ลูกหลานพญานาคที่มาเกิด เพื่อสืบทอดและรักษาพุทธศาสนาให้คงอยู่

รวบรวมเหล่าลูกหลานนาคราชที่มาเกิด ข้อมูลสมบัติ สิ่งเล้นลับ ข้อมูล เกี่ยวกับพญานาค และสิ่งศักดิ์สิทธ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพญานาค ไว้ให้ศึกษา และเก็บรักษาสมบัตินาคราชไว้ให้เหล่าผู้ศรัทธาได้ บูชาเพื่อสืบทอดพุทธศาสนาต่อไป

 

ยินดีต้อนรับทุกท่านนะคับ

 

สมบัตินาคราชที่จะนำออกมาให้ทุกท่านชม และร่วมบูชา เพื่อนำปัจจัยไปสร้างสถานธรรม " กวนจือใจผ่อสัก " เพื่อเป็นที่ สวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิปฏิบัติกรรมฐาน ทางฝ่ายเถรวาท และได้ขอพรต่อองค์พระโพธิสัตว์ และเหล่าเทพทั้งหลายของมหายาน ขอให้บุญนี้จงส่งผลให้ทุกท่านพบเจอแต่ความสุข บุญรักษา เจริญในธรรม

 

ผมเป็นลูกหลานพญานาครึป่าวครับ

 

สถานธรรม " กวนจือใจผ่อสัก " อยู่ที่ไหนครับ

 

สถานธรรม " กวนจือใจผ่อสัก " ตั้งอยู่ที่ 67/13 นิรันฯ 3 ซอยรามคำแหง 2 ถนนรามคำแหง 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.สถานที่เล็กๆไว้สำหรับ นั่งสมาธิ สวดมนต์ของมหายานและเถรวาท พบปะพูดคุย แก้ปัญหาชีวิต และเลี้ยงทานเพื่อเสริมสร้างบารมี

 

ไม่มีใครบอกเราได้ดีมากกว่าตัวเราเองหรอกคับ ถ้าทำดีแล้ว ปฏิบัติถึงพร้อม ไม่ว่าเกิดจากอะไรก็ถือว่าสมบูรณ์ในความเป็นมนุษย์แล้วคับ

 

อันนี้บางส่วนคับที่ไปอัญเชิญมาจากสารคาม เอาออกมาให้ชมกัน ท่านใดสนใจบูชาติดต่อได้เลยนะคับปัจจัยนำไปสร้างสถานธรรม " กวนจือใจผ่อสัก "

 

วันนี้เอาสมบัตินาคราชออกมาให้บูชากัน 3 องค์นะคับ สนใจบูชายังไง ติอต่อได้เลยคับ ปัจจัยร่วมสร้างสถานธรรม




องค์แรกคับ แก้วนาคราชสีน้ำเงินขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เซ็นติเมตร ให้บูชาที่องค์ละ 2,000 บาทคับ > <




องค์ที่ 2 หินสุริยะเทพ หินเสริมพลังเรืองแสง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 เซ็นติเมตร เช่าบูชาที่องค์ละ 999 บาทคับ ^^





องค์ที่ 3 พระแก้วมณีโชติ สีเหลืองทอง สัญฐานนาคปรกเศียรเดียว งามสมบูรณ์มากคับ ยังมีคราบกรุติดอยู่เลย ให้บูชาที่ 3,500 บาท > <

 

ตำนานพระแก้วมณีโชติ (ฉบับย่อ)

พระพุทธศาสนาผ่านไป ๒๕๐๐ ปี จะเกิดกลียุคมนุษย์รบราฆ่าฟันกันเอง โลกมนุษย์จะพบภัยพิบัติจากโรคระบาดที่ร้ายแรงมาคร่าชีวิตผู้คนและสัตว์ให้ล้มตายจำนวนมาก แต่คนที่แขวนพระแก้วมณีโชติติดตัวจะปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายและภัยพิบัติทั้งปวง สมเด็จโตได้นิมิตบอกหลวงปู่ทิพย์พระอรหันต์แห่งถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันท่านได้ละสังขารไปแล้ว ท่านเป็นอาจารย์ของผู้เขียน และอนุญาตให้เปิดเผยเรื่องราวพระแก้วมณีโชติพระแก้วกายสิทธิ์ที่เทวดาสร้างถวายบูชาพระพุทธเจ้า ท่านเล่าว่า
เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่ พระ พุทธองค์ทรงจาริกเทศนาธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ ทรงเสด็จจาริกผ่านมายังดินแดนเมืองฮอด ณ ปัจจุบัน ทรงประทานพระเกศาธาตุและพระพุทธบาทอันสมควร ทรงเล็งด้วยพระพุทธญาณว่าต่อไปที่แห่งนี้จะเป็นที่อุดมในธรรม ภายหน้าเมื่อตถาคตปรินิพพานได้ ๑๐๐ ปี ณ ที่แห่งนี้จะเกิดนครใหม่ที่มีความรุ่งเรืองทางพระพุทธ ศาสนาอย่างมากมีนามว่า ทิพย์มหานคร เมืองนี้ปรากฏพระเถระองค์หนึ่งนามว่า พระธรรมราช เป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธิ์ศักดามาก เป็นที่เคารพนับถือของเหล่ามนุษย์และพญานาตลอดจนเทวดาทั้งหลาย พระ ธรรมราชคิดว่าพระพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองได้ต้องให้คนทั้งหลายระลึกถึงพระ พุทธคุณ จึงคิดจะสร้างพระพุทธรูปองค์เล็กจำลองเป็นรูปของพระพุทธเจ้า เพื่อให้เป็นที่พึ่งของเหล่ามนุษย์ แต่จะสร้างด้วยทองคำหรือเงินก็จะทำให้มนุษย์เกิดความโลภทำอันตรายต่อรูปจำลองของพระพุทธเจ้า ความคิดนี้รู้ไปถึงมหาพรหมผู้มีนามว่า ชินนะปัญจะระ ท่านจึงแปลงร่างเป็นชีปะขาว นำเอาแก้วมณีโชติที่ถือเป็นแก้วกายสิทธิ์อยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิตมาถวายให้พระธรรมราช พระธรรมราชจึงให้ช่างแกะสลักในเมืองช่วยกันแกะเป็นรูปจำลองของพระพุทธเจ้า ปรากฏว่าช่างแกะสลักไม่สามารถที่จะแกะสลักแก้วมณีโชติได้ พวกช่างปรึกษากันด้วยจนปัญญา ความนี้ทราบถึงพระอินทร์จึงสั่งให้เทวดาประจำวันทั้ง ๗ องค์ แปลงร่างเป็นมนุษย์ลงมารับอาสาแกะสลักแก้วมณีโชติเป็นรูปจำลองของพระพุทธเจ้า ด้วยการแกะสลักเป็นพระพุทธรูปองค์เล็กใช้ติดกาย และองค์ใหญ่สูงครึ่งคืบไว้ประจำบ้านเมือง เพียงใช้เวลา ๗ วันแกะได้ ๘๔,๐๐๐ องค์
เมื่อ สร้างเสร็จแล้วพระธรรมราชจึงประชุมกับเจ้าเมืองและชาวเมือง เพื่อจัดงานทำบุญฉลองสมโภชพระแก้วมณีโชติ ท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระและพระอินทร์จึงแปลงร่างเป็นชีปะขาวมาร่วมในงานฉลอง ด้วย เมื่อถึงเวลาพระธรรมราชเป็นผู้เจริญพระพุทธมนต์ ชีปะขาวทั้งสองเจริญทิพย์มนต์บูชาพระพุทธเจ้า และมีการจุดบ้องไฟเป็นพุทธบูชานับได้ ๑๐๘ กระบอก ชาวเมืองพร้อมใจกันจุดบ้องไฟ เมื่อจุดบ้องไฟติดพวกช่างแกะสลักทั้งเจ็ดและชีปะขาวทั้งสอง ก็กระโดดขึ้นนั่งบนหัวบ้องไฟ บ้องไฟได้พาเอาร่างชีปะขาวและช่างแกะสลัก สูงขึ้น สูงขึ้น จนหายเข้ากลีบเมฆไปในที่สุด ชาวเมืองจึงรู้ว่าเทวดาแปลงร่างมาเป็นช่างแกะสลักและชีปะขาว จึงพากันส่งเสียงแซ่ซ้อง สาธุ สาธุ กึกก้องอึงคะนึงไปทั่วทั้งเมือง ท่านมหาพรหม ชินนะปัญจะระจึงประพรมน้ำพุทธมนต์ อวยพรอวยชัยโดยบันดาลให้ฝนทิพย์ตกลงมาทั่วเมือง เสร็จงานแล้วชาวเมืองช่วยกันขุดหลุมลึก ๗ ศอก ๕๖ หลุม นำเอาพระทั้งหมดใส่ไห ๕๖ ไห ฝังในหลุมและกลบอย่างดี พระธรรมราชขอให้พญานาคชื่อ พญาศรีเสน เป็นผู้เฝ้ารักษาไม่ให้ผู้ใดมาเหยียบย่ำที่แห่งนี้
ศาสนาตถาคตผ่านไป ๒๕๐๐ ปี พระแก้วมณีโชติจะถูกนำขึ้นมาให้มนุษย์สักการบูชากราบไหว้ เป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวของคนดีมีศีลธรรม ที่เคารพนับถือพระพุทธเจ้า มนุษย์ที่ได้ครอบครองพระแก้วมณีโชติจะปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลาย ทั้งปวง มีความสุขสมบูรณ์ เจริญด้วยโภคทรัพย์ เทวดาปกปักษ์คุ้มครองรักษา เมื่อนั้นพระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปจนครบ ๕๐๐๐ ปี ตามพุทธพยากรณ์

สมเด็จโตผู้นิมิตพบท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระเมื่อครั้งธุดงค์ไปที่กำแพงเพชร ท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระได้สอนคัมภีร์ธรรมศาสตร์ และพิธีการปลุกเสกพระเครื่อง ทำให้พระสมเด็จของท่านมีชื่อเสียงเลื่องลือระบือนามไปทั่วทิศ พร้อมทั้งบอกเล่าตำนานพระแก้วมณีโชติ และบอกให้สมเด็จโตไปเอาพระแก้วมณีโชติมา ๕ ไหเก็บรักษาไว้ ในภายภาคหน้าจะเป็นประโยชน์ในการช่วยทำนุบำรุงพระ พุทธศาสนาอยู่ครบ ๕๐๐๐ ปี สมเด็จโตพร้อมศิษย์จึงเดินทางมาที่เมืองทิพย์ มหานครและได้พบกับพญานาคผู้รักษาพระแก้วมณีโชติ พญานาคได้พ่นไฟพิษเข้าใส่ สมเด็จโตจึงภาวนานึกถึงท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระ ไฟพิษของพญานาคไม่สามารถทำอันตรายได้ สมเด็จโตบอกพญานาคว่าท่านมหาพรหม ชินนะปัญจะระใช้มาจริงไม่ได้พูดเท็จ จึงมอบพระแก้วมณีโชติให้สมเด็จโต ๕ ไห สมเด็จโตนำเอามาเก็บไว้ที่กุฏิท่านโดยให้วิญญาณผู้หญิงเป็นผู้เฝ้าดูแล ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ไหของสมเด็จท่าน ด้วยเกรงกลัวอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณของหญิงสาวนั้น ที่ชอบปรากฏตัวให้ผู้คนเห็น ก่อนสมเด็จโตจะมรณภาพ ท่านได้นำเอาไหทั้ง ๕ ใบไว้บนเพดานโบสถ์วัดระฆังโดยไม่มีใครรู้ เวลาผ่านไป ๑๐๐ ปี สมเด็จโตได้นิมิตบอกผ่านหลวงปู่ทิพย์ได้รับรู้ถึงนิมิตตำนานพระแก้วมณีโชติ และก่อนที่ท่านจะละสังขารได้มอบพระแก้วมณีโชติให้ศิษย์ของท่านเป็นผู้ดูแลเก็บรักษาไว้ และอนุญาตให้เปิดเผยเล่าเรื่องราวตำนานพระแก้วมณีโชติให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้รับรู้ เพื่อช่วยกันสืบอายุพระพุทธศาสนาให้ครบ ๕๐๐๐ ปี

 

เมื่อวันนี้ 13 กุมภา ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดของพี่ท่านนึง เลยจัดสวดมนต์และนั่งสมาธิกันที่สถานธรรม แต่ด้วยบุญบารมีของและความศรัทธา เลยได้ของขวัญวันเกิดเสด็จมาเล็กน้อยคับ ^^

 

ความแตกต่างระหว่างเพชรนาคา แล้วก็แก้วนาคราชนะคับ

แก้วนาคราชคือ ดวงจิตของนาคราช 1 องค์ ที่ละสังขารจากความเป็นนาครอมาเกิดเป็นมนุษย์หรือเป็นเทพต่อไป จะขึ้นอยู่กับสี ขนาด แก้ว 1 ลูก คือพญานาค 1 องค์ จึงควรจะดูแลรักษาดีๆ

ส่วน เพชรนาคา คือ 1 ในสมบัตินาคราช เกิดจากการตกของฝนโบกขรณี ตอนที่พุทธองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์หลังจากที่ขึ้นไปโปรดพุทธมารดา ฝนนี้ตกลงถึงพื้นจะเกิดเป็นแก้ว เป็นเพชรสารพัดสี สวยงาม บ้างก็ตกลงบนดิน บางก็ตกลงในน้ำ สัญฐานดั่งเดิม คือ วงกรม วงรี และหยดน้ำ ที่เหลือเกิดจากมนุษย์ยุคเก่าพบเจอและเห็นว่ามีพลังในตัวเลยน้ำมาแกะเป็นรูปต่างๆ มากมาย ดังที่เราเห็นในทุกวันนี้ สมบัติพวกนี้มีพลังงานในตัวเอง จึงทำให้มนุษย์ลุ่มหลงและแกร่งแยกกัน จนเกิดปัญหาใหญ่ พญานาคเลยทำหน้าที่เก็บรักษาไว้

ณ ตอนนี้ใกล้ถึงกาลียุค พญานาคที่เก็บรักษาไว้เลยนำสมบัติเหล่านี้ออกมาให้ลูกหลานและผู้ที่ศรัทธา เอามาใช้เพื่อรักษาตัว และใช้พลังจากสมบัติเหล่านี้เพื่อดูแลพุทธศาสนาต่อไป

 

บอกก่อนเลยนะคับ ว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่อง อจินไตย เป็นตฃควมเชื่อ และความศรัทธาส่วนบุคคล ถ้าเรามีศรัทธาปาฏิหารย์ย่อมเกิดได้ ถ้าเมื่อใดที่เราไร้ซึ่งศรัทธาแล้ว ปาฏิหารย์ก็เป็นเพียงเรื่องเหลวไหล ต้องศรัทธาคับ พลังของสมบัติเหล่านี้ถึงจะช่วยคุณได้......



สมบัติชุดนี้ได้จากการอัญเชิญเสด็จ เมื่อประมาณกลางเดือนก่อนคับ วัตถุประสงค์เพื่อนำมาร่วมสร้างสถานธรรม " กวนจือใจผ่อสัก "