พระหลวงปู่สี ฉันทสิริเรื่องของ...พุทธคุณและค่านิยมที่มาแรงสุดๆ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 16 พฤศจิกายน 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    พระหลวงปู่สี ฉันทสิริเรื่องของ...พุทธคุณและค่านิยมที่มาแรงสุดๆ
    <!-- AddThis Button BEGIN --><SCRIPT type=text/javascript>var addthis_pub="komchadluek";var addthis_brand = "คมชัดลึก";var addthis_header_color = "#ffffff";var addthis_header_background = "#3792ef"</SCRIPT><!-- AddThis Button END -->

    [​IMG]


    <SCRIPT type=text/javascript>var id='37369';function addCommas(nStr){ nStr += ''; x = nStr.split('.'); x1 = x[0]; x2 = x.length > 1 ? '.' + x[1] : ''; var rgx = /(\d+)(\d{***)/; while (rgx.test(x1)) { x1 = x1.replace(rgx, '$1' + ',' + '$2'); } return x1 + x2;}function count(){$.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('คนอ่าน '+addCommas(counter_)+' คน'); } });} featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ }})</SCRIPT>ช่วง ๒-๓ ปี ที่ผ่านมา ค่านิยมของพระเครื่องและเครื่องรางทุกชนิดทุกประเภทมีค่านิยมสูงขึ้น เว้นอยู่อย่างเดียว คือ จตุคามรามเทพ แม้เศรษฐกิจของประเทศยังอยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก
    <SCRIPT type=text/javascript>google_ad_channel = '9989085094'; //slot numbergoogle_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads//google_image_size = '300X250';//google_skip = '3';var ads_ID = 'adsense_inside'; // set ID for main Element divvar displayBorderTop = false; // default = false;//var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type imagevar position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail</SCRIPT><SCRIPT src="http://www.komchadluek.net/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1258318945&num_ads=3&channel=9989085094&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.0.32.18&url=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Fdetail%2F20091116%2F37369%2F%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87...%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%86.html&dt=1258318945859&correlator=1258318945859&dblk=1&frm=0&ga_vid=1993919898.1256510293&ga_sid=1258318524&ga_hid=101032274&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=1&u_java=1&u_h=800&u_w=1280&u_ah=766&u_aw=1280&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1259&bih=592&ref=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.com%2F&fu=0&ifi=1&dtd=47"></SCRIPT>

    และในจำนวนพระเครื่องที่ขึ้นชื่อว่ามีค่านิยมสูงขึ้นหลายเท่าตัว หรือบางรุ่นขึ้นไปถึง ๑๐ เท่า ต้องยกให้ “เหรียญหลวงปู่สี ฉันทสิริ รุ่นอายุยืน เต็มองค์" พระเถราจารย์ที่อายุยืนที่สุดท่านหนึ่ง คือ ๑๒๘ ปี แห่งวัดเขาถ้ำบุญนาค ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์


    ปรากฏการณ์ที่พุ่งขึ้นของค่านิยมเหรียญหลวงปู่สี ฉันทสิริ ต้องยกให้ รุ่น “อายุยืน เต็มองค์” เป็นเรื่องแปลก ก่อนหน้านี้เมื่อ ๒-๓ ปีที่ผ่านมา เหรียญทองแดงค่านิยมอยู่ในหลักพันต้นๆ เท่านั้น แต่ปัจจุบันค่านิยมหลักหมื่นต้นๆ ทั้งนี้ค่านิยมเฉพาะเหรียญอายุยืน ทั้งเต็มองค์ และครึ่งองค์ โดยเหรียญเต็มองค์ค่านิยมจะสูงกว่าถึง ๑ เท่าตัว เหรียญรุ่นนี้มีการสร้างออกมา ๔ เนื้อ คือ เนื้อทองคำค่านิยมกว่า ๑ ล้านบาท เนื้อเงินค่านิยมประมาณ ๒-๓ แสนบาท ในขณะที่เนื้อนวโลหะ ค่านิยมอยู่ในหลักหมื่นปลายๆ-แสนต้นๆ

    จากปรากฏการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้เหรียญรุ่นอื่นๆ ได้รับความนิยมเช่นกัน และเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง สำหรับผู้เช่าและสะสม คือ “พระเครื่องและเหรียญหลวงปู่สีมีการทำปลอม”

    เหตุที่คนเล่นหาและสะสมพระเครื่องและเหรียญหลวงปู่สี ฉันทสิริ นั้น แน่นอนที่สุดว่าต้องเกิดจากประสบการณ์ เช่นเดียวกับเหรียญของพระเกจิอาจารย์รูปและองค์อื่นๆ ที่ว่า “ค่านิยมของพระที่สูงนั้น ต้องมากด้วยประสบการณ์”

    เท่าที่ทราบผู้ใช้พระเครื่องหลวงปู่สีล้วนมากมีด้วยประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด เมตตามหานิยมสูง

    นอกจากนี้แล้วสันนิษฐานว่า พระหลวงปู่สี เป็นพระดีที่คนคิดไม่ถึง หรือว่าลืม ทั้งๆ ที่เหรียญของท่านเก่ากว่าพระเกจิอาจารย์ในยุคเดียวกันมาก

    อายุของหลวงปู่สี ฉันทสิริ ตามตัวหนังสือที่ปรากฏในเหรียญของท่าน เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๓๙๒ ในการจัดสร้างเหรียญอายุยืนนั้น เป็นเหรียญที่สร้าง พ.ศ.๒๕๑๗ ขณะนั้นท่านมีอายุ ๑๒๕ ปี แสดงว่า ท่านเกิดก่อนหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพถึง ๘ ปี เพราะหลวงพ่อเดิมเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๐๐

    นอกจากนี้ ในอดีตมีพระเถราจารย์อีกรูปหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าอายุยืนเช่นกัน คือ หลวงปู่ก๋ง วัดเขาสมอคอน จ.ลพบุรี สร้างเหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๖๘ ขณะที่มีอายุ ๑๐๑ ปี ปัจจุบัน เหรียญดังกล่าวมีค่านิยมอยู่ในหลักแสนต้นๆ ท่านมรณภาพ พ.ศ.๒๔๖๙ สิริอายุรวม ๑๐๒ ปี

    สำหรับประวัติของหลวงปู่สี ฉันทสิริ พระเถราจารย์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดรูปหนึ่ง คือ ๑๒๘ ปี ถือได้ว่าท่านเป็นพระเถราจารย์ ๗ แผ่นดิน ท่านเป็นชาว อ.รัตนะ จ.สุรินทร์ เกิดปีจอ พ.ศ.๒๓๙๒ ตรงกับสมัยของรัชกาลที่ ๔ ส่วนเกิดวัน เดือนใด ท่านไม่เคยบอก

    เมื่ออายุ ๒๑ ปี ท่านถูกเกณฑ์เข้ารับราชการทหาร เมื่อปลดจากการเป็นทหารแล้ว ท่านยึดอาชีพค้าวัว ค้าควาย และเป็นพรานอยู่แถวช่องแค-ตาคลี ซึ่งแต่เดิมมีสภาพเป็นป่าดงดิบ และยังไม่ได้ตั้งเป็น อ.ตาคลี
    เมื่อมีการใช้นามสกุลขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๖ ตระกูลของท่านได้ใช้นามสกุลว่า “ดำริ”

    ชีวิตตอนเป็นหนุ่ม ท่านเป็นคนจริง ไม่เคยเกรงกลัวใคร ท่านใช้ชีวิตความเป็นหนุ่มอยู่นานหลายปี จนกระทั่งบังเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก จึงได้อุปสมบท โดยท่านบอกว่า ท่านบวชที่วัดบ้านเส้า อ.บ้านเส้า (อ.บ้านหมี่ ในปัจจุบัน) โดยมีพระครูธรรมขันธ์สุนทร เป็นพระอุปัชฌาย์ ส่วนคู่สวดท่านไม่ได้บอกว่ามีพระอาจารย์รูปใดบ้าง

    เมื่อบวชได้ระยะหนึ่ง ท่านได้เดินทางไปจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำเขาเสียบ ต.ช่องแค อ.ตาคลี เพราะก่อนบวชท่านเคยอยู่ในเขตนี้มาก่อน
    หลวงปู่สี ท่านถือปฏิบัติในการออกธุดงค์ ตลอดเวลาที่ท่านยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ท่านบอกว่า ท่านธุดงค์ไปทั่วประเทศไทย จากเหนือถึงใต้ ตะวันออกถึงตะวันตก ท่านไปมาทั้งหมดเคยธุดงค์ไปฝั่งประเทศลาว จำพรรษาอยู่ในประเทศลาวหลายปี ธุดงค์เข้าประเทศพม่า เลยไปประเทศอินเดีย ไปนมัสการสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา

    จนท่านอายุได้ประมาณ ๙๐ ปี ครั้งสุดท้ายท่านไปสร้างวัดหนองลมพุก อ.โนนสังข์ จ.อุดรธานี ท่านพระครูนิวิฐปริยัติคุณ (สมบูรณ์) จึงไปนิมนต์ท่านลงมาช่วยสร้างวัดเขาถ้ำบุญนาค ซึ่งตอนนั้นยังเป็นสำนักสงฆ์

    หลวงปู่สี เป็นพระสมถะ ไม่สะสมสมบัติพัสถานใด ไม่ยึดติดในความสะดวกสบาย ท่านอยู่กุฏิไม้เก่าๆ หลังเล็กๆ ท่านเจ้าอาวาสจะสร้างกุฏิหลังใหม่ให้ แต่ท่านไม่ชอบ บอกว่าจะไม่ไปอยู่ พอช่างก่ออิฐเสร็จ จะฉาบปูน ปรากฏว่า ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงก็ฉาบปูนไม่ติดจนต้องเลิก พระรักษ์ ซึ่งเป็นพระอุปัฏฐากของหลวงปู่ จึงไปเรียนถามหลวงปู่ว่า"ทำไมไปแกล้งช่างปูน" หลวงปู่บอกว่า "ท่านไม่ได้แกล้ง เพียงแต่ท่านไม่อยากอยู่กุฏิใหม่"

    พระรักษ์จึงบอกว่า "หากหลวงปู่ไม่อยากอยู่ก็ไม่เป็นไร ให้ช่างปูนเขาสร้างให้เสร็จเถิด" หลวงปู่จึงบอกว่า"ให้ช่างมาทำใหม่" ปรากฏว่าทำเสร็จในวันนั้น แต่ท่านก็ไม่เคยใช้กุฏิหลังนี้เลย จนท่านมรณภาพแล้ว จึงนำร่างของท่านบรรจุในหีบแก้ว แล้วประดิษฐานไว้ที่กุฏินี้

    พ.ศ.๒๕๑๒ หลวงปู่สีป่วยด้วยโรคต่อมลูกหมากบวม เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๑๙ โดยเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลอยู่ ๒-๓ ครั้ง พอถึงปลายเดือน ๓ ท่านบอกกับพระเณรในวัดว่า เดือน ๔ ท่านจะไปแล้ว ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้น ท่านมรณภาพวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๐ เวลา ๓ โมงเย็น ตรงกับวันขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๔ สิริรวมอายุ ๑๒๘ ปี

    ปาฏิหาริย์หนึ่งของหลวงปู่สีที่พูดกันในหมู่ลูกศิษย์

    คือ เมื่อต้น พ.ศ.๒๕๑๙ วัดเขาถ้ำบุญนาค มีงานประจำปี ตรงกับวันที่วัดแห่งหนึ่ง จ.ชลบุรี มานิมนต์หลวงปู่สีไปเป็นประธาน โดยท่านรับปากว่า จะไปในวันที่ ๑๘ มีนาคม พอถึงวันที่กำหนดไป จ.ชลบุรี พระเณรต่างก็เห็นท่านอยู่ที่วัด ไม่ได้ไปไหน แต่วันที่ ๑๙ มีนาคม ชาวชลบุรีที่ได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงปู่ ได้เหมารถตามมาที่วัดเขาถ้ำบุญนาค ถามหาหลวงปู่สี แล้วถามว่า "เมื่อวานนี้หลวงปู่ใช่ไหมที่ไปพรมน้ำมนต์ให้ญาติโยมที่ชลบุรี"

    พระเณรที่นั่งอยู่ด้วยถึงกับงง ถามว่า "หลวงปู่ไปกับใคร" หลวงปู่ไม่ตอบ ล้มตัวลงนอนตามปกติ พอถึงเพล ชาวชลบุรีก็นำอาหารที่เตรียมไปมาถวาย ท่านก็ลุกขึ้นมารับประเคน แล้วนั่งยองๆ ฉันอาหาร มีแมวหมาล้อมหน้าล้อมหลัง
    ชาวชลบุรีเห็นอย่างนั้นก็หมดศรัทธา ว่าท่านไม่ค่อยสำรวม ได้เดินทางต่อไปวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี เพื่อกราบนมัสการหลวงพ่อฤาษีลิงดำ และได้เล่าให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำฟังถึงหลวงปู่สี ว่าเป็นพระไม่น่านับถือ

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กล่าวว่า "กราบฉันแสนครั้งยังไม่เท่าได้กราบหลวงปู่สีครั้งเดียว" ต่อมาศิษย์ชาวชลบุรีกลุ่มนี้ กลายมาเป็นศิษย์ที่นับถือหลวงปู่สีมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง

    บอย ท่าพระจันทร์

    ที่มา - http://www.komchadluek.net/detail/2...ทธคุณและค่านิยมที่มาแรงสุดๆ.html#source_photo
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 พฤศจิกายน 2009
  2. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,795
    อนุโมทนาครับ ตั้งเป็นกระทู้แนะนำแล้วครับ ขอบคุณมาก
     
  3. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,358
    แวะมากราบหลวงปู่ครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • l.jpg
      l.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.4 KB
      เปิดดู:
      9,334
  4. Teetab

    Teetab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +4,659
    กราบนมัสการ พระเดชพระคุณหลวงปู่สี ฉันทสิริ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC04035.JPG
      DSC04035.JPG
      ขนาดไฟล์:
      835.2 KB
      เปิดดู:
      608
  5. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,826
    ค่าพลัง:
    +16,581
    ข้อมูลปัจจุบันที่ลงในหนังสือส่วนใหญ่ยังมีข้อมูลที่ผิดพลาดอยู่มาก ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าเขาทำหนังสือโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลที่แท้จริง แย่...!ที่สุด โดยเฉพาะพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ท่านเสด็จสวรรคตเมื่อปีพุทธศักราช 2394 ครับ ดังนั้น หลวงปู่สีชาตะ 2392 ยังไงท่านก็ยังอยู่ในช่วงรัชกาลที่3 ตอนปลายแน่นอนครับ
    และอีกช่วงนึงที่ประวัติหลวงปู่ผิดพลาดคือ เวลาที่หลวงปู่มรณภาพ ไม่ใช่ 3 โมงเย็นครับ แต่เป็นตีสองปลายเกือบตีสาม และช่วงตีห้ากว่า องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง องค์หลวงพ่อของพวกเรา ท่านเป็นคนไปจัดการเรื่องศพหลวงปู่ เพราะหลวงปู่ท่านไปหาหลวงพ่อด้วยกายทิพย์หลังจากหลวงปู่มรณภาพแล้วให้มาจัดการเรื่องศพท่าน
    เรื่องประวัติผมเองพยายามลง ให้ละเอียดและถูกต้องมากที่สุดครับและผมจะนำมาลงที่กระทู้นี้ด้วยครับ
     
  6. five304

    five304 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +1,274
    :cool:ขออนุโมทนาครับ ผมคนนึงที่รู้จักหลวงปู่ไม่นานนี้ แต่ตอนนี้ศรัทธามาก:boo:
     
  7. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,826
    ค่าพลัง:
    +16,581
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ พระอรหันต์ 7 แผ่นดิน

    หลวงปู่สีท่านเป็นชาวอำเภอรัตนะ จังหวัดสุรินทร์ ท่านเกิดเมื่อปีจอ พ.ศ.๒๓๙๒ตรงกับสมัยของรัชกาลที่๓(แต่หนังสือส่วนมากจะลงรัชกาลผิดจะลงเป็นรัชกาลที่ ๔ ทั้งที่ความเป็นจริงองค์รัชกาลที่ ๓ เสด็จสวรรคต ปี ๒๓๙๔ ซึ่งหลวงปู่ท่านเกิดก่อนรัชกาลที่๓ เสด็จสวรรคตถึง ๒ ปี)ส่วนเกิด วัน เดือน ใด ท่านไม่เคยบอก พ่อแม่ของหลวงปู่มีลูกทั้งหมด ๖ คน ท่านเป็นคนโต และแต่เดิมท่านไม่ได้ชื่อ สี ท่านชื่อ ลีเมื่อมีการใช้นามสกุลขึ้นตระกูลของท่านก็ใช้นามสกุลว่าดำริ<O:p</O:p
    ชีวิตในวัยเด็ก ท่านได้เติบโตขึ้นท่ามกลางกลิ่นไอของป่า ได้ติดตามพ่อของท่านล่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหารและเก็บของป่าเพื่อไปขายนำเงินซื้อข้าวของ จนกระทั่งท่านได้อายุ ๑๑ ปี พ่อของท่านได้นำท่านไปฝากกับพระธุดงค์ซึ่งเคยเป็นสหายเก่าของพ่อท่าน ซึ่งเมื่อพระธุดงค์ได้เห็นหลวงปู่สีแล้วก็ถึงกับออกปากขอท่านไปดูแล ซึ่งพ่อของหลวงปู่สีก็ยกให้ ดังนั้นท่านถึงต้องตามพระธุดงค์ตระเวนธุดงค์ด้วยกัน เรียกว่าค่ำไหนนอนนั่น จากป่าดงดิบจังหวัดสุรินทร์จนกระทั่งมาถึงเมืองหลวง (กรุงเทพฯ) ท่านได้พาหลวงปู่สีมากราบสักการะ พระสหธรรรมิกของท่านคือ ขรัวโต (พระเทพกวี) ซึ่งท่านก็คือ สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ในปีพุทธศักราช ๒๔๐๓ ซึ่งพระอาจารย์อินกับสมเด็จโต เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกัน คือหลวงตาแสง จังหวัดลพบุรี จึงสนิทกันมาก เมื่อสมเด็จโตท่านได้เห็นรูปร่างลักษณะของหลวงปู่สี ก็ยินดีนักด้วยบุคลิก ลักษณะของท่านเป็นที่ถูกใจยิ่งนัก จึงได้รับหลวงปู่สีเป็นศิษย์ สมเด็จโตท่านก็ได้อบรมข้อธรรม ถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอักขระขอมไทย และคาถาอาคมต่าง ๆ รวมทั้งการปฏิบัติสมาธิจิต จนแตกฉาน ที่ท่านเรียนรู้ง่ายเป็นเพราะว่าท่านมีพื้นฐานมากจากพระอาจารย์อินได้สอนนั่นเอง ซึ่งต่อมาสมเด็จฯโต ท่านได้เลื่อนลำดับจาก พระเทพกวี เป็น สมเด็จพุฒาจารย์ ทางวัดระฆังก็มีการบวชพระและเณรจำนวน ๑๐๘ รูป พร้อมด้วยบวชชีพราหณ์อีกมากมายเพื่อฉลองตำแหน่งโดยมีสมเด็จฯโตเป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งในการบวชเณรนั้นได้มีหลวงปู่สีรวมอยู่ด้วย ซึ่งได้บวชในพุทธศักราช ๒๔๐๗ ซึ่งตอนนั้นหลวงปู่สีมีอายุได้ ๑๕ ปีหลังจากที่ได้บวชเป็นเณรแล้วท่านก็ได้อยู่วัดระฆังเพื่อเรียนวิชากับสมเด็จโต ซึ่งรวมถึงการทำผงวิเศษทั้งห้าประการอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีอยู่ในพระเครื่องของสมเด็จฯ (มีมูลค่านับล้านบาท และถือเป็นจักรพรรดิ์พระเครื่อง) จนกระทั่ง ปี ๒๔๑๑ องค์รัชกาลที่ ๔ ได้เสด็จสวรรคต ทำให้สมเด็จฯโตจะเก็บตัวเงียบไม่ค่อยจะออกมาพบปะญาติโยมเท่าใดนัก ในช่วงนี้หลวงปู่สี จึงไม่ค่อยได้ติดตามรับใช้สมเด็จฯโต เท่าใดนัก ประกอบกับพระอาจารย์อินทร์กลับจากธุดงค์มาแวะเยี่ยมสมเด็จฯโต หลวงปู่สี จึงขออนุญาตสมเด็จฯ กลับไปเยี่ยมโยมพ่อโยมแม่ พร้อมกับพระอาจารย์อินทร์
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  8. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,826
    ค่าพลัง:
    +16,581
    ยังไม่หมดนะครับ จะทยอยนำประวัติของหลวงปู่มาลงครับ
     
  9. happyhub

    happyhub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    923
    ค่าพลัง:
    +1,423
    [​IMG]

    พระบูชาหลวงปู่สี เนื้อปูนผสมน้ำหมากที่ผมบูชาอยู่

    ล่าสุดเพื่อนผมเอาพระผงอายุยืนเนื้อเกศาจีวรที่ผมให้นานแล้ว นำไปถวายพระอรหันต์องค์หนึ่งทางภาคตะวันออกท่านจับแล้วพูดมาคำเดียวว่า ทรงพลัง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1040842.jpg
      P1040842.jpg
      ขนาดไฟล์:
      138.2 KB
      เปิดดู:
      8,454
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2009
  10. happyhub

    happyhub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    923
    ค่าพลัง:
    +1,423
    [​IMG]

    พระเกศาธาตุ และพระทันตธาตุ หลวงปู่สี ที่ผมบูชาที่บ้าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1040840.jpg
      P1040840.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.4 KB
      เปิดดู:
      8,183
  11. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,826
    ค่าพลัง:
    +16,581
    เจ้ากรมhappyhub เอามาโชว์ ทำให้น้ำลายไหลอีกแล้วครับท่าน
     
  12. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,826
    ค่าพลัง:
    +16,581
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ พระอรหันต์ 7 แผ่นดิน (ต่อครับ)

    ตอนนี้หลวงปู่สีหรือสามเณรลี ได้เริ่มโตเป็นหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ สง่างาม ผิวพรรณดี ผิดกับเด็กหนุ่มทั่วไป เมื่อกลับมาเห็นสภาพครอบครัวซึ่งมีความลำบาก ก็ขออนุญาตพระอาจารย์อินทร์ สึกออกมาเพื่อช่วยเหลือครอบครัว พระอาจารย์อินทร์ได้ตรวจดูชะตาของหลวงปู่สี ซึ่งขณะนั้นอายุย่าง ๑๙ ปี ว่าชะตาจะต้องเกี่ยวพันกับทางโลก เมื่อพ้นภาวะกรรม ก็จะบวชไม่สึกและสำเร็จในบั้นปลายชีวิต จึงให้สึกตามคำขอ ชีวิตตอนเป็นหนุ่มท่านเป็นคนจริงไม่เคยเกรงกลัวใครนอกจากทำไร่ทำนาแล้วท่านยังมีอาชีพรับจ้างคุมฝูงวัวไปขายข้ามจังหวัด ต่อมาปี ๒๕๑๖ หลวงปู่สีได้ถือโอกาสมาร่วมงานอุปสมบทเป็นพระขององค์รัชกาลที่ ๕ เลยได้มีโอกาสมาพักที่วัดระฆัง และทำให้ท่านได้ทราบว่าสมเด็จฯโตซึ่งเป็นองค์อาจารย์ของท่านได้มรณะภาพไปแล้ว เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน๒๔๑๕ หลังจากองค์รัชกาลที่ ๕ ขึ้นครองราชย์ได้ ๕ ปี
    ต่อมาเมื่อปี ๒๔๑๘ มีกบฏฮ่อเกิดขึ้น หลวงปู่สีก็ได้กาสาสมัครเป็นทหารเพื่อไปร่วมรบกับเขาด้วย ปรากฏว่าท่านได้รับเลือกให้อยู่ในหน่วยอาสากล้าตายระดับแนวหน้าซึ่งตอนนั้นเจ้าพระยาภูธราภัยเป็นแม่ทัพ ภายหลังสามารถปราบกบฏฮ่อลงได้ ท่านได้รับความดีความชอบอย่างมากได้ยศเป็นหัวหมู่ และได้เป็นคนสนิทกับเจ้าพระยาภูธราภัยอีกด้วย ซึ่งเจ้าพระยาได้เรียกหลวงปู่สีในตอนนั้นว่า ไอ้เสือหาญ เพราะศึกปราบฮ่อเจ้าพระยาได้เห็นประจักษ์ตาว่า ทหารลี หนังดีเหนียว ใจกล้า ตอนหลังได้รับเลื่อนให้เป็นตำรวจหลวงคอยติดตามขบวนเสด็จ ฯ

    หลวงปู่สีท่านใช้ชีวิตความเป็นหนุ่มอยู่นานหลายปี จนกระทั่งบังเกิดความเบื่อหน่ายทางโลกจึงได้อุปสมบท โดยท่านบอกว่า ท่านบวชที่วัดบ้านเส้า อำเภอบ้านเส้า (อำเภอบ้านหมี่ในปัจจุบัน) โดยมีพระครูธรรมขันธ์สุนทร เป็นพระอุปัชฌาย์ส่วนคู่สวดท่านไม่ได้บอกว่ามีพระอาจารย์รูปใดบ้างเมื่อบวชได้ระยะหนึ่งท่านได้เดินทางมาจำพรรษาอยู่ที่ ถ้ำเขาเสียบ เขตตำบลช่องแคอำเภอตาคลี เพราะว่าก่อนบวชท่านเคยอยู่ในเขตนี้มาก่อน<!-- google_ad_section_end -->
     
  13. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,801
    ค่าพลัง:
    +83,988
    ผมเคยอาราธนาเหรียญท่านติดตัวเป็นเหรียญหลังพญานาค สมัยเรียน ช่วงปีใหม่นั่งสังสรรกับเพื่อนๆ มีประทัดยักษ์ลูกหนึ่งขว้างมาในวงที่ผมและเพื่อนๆนั่งอยู่ โดนระหว่างคอกับหน้าอกผมพอดี ระเบิดเสียงสนั่นหวั่นไหว ผมหน้ามืดไปพักใหญ่ ตรวจสอบบาดแผล ปรากฏว่า แค่เลือดออกซิบๆ ตกสะเก็ด 4-5วันก็หาย วันนั้นหากไม่ได้บารมีหลวงปู่ช่วยหน้าอกผมคงเหวะ เพราะความแรงของมันทำให้เด็กพิการมาแล้วตามในข่าวต่างๆ

    วัตถุมงคล ที่ยังไม่แพงรุ่นพรหมวิหารธรรมครับ หลวงปู่ดู่ท่านเสกให้ 1 เดือน หลวงปู่สีเสกนานมาก ได้บารมีพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณขั้นเอกอุ และพระศรีอารย์ แบบเต็มๆ แต่ตอนนี้ทำเทียมกันมากโปรดระมัดระวังให้จงหนัก ครับ
     
  14. chonthipat

    chonthipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +543
    พระของหลวงปู่ทีประสพการณ์ที่ดีทุกรุ่นครับการันตี ได้ประจักษ์กับตัวเองและคนรอบข้างเล่าต่อกันมาครับ
    พุทธคุณดีพระเครื่อง

     
  15. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,826
    ค่าพลัง:
    +16,581
    มาอ่านประวัติของหลวงปู่กันต่อครับ

    หลวงปู่สีท่านถือปฏิบัติในการออกธุดงค์ ตลอดเวลาที่ท่านยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงหลวงปู่สีท่านบอกว่าท่านธุดงค์ไปทั่วประเทศไทย จากเหนือถึงใต้ตะวันออกถึงตะวันตก ท่านไปมาทั้งหมดเคยธุดงค์ไปฝั่งประเทศลาวจำพรรษาอยู่ในประเทศลาวหลายปี ธุดงค์เข้าประเทศพม่าเลยไปประเทศอินเดียไปนมัสการสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ท่านยังเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งท่านธุดงค์ไปภาคเหนือ เพื่อจะไปนมัสการพระบาทสี่รอย เมืองเชียงตุง ประเทศพม่าท่านเดินหลงป่าไม่ได้ฉันอะไรเลยเป็นเวลา ๗ วัน จนรุ่งเช้าของวันที่ ๘มีช้างป่านำหัวบัว และอ้อยมาถวายท่าน (ไม่ทราบว่าเป็นเทวดาหรือว่าเทวานุภาพดลใจให้ช้างนำมาถวาย ?) ท่านจึงนำหัวบัวต้มกับน้ำอ้อยฉันและช้างยังเดินนำทางท่านไปจนพบกับบ้านของชาวบ้านป่า ท่านเล่าว่าท่านเดินธุดงค์อยู่ในป่าแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ พบชายหญิงกำลังกินอะไรกันอยู่ท่านจึงเดินไปถามว่า ทำอะไรกันอยู่หรือทั้งสองก็ตอบหลวงปู่สีว่ากำลังกินยาอายุวัฒนะกันอยู่แต่ หลวงพ่อมาช้าไปยาหมดเสียแล้วจะมีเหลืออยู่ก็ตามใบไม้เท่านั้นเองและทั้งสองคนก็เก็บยาที่ติดอยู่ตามใบไม้ให้ท่านฉัน ซึ่งมีอยู่เล็กน้อยเท่านั้นท่านบอกว่าที่ท่านมีอายุยืนก็เพราะยานี้แหละ และยานี้ยังทำให้ท่านมีร่างกายแข็งแรงไม่หลงลืมเหมือนคนแก่ทั่วๆไปในการธุดงค์ของท่านนั้นต้องเรียกว่า ยอมตายในผ้าเหลืองเลยทีเดียว หลวงปู่เองได้พบกับอาถรรพ์ในป่ามากมายยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ร้าย ผีป่า แม้กระทั่งเทวดามาขอฟังธรรมจากท่านเสมอ และระหว่างที่ธุดงค์นั้นหลวงปู่สีเองได้พบกับพระเกจิที่มีชื่อเสียงต่อมาในอนาคตมากมาย และได้พบปะสนทนาธรรมจนเป็นพระสหธรรมิกที่สนิทกันมากได้แก่ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท หลวงปู่กลั่น วัดพระญาติการามจ.พระนครศรีอยุธยา และที่สำคัญท่านยังเคยได้ร่วมเดินธุดงค์กับ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สายกรรมฐานที่มีลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศ และตัวท่านยังเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อ ปาน วัดคลองด่านผู้ที่สร้างเขี้ยวเสือจนโด่งดังและมีราคาแพงอันดับหนึ่งด้วย และท่านเองก็ได้พบกับพระที่มาขอเป็นศิษย์ ในช่วงระหว่างธุดงค์ ซึ่งต่อมามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ได้แก่ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ (ท่านได้พบกับหลวงปู่สีก่อนที่จะพบกับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต) หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.ชัยนาท หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ จ.ชัยนาท เมื่อท่านอายุมากขึ้นท่านก็ไม่ได้ธุดงค์อีก
    ครั้งหน้าจะเล่าว่าทำไมท่านต้องมาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาคครับคอยติดตามอ่านครับ
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  16. wichert_lim

    wichert_lim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,012
    ค่าพลัง:
    +3,598
    ที่อารธนาติดตัวนอกจากหลวงปู่หมุน ก็มีองค์นี้ครับ
    รูปหล่อรุ่นแรก หลวงปู่สี ที่ติดตัวเป็นประจำ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01359.jpg
      DSC01359.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.4 KB
      เปิดดู:
      255
    • DSC01360.jpg
      DSC01360.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.3 KB
      เปิดดู:
      199
  17. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,826
    ค่าพลัง:
    +16,581
    ในสมัยที่หลวงปู่สีท่านยังธุดงค์อยู่ได้พบกับพระครูเทพโลกอุดรด้วยนะครับ พระครูเทพโลกอุดรถือเป็นองค์อาจารย์อีกองค์นึงของหลวงปู่สีเลยทีเดียว<!-- google_ad_section_end -->
     
  18. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,826
    ค่าพลัง:
    +16,581
    เหตุที่ท่านต้องมาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค

    เนื่องจากพระอาจารย์สมบูรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาถ้ำบุญนาค ต้องการจะสร้างวัดให้รุ่งเรือง ซึ่งตอนนั้นแทบจะไม่มีอะไรเลย ว่ากันว่า พระอาจารย์สมบูรณ์ได้ไปปรึกษา ปู่โทน หลำแพร ฆราวาสผู้มีอาคมสูง ซึ่งปู่โทนหลำแพร ได้แนะนำให้ไปนิมนต์หลวงปู่สี ซึ่งตอนนั้น ท่านอยู่ที่บ้านหนองพุก ตำบลหนองเรือ อำเภอโนนสัง จังหวัดอุดรธานี (ปัจจุบันเป็นจังหวัดหนองบัวลำภู) ตอนที่ยกขบวนไปรับหลวงปู่สีนั้น หลวงปู่ท่านรู้ล่วงหน้าว่าจะมีผู้มารับไปสร้างวัดท่านจึงเตรียมตัวคอยอยู่แล้ว ทำให้ทุกคนที่ไปนิมนต์หลวงปู่ต่างแปลกใจไปตาม ๆ กัน หลวงปู่ท่านมาอยู่ที่วัดเมื่อปี ๒๕๑๒ ท่านอยู่ที่วัดนี้จนกระทั่งท่านได้มรณภาพเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๐ รวมท่านอยู่วัดถ้ำเขาบุญนาค เป็นเวลา ๘ ปี
    <O:p</O:p<!-- google_ad_section_end -->
     
  19. kukkai_bkk

    kukkai_bkk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +213
    กราบหลวงปู่ครับ
     
  20. ohrm

    ohrm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +338

แชร์หน้านี้

Loading...