รบกวนผู้รู้ตอบทีค่ะ

ตอนที่ดิฉันคบกับแฟนใหม่ๆ แฟนเป็นคนจ.ประจวบมาทำงานที่เชียงใหม่ ดิฉันเป็นคนเชียงใหม่โดยกำเหนิด ก็ใช้ชีวิตอยู่เชียงใหม่กัน วันนึงก็ฝันว่าไปโผล่บ้านแฟนที่ประจวบ เดินเข้าไปดูบริเวณบ้าน เดินไปส่องดูข้างบ้าน หลังบ้าน แต่เข้าบ้านไม่ได้ เจอผู้ชายคนนึงนั่งอยู่เค้าก็ชวนคุยนั่นนี่พอสักพักเค้าก็ให้เรากลับ จากนั้นก็ตื่น ขอบอกว่าดิฉันไม่เคยไปบ้านเกิดแฟน ไม่เคยเห็นรูปถ่าย ไม่เคยไปจ.ประจวบเพราะตอนนั้นเราเพิ่งคบกัน ก็เลยไปเล่าให้แฟนฟังว่าบ้านลักษณะเป็นงี้ๆ แฟนก็บอกว่าใช่ รู้ได้อย่างไรว่าหน้าบ้านเป็นกระจก มีสองทางเดิน ลักษณะต่างๆที่เล่าให้ฟังคือใช่บ้านเค้า อึ้งไปสักพัก คิดสนุกก็เลยซื้อหวยบ้านเลขที่ ปรากฏถูก3ตัวล่างตรงๆ ก็คาใจมาตลอดว่าทำไมเราฝันไปเห็นบ้านเค้าได้ทั้งที่ไม่เคยไป เป็นคนหลับง่ายมากค่ะหลับตาไม่ถึง1นาทีหลับสนิทเลย เเละเป็นคนฝันแม่นยำ จนบางทีเราไม่อยากเชื่อตัวเอง เพราะอะไรคะ รบกวนผู้รู้ให้ความรู้ทีค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

...โปรดใช้วิจารณญาณ....
1. เป็นคนนอนหลับง่าย เพียง ๑ นาที ก็สามารถเข้าภวังค์หลับได้เลย แสดงว่าเป็นคนมีบุญพอสมควร เพราะว่าการที่เราเกิดมาบนโลกใบนี้ พอเด็ก ๆ ไม่เท่าไหร่ เพราะเรามีหน้า
ที่ต้องเรียนหนังสือ และช่วยงานพ่อแม่ซึ่งยังไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมายนัก แต่พอโตขึ้น และยิ่งมีครอบครัว ปัญหาต่าง ๆ ที่เราไม่เคยเจอ มันก็ต้องผ่านเข้ามาให้เราได้รู้ ได้ต่อสู้
ได้ฝ่าฟัน ได้แก้ปัญหา และถ้าไม่ปล่อยวางมันบ้าง มันก็จะถูกเก็บบันทึกไว้ที่จิต ก่อนนอนจิตจะเคลียร์สิ่งเหล่านี้ (อารมณ์)
เพราะฉนั้น แสดงว่ามีบุญพอสมควร เพราะจิตมีคุณภาพดีทีเดียว
2. ฝันว่าได้ไปบ้านแฟน และถามแฟนซึ่งตรงกับความเป็นจริง นั่นแสดงว่า จิตคุณออกไปเที่ยว ซึ่งได้ไปบ้านแฟนคุณมาจริง ๆ นั่นเอง คนเราสามารถที่จะถอดจิต (จิตออกจากร่างได้) ๓ กรณี คือ เข้าฌาน ๑, นอนหลับ ๑ และ ตาย ๑ แต่ของคุณเป็นการหลับซึ่งถ้านอนหลับเราต้องแยกระหว่างว่า ฝันไป กับ จิตออกจากร่างไป ต่างกันยังไง แต่ถึงยังไงก็ตาม คุณก็ได้รับโชคนั้น แสดงว่า เป็นสิ่งที่ดีและประสบการณ์ที่ดี ที่น่าจดจำแบบครั้งหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว
3. เป้นคนฝันมั่นยำมาก เพราะ มีญาณ อ่อน ๆ นั่นเอง
4. การที่เราฝันไปเห็นบ้านเขา เพราะว่า เรามีโชค บวกกับ ว่า คนนี้หรือครอบครัวนี้ มีความเกี่ยวข้องกับเราในอดีต

...อนุโมทนาบุญ...

 

เป็นญานวิถีอย่างหนึ่ง
แม้ไม่ต้องฝึกอะไรมาก็ทำได้ครับ
เป็นเรื่องปกติมากๆครับ

เพราะตัวจิตมันส่งออกไปภายนอก
ในขณะที่จิตมีความเป็นทิพย์ชั่วคราว
ซึ่งอารมย์มันคล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่น
หรือตกภวังค์นั่นหละครับ
คนที่ชำนาญก็แค่มาฝึกเข้าเฉยๆ
แต่ไม่ใช่ระดับใช้งาน
ถือว่าไร้สาระและทำให้หลงตัวเองง่ายๆ
ถ้าเผลอไปยึด เพราะจะไม่สนใจเรื่องสติเรื่องปัญญา จะสนแต่เรื่องพิเศษ
เรื่องที่ทำให้ยึดติดต่างๆครับ


ถ้าจะมาทางปฎิบัติต่อ เรื่องแบบนี้
อย่าสนใจครับ สังเกตุได้แม้ไปได้
ก็ไม่สูงกว่าโลกเท่าไร่
และไปถึงแล้วค่อยรู้ว่าไป
มันบอกถึงกำลังสติทาง
ธรรมที่นังน้อยไปครับ

ต้องมาเจริญสติ ตนแยกรูปแยกนาม
ให้ได้ก่อน ค่อยว่ากันครับ
มันถึงจะพัฒนาทำได้แบบตาเปล่าๆ
ในเวลาหลักวินาทีได้ในอนาคตครับ

เรื่องพวกนี้ ถ้าจะเกิดปล่อยไปแต่อย่ายึดก็พอครับ