เรื่องเด่น ภารา หเว ปัญจักขันธา ขันธ์ ๕ คือร่างกายนี้เป็นภาระยิ่งหนอ

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 12 กันยายน 2020.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,800
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,564
    ค่าพลัง:
    +26,402
    พระอาจารย์กล่าวกับญาติโยมอายุมาก ที่มีลูกหลานประคองมาว่า "ภารา หเว ปัญจักขันธา ขันธ์ ๕ คือร่างกายนี้เป็นภาระยิ่งหนอ

    นึกถึงตอนสมัยหนุ่ม ๆ อายุ ๓๐ กว่า นั่งที่บ้านอนุสาวรีย์ตั้งแต่ ๗ โมงครึ่งยัน ๓ ทุ่มทุกวัน มีเวลาลุกไปฉันอาหารกับเข้าห้องน้ำเท่านั้น ก็นั่งอยู่ได้ สมัยนี้เปลี่ยนจาก ๓๔ ปี เป็น ๕๘ ปี ไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่ได้พักจะนั่งคอพับไปเลย

    วันก่อนเจอโยมที่รู้จักกันตั้งแต่ฆราวาส ไปหาหมอด้วยกัน โยมเจอก็ดีใจ มายกมือไหว้ ถามว่าจำได้ไหม ? อาตมาเลยบอกชื่อบอกนามสกุลไป ถามว่าสุขภาพโยมเป็นอย่างไรบ้าง ? โยมบอกว่า "เต็มทีครับ ๘๐ แล้ว" ยังถามกลับว่า "หลวงพี่เป็นอย่างไรบ้างครับ ?" "ก็มาหาหมอ...โยมเห็นว่าเป็นอย่างไรล่ะ ?"

    ญาติโยมบางคนพออายุมากหน่อยก็เริ่มถอดใจ อาตมายืนยันว่า ถ้าอยู่ได้มีแก่กว่านั้นอีก ตอนอาตมาบวชใหม่ ๆ อายุ ๒๐ กว่า เฝ้าหน้าห้องให้หลวงพ่อวัดท่าซุง หน้าหนาวใส่อังสะตัวเดียว จีวรยังไม่ห่มเลย หลวงพ่อท่านเดินเข้าตึกมาถามว่า "แกไม่มีเครื่องกันหนาวหรือ ?" กราบเรียนท่านว่า "ยังไม่หนาวครับ" เพราะว่าหลวงพ่อท่านใส่ทั้งอังสะไหมพรม ทั้งถุงเท้า ทั้งหมวกไหมพรม"

    "พอหลังอายุ ๓๐ ปี ไม่ต้องให้ท่านถามแล้ว ไปวิ่งหามาใส่เอง พอหลัง ๔๐ ปี ทำอะไรก็เริ่มรู้สึกเหนื่อย หลัง ๕๐ ปีนี่แย่แล้ว ก่อนหน้านี้บอกเหนื่อยแล้ว ไม่ไหวแล้ว ยังตื๊อต่อได้เป็นวัน ๆ สมัยนี้ถ้าบอกไม่ไหวแล้วคือต้องหยุดเลย หมดก๊อกจริง ๆ พลังงานสำรองไม่มีแล้ว โบราณถึงได้บอกว่า "อายุ ๕๐ ปี ไปบ่ถึงมาทอดหุ่ย" เดินทางได้ไม่ไกลเท่าเดิม กลับมาก็ต้องพักกันนาน พออายุ ๖๐ ปี บอกว่า "เป่าขลุ่ยบ่ดัง" ไม่มีลมหายใจเป่าขลุ่ย แค่หายใจเองก็ลำบากแล้ว

    ไปนึกถึงหลวงปู่องค์หนึ่ง คือ หลวงปู่พากุละ เป็นพระที่อายุยืนที่สุดในพระไตรปิฎก อายุ ๑๕๐ ปี ท่านเบื่อเพราะว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันก็ไม่มี รุ่นน้องก็ไม่มี รุ่นลูกก็ไม่มี ที่เหลือก็เหลือแต่หลานกับเหลน ท้ายสุดท่านก็เทศน์สั่งสอนเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเข้าห้องนั่งสมาธิไปพระนิพพานเลย

    ไม่ได้ตายเพราะหมดอายุ แต่ว่าเบื่อร่างกายเต็มที จึงทิ้งร่างกายไปเลย ในอดีตชาติท่านสร้างส้วมถวายวัด เกิดมาชาตินี้เป็นผู้ที่เลิศในทางมีโรคน้อย นอกจากความหิวแล้วไม่เคยเป็นอะไรเลย เจ็บไข้ได้ป่วยปวดหัวตัวร้อนก็ไม่เป็น อายุยืนที่สุดที่ปรากฏในพระไตรปิฎก คือ ๑๕๐ ปี"

    "ขออย่าให้ต้องอยู่อย่างท่านเลย อาตมาอยู่ถึง ๖๐ ปี ถือว่าเก็บตกได้แล้ว เพราะในอดีตเป็นทหารมาทุกชาติ อาตมาไม่ต้องดูเอง หลวงพ่อฤๅษีท่านบอกว่าเป็นทหารมาทุกชาติ ปาณาติบาตที่ทำไว้มาก จะทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อย ให้ปล่อยชีวิตสัตว์ที่เขาจะฆ่าอย่างน้อยเดือนละตัวสองตัว จะช่วยบรรเทากรรมตรงนี้ได้ อาตมาเริ่มปล่อยตามที่ท่านสั่ง คือวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๒๙ มาจนทุกวันนี้ แต่ไม่เคยปล่อยเดือนละตัวสองตัว ไปเจอก็เหมาหมดตลาด

    ญาติโยมไปวัดท่าซุงแล้วตื่นเต้นกับวังมัจฉาว่าปลาเยอะเหลือเกิน ขอบอกว่าอาตมาปล่อยไว้เอง ซื้อทุกเดือนปล่อยทุกเดือน ตอนแรกปล่อยที่บ่อข้างร้านอาหารป้ากิมกี ปล่อยไปปล่อยมา หลวงพ่อท่านบอกว่า "เฮ้ย..แกแหกตาดูบ้างหรือเปล่า ? ปลาจะหายใจไม่ได้อยู่แล้ว" ท้ายสุดลองเอาอาหารเม็ดโยนไป โอ้พระเจ้า...ขึ้นมาแน่นยิ่งกว่าหนอนอีก ครั้งต่อไปจึงต้องปล่อยลงแม่น้ำ

    ขอบอกว่าไม่มากไม่มาย ๓๒ ปี ที่ปล่อยต่อเนื่องกัน แต่ละเดือนไม่ต้องนับจำนวน อาการป่วยไข้ถึงได้เบาลง ไม่อย่างนั้นนี่หัวอาทิตย์ท้ายอาทิตย์จะต้องเป็น ก็แปลว่าถ้าเราทำสม่ำเสมอ ก็จะเห็นผลในชาตินี้เหมือนกัน แต่เนื่องจากว่าสร้างกรรมไว้หนัก ๒๕ ปีผ่านไปเริ่มมาได้หมอดียาดี ตอน พ.ศ. ๒๕๕๕ น้ำหนักขึ้นมา ๔ กิโลกรัม"

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๐
    ที่มา : www.watthakhanun.com

    #ชุมชนคุณธรรม #วัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมฯวัดท่าขนุน
    #ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...