ร่วมทำบุญบูชา มงคลตัดผ่านสวรรยามหากุมารต้นไฟอมฤต(สลายจุดชะลอชะตาสี่มหาฤทธิ์พญา) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    อรุณสวัสดิ์ครับ
    - เกี่ยวกับพญาลูติกาหรือพญาแมงมุมนั้น ก็มีคนถามมาว่าหลังจากได้บูชาไปจะเห็นแมงมุมตัวขาวๆบางๆตัวเล็กมาอาศัยอยู่ในระยะมองเห็น ซึ่งแต่ก่อนนั้นที่บ้านไม่มีแมงมุมแบบนี้ ไม่เคยเห็นเลยนับสิบปี ก็คงจะไม่แปลกที่ว่าจะเจอแมงมุมบ้าง แต่เรื่องมันแปลกตรงที่ทักๆเล่าๆมาในลักษณะนี้ถึงสามคนแล้ว
    - สำหรับจิ้งจกพ่ออาจารย์ก็เรียกว่าแรงไม่หยุดทีเดียว บางคนก็บอกว่าจิ้งจกพ่ออาจารย์ให้หวยเก่งจัง งวดนี้มาเต็มๆได้มาก็เข้าฝันให้หวแล้วทั้งสองตัวหกตัว จะได้เตรียมตัวซื้อกันเพราะปกติไม่รู้จะซื้อเลขอะไร อันนี้ก็ติดตามไปถ้าถูกก็ยินดีด้วย
    - สุดท้ายคนที่พลาดตั้งแต่จิ้งจก พระสังกัจจายน์ เค้าว่าผิดคาด เกินกำลังนึกว่าตอนออกพระสังกัจจายน์จะหลักร้อย จึงถามหาของที่มีอาถรรพ์ลี้ลับ มีอะไรหลักร้อยพอที่จะบูชาได้มั๊ย อันนี้เดี๋ยวติดตามพูดคุยอีกทีนะครับอย่าเพิ่งโอดครวญกันเยอะ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พรุ่งนี้ติดตามพูดคุยกันนะครับ ที่ถามหาของหลักร้อยเข้ามาผมบอกได้แค่ว่าดีเกินราคาไปมากและมากของมากเลยทีเดียว เป็นเครื่องรางแบบแปลกๆและพิเศษว่าด้วยชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์...พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้หลายทางหลักๆเลยตรงเรื่องคือพนันอะไรเขาก็ชนะหมด ใช้ในการเสี่ยงดวงก็มีแต่ชนะ ใช้ในการแข่งขันตั้งแต่เรื่องเล็กจนไปถึงเรื่องใหญ่ระดับชีวิตก็ชนะ นอกจากนั้นยังให้คุณด้านอื่นๆ..ด้วย ***ติดตามพูดคุยกันนะ
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พูดคุยรอบเช้า

    รู้กันหรือไม่ สมัยหนึ่งเคยมีมนุษย์ธรรมดาชนะพนันท้าวมหาพรหมด้วยการตัดศรีษะบูชา พ่ออาจารย์ท่านถือว่านั่นคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ด้วยจะหามนุษย์ธรรมดาที่ไหนเสมอเหมือนไม่ได้เป็นชัยชนะของมนุษย์เหนือความปราชัยในตัวตนของมหาเทพผู้ลิขิตชะตา วันนี้ก็ขอนำตำนานคร่าวๆมาลงไว้ก่อน จะเกี่ยวข้องกับจันทร์ลอยมหาชัยอย่างไรต้องติดตามดีๆ

    มีท่านเศรษฐีผู้หนึ่งไม่มีบุตรแต่ต้องการบุตรมาก ด้วยถูกนักเลงสุราที่บ้านใกล้กันนั้นกล่าวคำหยาบช้าต่อเศรษฐี ท่านเศรษฐีจึงกล่าวถามว่า "เหตุใดท่านจึง กล่าวดูถูกเราผู้มีสมบัติมาก" นักเลงสุราตอบกลับว่า "ถึงแม้ท่านเป็นผู้มีสมบัติมาก แต่ท่านก็ไม่มีบุตร เมื่อเสียชีวิตแล้ว สมบัติเหล่านี้ก็สูญเปล่า เรานั้นมีบุตร ย่อมประเสริฐกว่า" ท่านเศรษฐีจึงได้จัดพิธีบวงสรวงขอบุตรจากพระอาทิตย์ และพระจันทร์ รอนานสามปีก็มิได้เกิดบุตร เมื่ออาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ ท่านเศรษฐีจึงพาบริวารไปบวงสรวงขอบุตรจากพระไทร พระไทรมีความเมตตาสงสารเศรษฐีผู้นี้ จึงได้ขึ้นไปบนสวรรค์ทูลขอบุตรจากพระอินทร์ให้แก่เศรษฐี ผู้นั้น พระอินทร์จึงให้ธรรมบาลกุมารเทวบุตรลงมาเกิดเป็นบุตรของท่านเศรษฐี

    เมื่อภรรยาของท่านเศรษฐีคลอดบุตร ท่านเศรษฐีได้ปลูกปราสาทเจ็ดชั้นให้อยู่ใต้ต้นไทรริมฝั่งแม่น้ำ และตั้งชื่อให้ว่าธรรมบาลกุมารธรรมบาลกุมารนี้เป็น เด็กที่มีปัญญาเฉลียวฉลาดอย่างมาก เรียนรู้ไตรเทพจบเมื่ออายุ ๗ ขวบอีกทั้งยังสามารถเรียนรู้ภาษานกได้อีก ความดังกล่าวได้ล่วงรู้ถึงท้าวกบิลพรหม ท่านจึงต้องการที่จะทดสอบปัญญาของธรรมบาลกุมาร ท้าวกบิลพรหมจึงได้เสด็จลงมายังโลกมนุษย์ ถามปัญหาธรรมบาลกุมาร ๓ ข้อคือ
    ข้อที่ ๑ เช้าราศีสถิตอยู่แห่งใด
    ข้อที่ ๒ เที่ยงราศีสถิตอยู่แห่งใด
    ข้อที่ ๓ ค่ำราศีสถิตอยู่แห่งใด
    และตกลงกันว่า ถ้าธรรมกุมารสามารถตอบปัญหา ๓ ข้อนี้ได้ ภายใน ๗ วัน จะตัดเศียรของตนบูชาธรรมบาลกุมาร แต่ถ้าธรรมบาลกุมารไม่สามารถตอบปัญหาได้ ธรรมบาลกุมารต้องตัดศีรษะของตนบูชาท้าวกบิลพรหมเช่นกัน

    เวลาล่วงเลยไปถึง ๖ วัน ธรรมบาลกุมารก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ ด้วยความกลัวอาญาท้าวกบิลพรหม ธรรมบาลกุมาร จึงได้หนีไปแอบซ่อนอยู่ใต้ต้นตาลและบนต้นตาลนั้นมีนกอินทรี ๒ ตัว ผัวเมียทำรังอยู่นกอินทรีทั้งสองได้สนทนากันอยู่ในเรื่องการออกไปหากินในวันพรุ่งนี้ นางนกอินทรี : "พรุ่งนี้เราจะไปหากินที่ไหนกันดี "นกอินทรีตัวผู้ : "พรุ่งนี้เราไม่ต้องออกไปหากินไกลหรอก ด้วยพรุ่งนี้ธรรมบาลกุมารจะต้องตัดศีรษะบูชาท้าวกบิลพรหม เนื่องจากตอบปัญหาไม่ได้"
    นางนกอินทรี : "น่าสงสารกุมารน้อยยิ่งนัก ท้าวกบิลพรหมก็ช่างถามปัญหาที่มนุษย์เกินจะตอบได้"นกอินทรีรู้สึกหมั่นไส้นางนกอินทรีจึงได้บอกถึงคำตอบที่ท้าวกบิลพรหมถามธรรมบาลกุมารให้นางนกอินทรีได้รู้
    นกอินทรีตัวผู้ : "ราศีแห่งมนุษย์นั้นจะสถิตอยู่ที่ร่างกายต่างวาระกัน คือ เวลาเช้าจะสถิตอยู่ที่หน้า มนุษย์จึงต้องล้างหน้า เวลาเที่ยงราศีสถิตอยู่ที่อก มนุษย์จึงต้องปะพรมน้ำที่หน้าอก และเวลาค่ำสถิตอยู่ที่เท้า มนุษย์จึงต้องล้างเท้า จึงจะพ้นอัปรีย์จัญไรทั้งปวง"

    ธรรมบาลกุมารเมื่อได้ยินดังนั้น ก็ได้จดจำคำตอบและนำไปบอกแก่ท้าวกบิลพรหม ท้าวกบิลพรหมจึงจำต้องตัดเศียรของตนบูชาธรรมบาลกุมาร แต่เศียรของท้าวกบิลพรหมมีพิษมาก คือ ถ้าตัดแล้วตั้งไว้บนแผ่นดิน แผ่นดินก็จะลุกเป็นไฟ ถ้าโยนขึ้นสู่ท้องฟ้าฝนก็จะตกไม่ถูกต้องตามฤดูกาล และถ้าทิ้งลงมหาสมุทรน้ำก็จะเหือดแห้ง ท้าวกบิลพรหมจึงรับสั่งเรียกธิดาทั้ง ๗ เพื่อให้นำเศียรของท้าวกบิลพรหมไปแห่ประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุ ๖๐ นาที แล้วจึงนำไปเก็บไว้ในมณฑปถ้ำธุลีเขาไกรลาศ ครั้นครบกำหนด ๓๖๕ วัน (โลกสมมุติว่าเป็น ๑ปี) เป็นสงกรานต์ ซึ่งหมายถึงขึ้นปีใหม่นั้นเอง นางสงกรานต์ก็จะต้องนำเศียรของท้าวกบิลพรหมแห่ประทักษิณรอบเขาพระสุเมรุเป็นประจำทุกปี

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    วันพรุ่งนี้ห้ามพลาดนะกับ จันทร์ลอยมหาชัย ชนะพนัน เหนือดวง(ท้าวกบิลพรหมถวายหัว) บอกได้คร่าวๆนอกจากชนะพนันเหนือดวงแล้ว ยังปรับและดึงสมดุลย์ธาตุให้เปิดออกรับพลังงานองค์พระเพื่อดึงดูดโชคลาภแบบถี่ๆด้วย ดีมากๆ
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ถามกันเข้ามามากหลายท่านพอทราบว่าใช้ปรับสมดุลย์ธาตุแบบพิเศษ ต่างจากการปรับธาตุธรรมดาได้ จะอย่างไรก็ติดตามกันพรุ่งนี้ทีเดียวนะครับ บอกได้คำเดียวว่าน่าอัศจรรย์จริงๆ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ร่วมทำบุญบูชา จันทร์ลอยมหาชัย ชนะพนัน เหนือดวง (ท้าวกบิลพรหมถวายหัว)

    การทำพระผงจันทร์ลอยนั้น วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเรียนจากท้าวมหาพรหมโดยตรงให้ท่านสอนให้ ดั่งสมัยหลวงปู่ศุขได้วิชาจันทร์เพ็ญก็ได้ตอนออกรุกขมูลโดยท้าวมหาพรหมท่านเมตตาสั่งสอนเช่นกัน ท่านว่าวิชานี้หากทำให้ขลังตกถึงใครได้ใช้รับรองว่า “รุ่งเรือง” ทุกคนไป

    พระผงจันทร์ลอยนั้นท่านทำด้วยความปรารถนานำพาวาสนาที่ยิ่งใหญ่ให้ตกแก่ผู้บูชา ท่านว่าในส่วนของท่านตอนทำนอกจากใช้วิชาจันทร์เพ็ญแล้ว ยังต้องลบผงธรรมบาลกุมารชนะพนันในคืนเพ็ญเดือนสิบสองด้วยเพื่อเป็นกฤติยคมแฝดในผงนั้น คืนเพ็ญนี้สำคัญนักพ่ออาจารย์ท่านว่าพระพุทธองค์ประสูติขึ้นในโลกมนุษย์นี้ก็คืนเพ็ญ ทรงตรัสรู้ธรรมอันเลิศก็ในคืนเพ็ญ ทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ก็ในคืนเพ็ญ ทรงเสด็จเข้าสู่พระมหาปรินิพพานก็ในคืนเพ็ญ....เหตุการณ์เช่นนี้เป็นไปอย่างน่าอัศจรรย์หลายคนบอกว่าเป็นเรื่องแปลกดีที่ "บังเอิญ" พอเหมาะได้ขนาดนั้น แต่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ พระมหาเถระแห่งกรุงเก่ากลับบอกว่าถ้าแกมีญาณที่จะหยั่งรู้ได้ แกจะเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตแกนี้ไม่มีคำว่าบังเอิญเลย

    ด้วยความที่ดวงจันทร์เป็นดาวที่อยู่ใกล้โลกที่สุด พลังและแรงดึงดูดจึงมีอิทธิพลต่อโลกอย่างมาก แหล่งน้ำทุกแหล่งในโลกที่มีน้ำขึ้นและลงได้ก็เพราะอาศัย "แรง" แห่งพระจันทร์ คนบ้าจะคลุ้มคลั่งเป็นพิเศษก็ในคืนเพ็ญ แม้เหตุการณ์สำคัญทางพระศาสนาก็ปรากฏเฉพาะในคืนเพ็ญเช่นกัน

    เพราะในหนึ่งปีย่อมมีเพียงหนเดียวที่พระจันทร์จะทอแสงแข่งรัศมีกับดวงดาวอย่างเต็มที่จนกลบรังสีแห่งดาวทั้งปวงแทบหมดสิ้นเรียกว่าดาวทุกดวงบนฟ้าก็ยังไร้แรงต้านในยามราตรี เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าการที่ลบผงธรรมบาลกุมารชนะพนันในคืนเพ็ญเดือนสิบสอง จึงเป็นเคล็ดของชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ดุจแสงจันทร์บนนภากาศที่มิอาจมีสิ่งใดมาต้านทานได้เช่นอานุภาพของผงนี้ " พระจันทร์ในคืนวันเพ็ญแจ่มจำรัสสุกสว่างกระจ่างใสเต็มท้องฟ้า บดบังแสงเดือนแสงดาวจนไร้มลทินได้ฉันใด ชีวิตผู้ใช้ก็สุกสว่างสดใสสำเร็จสมหวังร่ำรวยรุ่งเรืองก้าวหน้า มีราศีเต็มท้องน้ำ บดบังกลบแสงผู้อื่นให้มืดดับได้ฉันนั้น โทษทุกข์ภัยใดใดก็มิกล้าเข้ามาเบียดเบียนบีฑา ความทุกข์โศกโทษภัยเศร้าโศกา หรือดวงจะตกดวงไม่ดีอย่างไรก็จางหายไป ดังพระจันทร์ในวันเพ็ญที่ขึ้นเต็มท้องฟ้าฉันนั้น "

    ผงธรรมบาลนั้นท่านว่าเป็นของวิเศษดีทางมหาชัย หมายถึงชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ที่แสนจะธรรมดาอันมีต่อตัวตนของบุคคลระดับท้าวมหาพรหมซึ่งมีเทพยดานับแสนโกฏิเป็นบริวารนั่นคือท้าวกบิลพรหมแห่งมหาพรหมภูมิผู้มีหน้าที่สอดส่องดูแลมวลมนุษย์ตลอดด้วยสรรพสัตว์ทั้งมวล

    และด้วยการพนันครั้งนั้นยังหาใช่การพนันธรรมดาแต่เป็นการพนันด้วยชีวิตที่มหาพรหมผู้เป็นเจ้าได้เสียหัวทำการตัดพระเศียรตนเองเพื่อบูชาธรรมบาลกุมาร เป็นคติของชัยชนะที่มนุษย์ธรรมดาอยู่เหนือเจ้าผู้ลิขิตชะตา ท่านว่าผงนี้จึงดีทางชนะ สั้นๆเลยคือแข่งอะไรก็ชนะ อธิษฐานอะไรก็ชนะ ไปพนันขันต่อเสี่ยดวง เสี่ยงโชค วาสนาทำอะไรก็ชนะ ชนะไปหมด แม้ไม่มีทุนรอน เสียเปรียบอย่างถึงที่สุดขนาดที่ว่าคนทั้งโลกยังทำใจเชื่อไม่ได้ว่าเราจะชนะก็ยังชนะเขาได้ ทั้งยังดีทางฝืนกฏชะตาสภาวะกรรม หนุนดวง พลิกดวง กลับดวงให้มีชีวิตเหนือดวง เหนือกว่าแม้กระทั่งผู้ลิขิตชะตา ผงนี้จึงเป็นของสำคัญมากเมื่อพ่ออาจารย์นำมาลบและเสกในคืนวันเพ็ญ

    ซ้ำในคืนวันเพ็ญนั้นท่านยังได้ลบผงสูตรเฉพาะวิชาการทำจันทร์ลอยไว้ด้วย ด้วยถือเป็นคืนที่มีเหตุการณ์มหัศจรรย์ของโลกมาบรรจบกัน คืนที่จันทร์เต็มดวงกำลังแผ่รัศมีอย่างเต็มที่ผงนั้นจึงมีความศักดิ์สิทธิ์มีอานุภาพมากเป็นพิเศษ ส่งผลในทางเสน่ห์ เมตตามหานิยม ความเยือกเย็น และพลังดึงดูดมวลชน โชคลาภ อำนาจของพระจันทร์ที่พ่ออาจารย์ท่านเชิญมาด้วยคุณวิชามนต์โองการเชิญพระจันทร์เข้าตัวในคืนเพ็ญนั้น จะยิ่งมีฤทธิ์มากขึ้นเป็นทวิทวี ท่านว่าวิชานี้ผงนี้เอาไปที่ไหนด้วยนอกจากมีรัศมีผ่องใสสวยงามเป็นที่น่ารักใคร่ดึงดูดใจผู้พบเห็น ยังมีอำนาจทางวาจา การเจรจาพาทีไพเราะเสนาะหู ถ้าเอาดีทางเสน่ห์ท่านว่าก็เจ้าชู้เป็นนักหนาแม้อ้าปากเจรจาก็เกี้ยวพาราสีให้ชนนิยมทั้งสิ้น

    ผงเชิญพระจันทร์เข้าตัวนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามีผลกับมนุษย์ทั้งทางด้านร่างกายและทางด้านจิตวิญญาณ ด้วยเป็นอำนาจจากพระจันทร์ที่ดึงดูดและผลักดันพลังธรรมชาติทั้งปวง โดยเฉพาะธาตุน้ำในคตินี้แม้มหาสมุทรยังต้องเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวด้วยอำนาจดวงจันทร์ กระนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามนุษย์ก็เช่นกันด้วยในร่างกายมนุษย์นั้นมีน้ำอยู่มหาศาลมากกว่าธาตุอื่นทั้งหมด และธาตุน้ำนี้ก็ส่งผลกับพลังเมตตาและโชคลาภความปรารถนาทั้งหลาย

    ดังนั้นวิชาเชิญพระจันทร์เข้าตัวนี้จึงผลักดันสั่นคลอนพลังงานธาตุน้ำหรือการรับโชคลาภ เปิดวาสนาทั้งหมดในร่างกายของคนให้ต่ำหรือสูงได้นั่นเอง ท่านว่าเมื่อใช้ผงนี้จะดึงดูดความเมตตาเข้ามาตลอด จะขับพลังงานคือสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวตนเราให้เปิดออกให้มีโชควาสนาอยู่เนืองๆไม่ลดไม่พร่องดุจน้ำขึ้นในคืนจันทร์เพ็ญ ทำให้การใช้งานพึ่งพาความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพลังงานทางด้านจิตวิญญาณแสดงอิทธิคุณของมันอย่างเต็มที่ ผงนี้เมื่อเจ้าของอาราธนาจะส่งพลังงานนั้นเข้าตัวเป็นอานุภาพทางมหาเมตตา เป็นมหานิยม เป็นมหาโชคมหาลาภอย่างเอกอุ เกิดสิริมงคล ทำการใดก็สำเร็จสมความปรารถนา มีโชคชัยมงคล ประสบชัยชนะ เป็นเสน่ห์ เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย รอดพ้นจากภยันตรายต่างๆเพราะท่านทำในเวลาที่โลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์โคจรมากุมกันและเล็งกัน

    พ่ออาจารย์ท่านนำผงทั้งสองนี้มาผสมกันปั้นเป็นจันทร์ลอยและใช้ธาตุกายสิทธิ์สร้างเศียรท้าวกบิลพรหมอันได้ชื่อว่ามีอานุภาพมากซ้ำยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของวิถีโลก มีเทพยดาบริษัทมากมายคณานับได้ถึงแสนโกฏิตามพิทักษ์รักษาฝังลงไปเป็นเคล็ดให้คนใช้ชนะชะตา ชนะวาสนาลิขิตชีวิต และยังฝังตะกรุดวิชาเฉพาะทางหนุนส่งให้คนใช้แพ้ไม่เป็น ทำอะไรก็ชนะ พร้อมทั้งอธิษฐานจิตถึงพระพุทธองค์ที่ทรงเปี่ยมด้วยพระสิริโฉมและรัศมีกายอันรุ่งเรืองงดงามคือฉัพพรรณรังสีได้แก่รัศมีรอบพระองค์ทั้งหกสี แม้ในพระอรหันต์สาวกต่างๆก็ดีย่อมมีรัศมีกายแตกต่างกันไปไม่เสมอเหมือนด้วยพระพุทธองค์ ท่านว่าหากแม้พระจันทร์เมื่อวันเพ็ญจะทอแสงแรงกล้าจนสว่างทั่วฟ้าและแผ่นดินเพียงใด ก็ไม่อาจเทียบได้กับพระฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้าและรัศมีเหล่าพระสาวกที่สาดส่องแผ่ไพศาลไปทั่วโดยรอบสุดขอบอนันตจักรวาล แม้กระทั่งส่องสว่างเข้าไปถึงข้างในหัวใจบุคคลอันมืดมิดในที่ซึ่งแสงจันทร์หรือแสงใดใดก็ไม่อาจส่องถึงได้ เมื่อพ่ออาจารย์ท่านอ้างเอารัศมีกาย รัศมีพระเศียร รัศมีพระสาวก มาประดิษฐานอยู่ที่องค์พระ อยู่ที่ตัวเรา อยู่เหนือเกล้าเหนือผมของผู้อาราธนาแล้ว ท่านว่าแม้ไปที่ใดผู้คนที่พบหน้าค่าตาเราก็ย่อมรู้สึกประทับใจสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นอ่อนโยนที่แผ่ออกมาจากจิตวิญญาณของเรา ราวกับเขามองพระจันทร์วันเพ็ญที่กำลังทอแสงนวลตาสว่างรุ่งเรืองอยู่กลางหาว ดึงดูดสายตา ดึงดูดความรู้สึก อยู่ใกล้ก็เย็นอกเย็นใจสบายใจ อยู่ไกลก็รู้สึกคิดถึง อยากเห็น อยากมองด้วยคุณวิชา

    ท่านว่าจันทร์ลอยของเรานี้ดีทุกด้านใช้ได้ทุกทาง เมื่อทำเสร็จท่านก็นำมาอธิษฐานจิตด้วยวิชาจันทร์เพ็ญอันเป็นวิชาของท้าวมหาพรหมกำกับซ้ำอีกหลายวาระท่านทำให้อย่างบริสุทธิ์ทั้งกายวาจาใจ

    พระผงจันทร์ลอยที่พ่ออาจารย์ท่านทำให้ด้วยคุณวิชานี้ ท่านว่านอกจากตั้งใจทำให้ยิ่งใหญ่เหนือดวงแล้ว ยังเน้นเรื่องการชนะ ชนะในการพนัน ด้วยท่านถือว่าสมัยนี้เป็นยุคแห่งการแข่งขัน การดำรงค์ชีวิตอยู่ก็เหมือนเกมการพนันด้วยชีวิต ด้วยสติปัญญา อันมีครอบครัวและชีวิตตนเป็นเดิมพัน ท่านว่าคนเขาต้องทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัวมากกว่าหนึ่งปากท้อง ดังนั้นเกมชีวิตจึงนับเป็นการพนันที่ยิ่งใหญ่ เป็นการพนันที่มนุษย์เราต้องชนะพรหมลิขิต ต้องอยู่เหนือผู้ลิขิตชะตาให้ได้ ไม่เช่นนั้นทำสิ่งใดก็จะล้มเหลวไม่เกิดผลดีเลย ทั้งนี้ พระผงนี้ตกอยู่กับใครก็ถือว่าเป็นบุญ ได้อยู่กับใครก็ทำให้เขาดีทุกอย่าง พนันอะไรก็ชนะได้ง่ายดุจเขาถวายหัวให้แต่เริ่ม ก้าวหน้าเจริญสำเร็จสมหวัง หามลทินมิได้ รุ่งเรืองที่สุด เหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ ไม่รู้จักตก ไม่รู้จักต่ำ ไม่รู้จักยาก ไม่รู้จักจน เจริญขึ้นตามแต่จะอธิฐานเอา ถ้าใช้เป็นเสน่ห์มหานิยม คนจะหลงรักได้ง่าย เป็นเมตตามาก เพราะหน้าเราดังพระจันทร์รูปงาม ใครจ้องมองตามก็ติดอกติดใจ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ใช้กันให้ดี เพราะเมื่อสร้างเสร็จท่านได้ลองนำไปให้คนบูชามาแล้วห้าคน คนกลุ่มนี้ก็ได้มีประสบการณ์เรื่องเมตตาค้าขายหลังจากนนำไปใช้ เขาว่าใช้แล้วเรื่องเงินๆทองๆไม่ขาดมือมีเข้ามาทั้งทางตรงกับทางอ้อม(ทางตรงคืออาชีพ ทางอ้อมก็คือการพนันเสี่ยงดวง) พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ทำให้คนสำเร็จมาก ร่ำรวยมาก รุ่งเรืองถึงที่สุด ขนาดเด็กวิ่งส่งของในบ่อนยังกลายเป็นเศรษฐีใหญ่ได้ หรือแม้คนต้องโทษประหารยังรอดออกจากคุกได้อย่างปาฏิหาริย์ ถึงขนาดแม้เป็นเด็กวัดไม่มีจะกินยังรุ่งเรืองเป็นรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง

    คาถาบูชา
    จันโทอะภะกันตะโรปิติ ปิโยเทวะมนุสสานัง อิตถีโยปุริโส มะอะอุ อุมะอะ อิสวาสุ อิกะวิติ

    พระผงพ่ออาจารย์ท่านว่านี้ท่านทำด้วยผงคุณวิชา เป็นของศักดิ์สิทธิ์ด้วยวิชาเฉพาะทางมีเจ้าของทุกองค์ ***แม้ชีวิตคนผู้ใดถ้ารู้ว่าตัวเองยังไม่เต็ม ยังบกพร่องอยู่ ก็ให้อาราธนาองค์พระสององค์มัดประกบกันไว้ถือเคล็ดคู่สมพงษ์ อธิษฐานตอนมัดให้เติมเต็มความสมบูรณ์ทุกสิ่งท่านว่าที่ขาดมันจะเต็มรวดเร็วนัก ในส่วนองค์พระที่มัดไว้ให้อาราธนาไว้ที่พระพุทธรูปองค์ประธานที่เราหราบไหว้บูชาแลหมั่นสวดบูชาดวงชะตาก็ได้ หรือจะอาราธนาไว้ติดตัวเป็นมงคลชีวิตให้เกิดอิทธิคุณทั้งหลายก็ได้

    ร่วมทำบุญบูชา จันทร์ลอยมหาชัย ชนะพนัน เหนือดวง (ท้าวกบิลพรหมถวายหัว) บูชา 800 บาท

    37087315_2241696149450127_6673654294878617600_n.jpg 37055970_2241696202783455_9029489868719259648_n.jpg
    37003641_2241696176116791_4827911319401267200_n.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ EV 0225 4286 0 TH

    พี่นวรัตน์ EV 0225 4287 3 TH
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    กาลครั้งหนึ่ง มนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีฤทธิ์ใดๆได้ชนะพนันท้าวมหาพรหม ชัยชนะในครั้งนั้นแม้แต่มหาพรหมยังต้องตัดศรีษะเป็นเครื่องบูชา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเหตุการณ์เช่นนี้เป็นกรณีพิเศษเป็นชัยชนะยิ่งใหญ่ของมนุษย์อันไม่เคยมีปรากฏมาก่อน

    * จันทร์ลอยรุ่นนี้ลึกๆแล้วมีดีอะไรมากกว่าการทำพระผงจันทร์ลอยปกติ ใครชอบเรื่องเสี่ยงดวงหรือการพนัน ควรจะมีไว้บูชา


     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    วันนี้ติดงานศพ พรุ่งนี้ค่อยมาติดตามพูดคุยกันต่อนะครับ;)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2018
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พูดคุยรอบเช้า
    อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ก็จะยกบทความมาให้อ่านเล่นๆเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องผีนะครับ ว่ามีกี่ลักษณะ ซึ่งจากที่อ่านคร่าวๆก็ไม่ได้จำแนกไว้ครอบคลุมทั้งหมด เพราะหากจะจำแนกออกทั้งหมด บทความคงจะยาวมากจริงๆ

    คําว่า "ผี" คือ สิ่งที่มนุษย์เชื่อว่าเป็นสภาพลึกลับ มองไม่เห็นตัว แต่อาจจะปรากฏเหมือนมีตัวตนได้ อาจให้คุณหรือโทษได้ มีทั้งดีและเลว หรืออาจหมายถึง คนที่ตายไปแล้ว หรือเทวดาก็ได้ ส่วน "วิญญาณ" หมายถึง สิ่งที่เชื่อกันว่ามีอยู่ในกายเมื่อมีชีวิต เมื่อตายจะออกจากกายล่องลอยไปหาที่เกิดใหม่

    ด้วยเหตุที่ผีเป็นสิ่งที่ยากจะบอกได้ถึงรูปพรรณสัณฐานที่แน่นอน มีความลึกลับ ขึ้นกับความเชื่อ จึงมักถูกหยิบยกมาขู่เด็กอยู่เสมอ จนทำให้บางคนแม้โตเป็นผู้ใหญ่แล้วความรู้สึกกลัวผีก็ยังมีอยู่

    หนังละครหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นของไทย หรือต่างประเทศ ต่างก็สร้างสรรค์ผีออกมาในรูปแบบต่างๆ มีทั้งแนวตลกขบขัน แนวสยองขวัญน่ากลัว หรือแม้แต่แนวรักโรแมนติก อย่างไรก็ดีผีที่เราเห็นในหนังหรือละครนับว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของผีทั้งหลายที่ยังมีอีกหลากหลายในไทย โดยทั่วไปคนไทยแต่เดิมได้แบ่งผีออกเป็นประเภทใหญ่ๆ คือ

    1.ผีฟ้า ได้แก่ ผีที่อยู่บนฟ้า ซึ่งต่อมาเมื่อเรารับความเชื่อเรื่องนรกสวรรค์มาจากพุทธศาสนา คนไทยภาคกลางจึงเรียกผีที่อยู่บนฟ้าว่า "เทวดา" หรือ "เทพ"

    2.ผีคนตาย ได้แก่ ผีที่เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของคนที่ตายไปแล้ว ผีชนิดนี้มีทั้งผีดีและผีไม่ดี ซึ่งผีดีที่คนนับถือยังแบ่งย่อยเป็นอีก 3 ระดับ คือ

    - ผีเรือน เป็นผีประจำครอบครัว ผีบรรพบุรุษ หรือผีปู่ย่าตายายพ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว แต่ยังสถิตอยู่ในบ้านเรือน เพื่อคอยคุ้มครองและดูแลช่วยเหลือลูกหลาน และลูกหลานจะต้องเซ่นสรวงตามโอกาสอันสมควร

    - ผีบ้าน คือ ผีประจำหมู่บ้าน ได้แก่ ผีที่คอยคุ้มครองและให้ความอนุเคราะห์ แก่คนในหมู่บ้าน ซึ่งแต่ละหมู่บ้าน มักจะมีสถานที่สำหรับทำพิธีบูชาบวงสรวง

    - ผีเมือง หรือบางแห่งเรียก เสื้อเมือง ได้แก่ วิญญาณของเจ้าเมืององค์ก่อนๆ หรือวีรบุรุษของกลุ่มชน คอยคุ้มครองและให้ความอนุเคราะห์ดูแลคนทั้งเมืองหรือรัฐ มักมีการสร้างศาลให้เป็นที่สถิต

    3.ผีไม่ปรากฏรายละเอียดในด้านความเป็นมา ได้แก่ ผีที่ประจำอยู่กับสิ่งต่างๆ ที่มีในธรรมชาติ เช่น ผีป่า ผีเขา ผีน้ำ ผีประจำต้นไม้ เป็นต้น ผีดังกล่าวให้คุณและโทษได้ จึงต้องเซ่นสรวงให้ถูกวิธี โดยเฉพาะเมื่อต้องการความช่วยเหลือหรือขออนุญาตใช้ประโยชน์

    ทั้งหมดที่กล่าวข้างต้น แม้จะเป็นเพียงบางส่วนของเรื่องผีๆ แต่เชื่อว่าคงจะทำให้ท่านได้รู้จัก "ผีของไทย" มากยิ่งขึ้น

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มีเล่าประสบการณ์จิ้งจกกันมาแล้ว ส่วนแมงมุมกับพ่องั่งนี่เล่าเข้ามากันทุกวันเจอทั้งความฝันและแบบคาตา บางคนเจอชายแก่ชุดขาวในฝัน บางคนเจอแบบหางตาเผลอมองไปเห็น เจอแมงมุมตัวสีขาวก็มี เจอแมงมุมตัวเขียวในฝันเกาะช่วงด้านบนหัวก็มี...

    ในส่วนของใครที่โชคดีได้บูชาไปก็อย่านำไปเก็บนะครับ นำมาอาราธนาลองใช้ดู โดยเฉพาะจิ้งจกพ่ออาจารย์ท่านว่าดีมาก ยุคเศรษฐกิจเงียบๆแบบนี้มีคนบอกว่าได้จิ้งจกไปจากที่เงียบไม่รู้งานมาจากไหน ทำกันแทบไม่ทัน
    ;)
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มีคำถามน่าสนใจเข้ามาด้วย ใครจะพูดคุยอะไรก็ฝาก PM ไว้นะครับ
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มีแต่คนถามหาแมงมุมกัน แจ้งตรงนี้นะครับว่าไม่มีให้จองแล้วจ้า:(
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พูดคุยยามเช้า

    อรุณสวัสดิ์ครับ จากที่เคยพูดไว้นานเป็นปีๆแล้วเกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์ ว่าไสยศาสตร์ของแขกหรือของอิสลามนี่เขาแรงจริงๆนะ แรงกว่ารากเหง้าของเราที่เป็นของเขมรด้วยซ้ำ พ่ออาจารย์ท่านว่าความแรงจะต่างกันมาก วันนี้ก็เลยจะยกบทความเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาให้อ่านกันเล่นๆ

    ไสยศาสตร์อิสลาม, ใครว่าไสยศาสตร์เป็นเรื่องต้องห้ามในอิสลาม

    แต่มุสลิมหลายคนกล่าวว่าไม่เกี่ยวข้องกับอิสลาม แต่อัลกุรอ่านได้อธิบายสิ่งนี้ไว้ นั่นคือเรื่องไสยศาสตร์ มันก็ต้องเกี่ยวข้องกับอิสลามโดยเฉพาะความเชื่อว่าไสยศาสตร์มีจริงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    “1.และพวกเขาได้ปฏิบัติตามสิ่งที่บรรดาชัยฏอนในสมัยสุลัยมานอ่านให้ฟัง และสุลัยมานไม่ได้ปฏิเสธความศรัทธา แต่ทว่า2.ชัยฏอนเหล่านั้นต่างหากที่ปฏิเสธความศรัทธาโดยการสอนไสยศาสตร์ให้แก่ผู้คนและ3.สิ่งที่ถูกประทานมาแก่มลาอิก๊ะฮฺทั้งสองคือฮารูตและมารูต ณ เมืองบาบิล และเขาทั้งสองจะไม่สอนผู้ใดจนกว่าจะกล่าวว่า “แท้จริง เราแค่เป็นผู้ทดสอบเท่านั้น ท่านจงอย่าปฏิเสธความศรัทธาเลย” แม้กระนั้น 4. ผู้คนก็ยังศึกษาจากเขาทั้งสอง 5.ซึ่งมันได้เป็นสาเหตุให้เกิดการแตกแยกระหว่างผู้ชายกับภรรยาของเขา และ6.พวกเขาไม่อาจใช้สิ่งนั้นทำอันตรายแก่ผู้ใดได้นอกจากด้วยการอนุมัติของอัลลอฮฺเท่านั้นและ7.พวกเขาก็เรียนสิ่งที่เป็นอันตรายต่อพวกเขาและมิได้เป็นคุณแก่พวกเขา และแน่นอน 8.พวกเขารู้ว่าใครก็ตามที่ซื้อมันจะไม่มีส่วนแห่งความดีใดในโลกหน้าและความชั่วคือราคาที่พวกเขาขายชีวิตของพวกเขาถ้าหากพวกเขารู้” (กุรอาน 2:103)

    อธิบายได้ดังนี้
    1. สุลัยมานได้รับไสยศาสตร์มาจากมลาอิกะห์ หรือเทวทูตสองท่านชื่อ ฮารูตและมารูต ซึ่งสุลัยมานยังคงเป็นมุสลิม (ไม่ปฏิเสธศรัทธา)
    2. ชัยฏอนก็ได้สอนไสยศาสตร์ให้แก่ผู้คน โดยที่มาจากแหล่งเดียวกันคือ เทวทูตสองท่านนั้น
    3. อัลลอฮ์ให้มลาอิกะห์นำไสยศาสตร์ลงมาแก่สุลัยมาน รวมถึงคนอื่น ๆ เพื่อการทดสอบไม่ใช่การใช้งาน
    4. นอกจากมลาอิกะห์สอนสุลัยมาน มลาอิกะห์สองท่านนั้นยังสอนคนอื่นอีกด้วย ไม่ใช่แค่ชัยฏอน
    5. ผลของไสยศาสตร์ทำให้สามีภรรยาแตกแยกกัน (การทำเสน่ห์หรือเปล่า)
    6. ไสยศาสตร์ทำอันตรายกับผู้ใดก็ได้ หากอัลลอฮ์อนุญาต
    7. ไสยศาสตร์เป็นอันตรายกับตัวผู้เรียนด้วย และไม่มีคุณค่าใด
    8. ราคาของไสยศาสตร์คือความความดีที่เสียไป

    ถามว่า
    ๑. ความพิเศษของสุลัยมานคือ สามารถติดต่อกับสิ่งมีชีวิตชนิดพิเศษอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "ญิน" และสามารถใช้งานพวกมันได้ ไสยศาสตร์คือวิธีติดต่อและใช้งานพวกมันใช่หรือไม่ และการที่ชัยฏอนได้ยินวิธีการนี้และนำไปเผยแพร่ให้คนอื่น ๆ ก็เพราะพวกมันเป็นญิน

    ๒. ไสยศาสตร์ของสุลัยมานตกทอดมาถึงปัจจุบันหรือไม่

    ๓. หากไสยศาสตร์ของสุลัยมานตกทอดมา ก็ต้องมี เพื่อการทดสอบ และใช้งานจริง ตรงนี้ตัดสินอย่างไร

    ๔. อัลลอฮ์เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์ เพราะไสยศาสตร์จะสำเร็จหรือไม่มันต้องผ่านการอนุมัติใช่หรือไม่

    เป็นการพิสูจว่าอิสลามกับไสยศาสตร์เป็นของคู่กันไม่ใช้สิ่งต้องห้ามอันใดและเป็นการพิสูทจ์ว่า ไสยศาสตร์ ปัญญา และชีวิตเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้เพียงแต่ว่าให้ใช้ไปทางขาวหากจะใช้ไปทางมืดต้องขออนุญาติต่อพระอัลลอห์ก่อน

    พูดถึงไสยศาสตร์มุสลิม ทำให้ผมนึกถึงเรื่องข้างบ้านผมแต่ก่อนมีพ่อค้าผ้าไหมและนมชื่ออารยา ผู้ร่ำรวยแกเป็นหมอไสยศาสตร์มุสลิมแกเชี่ยวชาญทั้งไสยเวท การเพ่งกสิณแบบอิสลามได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ถ้าของพุทธจะมี 10 แต่อิสลามรู้สึกจะมี 4 แต่แถวบ้านผมนี้สิไม่ธรรมดาเลย เพราะฝั่งซ้ายเป็นจอมไสยเวทที่จบมาจากเขมรชื่อสมหมาย ส่วนอากุลยออยุ่ฝั่งขวาส่วนผมอยู่ตรงกลางอย่าเข้าใจผิดเป็นสนามมวยลุมพินีล่ะ รู้สึกว่าอาสมหมายไม่ค่อยถูกกับอาอารยา เพราะแกไม่ค่อยถูกกับคุณไสยอิสลาม

    เท่าที่ผมรู้ๆมาว่าคุณไสยอิสลามมักชนะคุณไสยเขมรอยู่เรื่อยทำให้สองบ้านนี้เป็นปรปักษ์กันทั้งที่อาอารยาไม่อยากจะมีปัญหากับใครแต่ไม่อาจพ้นและผมก็พลอยติดร่างแห(ซวยจริงๆ) เพราะคุณอาทั้ง 2 แกสาดไสยเวทกันดังโครมครามไอ้ผมหรือไม่เป็นอันหลับอันนอนมีทั้งกรีดร้อง เสียงหัวเราะที่สยดสยอง เสียงเสือ เสียงวัว เสียงควาย เสียงต่อเสียงแตน เสียงลม เสียงฟ้าผ่า โอ้ยจะบ้าตายไปๆมาๆ จนผมต้องย้ายออกจากที่นั้นไม่ไหวแล้ว เห็นได้ยินข่าวมาหลังจากย้ายมาแล้ว อาสมหมายเสียชีวิตแล้ว ผมคงรู้อยู่แล้วว่าแกตายเพราะอะไร

    อาอารยานอกจากแกจะเก่งแล้ว แกยังมีลูกสาวสวยชื่อน้องมาฮาน สวยมากเลยครับแค่เห็นหน้าก็รู้เคยเลือบไปเห็นน้องเขาตอนอยุ่ในบ้านไม่ได้คลุมโอ้แม่เจ้าสวยมากๆ และบังเอิญแถวบ้านผมมันมีกุ๊ย3ตัวชอบมายอกล้อแซวน้องมาฮาน อาอารยาแกเลยสังคยานาปล่อยหุ่นไม้ผีสิงที่ผมเรียกว่าตุ๊กตาสะกดวิญญาณปล่อยมาหลอกไอ้ 3 กุ๊ยหนีหายไปเลย

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พอดีมีส่งของแล้วติดฝากเลี่ยมด้วย และผมก็ติดงานศพด้วยช่วงนี้ เดี๋ยวคนที่โอนไว้ผมส่งให้พรุ่งนี้ทีเดียวนะครับ
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    มีฝากคำถามเข้ามาเกี่ยวกะเรื่องโดนของพวกแขกด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้จะทยอยตอบให้นะครับ ;)
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่วิชัย EV 0224 8551 3 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ EV 0224 8552 7 TH

    พี่สุรวุฒิ EV 0224 8553 5 TH

    พี่ศิระ EV 0224 8554 4 TH

    พี่ก้องเกียรติ EV 0224 8555 8 TH
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    ท้าวเวสสุวรรณ

    อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ก็มาเริ่มพูดคุยกันโดยยกบทความของท้าวเวสมาให้อ่านก่อนจะลงรายละเอียดพูดคุยกันนะครับ

    “ท้าวเวสสุวรรณ” หรือ “ท้าวกุเวร” ที่เราๆท่านๆ จะเห็นว่าเป็นเทพหรือยักษ์อยู่ตามวัดวาอารามต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณซุ้มประตูทางเข้าวัดยืนตระหง่านเด่นดูสง่าน่าเกรงขาม ความเชื่อที่มีต่อท้าวเวสสุวรรณนั้น...เป็นถึงหนึ่งในท้าวจตุมหาราชผู้ครองสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา แล้วก็ยังมีชื่อเรียกอื่นอีกว่า “ธนบดี” ซึ่งหมายถึง ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ธเนศวร ผู้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์ ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งยักษ์, มยุราช...เจ้าแห่งกินนร, อิจฉาวสุ...ความมั่งมีได้ตามใจ, รากษเสนทร์...ผู้เป็นใหญ่ในพวกรากษส, ท้าวกุเรปัน ฯลฯ

    หนึ่งในตำนานอดีตชาติของท้าวกุเวร...พราหมณ์ผู้หนึ่งชื่อว่า “กุเวร” เป็นคนใจดีมีเมตตา ทำไร่อ้อยแล้วเอามาหีบทำน้ำอ้อยขายยึดอาชีพสุจริตเป็นนิจสิน ทำไปเรื่อยๆกิจการรุ่งเรืองเป็นเจ้าของหีบยนต์บีบอ้อย 7 เครื่อง จึงสร้างบ้านพักสำหรับคนเดินทาง บริจาคน้ำอ้อยให้เป็นทานแก่ผู้คนที่ผ่านไปมาตลอดทั้งชีวิต ด้วยอำนาจกุศลผลบุญที่พราหมณ์กุเวรได้ทำ หนุนนำให้ไปเกิดเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกานามว่า “กุเวรเทพบุตร” ต่อมาได้รับการเทวาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นผู้ดูแลพระนครสวรรค์ชั้นที่ 1 ด้านทิศเหนือ และได้พระนามใหม่ว่า “ท้าวเวสสุวรรณ”

    กล่าวกันว่า...“คทาวุธ” ของท้าวเวสสุวรรณนั้นถือเป็นยอดแห่งศัสตราวุธที่มีอานุภาพมหาศาลยิ่งนัก สามารถทำลายโลกใบนี้ได้เป็นจุณในพริบตาเลยทีเดียว

    จะเห็นได้ว่า...ตามวัดวาอารามต่างๆหน้าโบสถ์ วิหารจะมีท้าวเวสสุวรรณยืนเฝ้าตระหง่าน ด้วยเชื่อกันว่าจะคอยปกป้องสมบัติล้ำค่า ของมีค่าโบราณ และอีกนัยหนึ่งก็แฝงไปด้วยหน้าที่เป็นเทพผู้ที่ทำหน้าที่คอยพิทักษ์ รักษาพระพุทธศาสนาสืบต่อไปตราบนานเท่านาน

    เล่าสืบๆต่อๆกันมาด้วยว่า...อาณาเขตที่ท้าวเวสสุวรรณมีพื้นที่ปกครองนั้นกว้างใหญ่ไพศาลเหลือคณานับ อีกทั้งยังมีหน้าที่เป็นหัวหน้าท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4...นี่เองกระมังที่ผู้คนมีความเชื่อศรัทธากันมากว่าการบูชาท้าวเวสสุวรรณนั้นจะช่วยขับไล่ภูตผีปีศาจไปได้

    “ท้าวเวสสุวรรณ” เป็นอีกหนึ่งเครื่องรางของขลังกันวิญญาณร้ายได้เป็นอย่างดี
    ด้วยเป็นเทพแห่งอสูร แต่โบราณนานมาแล้วจึงทำรูปท้าวเวสสุวรรณอยู่ในรูปของยักษ์ ยืนถือกระบองยาวหรือไม้เท้าขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางระหว่างขา
    บางตำราโบราณก็ว่า...ที่จริงแล้วท้าวเวสสุวรรณนั้นเป็นยักษ์ที่มีผิวกาย พัสตราภรณ์เป็นสีทองเหลืองงามอร่ามนัก ที่สำคัญมีจิตใจดีงามแตกต่างจากหน้าตาที่ดูน่ากลัว
    ดำรงตนอยู่ในศีลในธรรม พร้อมที่จะอุทิศรักษาพระพุทธศาสนา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่ยิ่ง กล่าวกันว่า...ยังทำหน้าที่จดรายละเอียดความดีงามของผู้คนไปประกาศให้เทวดาในสวรรค์ชั้นฟ้ารับรู้อีกด้วย
    โดยเฉพาะในเรื่องการเป็นเทพเจ้าแห่งขุมทรัพย์ นัยว่า “ท้าวเวสสุวรรณ” นั้นเป็นมหาเทพแห่งความร่ำรวย มั่งคั่ง ผู้เป็นเทพที่รักษาสมบัติของเทวโลก อีกทั้งยังมีอำนาจปกครองดูแลยักษ์ ภูตผีปีศาจทั้งหลาย ท้าวเวสสุวรรณจึงถือได้ว่ามีพลังอำนาจบารมีมากยิ่ง
    คัมภีร์เทวภูมิ กล่าวย้ำศรัทธายิ่งใหญ่ด้วย “ท้าวเวสสุวรรณ” ได้บำเพ็ญเพียรบารมีมานานหลายพันปี รับพรจากพระอิศวร พระพรหม ให้เป็นเทพแห่งความร่ำรวย คัมภีร์โบราณจึงมีบันทึกไว้ว่า...ผู้ใดหากมีหวังตั้งประสงค์อยากที่จะมีความเจริญในด้านลาภยศ สรรเสริญ ทรัพย์สินเงินทอง กระทั่งอำนาจวาสนาแล้วล่ะก็...ให้ไปหาบูชา“ท้าวเวสสุวรรณ” หรือ “ท้าวกุเวร”
    ต้องย้ำกันจริงๆอีกครั้งว่า...ผู้คนไม่น้อยเชื่อศรัทธากันว่า เมื่อบูชาท้าวเวสสุวรรณแล้ว จักได้รับความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ตัวอย่างไม่ขาด ทั้ง....ลาภยศ สรรเสริญ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนาบารมีที่แม้เกิดขึ้นได้ยากยิ่งก็จักมีเข้ามาในชีวิตได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    1438191362-4943333dc2-o.jpg

     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่รังสรรค์ EV 0225 4782 2 TH

    พี่ปกรณ์เกียรติ EV 0225 4783 6 TH

    พี่พชร EV 0225 4784 0 TH
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,106
    ค่าพลัง:
    +16,530
    พูดคุยยามเย็น

    เกี่ยวกะเรื่องโดนของพวกแขกที่ถามกันมาว่ามีอะไรพอจะกันหรือแก้ได้มั๊ย บวกกับคำถามเรื่องท้าวเวสสุวรรณ ก็ต้องเกริ่นคร่าวๆก่อนว่าตอนนี้คนที่รอให้ติดตามดีๆนะครับ บอกได้คำเดียวว่ามีเฮแน่ๆ

    เพราะท้าวเวสที่เราเห็นส่วนใหญ่จะทำกันเป็นหน้ายักษ์ มักจะมีฤทธิ์ทางป้องกันภูติผีและคุณไสย แต่ของพ่ออาจารย์นั้นถ้ายังจำกันได้สมัยท่านทำพ่อยักษ์แดง(ท้าวเวส) ปรากฏว่าเป็นท้าวเวสที่ให้คุณด้านเสน่ห์หนักมาก หนักชนิดน่าตกใจและนำด้านอื่นๆไกลลิบจนอาจารย์บางท่าน สมภารเจ้าวัดบางรูปที่ชำนาญการเสกท้าวเวสถึงกับออกปากว่าไม่เคยเห็นใครเชิญบารมีท่านลงมาแบบนี้ คนที่ใช้บางคนเขาว่าได้หลายเมียก็มี ซึ่งปกติแล้วพุทธคุณของท้าวเวสจะไม่เป็นเช่นนั้น

    หลังจากนั้นก็มีคนถามหาท้าวเวสของพ่ออาจารย์ท่านมาตลอดชนิดข้ามปี ถามมาทุกเดือน รอให้ท่านทำ ท่านออก ก็ติดตามกันมาเรื่อยๆเพราะเชื่อมั่นกันว่าท้าวเวสของท่านนั้นต้องมีอะไรแปลกๆและเป็นมากกว่าท้าวเวสที่เคยๆบูชากันมา

    บอกได้คำเดียวสั้นๆว่าท่านมีดำริมานานและทำมานานแล้ว แต่ต้องเก็บเงียบไว้รอปัจจัยหลายๆอย่าง เมื่อพิจารณาว่าสมควรแล้ว ถึงกาล ถึงวาระ คนที่วาสนาถึงพร้อมมีอยู่แล้วจึงจะเปิดให้ได้ครอบครองกัน โดยทั้งนี้ท่านใช้วิชาพิเศษของพราหมณ์ทมิฬซึ่งเป็นวิชาชั้นสูงและพิเศษมากๆว่าด้วยศาสตร์เฉพาะขององค์ท้าวเวสสุวรรณที่สืบทอดกันอย่างลึกลับในเหล่าสาวกมานานนับพันปีโดยตรงมาทำ ท่านว่าเป็นวิชาของแขกพราหมณ์ฮินดูเน้นความแรงอย่างมากทั้งในด้านพลังงานและการส่งผลต่อผู้บูชา

    * เมื่อได้ชื่อว่าเป็นวิชาเฉพาะทางแห่งมหาราชผู้เป็นอธิบดีหรือหัวหน้าในจอมเทพจตุโลกบาลย่อมไม่ไร้สาระอย่างแน่นอน วิชาอะไรทำไมถึงถ่ายทอดเป็นการลับ สืบทอดเฉพาะในหมู่สาวกและผู้ศรัทธา ทำไมบูรพาจารย์จึงหวงแหนมาเนิ่นนานนับโคตรชั่วอายุคน ติดตามพูดคุยกันให้ดีว่านอกจากปราบผีแล้ว ท้าวเวสตำรับพราหมณ์โบราณนั้นจะดีอย่างไร ใครที่ถามกันมานับปีถ้าพลาดหนนี้คงต้องนับไปอีกหลายๆปีแต่พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านจะไม่ทำวิชาตำรับนี้แล้ว เพราะถือเสียว่าทำบูชาครูหนเดียวก็เกินพอ

    image.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...