"วัดกุดเรือคำ" หลวงปู่คำฟอง เขมจาโร (พระครูพิพิธธรรมสุนทร )

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย แดนโลกธาตุ, 20 พฤศจิกายน 2006.

  1. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    แนวบริกรรมภาวนาบทพุทโธ

    <CENTER>
    [​IMG]

    </CENTER><CENTER>[ พระอุโบสถหลังปัจจุบันของวัดกุดเรือคำ ] </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>

    <CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>พ่อแม่ครูบาอาจารย์พระครูพิพิธธรรมสุนทร</CENTER><CENTER>(หลวงปู่คำฟอง เขจาโร )</CENTER><CENTER>เจ้าอาวาสวัดศรีสำราญ ต.กุดเรือคำ อ.วานรนนิวาส</CENTER><CENTER>จ.สกลนคร </CENTER><CENTER>(สายธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต )</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>---------------------------------------------</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>ประวัติวัดกุดเรือคำ</CENTER><CENTER></CENTER>
    วัดกุดเรือคำ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ ณ บ้านกุดเรือคำ หมู่ที่ ๑ บ้านกุดเรือคำ ตำบลกุดเรือคำ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร มีเนื้อที่ ๓๐ ไร่ ๑ งาน ๘๐ วา โดยที่ชาวบ้านมีความเห็นร่วมกัน จัดสรรที่ดินว่าง ไม่มีใครเป็นเจ้าของให้เป็นที่ตั้งวัด พร้อมกับจัดสร้างเสนาสนะขึ้นพอเป็นที่พักสงฆ์ เสร็จแล้วก็ไปหานิมนต์พระภิกษุสามเณรจากวัดอื่นมาพำนักจำพรรษา เพราะในสมัยนั้น ถ้าหากชาวบ้านจะย้ายบ้านอพยพไปตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ ที่ใด จำเป็นจะต้องจัดหาที่ตั้งวัดขึ้นด้วย เพราะชาวบ้านทุกคนเป็นผู้มีจิตใจมั่นคงในพระพุทธศาสนา ยึดเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกอยู่เสมอ
    วัดกุดเรือคำ ได้นามมาจากบ้านกุดเรือคำ ในสมัยหนึ่งนานมาแล้ว ประมาณ พ.ศ. ๒๔๔๗ หมู่บ้านแห่งนี้ ได้อพยพถิ่นฐานมาจากจังหวัดอุบลราชธานี มาตั้งถิ่นฐานใหม่อยู่ใกล้กับลำห้วยสายหนึ่งซึ่งไหลมาบรรจบลงที่ทุ่งนา ชาวบ้านแถวนั้นนิยมเรียกว่า "กุด" ตามที่คนเฒ่าคนแก่ได้กล่าวไว้ว่า ในกุดแห่งนี้เดิมมีเรือคำอยู่ลำหนึ่ง เป็นทองคำทั้งแท่ง ยาวประมาณ ๑ เมตร ซึ่งเป็นสมบัติของพวกเทพ เมื่อผู้ใดมีความประสงค์อยากจะดู ก็ไปกราบไหว้อ้อนวอนขอดู พวกเทพผู้รักษาก็จะบันดาลให้เรือคำลำนั้นผุดขึ้น มาลอยลำให้ดูจนเป็นที่พอใจ เพราะคนในยุคนั้นเป็นคนซื่อสัตย์สุจริตจริงๆ เหล่าเทพอารักษ์ก็เชื่อในความซื่อสัตย์ของมนุษย์ ต่อมาภายหลังพวกมนุษย์ ถูกความโลภ โกรธ หลง เข้าครอบงำจิตใจก็ทำให้เปลี่ยนไป คิดจะเอาเรือคำ ลำนั้นมาเป็นสมบัติของตน จึงได้คิดหาวิธีการต่างๆ เป็นต้นว่า หาหมอผี ไปทำพิธีสวดขับไล่เทพที่รักษา จนในที่สุดผู้ไปทำพิธีนั้นก็มีอันเป็นไปแก่ชีวิตไปทุกคนในกาลอันไม่สมควร นับแต่นั้นมาจนถึงบัดนี้ เรือลำนั้นก็ไม่ปรากฏให้ผู้ใดเห็นอีกเลย ด้วยเหตุดังกล่าวมา หมู่บ้านที่ตั้งขึ้นใหม่จึงได้นามว่า บ้านกุดเรือคำ พร้อมกับตั้งชื่อวัดเป็นวัดกุดเรือคำตามชื่อของหมู่บ้าน
    ต่อมาวัดกุดเรือคำก็มีพระภิกษุสามเณรอยู่จำพรรษามาเรื่อยๆ แต่ไม่ปรากฏว่าเจ้าอาวาสชื่ออะไร จนกระทั่งถึง พ.ศ. ๒๔๘๐ ด้มีท่านพระครูอดุลสังฆกิจ (เถื่อน อุชุกโร) ซึ่งเป็นลูกหลานของชาวบ้านกุดเรือคำ ได้ไปศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติที่วัดมณีชลขันธ์ จังหวัดลพบุรี - และวัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ จากพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ( จันทร์ สิริจันโท ) เมื่อได้ศึกษาเล่าเรียนจบเปรียญธรรม ๕ ประโยคแล้ว จึงได้กลับมาเป็นเจ้าอาวาส ได้เริ่มทำการพัฒนาจิตใจแก่ภิกษุสามเณรและชาวบ้าน และทั้งศาสนวัตถุ และศาสนธรรม โดยได้จัดตั้งการศึกษาพระปริยัติธรรมขึ้น เพื่ออบรมสั่งสั่งสอนพระภิกษุสามเณร และเยาวชนให้มีความรู้ความเข้าใจในด้านคุณธรรม พร้อมกันนั้นก็ได้ขออนุมัติตั้งเป็นสำนักเรียน สำนักสอบพระปริยัติธรรมสืบมาจนถึงทุกวันนี้


    <CENTER>[​IMG] </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>พระอุโบสถวัดกุดเรือคำ</CENTER><CENTER>และที่บรรจุอัฐิธาตุหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>--------------------------------------------</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>

    ในปี พ.ศ. ๒๔๘๕ วัดกุดเรือคำรับพระราชทานวิสุงคามสีมา กว้าง ๔๐.๐๐ เมตร ยาว ๘๐.๐๐ เมตร และได้ลงมือทำการก่อสร้างอุโบสถขึ้นเป็นหลังแรกในเขตอำเภอวานรนิวาส กว้าง ๗.๐๐ เมตร ยาว ๒๑.๐๐ เมตร พระประธาน ในอุโบสถเป็นปูนปั้น หน้าตักกว้าง ๒.๐๐ เมตร ด้านหน้าอกด้านซ้ายขององค์พระ ประธานได้อาราธนา อัฐิธาตุพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต เข้าบรรจุไว้เป็นที่สักการะบูชากราบไหว้าของพระภิกษุสามเณร และชาวพุทธทั้งหลายในถิ่นนั้น เป็นพระประธานที่ศักดิ์สิทธิ์มาก
    • ในปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ได้จัดงานทำพิธีผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตอุโบสถ
    • ในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ วัดกุดเรือคำ ได้เป็นสำนักงานเจ้าคณะอำเภอ ฝ่ายธรรมยุตจนถึง ปัจจุบัน
    • ในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ ได้ทำการก่อสร้างโรงเรียนปริยัติธรรมขึ้น ๑ หลัง เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาปริยัติธรรม
    • ในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ฯพณฯ ท่านจอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์ ในครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้เลือกสรรเอาบ้านกุดเรือคำ เป็นสถานที่ตั้งหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ กรป.กลาง โดยขออนุญาตใช้บริเวณวัดกุดเรือคำ เป็นสถานที่ตั้งหน่วยพัฒนาการ ที่พักของเหล่าทหารและเจ้าหน้าที่ของหน่วยพัฒนาการ พร้อมกับได้จัดสรรเงินจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ซ่อมแซมหลังคาอุโบสถ โดยท่านพระครูอดุลสังฆกิจ ก็ได้อนุญาต เพื่อให้ความร่วมมือในการพัฒนาบ้านเมือง ในปีนั้นก็ได้มีพระมหาเถระจากกรุงเทพฯ มาตรวจเยี่ยมวัดและเยี่ยมหน่วยพัฒนา พร้อมกับนำต้นพระศรีมหาโพธิ์ จากประเทศอินเดียมาปลูก คือ เจ้าพระคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พิมพ์ ธมฺมธโร) วัดพระศรีมหาธาตุ กรุงเทพฯ ในครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระพรมมุนีและเจ้าพระคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณฺณโก) วัดจักรวรรคดิราชาวาส กรุงเทพฯ เมื่อครั้งยังเป็น พระธรรมธีรราชมหามุนี พร้อมด้วยพันเอกปิ่น มุทุกันต์ เมื่อครั้งเป็นอธิบดีกรมการศาสนา
    • ในปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ท่านพระครูอดุลสังฆกิจ เจ้าอาวาส ก็ได้มรณภาพลง พระเถรานุเถระตลอดทั้งญาติโยมก็ได้มีความเห็นตกลงกันให้ไปนิมนต์พระครูพิพิธธรรมสุนทร เจ้าอาวาสวัดศรีสำราญ มาเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส จึงถึง พ.ศ. ๒๕๑๗ ท่านก็ได้ย้ายกลับไปวัดศรีสำราญ ก็ได้พระครูโกวิทสังฆการ ซึ่งเป็นศิษย์วัดกุดเรือคำ เป็นเจ้าอาวาสสืบมาจนถึงปัจจุบัน ได้ทำการพัฒนาก่อสร้างเสนาสนะ คือได้ก่อสร้างโรงเรียนปริยัติธรรมเป็นอาคารคอนกรีต ๒ ชั้น กว้าง ๑๒.๐๐ เมตร ยาว ๓๐.๐๐ เมตร แทนหลังเก่า และดำเนินการศึกษาปริยัติธรรม เป็นลำดับมา มีพระภิกษุสามเณรและเยาวชนเข้าเรียนนักธรรม และธรรมศึกษาทุกๆ ปี ๆ ละไม่น้อยกว่า ๓๐๐ คนเศษ
    • ในปี พ.ศ. ๒๕๓๑ - ๒๕๓๒ ได้จัดการศึกษาปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลีโดยพระมหาเปรียญมาจากวัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานีมาเป็นครูสอน
    • ในปี พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้ขอพระมหาเปรียญบันฑิต จากวัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ ๒ รูป ผ่านสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย วัดบรวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ และขอพระมหาเปรียญจากวัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี อีก ๒ รูป มาทำการสอนทั้งนักธรรม - บาลี มีนักธรรมและธรรมศึกษาเข้าเรียน รวม ๔๗๕ คน บาลี ๑๒ รูป
    • พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระญาณวโรดม เลขาธิการคณะธรรมยุตวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ มาตรวจเยี่ยมการศึกษาที่วัดกุดเรือคำ ๒ ครั้ง ครั้งแรกในเดือน ธันวาคม ๒๕๓๓ ครั้งที่ ๒ ในเดือนพฤาภาคม ๒๕๓๔
    • ในปี พ.ศ.๒๕๓๒ คณะกรรมการวัดและกรรมการหมู่บ้านกุดเรือคำ ได้ทำการรื้ออุโบสถหลังเา เพราะชำรุดมา
    • ในปี พ.ศ. ๒๕๓๓ จึงได้เริ่มลงมือก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ในที่เก่า โดยสร้างใชงบประมาณ ๔ ล้านบาท ได้รับความอุปถัมภ์จากท่านเจ้าคุณพระญาณเวที เมื่อยังดำรงตำแหน่ง เป็นพระครูวิสุทธิญาณสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม และได้สร้างเสร็จสมบูรณ์ ใน พ.ศ. ๒๕๓๕ ใช้เวลาก่อสร้าง ๓ ปี พร้อมกันนั้นก็ได้ก่อสร้างหอระฆัง ซ่อมแซม ต่อเติม ศาลาการเปรียญ ได้ก่อสร้างโรงเรียนปริยัตธรรม ฌาปณสถาน (เมรุ) และศาลาบำเพ็ญกุศล และอื่นๆ
    ลำดับเจ้าอาวาส
    • พระครูอดุลสังฆกิจ ( หลวงปู่มหาเถื่อน อุชุกโร)(มรณภาพแล้ว)
    เป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๐ - ๒๕๑๓


    ----------------------------------------------------


    [​IMG]


    • พระครูโกวิทสังฆการ (พระอาจารย์สัมภาส โกวิโท )เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๘ จนถึงปัจจุบัน
    -----------------------------------------------------------

    ชมภาพงานพระราชทานเพลิงศพพระครูพิพิธรรมสุนทร
    (หลวงปู่คำฟอง เขมจาโร )

    http://www.relicsofbuddha.com/webboard/aspboard_Question.asp?GID=155
    -----------------------------------------------------------

    ท่านใดที่ต้องการไปปฏิบัตฺธรรมที่วัดกุดเรือคำ
    กรุณาสอบถามได้ที่ เบอร์ 042 - 764005
    เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันคือ พระครูโกวิทสังฆการ (หลวงปู่ภาส ) ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...