ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จครูประทับมหาสมาคมฟ้าสลับหัว(เคลียร์สะสางมหากาลไม่ทำร้าย) พ่ออาจารย์พล

อรุณสวัสดิ์ครับ

เดี๋ยววันนี้ส่งของแล้วมาติดตามพูดคุยกัน ..รับรองว่ามีของเก่าชนิดที่ปัดฝุ่นหยิบขึ้นมาเลย

 

คืนนี้น่าจะสองหรือสามทุ่มติดตามกันดีๆนะครับกับ...พระเครื่องที่อาราธนาเพียงหนึ่ง..เพียงองค์เดียวเหมือนได้อาราธนาพระพุทธหลายๆล้าน..ล้านองค์

 

ร่วมทำบุญบูชา สมเด็จพระอนันต์มุนีธาตุมุนีปฐมภูมิปรมัตอาตมัน(ตัวพ่อสัมพุทเธ)

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสัมพุทธเจ้าทั้งหลายจำนวนห้าแสนสี่หมื่นสองพันยี่สิบแปดพระองค์ด้วยเศียรเกล้า...ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสัมพุทธเจ้าทั้งหลายจำนวนหนึ่งล้านสองหมื่นห้าพันห้าสิบห้าพระองค์ด้วยเศียรเกล้า...ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสัมพุทธเจ้าทั้งหลายจำนวนสองล้านสี่หมื่นแปดพันหนึ่งร้อยแปดพระองค์ด้วยเศียรเกล้า...วิชาสัมพุทเธนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีไว้ลงตะกรุดซึ่งต้องลงยันต์บังคับประทับหน้าหลังซึ่งต่างจากวิชาปกติ *** แม้จะลงแล้วการเสกก็จำเป็นต้องเชิญพุทธบารมีลงมาตามจำนวนที่กำหนดอย่างแท้จริงทั้งเมื่อเสกไปเรื่อยๆจะยิ่งทับทวีมากขึ้นๆจนประมาณไม่ได้ ต่างจากตะกรุดชนิดอื่นที่เชิญพระพุทธะองค์ปัจจุบันเท่านั้น เช่นนี้ตะกรุดสัมพุทเธพ่ออาจารย์ท่านจึงอุปมาไว้ว่าจะทำให้สำเร็จได้ยากยิ่งอย่างแท้จริงเพราะต้องอาศัยบารมีพุทธภูมิไม่มีประมาณ และต้องให้ผู้เป็นใหญ่เป็นองค์ประมุขในหมู่พระชินะเจ้าเป็นผู้อาราธนาทุกพระองค์ลงมาสงเคราะห์โลก ด้วยเหตุนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริเสมอว่าตะกรุดชนิดนี้ใครจะทำก็ทำได้ทำไปเถิด ..แต่ถ้าจะทำให้สำเร็จเชิญมาให้เต็มอัตราพุทธภูมิฉันเชื่อว่ายากนักทำยากยิ่งกว่าตะกรุดจักรพรรดิหรือตะกรุดที่มีพิธีรีตองใดๆ เพราะมันยากตอนเสกนี่แหละใครได้ไปดุจได้อาบพุทธรัศมีอันมีพรรณคุณโดดเด่นแต่ละทางของแต่ละพระองค์ไม่ซ้ำกันทั้งเสมอด้วยมีพระพุทธเจ้าคุ้มครองรอบกายนับล้านๆองค์
- พ่ออาจารย์ท่านว่าเสกสัมพุทเธนี่ต้องว่าจนฟ้าร้องฟ้าผ่านะถึงจะสำเร็จ ต้องเชิญองค์ปฐมมาเป็นประธานอาราธนาให้ท่านรับเป็นธุระในการเชิญเหล่าพระพิชิตมารแลพระสัพพัญญูทั้งหลาย
- ตะกรุดตัวพ่อสัมพุทเธของฉันคือตะกรุดที่รวบบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ไว้ครบถ้วนกระบวนความ เพราะองค์ปฐมท่านเชิญมาให้แบ่งออกเป็นสามเหล่าประกอบด้วย
1.ปัญญาธิกะ พระพุทธะใดที่เคยตรัสรู้ผ่านมาจัดอยู่ในหมวดนี้ท่านก็มาทำให้ก่อน
2.สัทธาธิกะ พระพุทธะใดใช้เวลาสั่งสมบารมีเข้าหมวดสัทธาธิกะท่านก็รวมกันมาทำให้เป็นลำดับถัดมา
3.วิริยาธิกะ พระพุทธะใดสำเร็จบารมีในหมวดนี้ท่านก็เข้ามาเป็นกลุ่มสุดท้าย

จะเห็นได้ว่าตะกรุดสัมพุทเธชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านรับรองเอาไว้ว่ามีปาฎิหาริย์มากทั้งทำยากที่สุดต่อให้ท่านจารอีกร้อยดอกพันดอกก็ไม่ได้มีอำนาจพุทธคุณเสมอด้วยชุดที่ทำวิชามาครบถ้วนเช่นนี้ ### พ่ออาจารย์ท่านว่าของแบบนี้เกิดชาตินึงเขาให้ฉันทำครั้งเดียว..ถ้าจะให้ฉันทำได้ขนาดนี้อีกต้องรอชาติหน้า ด้วยเป็นตะกรุดที่มีอำนาจมากสามารถขจัดอุปัทวะอันตรายใดๆได้ทุกรูปแบบและทุกประเภททั้งยังดลบันดาลให้อัปมงคลแลทุกข์โศกโรคภัยพินาศได้ทุกชนิด พ่ออาจารย์ท่านว่าจบหัวขอพ่อพระพุทธแล้วใช้ได้ทุกทางเลยมีพลังทุกรูปแบบ..มีรัศมีทุกด้าน..ทุกสี..สงเคราะห์ได้ทุกอย่าง

เมื่อจะนำตะกรุดชนิดยี้ฝังลงในพระเครื่องสมัยท่านทำพระสมเด็จองค์ปฐมไว้บล๊อคแรกเป็นการกดพิมพ์นำฤกษ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระผงธรรมดาคุมกำลังพระพิชิตมารอนันต์มุนี(มีพระพุทธเจ้าเกินหลักล้านพ่ออาจารย์ท่านว่าเสกทบๆมาเป็นแสนจบจะกี่แสนล้านก็นับกันเองเช่นนี้องค์ปฐมท่านจึงให้ชื่อนันต์มุนี)ไม่ได้ ### เช่นนั้นองค์ปฐมท่านจึงให้นำ "ธาตุมุนีปฐมภูมิปรมัตอาตมัน" ฝังไว้ .... มหาธาตุชุดนี้จะพิเศษอย่างไร(ติดตามกันให้ดีนะครับ)

องค์พระพิมพ์นี้เป็นพระพิมพ์ชุดแรกๆที่พ่ออาจารย์ท่านใช้มวลสารที่ดีที่สุดและของวิเศษที่ประเสริฐที่สุดสร้างขึ้นมา 8 องค์ ท่านเก็บไว้อาราธนาองค์หนึ่งและผมขอมาใช้ด้วยองค์หนึ่งชุดนี้จึงมีให้จองแค่ 6 องค์ ใครยังจำกันได้นี่คือพิมพ์ของพระสมเด็จมหาพุทธพิมพ์พระพุทธสิกขีทศพลญาณที่๑พิมพ์โอบอุ้มพุงป่องบล๊อคแรก ที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้หลายปีมาแล้วทุกวันนี้จะหาดูก็ยังยากใครมีใครใช้ก็เอาไปเลี่ยมทองกันทั้งสิ้น วันนี้จะขอยกบทความเดิมมาเท้าความกันอีกรอบ...อันนี้จะขอเล่าเรื่องสมัยก่อนให้ฟัง ตอนที่พ่ออาจารย์ท่านได้เข้ากราบพบหลวงพ่อฤาษีลิงดำนั้น ท่านได้สนทนากับพ่ออาจารย์หลายเรื่องจะขอยกบางเรื่องที่ท่านสนทนากันมาให้รับทราบ

หลวงพ่อฤาษี อีกหน่อยคนเขาจะลำบากกันมาก แกทำพระให้ข้าหน่อยสิ
พ่ออาจารย์พล พระอะไรครับ
หลวงพ่อฤาษี แกทำสมเด็จองค์ปฐมให้ชั้นหน่อยนะ เอาผงนี่ไปเก็บไว้ด้วย
พ่ออาจารย์พล ให้ทำเมื่อไหร่ครับ
หลวงพ่อฤาษี ถึงเวลาข้าจะไปหาเเกเองนั่นเเหละ
พ่ออาจารย์พล ผมเต็มใจเพราะคิดเสมอว่า สร้างพระ1องค์ให้เขานี่ก็เป็นกุศลสูงส่งเเล้ว
หลวงพ่อฤาษี เออ แกมันเหมือนโบราณจารย์สมัยก่อนข้าชอบ ครกอันสากอันไม้ดุ้นก็มานั่งเพียรทำไปไม่สุกเอาเผากิน อย่างน้อยแกก็ไม่ลืมที่ข้าบอก ว่าไม่จำเป็นอย่าไปเอาพระโรงงาน ให้ทำกับมือ สมัยนี้ใครเขาไปถึงไหนเเล้ว แกก็ยังทำแบบคร่ำครึอยู่เหมือนเดิม นี่แหละที่ดีกว่าเขา ข้าเลยอยากให้เเกทำพระให้ข้า

แล้วท่านก็ไม่ได้เข้าไปหาหลวงพ่อฤาษีลิงดำอีกเลย
หลังจากนั้นหลวงพ่อก็เข้านิพพานไป จนกระทั่งพ่ออาจารย์ได้ฝันถึงท่านได้มาพูดคุยด้วย
พ่ออาจารย์พล ท่านมาได้อย่างไร ไหนว่านิพพานไปแล้ว สติเราหลงหรืออย่างไร
หลวงพอฤาษี ข้ามีสัญญากับแกอยู่ ถ้าแกอยากรู้ว่านิพพานเเล้วมาได้อย่างไร แกก็ตามข้าไปสิ
พ่ออาจารย์พล ผมยังมีภารกิจที่ยังไม่บรรลุ คงตามหลวงพ่อไปไม่ได้
หลวงพ่อฤาษี วันนี้ข้ามาตามสัญญา ถึงเวลาเเล้วนะ แกจะต้องทำพระให้กับข้า
พ่ออาจารย์พล จะให้ทำพระอะไรหรือหลวงพ่อ
หลวงพ่อฤาษี แกจำผงที่ข้าให้แกได้มั๊ย นั่นเป็นผงของหลวงพ่อปานนะ แล้วก็มีผงที่ข้าทำผสมไว้ด้วย แกเอาผงนั่นสร้างสมเด็จองค์ปฐมให้หน่อย
พ่ออาจารย์พล ผมคิดว่าจะไม่ทำเพราะทำรูปพระพุทธเจ้าธรรมดาก็พอแล้ว
หลวงพ่อฤาษี อย่าไปคิดอย่างนั้นเลย เดี๋ยวท่านจะสื่อลงมาเอง ขอให้เเกรับปากว่าจะทำให้ดีที่สุดทำจริงๆจังๆให้มันเป็นประวัติศาสตร์ เอาผงที่แกลบๆไว้มาเข้ากับผงของชั้น และที่สำคัญใบลานจารึกอักขระธรรมคาถาอาคมสมัยอยุธยานั่น แกจะเก็บไว้ให้ปลวกมันกินหนูมันเเทะถึงเมื่อไหร่ เผาเอาถ่านมาผสมซะ
พ่ออาจารย์พล ทำไมต้องใช้ใบลานตำรับนั้น พระผงใบลานสมัยนี้เขาก็เอาใบลานสดไม่ก็ถ่านใบลานใหม่ๆมาทำทั้งนั้น
หลวงพ่อฤาษี แกเชื่อข้า สมัยข้าก็ไม่ได้ทำไว้แกมีวัสดุพร้อมกว่าข้ามีเเรงมีธาตุขันธ์พร้อมก็ทำซะเถอะ มันดีกับตัวแกเองด้วย ลานจารึกพระธรรมจัดว่าเป็นของที่มีสิริมงคลสูงเหมาะจะทำพระรูปของท่าน
พ่ออาจารย์พล แล้วผมจะเสกอย่างไร ก็หลวงพ่อแนะเเต่วิธีทำ
หลวงพ่อฤาษี แกจะห่วงอะไร ถึงเวลาข้าจะมาทำให้เองนั่นเเหละ ตอนมีชีวิตทำได้เเค่ไหน ตอนนี้ข้าทำได้มากกว่านั้นอีก อีกอย่างนึงถ้าแกทำข้าจะสอนวิธีเชิญเเละเสกให้

เมื่อพ่ออาจารย์รับปากเพราะจำสัญญาใจกันได้ เเละได้รู้กลเม็ดเคล็ดลับการทำการเสกเเล้ว หลวงพ่อฤาษีท่านก็ตั้งชื่อพระรุ่นนี้ให้ท่านว่าพระสมเด็จมหาพุทธพิมพ์พระพุทธสิกขีทศพลญาณที่๑ จึงเป็นมูลเหตุแห่งการสร้างมาเเต่บัดนั้น สืบเนื่องจากเหตุการณ์นี้ พ่ออาจารย์จึงได้จัดทำพิมพ์พระเเบบโบราณขึ้นด้วยตัวท่านเอง ในกรณีนี้ถือว่าเป็นวัตถุมงคลที่ฟ้าเปิดเเละก็ทำตามคำสั่งเบื้องบนโดยเเท้จริง เเถมยังกินระยะเวลานานมากกว่าจะได้ทำ พระสมเด็จมหาพุทธพิมพ์ พระสมเด็จองค์ปฐมพระพุทธสิกขีทศพลญาณที่๑ นี้ดีอย่างไร ในมุมมองสามัญชนของผม พ่ออาจารย์ได้สร้างไว้ให้ทดแทนพระผงของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่อาจจะมีของปลอมของเสริม เเละตั้งใจทำให้เป็นประวัติศาสตร์เพราะทำกับมือท่านผสมเองทำเอง จัดเป็นครั้งเเรกเลยก็ว่าได้สำหรับการสร้างพระสมเด็จองค์ปฐมที่ตัวอาจารย์เองสร้างเองทุกขั้นตอน การเเกะเเม่พิมพ์นั้น ท่านแกะตามคำสั่งหลวงพ่อฤาษี นั่นคือใช้เคล็ดสำเร็จทันใจ ซึ่งข้อแม้นี้พ่ออาจารย์จะต้องเเกะเเม่พิมพ์ให้เสร็จภายในวันเดียวนั่นเอง จะทำค้างเเล้วมาลงมือต่อแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งท่านก็ทำได้ เสร็จภายในวันนั้น เป็นเคล็ดที่จะให้ผู้ที่บูชาพระมหาพุทธพิมพ์นี้เวลานำไปใช้จะได้สำเร็จทันใจ

พระรูปที่เเกะจะเป็นรูปของสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณที่1ทรงเปล่งฉรรพพรรณรังษี ท่านว่าหลวงพ่อฤาษีกำหนดให้สร้างมาแบบนี้ ท่านบอกเราว่าทำเอาไว้เถิด เหมือนพระองค์ท่านทรงฉายพระรัศมีลงมาต้องเนื้อต้องตัวเราเพื่อโปรดเหล่าสรรพสัตว์ผู้ยากทั้งหลาย เวลาห้อยเราอธิษฐานไว้เหมือนให้ร่างกายคนบูชาเขาอาบด้วยพระรัศมีของพระองค์เป็นกำเเพงเเก้วปกปักรักษา เป็นสง่าราศีเป็นบุญแก่ร่างเนื้อร่างวิญญาณของเขา ปทุมชาติเจ็ดกลีบรองรับพระสมเด็จองค์ต้นที่ให้เเกะเพราะหมายถึง สัตตรัตนมงคลทั้ง7ประการ อันเป็นสมบัติที่เกิดเเต่พระเจ้าจักรพรรดิ์ที่มีบุญญาธิการและบำเพ็ญบารมีมาเต็ม10ทัศ สมบัติทั้ง7นี้ ได้เเก่
- จักรรัตนะ จักรแก้ว
- หัตถีรัตนะ ช้างแก้ว
- อัสสรัตนะ ม้าแก้ว
- มณีรัตนะ มณีดวงแก้ว
- อิตถีรัตนะ นางแก้ว
- คหบดีรัตนะ ขุนคลังแก้ว
- ปรินายกรัตนะ ขุนพลแก้ว
เพื่อหวังประโยชน์ให้ผู้บูชาบำเพ็ญบารมีให้เต็มเเละอีกนัยน์หนึ่งคือให้ผู้บูชาได้ครอบครองสมบัติเหล่านี้ โดยมีพระสมเด็จองค์ต้นท่านประทับรักษาไว้ เมื่อมนุษย์ผู้ใดได้สมบัติทั้ง7นี้ ได้ชื่อว่าผู้นั้นบริบูรณ์ทั้งทางโลกเเละทางธรรมเปี่ยมด้วบบุญญาธิการอย่างยิ่ง

พระสมเด็จองค์ปฐมของพ่ออาจารย์นี้ดีอย่างไร ท่านบอกตามที่หลวงพ่อฤาษีบอกว่าสมเด็จท่านเป็นผู้ริเริ่มทำเนียมต่างๆของพุทธวงศ์ เป็นที่เคารพและให้เกียรติแล้วยิ่งในมวลหมู่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พุทธคุณนั้นนอกจากวาสนาบารมีอำนาจ ยังดีทางโชคลาภที่จะหลั่งไหลมาอย่างมหาศาลอีกด้วย เเต่สิ่งหนึ่งซึ่งจะหาไม่ได้เลยในวัตถุมงคลอื่นก็คือความมั่นคงของชีวิตที่รากฐานผู้บูชาจะเเข็งเเรงมากเปรียบดั่งพระพุทธศาสนาที่สืบทอดพุทธวงศ์สืบมานับจำนวนประมาณมิได้ ผู้มีสมเด็จองค์ปฐมไว้บูชา หากใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ก็ดี อมนุษย์ก็ดี หรือสัตว์ร้ายก็ดีมีจิตคิดร้ายกับเราจะร้อนรุ่มจนทนไม่ได้ต้องถอยไปในที่สุด และยังสามารถป้องกันอาวุธวิทยาศาสตร์ได้หลายชนิด อาทินิวเคลียร์,สารเคมี,ก๊าซพิษ,ก๊าซชีวะภาพ,ฝนกรดและโรคระบาดทุกชนิดนี่เป็นอานุภาพของสมเด็จองค์ปฐมซึ่งเป็นองค์ต้นของพุทธศาสนา ที่บำเพ็ญบารมีถึง 40 อสงไขยแสนกัป(อันนี้เป็นอานุภาพขององค์ปฐมในสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

พูดถึงในส่วนของจำนวนการสร้างก่อน พ่ออาจารย์บอกว่าทุกอย่างท่านกำหนดไว้เเล้วนะ จำนวนต้องเป๊ะ แต่ของเราท่านให้ทำได้เรื่อยๆรุ่นนี้แต่ห้ามเกิน99องค์ ก็เลยถามท่านว่าที่ว่าห้ามเกินนั้นหมายถึงเนื้อไหน ท่านบอกว่ารวมกันทั้งหมดนั่นเเหละห้ามเกินจำนวนนี้ ซึ่งบอกได้เลยว่า1ใน99 นั้น ถือว่ามีบุญอย่างยิ่งเลยเพราะเป็นการสื่อจากหลวงพ่อฤาษีเเละสมเด็จองค์ปฐมโดยตรง

การสร้างนั้นจะต้องสื่อขอพระบารมีอันมากประมาณมิมีกำหนดของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายที่เคยบังเกิดมีในโลกมีพระสมเด็จองค์ปฐมวงศ์พระพุทธสิกขีทศพลญาณที่1เป็นที่สุด มาเป็นประธานพร้อมด้วยหมู่พระอรหันต์เอตทัคคะของพระศาสนาในเเต่ละยุค รวมไปถึงเทพพรหมทั้งหลายเเละมหาโพธิสัตว์แห่งอนาคตวงศ์ทั้งหมดให้มาประชุมกัน จากนั้นก็อาราธนาหลวงพ่อฤาษีลิงดำเชิญท่านให้มาช่วยกันตามสัญญาให้ท่านเชิญครูบาอาจารย์ในสายท่านลงมาเสก พ่ออาจารย์ถึงกับออกปากว่าเป็นการเสกพระที่เราสบายที่สุด เพราะท่านเป็นธุระจัดการกันให้หมดเลย เราเเค่นั่งอธิษฐานจิตเจริญพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณเเต่เพียงเท่านั้น มากันแน่นฟ้าไม่มีที่ว่างเลย บารมีท่านยิ่งใหญ่จริงๆแต่ก็ดีนะถือเคล็ดว่าตัวเราสบายคนเอาไปใช้ก็สบาย กำหนดจิตตามดูเวลาเสกท่านมากันจริงๆเเละที่สำคัญคือเราเสกเเค่ที่ทำได้ กดได้องค์สององค์เราก็เสก ท่านก็ผลัดเปลี่ยนกันลงมาเป็นหมู่คณะประจุวิทยาคมเสร็จเเล้วก็กลับไป เช้า เที่ยง เย็น ดึก ไม่มีซ้ำคณะกันเลย หมุนเวียนเปลี่ยนกันเป็นจักรผัน เป็นของดีที่ดีที่สุดจริงๆ

สำหรับมวลสารที่ใช้จัดสร้างนั้น เรายืนพื้นด้วยมวลสารที่หาไว้ทำพระปิดตาตามสูตรหลวงปู่ยิ้ม
- ท่านได้รวบรวมพญากาฝากที่เป็นสิริมงคล คดไม้มงคล ไม้มงคลที่ตายพราย ต้นว่านมงคล เกสรดอกไม้ ไม้ไผ่ตัน ไม้รวกตัน คดข้าวสารดำ ข้าวสารหิน สมุดใบข่อย สมุดใบลานเก่าๆที่ขาดไม่ได้ใช้ ผงธูปไหว้พระ ข้าวสุกก้นบาตรพระนำมาตากแห้ง ลูกมะพร้าวกะลาตาเดียวเป็นมหาเสน่ห์ ลูกมะพร้าวกะลาไม่มีตาเป็นมหาอุตม์ คดมะพร้าว กิ่งโพธิ์นิพพานคือโพธิ์ที่หักมาเองทางทิศตะวันออก ไม้ไก่กุก ปูนากระตุกเดือน5นำขุยที่อยู่ปากรูมา กบจำศีลเดือน5ตายคารูกบนำมาเผาไฟป่นเป็นผง เขี้ยวงูจงอางตัวที่ฟักไข่จนตายคาไข่ที่ฟัก(ตัวนี้โดนไฟครอกตาย) ไม้คานคุก ไม้คานประตูคุก ตัวชันโรงที่ต้องอยู่กลางเเจ้งเท่านั้นถ้าอยู่ตามโพรงไม้ใช้ไม่ได้ เวลาพลีต้องให้ดวงอาทิตย์ส่องตรงกับปากรูพอดีจึงนำมาทำเป็นผงได้ ไม้คานเเม่หม้ายที่ใช้หาบของขาย สากเบือเเม่หม้ายที่สามีตายเป็นอาถรรพ์แก้คุณไสยต่างๆ
- ไม้คานและสากของผู้หญิงที่ไม่มีสามีจนเเก่ตายเเละตายวันเสาร์เผาวันอังคาร เขาควายเผือกที่ถูกฟ้าผ่าตาย เขี้ยวเสือโปร่งเป็นมหาอำนาจ เขี้ยวหมูตันเป็นมหาอุตม์ คดสมองวัวจะเป็นก้อนหินที่อยู่ในสมองวัวมีอานุภาพทางตบะเดชะ ผู้เจตนาร้ายไม่กล้าขยับปากด่าว่าให้ร้ายป้องกันเขี้ยวงาอยู่ยงคงกระพัน คดขนุนเป็นของที่เกิดในพืชถือว่าศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเองตามธรรมชาติ คดขนุนที่เกิดจากลูกขนุนที่มีลูกขึ้นอยู่ใต้ดิน เมื่อผ่าดูจะพบคดขนุนเชื่อว่ามีเทพยดารักษามีอานุภาพค้ำดวงชะตา เมตตามหาอุตม์ งาช้างดำ(งาที่กลายเป็นหิน)มีอานุภาพครอบจักรวาล งากำจัด งากำจาย งาช้างน้ำ เขากวางคุด ใช้ทางมหาอุตม์คงกระพันเสน่ห์เมตตา ถ้าค้าขายก็จะได้ชัยชนะค้าขายดี เขากระจงคุดมีอานุภาพทางคลาดแคล้ว พญางูปากเบ็ดมีอานุภาพทางโชคลาภ
- ตะไคร่โบสถ์ ตะไคร่เสมา ตะไคร่เจดีย์ใหญ่ กระเบื้องหลังคาโบสถ์เก่าที่เลิกใช้เเล้ว ดินสังเวชนียสถานทั้ง4 แร่ธาตุต่างๆได้เเก่ เพชรหน้าทั่ง ดินกากยายักษ์ เหล็กสังขวานร เหล็กน้ำพี้ รังเหล็กไหล ข้าวตอกพระร่วง สัตว์ที่มีรูปร่างแปลกๆเช่นจิ้งจกสองหาง กิ้งก่าสองหาง นำมาเลี้ยงไว้จนตายเผาไฟเเละบดเป็นผง อัญมณี 12 สี ตะไคร่หลักเมืองเก่า น้ำฝนเดือนห้าตกรดหลังคาโบสถ์โดยนำโอ่งมารองกลางเเจ้งใช้ผสมทำผง ผงลบมือพุทธคุณ ปถมัง อิทธิเจ ตรีนิสิงเห มหาราชและอื่นๆ(บอกคร่าวๆ)
หลังจากนั้นจึงเพิ่มเติมผงลบตามสูตรต่างๆที่กดพระพิชัยมาลาลงไป ได้เเก่ผงอิติปิโสกลบทต่างๆ ได้เเก่ อิติปิโสห้ามโจร อิติปิโสห้ามไฟ อิติปิโสห้ามพยาธิ อิติปิโสห้ามอุบาทว์จัญไร อิติปิโสห้ามกลียุค อิติปิโสห้ามโทโส อิติปิโสห้ามโมโห อิติปิโสห้ามโรคที่บังเกิดภายใน อิติปิโสห้ามสัตว์จัตุบาท อิติปิโสพระขรรค์ไชยศรี อิติปิโสบัวบาน อิติปิโสสะท้านธรณี อิติปิโสดำเนินงาน อิติปิโสโลกสามภพ อิติปิโสล้ำเลิศ อิติปิโสจักรพรรดิ์สมบัติ อิติปิโสสั่งสอนสัตว์ อิติปิโสปิดทาง อิติปิโสทรงทาง อิติปิโสสังขาลิก อิติปิโสต้อยติด อิติปิโสถวายชีวิต อิติปิโสพระเจ้าลีลางาม อิติปิโสมโหรจินดา อิติปิโสมโหธร อิติปิโสพระเจ้าทรมานสัตว์ อิติปิโสดับพยาธิ อิติปิโสส่องโลก อิติปิโสดับทุกข์ อิติปิโสเกราะเพชร อิติปิโสชมญาณ อิติปิโสไตรเทพ อิติปิโสสว่างทั่วไตรภพ อติปิโสเป็นครูสัตว์ทั้งปวง อิติปิโสเบิกทวาร อิติปิโสทับบาดาล อิติปิโสเต็มที่ อิติปิโสนวหรคุณ อิติปิโนพคุณ อิติปิโสถอยหลัง(วิชาเพชรกลับ) อิติปิโสหูช้าง อิติปิโสแปดทิศ อิติปิโสถอด อิติปิโสนารายณ์แปลงรูป อิติปิโสฤาษีย้ายรูป อิติปิโสย้ายรูปถอยหลัง อิติปิโสภุชฌงค์ซ่อนหัว อิติปิโสภุชฌงค์ซ่อนหาง อิติปิโสนารายณ์7บท (นารายณ์กลืนจักร นารายณ์คลายจักร นารายณ์ประสมจักร นารายณ์หักจักร นารายณ์ถอดจักร นารายณ์ยกจักร นารายณ์ปิดสมุทร) อิติปิโสมงกุฏพุทธเจ้า เป็นต้น นำมาผสมกับผงรัตนมาลาที่ท่านลบเเบบเต็มสูตรซึ่งลบยากมากเเต่ละอักขระต้องเเตกออกไปเป็นคาถาบทใหญ่กว่าจะได้นับร้อยบท ผงเหล่านี้มีอิทธิคุณครอบจักรวาลตามเเต่จะอธิษฐานใช้แบบฝอยท่วมหลังช้าง ท่านว่าจะฝืนดวงยกดวงกลับดวงอยู่ในนี้ทั้งหมด

ทั้งนี้ยังไม่พอเพื่อให้ถึงความเป็นที่สุดเเห่งพระเนื้อผง ท่านยังได้นำผงทำพระสมเด็จกระปุกครูของท่านที่สืบทอดมาเเต่สมเด็จโตวัดระฆัง ผสมลงไปด้วยเพื่อให้สมกับคำว่าจักรพรรดิ์จริงๆ นอกจากนั้นยังมีผงพระปฐมเจดีย์หลวงพ่อน้อย ผงยาจินดามณีหลวงปู่เพิ่ม เเละผงว่านยาต่างๆเกิน108ชนิดและที่สำคัญคือผงจักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่วัดสะแก ซึ่ง1ช้อนสร้างพระได้ 1,000 องค์ เเต่นี่กล้าพูดเลยว่า 1 ช้อน ท่านสร้างเเค่ 1-2 องค์ ใครอยากใช้พระที่มีพุทธคุณไม่ต่างจากหลวงปู่ดู่ทำทิ้งไว้อย่าได้พลาดพุทธคุณรุนแรงแน่นอน นอกจากนี้ยังผสมผงโถครู ที่หลวงพ่อฤาษีมอบไว้ให้ทำพระสมเด็จองค์ปฐมโดยเฉพาะ เหมือนคำปกาศิตเเละสัญญาใจระหว่างท่าน ผงนี้พ่ออาจารย์ได้นำมาผสมผงใบลานอยุธยาเผาโขลกตำจนละเอียด พ่ออาจารย์ว่าเวลาเสกจะเห็นหลวงพ่อปานท่านคุมอยู่ตลอด ผงที่หลวงพ่อฤาษีให้มานี้เเน่นอนว่าต้องมีส่วนผสมหลักเป็นผงลบของหลวงพ่อปานที่ท่านเอาไว้อุดพระพิมพ์ทรงสัตว์ของท่านเเน่นอน ผงนี้มีค่ามากเพราะพระองค์ละหมื่นละเเสนอุดนิดเดียว แต่พอถึงทีเราทำองค์หนึ่งๆหลวงพ่อฤาษีท่านให้เราผสมเป็นช้อนๆทีเดียว ใครมีผงนี้เเน่นอนล่ะ ไม่อดไม่อยาก ที่ว่ายากว่าจนก็จะเป็นเศรษฐี มีครบทั้งกันเเละเเก้ เมตตามหานิยม จัดเป็นผงลบของบูรพาจารย์ที่มีพุทธคุณครอบจักรวาลตามเเต่จะอธิษฐาน ใครได้ไปลองดูได้เลย วันนี้อยากอาราธนาองค์พระไปทางไหนก็บอกกล่าวท่าน ใช้ได้ครอบคลุมทุกด้านทีเดียว

เมื่อทำองค์พระนั้นใช้วิธีเเบบโบราณคือตอกตัด เเละพระทุกองค์จะรองด้วยใบโพธิ์ของกิ่งที่ชี้ไปทางทิศตะวันออก เป็นเคล็ดให้คนใช้เจอทางออก ชีวิตไม่มีอุปสรรคทางตันในทุกๆเรื่อง คนเราถ้ามีปัญญามองเห็นทางออกเสมอเหมือนโชคช่วยฟ้าช่วย ก็ประสบความสำเร็จไม่ยากในยุคข้าวเเพงหมากเเพงเช่นนี้ ถือเป็นโอกาสเเละวาระมหามงคลโดยเเท้จริง ที่พ่ออาจารย์ได้รับคำสั่งให้สร้างยอดวัตถุมงคลในยุคที่เปี่ยมไปด้วยเหตุการณ์ร้ายทั้งทางจิตใจเเละสภาพสังคม เหมือนแรงครูท่านอยากจะช่วยเหลือโปรดสัตว์ทั้งหลาย ที่มีปัญหากันอยู่ในทุกวันนี้ให้ได้พบทางออก

ท่านว่าถ้าใครนั่งสมาธิทำกรรมฐานก็ให้เอาองค์พระพกไว้ถือไว้เวลานั่งสมาธิด้วย จะรู้สึกอบอุ่นเเละโล่งสบายสามารถเข้าออกฌาณได้ไวเเละเป็นเร็วขึ้นเวลาสวดมนต์ก็เอาท่านไปวางไว้ที่หน้าตักพระปะธานที่เราสวดด้วยเป็นการบูชาท่านไปในตัว วัตถุมงคลนี้ใครดีเเล้วชีวิตไม่มีอุปสรรคไม่มีปัญหาเเล้ว มีความสุขเเล้ว ท่านว่าอย่าได้มาเอาไป ให้เก็บไว้ให้คนที่เขาเดือดร้อนได้ใช้ได้บูชา เพราะจะหายอดผงอย่างผงของหลวงพ่อปานหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ทำไว้ให้เก็บไว้สร้างนั่นยากเต็มที ผงของเราเรายังลบได้เเต่ผงของท่านนี่สิที่หาไม่ได้ พระทุกองคผสมมวลสารจริงทุกองค์ขอให้วางใจได้เลย

ฝังธาตุมุนีปฐมภูมิปรมัตอาตมัน
ธาตุมุนีองค์นี้(เรียกเป็นองค์)...พ่ออาจารย์ท่านจัดเป็นชีวะธาตุคือธาตุอันมีชีวิตซึ่งสมบูรณ์ด้วยพลังงานบริสุทธิ์แห่งดวงชีพนิรันดร์อันยิ่งใหญ่แม้แต่เหล่าเทพเจ้าก็ยังเพียรปฎิบัติเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับสภาวะนั้น..ด้วยมีศักดิ์เป็นดวงวิญญาณสูงสุดแห่งจักรวาลทั้งอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง..ยิ่งกว่ามหาเทพ..มหาพรหม...แลพระเป็นเจ้าทั้งมวล จึงจัดเป็นทิพย์กายสูงสุดทั้งเป็นพลังธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งมีชีวะธาตุ(มีชีวิต) "ธาตุมุนีปฐมภูมิปรมัตอาตมัน" คือการกลั่นกรองของพลังงานปฐมภูมิอันเป็นต้นกำเนิดจากองค์อาตมันผู้เป็นดวงชีพนิรันดร์..จากจิตวิญญาณธาตุทิพย์สู่อภิธาตุสังขารอันปรากฏรูปได้ซึ่งจะดำรงค์อยู่ได้ดวยตนเอง...มีพลังและทิพย์บารมีไม่มีขอบเขตจำกัด พ่ออาจารย์ท่านจัดให้เป็นมหาธาตุที่อยู่เหนือทุกกฏสามารถปรากฏได้ทุกหนแห่ง(คือมีอำนาจแผ่ไปได้ทุกที่ในทุกสถานไร้สิ่งกีดขวาง) ธาตุมุนีปฐมภูมินี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีชะตาฟ้าดินคือมีพลังวัฏจักรตั้งแต่ตั้งฟ้าดินมีฤทธิ์ดั่งว่าเทวดาขยาดขลาดกลัวใช้สื่อถึงองค์พระเวทย์พระธรรมได้ทุกรูป

ด้วยมุนีธาตุเสมอด้วยสังขารองค์อาตมันมีอำนาจตบะกรรมไร้สิ้นสุดจึงเป็นพลังแห่งฤทธิ์ที่จะเสริมญาณด้วยมหากรุณาสถิตย์อยู่ที่ใดก็เปลื้องทุกข์เปลื้องโศกใช้คลี่คลายทุกข์โศกได้ แต่โบราณจะนับถือว่ามหาธาตุเช่นนี้จะปรากฏขึ้นเฉพาะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเมืองโบราณซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางโลกพ่ออาจารย์ท่านมีโอกาสไปอินเดียและอัญเชิญมุนีธาตุอันศักดิ์สิทธิ์นี้กลับมาบูชาในภายหลังมหาธาตุเกิดการแบ่งตัวท่านจึงนำมาฝังในสมเด็จพระอนันต์มุนี ..ด้วยมุนีธาตุนั้นใช้สักการะแทนบรมครูผู้สำเร็จ..บรมครูผู้สูงสุด ..บรมครูผู้พ้นแล้วอันเข้าถึงธาตุแห่งอาตมันเข้าถึงบรมสุขได้ทุกสาย จะนำความสุขที่ยิ่งใหญ่อันหาผู้ใดเสมอเหมือนเทียบเคียงไม่ได้มาให้ในเบื้องหน้าเป็นนิรันตร์ไปจนกว่าจะพ้นโลกีย์วิสัย แม้นคลื่นลมจะเปลี่ยนแปลงมรสุมชีวิตจะหนักหนาก็ไม่อาจต้านธรรมวิเศษของมุนีธาตุนั้น(พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้แล้วอาราธนาปิดทองไปเถอะเดี๋ยวรู้กันเอง) คนที่ล้มจะรุ่งเรืองคนที่หมดจะมั่งมีเมื่อได้อธิษฐานจิตนำแผ่นสุวรรณอันมีค่า(ทอง)มาถวายบูชาขอสิ่งใดจะได้สมใจ *** มุนีธาตุนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณมหันต์ถ้าคนรู้จักทำสมาธิอยู่บ้างเวลาอาราธนามุนีธาตุขึ้นมา เขาจะใช้อำนาจส่งผ่านสื่อสารกับตัวตนในภพภูมิต่างๆได้ทุกชาติศาสนา ทั้งยังขออาราธนาบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และตัวตนอันสูงส่งมาเป็นที่พึ่งพิงช่วยเหลือเราเป็นกาลเฉพาะได้ไม่มีจำกัดอุปมาดั่งสวรรค์เบื้องบนจะลงมาสร้างบารมีกับเรานั่นทีเดียว..ต่อไปจะได้ที่พึ่งพิงอันถูกจริต..ตรงตามวิสัยของตน

ผู้ที่ถือครองมุนีธาตุไว้ย่อมเป็นผู้ที่ได้สั่งสมอบรมสร้างบารมีบรรจบครบถ้วน..มีบารมีเฉพาะทางที่ผู้อื่นไม่อาจค้นพบนั่นคือจะได้ถึงซึ่งความสุขอย่างพิเศษทุกประการด้วยแรงครู นี่คือบารมีของคนที่ฟ้าบันดาลให้ได้ครอบครองมุนีธาตุเป็นบารมีพิเศษที่คนอื่นไม่มี จะปรารถนาสิ่งใดก็ได้สุขเสมอใจไม่กลับย้อนไปถึงจุดตกต่ำอีกเลย เสมอด้วยการพบชีวิตใหม่ทั้งได้บอกลาความืดมิดทั้งปวงของตนเอง จะเกิดสุขทับทวีไม่คลี่คลายต่อเนื่่องไปเรื่อยๆนั่นคือชีวิตที่หาทุกข์ใดๆมาบดบังไม่ได้ อะไรได้ชื่อว่าเป็นความสุขของเราแม้จะเป็นเรื่องทางโลกีย์วิสัยของมนุษย์ปุถุชนอันจะเติมเต็มตัวสุขในชีวิตเรามันจะเข้ามาทางของเราทุกอย่าง กำลังของมุนีธาตุจะกระเทือนไม่หยุดนิ่งเพื่อให้เราบุกเบิกหนทางที่ไม่เคยเหยียบให้เราเดินไปได้ไกลกว่าใครเต็มกำลัง..สมบูรณ์ด้วยมหาปณิธานในท้ายที่สุดจะมีลาภยศมาเกยถึงตัว ด้วยกำลังแห่งมุนีธาตุนั้นสิ่งใดที่ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะนำมาเป็นของเราได้ก็จะได้แก่ตัวเราแบบไม่รู้ตัว จะฝันให้สูงอย่างใดก็สำเร็จได้ง่ายๆอุปมาดั่งพรพระเจ้าเปลี่ยนชีวิต...เสพสุขล้นพ้นตัว ด้วยมุนีธาตุมีคุณวิเศษเพียงนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำมาฝังไว้ในสมเด็จพระอนันต์มุนี ท่านว่าให้ไว้เป็นที่พึ่งยึดเหนี่ยวประจำกายเป็นพระประธานประจำบ้าน มีมุนีธาตุอยู่ที่นี่ขัดสนเดือดร้อนสิ่งใดไม่ต้องวิ่งไปไหนไกล เอาทองมาแปะบอกพระในบ้านของเราองค์นี้แล้วสวดมนต์ภาวนาเสมอเธอได้ไป..ได้ขอ..ได้พรมาทั้งโลก

คาถาบูชา
สัมพุทเธ อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก ปัญจะสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะ หันต๎วา สัพเพ อุปัททะเว อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
สัมพุทเธ ปัญจะปัญญาสัญจะ จะตุวีสะติสะหัสสะเก ทะสะสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะ หันต๎วา สัพเพ อุปัททะเว อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
สัมพุทเธ นะวุตตะระสะเต อัฏฐะจัตตาฬีสะสะหัสสะเก วีสะติสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง นะมะการานุภาเวนะ หันต๎วา สัพเพ อุปัททะเว
อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ

**** พระชุดนี้มีทั้งหมด 6 องค์ เปิดรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายละเอียดของ "ธาตุมุนีปฐมภูมิปรมัตอาตมัน" (จะมาลงอีกรอบหนึ่งหลังปิดจอง) พ่ออาจารย์ท่านว่าพระเลือกเจ้าของแต่สมเด็จชุดนี้เพราะมหาธาตุองค์นี้ข้างบนเขาทำงานหนักกันเลยเลือกแบบพลิกปูมประวัติทุกชาติๆของเจ้าของออกมา ใครทันเวลา..ใครถูกชะตา..ท่านว่านั่นแหละเจ้าของเขาเลือกไว้แล้วใครไวใครได้

### พ่ออาจารย์ท่านว่าพระชุดนี้ไม่ต้องเลี่ยมห้อยนะ องค์เดียวให้ใส่พานวางไว้ในบ้านก็พอ จะขออะไรเตรียมแผ่นทองไว้หนึ่งแผ่นเอาขี้ผึ้งทาและเอาทองปิดจะสมหวังทุกเรื่อง ***ฉันรับรองว่าไม่เกินหนึ่งปีองค์พระจะอร่ามไปด้วยทองคำทั้งหน้าหลังปิดแน่นจนนึกว่าพระหล่อโบราณเนื้อทองคำทีเดียว ท่านว่าจะขออะไรท่านก็เตรียมทองไว้นะขอแล้วปิดเลย(ฉันพูดมากไม่ได้แต่นี่แหละพระประธานประจำบ้าน..พระประธานประจำชีวิตของผู้ที่มีลิขิตชะตาตรงกัน)

ร่วมทำบุญบูชา ร่วมทำบุญบูชา สมเด็จพระอนันต์มุนีธาตุมุนีปฐมภูมิปรมัตอาตมัน(ตัวพ่อสัมพุทเธ) บูชา 4,000 บาท

​

 

ย้ำนะครับว่าธาตุมุนี ไม่ใช่มณีธาตุให้ดูที่พุงองค์พระให้ดีๆชุดนี้กระแสพลังแรงเฉียบขาดมากๆและเป็นของเก่าที่ทำยากเพราะพุทธคุณสอดประสานกันที่สุด * มี 6 องค์เดี๋ยวยอดเต็มแล้วค่อยเปิดรายละเอียด พ่ออาจารย์ท่านว่าดวงธาตุชุดนี้มีน้อยไม่มีอีกแล้วมีเหลือเท่านี้แหละไม่ต้องขอบูชาแยกหรือรอชุดใหม่ ท่านว่าเอาทองมาร้อยบาทร้อยชั่งก็แลกไม่ได้ถ้าไม่ติดว่าฝังพระคุมกำลังตะกรุดสัมพุทเธไว้ธาตุชุดนี้จะไม่มีใครได้เห็นเลยเพราะมันเกินคำว่าดีไปสำหรับคนปกติ

 

ร่วมทำบุญบูชา หยาดน้ำตาเทพสงครามพระมุรุกันไตรโลกาธิบดี (ชุดจ้าวแห่งสรรพสัตว์-หนึ่งจักรพรรดิ-สี่ราชัน)

หยาดน้ำตาเทพสงคราม
ในคราวที่สามโลกเกิดการประลองแข่งขันกันด้วยฤทธิ์อำนาจเพื่อเดินทางรอบโลกรอบจักรวาลนั้นผู้ที่ชนะด้วยความเร็วสูงสุดย่อมเป็นพระขันทกุมาร ..ซึ่งกาลครั้งนั้นพระคเณศกลับได้รับชัยชนะโดยการใช้สติปัญญา แต่พระขันทกุมารที่ใช้ฤทธานุภาพชนะเทพทั้งหลายเพื่อเวียนรอบโลกรอบจักรวาลนั้นกลับพ่ายแพ้ ผลเช่นนั้นทำให้พระองค์ไม่อาจยอมรับชัยชนะที่เกิดขึ้นจากปัญญาได้ ทั้งยังน้อยใจในพระบิดามารดารคือองค์พระศิวะกับพระแม่ปารวตี องค์พระสกันทะ(ขันทกุมาร)จึงทรงหยาดน้ำตาด้วยอาการน้อยเนื้อต่ำใจนั้น..เกิดเป็น "หยาดน้ำตาเทพสงคราม" ร่วงหล่นสู่โลกมนุษย์ในดินแดนที่พระองค์จะได้ลงมาแสวงบุญและกลายเป็นเทพพิทักษ์ไปตลอดกาลนาน อันจะนำมาสู่ตำนานการอภิเษกสมรสและเรื่องราวต่างๆมากมายของพระองค์

หยาดน้ำตาเทพสงครามนั้นหาได้ยากยิ่งนักเพราะเป็นสิ่งสูงค่าดั่งตัวแทนขององค์พระขันทกุมาร พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะสร้างพระขันทกุมารให้มีกำลังสูงสุดต้องใช้มหาศิลานี้..แต่ร้อยปีพันปีนั้นจะไปหาจากไหนผู้ใดมีเขาก็เก็บไว้ตั้งตัว..ตั้งวงศ์ตระกุลจนมั่งมี..มั่งคั่งดุจเจ้าแคว้นกันทั้งนั้น เพราะนี่มีค่าดุจร่างเนื้อเทพสงครามนะ(ซึ่งท่านไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้) ท่านว่าถ้าคนตาดีเขาจะเห็นเอง อำนาจแห่งตบะเดชะและชัยชนะอันยิ่งใหญ่เหนือศัตรูแลภูติผีปีศาจยักษ์มารตลอดจนอินทร์พรหมยมยักษ์ผู้มีจิตใจคดเคี้ยวทั้งหมดเป็นอำนาจอันไร้ผู้ต้านทานทั้งสามโลก...มนุษย์ผู้ใดที่ได้ครอบครองหยาดน้ำตาเทพสงครามนี้เสมอด้วยได้อยู่ใกล้ชิดองค์พระมุรุกันตลอดเวลา พระองค์จะเป็นทั้งเพื่อน..เป็นทั้งผู้ปกป้อง..ผู้ประทานกำลัง...ผู้ประทานคติ..ผู้แผ้วถางอริศัตรู..ผู้บุกเบิกหนทาง..ผู้ทำลายยุคเข็ญ พ่ออาจารย์ท่านว่าธาตุวิเศษนี้ฉันหวงแหนนักด้วยเก็บไว้บูชาทั้งพิธีกองกูณฑ์อัคคีทั้งใช้แทนรูปเคารพองค์พระมุรุกันมาตลอด ที่ฉันเคยเจอแม้นศัตรูมุ่งร้ายจะมีของดีของสูงหากเจออาถรรพ์หยาดน้ำตาเทพสงครามต่อให้อาถรรพ์กายครุฑหรือกายใดๆก็แหลกย่อยยับมาแล้วมากมาย ..แม้แต่อาถรรพ์สูงส่งด้วยอำนาจพระเป็นเจ้าก็ยังข่มหยาดน้ำตาเทพสงครามไม่ได้..พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่วิชามนุษย์เดินดินหรือจะเปรียบสิ่งที่เทียบเท่ากายเนื้อพระเป็นเจ้าเหมือนเอาน้ำท่อไปเทียบมหาสมุทรนี่คืออำนาจของหยาดน้ำตาเทพสงครามมันพิเศษไปทั้งหมดสารพัดที่จะปรารถนาสิ่งใดๆก็ดี..ยิ่งหากเป็นการเอาชนะศัตรูคู่แข่งหรือต้องแข่งขันกับผู้มากบารมีผู้มีดีมีความพิเศษทุกๆด้านๆ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละ "เธอเกิดมาย่อมไร้พ่ายในชาติมนุษย์"

หยาดน้ำตาเทพสงครามนี้องค์พระมุรุกันท่านหวงแหนของท่านมากร้อยปีพันปีถึงจะออกมาให้เห็นกันคราหนึ่งและจะมีก็แต่ผู้นำเผ่าทมิฬยุคโบราณและกษัตริย์สงครามในอีดตกาลเท่านั้นที่พระองค์จะโปรดประทานให้เพื่อเป็นเครื่องหมายอำนาจแห่งผู้นำทางสู่พระเป็นเจ้าทั้งยังเป็นเครื่องหมายแห่งกำลังของพระองค์อีกด้วย ...แม้พ่ออาจารย์เองท่านก็มีอยู่เพียงไม่กี่องค์(เรียกเป็นองค์)เท่านั้นนับได้ด้วยนิ้วมือเพราะท่านเคยเร่ร่อนไปไกลเพื่อไปสะสมหยาดน้ำตาเทพสงครามที่ส่งผ่านสืบทอดยุคสมัยเหล่านี้ออกมา ด้วยคนปัจจุบันหลงลืมและไม่เห็นค่าท่านจึงนำมาบูชาแทนตัวพระมุรุกันตลอดนั่นเอง อาถรรพ์เวทย์ในหยาดน้ำตาเทพสงครามนั้นคืออำนาจทิพย์ที่กระหายชัยชนะและกระหายจุดสูงสุดเมื่ออยู่กับผู้ใดก็ดีย่อมบันดาลชัยชนะมากมีและทำให้มนุษย์ผู้นั้นก้าวหน้าได้ไร้ขอบเขตจำกัด พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ให้พูดถึงมากรู้ไว้เพียงให้เธอบูชาแทนกายเนื้อพระมุรุกัน(พระขันทกุมาร)พระองค์นั้นทีเดียว ด้วยองค์ธาตุมีจำนวนน้อยพอจะนับด้วยนิ้วมือข้างเดียวพ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาผนึกไว้กับพระมุรุกันไตรโลกาธิบดีที่ท่านได้กดพิมพ์นำฤกษ์ไว้หลายปีและเสกเก็บมาเรื่อยๆนานมากแล้ว

จ้าวแห่งสรรพสัตว์-หนึ่งจักรพรรดิ-สี่ราชัน
ด้วยพิมพ์ทรงด้านหน้าพระมุรุกันนั้นทรงด้วยมยุรอาสน์(นกยูง) ซึ่งแต่โบราณกาลดั้งเดิมมนุษย์ชาติเชื่อว่านกยูงคือตัวแทนพระอาทิตย์ เช่นนั้นพระพิมพ์มุรุกันที่นกยูงกางปีกรำแพนนี้ก็มีอำนาจดุจพระอาทิตย์ประกายแสงพ่ออาจารย์ท่านว่าอาถรรพ์แห่งมยุรอาสน์นั้นจะทำให้ชนถึงพร้อมในอำนาจวาสนาทั้งปราบและสะกดอำนาจฝ่ายต่ำทั้งปวง ด้วยแววหางของนกยูงยังประดุจดวงตานับพันที่คอยสอดส่องปกป้องเราทุกทิศทางเป็นกำลังแห่งมยุรอาสน์นี้ที่รำแพนหางจะเกื้อหนุนความโชคดีอย่างน่ามหัศจรรย์ทั้งชื่อเสียงและความมั่งคั่งถาวรณ์แก่ผู้อาราธนา เหนือสิ่งอื่นใดอำนาจแห่งนกยูงนั้น..ยังเป็นอำนาจของการตื่นรู้ในสรรพศาสตร์...เป็นอำนาจในการทะลวงโชคชะตา..เป็นอำนาจที่ใช้นำทางจิตวิญญาณ..เป็นอำนาจที่ปกปักรักษาให้มีชัยเหนือศัตรู พ่ออาจารย์ท่านจัดว่านกยูงเป็นจ้าวแห่งสรรพสัตว์เพราะแต่โบราณนั้นบูชากันแทนเทพพระอาทิตย์เมื่อลงเสกจึงต้องเอากำลังพระอาทิตย์มาเกิดเป็นมยุรอาสน์นี้..ให้สุริยะเทพแบ่งกำลังทั้งรัศมีและไฟแห่งสุริยะเข้าในรูปนกยูง เพื่อจะได้ใช้อำนาจนำพาโชคและความมั่งคั่งดั่งอุดมคติที่นกยูงเป็นสัตว์นำโชค ### โปรดรู้ตัวไว้คนที่โชคร้ายไม่จบสิ้นไปจากชีวิต แม้จะไปหาบูชานาคครุฑเทวดาอะไรก็แก้ไขไม่ได้..นั่นเพราะเธอแก้ผิดที่ผิดทาง แต่โบราณนั้นใช้กันมาหนักหนาไม่เพียงแต่นำพาความโชคดีหากแต่ยังขับไล่โชคร้ายขับไล่ความซวยดับล้างความทรมาน..ปกป้องให้ห่างไกลจากคนทรยศและพ้นจากบุคคลที่ไม่ซื่อสัตย์ในชีวิตนั่นก็คือวิชานกยูงทอง พ่ออาจารย์ท่านว่าทำให้ใช้กันจริงๆไม่ใช่เรื่องง่ายนะทั้งศิลป์และศาสตร์ต้องครบท่านทั้งลงผงในพิมพ์พระทั้งเป่าคาถา,เป่าหัวใจนกยูงกำกับทีละองค์ๆเอาไว้เพื่อประโยชน์ใหญ่จะได้ปกป้องผู้อาราธนาจากโชคร้ายและความเลวร้ายทั้งผอง...นกยูงทองที่อาราธนาเสกด้วยกำลังเทพพระอาทิตย์...ตัวแทนแห่งหนึ่งจักรพรรดิ

ทั้งแต่โบราณมีการทำผงยาวิชาสี่ราชันแห่งสรรพสัตว์อันเป็นตัวแทนของอุดมมงคลซึ่งทำได้ยากยิ่งนัก พ่ออาจารย์ท่านว่ายานี้ปั้นรวมกันไว้มีอำนาจมากถึงขนาดเรียกทรัพย์สมบัติได้ดังใจนึกไม่จำกัดว่าเป็นทรัพย์และสมบัติใดๆในโลกา...ย้ำ..และย้ำ ติดตัวไว้จะมีตบะเดชะดั่งราชันทั้งสี่นำมาซึ่งทรัพย์สินเงินทองข้าวของความต้องการสมความปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านว่าสี่ราชันนั้นจะเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดสำหรับคนที่แสวงหาความเจริญรุ่งเรือง การทำยาสี่ราชันนั้นต้องใช้วัตถุคือผงว่านอาถรรพ์,ผงยันต์ราชันทั้งสี่และที่สำคัญเลยที่เป็นส่วนผสมอันขาดไม่ได้ก็คือ..เขี้ยวเสือกลวง..งาช้างดำ..ฟันหนูขนทอง..เล็บครุฑดำนางพญาตุ่น อันสี่ราชันนั้นประกอบไปด้วย
- พญาเสือเผือก
- พญาช้างเผือก
- พญาตุ่นเผือก
- พญาหนูเผือก
พ่ออาจารย์ท่านว่าของอาถรรพ์แต่ละอย่างมีคุณมากเมื่อนำมาผสมกันปั้นเป็นเม็ดยาและเสกชุบธาตุชุบชีวิตหนุนอาการสัตว์เทพทั้งสี่ ***ท่านว่านี่เก่งโลกแตกเลยนะ เสือก็นักล่า..ช้างก็จ้าวป่า..หนูก็จอมโจรโขมยได้ทุกสิ่งดั่งใจ..ตุ่นก็จอมขุดไม่มีจุดหมายใดไปไม่ถึง นี่คือข้อดีของสัตว์วิเศษแต่ละชนิดที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าสี่ราชัน ท่านว่าหากราชันทั้งสี่นี้อยู่ด้วยกันเกื้อหนุนมนุษย์ผู้ใดแล้วคนผู้นั้นย่อมถือได้ว่าไร้เทียมทานในหมู่มนุษย์ เป้าหมายทั้งหลายจะมีไว้เพื่อรอเขาล่า..อาณาเขตทั้งหลายจะมีไว้เพื่อให้เขาปกครอง...ทรัพย์สมบัติทั้งหลายวาสนาทั้งปวงย่อมฉกชิงมาได้ราววิ่งราว...เป้าหมายใดอุปมาแม้อยู่ลึกลงไปถูกกลบฝังใต้ธรณีก็ยังอุตส่าห์จะไปถึง แล้วคนแบบนี้ใครจะบ้ามาแข่งขันด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งยาและแผ่นลงอักขระวิชาราชันทั้งสี่นั้นท่านผนึกไว้กับพระมุรุกันเพื่อส่งเสริมให้ผู้บูชาเด่นเป็นสง่ามีชะตาวาสนาและความสามารถดีกว่ามนุษย์ทั่วไป พ่ออาจารย์ท่านว่าเม็ดยาสี่ราชันนั้นปกติหาคนทำยากเพราะของบางอย่างมันมีราคาหลายหมื่นถึงหลักแสนแม้นฝนมาทำยาก็หาความสมบูรณ์ไม่ได้แล้วแต่เพื่อให้มีอาถรรพ์ครบพ่ออาจารย์ท่านจึงยอมตัดใจทำไว้ให้ใช้กันซักครั้ง ท่านว่าสี่สัตว์เทพนี้แต่ละตัวมีคุณในตนเองเป็นมหาอนันต์สุดที่จะใช้ ### จะบอกกล่าวเรียงตัวเช่นพี่ตุ่นหรือพี่ช้าง..พี่เสือ..พี่หนูให้ช่วยไปทำอะไรก้ได้หรือจะบอกอธิษฐานรายตัวก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าสุดแล้วแต่จะใช้เลยแต่เขามีตัวมีตนครบนะทั้งแรงมากด้วย ไม่ต้องเลี้ยงไม่ต้องเซ่นใดๆเพราะเป็นทิพย์อิ่มบุญ และวัสดุทั้งสี่นี้คือ..เขี้ยวเสือกลวง..งาช้างดำ..ฟันหนูขนทอง..เล็บครุฑดำนางพญาตุ่น แต่ละอย่างมีราคาหลักหมื่นหลักแสนถึงหลายๆแสนยิ่งได้นำมาเสกมาเรียกรูปนามตั้งธาตุอาการด้วยแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าพกเท่านี้ก็เป็นที่สุด เป็นของเฉพาะตัวผู้มีบุญญาธิการอันหายากยิ่งเท่านั้น ถ้าใครเกิดมาบุญน้อยด้อยวาสนาเขาจะไม่ไขว่คว่าของวิเศษเหล่านี้เลย เพราะทั้งหมดคือ...อำนาจแห่งสี่ราชัน..อันจะนำชะตามนุษย์เข้าสู่อำนาจแห่งราชันทั้งสี่

พระมุรุกันไตรโลกาธิบดี
ต่อไปนั้นบ้านเมืองจะวุ่นวายชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ทั้งหลายจะลำบากยากแค้น คนที่รวยและได้ดีก็จะดีขึ้นและดีไปเลย คนที่ยังจนก็จะก้มหน้ารับเศษกรรมต่อไป พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นวิกฤติที่จะพึงเกิด พึงมี ต่อไปในเบื้องหน้า จึงได้ปรารถนาที่จะนำศาสตร์และสรรพวิทยาสร้างเครื่องมงคลขึ้นมา จนความปรารถนานั้นเข้าไปในข่ายพระกรุณาญาณแห่งพระศดาศิวะเทพ ท่านจึงมีโองการให้ทำพระรูปของสกันทะบุตรโดยว่าจะเป็นผู้ปราบยุคเข็ญและปลดเปลื้องสิ่งเลวร้ายอย่างแท้จริง เมื่อได้รับโองการแล้วท่านจึงทำโดยมีความตั้งใจอย่างมาก ที่จะเชิญพระองค์ท่านให้ไปอยู่กับผู้มีความศรัทธาตั้งใจเพื่อให้เขาเหล่านั้นได้ดี

พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า ความจริงแล้วองค์พระขันธกุมารนั้นไม่ใช่กุมารกุมารีที่ไหน ต้องทำความเข้าใจหน่อยอย่าไปหลู่เกียรติของพระองค์ท่านว่าเป็นเด็ก ที่เรียกท่านว่ากุุมารนั้นเพราะดวงพระพักตร์มีลักษณะแข็งกร้าวเฉียบคมหมดจดแต่ก็อ่อนเยาว์ประดุจผู้มีอายุน้อย ที่จริงพระองค์คือเทพเจ้าที่มีฐานะสูงในระดับพระเป็นเจ้าพระองค์หนึ่งของมหาจักรวาล โปรดการเสด็จไปทั่วทั้งพื้นพิภพเพื่อช่วยเหลือผู้มีจิตศรัทธาที่ตกยากต่างจากเทพองค์อื่นๆ คนไทยเราก็รู้จักพระองค์กันมานานแล้วแต่ก็เข้าไม่ถึงและทำไม่ถูกจึงมีอันป่นปี้ย่อยยับไปด้วยองค์พระสกันทะเทวะนี้แม้คนต่างชาติต่างศาสนาก็ยังนับถือท่านคนจีนก็ยังไปยกเป็นสกันทะโพธิสัตว์อันมีบารมีสูงส่ง เพราะท่านค้ำคูณใครนั้นย่อมสูงส่งขึ้นทุกคน ไม่เพียงเเต่ในอินเดียแม้บรรพบุรุษไทยก็เคารพท่านมานานยิ่งนักหรือจะประเทศต่างๆก็มีตำนานของพระองค์ท่านในรูปแบบที่แตกต่างกันไป พ่ออาจารย์กล่าวว่ารู้จักจตุคามมั๊ยคนไทยพยายามจะสื่อหาความหมายอ้างกันมั่วไปหมดว่าเป็นองค์นั้นองค์นี้ ว่าเป็นเทวราชโพธิสัตว์บ้าง ว่าเป็นอวโลกิเตศวรว่าเป็นอะไรมากมายไปหมด แต่ความจริงในส่วนของท้าวจตุคามก็คือองค์พระขันธกุมารนี่แหละ เมื่อสร้างและทำผิดไปย้ำคิดย้ำทำเชิญผิดสร้างผิดก็ย่อมวิบัติไปตามกฏแห่งโลก พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าขนาดทำผิดยังมีปาฏิหาริย์มากมายศาสตร์แห่งพระองค์นี่ถ้าทำถูกจะดีมากจนไม่พอที่จะคิดเลย

พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าพระองค์คือองค์กำลังของมหาจักรวาลเป็นกำลังขององค์พระศิวะเจ้า(ครูพระสยม)กับองค์ปารวตี(แม่ย่าใหญ่) จะกล่าวว่าพระรูปขององค์พระขันธกุมารคือการรวมของพลังอำนาจสูงสุดของจักรวาลทั้งในฝ่ายเทวะและมหาศักติก็ได้ นี่คือข้อเท็จจริงก็ไม่แปลกใจเลยว่าอย่างไรทำไมถึงมีคนเคารพองค์พระขันธกุมารเป็นเอกเทศน์กันมากมายพอๆกับองค์พระศิวะเจ้า แม้เรื่องใดที่เหล่าเทพเจ้ายังถึงทางตันหาทางออกไม่ได้เมื่อถึงมือองค์มหาเทวะเสนาแล้วย่อมคลี่คลายทุกสิ่ง องค์พระขันธกุมารนี่พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าแต่เดิมคนเราเชื่อว่ามีถึง 6 พระพักตร์ 12 พระกร แต่งกายงดงามเหมือนกับองค์พระนารายณ์ แต่พระวรกายหมดจดกว่า เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะสร้างนั้น ท่านได้ขอพระเมตตาจากองค์พระขันธกุมาร ซึ่งท่านได้โปรดให้พ่ออาจารย์ท่านลบผงมุรุกานทวะขึ้นมา ท่านว่าผงนี้ให้ผสมสร้างจะวิเศษนักพ้นพลังอำนาจในฝ่ายของเทวะขึ้นไปอีกเพราะรวมอำนาจของฝ่ายมหาศักติไว้ด้วย ซึ่งท่านก็ได้ทำตามโดยลบผงตามสูตรนี้ครั้งละ 12 รอบ เมื่อทำเสร็จจึงจะถือว่าทำได้คาบหนึ่งต้องทำให้ได้ถึง 6 คาบจึงจะสมบูรณ์ หลังจากนั้นท่านนำมาประสระมหาโลหิตจนทองฟ้ามืดครึ้มมีลมมหาวาตะพัดโกลาหลบรรยากาศหวาดผวาสั่นไหวเกิดรัศมีเป็นแสงสีขาวอมทองออกมาจากผงนี้จึงสำเร็จ เมื่อสำเร็จแล้ว ท่านให้พ่ออาจารย์ทำถึง 3 ครั้ง ต้องทำไว้ในปริมาณมากเพราะว่าประสงค์จะให้ใช้ผงอันเป็นสายวิชาของพระองค์ท่านล้วนๆไม่เอาสิ่งอื่นมาเจือปนนอกจากว่านยาบางจำพวกประกอบเป็นมวลสารขึ้นมา

และก็มีข้อแม้เปลี่ยนชีวิตสำคัญที่จะเกิดขึ้นด้วยคุณผงมุรุกานเทวะประการหนึ่งนั่นคือพระผงรุ่นนี้เมื่อผู้ใดได้รับไปพระองค์จะไปช่วยเหลือคุ้มครอง จะทำการณ์กิจใดก็จะมีแต่ชัยชนะแพ้คนอื่นไม่เป็น..เป็นนายเขาเป็นหัวหน้าเขาเป็นผู้นำเขาทั้งหมด..ขจัดความโลเล..มีแต่คนรัก..คนที่อิจฉาริษยาจะหมดไป ซึ่งพ่ออาจารย์บอกว่านอกจากจุดนี้สกันทะเทพท่านยังบอกด้วยว่าท่านจะช่วยให้มีจิตใจฮึกเหิมมีกำลังกายและกำลังใจที่เพียบพร้อมไม่อ่อนแรงลง ทุกคำขอกิจการงานต่างๆต้องสำเร็จลุล่วงอย่างว่องไว จะต้องปรากฏเกียรติยศสูงสุดในกิจที่กระทำอยู่ โดยปกติองค์พระขันทกุมารจะซื่อตรงมากซึ่งพระองค์ท่านนั้นโปรดความยุติธรรมไม่ชอบการคดโกง ใครที่โดนรังแกโดนคนเอาเปรียบโดนใครโกงแบบนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่มีเกิดเสียหรอกเมื่ออยู่ในความคุ้มครองของพระองค์ท่าน ซึ่งองค์พระขันธกุมารนี้มีแต่ผู้ต้องการเป็นใหญ่ประสบความสำเร็จในระดับมหาราชาหรือเจ้าผู้ปกครองแคว้นต่างๆมักจะนิยมบูชากัน ท่านก็เลยอยากให้ทุกคนได้ดีและผ่านพ้นเคราะห์ภัยโดยไวจึงขอบารมีพระขันธกุมารมาสงเคราะห์ทำเครื่องมงคล ท่านว่าองค์พระขันธกุมารนี่ใช้ได้ทุกอย่างจะขอพรอะไรก็ย่อมได้สุดแต่ใจจะเล่นทางเสนห์ก็สุดๆ เพราะว่าพระองค์ท่านมีพระชายาถึง 2 องค์ ซ้ำยังเป็นที่ปรารถนาของเหล่านางฟ้านางสวรรค์มากมายด้วยว่าพระรูปของพระองค์นั้นวิจิตรละลานตายิ่งนัก เมื่อบูชาไว้กับตัวย่อมดึงเอาพระบารมีมาเสริมสิริให้ผู้ที่มีบารมีขององค์พระขันธกุมารแฝงอยู่ดูดีในสายตาผู้อื่นขึ้นทันที

เมื่อจะทำนั้นท่านได้ให้พ่ออาจารย์แกะบล๊อคให้พระรูปของท่านถือหอกด้วยท่านว่าสำคัญนัก กายนี้คือกายพ่อเรา..หอกนี้คืออำนาจแม่ของเราจะขาดกันไม่ได้ เพราะหอกคืออำนาจทั้งหมดของฝ่ายมหาศักติแม่เราแบ่งรูปกายออกมาเพื่อเป็นยอดศาสตราวุธให้กับเราส่วนอีกมือถือดาบ พ่ออาจารย์ท่านทำเป็นสี่พระกรสองมือที่เหลือนั้นท่านให้ทำเป็นปางประทานพรจะได้อำนวยพรให้ตามกิจที่เค้าปรารถนา..ส่วนอีกมือให้ถือถ้วยใส่นมเอาไว้เพราะพระองค์ทรงโปรดเสวยนมมาก(จะขอจะบูชาอะไรให้ใช้นมถวายจะดีที่สุด)แล้วก็เป็นคติแก่ผู้บูชาจะได้มีกินตลอดอีกด้วย นอกจากนั้นท่านยังให้ทำพาหนะของท่านไว้ด้วยซึ่งพระขันธกุมารนั้นทรงนกยูง พระองค์บอกว่าท่านต้องทำไว้จะได้สื่อถึงเรื่องบริวารมีบริวารอะไรก็สะดวกสบาย นกยูงนี้คือจักรพรรดิอสูรที่มาสวามิภักดิ์ด้วยเกรงพระเดชของพระขันธกุมารและพระองค์ทรงเสกสรรค์ให้กลายเป็นนกยูงราชพาหนะไป

ในส่วนของตัวประสานนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ผสมน้ำผึ้งป่าเดือน 5 เข้าไป แต่พิเศษเหนือสิ่งใดเพราะเป็นรังผึ้งที่สร้างอยู่ใต้ดินผิดธรรมชาติเรียกว่าน้ำผึ้งดำ ซึ่งมีสีดำสนิทเป็นของหายากมาก ด้วยชาวป่าชาวเขาตั้งใจหามาถวายให้ท่านกินตั้งแต่ตอนเป็นพระแต่ท่านเอามาเทเป็นตัวผสานให้หมดเลย ท่านว่าชันโรงใต้ดินดีอย่างไรน้ำผึ้งใต้พระแม่ธรณีนี้หากนำมาเป็นตัวประสานก็ดีดุจเดียวกัน ทั้งกันฟ้า..กันภัย..กันเคราะห์..กันกระทำย่ำยี แต่ดีกว่าแค่เเรงกว่านั้นร้อยเท่า ท่านเก็บไว้เพื่อสร้างองค์พระขันธกุมารโดยเฉพาะ ซึ่งองค์สกันทะเทพนั้นได้บอกกับพ่ออาจารย์ว่าให้ใส่กำลังโสฬสลงไปในองค์พระด้วยกำลังตัวอื่นๆนั้นท่านไม่เอา พ่ออาจารย์บอกว่านี่สำคัญมากนะเป็นมหากรุณาโดยแท้ทีเดียว เพราะกำลังอื่นๆแม้แต่กำลังจักรพรรดิกำลังมหาจักรพรรดิก็ดีคนที่ได้ไปจะยิ่งใหญ่มั่งมีเพียงไหนแต่มันก็ต้องสร้างด้วยตัวเองสร้างจากความลำบาก คนเราเนี่ยชอบคิดเพ้อเจ้อไปเองพอได้ยินอะไรว่าจักรพรรดิหรือมหาจักรพรรดิจะรีบขวนขวายมาบูชาเพราะคิดว่าดีที่สุดและยิ่งใหญ่สุดๆแล้ว มันไม่ใช่นะบางครั้งลำบากยากแค้นไปทั้งชีวิตเลยคือว่าเหนื่อยต้องเหนื่อยก่อนถึงจะสำเร็จ สำเร็จเรื่องหนึ่งก็ต้องเหนื่อยต่อ นี่มันไม่จบท่านจึงว่าท่านไม่เอา

ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านตั้งชื่อพระผงรุ่นนี้ว่าพระมุรุกันไตรโลกาธิบดี สำหรับรุ่นนี้ท่านจัดสร้างด้วยผงมวลสารล้วนๆโดยพระโองการนั้นองค์พระมุรุกันท่านแฝงธาตุขันธ์กดพิมพ์นำฤกษ์ไว้ 6 องค์เท่านั้น ท่านจึงเอาแค่นั้นและเชิญองค์ท่านมาประจุญาณสวดเสกไม่ต่ำกว่าสามเดือนจึงออกให้บูชา ท่านว่าเหมาะแก่คนที่มีกรรมหนักต้องการความสำเร็จมาก ชีวิตไม่อยากแสวงหาเพื่อทำอะไรที่ต้องลงแรงให้เหนื่อยอืกแล้ว หรือต้องการเครื่องมงคลที่เป็นศูนย์รวมของพลังในมหาจักรวาลทั้งฝ่ายเทวะและมหาศักติครบถ้วน

คาถาบูชา
โอม ตัตตะปุรุสายะวิทัมเห มหาเสนายะธีมะหิ ตันโนสะกันทะปะโจทะยาต โอม สะกันทายะ นะมัส

* พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ถือเคล็ดถวายนมโคสดประจำถวายเสร็จก็ลามาดื่มกินเพราะทั้พระองค์นั้นท่านโปรดน้ำนมโคมาก ควรจะหาแก้วเล็กๆซักใบตั้งไว้ด้วยถวายให้ท่านบอกกล่าวท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งทำทุกวันยิ่งดีรับรองว่าสนิทและเข้าถึงกันได้ไวมากขออะไรก็ไวด้วย

* ผู้บูชาให้แจ้งมาทางPM ท่านว่าให้บอกสายงานอาชีพไว้ด้วยจะได้เจิมเเละบอกพระองค์ท่านให้อีกที ว่าจะเอาไปจะให้ได้ดีประสบความสำเร็จกันอย่างไรด้านไหนแต่โดยรวมแล้วก็ใช้ได้ทุกสายอาชีพทุกด้านนั่นแหละ

ร่วมทำบุญบูชา หยาดน้ำตาเทพสงครามพระมุรุกันไตรโลกาธิบดี (ชุดจ้าวแห่งสรรพสัตว์-หนึ่งจักรพรรดิ-สี่ราชัน) บูชา 4,000 บาท

​

 

ชีวิตไปต่อไม่ได้เพราะ "ตัวบารมี" ทำมาไม่ดี..มีไม่มากพอ..ข้อนั้นขาด..ข้อนี้พร่อง..ปฏิปทาไม่เต็ม..จุดหมายไม่บรรลุ..เป้าหมายไม่สมบูรณ์

บารมีทั้งขั้นต้น,ขั้นกลาง,และขั้นสุด ของเก่าไม่มีจึงนำอะไรออกมาใช้ออกมาต่อไม่ได้ เดี๋ยวติดตามกันนะครับเครื่องรางที่ทำยากถึงขนาดต้องเสกไว้ถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน เครื่องรางที่ใช้กันแบบแต้มชนแต้มชนิดที่เรียกว่าขาดทางไหนก็อุดตรงนั้น ยิ่งกว่าตะกรุดหนุนดวงเพราะเป็นของที่ใช้หนุนบารมี

 

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเดินค่ายกลสัตตะรัตนะวงกตฟ้า(สูบหมื่นบารมี)

เหนือกว่าหนุนดวงต้องเปิดภูมิบารมี
คนที่ขาดบารมีชีวิตไปต่อไม่ได้เพราะ "ตัวบารมี" ทำมาไม่ดี..มีไม่มากพอ..ข้อนั้นขาด..ข้อนี้พร่อง..ปฏิปทาไม่เต็ม..จุดหมายไม่บรรลุ..เป้าหมายไม่สมบูรณ์ เคยได้ยินมั๊ยตอนนี้เธอบารมีไม่ถึงอย่าพึ่งไปหวัง,ตอนนี้เธอบุญไม่ถึงอย่าเพิ่งไปคิด,ตอนนี้เธอบารมีไม่เต็มยังทำไม่ได้..ต้องรอเวลาไปก่อน ด้วยบารมีทั้งขั้นต้น,ขั้นกลาง,และขั้นสุด ถ้าของเก่าไม่มีของใหม่ก็ยังไม่มากพอจะส่งผลย่อมเอาอะไรออกมาใช้ออกมาต่อไม่ได้เลยอุปมาเหมือนคนขาดเสบียงไม่มีคลังกักเก็บเอาไว้นั่นแหละ เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ทำเครื่องรางที่ทำยากถึงขนาดต้องเสกไว้ถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน เครื่องรางที่ใช้กันแบบแต้มชนแต้มชนิดที่เรียกว่าบารมีข้อไหนพร่องจนไม่สามารถดึงวาสนาทางที่จะไปมาได้ขาดทางไหนก็อุดตรงนั้น ถือว่าเป็นยอดตะกรุดสำหรับคนที่ทำบารมีมายังไม่ดี หนนี้ท่านว่ายิ่งกว่าตะกรุดหนุนดวงเพราะเป็นของที่ใช้เปิดภูมิบารมี
### ซึ่งตะกรุดเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านต้องบรรจุดวงสวดเสกปรับแก้เสริมบารมี..เปิดภูมิบารมีให้ทีละคนเต็มอัตรา..ทั้งขอกำลังพุทธคุณสงเคราะห์รายคน ท่านว่าต้องขึ้นบัญชีกับพระพุทธองค์ปฐมกันไว้ตลอดชีวิตอธิษฐานให้พุทธคุณสงเคราะห์เขาไปเรื่อยๆทุกวันไม่ขาดตกบกพร่องเช่นนั้น

หนุนบารมี เพราะบารมีเป็นของเฉพาะตัวเป็นส่วนของกุศลกรรมที่แต่ละคนได้สร้างไว้แต่อดีตชาติเมื่อไม่มีบารมีย่อมเกิดเป็นมนุษย์ไม่ได้ท่านว่าตรงนี้เกิดมาเป็นคนย่อมมีบุญเก่ากินกันทุกคนจะมากรึน้อย เพียงแต่บารมีสามสิบทัศน์เนี่ยมันก็ต้องดูด้วยว่าข้อไหนเราขาดเราทำพร่องไปของเก่าเราเก็บมาไม่ได้เต็มเสมอกันทุกข้อ..ตั้งแต่ทาน,ศีล,เนกขัมมะ,ปัญญา,วิริยะ,ขันติ,สัจจะก็ไล่ไป ทีนี้เวลาเราทำกิจอะไรมันต้องใช้บารมีข้อไหนหนุนบังเอิญให้ข้อนั้นมันพร่องดันเป็นข้อที่เราทำมาไม่ดีแบบนี้อย่างไรก็ไปไม่รอด เพื่อที่จะหนุนบารมีขึ้นมาให้ส่งผลเกื้อกูลเกิดประโยชน์ต่อการสร้างบารมีในชาติมนุษย์ต่อไปท่านจึงทำ "ตะกรุดเดินค่ายกลสัตตะรัตนะวงกตฟ้า(สูบหมื่นบารมี)"...ตำรับองค์ปฐมเอาไว้ เพื่อให้คนที่ยังบารมียังพร่องอยู่มากนั้นได้ชะลอเคราะห์กรรมใดๆก็ตามอันจะทำอันตรายนั้นไม่ให้สามารถส่งผลแก่เราได้ ทั้งยังใช้แบบแต้มชนแต้มชนิดที่เรียกว่าบารมีข้อไหนในตัวในชีวิตของเราพร่องจนไม่สามารถดึงวาสนาทางที่จะไปมาได้ขาดทางไหนก็อุดตรงนั้น..จะเต็มชั่วครั้งชั่วคราวเพื่อให้เป้าหมายที่เราตั้งใจทำสำเร็จได้ด้วยดีมีร้อยเรื่องก็อุดร้อยด้าน..ขาดหมื่นเรื่องก็เติมหมื่นด้าน ดั่งพระมหาโพธิสัตว์ได้บำเพ็ญบารมีครบสี่อสงไขยกำไรแสนมหากัปแล้วนี่คือคนที่บารมีเขาเต็มพอประสูติเกิดขึ้นก็สมบูรณ์พร้อมทุกอย่างในความสุขทางโลกียะวิสัยมีขุมทรัพย์สี่เกิดขึ้นพร้อมกับพระมหาโพธิสัตว์ด้วยโดยสมบัติเหล่านี้มีมากมายไม่มีประมาณตักไม่หมดใช้ไม่พร่องมีทรัพย์สมบัติมาก ด้วยเหตุที่มีขุมทรัพย์ทั้งสี่อันเกิดด้วยบารมีของพระมหาโพธิสัตว์นั้นทำให้พระองค์มีพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์มากถึงขั้นที่ว่าหากแม้นไม่ออกบวชและตรัสรู้แล้วก็จะได้ถึงที่พระบรมจักรพรรดิมีพระราชทรัพย์มหาศาล เช่นนั้นคนที่บารมีทุกด้านเปิดขึ้นมาเต็มที่เขาจะถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรืองแห่งทรัพย์ไปพร้อมๆกันชีวิตจะเจริญงอกงามสืบลูกสืบหลาน

ตะกรุดเดินค่ายกลสัตตะรัตนะวงกตฟ้า(สูบหมื่นบารมี) เป็นดั่งค่ายกลสัตตะรัตนะวงกตแก้วที่บีบอัดควบคุมเส้นทางเดินดั่งกลหมากตารางชีวิตให้เราเดินไปบนเส้นทางสร้างบารมีที่จะทับถมทวีมากขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่ามันสวนทางกันนะเหมือนเธอได้ตะกรุดไปตอนแรกเธอต้องพึ่งเขาแต่ต่อไปเส้นทางชีวิตเธอจะเดินไปตามทางที่มีบารมีเต็มทุกข้อ..ถึงจุดนี้ตะกรุดก็ไม่ต้องพึ่งแล้ว..พอเต็มครบก็ตรงไปนิพพานทันที ดังนั้นตะกรุดนี้ท่านจึงสร้างไว้สำหรับคนที่มีความทุกข์เผชิญหน้าอยู่ในกาลแห่งทุกข์ถึงขนาดที่ว่าคนสิ้นไร้ไม้ตอก..ไม่มีเรือนคุ้มหัว..ไม่มีที่อยู่อาศัย..บ้านจะโดนยึด..เงินทองร่อยหรอเกิดมาบารมีไม่มากพอหล่อเลี้ยงชีวิตซักข้อนั่นแหละ จะได้บูชาพลิกกลับสูบหมื่นบารมีสรรพสิ่งรอบด้านเข้าวงกตแก้วเสริมฐานชะตาวาสนาตนเองกลายเป็นความสุขได้กลับจากคนมือเล็ๆให้ทำการณ์ใหญ่ได้ท่านจึงว่าวิชานี้ช่วยให้เจริญรุ่งเรืองได้อย่างถึงที่สุดมีคุณยิ่งใหญ่อุปมาดั่งสูบบารมีเบิกฟ้าเบิกดิน ชีวิตที่มืดมิดก็พลันสว่าง..ชีวิตที่อับเฉาแห้งเหี่ยวไปก็ให้กลับอุดมสมบูรณ์..เพราะบารมีมันเต็ม คนที่บารมีถึงพร้อมพ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนเบิกชะตาเปิดชีวิตใหม่ พอบารมีมาเสี้ยนหนามใดๆย่อมไม่ต่อต้าน,ศัตรูหมู่มารพินาศดับสูญเรียกว่าถึงบรมสุขไร้ผู้ต่อต้านไม่มีคนกลั่นแกล้งรังแกมันสมบูรณ์ไปเสียหมดต่างจากตอนนั่งหน้าซีดบารมีไม่เต็มบุญไม่พร้อม พอบารมีเราพร้อมทั่วพระธรณีนี้ก็หาใครเอาชนะเราไม่
ได้จะทำการณ์สิ่งใดก็แพ้ใครเขาไม่เป็น

ปกติของคนนั้นย่อมเป็นที่รักที่ชังกับชนทั้งหลายที่รักก็ดีไปแต่ที่ชังนั้นน่ากลัวเพราะมนุษย์มีแต่จะอิจฉาริษยากันรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกคราวไปด้วยใจมนุษย์นั้นหยั่งยากเสียยิ่งกว่ายากบางพวกน้ำใจนิสัยก็พาลอำมหิต ความอาฆาตพยาบาทผูกเวรริษยามาตรร้ายจ้องแต่จะทำลายกันย่อมหนีไม่พ้น แม้แต่มิตรหรือคนคุ้นเคยยังหักหลังกันได้เพื่อผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย...เช่นนี้จึงจำต้องใช้ค่ายกลสัตตะรัตนะวงกตฟ้าเพื่อสูบหมื่นบารมีมาเกื้อกูลเรา คนที่มีศัตรูมากโดนรังแกผ่านการถูกทำลายมามากไม่เพียงแต่เขาจะทำร้ายเราไม่ได้อีกแล้วซ้ำคนเหล่านั้นจะแพ้ภัยตนเองโดนอำนาจสัตตะรัตนะวงกตอันเป็นอำนาจทิพย์เล่นงานให้ตกไปสู่วังเวียนกฏแห่งกรรมอันหาทางออกไม่ได้(เรียกว่าดาบนั้นคืนสนอง) มีตะกรุดนี้อยู่เมื่อเธอเข้าในสถานการณ์ฉุกเฉินต้องการจะต่อแต้มบารมีที่ขาดที่พร่องไปทางไหนเค้าเติมเต็มให้ขึ้นมาโดยทันทีทั้งสิ้นเพราะเป็นของทิพย์ คนที่ขาดโชคลาภ..คนที่จะเสี่ยงดวง..คนที่จะแข่งขัน..คนที่จะไปเสี่ยงภัย..คนที่จะใช้ความเมตตาปราณี..ท่านว่าร้อยแปดพันการกระทำสิ่งใดที่ยาก..เรื่องใดที่มันเป้นไปไม่ได้..สิ่งใดที่บารมีมันบกพร่องทำไปก็ไม่สำเร็จขอเพียงเรามั่นคงในพระพุทธคุณเป็นที่สุด ..ข้อไหนพร่องมันเต็มเดี๋ยวนั้นเลยแล้วจะไม่ลดไม่ตกจนกว่าชีวิตเธอจะสำเร็จ พอบารมีมันสมบูรณ์ชีวิตเราจะมีครบหมดทั้งตบะเดชะเป็นคนเหนือคน พอบารมีสมบูรณ์แล้วโรคภัยไข้เจ็บคุณไสยอวิชชาการกระทำย่ำยีทั้งปวงห่างไกลเราหมื่นโยชน์นี่เป็นประโยชญ์ใหญ่พ่อาจาจารย์ท่านว่าตรงนี้สำคัญนัก ใครก็ย่ำยีเราไม่ได้ถ้าบารมีเราถึง..บุญเราพอ เพราะนับแต่นี้ต่อไป...จะเป็นช่วงเวลาของเรา

คนที่บารมีไม่พร้อมแม้เทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาก็ไม่เหลียวแล..จะช่วยได้อย่างไรด้วยมันยังไม่ถึงเวลาของเขาเช่นนี้ผู้ศักดิ์สิทธิ์ใดๆก็ยื่นมือช่วยแบบหนักๆใหญ่ๆไม่ได้ทั้งนั้นทำได้เพียงดับร้อนผ่อนเย็นไม่ให้ลำบากไม่อาจเกื้อกูลใดๆเกินการณ์ได้เลย ก็นั่นแหละถ้าบารมีเราพร้อมนี่ตรงข้ามกันนะพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดดอกนี้มีไว้ทำให้บารมีเราถึงพร้อมที่สุดท่านดึงเอาอำนาจแห่ง "บุญญานุภาพ" มาเสริมลงไปอีกแรงให้นามรูปจิตวิญญาณเติมเต็มมีแต้มต่อสัมพันธ์กันทั้งบุญและบารมี ทีนี้ทวยเทพทั้งหลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงย่อมช่วยเหลือต่อให้เขาไม่ช่วยชีวิตเราก็ไม่เดือดร้อนอะไร..ห่างไกลจากการไปกราบไหว้อ้อนวอนขอพรเสียอีก เมื่อบุญบารมีถึงพร้อมพลังงานอันยิ่งใหญ่แห่งพระเวทย์พระธรรมย่อมเข้าเกื้อหนุน
- ผู้มีบารมีจะมีเกราะกำบังไม่ให้โรคภัยทั้งหลายมาเบียดเบียน
- ผู้มีบารมีจะมีจะมีคูณแห่งมหานิยมเป็นที่เสน่หาเเก่เหล่าสรรพสัตว์เเละเทพยดาเจ้าทั้งหลาย
- ผู้มีบารมีจะมีจะถูกชักนำไปสู่ทางสว่างให้ถึงสวรรค์ทิพย์วิมานพ้นจากนรกอเวจี
พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ปฐมท่านทำให้ด้วยมหาบารมี(คือบารมีของพระพุทธเจ้า)อันเป็นวิชาเฉพาะทางของพระพุทธศาสนาเป็นอานุภาพของฝ่ายตรัสรู้ฝ่ายสัจธรรมที่เหนือกว่าวิชาทางโลกใดๆทั้งหมดทั้งมวล ท่านว่ามหาบารมีจะเสริมอานุภาพตะกรุดให้แรงกล้าด้วยอำนาจของพระสัทธรรม ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเหลือกินเหลือใช้ครอบคลุมในทุกเรื่อง ด้วยมหาบารมีนี้ถือเป็นวิชาสูงสุดในสายของสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์แล้ว เวลาจะทำจึงยุ่งยากมากเพระมีขั้นตอนและพิธีกรรมต่างๆมากมายเป็นตะกรุดเฉพาะทางที่เอื้อแก่การสร้างบารมีสำหรับผู้มีเป้าหมายสุดท้าย(เดินตรงเข้าหานิพพานด้วยชีวิตที่สมบูรณ์ทุกด้าน) พ่ออาจารย์ท่านว่าหากบารมีเราเต็มเวลาเราพูดอะไรไปวาจาเราศักดิ์สิทธิ์นะจะขออะไรใครเขาก็ให้โอนอ่อนผ่อนตามปากเราไปทั้งหมด เมื่อเราเดินทางนี้ดุจดั่งเราเข้าข่ายบารมีดังนั้นทรัพย์ภายนอกและทรัพย์แห่งโลกียวิสัยทั้งปวงที่เราปรารถนาจะเต็มทั้งหมดเพื่อเป็นปัจจัยส่งเสริมเราให้ก้าวหน้า...ไร้ข้อยกเว้น

ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าพิศดารนักพอฉันใส่ดวงชะตาเธอไปแล้ว คอยดูได้เลยจะขอจะปรารถนาการเติมเต็มหรือจะทำอะไรมันได้ผลสนองทุกอย่าง อธิษฐานอะไรกับตะกรุดย่อมสัมฤทธิผลทั้งสิ้น ยิ่งปรารถนาจะเป็นคนเต็มคนจะสร้างบารมีให้เต็มด้วยแล้วชีวิตจะยิ่งราบรื่นและราบเรียบมากและมากๆจนฉันไม่สามารถพูดคำว่ามากกว่านี้ได้ด้วยตะกรุดเป็นดุจศูนย์รวมผลแห่งมหาบารมีทุกประการที่ตกผลึกเป็นพระเดชพระคุณด้วยมหากรุณาแห่งพระพุทโธ นี่คืออำนาจบารมีแบบเต็มขั้นขององค์พระชินสีห์เจ้า เช่นนั้นจึงมีเฉพาะลูกหลานญาติวงศ์อันเที่ยงแท้ต่ออำนาจพระโพธิญาณในกาลเบื้องหน้าจะรับไปครอบครองท่านได้อัญเชิญมหาเศรษฐีอริยบุคคลยุคพุทธกาลทั้งหมดมาเอื้อประโยชน์อำนวยความสุขสบายไปตลอดชีวิตแก่ผู้ครอบครองก่อนจะม้วนตะกรุดด้วยมนต์พระเจ้านวโกฏิ นอกจากจะดึงเอาอำนาจบารมีแห่งมหาเศรษฐีทุกนามมาเกื้อหนุนเหนือสิ่งอื่นใดยังอาราธนาปฐมภูมิมหาบารมีของพระพุทธเจ้าองค์ปฐมอันทรงไว้ด้วยมหากรุณาญาณอย่างแท้จริงต่อลูกกๆพุทธบุตรด้วยปรารถนาจะขนถ่ายสรรพสัตว์ข้ามห้วงสงสาร
*** ตะกรุดแบบนี้คนเราหากไม่มีบารมีเคราะห์ซ้ำกรรมซัดยังไร้วาสนาท่านว่าจะเอามาครอบครองนั้นยากนัก...เพราะมันเหนือสงสาร เวลาทำต้องชุมนุมพุทธกายทั้งมวลตลอดจนพระธรรมพระเวทย์และเหล่าพุทธภูมิอันมีบารมีเต็มที่แม้อยู่ในที่แห่งใดไม่ว่าจะพิภพดุสิต,พิภพนาคบาดาลตลอดจนพิภพต่างๆต้องเชิญมาอาราธนาบารมีช่วยกันหนุนกันขึ้นมาเป็นชั้นๆเป็นกลุ่มๆไปทั้งอนิยตโพธิสัตว์และนิยตโพธิสัตว์...กลุ่มไหนปัญญาธิกะ..กลุ่มไหนสัทธาธิกะ..กลุ่มไหนวิริยาธิกะ ช่วยกันทำช่วยกันลงมนต์สูบบารมีหนุนเนื่องกันไป

พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดสัตตะรัตนะวงกตฟ้าไม่เพียงใช้สูบหมื่นบารมีแล้วยังได้เมตตาจากครูบาอาจารย์ทั้งหลายอีกวาระหนึ่งด้วย คือได้อาบบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเพราะท่านทำการปลุกเสกจนจบภูมิอาราธนาครูทุกชั้นมาช่วยกันทำอีกวาระหนึ่งนอกจากพ่อพระพุทธ ด้วยบางเรื่องบางเหตุการณ์จะได้ใช้บารมีครูบาอาจารย์เป็นดั่งเสบียงคลังจุนเจือผู้ครอบครองยามพบเรื่องสุดวิสัยที่อาจเกิดได้เสมอๆเหนือกฏแห่งกรรมตะกรุดจึงมีบารมีของทุกกำลังทุกภพภูมิ
- สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นเอกองค์มาบุรุษที่นฤพานไปแล้วทั้งหมดทั้งมวล มากมายจนประมาณมิได้ พระพุทธเจ้าทั้งหลายล้วนมีฤทธิ์ทางใจอันประเสริฐแม้ปรารถนาจะเนรมิตต์สิ่งใดก็ย่อมเป็นไปได้ดั่งใจด้วยพระพุทธานุภาพ
- สมเด็จพระปัจเจกโพธิเจ้า เป็นการชุมนุมมหาบารมีแห่งปัจเจกโพธิญาณด้วยว่าพระปัจเจกโพธิเจ้าทั้งหลายซึ่งมีมากกว่าเม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทร ท่านย่อมเพียรไปในโลกต่างๆเพื่อสงเคราะห์คนที่มีวาสนาร่วมกัน แม้ท่านต้องการสิ่งใดหรือให้พรแก่ผู้ใดทุกสิ่งย่อมเป็นไปดั่งใจคิด
- พระยามหาจักรพรรดิ์ตราธิราช พระราชามหาจักรพรรดิ์ผู้ประกอบด้วยแก้วรัตนะทั้ง 7 ได้แก่ จักรแก้ว,ช้างแก้ว,ม้าแก้ว,แก้วมณี,นางแก้ว,คฤหบดีแก้ว,ปริณายกแก้ว ด้วยเป็นผู้เป็นใหญ่ในผืนพิภพอันมีพระมหาสมุทรทั้ง 4 เป็นขอบเขตยิ่งกว่ากษัตริย์หรือเจ้าครองนครและเจ้าแคว้นใดๆมีชนมายุนับพันนับหมื่นปี อันว่าพระยามหาจักรพรรดิ์นั้นได้สั่งสมบุญญาภิสมภารมาเป็นอันมาก ในชาติที่ได้ถึงซึ่งการเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์นี้แม้ปรารถนาสิ่งใดย่อมเป็นไปได้ดั่งใจด้วยอาชญาแห่งธรรมและบารมีอันได้บำเพ็ญไว้ดีแล้ว
- พระปรเมศวร,พระนารายณ์ สองพระผู้เป็นเจ้าที่ตั้งฟ้าตั้งดินเป็นปรากฏการณ์กำเนิดรูปกายขึ้นด้วยการรวมตัวของพระเวทย์และพระธรรมในมหาจักรวาล แม้มีพระประสงค์สิ่งใดก็ย่อมเป็นไปได้เสมอใจด้วยอานุภาพอันเกิดจากตบะและญาณของพระผู้เป็นเจ้านั้น
- มหาพรหมโสฬส เป็นกำลังของทั้ง 16 ชั้นพรหม ซึ่งพรหมนี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าเป็นปรากฏการณ์แห่งแสงสว่าง ซ้ำยังเป็นผู้ให้แต่ฝ่ายเดียวให้โดยปราศจากการรับใดๆกลับมาเป็นวิสัย ดังนั้นกำลังของโสฬสมหาพรหมนี้จึงสำคัญนักเพราะเป็นการให้แก่ผู้มีใจที่จะรับให้ด้วยความรักและเมตตาโดยแท้
- พระอินทร์แสนโกฏิ เป็นการรวมกันของกำลังพระอินทร์ด้วยว่าตำแหน่งพระอินทร์เจ้านั้นเป็นตำแหน่งที่มีการสืบต่อกันหาได้เป็นตำแหน่งถาวรณ์ไม่ และในจักรวาลทั้งหลายก็ปรากฏมีพระอินทร์อยู่หลายองค์ปฏิบัติงานร่วมกัน ดังนั้นทั้งแสนโกฏิท้องจักรวาลจึงมีพระอินทร์ปกครองนับแสนโกฏิเช่นเดียวกัน ซึ่งตำแหน่งของพระอินทร์นี้ก็คือกษัตริย์ของเทพยดานั่นเองด้วยอานุภาพอันบำเพ็ญสร้างสมมาทั้งบำรุงบิดามารดาอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่กล่าวแต่วาจาสัจไม่กล่าวคำหยาบไม่พูดส่อเสียดครองเรือนโดยรู้จักจำแนกทานและกำจัดความตระหนี่ไม่มักโกรธด้วยว่าพยายามขัดเกลาอารมณ์โกรธให้หมดไป ย่อมนำพาให้ถึงซึ่งการเป็นพระอินทร์โดยองค์อมรินทร์นั้นมีเทวานุภาพที่สามารถเนรมิตรทุกสิ่งอย่างให้เป็นไปได้ตามพระประสงค์
- มหาเทพแห่งฉกามาพจรภูมิ เหล่ามหาเทพแห่งหกห้องสวรรค์ชั้นฟ้า ซึ่งได้ชื่อว่ามีบารมีที่บำเพ็ญไว้อย่างอุกฤษณ์ ได้แก่ ท้าวจตุมหาราชทั้ง 4,ท้าวสักกะเทวราช,ท้าวสุยามเทวราช,ท้าวสันดุสิตเทวราช,ท้าวสุบินมิตรเทวราช,ท้าวสาวัตติเทวราชและพญามาราธิราชปรนิมมิตวสวัตตี มหาเทพเหล่านี้ได้ชื่อว่ามีความสุข เสวยสุขอันประณีตสูงสุดยิ่งกว่าเทพยดาอื่นใดในพิภพทั้งหก เป็นเจ้าเป็นพญาปกครองเหล่าเทพทั้งหลายในสวรรค์ชั้นนั้นๆ ซึ่งมหาเทพเหล่านี้มีบุญฤทธิ์พิเศษเฉพาะตนด้วยกันทั้งสิ้นสามารถที่จะถึงซึ่งสิ่งที่ตนปรารถนาได้สมดั่งใจและเหล่าเทพไททั้งหลายก็คอยปรนเปรอปรนนิบัติ
*** ตะกรุดชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านเสริมด้วยบารมีทั้งเจ็ดเหล่าเอาไว้ครบถ้วนเพื่อให้ผู้ครอบครองได้สั่งสมอบรมสร้างบารมีได้เต็มโดยเร็วที่สุดทั้งจะได้ถึงซึ่งความสุขอย่างประณีต จะมีบารมีทั้งหมดเหล่านี้อุปการะเราไปตลอดจนกว่าจะถึงเป้าหมายอันยิ่งใหญ่คือพระนิพพาน ก่อนจะถึงความสุขนิรันดร์จะพบเจอแต่ความเจริญรุ่งเรืองและไม่ถึงจุดตกต่ำ สมบูรณ์พร้อมหมดทั้งเดช,ปัญญา,ยศศักดิ์และโภคทรัพย์ทั้งปวงจะมีชีวิตดั่งมหาบุรุษในอุดมคติถึงพร้อมบริบูรณ์ด้วยความสุขทางโลกในทุกๆด้านปานจะชะลอวิมานของเทพเจ้าในอากาศมาไว้แดนดินสมบูรณ์และบริบูรณ์ในความสุขสมหวังทุกสิ่งทางโลกีย์วิสัย

ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาเลือกเจ้าของเลือกบุคคลครอบครอง แม้ไม่มีวาสนาสัมพันธ์กัน..ไม่มีโอกาสจุติในพรหมโลก..ไม่มีโอกาสเกิดในพระศาสนาทันพบพระพักตร์และได้ฟังพระสัทธรรมเทศนาจากสมเด็จพระศรีอาริย์แล้ว..เกิดแล้วตายใหม่ซักสิบชาติก็หาได้พานพบ คนไม่รู้ค่าไม่สามารถชักนำไว้ใกล้ตัวได้...คนที่ได้คือวาสนาเขาดี..ไม่ติดกรรม ต่อไปในสิบทิศนี้เขาจะหาความทุกข์ใจความผิดหวังหรือภัยอันตรายใดๆมิได้เลย ตัวบารมีนี้จะเปิดทางให้ถึงพร้อมทุกสิ่งคนที่วาสนาถึงกันเช่นนี้ย่อมมีไม่มาก ทั้งตะกรุดแบบนี้ก็ทำมากไม่ได้เพราะคนที่บารมีเขาเปิดแล้วแบบนี้คือปิดนรกนะเธอต้องเข้าใจก่อนว่ามันส่งผลกระเทือนไปเป็รทอดๆไม่ใช่ตายแล้วตายไปจบกันตรงนั้น พอบารมีสุกงอมไม่ไปเทวโลกก็พรหมโลกก่อน..บางคนที่ทำมาดีเขาตรงเข้านิพพานไม่รอพระศรีอาริย์เลยจึงไม่ใช่ของที่จะทำเมื่อไหร่ก็ได้ทำหนนึงเหมือนจะตัดรอนกรรมเก่าเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตด้วยพุทธบารมีจะรื้อขนสัตว์ออกจากทุกข์เข็ญ ทีนี้ก็ต้องดูว่าใครเค้าถึงวาระได้รับการปลดปล่อยจะได้ลืมตาอ้าปากเดินเข้าหาสุขอันเป็นนิรันดร์อย่างแท้จริง ตะกรุดดอกนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากมากเพราะวุ่นวายกันไปหลายภพภูมิต้องปิดบัญชีกรรมของยมราช ต้องเพิ่มชื่อในบัญชีของจตุโลกบาลต้องส่งขึ้นอนุโมทนาที่เทวสภา...พ่ออาจารย์ท่านว่าของแบบนี้ทำครั้งเดียวก้พอแล้ว

นอกจากจะลงสัตตะรัตนะวงกตฟ้าไว้ยังลงตัวสลายกรรมไว้ด้วย วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาธรรมขั้นสูงอาศัยเหตุว่าคนเราถ้ามีกรรมเข้ามาทุกอย่างคือจบหมด ยิ่งเมื่อถึงคราวเคราะห์ได้เสวยทุกข์เวทนาจากกฏแห่งกรรมอันเกินกว่าพุทธานุภาพและเทวานุภาพจะเยียวยาได้จะได้อาศัยวิชานี้สลายกรรมให้ทันท่วงที เพื่อให้บารมีสามารถเข้าถึงสงเคราะห์ได้ตลอดรอดฝั่งเช่นนี้ท่านจึงว่าทำงานเป็นค่ายกล ตะกรุดดอกนึงลงกันเหตุสุดวิสัยไว้เยอะที่สุดในทุกๆทางฉันคงไม่ต้องพูดอะไรไปมากกว่านี้ ต่อให้เคราะห์เพ่งโทษก็จะผ่านไปได้เสมอพอบารมีสมบูรณ์แล้วกรรมจะได้ไม่บดบังจะพบบุพเพ,จะพบลาภ,จะได้โชคไม่เจอเรื่องร้ายๆใดขัดคอ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดที่ทำงานเป็นค่ายกลลงเสริมไว้ครบทุกด้านมากที่สุดสามารถใช้ได้สารพัด
- แก้พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกดวงติดขัดต่างๆ ดำรงค์ชีวิตอยู่อย่างติดขัดคือคิดทำการอย่างใดก็ไม่ได้เสมอใจเราซักอย่าง ที่หวังไว้ก็ไม่เคยสมหวังพบแต่เรื่องผิดพลาดผิดหวังมีวามรู้สึกว่าตนเองเป็นคนโชคร้ายเจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดผีซ้ำด้ามพลอย ส่งผลให้ความรู้สึกอ่อนล้ามัวหมอง จิตใจหดหู่ถดถอย
- หยุดจิตวิญญาณเบื้องต่ำและเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ให้หยุดทำลายหยุดรังแก
- ปรับสมดุลย์ความคู่ควรกับสิ่งที่มุ่งหวังหรือหมายปองด้วยว่าบารมีของเราไม่เสมอกัน ไม่คู่ควรกันกับสิ่งที่เราหวังที่เราปรารถนาเหล่านั้ เปลี่ยนเป็นให้สมกันคู่ควรกันไม่มีใครสำเร็จเกินเราหรือเหมาะหรือควรเท่าเรา
- ช่วยในเรื่องการเจริญสติ แรงครูดุจแสงสว่างกระจ่างจ้าเบื้องบนที่จะทำลายความทุกข์โศกมืดมิดที่เราหาทางออกไม่ได้มีคุณใหญ่ชัดเจนคือการดลบันดาลความสำเร็จมาให้
- ช่วยให้เรามีทัศนคติที่ดี มองอะไรทะลุปรุโปร่งเห็นช่องทางความสุขเห็นประโยชน์ใหญ่ จิตใจปลอดโปร่งรู้แจ้งแทงตลอดเห็นสิ่งที่ปกติตัวเองคิดไม่ถึงมองไม่เห็น เมื่อจะพิจารณาการณ์และกิจสิ่งใดย่อมทำไปโดยความรอบคอบไม่ปล่อยโอกาศทุกครั้งให้หลุดรอดไป
- กลับสิ่งร้ายให้แปรเปลี่ยนเป็นโอกาศผ่อนสิ่งที่หนักให้บางเบาลดเคราะห์กรรมฉาบฉวยให้สูญหายไป จะพบพุทธนิมิตบันดาลให้ความสำเร็จเกิดขึ้นได้ ทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้เสมอใจต้องได้ในสิ่งที่ดีที่สุดเหนือคนอื่นเสมอ
วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ปฐมท่านดึงทุกหมวดบารมีมาผูกสงเคราะห์ชีวิตเราทุกรูปแบบเพื่อให้สอดคล้องกับเรื่องทางโลกมากที่สุด

คาถาบูชา
พ่ออาจารย์ท่านว่าทำมาเต็มสูตรครบแล้วเวลาจะใช้แค่ท่องพุทธคุณก็พอ แต่ถ้าใครจิตฝึกมาดีแล้วนึกถึงพระพุทธเจ้าก็อาราธนาได้เลย

### ตะกรุดทุกดอกท่านติดองค์ปฐมน้อยไว้ทุกดอกเพื่อคุมวิชาและคุมธาตุบารมี ซึ่งชุดนี้เทด้วยเนื้อธาตุกายสิทธิ์ โดยก่อนเทได้นำมาตีเป็นแผ่นเพื่อลงอักขระพระยันต์สำคัญต่างๆตามที่ครูบาอาจารย์เบื้องบนชี้แนะ ตั้งแต่ดวงประสูติ,ตรัสรู้,ปรินิพพาน,พุทธจักร,นวโลกุตรธรรม,รัตนไตรจักร,พุทธคุณเจ็ดดวง,ยันต์พระไตรสรณคมสามดวง,ยันต์พระไตรปิฏก,ยันต์พระกรณี,อิติปิโสแปดด้าน,ยันต์เพชรสี่ด้าน,มหากันห้าตัว,ยันประจำทิศทั้งแปด,พระฉิมขอลาภ,ยันต์แก้ทุกข์,เรียกเงินทอง,พาหุงใหญ่,ชัยน้อย....พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าได้ดูถูกพระองค์เล็กเชานนี้เด็ดขาด นั่นแหละพุทธบารมีเต็มขั้นฉันใส่ขันครูเชิญบารมีองค์ปฐมเสกมาหลายปีอธิษฐานใช้ได้ทุกอย่าง แต่ชุดนี้จะหนักไปทางมหาปราบทำลายความจนเป็นสิริมงคลกับคนใส่มากๆ

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดิอนปีเกิดไว้ด้วย ดอกนึงบรรจุได้ไม่เกินสามชื่อ(ต้องเป็นเครือญาติและผูกพันธ์กันทางสายเลือดเท่านั้น) แต่ใครจะบรรจุชื่อเดียวก็ไม่เป็นปัญหา...อาจใช้เวลาบ้างเพราะพ่ออาจารย์ท่านต้องบรรจุดวงสวดเสกปรับแก้เสริมบารมี..เปิดภูมิบารมีให้ทีละคนเต็มอัตรา..ทั้งขอกำลังพุทธคุณสงเคราะห์รายคน รายได้ร่วมสมทบทุนอาหารเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเดินค่ายกลสัตตะรัตนะวงกตฟ้า(สูบหมื่นบารมี) บูชา 4,000 บาท

​

 

"ยามใดตะกรุดชุดนี้เจอเจ้าของบุคคลนั้นเหมือนราชรถมาเกยได้กำไรชีวิต" พ่ออาจารย์ท่านกล่าวเช่นนี้เสมอจนกลายเป็นตะกรุดที่ใครๆก็อยากขอจองเอาไว้ก่อนมาหลายปีท่านปฎิเสธให้รอพร้อมกันทั้งหมด...ด้วยมีคุณใหญ่และส่งผลรุนแรงในหลายๆทาง.. หนนี้มีโอกาสนะครับเพราะท่านทำไว้แค่ห้าดอกในเจ็ดปีนี้ไม่ง่ายเลย

*** อย่าลืมการแจ้งรายละเอียดนะครับเพราะดอกนึงบรรจุได้ไม่เกินสามชื่อ(ต้องเป็นเครือญาติและผูกพันธ์กันทางสายเลือดเท่านั้น) แต่ใครจะบรรจุชื่อเดียวก็ไม่เป็นปัญหา

 

สัจจะ​

สัจจะ หมายถึง ความจริงใจ,ความชื่อตรงในการประพฤติด้วยกายคือการกระทำและการประพฤติด้วยวาจา..คือการพูดและการประพฤติด้วยใจ..คือความนึกคิดด้วยความจริงไม่มีสิ่งแอบแฝงเพื่อวัตถุประสงค์อื่นแก่ตนเอง เช่นนี้เรียกว่ามีความจริงใจหรือสัจจะ

ความหมายของ สัจจะ จากผู้รู้ต่างๆ
สุชีพ ปุญฺญานุภาพ ได้กล่าวถึงสัจจะความมีสัตย์ คือการแสดงออกด้วยการประพฤติตนในทางเที่ยงตรง เป็นคนจริงตามสภาวะที่ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นของแท้และเที่ยงตรง ไม่เป็นอย่างอื่น
ทางใจประกอบด้วย
– จริงใจ ได้แก่ ความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอย่างอื่นแอบแฝง
– จริงวาจา ได้แก่ พูดจริง
– จริงกาย ได้แก่ ทำจริง

อภิญวัฒน์ โพธิ์สาน ได้ให้มุมมองเกี่ยวกับสัจจะ คือการยึดถือความสัตย์จริงทั้งในการกระทำการพูดและจิตที่รู้คิดบนพื้นฐานความเที่ยงธรรมในการทำหน้าที่ไม่ลำเอียงไม่มีอคติ ความซื่อตรงต่อมิตรสหายผู้ร่วมงานโดยแสดงออกในลักษณะคิดเกื้อหนุนร่วมทุกข์ร่วมสุข คอยตักเตือนให้สติและมีความรักใคร่จริงใจ

ประเภทของสัจจะ
คำว่า สัจจะ “ความจริง/ความซื่อสัตย์” ในคำสอนของพระพุทธศาสนาแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. สมมติสัจจะ
สมมติสัจจะ หมายถึงจริงตามสมมติกล่าวคือนามที่ถูกเรียกหรือถูกตั้งให้ด้วยผู้อื่นได้แก่
– เป็นผู้หญิงเป็นผู้ชาย มีชื่อเล่นหรือชื่อจริงว่าอย่างโน้นอย่างนี้
– ทำงานเป็นราชการ ทำงานในเอกชน ถูกเรียกด้วยชื่อตำแหน่งที่เขาตั้งให้ เช่น ผู้จัดการโรงงาน หัวหน้าฝ่ายผลิต หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคล เป็นต้น
– ขอทานผู้อื่นเขากิน คนมักเรียกว่าขอทาน
– ผู้ปกครองแผ่นดิน ทั้งพระมหากษัตริย์ นายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดี
สิ่งที่กล่าวมาเหล่านี้ ถือเป็น “สมมติสัจจะ” คือนามหรือสภาพที่ผู้อื่นตั้งให้ด้วยการสมมติ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการจัดระเบียบทางสังคมด้วยข้อกฎหมายและหลักศีลธรรมที่ผูกเกี่ยวในนามสมมตินั้นจึงยังให้ผู้นั้นเกิดสัจจะความจริงความสัตย์ ตามบทบาทหน้าที่ของตนที่เป็นส่วนหนึ่งในสังคม
2. ปรมัตถสัจจะ
ปรมัตถสัจจะ หมายถึง จริงโดยปรมัตถ์กล่าวคือสมมติสัจจะที่ประกอบด้วยนามสมมติที่ผู้อื่นตั้งให้ นามสมมตินั้น แต่ละคนล้วนมีความเท่าเทียมกันคือความเป็นมนุษย์ทั่วไปที่ยังคงมีที่ต้องเผชิญ ทั้งในอายตนะภายใน 6 และอายตนะภายนอก 6 รวมถึงมีขันธ์ 5 ที่เหมือนกันหมดไม่ต่างกันเลย หรือพระเจ้าแผ่นดินมีอย่างไรคนขอทานก็มีอย่างนั้นไม่ต่างแต่เท่ากันหมด สิ่งนี้เป็นปรมัตถสัจจะ คือสภาพที่เป็นจริงโดยปรมัตถ์

ลักษณะของสัจจะ
การปฏิบัติศีลปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาต้องมีสัจจะ มีความจริงต่อการปฏิบัติไม่หลงมายาโลกจนกระทั่งเกิด “ความรู้ในสัจธรรม รู้ความจริง ตามความเป็นจริง” เข้าใจสมมติสัจจะและปรมัตถ์สัจจะสามารถดำเนินชีวิตอย่างประเสริฐ ตามลักษณะสัจธรรมที่แต่ละบุคคลเข้าถึงได้ความจริง คือ “สภาวะหรือธรรมชาติที่ทรงตัวเป็นของแท้เที่ยงตรงไม่เป็นอย่างอื่น
– ทางใจจริงใจได้แก่ ซื่อตรง ความบริสุทธิ์ใจ ทางวาจา
– ทางวาจาจริงวาจาได้แก่ พูดจริง
– ทางกายจริงกายได้แก่ ทำจริง
สัจจะเป็นวาจาที่เป็นถ้อยคำหรือที่แปลตามรูปศัพท์วาจาว่าคำเปล่ง ซึ่งเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า คือคำพูดเป็นสื่อในการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของบุคคลให้ผู้อื่นได้รับรู้ความคิดของตนด้วยลักษณะของสัจจะที่เป็นคำพูดเป็นทางแห่งทุกข์และสุขทั้งหลาย

ส่วนทางแห่งกุศลกรรมบถคือ ความประพฤติเป็นกุศลและความประพฤติสม่ำเสมอดีประกอบด้วย
ลักษณะสัจจะทางกายกรรม 3
การรักษาสัจจะใน “กายกรรม” หมายถึง การกระทำทางกายทั้งทางดีและทางชั่วด้วยการสร้างสัจจะกายกรรมทางดีเช่นการประพฤติปฏิบัติภาวนา,การทำบุญทำทานช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากเป็นต้น การละซึ่งสัจจะในกายกรรมทางชั่วเช่นไม่ฆ่าสัตว์,เบียดเบียน,เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น

การละซึ่งกายทุจริต 3
1. การเว้นจากการฆ่าสัตว์
การเว้นจากการฆ่าสัตว์ คือปาณาติปาตาเป็นศีลข้อที่ 1 ในศีลทั้ง 5 ที่ศาสนิกชนพึงปฏิบัติ ศีลข้อนี้ได้ประกอบด้วย 3 ลักษณะ คือ การเว้นจากการพรากชีวิต,เว้นจากการทำร้ายให้เจ็บและเว้นจากการทำให้ทรมานโดยการขาดซึ่งศีลนั้นมีการกระทำให้ลุแล้วซึ่งชีวิตด้วยมีเจตนาเป็นที่ตั้ง
2. การเว้นจากการลักทรัพย์
การเว้นจากการลักทรัพย์ คืออทินนาทานาเป็นศีลข้อที่ 2 ในศีลทั้ง 5 ที่ศาสนิกชนพึงปฏิบัติ ศีลข้อนี้ได้ประกอบด้วย 3 ลักษณะคือการโจรกรรม,อนุโลมโจรกรรมและฉายาโจรกรรม โดยการลุซึ่งศีลข้อนี้ต้องประกอบขึ้นจากการโจรกรรมเพียงอย่างเดียว ส่วนอีก 2 ลักษณะถือว่าไม่ลุซึ่งศีลการโจรกรรมนั้นคือการถือเอาทรัพย์คนอื่นในขณะที่เขาไม่ได้อนุญาต
3. การเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
การเว้นจากการประพฤติผิดในกาม คือกาเมสุมิจฉาจาราเป็นศีลข้อที่ 3 ในศีลทั้ง 5 ที่ศาสนิกชนพึงปฏิบัติ ศีลข้อนี้ท่านบัญญัติไว้ให้ฝ่ายชายพึงละซึ่งการลุแห่งกามในหญิง 3 ประเภทคือหญิงที่มีสามี,หญิงที่มีคนปกครองและหญิงที่ห้ามด้วยจารีต ส่วนหญิงท่านให้ละซึ่งการลุกามในชาย 2 ประเภทคือชายที่มีภรรยาและชายที่ห้ามด้วยจารีต

ลักษณะสัจจะทางวจีกรรม 4
การรักษาสัจจะในวจีกรรม หมายถึงการกระทำทางวาจาในทางดีเช่นพูดคำที่เป็นประโยชน์,พูดสร้างสรรค์สังคม,พูดดีเป็นต้น ไม่สร้างสัจจะในวจีกรรมทางชั่วเช่นการประพฤติพูดเท็จ,การประพฤติพูดคำหยาบ,การประพฤติพูดส่อเสียด,การประพฤติพูดยุยงให้เขาแตกกัน,การประพฤติพูดให้ร้าย ป้ายสีเขา
1. การเว้นจากการพูดเท็จ
การพูดเท็จ หมายถึงการพูดด้วยเรื่องที่ไม่มีอยู่จริง หรือเรื่องโกห เรื่องที่ตนแต่งขึ้นมาหรือเสริมความเท็จเพียงให้ตนได้รับประโยชน์
2. การเว้นจากการพูดส่อเสียด
การพูดส่อเสียด หมายถึงการพูดด้วยคำหยาบหรือคำสุภาพ แต่เป็นคำที่กระทบกระทั่งผู้อื่นให้เกิดความเจ็บใจ นอกจากนี้ยังหมายรวมถึงการพูดยุแย่เพื่อให้คนอื่นหรือหมู่คณะแตกความสามัคคีเกิดความหมองใจแตกแยกทะเลาะวิวาทกัน
3. การเว้นจากการพูดคำหยาบ
การพูดคำหยาบ หมายถึงการพูดด้วยคำหรือศัพท์ที่ไม่รื่นหูไม่น่าฟัง มักพูดขณะเกิดโทสะหรือพูดด้วยความคะนึกคะนอง คำหยาบเหล่านี้เมื่อพูดออกไปย่อมทำให้ผู้อื่นไม่พอใจหรืออาจเกิดโทสะ เกิดโทษแก่ตนและผู้อื่น
4. การเว้นจากการพูดกลับคำ
การพูดกลับคำ หมายถึง การพูดกลับไปกลับมาหาจุดยืนของคำพูดหรือสิ่งที่แท้จริงในครั้งใดไม่ได้ อาจด้วยการสัญญาการรับคำต่อผู้อื่นหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือพูดเพื่อบอกเล่าให้ผู้อื่นฟัง แต่กลับคำพูดใหม่เป็นครั้งคราวไปสิ่งเหล่านี้คือการพูดกลับคำ เมื่อพูดกลับคำแล้วย่อมทำให้ผู้อื่นไม่เชื่อในคำพูดของตน

ลักษณะสัจจะทางมโนกรรม 3
การรักษาสัจจะในมโนกรรม หมายถึงกรรมทางใจสร้างสัจจะมโนกรรมในทางดีเช่นคิดทำบุญ,ทำกุศล เป็นต้น ไม่สร้างสัจจะมโนกรรมในทางชั่วเช่นคิดอาฆาตพยาบาท,คิดแต่สิ่งที่ไม่ดีไม่เกิดประโยชน์,คิดทำความชั่ว ประกอบด้วย
1. ไม่โลภอยากได้ของเขา
การมีความจริงใจ ละเว้นจิตเพ่งเล็งที่คิดอยากได้ทรัพย์สินหรือประโยชน์จากผู้อื่นมาเป็นของตน
2. ไม่พยาบาทปองร้ายเขา
การมีความจริงใจโดยไม่คิดร้ายผู้อื่น ไม่เป็นผู้มีจิตพยาบาทคิดร้าย ไม่ใช่ผู้มีจิตคิดจะแก้แค้น ไม่คิดมุ่งเบียดเบียนหรือเพ่งมองในทางที่จะทำลายเขา จิตคิดปรารถนาแต่ว่า “ขอให้สัตว์พวกนี้จงเป็นผู้ไม่พยาบาท,ไม่มีทุกข์มีความสุขรักษาตนอยู่เถิด” พึงตั้งใจปรารถนาดีแผ่ไมตรีมุ่งให้เกิดแต่ประโยชน์สุขแก่กัน
3. มีความเห็นชอบ
การเป็นผู้มีความจริงใจ มีความเห็นถูกต้องตามคลองธรรมไม่ใช่เป็นผู้มีความเห็นคล้อยตามอำนาจกิเลส พึงมีความเห็นชอบว่า
– ทานให้หรือบริจาคมีผล
– การเซ่นสรวงมีผล
– การบูชามีผล

​

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

วันนี้ก็มาพูดคุยกันเรื่องการทำผิดพลาดพลั้งเผลอเพราะบางคนสถานที่อยู่อาศัยคับแคบเวลาวางอะไรหลงๆลืมๆอาจจะเดินข้ามได้ง่าย ..มันก็มีหลายกรณีที่ถามผมเข้ามาบ่อยๆว่าแบบนี้ๆของจะเสื่อมมั๊ยซึ่งผมเคยบอกไปแล้วว่าไม่เสื่อมแต่ถ้าจะเรียกความมั่นใจกลับมาก็ขอขมาซักหน่อย

ทีนี้เมื่อพูดถึงของเสื่อมกันเราก็จะพูดถึงเรื่องเทพศาสตรากันด้วยเพราะพ่ออาจารย์ท่านเคยออกไปหลายรุ่นแต่จุดนี้ใช้ได้เหมือนกันทุกรุ่น ขึ้นชื่อว่าอาวุธหลายคนจะคิดไปว่าเอาไว้ปกป้องตัวใช้กับศัตรูหรือสิ่งชั่วร้ายแบบนี้ก็ไม่ผิด แต่เทพศาสตราของพ่ออาจารย์นั้นท่านลงไว้เป็นพิเศษอยู่อย่างที่ไม่ค่อยมีใครรู้หรืออาราธนาใช้กันเป็น ซึ่งคุณวิเศษเช่นนี้ผมถือว่ามันโอเคมากเพราะทำให้คนหลงๆลืมๆทำตัวได้สะดวกขึ้นเวลาพลั้งเผลอลืมตัวทำอะไรที่ทำให้ตัวเองจิตตกคิดว่าของเสื่อม

เพราะเทพอาวุธทุกชนิดของพ่ออาจารย์ท่านใช้เรียกพระเวทย์ได้ นั่นคือพระเวทย์ที่เสื่อมสูญไปจริงๆ(ไม่ใช่แค่คิดว่าเสื่อม) ในอีกมุมนึงก็คือเครื่องมงคลนั้นไม่เสื่อมแต่เสื่อมที่ตัวบุคคลด้วยสถานการณ์หลายๆอย่างที่เอื้ออำนวยในชีวิตแต่ละคนพาไปบางครั้งมีความสัมพันธ์ทางกาเมลืมถอดพระก็เยอะ บางคนก็เดินลอดผ้าถุงผ้านุ่งหรือเดินเข้าไปลอดในสถานที่ซึ่งเขาทำอาถรรพ์ไว้ตั้งแต่หน้าประตูทำให้ของดีหลุดรุ่ยก็มีถมไป

ทีนี้ก็คือเทพอาวุธนั่นแหละพ่ออาจารย์ท่านว่าใช้เรียกพระเวทย์ใช้เรียกอาคมต่างๆในกายตนที่เสื่อมไปแล้วหายไปแล้วกลับเข้ามาได้ ก็อาราธนาบอกกล่าวครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาเทพศาสตราของพ่ออาจารย์ท่านว่ามีประสงค์จะเรียกพระเวทย์เรียกอาคมที่เสื่อมถอยไปกลับมาเข้าตัวหลังจากที่เรารู้สึกผิดปกติหรือรู้สึกว่าไปทำอะไรมาแล้วกำลังใจมันตก ท่านว่าเรื่องแบบนี้ทำได้เองเลยถ้ามีพวกเทพศาสตราของท่านนี่ใช้ได้

คนที่สวดมนต์หมั่นท่องบ่นพระคาถามาเวลาเสื่อมไปอาคมหายไปจากตัวมันก็เหมือนถังก้นรั่วต้องค่อยๆเติมน้ำใหม่เริ่มสะสมศรัทธานับหนึ่งใหม่แต่เติมอย่างไรก็รั่วอยู่วันยังค่ำ คนที่โชคดีทันจองพวกเทพศาสตราไว้ออย่าให้ห่างกายนะครับรับรองว่าจะไม่มีชีวิตแบบถังก้นรั่วแน่นอนติดตัวไว้ทั้งพระเวทย์และอาคมใดๆที่เราหมั่นท่องหมั่นศึกษามาย่อมใช้ได้เป็นปกติไม่เสื่อมถอย ### พ่ออาจารย์ท่านว่าให้บอกเค้าแค่กันตัวเองเสื่อมจะได้สบายใจ ลองว่าตัวไม่เสื่อมอะไรๆมันก็ดีกว่าปกติทุกอย่างครับ

​

 

ร่วมทำบุญบูชา พระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์มหาธาตุรัตนหทัยไร้สิ้นสูญ (ชุดแก่นโลหิตธาราปฐมโพธิญาณ)

" ปรารถนาจะให้เป็นที่สุดของพระเนื้อผงของเรา เหมือนหลวงพ่อกวยหากพูดถึงใครๆก็ต้องอยากได้พระโพธิ์เก้าใบ "

### พระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์ เป็นพระพุทธพิมพ์ชุดแรกของพ่ออาจารย์ท่าน (ศักดิ์ศรีพระเครื่องที่ดีและสูงที่สุด)

### พระพิชัย(ชุดปฐมบรมครู) พ่ออาจารย์ท่านฝังไว้ด้วยมหาธาตุศักดิ์สิทธิ์ของสมเด็จองค์ปฐม 2 ชนิด คือ 1.มหาธาตุรัตนหทัย 2.แก่นโลหิตธาราปฐมโพธิญาณ

### พระธาตุแก่นโลหิต(โลหิตธาตุที่เหนือกว่าโลหิตทั้งปวงในหมื่นจักรวาล)นั้นเหนือกว่าโลหิตธาตุใดๆพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นกำลังของแก่นชีวิตที่สุดแห่งพุทธบารมีญาณ ท่านอุปมาว่า "ล้ำค่าดั่งเลือดในอก" ซึ่งโลหิตธาตุชุดนี้มีกำลังมาก...จะดีจะพิเศษอย่างไรติดตามกันให้ดี...ด้วยองค์ปฐมท่านกำชับเอาไว้ว่าแก่นโลหิตธาตุนั้นจะให้ไว้รักษาตัวเฉพาะผู้เป็นลูกๆในพ่อพระพุทธอันเคยมีสายสัมพันธ์แต่ครั้งก่อน(ลูกหลานของท่านเท่านั้น)

### มหาธาตุรัตนหทัยก็คือมหาธาตุส่วนหัวใจ...ด้วยเหนืออื่นใดสรรพสิ่งล้วนมีใจเป็นใหญ่..มีใจเป็นประธาน..มหาธาตุรัตนหทัยจึงเปรียบดั่งแก้ววิเศษอันเป็นประธานในโลกาเป็นดวงจิตดวงกำลังแห่งปฐมโพธิญาณที่จะโปรดสรรพสัตว์ด้วยปณิธานตั้งมั่น...พ่ออาจารย์ว่ามีคุณวิเศษเสียยิ่งกว่าสมบัติท้าวโกสีย์แม้ต้นปาริชาติสารพัดนึกก็ไม่เท่าเทียมหทัยพระเจ้า โดยมหาธาตุนี้ย่อมเป็นของที่มีเจ้าของมีผู้ครอบครองซึ่งถูกเลือกแล้วโดยองค์ปฐมเช่นเดียวกับแก่นโลหินธาตุเพราะเป็นมหาธาตุอันสำคัญที่สุดทั้งสองสิ่ง(รายละเอียดจะเปิดเผยหลังยอดจองเต็มทั้งหมด)

พระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์เป็นพระพิมพ์รุ่นแรกในตำนานซึ่งใครทันใครมีมักจะเลี่ยมทองห้อยคอไว้ไม่ยอมถอด วันนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงให้นำพระพิชัยชุดปฐมบรมครูอันมีจำนวนน้อยมากๆออกมาเปิดจองท่านว่าหมดชุดนี้ก็ไม่มีพระพิชับมาลามหาจักรพรรดิ์เนื้อพิเศษใดๆแล้ว ด้วยเป็นพระที่สร้างเเละเสกได้ยากยิ่งอีกรายการหนึ่ง จากเดิมที่พ่ออาจารย์ไม่ประสงค์จะทำพระนั้นก็มีเหตุให้ต้องทำจนได้เมื่อกาลเวลาเเละโอกาสทุกสิ่งประจวบเหมาะลงตัวตลอดจนครูบาอาจารย์อนุญาติมอบแบบให้ท่านรู้ท่านเห็น ความยากของการสร้างพระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์นั้นถือว่า ท่านอุตสาหะยิ่งนักที่จะทำเพราะท่านปรารถนาให้เป็นวัตถุมงคลในตระกูลพระผงที่เป็นที่สุดของที่สุดจริงๆ ท่านว่าคนเรานั้นบางคนใช้วัตถุมงคลไม่ตรงกับธาตุก็มี..บางคนเหมาะกับการใช้พระเนื้อโลหะ..บางคนก็ดินเผา..บางคนก็เนื้อผงเเต่พระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์นี้เราทำให้พ้นเรื่องความเหมาะสมของธาตุไปธาตุที่ปรุงเเต่งก็เกินจากธาตุทั้ง4

เราปรารถนาจะให้พระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์นี้เป็นที่สุดของพระเนื้อผงของเราเหมือนหลวงพ่อกวยหากพูดถึงใครๆก็ต้องอยากได้พระโพธิ์เก้าใบของท่านแบบนั้น ดังนั้นจึงไม่ใช่จะออกให้บูชากันได้ง่ายๆพระพิชัยก็เหมือนกันมีเงินก็ใช่ว่าจะได้ครอบครองเสมอไปต้องมีบุญด้วย การทำพระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์นั้นท่านเริ่มให้ดีให้มีความศักดิ์สิทธิ์ตั้งเเต่บล๊อกที่ใช้ทำ โดยท่านนำไม้ช่อฟ้าสมเด็จโตวัดระฆังที่ตัดแบ่งไว้เสกจะเเกะรูปสมเด็จโตของท่านโดยเฉพาะนำมาอธิษฐานจิตเเกะพิมพ์พระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์ เมื่อเเกะเเล้วท่านก็เสกบล๊อกเสกพิมพ์อย่างดีนับวันนับคืน ท่านว่า "นี่ของช่วยคนเขาเราต้องทำให้ดีถึงที่สุดทุกขั้นตอนต้องอธิษฐานจิตเชิญพระมาทำตลอดขาดตกบกพร่องไม่ได้เลย"

มวลสารผงวิเศษค่าควรเมือง
มาถึงผงที่ใช้ทำกันบ้างท่านนำผงเฉพาะทางคือผงอิติปิโสกลบทต่างๆได้เเก่อิติปิโสห้ามโจร,อิติปิโสห้ามไฟ,อิติปิโสห้ามพยาธิ,อิติปิโสห้ามอุบาทว์จัญไร,อิติปิโสห้ามกลียุค,อิติปิโสห้ามโทโส,อิติปิโสห้ามโมโห,อิติปิโสห้ามโรคที่บังเกิดภายใน,อิติปิโสห้ามสัตว์จัตุบาท,อิติปิโสพระขรรค์ไชยศรี,อิติปิโสบัวบาน,อิติปิโสสะท้านธรณี,อิติปิโสดำเนินงาน,อิติปิโสโลกสามภพ,อิติปิโสล้ำเลิศ,อิติปิโสจักรพรรดิ์สมบัติ,อิติปิโสสั่งสอนสัตว์,อิติปิโสปิดทาง,อิติปิโสทรงทาง,อิติปิโสสังขาลิก,อิติปิโสต้อยติด,อิติปิโสถวายชีวิต,อิติปิโสพระเจ้าลีลางาม,อิติปิโสมโหรจินดา,อิติปิโสมโหธร,อิติปิโสพระเจ้าทรมานสัตว์,อิติปิโสดับพยาธิ,อิติปิโสส่องโลก,อิติปิโสดับทุกข์,อิติปิโสเกราะเพชร,อิติปิโสชมญาณ,อิติปิโสไตรเทพ,อิติปิโสสว่างทั่วไตรภพ,อติปิโสเป็นครูสัตว์ทั้งปวง,อิติปิโสเบิกทวาร,อิติปิโสทับบาดาล,อิติปิโสเต็มที่,อิติปิโสนวหรคุณ,อิติปิโสนพคุณ,อิติปิโสถอยหลัง(วิชาเพชรกลับ),อิติปิโสหูช้าง,อิติปิโสแปดทิศ,อิติปิโสถอด,อิติปิโสนารายณ์แปลงรูป,อิติปิโสฤาษีย้ายรูป,อิติปิโสย้ายรูปถอยหลัง,อิติปิโสภุชฌงค์ซ่อนหัว,อิติปิโสภุชฌงค์ซ่อนหาง,อิติปิโสนารายณ์7บท(นารายณ์กลืนจักร,นารายณ์คลายจักร,นารายณ์ประสมจักร,นารายณ์หักจักร,นารายณ์ถอดจักร,นารายณ์ยกจักร,นารายณ์ปิดสมุทร),อิติปิโสมงกุฏพุทธเจ้า เป็นต้น...จะเห็นได้ว่าแต่ละบทแต่ละตัวล้วนมีคุณอุปมาดั่งฝอยท่วมหลังช้าง ทั้งยังเป็นผงอำนาจของพระพุทธคุณล้วนๆอย่างแท้จริงเพราะเป็นคุณของอิติปิโสกลบททั้งนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ปฐมท่านสั่งไว้ให้ใช้เฉพาะผงสูตรอิติปิโสเหล่านี้กับผงรัตนมาลาสร้างพระพิชัยมาลาผงอื่นไม่ต้องพึ่งพาเลย เฉพาะผงเหล่านี้ตายแล้วเกิดใหม่ความแรงก็ไม่ตกให้คุณไปยาวนานชั่วกัลปาวสาน ท่านนำผงมาผสมกับผงรัตนมาลาที่ท่านลบเเบบเต็มสูตรซึ่งลบยากมากเเต่ละอักขระต้องเเตกออกไปเป็นคาถาบทใหญ่กว่าจะได้นับร้อยบท ผงเหล่านี้มีอิทธิคุณครอบจักรวาลตามเเต่จะอธิษฐานใช้แบบฝอยท่วมหลังช้าง ท่านว่าจะฝืนดวง..ยกดวง..กลับดวงอยู่ในนี้ทั้งหมด
*** นอกจากใช้ยอดผงที่พ่ออาจารย์ท่านว่าตายแล้วเกิดใหม่ก็ลบได้ครั้งเดียวในการสร้างพระพิชัยมาลา(อันเป็นพระเครื่องตระกูลสูงที่สุดของพ่ออาจารย์ท่าน) นอกจากนั้นท่านยังได้ใช้ผงเชื้อเก่าของบรมครูที่ท่านสะสมไว้ใส่ไปด้วยเพื่อให้ถึงความเป็นที่สุดเเห่งพระเนื้อผง ท่านยังได้นำผงทำพระสมเด็จกระปุกครูของท่านที่สืบทอดมาเเต่สมเด็จโตวัดระฆังผสมลงไปด้วยเพื่อให้สมกับคำว่าจักรพรรดิ์จริงๆนอกจากนั้นยังมีผงพระปฐมเจดีย์หลวงพ่อน้อย,ผงยาจินดามณีหลวงปู่เพิ่มเเละผงว่านยาต่างๆเกิน108ชนิดและที่สำคัญคือผงจักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่วัดสะแกซึ่งหนึ่งช้อนสร้างพระได้หนึ่งพันองค์เเต่นี่กล้าพูดเลยว่าหนึ่งช้อนท่านผสมสร้างกดแค่ทีละองค์ ใครอยากใช้พระที่มีพุทธคุณไม่ต่างจากบูรพาจารย์ยุคเก่าตั้งใจทำทิ้งไว้เต็มฝีมือ..เต็มภูมิ..เต็มบารมีอย่าได้พลาดพุทธคุณรุนแรงแน่นอน

การผสมเนื้อพระท่านได้ใช้สูตรการทำพระเเต่โบราณที่จะกลายเป็นนิทานไปเสียเเล้วมาทำด้วย นั่นก็คือการเจือด้วยผงขมิ้นกับปูน ถือคติที่ว่าศรศิลป์ไม่กินกันขมิ้นกับปูนไม่เข้ากันยังเสกให้อยู่ให้ผสานตัวกันได้ เหมือนคนที่เกลียดตายยังไม่เผาผีกลับมาดีกอดกันเเบบนั้นถือว่าเป็นเคล็ดวิชาทางเมตตาเเบบเอกอุที่ท่านสอดผสานลงไปด้วย ด้านหลังฝังด้วยตะกรุดเทียมครูมหาศิลา
ตะกรุดเทียมครูมหาศิลานี้เเค่ตะกรุดก็คุ้มเเล้วดอกที่ฝังด้านหลังยังมีคุณเกินตะกรุดจักรพรรดิ์ทั่วไปอีก มาดูอานุภาพของตะกรุดชุดนี้กันบ้าง

ตะกรุดมหาศิลา
ตะกรุดมหายันต์ที่สร้างเเละเดินพระยันต์ยากนักหนาตามตำรับหลวงปู่เฒ่ายิ้มวัดหนองบัว ท่านว่ายันต์นี้ในอดีตกาลทิศาปาโมกข์ได้ประชุมกันสร้างมหายันต์นี้ขึ้นมาโดยลงอักขระเดินด้วยวิธีเฉพาะบรรจุในสระใหญ่ เมื่อวันพฤหัสบดีแรม6ค่ำเดือน6 พระพุทธศาสนากาลล่วงมาเเล้วได้ 572 พรรษา ปีมะเมีย สัมฤทธิศก(มหายันต์นี้เกิดขึ้นหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน572ปีเท่ากับพระยันต์นี้มีอายุเกือบ2,000ปีเเล้ว) พ่ออาจารย์พลพิจารณาเเล้วเห็นว่าวิชานี้ช่วยคนที่เขาศรัทธาเเละเคารพจริงๆได้มาก ประกอบกับเกรงว่าวิชาของหลวงปู่เฒ่ายิ้มจะเลือนลางหายไปจึงได้เมตตาสร้างไว้สืบต่อให้อนุชนรุ่นหลังได้สักการะบูชา
- ตะกรุดนี้สร้างไว้สำหรับเเช่น้ำเเม้ใครเล่าเรียนในพระไตรปิฏกก็ให้ดื่มกินน้ำนั้นเถิด จะมีความทรงจำเป็นเลิศ ท่านว่าทิศาปาโมกข์ใช้กันมานานนับพันปีวิชานี้เป็นที่หวงเเหนเเละปิดบังดีกว่าอ้อป้องหรืออะไรทั้งหลาย กุลบุตรกุลธิดาที่กำลังศึกษาเล่าเรียนปรารถนาจะให้มีความทรงจำเป็นเลิศให้กินน้ำที่เเช่ตะกรุดนี้เถิด หากใครฉลาดใช้เป็นถ้าที่บ้านมีเเท๊งน้ำเมื่อได้รับตะกรุดไป ให้เอาไปวนในแท๊งกลายเป็นน้ำพระพุทธมนต์โอสถ ใช้อาบ ดื่มกิน ได้ทั้งบ้านนั่นทีเดียว
- ถ้ากุลบุตร - กุลธิดาผู้ใด มีความปรารถนาใคร่จะได้ในลาภยศสรรเสริญประการใด ให้หาขันน้ำ ถ้าได้เป็นขันสัมฤทธิ์ยิ่งดีนัก(สัมฤทธิ์คือความสำเร็จผล) นำตะกรุดนี้เเช่ไว้เถิดเอาน้ำนั้นมากินบ้าง,ลูบหน้าบ้าง,รดศรีษะบ้าง,บำบัดโรคทั้งหลาย,อายุยืนนาน(คนป่วยก็ใช้ได้),เกิดลาภยศตาม แต่จะพึงปรารถนาอธิษฐานเอาเถิดได้สำเร็จตามความปรารถนาทุกประการเเล
- ถ้าปรารถนาจะให้มีตบะเดชะให้นำตะกรุดเทียมครูมหาศิลานี้ผูกไว้รูดตะกรุดมาไว้ข้างหน้าใครเห็นใครก็กล้ว หากจะใช้ในเรื่องความรักก็ใช้วิธีเดียวกันรูดตะกรุดไว้ข้างหน้าเเบบนี้ใครเห็นใครก็รักเเลขึ้นอยู่กับความปรารถนาของเรา
- ถ้าจะเล่นการพนันให้รูดตะกรุดนี้มาไว้ข้างหน้าตั้งใจอธิษฐานว่าจะเอาเท่าไหร่ ให้พึงเอาเท่านั้นเถิดพึงตั้งอยู่ในความสัตย์ได้ดังความปรารถนาทุกประการทุกอย่างไม่เเพ้การพนันเลย
- อนึ่งจะให้คนมาช่วยเกี่ยวข้าวในนาของเราหรือจะทำการซื้อขายให้ขายสินค้าได้คล่องๆ ให้เอาตะกรุดมหาศิลานี้เสียบไม้ปักไว้ ลมพัดไปทางไหนผู้คนหลั่งไหลมาทางนั้นแลหรือให้นำตะกรุดเเช่น้ำเอาน้ำมนต์พรมสินค้าก็ได้ซื้อง่ายขายคล่องแล
- ถึงว่าผีเข้าอยู่เอาน้ำมนต์ประพรมผีหนีออกไปสิ้นแล
- ถ้าจะเข้าผจญด้วยศึกสงครามให้เอาตะกรุดมหาศิลานี้เสียบเป็นยอดธง ให้อธิษฐานยกธงขึ้น โบกไปทางไหนข้าศึกแตกหนีไปทางนั้น ธงนี้เอาบูชาไว้กับเรือนใดกันเสนียดจัญไร,กันฟ้า,กันไฟ ได้ทุกประการเเล
- ถ้าจะกันโจรผู้ร้ายไม่ให้ทำอันตรายแก่เราได้ ให้เอากรวดทรายมาเอาน้ำมนต์ที่แช่ตะกรุดนี้ไว้ประพรมกรวดทรายนั้นเข้า แล้วเอากรวดทรายนั้นหว่านโปรยไว้บริเวณรอบเรือนของเราอธิษฐานเอาบารมีของมหายันต์เทียมครูนี้ จงมาป้องกันอันตรายบรรดาคนที่ประทุษร้ายเข้ามาเหยียบถูกเอาทรายที่หว่านโปรยไว้จะต้องมีอันเป็นไปต่างๆนาๆแล
*** ด้วยอุปเท่ห์มหายันต์นี้มีมากมายเหลือคณานับสารพัดจะใช้ได้ทุกประการเนื่องจากเป็นวิชาเเต่โบราณที่เกรงว่าจะสูญหายไป ท่านจึงปรารถนาจะอนุรักษ์ไว้ให้กับผู้ที่รู้คุณค่าเเละคู่ควรเท่านี้ ตะกรุดมหาศิลานี้ที่ใช้คำว่าเทียมครูเพราะเหมือนกับบูชาไปก็มีครูนั่งอยู่ในบ้านตะกรุดนี้มีอานุภาพเเละสรรพคุณเกินกว่าที่หลวงปู่ยิ้มท่านพรรณนาไว้อีกมากนัก น้ำมนต์ที่เเช่ตะกรุดนี้ตามเเต่ปรารถนาจะอธิษฐานใช้ทีเดียว สำหรับตะกรุดนี้ท่านทำเพื่อให้ฝังพระจึงตัดเรื่องรายละเอียดการเซ่นสรวงเมื่อรับตะกรุดไป เพราะพระยันต์ทั้งสามรวมอยู่ในดอกเดียวกันจึงมีกำลังมีสรรพคุณมาก (พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อประยุกต์นำมาฝังพระก็ใช้คุณของตะกรุดได้เช่นเดิมแขวนพระไว้ด้านหน้าด้านหลังตามสถานการณ์ได้ทั้งสิ้น..สุดแต่จะประยุกต์ใช้เถิด..พระแบบนี้ต่อไปจะไม่มีคนทำได้เสมอเราอีกแล้ว)

พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์ขึ้นมาขนาดจะค่อนข้างเขื่องเเต่ไม่หนักมากห้อยคอกำลังสวยงาม ด้วยท่านเน้นทำจากชนวนมวลสารที่แก่กล้าอิทธิคุณล้วนๆท่านบอกว่าเราต้องการจะทำให้พระนี้มีคุณภาพมากอีกร้อยปีพันปีต่อไปเมื่อใดพระหักชำรุดลงเขาจะได้มองเห็นเม็ดเเร่เห็นมวลสารอย่างน้อยเขาก็จะได้ภูมิใจ..พระชุดนี้ต่อให้หักเหลือเสี้ยวเดียวก็ยังใช้ได้ พุทธคุณไม่ได้ลดลงเลยเป็นกำลังพุทธคุณแลเป็นนิมิตขององค์พระทุกอณูผง เพราะเราทำตามมติครูบาอาจารย์มีสมเด็จองค์ปฐมคุมตลอดเวลาจะทำจะกดพิมพ์ การทำนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าไม่ยากเท่าการเสกเพราะขึ้นชื่อว่าพระจักรพรรดิย่อมเป็นผู้ประเสริฐเเล้วในโลก ถึงพร้อมซึ่งสมบัติทุกประการเเก้วแหวนเงินทองยศถาบรรดาศักดิ์อิสตรีของวิเศษต่างๆล้วนมีล้วนเกิดอยู่เเต่พระเจ้าจักรพรรดิ์
### ยิ่งเราใช้ชื่อพิชัยมาลาอีกนี่มันคือสูงสุดยอดแล้วนะถือเป็นเเก้วยอดมงกุฏเลยก็ว่าได้ ชื่อนี้เราไม่ได้ตั้งเล่นๆหรอกนะเฉพาะผงที่ลบก็เจาะจงให้เป็นที่สุดอยู่เเล้ว การเสกเราบอกตรงๆเลยว่าเราทำเองไม่ได้..แต่ในส่วนตะกรุดนั้นเราทำไว้ดีเเล้ว เพราะการเสกองค์พระต้องเชิญครูทุกสาย..ทุกเชื้อชาติมาทำจะเรียกว่าเป็นพระผงที่มีครูลงมาเยอะที่สุดเลยก็ว่าได้ ผงของใครก็เชิญคนนั้นเเหละลงมาเสกยิ่งผงพระพุทธคุณต้องเชิญพระพุทธเจ้าทั้งหมดลงมาทำ เราเเค่เจริญพระพุทธคุณพระธรรมคุณพระสังฆคุณกำกับเท่านั้นเวลาท่านลงมากันทีก็มากันเป็นหมู่คณะใหญ่ช่วยกันทำดังนั้นความเเรงจึงหายห่วง

- แก่นโลหิตธาราปฐมโพธิญาณ
พ่ออาจารย์ท่านว่าแก่นโลหิตนั้นดุจแก่นชีวิตมีอานุภาพมากหากใครได้ไว้ให้หมั่นอธิษฐานต่อพ่อพระพุทธถ้าประสงค์เรื่องทางโลกท่านว่าขอเอาจากเทวดาทั้งสิบทิศที่รักษาพระธาตุได้เลยเพราะพระธาตุชุดนี้ปรากฏขึ้นที่ใดเทพต้องลงมากระทำสักการะบูชาตรงนั้นเดี๋ยวนั้น ทั้งหากอาราธนาไว้ประจำกายแล้วจะช่วยให้จิตใจเราสงบได้อย่างน่าประหลาดแม้นนำมากำภาวนาก็ทำให้ใจสงบจิตละเอียดเกิดพัฒนาการอย่างรวดเร็ว

พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกตินี่แก่นโลหิตธาตุจะเติบโตได้คือมีขนาดใหญ่ขึ้นได้ตามวาสนาบารมีผู้บูชาแต่เมื่อนำมาฝังไว้ในอกพระพิชัยมาลาย่อมขยายสัณฐานไม่ได้อีกต่อไปกลับกันเขาจะเรียกพระธาตุทั้งหลายให้ตกมาสู่เราเพิ่มขึ้นถ้าเราปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหมั่นสวดมนต์ภาวนาจะมีพระธาตุปรากฏขึ้นมาในชีวิตของเราเรื่อยๆ อีกทั้งแก่นโลหิตธาตุจะปรากฏสีเข้มขึ้นหรืออ่อนลงตามช่วงเวลาชีวิตดีร้ายของเราเองเป็นการสะท้อนถึงวาระการบำเพ็ญบารมีในช่วงนั้นๆ ...พ่ออาจารย์ท่านว่าอยากรู้ว่าตอนไหนดวงตัวเองดีหรือไม่ถ้าเราห้อยองค์พระพิชัยอยู่เสมอก็ให้ดูที่พระธาตุแก่นโลหิตว่าแจ่มใสแวววาวหรือหม่นหมองอย่างใดจะเสี่ยงทายอะไรก็ดูที่ความแวววาวหม่นหมองนี่แหละ

ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าแก่นโลหิตธาตุนั้นมีพลังมหัศจรรย์อยู่สิ่งนึงนั่นคือการเพิ่มพลังใจให้เรา..ทั้งพลังใจ..และกำลังใจกำลังจิตท่านว่าจะเต็มไม่มีพร่องเลยจิตจะมีกำลังจิตแข็ง(เอาไปอาราธนาให้จิตตนพัฒนา..รู้ได้ด้วยตนเอง..เพราะจิตที่มีกำลังย่อมทำสิ่งใดๆได้มากกว่ามนุษย์ธรรมดา) นอกจากนั้นแก่นโลหิตธาตุยังเป็นเกราะคุ้มภัยทั้งคุณผีคุณคนคุณไสยทั้งปวงท่านว่าได้สัการะบูชานี่ยกทั้งบ้าน..หนุนทั้งครอบครัวตลอดญาติมิตรและบริวารที่ใจมั่นคงในพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองเหมือนพลิกฟื้นชีวิต ผู้ที่เคยผ่านความยากลำบาก,เคยได้ทุกข์แสนเข็ญมาแต่กาลก่อนจะกลับมาสดชื่นมีชีวืตชีวาเพราะแก่นโลหิตคือแก่นชีวิตที่จะเติมเต็มพลังชีวิตและความสมบูรณ์แบบถ้วนทุกประการให้เจริญก้าวหน้า

*** ใครที่เคยประสบปัญหาทั้งการงาน,การเงิน,ความอดอยากยากจน...ปัญหาต่างๆตรงนี้ท่านว่าเพราะแก่นชีวิตบกพร่อง สมเด็จองค์ปฐมท่านว่าแก่นโลหิตนี้จะช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตดุจสายโลหิตพ่อหล่อเลี้ยงลูก,ดุจสายโลหิตพ่ออุปถัมภ์ลูก,ดุจพลังชีวิตพ่อนำทางแก่ลูก ทุกสิ่งจึงมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองเป็นที่มาและที่ไป ชีวิตใครที่ร้อน..สถานะของใครที่แย่สายเลือดศักดิ์สิทธิ์นี้จะช่วยเขาได้ทั้งหมดเพราะนั่นคือเลือดของพ่อพระพุทธใครที่ทันบูชาพระพิชัยมาลาชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าเอาวางไว้เฉยๆ ให้หมั่นอาราธนาองค์พระมาสวดมนต์ภาวนาชีวิตจะงอกเงยสว่างไสวทำกิจใดก็ไม่ขาดทุน...หากเรายิ่งมีจิตศรัทธาในพุทธานุภาพของสมเด็จองค์ปฐมจะยิ่งส่งผลดีต่อการพลิกชะตาเราโดยพลัน ทุกสิ่งที่เสียไปย่อมได้คืนมาดุจสายโลหิตบิดาที่หล่อเลี้ยงให้ฟื้นคืนมิให้อดอยากลำบากยากจนสืบไป คนที่กำลังน้อยถอยถดจะได้ฟื้นคืนกำลัง..ฟื้นคืนสถานะ..ฟื้นชะตาชีวิต

- มหาธาตุรัตนหทัยไร้สิ้นสูญ
หัวใจคือแรงขับเคลื่อนทุกสิ่งเป็นกำลังที่อยู่เหนือกำลังใดๆทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่ารัตนหทัยนั้นจะตกอยู่เฉพาะผู้ที่มีปัญญามากได้ครอบครอง คนที่มีปัญญามากความคิดถี่ถ้วนนี่เขาเรียกกันว่าอัจฉริยะนะจะทำสิ่งใดอัจฉริยะด้านไหนๆก็กินรวบทางนั้นๆเพราะหนทางมันเปิดทางที่จะเดินก็มีมากกว่าคนอื่นๆเขา

มหาธาตุรัตนหทัยนั้นมีคุณดุจดวงใจที่สนองตอบความต้องการ..สำนึกรู้..และความคิดของผู้อธิษฐานเพราะตรงนี้เทวดาเขารับหน้าที่กันทั้งหมด เรื่องใดมีกิเลสเจือปนเป็นความสุขทางโลกก็มีเทพชั้นรองๆคอยจัดการให้จะใช้หาโชคลาภ,หาเงิน,ใช้ค้า,ใช้ขาย,ใช้หาความรักความเมตตาหรือเป็นเกราะกำบังกาย...หลบลี้หนีภัย..หนีเคราะห์กรรม..หนีกำลังอันแรงกล้าของทุกข์เวทนาพ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้ทั้งหมด แม้จะหวังเลื่อนขั้นเพิ่มยศขึ้นตำแหน่งก็ยังสมหวังในทุกๆด้านเพราะรัตนหทัยนี้ทำงานเหมือนดวงใจแก้วคือสนองตอบความคิดความต้องการของเราโดยเฉพาะ

ยิ่งคนไหนปัญหามากมีรัตนหทัยอยู่จะเห็นทางออกของปัญหาได้ง่ายกว่าผู้อื่น ทั้งชีวิตคนร้อยแปดพันเรื่องสิ่งที่หนียากที่สุดก็คือปัญหาในชีวิตประจำวันแต่รัตนหทัยนั้นมีคุณอย่างเอกประการหนึ่งคือช่วยให้ทุกปัญหาในชีวิตเราไม่มีทางตัน พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าเจอได้..เจอเดี๋ยวนั้นและต้องจบตรงนั้น..จบทุกปัญหา..ปัญหาพวกนี้ไล่ไปทีละขั้นนะจนจบกิจ..จบกิจความเป็นมนุษย์ไปรอในนิพพาน

### มีรัตนหทัยอยู่จะปรารถนาสิ่งใดย่อมไร้ขอบเขต ทั้งกำลังสนองตอบต่อจิตใจเรายังไร้สิ้นสูญเรียกว่าแรงขึ้นๆเรื่อยตามกำลังใจและแรงใจปรารถนาของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่ารัตนหทัยเหมือนทรัพย์อันประเสริฐเพราะจะช่วยให้ความสำเร็จลอยลงมาจากอากาศประเคนถึงหน้าเราได้ตลอด..นี่คือกำลังทิพย์ของพ่อพระพุทธท่านไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนท่านก็ไปช่วยได้หมดด้วยกำลังแห่งรัตนหทัยนี้ทั้งครูบาอาจารย์และทิพย์กายทั้งหลายท่านย่อมไม่ทิ้งไปไหนเลย ต่อให้ปัญหาและอุปสรรคจะใหญ่คับฟ้าครูก็ไม่ทิ้ง พ่ออาจารย์ท่านว่าปัญหามากมายแค่ไหนก็ไม่เท่าจิตใจที่ปรารถนาจะรื้อขนสัตว์ผู้ยากออกจากทะเลทุกข์...ไม่มีสิ่งใดจะลึกล้ำ,ลึกซึ้ง,หนักแน่นและหนักหนาไปกว่ามหากรุณาแห่งใจของพ่อพระพุทธ ไม่ว่าจะลำบากเพียงใดท่านก็ช่วยพาส่งถึงฝั่งฝันความสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านว่าส่งให้ถึงสิ่งที่ต้องการให้สมหวังดั่งเราโดยสารไปในมหานาวา อันมหาธาตุรัตนหทัยไร้สิ้นสูญนี้เป็นสิ่งแทนความเป็นห่วงและกำลังใจของพ่อพระพุทธท่านเป็นสิ่งที่มีค่าและมีกำลังมากเกินกว่าจะอุปมาได้ เป็นมหาธาตุที่คู่ควรเฉพาะผู้รับที่ฝากใจไว้กับท่านเท่านั้น

พ่ออาจารย์ท่านนำตะขอที่ท่านหล่อจากคชกุศโบราณและทำวิชาเกี่ยวทรัพย์มาฝังไว้บริเวณมหาธาตุรัตนหทัยด้วย ท่านว่าเป็นเคล็ดคือเกี่ยวใจ ใดใดในโลกของทุกสรรพชีวิตหากได้ใจเขาแล้วเราถือว่าได้ความรักความสำเร็จทั้งหมดเป็นเคล็ดเกี่ยวใจได้รักได้เมตตา ผู้ที่ครองพระพิชัยมาลานั้นจะทำอะไรเข้าหาใครปรารถนาสิ่งไหนจะง่ายดายมากๆเป็นพิเศษเหมือนกำใจกำชีวิตความรู้สึกนึกคิดผู้อื่น อยู่เหนือเกมเหนือกรรมเหนือวาระความคิดอ่านมีอำนาจควบคุมความคิดบุคคลรอบข้างส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ดุจขอคชกุศนั้นควบคุมช้างอันเป็นสัตว์มากบารมีเป็นสัตว์ใหญ่ให้เกรงกลัวเชื่อฟังทำตามได้ฉันใดขอเกี่ยวใจก็ควบคุมใจผู้อื่นโดยพลันได้ฉันนั้น

คาถาบูชา (นะโมสามจบ)
อะหัง วันทามิ อิธะ ปะติฏฐิตา พุทธะธาตุโย ตัสสานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เม

*** ลงรายละเอียดของพระพิชัยมาลาคร่าวๆก่อนนะครับเพราะเป็นพระพิมพ์โบราณรุ่นแรกของพ่ออาจารย์ท่านที่หลายๆคนไม่มีโอกาสได้รู้...ได้เห็น...นัับว่าเป็นพระพิมพ์ปฐมฤกษ์เบิกฟ้าในตำนานของท่านอย่างแท้จริง

*** รายละเอียดเกี่ยวกับรัตนหทัยไร้สิ้นสูญ...ไร้สิ้นสูญอย่างไร..โคตรพิเศษแค่ไหนเอาไว้ติดตามกันอีกที รายการนี้เป็นของยุคแรกองค์พระมีน้อยมากให้บูชาได้เพียง 5 องค์ ทั้งยังเป็นพระแก่มวลสารที่สุดซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเล่นฤทธิ์และลองฤทธิ์มาสารพัดวิธีจนท่านเองภูมิใจและพึงพอใจมากๆใครชอบของแรงๆชุดนี้ห้ามพลาดนะครับ

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น (รายละเอียดแบบเต็มๆจะมาลงให้อีกที) ท่านว่าของสองสิ่งในองค์พระนี่ท่านจำกัดไว้เฉพาะลูกหลานที่เคยเกิดทันยุคทันสมัย...คนที่พ่อพระพุทธท่านยังไม่ทิ้ง..คนที่มีความผูกพันทางสายสัมพันธ์แต่เก่าก่อน..ดุจเลือดในอก..ดุจลูกหลานในสายเลือดเท่านั้น เช่นนี้ท่านจึงให้เปิดจองก่อนแบบมาไวไปไวไม่ได้แจ้งเตือนล่วงหน้า เอาแค่วาสนาคนเท่าที่มีผูกพันกันไว้เท่านั้น

ร่วมทำบุญบูชา พระพิชัยมาลามหาจักรพรรดิ์มหาธาตุรัตนหทัยไร้สิ้นสูญ (ชุดแก่นโลหิตธาราปฐมโพธิญาณ) บูชา 4,000 บาท

​

 

หากใครยังจำกันได้จะรู้ว่าพระชุดนี้เป็นพระปฐมฤกษ์ของพระพิมพ์ คือการสร้างพระพิมพ์รุ่นแรกและครั้งแรกของพ่ออาจารย์ท่าน ซึ่งชุดนี้ก็นานมากแล้วไม่คิดว่าท่านจะยอมเอาออกมาเพราะมีของวิเศษอยู่สองสิ่งคือ
1. มหาธาตุรัตนหทัย
2. แก่นโลหิตธาราปฐมโพธิญาณ
ของทั้งสองชนิดนี้จริงๆพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่มีคำจำกัดความได้เพราะทั้งสองอย่างนั้นมีคุณลึกซึ้งมากแม้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ใช้หลบหลีกเวรกรรมได้อย่างน่าประหลาด แค่ได้ครอบครองไว้เป็นสมบัติก็ด้วยไม่รู้ว่าต้องสะสมบุญมาดีกี่ชาติต่อกี่ชาติ ก็เป็นศักดิ์ศรีพระรุ่นแรกที่ท่านเคยทำไว้ครับนั่นคือสูงสุดและดีที่สุด รายละเอียดเต็มๆเดี๋ยวยอดเต็มจะมาลงอีกทีเพราะพระมีน้อยมาก..รับรองว่าแรงอย่างประเสริฐ..เป็นเลิศทางอภินิหาริย์อย่างที่สุด

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

ก็มีแจ้งประสบการณ์เข้ามาเรื่องพรหมกุมารทั้งสี่เมื่องวดวันที่ 1 กค 64 มีคนลองขอเลขท้ายสองตัวขอท่านแบบไม่ต้องกลับ กลางคืนฝัน 29 แล้วก็ออกตรงๆไม่ต้องกลับ

จริงๆเรื่องหวยนี่ผมคนนึงนะที่ซื้อเฉียดไปเฉียดมาทุกงวดขนาดฝันเพราะผมหยิบแต่ลอตเตอรี่งวดละใบ ส่วนตัวเชื่อว่าถ้ามันจะถูกใบเดียวก็ต้องถูก แต่พอเห็นหวยรางวัลที่หนึ่งทีไรได้ขำทุกที เพราะเหมือนมีคนพยายามจะเล่นตลกกับเราเลขมันกลับหน้ากลับหลังบ้างเลขตัวเดียวกันเบิ้ลคนละตำแหน่งบ้าง
*** เรื่องหวยนี่ต้องย้ำนะครับว่าซื้อเพื่อเสี่ยงดวงอย่าไปลงทุนกับมันเยอะ เอาแค่เล่นพอสนุกนะครับ ห้ามไปคิดเอาจริงเอาจังเพราะคนที่ติดหวยจนเสียผู้เสียคนก็มีให้เห็นมามาก แค่เฉียดไปเฉียดมาพออารมณ์ดีและรู้ว่าโอกาสเรายังมาไม่ถึงแค่นี้ก็ดีแล้ว...ถ้าคนไหนจะถูกใบเดียวมันก็ถูก

วันนี้เดี๋ยวส่งของแล้วมาลงรายละเอียดพระให้นะครับ

 

รามจันทร์,ลักษณ์มัน สองพี่น้อง…ติดตามกันดีๆนะครับ

 

ร่วมทำบุญบูชา พระผงศิวะตาณฑวะชุดสิริสมบัติไชยยะธรณี (ฝังตะกรุดครูชุดรามจันทร์,ลักษมัน)

หากกล่าวถึงครูพระสยมแล้วหลายๆคนย่อมทราบคร่าวๆว่าเป็นครูใหญ่ฝ่ายเทวะที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจเผยแผ่เกียรติคุณของท่านมายาวนาน แต่น้อยคนนักที่รู้อะไรลึกๆ...พ่ออาจารย์ท่านว่าพระศิวะนั้นคือกลไกยิ่งใหญ่อันลี้ลับซึ่งพระองค์จะเป็นผู้ผลักเคลื่อนมวลพลังธรรมชาติ โดยพลังเหล่านี้แม้มนุษย์จะเข้าใจว่ามีอยู่หรือรู้ว่ามีก็ไม่สามารถเข้าถึงหรือเชื่อมต่อกระแสนั้นเพื่อนำพลังงานไปใช้ได้ ท่านว่าหากอยากเข้าไปสัมผัสพลังงานเหล่านั้นจำต้องฝึกตนด้วยโยคะ ดังนี้ครูพระสยมท่านจึงให้สร้างพระสำคัญเพื่อเชื่อมต่อมหากระแสให้ผู้ศรัทธาในรูป ในนามของท่านได้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งในพลังที่เป็นวงจรเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันมีความลึกซึ้งอยู่มากเพราะทั้งจังหวะและอุบัติการณ์ต่างๆในลีลาของธรรมชาติล้วนเกิดขึ้นเมื่อครูพระสยมท่านผลักเคลื่อนมวลพลังทั้งหลาย

ซึ่งครูพระสยมท่านต้องการให้พ่ออาจารย์ทำพระผงตาณฑวะและต้องเป็นพิมพ์นี้เท่านั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อพระศิวะทรงเต้นตาณฑวะ การเต้นนั้นก็ถือเป็นการเคลื่อนวงจรพลังงานชีวิตให้ปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงสิ้นสุด เมื่อพระองค์ทรงเต้นอย่างร้อนแรงและรวดเร็วขึ้นจังหวะและวงจรที่จะเกิดอุบัติการณ์ต่างๆในลีลาของธรรม..ของกรรม..ของชีวิตก็จะหมุนไปอย่างรวดเร็วนั่นคือกาลเวลาตั้งแต่เกิดจนดับ..จะได้หรือมี..จะอยู่หรือตาย..จะรักษาหรือจะทำลายนั้นย่อมถูกควบคุมด้วยกระแสพลังธรรมผ่านการผลักดันขับเคลื่อนของตาณฑวะทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพระสยมท่านตั้งใจให้เราทำพระผงตาณฑวะนี้ก็เพื่อให้เหล่าผู้มีศรัทธาในตัวท่านได้อาราธนาพระผงคุณวิชาติดตัว จะได้ซึมซับและผลักดันกระแสพลังงานต่างๆให้คงที่ไม่มากไปจนร่างกายผิดปกติ ไม่น้อยไปจนเกิดโรคภัยและความยากลำบาก ที่ต้องเพียรพยายามมากหน่อยก็ลดลงมา ที่ไม่ได้ก็ต้องได้ ที่ไม่มีก็ต้องมีต้องเกิด เรียกว่าปรับจังหวะหลายอย่างในชีวิตให้ลงตัวหรือให้มีความพอดีนั่นเอง ท่านว่าชีวิตของใครที่คิดว่าขาดความพอดี,ขาดสมดุลย์,ยังไม่ลงตัวเหล่านี้ต่อไปเขาจะต้องเข้าถึงองค์พระศิวะเพื่อจะใช้กำลังแห่งตาณฑวะเปลี่ยนแปลงตัวเขา ด้วยการเต้นรำของพระศิวะก่อให้เกิดปฏิกิริยาของการสร้างโลกและมนุษย์เป็นพลังการสร้างสรรค์ที่แตกต่างจากการสร้างของพรหม เพราะจังหวะของตาณฑวะนั้นดำเนินไปอย่างร้อนแรงและรวดเร็วมาก ดังนั้นคนที่ใจร้อนหรือมีปรารถนาสิ่งใดที่แข่งกับเวลาหรือมีเป้าหมายที่ต้องการความสำเร็จและเห็นผลในระยะสั้นอันใกล้เช่นนี้จึงจำเป็นต้องใช้พลังแห่งตาณฑวะนี้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นการสร้างสรรค์,ผลักเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่สุด

ความหมายแห่งตาณฑวะ
ศิวนาฏราชจะปรากฏในท่าย่างสามขุมหรือเรียกว่าตรีวิกรมโดยมีสัญลักษณ์ที่พระกรขวาถือกลองคือการสร้างโลก พระกรซ้ายมีเปลวเพลิงล้อมเป็นกรอบคือการสิ้นสุดที่ไฟจะเผาผลาญโลก เสียงกลองเป็นสัญลักษณ์แทนธาตุแรกที่ถือกำเนิดขึ้นในจักรวาล นั่นคือกลองเป็นสัญลักษณ์แห่งการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆทั้งมวลในขณะที่อัคนีเป็นสัญลักษณ์ของการทำลายล้าง ทั้งนี้การทำลายล้างนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นการทำลายเพื่อให้เกิดใหม่ให้มีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม ทั้งยังล้างความชั่วล้างอวิชชาทั้งหลายให้หมดไปเพื่อเปิดเส้นทางการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆขึ้นมาใหม่และสร้างสิ่งที่เป็นมงคลเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เมื่อแขนทั้งสองซึ่งแทนการสร้างสรรค์และการทำลายล้างนี้กางออกไปในระดับเสมอกันย่อมบ่งบอกถึงสัจธรรม"มีเกิด ก็ย่อมมีดับ" นั่นเองในขณะที่อะไรที่ดับไปแล้วก็ย่อมเกิดขึ้นมาใหม่ได้ ส่วนมือด้านหน้าขององค์ท่านนั้นอยู่ในปางอภัยด้วยท่านตั้งใจจะบอกทุกคนว่า "จงอย่าได้กลัวสิ่งใดๆเลย" เพราะไม่มีภัยใดๆจะมากล้ำกรายต่อเราได้ด้วยครูพระสยมท่านจะเป็นผู้ปกป้องเราเสมอ ทั้งมืออีกข้างที่มีลักษณะดั่งงวงช้างนั้นปลายนิ้วย่อมชี้ลงไปที่พระบาท อันพระบาทที่ยกขึ้นมาจากพื้นย่อมบ่งบอกถึงการหลุดพ้นจากวัฏสงสารส่วนพระบาทที่ยืนเหยียบอย่างมั่นคงนั้นแทนการเหยียบสะกดข่มอวิชชาไม่ให้โผล่ขึ้นมาบดบังความจริง,ความรู้แจ้ง ในขณะที่เกศาของท่านแผ่ขยายไปทั้งซ้ายและขวาดุจว่าไม่ยึดติดและละทิ้งชีวิตทางโลก

พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพระสยมนั้นท่านกำชับเสมอว่าพิมพ์ทรงตาณฑวะนี้ต้องกลับข้างกันท่านกำหนดให้ไขว้ขาในท่ากลับข้าง ท่านว่าวงจรทุกอย่างจะได้กลับทั้งหมดเป็นวิชาเพชรกลับจะเปลี่ยนจากร้ายให้กลายดี ซึ่งวิชานี้เมื่อจุติในเทวศาสตร์แห่งครูพระสยมย่อมได้ชื่อว่ามีอาถรรพ์สูงที่สุดแม้ผู้ที่จะกระทำการปลุกเสกต้องเป็นผู้ที่มีพลังจิตสูงอีกทั้งต้องชำนาญในการเข้าออกสมาธิ ต้องบริกรรมพระคาถาปลุกเสกจำเพาะทั้งเดินหน้าและถอยหลัง พ่ออาจารย์ท่านว่าขณะที่บริกรรมปลุกเสกนั้นหากวางอารมณ์ผิดแม้แต่นิดเดียวตรงนี้อาจถึงขั้นเสียสติวิปลาสหรือไม่ก็มีอันเป็นไปประสบวิบัติต่างๆ เพราะนี่เป็นวิชาเพชรกลับของครูพระสยมที่มีอาถรรพ์มากและทำเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตคน ดังนั้นนอกจากพ่ออาจารย์ท่านจะทำวิชาปลุกเสกแล้วยังเชิญครูพระสยมท่านมาทำให้ด้วยอีกแรงหนึ่ง ท่านว่าต่อให้เราทำได้ดีซักร้อยครั้งก็ไม่สู้ครูท่านทำให้เสียครั้งเดียว นอกจากนั้นเหตุหนึ่งแห่งการเกิดตาณฑวะยังปรากฏขึ้นด้วยปรากฏการณ์ของความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ด้วยความเสน่หาและระลึกถึงอย่างยิ่งยวดที่องค์มหาเทพมีต่อพระชายาเมื่อพระแม่สตีสิ้นไปกับไฟพระองค์ทรงแบกพระศพพระแม่สตีที่ยังถูกเผาไม่หมดไปทั่วทั้งจักรวาล และทรงเต้นตาณฑวะจนจักรวาลกำลังจะเข้าสู่การทำลายล้างเป็นมหาวิจุณ พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยเหตุนี้เองครูพระสยมจำให้สร้างพระผงตาณฑวะขึ้นอีกครั้ง เพราะพระผงนี้แสดงอออกถึงกำลังอันจะเปลี่ยนแปลงกฏแห่งธรรมทั้งหมด โดยมีพลังพื้นฐานที่ใช้ขับเคลื่อนมาจากความรัก,ความเสน่หาและความคิดถึงอย่างยิ่ง ทั้งในกระบวนการวิชาทางมายาศาสตร์ทั้งหลายที่พ่ออาจารย์ท่านถนัดที่สุดก็คือวิชาในฝ่ายของเทววิทยา พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าวิชานี้แต่เดิมท่านไม่เคยลงหรือทำให้ใครเต็มวิชาเช่นนี้มาก่อนด้วยว่าวิชานี้หาผู้รู้และสืบทอดยากนักท่านเลยประสงค์จะทำไว้เสียซักครั้งหนึ่ง

ในส่วนของมวลสารองค์ครูพระสยมนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมผงเกสรมงคลทั้งเก้า,ผงดอกรักซ้อน,ผงว่านดอกทอง,ผงเสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์ เสน่ห์จันทร์ขาว เสน่ห์จันทร์แดง เสน่ห์จันทร์เขียว เสน่ห์จันทร์หอม,ผงเสน่ห์จันทร์ทอง,ผงหิ่งหายผี,ผงไม้กาหลงรากรักซ้อน,ผงไม้กาหลงรากมะยม,ไม้ยอตายพราย,ผงยาสัก,ผงหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์,ผงรังต่อหัวเสือ,ผงรังแตน,ผงรังผึ้งขวางตะวัน,ผงไม้คูณตายพราย,ผงพรายตานี,ผงพรายตะเคียน,ผงกาฝากรัก,ผงกาฝากมะยม,ผงกาฝากขนุน,ดินเจ็ดนครเก้าบุรี,ดินขุยปู,ดินจอมปลวก,ข้าวก้นบาตรหินพระฤาษี,ชานหมากหินพระฤๅษี, เพชรหน้าทั้ง,น้ำมันตบะเสือ,น้ำมันกำลังหมี,น้ำมันหมื่นคาถา,น้ำมันหนูกินนมแมว,...ท่านนำมวลสารทั้งหมดมาหมักและผสมคลุกเคล้าปั้นเป็นแท่งผงก่อนจะลงยันต์ทำผงวิเศษ คือผงชุด "สิริสมบัติไชยยะธรณี" ผงนี้สำคัญนักพ่ออาจารย์ท่านวว่าอยู่ที่ไหนเงินก็วิ่งเข้าหาสมบัติก็วิ่งเข้าใส่ไม่หนีไกล ดั่งว่าเงินตราแลสมบัติจะพิศวาสรักใคร่เราดุจมีจิตวิญญาณ..ไม่หาก็วิ่งเข้า รักเราไม่ไปไหน ..คนที่เก็บเงินอยู่เก็บไปเรื่อยๆไม่หมดไม่สิ้นก็คือคนรวย พ่ออาจารย์ท่านว่าผงวิชานี้สำคัญมากเพราะเป็นผงที่ทำให้ดวงเราสัมพันธ์กับทรัพย์สินเงินทองดุจเขามีชีวิตพิศวาสรักใคร่ไม่ห่างหาย ..ทั้งยังเป็นเกียรติเกริกไกรเป็นชัยชนะทั่วทั้งพื้นธรณี เป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่จะคิดอ่านทำกิจใดจะไม่แพ้..ไม่เป็นรองผู้ใดเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าเงินรักกับรักเงินนี่มันต่างกันนะ ถ้าเรารักเงินเราต้องวิ่งหามันด้วยความเหนื่อยยากแต่ถ้าเงินรักเรามันจะเป็นวาสนาเขาหาเราเอง

### ซึ่งพระผงสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ผูกตะกรุดโทนไว้สองสูตร..โดยตะกรุดทั้งสองนี้ท่านว่าลงยากมากต้องฝืนจารอักระตัวเล็กๆมากมายแต่ละดอกลงเป็นตะกรุดโทนได้สบายๆ...เป็นสายพระเวทย์วิษณุมนต์ที่ตีค่าไว้เทียบเท่าองค์ราม,องค์ลักษมัน มีตะกรุดคู่นี้สถิตย์อยู่ดุจมียอดพระจักรพรรดิแห่งยุคสถิตย์อยู่กับเราด้วยกายเนื้ออันมีชีวิตของพระองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาทำตะกรุดชุดนี้มีค่ามากประเมิณค่าหรือกำลังใดๆไม่ได้เลยฉันบอกได้คำเดียวว่าพลังแฝงเป็น ..อนันต์

ดอกแรกพระรามจันทร์ปราบสี่ทวีป
ตะกรุดรามจันทร์นั้นท่านลงด้วยหัวใจพระรามขับกำลังด้วยวิษณุมนต์กำกับวิชามหาปราบเต็มวิชาโดยตั้งใจว่าจะทำให้เขาเอาไปใช้กันง่ายๆ ท่านตั้งใจจะทำให้พวกคนที่ไม่มีอาคมไม่มีตบะไม่มีสมาธิให้เขาใช้ได้ เรียกว่าใครเอาไปถือครองก็ใช้ได้โดยเฉพาะพวกคนที่คิดการณ์ใหญ่..คนที่โดนเบียดเบียนรังแก..เป็นไก่รองบ่อน..วาสนาน้อยเหล่านั้น ซึ่งตะกรุดดอกนี้ท่านว่าใช้ได้หลายทางอยู่ที่ความปราดเปรื่องของผู้อาราธนา พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำวิชาทำตะกรุดมหาปราบทุกตำรับของท่านมาเข้ากับที่สุดของวิชาหัวใจพระรามคือวิชาสายปราบโลกและปราบแผ่นดินทั้งสี่ทวีป ซึ่งเป็นอะไรที่เกินและมากกว่าวิชามหาปราบทั่วไป

ดอกหนึ่งรามจันทร๋สำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านลงตำรับกลับดวง,พลิกดวง,ฟื้นวาสนา,เปลี่ยนแปลงชะตาลิขิต โดยอุปมาเหมือนกับว่า ตัวเราเป็นเพียงมนุษย์สองมือ ไร้กองหนุน ตกต่ำ ไร้วาสนา ก็ยังปราบแผ่นดินสี่ทวีปล้มศัตรูล้างแผ่นดินร้อนให้ร่มเย็นได้ เป็นตะกรุดที่มีอำนาจรุ่งเรืองในวาสนาบารมีดุจเจ้าโลกอย่างถึงที่สุด เรียกว่าทำให้เอาไว้ใช้เฉพาะกาล ใช้เพื่อชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของชีวิต..ใช้เพื่อทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไร้หนทาง..ไร้กำลังและสิ้นความคาดหวังให้เกิดขึ้นได้ดั่งตัวเราเพียงผู้เดียวก็ปราบโลกเอาชัยได้ในทุกกิจที่กระทำ

พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ต้องใช้คุณแห่งพระรามจันทร์เท่านั้น ก็เพราะองค์พระอวตารนั้นเป็นการแบ่งภาคของพระเป็นเจ้าลงมาปราบยุคล้างอธรรม เป็นหน้าที่ตายตัวที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับมวลมนุษย์ ด้วยกำลังพระอวตารอันเป็นจ้าวโลก..เป็นแม่ทัพสยบศึก มีอานุภาพทางมหาอำนาจ,มหาปราบ,มหาระงับ...ทุกข์,เวร,เภท,ภัย พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ตะกรุดดอกนี้ไปตกอยู่กับใครเขาก็จะมีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปโดยเร็วพลัน ดั่งพระรามปราบโลกล้างยุคเข็ญ ชนะพญายักษ์ที่อยู่ในจุดสูงสุดของโลกเป็นศัตรูที่เหนือกว่ามนุษย์และเทวดาอย่างทศกัณฐ์ได้ฉันใด ท่านบอกว่าแม้ตัวคนที่เอาไปใช้ก็ต้องชนะอุปสรรคขวากหนามทุกอย่างได้ฉันนั้น

ตะกรุดสำคัญนี้ให้ใช้ทางดับทุกข์,ดับภัย,ดับเคราะห์กรรม,ระงับเหตุร้าย,ระงับอันตราย,ระงับเรื่องไม่ดีทั้งหลาย ทั้งยังใช้กันภัยกันความเดือดร้อนได้ทุกอย่างปราบเขาได้ทั่วสยบเขาได้ทั้งโลก ท่านว่าต่อให้เป็นมดตัวเล็กๆก็ล้มช้างได้ เป็นคนตัวเล็กๆก็ฆ่ายักษ์ได้เช่นนั้น ดุจองค์พระอวตารปราบสี่ทวีปได้สำเร็จลุล่วงฉันใดตะกรุดดอกนี้จึงดีครบสูตร ย่อมระงับดับพิษ..ดับภัย..ดับอุปสรรคปัญหาอันตรายใดๆไม่ให้เข้ามาใกล้ชีวิตได้เช่นนั้น ท่านว่าเอาติดตัวไว้เถิดชีวิตจะสดใสทุกข์ภัยไม่มีขอเพียงอย่างเดียวคือให้พกติดตัวจริงๆท่านจะแก้กันปัญหา..แรงกรรมจะเสื่อมถอย..คราเคราะห์จะหมดไป ระงับดับเรื่องร้อนเรื่องร้ายเรื่องไม่ดี ทั้งใช้ปราบคู่แข่งขันในทุกๆด้านไม่ว่าจะเรื่องรัก,เรื่องงาน,เรื่องส่วนตัวสารพัดเรื่องท่านว่าปราบเขาได้หมดทุกท่วงทำนองแห่งชีวิตเพราะครูท่านปกาศิตไว้ให้ใช้ปราบและปราบเท่านั้น ดังนั้นเหรียญนี้จึงเป็นยอดแห่งการปราบปรามและสะกดข่มทุกสรรพชีวิต ท่านว่าหนนี้เน้นไปที่ปราบศัตรูพวกมีบารมีมาก มีบุญเยอะ มีวาสนาสูง ปกติเจอคนพวกนี้เราจะทำอะไรไม่ได้เลยแม้ห้อยพระชั้นครูอย่างไรก็เงียบแต่ท่านว่าครานี้ตะกรุดรามจันทร์ทำมาเพื่อแก้กลเหตุเหล่านั้นโดยเฉพาะให้ปราบโลกสะกดไว้ทั้งหมด ระงับเหตุได้แม้ขึ้นโรงขึ้นศาลพ่ออาจารย์ท่านว่าขอให้พกไว้เถิดแล้วก็ใช้ชีวิตของเราไปแบบปกติรับรองว่าสยบได้ทั้งหมดทุกคนทุกจำพวก และแม้แต่วิชาหรือของดีที่ศัตรูเราใช้หรือบูชาติดตัว ทั้งมายาศาสตร์แลเวทย์มนต์กลใดย่อมไม่มีผลแก่เราทั้งสิ้น มีฤทธิ์เก่งกาจปราบไตรจักรหมายถึงปราบอันตรายของสามโลกทรงอานุภาพทางป้องกันอันตรายทั้งบนบกในน้ำและอากาศ มีมหาอำนาจข่มศัตรูทุกกรณีเป็นเดชเดชะชนะไพรีได้ทั้งปวง

นอกจากตะกรุดนี้จะปราบและสะกดข่มเรื่องราวและปัญหาที่เข้ามาถึงตัวเราเป็นประจำสารพัดเรื่องทุกเช้าค่ำเเล้ว เมื่อต้องเผชิญเคราะห์ภัย ทุกข์เข็ญ เวรร้าย รู้สึกว่าดวงไม่ดี,โชคชะตาราศีเศร้าหมองไม่ผ่องใส เน้นว่าเรื่องหนักๆ พวกมีกรรมมากๆ มีเรื่องทุกข์มากควรจะกระทำ ท่านให้อัญเชิญตะกรุดออกมาลูบหน้าลูบตาเพื่อล้างเคราะห์ภัยเหล่านั้น และเหนือสิ่งอื่นใดทุกกิจ ทุกการกระทำที่ผู้อาราธนาตราบใดที่ยังตะกรุดรามจันทร์พระอวตารนี้อยู่ ท่านว่าทุกความปรารถนานั้นจะต้อง “สัมฤทธิ์ผล” พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่มีติดคอให้หมั่นท่องคาถาอาราธนาบ่อยๆชีวิตจะห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บและเคราะห์หามยามร้ายได้ทั้งปวง..ยิ่งหมั่นสวดบริกรรมด้วยก็ยิ่งดี เพียงเท่านี้เรื่องร้ายก็จะกลายเป็นดี เคราะห์หนักก็จักเบาบาง เคราะห์ดีก็จะยิ่งดีทวีขึ้นแบบฉับพลันทันใด ทั้งยังเน้นเทวานุภาพในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย ปราบศัตรูหมู่มาร..ปราบสิ่งชั่วร้ายสิ่งไม่ดี..กันคุณไสย..เป็นที่สุดของชัยชนะสยบผู้มากด้วยตบะบารมีทั้งหลายแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังได้ลงวิชาทางมหาโภคทรัพย์เสริมไว้ด้วยเพื่อเน้นขับเคลื่อนพลังให้คนใช้มีชัยชนะทางทำมาหากิน ชนะคน ชนะตน ชนะชีวิต ทั้งใช้ทางโภคทรัพย์ เรียกทรัพย์ได้ตามต้องการ ท่านว่าตะกรุดนี้มีคุณมากดุจใช้ได้ร้อยเรื่องพันเรื่องให้พิจารณากันให้ดีสุดแล้วแต่จะนำไปใช้ได้ทุกทางนั่นทีเดียว ท่านว่าจะใช้ทำน้ำมนต์เวลามีคดีความให้ชนะความกลับมาก็ยังได้ จะพกพาเป็นมหาอำนาจเป็นนะจังงังเป็นมหากำบังย่อมใช้ได้ทั้งสิ้นออกได้ทุกทาง เช่นนั้นดอกรามจันทร์จึงได้ชื่อว่าเป็นของวิเศษ อยู่กับผู้ใดนอกจากเปลี่ยนชีวิตให้เจริญในลาภยศมิขาดแล้ว ยังมีความศักดิ์สิทธิ์สามารถนำพาให้ผู้อาราธนาฟันฝ่าอุปสรรคเคราะห์กรรมที่ไหลเข้ามารบกวนได้ ย่อมคุ้มกันสรรพเสนียดจัญไรสารพัดแม้แต่คุณไสยนานาประการ หากนำติดตัวไปทิศทางใดข้าศึกศัตรูก็จะพ่ายแพ้ไปสิ้น มิอาจทำอันตรายแก่เราได้เลย ซ้ำยังเป็นที่รักใคร่แก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลายทั้งปวงพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นที่รักของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงขั้นฟ้าหนุนดินหนุน เช่นนั้นขอเพียงให้รู้จักทำมาหากินทรัพย์สมบัติก็จะงอกเงยเพิ่มพูนขึ้นมาเองจะมีเงินทองมิขาดเลย แม้ปรารถนาสิ่งใดก็จะได้ตามต้องการสัมฤทธิ์ผลทุกประการ ท่านว่านี่ว่ากันไว้แบบคร่าวๆตามอานุภาพวิชาและพระยันต์ต่างๆที่ท่านพิจารณามาว่าดีที่สุดแล้ว

ดอกที่สองพระลักษมันอนันตนาคราช
วิชาพระลักษณ์เฉยๆเราไม่ทำเเต่ถ้าเป็นพญาอนันตนาคราชก็อีกเรื่องหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านมักจะพูดหลายครั้งว่ารู้มั๊ยพระลักษมันนั้นคือใครเเล้วทำไมพระลักษมันถึงมีพระวรกายเป็นสีทองคำธรรมชาติ ท่านเล่าว่าจริงๆเเล้วพระลักษมันของฮินดูนั้นก็คือคติการมาเกิดของพญาอนันตนาคราชมหาราชาเจ้าเเห่งนาคราชทั้งปวงของพิภพบาดาลนั่นเอง พญาอนันตนาคราชนั้นยิ่งใหญ่นักเป็นพญานาคที่ไม่กลัวพญาครุฑชั้นสูงเช่นพญาสุเรนทร์เเละยังมีฤทธิ์เสมอกันไม่สามารถเปรียบกันได้ด้วย ที่พระลักษมันมีพระวรกายสีทองก็เพราะว่าเกิดมาจากพญาอนันตนาคราช(เศษะนาค)ที่มีร่างดั่งทองคำเกล็ดเป็นทองคำนั่นเอง

ดอกที่สองลักษมันนี้ต้องลงหัวใจพญาอนันตนาคราชและวิชานาคราชเฝ้าทรัพย์ ด้วยพญาอนันต์คือมหาพญานาคเจ้าเเห่งมวลนาคทั้งปวง พญานาคต่างๆล้วนเป็นลูกหลานสืบเชื้อสายเชื้อวงศ์มาจากท่าน ตามคติพราหมณ์ฮินดูเเท้ๆนั้นพญาอนันตนาคราชที่ยิ่งใหญ่ถึงปานนี้ก็เพราะเป็นมหาอวตารภาคหนึ่งของพระนารายณ์ด้วยนั่นเอง..รู้กันหรือไม่ เพราะพญาอนันตนาคราชที่มีฤทธิ์เลิศล้ำนั้นเป็นอวตารของพระเป็นเจ้า อาจจะฟังดูตลกๆที่พระเป็นเจ้าจะอวตารเพื่อมาเป็นที่นอนของตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เพราะปกติพระนารายณ์นั้นย่อมบรรทมหลับเป็นเนืองนิจ การที่จะหาสิ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจปรากฏขึ้นมารองรับพระวรกายของพระองค์ได้นั้นก็เป็นเรื่องสำคัญมาก การหลับของพระนารายณ์นั้นเเต่ละครั้งกินเวลานับกัปนับกัลป์เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นอะไรจะดีไปกว่าตัวพระองค์เองนั่นเเหละอวตารลงไปเกิดซะเอง พญาอนันตนาคราชนั้นใช่ว่าจะลงมาเกิดเป็นพระลักษมันเท่านั้นเมื่อพระนารายณ์ลงไปเกิดเป็นพระกฤษณะพญาอนันตเศษะนาคราชนี้ก็ไปเกิดเป็นพระพลรามพี่ชายของพระกฤษณะด้วย พญาอนันตเศษะในปางพระพลรามนั้นว่ากันว่ามีอำนาจมากถึงขนาดสามารถล้างโลกได้เลยทีเดียว

แท้จริงแล้วพระลักษมันนั้นมากฤทธิ์ตามคติฮินดูตอนพระรามจะยกศรเมื่อพระนางสีดาเลือกคู่ กษัตริย์ทั้งหมดเเม้เเต่ทศกัณฐ์ก็ไม่สามารถยกได้ ก่อนพระรามจะยกพระลักษมันได้เสด็จมาลองยกก่อนปรากฏว่าเเค่จับคันธนูลองกำลังดูก็รู้เเล้วว่าพระองค์เองนั้นสามารถยกขึ้น พระนางสีดาคือพระลักษมีอวตารถ้าไม่ใช่สายอวตารของพระนารายณ์เเล้วจะยกขึ้นได้อย่างไรเธอลองใช้ปัญญาซักนิดก็จะเข้าใจ หากเเต่ให้เกียรติพี่ว่าน้องจะไม่เเต่งก่อนพี่เเละพระนางสีดานั้นก็มีใจให้พระรามพระลักษมันจึงถอยออกไปเเกล้งทำเป็นยกไม่ขึ้น การทำวิชาพระลักษมันนั้นถ้าทำเพียงเเค่พระลักษณ์หน้าทองผลที่ได้ก็จะจำกัดอยู่ในญาณเทพชั้นต่ำมาครอบ..ไม่ได้ขึ้นตรงไปถึงพญาอนันตนาคราช ถ้าสร้างพระลักษณ์หน้าทองธรรมดาก็จะได้ผลเพียงเเค่นั้นไม่สามารถก้าวล่วงไปถึงความยิ่งใหญ่ของพญาอนันตเศษะนาคราชได้เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงลงวิชาและเชิญญาณแห่งพญาอนันตะเศษะแฝงร่างอยู่ในตะกรุดนี้

มาทำความรู้จักพญาอนันตนาคราชซักนิด
ราชาแห่งนาคทั้งมวลในตำนานของฮินดู อนันตเศษ(อะ-นัน-ตะ-เส-สะ) หรืออนันตนาคราชมีขนาดตัวเป็นอนันต์สมชื่อ เพราะเป็นผู้นอนอยู่ในเกษียรสมุทรและให้พระนารายณ์นอนบนหลัง บางตำนานเล่าว่าดาวนพเคราะห์ทั้งปวงนั้นก็ตั้งอยู่บนพังพานของอนันตนาคราช ส่วนหัวซึ่งมีตั้งแต่ปางห้าหัวถึงหนึ่งพันหัว ไม่พ่นพิษเหมือนนาคอื่นๆแต่จะพ่นเป็นเปลวไฟล้างโลกและอนันตนาคราชก็จะร้องเพลงสรรเสิญบารมีของพระนารายณ์เป็นนิจ ในตำนานเล่าว่าตอนที่เหล่านาคเล่นโกงที่แม่ไปพนันกับนางวินตาซึ่งเป็นแม่ของพญาครุฑ(ทั้งคู่พนันสีม้าของพระอาทิตย์ เหล่านาคนั้นพ่นพิษใส่จนหางของม้าพระอาทิตย์เป็นสีดำบ้างก็ว่าเหล่านาคตัวเล็กๆได้เลื้อยเข้าไปแทรกในขนสีขาวจนดูสีดำเป็นหย่อม) อนันตเศษะนั้นรังเกียจบรรดาน้องๆที่เล่นโกงเลยหนีไปจำศีลอยู่ตัวเดียวเวลาผ่านไปพระพรหมก็มาเจอเข้า เมื่อทราบว่าอนันตเศษไม่ชอบใจที่น้องโกงพนันเลยให้ไปนอนในเกษียรสมุทรเป็นเตียงให้พระนารายณ์ คำสาปที่ทำให้ครุฑจับนาคกินได้จึงไม่รวมถึงอนันตเศษะด้วย

ตำนานที่ดุเดือดของอนัตเศษะนาคราชอันเป็นที่สุดนั้นกล่าวว่า ครั้งหนึ่งอนันตเศษะเคยโผล่หัวขึ้นไปบนสวรรค์(ไม่ใช่มุขเพราะตัวยาวจนไม่ต้องขึ้นไปทั้งตัวเเค่ชะโงกหัวก็ไปถึงสวรรค์เเล้ว) และพูดกับเหล่าเทวดาว่าในสามโลกนี้มีแต่ตรีมูรติ(ศิวะ,นารายณ์,พรหม)เท่านั้นที่มีอำนาจเหนือตน หากใครไม่เชื่อแล้วก็จงมาประลองกำลังกันเถิด เหล่าเทวดากลัวหัวหด เเม้เเต่พระอินทร์ยังขยาดไม่กล้าสู้หน้าหรือรับคำท้าพญาอนันตนาคราชได้ มีแต่พระพายที่กล้าพอเพราะมีทิฏฐิมานะคิดว่าอย่างไรนาคตัวนี้ก็เป็นแค่ดิรัจฉาน(ดูถูกท่าน)การจะมาท้าตีท้าต่อยกับเทวดาจึงนับว่าโอหังนัก คงลืมนึกถึงกำเนิดที่เเท้จริงของท่านไปเเม้เเต่พระอินทร์ซึ่งเป็นเทพที่จัดเป็นหัวหน้าพระพายยังไม่อยากจะต่อกรด้วย เมื่อพระพายรับคำท้าว่าแล้วพญาอนันตนาคราชก็เอาตัวเองพันรอบภูเขาลูกหนึ่งไว้บอกว่าให้พระพายลองทำลายภูเขานี้ดู พระพายนั้นใช้กำลังสร้างพายุรุนแรงหมายจะพัดทำลายภูเขานั้นให้ยับเยินแต่อนันตเศษก็ขยายตัวเองให้ใหญ่ขึ้นแล้วแผ่พังพานป้องไว้ได้ทุกครั้ง สุดท้ายพระพายจึงทุ่มกำลังทั้งหมดเข้าโจมตีโดยดึงเอาลมในมหาอนันตจักรวาลทั้งหมดมาใช้ก็ยังไม่สามารถพัดทำลายภูเขาได้ เทพเเห่งลมเริ่มหมดหนทางทางสุดท้ายคือดึงเอาลมทั้งหมดหนักยิ่งกว่าเก่าเเม้เเต่ในตัวสัตว์โลกและสิ่งมีชีวิตตลอดจนในโลกเเละพิภพต่างๆทั้งมวลมาใช้ด้วยรวมไปถึงตนเอง แต่ก็ถูกพญาอนันตเศษกลืนเข้าไปทั้งตัวพูดง่ายๆคือไม่มีพระพายอยู่ในโลก ทีนี้เมื่อไม่มีพระพายแล้วสัตว์โลกทั้งหลายก็หายใจไม่ออกร้อนถึงพระนารายณ์ต้องมาบอกเตียงหลังโปรดให้คายพระพายออกมา อนัตนาคราชก็ทำตามปรากฏว่าตอนที่อนันตนาคราชคายพระพายมานั้นก็บังเกิดเป็นลมรุนแรงพัดไปโดนภูเขาที่พันไว้จนราบเป็นหน้ากลองจะไม่ให้ราบได้อย่างไรนั่นคือลมทั้งหมดที่จะพึงมีในอนันตจักรวาลทีเดียวและพระองค์ก็ไว้หน้าพระพายอยู่บ้างจึงตัดสินให้เสมอกัน

พ่ออาจารย์พลท่านใช้วิชาพระลักษณ์มันเสริมหัวใจพญาอนันนาคราชท่านไม่ลืมสูตรเเต่โบราณท่านว่าเพียงวิชาพระลักษณ์นั้นยังธรรมดาไปเมื่อเราจะทำให้หนักเเน่นก็ต้องลงให้เป็นรูปเปรียบของพญาอนันตเศษะนาคราชไปเลยจึงจะมีกำลังสูงสุด ท่านว่าวิเศษเพศงูนั้นเจ้าชู้นะใช้ทางเมตตา..ชุมนุนได้เป็นอย่างดีทั้งยังมีสมบัติล้ำค่าครอบครองทั้งโลกตามนิสัยของพญาอนันตนาคราช ก็ดูสิอนันตนาคราชเพียงพระองค์เดียวให้กำเนิดลูกหลานเเละเผ่าพันธุ์มากมายนับกี่ตระกูล

คาถาบูชา
โอมตรีเนตรสวาโหม โอมตรีเนตสวาหะ วิภูติรามจันทรามหาลักษมันอนันตนาโค อภิรูปะวิษณุรูโป ศิวะรูโป อะหิอะโหนะโมนะมะฮา

*** พระผงตาณฑวะนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสร้างไว้เพื่อให้คนที่รอคอยจังหวะและโอกาสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ต้องการจะเห็นลีลาและปรากฏการณ์ในชีวิตที่แปรผันไปในทางที่ดีขึ้นด้วยความว่องไว ท่านว่านี่คือจุดประสงค์หลัก โดยคนที่ติดขัดในชีวิตอยากจะเห็นจังหวะความสำเร็จหรือการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนั่นแหละค่อยเอาไปบูชา ขออานุภาพแห่งตาณฑวะของครูพระสยมขับเคลื่อนพลังกรรม พลังธรรม พลังวัฏจักรสงสารเปลี่ยนวิถีทั้งหลายให้สุขเกิด ทุกข์ดับ ให้ลูกมีกำลังในการสร้างสรรค์ ให้ความสำเร็จเรื่องใด...(บอกเหตุท่านไป) ขอให้เหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วดุจท่วงทำนองแห่งตาณฑวะเถิด

ร่วมทำบุญบูชา พระผงศิวะตาณฑวะชุดสิริสมบัติไชยยะธรณี (ฝังตะกรุดครูชุดรามจันทร์,ลักษมัน) บูชา 900 บาท

​

 

แจ้งเพื่อทราบ

พระผงศิวะตาณฑวะนั้นจริงๆเป็นพระชุดสำคัญของพ่ออาจารย์ท่าน ด้วยตะกรุดที่ฝังด้านหลังเป็นตะกรุดที่ท่านลงบีบอักขระมากๆดอกนึงจารหลายชั่วโมง เทียบเท่าตะกรุดดอกละสี่พันของท่าน ..สองดอกก็แปดพัน

ท่านได้เอามาฝังพระผงตาณฑวะและออกให้บูชาเฉพาะช่วงโควิดนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าคนซึ่งเดือดร้อนเขาต้องการเร่งจังหวะลีลาชีวิตให้รวดเร็วด้วยอำนาจตาณฑวะ..แต่ก็กลัวคนจะไม่เห็นค่าเพราะท่านตั้งราคาถูกอย่างน่าใจหาย

*** พระชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำไว้น้อยมาก ใครที่ตาเขาดีสมองเขาฉุกคิดทันพระแบบนี้เขาไม่พลาดหรอกเผลอๆจองคนสองคนก็หมดเพราะบางคนเผื่อครอบครัวกันเยอะ..ท่านว่าปล่อยตามวาสนาไปเลยของแบบนี้เราเหนื่อยทำหนเดียว คนที่ทันได้ก็เป็นบุญของเขาไม่ต้องเสียเงินเช่าแปดเก้าพัน

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

เมื่อวานมีพี่ทักมาเล่าเรื่องสมเด็จสัมพุทเธให้ฟังว่ารุ่นนี้แรงมาก...

ท่านอาราธนาทำกรรมฐานจับตรงตะกรุดด้านหลัง พี่เขาว่าพลังเย็นเจี๊ยบจนนิ้วชาเลยครับ รุ่นอื่นไม่ว่าจะแรงแค่ไหนผมก็สบายๆแต่รุ่นนี้สุดจริงยอมเลย

*** ใครทันจองก็ลองเอามาอาราธนากันนะครับ

 

มีแจ้งประสบการมาว่า สมเด็จสัมพุทเธปรากฏพระองค์ให้เห็น ในพระหัตถ์ถือลูกแก้วหรือพระธาตุ

​

 

ติดตามกันนะครับของที่ท่านหวงแหนมากที่สุดและออกให้บูชายากมากๆ...ถึงขนาดที่เผลอๆพรุ่งนี้ก็อาจจะยังไม่ได้นำมาลง
- เพราะเป็นของใช้ที่ท่านรักมากๆมาก่อน
- เพราะเป็นของจริงที่แทบจะสูญพันธ์ไปจากแผ่นดินนี้...เหลือแต่ตำนาน..และนิยาย

*** ใครทันชุดนี้ต้องใช้ความไวมากๆ ผมก็บอกได้ไม่ถนัดว่าจะเปิดจองวันไหนกันแน่เพราะชุดนี้ท่านทั้งรักและหวงเพราะเลี้ยงมานาน...เรื่องความเก่งนี่หายห่วงจะเป็นอะไรรอลุ้นกัน

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

วันนี้มาเริ่มกันสั้นๆว่า...ใครไม่เคยได้ยินเรื่องเสือสมิงกันบ้าง

*** จะดีแค่ไหนถ้าเราได้ครอบครองกะโหลกหน้าผากราชาพยัคฆ์อันมีคุณสูงที่สุด...ซึ่งปกติแล้วเป็นไอเทมในตำนาน..ของปลอมระบาดเกลื่อน...ทั้งแบบเลี้ยงแบบฟาร์มก็มีมากแยกไม่ออก...ของแท้นี่ยอดอาถรรพ์พลิกฟ้าพลิกดินพลิกชีวิตอย่างแรง ใครชอบติดตามกันดีๆนะผมเองก็ไม่รู้ว่าวันไหน