ร่วมทำบุญบูชา มงคลตัดผ่านสวรรยามหากุมารต้นไฟอมฤต(สลายจุดชะลอชะตาสี่มหาฤทธิ์พญา) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ร่วมทำบุญบูชา อิ่นพยนต์แฝดหุ่นปั้นรักหมดใจกบตายคารู(สิทธินารี)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนนั้นเมื่อพิจารณาเหตุปัจจัยต่างๆ ดูความเป็นไปที่จะเกิดในอนาคต ท่านว่า เรารู้ว่าต่อไปความรักของคนหนุ่มสาวมันจะเป็นเรื่องฉาบฉวยและยิ่งนานวันไปมันจะยิ่งเสื่อมถอยลงอย่างมาก ตอนนั้นก็เลยคิดจะทำวิชาเอกของครู นั่นคือสิทธินารีขึ้นมาควบคู่กับการผูกพยนต์ จะเรียกพยนต์ตัวครูสิทธินารีก็ได้ ท่านว่าที่คิดจะทำตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นเสน่ห์ลุ่มหลงเลยเถิดอะไรมาก คิดแค่ว่าอยากทำไว้ซักครั้งและตั้งใจจะย่อยแท่งยาแฝดและมวลสารแรงๆต่างๆที่เก็บไว้ด้วย หุ่นปั้นรักปักใจนี้คือหุ่นที่ท่านปั้นมือขึ้นมา เพื่อใช้เรื่องเมตตา กรุณา เสน่หา ความรักท่านว่าคนส่วนใหญ่มักมีปัญหากับความรักที่ฉาบฉวยไม่เจอรักดีๆชนิดที่เรียกว่ารักแท้จริง ปักใจรักจนตัวตาย ท่านว่าความรักที่บริสุทธิ์เช่นนี้หายาก ท่านจึงทำหุ่นขึ้นมาเพื่อสงเคราะห์คนเค้า


    แต่พอทำปุ๊ป ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันดีเกินหน้าไปหน่อย เพราะคนเค้าเอาไปเรียกผัวเรียกเมียกันได้ บางพวกก็พกไปได้เมียชาวบ้านมีแต่เรื่องปวดหัวเต็มไปหมด ท่านเห็นว่ายิ่งใช้ยิ่งผิดครูมากขึ้นทุกที ท่านจึงอธิษฐานให้พยนต์ที่คนเอาไปใช้ผิดวิธีนั้นให้ตัวหุ่นแตกทำลายตัวของมันเองไป และนำพยนต์ที่เหลือเก็บเอาไว้ แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าคนที่รู้คุณแล้วใช้เป็นจริงๆ พยนต์นี่เป็นอะไรที่ลึกซึ้งมาก ลึกซึ้งกว่าความสนุกทางโลกีย์วิสัยอย่างแท้จริง


    พยนต์ปั้นรักปักใจหรือหุ่นสิทธินารีนั้น พ่ออาจารย์ท่านสร้างหุ่นนี้จากยาแฝด ยาอาถรรพ์หลายชนิดที่หาตัวยาและทำยาก นอกจากนี้แกนตะกรุดท่านยังลงด้วยมนต์พระเจ้าข้ามโลกไว้ด้วย ท่านว่าท่านปั้นให้เป็นหุ่นคู่มองดีๆก็เมือนอิ้นคู่ แต่ท่านจะเรียกว่าตาอินทร์กับยายจันทร์ ซึ่งตัวหุ่นนั้นจะประกอบไปด้วย
    - ผงเสน่ห์ยาแฝดตำรับลับถอดถอนไม่ได้
    - ผงเสน่ห์ยาแฝดหงส์ร่อนมังกรรำ
    - ผงยาแฝดพม่ายาแดงมหาปิยะสิทธิ
    - ยาเสน่ห์มัดจิต
    - ผงมหาเทพกามเสพสม

    นอกจากนั้นท่านยังใช้ผงยาและผงวิเศษอีกมากที่มีขั้นตอนสร้างยุ่งยากหลายชนิด ได้แก่ ยาสุระสะตี๋ ยามิ่นโย่ ผงยากัดจี๋ ยาเสต่อ ผงปถมังคำ ผงนางอกแตก ผงอางปถมังคำ ยามะหันพอง ยาเสน่ห์จูงใจ ผงอางอิ่นหน่อง ยามหาหลง ผงยาแฝดอะนะอะจุน ผงมธุสาลิกา ผงอะตถบุบผา ยามหาล่ำสาย ยาปิยะสิทธิ ยาลาภะสิทธิ ยากามตัณหา ยาอิสาสะยะ ยาตาวะติงสา ผงสาลิกาคาบเหยื่อ ผงวิเศษเหล่านี้แต่ละชนิดพ่ออาจารย์ท่านว่าล้วนแต่สร้างได้ยากยิ่ง บางอย่างก็เป็นของที่ตกทอดจากครูบาอาจารย์ซึ่งประกอบด้วยพลังวิชาและพลังจิตที่รุนแรง แต่ละอย่างก็มีคุณเป็นอนันต์ ใช้ทางเสน่ห์พูดคุยมหาละลวยก็ได้ ใช้ทางมัวเมาลุ่มหลงก็ได้ ช่วยให้จิตคนเกิดเมตตาเราพูดตีสนิทง่ายก็ได้ ให้คนเห็นติดตาตรึงใจอยากพบหน้าเราตลอดก็ได้ ให้เพศที่ปรารถนานึกถึงเราเสมอก็ได้ ใช้ทางเจ้าชู้ร่วมรักก็ได้ ผูกมัดจิตใจให้หลงใหลก็ได้ ให้ความโกรธหายสิ้นก็ได้ เปลี่ยนจิตใจให้คนชอบอยากรู้จักก็ได้ ให้คนพึงใจไม่อยากอยู่ห่างเราก็ได้ ให้คนที่ไปแล้วต้องกลับมาอีกก็ได้ ใช้ให้สมปรารถนาให้รวยเจริญในทรัพย์สินก็ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นปั้นรักปักใจนี่สร้างยากมาก ไม่ลำพังมีแค่ผงยาที่ทรงอานุภาพทั้งหลายนึกจะปั้นก็ปั้นได้เลย สมัยก่อนนั้นท่านทำอะไรก็จะจริงจังอย่างมากโดยหมั่นทำอยู่อย่างนั้นจนสำเร็จ ท่านว่าต้องหามวลสารเสียก่อนซึ่งเปิดเผยไม่ได้มีทั้งผงลูกสวาท ผงไม้ไก่กุก ผงไม้แหย่แย้ ผงลำโพงกาสลัก ที่เอามาลงวิชาและป่นไว้ ไคลพระเจดีย์ ไคลท้องเรือ และสิ่งอันเป็นความลับอีกมากมาย ได้แก่ผงกาบตายคารูเช่นนี้ ท่านว่าวลีก็เป็นความนัยน์แฝงอยู่แล้วว่าตายคารูคืออะไร ท่านนำผงทั้งหมดมาปั้นหุ่นตาอินทร์กับยายจันทร์ และเพียรเสกจนหุ่นเคลื่อนเข้าหากัน สุดท้ายมาบรรจบกอดรัดกัน ท่านจึงพลีหุ่นนั้นชุบด้วยเพลิงพระเวทย์ สำเร็จเป็นผงธาตุตั้งต้นตาอินทร์กับยายจันทร์ ก่อนที่จะนำมาผสมผงยาอันมีอานุภาพต่างๆค่อยๆปั้นขึ้นรูปเป็นหุ่นพยนต์แฝดสิทธินารี

    ด้วยท่านนั่งปั้นผูกขึ้นมาเป็นหุ่นเสน่ห์ทีละตัวๆ โดยท่านว่าค่อยๆทำไปจนมวลสารหมดก็ได้ไม่มาก เพราะนั่งปั้นกับมือทุกตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นนี้จริงๆแล้วท่านลงวิชาไว้หลายสูตร ไม่ใช่มีเฉพาะเสน่ห์ยาแฝดตำรับลับที่ไม่มีวันแก้หรือถอดถอนได้เท่านั้น ยังมีของสำคัญอื่นๆอีก ท่านว่ามีอีกหลายอย่างอยู่ในหุ่นนี้แม้กระทั่งวิชาสายพรหม พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าหุ่นนี้เป็นหุ่นที่ท่านลงวิชาไว้หลายชนิด ไม่ใช่แต่เพียงเสน่ห์ แต่ยังลงประจุขาด ไล่เสนียด คัดถอน ถอนของ กันสิ่งไม่ดีต่างๆในร่างกาย หนุนจักยกจักรให้หนุนดวงยกดวง ท่านว่าสมัยนั้นคิดแต่จะทำพยนต์ แต่พยนต์ของเรานี่มันแปลก เพราะตอนนั้นเรามีวิชามีความรู้อะไรเราปล่อยลงไปหมด เรียกง่ายๆคือตั้งใจจะให้พยนต์นี้มันเก่ง มันไม่เป็นสองรองใคร ต้องสู้เขาได้ ต้องดีทุกอย่าง ต้องรู้ทุกเรื่อง เรียกว่าใช้งานได้ไม่อายใครเช่นนั้น


    และนอกจากนี้หุ่นตาอินทร์ยายจันทร์นั้นท่านก็มนต์เสกให้ด้วยให้เป็นหุ่นที่มีสำนึกพิเศษ นั่นคือใช้รับกรรมรับเคราะห์แทนตัวผู้บูชา ใช้ดูดโรคเวรโรคกรรม ระงับกรรมเก่า ชะลอกรรมที่ให้ผลรุนแรงให้บรรเทาอยู่ในสภาพที่เรามีความสามารถแก้ไขและผ่านออกไปได้นอกจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังลงวิชาพระเจ้าข้ามโลกไว้ในตะกรุดรวมกับชุดวิชาเมตตาจิตบรมพรหมา ท่านว่าวิชาทั้งสองที่ลงเป็นแกนไว้บรรจุสีผึ้งพรหมนิมิตนี่สำคัญมาก

    - พระเจ้าข้ามโลก คือข้ามปัญหา ข้ามความทุกข์ สิ่งกีดขวางทุกสรรพสิ่ง ข้ามกองกิเลศ ถึงแล้วซึ่งเอกันตบรมสุข เป็นที่สุดแห่งความคาดหวังและความสำเร็จตลอดจนเกียรติยศที่ยิ่งใหย่ พ่ออาจารย์ท่านว่าหากข้ามได้ก็พ้นแล้วจากทุกข์ทั้งมวล ท่านลงไว้เพื่อให้คนใช้ล่วงทุกข์ นิราศทุกข์นั่นเอง
    - เมตตาจิตบรมพรหมา สายเมตตาชั้นเอกที่พ่ออาจารย์สืบสานตำนานครูด้วยหัวใจเสน่หาหน้าพรหม พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เอาจริงๆก็ไม่ได้อยากทำ แต่เพราะจะทำพยนต์แฝดก็เลยตั้งใจจะลงยันต์ครูเสน่ห์ใหญ่เอาไว้เลย ท่านว่าลำพังคนจะรู้กันเพียงพรหมนั้นประกอบด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา อุเปกขา แต่ความจริงนั้นมหาพรหมเป็นดวงชีวิตที่มีความงดงามเป็นพิเศษเหนือเทวราชและสัตว์จตุบททวิบาทใด มีความงามจับตามหาภพน้อยใหญ่ดุจวรกายของสมเด็จพระศาสดา วิชาเสน่หาหน้าพรหมนี้จึงเป็นที่สุด เป็นวิชาของครูใหญ่แต่ท่านเอามาเรียกให้ดูไพเราะว่าเมตตาจิตบรมพรหมาเท่านั้น


    โดยในตะกรุดเอกซึ่งใช้เป็นแกนนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตานำสีผึ้งพรหมนิมิตบรรจุไว้ด้วย

    สีผึ้งพรหมนิมิต
    " พ่ออาจารย์ท่านว่ายอดสีผึ้งนี้สำเร็จด้วยองค์บรมพรหมสหัมบดี และที่สำคัญเป็นธาตุพิเศษที่เกิดขึ้นเองในโลกที่ท่านนำมาผสมมวลสารสีผึ้งของครูยุคโบราณต่างๆที่หาได้ในสมัยนั้น ทั้งสีผึ้งพ่อทาบ พ่อทิม พ่อเที่ยง พ่อกวย ปู่ศุข พ่อเงิน พ่อพรหม พ่อวัง พยองคำ และอาจารย์หนานต่างๆรวมถึงครูยาครูขี้ผึ้งสายพม่าและไทใหญ่ของท่านด้วย พ่ออาจารย์ว่ากว่าจะสำเร็จเป็นสีผึ้งพรหมนิมิตนี่ยากที่สุด องค์บรมพรหมท่านแจ้งให้หามวลสารอะไรก็ต้องไปหา อยู่ในป่าตรงไหนก็ต้องไป บางทีที่ว่าหาให้เจอก็ไม่ใช่ง่ายแล้วแต่พอเจอแล้วกลับได้ยากกว่าก็มี ไปถึงต้องนั่งเฝ้าเทียวไปเทียวมา รอจนมันสุกงอมพร้อมจะพลีได้จริงๆถึงจะเอาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าความยุ่งยากมันมีมาก ของแบบนี้ถ้าชีวิตเลือกได้ก็ไม่ขอทำอีกเพราะมันเหนื่อยเป็นคนธรรมดาคงท้อ เพราะจะกวนสีผึ้งนิดเดียวแต่ต้องใช้ความเพียรนับสิบปีใครๆเขาคงไม่ทำกัน ท่านว่าทำครั้งเดียวพอ ....สีผึ้งพรหมนิมิตนี้ท่านว่าเป็นของสูงมาก เป็นของพรหม ไม่ใช่เอามาให้ป้ายให้สีปาก แต่ท่านว่าเอามาให้พก ครูบรมพรหมท่านว่าแค่ก้อนเท่าเข็มหมุดก็ใช้คุ้มตัวได้ตลอดชีวิต ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ที่สำคัญเป็นมหาเมตตาและมหากรุณาแก่สรรพชีวิตทุกภพทุกมิติอย่างถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะให้พูดกันจริงๆสายวิชาที่ว่าแรงเอาตรงๆเลยแรงจนน้ำตาตก แรงจนเลือดในอกยังยกให้ แรงแบบที่เราเข้าใจกันว่าแรงสุดๆแล้ว ก็ยังแรงไม่เท่าครึ่งในสายเมตตาของท้าวมหาพรหม เพราะมันพ้นโลกเหนือโลกจนยากที่จะหาเหตุผลมาทำความเข้าใจ ท่านว่าท่านบอกได้เท่านี้ นอกจากนี้สีผึ้งพรหมนิมิตนอกจากเป็นเมตตามหาเสน่ห์อย่างถึงที่สุดแล้ว ยังเป็นยอดกว่าวิชาพรหมใดๆ ทั้งนะหน้าพรหม พรหมเบิกฟ้า พรหมลิขิต พรหมแปลงรูปต่างๆด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งพรหมนิมิตนี้ใช้ได้ตรงตัวตามชื่อเลย คุณวิเศษของท้าวมหาพรหมที่เหนือกว่าเทพเจ้าใดๆทั้งหมดคืออำนาจการสรรค์สร้างสรรพสิ่งที่ลึกซึ้งและยิ่งใหญ่ พรหมนิมิตหรือพรหมเนรมิตคือสิ่งนี้ กล่าวง่ายๆคือทุกอย่างเกิดขึ้นได้และเป็นไปตามที่ใจเราต้องต้องการ ต้องเป็นไปตามที่ใจเราอยากให้เป็น เที่ยงแท้แน่นอนด้วยพรหมปกาศิตมั่นคงดั่งเหล็กเพชรลิขิตแผ่นผา พ่ออาจารย์ท่านจึงกล่าวเสมอๆว่า เอาจริงๆนะ สีผึ้งนี้ความจริงมันอันตรายที่สุดในโลกเลย เพราะใจคนมันไม่เท่ากันบัวยังมีสี่เหล่านับภาษาอะไรกับใจมนุษย์ อยู่กับคนดีก็ดีไป อยู่กับคนไม่ดีตรงนี้จะยุ่ง เพราะเป็นบารมีท้าวมหาพรหมที่แผ่มามีแต่เมตตาและกรุณาซึ่งปราศจากญาณอุเบกขาข่มไว้ด้วยอานุภาพการสร้างสรรค์มหาจักรวาลและโลกธาตุทั้งหลาย ด้วยอานุภาพแห่งพระผู้สร้างขึ้นให้เกิดให้ปรากฏได้ทุกสรรพสิ่ง ท่านว่ามันอันตรายก็เพราะอานุภาพนี้ พูดง่ายๆคือท่านไม่เคยนำออกมาใช้หรือใส่ผสมอะไรเลยเพราะมันอันตราย "

    ในภายหลังพ่ออาจารย์ท่านนำพยนต์ไปเสกตามกลวิธีลี้ลับต่างๆหลายวาระทั้งกลางแสงพระอาทิตย์ เสกกลางแสงจันทร์ยามค่ำคืน ท่านว่าตอนเสกพยนต์นี้ก็มีเหตุน่าอัศจรรอย์อยู่ในที แม้แต่นกบนฟ้าก็ยังลงมาโฉบนำไปเสียตนหนึ่ง ท่านวาเอาว่าสัตว์เดรัจฉานมันยังรู้ว่านี่คือของวิเศษ สิ่งพิเศษปรากฏขึ้นแล้วในโลก ปรากฏแก่ตาโลก มันจึงนำพาไปโดยที่นกนั้นท่านว่าพอเราเพ่งดูก็รู้ว่าเป็นพวกเพชรพญาธรเขาแปลงมา


    ที่สำคัญที่สุดนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าจะเล่นทางเสน่ห์อย่างเดียว ชีวิตคนมันจะตกเอา มันจะเจริญยาก ท่านจึงเมตตาลงตะกรุดเงินด้วย
    วิชามหาเศรษฐีทั้งแปด ขอบารมีมหาเศรษฐียุคพุทธกาลทั้งแปดท่านที่เป็นอริยสาวก มาเป็นที่พึ่งปักลงไปในสีผึ้งพรหมนิมิต ท่านว่ายุคสมัยมันเปลี่ยน สมัยนี้มีเงินก็มีทุกอย่าง มีเงินแล้วอยากมีอะไรเดี๋ยวมันก็ตามมาเอง พ่ออาจารย์ท่านให้เหตุผลที่ท่านลงตะกรุดเงินปักไว้ในสีผึ้งพรหมนิมิตในภายหลังนี้ว่า หุ่นพยนต์ของท่านนั้นมีสีผึ้งพรหมนิมิตอยู่ คุณวิชาทั้งสองจะได้หนุนนำส่งเสริมกัน นิมิตให้เป็นเศรษฐี นิมิตให้เป็นมหาคฤหบดีมีความสมบูรณ์ถึงพร้อมด้วยโภคสมบัติและธนสารสมบัติทั้งปวง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นปั้นรักปักใจนี้ถ้าคนใช้เป็น ใช้ทำมาหากินไม่ได้ฝักใฝ่กามคุณมากนักจะได้ดี ท่านว่าท่านรู้ว่าเรื่องแบบนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาโลก แต่คนใช้ก็ไม่ต้องถึงกับไปฝักใฝ่มันซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่จะไม่มีเลยเอาให้จริงมันก็จะมีเข้ามาตลอด แถมยังมีแต่คนดีๆคู่ดีๆเข้ามาด้วย ขอให้อธิษฐานขอเอาเรียกตาอินทร์ยายจันทร์ก็ได้ หรือจะเรียกพ่ออินทร์แม่จันทร์ก็ได้ท่านว่าถ้าใครที่รู้ว่าจิตของตัวเองยังไม่ดี ไม่นิ่ง สื่อไม่ได้ เวลาจะอธิษฐานก็ไม่ต้องอธิษฐานในใจ แต่พูดออกมาดังๆให้ท่านรับรู้เลยเพียงแค่นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าได้เรื่องแน่ ไม่ใช่แค่ขออย่างเดียวท่านว่าหุ่นนี้ยังเป็นหุ่นพรหมนิมิต เป็นหุ่นนิมิตให้เจ้าผู้ถือครองเป็นเศรษฐีมหาคฤหบดีอีกด้วย

    ในภายหลังพ่ออาจารย์ท่านนำหุ่นนี้มามัดด้ายมงคลที่ใช้สวมหัวบ่าวสาวในพิธีแต่งงานและก็ส่งเลี่ยมเก็บไว้ทั้งหมดห้าคู่ ตอนนั้นท่านว่าเราใส่ถุงแยกไว้คนละที่กับกระบือสังหาร เพราะว่าเอาตรงๆแล้ว หุ่นนี้ก็ฤทธิ์ไม่เป็นลองใครเขาเลย เมื่อเสกเสร็จเราไม่ได้บอกกล่าวเอาไว้ด้วยกันเขาก็จะตีกันท่าเดียว พ่ออาจารย์ท่านจึงบอกกล่าวและแยกไว้จึงสงบ แล้วก็วางเสกไว้เรื่อยมาแม้ใครจะถามหาหุ่นเสน่ห์หรือหุ่นคู่อะไรท่านก็จะปั้นจะทำให้ใหม่โดยไม่นำหุ่นปั้นรักปักใจนี้ออกมาซักครั้ง เพราะท่านชอบพูดว่าหุ่นทั้งห้านี้มันแรงเกินไปนั่นเอง จนเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น นั่นคือหุ่นที่โดนนกหรือพระเพชรแปลงมาโฉบไปตั้งแต่สมัยเสกหุ่นนั้น ได้ปรากฏกลับมาอีกครั้งในกะลามหาอุตม์ของท่านที่ท่านวางครอบเหล็กไหลเอาไว้ ท่านตรวจดูแล้วกล่าวว่าใช่จริงๆเพชรพญาธรเขาเอามาคืนเรา เพราะเขานำไปใช้มาพอแล้ว นำไปดูดพลังลบที่รุนแรงเกินไป เพื่อฟื้นฟูรักษาร่างและธาตุขันธ์ของเขา พอเขาใช้เสร็จเขาก็นำมาคืน พ่ออาจารย์ท่านจึงเก็บหุ่นตัวนั้นไว้ต่างหากไว้พกติดตัวของท่านเองเช่นกันท่านว่าแม้แต่เทวดาเขายังรู้คุณหุ่นกายสิทธิ์เช่นนี้ที่จะมานั่งทำให้บังเกิดอีกคงยากเต็มที และท่านมาระลึกได้ว่าหุ่นนี้มันดีเช่นนี้ถ้าคนนำไปใช้ให้ถูกใช้ให้เป็น จะมีผลสัมฤทธิ์ที่ดีขึ้นทันตา


    ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงอนุโลมให้คนที่มีวาสนาต้องกันกับหุ่นแฝดสิทธินารีหรือจะเรียกพยนต์ปั้นรักปักใจนี้ได้ใช้ครอบครองกัน โดยบอกกล่าวขอความเมตตาองค์บรมพรหมสหัมบดี ให้คัดแต่เจ้าของที่ดีมีมโนธรรม มีความระลึกได้อันถูกและสมควรได้รับไป ท่านว่าคนพาลคนโลภทุจริตไม่มีวันเห็นเงาหุ่นแฝดนี้แน่นอน


    คาถาบูชา
    โอมกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา บุปผังสาอิตถียาอุปัชชะติ โอมละลวยมหาละลวย ละลวยหน้าละลวยหลัง ละลวยทั้งอินทร์ พรหม ยมราช ละลวยทั้งอากาศเทพยดา ละลวยทั้งพระแม่คงคา ให้เทพยดามาช่วยค้ำคู่สู่องค์ สรรพสิทธิสวาหะสวาโหม
    - เมื่อจะเรียกจิตคนให้นึกถึงหน้าคนที่เราคิดถึงแล้วว่าคาถาภาวนาไปเรื่อยๆดังนี้ เอหิจิตตัง เอหิมะมะ ปุริสะ ภคิรินิเม เอหิมนุญโญมานิมามา เอหิจิตตัง มหาจิตตัง มะมะมามา


    * พยนต์ปั้นรักหมดใจพ่ออาจารย์ท่านว่าให้แบ่งให้บูชาทั้งหมดหกตน โดยผู้บูชาให้แจ้งชื่อสกุลไว้ด้วย พ่ออาจาย์ท่านจะเมตตาเป่ามนต์พญาเศรษฐีหลวงกำกับพ่ออินทร์แม่จันทร์ให้ไปช่วยเปิดดวงเศรษฐีอีกคำรบหนึ่ง รายได้สมทบทุนบริจาคข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่มที่สะอาดในวัดทุรกันดารที่ขาดแคลนต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา อิ่นพยนต์แฝดหุ่นปั้นรักหมดใจกบตายคารู(สิทธินารี) บูชา 3,000 บาท


    035.jpg C3925353-5.jpg SAM_5448.jpg SAM_5449.jpg SAM_5450.jpg SAM_5455.jpg 694489-img-1374909255-1.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    คุณธีรพจน์ ET 7946 0159 2 TH
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พรุ่งนี้มาติดตามพูดคุยกันนะครับ เดี๋ยวจะขอลงเรื่องประสบการณ์ที่ส่งเข้ามาด้วย;)
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    หูแว่ว

    อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ก็มาพูดคุยกันต่อรอบเช้าจากที่ค้างไว้เมื่อวานเป็นประสบการณ์สั้นๆ จากพี่ท่านหนึ่งที่แชร์มาให้อ่าน

    ก็มีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับองค์เทพพระปัญจสิงขร หลายท่านที่ติดตามกระทู้ก็คงทราบดีว่าเพิ่งออกให้บูชาได้ไม่นาน ก็เรียกว่าออกฤทธิ์แสดงอานุภาพให้เห็นมาแล้ว

    พี่ท่านนี้เล่าว่าตั้งแต่ได้พระปัญจสิงขรมา มีเรื่องแปลกอยู่เรื่องหนึ่งที่เกิดซ้ำๆขึ้นประจำ นั่นคืออาการหูแว่ว อาการหูแว่วที่ว่านี้ก็ไม่ได้เป็นอันตรายหรือทำให้เกิดความสะดุ้งหวาดกลัวอย่างใดไม่ ซ้ำเจ้าตัวยังบอกว่าชอบและรู้สึกเป็นสิริมงคลสุดๆอีกด้วย

    พี่คนนี้ PM มาเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ได้พระปัญจสิงขรมากล่าวคือทุกๆคืน ช่วงเที่ยงคืนหรือค่อนเวลาเที่ยงคืนไปนิดหน่อย มักจะได้กลิ่นหอมเย็นๆประหลาดๆและก็ได้ยินเสียงบรรเลงดนตรี เป็นเสียงหวานกังวาลของเครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง ซึ่งผมอนุมานว่าเป็นทิพย์ดนตรีแล้วกัน

    พี่เค้าว่าทีแรกก็นั่งคิด ใครมันมาบ้าเล่นดนตรีไทยในโครงการบ้านจัดสรรค์ตอนเที่ยงคืน แต่ถามใครในบ้านก็ไม่มีใครได้ยินได้กลิ่นด้วยกับเรา ทีแรกก็ประหลาดใจแต่พอวันที่สองสามสี่ก็ยังได้ยินอีก ทีนี้พี่เค้าว่าลองตั้งใจฟังไปมันก็ไม่เลวเหมือนกัน แถมยังเพราะดีด้วย ซ้ำยังทำให้ผมหลับลึกหลับสนิทมากขึ้นไม่ตื่นบ่อยๆแบบชีวิตปกติ

    หลังจากได้บูชาพระปัญจสิงขรมา นอกจากเสียงทิพย์ดนตรีแล้วล่าสุดพี่เค้าโทรหาผมอีกว่าพี่เค้ามีเรื่องน่ายินดีอีกอย่าง เค้าเล่าว่าคือปกติตัวเองชอบเสี่ยงโชคแต่ไม่เคยถูกกับใครเลย พี่เค้าว่างวดที่ผ่านมาเลยลองหยิบหวยชุดดูแล้วขอบารมีพ่ออาจารย์กับพระปัญจสิงขร เขาว่าได้เรื่อง ไอ้หวยที่ออกลงท้ายเลข91อะไรนี่ผมจำไม่ค่อยได้แล้ว พี่แกว่าเชื่อมั๊ย พลาดเลขไปสองตัวไม่งั้นผมถูกรางวัลที่หนึ่งเต็มๆทั้งชุด งวดนี้เลยถูกแค่เลขท้ายสามตัวชุดนึง แต่เค้าว่าแค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว พอมีอะไรให้ชีวิตกระชุ่มกระชวย ได้ลุ้นก็ตื่นเต้นดี

    * ก็เป็นประสบการณ์ที่นำมาฝาก เผื่อมีใครมีอาการหูแว่ว ได้ยินเสียงทิพย์ดนตรีเหมือนพี่ท่านนี้ จะได้ไม่ต้องตกใจแลละรู้ไว้ว่านั่นเป็นสิริมงคลแก่ตัวเรา

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    วันนี้ใครจะฝากเรื่องอะไร ขอคำปรึกษาอะไร หรือบอกเล่าอะไรก็ PMไม่ก็ไลน์เข้ามานะครับ เปิดรับวันนึงทั้งวัน;)
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้จะทำการจัดส่งของให้ แล้วมาติดตามพูดคุยกันต่อนะ;)
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่บุญชนะ ET 7946 0345 7 TH

    พี่สุภณัฏฐ์ ET 7946 0346 5 TH

    พี่วิศณุกร ET 7946 0347 4 TH
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ตอบpm ครบนะครับ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    พอดีเมื่อคืนฝนตกเลยแวะวัดสนทนาธรรมกับหลวงปู่นานเลยยังไม่ได้หายไปไหน:) เดี๋ยววันนี้ส่งของให้นะครับ
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งข่าว

    แอบมาแจ้งข่าวกันนิดนึง เผื่อใครชอบพระสายหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี แต่พระหายาก ราคาแพง ของปลอมเยอะ

    ตอนนี้วัดอินทราวาส(ประดู่) ตรงแถวตลิ่งชัน มีพระของหลวงปู่โต๊ะอยู่รุ่นหนึ่ง เป็นพระกริ่งองค์ไม่ใหญ่ สร้างกี่องค์ผมไม่แน่ใจ ส่วนตัวผมเรียกว่ากริ่งน้อยเพราะองค์กำลังดีไม่ใหญ่โตรึเล็กเกินไป แถมเป็นการหล่อแบบเทดินไทยโบราณผิวไฟผิวมะระเดิมและองค์พระบางองค์ก็ยังมีดินไทยติดอยู่

    ใครรักใครชอบก็รีบกันหน่อยเพราะวัดเพิ่งนำมาออกให้ร่วมทำบุญบูชา
    น่าจะนะถ้าผมจำไม่ผิดตกองค์ละพันบาทเท่านั้น พระกริ่งรุ่นนี้เป็นพระกริ่งที่หลวงปู่โต๊ะเดินทางมาเททองให้ที่วัดอินทราวาส(ประดู่)ด้วยตัวท่านเองในปี12 แถมยังมาเสกซ้ำให้อีกในปี19 ไม่ใช่พระเทโรงงานหรือศิษย์สร้างถวายแบบหลายๆรุ่นที่เล่นกันในปัจจุบันด้วยซ้ำ น่าสนใจจริงๆก็ตรงท่านเทกับมือ เทในวัด พระสร้างจำนวนน้อย และที่สวยๆสมบูรณ์ยิ่งน้อยใหญ่

    ใครอยากได้หลวงปู่โต๊ะแท้ๆราคาเบาห้อยได้ก็ตามหากันเอา ได้ข่าวว่าองค์พระไม่สวยไม่ค่อยสมบูรณ์ ส่วนใหญ่เกตุแหว่ง ก้นทะลุ แขนทะลุเยอะมาก เพราะเทโบราณและเสกเก็บยาวๆพระไม่ได้แต่ง คัดสวยๆมีน้อยจริงๆ หลวงพ่อเจ้าอาวาสเพิ่งนำมาทำกล่องออกให้ได้บูชากัน ใครรักใครศรัทธาและคิดว่าพระหลวงปู่โต๊ะราคาแพงหายาก อยากลองใช้พุทธคุณก็เชิญได้

    พระกริ่งเป็นพระเครื่องตระกูลสูงและที่สำคัญชนวนมวลสารเยอะมาก แต่ที่สำคัญสุดๆจริงๆคือหลวงปู่โต๊ะท่านเดินทางมาเททองถึงวัดด้วยตัวท่านเองแถมยังตามมาเสกซ้ำอีกรอบย่อมไม่ธรรมดา

    * ผมไม่ได้รับเป็นสะพานบุญนะครับ แค่นำข่าวมาแจ้งเฉยๆ เป็นของดี ของเก่าที่ราคาเบ;)

    ที่สำคัญปี12นี่ หลวงพ่อจำปายังอยู่นะครับ หลวงพ่อจำปานี่ก็ไม่ธรรมดา ทั้งหลวงปู่โต๊ะหลวงพ่อจำปาก็เยี่ยมแล้ว


    paragraph_14_187.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2017
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง ems
    พี่เมลดา ET 7946 0494 8 TH

    พี่สายเมธี ET 7946 0495 1 TH

    พี่วีระยุทธ ET 7946 0496 5 TH
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พรุ่งนี้จะตอบคำถามและมาติดตามพูดคุยสาระความรู้กันนะครับ เป็นเรื่องสำคัญเรื่องนึงต้องติดตาม;)
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    วันนี้ตอบ PM ครบนะครับ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พูดคุยยามเช้า

    อรุณสวัสดิ์นะครับ ก็ถามกันเข้ามามากแล้วก็ต่อเนื่องเสมอๆ แต่ก่อนที่เราจะไปถึงจุดนำการพูดคุย หรือแตกประเด็นชี้แจงรายละเอียดต่างๆตามที่พ่ออาจารย์ท่านเล่าท่านสื่อ ก็จะขอกล่าวถึงประวัติคร่าวๆก่อน เกี่ยวกับ พระสยามเทวาธิราช

    พระสยามเทวาธิราชนับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โดยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์มีพระราชดำริว่า ประเทศไทยมีเหตุการณ์ที่เกือบจะต้องเสียอิสรภาพมาหลายครั้ง แต่บังเอิญมีเหตุให้รอดพ้นภยันตรายมาได้เสมอ ชะรอยคงจะมีเทพยดาที่ศักดิ์สิทธิ์คอยอภิบาลรักษาอยู่ สมควรที่จะทำรูปเทพยดาองค์นั้นขึ้นสักการบูชา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าประดิษฐวรการปั้นรูปสมมติขึ้น แล้วหล่อด้วยทองคำแท่ง มีลักษณะแบบเทวรูป มีความสูง ๘ นิ้ว ทรงเครื่องอย่างเทพารักษ์ ทรงมงกุฎ ประทับยืน พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นในท่าจีบเสมอพระอุระ ประทับในเรือนแก้วทำด้วยไม้จันทน์ มีลักษณะแบบวิมานเก๋งจีน และถวายพระนามว่า พระสยามเทวาธิราช โปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐานไว้ ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง

    พระบาทสมเด็จพระจอมกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเคารพบูชาพระสยามเทวาธิราชเป็นอย่างสูง ทรงถวายเครื่องสักการะเป็นประจำทุกวัน และทรงถวายเครื่องสังเวยทุกวันอังคารและวันเสาร์ก่อนเวลาเพล กับโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิธีสังเวยเทวดาในวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ อันตรงกับวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติแบบโบราณด้วย ทั้งเป็นที่ร่ำลือกันว่าพระสยามเทวาธิราชนั้นศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก

    พระ บาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงเคารพนับถือพระสยามเทวาธิราช เช่นเดียวกับพระราชบิดา นอกจากจะโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ในเครื่องทรงแบบพระสยามเทวาธิราชขึ้นองค์หนึ่งประดิษฐาน ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต เพื่อทรงสักการะแล้ว ยังโปรดเกล้าฯ ให้นำรูปพระสยามเทวาธิราชประทับนั่งใส่ในด้านหลังของ เหรียญกษาปณ์ ราคาเสี้ยว อัฐ และโสฬส ซึ่งออกใช้ในรัชสมัยของพระองค์ด้วย

    ใน รัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ หรือพระราชวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ เสด็จแทนพระองค์ไปทรงถวายเครื่องสังเวยพระสยามเทวาธิราช ในวัน ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ และระหว่างงานฉลองกรุงเทพฯ ๒๐๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระสยามเทวาธิราชออกมาให้ประชาชาชนทั่วไปได้สักการบูชาเป็นครั้งแรก

    คนไทยเราเชื่อกันมาแต่โบร่ำโบราณแล้วว่ามีเทวดาผู้ปกปักรักษาบ้านเมืองใน สมัยกรุงสุโขทัยมีพระขพุงผีเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เชื่อกันว่า “ถ้าไหว้ดีพลีถูก บ้านเมืองก็เจริญรุ่งเรือง แต่ถ้าไหว้ดีพลีไม่ถูก บ้านเมืองก็ล่มจม” พระขพุงผีนี้เข้าใจกันว่าน่าจะเป็นเทวรูปศิลาของเทวนารีซึ่งปัจจุบันเรียก ว่า แม่ย่า ซึ่งสันนิษฐานว่าพ่อขุนรามคำแหงให้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระมารดาคือ นางเสือง

    ในสมัยกรุงศรีอยุธยาและต่อมาถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีความเชื่อว่าเทวดาที่คุ้มครองบ้านเมืองคือ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง และ พระหลักเมือง สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงให้ความหมายของพระเสื้อเมืองว่า มีมัลลิตารีเพาเวอร์ คืออำนาจทางทหาร พระทรงเมืองเป็นซีวิลเพาเวอร์ คืออำนาจของข้าราชการพลเรือน ส่วนพระหลักเมืองเป็นจูดิคัลเพาเวอร์ คืออำนาจตุลาการ ซึ่งสื่อความหมายว่าบ้านเมืองจะร่มเย็นได้ ก็ต้องประกอบด้วยความเข้มแข็งทางทหาร การปกครองที่ดีงาม และกระบวนการด้านความยุติธรรมอันถูกต้องเที่ยงตรง อย่างไรก็ตามในส่วนของชาวบ้านโดยทั่วไปยังให้ความเคารพยำเกรงต่อพระแก้วและ พระกาฬ จนมีคำสาบานที่อ้างพระแก้วพระกาฬอย่างติดปาก พระแก้วก็คือพระแก้วมรกตซึ่งถือได้ว่าเป็นของคู่บ้านคู่เมืองโดยแท้ เพราะชื่อของเมืองคือรัตนโกสินทร์ก็หมายถึงที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตนั่นเอง ส่วนพระกาฬ หรือพระกาฬไชยศรีเป็นบริวารพระยม มีหน้าที่นำดวงวิญญาณมนุษย์ไปยมโลก


    ในส่วนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ได้กล่าวเรื่องเกี่ยวกับพระสยามไว้ดังนี้

    พระสยามเทวาธิราชนี่เริ่มมีเมื่อสมัยก่อนรัชกาลที่๔มีนะแต่ก่อนพระเจ้าแผ่นดินสมัยนั้นก็บูชาเทวาชื่อนั้นชื่อนี้ที่เป็นญาติผู้ใหญ่เป็นคนสำคัญขออย่างนั้นอย่างนี้ต่อมาสมัยรัชกาลที่๔ท่านเป็นนักปราชญ์เป็นนักบาลีก็มาตั้งชื่อใหม่ว่า พระสยามเทวาธิราชหมายถึงว่าเทวดาทั้งหมดที่รักษาประเทศสยาม

    ทีนี้ที่ถามว่าให้คุณให้โทษทางไหน ... ให้โทษนี้ก็ไม่ทราบให้คุณนี่ก็ไม่รู้แต่ท่านเป็นเทวดา ... เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ

    เมื่อปี๒๕๑๘ปีนั้นพระเจ้าอยู่หัวนิมนต์เข้าไปที่พระที่นั่งไพศาลทักษิณพอเข้าไปทำบุญ... วันจักรี... พอเข้าไปนั่งปั๊บไม่ต้องคุยกับใครละบรรดาพระสยามเทวาธิราชมากันเยอะแยะเลยโอ้โฮ!ไม่ใช่องค์เดียวสององค์นะไม่ทราบว่าจะมากเท่าใดในบริเวณเต็มไปหมดไม่ใช่เฉพาะในวังนะเราก็ชักสงสัยว่าองค์ไหนชื่อพระสยามเทวาธิราชพอถามว่าองค์ไหนชื่อพระสยามเทวาธิราชให้บอกชี้องค์นั้นก็ไม่ใช่ชี้องค์นี้ก็ไม่ใช่ต่างคนต่างบอกชื่อของตัวหมดก็เลยนึกขึ้นมาว่าเออ...ยังไงเทวดานี่เลยบอกว่าถ้าไม่ใช่พระสยามเทวาธิราชแล้วมาทำไมล่ะพระเจ้าอยู่หัวก็ดีพระราชินีก็ดีท่านทำบุญเพื่อพระสยามเทวาธิราชท่านก็บอกว่าเขาอยากเรียกผมอย่างนั้นทำไมล่ะ... ผมไม่ได้ชื่อนั้นนี่

    ก็รวมความว่าพระสยามเทวาธิราชจริงๆ ก็เป็นเทวดาที่รักษาประเทศไทยทั้งหมดสมัยก่อนเรียกประเทศสยามใช่ไหมถ้าถามว่าให้คุณแบบไหนก็ต้องถือว่าเทวดามีความดีอะไรบ้างแต่ละคนมีความสามารถไม่เสมอกันอันนี้ตอบไม่ได้เกินวิสัย


    * ก็นำประวัติมาให้อ่านกันคร่าวๆพอรู้จักกันนะครับ เดี๋ยวต้องมาพูดคุยเพิ่มเติมความรู้ในส่วนของพ่ออาจารย์อีกนิดหน่อย แล้วจะเข้าใจกันมากขึ้น


    [​IMG] [​IMG]
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่ธนากร ET 7946 5569 2 TH

    พี่เกษมธิดา ET 7946 5570 1 TH

    พี่ศิระ ET 7946 5571 5 TH
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ใครติดตามเรื่องพระสยามเทวาธิราช พรุ่งนี้ห้ามพลาดพูดคุยรอบเช้ากันนะครับ ติดตามๆ;)
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พูดคุยรอบเช้า
    อรุณสวัสดิ์นะครับ

    วันนี้ก็จะมาพูดคุยในเรื่องของพระสยามเทวาธิราชกันต่อ เกี่ยวกับพระสยามนั้นก็เป็นที่น่าแปลกใจว่าเป็นเทพซึ่งมีชื่อใกล้เคียงกับท้าวสุยามเทวราชจอมภพแห่งสวรรย์ชั้นยามาจริงๆ

    พ่ออาจารย์ท่านได้พูดถึงพระสยามเทวาธิราชนี้ไว้คร่าวๆ ว่าเป็นชื่อเรียกเทวดา แต่เป็นชื่อที่เรียกรวมแบบหมู่คณะ มิได้เจาะจงเฉพาะผู้ใด เอาว่าถ้าเรียกพระสยามเทวาธิราชนี่จะมากันหมด มากันเป็นหมู่ใหญ่เชียวล่ะ มีทั้งเทพ จอมเทพ และพรหมชั้นต่างๆรวมกันอยู่มากมาย

    พระสยามเทวานี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยรวมส่วนใหญ่จะเป็นดวงพระวิญญาณอดีตบูรพกษัตริยาธิราชเจ้าตั้งแต่ยุคบุกเบิกอาณาจักรย้อนไปถึงอารยธรรมโบราณนั่นทีเดียว ทั้งพระมหากษัตริย์เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินที่เค้ารักบ้านรักเมือง ห่วงบ้านห่วงเมือง คุ้มเกรงบ้านเมืองและประชาชนที่นับถือบูชา

    นอกจากนั้นคำว่าพระสยามเทวานี้ พ่ออาจารย์ท่านยังบอกว่าเป็นชื่อที่สำคัญมากนะ ส่วนใหญ่คนจะใกล้เกลือกินด่าง รู้จักชื่อท่าน แต่ไม่เคยไหว้หรือบนบอกท่านกันเสียเท่่าไหร่ จริงๆแล้วท่านเป็นเทพที่มีคุณใหญ่หลวง มีอานุภาพมาก มีความรักและปรารถนาดีอย่างยิ่งกับลูกหลานเชื้อชาติไทย พ่ออาจารย์ท่านว่าพระสยามเทวาธิราชนี้คือกลุ่มคณะเทพพรหมที่มีอำนาจใหญ่สูงสุดของพระราชอาณาจักร ไม่ว่าจะเป็นเทพที่มาจากอำนาจ ความเชื่อ หรือลัทธิใด เมื่อมาอยู่ในประเทศไทยแล้วก็ล้วนแต่อยู่ในอำนาจของกลุ่มพระสยามนี้ทั้งสิ้น


    * เดี๋ยววันนี้มาติดตามพูดคุยกันแบบลงลึกอีกครั้ง มีเรื่องน่าสนใจอยู่มาก เพราะเป็นคำถามที่หลายๆคนถามกันมาเรื่อยๆตั้งแต่เปิดกระทู้ว่าทำไมพ่ออาจารย์ไม่ทำพระสยาม หรือทำแล้วแต่ไม่ออกให้บูชาซักทีรออะไร บางคนก็ฝันว่าเทพชุดชมพู ชุดขาว ชุดแดง ต่างองค์ต่างก็แจ้งชื่อตนว่าเป็นพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระหลักเมือง ไปตามบอกให้มาขอบูชาพระสยามของพ่ออาจารย์ พระสยามนั้นสำคัญอย่างไร ทำไมพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระหลักเมือง จึงได้เข้าฝันบอกคนไปทั่วจนพ่ออาจารย์ท่านเปรยมาว่า "นี่เขาเล่นเข้าฝันไปบอกจะห้าสิบกว่าคนแล้วเชียวนะ คนร่วมทางสายบารมีกับองค์พระสยามนั้นมีมากจริงๆ" ซึ่งก็จริงเพราะตั้งแต่เปิดกระทู้มาก็มีคนทักมาเนืองๆว่าฝันเห็นพระเสื้อเมืองบ้าง พระทรงเมืองบ้าง พระหลักเมืองบ้าง สั่งให้ตามหาพระสยามของพ่ออาจารย์ เกือบๆห้าสิบคน


    65368067f.jpg DSC00429.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่ Thitiwat RR 2528 6228 4 TH

    พี่นวรัตน์ ET 7946 5076 6 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    อรุณสวัสดิ์นะครับ

    แวะมาแจ้งข่าวก่อนคร่าวๆเกี่ยวกับพระสยามและพยนต์คุณวิเศษพระเสื้อ พระทรงเมือง พระหลักเมือง เดี๋ยวเราจะมาพูดคุยกัน

    พอดีสัญญาณเน็ตมีปัญหาต้องรอช่างมาแก้ แต่เดี๋ยวส่งของแล้วจะลงรายละเอียดให้นะครับ ติดตามพูดคุยกันนะ;)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2017
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง Ems
    พี่นันทวัฒน์ ET 7946 1155 5 TH

    พี่สุรวุฒิ ET 7946 1156 9 TH

    พี่ธีธัช ET 7946 1157 2 TH
     

แชร์หน้านี้

Loading...