วัตถุมงคล.คณาจารย์ทั่วไทย..พุทโธน้อย..หลวงปู่จรัญ.วัดอัมพวัน.คุณแม่บุญเรือน..หลวงปู่ดู่..วัดสะแก..อื่นๆๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ญาณวโร นามะ, 18 เมษายน 2015.

  1. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    ให้บูชาพระเครื่อง วัตถุมงคล หลากหลายรายการ ค่าจัดส่ง50บาททั่วประเทศครับรับประกันแท้ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน โดยไม่มีเงื่อนไขครับ (พระต้องกลับมาสภาพเดิมครับ)
    ท่านที่สนใจจองได้ไม่เกิน3วัน โอนเงินได้ที่รายละเอียดที่อยู่ด้านล่าง หลังจากโอนแล้ว รบกวนโทร.หรืออีเมล์มาบอกชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่งด้วยครับ
    ติดต่อสอบถามได้ที่
    - Pm
    - เบอร์โทร 0817933946
    ชำระเงินได้ที่
    ธ.กรุงไทย สาขา ศรีย่าน
    ชื่อบัญชี นายวรัญญู เล้ารัตนอารีย์
    เลขที่บัญชี 012-0-14398-4
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2015
  2. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่1 พระรอด วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ พ.ศ.๒๔๙๖ **ลูงจิ๋วนิมนต์แล้วครับ**
    ประวัติการสร้าง พระรอด วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ พ.ศ.๒๔๙๖
    ในการสร้างพุทธสถานเชียงใหม่ ซึ่งได้กระทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ณ บริเวณวัดอุปคุต เชิงสพานเนาวรัตน์ เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๖ เวลา ๑๑.๔๕น. ตรง และในเดือนเดี่ยวกันนั้นเอง ตรงกับวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๗ ปี มะเส็ง จัตวาศก จุลศักราช ๑๓๑๕ วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๖ เริ่ม พิธี ๙.๒๑ น. ๔๑ วินาที และเริ่มจุดเทียนไชย เวลา ๑๙.๒๙ น. พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ ประธานกรรมการจัดสร้างพระรอด พร้อม ด้วยคณะกรรมการพุทธสถานก็ได้รวมกันประกอบพิธีมหามงคลสร้างพระรอด ๘๔,๐๐๐ องค์ เพื่อสมทบทุนสร้างพุทธสถานแห่งนี้
    พระรอดรุ่นเก่าสมัยโบราณหรือที่สร้างก่อนพระรอดรุ่นนี้ ได้เนื้อดินมาจากแห่งหนตำบลใดที่เป็นปัญหาแรกที่ต้องคิดเพราะการสร้างพระรอดนั้นจะต้องทำให้ถูกต้องตามหลักวิชาทางไสยศาสตร์ ข้าพเจ้าจึงได้ไปกราบเรียนหารือกับ พล.ร.ต. หลวงสุวิชาญแพทย์ รน. เจ้ากรมเเพทย์ทหารเรือในปัจจุบัน เพื่อได้ตรวจสอบทางทิพยญาณจักษุ ก็ได้รับทราบว่าพระรอดเกือบทุกรุ่นใช้ดินบริเวณทิศเหนือของวัดพระคงจังหวัดลำพูนแต่การที่จะไปขอดิน ณ บริเวณดังกล่าวแล้วจะต้องตั้งศาลเพียงตาอาราธนาขอจากพระพุทธรูปและเทวดาที่รักษา เมื่อขุดลงไปประมาณ ๓ ศอกก็จะพบดินที่ต้องการ ข้าพเจ้าจึงได้เรียนให้คณะกรรมการพุทธสถานรับทราบและดำเนินการจนได้ดินเพียงพอแก่ความต้องการ ซึ่งดินบริเวณนี้เมื่อได้นำมาสร้างพระรอดแล้ว เนื้อองค์ของพระรอดจะแข็งแกร่ง หาอะไรเปรียบมิได้
    ดินทั้งหมดที่ได้มานี้ ข้าพเจ้าได้ให้อาจารย์ผู้ทรงคุณละลายดินด้วยน้ำพระพุทธมนต์พุทธาภิเศก น้ำมนต์พระคาถาแสน น้ำมนต์ ร้อยที่และกลั่นกรองด้วยผ้าขาวสะอาดเอาแต่ผงละเอียดอ่อนซึ่งมีลักษณะเหมือนแป้ง แล้วผสมด้วยผงพระธาตุ ผงพระเบิม ผงพระเลี่ยง ผงพระคง ผงพระรอด ผงพระสมเด็จพุฒาจารย์ ประกอบด้วยผงตรีนิสิงเห ผงปัทมัง ผงพุทธคุณ และผงอิทธิเจของคณาจารย์รุ่นเก่า เช่นหลวงพ่อวัดมะขามเฒ่า หลวงพ่อทองคำวัดหนามแตง และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ผสมเคล้ากันจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว จึงปั้นเป็นก้อนกลมขนาดผลส้ม ส่งดินนี้ไปให้อาจารย์ฉลองเมืองแก้วชึ่งท่านทั้งหลายจะทราบกิติศัพท์ว่าอาจารย์ผู้ที่เสกตะกรุดทองลอยน้ำ เสกข้าวสารเป็นกุ้ง เป็นผู้ทำพิธีใส่ธาตุที่กรุงเทพฯ เสร็จพิธีใส่ธาตุแล้ว นำไปจัดพิมพ์ที่จังหวัดลำพูนด้วยแม่พิมพ์ ๑๑ อันได้พระรอด ๑๑ สีพอดี

    เมื่อได้เวลาฤกษ์ พระมหาราชครูวามมุนี กับท่านพราหมณ์ พระครูศิวาจารย์ แห่งกรุงเทพฯพร้อมด้วยคณะเป็นประธานฝ่ายพราหมณ์มหาปัญจพิธีพร้อมด้วยโอมอ่านศิวะเวทย์ อัญเชิญท้าวเทพยะดา ทั้งหลาย ท่านฤาษีผู้ทรงคุณวุฒิ คือ ฤาษีเทว หรือ ฤาษีวาสุเทพ ซึ่งสิงสถิตย์อยู่อุฉุจบรรพตริมแม่น้ำโรหินี (น้ำแม่ขาน) ฤาษี สุขทันตะเขาสามยอดเมืองละโว้ ฤาษีอนุสิษฎ์สถิตย์อยู่หะสิกะวัลลีนคร (ศรีสัชนาลัย) ฤาษีพุทธะชลิต ซึ่งสถิตอยู่ดอยขุหะระบรรพต แม่น้ำสารนัทที (ดอยมา) ฤาษีสุพรหมสถิตอยู่ ณ ดอยงามใกล้แม่น้ำวัง และฤาษีนารอด ซึ่งเป็นองค์ปฐมแรกในการสร้างพระรอดกับอัญเชิญวิญญาณพระนางจามเทวี กษัตริย์ทุกพระองค์ในกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยาและกรุงลานนาไทย และกรุงรัตนโกสินทร์ เวลา ๑๙.๒๙ ประกอบพิธีจุดเทียนไชย พระมหาราชครูวามมุนี อ่านโองการชุมนุมเทวดาและสรรเสริญพระรัตนยาธิคุณ เสร็จแล้ว พราหมณ์เป่าสังข์แกว่งปัณเฑาะว์ ครั้นแล้วพระครูวามมุนี อาราธนาพระปริต พระธรรมราชานุวัตร กับคณาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษสวดพระปริต พระสูตรต่างๆ จบแล้วพระคณาจารย์ทั้งหมดนั่งปรกบริกรรมปลุกเศกตลอดคืน พิธีนี้ พล.ร.ต. หลวงสุวิชาแพทย์ รน. ได้มาร่วมในพิธีตลอดเวลา ปรากฏว่าผู้ใดได้พระรอดรุ่นนี้ไปบูชา จะมีโชคชัย ปลอดภัย สวัสดิมงคล และเป็นมหานิยม มหาอำนาจ คงกะพันชาตรี โภคทรัพย์ ซึ่งจะหามิได้ต่อไปอีกแล้ว

    เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ ของพระรอดรุ่นนี้ พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ ได้อาราธนาพระราชาคณะตามอารามต่างๆ คือ
    1. เจ้าคุณศรีสมโพธิ์ วัดสุทัศน์

    2. เจ้าคุณสีหสุวรรณวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดลำปาง

    3. เจ้าคุณเมธีสมุทเขตต์ วัดเจริญสุขาราม ราชบุรี

    4. เจ้าคุณภาวนาภิราม วัดระฆัง

    5. เจ้าคุณภาวนาโกศลเถระ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

    6. พระครู ทักษิณานุกิจ (หลวงพ่อเงิน)

    7. พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก

    8. พระครูสุนทรสังฆกิจ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

    9. พระครูอาคมสุนทร วัดสุทัศน์

    10.พระครูวิสุทธิรังษี วัดใต้ กาญจนบุรี

    11.พระครูโต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี อ.ภาษีเจริญ ธนบุรี

    12.พระครูพักตร์ วัดบึงทองหลาง

    13.พระครูมหาศรีสุนทร วัดหลวงสุวรรณาราม ลพบุรี

    14.พระครูใบฎีกาประหยัด วัดสุทัศน์

    15.พระครูสังข์ วัดสัมพันธวงศ์

    16.พระอาจารย์จัน วัดคลองระนงค์ นครสวรรค์

    17.พระอาจารย์โพธิ์ วัดราชโยธา อ. มินบุรี

    18.พระอาจารย์ พี วัดสวนพลู

    19.พระธรรมธรหลาย จ.ชลบุรี

    20.พระปลัดตังกวย วัดประดู่ฉิมพลี ภาษีเจริญ ธนบุรี

    21.ท่านอาจารย์ยัง วัดบางจาก นนทบุรี

    22.ท่านอาจารย์ทบ อ.กิ่งชนแดน จ.เพ็ชรบูรณ์

    23.ท่านอาจารย์สำอาง วัดเขาดิน จ.กาญจนบุรี

    24.อาจารย์แฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี

    25.หลวงพ่อนอ ท่าเรือ จ.อยุธยา

    26.หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ จ.นครสวรรค์

    27.หลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ

    28.หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวัน อ.บางเลน จ.นครปฐม

    มาร่วมในพิธีสวดปริตและบริกรรมปลุกเศกด้วยยอดคาถาแห่งสูตรต่างๆ พร้อมด้วยกฤตยาคมเวทย์มนต์ศิวเวทย์พระวิษณุเวทย์ สวดชัยมงคลคาถาพุทธลักษณะและพุทธภิเศกตลอด ๓ วัน๓ คืน ในระหว่างที่พระคณาจารย์ต่างๆ นั่งปลุกเศกบริกรรมนี้มีนิมิตรต่างๆ อันเป็นมงคลยิ่งดังที่จะขอกล่าวต่อไปนี้

    บริเวณพระที่ ที่ตั้งโต๊ะสังเวย วิญญาณของพระนางจามเทวี อดีตกษัตริย์ทุกพระองค์แห่งกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงรัตนโกสินทร์ กรุงลานนาไทย ณ บริเวณหน้าพระอุโบสถวัดพระสิงห์ ได้มีหมู่ผีเสื้อบินมาวนเวียนอยู่เหนือเครื่องสังเวย อย่างมากหลายเป็นมหัศจรรย์ ได้เรียนถาม พล.ร.ต. หลวงสุวิชาญเเพทย์ ได้ รับตอบว่าวิญญาณอดีตกษัตริย์ทุกพระองค์ตลอดจนลูกหลานเหลน ได้มาชุมนุมรับเครื่องสังเวยพร้อมเพรียงกัน ทุกพระองค์ทรงชื่นชมยินดีที่ได้มีการสร้างพระรอดรุ่นนี้ พล.ต. เจ้าราชบุตร อดีตเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ถึงกับปลื้มปีติน้ำตาไหลเมื่ออ่านโองการถึงพระนามของกษัตริย์แห่งกรุงลานนาไทย ทุกพระองค์ และโดยเฉพาะเจ้าแก้วนวรัตน์ ซึ่งเป็นพระราชบิดาของท่าน



    เวลา ๑๗.๐๐ น. พระธรรมธรหลาย ได้นิมิตร เห็นขณะที่นั่งปรกบริกรรม ว่ามีพระแก้วขาวปรากฎ มีผู้หญิงแต่งตัว

    โบราณเป็นผู้รักษา มีพระอาจารย์แก่ๆ ๒ องค์มาด้วย



    เวลา ๒๑.๕๐ น. ได้เรียนถาม พล.ร.ต. หลวงสุวิชาแพทย์ ว่าตามที่อัญเชิญดวงวิญญาณต่าง ๆ ให้มาประทับเป็น

    ประธานในพิธีนั้นมาทุกพระองค์หรือไม่ ก็ได้รับตอบว่าทุกพระองค์รวมทั้งฤาษีที่สำเร็จ-มาหมด

    (ขอที่บดยา ๑ ที่ด้วย)



    เวลา ๒๒.๐๐ น. หลวงพ่อสำเนียง นิมิตรเห็นมีพระพุทธรูปทองคำลอยอยู่ในวงสายสิน ๕ องค์ และมีรัศมีพุ่งเป็นรังษี

    และมีเทพบุตร เทพธิดา อยู่รอบ ๆ ถือดอกไม้ธูปเทียนบูชา



    เวลา ๒๒.๒๕ น. อาจารย์สำอางค์ วัดเขาดิน นิมิตรเห็นว่าพระรอดรุ่นนี้ชนะทุกทาง



    เวลา ๒๒.๔๐ น. พระครูวินัยสุนทร มีนิมิตรว่าพระรอดรุ่นนี้มีคงกะพันชาตรี และเป็นมหานิยม



    เวลา ๒๓.๐๗ น. พระอาจารย์จัน วัดคลองระนง ว่าพระรอดรุ่นนี้มีเมตตาและปลอดภัยดี



    เวลา ๒๓.๒๕ น. หลวงพ่อเผือก มีนิมิตรว่าพระรอดรุ่นนี้ใช้ได้ ๑๐๘



    เวลา ๒๓.๔๓ น. พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร เจ้าคณะตำบลวัดพระสิงห์ มีนิมิตรว่าเมตตาดีอยู่ยงคงกะพัน



    เวลา ๒๔.๓๐ น. เจ้าคุณภาวนาภิรามเถร วัดระฆัง มีนิมิตรว่า เห็นเทวดาลงมามีรูปร่างใหญ่สูงเท่าพระวิหาร เป็นสีขาว



    เวลา ๒๔.๓๗ น. พระอาจารย์พี วัดสวนพลู มีนิมิตรว่าพระรอดรุ่นนี้ดีมีอิทธิฤทธิ์แรงกล้ามาก



    เวลา ๒๔.๕๐ น. เจ้าคุณวิสุทธิรังษี มีนิมิตรว่ามีช้างใหญ่เดินผ่านเข้ามาและมิได้ทำอะไรเพราะเกรงกลัวความศักดิ์

    สิทธิ์ของพระรอด



    เวลา ๐๑.๒๐ น. พระครูมหาศรีสุนทร มีนิมิตรว่าพระรอดรุ่นนี้ดีมาก มีพระพุทธรูปมานั่งในพิธี



    เวลา ๐๑.๔๕ น. หลวงพ่อแฉ่ง มีนิมิตรว่า ดีมีแสงว่าฉายมาปกคลุมพระรอดอยู่ตลอดเวลา



    เวลา ๐๒.๔๕ น. เจ้าคุณเมธีสุนทรเขตต์ มีนิมิตรว่าเห็นแสงสว่างกระจายอยู่เต็มบริเวณพิธีนี้ตลอดเวลา



    เวลา ๐๓.๐๐ น. พระครูพักตร์ มีนิมิตรว่า พระรอดรุ่นนี้อยู่ยงคงกะพันดีมาก



    เวลา ๐๓.๔๕ น. พระครูสมุทรสังฆกิจ มีนิมิตรว่า มีสีขาว-เขียว สลับกัน ปรากฏที่บริเวณที่ตั้งพานพระรอด



    เวลา ๐๓.๕๕ น. พระอาจารย์ทบ มีนิมิตรว่า พระรอดรุ่นนี้ดีมาก มีคงกะพันชาตรี



    เวลา ๐๔.๓๐ น. พระอาจารย์โพธิ มีนิมิตรว่า พระรอดรุ่นนี้มีเมตตาคงกะพันชาตรี แคล้วคลาดมากอำนาจ



    เวลา ๐๔.๔๐ น. พระอาจารย์มิ่ง มีนิมิตรว่ามีรัศมีฉายแสงสว่างรุ่งเรืองดีเป็นประกาย



    เวลา ๒๑.๔๗ น. พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น มีนิมิตรว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้อาศัยอานุภาพของพระธาตุดอยสุเทพเป็นที่

    คุ้มครองให้ความร่มเย็นเป็นสุข



    เวลา ๒๓.๓๐ น. พระธรรมธรหลาย ชลบุรี มีนิมิตรว่า ดีมาก แก้เขี้ยวงาและอสรพิษทั้งหลายได้



    เวลา ๒๓.๕๐ น. หลวงพ่อนอ วัดท่าเรื่อ มีนิมิตรว่า มียักษ์ มีพรหมสี่หน้ามายืนถือกระบองบริกรรมจนยักษ์และพรหม

    หายไป และมีพระภิกษุ ตลอดจนชายหญิงจำนวนมากมาเดินวนเวียน ถือดอกไม้ธูปเทียนบูชาตลอด

    เวลา



    นอกจากนี้ในขณะที่เริ่มบริกรรมปลุกเศกนั้นนาฬิกาประจำโบสถ์ซึ่งเดินถูกต้อง เวลาได้หยุดนิ่งไปทันที เป็นที่ปลาบปลื้มปีติยินดีแก่ผู้ที่ไปพบเห็นเป็นอย่างมาก

    หนึ่ง พระรอดรุ่นนี้ มีผู้ที่ได้รับไปบูชามากหลายผู้ที่รับไปมีนิมิตรดีต่าง ๆ และรอดพ้นจากอันตรายอย่างมหัศจรรย์ก็มีมาก เหลือที่ข้าพเจ้าจะพรรณนามาในที่นี้ ทั้งนี้มิได้รวมถึงพลานิสงส์ที่ท่านได้มีส่วนร่วมในการสร้างพุทธสถานครั้งนี้ด้วย


    เฉพาะตัวข้าพเจ้าเอง นับแต่เมื่อเริ่มเข้ามารับตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียวใหม่ ในชั้นแรก เมื่อได้มาพบเห็นประชาชนในจังหวัดนี้มีจิตศรัทธา เชื่อมั่นในบวรพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัดแล้ว ก็ทำให้เบาใจในการที่จะปฎิบัติหน้าที่ปราบปรามผู้กระทำผิดกฏหมายและเห็นว่าเป็นจังหวัดเดียวเท่านั้นที่ประชาชนมีความเลื่อมใสในท่างพุทธศาสนามากและด้วยน้ำใจอันแท้จริง ไม่เอาพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องบังหน้า เช่น ปากบอกว่ามีความเคารพนับถือแต่ใจไม่เอาด้วยอย่างนี้ที่เชียงใหม่ไม่ใคร่มี เมื่อครั้งที่ประชุมพุทธศาสนิกชนที่โรงตองตึง โดยท่านเจ้าคุณปัญญานันทภิกขุเป็นหัวหน้า เป็นกิจวัตรนั้น ข้าพเจ้าได้ไปร่วมฟังพระธรรมคำสอนเกือบทุกครั้งมีความตื้นตันใจที่ได้มาพบเห็นผู้ที่มีใจบุญกุศลอย่างนี้ และเมื่อมีท่านผู้มีใจศรัทธาริเริ่มก่อสร้างพุทธสถานขึ้น ข้าพเจ้าได้ร่วมมือด้วยตลอดมาจนบัดนี้ ไม่เคยลืมแม้จะโยกย้ายไปอยู่แห่งหนตำบลใด งานที่ติดตัวไปและที่ไม่เคยลืมก็คือ พุทสถานแห่งนี้ ใจจดใจจ่ออยู่อย่างนี้แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่แล้วเสร็จบริบูรณ์ ข้าพเจ้าก็มั่นใจว่าจะต้องสำเร็จเรียบร้อยภายในเวลาอันไม่ช้านี้ ทั้งนี้ก็ด้วยความร่วมมือของท่านพี่น้องชาวจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหลายและพุทธศาสนิกชนทั่ว ๆ ไป ในอันที่จะให้พุทธสถานนี้เป็นถาวรวัตถุอยู่คู่กับนครเชียงใหม่ หรือ พิงค์นคร ตลอดไปชั่วกัลปวสาน สถานที่แห่งนี้ต่อไปจะเป็นสถานอันศักดิ์สัทธิ์ เพราะคำว่า พุทธะนั้น แปลว่าผู้รู้หรือผู้ตื่น คือไม่หลับ เป็นผู้เบิกบานคือไม่หุบ หรือไม่มืด และเมื่อสรุปแล้ว พุทธศนาก็คือ วิธีปฏิบัติเพื่อเอาตัวรอดจากความทุกข์ โดยการทำให้รู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไร แม้จะกล่าวถึงความจริงที่ลึกซึ้งเร้นลับ นอกเหนือไปกว่าคนธรรมดาจะเห็นได้ เช่นความรู้เรื่อง สุญตา เรื่อง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็เป็นเรื่องที่จะต้องเล่าเรียนศึกษากันมาก และสิ่งที่เรียกว่าพุทธศาสนาตัวแท้นั้นไม่ใช่หนังสือ ไม่ใช่คัมภีร์ ไม่ใช่เรื่องบอกเล่า ไม่ใช่หลักแห่งการคิดไปตามเหตุผล ตัวแท้ของพุทธศาสนา ต้องเป็นตัวการปฏิบัติ ด้วยกาย วาจาใจ ชนิดที่จะทำลายกิเลสให้ร่อยหรอ หรือ สิ้นสุดไปในที่สุด และสถานที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่รับรู้สิ่งทั้งปวงดังกล่าวแล้ว และก็คงจะมีสถานอันศักดิ์สิทธิ์เพียงแห่งเดียว คือ ณ บริเวณวัดอุปคุตเชียงใหม่นี้เท่านั้น



    **องค์นี้เป็นพิมพ์หน้าใหญ่นิยม ใครไม่มพระรอดมหาวัน ให้ใช้พระรอดวัดพระสิงห์แทนได้ครับ พิธีใหญ่และมีความศักสิทธิ์มาก เมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภ คงกระพันชาตรี ครบถ้วน ตามที่อ้างอิงตามบันทึกไว้ด้านบนครับ**ให้บูชา 1250 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 10484.jpg
      10484.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.9 KB
      เปิดดู:
      902
    • 10486.jpg
      10486.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.7 KB
      เปิดดู:
      952
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2015
  3. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่2 พระผงของขวัญวัดปากน้ำ รุ่น4 พิมพ์หน้าหนุ่ม ***มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ***
    ขออ้างอิงข้อมูลจากใบกำกับ ซึ่งแจกพร้อมกับ พระธรรมขันธ์ หรือ พระวัดปากน้ำ รุ่น 4 เพื่อประกอบ ดังนี้ เนื่องด้วยพระของขวัญของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) ทั้ง 3 รุ่น ได้แจกหมดไปแล้ว เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2515 ทางวัดจึงได้ทำพระผงขึ้นใหม่ เรียกว่า พระธรรมขันธ์ โดยนำผงพระของขวัญ ทั้ง 3 รุ่น คือ พระรุ่น 1, รุ่น 2 และ รุ่น 3 ผสมรวมกัน เพื่อทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ และได้นำเข้าพิธีโดยผู้ทรงคุณวุฒิได้วิชาธรรมกายทำพิธีตลอดไตรมาส 3 เดือน ในพรรษา และได้เริ่มแจก ในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2515 อันเป็นวันออกพรรษา เมื่อท่านทั้งหลายได้รับไปแล้วจงเก็บรักษาไว้ให้ดี เมื่อมีอุปสรรคอันใดเกิดขึ้นจงตั้งจิตอธิษฐานเอาเถิดฯ

    พระธรรมขันธ์ หรือที่คนทั่วไปนิยมเรียกว่า พระวัดปากน้ำ รุ่น 4 ถือเป็นพระผงของขวัญของวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ รุ่นแรก ที่ไม่ทันหลวงพ่อสดสร้าง โดยเริ่มสร้างในปี พ.ศ.2514 หลังจากหลวงพ่อสดมรณภาพแล้ว ด้วยในขณะนั้นพระผงของขวัญวัดปากน้ำ รุ่น 3 ซึ่งสร้างตั้งแต่ ปี พ.ศ.2499 เพิ่งหมดลง ทางวัดจึงได้ดำริสร้าง พระธรรมขันธ์ หรือ พระวัดปากน้ำ รุ่น 4 ขึ้น โดยนำเอาพระผงของขวัญ วัดปากน้ำ ทั้งรุ่น 1, 2 และ 3 ซึ่งแตกหักชำรุดที่ทางวัดได้เก็บรักษาไว้ มาเป็นส่วนผสมในเนื้อพระรุ่นดังกล่าวด้วย

    หลังจากกดพิมพ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้รับการปลุกเสกด้วยผู้ทรงคุณวุฒิวิชาธรรมกายตลอด 3 เดือนเต็ม จนกระทั่งออกพรรษา 23 ตุลาคม 2515 จึงนำพระออกให้ผู้มีจิตศรัทธาได้บูชานับตั้งแต่นั้น จนกระทั่งหมดลงในปี พ.ศ.2527

    พระธรรมขันธ์ หรือ พระวัดปากน้ำ รุ่น 4 ได้รับการปลุกเสกตามหลักวิชาธรรมกายเรื่อยมาเป็นเวลา 12 ปีเศษ นับตั้งแต่วันแรกจนกระทั่งถูกบูชาหมดลงจากวัด

    **องค์นี้พิเศษ มีเส้นเกศาของหลวงพ่อด้วยครับ** ให้บูชา พีเอมหรือโทรถามครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11606 copy.jpg
      11606 copy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.3 KB
      เปิดดู:
      342
    • 11607.jpg
      11607.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.9 KB
      เปิดดู:
      424
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2015
  4. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่3 น้ำเต้าดูดทรัพย์ รุ่นแรก หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ สีแดง ต้องแดงเลือดนก สภาพสวยเดิมครับ รูปขาวดำชัดๆ
    น้ำเต้ามหาลาภ, น้ำเต้าดูดทรัพย์ หรือ น้ำเต้ากันไฟ

    บูชาไว้เพื่อดูดทรัพย์ ดีมาก ผู้หมั่นสักการบูชาไว้ จะเจริญด้วยลาภ ถ้าไปค้าขายหรือไปหาลาภจะสมปรารถนา เป็นสิริมงคลแก่ผู้สวมใส่ และมีไว้ดูดเงินดูดทอง นอกจากนี้ยังมีอิทธิคุณในด้าน หนุนดวงให้ดีขึ้น หนุนให้มีโชคลาภ หนุนให้มีความเจริญรุ่งเรือง หนุนให้การค้าดีทุกด้าน


    หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ รุ่นแรก ปี พ.ศ.2500 สั่งทำจากประเทศญี่ปุ่น

    สภาพสวย สมบูรณ์มาก ลูกแก้วบริเวณปาก,
    พลาสติกใสบริเวณก้นเจ้าของได้มานำมาเลี่ยมทองใส่
    ถ้าน้ำเต้ารุ่นแรก ยุคต้นอย่างลูกนี้ หายากมากครับ

    จุดสังเกตน้ำเต้ารุ่นแรก ยุคต้น :
    1. สีของน้ำเต้า จะออกสีเข้ม(สีกลมกลืน เป็นสีเดียว ตลอดทั้งลูก)
    2. ลูกน้ำเต้าจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่
    3. ลูกน้ำเต้าช่วงบน และช่วงล่าง จะมีขนาดเท่ากัน
    4. รูที่เจาะปากน้ำเต้า จะไม่ตรงเซ็นเตอร์(ทำให้เห็นเนื้อบริเวณปากน้ำเต้า ใหญ่-เล็ก ไม่เท่ากัน)
    5. ลูกน้ำเต้าจะไม่มีรอยเชื่อมประกบใดๆ ทั้งสิ้น(ผิวน้ำเต้าจะเรียบทั้งลูก)


    **องค์นี้บูชาไว้เพื่อดูดทรัพย์ ดีมาก ผู้หมั่นสักการบูชาไว้ จะเจริญด้วยลาภ ถ้าไปค้าขายหรือไปหาลาภจะสมปรารถนา เป็นสิริมงคลแก่ผู้สวมใส่ และมีไว้ดูดเงินดูดทอง นอกจากนี้ยังมีอิทธิคุณในด้าน หนุนดวงให้ดีขึ้น หนุนให้มีโชคลาภ หนุนให้มีความเจริญรุ่งเรือง หนุนให้การค้าดีทุกด้าน**ให้บุชาพีเอมหรือโทรถามครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 10097.jpg
      10097.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.4 KB
      เปิดดู:
      154
    • 10098.jpg
      10098.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.3 KB
      เปิดดู:
      122
    • 10130.jpg
      10130.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.5 KB
      เปิดดู:
      142
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2015
  5. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่4 สมเด็จ 118 ปี วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ สภาพสวย
    เนื่องในวันที่ 22 มิถุนายน พุทธศักราช 2533 อันเป็นวันคล้ายวันมรณภาพของเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมํรังสี) ครบรอบ 118 ปี ซึ่งมาถึงอีกครั้งหนึ่ง คณะกรรมการวัดระฆังโฆสิตารามพร้อมด้วยบรรพชิตและฆราวาสมีความประสงค์พ้องต้องกันว่า จะจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นอนุสรณ์ครบรอบวันคล้ายวันมรณภาพของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมํรังสี) ซึ่งเวียนมาบรรจบครบ 118 ปีในครานี้

    ทั้งนี้ปัจจัยที่ได้นำไปใช้เป็นทุนทรัพย์สำหรับกิจการงานต่าง ๆ ของมูลนิธิเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) บูรณะศาลาการเปรียญของวัดซึ่งเป็นโบราณสถานของชาติแห่งหนึ่งให้คงสภาพเดิม และจัดสร้างศาลาศาลาเอนกประสงค์เพื่อเป็นถาวรวัตถุรำลึกถึงเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต)

    วัตถุมงคลรุ่นอนุสรณ์ 118 ปี สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) ซึ่งจัดสร้างขึ้นในครานี้มีด้วยกันหลายลักษณะดังเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งพระพุทธรูปบูชา พระรูปเหมือนขนาดบูชา พระรูปเหมือน รูปเหมือนหยดน้ำ พระผงลักษณะต่าง ๆ และเหรียญปั๊ม เป็นต้น

    การจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นอนุสรณ์ 118 ปี กระทำเป็นพิธีใหญ่ดั่งเช่นทุกครั้งที่ผ่านมาทั้งพิธีสงฆ์และพิธีพราหมณ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย และประธานนั่งปรกเจริญภาวนาประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ร่วมกับคณาจารย์ทั่วประเทศกว่า 118 รูป ภายในอุโบสถวัดระฆังโฆสิตาราม เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2533

    **องค์นี้สวยสมบูรณ์ หลังมีตรายาง ให้บูชา 750 บาท **
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 10100.jpg
      10100.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.1 KB
      เปิดดู:
      430
    • 10099.jpg
      10099.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.7 KB
      เปิดดู:
      165
  6. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่5 เหรียญพระพุทโธคลัง รุ่นแรก (รุ่นเสาร์5ปี2555) นวโลหะ มีมวลสารของคุณแม่บุญเรือน กล่องกำมะหยี่เดิมๆๆ

    "เหรียญพระพุทโธคลัง รุ่น 1 นี้ นับเป็นจุดโฟกัสพลังโดยเฉพาะ อันมีสาเหตุจากรูปลักษณ์,ความเป็นรุ่นแรก และ ฯลฯ อันมีความลึกลับและสลับซับซ้อน ยากที่จะอธิบายทั่วไปโดยง่าย โดยหากพระพุทโธคลังองค์จริงคือแห่งกำเนิดพลังงาน เหรียญพระพุทโธคลัง รุ่นแรกนี้ ก็เปรียบเหมือนกับหลอดไฟ ที่เมื่อได้รับพลังงานจากแหล่งกำเนิดแล้ว ก็ส่องแสงแรงกล้าฉายไปเอิบอาบจนทั่วปริมณฑลพิธีนี้อีกทอดหนึ่งด้วย..!!??!!"

    หมายเหตุพิเศษ , การที่อัญเชิญเหรียญพระพุทโธคลัง ชุดกรรมการ (ตอกโค้ดพิเศษแยกเป็นเอกเทศต่างหาก)มาเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดเจดีย์หลวงแห่งนี้ เหตุสำคัญอย่างยิ่งที่น้อยคนนักจักล่วงรู้ก็คือ ที่วัดเจดีย์หลวงแห่งนี้ นอกจะเคยเป็นที่ชุมนุมแห่งพระอริยสงฆ์องค์อรหันต์สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระในกาลก่อน ไม่แพ้วัดสารนาถธรรมาราม ระยองแล้ว(จริงๆ จะยิ่งกว่าวัดสารนาถฯเสียอีก เพราะองค์หลวงปู่มั่นเอง ก็เคยเป็นเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงนี้มาก่อนด้วย..!!!!) ก็ยังเป็นวัดที่คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมเคยเดินทางมาพำนักคราวมาโปรดศิษยานุศิษย์ทางเมืองเชียงใหม่ และแสดงอภินิหาร "เดินเหนือน้ำ" เพื่อไปจับเต่ากลางสระ วัดเจดีย์หลวง อันได้ปรากฏบันทึกในหนังสือบุญเรือน โตงบุญเติมอนุสรณ์อย่างชัดเจน แต่น้อยนักจะสังเกตและใส่ใจจนมองทะลุและสืบเสาะเจาะลึกถึงความสำคัญตรงจุดนี้ให้ถ่องแท้ได้
    คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เคยไปแสดงอภินิหารเดินบนน้ำที่วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ต่อหน้าศิษย์ฝ่ายหญิงเป็นที่อัศจรรย์
    ไม่มีใครเห็นตอนที่ท่านกำลังเดินหรอก แต่เหตุการณ์จะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากท่านต้องเดินไปบนผิวน้ำ
    เรื่องของเรื่องมีว่า เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๑ คุณแม่บุญเรือน ได้ขึ้นไปพักอยู่ที่บ้านคุณนายลิ้นจี่ ฤษาภิรมณ์ วัดเจดีย์หลวง
    หน้าบ้านคุณนายลิ้นจี่มีหนองน้ำ ห่างจากตลิ่งราวสองวา มีกอหญ้าแห้งลอยอยู่ อยู่ดีๆ คุณแม่บุญเรือนไปจับเต่ามาจากกอหญ้า และเอาเปลือกมะพร้าวไปวางไว้แทนอย่างเรียบร้อย แล้วหันมาบอกกับคุณนายลิ้นจี่ในเวลาต่อมาอีกด้วยว่า
    "คุณพี่ลิ้นจี่ ดิฉันจับเต่าได้แล้ว..!!!!!!"
    “ดิฉันเอาไม้ลองพาดดูก็ไม่ถึงกอหญ้า” คุณนายลิ้นจี่บอก “น้ำก็ยังกระเพื่อมอยู่ ได้พิจารณาดูตามเท้าและร่างกายคุณบุญเรือน ไม่เห็นมีเปียกมีเปื้อนที่ตรงไหน น้ำตอนนั้นลึก ถ้าจะลุยไปอย่างน้อยจะต้องเปียกขึ้นมาถึงเอวเชียวค่ะ”
    “สังเกตดูที่กอหญ้า เห็นเหมือนกับรอยเท้าสองข้างเหยียบกอหญ้านั้น กอหญ้าแห้งนี้สมมุติว่าคนจะไปยืนก็คงไม่ได้ เพราะหญ้าฟูลอยน้ำขึ้นมา ขนาดกอไม่ใหญ่พอจะทานน้ำหนักเด็กๆ ได้ เพียงแต่เอาก้อนอิฐขว้างไป หญ้าก็แยกกระจาย” คุณนายแดง ชัวย่งเสง คหบดีชาวเชียงใหม่ที่อยู่ในที่เดียวกัน อธิบายเพิ่มเติม
    ก็เรื่องที่คุณแม่บุญเรือนเดินเหนือน้ำ ณ วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่นี้ นับเป็นเหตุการณ์อภินิหารที่สำคัญอีกตอนที่หลายๆคนมองข้ามไปแทบจะโดยสิ้นเชิง
    แต่ย่อมไม่ใช่เรื่องของ"พุทธวงศ์" อย่างไม่ต้องสงสัย
    เรื่องที่ใครทั้งนั้นละเลยหรือมองข้าม แต่หากเข้าตากรรมการแล้วไซร้ "พุทธวงศ์"ก็จะไปเจาะและนำมาขยายให้สิ้นไส้เสียเลยทีเดียว
    ก็ของดีๆแบบนี้ จะทนใจจืดใจดำปล่อยให้สูญสลายไปกับอากาศธาตุและกาลเวลาไปเปล่าๆได้อย่างใด..????
    คนอื่นๆอาจจะทำได้ แต่สำหรับ"พุทธวงศ์"แล้ว ตัดใจไม่ทำไม่ลงอย่างแน่นอน
    ว่าแล้ว ขณะที่พระสงฆ์ทั้งนั้นกำลังประกอบพิธีพุทธาภิเษกอยู่ "พุทธวงศ์"จึงได้ออกไปข้างนอกพระวิหารหลวงซึ่งแออัดและอึกทึกด้วยสรรพสำเนียง แล้วไปนั่งอยู่เงียบๆใต้ต้นไม้ข้างๆองค์พระเจดีย์หลวง แล้วเอาเหรียญพระพุทโธคลัง รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ พิมพ์นิยมเหรียญหนึ่งขึ้นมากำ แล้วอธิษฐานว่า
    "หากบารมีธรรมของคุณแม่บุญเรือนที่เคยมาแสดงปาฏิหาริย์เดินเหนือน้ำที่วัดเจดีย์หลวงยังคงอยู่แล้วไซร้ ก็ขอได้โปรดแผ่ไปปกห่มรักษาอภิเษกเหรียญพระพุทโธคลังที่อยู่ในพิธีพร้อมด้วยวัตถุมงคลทั้งหมดให้มีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุดตามอัธยาสัยด้วยเทอญฯ"
    ว่าแล้ว ก็สวดพระคาถาพระฉิมพลี 10 จบ(ตามกำลังวันเสาร์) แล้วนึกจินตนาการอัญเชิญพลังจากฟากฟ้าลงครอบทั้งพระวิหารไปทั้งหมดรวดเดียวเลยทีเดียว......
    เพียงชั่วไม่กี่อึดใจ ในท่ามกลางฟ้าใสๆ ที่ค่อนข้างจะร้อนอบอ้าว พลันก็รู้สึกว่า มีละอองน้ำอะไรเล็กๆบางหยดบางหยาดลอดผ่านกิ่งไม้ใบหนามาถูกต้องสรีรกายแห่ง"พุทธวงศ์"ซึ่งกำลังนั่งหลบแดดอยู่ข้างใต้ในทันใด
    ในชั้นแรก ก็ไม่ได้นึกอะไรมาก เพราะดูฟ้าเบื้องบน ลักษณะสภาวะก็ไม่น่าที่จะมีฝนตกอะไรได้
    แต่ต่อมา ก็มีหยดที่ 2,3 และ 4 โปรยละอองติดตามมาอีก จนที่สุด ก็เริ่มหนักขึ้นจนเห็นเป็นจุดเป็นดวงที่พื้นอิฐรอบๆที่นั่งอยู่พร่างพราวไปหมด จึงได้แจ้งประจักษ์ว่า
    "ฝนตกฟ้าใสๆกลางวันแสกๆของจริง"ไม่ผิดแล้ว..!!!!!!!!!!
    เพิ่มเติมได้ที่ลิงค์

    http://www.gmwebsite.com/Webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-12050607190066268

    ***เหรียญพระพุทโธคลัง รุ่นแรก (รุ่นเสาร์5ปี2555)

    วัดสารนาถฯ จ.ระยอง เนื้อนวโลหะ (โลหะสำคัญ9ชนิด) สร้างน้อยหายาก ขนาดองค์พระ กว้าง 2.5 ซ.ม. สูง 3.5 ซ.ม.

    สภาพพระสวยมาก ไม่ผ่านการบูชานะครับ

    *** เหรียญพระพุทโธคลังรุ่นแรก เสาร์5 ปี2555 นี้สร้างเป็นครั้งที่ 2 พร้อมพระกริ่งพระพุทโธคลังรุ่น 2 เนื่องจากในการสร้างครั้งแรกปี54 แม่พิมพ์ชำรุด สร้างพระได้เพียง 82 เหรียญเท่านั้น ***
    ให้บูชา 2200 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. ลุงจิ๋ว

    ลุงจิ๋ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +990
    ขอจองรายการที่ 1 ครับ
     
  8. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่6 พระสูตร พิมพ์เล็ก หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว สภาพสวย**สมาชิกนิมนต์แล้วครับ**

    พระสูตรหลวงพ่อผินะครับ วัดสนมลาว เป็นพระที่หลวงพ่อท่านบอกว่าดีกว่าดาวครับ พระที่ท่านสร้างแฝงด้วยปริศนาแห่งธรรม แต่ผู้ใดบูชามีแต่บอกว่าสุดยอดจริง ๆ ทั้งเมตตาค้าขาย และโชคลาภ ตลอดจนภยันอันตรายต่าง ๆ ขนาดไปรับพระกับหลวงพ่อท่านให้กำพระไว้ แล้วโรยเม็ดทรายใส่ตา ยังไม่เป็นอะไรเลยนับเป็นอภินิหารที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ยังไม่รวมสิ่งที่เรายังไม่เห็นอีกนับเป็นสิ่งที่เหนือธรรมชาติโดยแท้ ท่านเป็นพระอมตะวาจา เป็นพระที่อยู่เหนือโลกก็ว่าได้ หากใครอาราธนาพระท่านไม่ต้องกลัวเรื่องฟ้าผ่า นับว่าเป็นพระที่สุดยอดอีกองค์หนึ่งพุทธคุณครอบจักรวาลครับ และมีเทวดารักษาอยู่ หลวงพ่อผินะ ปิยธโร สมัยที่ท่านดำรงธาตุขันธ์อยู่ ท่านได้แสดง อิทธิปาฏิหาริย์ ให้ลูกศิษย์ได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ แก่สายตาอยู่บ่อยครั้ง เช่น ไม่ว่าผู้หนึ่งผู้ใดจะขอรับวัตถุมงคลจากหลวงพ่อ ต้องนอนภาวนาเอาวัตถุมงคลกำไว้ในมือ หลวงพ่อจะมอบคาถาให้ท่อง แล้วท่านก็จะนำทรายประมาณหนึ่งกำมือ มาโรยใส่ตาผู้นั้น ระยะห่างจากตาเพียง 7-8 นิ้วเท่านั้นทันทีที่ทรายถูกโรยใส่ตา มันน่าแปลกมหัศจรรย์ ทรายนั้นไม่ว่าจะมีปริมาณมากสักเท่าใด แม้เพียงอณูเม็ดเดียวที่โรยวิ่งตรงมายังดวงตา ของผู้ที่นอนภาวนาอยู่ ก็หาได้เข้าถึงตาไม่ กลับกระเด็นออกไปจนหมดสิ้น เหมือนมีอะไรมาปิดบังตาไว้แสดงว่าหลวงพ่อนั้นสามารถแสดงฤทธิ์อภิญญา แสดงความแตกฉาน ทางด้านมหาเวทวิทยาคมได้อย่างเอกอุ ซึ่งนับวันจะหายากมากในสังคมปัจจุบันคำบูชาหลวงพ่อผินะจุดธูป 5 ดอก ตั้งนะโม 3 จบอะหัง สุขโต ผินะ ปิยะธโร นามะเต อาจาริโยเมภันเต โหหิ (3 จบ)แล้วอธิฐานตามใจปรารถนาคาถา หลวงพ่อผินะ ปิยะธโรคาถาปลุกของพุทธัง กันตัง สะระนัง ฮ่าพุทธัง กันตัง สะระนัง แฮ่พุทธา นะโมยะคาถาพระสมหวัง ว่า "นะเตสุเต" เท่าอายุเที่ยวสุดท้าย ว่า "มหาสุเตนะชา"

    **องค์นี้สภาพสวยสมบูรณ์ คัดพิเศษ** ให้บูชา 450 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2015
  9. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รับทราบการจองครับ ลุงจิ๋ว ขอบคุณครับ :cool::cool::cool::cool:
     
  10. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่7 เหรียญหลวงพ่อโสธร ปี 2498 เนื้อเงินลงยา 4 จุด

    เป็นเหรียญที่เชื่อว่าบารมีของหลวงพ่อโสธร จะทำให้มั่งมี ร่ำรวย ครับ
    การจัดสร้างเหรียญอาร์มลงยารุ่นี้ พื้นที่เหรียญจะถูกขุดเซาะเป็นแว่นๆ หรือบางเหรียญก็จะขุดเซาะเป็นรัศมี เพื่อให้การลงยายึดติดแน่นกับพื้นเหรียญไม่กระเทาะหลุดง่าย การลงยา มี 2 สี คือ ลงยาสีแดงและสีเขียว และมี 2 พิมพ์ ได้แก่ พิมพ์เม็ดไข่ปลา 4 จุด กับ พิมพ์เม็ดไข่ปลา 5 จุด (ดูจากการนับเม็ดไข่ปลาในเส้นขอบทะแยงของเหรียญ) ทั้งยังมี 2 ชนิด คือ ชนิดมีหูเหรียญในตัว กับ ชนิดไม่มีหูเหรียญ แต่เป็นหลังเข็มกลัดสำหรับติดเสื้อครับด้านหน้าจะแอ่นโค้งนูนเล็กน้อยครับ ทั้งสองชนิดดังกล่าวนี้มีทั้ง 2 พิมพ์ คือ เม็ดไข่ปลา 4 จุด กับ 5 จุด ใช้แม่พิมพ์ด้วยกันครับ


    ** สภาพสวยราคากลางทั่วไปอยู่ที่หลักแสนต้น แต่องค์นี้สภาพน่ารัก ลงยาเต็มไม่มีกระเทาะ ราคาเบาๆๆ ไม่แพงครับ 1x,xxx บาท **
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 10274.jpg
      10274.jpg
      ขนาดไฟล์:
      120.8 KB
      เปิดดู:
      184
    • 10275.jpg
      10275.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.7 KB
      เปิดดู:
      147
  11. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่8 เหรียญพระพุทธโสธร รุ่นนานาชาติ รุ่นแรก ปี 2537 วัดโสธรวรารามวรวิหาร ฉะเชิงเทรา สภาพสวย

    รุ่นนี้เข้าใจว่าโรงงานกษาปณ์ต่างประเทศเป็นผู้ผลิตทั้งหมดโดยมี
    - โรงงานกษาปณ์ออสเตรเลีย PERTH MINT
    - โรงงานกษาปณ์สวิสเซอร์แลนด์ HUGUENIN SWISS MADE
    - โรงงานกษาปณ์ฮ่องกง WORLD MINT

    มี 2 พิมพ์ - พิมพ์โสธร2หน้า , พิมพ์หลังธรรมจักร
    ขนาด - พิมพ์ใหญ่ และ พิมพ์เล็ก ( ใหญ่ 32มม. , เล็ก 27-28มม. )
    ลักษณะ - ขัดเงา , ขัดเงาพ่นทราย
    โลหะ - เนื้อทองคำ , เนื้อเงิน , เนื้อทองแดง

    --------------------
    1. โรงงานกษาปณ์ออสเตรเลีย PERTH MINT
    - โสธร2หน้า เนื้อเงินขัดเงา ขนาด 32มม. 5,000 เหรียญ
    - โสธร2หน้า เนื้อเงินขัดเงา ขนาด 28มม. 9,999 เหรียญ
    - โสธร2หน้า เนื้อทองแดงขัดเงา ขนาด 28มม. 49,999 เหรียญ
    - โสธร2หน้า เนื้อทองแดงพ่นทราย ขนาด 32มม. 50,000 เหรียญ
    - โสธรหลังธรรมจักร เนื้อทองแดงพ่นทราย ขนาด 25มม. 50,000 เหรียญ


    2. โรงงานกษาปณ์สวิสเซอร์แลนด์ HUGUENIN SWISS MADE


    3. โรงงานกษาปณ์ฮ่องกง WORLD MINT
    - โสธรหลังธรรมจักร เนื้อทองแดงขัดเงา ขนาด 27มม. 50,000 เหรียญ


    ประวัติหลวงพ่อโสธรนั้น ตำนานไม่ได้กล่าวไว้ว่าใครเป็นผู้สร้างหรือสร้างเมื่อใด ทราบตามที่เล่าต่อๆ กันมาแต่เพียงว่า ในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือของไทย มีพระภิกษุสามองค์พี่น้อง เรียนพระธรรมวินัยแตกฉานแล้วก็จำแลงกายเป็นพระพุทธรูปลอยน้ำลงมาตามลำแม่น้ำ

    เมื่อมาถึงบริเวณหนึ่งก็ปรากฏองค์ขึ้น ชาวบ้านบริเวณนั้นพบเข้าก็พากันเอาเชือกมนิลามาฉุดขึ้น แต่ก็เอาขึ้นมาไม่ได้เพราะเชือกขาด ก่อนที่พระทั้งสามองค์จะจมหายไปบริเวณที่พระทั้งสามองค์ลอยทวนน้ำหนีนั้นเรียกว่า สามพระทวน ต่อมาได้เพี้ยนและเรียกว่า สัมปทวน อำเภอเมืองฉะเชิงเทราจนทุกวันนี้

    ต่อมาได้มาผุดขึ้นที่คลองคุ้งให้ชาวบ้านแถวนั้นเห็นอีก ชาวบ้านก็พยายามชุดขึ้นฝั่งแต่ไม่สำเร็จอีก สถานที่นั้นเรียกว่า บางพระ มาจนทุกวันนี้ แต่นั้นมาพระพุทธรูปทั้งสามองค์ก็ได้สำแดงอภินิหารในครองเล็กๆ ตรงข้ามกองพันทหารช่างที่ 2 ฉะเชิงเทรา บริเวณนั้นเรียกว่า แหลมลอยวน คลองนั้นได้นามว่า คลองสองพี่น้อง ภายหลังก็เงียบไป

    จวบจนองค์หนึ่งได้ลอยไปจนถึงแม่น้ำแม่กลอง และไปปรากฏขึ้นที่สมุทรสงคราม ชาวประมงได้พร้อมใจกันอาราธนาขึ้นไปประดิษฐานไว้ที่วัดบ้านแหลมหรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นับถือของพุทธศาสนิกชนชาวสมุทรสงคราม เรียกกันว่า หลวงพ่อบ้านแหลม มาจนทุกวันนี้

    องค์ที่สองได้ลอยวนไปวนมาและมาผุดขึ้นหน้า วัดหงษ์ เล่ากันว่า ที่วัดนี้เดิมมีเสาใหญ่มีหงษ์ทำด้วยทองเหลืองอยู่บนยอดเสานั้น จึงได้ชื่อว่าวัดหงษ์ ต่อมาหงษ์ที่ยอดเสาหักตกลงมาเสียชำรุด ทางวัดจึงเอาธงไปติดไว้ที่ยอดเสาแทนรูปหงษ์ จึงได้ชื่อว่าวัดเสาธง แล้วต่อมาก็เกิดมีพายุพัดเสานี้หักลงส่วนหนึ่ง จึงได้ชื่อว่าวัดเสาทอน และต่อมาชื่อนี้ได้กลายไปเป็นวัดโสธร

    ประชาชนพลเมืองจำนวนมากได้พากันหลั่งไหลมาอาราธนาฉุดขึ้นฝั่งแต่ก็ไม่สำเร็จ ขณะนั้นมีอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษผู้รู้คนหนึ่งสำเร็จไสยศาสตร์หรือเทพไสยรู้หลักและวิธีอาราธนา จึงได้ทำพิธีปลูกศาลเพียงตาบวงสรวง กล่าวคำอัญเชิญชุมนุมเทวดาอาราธนา และได้ใช้สายสิญจน์คล้องที่พระหัตถ์ของพระพุทธรูปก่อนจะค่อยฉุดลากขึ้นมาบนฝั่ง พระพุทธรูปจึงเสด็จขึ้นมาบนฝั่งเป็นที่ปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งของชาวเมือง จึงได้พร้อมใจกันอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่ในพระวิหารวัดโสธร และเรียกนามว่า พระพุทธโสธร หรือ หลวงพ่อโสธร ตั้งแต่นั้นมา

    ส่วนองค์สุดท้ายได้ลอยไปอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาประชาชนละแวกนั้นก็หลั่งไหลมาอาราธนาขึ้นฝั่งฉุดขึ้นเป็นการใหญ่แต่ก็ฉุดขึ้นไม่ได้ เล่ากันว่ามีประชาชนพากันมาฉุดนับได้ถึงสามแสนคน จึงเรียกสถานที่นั้นว่า สามแสน ภายหลังจึงเพี้ยนมาเป็น สามเสน และเรียกกันอยู่ทุกวันนี้ จากนั้นพระพุทธรูปองค์นี้ก็ลอยไปผุดขึ้นที่คลองสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ประชาชนจึงได้ได้อาราธนาขึ้นไปประดิษฐานไว้ที่วัดพลับพลาชัยชนะสงครามหรือวัดบางพลีใหญ่ในตราบจนทุกวันนี้ เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มากอีกรูปหนึ่งของเมืองไทย คือ หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน[1]

    เล่ากันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เกิดขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี ตรงกับประมาณปี พ.ศ. 2313 นับเป็นประวัติพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยน้ำมาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

    **องค์นี้สภาพสวยเดิม พร้อมกล่องเดิม** ให้บุชา 800 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 10279.jpg
      10279.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.1 KB
      เปิดดู:
      205
    • 10280.jpg
      10280.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.7 KB
      เปิดดู:
      272
    • 10281.jpg
      10281.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.6 KB
      เปิดดู:
      151
  12. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่9 เหรียญเงินลงถม หลวงพ่อพุทธโสธร ปี 2511 สภาพสวย

    ประวัติหลวงพ่อโสธรนั้น ตำนานไม่ได้กล่าวไว้ว่าใครเป็นผู้สร้างหรือสร้างเมื่อใด ทราบตามที่เล่าต่อๆ กันมาแต่เพียงว่า ในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือของไทย มีพระภิกษุสามองค์พี่น้อง เรียนพระธรรมวินัยแตกฉานแล้วก็จำแลงกายเป็นพระพุทธรูปลอยน้ำลงมาตามลำแม่น้ำ

    เมื่อมาถึงบริเวณหนึ่งก็ปรากฏองค์ขึ้น ชาวบ้านบริเวณนั้นพบเข้าก็พากันเอาเชือกมนิลามาฉุดขึ้น แต่ก็เอาขึ้นมาไม่ได้เพราะเชือกขาด ก่อนที่พระทั้งสามองค์จะจมหายไปบริเวณที่พระทั้งสามองค์ลอยทวนน้ำหนีนั้นเรียกว่า สามพระทวน ต่อมาได้เพี้ยนและเรียกว่า สัมปทวน อำเภอเมืองฉะเชิงเทราจนทุกวันนี้

    ต่อมาได้มาผุดขึ้นที่คลองคุ้งให้ชาวบ้านแถวนั้นเห็นอีก ชาวบ้านก็พยายามชุดขึ้นฝั่งแต่ไม่สำเร็จอีก สถานที่นั้นเรียกว่า บางพระ มาจนทุกวันนี้ แต่นั้นมาพระพุทธรูปทั้งสามองค์ก็ได้สำแดงอภินิหารในครองเล็กๆ ตรงข้ามกองพันทหารช่างที่ 2 ฉะเชิงเทรา บริเวณนั้นเรียกว่า แหลมลอยวน คลองนั้นได้นามว่า คลองสองพี่น้อง ภายหลังก็เงียบไป

    จวบจนองค์หนึ่งได้ลอยไปจนถึงแม่น้ำแม่กลอง และไปปรากฏขึ้นที่สมุทรสงคราม ชาวประมงได้พร้อมใจกันอาราธนาขึ้นไปประดิษฐานไว้ที่วัดบ้านแหลมหรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นับถือของพุทธศาสนิกชนชาวสมุทรสงคราม เรียกกันว่า หลวงพ่อบ้านแหลม มาจนทุกวันนี้

    องค์ที่สองได้ลอยวนไปวนมาและมาผุดขึ้นหน้า วัดหงษ์ เล่ากันว่า ที่วัดนี้เดิมมีเสาใหญ่มีหงษ์ทำด้วยทองเหลืองอยู่บนยอดเสานั้น จึงได้ชื่อว่าวัดหงษ์ ต่อมาหงษ์ที่ยอดเสาหักตกลงมาเสียชำรุด ทางวัดจึงเอาธงไปติดไว้ที่ยอดเสาแทนรูปหงษ์ จึงได้ชื่อว่าวัดเสาธง แล้วต่อมาก็เกิดมีพายุพัดเสานี้หักลงส่วนหนึ่ง จึงได้ชื่อว่าวัดเสาทอน และต่อมาชื่อนี้ได้กลายไปเป็นวัดโสธร

    ประชาชนพลเมืองจำนวนมากได้พากันหลั่งไหลมาอาราธนาฉุดขึ้นฝั่งแต่ก็ไม่สำเร็จ ขณะนั้นมีอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษผู้รู้คนหนึ่งสำเร็จไสยศาสตร์หรือเทพไสยรู้หลักและวิธีอาราธนา จึงได้ทำพิธีปลูกศาลเพียงตาบวงสรวง กล่าวคำอัญเชิญชุมนุมเทวดาอาราธนา และได้ใช้สายสิญจน์คล้องที่พระหัตถ์ของพระพุทธรูปก่อนจะค่อยฉุดลากขึ้นมาบนฝั่ง พระพุทธรูปจึงเสด็จขึ้นมาบนฝั่งเป็นที่ปิติยินดีเป็นอย่างยิ่งของชาวเมือง จึงได้พร้อมใจกันอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่ในพระวิหารวัดโสธร และเรียกนามว่า พระพุทธโสธร หรือ หลวงพ่อโสธร ตั้งแต่นั้นมา

    ส่วนองค์สุดท้ายได้ลอยไปอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาประชาชนละแวกนั้นก็หลั่งไหลมาอาราธนาขึ้นฝั่งฉุดขึ้นเป็นการใหญ่แต่ก็ฉุดขึ้นไม่ได้ เล่ากันว่ามีประชาชนพากันมาฉุดนับได้ถึงสามแสนคน จึงเรียกสถานที่นั้นว่า สามแสน ภายหลังจึงเพี้ยนมาเป็น สามเสน และเรียกกันอยู่ทุกวันนี้ จากนั้นพระพุทธรูปองค์นี้ก็ลอยไปผุดขึ้นที่คลองสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ ประชาชนจึงได้ได้อาราธนาขึ้นไปประดิษฐานไว้ที่วัดพลับพลาชัยชนะสงครามหรือวัดบางพลีใหญ่ในตราบจนทุกวันนี้ เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มากอีกรูปหนึ่งของเมืองไทย คือ หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน[1]

    เล่ากันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เกิดขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี ตรงกับประมาณปี พ.ศ. 2313 นับเป็นประวัติพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยน้ำมาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

    **องค์นี้ สภาพสวยเดิมๆหน้าเดียวกับเหรียญลงถมปี09 ** ให้บูชา 1450 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 10127.jpg
      10127.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52 KB
      เปิดดู:
      169
    • 10128.jpg
      10128.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.7 KB
      เปิดดู:
      150
  13. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่10 เหรียญข้าวหลามตัด หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ออกวัดถ้ำเสือ เนื้อฝาบาตร สภาพสวย***มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ***
    เกิด วันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีฉลู พ.ศ.2358 เป็นบุตรของ นายนาค นางจันทร์ พื้นเพเป็นชาวบ้านแหลมใต้ คลองพระอุดม ปากเกร็ด นนทบุรี

    อุปสมบท อายุ 22 ปี ตรงกับ พ.ศ.2381 ณ พัทธสีมาวัดบ่อ

    มรณภาพ วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2438

    รวมสิริอายุ 80 ปี 59 พรรษา

    หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม ( อ่านว่า ปะถะมะนามะ หรือ ปถมนาม ) เกิดในรัชกาลที่ ๒ เมื่อปีฉลู พ.ศ. 2359 เป็นบุตรนายนาค นางจันทร์ โดยมีพี่น้องท้องเดียวกัน รวมด้วยกัน 4 คน คือ

    1. หลวงปู่เอี่ยม
    2. นายฟัก
    3. นายขำ
    4. นางอิ่ม

    บ้านเกิดของหลวงปู่เอี่ยมอยู่ที่ตำบลบานแหลมใหญ่ ฝั่งใต้ ข้างวัดท้องคุ้ง อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อปี พ.ศ.๒๓๘๑ อายุท่านได้ ๒๒ ปี ได้อุปสมบท ที่วัดบ่อ ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด (วัดบ่อนี้อยู่คิดกับตลาดในท่าน้ำปากเกร็ด) ท่านอุปสมบท ได้ประมาณหนึ่งเดือน ท่านก็ได้ย้ายไปประจำพรรษาอยู่ที่วัดกัลยาณมิตร ธนบุรีซึ่งในขณะนั้นพระพิมลธรรมพร เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งย้ายมาจากวัดราชบูรณะ พระนคร หลวงปู่เอี่ยมท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรม และแปลพระธรรมบทอยู่ที่วัดนี้อยู่ได้ถึง ๗ พรรษาท่านจึงได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดประยูรวงศาวาส

    เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๘ อยู่วัดประยูรวงศาวาสได้ ๓ พรรษา ถึงปี พ.ศ. ๒๓๘๙๑ นายแขก สมุห์บัญชีได้นิมนต์หลวงปู่เอี่ยม ไปจำพรรษาเจริญพระกัมมัฏฐานเป็นเริ่มแรก และได้ศึกษาอยู่ ๕ พรรษา ถึงปี ๒๓๙๖ ญาติโยมพร้อมด้วยชาวบ้านภูมิลำเนาเดิมในคลองแหลมใหญ่ (ซึ่งปัจจุบันนี้ คือคลองพระอุดม) อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้เดินทางมา อาราธนานิมนต์หลวงปู่เอี่ยม กลับไปปกครองวัดสว่างอารมณ์ หรือวัดสะพานสูง ในปัจจุบันนี้

    สาเหตุที่เปลี่ยนชื่อวัดสว่างอารมณ์เดิมมาเป็นชื่อวัดสะพานสูงนั้น มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า ในสมัยนั้นสมเด็จกรมพระยาวชิญาณวโรรส ท่านได้เสร็จไปตรวจการคณะสงฆ์ได้เสด็จขึ้นที่วัดสว่างอารมณ์นี้ ได้ทอดพระเนตรเห็นสะพานสูงข้ามคลองวัด (คลองพระอุดมปัจจุบันนี้)

    ซึ่งชาวบ้านมักจะเรียกวัดสว่างอารมณ์นี้ว่า วัดสะพานสูง จึงทำให้วัดนี้มีชื่อเรียกกัน ๒ ชื่อ ฉะนั้น สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงเห็นว่า สะพานสูงนี้ก็เป็นนิมิตดีประจำวัดประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งชาวบ้านก็นิยมเรียกกันติดปากว่าวัดสะพานสูง จึงได้ประทานเปลี่ยนชื่อวัดสว่างอารมณ์ มาเป็น "วัดสะพานสูง" จนตราบเท่าทุกวันนี้

    หลวงปู่เอี่ยม มาวัดสะพานสูงใหม่ๆ ที่วัดนี้มีพระประจำวันพรรษาอยู่เพียง ๒ รูปเท่านั้น

    ขณะที่ท่านหลวงปู่เอี่ยม ได้ย้ายมาอยู่วัดสะพานสูงได้ ๘ เดือน ก่อนวันเข้าพรรษาหลวงพิบูลย์สมบัติ บ้านท่านอยู่ปากคลองบางลำภู พระนคร ได้เดินทางมานมัสการหลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่เอี่ยมได้ปรารภถึงความลำบาก ด้วยเรื่องการทำอุโบสถและสังฆกรรม

    เนื่องจากสถานที่เดิมได้ชำรุดทรุดโทรมมาก จึงอยากจะสร้างให้เป็นถาวรสถานแก่วัดให้เจริญรุ่งเรือง หลวงพิบูลยสมบัติ ท่านจึงได้บอกบุญเรี่ยไรหาเงินมา เพื่อก่อสร้างโบสถ์ และถาวรสถานขึ้น จึงเป็นที่เข้าใจกันว่าหลวงปู่เอี่ยม ได้เริ่มสร้างพระปิดตาและตะกรุดเป็นครั้งแรก

    เพื่อเป็นของชำร่วยแก่ผู้บริจาคทรัพย์และสิ่งของที่ใช้ในการก่อสร้างพระอุโบสถและถาวรสถาน ต่อมาถึง พ.ศ. ๒๔๓๑ ได้สร้างศาลาการเปรียญ หลังจากนั้นอีกหลวงปู่เอี่ยมได้สร้างพระเจดีย์ฐาน ๓ ชั้นขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๓๙ ขณะที่ท่านหลวงปู่เอี่ยม ท่านได้มาอยู่วัดสะพานสูง ท่านได้ไปธุดงค์ไปทางแถบประเทศเขมร

    โดยมีลูกวัดติดตามไปด้วยเสมอ แต่ท่านจะให้ลูกวัดออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อน ๖-๗ ชั่วโมง แล้วจะนัดกันไปพบที่แห่งใดแห่งหนึ่ง แล้วท่านหลวงปู่เอี่ยม ได้ไปพบชีปะขาวชาวเขมรท่านหนึ่งชื่อว่าจันทร์หลวงปู่เอี่ยม จึงได้เรียนวิชาอิทธิเวทย์ จากท่านอาจารย์ผู้นี้อยู่หลายปี จนกระทั่งชาวบ้านแหลมใหญ่นึกว่าท่านออกธุดงค์ไปได้ถึงแก่มรณภาพไปแล้ว เนื่องจากหลวงปู่เอี่ยม ท่านไม่ได้กลับมาที่วัดหลายปี

    จึงได้ทำสังฆทานแผ่ส่วนกุศลไปให้ท่าน ทำให้ท่านหลวงปู่เอี่ยม ทราบในญาณของท่านเอง และท่านหลวงปู่เอี่ยม จึงได้เดินทางกลับมายังวัดสะพานสูง การไปธุดงค์ครั้งนี้ หลวงปู่เอี่ยม ได้ไปเป็นเวลานาน และอยู่ในป่าจึงปรากฏว่าท่านหลวงปู่เอี่ยม ท่านไม่ได้ปลงผม ผมจึงยาวถึงบั้นเอว จีวรก็ขาดรุ่งริ่ง หมวดท่านยาวเฟิ้มพร้อมมีสัตว์ป่าติดตามท่านหลวงปู่เอี่ยม มาด้วย อาทิเช่น หมี, เสือ, และงูจงอาง ฯลฯ

    จากการเจริญกรรมฐานนี้ จึงทำให้หลวงปู่เอี่ยมสำเร็จ "โสรฬ" มีเรื่องเล่ากันว่ามีต้นตะเคียนต้นหนึ่งมีน้ำมันตกและดุมากเป็นที่เกรงกลัวแก่ชาวบ้านแถบนั้น หลวงปู่จึงช่วยยืนเพ่งอยู่ 3 วันเท่านั้น ต้นตะเคียนก็เฉาและยืนต้นตาย หลวงปู่เป็นผู้มีอาคมฉมัง วาจาสิทธิ์ มักน้อยและสันโดษ ท่านเป็นต้นแบบในการพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบันนี้ ท่านได้สร้างถาวรวัตถุที่ได้เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้คือพระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ พระเจดีย์ จึงเป็นที่มาของการสร้างพระปิดตา และตะกรุดโทนมหาโสฬสมงคลอันลือลั่นนั่นเอง

    ท่านหลวงปู่เอี่ยม เป็นพระผู้มีอาคมขลัง มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ มักน้อย ถือสันโดษ ด้วยเหตุนี้เองทำให้หลวงปู่เอี่ยม ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งชาวบ้านและเจ้านายผู้ใหญ่ในพระนครนับถือท่านมากจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ก่อนที่หลวงปู่เอี่ยมจะมรณภาพด้วยโรคชรา นายหรุ่น แจ้งมา ซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดคอยอยู่ปรนนิบัติท่านหลวงปู่เอี่ยมได้ขอร้องท่านว่า “ท่านอาจารย์มีอาการเต็มที่แล้ว ถ้าท่านมีอะไรก็กรุณาได้สั่ง และให้ศิษย์เป็นครั้งสุดท้าย” ซึ่งท่านหลวงปู่เอี่ยมก็ตอบว่า “ถ้ามีเหตุทุกข์เกิดขึ้นให้ระลึกถึงท่านและเอ่ยชื่อท่านก็แล้วกัน”หลวงปู่เอี่ยมท่านได้มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๙ รวมอายุได้ ๘๐ ปี บวชได้ ๕๙ พรรษา

    ก่อนที่ท่านจะมรณภาพได้มีศิษย์ผู้ใกล้ชิดเป็นตัวแทนของชาวบ้าน และผู้เคารพนับถือศรัทธา ที่มีและไม่มีของมงคลท่านไว้บูชา กราบเรียนถามหากว่าเมื่อหลวงปู่เอี่ยม ได้มรณภาพแล้วจักทำประการใด ท่านจึงได้มีปัจฉิมวาจาว่า " มีเหตุสุข ทุกข์ เกิดนั้น ให้ระลึกถึงชื่อของเรา"

    จึงเป็นที่ทราบและรู้กันว่า หากผู้ใดต้องการมอบตัวเป็นศิษย์หรือต้องการให้ท่านช่วยแล้วด้วยความศรัทธายิ่ง ก็ให้เอ่ยระลึกถึงชื่อของท่าน ท่านจะมาโปรดและคุ้มครองและหากเป็นเรื่องหนักหนาก็บนตัวบวชให้ท่าน รูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงปู่เอี่ยม ท่านประดิษฐานอยู่หน้าพระอุโบสถ สร้าง(หล่อ) ขึ้นเมื่อพ.ศ. 2480 ในสมัยหลวงปู่กลิ่น ผู้ปกครองวัดต่อจากท่าน เพื่อการสักการะบูชา ต่อมาจนทุกๆวันจะมีผู้ศรัทธาจากทุกสารทิศมากราบไหว้และบนบานฯ ตลอดเวลาตราบแสงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า ท่านชอบกระทงใส่ดอกไม้เจ็ดสี จะมีผู้นำมาถวายและแก้บนแทบทุกวันโดยเฉพาะในวันพระแม้แต่ผงขี้ธูปและน้ำในคลองหน้าวัดก็ยังมีความ"ขลัง" อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง

    และหลังจากที่ท่านมรณภาพล่วงไปเนิ่นนานแล้วก็ตามที ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ผลปรากฏว่าฐานที่ท่าน เคยถ่ายทุกข์เอาไว้และปิดตาย คราวที่เกิดไฟไหม้ป่าช้า ฐานของหลวงปู่เอี่ยม เพียงหลังเดียวเท่านั้นที่ไม่ไหม้ไฟ

    เมื่อความอัศจรรย์ปรากฏขึ้นเช่นนั้น ผู้คนจึงค่อยมาตัดเอาแผ่นสังกะสีไปม้วนเป็นตะกรุดจนหมดสิ้น นอกจากนั้นแล้ว ยังมารื้อเอาตัวไม้ไปบูชาจนไม่เหลือหรอ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่ได้อะไรเลยก็มาขุดเอาอุจจาระของท่านไปบูชา
    วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม

    วัตถุมงคลที่ท่านสร้างและได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย คือ พระปิดตา และตะกรุด ชนิดและขนาดต่าง ๆ ส่วนเหรียญนั้นสร้างภายหลังจากท่านมรณภาพแล้ว

    พระปิดตา เป็นหนึ่งในชุดเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อผง ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน มีทั้งประเภทเนื้อผงคลุกรักจุ่มรัก และเนื้อผงจุ่มรัก ส่วนผสมภายในเนื้อพระหลัก ๆ ประกอบไปด้วย ผงพุทธคุณไตรสรณคมณ์ ผงพุทธคุณอิติปิโส ว่านเครื่องยา ชันยาเรือ และรัก เป็นต้น แบ่งเป็น 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ชะลูดใหญ่ หรือว่าวจุฬมใหญ่ พิมพ์ตะพาบ หรือ พิมพ์ว่าวจุฬาเล็ก พิมพ์พนมมือ มีทั้งหน้าเดียว และสองหน้า

    **องค์นี้สวยงามมากครับ รุุ่นนี้มีประสบการณ์แล้วครับ ยังอยู่ในซองเดิมๆครับ**ให้บูชา 350 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_6275.JPG
      SAM_6275.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.6 KB
      เปิดดู:
      184
    • SAM_6276.JPG
      SAM_6276.JPG
      ขนาดไฟล์:
      62.2 KB
      เปิดดู:
      166
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2015
  14. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่11 [COLOR="Purple"[COLOR="White"]]เหรียญรัชกาลที่5 หลวงพ่อเกษม เขมโก บล็อค(นอก) พร้อมตลับเดิม ปี2537[/COLOR][/COLOR]**มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ**

    ท่าน เขมโกภิกขุ” หลวงปู่เกษม หรือ หลวงพ่อเกษม เขมโก ที่เราท่านเคารพบูชา และรำลึกภาวนา ขอบารมีจากท่านช่วยคุ้มครอง ปกป้องจากอันตราย ยามเมื่อเกิดความทุกข์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เพราะบารมี หลวงพ่อที่เพียรเจริญวิปัสสนากรรมฐานด้วยความมานะบากบั่น ยากที่จะมีผู้ปฏิบัติได้เสมือนนั้น สร้างศรัทธาและความเชื่อมั่นสูงยิ่งนัก" หลวงพ่อเกษมท่านเจริญวิปัสสนาด้วยถือสันโดษเป็นที่ตั้ง ใช้อำนาจจิต ควบคุมร่างกายเข้าสู่สมาธิภาวนา เบื้องหน้าเชิงตะกอน ท่านไม่ติดรสอาหารเมื่อมีผู้นำมาถวาย แม้อาหาร จะเสียจนราขึ้น ถ้าหลวงพ่อท่านยังมิได้แผ่เมตตา ท่านก็จะรับประเคนบาตรแล้วแผ่เมตตาให้ หลวงพ่อ เป็นผู้มีศีลอันบริสุทธิ์ และเมตตาธรรมสูงส่ง ท่านหมดสิ้นแล้วซึ่งกิเลส และเปี่ยมล้นด้วยบารมี ทุกวันนี้ หลวงพ่อยังเป็นดุจร่มโพธิ์ร่มไทรที่ให้ความร่มเย็นแก่พวกเราทุกคน

    ประวัติและเรื่องราวต่าง ๆ ของท่าน จึงถูกบันทึกเพื่อให้อนุชนรุ่นหลัง ได้รับรู้ถึงในยุคปัจจุบัน ประวัติบางตอนของ ครูบาศรีวิชัย ตอนหนึ่งกล่าวว่า ท่านครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้ว่า จะมีตนบุญมาเกิดที่ลำปาง ครั้นต่อมาครูบาศรีวิชัยได้มรณภาพไป โดยทิ้งคำพยากรณ์นี้ไว้ให้ชาวลำปางได้เฝ้ารอคอยการมาจุติของตนบุญ ที่ครูบาศรีวิชัยได้พยากรณ์ไว้ จนเวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี ก็ยังไม่ปรากฏ แต่ชาวลำปางก็ยังเชื่อในคำพยากรณ์ของครูบาศรีวิชัย

    เมื่อปี พ.ศ.2455 ได้มีครอบครัว เชื้อเจ้าผู้ครองนครลำปาง หรือเขลางค์นครในอดีต หัวหน้าครอบครัว คือ เจ้าหนูน้อย ณ ลำปาง ภายหลังเปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น มณีอรุณ รับราชการเป็นปลัดอำเภอ ภรรยาชื่อ เจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง ทั้งสองเป็นหลานเจ้าของพ่อบุญวาทย์ วงศ์มานิตย์ เจ้าผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย

    ครอบครัวนี้ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ บ้านท่าเก๊าม่วง ริมแม่น้ำวัง อ.เมือง จ.ลำปาง อยู่กินกันมาอย่างมีความสุขในที่สุดเจ้าแม่บัวจ้อนได้ตั้งครรภ์ และพอถึงกำหนดคลอด ตรงกับวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2455 ตรงกับวันพุธ เดือนยี่ (เหนือ) ปีชวด ร.ศ.131 ค.ศ.1912 เจ้าแม่บัวจ้อนให้กำเนิดทารกเพศชาย เป็นลูกคนแรกของครอบครัว

    **องค์นี้สภาพสวยมาก มีตลับเดิมๆครับ ให้บุชา 800 บาท **
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 10285.jpg
      10285.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42 KB
      เปิดดู:
      160
    • 10286.jpg
      10286.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59 KB
      เปิดดู:
      138
    • 10287.jpg
      10287.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.4 KB
      เปิดดู:
      159
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2015
  15. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่12 เหรียญพระแก้วมรกตสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ.2525 หลวงปู่ดู่ วัดสะแกร่วมพิธีปลุกเสก ชุด 3 ฤดู เนื้อทองแดงซองเดิมๆ สภาพสวยมาก **มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ**

    พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนไทยทั้งประเทศ เป็นพระพุทธรูปที่ทำมาจากมรกตซึ่งเป็นตระกูลหินหยกชั้นดีที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีค่าประมาณมิได้ในปัจจุบัน เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนตอนต้น ปางสมาธิ ขนาดหน้าตัก 43 ซม. สูง 55 ซม.ประวัติการสร้างพระแก้วมรกตไม่ชัดเจน มีหลายตำนานเช่น บางตำนานกล่าวว่าพระแก้วมรกตสร้างโดยพระอรหันต์ชื่อ พระนาคะเสนเถระ (น่าจะเป็นองค์เดียวกันกับผู้ที่ตอบปัญหาในเรื่องพระเจ้ามิลินท์)สร้างพระแก้วมรกตที่เมืองนครปาตาลีบุตร อินเดีย อดีตเมืองหลวงของพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว 500 ปีปัจจุบันพระแก้วมรกต ประดิษฐ์ฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราชประสงค์ให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส วัดพระศรีรัตนศาสดารามได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด การบูรณะครั้งใหญ่ทั้งพระอาราม มีขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 100 ปี ใน พ.ศ. 2425 ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ทั้งพระอารามในโอกาสที่มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี ในรัชกาลปัจจุบันโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ทั้งพระอารามอีกครั้งใน พ.ศ. 2525 เมื่อมีการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นองค์ประธานในการบูรณะ ในการบูรณะครั้งนี้ได้มีการจัดสร้างเหรียญพระแก้วมรกต ทั้ง 3 ฤดูให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญ ซึ่งเหรียญพระแก้วมรกตมีการจัดสร้าง 2 ครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้ง 2 รุ่นแตกต่างกันที่รุ่นแรก ไม่มีคำว่าพระราชศรัทธาอยู่หลังเหรียญ สำหรับเหรียญพระแก้วมรกตแบบแรก ทำพิธีพุทธาภิเศกวันที่ 13 ก.ค.2524โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นองค์ประธาน เนื่องจากเหรียญแบบแรกไม่พอกับความต้องการของประชาชน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างใหม่ เป็นเหรียญแบบที่สอง ที่มีพระราชศรัทธาอยู่หลังเหรียญ โดยทำพิธีที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วันที่ 9 ธ.ค.2524 มีพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณที่มีชื่อเสียงจากทั่วประเทศมาทำพิธีมากมาย กว่าร้อยรูป หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเคยปรารภแก่ลูกศิษย์ลูกหาไว้ว่า เหรียญพระแก้วรุ่น 200 ปีนี้เป็นหนึ่งในพระดีที่ท่านแนะนำให้หาไว้บูชาติดตัวครับ
    เหรียญพระแก้วมรกต 3 ฤดู บล็อคพระราชศรัทธา ปี 2525 จัดสร้างในการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เนื้อทองแดงครบชุด 3 เหรียญในกล่องเดิม สภาพสวยสมบูรณ์มากๆ พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนไทยทั้งประเทศ เป็นพระพุทธรูปที่ทำมาจากมรกตซึ่งเป็นตระกูลหินหยกชั้นดีที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีค่าประมาณมิได้ในปัจจุบัน เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนตอนต้น ปางสมาธิ ขนาดหน้าตัก 43 ซม. สูง 55 ซม. ปัจจุบันพระแก้วมรกต ประดิษฐ์ฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว

    เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง ในรัชกาลปัจจุบันโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ทั้งพระอารามใน พ.ศ. 2525 เมื่อมีการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นองค์ประธานในการบูรณะ ในการบูรณะครั้งนี้ได้มีการจัดสร้างเหรียญพระแก้วมรกต ทั้ง 3 ฤดูให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญ ซึ่งเหรียญพระแก้วมรกตมีการจัดสร้าง 2 ครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้ง 2 รุ่นแตกต่างกันที่รุ่นแรก ไม่มีคำว่าพระราชศรัทธาอยู่หลังเหรียญ สำหรับเหรียญพระแก้วมรกตแบบแรก ทำพิธีพุทธาภิเศกวันที่ 13 ก.ค.2524โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นองค์ประธาน เนื่องจากเหรียญแบบแรกไม่พอกับความต้องการของประชาชน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างใหม่ เป็นเหรียญแบบที่สอง ที่มีพระราชศรัทธาอยู่หลังเหรียญ โดยทำพิธีที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วันที่ 9 ธ.ค.2524 มีพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณที่มีชื่อเสียงจากทั่วประเทศมาทำพิธีมากมาย กว่าร้อยรูป

    ๑. เหมันต์ตฤดู (ฤดูหนาว)

    ๒. คิมหันต์ตฤดู (ฤดูร้อน)

    ๓. วัสสานะตฤดู ( ฤดูฝน)

    พิธีการสร้าง

    - ส่งแผ่นเงินและแผ่นทอง ถวายสมเด็จพระสังฆราชและสมเด็จพระราชาคณะ ลงอักขระมงคลร้อยแปดและบริกรรมแผ่เมตตาบารมี

    - พระเกจิอาจารย์ที่ลงแผ่นวัตถุมงคลทั่วประเทศรวม 359 รูป จำนวนแผ่นวัตถุมงคลรวม 456 แผ่น

    ++ พิธีมหาพุทธาภิเษก ประกอบขึ้นเมื่อ 2 พ.ย. 2525 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร โดยสมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธาน โดยมีรายนามพระคณาจารย์เข้าร่วมพิธีปลุกเสก ดังนี้

    - สมเด็จพระญาณสังวร
    - พระราชญาณดิลก วัดเขาเต่า
    - หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน
    - หลวงพ่ออุตตมะ
    - ระปัญญาภิมณฑ์มุนี กรุงเทพ
    - หลวงพ่อเข็ม วัดสุทัศน์
    - หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู
    - หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
    - หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    - หลวงพ่อเปลื้อง วัดใหญ่ชัยมงคล
    - หลวงพ่อปกาศิตบุญเย็น ฐานธมฺโม
    - หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม หลวงปู่สิม
    - สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ พระเทพกวี
    - หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร
    - หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
    - พระครูประสาทธรรมจักร พิษณุโลก
    - หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
    - พระครูประดิษฐนวการ(หลวงพ่อบุญ) ราชบุรี
    - หลวงพ่อเพิ่ม วัดสรรเพชญ์
    - หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    - หลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะ
    - พระมหาศิริพงศ์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ
    และคณะผู้สร้างยังได้นำวัตถุมงคลทั้งหมดไปให้

    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อธิษฐานจิตปลุกเสกให้ด้วย
    เหรียญสภาพสวยมากๆ อยู่ในซองเดิมๆทั้ง สามองค์ พุทธคุณสุดยอดครับ




    ** พระเกจิอาจารย์ร่วมปลุกเสกเพียบ นิยม น่าใช้ เข้มขลัง พุทธคุณรอบด้าน เหรียญสภาพสวย พร้อมซองเดิมๆครับ ให้บูชา เบาๆ 500 บาท **
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2015
  16. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่13 สมเด็จชุดในโอ่ง หลวงปู่ดู่วัดสะแก มีพระธรรมธาตุ สวยปี 2527**คุณchomkamonบูชาแล้วครับ**
    พระชุดในโอ่งจัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2527 เป็นพระเนื้อปูนซีเมนต์ขาวผสมผงพุทธคุณหลวงปู่ดู่ (ยืนยันได้ว่าพระหลวงปู่มีผงพุทธคุณผสมอยู่ด้วย เนื่องจากเคยเข้าไปในห้องกระจกบนหอสวดมนต์ ได้เห็นกระดานชนวนที่หลวงปู่ใช้ลบผง) พระชุดนี้จัดสร้างโดยคณะป้าอิ้งและพระอ้วน พระพิมพ์หลักๆที่จัดสร้างประกอบด้วย
    1.พิมพ์สังข์กระจายวัดสุทัศน์ฐานสูงและฐานเตี้ย
    2.พิมพ์สมเด็จสามชั้น (ถอดพิมพ์ บางขุนพรหม,วัดระฆัง,เจ้าคุณนรฯ และ หลวงพ่อแพ)
    3.พิมพ์สมเด็จ 7 ชั้น & 9 ชั้น (ถอดพิมพ์ วัดเกษไชโย)
    4.พิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ (ถอดพิมพ์ บางขุนพรหม และ หลวงพ่อแพ)
    5.พิมพ์สมเด็จฐานสิงห์ (ถอดพิมพ์หลวงพ่อแพ)
    6.พิมพ์พระลือ
    7.พิมพ์ปรกยะลาเจ้าคุณนรฯ
    8.พิมพ์พระประจำวันวัดรัตนชัย
    9.พิมพ์พระธิเบตใหญ่ & เล็ก (ไม่ทราบถอดพิมพ์จากไหน)
    10.พิมพ์หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง
    11.พิมพ์เหรียญบัวข้าง 2520
    12.พิมพ์เหรียญฉีดบัวข้าง 2522
    13.พิมพ์เหรียญยันต์ดวง 2526
    14.พิมพ์พระปิดตาฤาษีลิงดำ
    15.พิมพ์วัดศีลขันธาราม
    16.พิมพ์พระของขวัญวัดปากน้ำ, พระลีลาเล็กๆ
    เท่าที่นึกได้ครับ เนื้อจะมีทั้งขาว, เทา และเหลืองอมเขียว ด้านหลังจะมีทั้งหลังเรียบ, หลัง ๑ ด และ หลัง อะ ระ หัง (พบเห็นน้อยมาก)

    แต่พระลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ ที่ประจำอยู่ที่วัดสะแกท่านรับรองว่าเป็นของหลวงปู่ดู่ทันท่านเสกแน่นอน และเสกนานด้วยก็ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๗ จนถึงท่านละสังขาร ได้ผ่านพิธีเปิดโลก และพิธีการต่างๆ หลายวาระ

    ความหมายของการโปรดยุคปัจจุบัน นั้นหมายถึงเมื่อสร้างและเสกโดยหลวงปู่ดู่แล้วได้นำบรรจุไว้ในโอ่งน้ำดื่ม แล้วล้อมด้วยสายสิญจน์ หลวงปู่ดู่ท่านเสกและอธิษฐานจิตเรื่อยมาและถูกเก็บไว้โดยพระลูกศิษย์คนสำคัญที่องค์หลวงปู่ดู่มอบหมายไว้ให้สอนกรรมฐานและแนะนำการปฏิบัติต่อไป

    ถ้าใครจะปฏิบัติและยึดเอา พระไตรสรณคมน์ และ "องค์หลวงปู่ดู่ - หลวงปู่ทวด"
    เป็นครูบาอาจารย์แล้วก็รับเอาพระสมเด็จนี้ไปกำในมือ ขณะภาวนาทำสมาธิ




    เหมือนองค์ท่านจะทราบด้วย อนาคตังสญาณ ว่า

    ในอนาคตจะมีผู้ต้องการพระท่านมาก
    ท่านจึงสร้างและเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังๆ
    ขอเพียงท่านเป็นผู้ปฏิบัติที่ดี ศรัทธาและกระทำดี
    แม้นเพียง ๑ ใน ๔ ส่วน หลวงปู่ดู่ท่านก็เมตตา

    "คนเราไม่ได้รู้จักดีมาแต่เกิด เมื่อรู้แล้วต้องเอาให้หายอยาก" :หลวงปู่ดู่

    พระรุ่นนี้บางองค์พบพระธาตุขึ้นลักษณะขาวอมเหลือง และขาวใส เกาะติดองค์พระ แต่ไม่ได้พบทุกองค์แต่ความสำคัญอยู่ที่องค์หลวงปู่ดู่ท่านอธิษฐานจิตเป็นพิเศษไว้ในพระสมเด็จรุ่นนี้

    สมเด็จชุดนี้พิเศษที่เป็นสมเด็จใช้ทำกรรมฐาน (สมาธิ) เน้นความคุ้มครองแก่ศิษย์ในระหว่างที่นั่งสมาธิ จากภูติผีปีศาจที่ชอบมารบกวนประเภทมือใหม่ หลวงปู่ดู่ท่านขอพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้แผ่บารมีช่วยเหลือผู้ที่นั่งสมาธิให้จิตมีสมาธิได้เร็วขึ้น โดยอธิษฐานไว้กับพระสมเด็จรุ่นนี้

    โดยเฉพาะสำหรับลูกศิษย์ที่ปฏิบัติกรรมฐานได้ บอกตรงกันว่า

    "สามารถถามปัญหาข้อติดขัดต่างๆ ได้"


    ที่เรียกกันว่า "ถามพระ"

    ความพิเศษความสุดยอดที่ว่านี้อยู่ที่องค์หลวงปู่ดู่ท่าน เป็นผู้อธิษฐานจิตเอง
    เรียกว่า สมเด็จกรรมฐาน (และที่พิเศษ ก็สำหรับศิษย์ในยุคปัจจุบันที่ไม่ทันมากราบท่าน)

    หลวงน้าสายหยุดท่านเคยบอกไว้ ท่านบอกว่า ท่านไม่ได้กล่าวชมอาจารย์ตัวเองนะแต่จะหาพระองค์อื่นๆ หมายถึง พระเกจิที่ทำได้เหมือนท่านยาก หลวงน้าท่านบอกว่า หลวงปู่ดู่ท่านขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในอดีตที่ตรัสรู้จนกระทั่งนิพพาน อยู่ในองค์พระทั้งหมดแดนนิพพานก็อยู่ในนั้น...

    บารมีและแสงสว่างจากองค์พระของ หลวงปู่ดู่ เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ลูกศิษย์รุ่นเก่าๆ ว่าองค์หลวงปู่ดู่ท่านเป็นพระอริยสงฆ์เป็นพระโพธิสัตว์บารมีมาก ถ้าใครได้ปฏิบัติกับท่านแล้ว จะทราบได้เองว่า พระที่หลวงปู่ดู่ท่านให้นำไปกำ ขณะปฏิบัติสมาธิภาวนานั้นไม่ธรรมดา

    ปัจจุบัน พระสมเด็จรุ่นนี้ถูกเก็บไว้ที่วัดสะแกโดยพระองค์สำคัญท่านหนึ่ง ที่ท่านยังไม่เปิดตัวแต่รู้กันในหมู่ลูกศิษย์ว่า ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีและสามารถแนะนำ หรือสอนในเบื้องต้นได้(ถ้าโชคดีอาจได้พระสมเด็จจากท่าน) และถ้าใครรักที่จะปฏิบัติภาวนา ทำสมาธิก็ต้องไปกราบขอความเมตตาท่านเอาเอง พระที่ท่านให้ เป็นพระของหลวงปู่ดู่แท้ๆ 100%

    หลวงปู่ดู่เคยกล่าวไว้ว่า

    "พระข้าไม่เป็นที่หนึ่ง แต่ก็ไม่เป็นรองใครในแผ่นดิน"

    พระรุ่นนี้ท่านทำและอธิษฐานไว้

    "ใครมีบุญ และเคยทำบุญร่วมกันมา
    ขอให้ได้มาพบกัน ถึงไม่ได้พบ
    ก็ขอให้พบแบบวิธีปฏิบัติ และพระที่ข้าทำเอาไว้
    จะได้มีกำลังใจในการปฏิบัติต่อไป"

    **องค์นี้สภาพสวย มีพระธรรมธาตุ หายาก** ให้บุชา 1200 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_6271.JPG
      SAM_6271.JPG
      ขนาดไฟล์:
      59.8 KB
      เปิดดู:
      169
    • SAM_6272.JPG
      SAM_6272.JPG
      ขนาดไฟล์:
      60 KB
      เปิดดู:
      137
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2015
  17. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่14 พระพนัสบดี เนื้อดินผสมผงพิมพ์ใหญ่ สร้างน้อย ลงกรุ สวยคลาสสิค หายาก คุณแม่บุญเรือน ปี 2499
    **สมาชิกจองครับ**
    พระรุ่นนี้ สร้างเป็นที่ระลึกฉลองพระประธานวัดสารนาถฯ จ.ระยอง ปี 2499 ที่คุณแม่บุญเรือนเป็นประธานสร้าง อธิษฐานจิตโดยคุณแม่บุญเรือน
    พระ มงคลมหาลาภ 2499 คุณแม่บุญเรือน พิมพ์พระพนัสบดี เนื้อดินเผาผสมผงพุทธคุณ พระรุ่นนี้ สร้างเป็นที่ระลึกฉลองพระประธานวัดสารนาถฯ จ.ระยอง ปี 2499 ที่คุณแม่บุญเรือนเป็นประธานสร้าง อธิษฐานจิตโดยคุณแม่บุญเรือนและพระสายล.ป.มั่นกว่าร้อยรูป มีคุณค่าน่าสะสมและบูชาเป็นอย่างยิ่งครับ ขออ้างอิงข้อความจากหนังสืออนุสรณ์พระมงคลมหาลาภ วัดสารนาท จ.ระยอง ดังนี้ *** พระมงคลมหาลาภ พ.ศ.2499 ของวัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานครเป็นพระสมเด็จแบบสมเด็จพระพุฒาจารย์ พระพุทโธเล็ก พระวัดตะไกร และพระแบบวัดนางพระยา ฯลฯ (และแบบอื่นๆอีกมาก) พระเครื่องเหล่านี้สร้างเป็นที่ระลึกในงานสมโภชพระพุทโธชินราชจอมมุนี ซึ่งสร้างที่ วัดสัมพันธวงศ์ พระนคร แล้วอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ วัดสารนาถธรรมราม อ.แกลง จ.ระยอง พร้อมด้วยพระอัครสาวกซ้ายขวา เมื่อวันที่ 5-31 มีนาคม 2499 *** พระ รุ่นนี้ ปลุกเสกโดยคุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธ และ คณาจารย์หลายท่านเช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวง พ่อเงินวัดดอนยายหอม เป็นต้น ****ทั้ง นี้ ได้รับการปลุกเสก ซ้ำที่วัดสารนาถธรรมาราม จ.ระยองอีกครั้ง โดยนิมนต์พระสายระยอง และสายกรรมฐานเช่น หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง หลวง ปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงพ่อลี วัดป่าคลองกุ้ง อาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม โดย ทั้งหมดเพื่อจัดสร้างและสมโภชน์พระพุทโธภาสชิน ราชจอมมุนี ในขณะที่แม่ชีบุญเรือน เป็นประธาน จัด สร้างและคุมงานเอง

    **พระพนัสบดี เนื้อดินผสมผงพิมพ์ใหญ่ สร้างน้อย ลงกรุ เกจิสายวัดป่าปลุกเสก 18 วัน18คืน ปกติวัดให้บูชาองค์ละ5,000 บาท** แต่ผมให้บุชา 1,000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_6291.JPG
      SAM_6291.JPG
      ขนาดไฟล์:
      90.9 KB
      เปิดดู:
      182
    • SAM_6290.JPG
      SAM_6290.JPG
      ขนาดไฟล์:
      81.2 KB
      เปิดดู:
      332
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2015
  18. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่15 พระพิฆเนศ รุ่น สมปารถนา ขนาดบูชา หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน**สมาชิกนิมนต์แล้วครับ**

    หลวงพ่อเพี้ยนปลุกเสก ที่ระลึกงานทอดกฐิน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี ไตรมาส54 เนื้อโลหะ สูง 20cm ฐานกว้าง 9 cm
    ประสบการณ์เพียบ เงินทองไหลมาเทมา เด่นด้านโภคทรัพย์ ที่สำคัญ ราคายังไม่แรง จับต้องได้ครับ

    **องค์นี้สภาพสวยสมบูรณ์ แบ่งให้บุชาเบาๆ ราคา 1600 บาท **
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 10961.jpg
      10961.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.5 KB
      เปิดดู:
      181
    • 10962.jpg
      10962.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.8 KB
      เปิดดู:
      151
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2015
  19. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่16 ตะกรุดโทน ไตรมาส51 หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี สภาพสวย

    ตะกรุดโทน ไตรมาส51 หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี สภาพสวย ปลุกเสกนาน 3 เดือน มีประสบการณ์

    **ตะกรุดดอกนี้ สภาพสวยสมบูรณ์ หลวงปู่ท่านปลุกเสก3 เดือน พุทธคุณเยี่ยม สมชื่อ หลวงปู่เพี้ยนครับ ให้บุชา ดอกละ 800 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.9 KB
      เปิดดู:
      194
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.7 KB
      เปิดดู:
      204
  20. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,626
    ค่าพลัง:
    +4,635
    รายการที่ 17 พระเนื้อดินพิมพ์สมาธิฐานบัว ซุ้มเส้นคู่ (ซุ้มหยัก) หลวงพ่อพ่วง วัดกก พิมพ์หายากครับ***มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ***

    เมื่อพูดถึงพระเครื่องของดีราคาเบาๆ ซึ่งเป็นของหลวงพ่อพ่วง วัดกก บางท่านก็รู้จัก และหลายๆ ท่านอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อ ซึ่งความจริงแล้วหลวงพ่อพ่วงท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งมากและ ท่านก็เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อมิ่ง แต่พระของท่านค่อนข้างหายากจึงทำให้ไม่ค่อย ได้พบเห็นกันบ่อยนัก
    พระเครื่องเนื้อดินเผาของท่านจะผสมผงวิเศษ 5 ประการที่ท่านทำขึ้นผสมลงไปด้วย พระเครื่องเนื้อดินเผาของท่านสร้างประมาณปีพ.ศ.2473 มีด้วยกันหลายพิมพ์ หลวงพ่อพ่วงท่านจะนั่งบริกรรมคาถาไปด้วยในระหว่างที่เผาพระเครื่อง และเมื่อเผาเสร็จท่านก็จะนำพระเครื่องทั้งหมดเข้าไปในพระอุโบสถและปลุกเสกอีกหลายพรรษา จึงจะนำมาแจกให้ชาวบ้านต่อไป พระเครื่องเนื้อดินของหลวงพ่อพ่วงนี้สนนราคายังไม่สูง แต่ก็หายากพอควรและไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก

    พุทธคุณพระเครื่องของหลวงพ่อพ่วงนี้เด่นทางด้านมหาอุด อยู่ยงคงกระพัน ทางด้านเมตตามหานิยมก็ไม่น้อยหน้าใครครับ วันนี้ก็นำพระเครื่องเนื้อดินเผาผสมผง พิมพ์ต่างๆ
    **พระเนื้อดินพิมพ์สมาธิฐานบัว ซุ้มเส้นคู่ (ซุ้มหยัก) หลวงพ่อพ่วง วัดกก พิมพ์นี้หายาก พบเจอน้อย ปัจจุบันมีของเก๊เยอะครับ เช่าหาต้องระวังครับ ส่วนองค์นี้แท้ดูง่ายรับประแท้ตลอดชีวิตครับ ให้บูชา ตามสภาพ 350 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...