ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จทิพย์สภาพมหาวงจรทวีโชตนาการ(ทิพย์โอสถส่องหน้าพระเจ้า) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลประสิทธิ์ปกาสิทธิ์ครูฟ้าสั่งให้รวย(ฝังเขี้ยวเกี้ยวสุรกานต์พระไภรวะสูบหมื่นมารพ้นบาปทั้งปวง)

    ด้วยพระศิวะมีอำนาจเหนือวัฏฏะทั้งสามและมีพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งจิตวิญญาณสูงสุดที่จะบันดาลให้เกิดได้ทุกสิ่งเอาว่าขออะไรยิ่งได้ยิ่งขอยิ่งสำเร็จด้วยมหากรุณาส่วนนี้ของพระเป็นเจ้า แต่คนจะไม่ค่อยรู้กันว่าพระศิวะนั้นท่านก็เป็นผู้ประทานโชคลาภคนจะไปคิดกันเอาเองว่าท่านเป็นแต่พนักงานทำลายฝ่ายเดียว ซึ่งจริงๆแล้วพ่อนั้นเป็นผู้ทำลายความเศร้าโศก..เป็นผู้ทำลายกาลเวลา(ใครตกอยู่ในกาลแห่งทุกข์ท่านนำออกได้ ท่านทำลายให้พ้นได้)..เป็นผู้ลิขิตโชคชะตาไม่ว่าร้ายหรือดี..ซ้ำยังเป็นผู้สร้างอาคมนี่รู้หรือไม่ว่าพลังงานพระเวทย์อาคมต่างๆล้วนมีจุดกำเนิดมาจากพระองค์ทั้งสิ้น ด้วยเป็นต้นกำเนิดทุกสิ่งทั้งพ่อยังเป็นผู้ประทานโชคลาภที่ยิ่งใหญ่..เป็นผู้ให้ความผาสุขประทานทุกสิ่งทุกอย่าง ชนแต่โบราณเค้ารู้กันถึงกับขนานนามไว้ว่าสรวัทบ้าง,ศุภัทบ้าง,สุขทะบ้างนั่นคือพ่อผู้ประทานโชคลาภอันยิ่งใหญ่ให้ได้ทุกสิ่งทุกอย่างนั่นเอง

    ทั้งยังมีอำนาจลอยเคราะห์และรับบาปแทนตัวลูกๆโดยไม่ติดอยู่ในกฏของกรรมหรือใช้อำนาจเกินกรรมไม่ได้จึงสยบเคราะห์หนักและวิบากกรรมได้ชะงัด พ่ออาจารย์ท่านยกครูพระสยมเป็นครูใหญ่และมักเรียกแทนท่านว่า"พ่อ" เป็นตัวแทนของมหากรุณาที่พร้อมจะเสียสละและรับความเจ็บปวดแทนสรรพชีวิตทั้งหลายด้วยความรักอันยิ่งใหญ่เพื่อให้ได้มาซึ่งสันติ..ความสุข..ความเจริญ พระศิวะรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้ปลดห่วงหมดทุกข์หมดหนี้สินเป็นเศรษฐีมหาศาลมีความสุขในห้วงชีวิต ด้วยพ่อนั้นจะรับความเจ็บปวดความทุกข์โทษเคราะห์ภัย..อุบาทว์พิฆนะจัญไรหายนะ ท่านจะกลืนกินอัปมงคลอวมงคลทั้งหลายไว้ด้วยความรักอันใหญ่หลวงเพื่อสิริ,เพื่อมงคล,เพื่อสันติ,เพื่อความสุข,เพื่อความเจริญที่จะพึงบังเกิดมีในชีวิตของลูกนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจทำวิชาเป็นเฉพาะเพื่อให้คนใช้ลอยเคราะห์และรับบาปแทนลูกๆที่ทุกข์เข็ญ การรับเคราะห์รับกรรมโดยพ่อนั้นจะกลืนทุกข์กลืนวิบัติอาเพททำลายเคราะห์โศกปิดชีวิตที่มืดบอด กำจัดบาปทำลายล้างบาปประทานพรให้พ้นจากบาปและอกุศลกรรมต่างๆของลูกทั้งหมดทั้งสิ้น เพราะครูองค์เดียวที่สามารถรับและกำจัดบาปได้ซ้ำยังพาและผลักดันให้ชีวิตดำเนินต่อไปในจุดที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของมหาวัฏจักร โดยปรับเปลี่ยนชีวิตที่หลุดพ้นจากบาปและอกุศลกรรมเสียใหม่ก็คือพ่อ แต่ต้องสร้างในเฉพาะกาลเฉพาะวาระที่ท่านเปิดให้ด้วยจึงจะเป็นดาวข่มและทำลายล้างบาปทั้งมวลโดยตรง คือ
    เป็นสดาจาร..พ่อคือพระเป็นเจ้าที่มีการกระทำอันสูงสุด
    เป็นอกลมัย..พ่อคือผู้ไร้บาป
    เป็นสรวปาปหร..พ่อคือผู้ทำลายล้างบาปทั้งหลาย
    เป็นหระ..พ่อคือผู้มีอำนาจกำจัดบาปทั้งหมด
    เป็นมุกันทะ..พ่อสามารถประทานพรให้พ้นจากบาป
    เป็นตมิศรหา..พ่อมีอำนาจทำลายความมืด
    เป็นโศกนาศัน..พ่อมีอำนาจทำลายความโศก
    เป็นสรวารถปริวรตัก..พ่อมีตัวเป็นตนต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง
    เป็นวิฆันนาคัน..พ่อมีอำนาจทำลายอุปสรรคร้ายทั้งหมด
    ดังนั้นเพื่อจะ
    เอาชนะกรรมลิขิตบาปเคราะห์ดาวข่มตลอดจนอำนาจของพรหมลิขิตเทพลิขิตชะตาตลอดจนมหาวัฏฏทั้งหลายแล้วนำชีวิตออกไปสู่การเริ่มต้นใหม่ การเปลี่ยนแปลงโดยมีพ่อเป็นต้นเหตุของทุกเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างพระผงรุ่นนี้จึงแฝงอานุภาพทางล้างบาปเคราะห์แบบที่ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน

    พ่อกับเทพอสูร
    ด้วยเข้าสู่ยุคแปดที่เรียกว่า
    เป็นเวลาซึ่งประตูนรกประตูผีมันเปิด คนจะเชื่อในพลังแห่งจิตวิญญาณทั้งสายขาวสายดำ ที่ใจมืดมนก็จะใช้สิ่งเหล่านี้ทำลายกันเพื่อเอาชนะกัน ทั้งยังเกิดอาเพศที่เป็นยุคซึ่งภูติผีปีศาจอาละวาดเหิมเกริมเป็นผลให้ไสยศาสตร์มนต์ดำเริงอำนาจเป็นมหันต์เกินกว่าปกติ ผลสั่งสมจากคนใช้มนต์ดำบงการสิ่งเหนือธรรมชาติทำลายกันเองมากขึ้นย่อมส่งผลกระทบร้ายแรงกับธรรมชาติทั้งโรคระบาดทั้งเคราะห์ภัยโดยธรรมชาติทั้งหลายจะอุบัติขึ้นเนืองๆ เหล่าปีศาจที่เคยถูกจองจำไว้ยาวนานจนประมาณไม่ได้ในโลกจะเริ่มออกมาสร้างความปั่นป่วนสิงสู่จิตใจคนให้ตกลงสู่ความมืดมีอารมณ์รุนแรง..อาฆาตแรง..พยาบาทแรง..ริษยาแรง..ใจคนจะวิปริตทั้งโรคภัยร้ายกาจจะกำเริบไปทั่ว พ่ออาจารย์ท่านว่าไอ้ตัวโคโรน่าก็เหมือนสมัยก่อนที่ผีห่าลงนั่นแหละฟ้าดินมันวิปริตไปหมดตั้งแต่อากาศฤดูกาลก็แปรปรวนไม่ได้เหมือนเก่า ตัดทางไปกับความเจริญนั่นคือโลกวิปริตใจคนเสื่อมแต่วัตถุจะยิ่งเจริญได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นแต่ระบบคุณธรรมกับธรรมชาติจะเรียวลงเหี่ยวลงคนจะเน้นวัตถุกันมากขึ้น จะใช้ความพยายามทุกทางเพื่อแก่งแย่งชิงดีกันให้ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะแก้เอาตัวให้รอดกันจริงๆ นอกจากใช้เครื่องมงคลสายพ่อแล้วยังต้องแฝงอำนาจเทพอสูรด้วยเพราะจะกำราบปีศาจร้ายโดยตรงจะปราบมารกำจัดภูติผีปีศาจ ..แต่ทำไมต้องเป็นเทพอสูรนั่นก็เพราะเขามีอำนาจที่จะใช้สิทธิ์ทำลายล้างอสูรทั้งมวลได้ราบคาบ ทั้งทำลายล้างอำนาจมืดที่ค่อยๆก่อตัวเกาะกุมจิตใจรวมถึงมนต์ดำที่จะมีผลกระทบต่อธรรมชาติและสั่งสมอยู่ในตัวผู้คนแบบฝังเมล็ดพันธ์ ท่านว่าอำนาจเทพอสูรแก้ตรงนี้ได้รวมไปถึงเรื่องกำจัดปราณวิญญาณร้ายกันไข้ระบาดโรคร้ายที่เกิดจากโลกวิปริต..เห็นมั๊ยว่าครูเทพอสูรนั้นใช้งานได้เฉพาะเจาะจงในยุคนี้โดยแท้จริงติดตัวไว้จะไม่ตายก่อนวัยอันควร..จะไม่ตกทุกข์ไปตามเคราะห์ภัย..จะพึ่งได้ยามชีวิตเจอเหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเราไปตลอดกาล

    ทั้งแรงแห่งครูเทพอสูรนี้ไม่เพียงแต่จะคุ้มครองจากความวิปริตจากคนและธรรมชาติเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเคล็ดแห่งความสำเร็จที่น้อยคนจะรู้ได้ พ่ออาจารย์ท่านจะย้ำเสอว่าถ้าจะบูชาครูเทพอสูรต้องหาดุๆ..ยิ่งดุ..ยิ่งแรง..ยิ่งดุ..ยิ่งรวย พวกที่ใจดีไม่ดุไม๋โหดอย่าไปไหว้เลย..พวกที่สู้รบกับใครไม่ไหวท่านก็ไม่เอา เพราะเทพอสูรที่เก่งกาจดุดันท่านจะประทานทรัพย์ความร่ำรวยทั้งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่รวมไปถึงอำนาจให้คนรักคนนับถือ ยิ่งดุเท่าไหร่ก็ยิ่งแรงยิ่งเร็วมากขึ้นเท่านั้นทั้งยังต้านทานและทำลายล้างอัปมงคลไปในตัวต่างจากอำนาจแห่งเทพพรหมตรงนี้เห็นมั๊ย
    - ชีวิตใครที่ดำมากมืดมนมามาก
    - ชีวิตใครที่เคยต้องมนต์ดำมานาน
    - ชีวิตใครที่โดนภูติผีวิญญาณจองเวร
    - ชีวิตใครที่โดนมนุษย์หรืออมนุษย์รังควาน

    นั่นแหละสายงานตรงท่านคือทำลายล้ายความขัดข้อง ยกเจ้าให้พ้นจากภัยที่ต้องเจอทั้งภัยสะสมภัยฉับพลันทั้งหลายตอนนี้จะสำเร็จสมความปรารถนาอะไรก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง อะไรที่เคยได้มายากก็จะได้มาโดยง่าย นั่นคือมาด้วยบุญบารมี..ไม่ใช่ของเรานะแต่เป็นของครูเทพอสูรที่ชักนำมา ทำไมเราจึงบอกว่าให้หาครูเทพอสูรที่มีศักดิ์สูงมาก..มีความดุดันมาก นั่นก็เพราะบารมีท่านมากยิ่งบารมีมากก็ยิ่งชักนำสิริมงคลเปลี่ยนฐานะคนได้ไวมาก เพราะบารมีนี้มันเกิดจากความเพียรและความยิ่งใหญ่ในตบะของใครของมัน เป็นฌาณเป็นสมาบัติเป็นฤทธิ์วิเศษที่มีไม่เท่ากันเลยเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นเทพอสูรที่เกิดจากพ่อ(คือพระศิวะอันมีบารมียิ่งใหญ่ที่สุดเสมอๆ) เพื่อดึงเอากำลังของเทพอสูรที่ไม่มีวันสูญหายมาครอบกายคุ้มครองเรา เพียงคุ้มครองนั่นแหละย่อมสำเร็จพันเรื่องหมื่นเรื่องจะได้เจอผลสำเร็จในปาฏิหาริย์ที่สร้างขึ้นโดยแรงครูอย่างแท้จริง

    นอกจากพระศิวะจะเป็นผู้ให้กำเนิดเทพอสูรที่ยิ่งใหญ่สูงสุดแล้ว ท่านยังโอบอุ้มจักรวาลดำรงค์สถานะพระผู้ไม่มีวันตาย(ดวงชีพนิรันดร์)และยังเป็นเทพเจ้าแห่งอาตมัน(วิญญาณทั้งหลาย) พ่ออาจารย์ท่านรู้ดีว่าบารมีของครูนั้นฉุดกระชากเปลี่ยนวิบากกรรมให้ศิษย์ทั้งหลายได้จริงเพราะท่านมีหน้าที่ปัดเป่าทำลายบาปอันชั่วร้ายทั้งหมดและยังประสาทพรให้ผู้ที่รักและศรัทธาเต็มหัวใจอยู่เสมอ ด้วยสถานะเทพบดีผู้ปกครองหมู่เทพที่เป็นสัมมาทิฏฐิและเป็นเทวาธิเทพของมหาเทพและเทพทั้งปวงเมื่อาราธนาแล้วความเดือดร้อนและยุคเข็ญที่ส่งผลกระทบถึงพลังงานธรรมชาติและจิตวิญญาณทั้งหลายให้แปรปรวนย่อมคลี่คลาย เธอลองพิจารณาตัวเองดูว่ายังขาดผู้ที่จะปกป้อง..ปลดเปลื้อง..และปลดปล่อยเราเอาไปพร้อมๆกันในเวลาเดียวกันรึเปล่า ถ้าขาดก็มาพึ่งพ่อเสียเพราะท่านมีอำนาจทำลายล้างอกุศลธรรมและสถาปนาหลักคุณธรรม จะเปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาให้อยู่ในมหาปาฏิหาริย์การสงเคราะห์ของด้วยความศรัทธาและแรงครูขั้นสูงสุด(เขี้ยวพระไภรวะ)

    เขี้ยวเกี้ยวสุรกานต์พระไภรวะ(สูบหมื่นมารพ้นบาปทั้งปวง)
    เครื่องมงคลชุดนี้สร้างได้ยากอย่างแท้จริง เพราะพ่ออาจารย์ท่านจะสื่อพลังงานโดยตรงของพระไภรวะอันเป็นเทพอสูรที่เกิดจากพระศิวะให้รุนแรงที่สุด ท่านว่า
    ฉันต้องใช้ของเก่าอันมีคุณกายสิทธิ์ด้วยตนเองของพระไภรวะโดยเฉพาะมาเชิญครูพระสยมทำให้อีกครั้ง ซึ่งครูพระสยมท่านได้บัญชาไว้แล้วว่าให้รวบรวมหัวครูพระพิราพเก่าๆที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้วไปขอเขาบูรณะแล้วถอดเขี้ยวเก่านั้นออกเอาของใหม่ใส่ไปแทนทำให้สมบูรณ์คงทนขึ้น โดยเขี้ยวเก่าๆของหัวครูพระพิราพนั้นท่านไม่ให้ทิ้งเลย กลับกันจะต้องนำมาทำพิธีลงอาถรรพ์เพื่อทำเครื่องมงคลชุดนี้

    โดยเขี้ยวยักษ์พระพิราพ(ไภรวะ)ในหัวครูชุดเก่าๆอายุมากกว่าห้าถึงหกสิบปีขึ้นไปนั้นส่วนมากจะผ่านพิธีไหว้ครูมาอย่างยาวนานจะสึกเสื่อมสภาพตามวันเวลาทั้งยังมีอาถรรพ์รุนแรงสูงส่งสูงสุดแห่งกำลังพระเป็นเจ้ารวมถึงกำลังแรงครูชักนำฉุดดึงชีวิต เขี้ยวในหัวครูนั้นผ่านการลงประสิทธิ์ของญาณพระไภรวะมานักต่อนักในงานบวงสรวงไหว้ครู ทั้งยังเป็นเคล็ดที่ว่าสร้างหัวครูใส่เขี้ยวยักษ์ด้วยเขี้ยวหมู(ใช้เขี้ยวหมูมาทำเขี้ยวยักษ์จะทำอะไรก็ได้เจอแต่งานหมูๆมีชีวิตง่ายๆนั่งกินนอนกิน) ทั้งครูพระสยมท่านยังบอกเอาไว้ว่าเขี้ยวเหล่านี้ที่เก่าจนรานจนผุกร่อนผุพังไปบ้างตามวันเวลาล้วนมีอำนาจแรงครูประเสริฐเลอเลิศเป็นกำลังแห่งไภรวะอันมีอำนาจร้อนแรงดั่งไฟประลัยกัลป์(พ่ออาจารย์ท่านว่าเข้าอาถรรพ์เอามาทำเครื่องมงคลเลยเพราะแรงด้วยกำลังตบะบารมีเป็นที่สุด) ท่านได้นำเขี้ยวยักษ์หัวครูพระพิราพที่ท่านรวบรวมมาทั้งชีวิตมาเจาะระทำสร้อยห้อยคอไว้..เพราะจะวางต่ำนั้นไม่ได้เลยจะเก็บก็กลัวความบังเอิญที่ท่านจะหล่นร่วงลงไปตกดินเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตัดสินใจทำอาถรรพ์เชิญครูเสกมาสามสิบปีพร้อมกับห้อยคอท่านไปด้วยจะมีถอดบ้างก็ตอนนำไปคล้องศิวลึงค์หรือเทวรูปองค์พระสยม พ่ออาจารย์ท่านว่าเขี้ยวพระพิราพชุดนี้ใครตาดีอย่าเผลอไปลองดีมองเอานะเดี๋ยวจะเจอไฟพวยพุ่งออกมาจะเสียตากันไปเปล่าๆ ดูไม่เป็นเดี๋ยวตาจะบอดเอาง่ายๆ เพราะไภรวะเป็นภาคปราบมารของพระศิวะและเป็นครูสูงสุดทางฝ่ายยักษ์มีฤทธิ์แรงวิเศษเพราะทรงเพศเป็นเทพอสูร

    อำนาจแห่งพระไภรวะ
    พระไภรวะนั้นเป็นชื่อที่เรียกเทพคณะหนึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าจะเรียกว่าคณะไภรวะก็ได้จัดอยู่ในกลุ่มของเทพอสูรระดับพระเป็นเจ้าที่มีความดุรุนแรงเกรี้ยวกราดอย่างถึงที่สุด ### ตามคติของพ่ออาจารย์ท่านที่ว่ายิ่งดุมากยิ่งให้คุณมาก ยิ่งให้คุณมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีแก่ตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เช่นนี้ท่านจึงอัญเชิญอำนาจคณุพระสยมแผ่ซ่านลงในเขี้ยแก้วสุรกานต์พระพิราพของเก่านี้ให้เป็นตัวแทนมหาเทพในกลุ่มไภรวะท้้งหมด ด้วยเทพไภรวะนั้นเป็นตัวแทนของอำนาจแห่งการทำลายล้างสูงสุดโดยปกติแล้วจะไม่ปรากฏองค์เลยแต่เมื่อปรากฏรูปขึ้นมาจะแสดงฤทธิ์ยิ่งใหญ่สะท้านสะเทือนจักรวาลโดยจะมีหัวหน้าคณะเป็นผู้ปกครอง ได้ชื่อว่าเป็นเทพอสูรผู้ครองอำนาจสูงสุดของจักรวาลนี้ซึ่งก็คือ " พระกาละไภรวะ "

    **** พระกาละไภรวะนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นครูสูงสุดในคณะไภรวะ เพราะมีฤทธิ์มากที่สุดจะคอยดูแลร่างไภรวะอวตารทั้งแปดองค์อันประจำอยู่ขอบกำแพงจักรวาลทั้งแปดทิศ ดุจว่าแปดเทพอสูรนี้เป็นดั่งด่านสุดท้ายของจักรวาลที่ไม่มีใครฝ่าหรือต้านทานได้องค์กาละไภรวะท่านจะคอยบัญชาคณะไภรวะนั้นซึ่งแต่ละองค์จะมีฤทธานุภาพแตกต่างกันไป
    - พระโคทะไภรวะ มีพระวรกายสีเข้มมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะนกเหยี่ยว พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์นี้มีอำนาจฤทธิ์ที่กล้าหาญเป็นผู้อยู่เหนือกาลเวลาและห้วงมิติทั้งหลาย ท่านจะคอยประสาทพรแก่เราเวลาเราต่อกรสู้กับปัญหาอุปสรรคทั้งปวงหรืออำนาจชั่วร้ายทั้งหลายมีปัญหาที่ใหญ่เกินตัวท่านจะคอยช่วยเราตลอด
    - พระกาปาลไภรวะ มีพระวรกายผ่องใสมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นช้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงเป็นเลิศในความสมบูรณ์ เป็นครูผู้เลิศในอุดมคติและนำความสำเร็จทั้งปวง ทั้งยังทรงธรรมคอยประทานความยุติธรรมแก่โลกแก่สรรพชีวิตที่ถูกกลั่นแกล้ง ท่านจะคอยประสาทพรให้เรามีชัยชนะในกิจการที่ได้รับมอบหมาย นำความสมบูรณ์ในอุดมคติและความสำเร็จทั้งหลายเข้ามาในชีวิตนำความยุติธรรมมาสู่ตัวเรา
    - พระอสิตังกะไภรวะ มีพระวรกายคล้ำมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นหงส์ พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงเป็นผู้มีความสามารถเชี่ยวชาญงานศิลปะมีความรู้ทางสติปัญญาที่มั่นคงสูงส่ง ท่านจะคอยประสาทพรให้ความรู้ความเชี่ยวชาญในศาสตร์ทั้งหลายที่เราศึกษาจับต้องทั้งเปิดสมองเปิดสติปัญญาให้ดวงจิตเราแจ่มใส มีสติมั่นคงมีดวงปัญญาสว่างกระจ่างสูงส่ง
    - พระจันดาไภรวะ มีพระวรกายขาวมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นนกยูง พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงไร้พ่ายในการศึกสงครามมีอานุภาพสิบทิศไร้ผู้ต้านมีชัยชนะเหนือศัตรูมีความสามารถในการสู้รบและเป็นผู้พิชิตปัญหาทั้งปวงให้ราบรื่น ท่านจะคอยประสาทพรเวลาเราเจอหมู่มารหรือศัตรูเบียดเบียนกวนใจชีวิตเขาจะอยู่ไม่เป็นสุขเลย(ครูแรงมากพ่ออาจารย์ท่านว่าพูดเยอะไม่ได้ข้างบนเขาห้ามเด็ดขาด) ทั้งยังคอยแก้ไขปัญหาชีวิตที่เราเองสะสมเอาไว้ดลให้ชีวิตเราราบรื่นเช่นนี้
    - พระคุรุไภรวะ มีพระวรกายสีเทามีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นวัว พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ท่านเป็นนักปราชญ์เป็นมหาปราชญ์คือรู้ทุกสิ่งในจักรวาลไม่มีสิ่งใดที่ท่านไม่รู้ ท่านจะคอยประสาทพรให้คุณความรู้ให้ดวงตาเรามองเห็นปรัชญาการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง เห็นทางที่ควรเดินชีวิตที่ควรเลือกควรดำเนินไปและยังให้พรการศึกษาวิทยาความรู้และพระเวทย์ทั้งปวง
    - พระสัมหาระไภรวะ ทรงอวตารเปลือยกายวรกายสีแดงมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะสุนัข พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นปางแห่งการสังหารกำจัดซึ่งอวิชาสิ่งชั่วร้ายความอหิงสาและความอหังการ์ทั้งหลายเรียกว่าเป็นมหาปราบจักวาล ลองได้ลงมือปราบแล้วย่อมสิ้นนามสิ้นเชื้อ ท่านจะประสาทพรดับล้างความเสื่อมโทรมและกำจัดคุณแห่งอวิชชาทั้งหลาย คุณของไสยต่ำอสุรกายภูติผีทั้งหลายแม้การกระทำคำสาปแช่งหากมีตกตะกอนในตัวเราย่อมมลายหายสิ้น
    - พระอุนมัตตะไภรวะ รูปนี้ทรงบริสุทธิ์สูงสุดวรกายผุดผ่องมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นม้า พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นที่มาแห่งความรื่นรมย์ความสุขสงบแห่งธรรมสูงสุด ท่านจะคอยประสาทพรทำลายล้างความชั่วทั้งหลายในจิตใจของมนุษย์ ดลให้ชีวิตเห็นธรรมเห็นสัจจะถึงซึ่งความรื่นรมย์และสงบสุขไปกับธรรมเหล่านั้น
    - พระภีชานะไภรวะ มีพระวรกายขาวผ่องใสมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นสิงโต พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นครูที่คอยกำจัดอำนาจมืดกำจัดวิญญาณชั่วร้ายหรือสิ่งที่ไม่เป็นมงคลในโลก หากชีวิตเราโดนอำนาจมืดรังแกหรือตกอยู่ใต้การรุกรานของผู้อื่นท่านจะประสาทพรคอยช่วยเหลือทั้งยังล้างอัปมงคลทั้งหลายให้สูญสิ้น

    คณะไภรวะทั้งเก้านี้แม้เป็นเทพอสูรแต่ก็เป็นครูสูงสุดที่จะนำพรแห่งความสุขสมหวังมาสู่ผู้บูชาหาได้น่ากลัวดั่งคำว่าอสูรไม่ พ่ออาจารย์ท่านว่าอสูรก็เป็นเทวะไม่ใช่ยักษ์ใช่มารมีความเป็นทิพย์เช่นกันทั้งคณะไภรวะนั้นยังมีอำนาจหน้าที่อันสมควรเรียกได้ว่าตรงงานที่สุดอันจะนำมาซึ่งองค์ประกอบถ้วนทุกประการประสานกันเป็นความสุขแห่งชีวิตของผู้บูชา ท่านจึงได้เชิญกำลังสูงสุดประสิทธิ์ในแรงครูสูงสุด(เขี้ยวแก้วพระพิราพ)พลังของคณะเทพอสูรไภรวะทุกองค์ขึ้นเพื่อจะให้คณะไภรวะได้ปกป้องและนำพรมงคลมาสู่ผู้ถือครอง แต่เพื่อให้กำลังของคณะไภรวะสมบูรณ์อย่างถึงที่สุดพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่เก้าแต่ต้องเป็นสิบ เป็นสิบเทพอสูรเป็นคณะไภรวะไร้ผู้ต้านท่านจึงเชิญครูไภรวะองค์สำคัญให้ร่วมประสิทธิ์ประสาทแฝงญานในรูปนามด้วย นั่นก็คือองค์พระไภรวะที่เกิดขึ้นจากอวตารขององค์พระศิวะ

    - พระบาตุกไภรวะ อยู่ในรูปของเด็กหนุ่มมีสี่พระกรทรงสุนัขดำเป็นพาหนะ องค์นี้ได้ชื่อว่ามีฤทธิ์อำนาจยิ่งใหญ่ในมือถือกระบองดัมรูและชามกะโหลกทรงถือศรีษะของอสูรอพาตและเศียรที่ห้าของท้าวมหาพรหม องค์บาตุกนั้นได้ชื่อว่ามากฤทธิ์ที่สุดเพราะทรงประหารเศียรที่ห้าของพระบรมบิดาพรหมเทพซึ่งเศียรนี้หมายถึงอัตตาเป็นความลุ่มหลงในตัวตนของตนเองทำลายความอหังการแต่นั้นมา ทั้งเป็นสาเหตุให้พรหมทั้งหลายเหลือเพียงสี่เศียรเรียกว่ามีอำนาจทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่แห่งฟ้าดินให้เกิดขึ้นได้ ทั้งองค์บาตุกนั้นยังได้สังหารอสูรอพาตที่ไม่มีใครสังหารได้แม้แต่พระแม่กาลี ด้วยพระแม่กาลีได้เชิญอวตารองค์บาตุกไภรวะนั้นสังหารอสูรในรูปเด็กห้าขวบ องค์บาตุกนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีฤทธิ์มากสามารถประสาทพรให้เราทำสิ่งที่ไม่คาดคิดไม่คาดฝันให้สำเร็จเสร็จสิ้นได้ *** ซึ่งนามบาตุกนั้นแปลว่าบุตรชายแห่งพราหมณ์ทั้งยังเป็นเทพที่ถือว่ามีความสำคัญยิ่งยวดด้วยองค์พระศิวะท่านโองการให้บูชาบุตรพราหมณ์ที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ก่อนคือบาตุกไภรวะแล้วจึงบูชาพระองค์

    เช่นนี้เขี้ยวแก้วสุรกานต์พระพิราพจึงมีกำลังแรงครูสูงมากพ่ออาจารย์ท่านว่าสมบูรณ์แล้วด้วยกำลังตบะแห่งไภรวะและแรงครูศักดิ์สิทธิ์สูงสุด(เพราะเป็นเศียรครูสูงสุดของฝ่ายยักษ์ที่แต่ละเศียรผ่านพิธีมามากมายยาวนานเป็นเศียรประธานครูสูงสุดในงานไหว้ครู) เช่นนั้นอาถรรพ์เขี้ยวแก้วชุดนี้คืออาถรรพ์ที่สงเคราะห์คนด้วยแรงครูสูงสุดอย่างแท้จริง เป็นเขี้ยวแก้วแทนจิตวิญญาณทั้งสิบของครูเทพอสูรที่มีอานุภาพร้ายแรงดุดันและร้ายกาจร้อนแรงมากที่สุดอันจะพึงมีบังเกิดขึ้นทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคตกาลอันมีทิพย์อำนาจการทำลายล้างอกุศลและบาปกรรมสูงสุดแห่งพระเป็นเจ้าทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าแบบนี้มันเกินกว่าดุและแรงมากไปไกลแล้วนะฉันทำได้ครั้งเดียวใครจะเอาไว้ก็ถือว่าชีวิตเขาได้ผ่านมาเจอครูชั้นสูงสุดอันมีแรงครูดุดัน..หนักแน่น..ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วถึงเวลาที่จะผ่านพ้นเคราะห์กรรมแล้วจะก้าวล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายและเริ่มมีสิ่งที่ดีงามปรากฏแก่ชีวิตตนเอง เขี้ยวพระพิราพนี้อยู่ที่ไหนสิ่งไม่ดีไม่อาจเข้าใกล้หรือรังควานได้เลยสิ่งอกุศลไม่ดีทั้งหลายตลอดจนวิญญาณร้ายจะกลายเป็นอาหารที่สิบเทพอสูรคณะไภรวะท่านเสพย์ท่านกินไปหมดสิ้น แม้มีใครคิดร้ายต่อเราไม่ต้องพูดอะไรมากหรอกเตรียมดูความพินาศฉิบหายของคนเหล่านั้นได้เลยไม่มีใครตายดีซักคนถ้าเข้ามารังแก "ลูกของพ่อ" และ "ลูกของครู"


    เพื่อจะสร้างมงคลวิเศษให้ได้ตามโองการพ่อเพื่อกำเนิดเครื่องมงคลอันมีพลานุภาพสูงสุด จำต้องใช้มวลสารพิเศษมากมาย
    - เถ้าศิวะรูป พ่อพระสยมท่านได้มีโองการแก่พ่ออาจารย์เมื่อจะทำพระรูปของพระองค์ต้องทำพิธีไสยเวทย์ดุจดั่งว่าในองค์พระนั้นจะมีเลือดเนื้อของพระองค์จริงๆผสมลงไปด้วย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้นำไม้ศิวลึงค์โบราณที่สืบทอดมาแต่อารยธรรมเขมรมาประกอบพิธีพราหมณ์อีกคำรบหนึ่ง ก่อนจะลงจารพระเวทย์สายพระศิวะทั้งหมดลงมนต์มหากำเนิดก่อเกิดสรรพสิ่งในองค์ศิวลึงค์ไม้โบราณนั้น เรียกได้ว่าพระศิวะท่านแฝงพระรูปลงมาเต็มพระญาณถือได้ว่าศิวลึงค์นี้คือเลือดเนื้อและชีวิตของท่านก็ไม่ปานเมื่อสำเร็จเเล้วจึงนำมาบูชาไฟด้วนมันตราพระศดาศิวะเทพ ตามหลักกฏแห่งธรรมชาติจนแปรเป็นเถ้าจุณมหาวิจุณกลับคืนสู่พระรูปเดิมเถ้านี่แหละสำคัญนักถือคติแห่งมายาศาสตร์ที่ว่าพระศิวะท่านพลีพระรูปของท่านให้แก่มนุษย์แล้วด้วยมหากรุณา เมื่อเป็นศิวลึงค์ขลังเยี่ยงไรตอนเป็นเถ้าขลังเสียยิ่งกว่านั้นเพราะผ่านไฟแห่งพิธีกรรมอันได้ชื่อว่าจะชำระเสียให้ได้มาซึ่งความบริสุทธิ์สูงสุดแล้วนั่นเอง
    - ผงตรีวิภูติ ผสมด้วยผงวิภูติสำคัญต่างๆที่ท่านรวบรวมไว้ซึ่งผงวิภูตินี้ก็คือผงเถ้าที่พระศิวะทรงโปรดมากเสมือนขี้เถ้าที่พระองค์นำมาทาพระวรกาย หรืออีกนัยหนึ่งคือผงขี้เถ้าที่ท่านเผาทำลายพระกามเทพจนกลายเป็นอณูผงและทรงโปรดให้เป็นผงเจิมใช้ในการสถาปนากาลมงคลทั้งปวงโดยผงวิภูติของครูพระสยมนั้นจะมีอยู่สามชนิดพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะให้มีฤทธิ์สูงสุดก็ต้องใช้ทั้งสามชนิดนี้มาผสมเป็นกำลังให้กันและกันทั้งเถ้าที่เกิดจากมหาพิธีของเครื่องหอม..เถ้าที่เกิดจากอัคคีบูชา..และเถ้าอศุภที่เกิดจากฤาษีหรือมหาโยคีเผาร่างตนเองด้วยศรัทธาเพื่อบูชาพระเป็นเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าชนิดหลังนี้จะหายากที่สุดและในปัจจุบันก็หาแทบไม่เจอแล้วถึงมีก็มักจะเก็บไว้ในนิกายลับและเขาก็จะสงวนไว้ใช้ในศาสตร์ลับและพิธีลับอันเกี่ยวเนื่องกับครูพระสยมเท่านั้น
    - ผงศิลาชิต อันเป็นว่านวิเศษพ่ออาจารย์ท่านว่าว่านนี้หายากอย่างมากและทั้งโลกในทุกจุดก็ย่อมไม่มีปรากฏ เพราะว่านนี้จะขึ้นอยู่ที่เดียวในบริเวณเขาไกรลาสเท่านั้นเขาจะเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณศิลาบัลลังค์ที่องค์พระศิวะ(ครูพระสยม)นั่งบำเพ็ญตบะญาณเท่านั้น ดังนั้นว่านนี้จึงอุปมาเหมือนกำลังตบะกำลังชีวิตของครูพระสยมที่ถ่ายทอดและแปรออกมาเป็นมหาพฤกษาโดยท่านตั้งใจทิ้งไว้ให้เป็นตัวแทนพลังยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์ ซึ่งศิลาชิตนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสำคัญที่ต้องใช้ถวายครูพระสยมมานานนับพันปีพ่ออาจารย์ท่านว่าว่านตัวนี้มีทั้งกำลังตบะและกำลังชีวิตของครู ทั้งยังมีอานุภาพและพลังงานมหัศจรรย์ที่จะบันดาลความสุขความบริบูรณ์ทำให้ทุกสิ่งที่ตั้งใจหวังได้สมหวังทั้งยังมีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวปราศจากโรคภัย ด้วยเป็นสิ่งที่มีกำลังญาณของครูพระสยมมีพลังชีวิตของครูพระสยมและเป็นอาถรรพ์สำคัญในการทำรูปท่านทั้งครูพระสยมยังเน้นให้ใช้แทนตัวของท่าน ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะทำให้เต็มสูตรชนิดแทนตัวของท่านเลยย่อมจะขาดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้
    - ผงพรหมกรรมะ ท่านได้นำใบมะตูมที่ท่านถวายครูพระสยมโดยท่องมนต์พรหมกรรมะมาบดเป็นมวลสารด้วย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าใบมะตูมที่ผ่านพรหมกรรมะนั้นสำคัญมากเพราะเชื่อว่า ### สามารถทำลายบาปแก่ผู้มีศรัทธาได้ สามารถล้างบาปหนักที่สุดได้แม้เพียงได้เห็นหรือสัมผัสก็จะหลุดพ้นจากบาปทั้งปวง ท่านว่าอยากจะให้ศิษย์ที่มีวาสนาเกี่ยวข้องกับองค์พระสยมนั้นได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อะไรไม่ดีที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปใช้อำนาจของของมนตราพิธีกรรมและความเชื่อนี้ล้างบาปล้างสิ่งไม่ดีออกไปให้หมด ซึ่งเรื่องนี้อยู่เหนืออำนาจกฏแห่งกรรมของวัฏฏสงสารโดยแท้
    - ผงมเหศวรยันตรา ท่านได้ลบถมผงมเหศวรยันตราวนเวียนไปมาถึง 84,000 รอบด้วยความอุตสาหะอย่างยิ่ง เพื่อก่อเกิดเป็นมเหศวรยันตราที่เลอค่าและทรงพลังอย่างสูงสุดมีอานุภาพและกำลังบริบูรณ์อย่างที่สุดเปรียบเสมือนอำนาจแห่งครูที่จะกลับกลายเป็นปกาศิตคำพรสูงสุด เป็นความรัก,ความปรารถนาดี,ความสุข,ความเจริญอันสูงสุดที่ครูพระสยมท่านจะประทานให้กับศิษย์ที่ท่านรักดุจลูกแลท่านโปรดปรานเป็นที่สุด เป็นพลังอันนิรันดร์..เป็นคำพรอันเป็นนิรันดร์และเป็นอำนาจที่จะประสิทธิ์แก่เราเสมอชั่วนิรันดร์กาล
    - ผงยาแดง ผงที่พ่ออาจารย์นำมาทำนั้นเป็นของบูรพาจารย์ท่านในฝั่งพม่าท่านว่ายาแดงนั้นมีอานุภาพมากท่านเรียกว่ายาสัจจะ ยานี้แค่มีไว้กับตัวได้ไว้ครอบครองหรือเก็บรักษายังไม่ต้องบูชาแต่อย่างใดอานุภาพของยาก็ช่วยทำให้ชีวิตดีขึ้นแล้วอานุภาพยาสัจจะนั้นมีมากนอกจากเปลี่ยนแปลงชีวิตช่วยให้ชีวิตดีขึ้นทันตาเห็นได้แล้ว ตัวยาสัจจะเองนั้นยังมีอานุภาพต่างๆอีกมาก ท่านว่าดีเกินกว่าจะคิดนั่นคือทำให้รวยมีทรัพย์สินศฤงคาร,ทำให้คนเมตตาเป็นเสน่ห์มหานิยม,เป็นมหาอำนาจวาสนาบารมี,คุ้มครองป้องกันเป็นข่ามคง,ช่วยให้เจริญอาหาร,ช่วยให้มีอายุยืนนานไม่ตายด้วยโรคปัจจุบันทันด่วน,ขับไล่คุณผีคุณคนเสน่ห์ยาแฝด,ล้างมนต์ดำทำลายอาถรรพ์เมฆหมอกปิดกั้นชีวิต,ทำลายล้างวิชาอาคมต่างๆ...(ท่านว่าไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ยังมีอีกแต่พูดไม่ได้) ท่านว่าเอาว่าเหมาะไม่ใช่ด้วยว่าควรจะมีแต่ต้องมียาสัจจะนั้นมีอานุภาพวิเศษที่จะทำให้ชีวิตคนบริบูรณ์ด้วยความสุขทุกประการได้ยาแดงหรือยาสัจจะเก้าขั้นที่ท่านนำมาสร้างองค์พระนั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษาวิชาทุกระดับขั้นท่านว่าจะไม่เจริญเปลี่ยนชีวิตคนได้อย่างไร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้นรักษายานี้
    - ผงเทวะโอสถรัตนคัมภีร์ ยานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเปล่งอานุภาพยิ่งใหญ่มากนักสมกับเป็นยาเทพที่ประกอบพิธีปรุงยาก

    1.แม้ได้บูชาอาราธนาไว้กับตัวท่านว่าความสุขความสงบร่มเย็นจะมาเยือน
    2.ไม่ทุกข์ร้อนกลัดกลุ้มด้วยปัญหาสารพันอันเกิดจากปัจจัยสี่หรือธาตุทั้งหลาย
    3.จะนำให้ถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรืองอันเป็นความสุขสวัสดีของโลกอย่างถึงที่สุด
    4.ถ้าได้พกอยู่กับตัวย่อมเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาตลอดจนอสูรนาคาแลสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
    5.หากคนที่ยังไม่เคยมีความรักท่านว่าจะได้รักจะมีคู่ครองภายในเจ็ดวัน
    6.ยานี้สถิตย์อยู่ที่ใดก็ดีเทวดาตลอดจนภูติผีปีศาจราชฑูตอสูรแลครุฑธานาคาทั้งหลายอันจะพึงสถิตย์อยู่บนโลกใบนี้ย่อมจะมาชุมนุมอภิบาลรักษาคนผู้นั้น
    7.พรหรือการประสาทพรจากเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงตบะฌาณขั้นสูงให้ชีวิตเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ให้มีพลัง เต็มเปรี่ยมไปด้วยสิริมงคลที่เกิดจากพรอันเปล่งจากตบะฌาณของท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะเป็นของเราตลอดกาล
    8.แม้จะเข้าหานายผู้หลักผู้ใหญ่เพศตรงข้ามที่หมายปองก็ดีเค้าจะรักและเมตตาเราเสมอบุตรในไส้ที่คลอดออกมาเอง
    9.แม้อาราธนาทำน้ำมนต์รดสิ่งใดก็จะสำเร็จสมความปรารถนาถ้วนทุกประการ
    พ่ออาจารย์ท่านว่าอันเทวะโอสถนั้นย่อมมีศักดิ์ศรีของเทวะโอสถต่างจากตำรับยาอันพิลาศในโลกแดนดินทั้งหลายอย่างสิ้นเชิง


    - ดินอาถรรพ์ท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสาร พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าในอดีตนั้นพระเจ้าพิมพิสารเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งทางโลกและทางธรรมรวมถึงเป็นพระอริยบุคคล มีทรัพย์สมบัติมากเหนือกว่าเศรษฐีและคฤหบดีทั้งปวงและในปัจจุบันนั้นดวงจิตของท่านก็ได้ไปอุบัติแทนที่ในตำแหน่งท้าวเวสสุวรรณ พ่ออาจารย์ท่านว่าหากอยากทำของให้คนตั้งตัวและมีชีวิตที่ก้าวกระโดดไปได้ไกลแล้วสิ่งนี้ท้าวเวสสุวรรณท่านได้นิมิตให้พ่ออาจารย์ท่านไปหามา ก็นับว่าเป็นจังหวะที่ลงตัวพอดีพ่ออาจารย์ท่านว่าท้าวเวสสุวรรณนี้ท่านได้แบ่งภาคมาทำหน้าที่ประทานโชคลาภและดูแลสมบัติเทวโลกโดยเฉพาะโดยมีชื่อเรียกคือพระธนบดีสมบัติสวรรค์ทั้งหมดอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะเทพหน้าใหม่หรือเทพเจ้าองค์ไหนๆใครจะมีสมบัติเท่าไหร่ล้วนแต่ได้รับการจัดการดูแลจากพระธนบดีทั้งสิ้น ดินท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสารนี้ก็คือคลังหลวงคลังที่เก็บทรัพย์ของพระธนบดีผู้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์สินและการประทานโชคลาภเงินตราทั้งปวง เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้นำมาเสกหนุนแผ่นดิน..หนุนชะตาชีวิต..ดึงลาภผลโภคทรัพย์เข้าคลังผู้บูชา ท่านว่าท่านเชิญพระธนบดีมาทำวิชาด้วยตัวท่านเองถึงกับพ่ออาจารย์ออกปากว่า "ดินท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสารที่เราทำวิชานี้แม้อยู่กับใคร ระวังอย่างเดียว จะรวยมือเติบไม่รู้เรื่อง"
    - ผงกันปีศาจ กันภูติผี สัมภเวสี อสุรกายทุกชนิด ผงนี้จะกันการทำร้ายจากมือมืด หรือสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นในจำพวกมิจฉาทิฏฐิทั้งหมด

    - ผงกันเดรัจฉาน ใช้กันสัตว์เดรัจฉานต่างๆอันจะเป็นอุบัติเหตุให้เกิดแก่ชีวิตด้วยการทำร้ายเรา เช่น ช้าง โค กระบือ เสือ สิงห์ต่างๆบรรดามี
    - ผงกันข่ม ใช้กันข่มจกผู้มีอำนาจมากกว่า รวมไปถึงการกลั่นแกล้งต่างๆให้ชีวิตเราวิบัติจากทั้งไสยศาสตร์ การกระทำมนุษย์และอานุภาพดวงดาวต่างๆ ท่านว่ากันข่มทั้งหมด ไม่ให้มีสิ่งแวดล้อมใดมาสะกด มาข่ม มากดหัวกดชีวิตเอาไว้
    - ผงกันศาสตราวุธ ท่านว่าผงตัวนี้ปืนผาหน้าไม้ ศาสตราวุธทั้งหลายเมื่อทำร้ายเรา จะไม่ปรากฏอันตรายแก่ชีวิต เอาตัวรอดได้ ไม่ตายด้วยศาสตราวุธทั้งปวง
    - ผงเข้าหาเจ้านาย ผงนี้ทำไว้สำหรับเวลาเข้าหาผู้ใหญ่ หรือจะสมาคมด้วยคนชั้นสูงก็ดี ผู้มีอายุมากกว่าก็ดี พูดอะไรไปเขาเชื่อหมด เขาเมตตาเราดุจลูกในไส้ เลือดในอก อุปมาดุจว่าแม้มีความผิดถึงที่ตายก็ยังฆ่าไม่ลง เอาไว้ใช้ในการงาน ในชีวิต จะทำอะไรคนเขาจะโอนอ่อนผ่อนปรนให้อย่างน่าประหลาด
    - ผงเรียกลาภ ผงนี้หาลาภดี ค้าง่ายขายคล่อง ทำอะไรได้ผลเกินตัว ได้กำไรสูงไม่มีขาดทุน ท่านว่าสูตรนี้จำเอาไว้ไม่มีขาดทุน จะเอาไปใช้ทางไหนก็เรื่องของเธอ
    - ผงค้าสำเภา อันนี้สำคัญ สำเร็จงานใหญ่ ได้จับธุรกิจใหญ่ ดึงดูดโชคลาภใหญ่หลวง เรียกว่าประสบความสำเร็จใหญ่ ไปอยู่ถิ่นใด จะจรไปไหนก็ได้ดีทุกที เป็นเอกทางมหาลาภอย่างที่สุด
    - ผงมหาเสน่ห์ ผงนี้ลงไว้ด้วยสูตรสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน เป็นมหาเสน่ห์ถึงขนาดว่าภรรยาทั้งหลายอยู่รวมกันได้ไม่ตีกันถึงแม้ผู้หญิงจะถือคติเสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใครก็ตาม นั่นคือรักและหลงจนลืมโกรธเป็นเสน่ห์ถึงปานนั้น
    - ผงอริพ่าย ผงนี้สำคัญที่สุด ลงยาก ท่านว่าลงไว้รับกับทุกสถานการณ์ ผงนี้อยู่ไหนทำอะไรก็ชนะเขาทั้งหมด ศัตรูพ่ายแพ้ แข่งยังไงแกล้งอย่างไรก็ไม่มีวันชนะ ทำร้ายเราไม่สำเร็จเลย ท่านว่าโลกต่อไปเบื้องหน้าจะยิ่งน่ากลัว จะหาคนที่อยู่โดยไม่มีศัตรูนั้นยาก ต่อไปนี่แค่เขม่นตากันก็เกลียดชังกันแล้ว เรียกว่าเกลียดกันดื้อๆ ท่านว่าผงนี้จึงสำคัญมากเพราะใช้รับได้ทุกสถานการณ์

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตามหลักพราหมณ์นั้นการจะทำรูปแทนครูนี้ย่อมต้องใช้ของเฉพาะทางหลายอย่าง แต่พ่ออาจารย์ท่านดำริว่าอยากจะทำสิ่งที่ดีที่สุดดังนั้นมวลสารเฉพาะทางบางอย่างจึงต้องมีทั้งกำลังของครูและพลังชีวิตของครูเช่นนั้นด้วยท่านได้นำมวลสารอันเป็นมงคลที่ท่านสะสมไว้หลายชนิดมาเป็นตัวปรุงแต่เสริมสร้างสิริมงคลให้กับบรมครูรุ่นนี้ ได้แก่ พญากาฝากที่เป็นสิริมงคล,คดไม้มงคล,ไม้มงคลที่ตายพราย,ต้นว่านมงคล,เกสรดอกไม้,ไม้ไผ่ตัน,ไม้รวกตัน,คดข้าวสารดำ,ข้าวสารหิน,สมุดใบข่อย,สมุดใบลานเก่าๆที่ขาดไม่ได้ใช้,ผงธูปไหว้พระ,ข้าวสุกก้นบาตรพระนำมาตากแห้ง,ลูกมะพร้าวกะลาตาเดียวเป็นมหาเสน่ห์,ลูกมะพร้าวกะลาไม่มีตาเป็นมหาอุตม์,กิ่งโพธิ์นิพพานคือโพธิ์ที่หักมาเองทางทิศตะวันออก,ไม้ไก่กุก,ปูนากระตุกเดือน5
    แร่ธาตุต่างๆได้เเก่ เพชรหน้าทั่ง,ดินกากยายักษ์,เหล็กสังขวานร,เหล็กน้ำพี้,รังเหล็กไหล,ข้าวตอกพระร่วง
    สัตว์ที่มีรูปร่างแปลกๆ เช่นจิ้งจกสองหาง,กิ้งก่าสองหางนำมาเลี้ยงไว้จนตายเผาไฟเเละบดเป็นผง
    ผงลบมือสูตรต่างๆตั้งแต่ ผงสยมภูวปราบไตรจักร,ผงศิวะกลึงจักร,ผงสยมภูวทรงเมือง,ผงพระสยมพลิกแผ่นดิน,ผงพระศิวะบันลือสีหนาท,ผงองการพินธุมเหศวร... ผงต่างๆที่กล่าวมาแต่ละชนิดมีอุปเท่ห์การใช้และวิธีการลบถมที่แตกต่างกันไป เป็นผงที่นำมาสร้างรูปอาถรรพ์ในองค์พระศิวะอย่างแท้จริงหาใช่ใช่เขียนขึ้นมาเพื่อให้ดูขลังเล่นแต่อย่างใด ท่านได้นำมวลสารที่มีฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดทั้งหลายมาเข้ากับผงไม้เสาชิงช้าของเก่าที่มีกำลังของสามมหาเทพและผสมผงยอดแก้วแม่ธรณีของท่านที่มีอานุภาพทางค้ำจุนผู้บูชาถึงขนาดว่าว่าคนไม่มีบ้านจะมีบ้าน คนมีบ้านมีหลักแหล่งจะมั่นคง ที่ใดร้างจะกลับรุ่งเรืองเฟื่องฟูดุจมหานคร...
    หลังจากได้มวลสารทั้งหมดแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงนำสิ่งต่างๆมาป่นให้ละเอียดที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเท่านี้ยังไม่พอด้วยหากจะสร้างสิ่งแทนครูให้ดีที่สุดก็ต้องอาศัยกำลังและจิตวิญญาณครูบาอาจารย์เป็นหัวใจหลักท่านได้นำผงวิเศษที่เตรียมไว้มาเข้ากับผงมงคลโสฬสผงโสฬสมหาพรหมตลอดจนผสมด้วยผงกุมของครูพระสยมและว่านยาในพิธีกรรมเฉพาะที่พ่ออาจารย์ท่านจะใช้พอกเทวรูปครูพระสยมก่อนทำพิธีสรงสนานว่านยาเหล่านั้นท่านว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์มากดุจไคลของพระผู้เป็นเจ้าโดยแท้จริงท่านได้นำมานวดผสมกันท่านได้นำผงวิเศษชุบมนต์ด้วยโองการครูอย่างเต็มกำลัง

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าไม่ต้องอธิบายอะไรมากเเค่ขึ้นรูปขึ้นพิมพ์เวลาจะกดด้วยมนต์มหากำเนิดนี่ก็ยอดขลังแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้หากปรารถนาให้ขอแก่องค์พระศิวะนี่ได้เลย พระผงตรีเนตรปุราลีนี้หมายถึงตาที่สามอันมีพลังยิ่งใหญ่เหนือพลังธรรมชาติใดๆด้วยว่าพระศิวะนั้นเป็นผู้ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานจนได้พระนามเฉพาะว่าพระมหากาล(คนละกาฬกับบริวารพญายม) กาลในที่นี้คืออดีตกาล,ปัจจุบันกาล,อนาคตกาลพระองค์ทรงรอบรู้ในกาลทั้งสามเหล่านั้นจนได้ยกย่องว่าเป็นมหากาลรู้กรรมรู้วาระของสรรพสิ่ง แม้ทรงโปรดในคุณงามความดีของผู้ใดก็จะช่วยเหลือเต็มที่ประสาทพระพรให้ในสารพัดสิ่งที่เค้าขอ และยังฝังด้วยตะกรุดสายพ่อตัวที่ทำยากที่สุดคือ
    ตะกรุดฟ้าสั่งรวย


    ตะกรุดฟ้าสั่งรวย

    เอามาฝังครูพระสยมดุจปกาศิตสาปไว้ว้าห้ามจนคือจนไม่ได้และไม่มีวันจนนั่นเอง จนในที่นี้คือจนด้วยทรัพย์สิน,จนด้วยปัญหาหนทางในการดำรงค์อยู่การดำเนินชีวิต ท่านว่านี่คือห้ามไว้แล้วนะทางจนไม่เปิดเข้าไปไม่ได้ เช่นนั้นก็เหลืออยู่ทางเดียวนั่นคือสุขสมบัติพิพัฒนมงคลทั้งหลายท่านว่าห้ามจนนี่ก็ปิดประตูทุกข์ไปแล้วอย่างหนึ่ง ยุคนี้สมัยนี้ต้องรวย ต้องมีกินท่านจึงทำตะกรุดที่เรียกว่าฟ้าสั่งรวยตำรับหลวงปู่ศุขฝังไว้ด้วย

    ท่านว่าวิชานี้เป็นศาสตร์วิชาโบราณ เป็นอีกหนึ่งคุณวิชาที่มีดีครบหมดเมตตาก็มีแต่ทว่าที่เด่นและแรงแซงหน้าทางอื่นก็คือโชคลาภ ท่านว่าตะกรุดฟ้าสั่งรวยนี้เน้นทางหาเงินหาทองให้ผู้ใช้เจริญในเงินทองทรัพย์สมบัติบริบูรณ์..ให้รุ่งเรืองเป็นมหาจำเริญขั้นสูงสุดโดยตะกรุดฟ้าสั่งรวยนี้สมัยก่อนหลวงปู่ศุขท่านจะทำให้พวกเศรษฐีคนธรรมดาไม่มีหวังจะได้เห็นเพราะว่าเค้าจะแข่งความร่ำรวยกัน ใครมีตะกรุดนี้เงินทองเหมือนอยู่ใกล้มือทำอะไรก็ทางสะดวกไม่ไกลเกินเอื้อม เป็นเคล็ดลับที่เศรษฐีสมัยก่อนไม่นิยมบอกหรือพูดต่อกันเรียกว่าใช้จนตายไปกับตัว

    วิชาฟ้าสั่งรวยนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแรงนักจะไม่แรงได้อย่างไร ท่านว่าชีวิตคนนั้นประกอบด้วยตัณหาทั้งสามคือความอยากในอารมณ์รักใคร่หนึ่ง..ความอยากในอารมณ์อยากมีอยากเป็นหนึ่ง..ความอยากในอารมณ์ที่ไม่อยากมีไม่อยากจะเป็นหนึ่ง ท่านว่าตะกรุดฟ้าสั่งรวยคือวิชาที่เสริมตัณหาทั้งสามนี้ให้บริบูรณ์พูดให้ครบคือได้ในสิ่งที่คิดห่างไกลในสิ่งที่ไม่พึงใจก็แล้วมันจะไม่ดีได้ยังไง ก็ในเมื่อมันตอบสนองความคิดจิตวิญญาณตัณหาคนใช้ถึงปานนั้น

    วิชานี้ท่านว่านอกจากจะเป็นสิ่งที่ถูกปกปิดแล้วยังเป็นวิชาที่แปลกมากทีเดียวเพราะตะกรุดฟ้าสั่งรวยนั้นก็เหมือนกับชื่อคืออยู่ดีๆฟ้าก็สั่งให้คนๆนี้รวย มันเป็นพลังวิชาแบบปาฏิหาริย์ตั้งแต่สมัยหลวงปู่ศุขแล้วท่านก็ไม่ได้ทำให้ใครมากเพราะผู้รับก็เหมือนภาชนะที่จะรองรับปาฏิหาริย์ฟ้าเป็นชีวิตที่จะต้องเกิดปาฏิหาริย์ ถ้าเดิมชีวิตเค้าไม่ดีก็เรียกว่าจะพลิกกลับจากหน้าเป็นหลังมือทีเดียวพ่ออาจารย์ท่านว่าจะเจริญขึ้นเป็นลำดับต่อชาติต่อภพไป เช่นว่าคนยากจนจะเป็นเศรษฐี,เศรษฐีจะเป็มหาคหบดี,มหาคหบดีจะเป็นขุนนางเจ้าพระยามหาอำมาตย์,เจ้าพระยามหาอำมาตย์จะเป็นกษัตริย์,กษัตริย์จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ท่านว่านี่คือวงจรชีวิตที่ต้องเกิดถ้าชาตินี้จบลงที่ตรงไหน ก็ไปเริ่มใหม่ที่ชาติหน้าไม่มีถอยกลับจนกว่าจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์นั่นเอง

    เมื่อจะเสกนั้นท่านว่าต้องเสกใส่วิชาตาไฟประลัยกัลป์ไว้ด้วยจะไม่สามารถวัดพลังงานใดๆได้เลยที่ตาพระศิวะถ้าเพ่งจิตดูจะเห็นแสงไฟกะพริบที่ตาขององค์พระแต่อย่ามองมากเดี๋ยวจะจะเสีย องค์พ่อนี้หากมีสิ่งไม่ดีและอวิชชาทั้งหลายมากระทบ หรือแม้แต่มีจิตที่ตกไปในฝ่ายต่ำตลอดจนเครื่องรางของขลังทั้งหลายที่มีผู้ส่งมาลองดีองค์พ่อท่านจะส่งแสงสว่างกะพริบออกมาจากตา ไฟนั้นจะเผารูปเผาญาณฝ่ายตรงข้ามจนมอดไหม้หายไปในที่สุดไม่เคยเห็นมีสิ่งใดต้านทานได้ซักทีด้วยตาไฟประลัยกัลป์นั้นยิ่งใหญ่เหนือกว่าพลังธรรมชาติท่านจึงลงไว้ที่หน้าผากองค์พ่อด้วยจะได้เป็นโฉลกเป็นมงคลแก่ผู้ครอบครอง วิชานี้แม้ใครที่มีวาสนามีวิชาดีมาจากที่ไหนเมื่อได้ชื่อว่ายังอยู่ในกฏแห่งพลังธรรมชาติเขาแพ้เราทั้งสิ้น เพราะเราข่มเราชนะคนทั้งหลายเหล่านั้นด้วยสิ่งที่อยู่เหนือกว่าพลังธรรมชาติ

    คาถาบูชา
    โอมยักษะ สะวะรูปายะ ชะตาธะรายะ ปินากะ หัสตะตายะ สะนาตะนายะ ทิวะยายะ เทวายะ ทิคัมพะรายะ ตัสไม ยะการายะ นะมะศิวายะ


    *** อย่าประมาทแรงครูนะผู้ดูถูกครูย่อมไม่พบความเจริญ เครื่องมงคลชุดนี้ฉันใช้ของสูงมาสร้างมาทำ มีไม่กี่องค์หรอกเพราะหัวครูแบบนี้หาคนเต็มใจมอบให้ยากยิ่งเก่าเขายิ่งหวงต่อให้สลายกลายเป็นฝุ่นก็ยังมีค่าสำหรับเขา แรงครูชั้นสูงสุดที่ผ่านพิธีกรรมมายาวนานแบบนี้ใครรับไว้ก็มีแต่เจริญก้าวหน้าด้วยครูนำพา หากแต่ไม่ใช่ครูธรรมดาแต่เป็นครูสูงสุดฝ่ายเทพอสูร ถ้าจะห้อยเล่นๆก็ไม่ต้องเอาไปแต่หากจะฝากตัวฝากใจอย่าให้ท่านช่วยให้รวยก็มาเอาไปห้อย ..ห้อยแล้วอย่าถอดออกจากคอไม่มีเสื่อมถอยไม่มีข้อห้าม ถ้ารักครูนับถือครูอยากได้แรงครูสูงสุดค่อยมาเอารายการนี้

    *** พ่ออาจารย์ท่านให้เปิดจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น

    มงคลประสิทธิ์ปกาสิทธิ์ครูฟ้าสั่งให้รวย(ฝังเขี้ยวเกี้ยวสุรกานต์พระไภรวะสูบหมื่นมารพ้นบาปทั้งปวง)บูชา 4,000 บาท

    274775992-942658099752632-4352278327188472433-n.jpg 274667549-2047457025435051-9202734309886824558-n.jpg
    274901351-1557968644570326-7148476952408661872-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2022
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา เขี้ยวเกี้ยวสุรกานต์พระไภรวะสูบหมื่นมารพ้นบาปทั้งปวง(พันตะกรุดครูช่วยคน)

    จะกล่าวถึงตะกรุดครูช่วยคนนั้นนับว่าเป็นของที่หาครอบครองได้ยากยิ่งในยุคแรกๆซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้เลิกทำไปแล้วแต่ท่านยังได้ลงหัวใจวิชาใส่ตะกรุดดอกเล็กๆเก็บไว้บ้างและนำมาพันเข้ากับเขี้ยวพระพิราพชุดนี้ ตะกรุดครูช่วยคนเป็นตะกรุดที่เอาไว้ใช้ฉุดชักดวงชะตาแก้ไขปัญหาให้เเก่ศิษย์ที่กำลังฝ่าฟันวิกฤติเเละเรื่องเลวร้ายเเสนสาหัสต่างๆท่านเรียกว่าตะกรุดครูช่วยคน

    ตะกรุดครูช่วยคน
    เมื่อลง
    ต้องทรงครูลงทุกดอกอ่านโองการไม่ได้ขาดปากเพื่อให้คนใช้พลิกชีวิตเเละวิกฤติได้จริงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดชุดนี้ใช้กำลังของปฐมฤาษีคือครูของมนุษย์,ครูของเทวดา,ครูของอสูร..ครูคือผู้ถ่ายทอดวิทยาการต่างๆแก่ศิษย์มีความปรารถนาดีให้กับศิษย์เปรียบได้กับพ่อแม่ ทั้งคอยเป็นห่วงคอยสอดส่องดูเเลและที่สำคัญครูอยากเห็นศิษย์เจริญรุ่งเรืองเเละประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งครูทั้งหลายเหล่านั้นท่านเป็นผู้คิดค้นศาสตร์ต่างๆบนโลกทั้ง18ศาสตร์ วิทยาการต่างๆ18เเขนง เมื่อเกิดสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นพระองค์ก็ทรงค้นคว้าคิดค้นพุทธศาสตร์แต่ศาสตร์ต่างๆดั้งเดิมทั้ง18ศาสตร์นั้นก็เเตกเเขนงออกไปมากมายทั้งกฏหมาย,ดนตรี,รัฐศาสตร์,การบริหาร,เเพทยศาสตร์,วิศวกรรม,งานสถาปัตยกรรมและอื่นๆสารพัดที่จะเเตกเเขนงเป็นสายย่อยออกไปจาก18ศาสตร์ก็เกิดเป็นวิชาชีพต่างๆเป็น100เป็น1,000

    ดังนั้นการจะ
    บูชาครูต้นที่ประดิษฐานรากฐานของวิชาการไว้บนโลกก็คือการระลึกถึงคุณของเหล่าครูบาอาจารย์ที่เราประกอบสัมมาอาชีพอยู่ในสาขาวิชานั้นๆ เมื่อเกิดผิดพลาดเกิดปัญหาเหตุการณ์ต่างๆก็จะพ้นผ่านไปได้รวดเร็วด้วยอำนาจของเเรงครูเเละเเรงกตเวทิตาที่เราระลึกถึงท่านบูชาท่านสม่ำเสมอ ชีวิตจะมีแต่ก้าวไปข้างหน้าไม่มีวันถอยหลังกลับมีหลักชัยในชีวิตคอยค้ำยันดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำไม่ให้เดือดเนื้อร้อนใจ จะไม่อยู่ต่ำกว่าใครในสายอาชีพของตนเมื่อเราได้ยึดถือครูบาอาจารย์ไว้ไปไหนก็เป็นที่รักทั้งมนุษย์เทวดาเเละอสูร พกตะกรุดของพ่ออาจารย์ดอกนี้ก็เหมือนไปไหนทำอะไรมีเเรงครูช่วยเหลือสนับสนุนเราตลอดเวลา เมื่อศิษย์มีครูก็เหมือนงูมีพิษใครที่ไหนก็ทำอันตรายเเก่เราไม่ได้เเถมพ่ออาจารย์ยังบอกว่าตะกรุดสายพระฤาษีนี้ยังเน้นเมตตาเเรงๆอีกด้วย

    อิทธิคุณโดยรวมตรงๆตัวเด่นมากท่านว่า
    ตามชื่อเลยคือ "ครูช่วยคน" เวลาใช้ให้อธิษฐานจิตบอกพ่อครูว่าลูกประกอบสัมมาอาชีพที่สุจริตอย่างไรขอความเจริญรุ่งเรืองในสาขาอาชีพนั้นๆตามเเต่จะอธิษฐานเเต่อย่าบนท่านว่าถ้าลืมเเก้มันจะไม่ดี คนเราได้ดีเพราะเเรงครูมีเยอะเเละก็ย่อยยับเพราะเเรงครูก็มีมากเช่นกัน ***ดังนั้นท่านให้ขอเเต่ห้ามบนเพราะถ้าบนเเล้วลืมเเก้เป็นคนปากไวใจเร็วจะเสียมากกว่าดี วิชาชุดนี้ท่านว่าห้ามพกต่ำกว่าเอวห้อยคอได้จะดีมากอธิษฐานบอกกล่าวใช้ได้ร้อยแปดประการ ท่านว่าทำยากเวลาทรงครูลงก็ยากให้เอาไปใช้ให้ชีวิตดีขึ้นอย่าเอาไปเก็บถ้าจะเอาไปวางไว้เล่นๆก็อย่าเอาไปเพราะมันลงยาก(น้อยนักที่จะมีเครื่องมงคลชุดใดที่พ่ออาจารย์ต้องลงทรงประทับร่างเพื่อสร้างให้สำเร็จ)

    เขี้ยวเกี้ยวสุรกานต์พระไภรวะ(สูบหมื่นมารพ้นบาปทั้งปวง)
    เครื่องมงคลชุดนี้สร้างได้ยากอย่างแท้จริง เพราะพ่ออาจารย์ท่านจะสื่อพลังงานโดยตรงของพระไภรวะอันเป็นเทพอสูรที่เกิดจากพระศิวะให้รุนแรงที่สุด ท่านว่า
    ฉันต้องใช้ของเก่าอันมีคุณกายสิทธิ์ด้วยตนเองของพระไภรวะโดยเฉพาะมาเชิญครูพระสยมทำให้อีกครั้ง ซึ่งครูพระสยมท่านได้บัญชาไว้แล้วว่าให้รวบรวมหัวครูพระพิราพเก่าๆที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้วไปขอเขาบูรณะแล้วถอดเขี้ยวเก่านั้นออกเอาของใหม่ใส่ไปแทนทำให้สมบูรณ์คงทนขึ้น โดยเขี้ยวเก่าๆของหัวครูพระพิราพนั้นท่านไม่ให้ทิ้งเลย กลับกันจะต้องนำมาทำพิธีลงอาถรรพ์เพื่อทำเครื่องมงคลชุดนี้

    โดยเขี้ยวยักษ์พระพิราพ(ไภรวะ)ในหัวครูชุดเก่าๆอายุมากกว่าห้าถึงหกสิบปีขึ้นไปนั้นส่วนมากจะผ่านพิธีไหว้ครูมาอย่างยาวนานจะสึกเสื่อมสภาพตามวันเวลาทั้งยังมีอาถรรพ์รุนแรงสูงส่งสูงสุดแห่งกำลังพระเป็นเจ้ารวมถึงกำลังแรงครูชักนำฉุดดึงชีวิต เขี้ยวในหัวครูนั้นผ่านการลงประสิทธิ์ของญาณพระไภรวะมานักต่อนักในงานบวงสรวงไหว้ครู ทั้งยังเป็นเคล็ดที่ว่าสร้างหัวครูใส่เขี้ยวยักษ์ด้วยเขี้ยวหมู(ใช้เขี้ยวหมูมาทำเขี้ยวยักษ์จะทำอะไรก็ได้เจอแต่งานหมูๆมีชีวิตง่ายๆนั่งกินนอนกิน) ทั้งครูพระสยมท่านยังบอกเอาไว้ว่าเขี้ยวเหล่านี้ที่เก่าจนรานจนผุกร่อนผุพังไปบ้างตามวันเวลาล้วนมีอำนาจแรงครูประเสริฐเลอเลิศเป็นกำลังแห่งไภรวะอันมีอำนาจร้อนแรงดั่งไฟประลัยกัลป์(พ่ออาจารย์ท่านว่าเข้าอาถรรพ์เอามาทำเครื่องมงคลเลยเพราะแรงด้วยกำลังตบะบารมีเป็นที่สุด) ท่านได้นำเขี้ยวยักษ์หัวครูพระพิราพที่ท่านรวบรวมมาทั้งชีวิตมาเจาะระทำสร้อยห้อยคอไว้..เพราะจะวางต่ำนั้นไม่ได้เลยจะเก็บก็กลัวความบังเอิญที่ท่านจะหล่นร่วงลงไปตกดินเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตัดสินใจทำอาถรรพ์เชิญครูเสกมาสามสิบปีพร้อมกับห้อยคอท่านไปด้วยจะมีถอดบ้างก็ตอนนำไปคล้องศิวลึงค์หรือเทวรูปองค์พระสยม พ่ออาจารย์ท่านว่าเขี้ยวพระพิราพชุดนี้ใครตาดีอย่าเผลอไปลองดีมองเอานะเดี๋ยวจะเจอไฟพวยพุ่งออกมาจะเสียตากันไปเปล่าๆ ดูไม่เป็นเดี๋ยวตาจะบอดเอาง่ายๆ เพราะไภรวะเป็นภาคปราบมารของพระศิวะและเป็นครูสูงสุดทางฝ่ายยักษ์มีฤทธิ์แรงวิเศษเพราะทรงเพศเป็นเทพอสูร

    อำนาจแห่งพระไภรวะ
    พระไภรวะนั้นเป็นชื่อที่เรียกเทพคณะหนึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าจะเรียกว่าคณะไภรวะก็ได้จัดอยู่ในกลุ่มของเทพอสูรระดับพระเป็นเจ้าที่มีความดุรุนแรงเกรี้ยวกราดอย่างถึงที่สุด ### ตามคติของพ่ออาจารย์ท่านที่ว่ายิ่งดุมากยิ่งให้คุณมาก ยิ่งให้คุณมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีแก่ตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เช่นนี้ท่านจึงอัญเชิญอำนาจคณุพระสยมแผ่ซ่านลงในเขี้ยแก้วสุรกานต์พระพิราพของเก่านี้ให้เป็นตัวแทนมหาเทพในกลุ่มไภรวะท้้งหมด ด้วยเทพไภรวะนั้นเป็นตัวแทนของอำนาจแห่งการทำลายล้างสูงสุดโดยปกติแล้วจะไม่ปรากฏองค์เลยแต่เมื่อปรากฏรูปขึ้นมาจะแสดงฤทธิ์ยิ่งใหญ่สะท้านสะเทือนจักรวาลโดยจะมีหัวหน้าคณะเป็นผู้ปกครอง ได้ชื่อว่าเป็นเทพอสูรผู้ครองอำนาจสูงสุดของจักรวาลนี้ซึ่งก็คือ " พระกาละไภรวะ "

    **** พระกาละไภรวะนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นครูสูงสุดในคณะไภรวะ เพราะมีฤทธิ์มากที่สุดจะคอยดูแลร่างไภรวะอวตารทั้งแปดองค์อันประจำอยู่ขอบกำแพงจักรวาลทั้งแปดทิศ ดุจว่าแปดเทพอสูรนี้เป็นดั่งด่านสุดท้ายของจักรวาลที่ไม่มีใครฝ่าหรือต้านทานได้องค์กาละไภรวะท่านจะคอยบัญชาคณะไภรวะนั้นซึ่งแต่ละองค์จะมีฤทธานุภาพแตกต่างกันไป

    - พระโคทะไภรวะ มีพระวรกายสีเข้มมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะนกเหยี่ยว พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์นี้มีอำนาจฤทธิ์ที่กล้าหาญเป็นผู้อยู่เหนือกาลเวลาและห้วงมิติทั้งหลาย ท่านจะคอยประสาทพรแก่เราเวลาเราต่อกรสู้กับปัญหาอุปสรรคทั้งปวงหรืออำนาจชั่วร้ายทั้งหลายมีปัญหาที่ใหญ่เกินตัวท่านจะคอยช่วยเราตลอด
    - พระกาปาลไภรวะ มีพระวรกายผ่องใสมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นช้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงเป็นเลิศในความสมบูรณ์ เป็นครูผู้เลิศในอุดมคติและนำความสำเร็จทั้งปวง ทั้งยังทรงธรรมคอยประทานความยุติธรรมแก่โลกแก่สรรพชีวิตที่ถูกกลั่นแกล้ง ท่านจะคอยประสาทพรให้เรามีชัยชนะในกิจการที่ได้รับมอบหมาย นำความสมบูรณ์ในอุดมคติและความสำเร็จทั้งหลายเข้ามาในชีวิตนำความยุติธรรมมาสู่ตัวเรา
    - พระอสิตังกะไภรวะ มีพระวรกายคล้ำมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นหงส์ พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงเป็นผู้มีความสามารถเชี่ยวชาญงานศิลปะมีความรู้ทางสติปัญญาที่มั่นคงสูงส่ง ท่านจะคอยประสาทพรให้ความรู้ความเชี่ยวชาญในศาสตร์ทั้งหลายที่เราศึกษาจับต้องทั้งเปิดสมองเปิดสติปัญญาให้ดวงจิตเราแจ่มใส มีสติมั่นคงมีดวงปัญญาสว่างกระจ่างสูงส่ง
    - พระจันดาไภรวะ มีพระวรกายขาวมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นนกยูง พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงไร้พ่ายในการศึกสงครามมีอานุภาพสิบทิศไร้ผู้ต้านมีชัยชนะเหนือศัตรูมีความสามารถในการสู้รบและเป็นผู้พิชิตปัญหาทั้งปวงให้ราบรื่น ท่านจะคอยประสาทพรเวลาเราเจอหมู่มารหรือศัตรูเบียดเบียนกวนใจชีวิตเขาจะอยู่ไม่เป็นสุขเลย(ครูแรงมากพ่ออาจารย์ท่านว่าพูดเยอะไม่ได้ข้างบนเขาห้ามเด็ดขาด) ทั้งยังคอยแก้ไขปัญหาชีวิตที่เราเองสะสมเอาไว้ดลให้ชีวิตเราราบรื่นเช่นนี้
    - พระคุรุไภรวะ มีพระวรกายสีเทามีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นวัว พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ท่านเป็นนักปราชญ์เป็นมหาปราชญ์คือรู้ทุกสิ่งในจักรวาลไม่มีสิ่งใดที่ท่านไม่รู้ ท่านจะคอยประสาทพรให้คุณความรู้ให้ดวงตาเรามองเห็นปรัชญาการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง เห็นทางที่ควรเดินชีวิตที่ควรเลือกควรดำเนินไปและยังให้พรการศึกษาวิทยาความรู้และพระเวทย์ทั้งปวง
    - พระสัมหาระไภรวะ ทรงอวตารเปลือยกายวรกายสีแดงมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะสุนัข พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นปางแห่งการสังหารกำจัดซึ่งอวิชาสิ่งชั่วร้ายความอหิงสาและความอหังการ์ทั้งหลายเรียกว่าเป็นมหาปราบจักวาล ลองได้ลงมือปราบแล้วย่อมสิ้นนามสิ้นเชื้อ ท่านจะประสาทพรดับล้างความเสื่อมโทรมและกำจัดคุณแห่งอวิชชาทั้งหลาย คุณของไสยต่ำอสุรกายภูติผีทั้งหลายแม้การกระทำคำสาปแช่งหากมีตกตะกอนในตัวเราย่อมมลายหายสิ้น
    - พระอุนมัตตะไภรวะ รูปนี้ทรงบริสุทธิ์สูงสุดวรกายผุดผ่องมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นม้า พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นที่มาแห่งความรื่นรมย์ความสุขสงบแห่งธรรมสูงสุด ท่านจะคอยประสาทพรทำลายล้างความชั่วทั้งหลายในจิตใจของมนุษย์ ดลให้ชีวิตเห็นธรรมเห็นสัจจะถึงซึ่งความรื่นรมย์และสงบสุขไปกับธรรมเหล่านั้น
    - พระภีชานะไภรวะ มีพระวรกายขาวผ่องใสมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นสิงโต พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นครูที่คอยกำจัดอำนาจมืดกำจัดวิญญาณชั่วร้ายหรือสิ่งที่ไม่เป็นมงคลในโลก หากชีวิตเราโดนอำนาจมืดรังแกหรือตกอยู่ใต้การรุกรานของผู้อื่นท่านจะประสาทพรคอยช่วยเหลือทั้งยังล้างอัปมงคลทั้งหลายให้สูญสิ้น

    คณะไภรวะทั้งเก้านี้แม้เป็นเทพอสูรแต่ก็เป็นครูสูงสุดที่จะนำพรแห่งความสุขสมหวังมาสู่ผู้บูชาหาได้น่ากลัวดั่งคำว่าอสูรไม่ พ่ออาจารย์ท่านว่าอสูรก็เป็นเทวะไม่ใช่ยักษ์ใช่มารมีความเป็นทิพย์เช่นกันทั้งคณะไภรวะนั้นยังมีอำนาจหน้าที่อันสมควรเรียกได้ว่าตรงงานที่สุดอันจะนำมาซึ่งองค์ประกอบถ้วนทุกประการประสานกันเป็นความสุขแห่งชีวิตของผู้บูชา ท่านจึงได้เชิญกำลังสูงสุดประสิทธิ์ในแรงครูสูงสุด(เขี้ยวแก้วพระพิราพ)พลังของคณะเทพอสูรไภรวะทุกองค์ขึ้นเพื่อจะให้คณะไภรวะได้ปกป้องและนำพรมงคลมาสู่ผู้ถือครอง แต่เพื่อให้กำลังของคณะไภรวะสมบูรณ์อย่างถึงที่สุดพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่เก้าแต่ต้องเป็นสิบ เป็นสิบเทพอสูรเป็นคณะไภรวะไร้ผู้ต้านท่านจึงเชิญครูไภรวะองค์สำคัญให้ร่วมประสิทธิ์ประสาทแฝงญานในรูปนามด้วย นั่นก็คือองค์พระไภรวะที่เกิดขึ้นจากอวตารขององค์พระศิวะ
    - พระบาตุกไภรวะ อยู่ในรูปของเด็กหนุ่มมีสี่พระกรทรงสุนัขดำเป็นพาหนะ องค์นี้ได้ชื่อว่ามีฤทธิ์อำนาจยิ่งใหญ่ในมือถือกระบองดัมรูและชามกะโหลกทรงถือศรีษะของอสูรอพาตและเศียรที่ห้าของท้าวมหาพรหม องค์บาตุกนั้นได้ชื่อว่ามากฤทธิ์ที่สุดเพราะทรงประหารเศียรที่ห้าของพระบรมบิดาพรหมเทพซึ่งเศียรนี้หมายถึงอัตตาเป็นความลุ่มหลงในตัวตนของตนเองทำลายความอหังการแต่นั้นมา ทั้งเป็นสาเหตุให้พรหมทั้งหลายเหลือเพียงสี่เศียรเรียกว่ามีอำนาจทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่แห่งฟ้าดินให้เกิดขึ้นได้ ทั้งองค์บาตุกนั้นยังได้สังหารอสูรอพาตที่ไม่มีใครสังหารได้แม้แต่พระแม่กาลี ด้วยพระแม่กาลีได้เชิญอวตารองค์บาตุกไภรวะนั้นสังหารอสูรในรูปเด็กห้าขวบ องค์บาตุกนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีฤทธิ์มากสามารถประสาทพรให้เราทำสิ่งที่ไม่คาดคิดไม่คาดฝันให้สำเร็จเสร็จสิ้นได้ *** ซึ่งนามบาตุกนั้นแปลว่าบุตรชายแห่งพราหมณ์ทั้งยังเป็นเทพที่ถือว่ามีความสำคัญยิ่งยวดด้วยองค์พระศิวะท่านโองการให้บูชาบุตรพราหมณ์ที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ก่อนคือบาตุกไภรวะแล้วจึงบูชาพระองค์

    เช่นนี้เขี้ยวแก้วสุรกานต์พระพิราพจึงมีกำลังแรงครูสูงมากพ่ออาจารย์ท่านว่าสมบูรณ์แล้วด้วยกำลังตบะแห่งไภรวะและแรงครูศักดิ์สิทธิ์สูงสุด(เพราะเป็นเศียรครูสูงสุดของฝ่ายยักษ์ที่แต่ละเศียรผ่านพิธีมามากมายยาวนานเป็นเศียรประธานครูสูงสุดในงานไหว้ครู) เช่นนั้นอาถรรพ์เขี้ยวแก้วชุดนี้คืออาถรรพ์ที่สงเคราะห์คนด้วยแรงครูสูงสุดอย่างแท้จริง เป็นเขี้ยวแก้วแทนจิตวิญญาณทั้งสิบของครูเทพอสูรที่มีอานุภาพร้ายแรงดุดันและร้ายกาจร้อนแรงมากที่สุดอันจะพึงมีบังเกิดขึ้นทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคตกาลอันมีทิพย์อำนาจการทำลายล้างอกุศลและบาปกรรมสูงสุดแห่งพระเป็นเจ้าทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าแบบนี้มันเกินกว่าดุและแรงมากไปไกลแล้วนะฉันทำได้ครั้งเดียวใครจะเอาไว้ก็ถือว่าชีวิตเขาได้ผ่านมาเจอครูชั้นสูงสุดอันมีแรงครูดุดัน..หนักแน่น..ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วถึงเวลาที่จะผ่านพ้นเคราะห์กรรมแล้วจะก้าวล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายและเริ่มมีสิ่งที่ดีงามปรากฏแก่ชีวิตตนเอง เขี้ยวพระพิราพนี้อยู่ที่ไหนสิ่งไม่ดีไม่อาจเข้าใกล้หรือรังควานได้เลยสิ่งอกุศลไม่ดีทั้งหลายตลอดจนวิญญาณร้ายจะกลายเป็นอาหารที่สิบเทพอสูรคณะไภรวะท่านเสพย์ท่านกินไปหมดสิ้น แม้มีใครคิดร้ายต่อเราไม่ต้องพูดอะไรมากหรอกเตรียมดูความพินาศฉิบหายของคนเหล่านั้นได้เลยไม่มีใครตายดีซักคนถ้าเข้ามารังแก "ลูกของพ่อ" และ "ลูกของครู"

    คาถาบูชา
    โอมยักษะ สะวะรูปายะ ชะตาธะรายะ ปินากะ หัสตะตายะ สะนาตะนายะ ทิวะยายะ เทวายะ ทิคัมพะรายะ ตัสไม ยะการายะ นะมะศิวายะ

    *** อย่าประมาทแรงครูนะผู้ดูถูกครูย่อมไม่พบความเจริญ เครื่องมงคลชุดนี้ฉันใช้ของสูงมาสร้างมาทำ มีไม่กี่องค์หรอกเพราะหัวครูแบบนี้หาคนเต็มใจมอบให้ยากยิ่งเก่าเขายิ่งหวงต่อให้สลายกลายเป็นฝุ่นก็ยังมีค่าสำหรับเขา แรงครูชั้นสูงสุดที่ผ่านพิธีกรรมมายาวนานแบบนี้ใครรับไว้ก็มีแต่เจริญก้าวหน้าด้วยครูนำพา หากแต่ไม่ใช่ครูธรรมดาแต่เป็นครูสูงสุดฝ่ายเทพอสูร ถ้าจะห้อยเล่นๆก็ไม่ต้องเอาไปแต่หากจะฝากตัวฝากใจอย่าให้ท่านช่วยให้รวยก็มาเอาไปห้อย ..ห้อยแล้วอย่าถอดออกจากคอไม่มีเสื่อมถอยไม่มีข้อห้าม ถ้ารักครูนับถือครูอยากได้แรงครูสูงสุดค่อยมาเอารายการนี้

    *** พ่ออาจารย์ท่านให้เปิดจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น


    ร่วมทำบุญบูชา เขี้ยวเกี้ยวสุรกานต์พระไภรวะสูบหมื่นมารพ้นบาปทั้งปวง(พันตะกรุดครูช่วยคน) บูชา 2,000 บาท
    274591291-383210020313855-7969618534734499362-n.jpg 274923817-644867346602145-6702722666183973331-n.jpg
    275234534-492182845771521-8700892548558650068-n.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา เครื่องมงคลแห่งความบังเอิญตะกรุดขอ,ได้,ให้,เป็นพันชะตามหาขุมทรัพย์(บังเอิญจะมี)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าในกาลปัจจุบันนั้นทุกข์เข็ญหาง่ายกว่าความสุข ตั้งแต่ยุคนี้สืบต่อไปตัวทุกข์สารพัดที่จะเกิดขึ้นได้ในสังสารวัฏจะแสดงผลออกมาที่ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็นเองกับตา เรียกว่าของเก่าไม่ทันหายก็เกิดเรื่องใหม่ๆมาให้อกสั่นขวัญผวากันไปเรื่อยๆ ที่เป็นการกระทำจากการบงการโดยอสูร,ปีศาจ,รากษสเหล่านี้ก็มากที่เกิดจากภัยระบาดด้วยการครอบงำของนักบวชด้านมืดซึ่งทำให้เทวดาหลงผิดได้ก็มีท่านว่านี่ยังไม่รวมไปถึงการทำคุณไสยอวิชชาที่นับจากนี้ต่อไปจะเข้มข้นรุนแรงกันมากขึ้นเพื่อหวังเอาชัยชนะซึ่งกันและกันจากจิตใจคนนที่ตกต่ำ เช่นนั้นเครื่องมงคลที่สร้างขึ้นต่อไปมันไม่ใช่แค่หนุนให้คนรวยก็ใช้ได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว

    การเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยร้ายแรงนัก..แล้วจะรอดไปได้ซักกี่วัน
    เธอสังเกตุกันหรือไม่ว่าตั้งแต่โลกตกอยู่ในความปั่นป่วนนี้วัตถุมงคลบางอย่างแม้แต่ของที่ใช้กันใช้แก้ที่เคยใช้ได้ผลมาในปัจจุบันนั้นกลับไม่ได้ผลอะไรเลย..ไม่ใช่ตัวของมันเสื่อมหรือใช้ไม่ได้นะ ยิ่งถ้าเป็นของเกี่ยวข้องกับดวงชะตาด้วยแล้วกลับให้ผลลดลงไปมาก พ่ออาจารย์ท่านว่ามันมาถึงจุดที่กำลังและพลังงานเปลี่ยนผ่านตัวเรามาเกิดอยู่ในช่วงจังหวะเวลาที่คาบเกี่ยวการเปลี่ยนผ่านยุคสมัย ตรงนี้เองที่ทำให้ความอัตคัดขัดสนมันรุนแรงมากขึ้นทั้งแก้ไขได้ยากแบบเดาทิศทางคาดการณ์ไม่ได้เลย การที่จะกันแก้เปลี่ยนชะตาให้ครบจบกระบวนความจึงเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่เดิมนั้นมืดมนแต่ก็ยังมีแสงสว่างสุกสกาวให้ได้เห็นเป็นคำตอบ ครูพรหมท่านว่าก็ความบังเอิญไง..บังเอิญจะมี..บังเอิญจะได้..บังเอิญจะเป็น..บังเอิญจะเกิด..บังเอิญจะรวย..บังเอิญจะสุข..บังเอิญไม่ทุกข์เหมือนใคร ก็ความบังเอิญเหล่านี้เองที่ไม่คาบเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยไม่ข้องแวะด้วยพลังฟ้าดินซึ่งไม่เสถียร..ไม่ข้องแวะด้วยชะตาคนซึ่งรับเอากำลังฟ้าดินโดยตรงเหล่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    เครื่องมงคลแห่งความบังเอิญนี่สร้างยากที่สุดนะเพราะมันท้าทายเรามาก เรียกว่าเป็นของปราบเซียนจริงๆมีคุณลบล้างอำนาจอันไม่ชอบธรรมออกไปได้รวมไปถึงพวกคนที่ให้โทษคอยขัดแข้งขัดขาเกะกะระรานในชีวิตเราด้วยลบหายไปเลย..เหนือสิ่งอื่นใดเลยที่ครูพรหมท่านบอก คือความบังเอิญให้สบายใจไม่มีมือที่สามที่สี่มาเกาะแกะชีวิต,ไม่โดนคนอื่นหาเรื่องใส่ตัวเอาความเดือดร้อนมาพัวพันเราไปด้วย ศาสตร์แห่งความบังเอิญนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำมาแล้วแหกคอกไปหมดทั้งกระบวนการเลยนะ
    - ข้อแรกมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับบุญเก่าเลยวว่าจะมีมากน้อย..หรือไม่มี บังเอิญก็คือบังเอิญได้
    - ข้อสองมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับบารมีหรือความประพฤติอะไรทั้งสิ้น เพราะความเอิญก็คือบังเอิญเกิดขึ้น
    - ข้อสามมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับฐานะความยากดีมีจน เพราะความบังเอิญก็คือบังเอิญรวย
    - ข้อสี่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับแรงสนันสนุนใดๆรอบข้างแม้แต่สติปัญญาตนเอง เพราะความบังเอิญไม่ได้เลือกจะเกิดที่คนฉลาดหรือคนโง่
    - ข้อห้ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราจะเคยเป็นอย่างไรมาก่อน เพราะความบังเอิญมันบังเอิญเกิดกับคนได้ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ

    นั่นแหละพ่ออาจารย์ท่านจึงว่าอย่าไปใช้เหตุผลกับมัน เครื่องมงคลชิ้นนี้คือเครื่องมงคลแห่งความบังเอิญที่ไม่ต้องการเหตุผลหรือพลังงานบุญ,พลังงานบาป,พลังงานฟ้า,พลังงานดิน,พลังการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยหรือแม้แต่พลังงานใดๆมารองรับ มันคือเครื่องมงคลที่ใช้แหกคอกได้โดยปริยาย ท่านจึงเรียกสั้นๆแค่ "บังเอิญจะมี" ก็บังเอิญจะมี..บังเอิญจะเกิด..บังเอิญจะรวย..บังเอิญจะรอด..ไม่ต้องการเหตุผลหลักการประกอบใดๆให้รวยแบบฟลุ๊คๆ..ให้รอดแบบฟลุ๊คๆ..ให้สบายแบบฟลุ๊คๆ..ให้มีความสุขแบบฟลุ๊คๆ เช่นนี้ ปัดเหลือบไรลิ้นเห็บหมัดที่คอยเกาะกินสูบเลือดสูบเนื้อในวงจรชีวิตเราออกไปเป็นเครื่องมงคลแห่งความบังเอิญที่สุดท้ายแล้วท่านว่า "จะบังเอิญตั้งตัวได้และบังเอิญลืมตาอ้าปากได้ยามอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านยุคสมัยนั่นเอง"

    ท่านว่าเครื่องมงคลชุดนี้ท่านทำออกมาเป็นตะกรุดซึ่งครูบรมพรหมท่านกำชับไว้เลยว่า
    - เอาไว้ใช้เยียวยารักษาบาดแผลที่เกิดขึ้นยามเปลี่ยนผ่านยุคสมัยอันยาวนาน
    - เอาไว้บรรเทาอำนาจพิบัติภัยในสังสารวัฏให้ทุเลาเบาบางจางหาย
    - เอาไว้รบกับความไม่แน่นอนในชีวิต
    - คนที่เคยได้รับผลหนักแม้ถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัวก็จะเบาลง


    ตะกรุดนี้เปรียบดั่งมงคลวัตถุที่
    คอยเยียวยาเธอไม่ว่าจะอยู่ในสภาพย่ำแย่มามากแค่ไหนทั้งไม่มีอำนาจใดจะปิดกั้นมันได้ไม่ว่าอำนาจฟ้า,อำนาจดิน,อำนาจคน,อำนาจสังสารวัฏ...เพราะกรรมบังเอิญอยู่เหนืออำนาจเหล่านี้จึงไม่มีอำนาจฝ่ายใดยับยั้งหรือทำลายการเยียวยาด้วยกำลังความบังเอิญนี้ได้ ท่านว่าจะมีทุกสิ่งสมบูรณ์พร้อมตามแนวทางหน้าที่การงานของตนแบบสง่างาม ฉันย้ำนะว่าแบบสง่างามผ่าเผยเลยก็คนมันจะบังเอิญมีบังเอิญเกิด...ดั่งที่คนเขาว่ากูจะฟลุ๊คกูจะรวยแล้วจะทำไมอิจฉากันเข้าไปสิ มันก็เป็นแบบนี้แต่อำนาจแห่งความบังเอิญนี้ไม่ใช้ใช้แค่เพียงผิวเผินดังกล่าวเท่านั้นหากแต่ยังลบอำนาจของผลพวงหลักๆใหญ่ๆที่จะบ่อนทำลายเราไปด้วย

    1. จะบังเอิญให้เกิดความรุ่มร้อนแก่ภูติผีปีศาจวิญญาณร้ายรอบข้างเราทั้งหมด
    2. ทิพย์กายใดๆที่ตกอยู่ในความหลงผิด..ที่เดินตามศาสตร์มืดมนต์ดำจะบังเอิญให้หัวแตกเป็นเจ็ดภาคหากมาทำลายเรา
    3. หน่อเนื้อเผ่าพงษ์บริวารภูติผีปีศาจที่ปล่อลมเพลมพัดมาหรือจะริษยาตั้งใจทำลายเราก็ดีจะขยาดขลาดกลัวเหมือนถูกไฟนรกเผา
    4. คนที่ต้องอาถรรพ์ไสยเวทย์แบบหาสาเหตุไม่ได้จะคลี่คลาย
    5.
    ความเสื่อมที่เคยประสบพบมา..จะไม่วกกลับมาทำลายข้องเกี่ยวกับเราอีก เมื่อพ้นความทุกข์ยากใดๆแล้วนั่นคือพ้นเลยนะ พ้นแบบหายขาดเลย(วิชานี้มันอัศจรรย์ตรงนี้หายขาดแบบไม่เจอซ้ำซากไปทั้งชีวิต)
    6. กรรมที่มีตัว
    ..มักจะกำเริบเรื่อยๆ..เคลื่อนที่ไปเรื่อย..เล่นกับชีวิตเราเรื่อยๆวนเวียนอยู่กับเรามาสนองเราเป็นรอบๆเป็นวาระจะระงับไป
    7. เมล็ดพันธุ์แห่งภูติผีปีศาจ ไสยศาสตร์มนต์ดำที่เคยกินตัวเรามาแต่ก่อนที่ซ่อนลึกอยู่ในกระดูกในเลือดเนื้อแบบฝังเข้ากระดูกดำจะเหือดแห้งไปดุจโดนสูบลงกระทะทองแดง
    8. ภูติผีปีศาจที่เคยแฝงร่างจะถอยออกจากร่าง
    9. การรอเวลา..การประทุของเวรกรรมขั้นรุนแรงจะสงบระงับไป เปิดโอกาศให้ได้ก่อกรรมดี

    ### ก็เมื่อสิ่งเหล่านี้หมดไปจากร่างกายอย่างสิ้นเชิงแล้ว นั่นแหละคือที่มาของการขอ,ให้,ได้,เป็น...คือเหตุที่จะเกิดความบังเอิญทั้งหมดขึ้นได้ หากยังติดขัดสิ่งหนึ่งสิ่งใดอยู่ความบังเอิญย่อมเกิดขึ้นไม่ได้เลย แบบนี้แหละครูบรมพรหมท่านถึงบอกเราว่าทำยากและท้าทายมากเพราะวิชาที่ลงตะกรุดมันส่งผลเป็นค่ายกลลบล้างสิ่งต่างทั้งเก้าขั้นแบบต่อเนื่องพร้อมๆกันก่อนจะสนองความบังเอิญให้เกิดขึ้น..เมื่อเกิดความบังเอิญดังนี้จึงขอให้ได้เป็นทุกสิ่ง..บังเอิญขอแล้วได้..บังเอิญให้ก็เป็น

    คนที่เคยตกทุกข์ได้ยากทั้งที่ทราบสาเหตุ..หรือแบบไม่ทราบสาเหตุหาทางแก้ไขมากมายก็ล้มเหลวที่ว่าชีวิตเจอมาหนักๆวนเวียนซ้ำซาก เวลาใช้ตะกรุดนี้ต้องอดทนเล็กน้อย

    - หากเป็นกรณีความผิดปกติที่เกิดด้วยโดนกลั่นแกล้งหรือสิ่งทีมองไม่เห็นประการต่างๆ ที่เรียกว่าซวยซ้ำซวยซากทุกข์ซ้ำซ้อนท่านว่าจะมีอาการประทุออกมา
    เมื่ออาราธนาตะกรุดจะรู้สึกหน้ามืด(แค่ช่วงแรกๆต้องทนเอา) หรืออาจจะอ่อนเพลียรู้สึกกระอักกระอ่วนข้างในมันคือการที่ ไอ้ตัวที่เรามองไม่เห็นนั่นแหละจะประทุออกมาต้องทนให้ได้พอผ่านแล้วก็ผ่านเลยจะไม่กลับมาทุกข์ซ้ำซ้อนอีก

    - ในกรณีที่มีผีแฝงมีแรงอาฆาตพยาบาทกรรมเวรใดๆแฝงตัวอันนี้ก็เหมือนกัน เมื่อตะกรุดอยู่กับตัว
    ผีมันจะทรมานและเพราะมันอยู่ในตัวเราจึงทำให้เราเกิดอาการกระสับกระส่ายบ้าง(ในกรณีคนที่โดนมาหนักแต่ก็จะเป็นเพียงช่วงแรกๆที่รับตะกรุดไปใส่) ไอ้ตัวที่มองไม่เห็นที่ว่ามันดื้อด้านวนเวียนป้วนเปี้ยนไล่ไม่หายไปจากชีวิตเราซักทีนั่นแหละจะไม่กลับมารบกวนอีกเลย

    - ถ้าในตัวเราโดนคุณโดนของไปทับไปจมกับอาถรรพ์เจอลมเพลมพัดอะไร
    พอห้อยตะกรุดนี้ไว้มันจะขับบางครั้งเราก็จะเรอหรือผายลมออกมาแบบบูดเน่า บางครั้งก็จะอ้วกเอาสิ่งแปลกปลอมในร่างกายออกมาท่านว่าเป็นครั้งเดียวหายเช่นกัน

    - หากอยู่ในสถานที่ซึ่งผีหรือเทวดาให้โทษแล้ว เอาเอาตะกรุดแช่น้ำทำน้ำมนต์สาดให้ทั่วที่ว่าให้โทษทั้งที่ดุที่เฮี้ยน ที่มันทำลายเราทำร้ายเราก็ดี..คอยกลั่นแกล้งเราก็ดีจะอยู่ไม่ได้เลย

    - เมื่ออาราธนาตะกรุดหากแต่เดิมชีวิตเราเจอแต่เรื่องยุ่งยากไม่หยุด หากเรา
    รับเอาอาถรรพ์ลี้ลับทับถมมาเรื่อยๆจนมากเกินไปโดยไม่รู้ตัวก็เป็นเหตุให้ชีวิตเจอปัญหาต่อเนื่องได้ไม่จบไม่สิ้น เหมือนเราแบกรับภาระหนักในทุกๆวันยิ่งมีชีวิตอยู่ต่อหนึ่งวันภาระก็ยิ่งหนักขึ้น ตะกรุดนี้จะล้างเรื่องยุ่งยากพวกนี้ออกไปโดยตรงทำลายอาถรรพ์ร้าย ถ้าใครโดนตรงนี้แล้วห้อยตะกรุดไปเราจะรู้สึกวาตัวเราโล่งเบาสบายอย่างน่าประหลาด..นั่นคือไม่มีภาระแล้วไม่มีไอ้ตัวอาถรรพ์ถ่วงชีวิตแล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดตัวนี้มันเคลียร์ปัญหาหมักหมมในชีวิตเราตรงๆเลย ก็คือเคลียร์หมดจะออกอาการแปลกๆดั่งว่าข้างต้นยิ่งคนที่โดนมาหนักหรือเจอมมามากก็จะยิ่งอาการหนักแต่แป๊ปเดียววันสองวันก็หาย มันเคลียร์ระบบเราก่อนที่จะเจอเรื่องบังเอิญต่างๆเปลี่ยนแปลงตัวเอง

    แต่ทั้งนี้ท่านก็อธิษฐานและเฝ้าแต่คาดหวังและอธิษฐานจริงๆว่าให้ได้แต่คนที่มีจิตใจดีๆเอาไปใช้เถิดพราะความบังเอิญเรื่องดีๆมันตกแก่เราเนืองๆทั้งหมด แต่...ท่านว่าคนที่ถือตะกรุดนี้มีสิทธิ์ทำให้คนที่เราเกลียดที่เราแค้นที่เราชังบังเอิญโชคร้าย,บังเอิญซวย...และสารพัดความบังเอิญด้านลบได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าได้ทำเด็ดขาดอย่าลืมว่าที่เราตั้งใจบูชาตะกรุดก็เพื่อเร้นเคราะห์ซ่อนกรรมใช้ความบังเอิญเอาโชคชัยให้กับชีวิต

    *** อย่าพาลทุจริตเอาตะกรุดไปใช้ทำกรรมเพิ่มแก่คนอื่นใส่ตัวเลย เพราะคุณตะกรุดนี้หากเอาไปแกล้งไปรังแกคนอื่นจะส่งผลถึงตัวเองเช่นกัน..มันเท่ากับเราผูกกรรมและกลับไปเหยียบในวงจรกรรมนะ


    ตะกรุดขุมทรัพย์แพะทองคำ
    พ่ออาจารย์ท่านเอาตะกรุดมาพันด้วยวิชาก้นหีบของท่านคือวิชาทำตะกรุดขุมทรัพย์แพะทองคำ
    เป็นปกาศิตครูจะได้พันชะตาให้พัวพันข้องเกี่ยวกับมหาขุมทรัพย์ ให้มีทรัพย์เกิดขึ้นจากภายในกลืนราชาทรัพย์..กลืนความบังเอิญทั้งสิ้นไว้ในชีวิตเรา
    อันท่านตั้งชื่อตะกรุดนี้ตามอานุภาพของพระยันต์ ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาชั้นยอดที่ท่านสืบมาจากครูซึ่งเรียนต่อมาจากหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้วอีกคำรบหนึ่ง โดยท่านไม่เคยนำมาสร้างตะกรุดแต่อย่างใดเลยจนกาลต่อมาท่านปรารถนาจะทำเครื่องมงคลเพื่อเป็นสิ่งระลึกถึงหลวงปู่บุญและเป็นกำลังใจให้ผู้บูชา ท่านจึงตัดสินใจสร้างตะกรุดนี้องค์ที่ว่ากันว่าหลวงปู่บุญท่านจะทำให้เฉพาะกับคนที่มีความคุ้นเคยสนิทชิดเชื้อแต่เพียงเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเพราะเป็นวิชาที่มีอานุภาพมากจะบันดาลให้เจริญขึ้นโดยส่วนเดียว..ไม่มีทุกข์โทษโทสาใดๆเลย ที่เห็นไว้คนที่มีสืบต่อกันมาก็เจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งมีเกียรติคุณระดับชาติทั้งนั้นไม่ตกอยู่ในมือเจ้าสัวก็เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินวิชานี้จึงถือว่าสำคัญนัก

    พ่ออาจารย์ท่านจึงดำริตั้งใจทำบูชาพระคุณหลวงปู่บุญเสียวาระหนึ่งจึงได้บอกกล่าวขออนุญาติหลวงปู่และขอให้ท่านเมตตามาช่วยลงพระเวทย์ปลุกเสกให้เสมอเหมือนกับตะกรุดที่ท่านเคยสร้างไว้แต่เก่าก่อน ตะกรุดนี้มีพรรณคุณวิเศษนานัปประการ
    -ด้วยว่าจะดลบันดาลให้ทุกสิ่งพบกับความสำเร็จ
    - เป็นฐานมั่นคงให้ผู้บูชาเจริญรุ่งเรือง
    - ซ้ำยังมีคุณดุจดวงแก้วมณีนพรัตน์อันเกิดแต่บุญญาภิสมภารพระมหาจักรพรรดิ์ เป็นดวงแก้วสารพัดนึกสุกสว่างที่จะประกอบการสิ่งใดนึกคิดอะไรก็สามารถฉุดดึงให้ผู้บูชาเจริญขึ้น
    - จะไม่ตกไปสู่ความมืด จะเจริญและมั่นคงในทุกกิจที่พึงกระทำ
    - จะทำอะไรก็สำเร็จไปหมดไม่มีคำว่าแพ้ว่าพ่าย ไม่มีคำว่าติดรั้งขัดสนต้องผจญอุปสรรค
    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดเวทย์วิชานี้มีอานุภาพกว้างเพราะสำเร็จด้วยพุทธานุภาพจึงมีอภินิหาริย์อย่างยิ่ง ปกติวิชานี้จะไม่ลงให้กับใคร..ไม่ใช่ว่ากับใครก็ได้เพราะเป็นวิชาเอก..มันให้คุณมากไป..ท่านกริ่งเกรงว่าจะเป็นโทษภัยใหญ่หลวงหากคนใจต่ำได้ไปครอบครอง

    ด้วยกาลเวลาและสถานการณ์ทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไป พ่ออาจารย์ท่านจึงดำริว่าถ้าเรียนมาจะมัวแต่เก็บงำเอาไว้ก็ไม่สู่ฝังดินเสียดีกว่าอื่นไหนๆคนเขาก็เดือดร้อนทุกข์ยากกันถ้วนหน้าแล้วจะทำไว้เสียวาระหนึ่งจะเป็นอย่างไร ถือด้วยว่าทำบูชาพระคุณบูรพาจารย์ท่านจึงลงอักขระพระยันต์ไว้โดยตั้งใจว่าจะทำให้ดีที่สุด
    - วิชานี้จะให้ผลทางด้านความเจริญรุ่งเรือง เสริมส่งให้ผู้บูชามั่นคงซ้ำยังเป็นดั่งแก้วสารพัดนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าตั้งจิตอธิษฐานขอเอาได้ถ้วนทุกประการ ทุกอย่างที่ขอจะตั้งอยู่บนฐานความสำเร็จ ถ้ามีกฏแห่งกรรมมาเกี่ยวเนื่องฉุดรั้งไว้ด้วยอานุภาพตะกรุดจะแปรเปลี่ยนให้เป็นไป ที่ว่าหนักก็จะเบาที่ว่าเบาก็จะหายไปจะไม่ให้ขุ่นข้องเจ็บเนื้อช้ำกายแต่อย่างใด ใช้ได้ครอบจักรวาล หากใช้เป็นสามารถปรับดวงจิตปรับภพภูมิของตนและสรรพสัตว์ได้ ตีค่าไว้เสมอด้วยดวงแก้วคู่บารมีบรมจักรพรรดิของหน่อพระพุทธเจ้าโดยแท้จริง
    - ให้อิทธิคุณสูงสุดทางด้านโชคลาภการทำมาหากิน..การเสี่ยงโชค ความเจริญลาภผลเงินทอง แม้ไม่ปรารถนาหรืออธิษฐานแต่อย่างใดก็จะมีโชคลาภความสุขสบายเข้ามาหา

    เมื่อทำวิชานี้ท่านได้อธิษฐานจิตเชิญครูปลุกเสกอยู่ร่วมขวบปีจนสำเร็จโดยเฉพาะแผ่นยันต์มีรัศมีส่องออกมาเป็นแสงประกายพฤกษ์ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเต็มแล้ว ต่อจากนี้จึงเชิญบารมีเฉพาะของเมณฑกเศรษฐีมาครอบอีกหนหนึ่งจะได้สำเร็จประสงค์ พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานเชิญเมณฑกเศรษฐีขอบารมีเฉพาะทางของท่านให้ผู้บูชาร่ำรวยมีความสุข โดยบอกท่านว่า

    - ขอให้เค้าตั้งตัวได้
    - คิดสิ่งใดก็สมปรารถนาสำเร็จโดยไว
    - ที่สำคัญคือได้อะไรมาง่ายๆแบบสบายๆ

    จากการเสกด้วยบารมีของเมณฑกเศรษฐีจึงปรารกฏฝูงแพะทองคำขึ้นมาจำนวนมาก แผ่นยันต์แต่ละแผ่นได้เปลี่ยนไปกลายเป็นแพะทองคำพ่ออาจารย์ท่านว่าแผ่นยันต์นี้ท่านตั้งชื่อให้ว่ายันต์ขุมทรัพย์แพะทองคำ เพราะเป็นของมงคลที่มีคุณใหญ่ดุจแก้วพระมหาจักรพรรดิ์เป็นแก้วสารพัดนึกซ้ำยังได้บารมีของเมณฑกเศรษฐีอธิษฐานจิต

    ซึ่ง
    แพะทองคำของเมณฑกเศรษฐีนั้นเป็นแพะสารพัดนึก..ที่จะปรารถนาเงินทอง..เสื้อผ้าแพรพรรณ..อาหาร..หยูกยารักษาโรค..ทุกสิ่งหากมีประสงค์เพียงแต่ดึงด้ายออกมาจากปากแพะ..ก็จะได้สมปรารถนาในทุกสิ่งเรียกได้ว่ามีครบรสถ้าปรารถนาความรุ่งโรจน์มั่นคงและความร่ำรวย ท่านจึงเอาแผ่นพระยันต์นี้มาม้วนกลืนไว้ด้านนอก

    ### ในตะกรุดทุกดอกจะบรรจุมหาธาตุผงคตวิเศษต่างๆทั้ง 108 ชนิด ท่านว่าบางอย่างมีมูลค่านับหมื่นนับแสน..บางอย่างก้หายากยิ่งกว่าหาหนวดเต่าเขากระต่าย จึงทำให้ตะกรุดนี้มีอำนาจกายสิทธิ์คงทนไม่มีวันเสื่อมถอยในอานุภาพ เปล่งประกายออกมาจากภายในเจิดจ้าเสมอตะวันพันดวง ท่านว่ามหาธาตุต่างๆภายในนั้นครูบรมพรหมท่านให้บรรจุไว้เสริมกำลังตะกรุดนี้ให้อยู่เหนืออำนาจฟ้าดินขึ้นไปอีก 108 ขั้น เป็นเคล็ดว่าปิดหนทางตกระกำลำบากเพราะคตวิเศษเหล่านี้มีอานุภาพต่อต้านกำลังฟ้าดินได้โดยตรง

    ### รายการนี้ไม่มีคาถา..ไม่ต้องอธิษฐาน...เพียงแค่พกทุกอย่างก็ทำงานของมันทันที

    ### รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น
    พ่ออาจารย์ท่านทำไว้เพียง 8 ดอก แต่ท่านทำสายห้อยคอท่านเองไปแล้วคู่หนึ่ง ใครจองทันก้นับว่าเป้นที่สุดแห่ง..ความบังเอิญอย่างแท้จริง

    ร่วมทำบุญบูชา เครื่องมงคลแห่งความบังเอิญตะกรุดขอ,ได้,ให้,เป็นพันชะตามหาขุมทรัพย์(บังเอิญจะมี) บูชา 4,000 บาท
    274851193-635648910830694-6386506700968488993-n.jpg
    274785410-465712145236447-522580995977532261-n.jpg
    275072356-337564634977002-6555982683730935895-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2023
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นทับถมมงคลสิริสมดุลอาถรรพ์เศวตเวทย์(แมงปอกลับธาตุ)

    - พ่ออาจารย์ท่านได้ซุ่มทำหุ่นแมงปอเก็บไว้ ...โดยอัดตราส่วนการหล่อหลอมคือตะกรุดมงคลเศวตเวทย์...1ดอก เท่ากับแมงปอ 1 ตัว แต่ท่านให้บูชาในราคาเดิมเท่าตะกรุดเหมือนเดิมคือ 4,000 บาท
    - วิชานี้เป็นวิชาที่ให้ผลรุนแรงซึ่งมีคนขอให้ท่านทำรุ่นสองมาตลอด...แต่ท่านไม่เคยทำให้ใครเพราะได้ทำหุ่นแมงปอซุ่มเสกไว้นานแล้ว
    - หุ่นเศวตเวทย์นี้ ..พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อนำมาทำเป็นหุ่นมีรูปนามลงธาตุลงอาถรรพ์วิชาครบสำเร็จเป็นตัวตนจะแรงกว่าตอนเป็นตะกรุดซักร้อยเท่า..ทั้งยังให้คุณเร็วกว่าเดิมซักพันเท่า

    นี่จึงเป็นเหตุผลที่พ่ออาจารย์ท่านเก็บงำหุ่นทับถมมงคลสิริ(หุ่นแมงปอไว้เสมอ) เพราะด้วยคุณเศวตเวทย์ซึ่งเป็นเวทย์ฝ่ายขาวขั้นสูงจะเกิดอะไรขึ้นหากมันแรงและเร็วกว่าตอนเป็นตะกรุดซักร้อยเท่าพันเท่า ..นั่นย่อมหมายถึงความสมดุลย์แห่งทุกสิ่งในชีวิตจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทั้งหุ่นแมงปอทุกตัวท่านจะลงจารพระเวทย์กำกับให้ตามฐานหน้าที่การงาน...ลงวิชาให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่อยากได้..อยากรับ..ต้องการให้ตนเองเป็นคนประสบความสำเร็จด้านไหนเรื่องอะไรท่านก็จะลงกำกับให้หุ่นแมงปอเป็นพิเศษด้านนั้นๆ

    กว่าจะมาเป็นหุ่นทับถมมงคลสิริ(หุ่นแมงปอ)
    พ่ออาจารย์ท่านเคยปรารภถึงวิชาแมงปออยู่หลายครั้งแต่ท่านก็ยังไม่ใคร่ทำ จนหลายครั้งมีผู้นำแมลงปอสำนักต่างๆที่ศูนย์พระสร้างมาให้ท่านตรวจสอบ ก็กลับพบว่าแมงปอเหล่านั้นผู้สร้างยังไม่รู้แม้แต่หัวใจของแมลงปอไม่มีการลงหัวของแมลงปอเลย ท่านว่าป่วยการที่จะพูดอะไรมากกว่านั้นว่าเสกไปได้อย่างไร หลังจากนั้นท่านมีนิมิตเชื่อมต่อเข้ากับอารยธรรมยุคบรรพกาลท่านจึงรู้และเห็นความสำคัญของวิชาแมงปอที่ว่า ทำไมทุกคนถึงควรที่จะมี..วิชาแมงปอนี้สำคัญเพียงไร..สูงส่งแค่ไหนหากลงหัวใจและลงเต็มวิชาแล้วจะมีคุณมากเพียงใด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายคนจะรู้จักวิชาแมลงปอเพียงแค่ว่า เป็นวิชาชั้นสูงทางเรียกทรัพย์ เป็นวิชาทางมหาลาภ ด้วยแมลงปอมีนิสัยชอบอยู่ร่วมกันเป็นฝูง..จะอยู่ร่วมกันในบริเวณที่มีอาหารบริบูรณ์ ดังนั้นวิชาแมงปอนี้อยู่ที่ไหนที่นั่นจึงจะสมบูรณ์ ไพบูลย์เจริญรุ่งเรืองวัฒนาด้วยชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย เพียบพร้อมไปด้วยอาหารการกินปัจจัยสี่แก้วแหวนเงินทอง ท่านว่าหลายๆคนจะรู้เพียงเท่านี้ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดอย่างใด แต่มันคืออานุภาพของแมลงปอแบบเต็มวิชาไม่ใช่แมลงปอที่ขาดหัวใจ

    ท่านว่าวิชาแมลงปอนี้สำคัญนัก นอกจากจะเป็นเลิศทางเรียกทรัพย์เรียกสิ่งที่ไม่มีให้มีเต็มคลังเต็มบ้าน ช่วยให้คนจนเป็นเศรษฐีอย่างง่ายๆ..ดีทั้งการทำมาหากินและเสี่ยงโชคทุกสถานเพราะเป็นสัญลักษณ์และวิชาแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่สืบทอดมาแต่ยุคบูรพาจารย์แล้ว ท่านว่ามันก็ถูกแต่ยังไม่ใคร่ถูกเสียทีเดียวทั้งหมดวิชาแมงปอจริงแท้แล้วนั้น ที่ว่าเป็นวิชาสำคัญมากจนบูรพาจารย์แม้สั่งสอนศิษย์ก็ไม่ใคร่จะสอนทั้งหมดอาจจะมีปิดบังหัวใจหรือการลงบางอย่างทำให้ในชั้นหลังวิชาแมงปอเป็นแค่การเสกพยนต์ที่หนุนด้วยธาตุและคาถาต่างๆไป

    ท่านว่าโดยแท้จริง
    วิชาแมลงปอเป็นวิชาแห่งความสมดุล สิ่งใดที่มันยังขาดไปมันก็จะเต็ม..สิ่งใดที่มันเกินไปมันก็จะลดทอนทั้งอุปัทวอันตรายเคราะห์กรรมโรคภัยทั้งหลายเช่นนี้จะลดทอนไป ท่านว่ามนุษย์ที่เกิดมาตามกฏแห่งกรรมนี้มีอยู่แค่สองอย่างในความรู้สึกตน มีแค่สองสถานไม่มีมากไปหรือน้อยไปกว่านั้น หากมากไปนั้นก็ได้ชื่อว่าทุกข์..น้อยไปก็ยิ่งทุกข์อีกไม่ขาดก็เกินเป็นเช่นนี้ทุกคน

    - วิชาแห่งความสมดุลนี้เป็นวิชาสายกลางเป็นวิชาของความพอดี ซึ่ง
    จะปรับสมดุลย์ธาตุตลอดจนวิถีชีวิต
    ไม่ให้มีมากหรือน้อยเกินไป ท่านว่าที่ว่ามีพอดีนั้นคือมีความสุข วิชาแมลงปอหรือตะกรุดแมงปอกลับธาตุนี้จึงเป็นวิชาอันจะนำมาซึ่งความสุขแม้สถิตย์อยู่กับผู้ใดย่อมได้ชื่อว่าห่างไกลจากทุกข์ พูดง่ายๆคือถึงขั้นนิรทุกข์ทีเดียว

    พ่ออาจารย์ท่านมักจะพุดว่า แมงปอนั้นเค้ามองโลกได้รอบทิศเห็นได้ถ้วนทั่วเกินกว่าทัศนวิสัยของมนุษย์หรือสัตว์อื่นๆเพราะเค้ามองโลกได้ทั้ง 360 องศา(
    จะเกิดอะไรถ้าเรามีหุ่นจิตพิทักษ์ซึ่งเห็นได้สามร้อยหกสิบองศารอบทิศทางล่ะมันดีขนาดไหนลองคิดเอา) และก็เป็นเช่นนั้น
    - ผู้ที่ถือครองวิชาแมลงปอนี้จะมีคุณวิเศษเสริมสร้างสัมผัสเร้นลับตลอดจนทัศนวิสัยให้เปิดเต็มที่..มองโลก..มองชีวิตได้ง่ายและเข้าใจกว่าคนอื่น
    - จะเห็นช่องทาง..เห็นลู่ทาง..เห็นอนาคต..จะพึงรู้ว่าสิ่งใดควรทำมิควรทำ

    - จะมีลางสังหรณ์พิเศษว่าสิ่งใดต้องลงมือทำแล้วจะสำเร็จหรือสิ่งใดเกี่ยวข้องด้วยจะถึงคราววิบัติ

    ท่านว่าวิชาแมงปอมันพิเศษตรงสัญชาตญาณเช่นนี้แหละเธอพกหุ่นแมงปอของฉันสัญชาติญาณมันก็เกิดแก่ตัวเธอเป็นคุณสมบัติพิเศษของตัวตนเธอที่หาไม่ได้จากที่ไหนนี่คือเศวตเวทย์ เพราะวิชาอื่นทำไม่ได้และไม่มีมันถึงได้ถูกยกไว้เป็นยอดวิชาเป็นวิชาที่ค่าควรเมืองจะหาวิชาใดมาเปรียบเทียบมิได้ เพราะคนที่กอปรด้วยสัญชาตญาณและสัมผัสพิเศษถึงปานนี้แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นยอดคนที่พันปีจะเกิดมีซักครั้งหนึ่ง(นี่แหละโอกาสมันอยู่ข้างหน้า..อยู่ตรงนี้..ไม่มีสิ่งใดจะประเสริฐสำหรับตัวของตนเท่ากับการพึ่งตนเอง..ไม่มีสิ่งใดจะพิเศษไปกว่าสัญชาติญาณดุจพรสวรรค์เช่นนี้แล้ว) แต่คนที่รู้และเข้าใจวิชาหัวใจแมงปอนั้นกลับไม่มี

    ท่านว่า
    ถ้าไม่ดีจริงวิชาแมงปอนี้แม้แต่กษัตริย์ในอารยธรรมโบราณอย่างพวกฟาโรห์อียิปต์คงจะไม่ใช้กัน มันเป็นวิชาแห่งความสมดุลเป็นวิชาแห่งความอุดมสมบูรณ์ถึงขึ้นสร้างมหานคร..สร้างชาติ...ก่อเกิดอาณาจักรที่มั่งคั่งยาวนานนับพันปีท่านว่านี่คือความลับของวิชาแมงปอ เพียงหัวใจแมลงปอลงและเสกเต็มวิชาให้กับใครไม่เห็นเค้าว่าจะแย่ลงซักราย มีแต่กลายเป็นตัวตนที่คาดไม่ถึงไปแล้วทั้งนั้น

    เมื่อเป็นเช่นนั้นท่านก็พิจารณาจะทำไว้แบบเต็มวิชาเต็มสูตรเป็นรุ่นเสียวาระหนึ่ง ท่านว่าตั้งใจว่าจะทำให้เป็นหุ่นเศวตเวทย์คนมีวาสนาบูชาเค้าจะได้พกง่ายใช้งานง่าย แต่ถึงกระนั้นวิชามันไม่เล็กตามดังนั้นจึงต้องอาศัยความเพียรพยายามอย่างยิ่ง ท่านว่ากว่าจะเรียกสูตรจารแต่ละตัวนั่นยั่งไม่เท่าไหร่แต่การบีบและย่ออักขระนี่สิทำเสร็จแล้วปลงโลกได้เลย ท่านว่าเพราะอาศัยความเพียรความตั้งใจและความเข้มข้นของจิตอย่างมากจึงทำไว้ได้เพียง 8 ตัวเท่านั้น หลังจากท่านเป่าลงหัวใจแมงปอเสร็จแล้วท่านบอกว่า

    หุ่นแมงปอกลับธาตุนั้นทำเพื่อให้เป็นวิชาแห่งความสมดุล
    ท่านได้นำอาถรรพ์เศวตเวทย์ทั้ง 32 บท ลงเสกเสริมเข้าไปด้วยอีก 84,000 คาบ ท่านว่าเพียงลำพังเศวตเวทย์อันได้ชื่อว่าสูงส่งเหนือกว่าคุณวิชชาหรือไสยเวทย์ทั้งหลาย แม้เพียงบทเดียวก็มีคุณมากประมาณยิ่งกว่าฝอยท่วมหลังช้างแล้ว แต่ท่านกลับลงไว้ถึง 32 บทเสกให้แปดหมื่นสี่พันคาบ(ท่านว่านี่องค์ปฐมสั่งนะให้เสกแปดหมื่นสี่พันคาบ..ท่านว่าใครได้ใช้จะได้ครอบคลุมจบกิจความปรารถนาที่ตั้งใจจะทำกันในชาตินี้..เท่ากับเห็นผลทันตา)

    เศวตเวทย์ 84,000 คาบ
    ท่านว่าเศวตเวทย์คือเวทย์บริสุทธิ์เป็นวิชาธรรมสูงส่งอันจะบันดาลให้เกิด
    ความสำเร็จสมหวังด้วยอานุภาพแห่งอาถรรพ์ธรรมเวทย์ วิชาเช่นนี้เหนือกว่าคุณไสยอวิชชาทั้งปวงท่านว่าไม่มีใครเค้ามักใช้มักทำกันเพราะมันเหมือนเป็นดาวข่ม สำหรับผู้ถืออาถรรพ์เศวตเวทย์ดุจว่าข่มและเหยียบวิชาไสยเวทย์และอาถรรพ์ฝ่ายต่ำฝฝ่ายอวิชชาทั้งหลายไว้ทีเดียว แม้ใครมีของดีหรือเล่นคุณไสยอย่างไรท่านว่าเศวตเวทย์ข่มและกำราบทั้งหมด คนเหล่านั้นไม่มีที่ว่าจะชนะและอยู่เหนือกว่าเราเลย

    ท่านว่าเมื่อลงตะกรุดเศวตเวทย์นี้
    ย่อมเป็นการลงอาถรรพ์ที่เหนือกว่าวิชาอาถรรพ์ใดๆทั้งปวง เป็นการทำวิชาวาระสำคัญที่จิตวิญญาณเบื้องบนยังต้องน้อมเศียรนมัสการธรรมเวทย์นั้น เพราะธรรมเวทย์เหล่านั้นแม้แต่เหล่าองค์สมเด็จพระพิชิตมารพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังน้อมยึดถือไว้เป็นสรณะ ท่านว่าจะพูดมากก็ไม่ควร..บอกได้คร่าวๆเพียงเท่านี้

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้อาศัยยามปลอดอาศัยฤกษ์มงคลสร้างหุ่นแมงปอชุดสำคัญคนใช้จะได้ยิ่งมีโชคกันมากๆสำเร็จแล้วท่านก็พึงเสกหุ่นนั้นเรื่อยมา จนในวาระหนึ่งท่านนิมิตเห็นเสด็จพระใหญ่ได้เมตตามาอธิษฐานแมงปอเหล่านี้ พร้อมกับถามท่านว่ากำลังเล่นอะไรทำอะไรอยู่นี่แสบตาดีจัง หลังจากนั้นพระองค์ก็พิจารณาหุ่นแมงปอเศวตเวทย์เหล่านั้น พร้อมกับเปล่งพุทธอุทานว่าสาธุซึ่งแปลว่าดีแล้ว และดำรัสว่า ดูเถิด แม้แต่ธรรมเวทย์ธรรมธาตุเหล่านี้ยังบังเกิดแล้วในวัตถุใด เบื้องหน้านั้นธรรมธาตุเหล่านี้ย่อมบังเกิดในชนเหล่านั้นเสมอกัน หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงขอให้พระองค์ท่านช่วยกำกับและลงวิชาธรรมอีกวาระหนึ่ง

    หุ่นแมงปอนี้ใครได้พก
    ยิ่งกว่าวิชาเพชรกลับหรือมหากลับอะไรเหล่านั้น อันว่าแมงปอกลับธาตุนี้ธรรมดาท่านว่าแม้ใครได้บูชาก็จะบรรเทาเคราะห์กรรมได้ ยิ่งใครดวงตกพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกต่างๆให้รีบบูชา..จะผ่านพ้นช่วงเวลาเลวร้ายและเคราะห์กรรมเหล่านั้นไปได้
    แต่แมงปอกลับธาตุนี้หากพกแล้วมันได้มากกว่าเรื่องแก้ดวงตกโดยทั่วไปซึ่งหาได้ในมงคลวัตถุต่างๆ เพราะไอ้เรื่องแย่ๆร้ายๆต่างๆบรรดามีที่จะทำความเสียหายล่มจมพอมันว่าจะเกิดๆมันก็กลับไม่เกิดไปเสียดื้อๆ กลับหน้ามือเป็นหลังมือไปหมด พูดง่ายๆคือไม่มีนั่นเอง ไม่มีช่วงเวลาเสวยทุกข์..เสวยเคราะห์กรรม หุ่นแมงปอกลับธาตุนี้จึงเป็นยิ่งกว่าวิชาหนุนดวงใดๆ ท่านว่าพกไว้สบายใจอย่างยิ่ง

    ท่านว่ามงคลอาถรรพ์เศวตเวทย์นี้เป็นของสูงค่าและทำได้ยาก ดังนั้นจึงตั้งใจไว้ว่าจะทำเพียงครั้งเดียว..ไม่มีครั้งต่อไปอีก เพราะการลงวิชา 84,000 คาบทั้ง 32 บทเช่นนี้ใช้พลังจิตสูงใช้เวลานานมาก..ลองคูณไปดูสิ ..84,000 * 32 = 2,688,000 เสกเป่าลมอธิษฐานจำนวนขนาดนี้ฉันจึงใช้ปราณใช้เวลานานหลายๆปี..หมดครั้งนี้รอจนตายฉันก็เสกไม่ไหว ท่านว่าหุ่นแมงปอนี้อธิษฐานใช้ได้เลยเวลาอธิษฐานให้บอกว่าชีวิตลูกยังขาดอะไร..ยังไม่มีอะไร (เพราะสิ่งเหล่านี้ยังขาด..จึงได้ชื่อว่าชีวิตยังไม่สมบูรณ์) ขอให้อานุภาพแห่งองค์ปฐมและครูพระเวทย์พระธรรมสงเคราะห์ให้มีทุกสิ่งสำเร็จทันใจทุกประการ ท่านว่าหุ่นแมงปอนี้ทำใจให้สงบให้อารมณ์เย็นสบายแล้วค่อยอธิษฐาน คาถานั้นไม่จำเป็นต้องใช้แต่จะถือภาวนาไว้ก็ได้

    คาถาบูชา
    เอหิจิตตัง นะกะหะตะปะพุทธัง ภควาจิตตัง มานิมามา

    *** หุ่นแมงปอศวตเวทย์(กลับธาตุ)นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาอาถรรพ์ที่ไม่มีใครทำกันเหนือกว่าวิชาอาถรรพ์ใดๆทั้งหมด ดังนั้นผู้ที่จะบูชาจึงต้องมีวาสนาและจิตผูกพันธ์กับวิชาอาถรรพ์อันเป็นยอดวิชาแต่บรรพกาล ท่านจึงอธิษฐานจิตทำขึ้นฝากไว้ให้กับผู้มบุญสัมพันธ์เหล่านั้น สำหรับคนที่จะบูชารับจองเฉพาะทาง PM และแจ้งชื่อนามสกลุล วันเดือนปีเกิด..อาชีพหน้าที่การงาน..เป้าหมายในชีวิตฝากไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการลงจารเสริมเปิดดวงรับทรัพย์ที่หุ่นทุกตัวให้เป็นของเฉพาะคน

    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นทับถมมงคลสิริสมดุลอาถรรพ์เศวตเวทย์(แมงปอกลับธาตุ) บูชา 4,000 บาท

    275242772-326451539468882-2372241898249675689-n.jpg 275265726-699393077759118-8849131919279968969-n.jpg
    275211448-1282097415645312-2902984211055732107-n.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา มหาภูติวิหคฟ้าสาลิกาสวรรค์ชุดธาตุกายสังขารพญาการเวกปักษา(ฝังตะกรุดวายุภักษ์)

    ### พ่ออาจารย์ท่านมีความตั้งใจมากในการสร้างสาลิกาชุดนี้ ด้วยท่านว่าหากลงเป็นยันต์และเสกด้วยมนต์ก็ได้แต่เพียงคุณวิชา...หากจะทำให้ขึ้น..ครบรูปนามจริงๆต้องใช่สังขารพ่อนก..นั่นคือเถ้าพญานกมาจัดสร้างซึ่งท่านก็แสวงหาอยู่นานจนได้เถ้ากระดูกพญาการะเวก ซึ่งเป็นตระกูลพญานกมีตระกูลสูงและมีอาถรรพ์มากทางคติมายาศาสตร์
    ### เช่นนั้นนกสาลิการุ่นนี้จึงเน้นที่ความรุนแรงด้วยมนต์คาถาและผงมวลสาร พ่ออาจารย์ท่านว่า
    ปลุกเสกขึ้นดีจังเลยมันมีสื่อด้วยชาติตระกูลของมัน ซาบซ่าไปหมดเสกทีไรน้ำตาฉันไหลทุกทีลงไว้ครบทั้งวิหคฟ้าสาลิกา..กับการะเวกปักษาสวรรค์
    ### ด้านหน้านกสาลิกาทุกตัวโรยด้วยผงเถ้ากระดูกพญาการะเวก(หนึ่งในตระกูลพญานกสูงศักดิ์เช่นพญาครุฑ)


    ตำนานวิหคฟ้าสาลิกาสวรรค์นั้นเป็นวิชาอาถรรพ์ยุคขอมโบราณที่นิยมใช้กันทั่วไป ด้วยเชื่อว่าให้ผลด้านเมตตามหานิยมเป็นที่รักของผู้คน ซ้ำยังใช้ในการเจรจาพาทีแต่ทั้งนี้หากทำเต็มตำรับวิชาแล้วยังเล่นทางเสน่ห์เล่ห์กล..ไปจนถึงมหาลาภใช้เป็นดุจได้แก้วสารพัดนึกอีกด้วย *** เพราะการเจรจานั้นเป็นการใช้คำพูดสื่อสารในสาระสำคัญต่างๆ..ทั้งนี้วิชาสาลิกาก็เป็นวิชาที่หนุนวาจา หนุนคำพูดให้วาจานั้นมีพลัง

    ตรงนี้สำคัญมากพ่ออาจารย์ท่านว่าอันลมปากนั้นย่อมมีอำนาจครอบงำได้ทุกสิ่ง คำคนนี้ทรงพลังอย่างมากเพราะจะพูดให้เขารักก็ทำได้..จะพูดให้เกลียด..พูดให้แตกแยกกันก็ยังได้ นี่เป็นเพียงลมปากธรรมดาดังนั้นวิชาสาลิกาที่ใช้เสริมส่งคำพูดคนให้มีพลังเกินวิสัยจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นอาถรรพ์วิชาในการใช้คำพูดสะกดผู้คนได้ทุกสิ่งนั่นเอง...ผู้ที่มีสาลิกาลิ้นทองอยู่กับตัวนั้นย่อมเป็นที่รักแก่ผู้คนเป็นที่เสน่หาโดนถ้วนทั่ว วาจามีพลังอำนาจพูดจาสิ่งใดไม่ขัดหูคน แม้นพูดจาเจรจาสิ่งใดกับผู้ใดเค้าจะหลงรักปักใจเชื่อไปจนวันตาย... พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆแล้ววิชาสาลิกาใช้ออกได้หลายทางตั้งแต่
    - การทำงาน
    - การเข้าสังคม
    - การจีบสาว
    - การเจรจาว่าความ
    - การพูดคุยกับผู้ใหญ่
    - การแสวงหาความดีความชอบใส่ตัว
    - การดึงดูดลาภผล

    ท่านว่าทุกสิ่งในชีวิตล้วนต้องอาศัยการพูดคุยการเจรจาทั้งสิ้น ก็มีวันใดบ้างที่เราตื่นมาแล้วจะไม่พูดไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเลย ดังนั้นวิชาที่เสริมส่งการเจรจานี้หากใครได้ถือไว้ทำอะไรย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง

    ซึ่งวิชาสาลิกานี้ก็มีการทำวิชาแตกต่างกันไปตามสายตามสูตรรวมไปถึงวัสดุที่ใช้ มีทั้งแบบตะกรุด,สีผึ้ง,ผง,ว่านยา,รูปหล่อตามแต่ครูบาอาจารย์ผู้สร้างจะพิจารณาว่าจะใช้อะไร พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาจริงๆแล้วที่ท่านเคยทำก็จะมีตะกรุดกับรูปหล่อที่ลงวิชาไว้ เมื่อพูดถึงสาลิกาท่านก็จะพูดว่าสมัยนี้ถ้าไม่พูดถึงที่อื่นเอาเฉพาะของเรา หรือทอดสายตามองไปทั่วแล้วจะหาสาลิกาที่เป็นสาลิกาตนครูคือวิชาสาลิกาที่ท่านว่าจำเป็นต้องหามวลสารเฉพาะของสาลิกาตามคำครูบาอาจารย์ หากปราศจากมวลสารสิ่งต่างๆเฉพาะทางเหล่านี้แม้จะสักอย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่สามารถทำวิชาสาลิกาเต็มสูตรได้เลย ที่ผ่านๆมาพ่ออาจารย์ท่านจึงเพียงลงมนต์บ้าง..ลงวิชาบ้าง..ส่วนที่ทำเต็มสูตรต้องตามตำราให้เป็นสาลิกาตนครูท่านว่าเราไม่เคยให้ใครได้ใช้ เพราะนกนี้มันแรงด้วยอาถรรพ์วิชาตลอดจนแรงครูชั้นสูงใช้ได้ทั้งสายเมตตาสายมหานิยมสายเสน่ห์ ตามตำรับเขมรโบราณนับพันปีที่มีมวลสารเฉพาะทางของวิชาสาลิกา ท่านว่าสาลิกาของท่านมักจะจำแลงกายเป็นหญิงสาวสวมชุดขาวงดงามมาปรากฏบ่อยครั้ง...

    การทำสาลิกาตนครูนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องหามวลสารให้ต้องตามตำรา ท่านว่าในสายวิชาท่านหากทำแล้วขาดอะไรไปของนั่นถือว่ายังใช้ไม่ได้..ยังทำไม่สำเร็จ..แค่ดีกว่าเศษหินดินทรายเพียงเท่านั้น ซึ่งมวลสารเฉพาะทางเหล่านี้ประกอบด้วย
    - รังร้างนกสาลิกา
    - กระดูกสาลิกาแม่ลูก(ต้องนอนกกลูกตายเท่านั้นเรียกว่ารักจนตายไปตามกัน)
    - ไม้กาจับหลัก
    - ไม้กาล่องน้ำ
    - ไม้กาหลงรัง
    - น้ำมันลูกกา
    - น้ำมันหัวใจกา
    - น้ำตาเด็กร้องไห้ตามแม่เจ็ดคน
    นำมวลสารต่างๆเหล่านี้มาเข้ากับ
    ผงยาตำรับขอมโบราณพันปีสองชนิดนั่นคือผงยาลูกกา,ผงยาหัวใจกา โดยต้องแยกกันเสกแล้วจึงผสมเสกรวมกันอีกวาระหนึ่งซึ่งการทำผงยาลูกกา,ผงยาหัวใจกาเหล่านี้ เป็นยาโบราณที่มีสูตรการทำซับซ้อนซ้ำยังเป็นยาในหมวดวิชาอาถรรพ์ที่ใช้สะกดรักปักใจไม่พรากจาก ซึ่งตัวยานั้นล้วนแต่ต้องใช้ของอาถรรพ์ทั้งสิ้นไม่สามารถถ่ายทอดได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้จะทำสาลิกาตนครูที่มีอำนาจเป็นเอกในสายวิชาสาลิกาทั้งหมดแล้วเราก็จำเป็นต้องทำให้เต็มสูตรของเรา

    เมื่อทำผงวิชาสาลิกาเสกจนปรากฏรูปหญิงสาวสวยงามสำเร็จตามตำรับมหาภูติสาลิกาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงแกะพิมพ์เป็นนกสาลิกาจับหลักพร้อมกับท้าวกินนรีร่ายเวทย์อยู่ด้านล่างตามเอกลักษณ์ของท่าน โดยท่านตั้งใจแกะเป็นสาลิกาเดี่ยวด้วยว่าจะได้โผจับคู่..จับสิ่งที่ต้องการ..ตั้งคู่แท้,คู่จร,คู่สมพงษ์ สิ่งใดที่เราขาด..ยังมีความปรารถนาว่าจะได้อยู่ สาลิกาจะได้จับสิ่งเหล่านั้นมาเติมเต็ม พ่ออาจารย์ท่านว่าผงวิชาสาลิกาของเรานั้นทำยากเมื่อเสร็จทุกขั้นตอนแล้วย่อมเป็นผงสำเร็จท่านได้นำผงสำเร็จนี้มานวดเข้ากับผงอีกสามชนิดประกอบด้วย
    - ผงท้าวกำพร้า วิชาท้าวกำพร้านี้เเม้ยาจกกำพร้าเข็ญใจยังประสบความมั่งมีได้ดีเป็นถึงเจ้าพระยาพระมหากษัตริย์จอมจักรพรรดิ์ได้ จากบุคคลชนชั้นต่ำสุดได้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตมนุษย์ด้วยอำนาจพรเเละเเรงผลักดันของสิ่งมีชีวิตผู้เป็นใหญ่เเห่งพิภพดาวดึงส์ซึ่งก็คือพระอินทร์นั่นเองผงนี้ผู้ใดถือครองเสมือนหนึ่งได้รับพรจากพระอินทร์เจ้า ในการทำสาลิกาตนครูนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ลงผงวิชาท้าวกำพร้าและทำวิชาท้าวกำพร้าโดยตรงแบบเต็มสูตรเป็นครั้งแรก เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนจากจุดต่ำสุดให้ขึ้นสู่ขั้นสูงสุดอุปมาดุจยาจกไร้พ่อแม่..ไร้กำลัง..ไร้ญาติขาดมิตรก็ยังบินสูงขึ้น ชีวิตเกิดปาฏิหาริย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าขึ้นอุปมาดุจคนเข็ญใจสู่การเป็นพระราชาได้

    - ผงคุณวิชาท้าวกินรี อันวิชาท้าวกินรีนี้ท่านว่ามีชื่อพ้องเสียงกับคำว่า กิน - นา - รี เป็นนามที่สื่อให้เห็นชัดด้านมหาเสน่ห์อย่างแท้จริง และยังเป็นภาควิชามหาเสน่ห์ที่ให้คุณพิเศษแบบเต็มสูตรอีกแขนงหนึ่งเช่นกันพ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณโดษเด่น โดยนับถือกันว่าผู้ใดที่ได้ครอบครองเครื่องมงคลอันสำเร็จด้วยวิชานี้จะมีสรรพคุณนานัปประการดังต่อไปนี้
    1. จะได้คู่ครองที่มีรูปงามมีชาติตระกูลสูงแม้ตัวเองจะต่ำต้อยรูปชั่วตัวดำก็จะได้หญิงงาม หญิงสูงศักดิ์ สูงด้วยชาติตระกูลนิสัยดีงามมาเป็นคู่ครอง
    2. มีอานุภาพสะกดทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิต ให้เค้าเห็นใจเรา เมตตาสงสารเรา ช่วยเหลือเราในทุกเรื่องที่เราปรารถนา ตั้งเเต่มนุษย์จนถึงอมนุษย์แม้อินทร์พรหมยมยักษ์ก็ตาม
    3. ผู้ที่ได้ครอบครอง แม้จะผจญอยู่ในกฏแห่งกรรม เทพเจ้าทั้งหลายก็จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือผ่อนหนักให้เป็นเบา เเละจะประสบความสำเร็จเข้าสู่จุดสูงสุดในชีวิตรวดเร็วเเละง่ายดาย
    4. แม้รักหรือชอบพอใครเเล้วก็ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจ ขอเพียงปรารถนาที่จะเริ่มต้นในความรัก ย่อมได้เเละสำเร็จผลทุกครั้งไป
    พอจะกล่าวสั้นๆได้เเต่เพียงเท่านี้เพราะเป็นวิชาที่มีผลทางชักจูงชักนำ ทำให้จิตผู้อื่นเคลิบเคลิ้มหลงใหลตกอยู่ในภวังค์ของตัวเราซึ่งวิชานี้เป็นวิชาของผู้มีบูญญาธิการยิ่งใหญ่ มีวิธีใช้สารพัดจะใช้ตามเเต่ใจปรารถนาพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าแม้ได้ครอบครองเเล้วสืบไปเบื้องหน้าชีวิตผู้ที่ถือครองจะสบายหาความตกต่ำมิได้ เเม้ทุกข์เข็ญหรือปรารถนาสิ่งใดอันเกินเนื้อเกินเเรงเกินกว่าความสามารถของตน เทพเจ้าทั้งหลายท่านย่อมลงมาช่วยเหลือเนรมิตรสิ่งต่างๆให้ไม่เกินใจผู้ปรารถนา

    - ผงปถมังมหากำเนิด วิชาสำคัญที่ใช้สร้างสรรค์พร้อมกับเรียกร้องสิ่งที่ต้องการให้มาหาได้ทุกสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ขาดสิ่งใดพร่องสิ่งใดไม่รู้สิ้นรู้สุด ก็จะก่อเกิดเติมเต็มสิ่งเหล่านั้นท่านว่าพูดได้แต่เพียงเท่านี้ว่ามันสำคัญ และเป็นของที่สำคัญมากจนไม่สามารถนิยามสิ่งใดได้มากกว่านี้เพราะมันจะเติมเต็มไปจนถึงจิตวิญญาณเป็นวิชาที่เรียกว่าช่วยให้สมความปรารถนาก็ได้ อันผงปถมังมหากำเนิดนี้ทำยากนักและไม่ค่อยมีคนทำกันเนื่องจากเป็นผงที่มีแรงครูสูง


    เมื่อนำผงสาลิกาตนครูมาผสมผงวิเศษทั้งสามชนิดแล้วท่านจึงนำมากดพิมพ์เป็นองค์พระ พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้ถ้าจะเล่นเสน่ห์อย่างเดียวมันอยู่ยากโดยทั่วไปวิชาสาลิกาก็เป็นเมตตาหนักไปถึงขั้นเสน่ห์อยู่แล้วยิ่งเราทำตนครูเช่นนี้ด้วยเห็นทีว่าขุนแผนรึอะไรก็เอาไม่อยู่ เมื่อเราจะทำให้เต็มสูตรทั้งทีก็ต้องเล่นให้มันครบทุกทางทั้งบุญฤทธิ์..อิทธิฤทธิ์..วิชาสายกำเนิด..สายโพธิสัตว์..สายเทวราชอินทราเอามารวมกันให้หมด ด้วยสาลิกานี้จะอำนวยความสุขและหนุนนำชีวิตท่านว่าเป็นนกสาลิกาที่มีดีมากกว่าเสน่ห์เมตตาทั่วไป ทั้งด้านหลังทุกตนท่านยังได้ทำตะกรุดพญาการเวกปักษา(วายุภักษ์)ฝังเอาไว้พิเศษทุกตัวเพื่อให้สอดคล้องและเป็นสื่อรับสำแดงอิทธิฤทธิ์กับผงกายสังขารพญาการเวกที่โรยด้านหน้านกสาลิกา

    ตะกรุดพญาการเวกปักษา(วายุภักษ์)
    แต่โบราณกาลนั้น วิชาทางด้านเสน่ห์ลุ่มหลงถือเป็นศาสตร์ลี้ลับศาสตร์หนึ่งซึ่งมีความรุนเเรงอยู่ในหลายระดับ มีความเชื่อถือกันมายาวนานนับพันปีโดยเฉพาะวิชาสายเขมรโบราณตำรับราชวงศ์ชั้นสูงก็ยังใช้กันเป็นวิชาที่มีอิทธิคุณแรงกล้ายิ่งนัก วิชาที่จะกล่าวถึงนี้คือวิชาพญาการเวกปักษา(วายุภักษ์)ที่มีข้อดีเเตกต่างจากวิชาอื่นหลายประการได้แก่

    - เป็นวิชาทางมหาเสน่ห์ที่กล่าวกันว่าไม่มีสิ่งใดต้านทานได้
    - เป็นวิชาที่ผู้ใช้มักจะได้คู่ครองที่เสมอตนเเละดีกว่าตนเป็นชนชั้นสูงมีวาสนาดี
    - เป็นวิชาหนึ่งที่เเม้เเต่ผู้มีบุญญาธิการ มีจริตกิริยามารยาทเรียบร้อยงดงามซักเพียงไหนก็มิอาจจะต่อต้านได้


    วิชาตับพญาการเวกปักษานี้ หลายๆคนอาจจะคิดไปว่าเป็นวิชาที่ดีกว่าตำราสายสาลิกาอยู่เล็กน้อยเเต่ความจริงเเล้วนั้นไม่ใช่เลยเพราะไกลกันมาก ทางแดนลับแลพญานกการเวกนี้เป็นพญานกขนาดมหึมามีร่างกายสูงใหญ่พอที่จะบดบังเเสงตะวันได้ ไม่ใช่นกตัวน้อยน่ารักเช่นสาลิกาพ่ออาจารย์กล่าวว่าตะกรุดพญาการเวกปักษานั้นมีอานุภาพดังนี้

    - พญาการเวกนั้น เวลาบินจะบินสูงเหนือเมฆและบินสูงกว่านกทั้งปวง พ่ออาจารย์กล่าวว่าวิชานี้ก็เช่นกันเเม้เราหมายปองเจาะจงผู้ใดหรือตั้งใจทำสิ่งใด ก็เหมือนพ่อพญานกแม่พญานกที่ลอยลมบนบินตะครุบเหยื่อได้ง่ายดายฉันนั้น
    - พญาการเวกนั้น เป็นนกสวรรค์เเม้เเต่ขนติดกายยังเป็นของวิเศษ เป็นสิ่งที่มนุษยชาติต้องการกันมากที่สุดเพราะเมื่อพญาการเวกสลัดขนเเล้วเชื่อว่าขนนั้นจะเปลี่ยนเป็นทองคำบริสุทธิ์ ผู้ใดได้ครอบครองจะมีบารมีมากตะกรุดนี้ก็เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านลงพญาการเวกไว้ทั้งตัวพ่อเเละตัวเเม่ ผู้บูชาไปให้อธิษฐานให้พญาการเวกประทานทรัพย์สมบัติให้ย่อมมีความสุขที่จีรังยั่งยืน
    - พญาการเวกหรือที่เรียกกันว่าปักษาวายุภักษ์ เป็นพญานกที่ไม่รู้จักความอดอยากหิวโหยเพราะเล่นฟ้ากินลมเป็นอาหาร ดังนั้นผู้บูชาตะกรุดนี้ก็จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยความสุขสบาย ชีวิตต่อไปจะไม่รู้จักอดจักอยากมีกินมิรู้สิ้น พ่ออาจารย์กล่าวว่าธาตุลมนี่ว่องไวนักเมื่อนำมาเสริมขับเข้ากับวิชายิ่งทำให้ผลของวิชาสำเร็จได้ไว เพียงเราอาราธนาคาถาเป่าไปที่ตะกรุดก็เหมือนกับว่าเราป้อนลมให้พญาการเวกนั้นเสพย์ลมเเล้ว พญานกอิ่มเเล้วมีกำลังเเรงกล้าแล้วพร้อมจะช่วยเหลือเราเเล้ว
    - พญาการเวกนั้น มีเสียงไพเราะที่สุดในไตรภพเพราะเสียงของพญานกนั้นเหมือนกับเสียงท้าวมหาพรหมเหมือนกับเสียงพระพุทธเจ้า กล่าวคือมีความแจ่มใส,ชัดเจน,อ่อนหวาน,สุขุม,สำเนียงเสนาะ,ไม่แตก,ลึกซึ้ง,ไพเราะ,มีเสียงกังวาลเป็นที่ปรารถนาจะได้ยินได้ฟังเเม้ในหมู่มนุษย์ตลอดจนเทพยดาเป็นยิ่งนัก ผู้ที่ได้บูชาตะกรุดนี้ไปก็เปรียบได้กับพญาการเวกเวลาตนอาราธนาจะพูดจาอะไรคนย่อมเคลิบเคลิ้มคล้อยตามไปเสียทั้งหมด จะบนบานศาลกล่าวขออะไรใครที่ไหนเค้าก็ตั้งใจฟังเต็มใจให้เพราะสุรเสียงของเรานั้นไพเราะดุจพญาการเวก..ดุจเสียงมหาพรหม..ดุจเสียงพระพุทธเจ้า
    - พญาการเวกนั้น ถือเป็นราชาเเห่งสัตว์จตุบทมีอำนาจมากมิต่างจากพญาครุฑเลยทีเดียว ซ้ำยังมีรูปกายสีขนงดงามสัตว์ทั้งหลายได้พบย่อมเกรงกลัวในอำนาจบารมี ไปที่ใดก็มีเเต่คนเคารพ เเต่ก็ปรารถนาจะเห็นจะมองลุ่มหลงไปด้วยรูปกายเเห่งพญาการเวกนั้น ผู้ใช้ตะกรุดวิชานี้ก็จะมีเเต่ผู้เคารพนบไหว้ลุ่มหลง..เกรงกลัวเราเเต่ก็รักเรา..ลืมเราไม่ลงไปที่ไหนเค้าก็อยากมองเรา เราไม่มาเขาก็อยากเห็นเราอีกเป็นเสมือนราชเสน่ห์ซ้ำยังมีมหาอำนาจมีบารมีมากปราบได้ทุกทิศไม่มีใครกล้าต่อกรกับกำลังพญานกการเวกเลย เป็นเช่นนี้นั่นเอง
    - พญาการเวกนั้น ย่อมอาศัยในที่สูงมีถ้ำแก้วล้วนเเล้วเเต่สัตตรัตนมงคลเป็นที่อยู่ มีทรัพย์สินศฤงคารมีสมบัติมาก ..ตะกรุดนี้ก็เช่นกันผู้บูชาจะได้รับทรัพย์สินสะดวกสบายได้เจอกับความเป็นอยู่เเละมีชีวิตทางโลกที่ดีขึ้นเพราะตะกรุดนี้เป็นสื่อ พญาการเวกนั้นโปรดปรานทรัพย์สมบัติ..เเก้วเเหวน..ยอดเพชร..ยอดอัญมณีที่มีความสวยงามจากทั่วทุกพิภพท่านจะหามาสะสมไว้ในถ้ำแก้วของท่าน แม้นเราบูชาท่านท่านก็จะขยันช่วยเราเเสวงหาทรัพย์เช่นกันแม้เเต่กระทรวงการคลังยังใช้รูปพญาการเวกเป็นสัญลักษณ์เครื่องหมายกระทรวง ถือเป็นเคล็ดที่ว่า ใครมีตะกรุดนี้ก็มีสื่อกับเทพวิหคที่ดูเเลทรัพย์สมบัติทั้งปวงของเเผ่นดินนี้ อยากมีโชคเสี่ยงโชค(ข้อนี้พ่ออาจารย์ท่านไม่ให้กล่าวมาก)ก็ขอกับท่านตรงๆเลย เพราะสมบัติในเเผ่นดินนี้ท่านดูแลไว้ทั้งหมด
    - พญาการเวกนั้น เป็นพญานกที่อยู่เหนือกฏแห่งวัฏฏจักรเพราะเป็นนกที่เกิดขึ้นมาพร้อมความเป็นอมตะไม่มีวันตาย(ในบางลัทธิจะบูชาเป็นนกอมตะ) แม้อาหารก็กินฟ้ากินลมเป็นภักษาหารเป็นพญานกบริสุทธิ์ซื่อตรงต่อความรักมีความรักที่เป็นอมตะ ผู้ที่ได้บูชาตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านก็อธิษฐานจิตให้สุขสมสำเร็จในความรัก มีความรักที่ยั่งยืนเเละเป็นอมตะเช่นเดียวกันกับพญาการเวก
    - พญาการเวกนั้น มีความเชื่อมาเเต่เดิมว่าเป็นวิหคฟ้าสกุณาสวรรค์แม้ใครมีบุญญาธิการได้พบเสียครั้งหนึ่งก็ถือว่าได้พบโชค ต่อไปจะได้เป็นใหญ่เหนือพื้นพิภพได้ปกครองหมู่ชนทั้งหลาย สมัยก่อนก็ต้องเรียกว่าเป็นมหาราชเป็นราชาในหมู่ราชาเช่นนั้น เพราะไม่มีใครจะได้เห็น เนื่องจากพญาการเวกนั้นไม่ค่อยปรากฏให้ใครได้พบเห็น พ่ออาจารย์ท่านถือเคล็ดนี้เเม้ใครมีตะกรุดเห็นตะกรุดก็เหมือนเห็นพญาการเวก ชีวิตเขาจะโชคดีเห็นทุกวันดีทุกวันเจริญทุกวันไม่มีสิ่งใดเคราะห์ใดมายับยั้งความเจริญของเค้าได้

    พ่ออาจารย์ท่านได้เสกนกสาลิกาจนมีจิตวิญญาณภูติสาลิกาสถิตย์อยู่ทุกองค์ ท่านว่าสาลิกาของท่านนั้นนอกจากเสน่ห์แบบเต็มสูตรอันเป็นพื้นฐานของสาลิกาตนครูแล้วยังมีทั้งวิชาท้าวกำพร้า,ท้าวกินรี,ปถมังกำเนิดรวมไปถึงใช้ดึงดูดโชคลาภทั้งยังกันเคราะห์แก้ดวงเรียกว่าครบทุกสิ่งในหนึ่งเดียว ท่านว่าอยากได้อะไรต้องการสิ่งใดไม่มีเกินมือท้าวกินรีกับภูติสาลิกาทั้งสิ้น ปรารถนาสิ่งใดก็ให้ออกโองการตอนภาวนาพระคาถาอธิษฐานดั่งใจนึกนั่นทีเดียว

    คาถาบูชา
    เมื่อจะอาราธนา (ให้นึกถึงพ่อนกแม่นกเป็นที่สุด) โอมการเวก มะสะ พุทธัง มหารี การี การัต โอม สะโหมติด


    *** มหาภูติวิหคฟ้าสาลิกาสวรรค์ชุดธาตุกายสังขารพญาการเวกปักษา พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมด 15 องค์ เปิดรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าสาลิกาเหล่านี้ล้วนมีเจ้าของถือครองกันทุกตน

    ร่วมทำบุญบูชา มหาภูติวิหคฟ้าสาลิกาสวรรค์ชุดธาตุกายสังขารพญาการเวกปักษา(ฝังตะกรุดวายุภักษ์) บูชา 900 บาท
    275660366-516805596521495-8048806330906363260-n.jpg 275591796-429263442304038-8178125941285067026-n.jpg
    275455065-1030071757884688-1770635216983858170-n.jpg
    275388022-911957369485509-369576144729519118-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2023
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา ขุนแผนบรมเวทย์เปิดธรรมสถิตย์มหาธาตุปฏิวัติวงจรอันยิ่งใหญ่ (กินเรียบตำรับพระร่วง)

    พระอะไรองค์นึงต้องลงบรมเวทย์ฝังตะกรุดเกือบครึ่งร้อย
    ต้องยอมรับจริงๆว่าเป็นเครื่องมงคลที่ชุมนุมบรมเวทย์เปิดธรรม..ทางด้านเปลี่ยนโชคชะตาทุกรูปแบบถึง 53 วิชา ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของพิเศษเอาไว้ใช้สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนแปลงฐานะตนเองด้วยบรมเวทย์เปิดธรรมทั้ง 53 รูปแบบ... 53 หนทาง ให้ถึงซึ่งความสุขถึงขั้นที่ว่าเหนือกว่าการเสวยสุขในกามคุณของเทวดาพ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ปฐมท่านกำชับไว้เลยว่า 53 หนทางนี้สุขเกินกว่าเทวดาแม้จะเป็นเรื่องทางโลกก็ยังเอาสวรรค์หกชั้นมาเปรียบยังไม่ได้ เป็นมงคลชีวิตที่ใช้แหวกปัญหาขจัดอุปสรรคนานาดุจดั่งได้เกิดใหม่เบื้องหน้าความงดงาม...เบื้องหน้าแสงสว่าง

    - เปิดธรรม..เปิดดวง
    - เปิดธรรม..เปิดจิต
    - เปิดธรรม..เจ้ากรรมนายเวรจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน

    รับความสว่างไสวตรงนี้ท่านว่าทุกข์ดับ..อาถรรพ์ดับ..สิ่งเลวร้ายมันดับไปมลายสิ้นแล้ว ความสุขความสดใสในชีวิตมันกระจ่างชัดเห็นความเจริญรุ่งเรืองแล้ว มันสมบูรณ์พร้อมทั้งความมั่งคั่งแลอำนาจบารมีโชติช่วงชัชวาล จะเร่งเร้าคำอธิษฐานให้สมเจตนารวดเร็วได้สิ่งที่ปรารถนาว่องไวเรื่องหนักอุปสรรคขัดขวางก็ผ่านง่ายดาย..ทางตันจะโล่งโปร่งตลอด..สิ่งที่ยากจะเป็นไปจะกลับเป็นไปได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าบริบูรณ์ด้วยโชคลาภวาสนาระงับซึ่งเคราะห์เข็ญเวรภัยจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงจะรอดเร้นจากภัยวิกฤติมหันตโทษอันใหญ่หลวง..จะปิดกั้นปัดป้องอำนาจมลทินอิทธิพลดาวนพเคราะห์..จะเทิดทูนชะตาเปลี่ยนจากดินให้เป็นดาวค้างฟ้า

    เปิดธรรมวงจร 53 หนทางนี้เป็นทางรอดของคนที่ไร้ทางรอดมีฤทธิ์แรงมาก ท่านว่าอิทธิฤทธิ์ทั้งหมดอยู่ในนี้แม้คนที่อ่านขอมไม่ออกไม่เคยเรียนวิชาใช้กลเม็ดคาถาอาคมไม่เป็นหากมีตะกรุดชุดนี้ก็ยังเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้สามารถเรียกใช้คาถาอาคมได้ทำอะไรก็เข้มขลังเพราะทุกอย่างมันอยู่ในตะกรุดชุดนี้พร้อมสรรพแล้ว พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระชุดพิเศษนี้ตั้งแต่สมัยทำขุนแผนกินเรียบ แต่ชุดที่เปิดวงจรธรรม 53 หนทาง..ทั้งฝังแร่ปฏิวัติวงจรอันยิ่งใหญ่นั้นท่านเก็บเอาไว้ด้วยเหตุผลง่ายๆคือทำยากลงยาก สร้างพระองค์หนึ่งฝังตะกรุด 53 ดอกท่านว่าเราไม่ค่อยได้ทำนักทั้งตะกรุดแต่ละดอกยังลงวิชาไว้แต่ละแขนงแตกต่างกันต้องแยกกันเสกก่อน 53 แนวทาง แต่ตอนนี้จะเก็บไว้เป็นความลับให้ตายไปกับตัวก็ป่วยการถึงเวลาที่จะปรากฏก็ต้องฝากไว้ให้โลกจดจำ คนที่ไม่มีวิชาเอาชุดเปิดวงจรธรรมนี่ไปใช้เถอะจะมีฤทธิ์ไม่วิบัติ

    - จะหยิบจับเสกเป่าอะไรมันก็จะเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา
    - จะอธิษฐานสิ่งใดก็จะมีชีวิตมีฤทธิ์เต็มเปรี่ยมจิตวิญญาณ

    พระชุดนี้ของฉันจะไม่ไปอยู่กับคนที่ไม่คู่ควรและคนที่ไม่เห็นค่าอย่างเด็ดขาดเพราะมันมีคุณเลิศล้ำเกินกว่าเวทย์วงจรวิชาธรรมสายหนึ่งสายใดโดยปกติ จะเปลี่ยนร่างกายวาสนาชะตามนุษย์เปลี่ยนวงจรโชคชะตาจากสามัญให้สูงดุจเทพโดยปริยาย จะไม่ขาดในลาภผลความอุดมสมบูรณ์..จะไม่ขาดมิตรภาพที่ดี..ไม่ขาดลาภสักการะ..จะได้ใช้ชีวิตตามที่ฝันไม่ยากลำบากอันใดเลยเติมวงจรให้เต็มให้มีสิ่งที่อยาก..ให้ได้สิ่งที่ขาดเหนือคนทั่วไป แม้ตื่นก็เป็นสุข..แม้ยามหลับก็เป็นสุขนักเพราะชีวิตสุขสมหวังไม่เจอทุกข์เข็ญเวรภัยอันตรายใดๆจะดำรงค์อยู่โดยไม่มีอุปสรรคปัญหาย่อมหลับได้สบายเต็มตาไม่ขนพองสยองเกล้าหวาดสะดุ้งในเภทภัยบีฑาทั้งปวง

    ตะกรุด 53 ดอก เปิดธรรม 53 หนทาง
    นอกจากนี้คุณแห่งตะกรุดชุดนี้ยังมีให้ใช้มากมาายอย่างที่พ่ออาจารย์ท่านว่าฝอยท่วมหลังช้าง
    - อาราธนาดุจได้กลับชาติมาเกิดใหม่จะกลับร้ายกลายเป็นดี
    - แช่น้ำอาบกินแก้อาถรรพ์ขจัดเป่าเป่าทุกโศกโรคภัยเสนียดจัญไรทั้งปวงให้หมดไป
    - ติดตัวไว้เสริมดวงเสริมสง่าราศีเสริมโชคจะคิดทำสิ่งใดก็สำเร็จ
    - จะดี..จะได้..จะมี มากกว่าที่เคยปรากฏ
    - เมื่อตะกรุดชุดนี้ปรากฏ..การณ์แห่งมงคลย่อมเกิดขึ้นแล้ว
    - ตะกรุดชุดนี้ใช้ประสิทธิเมและอาราธนาแตะสัมผัสชาร์จพลังแก่วัตถุมงคลได้ทุกชนิด
    - ใช้แก้ไขอุบาทว์ขับไล่สิ่งไม่ดี อีกทั้งล้างคุณไสยชำระพลังงานด้านลบได้สมบูรณ์
    -
    จะสมปรารถนาในเรื่องทั่วไปอันเป็นความสุขทางโลกของปุถุชนทั้งหลาย
    - แม้มีอดีตตกต่ำติดโคลนตมย่อมเติบโตพ้นน้ำเบ่งบานดุจดอกบัว
    - จิตจะร่มเย็นผ่องใสประภัสสรสูงส่ง
    - เทวดาจะช่วยหนุนนำผลักดัน
    - จะมีสื่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดั่งกุญแจไขสู่แดนทิพย์
    - เมื่อลำบากย่อมขอยืมความช่วยเหลือจากเทพยดาได้
    - จะนำลาภสักการะมาสู่ตัวเป็นเหตุให้เจริญรุ่งเรืองสมบูรณ์ในโภคทรัพย์
    - ชีวิตจะสูงขึ้นแตกต่างจากเดิมดั่งฟากฟ้ากับก้นเหว

    - ฤทธิ์ตะกรุดจะซึมซาบเข้าสู่วิญญาณธาตุขันธ์ผู้ถือครอง

    - คุณตะกรุดจะนำทางชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองสถานเดียว
    - อำนาจธรรมเวทย์จะให้ผลรุนแรงขึ้น..ตามระยะเวลาที่ครอบครองยิ่งถือครองนานเท่าไหร่ก็ยิ่งแรงและมีกำลังเด่นชัดมากขึ้น
    - กิจทั้งปวงย่อมสำเร็จด้วยดีสิ่งที่อยากมีอยากดีอยากได้ย่อมสมหวัง
    - จะมีปัญญาเห็นสัจธรรมเป็นเหตุให้หลุดพ้นจากโลกียะทั้งปวง
    - คุณท้าวจตุโลกบาลจะสงเคราะห์ให้ปลอดภัยในมหาทิศทั้งสี่
    - จะเป็นใหญ่เหนือมนุษย์เหนือภูติผีทั้งปวง ใช้อาราธนาแก้ไขคุณภูติผีปีศาจได้ทุกชนิด
    - พกติดตัวจะอุดมในวาสนาบารมีทั้งมีเสน่ห์เมตตาบริบูรณ์ในความสุขสมบูรณ์ดุจได้ครองขุมทรัพย์
    - พันธมิตรจะสมัครสมานรักใคร่กลมเกลียวสามัคคี

    - จะมีองครักษ์(กายทิพย์)พิทักษ์รักษาทั้งคุ้มครองตัว,คุ้มครองเคหะสถานบ้านเรือน คอยแจ้งเหตุเภทภัยที่จะเกิดกับตัว
    - จะปฏิวัติวิญญาณธาตุมีญาณทิพย์จิตสัมผัสสว่างปรากฏขึ้น
    - จะปรากฏเทพสังหรณ์ดุจเกิดสัมผัสที่หกรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า

    - จะตื่นรู้ในโลกธาตุดุจพลังศักดิ์สิทธิ์จับตัวผู้ครอบครอง
    - ย่อมสมบูรณ์พร้อมในบริวารทั้งหลาย
    - ใช้อาราธนาแก้โหงวเฮ้งที่ไม่ดีได้ สถิตย์ที่ไหนก็แก้อาถรรพ์ตรงนั้น แก้เหตุแห่งเรื่องเลวร้ายทั้งปวง
    - แก้ไขเคราะห์เข็ญอันไม่ได้เกิดขึ้นจากเวรกรรมซึ่งเป้ฯเคราะห์จรที่เกิดตามสถานที่ทั้งหลาย
    - เสริมสง่าราศีเปิดบารมีวาสนาให้มีในสิ่งที่ต้องมี
    - จะมีอำนาจดุจเทพยดามีปากศักดิ์สิทธิ์พูดอย่างใดก็เป็นไปเช่นนั้น(ยิ่งพกอาราธนานานวาจายิ่งมีผลรุนแรงดีชั่วเป็นไปตามปาก)

    - เมื่อให้พร..อวยพร..ตวาด..สาป..แช่งย่อมเป็นไปตามปากทันที(ความรุนแรงขึ้นอยู่กับเวลาที่ครอบครอง ยิ่งใช้นานเท่าไหร่วาจายิ่งให้ผลแรงเท่านั้น)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดชุดนี้ที่ฝังขุนแผนนั้นท่านลองใช้มากับตัวแล้วจึงรู้ว่าดี อะไรดีท่านก็อยากให้ชนทั้งหลายได้ใช้ทั่วกันหากแตาการลงวิชาให้สำเร็จนั้นทำยากจึงสร้างได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น *** ท่านว่าตะกรุดชุดนี้สำคัญนักให้สังเกตุดูเถิดเมื่ออยู่กับผู้ใดแล้วนิสัยเปลี่ยนหมดที่เคยแย่เคยมีแต่ความคิดอยากทำชั่วทำเลวพร้อมจะผิดศีลตลอดเวลามันจะเปลี่ยนไปหมดคนที่ติดเหล้าติดบุหรี่ก็จะไม่มีความอยาก..คนที่ติดผู้หญิงชอบมั่วสุมกับคนที่ไม่ใช่คู่ครองก็จะขาดความปรารถนา เรียกว่าจากไม่เป็นผู้ไม่เป็นคนก็จะเป็นมนุษย์สมบูรณ์เต็มตัว ...ความประพฤติที่สะสมไว้อันไม่สมควรทั้งหลายจะค่อยๆลด..ค่อยๆหายไป

    กินเรียบตำรับพระร่วง
    ชีวิตที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานสมบูรณ์ คือการเกิดพร้อมของความสุขทั้งด้านร่างกาย,ฐานะ,สังคมซึ่งจะบริบูรณ์ด้วยปัจจัยสี่ไม่ขาดตกบกพร่อง พ่ออาจารย์ท่านได้ศึกษาวิชาการทำพระผงตำรับขรัวโต ซึ่งเจ้าพระคุณสมเด็จนั้นท่านมีวิชาเฉพาะทางอยู่ซ้ำในอดีตก็ยังเคยสร้างพระพิมพ์สำคัญหรือที่เรียกว่าพิมพ์ขุนแผนไว้ซึ่งนับว่าหาได้ยากอย่างยิ่ง เป็นการสร้างด้วยวิชาและผงสำคัญตามตำรับโบราณในสมัยพระมหาธรรมราชาลิไทแห่งราชวงศ์พระร่วงเจ้า เอกบุรุษผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้ยิ่งในพุทธศาสตร์และไสยศาสตร์ทั้งเชื่อมต่อนรกสวรรค์ถ่ายทอดเรื่องราวสร้างบรรทัดฐานคุณธรรมให้พสกนิกรของพระองค์นั้นละอายชั่วกลัวบาป

    จำเนียรกาลผ่านไปท่านว่าหาผู้รู้และคิดจะทำวิชานั้นไม่ได้เลย ท่านจึงได้ขออนุญาติเจ้าพระคุณสมเด็จเพื่อจะทำขึ้นซึ่งก็ได้รับอนุญาติให้ทำได้ในรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของท่าน เมื่อจะสร้างพระด้วยวิชาของพระมหาธรรมราชาลิไทท่านจึงทำเป็นรูปขุนแผนทรงห้าเหลี่ยมประทับในซุ้มเรือนแก้วด้วยพิมพ์ทรงที่เป็นเอกลักษณ์ สื่อความหมายไปถึงพระพุทธรูปสำคัญคือองค์พระพุทธชินราชอันสร้างโดยพระมหาธรรมราชาลิไท สื่อความหมายไปถึงสมเด็จองค์ปฐมบรมสัพพัญญูผู้เป็นบรมครูยิ่งใหญ่ในนิกรพระชินสีห์ทุกรูปนาม ท่านว่าจะทำพระสำคัญก็ต้องใช้พิมพ์และรูปแบบที่มีความหมายสำคัญสื่อไปถึงองค์ต้นวิชาในราชวงศ์พระร่วง ซึ่งพระพิมพ์นี้เมื่อสร้างสำเร็จท่านว่าแม้จะยังไม่ได้บูชาแม้เพียงสัมผัสอาราธนาก็จะทำให้จิตใจผู้สัมผัสผ่องใสขึ้นได้

    พ่ออาจารย์ท่านได้ลบถมผงสำคัญตามวิชาโบราณซึ่งท่านว่าไม่สามารถเปิดเผยได้เลยตามสูตรเฉพาะของท่านตามสูตรของพระมหาธรรมราชาลิไท ซ้ำยังนำมาผสมกับผงพุทธคุณ,ผงปถมัง,ผงอิทธิเจ,ผงตรีนิสิงเห,ผงมหาราช,ผงว่านยาและคตวิเศษนานาชนิดรวมถึงผงสำคัญศักดิ์สิทธิ์ทางธรรมชาติที่รวบรวมไว้,ทั้งผงไม้กาฝากมงคล,คตที่เกิดจากไม้มงคล,ว่าน,เกสร,ผงไผ่ตัน,ผงไม้รวกตัน,ผงคตข้าวสารดำและข้าวสารหิน,ตลอดจนผงที่ได้จากลานจารึกใบข่อยโบราณนำมาเผาไฟทำผงใบลาน,ผงข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธ,ผงมหาอุตม์กะลาไม่มีตา,ผงมหาเสน่ห์กะลาตาเดียว,ผงคตมะพร้าว,ผงกิ่งโพธิ์นิพพาน,ผงไม้ไก่กุก,ผงเครือร้อยปลา,ผงปูนากระตุกเดือนห้า,ผงกบจำศีลเดือนห้า,ผงเขี้ยวงูจงอางที่ตายคาไข่ที่ฟัก,ผงไม้คานและไม้ประตูคุก,ผงชันโรงกลางแจ้งตรงตะวัน,ผงไม้คานแม่หม้าย,ผงเขาควายเผือกฟ้าผ่า,ผงเขี้ยวเสือโปร่ง,ผงคตสมองวัวเป็นเอกทางตบะเดชะผู้คิดร้ายไม่กล้าขยับปากด่าว่า,ผงคตขนุนซึ่งมีเทพยดาอาศัยเป็นเมตตามหานิยมค้ำชูดวง,ผงงาช้างดำ,งากำจัด,งากำจาย,งาช้างน้ำ,ผงเขากวางคุด,ผงเขากระจงคุด,ผงพญางูปากเป็ดที่สุดทางโชคลาภวาสนา,ตะไคร่โบสถ์,ตะไคร่เสมา,ตะไคร่มหาเจดีย์,ตะไคร่หลักเมืองชื่อมงคล,กระเบื้องโบสถ์โบราณ,ดินสังเวชนียสถาน,ผงดินกากยายักษ์,ผงเพชรน่าทั่ง,ผงเหล็กน้ำพี้,ผงสังขวานร,ผงรังเหล็กไหล,ผงข้าวตอกพระร่วง,น้ำฝนเดือนห้าตกรดหลังคาโบสถ์,น้ำในเศียรพระพุทธรูปน้ำมันช้างตกมัน,น้ำตาปลาดุหยง

    ซึ่งมวลสารทุกอย่างนั้นท่านว่าแม้ไม่ได้เสกก็ล้วนมีอิทธิคุณในตัวเองดึงพาโชคลาภวาสนามาสู่เจ้าของ ซ้ำเป็นกายสิทธิ์ชนิดต่างๆมากมายที่ดีในตัวเองไม่มีวันเสื่อมมีอานุภาพที่จะช่วยเกื้อกูลผู้ใช้โดยเฉพาะ

    หลังจากนั้นท่านจึงลงยันต์สำคัญต่างตามตำรับพิชัยสงครามลบถมผงวิเศษออกมาทั้งยันต์มหาจักรพรรดิ์,มหาปราบ,มหาระงับใหญ่,พุทธนิมิตร,พระเจ้าปราบมาร,พระเจ้าห้ามอาวุธ,ยันต์นิโรธ,พระเจ้าเข้านิโรธ,ดั้นพงจักรวาฬ,ปฐมอักขระ,ยอดอักขระ,นะธาตุ,มงกุฎพระเจ้า,มงกุฎแก้ว,ยอดพระมหามงกุฎ,กำบังนิทรา,สกลชมภูธิบดี,ปราบไตรจักร,พระเจ้า 28 พระองค์,เทพชุมนุม,เทพนิมิตร,เทวาประสิทธิ,พระแผลง,พระวิปัสสิ,พระเจ้าเสี่ยงบารมี,พระยาราชสีห์,ตราพระราชสีห์,ตราราชสีห์โผน,ตรามหาสีหนาท,ตรามหาอำนาจ,จักรแก้ว,ยันต์จักรนารายณ์น้อยใหญ่,รัตน์ไตรจักร,นารายณ์ถอดรูป,แก้วบรมจักรพรรดิ์,แก้วมณีโชติ,แก้วสารพัดนึก,ไตรลักษณ์,สุกิตติมา,โสฬสมงคล,พระนวหรคุณ,นวหรคุณ,ไตรสรณคม,พระไตรปิฎก,มหาละลวย,มหาวิเศษ,ครอบจักรวาฬ,มงคลจักรวาฬ 8 ทิศ,พระสุริยาทรงกลด,ยอดพระอรหาธิคุณ,ท้าวมหาพรหม,มหาพรหมส่องโลก,มหาจักรอนันตคุณ,มหาชัยมงคล,บารมี 30 ทัศ,บารมีทศชาติ,จักรวาฬครอบ,ยันต์พิไชยสงคราม,นเรศวรปราบหงสา,พระพุทธเจ้าห้ามญาติ,พระเจ้าห้ามทุกข์,จตุพุทธา,พระเจ้านอโม,นกคุ้มผู้เมีย,พระยากา,เกราะเพชรพระพุทธเจ้า,เกราะเพชร,ตาข่ายเพชร,กรงทอง,กรงทองทรงเครื่อง,กันโรคระบาท,อนันตนาคราช,มหาประสระ,เทพรำลึก,กันกระทำ,แสนสากเหล็ก

    นอกจากนี้ในชุดพิเศษท่านยังได้ผสมผงวิเศษต่างๆเพิ่มเติมไปมากโดยเฉพาะผงสุริยันจันทราทั้งสามสูตร
    - ผงเจดีย์ 100 ยอด ผงสถูปเจดีย์โบราณต่างๆที่แตกหักมีอายุนับร้อยนับพันปีครบ 100 องค์ ซึ่งท่านใช้เวลาหลายปีเพื่อรวบรวมโดยเดินทางไปทั้งทั้งภาคเหนือ,ภาคกลางและภาคอีสาน ประกอบพิธีพลีขอกลับมาประกอบเป็นมวลสาร ด้วยท่านว่าแต่โบราณกาลนั้นพระเจดีย์คือสัญลักษณ์ความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา มีพระเจดีย์ที่ไหนแปลว่าพระศาสนาเข้าถึงที่นั้นซ้ำองค์เจดีย์นั้นจะได้รับการบำรุงรักษาเคารพกราบไหว้อย่างดีเปรียบดั่งพระวรกายแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยว่าในพระเจดีย์เหล่านั้นล้วนประดิษฐานซึ่งพระบรมสารีนิกธาตุของพระองค์เมื่อรวบรวมมวลสารได้ครบเเละมาประกอบขึ้นเป็นผงเจดีย์ 100 ยอด ท่านว่าจะมีอานิสงค์ให้ผู้บูชานั้นเป็นศูนย์รวมของความเจริญอยู่ที่ไหนที่นั่นก็เจริญ เดินทางไปไหนก็ได้ดีตรงนั้น ซ้ำยังเป็นยอดคนทำอะไรก็ดีไปกว่าคนอื่นเค้าหมด ผงเจดีย์100ยอดนี้ท่านว่าทำยากเพราะเดินทางหลายครั้งหลายวาระเสียเวลามาก ต้องขอต้องพลีนำมาตำมาบดกว่าจะเสกเก็บไว้
    - ผงมหาชุมนุม พ่ออาจารย์บอกว่าวิชานี้สำคัญมากเป็นอัจฉริยภาพของครูอาจารย์ด้วยความเมตตาของท่านจึงได้อนุญาติให้ลงวิชานี้กำกับไว้ ซึ่งจะสอดรับกับวิชาโภคทรัพย์อย่างถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าอันมหาชุมนุมนี้เปรียบตัวเองเป็นศูนย์กลางโลกจะอยู่ที่ไหนทำอะไรใครก็ปรารถนาจะเข้าหา เค้าต้องเข้ามาหาเราเองไม่ต้องเหนื่อยเดือดร้อนวิ่งไปหาเขา ตรงนี้ท่านว่าสำคัญใครที่ต้องง้อ..ต้องออกแรง..ต้องเหนื่อยกว่าจะมีกว่าจะได้ นี่กลับกันกลายเป็นเขาต้องง้อเราเข้ามาหาเราเองในทางเดียวกันโชคลาภโภคทรัพย์ความสะดวกสบายความสุขลาภยศทรัพย์สินศฤงคารท่านว่าให้ตั้งใจมุ่งมาตรปรารถนาเอาไว้ ทุกสิ่งบรรดามีจะต้องวิ่งมาหาเราเอง มาชุมนุมที่ตัวเราไม่ไปไหนซ้ำวิชานี้ยังเป็นวิชาทางเมตตามหานิยมอย่างเอกด้วย ท่านว่าลองใช้ดูไม่อยากจะบอกว่าเป็นเสน่ห์แต่ก็เอาว่าแรงเหมือนดาวล้อมเดือนเลยทีเดียว แต่เดิมนั้นท่านว่ามหาชุมนุมเป็นวิชาสำคัญซึ่งแทบจะสูญหายและไม่มีใครทำไปแล้ว ด้วยว่าครูบาอาจารย์ท่านเมตตาอนุญาติแต่หนนี้จึงต้องทำซักหนด้วยว่าคนที่ถูกเลือกเท่านั้นจะได้ประสบพบเจอ
    - ผงมหาโภคทรัพย์สมุกสมเด็จ ท่านว่าเป็นวิชาเอกของเจ้าพระคุณวิชานี้สอดรับกับมหาชุมนุมโดยแท้ แม้นำติดตัวไว้ก็จะเป็นเมตตามหานิยมเป็นที่รักใคร่ของสรรพชีวิตโดยรอบ ซ้ำยังเด่นทางโภคทรัพย์โภคสมบัติดลบันดาลให้โชคดีตลอดจนทรัพย์สินเงินทองไหลมาเทมา ที่มีอยู่ก็จะพอกพูนขึ้นเรื่อยๆที่ยังไม่มีก็จะได้มี ท่านว่าแค่ติดตัวไว้เอาว่าแค่มีไว้ชีวิตนี้ไม่มีอดตายเพราะมันส่งผลต่อดวงชะตาโดยตรงให้มีลาภได้ลาภให้ชีวิตไม่ลำบากมีแต่ความสะดวกสบาย ถ้าจะทำธุรกิจ,รับราชการ,การค้า,การงานใดๆก็ตามท่านว่าคนไหนที่ดวงขึ้นๆลงๆไม่คงที่ทำงานมีแต่อยู่กับที่หรือแย่ลงท่านว่าวิชาตำรับนี้จะทำให้ดวงขึ้น การงานเจริญก้าวหน้าลาภผลงอกเงยเพิ่มพูนแม้จะเทียบจะแข่งขันกับใครท่านว่าไม่แพ้เลย เอาว่าใครก็ทำสู้เราไม่ได้ท่านว่าเพราะเป็นเช่นนี้ แต่เดิมท่านเจ้าพระคุณจึงเลือกคนให้และใครได้บูชาไปก็ตั้งตัวได้โดยพลันสืบถึงชั้นลูกหลานนั่นเอง
    - ผงสุริยกาล ผงนี้เกิดจากสุริยะเทวราชเมื่อครั้งที่ได้เข้ากรรมบำเพ็ญตบะเพื่อจะดับรัศมีความร้อนในร่างกายพระองค์ให้บรรเทาลงเสีย ด้วยตบะกรรมแห่งพระอาทิตย์เทพจึงได้เกิดไคลตกลงมาเป็นตะกอนก้อนผง ท่านว่าผงนี้มีคุณอย่างวิเศษแม้ใครเดือดร้อนทุก์ใจเจอเรื่องร้ายอย่างใดก็ตามที ทุกสิ่งที่ว่าร้ายจะต้องกลายเป็นดีทุกสิ่งที่เป็นกาลร้อนจะต้องสงบระงับไป เหลือแต่เพียงความสุขสมหวังความเจริญรุ่งเรืองเท่านั้น
    - ผงจันทรกาล เมื่อครั้งจันทรเทพได้ก่อเทวาสุรสงครามขึ้นพระองค์ได้เสด็จยังโลกมนุษย์เพื่อจะรวมกองทัพฝ่ายมนุษย์และเหล่าเทพอสูรต่อกรกับบรรดาเทพเจ้าทั้งหลาย ซึ่งกาลนั้นเองที่เป็นปฐมเหตุของตระกูลกษัตริย์จันทรวงศ์ที่จะสืบเชื้อสายต่อไปในชมพูทวีปได้อุบัติขึ้น ผงจันทรกาลจึงเกิดขึ้นเมื่อครานั้นเมื่อจันทรเทพได้บำเพ็ญตบะกรรมจนสำเร็จพิธีราชสูรยะ รัศมีของจันทรเทพก็สาดส่องไปกระทบกับมวลอากาศเกิดเป็นละอองขึ้นมา ซึ่งผงนี้เรียกว่าผงจันทรกาลเหล่านางฟ้าเทพธิดาอัปสรสวรรค์หรือแม้แต่นางพรายก็จะคอยเฝ้าไว้ด้วยความหวงแหน ซ้ำตนเองยังหลงใหลในผงนี้เสมอด้วยได้เห็นหน้าจันทรเทพอีกด้วย ท่านว่าเป็นที่สุดของผงทางเมตตามหานิยมเอาว่าขนาดนางฟ้ายังหลงเช่นนั้น ด้วยว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากเทพยดามีการพิทักษ์รักษาไว้อย่างดี เป็นของที่มีต้นกำเนิดมาจากองค์กำลังแห่งธาตุแสงใช้เบิกชีวิตคนได้..ใช้เปิดโลกเปิดภพภูมิได้ เป็นแสงสว่างที่จะทำลายความมืดขจัดกลียุคทำลายเสียซึ่งอุปาทวจัญไรทั้งปวง
    - ผงลบยันต์สุริยประภา,จันทรประภา
    ที่ท่านลบถมเก็บสะสมไว้ตอนเกิดพิธีอุปราคาทั้งสอง ด้วยหวังอานุภาพหนุนดวงขับส่งเสริมชะตาผู้ใช้ในทุกๆด้าน ท่านว่าผงนี้วิเศษนักปรารถนาสิ่งใดก็ได้สมใจทุกประการดุจแก้วสารพัดนึกดีทุกด้าน ยิ่งลงในเวลาทรงพระเวทย์เฉพาะพิธีอุปราคาด้วยแล้วยิ่งดีเหนือดีขึ้นไปอีก
    - ผงสุริยะมณฑล,จันทรมณฑล ท่านว่าผงทั้งสองชนิดนี้เปรียบเสมือนสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมีมาก่อน ไม่เคยโคจรมาพบกัน หรือจะปรากฏขึ้นพร้อมกันได้เช่นพระจันทร์และพระอาทิตย์ก็ยังมาเจอและอยู่ด้วยกันได้ดังนั้นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อุทาหรณ์อันใดยังไม่เกิดขึ้นความปรารถนาใดที่เป็นไปไม่ได้และยังไม่แล้วเสร็จก็จะเป็นไปโดยฉับพลัน ต่อไปนี้สิ่งที่ไม่เคยมีก็ต้องมี..ไม่เคยได้ก็ต้องได้..ไม่เคยรวยก็ต้องรวย ซ้ำยังช่วยปรับสมดุลย์ร่างกายให้ธาตุและพลังงานไม่ต่ำไปไม่สูงไปให้อยู่ในจุดพอดี ท่านว่าผงทั้งสองนี้ใช้ได้อย่างถึงที่สุดเป็นตัวแทนหยินหยางหญิงชายเป็นสื่อถึงชีวิตคู่การให้กำเนิดสรรพสิ่ง ใช้ได้ทั้งเลื่อนยศ,โชคลาภ,วาสนา,ลาภลอย,มหาเมตตา,มหาเสน่ห์ครบทุกประการ ท่านว่าผงทั้งสองนี้เป็นของพิเศษที่มีอิทธิคุณแรงกล้าเป็นสื่อรับคำอธิษฐานของผู้บูชาไปถึงบูรพาจารย์เบื้องบน
    - ผงลบมนต์น้ำซึมบ่อทราย,มนต์มหาเศรษฐีหลวง,มนต์พระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้าสำเภา,มนต์พระโพธิสัตว์เป็นมหาเศรษฐี ท่านว่าใช้ผงเพียงสี่ตระกูลนี้เท่านั้นมาผสมลบถมผงวิเศษมนต์น้ำซึมบ่อทรายนี้จะได้รวยแบบมั่นคงดุจน้ำตกสู่ทรายก็ค่อยๆซึมเข้าไป ชีวิตผู้ใช้ที่ว่าไม่มีโชคก็จะได้มีโชคหล่นมาหาซึมซับเข้าไปในตัวเราอยู่ร่ำไปไม่มีวันหมด ส่วนผงมนต์พระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้าสำเภานั้นจะทำกิจการงานใดๆก็จะสำเร็จลุล่วงประสบโชคลาภครั้งใหญ่ได้โดยง่ายเมื่อรวมกับผงพระโพธิสัตว์เป็นมหาเศรษฐีและผงมนต์มหาเศรษฐีหลวงแล้ว ก็จะช่วยต่อยอดให้ได้เป็นมหาเศรษฐีเร็วขึ้น

    ท่านได้นำผงต่างๆมาประกอบเป็นเครื่องมงคล ท่านนำผงดังนี้ทั้งหมดมาตำอาศัยฤกษ์ปัญจมหาเศรษฐีที่ชนเข้าในมหัทธโนฤกษ์เพื่อเสริมผลทางด้านความร่ำรวยจนถึงขั้นมหาเศรษฐี และความสำเร็จความเจริญก้าวหน้าเมื่อกดพิมพ์แล้วก็ได้บริกรรมคาถาพระเจ้าเข้าเรือนแก้วอันเป็นเคล็ดลับสูงสุดวิชาหนึ่งในสายอยุธยา

    หน้าหลังฝังธรรมธาตุปฏิวัติวงจรอันยิ่งใหญ่
    ธรรมธาตุนั้นเป็นธาตุกายสิทธิ์ชั้นสูงใช้กลับร้ายกลายเป็นดีได้ทุกอย่าง เรื่องร้ายสารพัดจบตรงนี้เลยปฏิวัติเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตที่อยู่นอกลู่นอกทางทางเอาความสำเร็จเอาชัยชนะใดให้ได้ทั้งหมด เปลี่ยนปฏิวัติเข้าสู่มหาวงจรอันยิ่งใหญ่วงจรแห่งความสำเร็จในชาติมนุษย์ ชีวิตที่เจอเรื่องเลวร้ายจบเรื่องเก่าก็เจอเรื่องใหม่ซับซ้อนวกวนกลับกันไปมาดั่งกระแสน้ำวนไม่สิ้นสุด
    - ธรรมธาตุนั้นจะเปลี่ยนชีวิตไร้ค่าให้มีค่า
    - ธรรมธาตุนั้นจะเปลี่ยนร้ายให้เป็นดี
    - ธรรมธาตุนั้นจะเปลี่ยนจากทุกขเวทนาเป็นบรมสุข
    - ธรรมธาตุนั้นจะเปลี่ยนกรรมให้เป็นบุญสัมพันธ์
    - ธรรมธาตุนั้นจะเปลี่ยนชีวิตที่ตกต่ำให้รุ่งโรจน์
    - ธรรมธาตุนั้นจะเปลี่ยนความเสื่อมให้ใจเบิกบาน

    - ธรรมธาตุนั้นจะเปลี่ยนอัปมงคลให้เป็นสิริมงคล
    - ธรรมธาตุนั้นจะเปลี่ยนคนอับโชคให้มีโชคชัย
    - ธรรมธาตุนั้นจะเปลี่ยนสิ่งที่ไม่เคยได้รับให้ได้รับทุกสิ่ง
    - ธรรมธาตุนั้นจะเปลี่ยนคนที่ไม่เคยสมปรารถนาให้สมปรารถนา

    ท่านว่าสุดแล้วแต่จะอธิษฐานใช้นั่นเลยเพราะนี่คือแก่นแท้ของการปฏิวัติ..เป็นกำลังแห่งการเปลี่ยนแปลงหนทาง..วิถี..วงจรชีวิต จะใช้ทางไหนก็อาราธนาได้ครบทั้งหมดดุจฝอยท่วมหลังช้างปรารถนาสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น ท่านว่าธรรมธาตุนั้นสอดรับกับทุกสถานการณ์ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไม่อาจคาดเดาไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขก็พร้อมปฏิวัติเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ว่าผลกรรมจะหนุนนำ..เหนี่ยวรั้ง..ฉุดดึงให้ผู้ถือครองธรรมธาตุผันผวนเช่นใดย่อมไม่เรรวนออกจากวงจรอันยิ่งใหญ่นั้น ท่านว่าธรรมธาตุนี้ย่อมสงเคราะห์ไม่เลือกตัวตน..ไม่เลือกวาระกรรม

    ### เมื่อท่านทำการกดพิมพ์และฝังอาถรรพ์มงคลทั้งหลาย ท่านก็นำองค์พระมาโรยด้วยแร่วิเศษคือผงแร่เทวาประสิทธิ์ ที่มีอานุภาพแห่งเทพยดาและบารมีครูบาอาจารย์สายบุญฤทธิ์ประจุอยู่เต็มบารมี

    คาถาบูชา(ขณะว่าให้นึกถึงเรื่องที่ต้องการให้ชัดเจน)
    นะมะอะอุ สิวังพรหมมา จิตติ จิตตัง มานิมา จิตตังวา ปุพพังวา พันธังวา วิเลปะนังวา ราชะกุมาโรวา ราชะกุมารีวา อัคคะมะเหสีวา เทวีวา ราชาวา ราชาโนวา เศรษฐีโนวา สะมะโนวา พราหมมะโนวา อิตถีวา ปุริโสวา วานิชโชวา วานิชชาวา เอหิ เอหิ ปะถะตา อะหังวันทามิ สัพพะทา มหาลาโภ มหาลาภัง ภะวันตุเม


    เมื่อจะทำการสิ่งใดจะปลุกเสกก็ดี..พูดอธิษฐานเป็นประกาศิตให้ภาวนาพระคาถา อิมังสัจจะวาจังอธิฏฐามิ ทุติอิมังสัจจะวาจังอธิฏฐามิ ตะติอิมังสัจจะวาจังอธิฏฐามิ เอานี้วชี้มือขวาจับปากพระแล้วนำมาสีปากไปทางขวาสามหน พูดสิ่งใดเป็นไปตามปากทุกอย่างเมื่อทำอย่าแช่งใครอย่าด่าใคร หมั่นให้พรตนเองจะเป็นไปตามปากทั้งนั้น

    หากกลัวปากจะพาให้กรรมเกิดกับตน(ในกรณีคุมอารมณ์ตัวเองยาก)ทำเสร็จก็ถอนด้วย อิมังสัจจะวาจังปัจจุทะรามิ ทุติอิมังสัจจะวาจังปัจจุทะรามิ ตะติอิมังสัจจะวาจังปัจจุทะรามิ ภาวนาเอานิ้วชี้มือขวาแตะปากพระแล้วสีปากย้อนมาทางซ้าย..เป็นการถอนประกาศิตที่ทำไว้

    *** พ่ออาจารย์ท่านสร้างขุนแผนบรมเวทย์เปิดธรรมสถิตย์มหาธาตุปฏิวัติวงจรอันยิ่งใหญ่ไว้ได้ทั้งหมด 8 องค์โดยท่านเก็บไว้บูชาเองด้วยจึงเหลือเพียงเล็กน้อย ท่านว่ารายการนี้เป็นของเฉพาะคนเป็นวิชาเสริมส่งเฉพาะทางเฉพาะบุคคล..และท่านว่าพระเลือกเจ้าของไว้ทุกองค์ใด ท่านใดที่จะบูชาจริงๆก็ให้จองไว้เฉพาะทาง PM เท่านั้น

    ร่วมทำบุญบูชา ขุนแผนบรมเวทย์เปิดธรรมสถิตย์มหาธาตุปฏิวัติวงจรอันยิ่งใหญ่ (กินเรียบตำรับพระร่วง) บูชา 4,000 บาท
    275433687-721142798882769-450288528970891453-n.png 275237316-1033074530616047-6525291311288761961-n.png
    274930035-414455240442707-4908647762876957858-n.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา ขุนแผนบรมเวทย์เปิดธรรมกินเรียบตำรับพระร่วง(ชุดลองพิมพ์แก่ผงสุริยะ-จันทรกาล)

    ### เครื่องมงคลชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าหนักหนาจริงก็เอาไว้ขูดผงผสมน้ำกิน,ดื่ม,อาบ,รด..ล้างอาถรรพ์ได้ร้อยแปดพันประการ

    ### หากจะใช้ทางเสน่ห์ ก็ใช้อธิษฐานขูดผงผสมน้ำให้ผู้หมายปองกินท่านว่าอันนี้ก็หลงหนักหนา(แต่อย่าทำเลย)

    ### พระชุดนี้เนื้อจะหยาบๆสากๆน้ำหนักจะเบาเพราะผสมด้วยมวลสารที่รุ่นแรงแบบหัวกระทิล้วนๆ

    ### ใครชอบสายผงให้เก้บชุดนี้ไว้ท่านว่าพระลองพิมพ์นี่องค์หนึ่งบดเป็นผงละเอียดสร้างพระได้อีกหมื่นองค์โดยไม่ต้องเสกมีคุณดุจเดิ
    ม เพราะมวลสารบางอย่างต่อไปมีเงินเป็นแสนเป็นล้านก็ยากที่จะรวบรวมได้

    ### ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านมักพูดว่า
    พระผงนี่ทำยาก ผงบางชุดคือความภาคภูมิใจที่รวบรวมมาทั้งชีวิต

    กินเรียบตำรับพระร่วง
    ชีวิตที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานสมบูรณ์
    คือการเกิดพร้อมของความสุขทั้งด้านร่างกาย,ฐานะ,สังคมซึ่งจะบริบูรณ์ด้วยปัจจัยสี่ไม่ขาดตกบกพร่อง พ่ออาจารย์ท่านได้ศึกษาวิชาการทำพระผงตำรับขรัวโต ซึ่งเจ้าพระคุณสมเด็จนั้นท่านมีวิชาเฉพาะทางอยู่ซ้ำในอดีตก็ยังเคยสร้างพระพิมพ์สำคัญหรือที่เรียกว่าพิมพ์ขุนแผนไว้ซึ่งนับว่าหาได้ยากอย่างยิ่ง เป็นการสร้างด้วยวิชาและผงสำคัญตามตำรับโบราณในสมัยพระมหาธรรมราชาลิไทแห่งราชวงศ์พระร่วงเจ้า เอกบุรุษผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้ยิ่งในพุทธศาสตร์และไสยศาสตร์ทั้งเชื่อมต่อนรกสวรรค์ถ่ายทอดเรื่องราวสร้างบรรทัดฐานคุณธรรมให้พสกนิกรของพระองค์นั้นละอายชั่วกลัวบาป

    จำเนียรกาลผ่านไปท่านว่าหาผู้รู้และคิดจะทำวิชานั้นไม่ได้เลย ท่านจึงได้ขออนุญาติเจ้าพระคุณสมเด็จเพื่อจะทำขึ้นซึ่งก็ได้รับอนุญาติให้ทำได้ในรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของท่าน เมื่อจะสร้างพระด้วยวิชาของพระมหาธรรมราชาลิไทท่านจึงทำเป็นรูปขุนแผนทรงห้าเหลี่ยมประทับในซุ้มเรือนแก้วด้วยพิมพ์ทรงที่เป็นเอกลักษณ์ สื่อความหมายไปถึงพระพุทธรูปสำคัญคือองค์พระพุทธชินราชอันสร้างโดยพระมหาธรรมราชาลิไท สื่อความหมายไปถึงสมเด็จองค์ปฐมบรมสัพพัญญูผู้เป็นบรมครูยิ่งใหญ่ในนิกรพระชินสีห์ทุกรูปนาม ท่านว่าจะทำพระสำคัญก็ต้องใช้พิมพ์และรูปแบบที่มีความหมายสำคัญสื่อไปถึงองค์ต้นวิชาในราชวงศ์พระร่วง ซึ่งพระพิมพ์นี้เมื่อสร้างสำเร็จท่านว่าแม้จะยังไม่ได้บูชาแม้เพียงสัมผัสอาราธนาก็จะทำให้จิตใจผู้สัมผัสผ่องใสขึ้นได้

    พ่ออาจารย์ท่านได้ลบถมผงสำคัญตามวิชาโบราณซึ่งท่านว่าไม่สามารถเปิดเผยได้เลยตามสูตรเฉพาะของท่านตามสูตรของพระมหาธรรมราชาลิไท ซ้ำยังนำมาผสมกับผงพุทธคุณ,ผงปถมัง,ผงอิทธิเจ,ผงตรีนิสิงเห,ผงมหาราช,ผงว่านยาและคตวิเศษนานาชนิดรวมถึงผงสำคัญศักดิ์สิทธิ์ทางธรรมชาติที่รวบรวมไว้,ทั้งผงไม้กาฝากมงคล,คตที่เกิดจากไม้มงคล,ว่าน,เกสร,ผงไผ่ตัน,ผงไม้รวกตัน,ผงคตข้าวสารดำและข้าวสารหิน,ตลอดจนผงที่ได้จากลานจารึกใบข่อยโบราณนำมาเผาไฟทำผงใบลาน,ผงข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธ,ผงมหาอุตม์กะลาไม่มีตา,ผงมหาเสน่ห์กะลาตาเดียว,ผงคตมะพร้าว,ผงกิ่งโพธิ์นิพพาน,ผงไม้ไก่กุก,ผงเครือร้อยปลา,ผงปูนากระตุกเดือนห้า,ผงกบจำศีลเดือนห้า,ผงเขี้ยวงูจงอางที่ตายคาไข่ที่ฟัก,ผงไม้คานและไม้ประตูคุก,ผงชันโรงกลางแจ้งตรงตะวัน,ผงไม้คานแม่หม้าย,ผงเขาควายเผือกฟ้าผ่า,ผงเขี้ยวเสือโปร่ง,ผงคตสมองวัวเป็นเอกทางตบะเดชะผู้คิดร้ายไม่กล้าขยับปากด่าว่า,ผงคตขนุนซึ่งมีเทพยดาอาศัยเป็นเมตตามหานิยมค้ำชูดวง,ผงงาช้างดำ,งากำจัด,งากำจาย,งาช้างน้ำ,ผงเขากวางคุด,ผงเขากระจงคุด,ผงพญางูปากเป็ดที่สุดทางโชคลาภวาสนา,ตะไคร่โบสถ์,ตะไคร่เสมา,ตะไคร่มหาเจดีย์,ตะไคร่หลักเมืองชื่อมงคล,กระเบื้องโบสถ์โบราณ,ดินสังเวชนียสถาน,ผงดินกากยายักษ์,ผงเพชรน่าทั่ง,ผงเหล็กน้ำพี้,ผงสังขวานร,ผงรังเหล็กไหล,ผงข้าวตอกพระร่วง,น้ำฝนเดือนห้าตกรดหลังคาโบสถ์,น้ำในเศียรพระพุทธรูปน้ำมันช้างตกมัน,น้ำตาปลาดุหยง

    ซึ่งมวลสารทุกอย่างนั้นท่านว่าแม้ไม่ได้เสกก็ล้วนมีอิทธิคุณในตัวเองดึงพาโชคลาภวาสนามาสู่เจ้าของ ซ้ำเป็นกายสิทธิ์ชนิดต่างๆมากมายที่ดีในตัวเองไม่มีวันเสื่อมมีอานุภาพที่จะช่วยเกื้อกูลผู้ใช้โดยเฉพาะ

    หลังจากนั้นท่านจึงลงยันต์สำคัญต่างตามตำรับพิชัยสงครามลบถมผงวิเศษออกมาทั้งยันต์มหาจักรพรรดิ์,มหาปราบ,มหาระงับใหญ่,พุทธนิมิตร,พระเจ้าปราบมาร,พระเจ้าห้ามอาวุธ,ยันต์นิโรธ,พระเจ้าเข้านิโรธ,ดั้นพงจักรวาฬ,ปฐมอักขระ,ยอดอักขระ,นะธาตุ,มงกุฎพระเจ้า,มงกุฎแก้ว,ยอดพระมหามงกุฎ,กำบังนิทรา,สกลชมภูธิบดี,ปราบไตรจักร,พระเจ้า 28 พระองค์,เทพชุมนุม,เทพนิมิตร,เทวาประสิทธิ,พระแผลง,พระวิปัสสิ,พระเจ้าเสี่ยงบารมี,พระยาราชสีห์,ตราพระราชสีห์,ตราราชสีห์โผน,ตรามหาสีหนาท,ตรามหาอำนาจ,จักรแก้ว,ยันต์จักรนารายณ์น้อยใหญ่,รัตน์ไตรจักร,นารายณ์ถอดรูป,แก้วบรมจักรพรรดิ์,แก้วมณีโชติ,แก้วสารพัดนึก,ไตรลักษณ์,สุกิตติมา,โสฬสมงคล,พระนวหรคุณ,นวหรคุณ,ไตรสรณคม,พระไตรปิฎก,มหาละลวย,มหาวิเศษ,ครอบจักรวาฬ,มงคลจักรวาฬ 8 ทิศ,พระสุริยาทรงกลด,ยอดพระอรหาธิคุณ,ท้าวมหาพรหม,มหาพรหมส่องโลก,มหาจักรอนันตคุณ,มหาชัยมงคล,บารมี 30 ทัศ,บารมีทศชาติ,จักรวาฬครอบ,ยันต์พิไชยสงคราม,นเรศวรปราบหงสา,พระพุทธเจ้าห้ามญาติ,พระเจ้าห้ามทุกข์,จตุพุทธา,พระเจ้านอโม,นกคุ้มผู้เมีย,พระยากา,เกราะเพชรพระพุทธเจ้า,เกราะเพชร,ตาข่ายเพชร,กรงทอง,กรงทองทรงเครื่อง,กันโรคระบาท,อนันตนาคราช,มหาประสระ,เทพรำลึก,กันกระทำ,แสนสากเหล็ก

    นอกจากนี้ในชุดพิเศษท่านยังได้ผสมผงวิเศษต่างๆเพิ่มเติมไปมากโดยเฉพาะผงสุริยันจันทราทั้งสามสูตร
    - ผงเจดีย์ 100 ยอด ผงสถูปเจดีย์โบราณต่างๆที่แตกหักมีอายุนับร้อยนับพันปีครบ 100 องค์ ซึ่งท่านใช้เวลาหลายปีเพื่อรวบรวมโดยเดินทางไปทั้งทั้งภาคเหนือ,ภาคกลางและภาคอีสาน ประกอบพิธีพลีขอกลับมาประกอบเป็นมวลสาร ด้วยท่านว่าแต่โบราณกาลนั้นพระเจดีย์คือสัญลักษณ์ความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา มีพระเจดีย์ที่ไหนแปลว่าพระศาสนาเข้าถึงที่นั้นซ้ำองค์เจดีย์นั้นจะได้รับการบำรุงรักษาเคารพกราบไหว้อย่างดีเปรียบดั่งพระวรกายแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยว่าในพระเจดีย์เหล่านั้นล้วนประดิษฐานซึ่งพระบรมสารีนิกธาตุของพระองค์เมื่อรวบรวมมวลสารได้ครบเเละมาประกอบขึ้นเป็นผงเจดีย์ 100 ยอด ท่านว่าจะมีอานิสงค์ให้ผู้บูชานั้นเป็นศูนย์รวมของความเจริญอยู่ที่ไหนที่นั่นก็เจริญ เดินทางไปไหนก็ได้ดีตรงนั้น ซ้ำยังเป็นยอดคนทำอะไรก็ดีไปกว่าคนอื่นเค้าหมด ผงเจดีย์100ยอดนี้ท่านว่าทำยากเพราะเดินทางหลายครั้งหลายวาระเสียเวลามาก ต้องขอต้องพลีนำมาตำมาบดกว่าจะเสกเก็บไว้

    - ผงมหาชุมนุม
    พ่ออาจารย์บอกว่าวิชานี้สำคัญมากเป็นอัจฉริยภาพของครูอาจารย์ด้วยความเมตตาของท่านจึงได้อนุญาติให้ลงวิชานี้กำกับไว้ ซึ่งจะสอดรับกับวิชาโภคทรัพย์อย่างถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าอันมหาชุมนุมนี้เปรียบตัวเองเป็นศูนย์กลางโลกจะอยู่ที่ไหนทำอะไรใครก็ปรารถนาจะเข้าหา เค้าต้องเข้ามาหาเราเองไม่ต้องเหนื่อยเดือดร้อนวิ่งไปหาเขา ตรงนี้ท่านว่าสำคัญใครที่ต้องง้อ..ต้องออกแรง..ต้องเหนื่อยกว่าจะมีกว่าจะได้ นี่กลับกันกลายเป็นเขาต้องง้อเราเข้ามาหาเราเองในทางเดียวกันโชคลาภโภคทรัพย์ความสะดวกสบายความสุขลาภยศทรัพย์สินศฤงคารท่านว่าให้ตั้งใจมุ่งมาตรปรารถนาเอาไว้ ทุกสิ่งบรรดามีจะต้องวิ่งมาหาเราเอง มาชุมนุมที่ตัวเราไม่ไปไหนซ้ำวิชานี้ยังเป็นวิชาทางเมตตามหานิยมอย่างเอกด้วย ท่านว่าลองใช้ดูไม่อยากจะบอกว่าเป็นเสน่ห์แต่ก็เอาว่าแรงเหมือนดาวล้อมเดือนเลยทีเดียว แต่เดิมนั้นท่านว่ามหาชุมนุมเป็นวิชาสำคัญซึ่งแทบจะสูญหายและไม่มีใครทำไปแล้ว ด้วยว่าครูบาอาจารย์ท่านเมตตาอนุญาติแต่หนนี้จึงต้องทำซักหนด้วยว่าคนที่ถูกเลือกเท่านั้นจะได้ประสบพบเจอ

    - ผงมหาโภคทรัพย์สมุกสมเด็จ
    ท่านว่าเป็นวิชาเอกของเจ้าพระคุณวิชานี้สอดรับกับมหาชุมนุมโดยแท้ แม้นำติดตัวไว้ก็จะเป็นเมตตามหานิยมเป็นที่รักใคร่ของสรรพชีวิตโดยรอบ ซ้ำยังเด่นทางโภคทรัพย์โภคสมบัติดลบันดาลให้โชคดีตลอดจนทรัพย์สินเงินทองไหลมาเทมา ที่มีอยู่ก็จะพอกพูนขึ้นเรื่อยๆที่ยังไม่มีก็จะได้มี ท่านว่าแค่ติดตัวไว้เอาว่าแค่มีไว้ชีวิตนี้ไม่มีอดตายเพราะมันส่งผลต่อดวงชะตาโดยตรงให้มีลาภได้ลาภให้ชีวิตไม่ลำบากมีแต่ความสะดวกสบาย ถ้าจะทำธุรกิจ,รับราชการ,การค้า,การงานใดๆก็ตามท่านว่าคนไหนที่ดวงขึ้นๆลงๆไม่คงที่ทำงานมีแต่อยู่กับที่หรือแย่ลงท่านว่าวิชาตำรับนี้จะทำให้ดวงขึ้น การงานเจริญก้าวหน้าลาภผลงอกเงยเพิ่มพูนแม้จะเทียบจะแข่งขันกับใครท่านว่าไม่แพ้เลย เอาว่าใครก็ทำสู้เราไม่ได้ท่านว่าเพราะเป็นเช่นนี้ แต่เดิมท่านเจ้าพระคุณจึงเลือกคนให้และใครได้บูชาไปก็ตั้งตัวได้โดยพลันสืบถึงชั้นลูกหลานนั่นเอง

    - ผงสุริยกาล
    ผงนี้เกิดจากสุริยะเทวราชเมื่อครั้งที่ได้เข้ากรรมบำเพ็ญตบะเพื่อจะดับรัศมีความร้อนในร่างกายพระองค์ให้บรรเทาลงเสีย ด้วยตบะกรรมแห่งพระอาทิตย์เทพจึงได้เกิดไคลตกลงมาเป็นตะกอนก้อนผง ท่านว่าผงนี้มีคุณอย่างวิเศษแม้ใครเดือดร้อนทุก์ใจเจอเรื่องร้ายอย่างใดก็ตามที ทุกสิ่งที่ว่าร้ายจะต้องกลายเป็นดีทุกสิ่งที่เป็นกาลร้อนจะต้องสงบระงับไป เหลือแต่เพียงความสุขสมหวังความเจริญรุ่งเรืองเท่านั้น

    - ผงจันทรกาล
    เมื่อครั้งจันทรเทพได้ก่อเทวาสุรสงครามขึ้นพระองค์ได้เสด็จยังโลกมนุษย์เพื่อจะรวมกองทัพฝ่ายมนุษย์และเหล่าเทพอสูรต่อกรกับบรรดาเทพเจ้าทั้งหลาย ซึ่งกาลนั้นเองที่เป็นปฐมเหตุของตระกูลกษัตริย์จันทรวงศ์ที่จะสืบเชื้อสายต่อไปในชมพูทวีปได้อุบัติขึ้น ผงจันทรกาลจึงเกิดขึ้นเมื่อครานั้นเมื่อจันทรเทพได้บำเพ็ญตบะกรรมจนสำเร็จพิธีราชสูรยะ รัศมีของจันทรเทพก็สาดส่องไปกระทบกับมวลอากาศเกิดเป็นละอองขึ้นมา ซึ่งผงนี้เรียกว่าผงจันทรกาลเหล่านางฟ้าเทพธิดาอัปสรสวรรค์หรือแม้แต่นางพรายก็จะคอยเฝ้าไว้ด้วยความหวงแหน ซ้ำตนเองยังหลงใหลในผงนี้เสมอด้วยได้เห็นหน้าจันทรเทพอีกด้วย ท่านว่าเป็นที่สุดของผงทางเมตตามหานิยมเอาว่าขนาดนางฟ้ายังหลงเช่นนั้น ด้วยว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากเทพยดามีการพิทักษ์รักษาไว้อย่างดี เป็นของที่มีต้นกำเนิดมาจากองค์กำลังแห่งธาตุแสงใช้เบิกชีวิตคนได้..ใช้เปิดโลกเปิดภพภูมิได้ เป็นแสงสว่างที่จะทำลายความมืดขจัดกลียุคทำลายเสียซึ่งอุปาทวจัญไรทั้งปวง

    - ผงลบยันต์สุริยประภา,จันทรประภา
    ที่ท่านลบถมเก็บสะสมไว้ตอนเกิดพิธีอุปราคาทั้งสอง ด้วยหวังอานุภาพหนุนดวงขับส่งเสริมชะตาผู้ใช้ในทุกๆด้าน ท่านว่าผงนี้วิเศษนักปรารถนาสิ่งใดก็ได้สมใจทุกประการดุจแก้วสารพัดนึกดีทุกด้าน ยิ่งลงในเวลาทรงพระเวทย์เฉพาะพิธีอุปราคาด้วยแล้วยิ่งดีเหนือดีขึ้นไปอีก

    - ผงสุริยะมณฑล,จันทรมณฑล
    ท่านว่าผงทั้งสองชนิดนี้เปรียบเสมือนสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมีมาก่อน ไม่เคยโคจรมาพบกัน หรือจะปรากฏขึ้นพร้อมกันได้เช่นพระจันทร์และพระอาทิตย์ก็ยังมาเจอและอยู่ด้วยกันได้ดังนั้นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อุทาหรณ์อันใดยังไม่เกิดขึ้นความปรารถนาใดที่เป็นไปไม่ได้และยังไม่แล้วเสร็จก็จะเป็นไปโดยฉับพลัน ต่อไปนี้สิ่งที่ไม่เคยมีก็ต้องมี..ไม่เคยได้ก็ต้องได้..ไม่เคยรวยก็ต้องรวย ซ้ำยังช่วยปรับสมดุลย์ร่างกายให้ธาตุและพลังงานไม่ต่ำไปไม่สูงไปให้อยู่ในจุดพอดี ท่านว่าผงทั้งสองนี้ใช้ได้อย่างถึงที่สุดเป็นตัวแทนหยินหยางหญิงชายเป็นสื่อถึงชีวิตคู่การให้กำเนิดสรรพสิ่ง ใช้ได้ทั้งเลื่อนยศ,โชคลาภ,วาสนา,ลาภลอย,มหาเมตตา,มหาเสน่ห์ครบทุกประการ ท่านว่าผงทั้งสองนี้เป็นของพิเศษที่มีอิทธิคุณแรงกล้าเป็นสื่อรับคำอธิษฐานของผู้บูชาไปถึงบูรพาจารย์เบื้องบน

    - ผงลบมนต์น้ำซึมบ่อทราย,มนต์มหาเศรษฐีหลวง,มนต์พระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้าสำเภา,มนต์พระโพธิสัตว์เป็นมหาเศรษฐี
    ท่านว่าใช้ผงเพียงสี่ตระกูลนี้เท่านั้นมาผสมลบถมผงวิเศษมนต์น้ำซึมบ่อทรายนี้จะได้รวยแบบมั่นคงดุจน้ำตกสู่ทรายก็ค่อยๆซึมเข้าไป ชีวิตผู้ใช้ที่ว่าไม่มีโชคก็จะได้มีโชคหล่นมาหาซึมซับเข้าไปในตัวเราอยู่ร่ำไปไม่มีวันหมด ส่วนผงมนต์พระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้าสำเภานั้นจะทำกิจการงานใดๆก็จะสำเร็จลุล่วงประสบโชคลาภครั้งใหญ่ได้โดยง่ายเมื่อรวมกับผงพระโพธิสัตว์เป็นมหาเศรษฐีและผงมนต์มหาเศรษฐีหลวงแล้ว ก็จะช่วยต่อยอดให้ได้เป็นมหาเศรษฐีเร็วขึ้น

    ท่านได้นำผงต่างๆมาประกอบเป็นเครื่องมงคล ท่านนำผงดังนี้ทั้งหมดมาตำอาศัยฤกษ์ปัญจมหาเศรษฐีที่ชนเข้าในมหัทธโนฤกษ์เพื่อเสริมผลทางด้านความร่ำรวยจนถึงขั้นมหาเศรษฐี และความสำเร็จความเจริญก้าวหน้าเมื่อกดพิมพ์แล้วก็ได้บริกรรมคาถาพระเจ้าเข้าเรือนแก้วอันเป็นเคล็ดลับสูงสุดวิชาหนึ่งในสายอยุธยา

    คาถาบูชา(ขณะว่าให้นึกถึงเรื่องที่ต้องการให้ชัดเจน)
    นะมะอะอุ สิวังพรหมมา จิตติ จิตตัง มานิมา จิตตังวา ปุพพังวา พันธังวา วิเลปะนังวา ราชะกุมาโรวา ราชะกุมารีวา อัคคะมะเหสีวา เทวีวา ราชาวา ราชาโนวา เศรษฐีโนวา สะมะโนวา พราหมมะโนวา อิตถีวา ปุริโสวา วานิชโชวา วานิชชาวา เอหิ เอหิ ปะถะตา อะหังวันทามิ สัพพะทา มหาลาโภ มหาลาภัง ภะวันตุเม

    เมื่อจะทำการสิ่งใดจะปลุกเสกก็ดี..พูดอธิษฐานเป็นประกาศิตให้ภาวนาพระคาถา อิมังสัจจะวาจังอธิฏฐามิ ทุติอิมังสัจจะวาจังอธิฏฐามิ ตะติอิมังสัจจะวาจังอธิฏฐามิ เอานี้วชี้มือขวาจับปากพระแล้วนำมาสีปากไปทางขวาสามหน พูดสิ่งใดเป็นไปตามปากทุกอย่างเมื่อทำอย่าแช่งใครอย่าด่าใคร หมั่นให้พรตนเองจะเป็นไปตามปากทั้งนั้น


    หากกลัวปากจะพาให้กรรมเกิดกับตน(ในกรณีคุมอารมณ์ตัวเองยาก)ทำเสร็จก็ถอนด้วย อิมังสัจจะวาจังปัจจุทะรามิ ทุติอิมังสัจจะวาจังปัจจุทะรามิ ตะติอิมังสัจจะวาจังปัจจุทะรามิ ภาวนาเอานิ้วชี้มือขวาแตะปากพระแล้วสีปากย้อนมาทางซ้าย..เป็นการถอนประกาศิตที่ทำไว้


    *** รายการนี้เป็นของเฉพาะคนเป็นวิชาเสริมส่งเฉพาะทางเฉพาะบุคคล..และท่านว่าพระเลือกเจ้าของไว้ทุกองค์ ท่านใดที่จะบูชาจริงๆก็ให้จองไว้เฉพาะทาง PM เท่านั้น

    ร่วมทำบุญบูชา ขุนแผนบรมเวทย์เปิดธรรมกินเรียบตำรับพระร่วง(ชุดลองพิมพ์แก่ผงสุริยะ-จันทรกาล) บูชา 900 บาท
    276961822-2018394041858181-2033116155460613564-n.jpg 275886563-2011504299010796-5414432598438969899-n.jpg
    275947274-412615910669392-6562633818567109730-n.jpg
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลแหทิพย์พระโพธิญาณ 136 ชาติมหาสัตว์อัศจรรย์(เร่งอัตราหลุดรอด-จบชาติเวร)

    "สาธุสาธุ สมเด็จหน่อพุทธางกูรบังเกิดได้ 136 ชาติหามีภัยแลโรคาพยาธิเบียดเบียน แม้ตัวอยู่หนใดเภทภัยก็เคลื่อนคลายหนีไกลคลาดคลา ไม่ต้องในกระแสกรรมอันใหญ่หลวงปรวนแปรเอาแน่เอานอนมิได้ จะบ่ายหน้าสู่ทิศทางใดกรรมเวรก็หลีกเร้น เจ้าไปหนใดฟ้าไม่ทำอันตรายดินไม่ให้โทษทั้งยังเป็นมหันตคุณรุนแรงหนักหนาด้วยบารมีอันสั่งสมมาเต็มแล้วของพระบรมพุทธเจ้านี้จะฉุดช่วยบรรเทาผู้ทุกข์ร้อนให้คลี่คลายจงดี "

    หากพูดถึงเคราะห์ร้าย..มีใครเล่าเกิดมาจะไม่มี
    มีหรือไม่ที่จะไม่ต้องทุกข์,โทษ,ทรมานใจด้วยประการใดๆเลย
    โดยเฉพาะความทุกข์ของพระมหาโพธิสัตว์จะต่างกับปุถุชนคนธรรมดามากนักเพราะนั่นคือการสั่งสมบารมีต้องผจญทุกข์หนักกว่าชนธรรมดาทั้งผองนับพันเท่ายิ่งยวดทุกชาติ ของเราที่เรียกว่าทุกข์แล้วหากเปรียบกับท่านคงไม่เท่าหนึ่งในหมื่น แต่ที่วิเศษสูงสุดคือเมื่อพระมหาสัตว์ทุกข์แล้ว..ต้องเคราะห์..ต้องกรรมแล้วกับหลุดรอดพ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์เช่นนี้จะมีซักกี่ชาติกันเชียว

    ด้วยเหตุที่ว่า
    เคราะห์ภัยความทุกข์ยากลำบากใดในโลกก็ไม่พ้นรึมากไปกว่าความทุกข์ที่พระมหาสัตว์ต้องเจอระหว่างสั่งสมพระบารมีเพื่อจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเป็นแน่แท้ องค์ปฐมท่านว่ากว่าจะบารมีเต็มนั้นต้องเจอทุกข์ภัยทุกชนิดทุกรูปแบบ..ในภพชาติการเวียนว่ายตายเกิดมากกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในมหาสมุทร เรียกว่าความทุกข์ยากลำบากทุกชนิดพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องประสบพบเจอและฝ่าฟันกันมาหมดแล้ว แต่จะมีซักกี่ชาติเล่าที่รอดพ้นวิกฤติหายนะต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้ผจญภัยสาหัสก็พ้นทุกข์ภัยถ้วนทุกประการนั้นได้ ในความเจ็บปวดทนทุกข์ทรมานสาหัสในชาติภพที่มากกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายนี้ก็ยังมีกรวดทรายซักหยิบมือหนึ่ง(เปรียบกับชาติภพที่น้อยที่สุดจากความเป็นอนันต์ไม่สามารถประมาณได้ของกรวดทรายในท้องสมุทรกลับมีเพียงหยิบมือหนึ่งเท่านั้น)ที่เคราะห์เข็ญเวรภัยไม่สามารถทำอะไรพระมหาสัตว์ระหว่างสะสมพระบารมีนั้นได้เลย

    ในปัจจุบันนั้นอยู่ในยุคที่เคราะห์ของคนชนกับเคราะห์ของโลกและเคราะห์ของบุคคลในสังคมแวดล้อมผลักดันกันให้เกิดโทษใหญ่หลวงอยู่เนืองๆคนที่ดวงไม่แข็งหรือทำบารมีมาน้อยจะลำบากกว่าคนอื่นเป็นเงาตามตัวเช่นนี้องค์ปฐมท่านจึงให้ทำตะกรุดเฉพาะทางที่ใช้กำลังบารมีในหมวดพระโพธิสัตว์ขึ้นมา
    - วิชานี้..
    ไม่ใช่ต้องหลังขดหลังแข็งรับเคราะห์หนักไม่จบสิ้นแบบพระโพธิสัตว์
    - วิชานี้..ไม่ใช่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนความทุกข์ใดๆเพื่อจะสั่งสมบารมี
    หากแต่เป็นวิชาที่เลือกเฉพาะชาติที่รอดพ้นคลาดแคล้วภัยเวรได้อย่างน่าอัศจรรย์ของมหาสัตว์มารวมกัน เรียกว่าเจอทุกข์ไม่เอามาเอาเฉพาะชาติที่หลุดรอดซ่อนเร้นเคราะห์กรรมสาหัสหนักหนาได้เอ่ยอ้างพระโพธิญาณเอาบารมีในชาติภพเหล่านั้นมาสร้างเป็นตะกรุดชุดพิเศษผูกค่ายกลตัวเลขเดินกลวิธีสำทับด้วยอักขระมหายันต์ ### อันเป็นวิชาเฉพาะทางของสมเด็จองค์ปฐม

    ซึ่งท่านให้ใช้พระชาติต่างๆที่รอดพ้นจากภัยพิบัติชนิดที่ว่าร้ายแรงที่สุดมาผูกกันไว้เป็นกลเลขกลยันต์เพื่อให้ผู้อาราธนาใช้เอาตัวรอดให้รอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวงไม่ว่าที่เกิดแต่ดวงก็ดี..เกิดแต่เคราะห์กรรมก็ดี..เกิดแต่เคราะห์ของโลกก็ดี..เกิดแต่เคราะห์จากบุคคลแวดล้อมก็ดี..โดยรวมพระบารมีของมหาโพธิสัตว์ที่หลุดรอดเคราะห์กรรมไว้ดั่งทรายหยิบมือจากภพชาติที่มากดุจเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องสมุทร อันประกอบด้วย
    - ชาติแห่งนกกระเรียน 16 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาหงสา 9 ชาติ
    - ชาติแห่งนกพิราบ 6 ชาติ
    - ชาติแห่งนกแขกเต้า 3 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาการะเวก 5 ชาติ
    - ชาติแห่งพญานกสาริกา 7 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาไก่เถื่อน 12 ชาติ
    - ชาติแห่งกินนร 4 ชาติ
    - ชาติแห่งจามรี 15 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาวานรเผือก 10 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาหัตถีนาคา(มีหัวเป็นช้างมีตัวเป็นพญานาค) 11 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาโคอุสุภราช 14 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาม้าสินธพอัสดร 1 ชาติ
    - ชาติแห่งมหิงสาพญาควายป่า 8 ชาติ
    - ชาติแห่งมยุราชนกยูงคำ 2 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาหมูป่าเขี้ยวเพชร 13 ชาติ


    อันพระชาติที่มากดุจเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องพระสมุทรนี้มีเพียง 136 ชาติเท่านั้นที่รอดพ้นภัยอันตรายไม่ต้องเสวยทุกข์เวทนาใดๆได้ดุจมีปาฏิหาริย์ เช่นนั้นจึงเปรียบได้ดุจภพชาติแทนด้วยกรวดทรายเพียงหยิบมือเดียวที่เป็นอยู่สุขสบายไม่ต้องทุกข์โทษภัยใดๆ แม้มีภัยใดๆเกิดขึ้นก็ไม่สามารถล่วงเกินกล้ำกรายได้..ทีนี้จะเกิดอะไรขึ้นหากนำภพชาติทั้งหมดที่หลุดรอดเสวยสุขเหล่านี้มาผนวกผูกขึ้นเป็นพระยันต์ พ่ออาจารย์ท่านว่าหากรวบหมด 136 ชาติ นี่มันเกินความสุขสบายทั้งหมดนะ..และมันเกินกว่าคำว่ารอดไปไกล เรียกว่าหากเอ่ยอ้างบารมีเพียงภพชาติเดียวคนที่เจอปัญหาอุปสรรคหนักๆยังคลี่คลายโดยง่าย แต่หากขมวดมารวมทีเดียว 136 ชาติเลยมันคือสุดยอดบารมีแห่งการเอาตัวรอดให้รอดพ้นในทุกๆปัญหา..ทุกๆห้วงวิกฤติ
    - จะไม่มี..เคราะห์ภัยใดๆกระทำอันตรายต่อเราได้
    - จะไม่มี..หมู่มารศัตรูมาคอยรบกวนให้เคืองหูเคืองตา
    - จะไม่มี..ความทุกข์ความสูญเสียเกิดขึ้นระหว่างเสวยชาติภพ
    - จะไม่มี..ภัยพิบัติใดล่วงเกินคร่าชีวิตเราเลย
    - จะไม่มี..เหตุให้สูญเสียทรัพย์และสิ่งอันเป้นที่รัก
    - จะไม่มี..ชีวิตที่ร้อนรุ่มดุจตกขุมไฟนรกโลกันต์
    - จะไม่มี..การรอคอยบารมีจากผู้ใดมาสงเคราะห์(เพราะถึงพร้อมแล้วด้วยบารมีอันหลุดรอดออกจากลิขิตฟ้า)
    - จะไม่มี..หนทางที่นำไปสู่ความพินาศฉิบหาย


    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำมาก ท่านบอกว่าองค์ปฐมให้ความสำคัญมากจริงๆ เธออย่าลืมนะว่าการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์เนี่ยทุกๆชาติคือใช้กรรม..คือเจอทุกข์..เจอภัยแบบหนักหน่วงกว่าคนปกติ ไม่ว่าจะเกิดกี่ชาติเกิดมาดีแค่ไหนมีฐานะอย่างไรเคราะห์ภัยนี่ไม่เว้นเลย หนักหนาสาหัสกว่าคนธรรมดามากๆในทุกภพชาติกว่าจะได้มาตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ทีนี้พระชาติที่หลุดที่รอดไม่พบเจอเคราะห์กรรมล่ะนี่มันคือการหลุดรอดเคราะห์กรรมในฐานะพระมหาโพธิสัตว์ซึ่งแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลยสำหรับผู้เกิดมาเพื่อชำระกรรมเช่นนี้
    - เรียกว่ารอดจากกฏแห่งกรรม
    - รอดจากดวงตาพิพากษาของโลกมนุษย์
    - หลุดรอดไปจากข่ายแหความทุกข์ทรมานที่ครอบคลุมสัตว์น้อยใหญ่ไว้


    ไอ้ที่รอดนี่ไม่ใช่รอดเพียงชาติเดียว หากแต่ทรงรอดถึง 136 ชาติ คิดดูอาจจะว่ามากแต่เทียบกับทรายในท้องมหาสมุทรยังไม่ได้เท่าหยิบมือ

    - นั่นแหละมันมีอาถรรพ์แฝงถึงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้..ก็เป็นไปแล้ว
    - เรื่องที่ไม่อาจรอดกฏแห่งกรรม..ก็เกิดขึ้นแล้ว
    - เรื่องที่ขัดธรรมเนียมการรับทุกข์ของพระมหาสัตว์..ก็เป็นไปดังนี้แล้ว

    พอขมวดรวมกันเป็นอาถรรพ์วิชาเธอจึงรอดจากอำนาจกรรมซึ่งมองไม่เห็น หลุดรอดจากแหฟ้าตาข่ายดินที่ปิดกั้นสรรพสัตว์ทั้งปวง

    เรื่องแปลกประหลาดของคนใช้ตะกรุด
    1. เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็จักเป็นไปได้
    2. เรื่องที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ก็จะเกิดขึ้น
    3. จะไม่เกี่ยวข้องในเวรกรรมของผู้ใด
    4. จะไม่ทนทุกข์ในเคราะห์ของตนเอง
    5. จะไม่ถูกเคราะห์กรรมของโลกเล่นงาน
    6. จะเป็นชาติที่หลุดรอดจากเรื่องเลวร้ายทั้งหมด
    7. จะเป็นชาติที่กฏแห่งคำสาป,บาป,กรรมหลีกเร้นหนีไกล
    8. จะเป็นชาติที่ปลอดภัยจากศัตรูหมู่มารทั้งผอง
    9. จะเป็นชาติที่ได้เสวยความสุขเต็มที่
    10. จะเป็นชาติที่ได้สั่งสมบุญบารมีต่อยอดปัจจัยไปเกิดในสุขคติภพอย่างเต็มที่


    โดยรวมอาถรรพ์ 136 พระชาติพระมหาสัตว์เหล่านี้เธอจะรอดพ้นชีวิตอันน่าสมเพชได้อย่างอัศจรรย์ใจโดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่ชาติเดียวหากเอ่ยอ้างบารมีแล้วเหตุการณ์วิกฤติในชีวิตยังคลี่คลายได้ แต่นี่ควานหามาจากภพชาติอันประมาณมิได้รวมได้ 136 ชาติ มาถักทอเป็นแห่ทิพย์พระโพธิญาณปกป้องคุ้มครองตัวให้หลุดหรอดจากเคราห์ะกรรม..พ้นภัยจากอำนาจแห่งดวงดาว...รอดพ้นจากแหฟ้าตาข่ายดิน..หลีกเร้นนัยน์ตาโลกอันไม่ปราณีหมู่สัตว์ทั้งผอง

    ตะกรุดนี้ท่านตั้งใจทำไว้เพื่อให้คนใช้ได้สนุกสนานกับชีวิตให้เต็มที่ เกิดมาเป็นคนทั้งทีต้องมีชีวิตเพื่อก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดเพื่อแสวงหาความเจริญไม่ถูกเตะหน่วงด้วยกรรมเวรปัญหาอุปสรรคติดขัดใดๆไปตลอดชีวิต ท่านว่าเอาให้สนุกสุดเหวี่ยงกันไปเลยอยากทำอะไรก็ทำแต่อย่าเผลอไปทำเรื่องเลวๆก็พอ

    *** เคล็ดการใช้ตะกรุด
    พึงจำไว้เลยวิธีการใช้นั้นง่ายๆจริงๆองค์ปฐมท่านว่าคาถาใดๆไม่จำเป็นเลย เพียงนึกถึงเราก็ใช้ได้เลย นั่นคือการนึกถึงพ่อพระพุทธเวลาจะใช้ก็ให้นึกถึงพ่อพระพุทโธ..นึกถึงหน้าพระพุทธเจ้าอยู่ตลอด..ตราบใดที่ตะกรุดห้อยคอเธอจะดิ่งซาบซ่านมีความสุขอยู่ด้วยพุทธคุณ เวลาห้อยเนี่ยจะเกิดความรู้สึกแปลกๆคือหลับตาก็มีภาพพระพุทธลอยขึ้นมาตลอดเวลาเช่นนี้..มันเป็นพุทธานุสติข่มกำราบจิตชั่วและความเสื่อมทรามทั้งปวง ก็ขนาดที่ว่าหน้าพระลอยอยู่ตรงหน้าแล้วใครจะมีอารมณ์ไปก่อกรรมทำชั่วมีความคิดผิดบาปได้อีก พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วยังทำชั่วได้ไม่ละอายพระก็ถือว่าเกินเยียวยาไปแล้ว

    นี่เป็นวิธีการใช้ง่ายๆที่ไม่มีสิ่งใดง่ายไปกว่านี้ คนใช้สบายที่สุดแล้วเพราะมันคลาดแคล้วไปหมดจากความทุกข์พุ่งใส่ความสุขสนุกกับการมีชีวิต..การได้เกิดมาเพื่อสร้างบารมี เรียกว่ายิ่งทำดียิ่งภาวนายิ่งสร้างบารมีจะรู้สึกสนุกและมีความสุขอยากทำเพิ่มอีก..อยากมีเพิ่มอีก..อยากได้เพิ่มอีกไม่รู้จักจบสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าสนุกแบบนี้มันดีนะเพราะจะได้มีทุนสะสมในภพชาติต่อไปดีกว่ามานั่งเสียใจที่เกิดมาทั้งทีไม่มีเวลาไม่มีโอกาสได้ทำ

    ตะกรุดชุดนี้ลงด้วยแผ่นธาตุกายสิทธิ์ที่พ่ออาจารย์ท่านลงถมเอาไว้อย่างยากลำบากท่านว่าวิชานี้ของสมเด็จองค์ปฐมไม่ใช่เพียงใช่ซ่อนเร้น..เลือนหายเอาตัวรอดจากการใช้ชีวิตที่ยากลำบากเท่านั้น หากแต่คนพกจะได้อานิสงส์สำคัญให้มีชีวิตร่มเย็นเป็นสุขไปทั่วตราบใดที่หายใจอยู่จะไม่ทุกข์ร้อนเลย..แคล้วคลาดจากสารพันปัญหาได้อย่างน่าอัศจรรย์..ผลกรรมจากภพชาติที่เคยก่อไว้ที่ร้ายแรงจะสงบไปด้วยคุณแห่งพระชาติต่างๆของมหาสัตว์ทั้ง 136 พระชาติอันได้สำเร็จโพธิญาณไปแล้วนั้นจะดลให้เรารอดพ้นจากความเดือดร้อนทั้งปวงได้ด้วยพระบารมี อันเป็นบารมีแบบเฉพาะเจาะจง

    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องเจอปัญหาถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องตกระกำลำบากถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องอดทนไว้ด้วยขันติอย่างยิ่งยวดถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องใช้ความพยายามแรงกล้าฝ่าฟันถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องเสียสละตัวเองเพื่อความสบายคนอื่นถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องรอบุญคอยกุศลหนุนส่งถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องขอความเมตตาจากผู้ใดมาช่วยถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องผจญด้วยศัตรูหมู่มารถึงรอด
    ..ร้อยแปดทางรอดท่านว่าลำบากไปแล้ว 99.99% ถึงจะรอดบางคนก็สภาพย่ำแย่เหมือนกันที่รอดมาไม่เจ็บก็สาหัสทั้งนั้น เช่นนี้ฉันจึงกล้ากล่าวได้ว่า "ใครใคร่จะหาความสุขกาย,สบายใจใส่ตัวก็ดี รึใครใคร่จะหลีกเร้นให้แคล้วคลาดจากศัตรูทั้งหลายก็ดี,ใครใคร่จะมีชีวิตรอดพ้นไปแบบไม่ต้องสูญเสียสิ่งใดก็ดี..หากรู้ตัวแล้วก็ช่วยขวนขวายกันซักนิด..หาตะกรุดชุดนี้มาใช้ให้ทันเถิด..ช้าหนึ่งวันก็ทุกข์สั่งสมเพิ่มขึ้นขมวดปมแน่นขึ้นไปอีกวัน"

    คาถาบูชา(ไม่จำเป็นต้องท่องหากนึกถึงหน้าพ่อพระพุทธ)
    อิติปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติโพธิมะนุปปัตโต อิติปิโส จะเตนะโม


    *** รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเครื่องมงคลที่มีความสำคัญมาก "เพราะมันช่วยให้หลุดรอดบ่วงชาติ..เวร" ผู้มีปัญญาและเข้าใจความหมายคำนี้ได้จะเกิดมีความสุขสบายถึงสุดท้ายคือพระนิพพาน รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น (ด้านในตะกรุดที่ถักเชือกท่านตอกโค๊ตไว้ทั้งหมด)

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลแหทิพย์พระโพธิญาณ 136 ชาติมหาสัตว์อัศจรรย์(เร่งอัตราหลุดรอด-จบชาติเวร) บูชา 4,000 บาท
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา หมากพลิกเปลี่ยนเกมชีวิต"เพชรฆาตช่วงชิงฝันผนึกเลือดแก้วกุมภี"(ลัดขั้นตอนกินสิบทิศ)

    "อันรูปธาตุขันธ์กายสิทธิ์นั้นคือร่างกาย ผนึกเลือดคือตบะญาณ จึงอุบัติเกิดเป็นจอมพญากุมภีร์เหมือนครั้งโบราณกาล...ซึ่งแรงฤทธิ์เล่นฤทธิ์กายสิทธิ์ได้น่าอัศจรรย์มีตัวตนเต็มรูปนาม"

    ผนึกเลือดแก้วกุมภี เป็นยอดแห่งของอาถรรพ์ทั้งปวงซึ่งหมอจระเข้ผู้มากอาคมในสมัยก่อนจะเก็บสะสมไว้ ย้อนกลับไปสมัยอดีตหมอจระเข้นั้นก็เหมือนนักปราบสัตว์ร้ายให้กับชาวบ้านที่ต้องมีฝีมือมีทักษะยุทธ์เก่งกล้าอันนี้คือหมอทั่วๆไป หากไปเจอเอาจระเข้ระดับจ้าวถ้ำหรือจ้าวแห่งน่านน้ำจ้าวที่ซึ่งแตกต่างจากจระเข้ปกติมาก ด้วยจระเข้เหล่านี้นอกจากจะมีอายุยืนยาวมีร่างกายใหญ่โตแล้วเหนือสิ่งอื่นใดมันยังมีตบะการบำเพ็ญเพียรสั่งสมมายาวนาน จะเรียกว่าจากสัตว์ร้ายจะกลายเป็นอสุรกายบ้าง,เป็นกึ่งเทพบ้าง,หรือเป็นปีศาจก็ได้ซึ่งจระเข้ประเภทนี้หมอจระเข้ธรรมดาจะไม่สามารถปราบได้จำเป็นต้องใช้หมอที่มากวิชาอาคมอย่างแท้จริง

    ผนึกเลือดแก้วกุมภีนี้ก็ได้มาจากตบะพญากุมภี(จ้าวจระเข้) นั่นเอง มันจะเกิดขึ้นหลังการบำเพ็ญตบะครบร้อยปีจะจึงจะมีผนึกเลือดเท่าเม็ดถั่วเขียวและจะค่อยๆโตขึ้นในทุกๆร้อยปี เมื่อหมอจระเข้ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้าได้ปราบจระเข้จ้าวถ้ำผู้มากตบะบารมีลงได้จะผ่าศรีษะดึงผนึกเลือดแก้วกุมภีออกมาเก็บรักษาไว้ ด้วยผนึกเลือดนั้นจะฝังอยู่บริเวณหน้าผากหากเกิดขึ้นแล้วจระเข้นั้นจะถือเป็นพญากุมภีร์มีฤทธิ์มากมีตบะบารมีเหมือนเป็นกึ่งเทพอย่างพญานาค ซึ่งเป็นเรื่องในอดีตกาลนานนมไม่ปรากฏในจระเข้สมัยนี้ที่ตายตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มบำเพ็ญตบะ สมัยก่อนพญากุมภีร์ผู้มีผนึกเลือดแก้วกุมภีนี้จะปกครองเหล่าจระเข้ทั้งปวงทั้งยังเป็นนักล่าซึ่งภูติผีปีศาจเกรงกลัวแม้เทวดาก็ยังมารักษาตามส่วนสำคัญต่างๆในร่างกาย จึงอาจกล่าวได้ว่าผนึกเลือดเป็นยอดแห่งกายสิทธิ์อันมีคุณวิเศษยิ่งใหญ่ "สำหรับ...ผู้ล่า" พ่ออาจารย์ท่านว่าที่หายากกว่าจระเข้จ้าวคุ้งน้ำก็คือหมออาคมที่ออกล่าเฉพาะจ้าวแห่งกุมภีร์เหล่านี้ซักสองสามร้อยปีในอดีตจะมีเกิดขึ้นมาซักคน และหมอเฒ่าก็จะล่าเฉพาะจระเข้จ้าวน้ำจ้าวถ้ำเท่านั้นเรียกว่าล่ามาร้อยคุ้งน้ำสะสมกันรุ่นสืบรุ่นกว่าจะมีผนึกเลือดเพียงไม่กี่เม็ดต้องใช้เวลาหลายร้อยปี

    อาถรรพ์ผนึกเลือด..ช่วยให้เรากลายเป็นผู้ล่าทั้งยังมีตัวช่วยที่จะเป็นเพชรฆาตผู้ช่วงชิงความฝันความสำเร็จมาสู่ตัวเราได้ พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่า "อย่าลืมนะจระเข้น่ะมันกินทั้งบนบกกินทั้งในน้ำ จะในน้ำรึบนบกมันออกล่าหากินได้หมดกินไม่เลือกสถานที่ ยิ่งพญาจระเข้ไม่ใช่แค่บนบกรึในน้ำแล้วแต่มันหากินขึ้นไปถึงสวรรค์ลงไปถึงพิภพบาดาล ผนึกเลือดจึงเป็นของล้ำค่าอันมากฤทธิ์สำหรับผู้หมายปองต้องการชีวิต..แบบ..มีอันจะกิน"

    ...เหนือสิ่งอื่นใดพ่ออาจารย์ท่านเคยรวมวิชาจระเข้ทำเครื่องรางอยู่บ้าง แต่ท่านไม่เคยแตะต้องทำพญาชาละวันเลยด้วยท่านว่ามันจะใช้กันได้ระเริงใจมากไป เพราะชาละวันนี้นอกจากมากตบะเป็นเพชรฆาตซุ่มล่าดักเหยื่อแล้วยังช่วงชิงสิ่งที่เอาได้ยาก..สิ่งที่ผิดวิสัย..ผิดธรรมชาติ..ผิดสามัญสำนึกเป็นพญาจระเข้ที่ได้เมียเป็นมนุษย์ยอดสาวงาม เป็นนักล่าซึ่งออกล่าได้ทุกสิ่งไม่มีสิ่งใดที่พญาชาละวันเอามาครอบครองไม่ได้..ไม่มีอะไรที่พญาชาละวันอยากได้แล้วจะไม่ได้แม้กระทั่งถ้ำทองที่อาศัยยังเป็นพิภพบาดาลที่เจิดจรัสด้วยทรัพย์สมบัติเหมือนวังพญานาคราช หนนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงทำพญาชาละวันคาบแก้ว(คาบนาง,คาบเหยื่อ) เป็นอาถรรพ์ว่าสมหวังได้เหยื่อเต็มปากสำทับด้วยผนึกเลือดแก้วกุมภีสร้างอาถรรพ์ขั้นสูงสุดในเครื่องมงคลสายเพชรฆาตเจ้าแห่งนักล่าทรัพย์สมบัติ..นักล่าความฝัน..นักล่าความปรารถนา ให้มีได้สมใจดั่งสิ่งที่บอกให้พ่อชาละวันนี้ล่ามาให้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าชาละวันฉันมันไม่แพ้ไกรทองหรอกนะ..เพราะหมอจระเข้ซึ่งมากอาคมพอที่จะปราบจ้าวถ้ำทอง..จ้าวน่านน้ำ..จ้าววังบาดาลได้ สมัยนี้น่ะไม่มีถึงมีก็ยังไม่เกิด อาถรรพ์แห่งพญากุมภีร์จึงไร้ผู้ต้านทานโดยแท้จริงไม่มีใครเอามันลงได้เลยเพราะไม่มีดาวข่มเช่นครุฑก็มีพระนารายณ์,หนุมานก็มีพระราม,พญานาคก็มีพญาครุฑ,พญาหมูก็มีพญาเสือ..แต่นี่ดาวข่มไม่มีเธอคิดดูเถิดว่าจะแรงฤทธิ์ล้ำลึกขนาดไหน เครื่องมงคลที่สร้างด้วยอาถรรพ์แห่งตบะภาวนาอันบริสุทธิ์สูงส่งในร่างจ้าวพิภพบาดาลนี้ต้องรออีกกี่รอบอีกกี่ร้อยปีจะมีโอกาสทำได้อีกครั้ง..ด้วยยุคสมัยมันเปลี่ยนไปหมดแล้วแน่นอนว่าไม่มีโอกาสเกิดขึ้นอีกแล้ว...แต่โบราณก่อนความเชื่อจะกลับกลายแปรผันนั้นจระเข้ถือเป็นจ้าวแห่งน่านน้ำที่ร้ายกาจกว่าพญานาคแม้พระวรุณเทวราชยังประทับจระเข้แต่ปัจจุบันนั้นความเชื่อเปลี่ยนแปลงไปหมด เพราะพญาจระเข้นั้นถูกปราบล่าผนึกเลือดกันหมดสิ้นเรียกว่าล้างโคตรล้างวงศ์ไม่ทันรอให้ตบะครบพันปีสำเร็จเป็นเทพขึ้นสู่จตุมหาราชิกาไปเป็นพาหนะพระวรุณก็ไล่ล้างบางกันไปแล้ว

    อาถรรพ์แห่งวิชาจระเข้
    วิชาจระเข้นี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีความซับซ้อนมาก เพราะเค้ามีอยู่หลายตัวในวิชาภาคต่างๆถ้าจะทำแล้วก็ต้องลงให้ครบทุกอย่าง ท่านว่าจะทำขอไปทีก็ไม่ได้เพราะเสกจระเข้นั้นจำเป็นต้องมีวิชาของเค้าไม่ใช่จะทำไปเรื่อยเสกแบบอาศัยแรงครูอย่างเดียวเช่นนี้ย่อมไม่สำเร็จ..จระเข้ถือว่าเป็นใหญ่ในสัตว์น้ำทั้งปวง แต่โบราณจะใช้ธงรูปจระเข้เป็นผู้นำสัตว์ต่างๆมาช่วยคุ้มกันขบวนเรือกฐิน ถือเป็นสัตว์ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารเนื่องจากเป็นสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ทั้งยังเป็นผู้ล่าที่ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติ เช่นนั้นครูบาอาจารย์จึงนิยมทำจระเข้กันมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาจระเข้นี้มีหลายตัวถ้าจะทำก็ต้องลงให้คบด้วยวิชาจระเข้แต่ละตัวนั้นก็มีคุณแรงแต่ละด้านต่างกันไปโดยรวมคุณวิชาจระเข้ทุกตัวจึงดีครบทุกด้าน ซ้ำจระเข้ยังเป็นตัวแทนของความโลภเพราะเขามีปากใหญ่ที่กินไม่อิ่มดังนั้นคนที่บูชาเครื่องมงคลรูปจระเข้ที่ลงถูกต้องตามคุณวิชาจะสังเกตุได้ว่าเขาจะเป็นสื่อ..จะทำให้โชคดีนำโชคลาภมาให้เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสกับเราทำให้ค้าขายดี..ผ่อนปัญหาความทุกข์ยาก...จนถึงคดีความต่างๆหรืออาการเจ็บไข้ได้จะหายป่วยได้ แม้คนที่มีอาชีพที่ต้องอาศัยดวงเรียกว่ามีอาชีพหรือชีวิตที่ไม่แน่นอนหากบูชาก็เชื่อว่าจะทำให้ได้ผลประโยชน์ในปริมาณที่มากกว่าเดิม เรียกว่าไม่ว่าอาชีพของเราจะหาอะไรก็ตามจะหาได้ง่าย..ได้เร็ว..ได้มากกว่าเดิมแบบนั้น

    โดยปกติวิชาจระเข้นั้นจะดีทางปกป้องคุ้มครอง,แคล้วคลาด,ภูตผีปีศาจเกรงกลัว,ป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน,ถอดถอนเสน่ห์ยาแฝดต่างๆ สามรถพกใส่ใส่กระเป้าเสื้อกางเกงหรือผูกติดเอวก็ได้ จะคล้องคอลอดราวผ้าลอดไต้ถุนไม่ถือไม่เสื่อมอะไรทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างจระเข้อาคมมานานแล้วแต่มักทำเป็นขนาดบูชาคือขนาดใหญ่จะแกะด้วยไม้มงคลแล้วเอาผงอุดบ้างหรือเอาผงมาปั้นเป็นตัวบ้างก็มี ท่านทำให้ใช้กันในหมู่คนพิเศษหรือเป็นของเฉพาะคนหากแต่ท่านกลับไม่เคยทำขนาดที่พกติดตัวได้ให้กับใครเลย ผู้ที่ได้รับจระเข้มนต์จากท่านไปต่างบอกกันปากต่อปากว่าป้องกันภัยได้ดีบ้าง ..
    รักษาทรัพย์คุ้มครองสมบัติเงินทองดีบ้าง..แถมยังขยันหาทรัพย์เก่งมีมหาโภคทรัพย์ได้เงินได้ทองทำให้ทรัพย์สมบัติงอกเงยเพิ่มพูนขึ้น..คำว่ายากจนข้นแค้นจะหนีไกลไปเลยไม่ปรากฏกับผู้ที่ได้บูชาจระเข้วิชาของพ่ออาจารย์ วิชาจระเข้นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะทำให้ครบต้องลงไว้สามภาค แต่ละภาคก็มีสูตรมีวิชาย่อยต่างๆประกอบกันตั้งแต่
    - กุมภีร์โพธิสัตว์ เป็นชาติหนึ่งซึ่งพระพุทธองค์เสวยชาติเป็นพญากุมภีร์ เป็นเจ้าแห่งสัตว์น้ำทั้งหลายมีบริวารเป็นจระเข้อีก 500 ตัว เรียกได้ว่าใครๆต่างก็เกรงกลัวบารมีของพญากุมภีร์เป็นอันมาก
    - จระเข้นารายณ์อวตาร ตำรับนี้ท่านว่าทำให้ถึงจริงๆนั้นทำยากเพราะแต่ละส่วนตามร่างกายจระเข้นั้นล้วนแต่เป็นพระอิศวร,พระนารายณ์,พระพรหม,เทพนพเคราะห์แลเทพสำคัญอื่นๆตั้งแต่พระยม,พระกาฬ,พระอัคนี,พระอาทิตย์,พระจันทร์,ท้าวกุเวร...จุติลงมาเกิดเข้าพิทักษ์รักษาร่างกายตามจุดต่างๆทั้งสิ้น เช่นนี้วิชานารายร์อวตารเป็นจระเข้จึงมีฤทธิ์มากเกินจระเข้ทั้งหลาย
    - จระเข้พญาเถรกวาด อันนี้เป็นมนต์จำแลงกายแยกออกไปหลายตัว ใช้ได้ตั้งแต่หาทรัพย์เป็นเมตตาจนถึงมหาเสน่ห์หัวกระได้ไม่แห้งนั่นทีเดียว...ท่านว่ามีอุปเท่ห์ใช้ได้เยอะมากจึงลงไว้ให้ครบทุกตัว

    แล้วก็ต้องเสริมด้วยวิชาแต่งคนให้หุ่นจระเข้นั้นให้คุณกับคนใช้โดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติแล้วหลายๆที่ทำจระเข้จะยึดเอาตัวใดตัวหนึ่งแต่ส่วนใหญ่จะใช้กุมภีร์โพธิสัตว์ บางที่ทำเป็นกุมภีร์นารายณ์อวตารได้ก็นับว่าแรงมากมีอาถรรพ์เป็นที่สุดแล้ว ที่จริงยังมีวิชาจระเข้หลายๆแบบเช่นผงชุดวิชาพญาชาละวัน...พ่ออาจารย์ท่านได้ลบถมผงต่างๆให้มีอาถรรพ์ ท่านว่าในส่วนของผงคุณพระก็ลบได้ตามปกติแต่ในส่วนของผงวิชาจระเข้จริงๆหากจะทำให้เข้มขลังขมังเวทย์ก็ต้องใช้หนังจระเข้ที่เคยกินคนมาก่อนเอามาล้างเสนียดลงวิชาเสียใหม่ก่อนจะเอามาทำเป็นมวลสารแท่งผงเพื่อจะลบวิชาเช่นนั้นจระเข้มนต์ที่ได้ก็จะเป็นเจ้าแห่งกุมภีร์มีอาถรรพ์มากแตกต่างจากจระเข้บริวารทั่วไป ท่านลบถมผงต่างๆตั้งแต่ ผงโพธิสัตว์รัตนมงคล,ผงวิชาจระเข้นารายณ์อวตาร,ผงวิชาพญาเถรกวาดตัวที่หนึ่งถึงเก้า,ผงพญาชาละวันทุกตัว,ผงพระพุทธคุณห้าสิบหก,ผงพระธรรมคุณสามสิบแปด,ผงพระสังฆคุณสิบสี่,ผงวิชาแต่งคน,ผงนะเมตตา,ผงนะหน้าทอง,ผงนะมหาละลวย,ผงนะอกแตก,ผงนะมหาเสน่ห์,ผงไม้มะยมตายพราย,ผงไม้รักช้อนตายพราย,ผงไม้พญายอ,ผงพญาไม้กายู,ผงว่านดอกทอง,ว่านเสน่ห์จันทร์,ผงดินเจ็ดโป่ง เมื่อได้ผงต่างๆแล้วก็นำมาคลุกคลีด้วยน้ำมันนางตานีปั้นเป็นหุ่นจรเข้ตัวใหญ่ไว้ก่อนจะเสกทุกคืนวันเพ็ญ จนกระทั่งจระเข้เดินลงน้ำแหวกว่ายดุจมีชีวิตในน้ำคืนจันทร์เพ็ญได้ ท่านว่าเช่นนั้นจึงถือว่าสำเร็จพลีเอาหุ่นจระเข้นี้มาทำผงอุดจระเข้ที่หล่อไว้ได้ท่านว่าผงที่ได้นั้นจะมีอาถรรพ์มากไม่ต่างกับตัวพญากุมภีร์เลย ทั้งดีเด่นทางอยู่ยงคงกระพันกันเขี้ยวงาเป็นมหาอำนาจเมื่อได้ธาตุน้ำมาหนุนก็จะเป็นเสน่ห์เมตตาอยู่เย็นเป็นสุขใช้ได้ครอบคลุมทุกด้าน

    ท่านว่าปกติจระเข้ก็ให้คุณด้านโชคลาภอยู่แล้วแต่จระเข้ของท่านนั้นพิเศษกว่าปกติก็คือ..ทำให้คนที่เขามีความต้องการสูงเอาไปใช้ หากชีวิตเหมือนการเดิมพันต้องการชนะเพราะมีการแข่งขันในสายอาชีพสูงหรืออยากได้รับความร่วมมือจากคนอื่นต้องการความเมตตาจากบุคคลอื่นเช่นนี้ต้องใช้จระเข้วิชาของท่านเพราะท่านตั้งใจลงตะกรุดไม้กวาดพระอินทร์(เถรกวาด) ซึ่งมีอิทธิคุณกวาดเรียบกวาดได้ทุกอย่างตามแต่จะตั้งจิตบอกขอทวดจระเข้ จะกวาดเสน่ห์แก่คนทั่วไปหรือจะให้เก็บกวาดทางใดตั้งแต่ศัตรูผู้คิดร้ายหรือจะกวาดจะโกยทรัพย์สินโชคลาภเข้ากระเป๋าตน ให้แผ้วถางทางกวาดเก็บอุปสรรคเช่นนี้ย่อมใช้ได้หมด ท่านว่ามันขึ้นอยู่กับเราอธิษฐานเองนี่แหละว่าจะใช้ทำอะไรทางไหนและช่วยในเรื่องธุรกิจการค้าให้ได้ดีไปไหนมีแต่คนรักใคร่ไม่มีอดเป็นสง่าราศรีแก่ผู้พบเห็นก็ทำได้ จระเข้ของท่านลงมนต์เถรกวาดไว้ครบทุกตัวนอกจากโชคลาภแล้วคนใช้จะมีวาสนาเพศตรงข้ามค้ำชูเกื้อหนุนส่งเสริมหัวกะไดไม่แห้งเลย ***ถ้าเน้นเสน่ห์เอาไปใช้เป็นคู่ผูกไว้คู่กันก็จะได้คู่สมใจ

    ด้วยจระเข้นี้เป็นวิชาผูกหุ่นชนิดหนึ่ง ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านจะทำการเรียกอาการสามสิบสองเพื่อให้จระเข้นี้มีอาถรรพ์เสมือนมีชีวิตทุกตัวมีจิตวิญญาณคอยเรียกโชคลาภ..คุ้มครองอันตรายเมื่อพกติดตัวให้แคล้วคลาดจากเรื่องอุบัติเหตุต่างๆหรือเฝ้าคุ้มครองบ้านเรือนทรัพย์สิน ป้องกันภูติผีปีศาจและคุณไสยต่างๆได้เป็นอย่างดีท่านว่ายิ่งรวมเข้ากับผงคุณวิชาก็จะยิ่งแรงมากแม้ใครคิดร้ายก็จะมีอันเป็นไปต่างๆนาๆ ทั้งยังใช้เคล็ดคาดเอวเป็นมหารูดได้อีกด้วยเมื่อจะใช้กันตัวในยามทำศึกสงครามหรือต้องใช้ในด้านคงกระพันชาตรีก็ให้ไว้ด้านหน้า..เมื่อจะใช้ทางด้านมหานิยมเเละเป็นมหาอำนาจให้ชนเกรงขามก็ให้รูดไว้ด้านซ้าย..ถ้าจะเดินทางไปเพื่อแสวงหาโชคลาภทำการค้าขายก็ให้รูดไว้ด้านขวา พ่ออาจารย์ท่านว่าจระเข้ของฉันเทวดาท่านมาทำให้เป็นใหญ่กว่าจระเข้แลปีศาจทั้งหลาย มีกำลังตบะมากเปรียบกับชาละวันแล้วก็เหมือนจระเข้รุ่นทวดของมันนั่นทีเดียว เมื่อบูชาไปก็ให้นำเข้าบ้านตามปกติแค่อธิฐานบอกว่าในบ้านมีใครบ้าง..ชื่ออะไร..นามสกุลอะไร ให้จระเข้ได้รู้ทุกคน เขาจะได้คุ้มครองป้องกันภัยคนในบ้านไม่ให้เป็นอันตรายใดๆจากสิ่งไม่ดีต่างๆ หากไว้เฝ้าร้านเฝ้าบ้านเรือนโจรขโมยก็จะขึ้นบ้านไม่ได้ ทั้งด้วยอำนาจตบะของจระเข้ยังเป็นที่หวั่นเกรงของภูติผีปีศาจ เวลาเดินทางไปในที่แห่งใดไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางน้ำสรรพสัตว์ทั้งหลายจะยำเกรง ศัตรูหมู่มารจะเกรงขามตัวเราสามารถป้องกันเสนียดจัญไรถอดถอนเสน่ห์ยาแฝดต่างๆ จะไต่เต้าเจ้าสัวแสนทะนานทองลาภเต็มห้องทองเต็มไห ขุนนางใดมีไว้ดีนักแลจักให้คุณเป็นถึงท้าวพระยาพานทองทรัพย์สินสิ่งของเต็มวังอีกทั้งช้างม้าวัวควายนับได้เหลือหลาย

    นอกจากนี้ที่สำคัญที่สุดพ่ออาจารย์ท่านว่าจระเข้ของท่านยังเป็นวิชาแต่งคนด้วย ความแตกต่างของการพกเครื่องมงคลทั่วไปกับเครื่องมงคลที่ลงวิชาแต่งคนไว้นั้นมีช่องว่างอยู่สูงมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่งคนก็เหมือนแต่งตัวเราให้อาถรรพ์และวิชานั้นเกิดขึ้นกับเรา จะสังเกตุได้ง่ายๆว่าเวลาที่เราพกจระเข้นี้ ตัวเราจะมีกำลังวังชาอย่างน่าประหลาดใจไอ้โรคน้อยใหญ่เจ็บไข้ได้ป่วยแพ้อากาศอะไรต่างๆนาๆก็ไม่ค่อยจะมี จะถึกจะทนกว่าชาวบ้านอย่างน่าประหลาดรู้สึกว่าตัวเองมีพลังงานเยอะมากเพราะพลังชีวิตมันเอ่อล้นออกมา ไอ้ทีนี้อะไรที่คิดๆไว้มันก็จะเดินเข้ามาเอง โชคลาภก็เข้ามาอย่างน่าประหลาด ความปรารถนาก็ได้เติมเต็มอย่างน่าประหลาดเพราะวิชามันแต่งเราไว้หมดแล้วจากที่เราต้องไปใช้ไปพึ่งมันกลายเป็นว่าแค่เราจับจระเข้มันก็เข้ามาเป็นกำลังเป็นตบะเป็นฤทธิ์ให้กับเรา..มันแต่งตัวของเราให้เราเอง จะหันหน้าไปทางไหนทำอะไรแข่งกับใครก็กวาดเขาเรียบไล่กวาดเขาต้อนเขาไปซะหมด..จากที่เคยถูกต้อนก็จะกลายเป็นฝ่ายไล่ต้อนไม่รู้จักอับจนเลย


    ลงอาถรรพ์พญาชาละวัน
    หนนี้ท่านตั้งใจทำลงอาถรรพ์พญาชาละวันให้ชัดเจนแตกต่างไปจากรุ่นเก่าๆที่แค่แฝงเคล็ดเอาไว้ แต่หนนี้ทำขึ้นรูปเป็นพญาชาละวันเจ้าแห่งการล่า..เติมเต็มความปรารถนาทุกสิ่งไปเลยท่านว่านี่ยิ่งกว่ามหาโจรเพชรฆาตอีกนะเพราะมีตบะบารมีเหมือนเทวดา...พ่ออาจารย์ท่านขำมากเวลาพูด "จะเกิดอะไรขึ้นหากมีฤทธิ์เหมือนเทวดาแต่ขยันหาความสุขมาทับถมความปรารถนาของตัวเอง...ก็นั่นแหละพญาชาละวันของฉัน" ทำให้แบบเต็มรูปนาม เพื่อความสุขความปรารถนาแล้วแม้ผิดกฏวัฏจักร..ผิดธรรมชาติรึอะไรเขาก็ไม่สนใจ..ต้องจิตวิญญาณแบบนี้ "และแบบนี้เท่านั้น" ถึงจะเหมาะกับการล่าเอามาประเคนให้เราได้ทุกอย่างแบบไร้ข้อแม้ใดๆหากินได้ทั้งสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก..คือมีกินดุจราชาในทุกทิศทาง,มีกินรอบตัวกินได้ทุกสถานการณ์,กินได้ทุกพื้นที่เป็นอาถรรพ์ที่มีคุณในตัวสูงสุดแก้เคล็ดคนที่ทำมาหากินลำบากติดขัดกับวงจรชีวิตเดิมๆ..มีแต่โดนเขากิน

    - ด้วยรูปพญาชาละวันนั้น
    มีอำนาจสะกดจิตสะกดใจมนุษย์ให้ลุ่มหลงงุนงงได้..ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องหลงต้องงขนาดไหนถึงยินดีเอาจระเข้ทำผัว
    - ด้วยรูปพญาชาละวันนั้นมีอาถรรพ์หากหมายปองสิ่งใดต้องได้ทุกอย่าง..ทุกความปรารถนาเหยื่อมย่อมหนีไม่รอด
    - ด้วยรูปพญาชาละวันนั้นจะทำให้มนุษย์รอบด้านมีใจคิดสนับสนุนอุ้มชู..จะทำสิ่งใดก็ง่ายขึ้น
    - ด้วยรูปพญาชาละวันนั้นย่อมเป็นอาถรรพ์แห่งอำนาจเหนือกว่าสรรพชีวิตใด
    - ด้วยรูปพญาชาละวันนั้นย่อมเป็นเพชรฆาตใช้ไล่ล่าได้ทั้งหมด ...แม้นของรักของหวงที่ระวังรักษาอย่างแน่นหนาพญาชาละวันก็ยังฉกฉวยช่วงชิงมาได้โดยง่ายดุจไร้การป้องกัน
    - ด้วยรูปพญาชาละวันนั้นชนทั้งหลายย่อมคิดอ่านกันแก้อาถรรพ์แห่งพญากุมภีร์ไม่ได้..หากเราเล็งสิ่งใดแล้วต้องชิงมาได้ทั้งหมดโดยง่าย..ไม่เจ็บเนื้อเจ็บตัว

    ชีวิตคนเรานั้นเหนือฟ้ายังมีฟ้า แม้นที่สุดแห่งความมุ่งมาตรปรารถนาก็ยังมีสิ่งที่ต้องการทะยานอยากมากขึ้นไปอีก เพราะความสุขนั้นจะถมอย่างไรก็ไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักเต็มพญาชาละวันรุ่นนี้จึงใช้กดหัวผู้คนรอบด้านให้ยอมศิโรราบต่อเราทั้งยังพิฆาตปราบปรามศัตรูในทุกรูปแบบไม่ว่าจะมนุษย์,ยักษ์,มารหรืออสูรที่ไหนหากเป็นศัตรูโดนประหัตประหารทั้งสิ้น อุปมาดั่งจบสิ้นแบบไม่ทันตั้งตัวเพราะหากเป็นศัตรูเราแล้วพี่จระเข้เขาไม่เคยปราณีใครเลย..ไม่มีที่จะประนีประนอม..มีแต่ศัตรูต้องชอกช้ำระกำใจที่คิดผิดมาเป็นศัตรูกับเจ้านายพญาชาละวันที่ฝังผนึกเลือดแก้วกุมภี ตัวเจ้านายจะมีแต่ความสุขทางโลก "ด้วยนิสัยพญาชาละวัน..นักล่าความสุข" จะพลิกเกมส์กลโกงทางโลกให้เราได้ครบถ้วนทุกประการ..จะทำผลงานให้เราได้นอนเสวยสุขดุจพญากุมภีร์จ้าวบาดาลมีถ้ำทองปราสาทแก้วพร้อมมูล

    - จะเป็นดั่งเครื่องมงคลที่ใช้เปลี่ยนกลเกมชีวิตให้อยู่เหนือการควบคุม
    - จะเป็นดั่งเครื่องมงคลที่ใช้เปลี่ยนกลเกมชีวิตให้เราอยู่เหนือห่วงโซ่อาหาร
    - จะเป็นดั่งเครื่องมงคลที่ใช้เปลี่ยนกลเกมให้ฝักใฝ่ในความเจริญ
    - จะเป็นดั่งเครื่องมงคลที่ใช้เปลี่ยนกลเกมชีวิตให้กลายเป็นผู้ล่า
    - จะเป็นดั่งเครื่องมงคลที่ใช้เปลี่ยนกลเกมการวิวัฒน์พัฒนาการอาชีพของตน
    - จะเป็นดั่งเครื่องมงคลที่ใช้เปลี่ยนกลเกมให้อยู่รอดเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์
    - จะเป็นดั่งเครื่องมงคลที่ใช้เปลี่ยนกลเกมชีวิตเพื่อปิดจุดอ่อนเสริมจุดแข็งหนุนชะตาราศี
    - จะเป็นดั่งเครื่องมงคลที่ใช้เปลี่ยนกลเกมชีวิตที่บกพร่องให้สมบูรณ์แบบ
    - จะเป็นดั่งเครื่องมงคลที่ใช้เปลี่ยนกลเกมให้พ้นภัยจากสิ่งไม่คาดฝันในสิบทิศทั้งผอง
    - จะเป็นดั่งเครื่องมงคลที่ใช้เปลี่ยนกลเกมให้โต้กลับปัญหาปิดตายและความขัดสนยากแค้นได้ทุกรูปแบบ
    - จะเป็นดั่งเครื่องมงคลที่ใช้เปลี่ยนกลเกมตีกลับการกระทำและไสยเวทได้ตลอดเวลา

    เครื่องมงคลชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันสมบูรณ์จนเราไม่อาจจะคิดวัดได้ชนิดที่ว่าแทบไม่ต้องเสกเลย ท่านว่าฉันทำไว้นานแล้วตั้งแต่ออกจระเข้ผงแต่ธาตุขันธ์ผนึกเลือดแก้วกุมภีนี้ฉันยังไม่ได้นำออกมาเพราะฉันทำเป็นวิชาชาละวันขึ้นหน้าเลย ..มันเอาดี..เอาเด่น..เอาดัง..เอาได้ทุกอย่างเป็นจอมโจรเพชรฆาตที่รู้จักใช้ชีวิตให้มีความสุขและรู้จักเสวยสุขไม่สนใจกฏเกณฑ์แห่งเผ่าพันธุ์ เช่นนั้นผู้ที่ใช้เครื่องมงคลพลิกเกมชีวิตตัวนี้ก็เหมือนกันเขาจะมีความสุขที่ถูกเติมเต็มแบบข้ามวงจรไม่ถูกปฎิเสธโดยกฏธรรมชาติรวมไปถึงชาติกำเนิดและฐานะเดิม พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องรางตัวนี้มีธาตุกายสิทธิ์หล่อประสานเป็นพญาชาละวันเหมือนมีธาตุขันธ์ที่วิเศษรองรับอยู่แล้วพอเชิญผนึกแก้วฝังลงไป..ทีนี้มาเต็ม..มาครบทั้งชีวิต..จิตวิญญาณ..อำนาจตบะญาณ..บารมี ทุกอย่างมันพร้อมมูลหมดเพราะของวิเศษในกายสัตว์พิเศษบรรจุไว้มันจึงสมบูรณ์ด้วยตัวมันเองเกินกว่าที่มนุษย์จะสร้างจะเสกขึ้นมาได้ ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านว่าหากไม่มีผนึกเลือดจระเข้นี้ก็จะเป็นเพียงจระเข้อาคม แต่ตอนนี้มันกลับกันเพราะอาคมใดๆก็เสกมันไม่ได้ทำได้เพียงติดเขี้ยวเล็บเสริมความร้ายกาจเท่านั้น..เพราะกำลังแห่งตบะญาณการบำเพ็ญบารมีนี้ไม่มีสิ่งใดจะสร้างขึ้นมาทดแทนกันได้เลย..เมื่อมีบารมีแล้ว..จึงสงเคราะห์สิ่งใดก็ได้ด้วยบารมี เช่นนั้นนี่จึงเป็นเครื่องมงคลแห่งการสงเคราะห์อย่างแท้จริง

    คาถาบูชา
    โอมยะ โอมมิ โอมอิ โอมพระนางคงคาสุสะสะสิติกันตัง โอมกูจะปลุกพญากุมภาให้สะท้านลั่นพระธรณี ว่าพระนารายณ์อวตารเป็นพญากุมภีร์ ทรงศรศรีกำกับกายหวังจักปราบมารร้ายราวี โอมปลุก ปลุก ลุกแล้วอย่าไปอื่น ตื่นแล้วจงมารักษา เข้าคุ้มครองกายาทั่วสารพางกาย พุทธังสะระณังเมสิทธิ ธัมมังสะระณังเมสิทธิ สังฆังสะระณังเมสิทธิ พุทธังเอหิมาเรโส ธัมมังเอหิมาเรโส สังฆังเอหิมาเรโส พุทธังกุมภีโรโจรังคงคังปิติอิ ธัมมังกุมภีโรโจรังคงคังปิติอิ สังฆังกุมภีโรโจรังคงคังปิติอิ


    *** ผนึกเลือดแก้มกุมภีหรือจระเข้ตัวบรมครูรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้น้อยมากและท่านยังได้ทำเป็นตัวพญาชาละวันอันเล่นเล่ห์กลได้ฉกาจฤทธิ์เป็นที่สุด ท่านว่าเพราะจระเข้นี้มีกำลังมากและยังมีสมบัติมากดุจพญานาคทั้งมีเมืองแก้วปราสาทแก้วดุจเดียวกันพอลงกำกับกันกับผนึกแก้วและคุณวิชาท่านว่าจะเอาอะไรมันก็มีกำลังทำได้ทั้งสิ้น เพราะมันมีตบะบารมีจากการบำเพ็ญอย่างแท้จริงมากพอที่จะหักเอามาได้ทั้งหมด เครื่องมงคลชุดนี้ท่านทำไว้เก้าตัวหากแต่เก็บไว้เป็นจระเข้ครูใช้สอยอยู่ในพกในย่ามท่านคู่หนึ่งยามท่านเข้าป่าเข้าที่อันตรายต้องมีบริวารที่เก่งทั้งบนบกและในน้ำครอบฟ้าคลุมดิน..รายการนี้จึงมีให้บูชาไม่มาก รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น

    ร่วมทำบุญบูชา หมากพลิกเปลี่ยนเกมชีวิต"เพชรฆาตช่วงชิงฝันผนึกเลือดแก้วกุมภี"(ลัดขั้นตอนกินสิบทิศ) บูชา 4,000 บาท
    275934523-473508107806977-8539580909366845180-n.jpg 277469571-321233786659369-1598704936853536818-n.jpg
    276044370-752749335690167-8930873281925306401-n.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา (ดอกลองวิชา)มงคลแหทิพย์พระโพธิญาณ 136 ชาติมหาสัตว์อัศจรรย์

    ### ในดอกลองวิชานี้
    พ่ออาจารย์ท่านจะลงเพียงกลเลขยันต์ไม่ได้ประกอบชุดวิชาต่างๆ แต่ก็ใช้ได้ครอบคลุมทั้ง 136 ชาติเหมือนกันและทำไว้จำนวนน้อยมากๆ ใครทันนับว่าโชคดีครับ(ใครจะจองเผื่อใครก็แจ้งมาทีเดียวเลยนะครับ ชุดนี้ท่านว่าเผื่อคนอยากใช้ทำอาถรรพ์ฝังบ้านฝังเรือนฝังที่ดิน..หรือใช้โปรดคนรอบข้าง)

    "สาธุสาธุ สมเด็จหน่อพุทธางกูรบังเกิดได้ 136 ชาติหามีภัยแลโรคาพยาธิเบียดเบียน แม้ตัวอยู่หนใดเภทภัยก็เคลื่อนคลายหนีไกลคลาดคลา ไม่ต้องในกระแสกรรมอันใหญ่หลวงปรวนแปรเอาแน่เอานอนมิได้ จะบ่ายหน้าสู่ทิศทางใดกรรมเวรก็หลีกเร้น เจ้าไปหนใดฟ้าไม่ทำอันตรายดินไม่ให้โทษทั้งยังเป็นมหันตคุณรุนแรงหนักหนาด้วยบารมีอันสั่งสมมาเต็มแล้วของพระบรมพุทธเจ้านี้จะฉุดช่วยบรรเทาผู้ทุกข์ร้อนให้คลี่คลายจงดี "

    หากพูดถึงเคราะห์ร้าย..มีใครเล่าเกิดมาจะไม่มี
    มีหรือไม่ที่จะไม่ต้องทุกข์,โทษ,ทรมานใจด้วยประการใดๆเลย โดยเฉพาะความทุกข์ของพระมหาโพธิสัตว์จะต่างกับปุถุชนคนธรรมดามากนักเพราะนั่นคือการสั่งสมบารมีต้องผจญทุกข์หนักกว่าชนธรรมดาทั้งผองนับพันเท่ายิ่งยวดทุกชาติ ของเราที่เรียกว่าทุกข์แล้วหากเปรียบกับท่านคงไม่เท่าหนึ่งในหมื่น แต่ที่วิเศษสูงสุดคือเมื่อพระมหาสัตว์ทุกข์แล้ว..ต้องเคราะห์..ต้องกรรมแล้วกับหลุดรอดพ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์เช่นนี้จะมีซักกี่ชาติกันเชียว

    ด้วยเหตุที่ว่า
    เคราะห์ภัยความทุกข์ยากลำบากใดในโลกก็ไม่พ้นรึมากไปกว่าความทุกข์ที่พระมหาสัตว์ต้องเจอระหว่างสั่งสมพระบารมีเพื่อจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเป็นแน่แท้ องค์ปฐมท่านว่ากว่าจะบารมีเต็มนั้นต้องเจอทุกข์ภัยทุกชนิดทุกรูปแบบ..ในภพชาติการเวียนว่ายตายเกิดมากกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในมหาสมุทร เรียกว่าความทุกข์ยากลำบากทุกชนิดพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องประสบพบเจอและฝ่าฟันกันมาหมดแล้ว แต่จะมีซักกี่ชาติเล่าที่รอดพ้นวิกฤติหายนะต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้ผจญภัยสาหัสก็พ้นทุกข์ภัยถ้วนทุกประการนั้นได้ ในความเจ็บปวดทนทุกข์ทรมานสาหัสในชาติภพที่มากกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายนี้ก็ยังมีกรวดทรายซักหยิบมือหนึ่ง(เปรียบกับชาติภพที่น้อยที่สุดจากความเป็นอนันต์ไม่สามารถประมาณได้ของกรวดทรายในท้องสมุทรกลับมีเพียงหยิบมือหนึ่งเท่านั้น)ที่เคราะห์เข็ญเวรภัยไม่สามารถทำอะไรพระมหาสัตว์ระหว่างสะสมพระบารมีนั้นได้เลย

    ในปัจจุบันนั้นอยู่ในยุคที่เคราะห์ของคนชนกับเคราะห์ของโลกและเคราะห์ของบุคคลในสังคมแวดล้อมผลักดันกันให้เกิดโทษใหญ่หลวงอยู่เนืองๆคนที่ดวงไม่แข็งหรือทำบารมีมาน้อยจะลำบากกว่าคนอื่นเป็นเงาตามตัวเช่นนี้องค์ปฐมท่านจึงให้ทำตะกรุดเฉพาะทางที่ใช้กำลังบารมีในหมวดพระโพธิสัตว์ขึ้นมา
    - วิชานี้..
    ไม่ใช่ต้องหลังขดหลังแข็งรับเคราะห์หนักไม่จบสิ้นแบบพระโพธิสัตว์
    - วิชานี้..ไม่ใช่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนความทุกข์ใดๆเพื่อจะสั่งสมบารมี
    หากแต่เป็นวิชาที่เลือกเฉพาะชาติที่รอดพ้นคลาดแคล้วภัยเวรได้อย่างน่าอัศจรรย์ของมหาสัตว์มารวมกัน เรียกว่าเจอทุกข์ไม่เอามาเอาเฉพาะชาติที่หลุดรอดซ่อนเร้นเคราะห์กรรมสาหัสหนักหนาได้เอ่ยอ้างพระโพธิญาณเอาบารมีในชาติภพเหล่านั้นมาสร้างเป็นตะกรุดชุดพิเศษผูกค่ายกลตัวเลขเดินกลวิธีสำทับด้วยอักขระมหายันต์ ### อันเป็นวิชาเฉพาะทางของสมเด็จองค์ปฐม

    ซึ่งท่านให้ใช้พระชาติต่างๆที่รอดพ้นจากภัยพิบัติชนิดที่ว่าร้ายแรงที่สุดมาผูกกันไว้เป็นกลเลขกลยันต์เพื่อให้ผู้อาราธนาใช้เอาตัวรอดให้รอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวงไม่ว่าที่เกิดแต่ดวงก็ดี..เกิดแต่เคราะห์กรรมก็ดี..เกิดแต่เคราะห์ของโลกก็ดี..เกิดแต่เคราะห์จากบุคคลแวดล้อมก็ดี..โดยรวมพระบารมีของมหาโพธิสัตว์ที่หลุดรอดเคราะห์กรรมไว้ดั่งทรายหยิบมือจากภพชาติที่มากดุจเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องสมุทร อันประกอบด้วย
    - ชาติแห่งนกกระเรียน 16 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาหงสา 9 ชาติ
    - ชาติแห่งนกพิราบ 6 ชาติ
    - ชาติแห่งนกแขกเต้า 3 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาการะเวก 5 ชาติ
    - ชาติแห่งพญานกสาริกา 7 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาไก่เถื่อน 12 ชาติ
    - ชาติแห่งกินนร 4 ชาติ
    - ชาติแห่งจามรี 15 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาวานรเผือก 10 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาหัตถีนาคา(มีหัวเป็นช้างมีตัวเป็นพญานาค) 11 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาโคอุสุภราช 14 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาม้าสินธพอัสดร 1 ชาติ
    - ชาติแห่งมหิงสาพญาควายป่า 8 ชาติ
    - ชาติแห่งมยุราชนกยูงคำ 2 ชาติ
    - ชาติแห่งพญาหมูป่าเขี้ยวเพชร 13 ชาติ


    อันพระชาติที่มากดุจเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องพระสมุทรนี้มีเพียง 136 ชาติเท่านั้นที่รอดพ้นภัยอันตรายไม่ต้องเสวยทุกข์เวทนาใดๆได้ดุจมีปาฏิหาริย์ เช่นนั้นจึงเปรียบได้ดุจภพชาติแทนด้วยกรวดทรายเพียงหยิบมือเดียวที่เป็นอยู่สุขสบายไม่ต้องทุกข์โทษภัยใดๆ แม้มีภัยใดๆเกิดขึ้นก็ไม่สามารถล่วงเกินกล้ำกรายได้..ทีนี้จะเกิดอะไรขึ้นหากนำภพชาติทั้งหมดที่หลุดรอดเสวยสุขเหล่านี้มาผนวกผูกขึ้นเป็นพระยันต์ พ่ออาจารย์ท่านว่าหากรวบหมด 136 ชาติ นี่มันเกินความสุขสบายทั้งหมดนะ..และมันเกินกว่าคำว่ารอดไปไกล เรียกว่าหากเอ่ยอ้างบารมีเพียงภพชาติเดียวคนที่เจอปัญหาอุปสรรคหนักๆยังคลี่คลายโดยง่าย แต่หากขมวดมารวมทีเดียว 136 ชาติเลยมันคือสุดยอดบารมีแห่งการเอาตัวรอดให้รอดพ้นในทุกๆปัญหา..ทุกๆห้วงวิกฤติ
    - จะไม่มี..เคราะห์ภัยใดๆกระทำอันตรายต่อเราได้
    - จะไม่มี..หมู่มารศัตรูมาคอยรบกวนให้เคืองหูเคืองตา
    - จะไม่มี..ความทุกข์ความสูญเสียเกิดขึ้นระหว่างเสวยชาติภพ
    - จะไม่มี..ภัยพิบัติใดล่วงเกินคร่าชีวิตเราเลย
    - จะไม่มี..เหตุให้สูญเสียทรัพย์และสิ่งอันเป้นที่รัก
    - จะไม่มี..ชีวิตที่ร้อนรุ่มดุจตกขุมไฟนรกโลกันต์
    - จะไม่มี..การรอคอยบารมีจากผู้ใดมาสงเคราะห์(เพราะถึงพร้อมแล้วด้วยบารมีอันหลุดรอดออกจากลิขิตฟ้า)
    - จะไม่มี..หนทางที่นำไปสู่ความพินาศฉิบหาย


    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำมาก ท่านบอกว่าองค์ปฐมให้ความสำคัญมากจริงๆ เธออย่าลืมนะว่าการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์เนี่ยทุกๆชาติคือใช้กรรม..คือเจอทุกข์..เจอภัยแบบหนักหน่วงกว่าคนปกติ ไม่ว่าจะเกิดกี่ชาติเกิดมาดีแค่ไหนมีฐานะอย่างไรเคราะห์ภัยนี่ไม่เว้นเลย หนักหนาสาหัสกว่าคนธรรมดามากๆในทุกภพชาติกว่าจะได้มาตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ทีนี้พระชาติที่หลุดที่รอดไม่พบเจอเคราะห์กรรมล่ะนี่มันคือการหลุดรอดเคราะห์กรรมในฐานะพระมหาโพธิสัตว์ซึ่งแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลยสำหรับผู้เกิดมาเพื่อชำระกรรมเช่นนี้
    - เรียกว่ารอดจากกฏแห่งกรรม
    - รอดจากดวงตาพิพากษาของโลกมนุษย์
    - หลุดรอดไปจากข่ายแหความทุกข์ทรมานที่ครอบคลุมสัตว์น้อยใหญ่ไว้


    ไอ้ที่รอดนี่ไม่ใช่รอดเพียงชาติเดียว หากแต่ทรงรอดถึง 136 ชาติ คิดดูอาจจะว่ามากแต่เทียบกับทรายในท้องมหาสมุทรยังไม่ได้เท่าหยิบมือ
    - นั่นแหละมันมีอาถรรพ์แฝงถึงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้..ก็เป็นไปแล้ว
    - เรื่องที่ไม่อาจรอดกฏแห่งกรรม..ก็เกิดขึ้นแล้ว
    - เรื่องที่ขัดธรรมเนียมการรับทุกข์ของพระมหาสัตว์..ก็เป็นไปดังนี้แล้ว

    พอขมวดรวมกันเป็นอาถรรพ์วิชาเธอจึงรอดจากอำนาจกรรมซึ่งมองไม่เห็น หลุดรอดจากแหฟ้าตาข่ายดินที่ปิดกั้นสรรพสัตว์ทั้งปวง

    เรื่องแปลกประหลาดของคนใช้ตะกรุด
    1. เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็จักเป็นไปได้
    2. เรื่องที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ก็จะเกิดขึ้น
    3. จะไม่เกี่ยวข้องในเวรกรรมของผู้ใด
    4. จะไม่ทนทุกข์ในเคราะห์ของตนเอง
    5. จะไม่ถูกเคราะห์กรรมของโลกเล่นงาน
    6. จะเป็นชาติที่หลุดรอดจากเรื่องเลวร้ายทั้งหมด
    7. จะเป็นชาติที่กฏแห่งคำสาป,บาป,กรรมหลีกเร้นหนีไกล
    8. จะเป็นชาติที่ปลอดภัยจากศัตรูหมู่มารทั้งผอง
    9. จะเป็นชาติที่ได้เสวยความสุขเต็มที่
    10. จะเป็นชาติที่ได้สั่งสมบุญบารมีต่อยอดปัจจัยไปเกิดในสุขคติภพอย่างเต็มที่


    โดยรวมอาถรรพ์ 136 พระชาติพระมหาสัตว์เหล่านี้เธอจะรอดพ้นชีวิตอันน่าสมเพชได้อย่างอัศจรรย์ใจโดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่ชาติเดียวหากเอ่ยอ้างบารมีแล้วเหตุการณ์วิกฤติในชีวิตยังคลี่คลายได้ แต่นี่ควานหามาจากภพชาติอันประมาณมิได้รวมได้ 136 ชาติ มาถักทอเป็นแห่ทิพย์พระโพธิญาณปกป้องคุ้มครองตัวให้หลุดหรอดจากเคราห์ะกรรม..พ้นภัยจากอำนาจแห่งดวงดาว...รอดพ้นจากแหฟ้าตาข่ายดิน..หลีกเร้นนัยน์ตาโลกอันไม่ปราณีหมู่สัตว์ทั้งผอง

    ตะกรุดนี้ท่านตั้งใจทำไว้เพื่อให้คนใช้ได้สนุกสนานกับชีวิตให้เต็มที่ เกิดมาเป็นคนทั้งทีต้องมีชีวิตเพื่อก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดเพื่อแสวงหาความเจริญไม่ถูกเตะหน่วงด้วยกรรมเวรปัญหาอุปสรรคติดขัดใดๆไปตลอดชีวิต ท่านว่าเอาให้สนุกสุดเหวี่ยงกันไปเลยอยากทำอะไรก็ทำแต่อย่าเผลอไปทำเรื่องเลวๆก็พอ

    *** เคล็ดการใช้ตะกรุด
    พึงจำไว้เลยวิธีการใช้นั้นง่ายๆจริงๆองค์ปฐมท่านว่าคาถาใดๆไม่จำเป็นเลย เพียงนึกถึงเราก็ใช้ได้เลย นั่นคือการนึกถึงพ่อพระพุทธเวลาจะใช้ก็ให้นึกถึงพ่อพระพุทโธ..นึกถึงหน้าพระพุทธเจ้าอยู่ตลอด..ตราบใดที่ตะกรุดห้อยคอเธอจะดิ่งซาบซ่านมีความสุขอยู่ด้วยพุทธคุณ เวลาห้อยเนี่ยจะเกิดความรู้สึกแปลกๆคือหลับตาก็มีภาพพระพุทธลอยขึ้นมาตลอดเวลาเช่นนี้..มันเป็นพุทธานุสติข่มกำราบจิตชั่วและความเสื่อมทรามทั้งปวง ก็ขนาดที่ว่าหน้าพระลอยอยู่ตรงหน้าแล้วใครจะมีอารมณ์ไปก่อกรรมทำชั่วมีความคิดผิดบาปได้อีก พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วยังทำชั่วได้ไม่ละอายพระก็ถือว่าเกินเยียวยาไปแล้ว

    นี่เป็นวิธีการใช้ง่ายๆที่ไม่มีสิ่งใดง่ายไปกว่านี้ คนใช้สบายที่สุดแล้วเพราะมันคลาดแคล้วไปหมดจากความทุกข์พุ่งใส่ความสุขสนุกกับการมีชีวิต..การได้เกิดมาเพื่อสร้างบารมี เรียกว่ายิ่งทำดียิ่งภาวนายิ่งสร้างบารมีจะรู้สึกสนุกและมีความสุขอยากทำเพิ่มอีก..อยากมีเพิ่มอีก..อยากได้เพิ่มอีกไม่รู้จักจบสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าสนุกแบบนี้มันดีนะเพราะจะได้มีทุนสะสมในภพชาติต่อไปดีกว่ามานั่งเสียใจที่เกิดมาทั้งทีไม่มีเวลาไม่มีโอกาสได้ทำ

    ตะกรุดชุดนี้ลงด้วยแผ่นธาตุกายสิทธิ์ที่พ่ออาจารย์ท่านลงถมเอาไว้อย่างยากลำบากท่านว่าวิชานี้ของสมเด็จองค์ปฐมไม่ใช่เพียงใช่ซ่อนเร้น..เลือนหายเอาตัวรอดจากการใช้ชีวิตที่ยากลำบากเท่านั้น หากแต่คนพกจะได้อานิสงส์สำคัญให้มีชีวิตร่มเย็นเป็นสุขไปทั่วตราบใดที่หายใจอยู่จะไม่ทุกข์ร้อนเลย..แคล้วคลาดจากสารพันปัญหาได้อย่างน่าอัศจรรย์..ผลกรรมจากภพชาติที่เคยก่อไว้ที่ร้ายแรงจะสงบไปด้วยคุณแห่งพระชาติต่างๆของมหาสัตว์ทั้ง 136 พระชาติอันได้สำเร็จโพธิญาณไปแล้วนั้นจะดลให้เรารอดพ้นจากความเดือดร้อนทั้งปวงได้ด้วยพระบารมี อันเป็นบารมีแบบเฉพาะเจาะจง

    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องเจอปัญหาถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องตกระกำลำบากถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องอดทนไว้ด้วยขันติอย่างยิ่งยวดถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องใช้ความพยายามแรงกล้าฝ่าฟันถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องเสียสละตัวเองเพื่อความสบายคนอื่นถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องรอบุญคอยกุศลหนุนส่งถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องขอความเมตตาจากผู้ใดมาช่วยถึงรอด
    - ไม่ใช่บารมีที่ต้องผจญด้วยศัตรูหมู่มารถึงรอด

    ..ร้อยแปดทางรอดท่านว่าลำบากไปแล้ว 99.99% ถึงจะรอดบางคนก็สภาพย่ำแย่เหมือนกันที่รอดมาไม่เจ็บก็สาหัสทั้งนั้น เช่นนี้ฉันจึงกล้ากล่าวได้ว่า "ใครใคร่จะหาความสุขกาย,สบายใจใส่ตัวก็ดี รึใครใคร่จะหลีกเร้นให้แคล้วคลาดจากศัตรูทั้งหลายก็ดี,ใครใคร่จะมีชีวิตรอดพ้นไปแบบไม่ต้องสูญเสียสิ่งใดก็ดี..หากรู้ตัวแล้วก็ช่วยขวนขวายกันซักนิด..หาตะกรุดชุดนี้มาใช้ให้ทันเถิด..ช้าหนึ่งวันก็ทุกข์สั่งสมเพิ่มขึ้นขมวดปมแน่นขึ้นไปอีกวัน"

    คาถาบูชา(ไม่จำเป็นต้องท่องหากนึกถึงหน้าพ่อพระพุทธ)
    อิติปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติโพธิมะนุปปัตโต อิติปิโส จะเตนะโม


    *** รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเครื่องมงคลที่มีความสำคัญมาก "เพราะมันช่วยให้หลุดรอดบ่วงชาติ..เวร" ผู้มีปัญญาและเข้าใจความหมายคำนี้ได้จะเกิดมีความสุขสบายถึงสุดท้ายคือพระนิพพาน รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น

    ร่วมทำบุญบูชา (ดอกลองวิชา)มงคลแหทิพย์พระโพธิญาณ 136 ชาติมหาสัตว์อัศจรรย์ บูชา 900 บาท
    276043317-421627186388284-2681640775115387557-n.jpg 276157525-357821972950202-7083461452736584434-n.jpg
    276017990-3243152955968111-2665449074318014024-n.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,076
    ค่าพลัง:
    +16,619

แชร์หน้านี้

Loading...