว้ จริง อัศจรรย์


    วันที่ไคกวง พระผง ชุดนี้ ท่าน อ.สง่า ได้ อัญเชิญ ญาณ ท่าน องค์ลื่อตงปิน มา ประทับทรง ปลุกเสก ที่ วิหารเซียน ครั้งนั้น พิธี ยิ่งใหญ่ ที่สุด คนที่ได้รับไปนั้น เกิดประสบการณ์ ปาฏิหาริย์ เพียบ โดนผีเข้า เจ้าที่แรง ห้อย พระผงไป ร้อง หนี บอกว่า กลัวแล้ว อย่าเข้ามา ร้อน ร้อน แคล้วคลาด จากเที่ยวบิน มรณะ องค์ลื้อตงปิ่น ดลจิตดลใจ ให้ยกเลิก ในการเดินทาง อธิษฐานขอเงินได้เท่าไร ได้เท่าใด ไม่ขาดไม่เกิน เศษเกินไม่มี เหลือเชื่อ มากมาย เล่าไม่จบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2022
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,017
    ค่าพลัง:
    +458
    สนใจรายการไหนสอบถามได้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...