ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จสิทธิพระที่นั่งมหาบัลลังก์(ปรารถนาเป็นหนึ่งกุณฑธานเถระ) พ่ออาจารย์พล

ร่วมทำบุญบูชา สีผึ้งเขียวชีวะธาตุตัดกลียุค,ลบกำเนิดกรรม,ล้างผิด(ตลับเชื้อเพลิง)

"แต่ก่อนวาสนาบารมีฉันไม่ถึงแค่คิดจะทำยังไม่ได้เลย"

เพราะสีผึ้งเขียวนั้นคือการสร้างสีผึ้งที่รวมทุกสรรพศาสตร์อันเกิดขึ้นได้ยากที่สุด..และมีปาฏิหาริย์มากที่สุด ท่านว่าแต่ก่อนนะจะด้วยวาสนายังไม่ถึงประจวบกับเวลายังไม่สมควรครูเทพครูพรหมท่านจึงให้ระงับไว้ก่อน..แต่ก็ต้องค่อยๆสะสมมวลสารว่านยาทั้งหลายตามที่ครูท่านสั่งให้หาด้วยหากทำสำเร็จแล้วจะเกิดยอดของวิเศษอันมีคุณ "แรงจนเกินจะใช้" สิ่งหนึ่งขั้นมาในโลก
- พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งเขียวของฉันไม่ใช่สร้างมาเพื่อให้ใช้ทางกุศลเท่านั้น มันง่ายดายเกินไปเพราะสิ่งนี้เขามีชีวิตและครอบคลุมเรื่องโลกียะ(ความสุขทุกสรรพสิ่งของชีวิต)ไว้ทั้งหมด
- สีผึ้งเขียวชุดนี้แม้เพียงพกพาไม่ต้องเปิดฝาตลับก็มีอำนาจครอบคลุมทั้งคน,ทั้งผี,ทั้งเทพ,ทั้งพรหมในสามโลกเมตตาเอ็นดู
### สีผึ้งชุดนี้เหมาะกับคนที่ชอบของวิเศษอย่างแรง..สะท้าน..สะเทือนสิบทิศทุกภพภูมิโดยเฉพาะ จะได้เติมเต็มให้ชีวิตตนนั้นเกิดอภินิหาริย์มีประสบการณ์สัมผัสความศักดิ์สิทธิ์อันน่าพิศวง..เติมเต็มความทะยานอยากในอารมณ์..เติมเต็มในความอยากได้ใคร่ดี...เติมเต็มในสิ่งที่ไม่อยากได้ไม่อยากมี

อาถรรพ์สีผึ้งเขียวชีวะธาตุ
ด้วยโลกหล้านั้นบุคคลที่มาสว่างไปมืดก็ปรากฏอยู่เสมอไป ทั้งธรรมะและอธรรมต่อต้านกันบ้างกลมกลืนกันบ้างคละเคล้าไปกับชีวิตคน แม้นจะมีเครื่องมงคลหรือวัตถุมงคลอันทรงคุณของครูบาอาจารย์ที่กระทำด้วยพุทธคุณและเทวคุณให้พึ่งพา...แต่ก็ยังมีคนที่หลงใหลไปกับคุณไสยฝ่ายต่ำอยู่ร่ำไป..ซึ่งศาสตร์เหล่านี้เป็นอันตรายทั้งกับตนเองและผู้อื่น อันตรายที่เกิดจากกระดูกผีพรายบ้าง,เกิดจากคุณผีบ้าง,เกิดจากคุณไสยบ้าง,เกิดจากยาสั่งบ้าง,เกิดจากคุณคนกระทำบ้าง,เกิดจากวัตุอาถรรพ์จำพวกผงพรายน้ำมันพรายบ้าง...สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายทั้งกับตนเองและผู้อื่นบางคราอาจคิดว่าเป็นปัจจัยที่ไม่รบกวนเราเพราะเราไม่เข้าไปยุ่งกับมัน...ตรงกันข้ามถ้ามีคนใช้มันมายุ่งกับเราล่ะ..ถ้าแม้แต่เค้าใช้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ล่ะเช่นนี้มันย่อมใกล้ตัวเรามากกว่าที่เราเข้าใจได้

### วิธีใช้ฉุกเฉิน
- สีผึ้งเขียวนี้แก้อาถรรพ์คนที่โดนสัมผัสโดนทาด้วยน้ำมันพราย หากทาสีผึ้งซึมเข้าร่างเขาจะไปช่วยขับสิ่งปฏิกูลแปลกปลอมออกมา
- สีผึ้งเขียวนี้แก้อาถรรพ์ลมเพลมพัดอันถูกปล่อยมาให้ผู้รับถูกลูกหลงรับเคราะห์ปัจจุบันทับกรรมในอดีตทำให้ดวงตก ผู้ที่ทาหรือจุณเจิมสีผึ้งเขียวจะมีเกราะป้องกันลมเพลมพัดเหล่านั้น
- สีผึ้งเขียวนี้มีอาถรรพ์สามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้
- สีผึ้งเขียวนี้แก้อาถรรพ์ตะกอนเศษเคราะห์เศษกรรมในร่างกายได้ เพียงทาริมฝีปากเล็กน้อยเม้มปากเป็นครั้งคราวให้สีผึ้งสัมผัสน้ำลาย
- สีผึ้งเขียวนี้แก้อัปมงคลซึ่งทำให้ชีวิตตกต่ำโงหัวไม่ขึ้นได้ เพียงนำสีผึ้งเล็กน้อยแต้มหน้าผากลากขึ้นยาวไปถึงกึ่งกลางศรีษะ
- สีผึ้งเขียวนี้เป็นอาถรรพ์พิเศษยิ่งเจิมทาถมทับวาสนาบารมีผู้ใช้ให้ร่ำรวยยิ่งๆขึ้นไป
- สีผึ้งเขียวนี้มีอาถรรพ์พิเศษแม้นพกพาไว้ยังรวบรวมความสมบูรณ์แห่งจตุปัจจัยอันจำเป็นในการใช้ชีวิตมนุษย์
- สีผึ้งเขียวนี้มีอาถรรพ์ยิ่งสะสมเรื่อยๆค่อยเป็นค่อยไปในร่างกายผู้ใช้ย่อมมีอายุยืนนาน
- สีผึ้งเขียวนี้แม้ผู้ใดรักษาไว้ติดกายก็ดีหรือใชทาใช้กินก็ดีๆจะสิ้นอายุไปตามธรรมชาติไม่ตายก่อนชะตาฟ้าลิขิต
- สีผึ้งเขียวนี้หากนำไปเจิมในแผ่นดวงชะตาตนเอง(แผ่นดวงตามร้านสังฆภัณฑ์)เอามาลงดวงตนเองแล้วนำสีผึ้งเจิมไว้ จะได้ชื่อว่าหนุนดวงชะตาอย่างวิเศษตราบใดที่แผ่นดวงไม่ละลายชะตาจะไม่ตกเลย

### วิธีใช้ทั่วไป
แม้ใช้ตามกรรมวิธีปกติ ไม่ได้ใช้ไปกับการแก้อาถรรพ์พิเศษต่างๆหวังให้คุณพระรักษาเป็นพลังทางเมตตาอย่างที่สุดก้ได้
- แตะหน้าผากจุณเจิมนึกถึงพระรัตนไตร คุณพระพุทธ,พระธรรม,พระสงฆ์ย่อมรักษา
- แตะแก้มซ้ายขวาเกิดเมตตาแก่ชนทั้งผอง
- แตะปากพูดจาราบรื่นเกิดมหาลาภปากนำพา
- แตะไหล่ซ้ายขวาพระอินทร์พระพรหมจะปกปักรักษา
- แตะกลางอกเป็นที่นิยมเอ็นดูทั่วไป
- แตะสะดือจะเตะตาเป็นที่ชอบพอแก่ผู้สบตา
- แตะหลังฝ่าเท้าซ้ายขวาแล้วถือเคล็ดก้าวซ้ายก้าวขวาไปข้างหน้าก่อนครั้งหนึ่งย่อมเดินก้าวหน้าเข้าหาแต่ความสุขสำเร็จ
สีผึ้งเขียวชุดนี้ท่านว่าให้ใช้โดยไม่สงสัยไม่มีข้อกังขาเกาะตัวศรัทธามั่นข้อเดียว..จงปรารถนาในสิ่งประเสริฐเถิดแล้วชีวิตเธอจะประเสริฐเลิศมนุษย์แน่นอน พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งเขียวนี้มีอาถรรพ์มากใครพลาดโอกาสไปย่อมตายตาไม่หลับ..แต่ใครคว้าโอกาสไว้ย่อมหลับเป็นสุขเช่นคนมีอันจะกินเพราะโภคทรัพย์กับชีวิตย่อมเจริญรุ่งเรือง ### หากจะใช้ดักทรัพย์ให้เปิดฝากระปุกก่อนพระอาทิตย์ขึ้นว่าคาถาเกินอายุตัวเองไปหนึ่งจบ..พอตกเย็นพระอาทิตย์ลับแสงให้ว่าคาถาเกินอายุตนเองหนึ่งจบแล้วปิดฝาทรัพย์สมบัติย่อมเพิ่มมากเป็นทวีคูณ

ด้วยสีผึ้งเขียวชุดพิเศษนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสามารถใช้เรียกผู้คน..ข้าวของ..คำปรารถนา ..สิ่งที่ต้องการให้บังเกิดมีแก่เราได้ ดุจดั่งมีเทพพิทักษ์คอยช่วยเหลือเหมือนกับที่ท่านย้ำว่า "สีผึ้งฉันมีชีวิต" เขาจะคอยช่วยเหลือให้รอดพ้นยามที่เราลำบากหรืออยู่ในสถานการณ์ติดขัดทั้งยังอำนวยพรให้กลายเป็นเรื่องจริงเพราะมีญาณว่านยาทั้งพระไพรและรุกขเทวดามากมายสถิตย์อยู่ทุกอณู ท่านว่าสามารถขอพรได้ไม่จำกัดเลย
*** หากปรารถนาเกี่ยวกับคน(ให้ใช้วิธีจุดเทียนด้านล่าง) หากแต่ให้นำกระดาษมาเขียนชื่อสกุลเอาตลับสีผึ้งวางทับไว้ ทั้งนี้จะใช้เขียนความปรารถนาสำทับไว้ก็ยังได้ผลไวขึ้นกว่าการจุดเทียนปกติ สีผึ้งเขียวนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าหากนำไปใช้แล้วทำตามทุกวันเช้าเย็นอะไรที่ควรเป็นของเรา..อะไรที่ควรปรากฏแก่เรา..อะไรที่เราควรได้ควรมีย่อมจะปรากฏขึ้นในเร็ววัน จะได้รับสิ่งอันเสมอด้วยกำลังใจตนไม่ช้านานไม่มีอุปสรรค

### ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอุปสรรคทั้งหลายฉันรับมาเองหมดแล้วด้วยตั้งแต่จะสร้างสีผึ้งเขียวนี้ครูพรหมท่านให้บททดสอบหฤโหดทุกวิธีการเป็นมหาอุปสรรคใหญ่ตั้งแต่แสวงหามวลสารแต่ละชนิดท่านว่าแก้เคล็ดแก้เคราะห์กรรมก่อน..เพราะเมื่อสีผึ้งทำสำเร็จแล้วคนใช้จะไม่มีปัญหาอุปสรรคใดๆอีกเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าปรากฏการณ์เช่นนี้เป็นของวิเศษที่โกงฟ้าโกงดิน..โกงชะตาชีวิตคน..เมื่อปรากฏแล้วชีวิตจะสะดวกสบายทุกทาง
1. ปัญหาลิขิตฟ้า โดนกลั่นแกล้งด้วยชะตะฟ้า
2. ปัญหาบนพื้นพระธรณี โดนกระทำรังแกบนผืนแผ่นดิน
3. ปัญหาเจ้ากรรมนายเวร ที่บันดาลอุปสรรคขวางกั้น
พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งเขียวนี้หากพกไว้ติดตัวหรือจุณเจิมหน้าผากแต่เพียงน้อยปัญหานานัปการข้างต้นจะสงบระงับไป ด้วยคุณครูจะเข้าเสวยเคราะห์กรรมส่องสว่างชะตาชีวิตบันดาลโชคลาภให้พึงมีพึงได้

! ก็อย่าลืมเชียวล่ะสีผึ้งเขียวของฉันมันมีชีวิต..ที่อยากได้ก็ต้องได้..ที่อยากมีก็ต้องมี..ที่ไม่อยากให้เกิดก็จะไม่ได้เห็น ครูบรมพรหมท่านว่าให้ทำไว้หนหนึ่ง...เอาไว้ให้คนที่ศรัทธาฉัน(ครูพรหมนารท)เค้าใช้ดำรงค์เผ่าพันธุ์ความอุดมสมบูรณ์ของชาติตระกูล หากยังอยู่ในกามภพ(ตลับเดียวใช้ได้เจ็ดชั่วโคตร)จะมีคุณทางความสุขเสมอใจอย่างเอกอุ...ใครใช้กินใช้ทา..จะได้จับเงินล้านในเร็ววัน..การเงินไม่ขาดมือ..ทุนชีวิตคล่องตัวไม่มีสะดุด
- เอาสีผึ้งป้ายมือทั้งสองข้างแล้วนำมือเข้ามาถูๆกัน..จิตนึกถึง"เงิน"ตัวเดียวเท่านั้น ท่องไปเรื่อยๆจนกว่าจะพอใจว่า..นะพาเงินมาๆๆๆ จะเรียกเงินทองโชคลาภได้อย่างน่าอัศจรรย์ อยากให้เงินเข้าที่ไหน..จุดใด..บ้านใคร เอาสีผึ้งเขียวไปเจิมไว้หากจิตนิ่งแล้วบริกรรมนะพาเงินมาๆจะได้ทรัพย์เพิ่มนับเท่าทวีคูณไม่เพียงจะไหลเข้ามือหากแต่ยังไหลเข้าชีวิตในทุกช่องทาง

สีผึ้งเขียวชุดนี้หากจะเล่นทางรวยก็มีโชคลาภเพิ่มพูนไม่อับจน ### ดั่งครูพรหมท่านปกาศิตว่าลงถมท้องพระคลังจักรพรรดิเอาไว้ให้จะได้มีเงินกันคนละร้อยล้านพันล้าน..หมื่นล้าน ฉันให้เอาไว้เป็นทุนนะ เอาไว้เป็นเสบียงคลังตั้งตัวเป็นมรดกสืบทอดแก่ลูกหลานในภายภาคหน้า ถ้ามีปัญหาเรื่องทรัพย์ติดขัด..หาทรัพย์ไม่พอ ทำเท่านี้แล้วยังไม่ถึงใจเธอ ก็ให้เอาตลับสีผึ้งยกขึ้นหัวบอกกล่าวครูบาอาจารย์ออกนามพระคลังมหาสมบัติเป็นที่สุดแล้วนำตลับสีผึ้งวางไว้หาจานรองเล็กๆมาตั้งเทียนไว้หน้าตลับสีผึ้งนี้ จุดเทียนภาวนานะพาเงินมาไปเรื่อยๆ(เรียกว่าจุดเพื่อปรารถนาความร่ำรวยขอโชคลาภจากพระคลัง) ให้กระทำก็ต่อเมื่อปรารถนาความมั่งมีในทรัพย์สินหรือปรารถนาชัยชนะต่อคู่ค้า พ่ออาจารย์ท่านว่าหากคิดว่าอยู่ตัวแล้วสบายแล้วก็ไม่ต้องทำ แต่ใครไปต่อไม่ได้ต้องการแรงครูหนุนนำจริงๆจึงค่อยทำ..นั่งท่องภาวนาไปเรื่อยๆจนเทียนหมดเล่ม..ทำตามนี้ครบแกรวย(ครูพรหมท่านว่าแบบนี้เหมือนจุดเทียนระเบิดชะตารับทรัพย์ยิ่งจุดบ่อย..ก็ยิ่งได้ทรัพย์ก้อนโต) จุดครบเจ็ดวันติดกันพระอินทร์ร้อนอาสน์ถ้าจะจุดเจ็ดวันติดนี่เอาไว้ขจัดอุปสรรคชีวิตปัญหาที่มันใหญ่ๆหรืออยากอธิษฐานเปิดดวงแล้ว..รอต่อไปไม่ไหวแล้ว
### หากจุดเทียนปรารถนาแก้ไขชะตาพ่ออาจารย์ท่านว่าให้จุดก่อนพระอาทิตย์ขึ้นจะดีมาก..เพราะชะตาเธอจะสาดแสงไม่มีวันดับแม้ต้องปัญหาก็ไร้อุปสรรคมืดมนจะเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม

มวลสารว่านยาและผงวิเศษที่นำมาหุงสีผึ้งเขียวนั้นพ่ออาจารย์ท่านทำไปอย่างดีที่สุดด้วยไม่ใช่เพียงลบผงเสาะหาว่านยาก็จะนำมาใช้ได้เลย หากแต่เมื่อรวบรวมแล้วยังต้องแยกประเภทบวงสรวงเพื่อให้ว่านยาและผงลบต่างๆมีกำลังแรงครูสูงสุดตามประเภทอีกวาระหนึ่ง ท่านว่ามวลสารสีผึ้งเขียวนั้นมากด้วยสรรพคุณและใส่กันแบบหัวเชื้อเข้มข้น..สีผึ้งนี้ต่อให้เอาไปกวนปั้นกับดินยังสร้างพระได้นับพันนับหมื่นองค์ ด้วยเป็นสีผึ้งสายขาวซึ่งุนแรงมากประจวบกับพ่ออาจารย์ท่านใช้เวลาหลายปีในการเชิญครูพรหมลงพระเวทย์พระธรรมในสีผึ้งเขียวยิ่งทำให้แรงมากขึ้น..ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งฉันมีชีวิตยิ่งเสกก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆจนไม่อยากจะคิดว่าเดี๋ยวนี้จะแรงไปถึงขั้นไหน ท่านว่าถ้าจะเล่นด้านเมตตาแล้วรุ่นนี้ก็แรงร้ายอยู่เพราะในโลกนี้มีของไม่กี่อย่างหรอกที่แตะแล้วทำให้ฉันมึนงงได้ ท่านได้ใช้ว่านยาวิเศษที่เก็บกู้อย่างถูกต้องมีญานว่านได้แก่ว่านตระกูลมหาโชค..ว่านตระกูลเมตตามาเข้ากับว่านตระกูลกวัก ว่านพุทธกวัก,ว่านกวักพระพุทธเจ้าหลวง,ว่านมหากวัก,ว่านกวักเงินกวักทอง,ว่านกวักนางพญา,ว่านกวักโพธิ์เงิน,ว่านกวักโพธิ์ทอง,ว่านกวักแม่ทองใบ,ว่านกวักนางอุมาภควดี,ว่านกวักแม่จันทร์,ว่านกวักหงสาวดี ที่จะกวักเรียกสิ่งดีๆมาหามาเข้าตัวผู้ใช้ได้ #นำมาเข้ากับ ผงธรรมดวงเเก้ว,ผงธรรมเวียงแก้ว,ผงธรรมกำจัด,ผงธรรมเวียง 7 ชั้น,ผงบารมี 9 ชั้น,ผงยาชีวะธาตุ,ผงวิเศษ12นักษัตร,ผงยาปิยะ,ผงยาขมะ,ผงคำข้าวพระอรหันต์,ผงวัดระฆัง,ผงก้นกรุบางขุนพรหม,ผงยาหลวงปู่บุญ,ผงอทธิเจหลวงปู่แก้ว,ผงคำข้าวผลึกเพชร,ผงพุทธคุณ,ผงปถมัง,ผงอิทธิเจ,ผงตรีนิสิงเห,ผงมหาราช,ผงกำเนิดธาตุ,ผงตวัดเงิน,ผงตวัดทอง,ผงยาจินดามณี,ผงมหานิยมใหญ่,ผงมหาเสน่ห์ใหญ่,ผงโคตรเศรษฐี,ผงลบมนต์น้ำซึมบ่อทราย,ผงมนต์มหาเศรษฐีหลวง,ผงมนต์พระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้าสำเภา,ผงมนต์พระโพธิสัตว์เป็นมหาเศรษฐี,ผงสุริยันทรงรถ,ผงพระอาทิตย์ทรงกลด,ผงสุริยันทอแสง,ผงพญาหงษ์เหมราช,ผงหงษ์คาบทรัพย์,ผงษ์หงษ์เหิร,ผงมอญแปลงรูป,ผงมอญแปลงหาทรัพย์,ผงวิชาสังฮอมจิต,ผงวิชาผูกจิต,ผงนารายณ์ทรงครุฑ,ผงครุฑเหิร,ผงครุฑตะปบเหยื่อ,ผงครุฑโฉบ,ผงปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์,ผงพระเจ้าขอลาภ,ผงอานุภาพพระสีวลี,ผงนาคราชน้อย,ผงนาคราชใหญ่,ผงงูกินหาง,ผงนาคราชเกี้ยว,ผงลบนาคกระสันธรณี,ผงนาคราชภุชงค์ซ่อนหัว,ผงสัตตะนาเค,ผงสัตตะนาเคเกราะแก้ว,ผงนาคสวาท,ผงอิทธิเจเสน่ห์กล,ผงสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน,แร่จ้าวทะเล,แร่จ้าวบาดาล,แร่จ้าวสมุทร,ผงรัตนะนาคาผงศิลาน้ำ,ผงไม้ไก่กุก,ผงไม้กาฝากมงคล,คตที่เกิดจากไม้มงคล,ว่าน,เกสร,ผงไผ่ตัน,ผงไม้รวกตัน,ผงคตข้าวสารดำ,ผงที่ได้จากลานจารึกใบข่อยโบราณนำมาเผาไฟทำผงใบลาน,ผงข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธ,ผงมหาอุตม์กะลาไม่มีตา,ผงกะลาตาเดียว,ผงคตมะพร้าว,ผงกิ่งโพธิ์นิพพาน,ผงไม้ไก่กุก,ผงเครือร้อยปลา,ผงปูนากระตุกเดือนห้า,ผงกบจำศีลเดือนห้า,ผงเขี้ยวงูจงอางที่ตายคาไข่ที่ฟัก,ผงไม้คานและไม้ประตูคุก,ผงชันโรงกลางแจ้งตรงตะวัน,ผงไม้คานแม่หม้าย,ผงเขาควายเผือกฟ้าผ่า,ผงรังต่อ,ผงเขี้ยวเสือโปร่ง,ผงคตสมองวัวเป็นเอกทางตบะเดชะผู้คิดร้ายไม่กล้าขยับปากด่าว่า,ผงคตขนุนซึ่งมีเทพยดาอาศัยเป็นเมตตามหานิยมค้ำชูดวง,ผงงาช้างดำ,งากำจัด,งากำจาย,งาช้างน้ำ,ผงเขากวางคุด,ผงเขากระจงคุด,ผงพญางูปากเป็ดที่สุดทางโชคลาภวาสนา,ตะไคร่โบสถ์,ตะไคร่เสมา,ตะไคร่มหาเจดีย์,ตะไคร่หลักเมืองชื่อมงคล,กระเบื้องโบสถ์โบราณ,ดินสังเวชนียสถาน,ผงดินกากยายักษ์,ผงเพชรน่าทั่ง,ผงเหล็กน้ำพี้,ผงสังขวานร,ผงรังเหล็กไหล,ผงข้าวตอกพระร่วง,น้ำฝนเดือนห้าตกรดหลังคาโบสถ์,น้ำในเศียรพระพุทธรูป,น้ำมันช้างตกมัน,น้ำตาปลาดุหยง เสร็จแล้วนำมาเข้ากับ
- น้ำตาพญามาร "...เมื่ออดีตกาลนั้นท่านไม่สามารถเอาชนะพระโพธิสัตว์ได้จนพระบรมโพธิสัตว์ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ท่านก็รู้สึกโศกเศร้าน้อยเนื้อต่ำใจไม่อาจดำรงค์พระองค์อยู่ในเทวโลกได้จึงมานั่งน้อยใจหม่นไหม้อยู่บนพื้นโลก ท่านได้นั่งขีดเขียนแผ่นหินศิลาเทียบวิชาความรู้ระหว่างตนเองกับพระพุทธองค์ก็รู้ว่าตนกับพระพุทธเจ้านั้นยังห่างไกลกันอยู่ด้วยพระพุทธองค์ทรงรู้มากกว่าตนถึงสิบหกประการตั้งแต่บารมีสิบ,อินทรียปโรปริยัติญาณ,สยานุสยญาณ,มหากรุณาสมาบัติ,ยมกปาฏิหาริยญาณ,อนาวรณญาณ,สัพพัญญุตญาณ เมื่อท่านรู้ความแตกต่างท่านก็กำสรวลโศกเศร้าจนน้ำตาแห่งพญามารได้หลั่งลงต้องปฐพี เป็นน้ำตาแห่งความสำนึกและกลับตัวกลับใจพร้อมกับทำพิณประจำพระองค์หล่นไว้ตรงนั้นซึ่งองค์อมรินทร์ก็ได้มาเชิญพิณนั้นพร้อมกับนำน้ำตาพญามารซึ่งเป็นกายสิทธิ์ธาตุประดิษฐานในพานทองนำกลับไป " ...โดยท่านได้นำน้ำตานั้นมามอบให้แข็งค้างไว้แต่เบื้องอากาศ พ่ออาจารย์ท่านต้องทำพิธีอัญเชิญและนำขวดน้ำมันจินดามณีมารองรับส่งผลให้น้ำมันจินดามณีเปลี่ยนสีไปใสกระจ่างดุจสีน้ำทะเลเมื่อผสมกลมกลืนเข้ากับน้ำตาพญามารท่านจึงเรียกน้ำมันนี้ว่าน้ำตาพญามาร น้ำตาพญามาร ...ของวิเศษเทวโลกนี้มีอานุภาพอันน่าอัศจรรย์ยิ่งดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านได้กล่าวไว้ว่า..บิดเบือนคราเคราะห์,เยาะเย้ยเวรกรรม,ผันผวนชะตา,ปั่นป่วนพรหมลิขิต แม้คนที่สิ้นบุญสูญวาสนาไม่มีทางกลับมาตั้งตัวจนมั่งมีได้แล้วก็ยังฟื้นกลับคืนฐานะเก่าได้
- ผงเสด็จพุทธธาตุ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงชุดนี้เหนือกว่าผงใดในโลกเพราะฉันเพียงแต่ลงผงดวงประสูติตรัสรู้ปรินิพพานเอาไว้และสวดมนต์บูชาพระพุทธคุณมาหลายสิบปีก้ปรากฏว่าผงนี้งอกเงยขึ้นขยายขึ้นได้เอง เอาเคล็ดว่างอกเงยได้..เสด็จมาเพิ่มได้เองก็คือเพิ่มพูนพอกพูลไม่รู้จบมีแต่ได้เพิ่มไม่มีเสีย
- น้ำนมนางพันธุรัตว์ องค์พรหมท่านบัญชาให้พ่ออาจารย์ตามหาโดยให้ปริศนามวลสารซึ่งต้องตีความให้แตก(เป็นความลับ) พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งนี้เป็นของวิเศษทางเมตตาอาทรดั่งเลือดในอกมารดาทั้งยังเป็นแก้วจินดาวิเศษสารพัดนึกยิ่งกว่ามนต์จินดามณี อย่าลืมนะว่านางพันธุรัตว์นี่เป็นจ้าวแห่งมนต์จินดามณีเลยไม่มีมนต์จินดาอะไรจะแรงไปกว่าเลือดในอกนางพันธุรัตว์อีกแล้ว..เลือดอกแม่ยักษ์ที่เกิดจากความรักลูกหวงลูกครูพรหมท่านย้ำว่าต้องหาให้ได้สีผึ้งจึงจะมีฤทธิ์เสมอความรักความห่วงหาอาทรบุตรนั้น
- ผงเถาวัลย์หลงบ่วงพรานบุญ แก้เคล็ดดักจับสรรพชีวิตใดๆในโลกก็ได้ ไม่ว่าจะมีบุญญาธิการอย่างไรหากเราต้องการแล้วย่อมไม่พ้นอาถรรพ์บ่วงพรานบุญนี้ มีอานุภาพทำให้คนลุ่มหลงงงวยรุนแรง
- ผงเหล็กไหลโกฏิปี อันได้ชื่อว่าเป็นเหล็กไหลน้ำหนึ่งที่มีอานุภาพสูงสุด ท่านได้นำมาเข้าเครื่องเจียจนเป็นผงละเอียดเพื่อผสมลงไปในสีผึ้ง ท่านว่าจะได้มีความเป็นทิพย์มีอำนาจกายสิทธิ์น้ำหนึ่งอยู่ภายในจะหยิบจับทรัพย์จะหาอะไรก็คล่องไม้คล่องมือ
- ผงตะกอนก้นโหลน้ำมันวิเศษ เป็นผงว่านยาที่ได้จากการหุ่งน้ำมันวิเศษทุกรุ่นของพ่ออาจารย์
### พ่ออาจารย์ท่านว่ามวลสารที่นำมาลงนั้นฉันให้ลงเพียงแค่ 1 ใน 1,000 เท่านั้น เพราะสูตรการทำสีผึ้งเขียวนี้ตำรับครูพรหมนารทนี้ท่านให้รักษาไว้จนตายไปกับตัว

คาถาบูชา
นะโมเมสัพพะพุทธานัง สัพพะครหาจะเทวะตา สุริโย จันโท ภุมโม วุโธ คะรุ สุกโก ปะมุญจะสิ โสโร ราหู จะเกตุ จะสัพพะลาภาภะวันตุเม

### พ่ออาจารย์ท่านให้ตัดเนื้อหาคร่าวๆเพียงบางส่วนในมุมย่อยที่สุดออกมาให้เปิดจองสีผึ้งเขียวกันก่อนเท่านั้น ...ด้วยของฝังและแรงครูสีผึ้งชุดนี้สูงมากไม่ธรรมดา..และของฝังรายการอื่นก็น่าอัศจรรย์มากสมกับที่ท่านทำไว้เป็นรุ่นเปลี่ยนประวัติศาสตร์ชีวิต

### ท่านว่าใครอยากเปลี่ยน..ประวัติศาสตร์ชีวิตตัวเองค่อยเอาไปบูชา

### ใครอยากลบกรรมกำเนิดทุกข์...ในสังขารตัวเองค่อยเอาไปบูชา

### ใครอยากล้างผิด...ลิขิตกลชะตาตัวเองค่อยเอาไปบูชา

*** พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พรหมนารทท่านให้ใบ้เพียงสามคำนี้ เกินกว่านี้ท่านว่าเราไม่มีวาสนาเกื้อกูลกัน ...แต่พ่ออาจารย์ท่านย้ำเสริมเอาไว้ว่าเครื่องรางในบารมีพรหมฤาษีนารทนั้นท่านทำไว้น้อยครั้งมากๆและที่สำคัญพลังทำวิชาอาถรรพ์พรหมฤาษีของพราหมณ์นี่อย่างแรงเลยนะ...ไม่นับครูท่านอื่นๆที่ฝังไว้ในตลับแต่ละองค์ล้วนแก่กล้าในปาฏิหาริย์ทั้งสิ้น..ท่านให้ทำไว้เพียงเพื่อส่งต่อถึงมือผู้ที่จะได้สงเคราะห์โลกและสงเคราะห์กายตนเองก่อน..สีผึ้งเขียวฉันมีเคล็ดวิธีการใช้อีกเยอะในหลายๆด้าน

*** สีผึ้งฉันเอาไว้ใช้กิน..ใช้ทา รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น

ร่วมทำบุญบูชา สีผึ้งเขียวชีวะธาตุตัดกลียุค,ลบกำเนิดกรรม,ล้างผิด(ตลับเชื้อเพลิง) บูชา 900 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...ิด-พ่ออาจารย์พล.539894/page-554#post-11645227

 

ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้ากาฬจักรเสวยทุกรกิริยาทดแทนโทษทุกข์ทัณฑ์ทรมาน("พระแก้ตัว" ..แก้ไขชีวิต)

องค์ปฐมท่านให้พ่ออาจารย์ทำพระพิมพ์ทุกกรกิริยาไว้ด้วยเป็นพระปางเสวยทุกข์ทดแทน..อันจะเป็นเครื่องมงคลรับ..แก้โชคร้ายเคราะห์ภัยแทนตัวเราได้ ในภายหลังจึงลงตัวให้ใช้พิมพ์พระพิชัยมาลาสอดประสานเข้ากับดาบตัดกรรม ..เรียกว่าเป็นปางทรมาณกายเพื่อช่วยเหลือผู้อาราธนา
- จะรับเคราะห์แทนตัวเราทุกอย่าง
- จะรับโชคร้ายแทนตัวเราทุกอย่าง
- จะรับทุกข์ทัณฑ์ทรมานแทนตัวเราทุกอย่าง
- จะรับโทษในวัฎสงสารแทนตัวเรา
- จะช่วยเหลือเราได้ทุกอย่าง
ด้วยจะรับบาปเคราะห์และทุกข์เข็ญทดแทนตัวเราเพื่อให้ชีวิตได้ "แก้ตัว" คือได้เริ่มต้นชีวิตอันปราศจากเคราะห์กรรมกำเนิดใหม่

ฟื้นตำนาน"ดาบตัดกรรมตรัยชีวา" ขั้นสูงสุด
หากแต่พระปางทรมาณตนเองเช่นนี้ต้องสร้างด้วยของวิเศษอย่างยิ่ง ที่ผ่านมาจะเห็นว่าพ่ออาจารย์ท่านมีวิชาสร้างดาบตัดกรรมอยู่และเคยทำเพียงครั้งสองครั้งเท่านั้น แต่ท่านก็ยังทำได้ไม่สุดเพราะหากจะทำให้สุดๆได้จริงมวลสารวัสดุที่นำมาทำถือว่าหาได้ยากในโลกทีเดียว ซึ่งดาบตัดกรรมที่สร้างจากวัสดุพิเศษนี้ท่านเก็บไว้เฉพาะสร้างพระเจ้ากาฬจักรเสวยทุกกรกิริยา

ดาบตัดกรรมนั้นต้องทำมาจากรากหิ่งหายผีอันมากอาถรรพ์ทางด้านคุ้มครองกำบังกายตนจากภัยอันตรายและเวรกรรมทั้งปวง...แต่จะไม่ใช้รากหิ่งหายผีธรรมดาเท่านั้นหากแต่ต้องเป็นต้นไม้ที่แห้งตายไปแล้วฟื้นคืนกลับขึ้นมาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าหามาทั้งชีวิตพลีมาได้นิดเดียวต้องสืบเสาะหาตามดูตามบันทึกจึงได้เห็นได้รู้ว่าหิ่งหายผีนี้ตายแล้วกลับเป็นขึ้นมาถึงสามครั้งมีพลังชีวิตน่าฉงนไม่ยอมแพ้ชะตากรรมไม่ยอมตายดิ้นรนทุกทางเพื่อจะให้ตนเองมีชีวิตอยู่ ถือคติตายแล้วฟื้นคืนกลับได้เอามาทำดาบตัดกรรม ด้วยตายแล้วฟื้นถึงสามครั้งจึงสำเร็จเป็น "ดาบตัดกรรมตรัยชีวา" ขั้นสูงสุด นอกจากอิทธิคุณแฝดของดาบตัดกรรมแล้วยังใช้เสริมมงคลชีวิตยิ่งตัดยิ่งเจริญ
- ใช้ดาบตัดแล้ว..ฟื้นคืนตัวอุดมสมบูรณ์ทั้งหมด
- ใช้ดาบตัดแล้ว..ไม่เหี่ยวแห้งตาย
- ใช้ดาบตัดแล้ว..เจริญงอกงามยิ่งกรรมมากยิ่งตัดยิ่งเจริญ
- ใช้ดาบตัดแล้ว..เติมพลังชีวิตไม่ริดรอนวาสนาความเจริญเติบโต
ตำราดาบตัดกรรมเสกเข้ากับรากหิ่งหายผีตายแล้วฟื้นคืนกลับสามชีวิตนี้จึงเป็นตำนานแห่งเครื่องรางที่หาได้ยากยิ่งในโลกด้วยเครื่องรางประเภทดาบหรือพระขรรค์ที่สร้างได้ถูกต้องปลุกเสกมาดีนั้น ย่อมมีอานุภาพสูงสามารถใช้ริดรอนกรรมเก่าได้เพราะเป็นของสูงใช้ผ่าใช้ตัดได้ทุกสิ่งและสำเร็จด้วยพุทธคุณเป็นไปด้วยพุทธานุภาพและพรหมานุภาพ

ดาบตัดกรรมนี้ฝังให้ไปแล้วมีอานุภาพมากกว่ามีดหมอศาสตราวุธทั้งหลายดุจวิชาพระขรรค์ชัยศรีหรือดาบสาหรี๋กัญไชยเช่นนั้น เป็นของสูงเฉพาะดาบก็มีญาณเทพพรหมรักษาเข้าถือครองทุกเล่มที่ฝังเช่นนี้นอกจากมีอานุภาพตัดกรรมในชะตาฟื้นฟูกำลังชีวิตเติมเต็มทดแทนความสมบูรณ์ทุกสิ่งยังเป็นเคล็ดทุกรกิริยารับเคราะห์กรรมแทนด้วยจะได้เอาไว้กับเนื้อกับตัว นอกจากจะได้ช่วยขับล้างริดรอนกรมอันส่งผลในปัจจุบันแล้วยังจะได้ขับไล่สิ่งไม่ดีทั้งหลายจากร่างกายเราให้เทวดาเข้าคุ้มครองรักษา ซ้ำยังใช้ได้ทุกทางตามแต่ปรารถนาไม่ต่างจากเครื่องพิชัยสงครามชั้นสูงแต่อย่างใดทั้งปราบมาร..ขจัดศัตรู..ขับไล่คุณคนคุณไสยอวิชชาต่างๆ

พระเจ้ากาฬจักรนั้นเป็นดั่งกุญแจไขความลับจักรวาลที่จะดึงดูดพลังงานด้านบวกเข้ามาเสมอ(ทุกข์ทนลงที่องค์พระ) ให้พกบูชาอธิษฐานได้สารพัดนึก โดยมีกำลังสมเด็จปฐมบรมครูสงเคราะห์ด้วยท่านรู้แจ้งทุกสรรพสิ่งในโลก..ทุกสรรพศาสตร์..สรรพธาตุในจักรวาลอันหาผู้เสมอเหมือนไม่ได้ ด้วยกำลังของต้นวงศ์โพธิญาณซึ่งได้บำเพ็ญบารมีมายาวนานยิ่งกว่าพระพุทธเจ้าองค์ใดจึงมีกำลังสงเคราะห์ได้มากเป็นพิเศษ อุปมาว่าพระองค์จุดประกายหนทางนิพพานให้เกิดขึ้นในจักรวาล..จุดประกายให้คนรู้จักบาปบุญคุณโทษได้ฉันใด พระกาฬจักรก็ย่อมจุดประกายให้กำเนิดรากฐานที่มั่นคงแก่เราได้เช่นนั้นแล

ทรมานทุกกรกิริยา
พระพิมพ์นี้เป็นนามธรรมไม่ใช่พุทธกิริยาโดยแท้จริงขององค์ปัจจุบัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นการผนวกวิชาลับในตำนานที่แทบจะสูญหายไปตามกาลเวลาเนื่องจากว่าจัดสร้างได้ยากมาก เรียกว่าวิชาต้องถึงที่สุด..มวลสารต้องดีที่สุดจึงจะทำได้ เป็นเครื่องมงคลสงเคราะห์ทดแทนให้โอกาสผู้ใช้ได้.."แก้ตัว" ...แก้ไขชีวิต จึงเป็นเครื่องมงคลที่เหนือกว่าวิชาใดๆแม้แต่พระพิชัยมาลาที่เป็นสุดยอดเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์หากจะใช้ทางแก้ไขชีวิตแล้วก็ยังด้อยกว่าพระเจ้ากาฬจักรนี้

เพราะเป็นเครื่องสูงค่าควรคู่สำหรับผู้ที่เหมาะสมเท่านั้นอาราธนากับตัวจะเป็นสิริมงคลมีแต่เจริญขึ้นแบบรุดๆเร่งๆรุ่งเรืองอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งเป็นเมตตามหานิยมอย่างเยี่ยมยอดและเสริมอำนาจวาสนาบารมีไปในตัว เครื่องมงคลเช่นนี้องค์เดียวใช้แก้ไขได้ทุกสถานการณ์อาราธนาได้ทั่วสารทิศนั่นเลยสารพัดจะอธิษฐานได้ตามประสงค์ด้วยเป็นเครื่องมงคลที่เหนือกว่าเครื่องมงคลใดๆในโลกที่ฉันเคยทำมา(พ่ออาจารย์ท่านไม่เคยพูดเช่นนี้มาก่อน) ...มีอานุภาพมากไม่มีวันเสื่อม ..กำลังไม่มีวันถดถอย ทั้งพร้อมตอบสนองสิ่งที่ถวิลหาปรารถนาให้เกิดขึ้นทุกเวลา

### เป็นเครื่องมงคลที่ใช้ได้โดยไม่แบ่งแยกชนชั้นแกคนจนช่วยน้อยนั่นคนรวยช่วยมาก เป็นเรื่องมงคลที่ใช้ได้โดยปราศจากเงื่อนไขเพราะมีกำลังอยู่เหนือกฏเกณฑ์สมมติทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าเทพที่ลงรักษาองค์พระนั้นออกนามว่าพระเจ้ากาฬจักรท่านไม่เลือกว่าบาปบุญดีชั่ว(เพราะรับกรรมแทนจะจำแนกไม่ได้ต้องรับหมด) เช่นนี้ทุกเรื่องท่านจึงสงเคราะห์หมดไม่มีเลือกคนดีท่านก็ช่วย..คนชั่วท่านก็ช่วย หากคนดีใช้มีแต่จะได้ดียิ่งขึ้น กลับกันหากคนชั่วใช้ก็จะเกื้อกุลให้เจอแต่สิ่งดีๆไม่ตัดรอนหนทางชีวิตผู้ใดเลยมีแต่อาราธนาไปนานๆคนชั่วจะกลายเป็นคนดีเท่านั้นเพราะชีวิตแวดล่อมแต่เรื่องดีๆ เช่นนี้แหละเรียกพระเจ้ากาฬจักรแล้วท่านจึงสงเคราะห์ไม่เลือกชนชั้น..ไม่เลือกบาปบุญ..ไม่เลือกว่าจะดีหรือชั่ว เพราะจุดหมายท้ายที่สุดมันจบลงด้วยความดีท่านจึงค้ำคูณเต็มขั้น

..ชีวิตคนที่ลงแรงทำสิ่งใดไม่ได้ดั่งใจซักอย่าง
..ชีวิตคนที่ทำอะไรก็ติดๆขัดๆติดไปเสียทุกอย่าง
..ชีวิตคนที่ถูกอุปสรรคสารพัดถาโถมซัดสาด
..ชีวิตคนที่พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก
..ชีวิตคนที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดดวงหดเจอปัญหารุมเร้า
..ชีวิตคนที่พบเจอแต่ความผิดหวัง
..ชีวิตคนที่เงินขาดมือเป็นโรคทรัพย์จาง
..ชีวิตคนที่จิตใจห่อเหี่ยวไม่มีแรงบันดาลใจ
..ชีวิตคนที่มีปัญหาทะเลาะกับผู้อื่นเสมอ
...คนที่เจอปัญหาทั้งหลายเหล่านี้เหมาะจะใช้พระเจ้ากาฬจักรที่สุด ยิ่งคนที่รุ่มร้อนมีเคราะห์ภัยเบียดเบียนไม่ว่างเว้นหากฝืนจะเดือดร้อนจนไม่สามารถประคองตัวเองได้ เครื่องมงคลตำรับนี้จึงสร้างมาเพื่อแก้ทางกัน
- ใช้แก้ตัว..ให้เธอก้าวหน้ากว่าใคร
- ใช้แก้ตัว..ให้เธอก้าวได้ไกลกว่าใคร
- ใช้แก้ตัว..ให้เธอก้าวได้ไวกว่าใคร
ทั้งก้าวไปฝ่าฟันวิกฤตในทุกปัญหาคนที่มีโรคก็จะหาย คนที่ภัยมาเยือนก็จะระงับ ยามอาราธนาไว้กับตัวธาตุในตัวเกิดความสมดุลหน้าตาแจ่มใสผิวพรรณผ่องใสดูมีน้ำมีนวลมีกำลังวังชาดี ***จำไว้นะพระเจ้ากาฬจักรนี่รักษาตัวเองอย่างดีเลิศเลยไอ้พวกโรคในกายจะฝีในท้อง,ฝีในปอ,ริดสีดวงทวาร,ริดสีดวงลำไส้,แผลในลำไส้,วัณโรค,ผื่นคันตามตัว..พวกโรคในกายทั้งหลายท่านฝอกหมด จะปรับธาตุเธอแบบน่าอัศจรรย์เพราะรังสีจากองค์พระนั้นครอบกายไว้หมดเลย

สรรพผง,สรรพธาตุ,สรรพยา
พ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมมวลสารตามที่ครูสมเด็จองค์ปฐมบัญชาเพื่อสร้างเครื่องมงคลวาระพิเศษนี้โดยเฉพาะตั้งแต่ ผงกูโบ๊ท,ผงจักรพรรดิ์,ผงมหาปราบ,ผงเศรษฐีทั้งหก,ผงวิชาเศรษฐีทั้งเก้า,ผงอิทธิเจ,ผงตรีนิสิงเห,ผงมหาราช,ผงพุทธคุณ,ผงปถมัง,ผงปถมังเก้าวรรค,ผงปถมังเก้าชั้น,ผงสุริยะประภา,ผงจันทรประภา,ผงเศรษฐี,ผงเงินล้าน,ผงมหากัน,ผงมหาเมตตา,ผงมหานิทรา,ผงมหาถอน,ผงมหาระงับใหญ่,ผงพุทธนิมิต,ผงพระเจ้าปราบมาร,ผงพระเจ้าห้ามอาวุธ,ผงยันต์นิโรธ,ผงพระเจ้าเข้านิโรธ,ผงดั้นพงจักรวาฬ,ผงปฐมอักขระ,ผงยอดอักขระ,ผงนะธาตุ,ผงมงกุฎพระเจ้า,ผงมงกุฎแก้ว,ผงยอดพระมหามงกุฎ,ผงกำบังนิทรา,ผงสกลชมภูธิบดี,ผงปราบไตรจักร,ผงพระเจ้า 28 พระองค์,ผงเทพชุมนุม,ผงเทพนิมิตร,ผงเทวาประสิทธิ,ผงพระแผลง,ผงพระวิปัสสิ,ผงพระเจ้าเสี่ยงบารมี,ผงพระยาราชสีห์,ผงตราพระราชสีห์,ผงตราราชสีห์โผน,ผงตรามหาสีหนาท,ผงตรามหาอำนาจ,ผงจักรแก้ว,ผงยันต์จักรนารายณ์น้อยใหญ่,ผงรัตน์ไตรจักร,ผงนารายณ์ถอดรูป,ผงแก้วบรมจักรพรรดิ์,ผงแก้วมณีโชติ,ผงแก้วสารพัดนึก,ผงไตรลักษณ์,ผงสุกิตติมา,ผงโสฬสมงคล,ผงพระนวหรคุณ,ผงไตรสรณคม,ผงพระไตรปิฎก,ผงมหาละลวย,ผงมหาวิเศษ,ผงครอบจักรวาฬ,ผงมงคลจักรวาฬ 8 ทิศ,ผงพระสุริยาทรงกลด,ผงยอดพระอรหาธิคุณ,ผงท้าวมหาพรหม,ผงมหาพรหมส่องโลก,ผงมหาจักรอนันตคุณ,ผงมหาชัยมงคล,ผงบารมี 30 ทัศ,ผงบารมีทศชาติ,ผงจักรวาฬครอบ,ผงยันต์พิไชยสงคราม,ผงนเรศวรปราบหงสา,ผงพระพุทธเจ้าห้ามญาติ,ผงพระเจ้าห้ามทุกข์,ผงจตุพุทธา,ผงพระเจ้านอโม,ผงนกคุ้มผู้เมีย,ผงพระยากา,ผงเกราะเพชรพระพุทธเจ้า,ผงเกราะเพชร,ผงตาข่ายเพชร,ผงกรงทอง,ผงกรงทองทรงเครื่อง,ผงกันโรคระบาท,ผงอนันตนาคราช,ผงมหาประสระ,ผงเทพรำลึก,ผงกันกระทำ,ผงแสนสากเหล็ก,คตตระกูลพืช,คตสัตว์จตุบท,คตสัตว์ทวิบาท,พญากาฝากที่เป็นสิริมงคล108,คดไม้มงคล108,ไม้มงคลที่ตายพราย108,ว่าน108,เกสร108,ไม้ไผ่ตัน,ไม้รวกตัน,คดข้าวสารดำ,ข้าวสารหิน,สมุดใบข่อยใบลานเก่า,ผงธูปบูชาพระ,ข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธเจ้า,กะลาตาเดียว,กะลาไม่มีตา,คดมะพร้าว,กิ่งโพธิ์นิพพาน,ไม้ไก่กุก,ปูนากระตุกเดือน5,กบจำศีลเดือน5ตายคารู,เขี้ยวงูจงอางที่ฝักไข่จนตายคาไข่,ไม้คานคุก,ไม้คานประตูคุก,ชันโรงกลางแจ้ง,ไม้คานแม่หม้าย,สากกะเบือแม่หม้าย,ไม้คานและสากกะเบือของหญิงที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร,เขาควายเผือกฟ้าผ่า,เขี้ยวเสือโปร่ง,เขี้ยวหมูตัน,คดสมองวัว,คดขนุน,งาช้างดำ,งากำจัด,งากำจาย,งาช้างน้ำ,เขากวางคุด,เขากระจงคุด,งูปากเป็ด,ตะไคร่โบสถ์,ตะไคร่เสมา,ตะไคร่เจดีย์,กระเบื้องหลังคาโบสถ์,ดินสังเวชนียสถาน,เพชรน่าทั่ง,ดินกากยายักษ์,เหล็กสังขวานร,เหล็กน้ำพี้,รังเหล็กไหล,ข้าวตอกพระร่วง,จิ้งจกสองหาง,จิ้งจกห้าหาง,อัญมณี,ตะไคร่หลักเมือง,น้ำฝนกลางหาว,ศรีมหาโพธิ์,สหรีพันต้น,ไพรดำสาลิกา,เทพรำพึง,เทพรำลึก,ดอกทอง,มหาเสน่ห์,สาวหลง,จันขาว,จันแดง,ธาตุแม่โพสพ,กฤษนา,กะลำพัก,ขอนดอก,ชมด,พิมเสน,พิกุล,บุญนาก,กาหลง,บัวเผื่อน,สัตบุตร,สัตบรรณ,บัวหลวง,ชงโค,โยทกา,สวาท,หนาด,พุท,ส้มป่อย,อังกาบ,คันทรง,ญาณรังสี,สหัสรังสี,ฉัพรรณรังสี..นำมาเข้ากับ

- ผงยาดำกลืนทุกข์ ความทุกข์อันได้แก่การใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก ติดอยู่ในสภาวะที่บีบคั้น หรือสภาพที่ทนได้ยาก รวมไปถึงความไม่สบายทั้งกายและใจต่างๆก็ดี โดยเฉพาะปกิณกทุกข์ คือทุกข์ต่างๆที่ฉาบฉวยหมุนเวียนเข้ามาไม่ว่างเว้น ทั้งความเสื่อมนานาชนิดไม่ว่าจะเสื่อมลาภ เสื่อมยศ...บรรดามี ด้วยพ่ออาจารย์ท่านเห็นเป็นสำคัญว่าคนนั้นหนีไม่พ้นจากทุกข์ฉาบฉวยทั้งหลายท่านจึงให้นำผงยาดำกลืนทุกข์นั้นมาผสม ท่านว่าเวลาห้อยบูชาผงนี้จะเปล่งรัศมีของเขาคลุมทั่วร่างกายคนใช้เอาไว้ความทุกข์ใดๆก็ดีเขาจะกลืนกินและรับไว้หมด สังเกตง่ายๆหลังจากห้อยบูชาอย่างน้อยความทุกข์ทางใจจะค่อยๆหายไปอย่างน่าฉงน จะรู้สึกคิดบวกมีกำลังใจรู้สึกสดชื่นอย่างน่าประหลาด ด้วยผงยาดำนี้มันจะกลืนกินความทุกข์ทั้งหลายไม่ว่าจะทุกข์ฉาบฉวยหรือทุกข์ที่เกิดจากสภาวะสังขารให้เรามีอารมณ์เบิกบานตลอดเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่มีทุกข์,ไม่มีโรค,ความโศกหาย,ภัยร้ายไม่เกิดขึ้นชีวิตย่อมมีความสุขสมควรแก่อัตภาพนั่นเอง

- ผงยอไม่ตกดิน แก้เคล็ดดวงไม่ตกชะตาชีวิตไม่ตกต่ำจะหนุนชะตาดั่งดาวค้างฟ้าไม่มีมลทินให้ร่วงหล่นสู่ดิน จะใช้ทางทำมาหากินดึงดูดเงินทองใช้ทางไหนชีวิตก็ไม่ตกไปได้หมด คนจะนิยมยินดียกยอทำกิจใดย่อมอยู่เป็นสุขไม่ต้องดินรนแสวงหาสิ่งใดก็มีผู้ประเคนมาให้

- ผงยาทำลายปีศาจ ใช้ทำลายโชคร้ายรวมไปถึงอาการลมเพลมพัดการกระทำด้วยมีฤทธิ์ร้อนแรงสร้างจากว่านหายากหลายประการ ใช้ถอดถอนคุณไสยทำลายภูติผีปีศาจได้ พกไว้จะแก้ปัญหาใหญ่ๆหลักๆของชีวิตที่เรามองไม่เห็นหาสาเหตุไม่เจอ

- ว่านพิเศษ เป็นว่านที่มีฤทธิ์ในตัวเองเหมือกว่าว่านสามัญทั้งหลาย ส่วนใหญ่จะปรากฏตามป่าในแดนลี้ลับสามารถเคลื่อนที่หรือเคลื้อนย้ายตัวเองได้ชนิดหาตัวจับยาก

- ผงดำพุทธชินมาร ท่านใช้เหล็กไหล..ไพรดำ..ทองคำดำมาปั้นเป็นหุ่นเขียนบทสรรเสริญพระพุทธคุณแล้วเสกรูปนามใส่ธาตุวิญญาณหนุนกำลังกายสิทธิ์ใ้มีฤทธิ์เหนือลิขิตฟ้าเพราะเกิดขึ้นได้จากสมบัติอันหาได้ยากยิ่งในโลกใช้อาราธนาติดตัวเชื่อขนมกินได้ว่าชีวิตไม่มีที่ให้ตกอับต่ำกว่าคน จะเสริมสง่าราศีเปิดความโชคดีใช้ได้สารพัด ทั้งกำจัดมารชนะศัตรูทุกทิศทาง

- พระเศียรฝังด้วยเหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณสัณฐานเม็ดใหญ่ ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น) เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น) ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น.... พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น) ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด

- น่าอกฝังด้วยฝังดวงแก้วมณีอาถรรพ์...พ่ออาจารย์ท่านว่าติดกายจะเด่นจะเหนือกว่าใครตกต่ำตกดินไม่ได้ ด้วยแก้วมณีนี้มีคุณทางชนะดวงจะดวงร้ายดวงแย่เจอสถานการณ์ร้ายใดๆเรียกว่าชนะทั้งหมดเมื่ออาราธนาจะนำพาให้ชีวิตสว่าง ท่านว่าชีวิตสว่างกับมืดมนนั้นต้องแยกให้ออกคนที่มืดมนก็คือพวกที่หันไปทางไหนก็เจอปัญหาเจอแต่อุปสรรค แต่คนที่ชีวิตสว่างคือมันเปิดมันสว่างทั้งหมดไอ้ความสว่างนี่แหละจะพาให้คนรุ่งเรืองจะพาชะตาชีวิตให้รุ่ง แก้วมณีนี้ที่มาไม่ธรรมดาพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของท้าวมหากาลนาคราชท่านรักษาไว้ อย่าลืมว่าท้าวมหากาลท่านมีทรัพย์สมบัติมากมีฤทธิ์มีอายุขัยดุจมหาพรหมแตกต่างจากนาคราชทั้งหลาย ท่านว่าต้องบวงสรวงรับและขุดหาถึงจะพบดวงธาตุเหล่านี้ไม่เช่นนั้นท่านโยกหนีหมด พ่ออาจารย์ท่านเอาดวงแก้วเหล่านี้มาเจาะร้อยทำประคำข้อมือของท่านใช้ภาวนามายาวนานเสกสวดเป่าพระคาถาลงไปทุกด้านจึงยิ่งมีอานุภาพมากมายท่านเจาะจงว่าต้องฝังของพิเศษเช่นนี้ไว้ให้ใช้คู่บารมีโดยเฉพาะ

ด้านหลังองค์พระ...ฝังด้วย
- ฝังด้วยตะกรุดปลดหนี้ดอกครู ที่จะเป็นกุญแจสู่ทางออกในเอกภาพทางการเงินในชีวิตคน พ่ออาจารย์ท่านว่าเฉพาะตะกรุดนี้ยังต้องปลุกเสกถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนมีอานุภาพรุนแรงทางปลดภาระชีวิตอย่างรุนแรงยากจะบรรยายเต็มไปด้วยกฤษฎาภินิหารพร้อมที่จะแสดงกำลังให้ประจักษ์จะมีอาถรรพ์ให้มีกินมีใช้ไม่ขาด ทั้งได้รับอุปถัมภ์จากผู้มากบารมียิ่งใหญ่ในฐานะยศศักดิ์ด้วยเป็นกำลังอันจะดึงดูดผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ไปหามาสู่พร้อมด้วยโอกาสทั้งหลายมากมาย พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ใช่แค่การปลดหนี้อย่างเดียวหากแต่จะมีชีวิตที่ง่ายขึ้นปรารถนาสิ่งใดดุจได้ราชรถมาเกย ใช้ทางเสริมวาสนาบารมีแบบก้าวกระโดดได้ชัดเจนจะพลิกตัวอยู่เหนือคนเป็นยอดคน ในกาลแห่งทุกข์และความโกลาหลเกิดขึ้นผู้อาราธนาจะไม่ติดอยู่ในวังวนปัญหาความวุ่นวายจะอยู่รอดสุขสบายกว่าคนทั้งหลายจะเจริญรุ่งเรืองเกินพรหมจะลิขิตให้ได้

- ฝังด้วยหุ่นพยนต์ขุนศรีชุดปราณเบญจธาตุ ท่านได้รวบรวมผงวิเศษตั้งแต่ ผงอิติปิโสกลบทต่างๆได้เเก่อิติปิโสห้ามโจร,อิติปิโสห้ามไฟ,อิติปิโสห้ามพยาธิ,อิติปิโสห้ามอุบาทว์จัญไร,อิติปิโสห้ามกลียุค,อิติปิโสห้ามโทโส,อิติปิโสห้ามโมโห,อิติปิโสห้ามโรคที่บังเกิดภายใน,อิติปิโสห้ามสัตว์จัตุบาท,อิติปิโสพระขรรค์ไชยศรี,อิติปิโสบัวบาน,อิติปิโสสะท้านธรณี,อิติปิโสดำเนินงาน,อิติปิโสโลกสามภพ,อิติปิโสล้ำเลิศ,อิติปิโสจักรพรรดิ์สมบัติ,อิติปิโสสั่งสอนสัตว์,อิติปิโสปิดทาง,อิติปิโสทรงทาง,อิติปิโสสังขาลิก,อิติปิโสต้อยติด,อิติปิโสถวายชีวิต,อิติปิโสพระเจ้าลีลางาม,อิติปิโสมโหรจินดา,อิติปิโสมโหธร,อิติปิโสพระเจ้าทรมานสัตว์,อิติปิโสดับพยาธิ,อิติปิโสส่องโลก,อิติปิโสดับทุกข์,อิติปิโสเกราะเพชร,อิติปิโสชมญาณ,อิติปิโสไตรเทพ,อิติปิโสสว่างทั่วไตรภพ,อติปิโสเป็นครูสัตว์ทั้งปวง,อิติปิโสเบิกทวาร,อิติปิโสทับบาดาล,อิติปิโสเต็มที่,อิติปิโสนวหรคุณ,อิติปิโสนพคุณ,อิติปิโสถอยหลัง(วิชาเพชรกลับ),อิติปิโสหูช้าง,อิติปิโสแปดทิศ,อิติปิโสถอด,อิติปิโสนารายณ์แปลงรูป,อิติปิโสฤาษีย้ายรูป,อิติปิโสย้ายรูปถอยหลัง,อิติปิโสภุชฌงค์ซ่อนหัว,อิติปิโสภุชฌงค์ซ่อนหาง,อิติปิโสนารายณ์7บท(นารายณ์กลืนจักร,นารายณ์คลายจักร,นารายณ์ประสมจักร,นารายณ์หักจักร,นารายณ์ถอดจักร,นารายณ์ยกจักร,นารายณ์ปิดสมุทร),อิติปิโสมงกุฏพุทธเจ้า นำมาปั้นเป็นหัวพ่อหุ่น..พ่ออาจารย์ท่านใช้วิชาผูกพยนต์พ่อขุนศรีชุดนี้ขึ้นเพื่อฉุดดึงเปลี่ยนชะตาชีวิตของผู้บูชาจากร้ายกลายเป็นดีแม้อยู่ในที่มืดย่อมพบเจอแสงสว่างเป็นที่สุด นอกจากนั้นท่านยังได้ลงอักขระทำตะกรุดผูกเป็นตัวพยนต์ขึ้นมา ท่านได้ตั้งธาตุหนุนธาตุประสิทธิ์พระเวทย์วิชาอาคมปลุกจนผงพยนต์นี้ดิ้นได้และสะดุ้งตกพานตลอดจนได้สอนสั่งใส่วิชาความรู้อบรมสิ่งต่างๆไว้อย่างดี ท่านว่าส่วนช่วงลำตัวนั้นท่านได้ประยุกต์โดยใช้วิชาลงตะกรุดปราณเบญจธาตุฝังเอาไว้ท่านว่าตะกรุดชุดนี้แต่ละดอกทำยากนัก เพราะท่านถือเสมือนหุ่นนี้คือร่างกายที่รับเคราะห์ของผู้บูชาเมื่อนำไปพกพาติดตัวแล้วเขาจะซึมซับกลิ่นอายและชะตาเสมือนหนึ่งเป็นตัวแทนของเราเช่นนั้นหุ่นนี้จึงถูกฝังถูกผูกเข้าไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเสมือนหนึ่งได้ผูกตัวของเราเข้าไว้กับพระเจ้ากาฬจักร เมื่อหุ่นที่มีปราณของเรานี้อยู่คู่กับพระแล้วแน่นอนว่าวาสนาของเราก็จะดีตราบใดที่หุ่นไม่พรากจากองค์พระตราบนั้นองค์พระก็ยังต้องตามให้คุณแก่เราเรื่อยไป เรียกว่าใช้ได้หลายทางเป็นทั้งพยนต์ผู้รับใช้ ซึ่งนอกจากจะอธิษฐานบอกกล่าวใช้งานเค้าได้ดุจทาสผู้ซื่อสัตย์แล้ว แม้พกไว้กับตัวก็ยังเป็นเสน่ห์เมตตาดึงดูดหัวใจมนุษย์ทั้งชายหญิงให้อ่อนใจรักม้วนพับเข้ามาหาเรา นอกจากนี้ยังเป็นหุ่นรับกรรมรับเคราะห์แทนเรา ท่านปลุกเสกไว้อย่างดีที่สุด ท่านว่าหากมีเคราะห์กรรมหนักก็จะเบาแม้เคราะห์กรรมเบาย่อมเข้าไม่ถึงตัวเพราะเคราะห์กรรมเหล่านั้นพยนต์จะดึงดูดเข้ามารับเคราะห์แทนตัวเราก่อน ท่านว่าเหมือนตัวตายตัวแทนนั่นแหละท่านทำไว้ให้ครบแล้ว พ่ออาจารย์ว่าพยนต์พ่อขุนศรีนี้มีฤทธิ์ดุจเทวดาเลยทีเดียวพ่ออาจารย์ท่านว่าจะได้เป็นบริวารให้เราอีกทอดหนึ่ง เพราะชีวิตคนเรานั้นร้อยพ่อพันแม่ในแต่ละวันย่อมเจอร่างราวต่างๆมากมาย บางคนคราทุกข์คราเคราะห์มาเยือนก็ใช่ว่าจะทยอยมาทีละเรื่องกลับประดังเข้ามาดั่งกับฝันแสนห่า พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเดียวย่อมช่วยได้ช้า ถ้าหลายมือหลายคนเขาย่อมช่วยได้ไวบอดี้การ์ดคู่ชีวิต อธิษฐานได้ทุกอย่างคุ้มครองป้องกันภัยอันตราย,คุณไสยมนต์ดำ,ขจัดศัตรูที่คิดร้าย ทั้งอธิษฐานเป็นเสน่ห์เมตตาดลจิตดลใจหาโชคลาภเงินทองติดตามทวงหนี่ติดต่อธุรกิจสำเร็จ

พระเจ้ากาฬจักรนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าดีทางส่องสว่างหนทางชีวิตให้อยู่เหนือวาสนาดั้งเดิม จะส่องสว่างดุจดั่งดวงสุริยันเมื่อนำไปใช้หวังผลในความเจริญรุ่งเรืองทาง "สุจริต" และจะส่องสว่างดุจพระจันทร์ยามเที่ยงคืนเมื่อนำไปใช้ใน "ด้านมืดๆเทาๆ" อธิษฐานใช้ได้สารพัดนึก *** เหนือสิ่งอื่นใดคือผู้อาราธนาจะค่อยๆสามารถเปิดสื่อเชื่อมต่อพลังกับองค์กาฬจักร(เทวดาที่รักษาองค์พระ)ได้ เป็นพลังวิเศษที่ท่านประทานให้มาเพื่อจะรับพลังที่ยิ่งใหญ่และสิ่งที่ยิ่งใหญ่เข้ามาในเส้นทางเดินชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าการสร้างองค์พระชุดนี้ทำยากมากเพราะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่.เพื่อใช้รองรับพลังที่ยิ่งใหญ่..เพื่อให้เกิดเรื่องราวเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่เสมอกัน

ท่านเจตนาสร้างตามคำสั่งองค์ปฐมเพื่อให้เป็นเครื่องมงคลที่มีฤทธิ์ดีเด่นกว่าของวิเศษทั้งหลาย ด้วยจะค้ำคูณเราทุกด้านไม่ให้เคลื่อนคล้อยตกต่ำไปตามลักขณาราศีจักรทั้งหนุนดวงชะตาที่เปลี่ยนผันไม่คงที่แน่นอนให้เราอยู่เหนือโชควาสนาแต่เก่าก่อนในทุกๆทางไม่มีจำกัด..จะไม่ถูกจำกัดด้วยกาล..ด้วยเวลา(ไม่มีที่ว่ายังไม่ถึงเวลานะถ้าอยากรวย อยากเจริญขึ้นก็ยังไม่ถึงเวลานะเช่นนี้) พ่ออาจารย์ท่านย้ำหนักหนาว่าเครื่องมงคลชุดพระเจ้ากาฬจักรนี้ต้องหามาให้ได้ด้วยประการทั้งปวง..หากอยากเป็นผู้สมบูรณ์ทางโลกอุดมด้วยลาภ..ยศ..สุข..สรรเสริญ..ศักดิ์..ฐานะ..ดุจดั่งเป็นผู้วิเศษมีฤทธิ์เสมอใจในกรณีที่อาราธนาไว้กับตัว แต่หากอาราธนาไว้กับบ้านกับเรือนก็จะนำพาความร่มเย็นสงบสุขกลมเกลียวกันมาแก่ผู้อยู่อาศัยในเคหะสถานทั้งจะนำพาความร่ำรวยอุมสมบูรณ์เข้ามาหาเนืองนอง..ชีวิตคนในบ้านจะผาสุขชั่วนิรันดร์แม้ในชั้นลูกชั้นหลานก็ยังเจริญรุ่งเรืองสืบทอดต่อไปในสายเลือดผู้ครอบครอง

เครื่องมงคลชุดนี้สงเคราะห์ผู้อาราธนาด้วยกำลังพุทธะอันเป็นบริสุทธิคุณของสมเด็จองค์ปฐมนอกจากมีพรรณคุณวิเศษดังกล่าวแล้ว ### ยังใช้เปิดดวง..เปิดธรรม..เปิดจิต เปิดรับความสว่างเข้ามาลบรอยตำหนิรวมถึงมลทินชีวิต ใช้ทางดับทุกข์,ดับอาถรรพ์,ดับสิ่งเลวร้ายได้อย่างพิเศษจะดับสรรพโทษให้สลายหายไปพร้อมกับการอุบัติขึ้นของสรรพสิริมงคลมีชีวิตก้าวหน้าเจริญไปสู่หนทางอันเป็นบรมสุขนิจนิรันดร์ซึ่งไม่มีสุขใดเสมอเหมือนอุปมาดั่งเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเดือดร้อนกิจใดมาย่อมจะสามารถดับทุกข์ดับร้อนให้สงบได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ไว้เพื่อสร้างความมั่งคั่งเสริมอำนาจบารมีในกายให้โชติช่วงชัชวาลดั่งแสงแรกยามตะวันขึ้น...เหนือสิ่งอื่นใดหากอาราธนาพระเจ้ากาฬจักรไว้จะช่วยเร่งความปราถนาและคำอธิษฐานที่เราเคยขอพระเครื่องมงคลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆไว้ให้สมเจตนารมณ์พร้อมกันโดยเร็วบันดาลให้เจ้ากรรมนายเวรรบกวนเราไม่ได้ แม้นได้ขอพรกับพระเจ้ากาฬจักรไว้จะช่วยให้เราโชคดีแบบง่ายๆ..จะกลับร้ายกลายเป็นดี..จะสะกดเคราะห์สะเดาะทุกข์โศกพระองค์นี้พกติดตัวเท่ากับเราสะกดเคราะห์สะเดาะโศกไปในตัวตลอดนะ ด้วยสมเด็จองค์ปฐมท่านกำชับว่าท่านลงมหากลับไปให้ด้วยนั่นคือทำอะไรก็ตามไปแล้วต้องกลับได้และจะกลับทุกข์,กลับโศก,กลับโรค,กลับภัย,กลับคุณไสยไล่กลับไป,ทั้งกลับดวงกลับชะตา..ทุกอย่างนี้แก่ผู้บูชา สำหรับคนที่ยังมีความหวังและชีวิตยังไม่ทิ้งความฝันอยากจะได้โอกาสพลิกชัวิตก็มาอาราธนาพระเจ้ากาฬจักรนี้ จะได้พลิกชีวิตลิขิตชะตาตนได้อีกหนหนึ่ง

คาถาบูชา
นะโม กาเยนะ วาจายะ เจตะสาวา วะชิรังนามะปะฏิมัง อิทธิธรรมะปาฏิหาริยะกะรัง พุทธสิกขีรูปังปฐมพุทธังสัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา อะหัง วันทามิ สัพพะโส สะทา โสตถี ภะวันตุ เม

*** พ่ออาจารย์ท่านให้ลงรายละเอียดเพียงคร่าวๆก่อน ด้วยพระนั้นมีพรรณคุณพิเศษมากสามารถอาราธนาใช้ได้ร้อยแปดพันประการ

*** ทั้งนี้ท่านว่าเครื่องมงคลย่อมเลือกเจ้าของท่านไม่พูดอะไรมากเพราะเป็นการสร้างเครื่องมงคลที่อุปมาโดยนามธรรมคือทุกรกิริยารับทุกข์โทษเคราะห์ภัยทั้งหมด..คนที่จะบูชาได้ก็ขึ้นอยู่ที่วาสนาตนจะมาพบเจอ

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นยอดของพระโปรดสัตว์แรกเริ่มที่องค์ปฐมท่านให้ทำพิมพ์นี้ฉันยังตกใจเลย ท่านว่าในอดีตเราลองผิดลองถูกมามากเพราะเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรกทุกรกิริยาของท่านนั้นลองแทบจะทุกวิธี...ชนิดที่ว่ายากที่คนจะเชื่อ..และทรมานที่สุดจริงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระองค์ให้ทำไว้เป็นที่ระลึกเสียคราหนึ่ง

ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้ากาฬจักรเสวยทุกรกิริยาทดแทนโทษทุกข์ทัณฑ์ทรมาน("พระแก้ตัว" แก้ไขชีวิต) บูชา 4,000 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...ิง-พ่ออาจารย์พล.539894/page-555#post-11649127

 

ร่วมทำบุญบูชา ญาณศาสตรากุญแจสะเดาะพระเวทย์ไขล้านโกฏิปรารถนา(ภาควิชาธรรมบันดาลเร่งบุพเพ)

ในอดีตพ่ออาจารย์ท่านได้สร้างตะกรุดไขรหัสกุญแจไสยศาสตร์พระธรรมบันดาลเอาไว้ ซึ่งญาณศาสตรานี้ถูกสร้างขึ้นพร้อมกันแต่ท่านกลับหวงแหนอย่างมากเสียยิ่งกว่าด้วยทำยากกว่าและมีเป้าประสงค์ในการนำไปใช้ไขปรารถนา "ปลดล๊อคเร่งบุพเพอย่างจริงจัง" ซึ่งญาณศาสตรานี้จะมีพื้นฐานของวิชาไขรหัสกุญแจไสยศาสตร์พระธรรมบันดาล...ดังนี้

"กุญแจมีไว้ทำอะไร ก็ไอ้สิ่งที่ติดอยู่..เปิดไม่ออก..เข้าไม่ได้..ปิดตาย..ถูกซ่อน..ถูกบัง..ถูกผนึก..ถูกกั้น..ถูกกักไว้ กุญแจมันก็มีไว้ไข หงายสิ่งที่คว่ำ เปิดสิ่งที่ปิดนั่นไงล่ะ" พ่ออาจารย์ท่านกล่าวถึง "วิชาไขรหัสกุญแจไสยศาสตร์พระธรรมบันดาล" ไว้ว่าเป็นวิชายุคเก่าของท่านตอนทำตะกรุดนั้นย่อมเป็นตะกรุดที่ไม่ใคร่จะสวยงามนักเพราะทั้งทุบทั้งรีดดูบี้ๆบุบๆแต่ขลังยิ่งนัก วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจลงอย่างมากด้วยเป็นวิชาเก่าแก่ซึ่งท่านได้มาแต่สมเด็จพระสังฆราชสุกไก่เถื่อนประทานให้โดยเฉพาะอย่างแท้จริง ท่านว่าทำยากนะแต่เรามีวิธีทำให้สำเร็จได้แต่ก็ตลกดีเพราะตะกรุดนี้คนทำไม่ได้ใช้..คนใช้ไม่ได้ทำ

ท่านบอกว่าวิชานี้อย่าไปบรรยายเขามากให้พูดคร่าวๆถ้าเขามีบุญพึงรู้พึงเห็นก็จะเข้าใจเอง พ่ออาจารย์ท่านเรียกขานองค์พระสังฆราชสุกไก่เถื่อนว่าอาจารย์ปู่ด้วยท่านเป็นพระอาจารย์ในบรมครูสมเด็จท่านพูดถึงอาจารย์ปู่อยู่บ่อยๆว่าท่านมีเมตตาเป็นเลิศยิ่งนักทรงคุณธรรมพรหมวิหารชนิดที่ยากจะหาใครมาเปรียบเสมือนได้ เกี่ยวกับวิชานี้ก็เป็นด้วยภูมิความรู้และวิปัสสนาธุระที่ยิ่งใหญ่ของท่านทำให้ญาณทัศนะของท่านกว้างอย่างมาก วิชาทั้งหลายก็ดุจใบไม้ประดับยอดมหาพฤกษาที่ท่านเลือกจะปลิดจะเด็ดมาให้ใช้ซักใบตามความเหมาะสม.....ในห้วงชีวิตมนุษย์อันดุจว่ายอยู่ในทะเลใหญ่นั้น ไม่เพียงแต่ต้องออกแรงว่ายทวนคลื่นฝ่าฟันไป ในบางจังหวะก็อาจเจอทั้งคลื่นลมซ้ำเติมบางโอกาสก็อาจเจอขอนไม้เจอที่ที่เกาะหรือยึดรั้งพอบรรเทาความเหนื่อยความล้าได้ ท่านว่าอาจารย์ปู่นั้นได้เคยคุยและปรารภเรื่องนี้กับท่านซึ่งแต่แรกท่านก็เข้าใจว่ามันเกี่ยวข้องด้วยกุศลและอกุศลกรรมตลอดจนกรรมบันดาลทั้งหลาย แต่องค์บรมครูนั้นท่านว่ามันก็ไม่จริงเสมอไปเพราะทุกสิ่งขึ้นอยู่ด้วยโอกาสและจังหวะชีวิต ที่เธอเคยถามว่าทำไมคนชั่วเขาได้ดีล่ะ..ทำไมบางคนมองยังไงเพ่งยังไงก็ไม่เห็นกรรมอันเป็นกุศลใดๆจะส่งผลได้..ศาสนาก็ไม่นับถือถึงได้ดีเจริญขึ้นๆไม่ตกต่ำลง ท่านว่ามันก็เป็นด้วยวิสัยของโลกอย่างนึงสิ่งนี้เรียกว่าโอกาสและจังหวะที่ดีของบทละครชีวิตนั่นเอง

วิชาไขรหัสกุญแจไสยศาสตร์พระธรรมบันดาลนั้นบรมครูหรืออาจารย์ปู่ท่านให้ไว้ เพื่อเป็นตัวช่วยเหลือสำหรับคนที่ไม่มี,ไม่เจอไอ้สิ่งที่เรียกว่าโอกาสและไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตตัวเองมีจังหวะหรือทางรอดที่ดี ท่านว่าวิชานี้สำคัญนะเปรียบดั่งกุญแจที่ไขชีวิตอันปิดตายของคนด้วยอำนาจของมายาศาสตร์และไสยศาสตร์ให้ชีวิตได้เจอโอกาสและจังหวะที่ดีซ้ำยังหนุนด้วยวิชาธรรม เป็นตัวธรรมที่จะบันดาลให้สำเร็จในกิจธุระต่างๆท่านว่าไขออกแล้วแค่พบเจอ..เอาไม่ได้..ทำไม่สำเร็จมันก็สิ้นประโยชน์ แต่สิ่งนี้ไขออกแล้วยังต้องเอาได้และทำสำเร็จด้วยซึ่งเป็นอานุภาพแห่งพระอัครธรรมอันยิ่งใหญ่เป็นไปตามกาลตามธรรมชาตินั่นเอง ตัววิชานี้พ่ออาจารย์ท่านเมตตานำมาลงไว้ให้เหมาะแก่การใช้งานดั่งที่ท่านว่ามันเป็นของเฉพาะ "เฉพาะคนที่เห็นโอกาสเท่านั้น"

ท่านว่าเป็นวิชาอาจารย์ปู่ แรกเริ่มเดิมทีนั้นก็ตั้งใจจะทำไว้ใช้เองและให้กับคนที่เขาเดือดร้อน หากแต่พอทำเสร็จครูท่านกลับบอกว่าคนทำห้ามใช้ ท่านก็เลยเชิญครูทั้งอาจารย์ปู่ทั้งครูสมเด็จมาเสกเก็บไว้เรื่อยๆ " จนท่านได้มีโอกาสไปเชียงใหม่เพื่อจะทำธุระและไปต่อที่เพชรบูรณ์เก็บหาว่านยาด้วยว่าแรงเหวี่ยงของโลกนั้นน่าอัศจรรย์ ทำให้ท่านได้พบเจอกับพ่อค้าคนหนึ่งและคนๆนั้นทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ได้มานั่งปรับทุกข์กับท่าน คล้ายอยากจะหาคนระบายพอมาเจอคนไม่รู้จักแล้วคุยถูกคอเกิดอาการเลื่อมใสก็อยากจะเล่า ท่านว่าเราก็ฟังเขาคนๆนี้ไม่รู้จะทำงานทำการอะไร ก็เขาว่ามันไม่รู้จริงๆจะให้ทำอย่างไรเมื่อไม่รู้ก็ไปเป็นพ่อค้าขายพระอยู่ที่ตลาดทิพย์เนตร ทำๆไปก็ไม่รุ่งทำแล้วไม่รวยแถมยังมีแต่คนด่าคนตามล่าอีกเพราะไม่เชี่ยวชาญเผลอเอาของปลอมไปขายคนใหญ่คนโต ก็มานั่งปรับทุกข์กับท่านว่าไม่เอาแล้วทางนี้ผมจะทำอาชีพอะไร จะทำงานอะไรดี ท่านมองแล้วก็ให้เกิดธรรมสังเวชแต่การดำรงชีวิตของคนนั้นจะมานั่งกินกาแฟทำตัวลอยไปลอยมาไม่มีหลักเสวยบุญเก่าก็ไม่ได้ เมื่อพิจารณาแล้วท่านนึกถึงวิชานี้ขึ้นมาทันทีว่าก่อนมาครูท่านเตือนให้พกไปเสกที่เชียงใหม่ด้วยตามวิสัยของท่านที่ชอบหาป่า..หาเขา..หาดอยที่เงียบสงบมีพลังธรรมชาติยิ่งใหญ่เหมาะแก่การชุมนุมเทพเทวาครูบาอาจารย์เพื่ออธิษฐานเครื่องมงคลเสมอมา ท่านจึงมอบตะกรุดให้พ่อค้าพระเครื่องนี้ทำบุญบูชาไปดอกนึงพร้อมกับย้ำเตือนเขาว่าหากเกิดนิมิตใดก็ดีหรือมีความรู้สึกอย่างไรก็ดีให้เชื่อตัวเอง..นั่นไม่ใช่สิ่งเหลวไหล..ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ เมื่อพบกับตะกรุดนี้โอกาสได้เกิดขึ้นแล้ว..ประตูได้เปิดออกแล้ว.......ล่วงเลยไปเกือบสองปีพ่อค้าพระคนนี้ก็ได้ติดต่อกลับมาพ่ออาจารย์ท่านว่าเขาเชื่อเราเขาเล่าว่าพอได้ตะกรุดไปตกกลางคืนนอนฝัน เหมือนไปนั่งกินกาแฟพูดคุยกับผู้ชายแก่ๆเป็นใครก็ไม่รู้เกี่ยวกับชีวิตตนเองเหมือนคุยกะพ่ออาจารย์ บุคคลลึกลับนั้นได้พูดได้สอนเขาว่าให้หาฐานลูกค้าจากคนรู้จักอย่างไรให้ประกอบอาชีพอะไร อยู่ดีๆก็มานั่งบรรยายอย่างละเอียดพร้อมทั้งบอกว่าต้องทำทีละขั้นแบบไหนๆเขาว่าแปลกจริงๆ ซึ่งตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ประตูนั้นเปิดแล้ว อานุภาพแรงธรรมก็บันดาลให้เป็นไปแบบที่ควรจะเป็น ภายในสองปีจากพ่อค้าพระที่ล่มจมไปแล้วกลายเป็นคนมีธุรกิจประสบความสำเร็จในการขายอาหารเกี่ยวกับยามีบริษัทต่างชาติสนใจอยากซื้ออยากร่วมทุน ปัจจุบันนี้ยังเพิ่งไปเปิดโรงงานน้ำแข็งเพิ่ม"..เรียกว่าพอไขออก..พอประตูเปิดทำอะไรก็รุ่ง ท่านว่านั่นเขาว่าเขาทำตามความรู้สึกพาไปอานุภาพตะกรุดเขาน่าอัศจรรย์ถึงเพียงนี้ เช่นนั้นเราถึงรู้ว่าเพราะเราไม่ได้เอาดีทางโลกครูถึงห้ามใช้

กุญแจมีไว้ทำอะไรก็ไอ้สิ่งที่ติดอยู่..เปิดไม่ออก..เข้าไม่ได้..ปิดตาย..ถูกซ่อน..ถูกบัง..ถูกผนึก..ถูกกั้น..ถูกกักไว้ กุญแจมันก็มีไว้ไขหงายสิ่งที่คว่ำ..เปิดสิ่งที่ปิดนั่นไงล่ะ ตะกรุดนี้ก็เป็นดุจเครื่องมือที่จะใช้เปิดทำให้สิ่งที่ปิดไว้ล็อคไว้ด้วยความตั้งใจหรือการกระทำหรือกฏของกรรมใดๆก็ดีหลุดออกมา ทำให้คลายให้หลุดให้เห็นสิ่งที่เผยออกแย้มออก พ่ออาจารย์ท่านว่าในห้วงชีวิตคนนั้นคลื่นลมมันมากแต่หากอาราธนาวิชานี้ไปเราขออย่างเดียวนั่นคือตัวรู้ที่ผุดขึ้นในความคิด ในจิตวิญญาณของตนเองนั้นจงเชื่อและกระทำเถิด เชื่อมั่นในจิตสำนึกและพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เข้ามาดลบันดาลจิตใจและชีวิตตนเอง เพราะ..ช่อง..ทาง..โอกาส ทุกสิ่งได้เปิดขึ้นเป็นของเราแล้ว อันตะกรุดดุจกุญแจที่ใช้ไขชีวิตให้เปิดหนทางอันปิดตายนั้น ท่านว่าคนนั้นมีรหัสกรรมต่างเพศต่างเผ่าพันธุ์กันไปมีความผันผวนด้วยกระแสคลื่นลมต่างกัน..มีหนทางให้เดินต่างกัน ดังนั้นทางรอดและวิธีแก้ไขย่อมต่างกันขอเพียงเชื่อใจเชื่อความรู้สึกและเชื่อครูถึงแม้จะมองไม่เห็นสัมผัสไม่ได้ หากแต่เคารพและศรัทธาแล้วครูย่อมไม่ไปไหนหรืออยู่ห่างไกล ท่านย่อมแฝงอยู่ในความคิดและจิตวิญญาณของเราเมื่อจังหวะช่วงเวลาที่เหมาะที่ควรมาถึง ท่านก็จะเปิดเผยทางเดินของชีวิตให้กับเรา

พ่ออาจารย์ท่านว่าหากหมั่นไหว้หรือศรัทธาและกล้าที่จะทำจะเปลี่ยนชีวิตตนแล้วทุกอย่างไม่ใช่เรื่องยากเลย ท่านว่าตะกรุดนี้เป็นของเฉพาะกาลเฉพาะโอกาสท่านทำไว้เท่านี้ทำครั้งเดียวและจะไม่ทำอีก ด้วยว่าห้วงกรรมของสัตว์นั้นโดยปกติแล้วโอกาสและจังหวะล้วนขึ้นอยู่กับวาสนา ท่านว่าเราเข้าไปอุ้มเขาไว้ไม่ได้ทั้งโลกหรอก ด้วยบุญสัมพันธ์เป็นปฐมก็มีคนเพียงหยิบมือเล็กๆที่พอจะให้วิชาและครูบาอาจารย์ท่านช่วยท่านหยิบยื่นโอกาสให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้มีปัญญารู้สิ่งที่ติดขัดคั่นขวางย่อมรู้เองเห็นเอง..เพราะโอกาสนั้นไม่ได้เป็นของทุกคน ตะกรุดนี้ท่านว่าพูดมากไม่ได้เพราะมันเกินกรรม เป็นตัวช่วยเครื่องไขเครื่องนำออกอย่างวิเศษดุจกุญแจที่จะช่วยให้เราผ่านสิ่งที่ปิดกั้นไปอย่างง่ายดายสิ่งเหล่านี้บางคนติดอยู่ทั้งชีวิตบางคนต้องใช้ความพยายามใช้แรงอย่างมากเพื่อที่จะแง้มจะเปิด ท่านว่าก็นั่นแหละตรงๆนี่คือกุญแจไขประตูมหาวัฏจักรก็ไม่ผิด..ไม่ใช่ของใครก็ได้..แต่ผู้เป็นเจ้าของจะพึงรู้พึงเห็นค่าด้วยตัวเอง มันใช้ได้มาก..ใช้ผ่า..ใช้ฝ่าไปได้ทุกปัญหาไม่ใช่เฉพาะวันเวลาหนึ่งๆ เพราะชีวิตคนนั้นล้วนต้องการโอกาสและทางออกในทุกๆวัน ยิ่งพัฒนาปัญหาก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นมีให้ลับคมสติปัญญามากขึ้นทุกๆวันเป็นเงาตามตัว ท่านพูดอย่างง่ายว่า "ถ้าใครพร้อมที่จะเปิดโอกาส เปิดประตูชีวิตตัวเองก็ค่อยมาเอาไป"

ญาณศาสตรากุญแจสะเดาะพระเวทย์ไขล้านโกฏิปรารถนา(ภาควิชาธรรมบันดาลเร่งบุพเพ)ชุดนี้ ได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสตราเทพวิญญาณอันมีอิทธิพลส่งผลต่อโชคชะตาของผู้ถือครองและมีผลต่อโอกาสในการชนะเกมส์ชีวิตอย่างมีนัยยะสำคัญ จะพบช่องประสบทางเจอโอกาสดั่งฟ้าผ่าลงมาด้วยอำนาจวาสนาบารมีพลิกกลับดั่งสั่งฟ้า..พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่กุญแจดอกเดียวนี้แหละคนมีวาสนาเท่านั้นถึงจะได้ครอง เรื่องบางเรื่องโอกาสบางอย่าง..กับคนบางคนที่รอคอยมาทั้งชีวิตจึงได้มาเจอ เพื่อให้ชีวิตตนจิญรุ่งเรืองไม่รู้จักคำว่าไม่มีแม้นดวงไม่ดีก็จะกลับให้ดีให้เจริญขึ้นดั่งไขลิขิตกลับชีวิตจากตายให้คืนเป็นฟื้นฟูขึ้นอีกครั้ง จะพลิกชะตาฟ้าลิขิตดุจเปลี่ยนดินให้เป็นดาวได้เลย(จะเห็นว่าพ่ออาจารย์ท่านทำเครื่องรางมากมายแต่สิ่งที่ท่านเว้นไวนั่นก็คือลูกกุญแจ..เพราะมันใช้ไขอุปสรรคได้ง่ายดายเกินไป) ท่านว่าลูกกุญแจตัวนี้ทำให้ถึงขั้นมหิทธิฤทธิ์ นั่นคือมีฤทธิ์มากจะสำเร็จการณ์ใหญ่มีผลความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่..คิดการณ์ใหญ่ไม่มีสิ่งใดขัดขวางเพราะเรามีลูกกุญแจที่ใช้ไขได้ทุกปัญหาไม่ว่าจะอยู่ที่ใดหรืออยู่ในรัศมีบารมีของผู้ใดบดบังก็ตาม ผู้ที่ครองลูกกุญแจจะเหนือกว่าผู้อื่นทั้งปวง

ทั้งคนที่ไม่ค่อยหมั่นทำบุญ..ไม่มีวาระ..โอกาสไม่เอื้ออำนวยยังผลให้ดวงไม่ดี,ดวงชง,ดวงตก,ไม่มีโชค เหล่านี้ท่านว่าอาราธนาญาณศาสตราลูกกุญแจไว้จะไขจะแก้ปัญหาได้ทั้งหมดคนที่ไม่มีดวงก็จะมีวาสนา..คนที่ไม่มีโชคก็จะมีโชค..หากต้องแข่งขันกับผู้ใดอุปมาดุจเราไขเอาเส้นชัยความสำเร็จรอบข้างมาเป์นของเรา ..คนที่โชคดีกว่าเราย่อมมีอยู่ทุกที่..แต่ทุกที่จะไม่มีคนที่เหนือกว่าเรา ญาณศาสตรานี้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมเพื่อทำให้เราใช้ไขโชคให้ดีให้เร็วทันใจ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะได้มีกินมีใช้ให้ชีวิตได้รับความสุขไม่ลำบากขัดสนมีความสุขสบายในชีวิตพลิกลิขิตฟื้นชะตาชีวิตได้..ดั่งว่าผู้ที่ครอบครองปรารถนาล้านโกฏิบรรดามีในโลกหล้าจักไขเอาความสำเร็จใดก็มีได้ทุกสิ่งอัน

นอกจากไขชะตาความสำเร็จนี้ญาณศาสตรายังใช้ได้อีกมากหลากแนวทาง
- ลูกกุญแจนี้ถ้าพกให้สัมผัสร่างกาย จะสามารถช่วยเหลือเกื้อหนุนผู้เป็นเจ้าของได้เต็มที่อย่างรุนแรง
- กิจการทั้งหลายจะบรรลุโดยง่ายคิดทำอะไรได้กำไรมากโข
- หมู่คนพาลผู้มีจิตอกุศลต่อเราจะแพ้ภัยตนเอง
- สรรพชีวิตทั้งหลายจะไม่เบียดเบียนต่อตัวเรา
- ความเกลียดชังอันใดจะไม่บังเกิด
- จะเสริมในสิ่งที่ขาดเติมในสิ่งบกพร่อง
- การลงทุนผลิดอกออกผลได้กำไรเป็นก่อเป็นกำ
- ป้องกันสิ่งอัปมงคลอำนาจที่ก่อเกิดจากคุณไสยมนต์ดำภูติผีร้าย
- อันตรายและภยันตรายทั้งปวงไม่กล้ำกรายราวี
- ปรับสมดุลธาตุทั้งสี่ในร่างกาย
- แม้ในตัวเรามีสารพิษตกค้างก็ย่อมถูกขับออกไป
- จะช่วยให้ร่างกายมีกำลังวังชาเกินกว่าวัยและอายุกาล
- จะทำให้นอนหลับสบายตื่นมาสดชื่นเต็มเปี่ยมด้วยกำลังเสมอ
- จะไม่เจ็บป่วยง่ายมีสุขภาพดี
- จะเสริมฐานอำนาจวาสนาบารมีโชคลาภหนุนดวง
- จะเจริญรุ่งเรืองไม่รู้วันตกต่ำ

ผูกตะกรุดวิชาเร่งบุพเพ
พ่ออาจารย์ท่านหล่อญาณศาสตราจากมหาธาตุที่ลงวิชาไขรหัสกุญแจไสยศาสตร์พระธรรมบันดาลเอาไว้ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังใช้วิธีเชิญสายฟ้าเพื่อบรรจุอำนาจธรรมอำนาจเบื้องบนเอาไว้จะได้..ไข..และแก้ไข...ทุกสิ่งได้รวดเร็วปานฟ้าผ่าทั้งยังกันภันตลอดจนถึงกันเหตุการณ์วิบัติในชีวิตรวมไปถึงเป็นมหาอำนาจสะกดข่มสรรพสิ่งใต้ฟ้าอย่างถึงที่สุด นอกจากนี้ท่านยังได้ฝังของวิเศษนานชนิดลงไปด้วย

- ตะกรุดวิชาเร่งบุพเพ ตะกรุดวิชานี้ท่านไม่ได้นำออกมาใช้กำกับเครื่องมงคลใดๆเลย เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายโกลาหลใหญ่ในโลก ท่านว่าหนนี้ทำญาณศาสตรากุญแจสะเดาะพระเวทย์จึงนำมาใช้ได้เพราะส่งเสริมและเพิ่มเติมอานุภาพซึ่งกันและกัน ด้วยคนเราทุกคนนั้นเกิดมาด้วยบุญวาสนาที่แตกต่างกัน การที่เราจะได้หรือสำเร็จในกิจใดทั้งหน้าที่การงานวิถีละครชีวิตลาภที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ตาม..นอกจากจะพึ่งดวงชะตา..จังหวะเวลาแล้วยังต้องมีเหตุการณ์ร่วมกันมาแต่ปางก่อน..คนก็ต้องมีบุญเสมอกันสถานที่ก็ต้องมีวาสนาเกื้อกูลกันเช่นนี้ ตะกรุดวิชาเร่งบุพเพจึงเป็นของที่ใช้สร้างและเชื่อมต่อวาสนาโดยตรง(เหมาะกับการไขปลดล๊อคชีวิตมากที่สุด)
1.เพื่อให้สถานการณ์ที่ไม่เหมาะสมกับเราสมควรต่อเรา
2.เพื่อให้สถานที่อันไม่เกื้อหนุนเราก็จะหนุนนำเรา
3.เพื่อให้คนที่ไม่มีบุญคุณกับเราก็จะสร้างสร้างบุญกับเรา
บุพเพในสรรพสิ่งทั้งมวลจะก่อเกิดหนุนนำพาซึ่งกันและกันเป็นลูกโซ่มาจบที่เรา..ให้เราได้ในสิ่งที่ไม่มีบุญจะได้ให้ลงเอยในวาสนาของเราเอง ทั้งอานุภาพญาณศาสตราจะส่งผลอย่างเต็มที่ไม่มีวัตถุธาตุใดในร่างกายเราส่งผลร้ายหรือข่มกันเองให้เราย่ำแย่ลง

### นอกจากนี้ยังฝังตะกรุดพระเจ้าแห่งการพนันเสี่ยงดวง(มหาสะเดาะ)

ต้องเเจ้งก่อนว่าตะกรุดนี้เป็นวิชาเฉพาะทางที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้เพื่อสืบสายวิชาเท่านั้น วิชานี้เเต่เดิมเป็นวิชาที่ผู้หวังรวยทางลัดชอบการพนันเสี่ยงโชคนิยมกัน ซึ่งคนที่ได้ดิบได้ดีทางนี้ล้วนมีอยู่มากมายเขาเหล่านั้นนอกจากดวงเเละโชคเเล้วยังมีของดีมีวิชาดีติดตัวมาเเต่โบราณด้วย พ่ออาจารย์บอกว่าเเต่เดิมวิชานี้เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งในภาควิชาของเทพนิมิตร ท่านได้เฝ้าครูมหาพรหมคือองค์สหัมบดีบรมพรหมสูงสุดแห่งปัญจสุทธาวาสท่านจึงได้วิชานี้มา โดยใช้วิชานี้ตั้งตัวเเละทำไว้ให้ลูกศิษย์บ้างเฉพาะบางคนที่มีความประพฤติดี วิชานี้องค์บรมพรหมท่านให้มาโดยเฉพาะพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าแก่นเเท้ของวิชานี้ต้องสวนกับกระเเสของกรรมในระดับหนึ่ง พระองค์ท่านได้มอบอักขระให้พร้อมคาถาเสกเรียกว่ามหาสะเดาะ พระองค์ท่านบอกว่าเพราะสัตว์นั้นมีกรรมเฉพาะเเต่ละบุคคลถึงมีโชคบางทีก็รับไม่ได้บางครั้งกรรมส่งผลหนักเเม้โชคก็ยังไม่มีเลย

ในจุดนี้เพื่อให้ผู้ใช้ได้เสวยศุภมงคลอันเกิดเเต่โชคลาภวาสนา พระองค์ท่านจึงให้วิชามหาสะเดาะเเก่พ่ออาจารย์ ท่านว่าเมื่อพกไว้บูชาไว้กับตัวจะสะเดาะโซ่ตรวนบ่วงพันธนาการที่กุมรัดให้หลุดออกให้ไขว่คว้าโชคลาภได้จะทำอะไรก็มีเเต่โชคร่ำรวยง่ายๆโชคดีเเบบนั้น ในส่วนของเวรกรรมนั้นก็ไม่ได้หายหรือสลายไปไหนเพียงเเต่คลายพันธะทั้งหมดออกชั่วคราวให้สัตว์เหล่านั้นที่ได้บูชาสามารถรับโชคได้เเต่กรรมเก่าก็ยังรับเหมือนเดิม พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชานี้มันดีตรงที่เวลามีโชคพูดง่ายๆคือมีเงินให้เอาเงินไปทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวรบ่วงกรรมมันก็จะบรรเทาเบาบางลง ทีนี้อะไรก็ง่ายไปหมดทำไปเรื่อยๆได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำบุญได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำการกุศลอุทิศให้เขา เช่นนี้ก็ขึ้นชื่อว่าต่อไปบ่วงพันธนาการต่างๆก็จะลดคลายลงเงินเเละความโชคดีมันจะยิ่งไหลมาไม่รู้จบ เมื่อท่านลงตะกรุดแล้วจึงได้ลงพระเวทย์เฉพาะอันท้าวสหัมบดีบรมพรหมท่านสอนไว้พระเวทย์นี้ไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดเผยเเก่ผู้ใด พ่ออาจารย์กล่าวว่าพระเวทย์นี้ต่อให้อยู่เฉยๆโชคลาภก็วิ่งเข้ามาหาเองเเม้ปรารถนาเงินทองของมีค่าความสุขสบายใดก็ไม่ไกลเกินความปรารถนา จะเสี่ยงโชคจะพนันขันต่ออะไก็เอาเเต่พองามตามใจเถิดให้ตั้งสัจจะกับตะกรุดไว้ว่าวันนี้อยากได้เท่าไหร่ได้เเล้วให้พอให้หยุดเเล้ววันอื่นค่อยขอเมตตาในส่วนมหากรุณาของเสด็จปู่ท้าวสหัมบดีต่อไป *** ตะกรุดนี้ตอนเสกพ่ออาจารย์ต้องเชิญองค์บรมพรหมมาเหยียบบ่าเเฝงร่าง มาเป่าครอบวิชาทุกดอก

วิธีใช้ คาถาบูชา (ระลึกถึงบรมพรหมสหัมบดีเป็นที่สุดกล่าวคาถานมัสการ)
โองการพินทุนาถัง อุปปันนัง พรหมมาสะหะปะตินามะ อาทิกัปเป สุอาคะโต ปัญจะปะทุมังทิสวา นะโมพุทธายะ วันทะนังฯ
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิเตโช ชะโยนิจจัง สิทธิลาโภ นิรันตะรัง สัพพะกัมมัง ประสิทธิเม สัพพะสิทธิ ภะวันตุเมฯ
เมื่ออาราธนาตะกรุดเเล้วให้อธิษฐานในการเสี่ยงดวงที่ปรารถนาพ่ออาจารย์ว่าครอบคลุมทุกอย่างจะไปสอบสัมภาษณ์,จะไปยื่นซองประมูล,จะไปทำอะไรที่มันได้ชื่อว่าเสี่ยงว่าจะได้หรือไม่จะร้ายมากกว่าดีหรืออย่างไร..นี่มันสะเดาะเคราะห์ทุกข์ให้ชั่วคราว อธิษฐานเอาเลยขึ้นชื่อว่าเสี่ยงดวงตั้งจิตอธิษฐานได้ครอบคลุมทั้งหมด
- หากปรารถนาเห็นตัวเลขให้กำตะกรุดภาวนาคาถาจนหลับจะช่วยให้เห็นง่ายขึ้น อิติ อรหัง พุทธนิมิตตัง อุปปันนัง โหติ
- หากปรารถนาเห็นตัวเลขโดยการเข้าสมาธิ ให้กำตะกรุดเเล้วภาวนา เลขะยันตัง สันตัง อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ
- นอกจากนั้นยังทำหวยได้ทุกวิธีตามเเต่จะปรารถนา พ่ออาจารย์ว่าให้อาราธนาตะกรุดลงในขันน้ำมนต์เป็นขันสัมฤทธิ์จะดีมากเเล้วจุดเทียนขี้ผึ้งหยาดน้ำพระมนต์ลงไปเถิด ภาวนาโองการท้าวสหัมบดีบรมพรหมขอความเมตตาท่านเพ่งพิจารณาเเล้วจะเห็นเอง
### ท่านว่าตะกรุดนี้เป็นตะกรุดเฉพาะกิจถ้าไม่หวังเรื่องหวยหรือการพนันก็จะเป็นโชคลาภอย่างที่สุด...กล่าวคือมีโชคดีเรื่องอื่นๆเข้ามาหาผู้ครอบครองเรื่อยๆ
### ตะกรุดชุดนี้ที่ฝังไปญาณศาสตรานั้นอาราธนาใช้ได้ดั่งฝอยข้างตนเลยไม่ขัดแย้งกัน

ไม่เพียงเท่านั้นในญาณศาสตรานั้นเรายังจะเห็นแผ่นทองสีเหลืองๆฝังอยู่มากมาย เป็นชนวนมวลสารที่พ่ออาจารย์ท่านหวงมากๆและแม้ในรุ่นที่ใช้ผสมยังเพียงแต่ตะไบเอาเศษผสมเท่านั้นนั่นคือทองชนวนเจ้าสัว 9 โกฎิ ที่พ่ออาจารย์ท่านหล่อหลอมรวมกันไว้ ด้วยจะทำให้ลูกกุญแจนั้นมีเชื้อ มีชาติ มีสัญญา มีอานุภาพที่เป็นของเจ้าสัวจริงๆ..เพื่อจะได้ไขเอาวาสนาบารมีความยิ่งใหญ่ทุกสิ่งมาสู่ผู้บูชาโดยตรงถือเคล็ดอุปมาว่า 9 ชะตาเจ้าสัวหนุนหลังไม่พลัดตก โดยตำราของท่านว่าจะทำของแรงๆที่มีอานุภาพเปลี่ยนคนสร้างคนได้ก็ต้องใช้โกฏิของเจ้าสัวโบราณมาทำ ท่านว่าเรารวบรวมไว้เอาแค่โกฏิเค้ามาเป็นสื่อเป็นชนวนให้ตรงตามตำราเท่านั้นไม่ได้มีกระดูกหรือมวลสารอาถรรพ์ใดๆ ท่านว่าลำพังโกฏินี่ก็อาถรรพ์มากพอแล้วกว่าจะเจรจาจนได้มาต้องหาโกฏิใหม่ไปเปลี่ยนให้เค้าต้องบอกกล่าวทั้งดวงจิตและลูกหลานให้สมัครพร้อมใจ(คุยกับเศรษฐีนั้นคุยยากที่สุดหากไม่มีบุญคุณกันเขาจะไม่ยอมเลย) ซึ่งเศรษฐีทั้งเก้านี้ท่านนี้ได้แก่
- เศรษฐีคุณพระ เป็นถึงท่านเจ้าคุณมีทรัพย์สินและบริวารมาก คนใช้จะเจริญด้วยยศศักดิ์
- เศรษฐีที่ดิน เป็นเจ้าของที่ดินมหาศาล คนใช้จะได้มีที่ดินทำกินมีบ้านช่องเป็นของตัวเอง
- เศรษฐีพ่อค้าทอง เป็นเจ้าของร้านทองชื่อดัง ท่านว่าคนใช้จะได้จับเงินทองไม่ขาดมือทำมาหากินอะไรก็ซื้อง่ายขายคล่อง
- เศรษฐีสวนส้ม สมัยก่อนใครมีสวนส้มยิ่งทำเป็นกิจการใหญ่โตส่งออกถือว่ารวย ท่านว่าคนใช้นั้นจะได้มีทรัพย์ ทรัพย์ที่มีจะได้ออกดอกออกผล
- เศรษฐีนายหน้า มีวาสนาได้ด้วยการพูดจาติดต่อประสานงาน ท่านว่าจะได้เปิดและเพิ่มวาสนาคนใช้ให้ติดต่อสื่อสารเจรจางานใดๆก็สำเร็จร่ำรวย
- เศรษฐีเจ้าปัญญา เป็นชีวิตที่เรียนเก่ง ได้ดีเพราะมีปัญญามาก สอบได้เป็นอันดับแรกของจังหวัด กลายเป็นเศรษฐีเพราะวาสนาบวกกับสติปัญญาที่สูงส่งเกินมนุษย์ ท่านว่าคนใช้จะได้มีปัญญา รู้ทันคำพูดและความคิดฉลาดหลักแหลม
- เศรษฐีโรงบ่อน เป็นเจ้าของบ่อนพนันท่านว่าคนผู้นี้มีอำนาจ วาสนา บารมีครบถ้วน การจะเป็นเจ้าของบ่อนที่ท้าทายอำนาจรัฐได้ย่อมไม่ธรรมดา ท่านว่าคนใช้จะได้มีบารมีมากเช่นเดียวกัน
- เศรษฐีเจ้าสำราญ เป็นคนที่ได้ดีเพราะแต่งเมีย เหมือนหนูตกถังข้าวสาร อยู่เฉยๆโชคลาภ ทรัพย์สิน ศฤงคาร ความสุขทุกประการก็มากองอยู่ตรงหน้าโดยไม่ต้องหาต้องลงแรงทำอะไร ท่านว่าคนใช้จะได้สะดวกสบายทำอะไรลื่นไหล ได้ลาภได้ทรัพย์กันง่ายๆ
- เศรษฐีเหมืองแร่ แร่ธาตุทั้งหลายเป็นทรัพย์ในดินเป็นสิ่งที่เกิดที่งอกเงยตามธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้มีในดินทุกที่ การเป็นเศรษฐีเป็นเจ้าสัวเพราะทรัพย์สินที่เกิดที่งอกขึ้นเองในที่ดินตนนับว่าเป็นวาสนาแต่เดิม ท่านว่าทำอะไรจะได้งอกเงยและทรัพย์จะเกิดขึ้นได้เอง
*** ท่านได้นำชนวน 9 โกฎิอาถรรพ์เจ้าสัวนี้มาใช้เพื่อสร้างญาณศาสตราจะได้ไขวาสนา 9 ทิศทาง พาเราไปหาความสุขสบายได้อย่างเที่ยงแท้..และเที่ยงตรงเป็นที่สุด
*** นอกจากนี้ยังฝังองค์เหล็กอาตมันทั้งสองสัญฐาน และแร่นำโชคของเศรษฐีเหมืองแร่ที่คนในตระกูลนั้นเก็บรักษาไว้และนิยมพกพากันทั้งตระกูลด้วยเชื่อว่าเป็นแร่อาถรรพ์ที่จะนำพาโชควาสนามาให้อย่างน่าประหลาด

คาถาบูชา
ปทุมะยะถา โภกะนุทังสุคันธัง ปาโตสิยา ผุลละมะ วิคะตะคันธัง อังคีระสัง ปัสสะวิโรจะมานัง คัภปันตะมาทะทิจจะ วันตะลิกเขติ
- ให้ท่องคาถาแล้วนำนิ้วชี้จรดนิ้วโป้งเป็นตัว O ถ้าเป็นเรื่องร้ายใช้มือขวาทำ..ถ้าเป็นเรื่องดีใช้มือซ้ายทำ..แล้วพิจารณาว่าเรื่องที่เราปรารถนาเรื่องที่เราต้องการทั้งหลายอยู่ในรูวงกลมนี้..ทั้งสารพัดปัญหา..สารพัดเรื่องราว..สารพัดผู้คน จากนั้นใช้มืออีกข้างถือกุญแจเสียบและทำท่าไขออก เป็นการแก้อาถรรพ์ทำลายล้างอุปสรรคขวางกั้นความสำเร็จทั้งปวง
- ให้ท่องคาถาแล้วใช้หัวกุญแจเคาะปากเบาๆ..เรียกสิ่งที่ตนปรารถนา
- ให้ท่องคาถาใช้ปลายกุญแจชี้ที่หน้าผาก..เบิกบุญมาใช้
- ให้ท่องคาถาอยากจะได้สิ่งใดให้นำปลายกุญแจเคาะสิ่งนั้น..จนเกิดเสียงดังขึ้น
- แม้เวลาทำบุญก็ให้ใช้หัวกุญแจเคาะกับพื้นธรณี..เรียกเทวดามาอนุโมทนา
- นอกจากใช้ไขแล้วเมื่อจะทำสิ่งใดให้เคาะกุญแจกับของใกล้ตัวให้เกิดเสียงดังก่อน..ท่านว่าแก้เคล็ดอัปมงคล..เบิกทาง..เบิกโชคลาภวาสนาเป็นที่สุดแห่งฤกษ์งามยามดี

ญาณศาสตราชุดนี้แม้เราจะบอกใครว่าดียังไง..ถ้าเขาตาบอดคลำทาง(บุญไม่ถึง)ก็จะมองไม่เห็นเลย ทั้งพ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องรางชุดนี้ยังเป็นของที่ท่านหวงมากๆด้วยใช้มวลสารและวิชาที่แรงจัดแบบถึงพริกถึงขิง ขนาดเวลาเสกก็มีอภินิหาริย์อยู่เนืองๆ..เชิญครูเสกเสร็จทีไรเป็นต้องมีฝนผิดฤดูตกลงมาทันทีเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง..มันอุดมสมบูรณ์ถึงขนาดน้ำหยาดฟ้าตกสู่ดินอุบัติพลังชีวิตเจริญงอกงามเสมอๆ เป็นนิมิตหมายว่าได้เกิดของวิเศษที่จะพลิกชะตากลับฟ้าดินให้เจริญงอกงามอุบัติขึ้นในโลก

*** ญาณศาสตรานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันเป็นที่สุดของแต่ละแก่นวิชามารวมกันเพื่อเกิดเป็นรูปธรรม..ที่เธอจะใช้ไขเอาอะไรก็ได้แล้วแต่จิตเธอปรารถนาต้องการ มีวิธีใช้ได้สารพัดทั้งมวลสารต่างๆก็หาได้ยากยิ่งในโลกเราทำไว้ให้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นและก็เสกมาหลายปีแล้วมีทั้งหมดแปดชิ้น แต่ท่านตั้งใจเก็บไว้ดูชิ้นหนึ่งและผมก็จองไว้ชิ้นหนึ่ง รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น เป็นเครื่องรางวิเศษคู่ชีวิตสำหรับคนที่ถูกลิขิตดังที่ท่านบอกว่า..ถ้าเขาตาบอดคลำทาง(บุญไม่ถึง)ก็จะมองไม่เห็นเลย

ร่วมทำบุญบูชา ญาณศาสตรากุญแจสะเดาะพระเวทย์ไขล้านโกฏิปรารถนา(ภาควิชาธรรมบันดาลเร่งบุพเพ) บูชา 4,000 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...ิต-พ่ออาจารย์พล.539894/page-556#post-11653694

 

ร่วมทำบุญบูชา ปฐมภาคี "ตะกรุดไฮโซ" หนังปู่เจ้าสมิงไพรชุบอภิธรรม(ภาคกำเนิดราชันครองภพ)

พ่ออาจารย์ท่านเจาะจงให้ใช้หนังใบหน้าและท้ายทอยของศรีษะปู่เจ้าสมิงไพรเพื่อมาทำตะกรุดชุดนี้โดยเฉพาะ..ด้วยถือว่าเป็นของมีค่ามากที่สุดและแรงตบะสูงสุด เป็นเวลายาวนาน..กว่า 60 ปีที่หนังปู่เจ้าสมิงไพรอาถรรพ์นี้ได้เปลี่ยนมือจากรุ่นสู่รุ่นด้วยเป็นสมิงอาถรรพ์ต้องตำรามีเขี้ยวโคร่งโปร่งฟ้าทั้งสี่เขี้ยว(เป็นสัญลักษณ์ของเสือที่มีเทพเจ้ารักษา)เมื่อแก่ตายลงแล้ววิญญาณย่อมไปเป็นพระไพรปกปักรักษาป่าหรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าปู่เจ้าสมิงไพร หนังศรีษะของปู่เจ้านั้นมีอาถรรพ์มากและที่ยากกว่าคือเป็นหนังเก่าที่ถูกเก็บรักษาไว้เพื่อบนบานศาลกล่าวขอได้ทุกเรื่อง พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะทำวิชาเสือต้องใช้เสือโคร่งเท่านั้นจะไปใช้ดาว,เมฆ,ดำ,ไฟ..เหล่านี้ไม่ได้ด้วยตบะมันเทียบกันไม่ได้เลยมีแต่นิยายที่คนแต่งมาขายของแต่แท้จริงแล้วสำหรับเราอะไรก็สู้ปู่เจ้าสมิงไพรไม่ได้ด้วยในบรรดาเสือโคร่งร้อยตัวพันตัวจะมีสมิงพิเศษนี้เพียงตัวสองตัวเท่านั้น ลำพังหนังแท้ว่าหายากแล้วแต่หนังที่มีอาถรรพ์สมิงวิญญาณพระไพร..แถมเป็นของเก่าโบราณที่รักษาไว้อย่างดีย่อมหายากกว่าร้อยเท่าพันเท่า

ตำนานปฐมภาคี "ตะกรุดไฮโซ"
พ่ออาจารย์ท่านสืบสานตำนานปู่เจ้าสมิงไพรอันเป็นพญาสมิงจิตวิญญาณแห่งป่า..เมื่อนำหนังมาทำเครื่องมงคลจะเป็น "เสือครองโลก..สมิงครองภพ" ทั้งท่านยังตั้งใจทำและรังสรรค์ขึ้นด้วยหัวใจอย่างแท้จริงด้วยท่านทราบดีว่าหนังชุดนี้เป็นของอาถรรพ์เก่าแก่ที่มีพลังระดับจักรพรรดิของเหล่าเสือ..เป็นเจ้าครองป่าราชาของเหล่าสมิงตามที่ผู้เฒ่าผู้แก่ที่รักษาไว้บอกต่อมาเมื่อนำมาทำเป็นเครื่องมงคลจะมีพื้นฐานพลังโดดเด่นและรุนแรงทุกทิศทาง
- เสริมอำนาจ เสริมวาสนา เสริมบารมี
- ปราบมาร ปราบศัตรูที่มองไม่เห็น ปราบอวิชชา
- เป็นสุดยอดอาถรรพ์ป้องกันคุ้มครองกายตน
- เภทภัยอันตรายไม่แผ้วพาน
- ใช้กันของอาถรรพ์กันคุณไสย
- คุ้มครองเคหสถาน ปกป้องเมื่ออยู่ในสถานที่อัปรีย์
- เคลียร์ร่างกาย กำจัดพลังงานลบอุบาทว์จัญไรออกจากร่างกาย
- ข่มภูติผีปีศาจอสุรกายทั้งปวง(แม้เทวดายังเกรงกลัวพระไพร)

หนังสมิงชุดนี้เป็นหนังบริเวณใบหน้าหรือศรีษะอันสูงสุดในร่างปู่เจ้าสมิงไพรท่านว่าต้องใช้ส่วนนี้เท่านั้นจะใช้ส่วนอื่นไม่ได้ตะกรุดเราต้องดีที่สุดเพราะเราทำให้..เป็นตำนานตลอดไป ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าเป็นของดีพร้อมจะหาตำหนิที่ไหน..จะหาว่าไม่ดีอย่างไร..เช่นนี้ย่อมไม่มีเลย เป็นที่สุดแห่งตะกรุดหนังเสือที่เราจะทำไว้เพียงครั้งเดียวในชีวิต คนใช้ให้พกติดตัวปรารถนาสิ่งใดให้อธิษฐานเอาเถิดย่อมสมหวังมโนรสปรารถนา...แต่อาถรรพ์หนังปู่เจ้าสมิงไพรนั้นไม่ใช่มีดีเพียงเท่านี้ เมื่อเธอเอาไปใช้อาราธนาย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้อยู่เหนือกว่าวิญญาณทั้งหลายไอ้อาถรรพ์ผีทั้งหลายประการนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับตัวแก้อาถรรพ์พวกคนที่โดนพรายกินตัวได้ทั้งยังจะคุมวัตถุมงคลทุกประเภทที่เกี่ยวกับผีหรือกุมารทองของอาถรรพ์ทั้งหลายอันเจ้าของไปเกี่ยวข้องจะด้วยความตั้งใจก็ดี..หรือไม่ได้ตั้งใจก็ดี ท่านคุมให้เกิดแต่คุณเท่านั้นไร้โทษภัยอันตรายอาถรรพ์จัญไรแฝงเร้นที่จะให้โทษนั้นย่อมไม่เกิดขึ้นเลย
### หนังศรีษะปู่เจ้าสมิงไพรนี้ถือเป็นของอาถรรพ์หายากที่พ่ออาจารย์ท่านปิดทองบูชามานานหลายสิบปี มีจิตอภิญญาแห่งปู่เจ้าพระไพรที่สละกายสังขารกลับคืนสู่ภูมิเทวดามากด้วยบารมี..เป็นใหญ่กว่าภูติผี..ใช้คุมวิญญาณเกเรทั้งหลายในโลกได้ทั้งสิ้น

เมื่อนำหนังปู่เจ้าสมิงไพรมาลงวิชา ..ตะกรุดไฮโซเพื่อม้วนครอบตะกรุดราชันครองภพ ซึ่งมีอานุภาพของวิชารุนแรงชนิดที่ว่า..แรงแบบไร้ความปราณี..อันแม้แต่ผู้มากฤทธิ์และกายทิพย์ทั้งหลายจะเทวดา,มุนี,ฤาษี,ดาบสตัวตนทิพย์ใดๆก็ไม่สามารถถอดถอนลดทอนอานุภาพแห่งกายสิทธิ์หนังปู่เจ้าที่นำมาลงวิชาได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากเป็นตะกรุดครูทุกสายของท่านแล้วยังใช้เป็นอาถรรพ์ได้หลากหลายแขนงพกพาไว้จะมีแต่ผู้นิยมชมชอบเป็นเมตตา..ถึงขั้นมหาเสน่ห์อย่างแรงดังกฤติยามคมแฝด จะเป็นที่ต้องตาต้องใจแก่สรรพชีวิตและดึงดูดบุคคลที่มีอันจะกิน..มีความเป็นอยู่ดีกว่าเรา..มีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่กว่าเรามารักมาชอบพอให้ความเมตตา..ให้ความอุปถัมป์ค้ำชู..ให้ความช่วยเหลือทุกประการ ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านว่าเปลี่ยนจากดินให้เป็นดาว ดึงคนชั้นสูง(ไฮโซ)มาอุปถัมภ์ท้ายที่สุดแล้วเราจะเป็นไฮโซไปด้วยนี่เอง เปลี่ยนสังคมตัวเองให้ดีขึ้นยกระดับชีวิตตัวเองให้สูงขึ้นกระแทกขีดจำกัดรอบทิศทางให้พังทลาย แต่ตะกรุดไฮโซฉันนี่มันติดกฤติยาคมของปู่เจ้าด้วยจึงยิ่งแรงเข้าไปใหญ่
- จิตวิญญาณรอบกายจะสยบ..ยำเกรง..เธอจะไม่โดนใครข่ม
- ภูติผีจะเชื่อฟัง
- จะเพิ่มฤทธานุภาพตลอดจนพลังงานธาตุแก่เครื่องมงคลและวัตถุทุกชนิดในกายตน
- จะได้เผชิญหน้าต่อทุกสิ่ง..และทำให้สยบราคาบต่อเธอได้ทุกสิ่ง
- จะมองเห็นทุกข์..เห็นเหตุ..รู้เภทภัยอันจะเกิดแก่ตัวด้วยสัญชาติญาณปู่เจ้าสมิงไพร(ป้องกันระวังทัน)
- จะมีวาสนาทางทำมาหากิน..อุปมาว่ามีเหยื่อมาป้อนถึงปากเธอนอนรอกิน
- จะเงยหน้าก็รับทรัพย์ หันหน้าไปทางไหนก็รับโชค..ดั่งปู่เจ้าที่หันหน้าไปทิศใดก็เห็นเหยื่อชัดเจนไร้สิ่งบดบัง

ตะกรุดไฮโซของฉันไม่ได้ทำจากหนังเสือผีเสือปีศาจหากแต่เป็นหนังเสือพระพุทธเจ้าที่ฉันถวายองค์ปฐมให้ท่านแผ่พลังจิตพุทธบารมีทำให้ในหลายๆวาระจึงอาจจะเรียกว่าเป็นทิพย์แต่เหนือทิพย์..เป็นเทพแต่เหนือเทพ..มีสภาวะพุทธะแฝงไร้อันตรายใดๆ วิชาตะกรุดไฮโซ..จะนำมาซึ่งความสำราญกาย..ความสำราญใจหนุนทวีโชคลาภเงินทอง..จะทำอะไรย่อมไม่มีอับจนเลย

*** ถ้าสอดชื่อสกุลวันเดือนปีเกิดตัวเองไว้ในตะกรุด..ไฮโซ(กำเนิดราชันครองภพ)
- จะได้รับการหนุนดวงเสริมอำนาจวาสนา..ดั่งได้วาสนาแห่งราชันพยัคฆ์สมิงไพรไร้พ่าย..ไร้ผู้ต้านทาน
- จะไร้ผู้คิดคดทรยศ ไม่มีคนหักหลัง
- จะสามารถอธิษฐานขอชัยชนะได้ตามแต่จะปรารถนาในแต่ละเหตุการณ์
- จะได้รับอำนาจบารมีบริบูรณ์ด้วยตบะ..ดุจเจ้าป่า
- จะย่างกรายไปแห่งใดสรรพสิ่งย่อมสยบ..ดั่งราชันสมิงไพรสยบป่า
- จะได้รับความยำเกรง..ด้วยสรรพสัตว์ย่อมเกรงกลัว
- จะสมบูรณ์ด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์
- จะเปนคนน่าพึงใจชนทั้งหลายอยากอยู่ใกล้
พ่ออาจารย์ท่านว่ากำลังแห่งราชันปู่เจ้าสมิงไพรจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับผู้บูชาหันไปทางไหนก็รับโชคได้ทรัพย์ พ่ออาจารย์ท่านลงวิชาตะกรุดไฮโซอันเป็นวิชาชั้นสูงคู่กับหนังสมิงพระเจ้า(พระไพร) ไม่เพียงเร่งโชควาสนายังส่งเสริมสุขภาพในร่างกายที่ไม่ดีให้กลับกลายแข็งแรงอีกด้วย..ผู้ที่ไม่มีโชคจะโชคดี..ผู้ที่ไม่มีคู่จะได้คู่..ผู้ที่ไม่มีทรัพย์จะได้ทรัพย์

ปฐมภาคี "ภาคกำเนิดราชันครองพิภพ"
ไม่เพียงจะลงยันต์ไฮโซไว้เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านยังได้ลงตะกรุดราชันครองพิภพไว้เป็นแก่นกลางตะกรุดด้วยอักขระยันต์โบราณคาถาเวทสวรรค์อันมีอาถรรพ์สูงสุด...ซ้ำต้องลงในตะกั่วขอมโบราณพันปีที่หลอมรีดทำการลงถม 108 ครั้ง จนมากอาถรรพ์ดั่งแก้วสารพัดนึกยอดกายสิทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวตะกรุดราชันครองพิภพนี้หากอาราธนาติดตัว...ตะกรุดจะสั่นเหมือนมือถือเลยหากชีวิตเธอมีอันตราย จะอธิษฐานขออะไรก็กำตะกรุด..ขอ..และได้รับในสิ่งที่ต้องการวิชาอาถรรพ์เวทย์สวรรค์ภาคราชันครองพิภพนี้มีคุณเป็นเอนกอนันต์มาก
- ใช้ห้ามภัยอันตรายอันเกิดจากมหาธาตุทั้ง 4 คือดิน,น้ำ,ลม,ไฟ(นอกร่างกาย..ในร่างกาย)
- ช่วยหนุนดวงเสริมดวง..เสริมบุญ
- จะช่วยให้เคราะห์หนักกลับบางเบา โทษภัยหายเจือจาง
- หากติดตัวตลอดจะช่วยแก้เคราะห์ไปในตัวทำให้ชีวิต..มีแต่รุ่งเรือง
- ใช้ป้องกันเหตุเภทภัย
- จะโชคดี ..ทั้งในเรื่องการงาน,ความรัก,โชคลาภและเงินทอง
- จะเป็นใหญ่ในถิ่นของตนอุปมาดั่งพระพุทธองค์..ใต้ฟ้าเหนือพิภพ..ตถาคตย่อมเป็นใหญ่แต่ผู้เดียว

เมื่อสอดประสานเข้ากับตะกรุดไฮโซแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่ามีพร้อมไปหมดเหมาะแก่ผู้ที่ชื่นชอบเครื่องมงคลแบบรุ่นแรงมากๆ..และใครอยากมีโชค..ใครอยากเกิดมาเป็นคนโชคดีย่อมไม่สมควรพลาดเลย อาถรรพ์ปู่เจ้าสมิงไพรที่เป็นเสือกินคนนั้นเป็นอาถรรพ์ของเจ้าป่าเหนือกว่าทุกสรรพชีวิต..และเหนือกว่ามนุษย์..ตลอดชีวิตไม่โดนทำลายด้วยมนุษย์..จึงอุปมาว่าไม่มีมนุษย์คนใดจะทำลายเราลงจากความเป็นใหญ่ได้เลย จะนอนกินวาสนา..ชะตาฟ้า..ทรัพย์สมบัติ จะบรรลือสีหนาทปรากฏเกียรติยศเกลื่อนกระจายในสิบทิศ

ข้อควรจำ
1. ไม่ต้องเลี้ยง..ไม่ต้องเซ่นเพราะไม่ใช่ผี
2. พ่ออาจารย์ท่านชุบศรีษะปู่เจ้าด้วยพระอภิธรรมจึงไม่มีอาถรรพ์ภูติพรายใดๆติดอยู่เป็นกำลังของมวลเทพเทวดาพร้อมอาถรรพ์แห่งชาติกำเนิดและกายสังขาร..ที่มาพร้อมวาสนากับชะตาตนอันยิ่งใหญ่เท่านั้น
3. หากปรารถนาจะสังเวยแก่ปู่เจ้าเพราะท่านช่วยเหลือเรามามากเราสำนึกคุณแล้ว ก็ให้ทำบุญอุทิศแก่ท่านตามสมควรหรือตามวาระโอกาสที่เราอยากจะทำ

อาถรรพ์ 500 ปี
พ่ออาจารย์ท่านกำหนดให้เสกปิดจะกรุดหนังศรีษะปู่เจ้าสมิงไพรชุดนี้ในฤกษ์จันทร์เพ็ญปีนี้เท่านั้น เพราะไม่ใช่เพียงได้อาถรรพ์จันทร์เพ็ญที่ดีทางเมตตาเงินทองเต็มไม้เต็มมืออย่างถึงที่สุดแต่ยังเป็นจันทร์เพ็ญที่เกิดซ้อนจันทรคราสอันมีอำนาจทางมายาศาสตร์แบบสูงสุดด้วย

### อุปมาจันทร์เพ็ญท้องฟ้าสว่างสุกใสรับแสงจันทร์กระจ่างตาที่สุด

### อุปมาจันทรคราสคือเดือนดับที่ท้องฟ้ามืดมิดไร้สิ้นแสงดาวมากที่สุด

เมื่ออาถรรพ์ของความมืดและแสงสว่างเกิดทับซ้อนในฤกษ์เวลาเดียวกันจึงเป็นอาถรรพ์อย่างยิ่งยวด..ที่พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียง 500 ปีจะมีซักหนหนึ่ง การเสกปิดตะกรุดกำเนิดราชันครองภพในฤกษ์นี้ถือเคล็ดปลดปล่อยสรรพชีวิตจากมืดไปสว่าง..มามืดไปสว่าง..จากต่ำตมไปถึงฟากฟ้าดวงดาว ให้ชีวิตมีแต่ขาขึ้นจากมืดกลับสว่างเท่านั้นและยังเป็นกฤติยาคมแฝดของตะกรุดราชันอย่างหนึ่งว่าในรอบ 500 ปีนี้อาถรรพ์แห่งราชันของตะกรุดจะไม่เสื่อมไม่โดนบดบังโดยผู้ใดทั้งสิ้น..ก็แล้วใครมันจะมีอายุอยู่ไปได้อีก 500 ปี เช่นนี้ตะกรุดฉันจึงตกทอดได้รุ่นสู่รุ่นให้กลับร้ายกลายเป็นดีกลับผีกลายเป็นคนกำเนิดผู้มีวาสนาไปอีกห้าชั่วอายุคน..แม้นครบห้าร้อยปีแล้วก็อย่าหมายว่าจะคลายอาถรรพ์หากไม่มีของวิเศษที่ดียิ่งไปกว่านี้กำเนิดขึ้นในฤกษ์นั้นทุกสิ่งก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยหรือต่อให้มีก็ใช่ว่าจะโคจรมาเจอกันและหักล้างกันได้หากของนั้นไม่มีอาถรรพ์มากไปกว่าหนังปู่เจ้าสมิงไพรชุบอภิธรรมนี้ เพราะฉันทำให้ในวันที่อยู่เหนือกว่าทุกวัน ในเวลาที่แรงกว่าทุกวัน ในฤกษ์ที่เหนือกว่าทุกฤกษ์มาตลอดนับสิบปี
*** จะสามารถข่มกำลังของวิเศษทั้งหลายของผู้อื่นรอบกายได้เมื่อต้านต่อเข้ากับเราของเรานั้นจากมืดไปสว่างแต่หากเขาประสงค์ร้ายหรือใช้สิ่งใดมารังแกเราแล้ว ..ของๆเขาจะกลับกันเรียกว่าจากสว่างไปมืดหมดพลังตั้งแต่ยังมาไม่ถึงตัวเธอไปแล้ว

ตะกรุดชุดนี้จะทำให้ชีวิตเธอเดินไปได้ถึงที่สุด..ไปได้ตลอด..ไปได้ถึงทุกสิ่ง..ไปเอาดีกลับมาได้ตลอด..ไปเอาสุขกลับมานอนกอด..ไปแล้วต้องมีกลับมาตลอด..ไปเหยียบความฝันแล้วเอากลับมา นี่คืออำนาจแห่งภาคปฐมบทในบรมครูปู่เจ้าสมิงไพรนั่นคือ..กำเนิดตัวตนแห่งราชัน พ่ออาจารย์ท่านว่าปู่เจ้าท่านใช้ได้ทุกทางเลยจะป้องกันยั่วยุเย้าแหย่หรือกันคนหักหลัง(พวกนี้แรงนะท่านเอาคืนแทนเราแรง) ยิ่งเรื่องปราบศัตรูหรือปกครองบริวารลูกน้องก็เฉียบขาดมากใช้กำราบพวกที่ชอบต่อรองหรือสยบพวกที่ชอบต่อต้านได้ทุกรูปแบบ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่าผู้ที่จะได้ครอบครองตะกรุดปฐมบทนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนามากและคนประเภท "มีของเก่า" ทำมาเยอะ

พ่ออาจารย์ท่านว่าในบรรดาเครื่องรางนั้นที่ฉันยกให้เป็นระดับราชันแล้วถือว่ามีไม่กี่ชนิดนักหรอก นั่นย่อมหมายถึงการเกิดขึ้นของอาถรรพ์ที่พลิกกลับชะตาฟ้าดินได้...และเครื่องมงคลที่ใช้สร้างตัวให้เดิมตามรอยเส้นทางแห่งราชันนั้นยิ่งสร้างได้ยาก อย่างที่ฉันบอกว่านี่เป็นเสือขององค์ปฐมท่าน..ท่านกำชับว่าไม่ให้พูดอะไรมากเกินงามเพราะเจ้าของที่ถือครองนั้นล้วนแต่เป็นคนที่ทำของเก่ามาดีแล้วจึงได้พบเจอกับเส้นทางอันจะเปลี่ยนฐานะเขาตลอดไป แต่ก็อย่าลืมไปอีกเรื่องหนึ่งเสือฉันนั้นไม่ใช่เสือธรรมดา

- สมิงไพรฉันมีมายาแท้จริงในการล่อหลอกล่อลวงผู้คน..ให้ยอมพลีกายตกเป็นเหยื่อได้ อุปมาตัวเราได้เหยื่อกินโดยไม่ใช้กำลัง
- สมิงไพรฉันมีมายาทำให้ศัตรูตายใจ..ก่อนลงมือปลิดชีพ อุปมาว่าได้ทุกอย่างเหนือเล่ห์กล
- สมิงไพรฉันมีมายาทำให้ศัตรูลืมตัว..ลืมตน..ลืมตาย อุปมาว่าได้ของรักทุกอย่างแม้แต่ชีวิต
- สมิงไพรฉันเป็นยอดแห่งนักล่า..และนักเสพย์สุขในเวลาเดียวกัน อุปมาของที่มาแห่งตะกรุดไฮโซ..ได้ทุกอย่างแล้วมีความสุข
- สมิงไพรของฉันใช้ข่มศัตรูฝ่ายตรงข้ามได้ อุปมาว่าเอาตะกรุดทับชื่อมันบอกกล่าวครูศัตรูทำอะไรก็ไม่เจริญ
- สมิงไพรของฉันเป็นเจ้าแห่งการช่วงชิง..เพราะแย่งชิงเหยื่อสัตว์อื่นทุกชีวิตได้ทั้งป่า(ในโลกของเขา) อุปมาดุจเราแย่งชิงความสำเร็จผู้อื่นได้
- สมิงไพรของฉันเป็นเจ้าแห่งโชคลาภวาสนา อุปมาว่าสยบทุกสิ่งแต่ตัวเองไม่มีอันตรายจนสิ้นอายุขัยเป็นวาสนาอย่างสูงสุด

เช่นนี้ปู่เจ้าสมิงไพรจึงช่วยอุ้มชูเธอได้ทุกทางเต็มกำลังด้วยอำนาจพญาสมิงอันเหนือกว่าพยัคฆราชใดๆทั้งสิ้น...สุดแล้วแต่เจตนาเธอจะใช้งานอย่าเอาไปทำเรื่องที่ไม่สมควรนะ..จงละอายต่อบาปให้มาก..ให้ใช้เพื่อความเจริญสุดขีดทางโลกเท่านั้น

คาถาบูชา
พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าปลุกด้วยคาถาเสือเลย ให้ปลุกด้วยพุทธคุณเถิด สมิงไพรจะเจริญด้วยคุณแก่ตัวเธออย่างถึงที่สุด ด้วยเป็นเสือของพระพุทธเจ้าเพียงระลึกถึงพระพุทธไม่ต้องท่องบทพุทธคุณก็ใช้ได้แล้ว..(สุดแต่จะอธิษฐานเถิด ท่านว่าของวิเศษเวลาใช้จะเสียเวลาท่องบ่นคาถาเพื่ออะไร..มันเต็ม..มันวิเศษอยู่แล้ว..และวิเศษตลอดไปใช้ได้ในกาลทุกเมื่อ)


### พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดหนังเสือรุ่นแรกที่ท่านออก..ด้วยอายุ..ด้วยชาติอันเหนือกว่าเสือทุกชนิด..ทั้งท่านยังม้วนห่อให้แบบหนาๆไม่ได้หวงหนังเลยราคานี้..ไซด์นี้ เที่ยบกับหนังใบหน้าพยัคฆ์อาถรรพ์ของแท้แบบยาวๆใหญ่ๆยุคเก่า 60 ปีขึ้นไปแล้วถือว่าเบามากๆ(เพราะท่านฟอกไว้และรักษามาดีมากบางส่วนที่ขนหลุดท่านก็ไม่นำมาทำ)

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าผู้ที่จะได้ครอบครองตะกรุดปฐมบทนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนามากและคนประเภท "มีของเก่า" ทำมาเยอะ ..คนที่ไม่ทันเห็นจึงถือว่าไม่ใช่เจ้าของอย่างสิ้นเชิง ท่านทำไว้ทั้งหมด 12 ดอก แต่มีออกให้ 10 ดอกเท่านั้น(จะจองคนละกี่ดอกก็จองไว้เลย เพราะทำครั้งเดียว ..และหนึ่งดอกใส่ชื่อกันเองได้คนหนึ่งอย่าใส่ไปมากกว่านั้น..ตะกรุดดอกหนึ่งเหมือนราชันสมิงไพรตัวหนึ่ง..และราชันก็มีเพียงตัวเดียวในดอกเดียวเท่านั้น)

ร่วมทำบุญบูชา ปฐมภาคี "ตะกรุดไฮโซ" หนังปู่เจ้าสมิงไพรชุบอภิธรรม(ภาคกำเนิดราชันครองภพ) บูชา 4,000 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...เพ-พ่ออาจารย์พล.539894/page-556#post-11655519

 

ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันพุทโธแปลงสภาพแต่งชะตาปลุกร่างพลังแฝงกลับกลายสลับฐานะ(จอมคนภะโคหงสา)

การปลุกศักยภาพ
ด้วยมนุษย์ทุกคนล้วนมีศักยภาพแฝงเร้นอยู่ในกายตน..เรียกว่ามีพลังงานหลายประเภทซ่อนอยู่ในตัวเรามากมายหลายเรื่อง
เช่นบางคนทำงานไปเฉยๆก็มีชื่อเสียงเงินทองสำเร็จสิ่งใดได้ง่ายๆนี่คือพลังที่แฝง..เป็นโชคชะตาแห่งความสำเร็จ
ในบางคนหน้าตาก็บ้านๆธรรมดาๆแต่กลับเป็นที่รักเมตตาไม่มีใครกล้าเกลียด จะไปตกอยู่ที่ใดก็มีแต่คนโอบอุ้มช่วยเหลือยกเอาไว้ให้สุขสบาย...นี่ก็เป็นพลังแฝงของเมตตามหานิยม
แต่กลับกันบางคนสวยหล่อเรียนเก่ง..ความคิดโลดโผน..มีพลังสติปัญญาอันน่าทึ่งกลับไม่มีโอกาสได้แสดง,กลับถูกผู้อื่นแย่งผลงาน,กลับไม่ได้รับความสนใจจากคนรอบข้างแม้ตนจะหน้าตาดีมีบุคลิกที่ดีกว่าเรียกว่าทำสิ่งใดก็เหมือนคนอื่นมองไม่เห็น

เหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าพลังงานศักยภาพในตัวเรามันยังไม่ถูกปลุกขึ้นมา ให้จำไว้เลยว่าทุกคนเกิดมาเป็นมนุษย์มีพลังศักยภาพพลังแฝงอยู่ในร่างกายตนเสมอกันทุกคนแต่ขึ้นอยู่กับว่าใครมันจะปลุกขึ้นมาใช้ได้เท่าไหร่..เห็นมั๊ยเช่นนี้พระพุทธองค์จึงบอกว่าตนเองเป็นที่พึ่งแห่งตน..จะพึ่งผู้หนึ่งผู้ใดที่ประเสริฐกว่าตนเป็นไม่มีก็เพราะคนทุกคนมีศักยภาพพลังแฝงติดตัวทุกด้าน..เอาดีได้ทุกเรื่อง..สำเร็จได้ทุกด้าน..แม้ด่านยากที่สุดเช่นมรรคผลนิพพานมนุษย์ก็ยังทำสำเร็จได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่สำเร็จก็คือคนที่ผ่านการปลุกศักยภาพกายผ่านกระบวนการแปลงสภาพมาแล้ว

การแปลงสภาพ เป็นกระบวนการที่มนุษย์ทุกคนสามารถกระทำได้..แต่กลับไม่เคยเกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคนกลับกันจะเกิดได้กับคนเพียงแค่หยิบมือในโลกซึ่งหมายถึงคนเหล่านั้นได้รับการแปลงสภาพชะตากรรมปลุกศักยภาพในตัวตนให้ตื่นขึ้น ในมุมกลับจะโดดเด่นเป็นที่ได้รับความสนใจมากกว่าคนอื่นและสำเร็จใหญ่หลวงมากกว่าใคร คนที่ปลุกพลังแฝงในตัวเองได้มีตั้งแต่เกิดมาศักยภาพก็เปิดอยู่แล้วแต่ในกรณีนี้มีน้อยนัก ในส่วนของการปลุกก็ยังมีอีกสองวิธีคือ

- ใช้กำลัง แบบที่เราจะพูดถึงก็อีกอย่างหนึ่งนั่นคือการฝืนบังคับสิ่งที่ปิดอยู่ให้เปิด..บังคับให้เปิด..ให้เกิดขึ้นมาให้ได้..และต้องทำให้ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าการกระทำแบบบังคับนี่มันลำบากเกินกว่าคนจะทำได้ชนิดที่เรียกว่าลำบากเลือดตาแทบกระเด็นเลยเพราะต้องสร้างกำลังความเพียรอย่างยิ่งยวดระดับพระมหาชนกว่ายทวนทะเลสีทันดรใช้พลังจิตกำลังใจสูงเกินมนุษย์ทั่วไปเพื่อจะฝืนเปิดชะตาฟ้าเหล่านี้

- ใช้พระเวทย์ ใช้พลังธาตุพลังงานธรรมชาติ..พลังพระเวทย์วิชา วิธีนี้จะสบายกว่าทุกๆอย่างเพราะใช้ตัวช่วยเข้ามาปลุกไม่ได้พยายามด้วยกำลังตนเองล้วนๆใช้พลังดึงดูดคุณวิเศษแห่งมหาธาตุพลังจักรวาลเข้ามาเพื่อเปิดศักยภาพ..เปิดพลังแฝงให้เกิดกระบวนการแปลงสภาพ..และกลายสภาพเป็นจอมคน

### ด้วยมนุษย์มีกำลังแฝงซึ่งก็คือหนึ่งในพลังธรรมชาติที่จะข้ามขั้นศักยภาพอยู่ในร่างกาย..ขึ้นอยู่กับว่าใครจะหยิบมาใช้เป็น..ใครจะเรียกพลังด้านไหนออกมาใช้ หรือจะย่ำอยู่กับความธรรมดา ย่ำอยู่กับที่ซึ่งมันติดเพดานที่ปิดอำนาจวาสนาและความสามารถตนไปตลอดชีวิต

ตำนานน้ำมันของจอมคนภะโคหงสาวดี(ใช้ปลุกร่าง..ปลุกพลังแฝง..แปลงสภาพ..กลายร่าง..สลับฐานะ)
น้ำมันชนิดนี้ไม่ใช่ของใหม่หากเป็นของโบราณที่โดนผนึกไว้ในแผ่นดินพุกามประเทศ เป็นน้ำมันที่ใช้ความรู้ขั้นสูงสุดอันลึกซึ้งจากผู้มีพรสวรรค์ฟ้าประทานรู้เจนจบทั้งพุทธเวทย์และไตรเพทไปพร้อมๆกัน เป็นน้ำมันที่ใช้เพื่อปลุกกำลังศักยภาพในร่างกายตนให้เกิดการตื่นขึ้นของพลังแฝง..นำไปสู่กระบวนการแปลงสภาพ..กลายร่างกลายชะตา..สลับฐานะชนชั้นสู่ผู้มีวาสนาสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยเป็นน้ำมันเก่าแก่เราเอามาหุงใหม่แต่ก็ไม่สามารถทิ้งความเข้นข้นของตัวน้ำมันได้..ก็จะดูเป็นน้ำมันที่มีมวลแน่นหนามาก..ดูเหนียวๆข้นๆซักหน่อยเพราะเราทำให้แบบหัวเชื้อเพียวๆเลย..วันดีคืนดีหากขึ้นไขหรือจะหนืด..จะเเข็ง..เช่นนี้ไม่ต้องตกใจเอาไปตากแดดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว

ตำนานแห่งจอมคนภะโคหงสา..ผู้ผสมศาสตร์พุทธเวทย์และไตรเพทน้อมนำกำลังพระพุทธะมาแปลงสภาพแต่งชะตา..ปลุกร่าง..ปลุกพลังแฝงจนกลายร่างสลับฐานะ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นน้ำมันที่ได้บันดาลอานิสงส์ผลบุญให้เกิดขึ้นและหนุนส่งอย่างมหันต์คุณ เปลี่ยนให้บุคคลซึ่งเป็นคนธรรมดาเป็นภิกษุธรรมดาในศาสตาตถาคตกลายเป็นจอมกษัตริย์สึกออกมาเสวยราชในเมืองภะโคหงสาวดี เพียงชายผู้หนึ่งที่เกิดมาเป็นเพียงคนธรรมดาทุกอย่างหากแต่ได้เรียนจนรู้จบในพุทธเวทย์และไตรเพทได้สร้างน้ำมันแปลงสภาพแต่งโชคชะตาแห่งราชัน จากคนธรรมดาที่มีความรู้มากแต่ไร้ซึ่งโชคชะตาได้พิจารณาดูแล้วว่าแท้จริงดวงของตนมีวาสนาที่จะได้ครองพระราชสมบัติเป็นเจ้าแห่งหงสาวดีราชธานีใหญ่..แต่เส้นทางคนธรรมดาไปสู่ราชันนั้นใครก็ยากจะเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้เช่นนั้นท่านจึงได้ใช้ความรู้สร้างน้ำมันขึ้นมาเพื่อแต่งร่างตน..จนเสร็จกิจแล้วจึงได้ผนึกเก็บไว้

เมื่อได้ใช้น้ำมันแต่งร่างแล้วจึงสึกหาลาเพศบรรพชิต ด้วยอานุภาพแห่งน้ำมันพระพุทโธแปลงสภาพนั้นกลับบันดาลให้ทิดสึกใหม่พบกษัตริย์เจ้าแห่งหงสาวดีโดยบังเอิญ
- และบังเอิญกว่านั้นคือให้พระองค์นึกเมตตาแต่แรกเห็นจนตั้งให้เป็นพระยา(อันนี้เอามาเทียบกับยศทางไทยจากสามัญก้าวแรกก็ขึ้นมาเป็นพระยาเลย)
- และบังเอิญมากกว่านั้นด้วยอานุภาพแห่งน้ำมัน จึงทำให้เป็นที่รักเป็นที่เสน่หาแก่คนทั้งปวงในแผ่นดิน ชาวบ้านชาวเมืองยิ่งรักหนักหนาอุปมาว่ารักพระยามากกว่าเจ้าหงสาเสียอีก
- ด้วยอำนาจแห่งน้ำมันแปลงสภาพเมื่อได้ยศแล้วก็ได้บริวารสามพันมาครองเขตแดน ย่างก้าวที่สอง..จากพระยาขึ้นสู่เจ้าเมือง..
เมื่อมาเป็นเจ้าครองเมืองแล้วจึงได้พิจารณาเห็นว่ากษัตริย์หงสาผู้นี้ข่มเหงราษฎรเดือดร้อนนักจึงได้ชวนน้องชายทั้งสองมาตั้งค่ายนอกเมืองไว้ พอกษัตริย์ทราบว่าคิดกบฎล้อมกรุงก็สั่งให้จัดทัพตั้งแม่ทัพยกออกไป
- ด้วยอำนาจแห่งน้ำมันแปลงสภาพเมื่อแม่ทัพจัดทัพพร้อมกลับยกไปจับกษัตริย์ฆ่าเสียเอง เป็นย่างก้าวที่สาม..จากเจ้าเมืองสู่กษัติย์เจ้าจอมคน
พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าสังเกตุดีๆจะรู้ว่าท่านแค่อยู่เฉยๆและไม่เคยลงแรงทำอะไรเลย เพียงแค่อยู่เฉยๆจากสามัญก็ขึ้นสู่จุดสูงสุด มีแต่ผู้คนมารักมาเอ็นดูแต่งตั้ง..มีแต่สถานการณ์ที่ทำให้ตนเองได้ประโยชน์อย่างแรงที่สุด พอแม่ทัพได้ฆ่าเจ้าหงสาแล้วกลับนึกกลัวพระยาผู้นี้เพราะรู้ว่าเป็นคนพิเศษ..ที่มนุษย์ทั้งแผ่นดินรักใคร่นับถือตรงข้ามกับเจ้านายเดิมที่ประชาชนเกลียดชังหากจะฆ่าท่านพระยาก็จะเกิดทุรยศในแผ่นดินครั้งยิ่งใหญ่จากประชาชนทั้งมวล แม่ทัพจึงเชิญพระยาให้ยกทัพเข้าเมืองโดยไม่ต้องรบและกลายเป็นกษัตริย์เจ้าแห่งหงสาวดี..จากนั้นท้าวเธอก็ได้ลูกสาวแม่ทัพเป็นมเหสี..ตั้งท่านแม่ทัพเป็นเจ้ามหาเสนาบดีมีสิทธิขาดในรามัญประเทศทั้งปวง
- ด้วยอำนาจแห่งน้ำมันแปลงสภาพหลังจากกษัตริย์หงสาได้ครองราชก็ได้แผ่ขยายพระราชอำนาจไปอีก..มีเมืองขึ้นเพิ่มถึง 32 หัวเมือง กลายเป็นเจ้าแคว้นจอมกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่

นี่คือคนธรรมดาที่แสนจะธรรมดาคนหนึ่งหากแต่รู้จบพุทธเวทย์และไตรเทพจนสร้างของศักดิ์สิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงวาสนาตนเองไปได้ตลอดชีวิตทำให้น้ำมันนี้เป็นที่ซุกซ่อนปกปิดอย่างมาก แม้พ่ออาจารย์ท่านได้มาจากครูบาอาจารย์เจ้าเชื้อสายรามัญท่านก็ให้ปกปิดไว้อย่าได้นำมาใช้ง่ายๆ..จนสภาพปัจจุบันนั้นพ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าคนทำมาหากินใช้ชีวิตลำบากมาก และยากหนักหนาหากจะใช้วิริยะบารมีเยี่ยงพระมหาชนกเพื่อจะกลายสภาพร่างชะตาตัวเอง ท่านจึงเล็งเห็นโอกาสใหญ่ในโชคชะตาชีวิตคนที่จะได้ใช้น้ำมันแปลงสภาพกันซักคราหนึ่ง
- ให้เป็นที่รักจำเริญใจแก่คนทั้งหลาย
- ให้ประจญชนะข้าศึกศัตรูเจริญและได้รับสมบัติข้าวของทั้งมวล เจริญด้วยยศ เจริญด้วยเดชะ

พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่าน้ำมันแปลงสภาพนั้นก็คือน้ำมันปลุกศักยภาพที่ทำให้ตัวเรามีพลังงานด้านต่างๆในร่างกายมากขึ้นๆ..ชนิดที่มีพลังแฝงอยู่ในตัวเองเมื่อมันมีมาก..มีล้นและเพิ่มพูนทวีทวีไปเช่นนี้การจะปลุกให้ตื่น..การจะทำให้เกิดขึ้นมาในชีวิตย่อมเป็นเรื่องง่ายเช่นนี้คนที่ไม่มีพลังที่จะปลุกศักยภาพตนเองก็ต้องเริ่มใช้เสียหากแต่จะไวจะช้าต่างกันเพียงใดก็อยู่ที่ว่าของเก่าเรามีบ้างหรือไม่มีเลย ถ้าพอมีอยู่เติมนิดเดียวมันก็เต็มหยิบมาใช้ได้ถ้าไม่มีเลยมันก็ต้องเติมกันเยอะหน่อยเพื่อสะสมให้เต็ม น้ำมันพุทโธแปลงสภาพจึงเป็นน้ำมันพิเศษที่ใช้ขับใช้ดึงพลังงานในตัวเราออกมาหลอมรวมกับชีวิตจริงเพื่อปลุกศักยภาพความสำเร็จทุกด้านให้ตื่นขึ้น เป็นน้ำมันที่ใช้ได้ทุกเรื่องตามวัตถุประสงค์ พ่ออาจารย์ท่านสมมติว่าบางคนเขาคิดจะเล่นแต่ทางเสน่ห์เพราะรู้ว่าชีวิตตนขาดเสน่ห์เลยขอเปิดศักยภาพทางนี้เฉพาะด้านไปเลยพอพลังงานเปิดออกเท่านั้นแหละได้ภรรยาไปห้าหกสิบคน..แต่ไม่มีเงินเลี้ยงดูใครซักคน..เช่นนี้มันคนใช้ของไม่เป็น..เสียของอย่างแท้จริง ท่านจึงว่าเป็นภัยนักหากนำไปเพียงสนองกิเลสตัณหาของตัวเองหากแต่นำไปใช้งานเพื่อให้เกิดประโยชน์ความสำเร็จสูงสุดท่านจึงจะสนับสนุน

วิธีใช้
*** ห้ามนำน้ำมันไปแต้มคนอื่น..หากตนเองยังไม่มีบารมีมากพอ(เพราะนั่นเท่ากับว่าเราใช้พลังของเราไปเปิดศักยภาพให้เขา) น้ำมันนี้จึงใช้ได้แบบของใครของมันนั่นคือตัวเองใช้กับตัวเองหากมั่นใจว่าชีวิตตนเองดีมีบารมีมากพอแล้วเมื่อนั้นจะสงเคราะห์ผู้อื่นย่อมไม่ผิด
- ให้ฉีดหรือทาน้ำมันใส่หลังมือข้างที่ตนถนัดที่สุดใครถนัดซ้าย..รึขวาก็ฝ่ามือข้างนั้น จากนั้นนำมือทั้งสองมาลูบหลังมือเข้ากันแก้เคล็ดเปลี่ยนห้ามือเป็นหลังมือ..นี่เปิดศักยภาพให้เกิดมาเป็นผู้รับ..จะได้รับอย่างเดียว..ข้าวของ..เงินทอง..มรดก..โชคลาภ
- ให้ฉีดหรือทาน้ำมันใส่ฝ่ามือ..ทำทีละมือข้างไหนก่อนก็ได้..เน้นย้ำให้เป็นบริเวณลายมือของตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าลายมือนี่มันบอกทุกอย่างในชีวิตหมดเลยนะง่ายๆคือทุกสิ่งน่ะอยู่ในมือทั้งสองข้าง..ทำเสร็จแล้วก็กำมือเอานิ้วมือลูบๆน้ำมันข้างนั้นของมันเอง..เช่นนี้เปิดศักยภาพทุกด้านพร้อมๆกัน
- ให้ฉีดหรือทาน้ำมันใส่นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือข้างที่ถนัด นำนิ้วสองข้างมาถูๆแล้วแต้มที่หน้าผาก..จะเปิดศักยภาพการพัฒนาสิ่งต่างให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
- ให้ฉีดหรือทาน้ำมันใส่นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือข้างที่ถนัด แล้วนำมาขยี้ปลายใบหูทั้งซ้ายและขวา..จะเปิดศักยภาพเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ให้คนนิยมชมชอบ
- ใช้ฉีดทาใส่เส้นผมจะดึงดูดผู้พบเห็นให้สนใจมอบความสำคัญให้กับเรา
- ให้พกพาอาราธนาหรือกำขวดน้ำมันไว้ในมือ..ย่อมอธิษฐานไปถึงบุคคล,เทพ,พรหมที่เราเคารพนับถือ
- พ่ออาจารย์ท่านว่าหากตั้งไว้บูชาให้หาพานมารองรับกราบนมัสการได้เช่นกราบพระองค์หนึ่ง
- น้ำมันนี้แบ่งใส่ขวดเล็กๆเพื่อฝังตรงธรณีประตูได้ ท่านว่าคนเดินข้ามไปแล้วต้องกลับมาอีก ใช้เรียกคนเข้ามาได้ไม่ขาดสาย
- หากนำน้ำมันไปแต้มตามเครื่องราง,วัตถุมงคล,หรือเครื่องมงคลจะทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีกำลังฤทธิ์มากขึ้น(วิธีนี้ทำได้ไม่จำกัดเหมือนเปิดศักยภาพ)

เพียงแค่ขอพรจากน้ำมันว่า..หากโลกนี้ยังมีพลังพุทธานุภาพอยู่ ขอให้เราเจริญขึ้นทุกวันคืน..อย่าให้ความเจริญได้หมุนเวียน..ผันเปลี่ยน..หนีหายไปตามกาลด้วยเทอญ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่เน้นให้ทามือเพราะมือกุมเส้นชะตาชีวิตไว้ทุกอย่างตั้งแต่อายุขัย,สมอง,พลัง,โชคลาภ..สิ่งต่างๆมากมายมันบอกอยู่ในมือหมดใช้ทีนึงคุ้มค่าได้ครบทุกอย่างทีเดียว ส่วนคนที่จะอาราธนาพกแทนตะกรุดนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแค่เอาน้ำมันนี้ไปเลี่ยมใหม่แบ่งใส่หลอดห้อยคอเล็กๆก็ใช้แทนตะกรุดได้แล้ว หากแยกเลี่ยมไว้เล็กๆเพื่อห้อยคอนอกจากจะหมุนเวียนถ่ายส่งปรับพลังศักยภาพในกายตนยังเกื้อกูลร่างกายเราด้วยพลังเมตตาอย่างเต็มขั้น พวกคนที่เจ้านายเกลียดขี้หน้าหรือคนที่โดนสังคมรังเกียจเหล่านี้จะกลับตาลปัตรหน้ามือเป็นหลังมือกันเลย แม้แต่พวกที่ความรักเหินห่างคู่ครองไม่สนใจก็จะได้รับการเอาใจใส่อย่างดี..พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ได้จำกัดแค่คู่เรานะแต่มันเป็นเมตตาไปหมดเลย เป็นเมตตาที่จะทำให้คนรอบข้างทนุถนอมเรา..ไม่ใช่แค่รู้สึกดีคุยๆยิ้มๆก็หายแต่กลับเป็นเขาทนุถนอมระวังรักษาเราไว้เอาใจใส่เราดีแบบนี้ ส่วนคนที่ใช้ทางปลุกพลังงานก็ใช้ปลุกได้อย่างแรงเช่นกัน

ตะกรุดพระเวท(ครูใหญ่แปลงชะตา)
ในตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านจะลงด้วยหัวใจยันต์ครูรวมไปถึงพ่อแม่คาถาและสูตรวิชาตำรับลับของจอมคนภะโคหงสาที่ถ่ายทอดกำหนดยันต์คุมน้ำมันของท่านไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่ละดอกนี้ทำได้ยากมากเพราะต้องตั้งเครื่องบูชาครูกันทีละดอกก่อนจะทำพิธีเขียนตะกรุดขึ้นมาได้พ่ออาจารย์ท่านได้ออกทุนทรัพย์นี้ไปหลายหมื่นบาท(ท่านจึงว่าใครได้น้ำมันชุดนี้ไปก็คุ้มแล้วแค่ตะกรุดยังเหมือนได้ฟรี) เป็นตะกรุดแปลงชะตาเราไม่ให้ชะตาเราส่งผลร้ายใดๆกับกายมนุษย์ของเราเอง เรียกว่ามีคุณส่งเสริมให้เกิดเฉพาะผลด้านดีที่หนุนเนื่องไปในอำนาจวาสนาเท่านั้น

ตะกรุดครูใหญ่นี้เขาคุมไว้หมดเลยอะไรที่จะส่งผลร้ายหรือแฉลบให้เจ็บเนื้อเจ็บตัวนี้จะระงับไว้หมดทีนี้เราจะเปิดศักยภาพด้านใดก็ย่อมทำได้เต็มที่
- บางคนขาดศักยภาพทางเสน่ห์เมตตา
- บางคนขาดศักยภาพทางเรื่องเจรจา
- บางคนขาดศักยภาพทางเรื่องความอุดมสมบูรณ์ในชีวิต
- บางคนขาดศักยภาพเรื่องลาภผลเงินทองลาภลอยได้เสีย
- บางคนขาดศักยภาพในโภคสมบัติและทรัพย์ทั้งหลาย
- บางคนขาดศักยภาพทางด้านการแสดงออก,ด้านจิตใจ,มีเมตตาเกินคน
- บางคนขาดศักยภาพที่จะใช้ในการข่ม,ปราบศัตรูเอาชนะผู้อื่น
- บางคนขาดศักยภาพในการหาคู่ครอง
พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือแบบคร่าวๆแต่รวมๆคือเปิดหมดนะทุกทางพร้อมๆกันนั่นแหละ เพียงแต่ถ้าเราไปย้ำคิดย้ำทำจะเอาทางเดียวใช้มันอยู่ทางเดียวมันก็จะออกแค่ทางนั้น

นางโภควตี
นอกจากนี้ในขวดยังบรรจุใบว่านมหาลาภที่งอกในเรือนอนาถบิณฑิกเศรษฐี ซึ่งนับเป็นของมงคลที่แรงและมีค่าอย่างสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าได้ประมาทใบไม้แห้งๆนี้ไปเลยอะไรที่เกิดขึ้นมาในโลกได้ด้วยบารมีท่านสุทัตตะคหบดีนี่มันหนุนตัวเราได้อย่างถึงที่สุดอยู่แล้ว...ไม่ใช่ใบว่านอายุพันปีนะหากแต่มันเคยเกิดขึ้นในบริเวณที่เป็นเรือนของท่านเท่านั้นและพ่ออาจารย์ก็เก็บรักษาไว้ ท่านว่ามันต้องมีมูลและมีเค้าลางบางอย่างคืออาจจะมีหน่อมีพันธ์อยู่บริเวณนั้นมาแต่เดิมพอต้นเก่าตายลงก็รอเวลาเกิดต้นใหม่..ใครจะไปรู้สองพันกว่าปีก่อนท่านคหบดีอาจจะปลูกว่านไว้จนเป็นเหตุที่มาแห่งความร่ำรวยอันน่าพิศวงนี้ก็เป็นได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของมงคลอย่างสูงสุดจึงบรรจุลงไปให้โดยท่านเรียกว่านนี้ตามญาณรุกขเทวีที่คอยดูแลต้นว่านรวมถึงดูแลต้นไม้ต่างๆในเรือนท่านเศรษฐีว่านางโภควตี พ่ออาจารย์ท่านถือว่าใบว่านนี้มีตระกูลสูงผู้พกพาจะได้เป็นเศรษฐีมีฐานะไปตามๆกันอันเป็นปัจจัยเกื้อหนุนในแหล่งที่มา...ท่านบรรจุใส่ไว้ในทุกๆขวด

น้ำมันพุทโธแปลงสภาพนี้เชื่อว่าหากผู้ใดได้พก..ได้ทา..ได้สัมผัส จะได้พลังงานแห่งพุทธคุณรวมถึงครูว่านยาประทับลงบนตัวนอกจากฟื้นศักยภาพแล้วยังช่วยให้เรามีสง่าราศีไร้ราคีใดๆ..ใครได้ทาได้ใช้พุทธานุภาพจะมอบความรักให้แก่ตน..ตราบใดที่ยังมีพระพุทธคุณอยู่ในโลกเราจะไม่มีวันเสื่อมถอยในเกียรติยศเลย..พ่ออาจารย์ท่านว่าพึงใช้ไปเถอะปลุกศักยภาพในกายตนที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นพร้อมๆกับการบังเกิดของโชคลาภอยู่เนืองๆ..มันจะมีโชคเกิดขึ้นกับคนใช้เสมอจนเป็นที่หวงแหนแก่ผู้ที่ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันชุดนี้ไม่มีพรายนะครูแต่โบราณท่านหุงด้วยว่านด้วยยาล้วนๆ กว่าจะได้มาต้องใช้ผงว่านปั้นเป็นหุ่นเทพเจ้าทั้งหลายอันมีนามสำคัญในฉกามาพจรสวรรค์สาธยายพระเวทย์หุงจนกองกูณฑ์อัคคีดับแล้วจึงตั้งพิธีนำน้ำมันถวายพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์ ทำทีละพระองค์..รวม 28 ครั้ง จึงเป็นที่สุดแห่งพุทธานุภาพผสมผสานทั้งพุทธศาตร์แลไตรเพทเวทย์มนต์คาถาว่านยาทำออกมามีจำนวนน้อยมากๆที่สืบทอดกันมา เพราะส่วนใหญ่ได้แข็งเป็นก้อนไปตามกาลเวลาพ่ออาจารย์ต้องนำมาหุงอีกรอบเอาหัวเชื้อล้วนๆนี้นี่คือมูลเหตุที่ทำให้พ่ออาจารย์หวงแหนน้ำมันชุดนี้มาก เพราะท่านทำออกมาได้น้อยมากๆคิดดูว่าลำพังบวงสรวงใหญ่ๆครั้งหนึ่งก็ยุ่งยากแล้วแต่นี่ครูผู้ทำไว้ต้องบวงสรวงถึง 28 ครั้งติดต่อกัน ท่านว่ายุ่งยากซับซ้อน

น้ำมันพุทโธแปลงสภาพนี้จึงใช้จุลเจิมได้ทุกด้านไม่มีข้อห้าม...แต่พ่ออาจารย์ท่านห้ามว่าอย่าเอาไปทำเล่นเพราะท่านเสียดายของด้วยต่อให้ผสมหัวเชื้อไปเจือจางมาใช้ทีละหม้อท่านก็ยังเสียดายอยู่ดี ..ท่านว่าหากจะหุงน้ำมันเช่นนี้ในสมัยนี้ให้สำเร็จต้องใช้เงินหลายแสนบาทและเสียเวลายาวนานมากไม่คุ้มกับการนำไปใช้เล่นกันเลย ใครจะเอาไปใช้ทางเมตตาเพิ่มเสน่ห์ก็อย่าเอาไปใช้กับคนที่มีเจ้าของแล้วก็พอ...และอย่าลืมว่าเป็นน้ำมันที่มีอาถรรพ์รุนแรงชนิดที่ว่าไม่มีผู้ใดถอนมนต์ได้จะฉุดให้เราได้ดีประเสริฐเลิศคนไปตลอดกาลสมัย ท่านว่าแรงมากนะมีแต่จะดีขึ้นทุกวันทุกคืน..ไม่ต้องกลัวไอ้พวกขี้อิจฉามันจะแกล้งถอนพระเวทหรือทำลายอาถรรพ์ศักดิ์สิทธิ์ที่หนุนหลังเราอยู่เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าใครแกล้งเราไปถอดถอนแตะต้องจะทำลายอาถรรพ์ที่เปลี่ยนชีวิตเราให้เป็นยอดคนเช่นนี้ มันผู้นั้นย่อมได้ชื่อว่าถูกอัปรีจัญไรกินตัวเสียจริตไปเพราะน้ำมันนี้หุงขึ้นจากผู้มากบารมีทรงพระเวทย์เป็นผู้วิเศษไม่ใช่ของธรรมดา..ฐานะไม่เท่าเขาก็แก้เขาไม่ได้..แล้วในโลกสมัยนี้จะหาใครมีฐานะเทียบเท่าทั้งชำนาญพระเวทย์ได้อีกเล่า

คาถาบูชา
คาถาต้นบทอาราธนาน้ำมันพุทโธแปลงสภาพของพ่ออาจารย์นั้น ท่านให้อาราธนาว่า
"อันว่าตัวข้าจะนมัสการก็จักทำการไหว้ยังบรมโพธิสมภารแห่งพระบรมโลกนาถตถาคตเจ้า อันมีพระบาทประเสริฐทั้งสองข้างรุ่งเรืองด้วยเครื่องทรง อันมีมหามงกุฎซึ่งมียศอันประเสริฐกว่ามนุษย์และเทวดาทั้งหลาย อันมีปัญญาวุธและฉัพพรรณรังสีสิริวิลาศแผ่รัศมีตระการ อันมีความงดงามซึ่งอาจกำจัดเสียซึ่งสิ่งปิดกั้นชะตาชีวิตผู้ข้าทั้งผอง ขออำนาจบุญและบารมีของพระตถาคตเจ้าอันมีปัญญาวุธและธรรมรังสีแห่งตถาคต ซึ่งเป็นที่ตั้งอยู่แห่งกำลังบุญอันยิ่งใหญ่กว่าสรรพสัตว์หมู่ใดในโลก เป็นที่ตั้งแห่งปัญญาและฉัพพรรณรังสีอันประเสริฐสุดในโลกทั้งสาม จงมาเป็นปิ่นปักยอดมหามงกุฎเป็นธงชัยแต่งร่างเป็นหลักชัยค้ำชะตาชีวิตให้ตัวข้าเหนือกว่าคนทั้งหลายเป็นยิ่งกว่าเทพยดาเจ้าทั้งปวง ด้วยกำลังบุญและปัญญาวุธตลอดจนรัศมีแห่งตถาคตเจ้านั้นแล" แล้วตั้งจิตขอพรว่า( ....หากโลกนี้ยังมีพลังพุทธานุภาพอยู่ ขอให้เราเจริญขึ้นทุกวันคืน..อย่าให้ความเจริญได้หมุนเวียน..ผันเปลี่ยน..หนีหายจากเราไปตามกาลด้วยเทอญ)

### น้ำมันนี้มีวิธีใช้หลากหลายมากๆ หากแต่เป็นของโบราณที่เฉพาะเจาะจงให้ใช้กันในหมู่ผู้ที่มีวาสนาจะได้แปลงสภาพ..แต่งชะตา..ปลุกร่าง..ปลุกพลังแฝง ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีวาสนาได้เปลี่ยแปลงเช่นนี้

### พ่ออาจารย์ท่านจึงได้อธิษฐานต่อครูบาอาจารย์กายทิพย์เจ้าของน้ำมัน ว่าให้เฉพาะเจาะจงในหมู่มนุษย์ที่จะได้สืบทอดใช้งานโดยแท้จริงเท่านั้นให้ได้มาพบและนำไปใช้สร้างเนื้อสร้างตัวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง

### พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เปิดจองและลงข้อมูลเพียงคร่าวๆก่อน รายละเอียดการใช้..โดยละเอียดมากๆ..อันมีวิธีใช้พิศดารมากๆเพื่อให้สำเร็จผลในการแปลงสภาพแต่งชะตาปลุกร่างปลุกพลังแฝงอย่างรวดเร็ว

### พ่ออาจารย์ท่านว่าหัวเชื้อน้ำมันชุดนี้ใครได้ไปถือว่าคุ้มมากเพราะช้อนชานึง สามารถนำไปเจือจางน้ำมันหนึ่งหม้อใหญ่ได้มีอิทธิคุณเสมอกัน..เหมือนเดิม..ไม่ต่างจากของเดิม..ถ้าคนใช้เป็นต่อยอดได้หลายๆหม้อใช้กันไปได้หลายชั่วอายุคน

ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันพุทโธแปลงสภาพแต่งชะตาปลุกร่างพลังแฝงกลับกลายสลับฐานะ(จอมคนภะโคหงสา) บูชา 4,000 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...ภพ-พ่ออาจารย์พล.539894/page-556#post-11658167

 

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสมิงน้อยกลืนกินคำสาปสาบานชำระไอมารวิบากดำชุดหนังปู่เจ้าสมิงไพรชุบอภิธรรม(เจ้าสมิงหลุมดำ)

ชุดสมิงน้อยนี้พ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดลงถมเจ้าหลุมดำที่ทำไว้เหลือจากฝังพระมาม้วนด้วยหนังปู่เจ้าสมิงไพรชุบอภิธรรม โดยได้ลงอักขระชำระไอมารวิบากดำในชีวิตกำกับไว้ที่หนังปู่เจ้าสมิงไพร..อันมีอำนาจตัดแรงและบรรเทากรรมหนักได้

วิชาชำระไอมารวิบากดำ,กรรมหนัก(ลงที่หนังสมิง)
"ก็เหตุเกิดแห่งกรรมเป็นไฉน คือ ผัสสะเป็นเหตุเกิดแห่งกรรม..ก็ความต่างแห่งกรรมเป็นไฉน คือ กรรมที่ให้วิบากในนรกก็มี,ที่ให้วิบากในกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานก็มี,ที่ให้วิบากในเปรตวิสัยก็มี,ที่ให้วิบากในมนุษย์โลกก็มี,ที่ให้วิบากในเทวโลกก็มี นี้เรียกว่าความต่างแห่งกรรม..ก็วิบากแห่งกรรมเป็นไฉน คือ เราย่อมกล่าววิบากแห่งกรรมว่ามีสามประการ คือ กรรมที่ให้ผลในปัจจุบันหนึ่ง,กรรมที่ให้ผลในภพที่เกิดหนึ่ง, กรรมที่ให้ผลในภพต่อๆไปหนึ่ง,นี้เรียกว่าวิบากแห่งกรรม" พ่ออาจารย์ท่านเข้าใจสภาพชีวิตของคนที่ต้องจมอยู่ในวิบากกรรมชัดเจนดั่งที่องค์พระศาสดาตรัสไว้ว่า"โลกย่อมเป็นไปเพราะกรรม หมู่สัตว์ย่อมเป็นไปเพราะกรรม สัตว์ทั้งหลายถูกผูกไว้ในกรรมเหมือนลิ่มสลักของรถที่กำลังแล่นไปฉะนั้น”

เพราะวิบากเป็นผลที่เกิดขึ้นจากเหตุแห่งการกระทำกรรมนั้น ตามกฏสังสารวัฏชัดเจนว่าเมื่อมีเหตุก็ต้องมีผลตามมาเช่นกันเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นกรรมจะดีหรือชั่วก็มีผลอยู่ในตัวเองทั้งสิ้นทั้งยังจะอยู่ติดตัวเราตลอดไป เพราะทั้งกรรมดีและกรรมชั่วจะคอยอยู่เคียงข้างเราไปตลอดโดยไม่แยกไปไหน ทดแทนกันไม่ได้ไม่ใช่ว่าฉันมีกุศลมากกว่าฉันจะล้างบาปได้เช่นนี้ ดั่งที่พระตถาคตเจ้าท่านสอนไว้ว่า “ดูก่อนปุณณะ กรรมสี่ประการนี้..กรรมดำ มีวิบากดำมีอยู่,กรรมขาว มีวิบากขาว มีอยู่, กรรมทั้งดำทั้งขาว มีวิบากทั้งดำทั้งขาวมีอยู่,กรรมไม่ดำไม่ขาว มีวิบากไม่ดำไม่ขาวเป็นไปเพื่อความสิ้นกรรมมีอยู่” นั่นหมายถึงทั้งกรรมดำ,กรรมขาวก็มีวิบากกรรมของตนเอง เป็นคนละเหตุ คนละปัจจัยและส่งผลคนละอย่างกัน ดังนี้
- แนวทาง,ผลและการกระทำที่แสดงออกมาออกมาในด้านลบ คืออกุศลหรือบาป
- บุญกุศลที่ส่งผลกระทำให้ชีวิตมีความสุขและสังคมก็มีความสงบ หลุดพ้นจากทุกข์ได้
- เป็นผลแห่งการกระทำที่มีทั้งบวกและลบปนกันทำให้ผลกรรมออกผลมาเกิดทั้งสุขและทุกข์ปนกันไป
- ส่วนกรรมอันแสดงอยู่เป็นกลางๆนั้นคืออพยากตากรรม เช่นการทำกิจวัตรประจำวันปกติ
วิบากกรรมนั้นไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว,ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศล ล้วนแต่ส่งผลของตนเองทั้งสิ้นโดยมีองค์ประกอบมาจากการกระทำเกิดจากตัวเราเองเป็นเหตุและผลของมัน,เป็นสิ่งที่เราสร้าง,เป็นสิ่งที่เราสะสมมา เมื่อมีปัจจัยย่อมเกิดผลลัพธ์ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ในส่วนที่ดีนั้นก็แล้วกันไปแต่ในส่วนที่ร้ายอันหลายๆคนได้ประสบพบเจอก็จะเป็นเหตุทำให้ชีวิตจ่อมจมและร่วงหล่น เจอแต่สิ่งแย่ๆอุบัติขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วนทั้งสิ้น

พ่ออาจารย์ท่านให้พิจารณากันเองว่าชีวิตของเรานั้นมีเรื่องเหล่านี้หรือไม่
- เป็นคนทำบุญคนไม่ค่อยขึ้น ลำบากมาตั้งแต่เด็กพอมีเพื่อนเข้าสังคมก็มีแต่ปัญหา เป็นชนวนให้เราเข้าไปพัวพันเรื่องผลประโยชน์ได้เสีย,เรื่องเงินทองทรัพย์สิน ไม่ว่าจะช่วยเหลือใครไปก็ตามคนเหล่านั้นจะหาเรื่องปวดหัวตามมาให้ไม่เว้น ในส่วนคุณงามความดีนั้นแม้เราสงเคราะห์เพียงใดก็ไม่มีใครมองเห็น ทำดีกับใครก็ไม่เกิดผลใดๆ
- เป็นคนชอบเชื่อคนง่ายและไว้ใจคน ทั้งยังเป็นคนกตัญญูกับผู้ที่ให้การช่วยเหลือแต่มักจะต้องเจอปัญหากับเรื่องของคนอื่นดึงเราไปเกี่ยวข้องอยู่เสมอ
- มีกรรมจากความรัก มากรักแต่งงานบ่อย ได้คู่ยาก ได้คู่ต้องหลบซ่อน ได้คู่ที่ต่างวัยกัน ยิ่งรักยิ่งเจ็บยิ่งแค้น บางคนก็เกิดมาไร้คู่ ในส่วนคนที่มีคู่ก็กลายเป็นคู่ครองนำมาซึ่งปัญหา มีคู่ที่วาสนาบารมีไม่เสมอกัน เหล่านี้ล้วนเป็นวิบากทั้งสิ้น
- ชอบโดนกลั่นแกล้ง,โดนรังแก,โดนเอาเปรียบ ยิ่งเราดูสบายๆง่ายๆก็ยิ่งมีปัญหาแบบนั่งอยู่ดีๆก็มีคนใส่ร้ายไม่รอให้เราแก้ไขหรือแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น ยิ่งหากตนมีอารมณ์ร้อนเป็นคนตรงก็จะยิ่งโดนรังแกมากขึ้นไปอีก ทั้งโดนเพ่งเล็ง โดนเอาเปรียบสารพัด
- คนรอบตัวไม่ให้ความสำคัญมักจะนึกถึงเราในอันดับท้ายๆ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากใครเท่าที่ควร
- งานที่ทำไม่สำเร็จ ไปได้ครึ่งๆกลางๆต้องออกกระทันหัน ต้องเลิกแบบไม่เต็มใจ เป็นคนท้อแท้เบื่อง่าย ชีวิตต้องเหนื่อย ต้องดิ้นรน แบกรับภาระที่เหนื่อยเกินตัวจะรับไหว
- ปากพาจน มีคนเชื่อถือแต่ก็เอาทุกข์มาให้โดยไม่รู้ตัว มีบุคลิกเจ้าชู้ทั้งๆที่ไม่ใช่คนแบบนั้น นับว่ามีเสน่ห์อยู่ในตัวเองแต่ก็ต้องเหนื่อยเพราะปัญหาที่ไม่ได้ก่อตลอดเวลา
- เป็นคนไม่รอบคอบ สติหลุดลอยจิตไม่นิ่ง แม้มีปัญญาสูงไหวพริบดีก็จะมีบุคลิกที่ดูไม่จริงใจไม่น่าคบหาเชื่อถือ
- มักจะปวดหัวอยู่ข้างเดียวเป็นๆหายๆหรืออวัยวะร่างกายมีปัญหา ให้ความจริงใจกับใครก็กลายเป็นว่าอยู่ต่อหน้าเค้าทำกับเราอย่างนึง ลับหลังเค้าทำกับเราอย่างนึง
- ชีวิตยังไร้จุดหมาย,ยังไม่รู้จักตัวตนของตัวเอง,ยังหาความสุขแท้จริงของชีวิตตัวเองไม่เจอ มีแต่ปั้นหน้ายิ้มแต่ภายในไม่มีความสุข ชอบสงสารชอบเห็นใจคนอื่นทั้งๆที่ตัวเองใช่ว่าจะดี มีปัญหาทั้งความคิดและอารมณ์ยึดติด อาภัพคนอุปถัมภ์ คิดมากเรื่องเล็กๆน้อยๆ..เรื่องเก่าๆ..หาเงินเก่งแต่ก็ใช้เงินหมด
- มีชีวิตที่สูญเสีย จ่อมจมอยู่กับเรื่องวิตกกังวล โดนคนเอาเปรียบต้องทุกข์ใจเสมอ พลัดพรากจากคนรักจากของรัก โดนทำร้ายจิตใจ
...ท่านว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้มีมากมายจนยากจะกำหนดเป็นคำพูดหรือตรรกะใดๆได้ ให้พิจารณาดูว่าตัวเองเป็นคนที่เจอกับเรื่องเหล่านี้หรือไม่ ถ้าใช่นั่นก็แปลว่าชีวิตเรานั้นวนเวียนอยู่ในวิบากกรรมที่กำลังส่งผลร้ายมากกว่าดี

วิชานี้นำไปใช้ปรับพลังเหนี่ยวนำคำอธิษฐานป้องกันกระแสกรรมดำหรือไปยุ่ง,ขัดขืน,ต่อต้านกับชะตาฟ้าและอำนาจที่มองไม่เห็น เป็นดั่งกุศลจิตที่ต้องใช้ความตั้งมั่นอย่างสูงด้วยวิชาเหล่านี้พบเห็นได้น้อยมากทั้งยังไม่แพร่หลาย ไม่ใช่ของตลาด กล่าวได้ว่าไม่ใช่นึกอยากจะทำจะเขียนก็ทำได้ ต้องทำตามฤกษ์ ตามปัจจัยมงคลด้วยใจบริสุทธิ์ ด้วยเป็นวิชาเทพพรหม เป็นวิชาส่วนตัวของเทพแต่ละองค์ในส่วนนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เป็นวิชาส่วนตัวของครูบรมพรหมสฮัมบดี ครูท่านเล็งญาณกำหนดมาแต่เริ่มทำไว้ให้เป็นของส่วนตัว..ของที่มีชะตาต้องกันคู่กับเจ้าของดั่งฟ้ากำหนด พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเช่นนี้ถ้าพกไว้ซักระยะนึงจะเห็นผลมากเกินกว่าคุณวิชาเพราะว่าจิตเรานั้นจะซึมซับกระแสบรมครูเข้าร่าง,เข้าใจซึมอยู่กับเราไปทุกภพทุกชาติ นานไปจะรู้เองว่าสามารถสัมผัสองค์ท่านได้ติดต่อองค์ท่านได้ค่อยๆสว่างมากขึ้น และถ้าสัมผัสกันมากขึ้นเรื่อยๆนานกว่านั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าจะสื่อสารกับเทพทั่วโลกก็ยังทำได้..อันนี้เป็นเรื่องของครูท่านจะเปิดให้เราหรือไม่เมื่อไหร่ วิชาเช่นนี้เมื่อหมื่นปีก่อนก็ยังมีและปัจจุบันนี้ก็มีแต่จะหาที่แท้จริงนั้นคงยาก ด้วยพระยันต์ที่ท่านลงมาทำให้ก็แปลความหมายไม่ได้เพราะเป็นภาษาของท่านที่ท่านใช้เฉพาะองค์ท่านเอง วิชาตะกรุดนี้จึงเรียกว่า"ตะกรุดพรหมสำเร็จวิชา" คือแปลไม่ได้ รู้เฉพาะผู้ที่ลงและยังเป็นเสมือนรหัสลับ รหัสที่มีแต่ผู้ถือเท่านั้นจึงจะเข้าถึงดั่งเอกสิทธิ์ที่พรหมผู้เป็นบรมบิดาให้ไว้แก่บุตรรักของตน รหัสที่จะให้ใครในโลกล่วงรู้ไม่ได้ นำไปถอดก็ไม่ออก จะเข้มขลังยืนยงด้วยจิตแห่งบรมพรหมนั้นเสมอไป เพราะสร้างขึ้นด้วยพลังจิต ร่ายเขียนด้วยมหาจิตแห่งองค์พรหม แม้คนมีวิชาที่ถอนของถอนคาถาได้ก็ไม่สามารถคัดถอนวิชาเทพพรหมเช่นนี้ได้ถึงกล้าที่จะทำก็เท่ากับสัมผัสลบหลู่องค์ท่านโดยตรงเช่นนั้น ด้วยเป็นของเฉพาะกาลพ่ออาจารย์ท่านว่าแต่ละดอกแต่ละปีท่านก็สร้างมาเพื่อเจ้าของแต่ละคน เราก็ไม่ได้ไปรู้อะไรกับท่านเพราะเมื่อจะทำท่านว่าเพียงแต่ขอยืมร่างยืมสังขารเพียงปีละครั้งชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น ดังนั้นเวลา,ฤกษ์,ยามทั้งหลายจึงล้วนเป็นท่านกำหนด เราจะไปจับไปต้องไม่ได้เลย เวทย์มนต์กลใดก็ล้างไม่ได้ อ่านก็ไม่ออกมนต์ก็ไม่มีวันเสื่อม สมดั่งชื่อว่าเป็นของครูที่ทำให้สำเร็จแล้วไม่ต้องการสิ่งปรุงแต่งใดๆแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเช่นนี้อาจจะมีร่างทรงทำกันเยอะแต่ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ลงมาทำด้วยจะได้ผลไม่ได้ผลก็เป็นไปตามบุญ ท่านว่าในส่วนของท่านท่านเองไม่ใช่ร่างทรงแต่ครูแค่ยืมร่างชั่วครู่เท่านั้นเสร็จกิจก็จบกันไปเป็นเรื่องๆ ดังนั้นวิชาเหล่านี้ถ้าไม่ใช่เทพพรหมจริงทำแล้วจะไม่มีผลใดๆเลยเพราะเป็นวิชาที่อยู่เหนือวัฏจักรจึงมีฤทธิ์ แต่ถ้าหากผู้ทำโดนครอบงำจากภูมิต่ำก็จะขาดฤทธิ์ยิ่งถ้าเป็นผีสิงร่างคนทำนี่ยิ่งใช้ไม่ได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าจะยกเว้นพวกมหิทธิกาเปรต,วิชชาตะเปรต,กาลัญธิกาเปรตเหล่านี้ที่สมอ้างชื่อเทพมีร่างทรงทำกันเยอะถ้าพวกนี้ทำก็จะมีฤทธิ์มีความขลัง แต่ก็นับเป็นคนละชั้นกับวิชาเทพพรหมที่ถือเป็นจุดสูงสุดและสูงส่งมานับหมื่นพันปี วิชาของดวงจิตภูมิต่ำเหล่านี้แม้มีฤทธิ์แต่ก็เสื่อมถอยมีวันหมดต่างกันอย่างที่สุดกับวิชาเทพพรหมบริสุทธิ์เช่นนั้น

วิชานี้ดีอย่างไรพ่ออาจารย์ท่านว่า..ถามว่าดีอย่างไรครูพรหมท่านบอกไว้แค่ชำระไอวิบากตัดแรงบรรเทา จากที่ตัวท่านใช้ท่านว่ามันไม่ใช่ชำระปกตินะแต่คนที่มีวิบากกรรมเหมือนครูท่านจะรู้ได้ หากเป็นกรรมดำวิบากที่ก่อทุกข์ยิ่งคนจำพวกนี้ใช้ตะกรุด ตะกรุดจะยิ่งมีฤทธิ์แรงกล้ามากกว่าปกติ เราดูได้จากช่วงไหนๆถ้าดวงเราตกพระเคราะห์เสวยอายุ วิชาครูพรหมนี้จะสว่างวาบขึ้นมาเลย สว่างอยู่อย่างนั้นไม่ดับอย่าเผลอไปมองเชียวต้องหยีตากันไปข้างเขาจะชำระไอวิบากกรรมในตัวเรา ..ชำระอย่างไรก็ชำระเข้าตัวเขา การชำระนี่ก็เหมือนเธอใช้เงินชำระค่าใช้จ่ายนั่นแหละจ่ายไปก็จบหนี้กันสิ่งนั้นช่วงเวลานั้นก็ไม่ใช้ภาระของเราแล้ว หมดภาระกันไป จึงเรียกได้ว่าชำระตัดแรงและบรรเทา พ่ออาจารย์ท่านว่าจริงๆแล้วฉันไม่ควรพูดเลยเพราะเป็นวิชาของครูบรมพรหม เป็นกิจของท่านที่ท่านเลือกคนของท่าน จะชำระอย่างไรก็เป็นลีลาของท่านเรียกว่าเป็นรหัสลับที่เปิดเผยไม่ได้พอแต่จะบอกได้ว่าให้เอาติดตัวไว้ตลอดก็พอย่าเอาไปติดบ้าน ถ้าติดกับตัวพอมีวาสนาชะตาร้ายเมื่อไหร่นั่นแหละเขาชำระทิ้งทันที ชำระให้ไม่ได้เกิดขึ้นเลย ชำระ ตัดแรง ..บรรเทาให้ชีวิตเราที่ว่าหนักก็เบา ที่เบาอยู่ก็สบาย ด้วยขึ้นชื่อว่าวิบากนั้นย่อมส่งผลได้สารพัดเรื่องตามเหตุและปัจจัยกรรมที่ทำมาต่างคนก็ต่างเรื่องร้อยสาเหตุหมื่นเหตุผล ขึ้นชื่อว่าวิบากแล้วจึงเกินอำนาจผู้ได้ล่วงเกินได้ ยกไว้แต่บรมพรหมอันมีหน้าที่ตรวจสอบและปัดเป่าเคราะห์กรรมของผู้ภักดีเท่านั้น

เมื่อจิตถูกรบกวนดวงก็ตก ชีวิตก็เครียดใจก็ฟุ้งซ่านอารมณ์จึงหงุดหงิดง่าย เช่นนี้จะคิดจะไตร่ตรองทำสิ่งใดย่อมไม่ออกมาเป็นผลดีแต่เพียงน้อย ด้วยไม่ได้มีสติ ห่วงหน้าพะวงหลังภาระรัดรึงเต็มไปหมด หนักบ่าหนักชีวิตจะวางลงสักอย่างก็ไม่ได้ ด้วยอำนาจร้ายหรือวิบากดำนั้นกำลังต่อต้านความพยายาม,ความสำเร็จของเราอยู่ ใจของเราที่ขุ่นมัว ชีวิตที่มีปัญหา หนทางที่ไม่ได้แก้ไขทุกสิ่งนั้นย่อมมีสาเหตุ ดั่งควันจะไม่เกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีไฟ เพราะสรรพชีวิตมีวิถีให้ตั้งอยู่และดับไป พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขอครูบรมพรหมท่านเอาตะกรุดนี้ออกมาเพื่อจะได้ปลดเปลื้องปัญหาทุกข์ของผู้ที่เป็นเจ้าของและมีวาสนาสัมพันธ์กัน


*** หนังสมิงม้วนทับตะกรุดลงถมสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบาน(เจ้าหลุมดำ)
ตะกรุดสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นตามพระเวทย์โบราณ ด้วยปางก่อนนั้นสังข์อสูรได้กลืนกินพระเวทแลพระธรรมศาสตร์ทั้งปวงอันไหลออกมาจากโอษฐ์ของพระพรหมธาดาเป็นเจ้าได้ ด้วยกำหนดเมื่อถึงพรหมราตรีองค์พรหมท่านหลับไหลกินเวลายาวนานถึง 4,320 ล้านปี โลกก็เข้าสู่ความมืดมน อนธการ น้ำจะท่วมโลก สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะสูญสิ้นเผ่าพันธ์ จนหมดสิ้นช่วงเวลาพรหมราตรีนั้นเข้าสู่พรหมทิวาทุกอย่างจึงจะกลับมาเป็นปกติ การที่คัมภีร์พระเวทย์หายไปทำให้โลกมนุษย์เดือดร้อน ฝนฟ้าไม่ตก เกิดความแห้งแล้งอดอยาก ก่อนเวลาที่โลกจะวิบัติตามช่วงพรหมราตรีที่กำหนดไว้

ด้วยสังข์อสูรนั้นสำคัญว่าเมื่อโลกขาดซึ่งพระเวทย์แลพระธรรมศาสตร์ไป พอพระพรหมตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็จะไม่สามารถสร้างโลกแลสร้างสรรค์จักรวาลได้เลย เทพยดาตลอดจนมนุษย์ก็จะไม่ได้รับองค์ความรู้ต่างๆทั้งยังไม่นับถือพระเป็นเจ้าอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้พ่ออาจารย์ท่านซึ่งได้รับการแนะนำจากองค์ปฐมพรหมว่าให้ทำตะกรุดครูดอกสำคัญขึ้นลงวิชาสังข์อสูรไว้ เพราะสังข์อสูรนั้นเป็นผู้กลืนกินที่ได้ชื่อว่ากลืนได้ทุกอย่างแม้กระทั่งพระเวทย์และพระธรรมศาสตร์ทั้งหลายอันปกติแล้วจะหาผู้ใดกลืนกินมิได้ จึงได้ชื่อว่าสังข์อสูรนั้นมีอำนาจมากกลืนได้ทุกสิ่งด้วยตัวสังข์อสูรนั้นเป็นมหาพรหมจุติลงมาจึงมีกำลังฤทธิ์มาก ซ้ำเหนือสิ่งอื่นใดสังข์อสูรนั้นได้ลักโขมยสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากพระเป็นเจ้า ได้กลืนกินทั้งรูปธรรมและนามธรรมอันเป็นต้นกำเนิดของมหาจักรวาลได้(พระเวทย์และพระธรรม)
เช่นนั้นท่านจึงถือว่าสังข์อสูรนั้นเป็นดั่งหลุมดำที่ใช้กลืนกินได้ทุกสิ่ง(วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านปกปิดมากและวิชานี้ท่านตั้งใจหลบไว้ไม่ให้ใครเห็นหรือเอาไปใช้กันได้ง่ายๆด้วยท่านกลัวว่าจะหลงระเริงเอาไปใช้ในทางที่ผิด) ซ้ำสังข์นั้นยังมีอานุภาพมงคลอีกหลายประการ แม้ว่าบุคคลใดจะทำการมงคลให้เอาสังข์ไปเป่าให้ดังจนสุุดเสียงสังข์นั้นแล เสียงนั้นได้ยินไปถึงสถานที่ใดก็เป็นอุดมมงคล ทั้งสังข์ยังใช้ในการเป่าประโคมเพื่อเตรียมพร้อมขบวนศึก ใช้เป่าเป็นอาณัติสัญญาณในการสงคราม ใช้เพื่อประกาศศักดาและความมีชัย ...เช่นนั้นพ่ออาจารย์จึงสรุปว่าวิชาสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบานนั้นสามารถกลืนได้ทุกสิ่งทั้งยังใช้ขับไล่สิ่งอันไม่เป็นมงคลออกไปจากตัวเราหรือสถานที่ซึ่งเราอาศัยอยู่ และเป็นเครื่องหมายแห่งศักดานุภาพแลชัยชนะอีกด้วย ท่านว่าบ้านไหนร้อนเป็นไฟ ชีวิตใครที่วิบัติอย่างไร้สาเหตุชนิดที่โดนผีมันทำเอา หรือโดนเจ้าที่เทวดาให้ร้ายเหล่านี้ มีสังข์อสูรอยู่ด้วยรับรองได้ว่าวิบัติต่างๆนั้นเงียบสนิท

อานุภาพของสังข์อสูรนั้นมีอยู่มากเมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงตามโองการปฐมพรหมโดยทำเป็นตะกรุดครูที่สร้างด้วยสรรพพิธีกรรมโบราณเช่นการทำตะกรุดตะกั่วลงถมแล้วท่านจึงเรียกตะกรุดสังข์อสูรนี้ว่าเจ้าหลุมดำ เพราะเจ้าหลุมดำนี้มีแรงกระหายที่แฝงลึกอยู่ในสัญชาติญาณสามารถกลืนกินได้แม้แต่พระเวทย์และพระธรรม ซ้ำวิชานี้ยังใช้กลืนกินคำสาป,คำสาบาน,ทุกข์,โทษ,ภัยใดๆอันแสดงออกถึงผลร้ายที่มากระทบกายและใจของเรา ท่านว่าเจ้าหลุมดำนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม กลืนเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม หากคนใช้เป็นจะรู้ว่าสามารถใช้เพื่อกลืนและกินได้ทุกสรรพสิ่ง ยิ่งเรามีบาปมากทุกข์มาก มีชีวิตติดอยู่ในคำสาปคำสาบานตั้งแต่อดีตชาติอันผูกพันธ์เหนี่ยวรั้งเราไว้ ใช้ชีวิตวกวนหาทางออกไม่ได้อยู่เช่นนี้ ท่านว่านั่นแหละเจ้าหลุมดำกลืนกินได้ทั้งหมด ยิ่งเค้ากินมากก็จะยิ่งให้คุณมาก ท่านว่าวิชานี้แปลกคนที่ว่าทรุดๆไร้จุดยืน คนที่ติดคำสาปคำสาบานเหล่านี้ พอเจ้าหลุมดำมันกินเสร็จไม่ใช่แค่มันนะที่อิ่ม แต่ตัวเรามันก็ให้กินให้อิ่มด้วยเหมือนเป็นการตอบแทนที่เราให้มันกิน ชีวิตใครที่ขาดสิ่งใดอยู่ไม่ว่าจะโชคลาภความรักความปรารถนา สิ่งใดที่ต้องประสงค์นั่นแหละบอกกับเจ้าหลุมดำไว้ได้เลยว่า "เมื่อกินอิ่มแล้วให้พ่ออิ่มด้วยนะพ่อขาด...สิ่งนี้ๆก็ว่าไป" ท่านว่าถ้าใช้เป็นดังนี้จะมีกินมีใช้ไม่รู้จบ มันกินเร็ว กินไวชนิดที่ไม่เหลือให้ใคร ก็ส่งผลให้เราได้ทุกอย่างแบบที่ไม่มีใครกล้าแย่งเช่นกัน

ทั้งเจ้าหลุมดำนี้ได้ชื่อว่ากินอย่างเดียว เก็บอย่างเดียวไม่มีเอาออก ไม่รู้จักอิ่มและไม่มีอะไรที่เขาจะกินไม่ได้ เช่นนั้นวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้เปรยเอาไว้ว่านอกจากกลืนกินคำสาปคำสาบานในร่างกายตัวตนของเราแล้ว เจ้าหลุมดำนี้แม้อยู่ที่ไหนก็ยังจะช่วยเจ้าของกอบโกยสิ่งที่ตัวเธอต้องการแบบไม่รู้จักคำว่าพอดี(พูดง่ายๆคือเกินพอไปไกล) จะกอบโกยทุกอย่าง ครอบครองทุกอย่างจนตัวเธอเองคาดไม่ถึงว่าทำไมเมื่อก่อนเป็นแบบนั้นและตอนนี้เรามีขนาดนี้ได้อย่างไร จะถึงซึ่งสิ่งอันสมปรารถนา มีความสุขกับทรัพย์สมบัติที่ตั้งใจจะให้เป็นตั้งแต่แรก ...ท่านว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือใช้ชีวิตแบบไม่มีจุดอิ่มตัว นี่คืออานุภาพของเจ้าหลุมดำ เพราะตัวของมันนั้นสามารถบรรจุพระเวทย์และพระธรรมได้จึงมีอานุภาพอันประมาณมิได้ ท่านว่ามีมิติอันกว้างใหญ่ไพศาลไม่สามารถคาดคะเนจุดสิ้นสุดได้อยู่ในตัวของมันเช่นนี้ท่านจึงเรียกเจ้าหลุมดำเพราะจริงๆแล้วตัวของมันสามารถใส่ได้ทุกสิ่ง

***วิชานี้เป็นพระเวทย์พิศดารซึ่งพ่ออาจารย์ได้รับการถ่ายทอดโดยปฐมพรหม ท่านว่ามีอำนาจเหนือแรงพรหมลิขิตต่างๆที่ดลบันดาลชีวิตคนมากนัก ด้วยเหตุสังข์อสูรนั้นโขมยของจากพระพรหมเปลี่ยนแปลงพรหมลิขิตซึ่งส่งผลร้ายแรงที่สุดต่อมหาจักรวาลได้อย่างไร เรื่องโขมยชะตา เปลี่ยนชีวิต กลับทุกข์เป็นสุขทั้งหลายเค้าก็ทำได้ง่ายๆเช่นนั้น

### วิธีใช้
- ตะกรุดนี้เมื่อได้รับไปท่านให้ผู้บูชาตั้งจิตตั้งสมาธิให้ดี นำเอาปากกามาเขียนชื่อตัวเองจารใส่ลงไปที่ตะกรุด ให้ทำเบื้องหน้าพระปฏิมาหรือทำจิตหน่วงไว้มั่นคงในพระรัตนตรัยอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เมื่อกระทำนั้นพ่ออาจารย์ท่านให้ตั้งจิตให้ดีบอกกล่าวกับมหาสังข์เขาว่าให้กลืนกินคำสาปและคำสาบานตั้งแต่อดีตชาติของเราขณะที่เราเขียนชื่อลงไป...(ต้องทำด้วยตัวเอง) อยากจะให้ท่านช่วยให้ท่านกลืนกินอะไรก็บอกไปเลยในขณะนั้น การเขียนชื่อนี้ทำได้เพียงครั้งเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะพกแบบไม่เขียนก็ได้ แต่หากทำตามนี้วิชานี้จะมีผลมาก เห็นผลได้ไวดั่งใจ เจ้าหลุมดำจะเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเราและตามช่วยเราตลอดไปแม้ในภพภูมิไหนๆ จะเกิดอีกกี่ชาติ พรและความโชคดีเหล่านี้จะไม่หายไปจากตัวเราเลย


พ่ออาจารย์ท่านเจาะจงให้ใช้หนังใบหน้าและท้ายทอยของศรีษะปู่เจ้าสมิงไพรเพื่อมาทำตะกรุดชุดนี้โดยเฉพาะ..ด้วยถือว่าเป็นของมีค่ามากที่สุดและแรงตบะสูงสุด เป็นเวลายาวนาน..กว่า 60 ปีที่หนังปู่เจ้าสมิงไพรอาถรรพ์นี้ได้เปลี่ยนมือจากรุ่นสู่รุ่นด้วยเป็นสมิงอาถรรพ์ต้องตำรามีเขี้ยวโคร่งโปร่งฟ้าทั้งสี่เขี้ยว(เป็นสัญลักษณ์ของเสือที่มีเทพเจ้ารักษา)เมื่อแก่ตายลงแล้ววิญญาณย่อมไปเป็นพระไพรปกปักรักษาป่าหรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าปู่เจ้าสมิงไพร หนังศรีษะของปู่เจ้านั้นมีอาถรรพ์มากและที่ยากกว่าคือเป็นหนังเก่าที่ถูกเก็บรักษาไว้เพื่อบนบานศาลกล่าวขอได้ทุกเรื่อง พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะทำวิชาเสือต้องใช้เสือโคร่งเท่านั้นจะไปใช้ดาว,เมฆ,ดำ,ไฟ..เหล่านี้ไม่ได้ด้วยตบะมันเทียบกันไม่ได้เลยมีแต่นิยายที่คนแต่งมาขายของแต่แท้จริงแล้วสำหรับเราอะไรก็สู้ปู่เจ้าสมิงไพรไม่ได้ด้วยในบรรดาเสือโคร่งร้อยตัวพันตัวจะมีสมิงพิเศษนี้เพียงตัวสองตัวเท่านั้น ลำพังหนังแท้ว่าหายากแล้วแต่หนังที่มีอาถรรพ์สมิงวิญญาณพระไพร..แถมเป็นของเก่าโบราณที่รักษาไว้อย่างดีย่อมหายากกว่าร้อยเท่าพันเท่า

พ่ออาจารย์ท่านสืบสานตำนานปู่เจ้าสมิงไพรอันเป็นพญาสมิงจิตวิญญาณแห่งป่า..เมื่อนำหนังมาทำเครื่องมงคลจะเป็น "เสือครองโลก..สมิงครองภพ" ทั้งท่านยังตั้งใจทำและรังสรรค์ขึ้นด้วยหัวใจอย่างแท้จริงด้วยท่านทราบดีว่าหนังชุดนี้เป็นของอาถรรพ์เก่าแก่ที่มีพลังระดับจักรพรรดิของเหล่าเสือ..เป็นเจ้าครองป่าราชาของเหล่าสมิงตามที่ผู้เฒ่าผู้แก่ที่รักษาไว้บอกต่อมาเมื่อนำมาทำเป็นเครื่องมงคลจะมีพื้นฐานพลังโดดเด่นและรุนแรงทุกทิศทาง
- เสริมอำนาจ เสริมวาสนา เสริมบารมี
- ปราบมาร ปราบศัตรูที่มองไม่เห็น ปราบอวิชชา
- เป็นสุดยอดอาถรรพ์ป้องกันคุ้มครองกายตน
- เภทภัยอันตรายไม่แผ้วพาน
- ใช้กันของอาถรรพ์กันคุณไสย
- คุ้มครองเคหสถาน ปกป้องเมื่ออยู่ในสถานที่อัปรีย์
- เคลียร์ร่างกาย กำจัดพลังงานลบอุบาทว์จัญไรออกจากร่างกาย
- ข่มภูติผีปีศาจอสุรกายทั้งปวง(แม้เทวดายังเกรงกลัวพระไพร)

หนังสมิงชุดนี้เป็นหนังบริเวณใบหน้าหรือศรีษะอันสูงสุดในร่างปู่เจ้าสมิงไพรท่านว่าต้องใช้ส่วนนี้เท่านั้นจะใช้ส่วนอื่นไม่ได้ตะกรุดเราต้องดีที่สุดเพราะเราทำให้..เป็นตำนานตลอดไป ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าเป็นของดีพร้อมจะหาตำหนิที่ไหน..จะหาว่าไม่ดีอย่างไร..เช่นนี้ย่อมไม่มีเลย เป็นที่สุดแห่งตะกรุดหนังเสือที่เราจะทำไว้เพียงครั้งเดียวในชีวิต คนใช้ให้พกติดตัวปรารถนาสิ่งใดให้อธิษฐานเอาเถิดย่อมสมหวังมโนรสปรารถนา...แต่อาถรรพ์หนังปู่เจ้าสมิงไพรนั้นไม่ใช่มีดีเพียงเท่านี้ เมื่อเธอเอาไปใช้อาราธนาย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้อยู่เหนือกว่าวิญญาณทั้งหลายไอ้อาถรรพ์ผีทั้งหลายประการนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับตัวแก้อาถรรพ์พวกคนที่โดนพรายกินตัวได้ทั้งยังจะคุมวัตถุมงคลทุกประเภทที่เกี่ยวกับผีหรือกุมารทองของอาถรรพ์ทั้งหลายอันเจ้าของไปเกี่ยวข้องจะด้วยความตั้งใจก็ดี..หรือไม่ได้ตั้งใจก็ดี ท่านคุมให้เกิดแต่คุณเท่านั้นไร้โทษภัยอันตรายอาถรรพ์จัญไรแฝงเร้นที่จะให้โทษนั้นย่อมไม่เกิดขึ้นเลย
### หนังศรีษะปู่เจ้าสมิงไพรนี้ถือเป็นของอาถรรพ์หายากที่พ่ออาจารย์ท่านปิดทองบูชามานานหลายสิบปี มีจิตอภิญญาแห่งปู่เจ้าพระไพรที่สละกายสังขารกลับคืนสู่ภูมิเทวดามากด้วยบารมี..เป็นใหญ่กว่าภูติผี..ใช้คุมวิญญาณเกเรทั้งหลายในโลกได้ทั้งสิ้น

เมื่อนำหนังปู่เจ้าสมิงไพรมาลงวิชาเพื่อม้วนครอบตะกรุด ซึ่งมีอานุภาพของวิชารุนแรงชนิดที่ว่า..แรงแบบไร้ความปราณี..อันแม้แต่ผู้มากฤทธิ์และกายทิพย์ทั้งหลายจะเทวดา,มุนี,ฤาษี,ดาบสตัวตนทิพย์ใดๆก็ไม่สามารถถอดถอนลดทอนอานุภาพแห่งกายสิทธิ์หนังปู่เจ้าที่นำมาลงวิชาได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากเป็นตะกรุดครูทุกสายของท่านแล้วยังใช้เป็นอาถรรพ์ได้หลากหลายแขนง แต่ตะกรุดฉันนี่มันติดกฤติยาคมของปู่เจ้าด้วยจึงยิ่งแรงเข้าไปใหญ่
- จิตวิญญาณรอบกายจะสยบ..ยำเกรง..เธอจะไม่โดนใครข่ม
- ภูติผีจะเชื่อฟัง
- จะเพิ่มฤทธานุภาพตลอดจนพลังงานธาตุแก่เครื่องมงคลและวัตถุทุกชนิดในกายตน
- จะได้เผชิญหน้าต่อทุกสิ่ง..และทำให้สยบราคาบต่อเธอได้ทุกสิ่ง
- จะมองเห็นทุกข์..เห็นเหตุ..รู้เภทภัยอันจะเกิดแก่ตัวด้วยสัญชาติญาณปู่เจ้าสมิงไพร(ป้องกันระวังทัน)
- จะมีวาสนาทางทำมาหากิน..อุปมาว่ามีเหยื่อมาป้อนถึงปากเธอนอนรอกิน
- จะเงยหน้าก็รับทรัพย์ หันหน้าไปทางไหนก็รับโชค..ดั่งปู่เจ้าที่หันหน้าไปทิศใดก็เห็นเหยื่อชัดเจนไร้สิ่งบดบัง

ตะกรุดของฉันไม่ได้ทำจากหนังเสือผีเสือปีศาจหากแต่เป็นหนังเสือพระพุทธเจ้าที่ฉันถวายองค์ปฐมให้ท่านแผ่พลังจิตพุทธบารมีทำให้ในหลายๆวาระจึงอาจจะเรียกว่าเป็นทิพย์แต่เหนือทิพย์..เป็นเทพแต่เหนือเทพ..มีสภาวะพุทธะแฝงไร้อันตรายใดๆ *** ถ้าสอดชื่อสกุลวันเดือนปีเกิดตัวเองไว้ในตะกรุด..
- จะได้รับการหนุนดวงเสริมอำนาจวาสนา..ดั่งได้วาสนาแห่งราชันพยัคฆ์สมิงไพรไร้พ่าย..ไร้ผู้ต้านทาน
- จะไร้ผู้คิดคดทรยศ ไม่มีคนหักหลัง
- จะสามารถอธิษฐานขอชัยชนะได้ตามแต่จะปรารถนาในแต่ละเหตุการณ์
- จะได้รับอำนาจบารมีบริบูรณ์ด้วยตบะ..ดุจเจ้าป่า
- จะย่างกรายไปแห่งใดสรรพสิ่งย่อมสยบ..ดั่งราชันสมิงไพรสยบป่า
- จะได้รับความยำเกรง..ด้วยสรรพสัตว์ย่อมเกรงกลัว
- จะสมบูรณ์ด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์
- จะเปนคนน่าพึงใจชนทั้งหลายอยากอยู่ใกล้
พ่ออาจารย์ท่านว่ากำลังแห่งราชันปู่เจ้าสมิงไพรจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับผู้บูชาหันไปทางไหนก็รับโชคได้ทรัพย์


ข้อควรจำ
1. ไม่ต้องเลี้ยง..ไม่ต้องเซ่นเพราะไม่ใช่ผี
2. พ่ออาจารย์ท่านชุบศรีษะปู่เจ้าด้วยพระอภิธรรมจึงไม่มีอาถรรพ์ภูติพรายใดๆติดอยู่เป็นกำลังของมวลเทพเทวดาพร้อมอาถรรพ์แห่งชาติกำเนิดและกายสังขาร..ที่มาพร้อมวาสนากับชะตาตนอันยิ่งใหญ่เท่านั้น
3. หากปรารถนาจะสังเวยแก่ปู่เจ้าเพราะท่านช่วยเหลือเรามามากเราสำนึกคุณแล้ว ก็ให้ทำบุญอุทิศแก่ท่านตามสมควรหรือตามวาระโอกาสที่เราอยากจะทำ

อาถรรพ์ 500 ปี
พ่ออาจารย์ท่านกำหนดให้เสกปิดจะกรุดหนังศรีษะปู่เจ้าสมิงไพรชุดนี้ในฤกษ์จันทร์เพ็ญปีนี้เท่านั้น เพราะไม่ใช่เพียงได้อาถรรพ์จันทร์เพ็ญที่ดีทางเมตตาเงินทองเต็มไม้เต็มมืออย่างถึงที่สุดแต่ยังเป็นจันทร์เพ็ญที่เกิดซ้อนจันทรคราสอันมีอำนาจทางมายาศาสตร์แบบสูงสุดด้วย

### อุปมาจันทร์เพ็ญท้องฟ้าสว่างสุกใสรับแสงจันทร์กระจ่างตาที่สุด

### อุปมาจันทรคราสคือเดือนดับที่ท้องฟ้ามืดมิดไร้สิ้นแสงดาวมากที่สุด

เมื่ออาถรรพ์ของความมืดและแสงสว่างเกิดทับซ้อนในฤกษ์เวลาเดียวกันจึงเป็นอาถรรพ์อย่างยิ่งยวด..ที่พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียง 500 ปีจะมีซักหนหนึ่ง การเสกปิดตะกรุดกำเนิดราชันครองภพในฤกษ์นี้ถือเคล็ดปลดปล่อยสรรพชีวิตจากมืดไปสว่าง..มามืดไปสว่าง..จากต่ำตมไปถึงฟากฟ้าดวงดาว ให้ชีวิตมีแต่ขาขึ้นจากมืดกลับสว่างเท่านั้นและยังเป็นกฤติยาคมแฝดของตะกรุดราชันอย่างหนึ่งว่าในรอบ 500 ปีนี้อาถรรพ์แห่งราชันของตะกรุดจะไม่เสื่อมไม่โดนบดบังโดยผู้ใดทั้งสิ้น..ก็แล้วใครมันจะมีอายุอยู่ไปได้อีก 500 ปี เช่นนี้ตะกรุดฉันจึงตกทอดได้รุ่นสู่รุ่นให้กลับร้ายกลายเป็นดีกลับผีกลายเป็นคนกำเนิดผู้มีวาสนาไปอีกห้าชั่วอายุคน..แม้นครบห้าร้อยปีแล้วก็อย่าหมายว่าจะคลายอาถรรพ์หากไม่มีของวิเศษที่ดียิ่งไปกว่านี้กำเนิดขึ้นในฤกษ์นั้นทุกสิ่งก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยหรือต่อให้มีก็ใช่ว่าจะโคจรมาเจอกันและหักล้างกันได้หากของนั้นไม่มีอาถรรพ์มากไปกว่าหนังปู่เจ้าสมิงไพรชุบอภิธรรมนี้ เพราะฉันทำให้ในวันที่อยู่เหนือกว่าทุกวัน ในเวลาที่แรงกว่าทุกวัน ในฤกษ์ที่เหนือกว่าทุกฤกษ์มาตลอดนับสิบปี
*** จะสามารถข่มกำลังของวิเศษทั้งหลายของผู้อื่นรอบกายได้เมื่อต้านต่อเข้ากับเราของเรานั้นจากมืดไปสว่างแต่หากเขาประสงค์ร้ายหรือใช้สิ่งใดมารังแกเราแล้ว ..ของๆเขาจะกลับกันเรียกว่าจากสว่างไปมืดหมดพลังตั้งแต่ยังมาไม่ถึงตัวเธอไปแล้ว

ตะกรุดชุดนี้จะทำให้ชีวิตเธอเดินไปได้ถึงที่สุด..ไปได้ตลอด..ไปได้ถึงทุกสิ่ง..ไปเอาดีกลับมาได้ตลอด..ไปเอาสุขกลับมานอนกอด..ไปแล้วต้องมีกลับมาตลอด..ไปเหยียบความฝันแล้วเอากลับมา นี่คืออำนาจแห่งภาคปฐมบทในบรมครูปู่เจ้าสมิงไพรพ่ออาจารย์ท่านว่าปู่เจ้าท่านใช้ได้ทุกทางเลยจะป้องกันยั่วยุเย้าแหย่หรือกันคนหักหลัง(พวกนี้แรงนะท่านเอาคืนแทนเราแรง) ยิ่งเรื่องปราบศัตรูหรือปกครองบริวารลูกน้องก็เฉียบขาดมากใช้กำราบพวกที่ชอบต่อรองหรือสยบพวกที่ชอบต่อต้านได้ทุกรูปแบบ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่าผู้ที่จะได้ครอบครองตะกรุดปฐมบทนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนามากและคนประเภท "มีของเก่า" ทำมาเยอะ

พ่ออาจารย์ท่านว่าในบรรดาเครื่องรางนั้นที่ฉันยกให้เป็นระดับราชันแล้วถือว่ามีไม่กี่ชนิดนักหรอก นั่นย่อมหมายถึงการเกิดขึ้นของอาถรรพ์ที่พลิกกลับชะตาฟ้าดินได้...และเครื่องมงคลที่ใช้สร้างตัวให้เดิมตามรอยเส้นทางแห่งราชันนั้นยิ่งสร้างได้ยาก อย่างที่ฉันบอกว่านี่เป็นเสือขององค์ปฐมท่าน..ท่านกำชับว่าไม่ให้พูดอะไรมากเกินงามเพราะเจ้าของที่ถือครองนั้นล้วนแต่เป็นคนที่ทำของเก่ามาดีแล้วจึงได้พบเจอกับเส้นทางอันจะเปลี่ยนฐานะเขาตลอดไป แต่ก็อย่าลืมไปอีกเรื่องหนึ่งเสือฉันนั้นไม่ใช่เสือธรรมดา

- สมิงไพรฉันมีมายาแท้จริงในการล่อหลอกล่อลวงผู้คน..ให้ยอมพลีกายตกเป็นเหยื่อได้ อุปมาตัวเราได้เหยื่อกินโดยไม่ใช้กำลัง
- สมิงไพรฉันมีมายาทำให้ศัตรูตายใจ..ก่อนลงมือปลิดชีพ อุปมาว่าได้ทุกอย่างเหนือเล่ห์กล
- สมิงไพรฉันมีมายาทำให้ศัตรูลืมตัว..ลืมตน..ลืมตาย อุปมาว่าได้ของรักทุกอย่างแม้แต่ชีวิต
- สมิงไพรฉันเป็นยอดแห่งนักล่า..และนักเสพย์สุขในเวลาเดียวกัน อุปมาของที่มาแห่งตะกรุดไฮโซ..ได้ทุกอย่างแล้วมีความสุข
- สมิงไพรของฉันใช้ข่มศัตรูฝ่ายตรงข้ามได้ อุปมาว่าเอาตะกรุดทับชื่อมันบอกกล่าวครูศัตรูทำอะไรก็ไม่เจริญ
- สมิงไพรของฉันเป็นเจ้าแห่งการช่วงชิง..เพราะแย่งชิงเหยื่อสัตว์อื่นทุกชีวิตได้ทั้งป่า(ในโลกของเขา) อุปมาดุจเราแย่งชิงความสำเร็จผู้อื่นได้
- สมิงไพรของฉันเป็นเจ้าแห่งโชคลาภวาสนา อุปมาว่าสยบทุกสิ่งแต่ตัวเองไม่มีอันตรายจนสิ้นอายุขัยเป็นวาสนาอย่างสูงสุด

เช่นนี้ปู่เจ้าสมิงไพรจึงช่วยอุ้มชูเธอได้ทุกทางเต็มกำลังด้วยอำนาจพญาสมิงอันเหนือกว่าพยัคฆราชใดๆทั้งสิ้น...สุดแล้วแต่เจตนาเธอจะใช้งานอย่าเอาไปทำเรื่องที่ไม่สมควรนะ..จงละอายต่อบาปให้มาก..ให้ใช้เพื่อความเจริญสุดขีดทางโลกเท่านั้น

คาถาบูชา
พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าปลุกด้วยคาถาเสือเลย ให้ปลุกด้วยพุทธคุณเถิด สมิงไพรจะเจริญด้วยคุณแก่ตัวเธออย่างถึงที่สุด ด้วยเป็นเสือของพระพุทธเจ้าเพียงระลึกถึงพระพุทธไม่ต้องท่องบทพุทธคุณก็ใช้ได้แล้ว..(สุดแต่จะอธิษฐานเถิด ท่านว่าของวิเศษเวลาใช้จะเสียเวลาท่องบ่นคาถาเพื่ออะไร..มันเต็ม..มันวิเศษอยู่แล้ว..และวิเศษตลอดไปใช้ได้ในกาลทุกเมื่อ)

### พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดหนังเสือรุ่นแรกที่ท่านออก..ด้วยอายุ..ด้วยชาติอันเหนือกว่าเสือทุกชนิด..ทั้งท่านยังม้วนห่อให้แบบหนาๆไม่ได้หวงหนังเลยราคานี้..ไซด์นี้ เที่ยบกับหนังใบหน้าพยัคฆ์อาถรรพ์ของแท้แบบยาวๆใหญ่ๆยุคเก่า 60 ปีขึ้นไปแล้วถือว่าเบามากๆ(เพราะท่านฟอกไว้และรักษามาดีมากบางส่วนที่ขนหลุดท่านก็ไม่นำมาทำ)

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าผู้ที่จะได้ครอบครองตะกรุดนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนามากและคนประเภท "มีของเก่า" ทำมาเยอะ ..คนที่ไม่ทันเห็นจึงถือว่าไม่ใช่เจ้าของอย่างสิ้นเชิง (จะจองคนละกี่ดอกก็จองไว้เลย เพราะทำครั้งเดียว ..และหนึ่งดอกใส่ชื่อกันเองได้คนหนึ่งอย่าใส่ไปมากกว่านั้น..ตะกรุดดอกหนึ่งเหมือนราชันสมิงไพรตัวหนึ่ง..และราชันก็มีเพียงตัวเดียวในดอกเดียวเท่านั้น)

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสมิงน้อยกลืนกินคำสาปสาบานชำระไอมารวิบากดำชุดหนังปู่เจ้าสมิงไพรชุบอภิธรรม(เจ้าสมิงหลุมดำ) บูชา 1,500 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...สา-พ่ออาจารย์พล.539894/page-557#post-11661672

 

ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าบังกรรมวาสนานำพาข้ามโอฆะสงสาร(ชุดเคลียร์หนี้สิน,พระแก้จนปลดหนี้)

ให้เงินตรากลับคืนมาสู่มือเรา ..ทวงหนี้ ..ปลดหนี้ เคลียร์ทางดุจประเคน ..จูงลากมาให้ถึงที่

พระชุดนี้เป็นพระพิมพ์ที่พ่ออาจารย์ท่านกดโดยใช้มวลสารเฉพาะทาง..และฝังตะกรุดเฉพาะทางไว้เนิ่นนานมากๆแล้วโดยตั้งใจสร้างเพื่อวัตถุประสงค์ 3 สิ่ง คือ
- ให้คนใช้ได้ปลดหนี้
- ให้คนใช้ทวงหนี้..นำทรัพย์กลับคืน
- ให้คนใช้เคลียร์ชีวิตหากมีหนี้สินล้นพ้นตัว
ท่านว่าการจะทำพระพิมพ์นี้สำคัญที่พิมพ์พระหนึ่ง,ผงวิเศษที่ใช้หนึ่ง,ของที่ฝังหนึ่งทุกสิ่งต้องเกื้อหนุนซึ่งกันและกันไม่อาจขัดกันได้ ท่านเห็นว่าคนเดี๋ยวนี้ภาระหนี้สินมีมากจึงให้นำเครื่องมงคลชุดนี้ที่เสกเก็บไว้นานแล้วออกมาให้บูชา ท่านว่าใครจะเอาพระสวยไม่ต้องเช่านะ ฉันบอกเลยว่าฉันใช้มวลารล้วนๆพระแบบนี้มันจะหาความสวยยากแต่ขลังน่ะล้านเปอร์เซ็นต์

ปฐมบทพระเจ้าบังกรรมวาสนานำพา
การสร้างสมเด็จองค์ปฐมพิมพ์พิเศษด้วยผงพุทธอโหสิกรรมนั้นนับว่าเป็นงานยากที่สุดในชีวิตของพ่ออาจารย์ท่านก็ไม่ผิด ซึ่งท่านได้เมตตาบอกกล่าวว่าท่านยังจำสาเหตุที่จะสร้างได้เป็นอย่างดี โดยแรกเริ่มนั้นท่านมีความกังวลเกี่ยวกับเคราะห์กรรมของแต่ละบุคคลที่ท่านตรวจดวงชะตาแล้วร้ายมากกว่าดีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันจนมีนิมิตถึงหลวงพ่อปานได้พาท่านไปหาเสด็จพระใหญ่ แต่อยู่ดีๆตอนนั้นท่านก็ได้จ้องไปที่พระพุทธองค์แล้วมีความรู้สึกว่าทำไมมนุษย์ที่ยังมีกรรมผูกพันธ์กันอยู่จะต้องท่องเที่ยวอยู่ในภพทั้งหลาย เมื่อมีภพก็มีชาติ..มีทุกข์วนเวียนอยู่ในชาติสงสารเรื่อยไป ในตอนนั้นเสด็จพระใหญ่ก็ได้เมตตาสั่งสอนพ่ออาจารย์ท่านเพราะรู้วาระจิตที่ท่านคิดสืบมาจากความกังวลเกี่ยวกับกรรมที่เลิกให้ผล...สุดท้ายจึงบอกให้ท่านทำผงพุทธอโหสิกรรมไว้เพื่อให้คนที่มีบุญสัมพันธ์กันได้นำไปเสริมกำลังใจให้พ้นจากเคราะห์กรรมในชาติสงสารนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพอรู้หลักทำผงพุทธอโหสิกรรมจากพระองค์ท่าน เราก็คิดอยู่ว่าน่าจะทำเป็นพิมพ์พระรูปท่านถึงจะเหมาะจะควร จะได้เกิดเป็นสิริมงคลสูงสุดในชีวิตของคนผู้บูชาต่อไปไม่น้อย ท่านว่าเราเพียงระลึกอยู่เท่านี้ แต่เสด็จพระใหญ่กลับเปล่งวาจาว่าสาธุๆออกมาถึงสามครั้งสามหน

พ่ออาจารย์ท่านหลังจากได้รับพุทธนิมิตแล้วก็ตั้งใจว่าจะทำและจะทำให้อย่างดีที่สุด ท่านว่าท่านไม่เคยทำอะไรที่ยากถึงเพียงนี้เลย เพราะเสด็จพระใหญ่กำหนดให้มาแต่เดิมเมื่อจะสร้างพระผงวิเศษนี้ท่านว่าให้พ่ออาจารย์กลับไปทำพระพิมพ์ฉุดดึงโดยประทานนิมิตโอภาสให้ท่านเห็นเป็นอัศจรรย์ เป็นรูปพระองค์ทรงกางกลดให้พระฉายา(เงา)ตกลงไปต้องกระทบเหมือนกำลังบังร่างกายสรรพสัตว์ทั้งหลายที่พระองค์จูง..รั้ง..ฉุด..ดึง นำทางพวกเขา พ่ออาจารยท่านได้นำผงซึ่งทำไว้สร้างปฐมพุทธพักตร์ที่ท่านจำต้องลบถมผงวิเศษถึง 227 ชนิด เท่ากับศีลพระทั้งอักขระยันต์จากคัมภีร์ปถมังต่างๆตำราพระพิชัยสงครามแต่ละสูตร รวมไปถึงวิชาและอักขระยันต์ต่างๆที่พ่ออาจารย์ท่านได้รับการขัดเกลาและสั่งสอนโดยตรงจากเสด็จพระใหญ่ท่าน ท่านได้ทำการลบถมจนทะลุกระดานชนวนในเวลาหลายปีกว่าจะได้ครบ 227 ชนิด ซึ่งท่านบอกว่านี่ไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว..เอาเป็นว่าถ้าไม่ได้ใช้อย่าเพิ่งตายก็แล้วกัน ซึ่งไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้นพ่ออาจารย์ท่านเมื่อจะผสมผงสร้างพระท่านยังได้นำผงรัตนมาลาที่ท่านเรียกสูตรลบทีละตัวทีละพระคาถาอีก 108 พระคาถามาใส่ผสมลงไปด้วย ท่านว่าเฉพาะผงที่ใช่ทำพระนี่ก็นับว่าเป็นที่สุดของวิชาอันจะเกิดจะมีขึ้นได้ในโลกนี้แล้ว ท่านได้เมตตานำผงลบถม 227 ชนิดมาผสมกับผงรัตนมาลาทั้ง 108 ท่านว่าหากจะทำอิทธิวัตถุให้มีฤทธิ์อำนาจสูงสุดนั้น ตัววัสดุมวลสารที่นำมาใช้จะต้องผสมกลมกลืนกันทั้งพุทธและไสย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงวิเศษอีกชนิดหนึ่งมาใช้ผสมนั่นก็คือผงโฮมัมหรือฮวานัมที่ได้จากกองกูณฑ์อัคคีในการบูชาไฟด้วยอาถรรพ์เวทย์ต่อองค์พระสยมภูวญาณของท่านผสมลงไปด้วย ท่านว่าผงนี้ดีใช้ทางกันตัวได้ทุกสิ่งพกอยู่ที่ไหนยิ่งกว่ากำแพงแก้วเจ็ดชั้นหรือว่าตาข่ายเพชรเสียอีก เป็นสุดยอดของกันตัวแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าต่อให้ผงวิชาเกราะเพชรหรือวิชาต่างๆก็เทียบกับผงตัวนี้ไม่ได้..ชีวิตใครที่มักมีสิ่งไม่พึงใจ..ไม่พึงประสงค์มารบกวน ทั้งที่ตัวเองก็หาทางแก้แล้วไปรับยันต์เกราะเพชรมาก็แล้วหรือพกวัตถุเกี่ยวกับยันต์เกราะเพชรก็แล้วยังแก้ไม่หาย ท่านว่าผงนี้เอาอยู่ทุกสิ่งที่ไม่พึงประสงค์นั้นไม่ว่าจะเกิดแต่กรรมลิขิตหรือเป็นไปตามวัฏจักรก็ตาม หากเป็นอัปมงคลแล้วไซร้ย่อมถูกแผดเผาไปให้เป็นจุณมหาวิจุณในพริบตา

ท่านได้นำมวลสารทั้งหมดมาเข้ากับผงพุทธอโหสิกรรมเกี่ยวลาภซึ่งท่านลบถมไว้ตามสูตรของเสด็จพระใหญ่ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดและทำยากที่สุดในการสร้างพระหนนี้เพราะเป็นผงที่มีอานุภาพประหลาด ไม่ใช่สร้างเพื่อการชะลอกรรมหรือการประวิงเวลา ***แต่เป็นการยกเลิกกรรมด้วยกฏเกณฑ์พิเศษซึ่งมีอยู่และได้ผลจริงนั่นคือวิชาพุทธอโหสิกรรม แน่นอนว่าเมื่อมีภพมีชาติก็ย่อมมีอกุศลกรรมทำให้ชีวิตเศร้าหมองเลวร้ายลงตามวิถีกรรมที่แสดงผลนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพุดแบบตรงๆชัดเจนกันเลยก็คือวิชาทำผงนี้จะทำให้บาปกรรม อกุศลกรรมทั้งหลายเลิกให้ผล..ให้เลิกแล้วต่อกัน..ไม่เพ่งโทษเอาโทษกันอีก อกุศลกรรมอันใดได้มีแล้วได้เกิดขึ้นแล้วได้ให้ผลตามครรลองแห่งกรรมแล้ว สิ่งเหล่านี้จะงดจะสงบระงับไปด้วยอำนาจอโหสิกรรมแห่งพระพุทธคุณ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงวิชาคุณพระ(พุทธอโหสิกรรม)นี้มีอานุภาพใหญ่นักเพราะเป็นผงที่ยกเลิกกฏเหล็กของกรรมลิขิตได้โดยไม่ผิดจารีตหรือครรลองใดๆทำให้เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณที่เราผูกกรรมและล่วงเกินกันไว้ไม่ถือโทษซึ่งกันและกันในกรรมที่กระทำอันล่วงไปแล้ว ถือได้ว่าเป็นผงสำคัญที่อยู่เหนือกว่าผงทั้งหมดกำเนิดขึ้นด้วยโอกาส..กาลเวลา..วาระที่เสด็จพระใหญ่ท่านเมตตาจะสงเคราะห์พุทธบริษัทอย่างแท้จริง

พ่ออาจารย์ท่านว่าสังคมสมัยนี้เวรกรรมให้ผลแรง แฝงมาด้วยอันตรายและภัยน่ากลัวเพราะมีปัจจัยร่วมกันหลายด้าน คนที่ดิ้นรนแก้ไขก็ยิ่งอยู่กันยากทั้งนี้เพราะเค้าแก้ไม่ตรงจุดด้วยนำกรรมมาผูกกรรมให้ปมแห่งชะตานั้นขมวดยุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้น ด้วยการจะแก้ปมนี้เราเห็นมีแต่เพียงอำนาจพุทธบารมีในผงพุทธอโหสิกรรมเท่านั้น ด้วยกุศลเจตนาของเสด็จพระใหญ่ท่านแม้เวียนว่ายตายแล้วเกิดผ่านภพชาติชะตาฟ้าวาสนาใดๆในรอบหลายร้อยปีต่อจากนี้ไปวิชานี้ก็จะไม่บังเกิดขึ้นมาอีก สิ่งนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะเสด็จพระใหญ่ท่านมีโองการหรือดลใจพ่ออาจารย์ท่านอย่างไร ท่านได้แกะแม่พิมพ์ขึ้นโดยใช้นิมิตโอภาสที่ได้เห็นเมื่อคราวนั้นเป็นปฐม ท่านว่าหลับตาครั้งใดภาพก็ฉายชัดอยู่เช่นนั้นทำให้พระพิมพ์นี้เป็นเอกลักษณ์ในตัวเองยิ่งนัก

เมื่อท่านได้ใช้ไม้ขนุนตายพรายมาลงอาถรรพ์สำคัญด้วยคุณวิชาเก็บเกี่ยวลาภผลให้มีกินมีใช้ มีวาสนาชักนำไม่รู้สุดรู้สิ้น ซ้ำยังหนุนดวงเสริมส่งโอกาสแก่คนใช้แล้ว ท่านก็นำไม้ขนุนตายพรายนั้นมาแกะแม่พิมพ์โดยท่านทำเป็นรูปสมเด็จองค์ปฐมเมตตากางกลดทั้งยังฉุดดึงรั้งตัวของพุทธบริษัทเอาไว้พาเดินข้ามฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคทั้งหลาย เป็นพระพิมพ์ที่มีความหมายในตัวเอง โดยท่านตั้งชื่อว่าพระเจ้าบังกรรมวาสนานำพาข้ามโอฆะสงสารหมายถึงเสด็จพระใหญ่ท่านกางกลดให้ร่มเงาจูงเราเดินโดยมีประฉาย(เงา)ทอดบังร่างเราไว้ ทั้งยังเป็นเคล็ดที่พ่ออาจารย์ท่านจะอธิษฐานจิตด้วยวิชาพิเศษของสมเด็จบรมครูท่านนั่นคือวิชาพระเจ้าบังกรรม

วิชาพระเจ้าบังกรรมนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นยอดของวิชา ท่านเสกและเชิญเสด็จพระใหญ่มาลงวิชาไว้ให้อย่างเต็มที่ อำนาจของวิชาเป็นพลังที่สมเด็จบรมครูท่านปิด,ขวาง,กั้นผลของการกระทำที่ส่งผลร้ายมายังปัจจุบันก็ดีหรือในอนาคตก็ดีทั้งคราวเคราะห์ก็ดี..บาปอกุศลก็ดีปิดไว้ไม่ให้ผ่านเข้ามา..บังไว้ให้พ้นจากตัวเรา จะเห็นได้ว่าแม้พ่ออาจารย์ท่านใช้วิชาพระเจ้าบังกรรมนี้กับใครก็ตามเมื่อท่านพิจารณาแล้วว่าเขาไม่ผิดหรือยังไม่เหมาะแก่กาลเวลาถึงมีโทษานุโทษด้วยอาญาของแผ่นดินแต่ก็แคล้วคลาดหลุดรอดไปได้ทุกครั้ง หลายๆครั้งที่หลายๆคนไม่ว่าเจ้านาย หรือนักธุรกิจใหญ่ตลอดจนนักการเมืองหรือคนที่เกิดอาเพศกลัววาสนาหมด ทั้งหวาดสะดุ้งและกลัวภัยในวัฏสงสารด้วยวาระกรรมที่เกิดปรากฏลางร้ายนานัปการสามารถมีชีวิตแบบปรกติสุขมีชีวิตที่ไม่ล้มไม่สะดุดได้ก็เพราะพ่ออาจารย์ท่านใช้วิชานี้ ในหนนี้ท่านจึงได้นำวิชาพระเจ้าบังกรรมมาลงไว้พร้อมกับผงพุทธอโหสิกรรมเพื่อให้มีอานุภาพสงเคราะห์สูงสุดและเป็นการปิดตำนานวิชานี้อย่างแท้จริง ท่านว่าทำเยอะไปก็จะไม่ดีทำให้หนเดียววิชานี้ให้จบเท่านี้ใครเขามีวาสนามีบุญเกื้อหนุนกันเขาคว้าได้ก็จะคว้าเอาไว้เอง

พ่ออาจารย์ท่านได้กดพิมพ์องค์พระพร้อมกับใช้น้ำผุดคือน้ำทิพย์ที่ผุดขึ้นในเศียรพระเจ้าในพระพุทธบาทและสถานที่อาถรรพ์สำคัญต่างๆมานวดเนื้อพระตอนท่านผสมสูตรเพื่อจะกดพิมพ์

### นี่คือปฐมบทแห่งพระพิมพ์ แต่ด้วยพ่ออาจารย์ท่านล่วงรู้ว่าในภายหน้าคนจะเป็นหนี้สินล้นพ้นมือยากจะไถ่ถอนภาระตนในวาระนั้นท่านจึงได้นำมวลสารมาเข้ากับผงวิเศษสำคัญอีกชนิดหนึ่ง..สร้างพระเคลียร์ทาง..ปลดหนี้..ทวงหนี้ไว้ด้วย ท่านว่าชีวิตใครที่มัวแต่แก้ไขปัญหายิ่งแก้ก็ยิ่งมีปัญหาเพิ่ม พอเจอปัญหาก็แสวงหาแนวทางแก้กันไปพอแก้ไปก็ได้ดีแค่เสมอตัวสุดท้ายก็เจอปัญหาให้มานั่งแก้ใหม่อีกต้องแก้ไขซ้ำซากเป็นวงจรชีวิตไม่จบสิ้นซักที ต้องมานั่งกลุ้มนั่งแก้บ่อยๆเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดแค่เสมอตัวไม่ใช่แก้แล้วหักจบประสบโชคพบเจอชัยชนะและความสำเร็จเลยแบบชีวิตคนอื่นเขา ท่านว่าตรงนี้สำคัญมันจะแก้ได้อย่างไรก็เพราะทุกสิ่งนั้นเป็นกรรม ยิ่งแก้มีแต่ยิ่งวุ่นวายนอกจากใช้วิชาพุทธอโหสิกรรมนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าข้างบนเขาไม่ให้เราพูดมากเราบอกได้แค่ว่าเอาไปใช้เถิดอาราธนาท่านและคุณวิชาให้ดี ชีวิตเธอจะเหมือนมีเสด็จพระใหญ่ท่านเดินนำทางจูงมือเธอก้าวข้ามทางแห่งภพไปด้วยกันทีเดียวในหนทางอันทอดยาวนี้จะไม่โดดเดี่ยวหรือเดินผิดทางอีกต่อไป

พระพิมพ์ชุดผงเคลียร์ทาง,ปลดหนี้,ทวงหนี้
ด้วยพ่ออาจารย์ท่านเล็งเห็นว่าคนทำมาหากินทุกๆอาชีพช่วงนี้บ่นกันอุบว่าหาตังค์ยากลำบากนักหนา ลืมตาอ้าปากไม่ขึ้นหายใจไม่ออกเลยไม่ว่าจะคิดจะลองหรือกระดิกตัวไปทำมาหากินอะไรก็ติดขัดกันหมดขัดสนเงินทองจะอยู่จะกินก็ฝืดหาก็ไม่คล่องแล้ว เนื่องด้วยสภาวะพิษเศรษฐกิจที่ตกต่ำรุนแรงขึ้นหลายคนที่ทำธุรกิจไม่ค่อยเฟื่องฟูการงานไม่ก้าวหน้า,ไม่กระเตื้อง ยิ่งการเงินนี่ยิ่งไม่กระดิกเลย บางคนก็หาทางออกด้วยการกู้หนี้ยืมสินเขามาเลยกลายเป็นวัฏจักรของคนเป็นหนี้เพราะไม่สามารถชำระหรือปลดหนี้ได้ถาวรปัญหานี้จึงเหมือนเรื่องซ้ำเติมให้คนไร้ทางออกยิ่งขึ้นไปอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าในห้วงวัฏจักรนี้ไม่มีสิ่งใดหรืออะไรก็ดีจะยากเกินไปกว่าที่อำนาจพระพุทธานุภาจะบันดาลให้เป็นไปซ้ำเมื่อกุศลกรรมก่อเกิดกรรมให้คุณตอบสนอง ผลดีก็ย่อมประคับประคองชีวิตคนที่ล้มไปแล้วให้ลุกขึ้นมาโดยง่ายเมื่อเราใช้ทั้งพระพุทธานุภาพและกุศลกรรมเข้ามาเสริมส่งชีวิต ทั้งสองสิ่งนี้ย่อมอุดรอยรั่วและนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท่านว่านี่ถึงจะไปห้ามก็ห้ามไม่อยู่แล้วนะคนมันจะได้ดีจะเจริญใครก็ห้ามไม่อยู่มันแตกต่างกับชีวิตผีซ้ำด้ามพลอยในตอนแรกขนาดนั้น ท่านว่าในส่วนของการอาราธนาให้พระพุทธานุภาพสงเคราะห์ท่านจะขอครูพระพุทธทุกพระองค์อาราธนาให้ท่านช่วยกันทำให้เอง ส่วนในเรื่องกุศลกรรมอันนี้ก็เร่งประกอบกันให้ดีเถิดผลบุญนั้นเมื่อเจอกับพระพุทธานุภาพย่อมให้ผลแรงทันตาสำเร็จทันใจเช่นนี้

วิชานี้เป็นของครูพรหมเอาไว้ใช้เรียกเงินทองให้เหล่าคนที่ชีวิตมีปัญหา,ติดขัด,ฝืดเคือง จะได้มีของดีไว้บูชาให้พระพุทธานุภาพ,คุณเทพ,คุณพรหมได้สงเคราะห์ ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาดูดทรัพย์ทั้งยังเปลี่ยนโชคของคนได้ช่วยให้รับวาสนาเงินทองเปลี่ยนชีวิตให้รับแต่เงินแต่ทองต้องไปข้องเกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆหากแต่ไม่ไหลออกมีแต่ไหลเข้ามา นี่คือเกี่ยวโชค,ดูดลาภบันดาลให้ผลสำเร็จในชีวิตเกิดขึ้นโดยพลัน ท่านว่าพูดกันเข้าใจง่ายๆเลยก็คือรวยเร็วกว่าคนอื่นๆในแวดวงที่ทำมาหากินเหมือนกัน ท่านให้พ่ออาจารย์ท่านลบผงดูดทรัพย์,ผงหัวใจพระสิวลี,ผงทศชาติเงินไม่ขาด,ผงมหาเศรษฐี,ผงปลดหนี้,ผงวิชาเจ้าสัวใหญ่,ผงมหาลาภ,ผงมหาทรัพย์,ผงจับลาภจับเงินจับทอง,ผงดวงเศรษฐีใหญ่ ผงเหล่านี้พ่ออาจารย์ลบถมยันต์เองตามฤกษ์ยามมงคลปลุกเสกผงนี้อยู่นานถึงสองปีก่อนที่จะนำมาสร้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้แต่เดิมก็สำเร็จด้วยพระพุทธานุภาพอยู่แล้ว เมื่อนำมาสร้างพระพิมพ์ที่มีอาถรรพ์มากเช่นนี้จึงจะลงตัวมีคุณค่ามากพอที่จะอุดรอยรั่วปิดช่องโหว่ชีวิตคนได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาทำผงเหล่านี้เสด็จพระใหญ่ท่านมาเสกให้หลายรอบผงนี้จึงมีพุทธคุณมากแม้เพียงเศษผงก็เปลี่ยนชีวิตคนได้ฉันเคยเอามาใส่ซองพลาสติกให้คนลองพกดู ช่วงนั้นใครได้ผงไปก็ได้ดิบได้ดีมีอันจะกินกันถ้วนหน้าท่านจึงมั่นใจในอิทธิคุณผงวิเศษชุดนี้ท่านว่าใครใช้ก็ไม่เห็นจะลำบากเลยสักคนมีแต่บอกว่าสบายขึ้น บางคนบอกว่างานเยอะจนทำไม่ทันทำไม่ไหวที่ท้อถึงขนาดบอกว่าไม่ไหวแล้วเบื่อแล้วงานขนาดนี้ไม่มีเวลาให้พักเลยไม่เคยเจอะเคยเจอมาก่อนก็ยังเกิดขึ้นได้ คนที่ได้เลื่อนขั้นได้ก้าวหน้าก็มีอยู่มากท่านว่าหนนี้ท่านจึงใช้ผงชุดนี้เพื่อให้โอกาสคนที่ท้อถอยได้มีโอกาสเปิดดวงเข้าถึงโชคลาภแลสมบัติทั้งหลายจะได้จับได้ใช้โชคและลาภเหล่านั้น

"ใครเป็นหนี้จะได้หมดหนี้อยากได้ดิบได้ดีมีความเจริญ อยากให้งานที่ทำก้าวหน้าลงทุนอะไรได้กำไรไม่ขาดทุนชีวิตมั่งคั่งอยู่เป็นสุขจะนั่งจะนอนล้วนเป็นสุขไม่ทุกข์สาหัส พ่ออาจารย์ท่านว่าอยากเปิดดวงอยากปลดหนี้ก็ให้เอาผงชุดนี้ไปใช้แต่เมื่อใช้เมื่อถืออาราธนาแล้วต้องตั้งหน้าตั้งตาตั้งใจทำมาหากินด้วยนะ อย่าคร้านอย่าขี้เกียจเทวดาครูบาอาจารย์ท่านไม่ชอบถ้าคิดว่าใช้แล้วจะนั่งๆนอนๆไม่ทำอะไรเช่นนี้อย่าเอาไปเลย แต่ถ้าใครอยากงานเข้า..มีงานมาก..มีความก้าวหน้าในอาชีพนั่นแหละจึงจะควรอาราธนาให้สิ่งดีๆเข้ามาไม่ขาดไม่ช้าเลย"

ท่านว่าเป็นสุดยอดของผงให้เอาไปใช้ในทางมหาลาภ,โภคสมบัติ,ปลดหนี้ปลดสินอย่างแท้จริง ท่านจึงเอาผงเหล่านี้มาโขลกรวมกับผงที่เกิดจากพระธาตุของพระสีวลีพระอรหันต์ที่มีลาภหนักมากเป็นมวลสารหลัก จากนั้นจึงใช้ผงที่ให้คุณทางโภคทรัพย์ของครูบาอาจารย์ที่เคยมอบให้ท่านไว้และผงที่พระอรหันต์หรือเทวดาได้ทำไว้เพื่อรอโอกาสสงเคราะห์คนซึ่งท่านเจอตามถ้ำตามป่าเขาเอามาโขลกผสมรวมกัน *** ท่านว่าสูตรทำผงนี้ให้ลาภหนักมากเรื่องเอาไปแล้วจะใช้ปลดหนี้นั้นย่อมเป็นไปได้อย่างแน่นอน เพราะผงนี้อยู่ที่ไหนที่นั่นจะอุดมสมบูรณ์บริบูรณ์ถึงพร้อมด้วยปัจจัยสี่ได้โชค,ได้ลาภ,ได้ลาภลอย คนที่เคยใช้ที่เป็นหนี้สองเดือนปลดหนี้ได้แล้วก็มีชีวิตหมดหนี้หมดสินกันเลย พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจว่าอยากจะให้คนที่บูชาเป็นคนที่อุดมสมบูรณ์ทำอะไรไปทางไหนก็มีหนทาง มีคนหยิบยื่นน้ำใจและความช่วยเหลือมีเงินทองติดตัวสะสมทรัพย์ได้ มีฐานะมีอันจะกินเพิ่มพูนขึ้นตามลำดับขั้นให้หนี้สินบางเบามีทางทางออก ให้หนทางแห่งเหตุและที่มาของทรัพย์นั้นงอกเงยเก็บเงินอยู่ตลอดเวลาที่ยังเป็นสัมมาทิฏฐิยังไหว้พระยังนึกถึงพระพุทธเจ้าอยู่ผงอิทธิคุณนี้ย่อมช่วยได้ไม่มีประมาณ

ด้านหลังท่านลงตะกรุดตัวครูมหากวักบาตรสัมฤทธิ์ (ฝังไว้เป็นกรณีพิเศษ)
"ตะกรุดตัวนี้เป็นตะกรุดทิพย์นะ"
วิชาทำตะกรุดคุณพระมาโปรดนี่พ่ออาจารย์ท่านว่าลึกซึ้งอย่างมาก เพราะกว่าจะทำได้แต่ละแผ่นไม่ใช่แค่ลงจารแล้วเสกเท่านั้นก็จะเสร็จ หากแต่ยังมีเคล็ดต่างๆอีกมากที่ต้องทำให้ตรงตามครูสั่ง ท่านว่านอกครูไม่ได้เลยดังนั้นตะกรุดนี้จึงพูดได้แต่เพียงกว่ากว่าจะม้วนได้นั้นยากนัก ตะกรุดคุณพระมาโปรดนี้ทำได้ยากนักพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นของคุณพระ สมเด็จองค์ปฐมท่านให้พ่ออาจารย์ลงจารแผ่นทำสะสมไว้ด้วยอาศัยพุทธกิจที่ทรงบำเพ็ญอยู่ทั้งห้าอย่าง ซึ่งเป็นกิจวัตรหลักของพระพุทธเจ้าทุกองค์ที่ทรงทำอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืนให้เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ด้วยพระพุทธเจ้าทุกพระองค์นั้นทรงสำเร็จกิจส่วนพระองค์นั่นคือมีอัตตหิตประโยชน์หรือประโยชน์ของพระองค์เองเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ดีแล้วหลังจากบรรลุพระโพธิญาณตัดสิ้นอาสวะกิเลสให้หายขาดไป เช่นนั้นท่านจึงใส่ใจในประโยชน์ของชาวโลกเพื่อสร้างสันติสุขให้บังเกิดขึ้นกับโลกด้วยการนำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นจากทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน เช่นนี้จึงถือเป็นพุทธกิจที่พระองค์จะโปรดเวไนยสัตว์ทั้งหลายบางทีก็เสด็จโดยปกติแต่บางทีก็ทรงกระทำปาฏิหาริย์แตกต่างกันไปเพื่อเจริญศรัทธาแก่สาธุชนทั้งหลาย ด้วยพระพุทธเจ้าทุกพระองค์นั้นจะทรงใช้ทิพย์จักษุสอดส่องทั้งหมื่นโลกธาตุแผ่ข่ายพระญาณออกไปตรวจดูสรรพสัตว์ที่มีบุญญาธิการได้สร้างสมคุณงามความดีไว้ดีแล้ว ท่านจะดูว่ามีบุญมากพอที่จะบรรลุธรรมาภิสมัยหรือไม่อย่างไร หากมีวาสนาแล้วแม้อยู่ไกลเพียงใดแม้อยู่ต่างภพ,ภูมิหรือมิติพระองค์ก็จะเสด็จไปโปรดไม่เลือกย่อท้อต่อระยะทางไกลใกล้นั้นเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดคุณพระมาโปรดนี้ก็เช่นกันเป็นตะกรุดที่จะมีไว้ใช้กันเฉพาะผู้ที่ถูกเลือกสรรค์เท่านั้นให้คุณพระท่านโปรดท่านสงเคราะห์ให้มีโอกาสได้รับความสุขได้รับกุศลกรรมตอบแทนความยากลำบากไม่เลือกว่าจะเป็นวิธีธรรมดาหรือว่าได้มาโดยปาฏิหาริย์ ดั่งพุทธกิจแห่งองค์พระตถาคตเจ้าที่ต้องการจะช่วยเหลือทุกๆคนโดยไม่ย่อท้อ

พ่ออาจารย์ลงวิชาบาตรสัมฤทธิ์เอาไว้ท่านว่ามีวิชาบาตรนี้คิดทำสิ่งใดก็สัมฤทธิ์ผล ดั่งที่ทราบกันดีแล้วว่าบาตรนั้นเป็นของใช้ส่วนตัวสำหรับพระภิกษุและพระภิกษุทั้งหลายก็ได้รับการอบรมสืบต่อกันมาให้ดูแลรักษาบาตรที่ใช้นั้นเป็นอย่างดี เรียกว่าบาตรของตนก็ต้องรักษาให้ดีที่สุดด้วยคตินับแต่โบราณที่นิยมรักษาสืบทอดกันมาว่าพระหนึ่งรูปจะมีบาตรได้เพียงหนึ่งใบเท่านั้น
ดังนั้นวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้จึงเป็นวิชาเปิดบาตรเปิดทางความอุดมสมบูรณ์ทั้งทรัพย์สินเงินทองสิ่งก่อสร้างทั้งหลายให้พรั่งพร้อมด้วยจตุปัจจัย ดุจได้รับลาภสักการะมากมายทั้งจากมนุษย์และเทวดาไม่รู้จบสิ้นทั้งการบิณฑบาตรนี้ก็เป็นทั้งพุทธประเพณีที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงทำสืบทอดกันมาตลอดแม้ในพระภิกษุก็รับประเพณีนี้สืบต่อกันมา สมเด็จองค์ปฐมท่านจึงแนะนำพ่ออาจารย์ว่า "บาตรนั้นเป็นเครื่องมือสำหรับโปรดสัตว์วิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้ก็เช่นกัน เป็นวิชาที่จะใช้โปรดสัตว์ทั้งหลายให้แปรเปลี่ยนไปสู่หนทางที่ดี" แม้ในบางบุคคลที่มีกรรมอันแก้ได้ยาก..มีกรรมหนักอันรุนแรง ท่านว่าคนเหล่านี้ก็ต้องอาศัยวิชาบาตรสัมฤทธิ์ช่วยแก้ไขด้วยบาตรนั้นใช้โปรดเวไนยสัตว์ ดังนั้นสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายเมื่อมาอยู่ในบาตรนี้ย่อมแปรเปลี่ยนเป็นของดีทั้งสิ้น ใครที่ชีวิตมีเรื่องรบกวนรุมเร้ามากก็ให้อธิษฐานเอาเรื่องและความกังวลทั้งหลายใส่ลงในวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี่เสียท่านว่าสิ่งที่ไม่ดีคุณพระท่านก็เปลี่ยนให้ดีได้แม้พกเอาไว้เฉยๆก็ยังแก้ชงเปลี่ยนปัญหาชีวิตให้เจอแต่ความสุขได้

ทั้งวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้ยังช่วยแก้ไขแม้แต่อาถรรพ์ต่างๆทั้งในตัวเองและรอบๆตัวได้ ท่านว่าไม่เพียงแต่แก้อาถรรพ์แก้ชงเท่านั้นต่อให้ใครถูกผีเข้าเจ้าสิงเอาตะกรุดนี้ไปสวมคอเถิดดุจเธอเอาบาตรสัมฤทธิ์ไปครอบหัวเขาอย่างนั้น ดังนั้นนี่จึงเป็นวิชาแก้ปมอาถรรพ์ทุกสิ่งในทางกลับกันตัวเธอที่สวมตะกรุดนี้ก็จะมีกำลังใจสูงขึ้นนั่นเพราะอะไร *** พ่ออาจารย์ท่านว่าคนมีไหวพริบเขาจะรู้ทันทีว่าเวลาแรงครูประสิทธิ์ประสาทชัยมงคลนั้นเป็นอย่างไร เพราะวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้หากเธอนำมาคล้องคอก็เท่ากับว่าเธอเอาบาตรครอบหัวดุจครอบครูอยู่ตลอดเวลาเช่นนั้น ด้วยบาตรเป็นสิ่งที่ใช้รับความอุดมสมบูรณ์ทั้งหลาย เป็นสิ่งที่พระใช้ฉันกันทั้งเช้าทั้งเพลเช่นนั้นจึงถือว่าเป็นสุดยอดโภคทรัพย์ชักนำให้แรงครูหนุนเป็นมหาเศรษฐี ดุจดั่งชีวิตของพระที่ทั้งชีวิตมีบาตรเพียงใบเดียวตั้งแต่บวชจนมรณะภาพก็ใช้เพียงบาตรนั้นเลี้ยงชีพ ใส่ทั้งข้าวปลาอาหารใส่ทั้งปัจจัยต่างๆใส่สารพัดตลอดชีวิตก็ไม่เคยเต็มซักที สมเด็จองค์ปฐมท่านว่าวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้ดุจเสกบาตรแห่งพระตถาคตเจ้ามีคุณอนันต์ดุจว่าบาตรใบเดียวใช้เลี้ยงได้ทั้งวัด เช่นนั้นเรื่องอื่นจึงนับไม่เป็นอันใด พ่ออาจารย์ท่านว่าลำพังชีวิตเราครอบครัวเราใช้เพียงวิชาบาตรนี้ก้หาเลี้ยงได้บริบูรณ์ทั้งสิ้น

วิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้ดีอย่างไรวิเศษแค่ไหนพ่ออาจารย์ท่านว่าหากไม่มีบาตรความอุดมสมบูรณ์และโภคทรัพย์ต่างๆย่อมไม่ต่างจากสิ่งว่างเปล่าเพราะไม่มีสิ่งใดจะมีฤทธิ์มารองรับสิ่งเหล่านี้ได้ดีกว่าวิชาบาตรสัมฤทธิ์ ไม่มีบาตรทุกสิ่งย่อมคว่ำตกหกคะเมนสูญหายไปในอากาศ เช่นนั้นวิชานี้จึงวิเศษทางโปรดสัตว์,โปรดชีวิต เป็นตัวช่วยชั้นครูที่จะหนุนเราโปรดเราให้มีกินมีใช้ไม่รู้จบสิ้น โปรดให้เกิดโภคทรัพย์มหาศาลดั่งปาฏิหาริย์ที่ได้รับจากการสร้างกุศลกรรม..ทั้งเรียกหา..ทั้งเร่งให้มา..ทั้งรองรับความพรั่งพร้อมในจตุปัจจัยทั้งหลายมากมายสุดจะประมาณดั่งบาตรสัมฤทธิ์ที่เลี้ยงคนได้ทั้งชีวิตแม้ใส่เท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็มเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหลักๆนะพูดสั้นๆเลยคือเหลือกินเหลือใช้ ตะกรุดรุ่นนี้ที่ว่าทำยากเพราะพ่ออาจารย์ท่านทำคนเดียวไม่ได้ด้วยสมเด็จองค์ปฐมท่านให้เคล็ดและวิธีการสร้างนอกจากการลงจารคาถาวิธีกำหนดจิตต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าพอรู้ปุ๊ปก็รู้เลยว่าตะกรุดแบบนี้ท่านกะจะให้ทำครั้งเดียวแน่ๆเพราะกว่าจะได้แต่ละดอกนั้นไม่ง่ายเลย ฉันต้องลงจารและเสกแผ่นตะกรุดจนสำเร็จก่อนจากนั้นก็ให้พระที่มาเรียนวิชาฝากท่านไป บอกว่าทุกเช้าให้เอาแผ่นยันต์พระคาถานี้หนึ่งแผ่นใส่ไว้ก้นบาตรก่อนออกไปบิณฑบาตร ให้ทำเช่นนี้เรื่อยๆไปวันละแผ่นและต้องทำทุกแผ่นเป็นเคล็ดที่ว่าพระออกบิณฑบาตรนั้นคือการโปรดสัตว์ท่านว่าตะกรุดนี้อยู่ในบาตรก็เช่นกัน นั่นคือออกไปโปรดสัตว์จริงๆพอพระเปิดบาตรทีก็ได้อาหารบิณฑบาตรทันทีพ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือการโปรดสัตว์เปิดทางโชคลาภต้องทำอยู่เป็นเดือนวันละแผ่นกว่าจะได้ครบ ท่านที่มาเรียนยังพูดติดตลกว่าไม่รู้ครึ้มอกครึ้มใจอะไรเอาแผ่นยันต์ของพ่อครูรองก้นบาตรญาติโยมใส่กันพูนบาตรเต็มย่ามทุกวัน แม้แต่รถที่ขับผ่านไปแล้วยังจอดลงมาใส่แถมได้ถังสังฆทานมาอีกวันละใบสองใบเป็นเช่นนี้อยู่ทั้งเดือน ท่านว่าต้องรีบบิณรีบกลับวัดเพราะไม่มีมือจะหิ้วเดินออกไปนิดเดียวก็เต็มแล้ว นอกจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแค่โปรดสัตว์รับบาตรนั้นยังใช้ไม่ได้เพราะกว่าจะสำเร็จได้ม้วนตะกรุดกันนั้น สมเด็จองค์ปฐมท่านให้ทำตามเคล็ดของท่านทุกอย่างทีเดียวเราก็ขอให้พระรูปเดิมท่านช่วยเอาแผ่นยันต์นี้อีกหนหนึ่งไปวางไว้ใต้ผ้ารับประเคน ท่านว่ากางผ้ารับประเคนแล้วสอดแผ่นยันต์นี้ไว้ด้านใต้ให้ทำเช่นนี้วันละแผ่นเวียนไปจนครบแม้ตัวท่านไม่อยู่หน้ากุฏิก็ยังวางทิ้งไว้เช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าคุณพระรูปนั้นท่านดีใจใหญ่เลยท่านว่าพ่อครูทำยันต์อะไรสอนผมบ้างเพราะพอสอดแผ่นยันต์ไว้ใต้ผ้าวันๆนึงเหมือนเรามีเครื่องเรียกลาภสักการะเลย ขนาดตัวผมไม่อยู่วางผ้ารับประเคนไว้เฉยๆกลับมาเห็นยังมีปัจจัยวางไว้บ้าง,มีน้ำปานะบ้าง ท่านว่ามีแม้แต่เครื่องชงกาแฟไม่รู้ว่าใครเขาแห่กันเอามาถวายได้ทุกวัน บางวันคิดๆว่าเราขาดสิ่งใดอยู่ดีๆก็มีคนเอามาให้เป็นแบบนี้อยู่ทั้งเดือนปกติพระไม่อยู่โยมเขาก็กลับแต่ตั้งแต่วางแผ่นยันต์ไว้ใต้ผ้ารับประเคนก็เจอแต่เรื่องแปลกๆทุกวันเต็มไปหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าผ้ารับประเคนนี้เป็นเคล็ดที่เสด็จพระใหญ่ท่านให้ทำเพราะเป็นผ้าที่มีไว้แต่รับอย่างเดียว..รับ..รับ..รับและรับเข้าไม่มีไหลออก แม้ตัวเราอยู่เฉยๆกับที่ก็มีคนถ่อมาหา ถ่อมาให้เรารับมาประเคนให้ถึงมือมอบให้ถึงที่ เช่นนั้นวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้สมเด็จองค์ปฐมท่านจึงเจาะจงให้ทำอาถรรพ์กับผ้ารับประเคนทีละแผ่น ดุจวิชานี้เป็นสายใยที่จะเชื่อมชีวิตเข้ากับสมบัติต่างๆให้ความปรารถนาให้ทรัพย์สินและปัจจัยสี่ที่ต้องการวิ่งเข้ามาหาเราเอง ให้เราได้สิ่งที่อยากได้อย่างสะดวกสบายจะมีคนมาหามีทางมาให้เดินเป็นที่มาของการเพิ่มพูนความสุขตลอดไป

พระเคลียร์ทางปลดหนี้ชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากที่สุดเพราะต้องใช้ผงเฉพาะทางและตะกรุดที่กันอาถรรพ์คนจะเป็นหนี้ได้ทุกอย่างมาประกอบกันท่านทำเก็บไว้มานานและเปิดให้บูชาเพียงหนเดียวเท่านั้น

### ท่านว่าถ้าหนี้สาหัสรีบเร่งชักจูงดึงกลับหนึ่งองค์ต่อหนึ่งเรื่อง(ใครก่อร่างสร้างภาระไว้เยอะก็ต้องใช้หลายองค์หน่อยจะไวมาก เอาพระวางทับชื่อลูกหนี้ไว้)

### หากไม่มีหนี้สินใดๆอาราธนาห้อยคอตนได้จะประเสริฐทางลาภผลชีวิตต่อไปจะไม่เป็นหนี้ใครอีกตลอดชาติ

### ถ้าได้เลี่ยมให้คนในครอบครัวใส่ครบทุกคน พ่ออาจารย์ท่านว่าตัดปัญหาตามล้างตามเช็ดกันไปอีกทางหนึ่ง เพราะบางทีหนี้เราไม่ได้ก่อแต่คนรอบข้างก็สร้างมาให้เรา

### พ่ออาจารย์ท่านให้เปิดบูชาชุดนี้เพียงหนเดียวเท่านั้น..ท่านว่าคนที่เขามองการไกลมีปัญญามากเขาจะรู้ค่าและตั้งใจเก็บพระชุดนี้ไว้เพื่อตัวเองและคนในครอบครัวเขา

คาถาบูชา
อิเมเสถะพุทธจิตตัง มนุสสะจิตติสัญญาปะ อาทะยันตามะขิละปัถวีพุทธายะ ปะระยัตตังตุกาทาสุราเมมะริยะจี ขอเดชเดชะปฐมพุทธานุภาพดับสังวัฏฏิสงสาร ดับสารพัดทุกข์ โรคหายดับ เคราะห์หายดับ เสนียดจัญไรหายไป หนีสงสาร ข้ามสงสารด้วยมหาพุทธานุภาพ ทุกโขทุกขังวินาสสะยันติ ปฐมพุทธังอานุภาเวนะชัยยะมังคะลัง ปฐมพุทธะเมตตา สะทะปะโต อโหสิ อโหสิ อโหสิ สวาหะ

*** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง Pm เท่านั้น ท่านว่าถ้ารักตัวเองก็มานำไปใช้ หรือถ้าห่วงคนในครอบครัวไม่อยากเจอภาระที่ไม่ทันตั้งตัวก็เอาไปให้ครบทีเดียว เพราะของแบบนี้สร้างยากและไม่มีวาระทำอีกแน่นอนหากไม่ใช่ของเก่าที่ทำๆไว้เช่นนี้ก็เลิกพูดกัน

ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าบังกรรมวาสนานำพาข้ามโอฆะสงสาร(ชุดเคลียร์หนี้สิน,พระแก้จนปลดหนี้) บูชา 900 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...พร-พ่ออาจารย์พล.539894/page-557#post-11664304

 

ร่วมทำบุญบูชา สี "พึ่ง" บุญศักดิ์สิทธิ์หมื่นฟ้ามหาบัญชาเพชรพระสยม("ฟัน"ชะตาชีวิตเทพสมิงสั่งฟ้า)

ฟันชะตาชีวิต
ด้วยวิชาชาพยัคฆ์นั้นย่อมนำมาซึ่งอำนาจราชศักดิ์ทำให้ฝูงชนคร้ามเกรงทำให้ชนทั้งหลายนับหน้าถือตา ในขณะเดียวกันหากอาราธนาไปทิศทางใดย่อมอยู่รอดปลอดภัยแม้จะเดินทางใกล้ไกลไม่ว่าจะเหยียบดินลงน้ำเข้าป่าดง พ่ออาจารย์ท่านว่าคนก็ดี..ฝูงสัตว์ก็ดี..ภูติผีก็ดี..จะไม่มีความกล้าทำอันตรายแก่เราเลย

การเสกเขี้ยวเทพสมิงหรือฝันของเทพสมิงก็ดีพ่ออาจารย์ท่านว่าย่อมใช้ได้ไม่ต่างกันจากเขี้ยวเสือกลวง สมัยหลวงพ่อปานท่านยังอยู่ท่านไม่ใช่จะเอาแต่เขี้ยวมาแกะมาลงแม้แต่ฟันเสือท่านก็ไม่ได้ทิ้งสามารถทำวิชาได้เสมอกัน แต่การเสกนั้นจะเสกรวมเช่นตะกรุดหรือทำวิชารวมแบบสิ่งอื่นไม่ได้ทั้งเขี้ยวทั้งฟันนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเสกต้องทำทีละชิ้นเสียก่อนห้ามเสกรวมจึงจะได้จิตวิญญาณสมิงเทพที่ทรงพลังสง่างามรุนแรง,มีกำลังมาก,เปี่ยมอานุภาพดุดันอย่างแท้จริง..ควรค่าและคู่ควรเป็นของใช้ในบารมีผู้ถือครอง พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันทั้งเสกเองทั้งเชิญกายทิพย์ครูสายเสือตั้งแต่ครูพระสยม..ท้าวหิมวัต..พระฤาษีกาลสิทธิ์..จ้าวสมิงไพร..ปู่เจ้าสมิงพราย..หลวงปู่ปาน..หลวงพ่อนก..หลวงปู่สาย..หลวงพ่อวงศ์..ลงมาช่วยกันเสกทีละชิ้นๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเสกกันจนเห็นเสือตัวมหึมาทรงพลังนัยน์ตาน่าเกรงขามยืนจ้องหน้าจึงใช้ได้ แล้วฟันเทพสมิงนี้ดีอย่างไร
- มีอำนาจในการปกป้องคุ้มกันภัยทั้งปวงสูงมากๆเกินเครื่องรางธรรมดาสามัญใด
- จะปลุกความห้าวหาญ,ฮึกเหิม,ความเก่งฉกาจในตัวเจ้าของออกมา
- สามารถดัก..จับ..กลืนกิน..ขย้ำ..เสพย์วิญญาณร้ายรอบตัวเราได้
- ป้องกันสิ่งไม่ดี..ของต่ำ..ของชั่วร้าย..ของจัญไรทั้งหลายที่พุ่งเข้าหาตัวเรา
- ปกป้องเราให้แคล้วคลาดจากอำนาจสิ่งเร้นลับ

พ่ออาจารย์ท่านว่าเก่งเอาเรื่องทีเดียวการทำวิชาลงเขี้ยวลงฟันเสือนี่มันต่างจากการทำตะกรุดไปไกล เพราะเทพสมิงที่อุบัติขึ้นมาจะอยู่ใต้อาณัติผู้เป็นนายอย่างแท้จริง ไม่ใช่การสะกดดวงวิญญาณเขาเอามาใช้เอามากักขังเป็นบริวาร หากแต่เป็นยอดของบริวารที่เกิดขึ้นด้วยการชุบให้มีบุญฤทธิ์..มีญาณสัมผัสพร้อมพลังอำนาจอันสามารถล่วงรู้ได้ถึงภัยอันตรายที่คอยเบียดเบียนรอบตัวผู้เป็นนาย..พ่ออาจารย์ท่านว่าปัญหาร้อยแปดใดในชีวิตเธอเทพสมิงนั้นกุมอยู่หมด..เอาการเอางานมากทีเดียว

เวลาไปไหนให้เธอเรียกเขาไปด้วย..แต่ถึงแม้จะไม่เรียกเขาก็ไปชนิดที่ตามติดเป็นเงาตามตัว เราไปไหนเขาอยู่นั่นเดินตามเราเสมือนเงาพิทักษ์ จะไม่แปลกใจเลยชีวิตใครที่เคยร้อน..เคยร้าย..เคยตกต่ำหากทุกเรื่องจะเงียบหายไปเป็นปลิดทิ้งยิ่งเรื่องเลวร้ายที่เกิดจากภูติผีวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรหรือสิ่งไม่ดีทั้งหลาย..พ่ออาจารย์ท่านว่าจะไม่เงียบได้อย่างไรแค่เข้าใกล้เขายังไม่กล้าเลยแบบนี้เราเรียกว่า.."เกรงบารมี" ถ้าใครตาดีนี่จะมองเห็นเลยว่าเดินออกไปไหนเขาก็เดินตามแม้อยู่นิ่งพักอยู่บ้านเฉยๆเขาก็จะเดินต้วมเตี้ยมวนอยู่แบบนั้นดุจคอยรับคำสั่งเราเป็นราชันพยัคฆ์ที่จะไม่ขัดคำสั่งเราเลย
*** แม้เมื่อเราออกคำสั่งทุกครั้งเพียงส่งจิตนึกถึงออกไปต่อให้ฟันนี้วางอยู่คนละที่(ไม่ได้พกไปด้วย) เพียงจิตเราคิดนึกถึงพญาสมิงเขาก็จะมาทันที

ฟันเทพสมิงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันทำให้ตรงตำราที่สุดคือใช้ฟันหรือเขี้ยวของเสือสมิงมาชุบโดยตรงจึงจะมีฤทธิ์มากที่สุดเป็นการอุบัติจิตเทพสมิงไม่ได้เหมือนกับกุมารทองที่เราต้องคอยดูแลแต่เกิดขึ้นจากการชุบด้วยฤทธิ์ของกายทิพย์ที่ชำนาญวิชาสาขานี้โดยเฉพาะ เรียกว่ามีร่างเป็นกายสิทธิ์ไม่มีวันตายไม่อยู่ในบัญชีเวียนว่ายตายเกิดจึงไม่ต้องไปรอเกิดใหม่ ทีนี้เราจะทำบุญให้เขาหรือไม่เลี้ยงดูเขาก็ได้สุดแล้วแต่ตัวเราเลยเพราะเขาถือศีลบำเพ็ญตบะกินลมเป็นอาหาร..เขาช่วยเหลือเราเป็นการสร้างบารมีของตัวเขาในขณะที่หน้าที่เราก็คือการสร้างบารมีของตัวเองให้เต็มเท่านี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้ทั้งภูติผีปีศาจคุณผีคุณคนที่เกิดจากพวกลองถูกลองผิดเล่นกันมันมีอยู่รอบตัวเราในทุกสังคมสิ่งเร้นลับนั้นมีอยู่เต็มไปหมดการที่เทพสมิงคอยดูแลล้อมกรอบคุ้มเกรงเราก็อุ่นใจไปได้ชั่วชีวิต

### เทพสมิงฉันไปกับเธอทุกที่ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนถ้าเธอนั่งรถเค้าก้กระโดดไปนอนบนหลังคารถ ถ้าเธอไปพักอ้างแรมถิ่นใดเขาก็อยู่ใกล้ๆในระยะสายตาเธอทั้งนั้นดุจมีสมิงเทพนอนหมอบอยู่ข้างกายอุบาทว์จัญไรผีร้ายเจ้ากรรมนายเวรใดจะกล้าแส่เข้ามายุ่ง(ถ้ากันเจ้ากรรมนายเวรนี่ต้องพกตลอดนะ..หากเอาไว้ไกลตัวสบช่องเขาก็เล่นเราเหมือนเดิม..ทางที่ดีพกพาแล้วทำบุญให้หนักเขาจะได้ไม่มีช่องทำอันตรายแก่เรา) ที่ไหนที่ขึ้นชื่อว่าอาถรรพ์ร้ายจะโดนสยบจนเงียบสงบไปยามเราอยู่ตรงนั้นเพราะเสือเทพนี้จะเฝ้าเจ้านายไม่คลาดสายตาด้วยประสาทสัมผัสเขาทีเดียว

ฟันชะตาชีวิต..เทพสมิง เป็นยอดวัตถุอาถรรพ์ แรงแค่ไหนพกไปเดี๋ยวก็รู้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของกายสิทธิ์กลวงโปร่งทุกซีก..ย้ำว่าตัวฟันเป็นกายสิทธิ์ดุจดวงแก้วมณีจินดาเสมอด้วยเขี้ยวเสือกลวงเป็นวัตถุอาถรรพ์แต่ไม่ใช่เสือผีหรือเสือปีศาจแบบนั้น เพราะท่านไม่ได้เอาวิญญาณเขามากักขังหรือใช้งานหากแต่ชุบและสร้างขึ้นใหม่ เขาจึงมีหน้าที่คอยรับคำสั่งเราอย่างเดียวเหมือนโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาให้เราใช้งานโดยเฉพาะหากได้ยินเสียงร้องหรือคำรามบ้างก็ไม่ต้องตกใจให้คิดซะว่าเขาหยอกเล่นดั่งแมวตัวใหญ่ตัวนึงที่คอยพิทักษ์ข้างกายเรา ไม่ต้องกลัวว่าจะไปกวนใครไปหยอกใครไปทำร้ายใครเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่มีเพราะเขาเกิดขึ้นมาเพื่อรับคำสั่งเพียงเจ้านายและจะอยู่ข้างเจ้านายไปตลอดเท่านั้น ..มีเพียงเจ้าของที่เขารับเป็นนายจะสัมผัสและบัญชาเขาได้คนอื่นนั้นไม่มีทางเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าของแบบนี้ควรมีติดตัวไว้ด้วยสังคมปัจจุบันที่การแข่งขันสูงใช้วิธีสกปรกก็มากสิ่งอัปมงคลในเมืองยังมากกว่าในป่าเขา..สิ่งอัปมงคลเหล่านี้จะได้ไม่กล้ามาลองดีตัวเรา อย่าไปคิดว่าเป็นของเสือที่ตายแล้วจะดูน่ากลัวหากแต่มันตายตรงตามตำราไม่ได้โดนฆ่าด้วยมนุษย์ทั้งยังเป็นของวิเศษมีคุณดุจแก้วสารพัดนึกควรจะแสวงหาไว้ติดตัวด้วยมีพลังงานสูงมากๆจึงทำให้เทพสมิงที่ชุบจากฟันชะตาเสือสมิงของจริงนั้นมีสัมผัสที่เร็วกับจิตเรามากๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาสมารถตอบรับเราได้ทันทีในหลักวินาทีเท่านั้น

เช่นนั้นฟันชะตาชีวิตของเสือสมิงจึงเป็นของมากบารมีที่คู่ควรกับคนมากบารมีอันจะอบรมสั่งสมบ่มเพาะไปบนวิถีทางชะตาแห่งราชันพยัคฆ์เช่นกัน มีอานุภาพวิเศษในการสะกดข่มสรรพชีวิตทั้งหลายด้วยตบะเสืออย่างถึงที่สุด ด้วยเสือแต่ละตัวนั้นมีอำนาจตบะไม่เท่ากันแต่เสือที่ฝึกตนมาถึงขั้นสมิงเขาจะมีอำนาจตบะแรงกล้ากว่าเสือทั้งหมด ด้วยตบะเสือนี้แม้จ้องตาเหยื่อเมื่อใดสัตว์ทั้งหลายก็จะขาอ่อนถูกตรึงถูกสะกดไว้หนีไปไหนไม่ได้ต้องยอมถูกล่ากลายเป็นอาหารอยู่ในขณะนั้นเอง ฟันสมิงนี้เป็นพลังงานชั้นยอดที่ใช้ฉีก..กัด..กระชากผ่านการล่าและสะกดสัตว์มาแล้วทั่วป่ามีคุณสูงกว่าเสือทั่วไป ของวิเศษแบบนี้มีอยู่น้อยนักในโลกเมื่อปรากฏขึ้นแล้วเค้าจะเลือกเจ้าของด้วยตัวเอง..คนที่จองเข้ามาพ่ออาจารย์ท่านว่าจงดีใจ "และจงภูมิใจเสียเถิด..ด้วยเสือเขาเลือกยาย..ไม่มีบุญสัมพันธ์ก็ไม่ได้เอาไปแต่แรก" ของแบบนี้มีเงินก็หาใหม่ได้ต้องใช้บุญจึงทำให้มาเจอมาอุปถัมภ์กัน..นั่นแหละเธอได้พบกับเสือคู่บารมีของเธอแล้ว แต่อย่าเผลอไปจับพลังอะไรเชียวเพราะพลังมันมากเกินไปเดี๋ยวพลังตีกลับคนจับจะแย่..ตีกลับน้อยก็ดีไป..ตีกลับมากจะเป็นลมเสียสติเอาง่ายๆ

ราชาพยัคฆ์ไม้รักดงเสือ
พ่ออาจารย์ท่านใช้กิ่งไม้รักที่ชี้ในทิศตะวันออกอันขึ้นอยู่ในดงเสือมาแกะเป็นรูปเสือนักล่านอนกินฝังไว้ในตลับสีผึ้งด้วย ท่านเรียกว่า "ราชาพยัคฆ์ไม้รักดงเสือ" เป็นเคล็ดว่าจะให้กำเนิดจิตวิญญาณพยัคฆ์ที่รักความองอาจ..รักเกียรติดังชีวิตตน..และรักผู้เป็นนายเทียบเท่ากับชีวิตตนเช่นกัน..สร้างอาถรรพ์ให้จิตพยัคฆ์หวงถิ่น..รักถิ่น..รักนาย พ่ออาจารย์ท่านมักพูดหยอกมากกว่าว่าเสือของฉันมันมีตัวมีตนเป็นราชาพยัคฆ์ทำเล่นๆแค่ให้คนใช้ขอไปทีไม่ได้ เพราะเป็นตัวล่าเหยื่อออกตระเวนหาเหยื่อทุกท้องที่ต้องตื่นตัวพร้อมล่าตลอดเวลา

ราชาพยัคฆ์นั้นจะส่งเสริมสิริมงคลให้เจริญด้วยยศถาบรรดาศักดิ์โชคลาภหลั่งไหลทำมาค้าขึ้นดีเป็นมหาอำนาจแคล้วคลาดปลอดภัย แก้ดวงตกเสริมดวงโชคชะตาให้รุ่งโรจน์แม้ได้บูชาจะมีอำนาจมากนักเปี่ยมด้วยตบะเดชะ เป็นมหาปราบกำราบสิ่งชั่วร้ายได้สิ้นสิ่งลึกลับต่างๆทั้งภูติผีแลคุณไสยสิบสองชาติภาษาย่อมไม่สามารถทำอะไรได้เลย เป็นทั้งเมตตามหาเสน่ห์มีอำนาจในการสะกดใจคนกันรังควานปัดเสนียดการกลั่นแกล้งทุกประการ...นอกจากคุณวิเศษเพิ่มเติมจากเสือปกติยังเป็นวิชาเอกที่เอาไว้ล่าช่วยให้ชีวิตคนใช้เปลี่ยนแปลงไปด้วย "ปกติชีวิตคนนั้นจะนั่งรอเหยื่อรองานรอความสำเร็จวิ่งเข้ามาหา พ่ออาจารย์ท่านว่าคนประเภทนี้มันขยันรอแต่โชคก็ไม่ได้ขยันเข้ามาเป็นสิ่งสวนทางกัน ตรงกันข้ามกับคนอีกประเภทหนึ่งนั่นคือขยันตัวเป็นเกลียวทำทุกอย่างไม่หยุดนิ่งรออยู่เฉยๆแต่ก็ทำอะไรไม่สำเร็จซักอย่าง คนทั้งสองนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพฤติการณ์ต่างกันแต่ปลายทางเท่ากันนั่นคือความล้มเหลว" พ่ออาจารย์ท่านว่าเสือนั้นมีหลายประเภทมีทั้งราชาของเหล่าจ่าฝูง..เสือตัวจ่าฝูง..เสือลูกฝูง เสือทั้งหลายนั้นล้วนมีอำนาจและคุณลักษณะต่างกันบางประเภทก็นอนรออาหาร,บางประเภทก็ออกล่าเหยื่อ แต่เสือตัวนี้ท่านทำให้แก้วิกฤติปากท้องและการใช้ชีวิตของคนให้เป็นกรณีพิเศษเพราะท่านจำเพาะทำเป็นเสือล่าเหยื่อนั่นเอง เสือล่าเหยื่อคือตัวตนของความยิ่งใหญ่ที่ไม่หยุดนิ่งเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆพร้อมกับชัยชนะและความสำเร็จที่มากขึ้น..กวาดไปทั้งป่าล่าไปทั้งโลก เสือของท่านเป็นเสือที่ไม่อยู่เฉยเพราะเขาจะเที่ยวติดตามแสวงหาจนกว่าจะได้ชัยชนะ แม้จุดหมายยิ่งใหญ่ปานใดก็โดนสะกดให้ล้มลงให้แตกพ่ายตั้งแต่ยังไม่เริ่มเพราะนี่คือการล่าของราชาพยัคฆ์ อันที่จริงท่านว่าวิชาเสือนั้นมีหลายตัวหลายประเภทแต่เสือนักล่านี้ครูบาอาจารย์ท่านจะไม่นิยมทำกัน เพราะท่านเกรงว่าหากเอาไปใช้ตกถึงมือเสือมือโจรมือคนเห็นแก่ได้คนเหล่านั้นจะยิ่งกว่าเสือติดปีกล่าไปทั่วล่าไม่ถอยล่าไม่เห็นตัวและไม่มีใครทำอันตรายพวกมันได้ ดังนั้นแต่อดีตบูรพาจารย์จึงไม่ค่อยลงเสือตัวล่ากันนัก

ปัจจุบันนั้นยุคสมัยมันเปลี่ยนแปลงไปหมดยุคของเสือของโจรถึงยุคที่คนใช้ชีวิตกันยากขึ้น ลำบากขึ้นแล้ว ท่านพิจารณาเห็นพรรณคุณพิเศษของเสือตัวล่านี้เหมาะและเข้ากับยุคสมัยอันว่าคนที่ใช้แม้เสมอตัวแค่พกอาราธนาด้วยนิสัยแต่ละบุคคลเกิดมามิได้เสมอกัน
- หากเป็นคนประเภทอยู่นิ่งๆไม่ทำอะไรรอแต่ความสบายวิ่งเข้ามาให้ถึงปากอานุภาพของเสือตัวล่าก็จะล่าและทำให้สิ่งต่างๆสำเร็จได้ไวขึ้น
- แต่หากบุคคลนั้นมีอุปนิสัยในการแสวงหามีจิตใจที่อยากจะยิ่งใหญ่ อยากจะพัฒนาตัวเองขึ้นไปไม่ติดอยู่ในวังวนและสถานที่เดิมๆ อานุภาพของเสือตัวล่านั้นจะผสานเข้ากับอุปนิสัยและการใช้ชีวิตของผู้บูชานี่เองที่ท่านเรียกว่าจะดีแบบเสือติดปีกเพราะทำอะไรล่าอะไรก็ได้ไปหมด
เสือแบบนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเรียกอาการยากกว่าเสือทั่วไปซ้ำยังเสกให้สำเร็จยิ่งยาก ท่านทำมานานหลายปีลงวิชาเสือไว้ครบถ้วนโดยไม่บอกใครใช้ได้สารพัดดุจแก้ววิเศษมีคุณรอบด้าน จะใช้ล่าอะไร..อะไรที่เป็นความสำเร็จเป็นทางที่เราอยากจะเดินไปให้ถึงย่อมใช้ได้ทั้งสิ้น..ทั้งล่างาน..ล่าผลงาน..ล่าสาว..ล่าความรัก..ล่าเกียรติยศ..ล่าโชค..ล่าวาสนา ท่านว่าขอให้ใจอยากล่าไม่ว่าเรื่องใดย่อมใช้ได้ทั้งสิ้น เสือตัวนี้พกไว้ต่อไปใครเป็นเหยื่อเป็นศัตรูเราจะได้สะกดมันให้อ่อนน้อมยอมพลีกายพลีตนเป็นอาหารเป็นทางเดินให้กับเราเสียให้หมด

พ่ออาจารย์ท่านได้เป่าเสกมนต์หัวใจเสือสามจำพวก ว่ามนต์ตวาดหิมพานต์เป่ากำกับไว้ที่ปากสมิงดุจว่าอำนาจเสือสะกดได้ทั้งเมืองปราบได้ทั้งป่าเพียงแค่เสียงตวาดคำรามก็ทำให้สัตว์ทั้งหลายสูญสติไปเสียสิ้น ทั้งทำวิชาเสือขย้ำเหยื่อเรียกอาการไว้ที่ฝ่าเท้าแลกรงเล็บ เสือตัวนี้เป็นของสูงปราบปรามได้แม้แต่เทวดาและอสูรทุกภพภูมิท่านเสกในป่าจนป่าลั่นได้ยินเสียงเสือคำรามทั้งสาปเสือเดินวนเวียนกอปรกับเสือขย้ำทุกตนนั้นกระจายตกจากถาดที่วางไว้ไปติดตามเนื้อที่ใช้พลีกรรมถวาย เมื่อเก็บกลับคืนมาก็ได้ไม่ครบทุกองค์พ่ออาจารย์ท่านว่าเสกเสร็จเสือหายเข้าป่าไปเป็นจิตวิญญาณเสือพระเวทย์คุ้มครองป่าก็มากดังนั้นเสือรุ่นนี้จึงเป็นเสือเป็นเจ้าป่าอย่างแท้จริง(ท่านสร้างเสกไว้พร้อมๆกันกับสมัยพยัคฆ์นักล่า) ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านยังทำวิชาเสือขย้ำเป็นวิชาเอกสายเสือของท่านที่ได้ชื่อว่าหากทำเสือขย้ำแล้วไม่มีสิ่งใดที่จะกลืนกินสามารถหลุดรอดไปจากปากได้ "ดุจปากของเรานับแต่นี้จะกลืนอะไรก็ไม่หลุด หากไม่คายออกมาเองแล้วย่อมได้กิน ไม่มีสิ่งใดพ้นปากเราได้เลย" ท่านว่าวิชานี้ย่อมมีดีในตัวของมัน เพราะคนเรามีหลายอย่างผ่านหน้าผ่านตาเหมือนจะได้แต่ก็ไม่ได้ไปอยู่กับคนอื่น วาสนาผ่านตัวเองไปก็มีเรียกได้ว่าจะกินเหยื่อแต่ก็ไม่มีปัญญากินแม้หามาได้ก็เหนื่อยเปล่า คนอื่นแย่งผลงานความดีความชอบไปแต่ฝ่ายเดียวก็มีลงทุนลงแรงอะไรก็กลายเป็นทำให้เขาไม่เข้าตัวเอง แต่วิชาเสือขย้ำนี้เป็นการแสดงออกด้วยสีหนาทอำนาจราชศักดิ์กดขี่และขบกัดอย่างรุนแรงไม่ให้สิ่งใดก็ตามที่หมายใจจะกลืนกินหลุดรอดพ้นไปได้

ฝังตะกรุดมงคลสั่งฟ้าตัวย่อ
มงคลสั่งฟ้านับเป็นเครื่องมงคลเฉพาะตัวที่พ่ออาจารย์นั้นท่านต้องลงแบบแยบคาย ด้วยว่าวิชานั้นแฝงเร้นด้วยการเติมเต็มความปรารถนาของสรรพกิเลสทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านสร้างเครื่องมงคลมาหลายชนิดแต่ท่านว่าไม่มีอะไรที่จะมีคุณลักษณะเด่นเป็นเอกเทศน์เช่นนี้เลย เพราะว่าคุณของมงคลนั้นจะเข้าถึงความต้องการพื้นฐานโดยรวมของมนุษย์ ท่านว่าโดยปกติแล้วมนุษย์มีความอยากมีความต้องการหลายๆสิ่งทั้งฐานะ,การเงินโชคลาภ,ความรัก,ความเจริญก้าวหน้า,ชัยชนะการแข่งขันความสำเร็จ ซึ่งทุกสิ่งที่กล่าวมานี้ล้วนแต่เป็นความทะเยอทะยานเป็นความต้องการทั้งสิ้น เป็นความปรารถนาที่ตั้งอยู่บนฐานของกิเลสอยากได้อยากมีอยากเป็นซึ่งมงคลสั่งฟ้านั้นเป็นวิชาที่จะไหลไปตามอารมณ์กิเลสของมนุษย์ ช่วยสนองให้กิเลสทั้งหลายอันประกอบด้วยกามความปรารถนาและความทะเยอทะยานต่างๆเป็นไปตามที่ปรารถนา

วิชานี้เป็นวิชาเทพนิมิตรที่หาได้ยากนั่นคือต้องเรียนโดยตรงจากท้าวมาลัยหรือที่พ่ออาจารย์ท่านมักจะเรียกว่าจอมฟ้า ผู้เป็นหนึ่งในพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่ทั้งสิบพระองค์ซ้ำยังเป็นเทวราชแห่งสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวัสวัตตีเทวโลกปกครองดูแลเทพเจ้าฝ่ายมารทั้งหมด เมื่อท่านปรารถพระโพธิญาณกลับตัวกลับใจละทิ้งมิจฉาทิฏฐิแล้วก็ปรารถนาจะช่วยเหลือสัตว์โลกอันตกทุกข์ได้ยากให้ข้ามฝั่งพ้นเหวแห่งทุกข์ตามคติพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่ทั้งหลายพึงกระทำ เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้สร้างมงคลสั่งฟ้าเพื่อเติมเต็มความปรารถนาของสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ปรารถนาจะเจริญทางโลกมีโภคทรัพย์สมบัติความสุขบริบูรณ์(ในส่วนตัวเต็มท่านไม่ทำแล้วจึงทำเพียงตัวย่อที่ให้ผลแรงใกล้เคียงกัน) ซึ่งที่ผ่านมาพ่ออาจารย์ท่านได้ทำสงเคราะห์ให้กับคนที่ติดขัดมีปัญหาชีวิตล้มละลายขายกิจการโรงงานต่างๆนำไปบูชาแล้ว 7 ดอกด้วยกัน ซึ่งทั้งเจ็ดคนที่มีปัญหาชีวิตต่างๆกันไปนั้นก็กลับฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วดุจว่ามีอภินิหาริย์สิ่งใดเกิดขึ้นกับชีวิตพวกเขา เรียกว่าถึงขนาดทำหิ้งแยกไว้ประดิษฐานตะกรุดขึ้นบายศรีถวายผลไม้ลูกใหญ่ๆโตๆเหมือนกับบูชาเทวรูปเพื่อบูชาสักการะท้าวมาลัยเช่นนั้น ซึ่งเค้าให้เหตุผลว่าที่ต้องทำเช่นนี้เพราะเค้าพลิกฟื้นกลับมาและได้รับอะไรคืนจากตะกรุดนี้มากมายนัก

ท่านว่าด้วยเพราะมนุษย์ทั้งหลายยังมีกิเลสมีความทะยานอยากทุกคนยังมีปัญหามีความต้องการที่จะเติมเต็มความปรารถนาของตน ซึ่งท่านพิจารณาแล้วท่านว่าไม่ใช่เรื่องผิดเพราะมันเป็นปัจจัยสี่ที่ทุกคนต้องมีและสมควรจะมีในการดำรงค์ชีวิต ท่านจึงได้ทำมงคลสั่งฟ้าตัวย่อถือฤกษ์เศรษฐีในการลงตะกรุดเพราะสมัยนี้ถ้าเป็นเศรษฐีก็เรียกได้ว่ามีทุกอย่างนั่นแหละต่อไปจะได้หักล้างกฏเกณต่างๆที่ผูกปมขึ้นมาในชีวิตผู้บูชา ใครที่ตกทุกข์ได้ยากใครที่เหยียบย่ำอยู่กับที่หรือถอยหลังกลับไปใครที่ไม่สามารถทำความฝันของตนให้เป็นจริงได้ท่านว่าไม่ว่าสิ่งใดก็ตามแต่จะหักล้างไปได้ด้วยพระเดชของท้าวมาลัย ทั้งท่านยังได้ลงมนต์จินดามณีที่ต้องเดินกสิณและเสกจนเกิดอุคคนิมิตรเป็นทรัพย์สินศฤงคารบรรดามีดุจว่าเป็นสมบัติจักรพรรดิ์ บังเกิดขึ้นตรงหน้าสูงทับท่วมจอมเขาพระสิเนรุราชมีรัศมีเจ็ดประการออกมา แล้วจึงขอพุทธบารมีอีกรอบหนึ่งตะกรุดเหล่านี้ จึงมีแต่ความสุขทั้งนั้นเพราะองค์ท้าวมาลัยนี้ถ้าท่านมาหาเมื่อไหร่มีความสุขแน่นอน ขออย่างเดียวคือให้เคารพพระรัตนตรัยจริงๆรับรองว่ามารทั้งหลายจะไม่กล้ามาก่อกวน

สี"พึ่ง" บุญศักดิ์สิทธิ์หมื่นฟ้ามหาบัญชาเพชรพระสยม
ของวิเศษทั้งสามสิ่งนี้พ่ออาจารย์ท่านฝังลงในสี "พึ่ง" บุญศักดิ์สิทธิ์หมื่นฟ้ามหาบัญชาเพชรพระสยม ที่ท่านตั้งใจสร้างตามไศวะศาสตร์ของครูพระสยมให้ผู้บูชาใช้พึ่งพาบุญศักดิ์สิทธิ์รับกำไรชีวิตพบเจอแต่สิ่งที่ดีเจอสุขที่เสมอใจ ท่านว่าสีผึ้งชุดนี้แปลกมันช่วยให้ใจอิ่มดึงดูดสุขอันเป็นสิ่งที่เสมอใจเข้ามาอยู่ร่วมกันกับชีวิตเรา..ซึ่งตรงนี้ท่านว่าสุขของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันและไม่เสมอกันขึ้นอยู่กับพื้นฐานของความต้องการและจิตวิญญาณของตนว่าสิ่งใดคือสุขคือความสำเร็จ เช่นนั้นสุขของเราเกิดจากอะไรก็ให้เพียรต้องการสิ่งนั้นแล้วสีพึ่งจะแสดงผลออกมาด้วยสรรพมงคลให้ความสุขบังเกิดมีแก่เราในกาลทุกเมื่อ

ท่านทำให้เป็นที่พึ่งของคน เพราะต่อไปคนใช้จะได้พึ่งตัวเองกันได้ไม่ต้องเสียเวลารอคอยหรือไปตามหาลิขิตสวรรค์หรือเทวดาที่ไหนเพราะที่พึ่งของเราอยู่ตรงนี้แล้ว..อยู่ที่ตัวเรา..เป็นหนึ่งเดียวกับตัวเราจะพบเจอโชคให้มั่งมีให้ได้ให้สำเร็จขาดสิ่งใดก็เติมเต็มสิ่งนั้นไม่มีอะไรที่จะเป็นไปไม่ได้ในโลกนี้เลยเอาว่าเธอใช้ต่อให้ลำพังบุญเธอไม่มี..ของเก่าเธอไม่พอแต่เธอก็สำเร็จทุกเรื่องได้เหมือนกัน ทั้งแรงแห่งสีพึ่งนี้ยังเป็นเมตตาหนักหน่วงจะอยู่ที่ไหนมนุษย์ก็ชื่นชม..เทวดานิยม..พระพรหมเมตตาร้องขอสิ่งใดล้วนได้รับความเห็นใจทั้งสิ้น ท่านตั้งใจทำเพื่อที่จะสงเคราะห์ผู้มีบุญสัมพันธ์ร่วมกันกับเครื่องมงคลชุดนี้จะมากและเกินกว่าที่เกินควรจะเป็น ท่านได้นำมหาว่านและแท่งยาไปบูชาเปลวอัคคีพลีต่อพระสยมก่อนนำมาหุงสีพึ่งนี้ทั้งยังเสกลงมนต์พระสยมกำกับสีพึ่ง ท่านว่าอานุภาพของมันแม้พกไว้กับตัว ..มันผู้ใดมองเราก็เห็นเราดูดีผิดหน้า..น่าเข้าหาน่าเจรจาเป็นมหาละลวยหลงเคลิบเคลิ้มได้โดยง่าย เสมือนได้รัศมีเทพพรหมฉาบทาลงไปยังจิตวิญญาณและร่างกายของคนผู้นั้นแค่เห็นชนทั้งหลายก็ปรารถนาอยากจะเข้าหาเอง จะใช้ทางสะกดใจก็ดีแม้เขาจะโกรธเกลียดเราปานใดก็กลับใจอ่อนมาจงรักภักดีลืมโกรธลืมโทสะกันไปเลย

นั่นคือกำลังพื้นฐานของสีพึ่งแต่โดยอานุภาพทางไศวะศาสตร์ของครูพระสยมนั้น เมื่อเราได้แตะแต้มเจิมทาสีพึ่งต้องเนื้อตัวแล้วย่อมจะมีพลังอาถรรพ์มาพลิกชีวิตเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสคนที่เจอทางตันหาทางออกไม่ได้ทุกเรื่องถึงขนาดที่ว่าชีวิตนี้อับจนหนทางมืดบอดไปหมดเสียแล้วก็จะเจอทางออกมีสรรพมงคลมารุมล้อม..ดั่งได้พึ่งพาบุญศักดิ์สิทธิ์ ชีวิตที่ล้มก็จะลุกขึ้นฟื้นคืนมาเอาดีได้มากกว่าเก่า..อยู่สูงกว่าเก่า..สำเร็จมากกว่าเก่าที่จะเท่าเดิมนั้นเป็นไม่มีด้วยครูพระสยมท่านบันดาลให้เป็นไป พ่ออาจารย์ท่านว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงที่ได้ทำสีพึ่งก็ด้วยให้คนใช้เอาตัวรอดพึ่งพากำลังตัวสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้

###และให้กำลังบุญศักดิ์สิทธิ์ซึมซาบอาบกายโดยตรงซึมเข้าสู่เลือดเนื้อจิตวิญญาณโดยง่ายไม่โดนสิ่งใดมาปิดกั้น จะเปลี่ยนชีวิตคนที่ได้ยากตกอยู่ในทุกข์เข็ญให้พ้นทุกข์ได้รับการยกย่องขึ้นใหม่ปรากฏเกียรติยศสืบไปชั่วกาลนานดุจว่าเกิดใหม่พร้อมกับมงคลที่เหนือกว่าชีวิตเดิมๆและมีเกียรติยศปรากฏแก่ตาโลกสืบในวงศ์สกุล ท่านประกอบพิธีหุงสีพึ่งบนยอดเขาสูงมีธารน้ำไหลเบิกฟ้าเปิดโลกชุมนุมเทพนำมวลสารสำคัญต่างๆผสมลงไปเพื่อเคี่ยวสีพึ่งนี้ให้สำเร็จด้วยไฟธาตุพิเศษ แม้จะมีคนขอบูชาสีผึ้งกันมากท่านก็ไม่ออกตัวนี้แต่อย่างใดเพราะของมีจำนวน้อยที่สำคัญเลยคือแรงครูสูงมากแต่ก่อนยังไม่ถึงกาลไม่ถึงวาระและเวลาจึงไม่ได้นำออกมา

สีพึ่งนี้สำคัญมากด้วยปกติที่คนเกิดมามีชีวิต จะเป็นที่พึงรักพึงชังกับสัตว์ทั้งหลาย..ที่รักก็ดีไปแต่ที่ชังนั้นด้วยจิตใจมนุษย์ในปัจจุบันนี้มีแต่จะอิจฉาริษยากันรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกคราวไป ท่านว่าต่อไปใจมนุษย์นั้นจะหยั่งยากเสียยิ่งกว่ายากน้ำใจนิสัยก็จะพาลอำมหิตขึ้นกว่าแต่เก่าก่อน ความอาฆาตริษยามาตรร้ายจ้องแต่จะทำลายซึ่งกันและกันจะมีปรากฏไปทั่วแม้แต่มิตรหรือญาติสนิทก็จะทำลายกันด้วยเหตุของผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยท่านว่าสังคมอยู่ยากขึ้นกว่าเดิม สีพึ่งนี้จึงใช้บุญศักดิ์สิทธิ์เกื้อกูลผู้บูชาไม่เพียงแต่ศัตรูผู้คิดร้ายจะทำร้ายเราไม่ได้ซ้ำยังจะแพ้ภัยตนเองและตกไปอยู่ในห้วงกฏแห่งกรรมต่อไป นอกจากนี้สีพึ่งบุญศักดิ์สิทธิ์นี้ยังสำคัญมากเพราะใช้อาราธนาแก้และพลิกวิกฤตินำมาจุณเจิมเมื่อเราอยู่ในสภาวะฉุกเฉินของชีวิตได้ทั้งสิ้น
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะแข่งขัน
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะทำทุกอย่างในความเสี่ยง
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะแสวงหาโชค
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะเผชิญอันตราย
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะเข้าหาผู้สูงศักดิ์
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะตกยาก
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะสิ้นเนื้อประดาตัว
***คนที่ชีวิตมีสีสันต์เจอเรื่องฉุกเฉินบ่อยๆก็ต้องใช้สีพึ่งเยอะหน่อย

1. หากปรารถนาจะทำสิ่งที่ยากให้ง่าย
2. หากปรารถนาจะทำสิ่งที่เป้นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้
3. หากปราถนาจะทำสิ่งที่ล้มเหลวให้ประสบความสำเร็จ
ให้ยกตลับสีพึ่งไหว้ระลึกถึงคุณพระสยมภูวญาณและพญามาราธิราชตลอดจนดวงจิตเทพสมิงเป็นที่สุดแล้วควักสีพึ่งบุญศักดิ์สิทธิ์นั้นเจิมหน้าผากสถานการณ์จะตีกลับทันที
### พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้มีกำหนดว่าต้องทาจุดนั้นจุดนี้เพราะสีพึ่งตัวนี้ท่านทาได้ทุกจุดของร่างกายที่เราอยากทาและเห็นสมควร
- จะทาตรงไหนมันก็ซึมเข้าเนื้อเข้าตัว..เรียกว่าเข้าเนื้อเข้าตัวเสมอกัน
- บุญอยู่ที่ไหนมันก็คือบุญซึมเข้ากายเราก็ยังเป็นบุญศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลง
- จิตนึกให้เกิดตบะเดชะก็จะเป็นตบะเดชะ
- จิตหน่วงในบุญก็จะได้บุญช่วยเหลือหนุนนำ
- หมั่นนำมาจุณเจิมซึมซับโรคร้ายก็ดีหายสิ้น
- หมั่นนำมาจุณเจิมซึมซับจิตวิญญาณร้ายสิงสู่แฝงกายก็ดีหายสิ้น
- หมั่นนำมาจุณเจิมซึมซับคุณไสยอวิชชาก็ดีย่อมอันตราธานหายไป
- หมั่นนำมาจุณเจิมซึมซับการกระทำบ่ำบีทั้งปวงเสื่อมด้อยอานุภาพ
*** พ่ออาจารย์ท่านว่าทามันช้าแต่กินจะไว..สีผึ้งฉันกินได้แรงกว่าทาร้อยเท่า...หากแต่เสียดายของเพราะหุงได้แค่ก้นหม้อท่าจะกินท่านว่ากินเพียงขนาดเม็ดถั่วเม็ดงาก็มากเกินพอ

คาถาบูชา
ท่านว่าสำเร็จหมดแล้วให้เอาจิตเชื่อมใจใช้ได้เลย เรียกชื่อเทพสมิง(ควรตั้งชื่อให้ด้วยตนเองเป็นจิตววิญญาณเทพพิทักษ์คู่บุญ)

### รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าห้ามลงรายละเอียดให้เปิดจองไปเลย ยอดเต็มแล้วค่อยเอาลง(ถือเป็นเครื่องมงคลชนิดแรกที่วัดด้วยโชคชะตาเต็มร้อย)

### สีผึ้งที่จะขยับ..ควบคุม..ฟาดฟันกลไกแห่งโชคชะตา ด้วยสีผึ้งชุดนี้ท่านไม่ได้เรียกว่าสีผึ้งหากแต่เรียก "สีพึ่ง" คือเอาไว้แตะทาพึ่งพาเขายามที่บุญตัวเองไม่พอตามเป้าประสงค์ความปรารถนา..จะได้ไม่ต้องร้องขอใคร..จะได้ที่พึ่งพาฉับพลันทันที จึงค่อยอาราธนาบุญศักดิ์สิทธิ์หมื่นฟ้าแสนจักรวาลตามโองการพระสยม..แตะแต้มป้ายพึ่งพาบุญให้สมดั่งใจหมาย

### คนวาสนาน้อย บุญไม่พอ ทำการณ์ใหญ่ไม่ได้ บุญไม่ถึง พึ่งบุญใครก็ไร้หนทางเยียวยา..พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละต้องพึ่งสีผึ้ง(พึ่ง)บุญศักดิ์สิทธิ์หมื่นฟ้า *** หากชนใดพอมีปัญญาบ้างจะเข้าใจว่าของนี่มีค่านักใช้ได้ยิ่งกว่าขุมทองคำเสียอีก

### สีพึ่งฉันต้องฝังฟันอาถรรพ์ของจ้าวแห่งสมิงไพร พ่ออาจารย์ท่านว่าฟันสมิงนี้มีอานุภาพเสมอด้วยเขี้ยวเสือกลวงไม่ต่างกัน..ใช้กัด..ฉีก..กระชากให้ได้มาในทุกสิ่ง ..ทั้งยังเป็นเคล็ดฟันโชคชะตาเฮงซวยให้ลับหาย..ฟันกำไรชีวิต..ฟันทุกช่วงจังหวะชะตา..ฟันได้..ฟันเอาทุกโอกาส

*** พึ่งพุทธเวทย์เทพพรหมทั้งหลายไม่ได้อับจนหนทาง..มันรวยช้า ก็ให้มาพึ่งศาสตร์ของพ่อคือไศวะศาสตร์แห่งครูพระสยม(รายการนี้ไม่ได้มีผีมีพรายแต่แรงกว่าเกินคณานับ)
พ่ออาจารย์ท่านว่า
"ของมากบารมีแบบนี้ก็ย่อมมีจำนวนน้อยกว่าจะได้อุบัติขึ้นมาในโลกก็ยากยิ่งนัก ต่อให้เธอมีเงินทองมากเท่าไหร่ก็ใช่ว่าจะหาของแท้ได้..มีแต่หมดแล้วจะสาปสูญไปเพราะโลกจำกัดการเกิดขึ้นของมงคลวิเศษหนึ่งกับผู้ที่มีเขาหวงเขารักกันหนักหนาหนึ่ง ..ที่ว่ามีเงินแล้วจะหาครอบครองจึงเป็นไปไม่ได้เลย เช่นนี้สีพึ่งบุญศักดิ์สิทธิ์ที่มีฟันเทพสมิงสั่งฟ้า ..ฉันจะใช้บุญสัมพันธ์ของพวกเธอเป็นเกณฑ์กำหนดล้วนๆ ไม่ต้องลงรายละเอียดอะไรทั้งสิ้นเจ้าของเขายังไงก็ต้องสะกิดใจอยู่แล้วมันต้องใช้วาสนาบุญสัมพันธ์กันมากสมควรจึงจะได้ของวิเศษ..ชนิดคู่ควรแก่การอบรมบารมีเช่นนี้"

(เครื่องมงคลมีจำนวนน้อยไม่กี่ตลับเพราะท่านทำได้แค่ฟันเทพสมิงที่ท่านเก็บรักษาไว้เท่านั้น)

ร่วมทำบุญบูชา สี "พึ่ง" บุญศักดิ์สิทธิ์หมื่นฟ้ามหาบัญชาเพชรพระสยม("ฟัน"ชะตาชีวิตเทพสมิงสั่งฟ้า) บูชา 4,000 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...ี้-พ่ออาจารย์พล.539894/page-558#post-11666408

 

ร่วมทำบุญบูชา สี "พึ่ง" บุญศักดิ์สิทธิ์หมื่นฟ้ามหาบัญชาเพชรพระสยม(ชุดเสบียงเชื้อเพลิงฝังตะกรุดฟื้นฟูกำลังกาย)

สี "พึ่ง" ตลับเชื้อเพลิงนี้ท่านให้นำไปกิน..นำไปสำรอง..นำไปทานไปใช้กันจริงๆ เป็นตลับเสบียงเชื้อเพลิงที่เปิดให้จองเพียงรอบเดียวเท่านั้นด้วยของมีจำนวนน้อย

ตะกรุดฟื้นฟูกำลังกาย
ท่านว่าเสริมอานุภาพของสีพึ่งให้ดีมากขึ้นไปอีกจะได้ฟื้นฟูความบกพร่องในร่างกายผู้ใช้ไปพร้อมๆกันด้วย ตะกรุดที่แช่ในสีผึ้งนี้เสมือนเป็นตัวกระตุ้นหรือที่ชาร์จไฟให้สีผึ้งมีประจุไฟรุนแรง(ดุจฟื้นสมรรถภาพโดยรวมของร่างกายได้ตลอดเวลา) เมื่อนำสี "พึ่ง" มาแตะกิน
- จะเสริมพลังงานธาตุขันธ์
- ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย
- ทำให้รู้สกสดชื่นกะปรี้กะเปร่า
- มีกำลังวังชาอย่างน่าประหลาด
- ไม่เป็นคนขี้โรค
- กำจัดอวมงคลที่ติดค้างตกตะกอน
- กำจัดคุณไสยฝ่ายต่ำ
- ขจัดเสนียดจัญไร
- ชะลอโรคเวรโรคกรรมที่ให้ผลรุนแรง
- ถ่ายถอนโรคกายโรคใจที่สะสมมา
- เสพย์กินดุจได้รับคุณวิชาโดยตรงเจ็บป่วยได้ยาก

พ่ออาจารย์ท่านว่าสี"พึ่ง" เป็นของดีอยู่แล้วยิ่งเสริมตะกรุดฟื้นฟูกำลังกายยิ่งตรงทางเสริมคุณกันมากขึ้น ท่านว่าไม่ต้องพูดอะไรมากถ้าเขารักตัวเองอยากให้อะไรในชีวิตในตัวตนเค้ามันดีขึ้น เค้าจะมาเอาไปกินไปใช้เอง สีพึ่งนี้ท่านว่าเมื่อเราใช้จวนจะหมดแล้วให้เก็บเอาจะกรุดไว้อุดหัวท้ายด้วยสีพึ่งนำไปเลี่ยมห้อยคอเสีย นำติดตัวจะเป็นเครื่องรางที่ช่วยฟื้นฟูกำลังของเราได้อย่างดี..ดูง่ายๆเลยพกแล้วจะรู้สึกสดชื่นแบบบอกไม่ถูกมีความตื่นตัวเต็มร้อยสมองทำงานได้ไวและมีประสิทธิภาพไม่ง่วงไม่ซึม..ใช้เสริมพลังธาตุ..เสริมกำลังกายตนเองต่อไปได้

### ท่านให้เปิดจองเพียงรอบเดียว ท่านว่าเอาไปให้พอที่จะใช้จะกิน สีพึ่งนี้ถ้ากินติดต่อกันได้ครบ 3 เดือนทีละหัวไม้ขีด..กินเฉพาะวันพระจะเกิดสิริมงคลอยู่ในร่างกายเราติดตัวไปยาวนาน

สี"พึ่ง" บุญศักดิ์สิทธิ์หมื่นฟ้ามหาบัญชาเพชรพระสยม
ของวิเศษทั้งสามสิ่งนี้พ่ออาจารย์ท่านฝังลงในสี "พึ่ง" บุญศักดิ์สิทธิ์หมื่นฟ้ามหาบัญชาเพชรพระสยม ที่ท่านตั้งใจสร้างตามไศวะศาสตร์ของครูพระสยมให้ผู้บูชาใช้พึ่งพาบุญศักดิ์สิทธิ์รับกำไรชีวิตพบเจอแต่สิ่งที่ดีเจอสุขที่เสมอใจ ท่านว่าสีผึ้งชุดนี้แปลกมันช่วยให้ใจอิ่มดึงดูดสุขอันเป็นสิ่งที่เสมอใจเข้ามาอยู่ร่วมกันกับชีวิตเรา..ซึ่งตรงนี้ท่านว่าสุขของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันและไม่เสมอกันขึ้นอยู่กับพื้นฐานของความต้องการและจิตวิญญาณของตนว่าสิ่งใดคือสุขคือความสำเร็จ เช่นนั้นสุขของเราเกิดจากอะไรก็ให้เพียรต้องการสิ่งนั้นแล้วสีพึ่งจะแสดงผลออกมาด้วยสรรพมงคลให้ความสุขบังเกิดมีแก่เราในกาลทุกเมื่อ

ท่านทำให้เป็นที่พึ่งของคน เพราะต่อไปคนใช้จะได้พึ่งตัวเองกันได้ไม่ต้องเสียเวลารอคอยหรือไปตามหาลิขิตสวรรค์หรือเทวดาที่ไหนเพราะที่พึ่งของเราอยู่ตรงนี้แล้ว..อยู่ที่ตัวเรา..เป็นหนึ่งเดียวกับตัวเราจะพบเจอโชคให้มั่งมีให้ได้ให้สำเร็จขาดสิ่งใดก็เติมเต็มสิ่งนั้นไม่มีอะไรที่จะเป็นไปไม่ได้ในโลกนี้เลยเอาว่าเธอใช้ต่อให้ลำพังบุญเธอไม่มี..ของเก่าเธอไม่พอแต่เธอก็สำเร็จทุกเรื่องได้เหมือนกัน ทั้งแรงแห่งสีพึ่งนี้ยังเป็นเมตตาหนักหน่วงจะอยู่ที่ไหนมนุษย์ก็ชื่นชม..เทวดานิยม..พระพรหมเมตตาร้องขอสิ่งใดล้วนได้รับความเห็นใจทั้งสิ้น ท่านตั้งใจทำเพื่อที่จะสงเคราะห์ผู้มีบุญสัมพันธ์ร่วมกันกับเครื่องมงคลชุดนี้จะมากและเกินกว่าที่เกินควรจะเป็น ท่านได้นำมหาว่านและแท่งยาไปบูชาเปลวอัคคีพลีต่อพระสยมก่อนนำมาหุงสีพึ่งนี้ทั้งยังเสกลงมนต์พระสยมกำกับสีพึ่ง ท่านว่าอานุภาพของมันแม้พกไว้กับตัว ..มันผู้ใดมองเราก็เห็นเราดูดีผิดหน้า..น่าเข้าหาน่าเจรจาเป็นมหาละลวยหลงเคลิบเคลิ้มได้โดยง่าย เสมือนได้รัศมีเทพพรหมฉาบทาลงไปยังจิตวิญญาณและร่างกายของคนผู้นั้นแค่เห็นชนทั้งหลายก็ปรารถนาอยากจะเข้าหาเอง จะใช้ทางสะกดใจก็ดีแม้เขาจะโกรธเกลียดเราปานใดก็กลับใจอ่อนมาจงรักภักดีลืมโกรธลืมโทสะกันไปเลย

นั่นคือกำลังพื้นฐานของสีพึ่งแต่โดยอานุภาพทางไศวะศาสตร์ของครูพระสยมนั้น เมื่อเราได้แตะแต้มเจิมทาสีพึ่งต้องเนื้อตัวแล้วย่อมจะมีพลังอาถรรพ์มาพลิกชีวิตเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสคนที่เจอทางตันหาทางออกไม่ได้ทุกเรื่องถึงขนาดที่ว่าชีวิตนี้อับจนหนทางมืดบอดไปหมดเสียแล้วก็จะเจอทางออกมีสรรพมงคลมารุมล้อม..ดั่งได้พึ่งพาบุญศักดิ์สิทธิ์ ชีวิตที่ล้มก็จะลุกขึ้นฟื้นคืนมาเอาดีได้มากกว่าเก่า..อยู่สูงกว่าเก่า..สำเร็จมากกว่าเก่าที่จะเท่าเดิมนั้นเป็นไม่มีด้วยครูพระสยมท่านบันดาลให้เป็นไป พ่ออาจารย์ท่านว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงที่ได้ทำสีพึ่งก็ด้วยให้คนใช้เอาตัวรอดพึ่งพากำลังตัวสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้

###และให้กำลังบุญศักดิ์สิทธิ์ซึมซาบอาบกายโดยตรงซึมเข้าสู่เลือดเนื้อจิตวิญญาณโดยง่ายไม่โดนสิ่งใดมาปิดกั้น จะเปลี่ยนชีวิตคนที่ได้ยากตกอยู่ในทุกข์เข็ญให้พ้นทุกข์ได้รับการยกย่องขึ้นใหม่ปรากฏเกียรติยศสืบไปชั่วกาลนานดุจว่าเกิดใหม่พร้อมกับมงคลที่เหนือกว่าชีวิตเดิมๆและมีเกียรติยศปรากฏแก่ตาโลกสืบในวงศ์สกุล ท่านประกอบพิธีหุงสีพึ่งบนยอดเขาสูงมีธารน้ำไหลเบิกฟ้าเปิดโลกชุมนุมเทพนำมวลสารสำคัญต่างๆผสมลงไปเพื่อเคี่ยวสีพึ่งนี้ให้สำเร็จด้วยไฟธาตุพิเศษ แม้จะมีคนขอบูชาสีผึ้งกันมากท่านก็ไม่ออกตัวนี้แต่อย่างใดเพราะของมีจำนวน้อยที่สำคัญเลยคือแรงครูสูงมากแต่ก่อนยังไม่ถึงกาลไม่ถึงวาระและเวลาจึงไม่ได้นำออกมา

สีพึ่งนี้สำคัญมากด้วยปกติที่คนเกิดมามีชีวิต จะเป็นที่พึงรักพึงชังกับสัตว์ทั้งหลาย..ที่รักก็ดีไปแต่ที่ชังนั้นด้วยจิตใจมนุษย์ในปัจจุบันนี้มีแต่จะอิจฉาริษยากันรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกคราวไป ท่านว่าต่อไปใจมนุษย์นั้นจะหยั่งยากเสียยิ่งกว่ายากน้ำใจนิสัยก็จะพาลอำมหิตขึ้นกว่าแต่เก่าก่อน ความอาฆาตริษยามาตรร้ายจ้องแต่จะทำลายซึ่งกันและกันจะมีปรากฏไปทั่วแม้แต่มิตรหรือญาติสนิทก็จะทำลายกันด้วยเหตุของผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยท่านว่าสังคมอยู่ยากขึ้นกว่าเดิม สีพึ่งนี้จึงใช้บุญศักดิ์สิทธิ์เกื้อกูลผู้บูชาไม่เพียงแต่ศัตรูผู้คิดร้ายจะทำร้ายเราไม่ได้ซ้ำยังจะแพ้ภัยตนเองและตกไปอยู่ในห้วงกฏแห่งกรรมต่อไป นอกจากนี้สีพึ่งบุญศักดิ์สิทธิ์นี้ยังสำคัญมากเพราะใช้อาราธนาแก้และพลิกวิกฤตินำมาจุณเจิมเมื่อเราอยู่ในสภาวะฉุกเฉินของชีวิตได้ทั้งสิ้น
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะแข่งขัน
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะทำทุกอย่างในความเสี่ยง
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะแสวงหาโชค
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะเผชิญอันตราย
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะเข้าหาผู้สูงศักดิ์
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะตกยาก
- เมื่อเราเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจะสิ้นเนื้อประดาตัว
***คนที่ชีวิตมีสีสันต์เจอเรื่องฉุกเฉินบ่อยๆก็ต้องใช้สีพึ่งเยอะหน่อย

1. หากปรารถนาจะทำสิ่งที่ยากให้ง่าย
2. หากปรารถนาจะทำสิ่งที่เป้นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้
3. หากปราถนาจะทำสิ่งที่ล้มเหลวให้ประสบความสำเร็จ
ให้ยกตลับสีพึ่งไหว้ระลึกถึงคุณพระสยมภูวญาณและพญามาราธิราชตลอดจนดวงจิตเทพสมิงเป็นที่สุดแล้วควักสีพึ่งบุญศักดิ์สิทธิ์นั้นเจิมหน้าผากสถานการณ์จะตีกลับทันที
### พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้มีกำหนดว่าต้องทาจุดนั้นจุดนี้เพราะสีพึ่งตัวนี้ท่านทาได้ทุกจุดของร่างกายที่เราอยากทาและเห็นสมควร
- จะทาตรงไหนมันก็ซึมเข้าเนื้อเข้าตัว..เรียกว่าเข้าเนื้อเข้าตัวเสมอกัน
- บุญอยู่ที่ไหนมันก็คือบุญซึมเข้ากายเราก็ยังเป็นบุญศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้เปลี่ยนแปลง
- จิตนึกให้เกิดตบะเดชะก็จะเป็นตบะเดชะ
- จิตหน่วงในบุญก็จะได้บุญช่วยเหลือหนุนนำ
- หมั่นนำมาจุณเจิมซึมซับโรคร้ายก็ดีหายสิ้น
- หมั่นนำมาจุณเจิมซึมซับจิตวิญญาณร้ายสิงสู่แฝงกายก็ดีหายสิ้น
- หมั่นนำมาจุณเจิมซึมซับคุณไสยอวิชชาก็ดีย่อมอันตราธานหายไป
- หมั่นนำมาจุณเจิมซึมซับการกระทำบ่ำบีทั้งปวงเสื่อมด้อยอานุภาพ
*** พ่ออาจารย์ท่านว่าทามันช้าแต่กินจะไว..สีผึ้งฉันกินได้แรงกว่าทาร้อยเท่า...หากแต่เสียดายของเพราะหุงได้แค่ก้นหม้อท่าจะกินท่านว่ากินเพียงขนาดเม็ดถั่วเม็ดงาก็มากเกินพอ

### สีผึ้งที่จะขยับ..ควบคุม..ฟาดฟันกลไกแห่งโชคชะตา ด้วยสีผึ้งชุดนี้ท่านไม่ได้เรียกว่าสีผึ้งหากแต่เรียก "สีพึ่ง" คือเอาไว้แตะทาพึ่งพาเขายามที่บุญตัวเองไม่พอตามเป้าประสงค์ความปรารถนา..จะได้ไม่ต้องร้องขอใคร..จะได้ที่พึ่งพาฉับพลันทันที จึงค่อยอาราธนาบุญศักดิ์สิทธิ์หมื่นฟ้าแสนจักรวาลตามโองการพระสยม..แตะแต้มป้ายพึ่งพาบุญให้สมดั่งใจหมาย

### รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น คนวาสนาน้อย บุญไม่พอ ทำการณ์ใหญ่ไม่ได้ บุญไม่ถึง พึ่งบุญใครก็ไร้หนทางเยียวยา..พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละต้องพึ่งสีผึ้ง(พึ่ง)บุญศักดิ์สิทธิ์หมื่นฟ้า *** หากชนใดพอมีปัญญาบ้างจะเข้าใจว่าของนี่มีค่านักใช้ได้ยิ่งกว่าขุมทองคำเสียอีก

*** พึ่งพุทธเวทย์เทพพรหมทั้งหลายไม่ได้อับจนหนทาง..มันรวยช้า ก็ให้มาพึ่งศาสตร์ของพ่อคือไศวะศาสตร์แห่งครูพระสยม(รายการนี้ไม่ได้มีผีมีพรายแต่แรงกว่าเกินคณานับ) พ่ออาจารย์ท่านว่า
"ของมากบารมีแบบนี้ก็ย่อมมีจำนวนน้อยกว่าจะได้อุบัติขึ้นมาในโลกก็ยากยิ่งนัก ต่อให้เธอมีเงินทองมากเท่าไหร่ก็ใช่ว่าจะหาของแท้ได้..มีแต่หมดแล้วจะสาปสูญไป"

(เครื่องมงคลมีจำนวนน้อยไม่กี่ตลับเท่านั้น)

ร่วมทำบุญบูชา สี "พึ่ง" บุญศักดิ์สิทธิ์หมื่นฟ้ามหาบัญชาเพชรพระสยม(ชุดเสบียงเชื้อเพลิงฝังตะกรุดฟื้นฟูกำลังกาย) บูชา 900 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...ชะตาชีวิตเทพสมิง-พ่ออาจารย์พล.539894/page-558

 

ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันพุทโธแปลงสภาพแต่งชะตาปลุกร่างพลังแฝงกลับกลายสลับฐานะ(จอมคนภะโคหงสา-ขวดสำรอง)

การปลุกศักยภาพ
ด้วยมนุษย์ทุกคนล้วนมีศักยภาพแฝงเร้นอยู่ในกายตน..เรียกว่ามีพลังงานหลายประเภทซ่อนอยู่ในตัวเรามากมายหลายเรื่อง
เช่นบางคนทำงานไปเฉยๆก็มีชื่อเสียงเงินทองสำเร็จสิ่งใดได้ง่ายๆนี่คือพลังที่แฝง..เป็นโชคชะตาแห่งความสำเร็จ
ในบางคนหน้าตาก็บ้านๆธรรมดาๆแต่กลับเป็นที่รักเมตตาไม่มีใครกล้าเกลียด จะไปตกอยู่ที่ใดก็มีแต่คนโอบอุ้มช่วยเหลือยกเอาไว้ให้สุขสบาย...นี่ก็เป็นพลังแฝงของเมตตามหานิยม
แต่กลับกันบางคนสวยหล่อเรียนเก่ง..ความคิดโลดโผน..มีพลังสติปัญญาอันน่าทึ่งกลับไม่มีโอกาสได้แสดง,กลับถูกผู้อื่นแย่งผลงาน,กลับไม่ได้รับความสนใจจากคนรอบข้างแม้ตนจะหน้าตาดีมีบุคลิกที่ดีกว่าเรียกว่าทำสิ่งใดก็เหมือนคนอื่นมองไม่เห็น

เหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าพลังงานศักยภาพในตัวเรามันยังไม่ถูกปลุกขึ้นมา ให้จำไว้เลยว่าทุกคนเกิดมาเป็นมนุษย์มีพลังศักยภาพพลังแฝงอยู่ในร่างกายตนเสมอกันทุกคนแต่ขึ้นอยู่กับว่าใครมันจะปลุกขึ้นมาใช้ได้เท่าไหร่..เห็นมั๊ยเช่นนี้พระพุทธองค์จึงบอกว่าตนเองเป็นที่พึ่งแห่งตน..จะพึ่งผู้หนึ่งผู้ใดที่ประเสริฐกว่าตนเป็นไม่มีก็เพราะคนทุกคนมีศักยภาพพลังแฝงติดตัวทุกด้าน..เอาดีได้ทุกเรื่อง..สำเร็จได้ทุกด้าน..แม้ด่านยากที่สุดเช่นมรรคผลนิพพานมนุษย์ก็ยังทำสำเร็จได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่สำเร็จก็คือคนที่ผ่านการปลุกศักยภาพกายผ่านกระบวนการแปลงสภาพมาแล้ว

การแปลงสภาพ เป็นกระบวนการที่มนุษย์ทุกคนสามารถกระทำได้..แต่กลับไม่เคยเกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคนกลับกันจะเกิดได้กับคนเพียงแค่หยิบมือในโลกซึ่งหมายถึงคนเหล่านั้นได้รับการแปลงสภาพชะตากรรมปลุกศักยภาพในตัวตนให้ตื่นขึ้น ในมุมกลับจะโดดเด่นเป็นที่ได้รับความสนใจมากกว่าคนอื่นและสำเร็จใหญ่หลวงมากกว่าใคร คนที่ปลุกพลังแฝงในตัวเองได้มีตั้งแต่เกิดมาศักยภาพก็เปิดอยู่แล้วแต่ในกรณีนี้มีน้อยนัก ในส่วนของการปลุกก็ยังมีอีกสองวิธีคือ

- ใช้กำลัง แบบที่เราจะพูดถึงก็อีกอย่างหนึ่งนั่นคือการฝืนบังคับสิ่งที่ปิดอยู่ให้เปิด..บังคับให้เปิด..ให้เกิดขึ้นมาให้ได้..และต้องทำให้ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าการกระทำแบบบังคับนี่มันลำบากเกินกว่าคนจะทำได้ชนิดที่เรียกว่าลำบากเลือดตาแทบกระเด็นเลยเพราะต้องสร้างกำลังความเพียรอย่างยิ่งยวดระดับพระมหาชนกว่ายทวนทะเลสีทันดรใช้พลังจิตกำลังใจสูงเกินมนุษย์ทั่วไปเพื่อจะฝืนเปิดชะตาฟ้าเหล่านี้

- ใช้พระเวทย์ ใช้พลังธาตุพลังงานธรรมชาติ..พลังพระเวทย์วิชา วิธีนี้จะสบายกว่าทุกๆอย่างเพราะใช้ตัวช่วยเข้ามาปลุกไม่ได้พยายามด้วยกำลังตนเองล้วนๆใช้พลังดึงดูดคุณวิเศษแห่งมหาธาตุพลังจักรวาลเข้ามาเพื่อเปิดศักยภาพ..เปิดพลังแฝงให้เกิดกระบวนการแปลงสภาพ..และกลายสภาพเป็นจอมคน

### ด้วยมนุษย์มีกำลังแฝงซึ่งก็คือหนึ่งในพลังธรรมชาติที่จะข้ามขั้นศักยภาพอยู่ในร่างกาย..ขึ้นอยู่กับว่าใครจะหยิบมาใช้เป็น..ใครจะเรียกพลังด้านไหนออกมาใช้ หรือจะย่ำอยู่กับความธรรมดา ย่ำอยู่กับที่ซึ่งมันติดเพดานที่ปิดอำนาจวาสนาและความสามารถตนไปตลอดชีวิต

ตำนานน้ำมันของจอมคนภะโคหงสาวดี(ใช้ปลุกร่าง..ปลุกพลังแฝง..แปลงสภาพ..กลายร่าง..สลับฐานะ)
น้ำมันชนิดนี้ไม่ใช่ของใหม่หากเป็นของโบราณที่โดนผนึกไว้ในแผ่นดินพุกามประเทศ เป็นน้ำมันที่ใช้ความรู้ขั้นสูงสุดอันลึกซึ้งจากผู้มีพรสวรรค์ฟ้าประทานรู้เจนจบทั้งพุทธเวทย์และไตรเพทไปพร้อมๆกัน เป็นน้ำมันที่ใช้เพื่อปลุกกำลังศักยภาพในร่างกายตนให้เกิดการตื่นขึ้นของพลังแฝง..นำไปสู่กระบวนการแปลงสภาพ..กลายร่างกลายชะตา..สลับฐานะชนชั้นสู่ผู้มีวาสนาสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยเป็นน้ำมันเก่าแก่เราเอามาหุงใหม่แต่ก็ไม่สามารถทิ้งความเข้นข้นของตัวน้ำมันได้..ก็จะดูเป็นน้ำมันที่มีมวลแน่นหนามาก..ดูเหนียวๆข้นๆซักหน่อยเพราะเราทำให้แบบหัวเชื้อเพียวๆเลย..วันดีคืนดีหากขึ้นไขหรือจะหนืด..จะเเข็ง..เช่นนี้ไม่ต้องตกใจเอาไปตากแดดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว

ตำนานแห่งจอมคนภะโคหงสา..ผู้ผสมศาสตร์พุทธเวทย์และไตรเพทน้อมนำกำลังพระพุทธะมาแปลงสภาพแต่งชะตา..ปลุกร่าง..ปลุกพลังแฝงจนกลายร่างสลับฐานะ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นน้ำมันที่ได้บันดาลอานิสงส์ผลบุญให้เกิดขึ้นและหนุนส่งอย่างมหันต์คุณ เปลี่ยนให้บุคคลซึ่งเป็นคนธรรมดาเป็นภิกษุธรรมดาในศาสตาตถาคตกลายเป็นจอมกษัตริย์สึกออกมาเสวยราชในเมืองภะโคหงสาวดี เพียงชายผู้หนึ่งที่เกิดมาเป็นเพียงคนธรรมดาทุกอย่างหากแต่ได้เรียนจนรู้จบในพุทธเวทย์และไตรเพทได้สร้างน้ำมันแปลงสภาพแต่งโชคชะตาแห่งราชัน จากคนธรรมดาที่มีความรู้มากแต่ไร้ซึ่งโชคชะตาได้พิจารณาดูแล้วว่าแท้จริงดวงของตนมีวาสนาที่จะได้ครองพระราชสมบัติเป็นเจ้าแห่งหงสาวดีราชธานีใหญ่..แต่เส้นทางคนธรรมดาไปสู่ราชันนั้นใครก็ยากจะเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้เช่นนั้นท่านจึงได้ใช้ความรู้สร้างน้ำมันขึ้นมาเพื่อแต่งร่างตน..จนเสร็จกิจแล้วจึงได้ผนึกเก็บไว้

เมื่อได้ใช้น้ำมันแต่งร่างแล้วจึงสึกหาลาเพศบรรพชิต ด้วยอานุภาพแห่งน้ำมันพระพุทโธแปลงสภาพนั้นกลับบันดาลให้ทิดสึกใหม่พบกษัตริย์เจ้าแห่งหงสาวดีโดยบังเอิญ
- และบังเอิญกว่านั้นคือให้พระองค์นึกเมตตาแต่แรกเห็นจนตั้งให้เป็นพระยา(อันนี้เอามาเทียบกับยศทางไทยจากสามัญก้าวแรกก็ขึ้นมาเป็นพระยาเลย)
- และบังเอิญมากกว่านั้นด้วยอานุภาพแห่งน้ำมัน จึงทำให้เป็นที่รักเป็นที่เสน่หาแก่คนทั้งปวงในแผ่นดิน ชาวบ้านชาวเมืองยิ่งรักหนักหนาอุปมาว่ารักพระยามากกว่าเจ้าหงสาเสียอีก
- ด้วยอำนาจแห่งน้ำมันแปลงสภาพเมื่อได้ยศแล้วก็ได้บริวารสามพันมาครองเขตแดน ย่างก้าวที่สอง..จากพระยาขึ้นสู่เจ้าเมือง..
เมื่อมาเป็นเจ้าครองเมืองแล้วจึงได้พิจารณาเห็นว่ากษัตริย์หงสาผู้นี้ข่มเหงราษฎรเดือดร้อนนักจึงได้ชวนน้องชายทั้งสองมาตั้งค่ายนอกเมืองไว้ พอกษัตริย์ทราบว่าคิดกบฎล้อมกรุงก็สั่งให้จัดทัพตั้งแม่ทัพยกออกไป
- ด้วยอำนาจแห่งน้ำมันแปลงสภาพเมื่อแม่ทัพจัดทัพพร้อมกลับยกไปจับกษัตริย์ฆ่าเสียเอง เป็นย่างก้าวที่สาม..จากเจ้าเมืองสู่กษัติย์เจ้าจอมคน
พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าสังเกตุดีๆจะรู้ว่าท่านแค่อยู่เฉยๆและไม่เคยลงแรงทำอะไรเลย เพียงแค่อยู่เฉยๆจากสามัญก็ขึ้นสู่จุดสูงสุด มีแต่ผู้คนมารักมาเอ็นดูแต่งตั้ง..มีแต่สถานการณ์ที่ทำให้ตนเองได้ประโยชน์อย่างแรงที่สุด พอแม่ทัพได้ฆ่าเจ้าหงสาแล้วกลับนึกกลัวพระยาผู้นี้เพราะรู้ว่าเป็นคนพิเศษ..ที่มนุษย์ทั้งแผ่นดินรักใคร่นับถือตรงข้ามกับเจ้านายเดิมที่ประชาชนเกลียดชังหากจะฆ่าท่านพระยาก็จะเกิดทุรยศในแผ่นดินครั้งยิ่งใหญ่จากประชาชนทั้งมวล แม่ทัพจึงเชิญพระยาให้ยกทัพเข้าเมืองโดยไม่ต้องรบและกลายเป็นกษัตริย์เจ้าแห่งหงสาวดี..จากนั้นท้าวเธอก็ได้ลูกสาวแม่ทัพเป็นมเหสี..ตั้งท่านแม่ทัพเป็นเจ้ามหาเสนาบดีมีสิทธิขาดในรามัญประเทศทั้งปวง
- ด้วยอำนาจแห่งน้ำมันแปลงสภาพหลังจากกษัตริย์หงสาได้ครองราชก็ได้แผ่ขยายพระราชอำนาจไปอีก..มีเมืองขึ้นเพิ่มถึง 32 หัวเมือง กลายเป็นเจ้าแคว้นจอมกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่

นี่คือคนธรรมดาที่แสนจะธรรมดาคนหนึ่งหากแต่รู้จบพุทธเวทย์และไตรเทพจนสร้างของศักดิ์สิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงวาสนาตนเองไปได้ตลอดชีวิตทำให้น้ำมันนี้เป็นที่ซุกซ่อนปกปิดอย่างมาก แม้พ่ออาจารย์ท่านได้มาจากครูบาอาจารย์เจ้าเชื้อสายรามัญท่านก็ให้ปกปิดไว้อย่าได้นำมาใช้ง่ายๆ..จนสภาพปัจจุบันนั้นพ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าคนทำมาหากินใช้ชีวิตลำบากมาก และยากหนักหนาหากจะใช้วิริยะบารมีเยี่ยงพระมหาชนกเพื่อจะกลายสภาพร่างชะตาตัวเอง ท่านจึงเล็งเห็นโอกาสใหญ่ในโชคชะตาชีวิตคนที่จะได้ใช้น้ำมันแปลงสภาพกันซักคราหนึ่ง
- ให้เป็นที่รักจำเริญใจแก่คนทั้งหลาย
- ให้ประจญชนะข้าศึกศัตรูเจริญและได้รับสมบัติข้าวของทั้งมวล เจริญด้วยยศ เจริญด้วยเดชะ

พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่าน้ำมันแปลงสภาพนั้นก็คือน้ำมันปลุกศักยภาพที่ทำให้ตัวเรามีพลังงานด้านต่างๆในร่างกายมากขึ้นๆ..ชนิดที่มีพลังแฝงอยู่ในตัวเองเมื่อมันมีมาก..มีล้นและเพิ่มพูนทวีทวีไปเช่นนี้การจะปลุกให้ตื่น..การจะทำให้เกิดขึ้นมาในชีวิตย่อมเป็นเรื่องง่ายเช่นนี้คนที่ไม่มีพลังที่จะปลุกศักยภาพตนเองก็ต้องเริ่มใช้เสียหากแต่จะไวจะช้าต่างกันเพียงใดก็อยู่ที่ว่าของเก่าเรามีบ้างหรือไม่มีเลย ถ้าพอมีอยู่เติมนิดเดียวมันก็เต็มหยิบมาใช้ได้ถ้าไม่มีเลยมันก็ต้องเติมกันเยอะหน่อยเพื่อสะสมให้เต็ม น้ำมันพุทโธแปลงสภาพจึงเป็นน้ำมันพิเศษที่ใช้ขับใช้ดึงพลังงานในตัวเราออกมาหลอมรวมกับชีวิตจริงเพื่อปลุกศักยภาพความสำเร็จทุกด้านให้ตื่นขึ้น เป็นน้ำมันที่ใช้ได้ทุกเรื่องตามวัตถุประสงค์ พ่ออาจารย์ท่านสมมติว่าบางคนเขาคิดจะเล่นแต่ทางเสน่ห์เพราะรู้ว่าชีวิตตนขาดเสน่ห์เลยขอเปิดศักยภาพทางนี้เฉพาะด้านไปเลยพอพลังงานเปิดออกเท่านั้นแหละได้ภรรยาไปห้าหกสิบคน..แต่ไม่มีเงินเลี้ยงดูใครซักคน..เช่นนี้มันคนใช้ของไม่เป็น..เสียของอย่างแท้จริง ท่านจึงว่าเป็นภัยนักหากนำไปเพียงสนองกิเลสตัณหาของตัวเองหากแต่นำไปใช้งานเพื่อให้เกิดประโยชน์ความสำเร็จสูงสุดท่านจึงจะสนับสนุน

วิธีใช้
*** ห้ามนำน้ำมันไปแต้มคนอื่น..หากตนเองยังไม่มีบารมีมากพอ(เพราะนั่นเท่ากับว่าเราใช้พลังของเราไปเปิดศักยภาพให้เขา) น้ำมันนี้จึงใช้ได้แบบของใครของมันนั่นคือตัวเองใช้กับตัวเองหากมั่นใจว่าชีวิตตนเองดีมีบารมีมากพอแล้วเมื่อนั้นจะสงเคราะห์ผู้อื่นย่อมไม่ผิด
- ให้ฉีดหรือทาน้ำมันใส่หลังมือข้างที่ตนถนัดที่สุดใครถนัดซ้าย..รึขวาก็ฝ่ามือข้างนั้น จากนั้นนำมือทั้งสองมาลูบหลังมือเข้ากันแก้เคล็ดเปลี่ยนห้ามือเป็นหลังมือ..นี่เปิดศักยภาพให้เกิดมาเป็นผู้รับ..จะได้รับอย่างเดียว..ข้าวของ..เงินทอง..มรดก..โชคลาภ
- ให้ฉีดหรือทาน้ำมันใส่ฝ่ามือ..ทำทีละมือข้างไหนก่อนก็ได้..เน้นย้ำให้เป็นบริเวณลายมือของตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าลายมือนี่มันบอกทุกอย่างในชีวิตหมดเลยนะง่ายๆคือทุกสิ่งน่ะอยู่ในมือทั้งสองข้าง..ทำเสร็จแล้วก็กำมือเอานิ้วมือลูบๆน้ำมันข้างนั้นของมันเอง..เช่นนี้เปิดศักยภาพทุกด้านพร้อมๆกัน
- ให้ฉีดหรือทาน้ำมันใส่นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือข้างที่ถนัด นำนิ้วสองข้างมาถูๆแล้วแต้มที่หน้าผาก..จะเปิดศักยภาพการพัฒนาสิ่งต่างให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
- ให้ฉีดหรือทาน้ำมันใส่นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือข้างที่ถนัด แล้วนำมาขยี้ปลายใบหูทั้งซ้ายและขวา..จะเปิดศักยภาพเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ให้คนนิยมชมชอบ
- ใช้ฉีดทาใส่เส้นผมจะดึงดูดผู้พบเห็นให้สนใจมอบความสำคัญให้กับเรา
- ให้พกพาอาราธนาหรือกำขวดน้ำมันไว้ในมือ..ย่อมอธิษฐานไปถึงบุคคล,เทพ,พรหมที่เราเคารพนับถือ
- พ่ออาจารย์ท่านว่าหากตั้งไว้บูชาให้หาพานมารองรับกราบนมัสการได้เช่นกราบพระองค์หนึ่ง
- น้ำมันนี้แบ่งใส่ขวดเล็กๆเพื่อฝังตรงธรณีประตูได้ ท่านว่าคนเดินข้ามไปแล้วต้องกลับมาอีก ใช้เรียกคนเข้ามาได้ไม่ขาดสาย
- หากนำน้ำมันไปแต้มตามเครื่องราง,วัตถุมงคล,หรือเครื่องมงคลจะทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีกำลังฤทธิ์มากขึ้น(วิธีนี้ทำได้ไม่จำกัดเหมือนเปิดศักยภาพ)

เพียงแค่ขอพรจากน้ำมันว่า..หากโลกนี้ยังมีพลังพุทธานุภาพอยู่ ขอให้เราเจริญขึ้นทุกวันคืน..อย่าให้ความเจริญได้หมุนเวียน..ผันเปลี่ยน..หนีหายไปตามกาลด้วยเทอญ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่เน้นให้ทามือเพราะมือกุมเส้นชะตาชีวิตไว้ทุกอย่างตั้งแต่อายุขัย,สมอง,พลัง,โชคลาภ..สิ่งต่างๆมากมายมันบอกอยู่ในมือหมดใช้ทีนึงคุ้มค่าได้ครบทุกอย่างทีเดียว ส่วนคนที่จะอาราธนาพกแทนตะกรุดนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแค่เอาน้ำมันนี้ไปเลี่ยมใหม่แบ่งใส่หลอดห้อยคอเล็กๆก็ใช้แทนตะกรุดได้แล้ว หากแยกเลี่ยมไว้เล็กๆเพื่อห้อยคอนอกจากจะหมุนเวียนถ่ายส่งปรับพลังศักยภาพในกายตนยังเกื้อกูลร่างกายเราด้วยพลังเมตตาอย่างเต็มขั้น พวกคนที่เจ้านายเกลียดขี้หน้าหรือคนที่โดนสังคมรังเกียจเหล่านี้จะกลับตาลปัตรหน้ามือเป็นหลังมือกันเลย แม้แต่พวกที่ความรักเหินห่างคู่ครองไม่สนใจก็จะได้รับการเอาใจใส่อย่างดี..พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ได้จำกัดแค่คู่เรานะแต่มันเป็นเมตตาไปหมดเลย เป็นเมตตาที่จะทำให้คนรอบข้างทนุถนอมเรา..ไม่ใช่แค่รู้สึกดีคุยๆยิ้มๆก็หายแต่กลับเป็นเขาทนุถนอมระวังรักษาเราไว้เอาใจใส่เราดีแบบนี้ ส่วนคนที่ใช้ทางปลุกพลังงานก็ใช้ปลุกได้อย่างแรงเช่นกัน

นางโภควตี
นอกจากนี้ในขวดยังบรรจุใบว่านมหาลาภที่งอกในเรือนอนาถบิณฑิกเศรษฐี ซึ่งนับเป็นของมงคลที่แรงและมีค่าอย่างสูงสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าได้ประมาทใบไม้แห้งๆนี้ไปเลยอะไรที่เกิดขึ้นมาในโลกได้ด้วยบารมีท่านสุทัตตะคหบดีนี่มันหนุนตัวเราได้อย่างถึงที่สุดอยู่แล้ว...ไม่ใช่ใบว่านอายุพันปีนะหากแต่มันเคยเกิดขึ้นในบริเวณที่เป็นเรือนของท่านเท่านั้นและพ่ออาจารย์ก็เก็บรักษาไว้ ท่านว่ามันต้องมีมูลและมีเค้าลางบางอย่างคืออาจจะมีหน่อมีพันธ์อยู่บริเวณนั้นมาแต่เดิมพอต้นเก่าตายลงก็รอเวลาเกิดต้นใหม่..ใครจะไปรู้สองพันกว่าปีก่อนท่านคหบดีอาจจะปลูกว่านไว้จนเป็นเหตุที่มาแห่งความร่ำรวยอันน่าพิศวงนี้ก็เป็นได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของมงคลอย่างสูงสุดจึงบรรจุลงไปให้โดยท่านเรียกว่านนี้ตามญาณรุกขเทวีที่คอยดูแลต้นว่านรวมถึงดูแลต้นไม้ต่างๆในเรือนท่านเศรษฐีว่านางโภควตี พ่ออาจารย์ท่านถือว่าใบว่านนี้มีตระกูลสูงผู้พกพาจะได้เป็นเศรษฐีมีฐานะไปตามๆกันอันเป็นปัจจัยเกื้อหนุนในแหล่งที่มา...ท่านบรรจุใส่ไว้ในทุกๆขวด

น้ำมันพุทโธแปลงสภาพนี้เชื่อว่าหากผู้ใดได้พก..ได้ทา..ได้สัมผัส จะได้พลังงานแห่งพุทธคุณรวมถึงครูว่านยาประทับลงบนตัวนอกจากฟื้นศักยภาพแล้วยังช่วยให้เรามีสง่าราศีไร้ราคีใดๆ..ใครได้ทาได้ใช้พุทธานุภาพจะมอบความรักให้แก่ตน..ตราบใดที่ยังมีพระพุทธคุณอยู่ในโลกเราจะไม่มีวันเสื่อมถอยในเกียรติยศเลย..พ่ออาจารย์ท่านว่าพึงใช้ไปเถอะปลุกศักยภาพในกายตนที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นพร้อมๆกับการบังเกิดของโชคลาภอยู่เนืองๆ..มันจะมีโชคเกิดขึ้นกับคนใช้เสมอจนเป็นที่หวงแหนแก่ผู้ที่ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำมันชุดนี้ไม่มีพรายนะครูแต่โบราณท่านหุงด้วยว่านด้วยยาล้วนๆ กว่าจะได้มาต้องใช้ผงว่านปั้นเป็นหุ่นเทพเจ้าทั้งหลายอันมีนามสำคัญในฉกามาพจรสวรรค์สาธยายพระเวทย์หุงจนกองกูณฑ์อัคคีดับแล้วจึงตั้งพิธีนำน้ำมันถวายพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์ ทำทีละพระองค์..รวม 28 ครั้ง จึงเป็นที่สุดแห่งพุทธานุภาพผสมผสานทั้งพุทธศาตร์แลไตรเพทเวทย์มนต์คาถาว่านยาทำออกมามีจำนวนน้อยมากๆที่สืบทอดกันมา เพราะส่วนใหญ่ได้แข็งเป็นก้อนไปตามกาลเวลาพ่ออาจารย์ต้องนำมาหุงอีกรอบเอาหัวเชื้อล้วนๆนี้นี่คือมูลเหตุที่ทำให้พ่ออาจารย์หวงแหนน้ำมันชุดนี้มาก เพราะท่านทำออกมาได้น้อยมากๆคิดดูว่าลำพังบวงสรวงใหญ่ๆครั้งหนึ่งก็ยุ่งยากแล้วแต่นี่ครูผู้ทำไว้ต้องบวงสรวงถึง 28 ครั้งติดต่อกัน ท่านว่ายุ่งยากซับซ้อน

น้ำมันพุทโธแปลงสภาพนี้จึงใช้จุลเจิมได้ทุกด้านไม่มีข้อห้าม...แต่พ่ออาจารย์ท่านห้ามว่าอย่าเอาไปทำเล่นเพราะท่านเสียดายของด้วยต่อให้ผสมหัวเชื้อไปเจือจางมาใช้ทีละหม้อท่านก็ยังเสียดายอยู่ดี ..ท่านว่าหากจะหุงน้ำมันเช่นนี้ในสมัยนี้ให้สำเร็จต้องใช้เงินหลายแสนบาทและเสียเวลายาวนานมากไม่คุ้มกับการนำไปใช้เล่นกันเลย ใครจะเอาไปใช้ทางเมตตาเพิ่มเสน่ห์ก็อย่าเอาไปใช้กับคนที่มีเจ้าของแล้วก็พอ...และอย่าลืมว่าเป็นน้ำมันที่มีอาถรรพ์รุนแรงชนิดที่ว่าไม่มีผู้ใดถอนมนต์ได้จะฉุดให้เราได้ดีประเสริฐเลิศคนไปตลอดกาลสมัย ท่านว่าแรงมากนะมีแต่จะดีขึ้นทุกวันทุกคืน..ไม่ต้องกลัวไอ้พวกขี้อิจฉามันจะแกล้งถอนพระเวทหรือทำลายอาถรรพ์ศักดิ์สิทธิ์ที่หนุนหลังเราอยู่เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าใครแกล้งเราไปถอดถอนแตะต้องจะทำลายอาถรรพ์ที่เปลี่ยนชีวิตเราให้เป็นยอดคนเช่นนี้ มันผู้นั้นย่อมได้ชื่อว่าถูกอัปรีจัญไรกินตัวเสียจริตไปเพราะน้ำมันนี้หุงขึ้นจากผู้มากบารมีทรงพระเวทย์เป็นผู้วิเศษไม่ใช่ของธรรมดา..ฐานะไม่เท่าเขาก็แก้เขาไม่ได้..แล้วในโลกสมัยนี้จะหาใครมีฐานะเทียบเท่าทั้งชำนาญพระเวทย์ได้อีกเล่า

คาถาบูชา
คาถาต้นบทอาราธนาน้ำมันพุทโธแปลงสภาพของพ่ออาจารย์นั้น ท่านให้อาราธนาว่า
"อันว่าตัวข้าจะนมัสการก็จักทำการไหว้ยังบรมโพธิสมภารแห่งพระบรมโลกนาถตถาคตเจ้า อันมีพระบาทประเสริฐทั้งสองข้างรุ่งเรืองด้วยเครื่องทรง อันมีมหามงกุฎซึ่งมียศอันประเสริฐกว่ามนุษย์และเทวดาทั้งหลาย อันมีปัญญาวุธและฉัพพรรณรังสีสิริวิลาศแผ่รัศมีตระการ อันมีความงดงามซึ่งอาจกำจัดเสียซึ่งสิ่งปิดกั้นชะตาชีวิตผู้ข้าทั้งผอง ขออำนาจบุญและบารมีของพระตถาคตเจ้าอันมีปัญญาวุธและธรรมรังสีแห่งตถาคต ซึ่งเป็นที่ตั้งอยู่แห่งกำลังบุญอันยิ่งใหญ่กว่าสรรพสัตว์หมู่ใดในโลก เป็นที่ตั้งแห่งปัญญาและฉัพพรรณรังสีอันประเสริฐสุดในโลกทั้งสาม จงมาเป็นปิ่นปักยอดมหามงกุฎเป็นธงชัยแต่งร่างเป็นหลักชัยค้ำชะตาชีวิตให้ตัวข้าเหนือกว่าคนทั้งหลายเป็นยิ่งกว่าเทพยดาเจ้าทั้งปวง ด้วยกำลังบุญและปัญญาวุธตลอดจนรัศมีแห่งตถาคตเจ้านั้นแล" แล้วตั้งจิตขอพรว่า( ....หากโลกนี้ยังมีพลังพุทธานุภาพอยู่ ขอให้เราเจริญขึ้นทุกวันคืน..อย่าให้ความเจริญได้หมุนเวียน..ผันเปลี่ยน..หนีหายจากเราไปตามกาลด้วยเทอญ)

### น้ำมันนี้มีวิธีใช้หลากหลายมากๆ หากแต่เป็นของโบราณที่เฉพาะเจาะจงให้ใช้กันในหมู่ผู้ที่มีวาสนาจะได้แปลงสภาพ..แต่งชะตา..ปลุกร่าง..ปลุกพลังแฝง ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีวาสนาได้เปลี่ยแปลงเช่นนี้

### พ่ออาจารย์ท่านจึงได้อธิษฐานต่อครูบาอาจารย์กายทิพย์เจ้าของน้ำมัน ว่าให้เฉพาะเจาะจงในหมู่มนุษย์ที่จะได้สืบทอดใช้งานโดยแท้จริงเท่านั้นให้ได้มาพบและนำไปใช้สร้างเนื้อสร้างตัวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง

### พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เปิดจองและลงข้อมูลเพียงคร่าวๆก่อน รายละเอียดการใช้..โดยละเอียดมากๆ..อันมีวิธีใช้พิศดารมากๆเพื่อให้สำเร็จผลในการแปลงสภาพแต่งชะตาปลุกร่างปลุกพลังแฝงอย่างรวดเร็ว

### พ่ออาจารย์ท่านว่าหัวเชื้อน้ำมันชุดนี้ใครได้ไปถือว่าคุ้มมากเพราะช้อนชานึง สามารถนำไปเจือจางน้ำมันหนึ่งหม้อใหญ่ได้มีอิทธิคุณเสมอกัน..เหมือนเดิม..ไม่ต่างจากของเดิม..ถ้าคนใช้เป็นต่อยอดได้หลายๆหม้อใช้กันไปได้หลายชั่วอายุคน

ร่วมทำบุญบูชา น้ำมันพุทโธแปลงสภาพแต่งชะตาปลุกร่างพลังแฝงกลับกลายสลับฐานะ(จอมคนภะโคหงสา-ขวดสำรอง) บูชา 900 บาท

​

 

ติดตามได้ที่
https://palungjit.org/threads/ร่วมท...ัง-พ่ออาจารย์พล.539894/page-558#post-11670756