สติยาลดความโลภ..คติประจำชีวิตของ "สุวรรณชัย" บอสใหญ่พิชญ์พิศาล

ในห้อง 'พุทธศาสนากับคนดัง' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 23 ธันวาคม 2008.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    'สติ'ยาลดความโลภ..คติประจำชีวิตของ "สุวรรณชัย" บอสใหญ่พิชญ์พิศาล

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>'สติ'ยาลดความโลภ คติประจำชีวิตของ "สุวรรณชัย" บอสใหญ่พิชญ์พิศาล</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>19 ธันวาคม 2551 17:13 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ในเบื้องลึกของจิตใจคนเรา คงไม่มีใครที่จะไม่ปรารถนาอยาก"ได้"สิ่งต่างๆไว้ครอบครอง เพราะนี่คือกิเลสที่อยู่คู่กับมนุษย์ทุกคน ยิ่งในโลกของ"สังคมวัตถุ"ที่ถูกอิทธิพลจากโลกตะวันตกเข้ามาครอบงำด้วยแล้ว ความอยากได้ถูกสะสมและเพิ่มพูนอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นม่านทึบบดบังจิตใจของคนเรา เปรียบเสมือน"โรค"ร้าย ที่เป็นอันตรายให้พบเห็น!

    แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าPVC รายใหญ่ของเมืองไทย "สุวรรณชัย พิชญ์พิศาล" ประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัท พิชญ์พิศาล จำกัด กลับมองว่า หากเราตั้งมั่นในการมี"สติ" ก็เปรียบได้กับ "ยารักษาความโลภ!!"

    การจะลดความโลภ ยังสามารถมาประยุกต์และผสมผสานให้เข้ากับการดำเนินธุรกิจของบริษัท พิชญ์พิศาลฯ ที่ยังคงมุ่งมั่นในความใส่ใจต่อคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค และการดูแล"โลก"ใบนี้ ให้ยืนยาวตราบนานเท่านาน!!

    สุวรรณชัย เล่าว่า ธุรกิจที่ตนดำเนินอยู่ ค่อนข้างจะเกี่ยวโยงและมีผลต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผลิตภัณฑ์PVC เป็นผลพลอยได้จากธุรกิจปิโตรเคมี ที่นำมาผสมผสานให้เข้ากับสารเคมี แล้วนำมารีดเป็นรูปตามมาตรฐานที่ทางสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.)กำหนด เพื่อให้สินค้ามีอายุการใช้งานที่นาน ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสินค้าพีวีซีที่มีคุณภาพต่ำ อายุการใช้งานจะสั้นลง แม้ว่าจะสามารถนำมารีดได้ใหม่ แต่อายุจะสั้นลงอีก ซึ่งผลิตภัณฑ์พีวีซีย่อยสลายนานและยากมากๆ

    ขณะเดียวกัน สินค้าของบริษัทยังไม่ทำลายธรรมชาติ ไม่มีการตัดไม้ เพราะเป็นสินค้าที่มาจากปิโตรเคมี แต่ถึงกระนั้น คงต้องมีใครตั้งคำถามว่า "การทำพีวีซีจะทดแทนการใช้ไม้ได้นานแค่ไหน" นี้คือโจทย์ที่เราต้องพยายามคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานและคุณภาพของสินค้าให้อยู่คู่กับผู้บริโภคและธรรมชาติให้นานที่สุด

    " เราไม่เน้นปริมาณ เพราะการมีตัวเลขของปริมาณการขายที่มากๆ ก็หมายถึงการลดคุณภาพของสินค้าลง ลดต้นทุนลง ส่งผลต่อเนื่องถึงระดับมาตรฐานของสินค้า ดังนั้น เราไม่ทำตลาดล่าง อย่าลืม ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพีวีซี จะมีไฟฟ้าสถิต สามารถดูดเชื้อโรคต่างๆได้ นี้จึงเป็นเหตุผลที่เราพยายามให้ครอบคลุมตลาดบน ปณิธานของเรา คือ ต้องมีจริยธรรมในการทำธุรกิจ"สุวรรณชัย กล่าวและว่า

    ตลอดระยะเวลา 17 ปีที่อยู่บนเส้นทางธุรกิจนี้ เราก็เห็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงการบริโภคของลูกค้าเรื่อยมา ซึ่งก่อนที่จะมาปลุกปั้นบริษัทพิชญ์พิศาลฯ นั้น โดยบุคลิกแล้วชอบงานขาย ชอบนำเสนอสินค้า พอดีเพื่อนในบริษัท ยันวอยุน จำกัด ชักชวนให้มาช่วยงาน ก็ได้เข้าไปสัมผัสการขายสินค้า หลังจากมีผู้ที่ต้องการให้มาช่วยทำผลิตภัณฑ์PVC ก็เลยเข้ามาลองทำดู ช่วงแรกๆ ผู้บริโภคไม่ยอมรับ กลยุทธ์ของเราก็เลยมุ่งไปที่สถาปนิกผู้ออกแบบ แล้วค่อยขยับไปร้านวัสดุก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันร้านเหล่านี้ก็ยังมีอยู่ เช่น โซนรัชดาภิเษก และร้านวัสดุก่อสร้างแถวโรงเรียนมหาพฤฒาราม (หัวลำโพง) และเมื่อโมเดิร์นเทรดเติบโต บริษัทพิชญ์พิศาลฯ ก็ต้องนำสินค้าไปนำเสนอเพื่อให้ลูกค้าได้เห็น เพราะสมัยนี้ ลูกค้ามีทางเลือกและเฟ้นหาสินค้าที่มีคุณภาพ นี่คือภาพของตลาดในกรุงเทพฯ ขณะที่ตลาดในต่างจังหวัด ก็ยังเหมือนผู้บริโภคในกรุงเทพฯ เมื่อ 10 ปีก่อนแต่ตอนนี้ ลูกค้าต่างจังหวัดเริ่มเปลี่ยนไปคล้ายกับตลาดในกรุงเทพฯ

    "คนเราทุกคนยอมมีความเครียด เครียดจากการทำงาน เครียดจากธุรกิจ เครียดจากครอบครัว ก็ต้องหาวิธีสลายความเครียด สำหรับตนแล้ว งานถ่ายภาพ เป็นอะไรที่เข้ามาช่วยลดความเครียดทางธุรกิจ เป็นงานอดิเรกที่สามารถทำได้ตลอด ไม่มีเวลามากำหนด การที่กลับมาถ่ายรูปอีก เพราะช่วงนี้มีเวลา ซึ่งสมัยเรียนหนังสือ ก็เคยเรียนเรื่องกล๋องถ่ายรูปที่ยังใช้ฟิลม์อยู่ ก็สิ้นเปลืองเหมือนกัน ต่างจากกล้องดิจิตอลในสมัยนี้ สามารถประหยัดค่าใช้จ่าย ฟิลม์ไม่หมด ที่สำคัญ ยังทำให้สมอง 2 ฝั่งทำงานไปพร้อมๆกัน คือ การถ่ายภาพให้ออกมาดี ต้องรู้จักมององค์ประกอบของภาพ เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ ในบางครั้งอารมณ์ศิลปินไม่มี เลยทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาไม่มีศิลปะ เพราะเรามองโปรดักส์ไม่ออก ซึ่งภาพที่ชอบถ่ายจะเป็นประเภทแลนสเคปของวิวธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยว และรวมถึงภาพครอบครัว"

    ...แม้งานอดิเรกจะช่วยผ่อนคลายความเครียดจากหลายๆสิ่งที่ต้องพบและเจอในแต่ละวัน แต่นั่นไม่ใช่ "จุดสูงสุด"ของการดำรงกายให้ปลอดจาก"โลภ"!!

    สุวรรณชัย กล่าวว่า การจะทำอะไรต้องมีสติ เมื่อสติคุมแล้ว ก็จะเกิดสมาธิ ก่อเกิดปัญญาขึ้นมา ซึ่งสิ่งที่ทำอยู่ คือ การฝึก กายให้มีสติ หรือแม้แต่การนั่งสมาธิ สามารถปฏิบัติได้ทุกที่ทุกเวลา เพราะสติเป็นบ่อเกิดของปัญหา ทำให้เราไม่ฟุ้งซ่าน เช่นเดียวกับ การทำธุรกิจหรือการทำบุญ ก็ควรมีหลัก ซึ่งหลักของผมก็คือ "ไม่ทำให้เกิดความเดือดร้อนขึ้นมา " ตัวอย่างในเรื่องของการทำบุญ เราในฐานะคนไทย ก็ต้องบูรณะพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่กับสังคมไทยไปตลอดกาล แต่หลักของการทำบุญนั้น คือ ทำแล้วขอให้สบายใจ ไม่ใช่ไปกะเกณฑ์ว่าควรจะเป็นเท่าไหร่ พูดได้เลยว่า การจะทำอะไรต้องรู้จักมีสติ เพราะสติช่วยลดความโลภลงได้

    นอกจากนี้ สุวรรณชัยยังมองทะลุถึงฐานรากของเศรษฐกิจไทยว่า ธุรกิจการเกษตรและการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่จะทำให้ประเทศไทยมีอนาคต แต่ตนกลับมองว่า หากเราไปมุ่งอุตสาหกรรมแล้ว คงไม่มีแต้มต่อเท่าไหร่ สู้ประเทศจีนไม่ได้ และอีกอย่าง ประเทศไทยไม่เก่งในเรื่องตัวแทนนายหน้า หรือโบรกเกอร์เหมือนที่ประเทศสิงคโปร์เป็นอยู่ ดังนั้น หากเรายังนำจุดอ่อนไปตีจุดแข็งก็คงไม่ใช่หนทางที่จะช่วยส่งเสริมความมั่นคงต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาวได้

    " เรื่องการเกษตรผมก็สนใจอยู่ ตอนนี้ก็มีอยู่หลายไร่แถวๆลำลูกกา โดยยึดหลักตามทฤษฎีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทำเกษตรพอเพียง ซึ่งจะเป็นเกษตรผสมผสาน ไม่ใช่เกษตรเชิงเดียว เพราะหากเกิดวิกฤตขึ้นมาจะลำบาก การทำเกษตรผสมผสาน ถ้ารอบๆหมู่บ้านของเหลือ ก็เอาไปขายได้ และการทำ ก็จะเป็นรูปแบบเกษตรอินทรีย์ ที่ไม่ใช้สารเคมี ค่าใช้จ่ายไม่สูง และระบบนี้ ธรรมชาติจะกำจัดธรรมชาติที่ไม่ดีออกไป และที่มาสนใจการเกษตรไม่ใช่มุ่งหวังในเรื่องธุรกิจ แต่ผมมองเรื่องของความยั่งยืนต่างหาก "เจ้าของธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าPVC รายใหญ่กล่าวทิ้งท้าย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...