สรุปรวมสถานที่ปลอดภัยและหลักการสังเกตุ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 26 มกราคม 2007.

  1. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ก่อนอื่น ต้องขอเรียนให้ทุกท่านได้ทราบก่อนว่า

    "การที่ท่านจะเป็นผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้นั้น ได้ถูกกำหนดมาโดยอำนาจของกฏแห่งกรรม "

    "การที่สถานที่แห่งหนึ่งเหมาะสมกับท่านแต่ก็อาจไม่เหมาะสมกับผู้อื่น "

    "แต่ละสถานที่ก็ยอม มีกฏ มีข้อวัตร มีแนวทางการปฏิบัติ ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นท่านก็ควรที่เลือกให้เหมาะสมกับตัวท่าน แต่แรก หรือไม่เช่นนั้นท่านก็ควรที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานที่เหล่านั้น"

    "ถ้าท่านถูกกำหนดมาให้รอดก็ย่อมมีที่ ที่เหมาะสมกับท่านอยู่แล้ว ขอให้ท่านอธิฐาน ด้วยใจมั่นที่จะพบสถานที่แห่งนั้น และรู้ได้ด้วยตัวเอง"


    สถานที่ที่เตรียมไว้เป็นที่ปลอดภัย สำหรับเหตุการณ์ในการเกิดภัยพิบัตินี้
    แบ่งออกได้เป็น

    1. สถานที่ส่วนบุคคล ที่ถูกเตรียมไว้เป็นเซฟเฮาส์ ของท่านผู้มีบารมีทั้งหลาย ที่เหล่านี้เป็นที่ส่วนตัว ไม่เปิดรับบุคคลภายนอก และในบางแห่งก็ไม่แน่ว่าจะปลอดภัย (เนื่องจากอาจจะไม่มีบารมี พระ บารมีธรรมคุ้มครอง)

    2.สถานที่ส่วนบุคคล ที่เป็นสถานที่ประกอบธุรกิจ อยู่ในภาวะปรกติ แต่ท่านเจ้าของ ท่านได้ทราบ ในเรื่องภัยพิบัติ และมีใจอันเป็นกุศลที่ปรับสถานที่รองรับ ช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากเมื่อถึงเวลา ส่วนใหญ่ จะอยู่ในรูป รีสอร์ท บ้าง โฮมสเตย์บ้าง ส่วนใหญ่ท่านเจ้าของจะเป็นผู้ปฏิบัติธรรม มีญาณมีฌาน และมีจิตเมตตา และบารมีครูบาอาจารย์คุ้มครองอยู่

    3.สถานที่เปิด เช่นวัด หรือธรรมสถาน ต่างๆ ขอแยกออกเป็น สองประเภท
    -ประเภทที่พระหรือท่านผู้ดูแลสถานที่นั้น ท่านได้ทราบว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นและได้จัดเตรียมสถานที่ไว้บ้างแล้ว ( ที่เหล่านี้ เป็นจุดที่พวกเราจะเข้าไปช่วยได้อย่างค่อนข้างเต็มที่)
    -ประเภทที่ท่านผู้ดูแลสถานที่ไม่ทราบเรื่องนี้ แต่แรก แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ท่านก็ได้ ให้การช่วยเหลือด้วยเมตตา ไปตามสถานการณ์

    ที่แนะนำให้เราไปอยู่ ไปช่วยก็คือ ประเภทที่หนึ่งครับ เพราะง่ายกว่า สะดวกกว่าในการชี้แจงกับท่านเจ้าของสถานที่

    4. สถานที่เปิด เช่น โรงเรียน ศูนย์ราชการ สนามกีฬา และค่ายทหาร ที่เมื่อถึงเวลา ถ้าจุดใด ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่เสียหายก็จะถูกปรับใช้เพื่อการบรรเทาทุกข์ครับ

    ที่ประเภทนี้ ยังอันตรายเนื่องจากไม่มีบารมีพระคุ้มครองอยู่เต็มที่ และ ผู้ที่มาอยู่รวมกันก็ไม่มีศีล มีธรรม ในการอยู่ร่วมกัน อาจมีปัญหาในภายหลังตามมา


    ดังนั้นจุดที่ผมอยากจะเน้นก็คือ

    จุดที่เป็น วัด และ สถานที่ปฏิบัติธรรม เป็นสำคัญ ซึ่งจุดสังเกตุว่าที่ใดในที่เหล่านั้นเป็นที่ปลอดภัยก็คือ (จากที่พระท่านบอกมาในสมาธิ)

    - เป็นที่ตั้ง ที่สถิตย์ของ พระธาตุ พระบรมธาตุ หรือรอยพระบาทอย่างใดอย่างหนึ่ง

    -มีพระอริยสงฆ์ หรือพระสุปฏิปันโน ท่านอยู่เป็นมิ่งขวัญ แผ่ บารมีคุ้มครองอยู่

    -ในข้อแรกนั้น ท่านมีข้อแม้ว่า หากไม่มีพระอริยเจ้าอยู่ ก็ขอให้มีพระที่ท่านเป็นสัมมาทิษฐิ มีความเคารพในพระรัตนไตร เป็นปรกติ ดูแลสถานที่นั้น ที่นั้นจึงจะปลอดภัย

    สำหรับ รายชื่อสถานที่เหล่านี้ ให้ดูในหนังสือรวมพระบรมธาตุ ของกลุ่มรักษ์พระธาตุ และหนังสือตามรอยพระบาทของหลวงพี่ชัยวัฒน์ แห่งวัดท่าซุงที่ท่านได้รวบรวมไว้จนถึงเล่มสามแล้ว และที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือ มีรอยพระบาท หลายรอยที่พึ่งปรากฏขึ้น ในยุคสมัยปัจจุบันนี้ (ที่พระท่านบอก ก็คือ การประทับรอยพระบาทนั้น พระพุทธเจ้าท่านต้องอธิฐานจิตกำกับด้วยทุกครั้งไป และการประทับรอยพระบาท ที่นั้นต้องมีเหตุมีปัจจัยที่สมควรแก่การ)
     
  2. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ผู้อยู่ในศีลในธรรม แม้นไปรวมตัวกันที่ใด เทพเทวาแลคุณพระศรีรัตนตรัย ย่อมติดตามไปคุ้มครอง
     
  3. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    มีข้อมูลตรงจุดนี้เพิ่มเติมด้วยครับ จะทะยอยนำลงให้ ต้องค่อยๆทะยอย ลง เพราะลงแล้วหายไปสอง สามครั้งแล้ว

    พอครบถ้วนแล้วผมจะนำลงในระบบวิกีพีเดียอีกทีครับ
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441

    เป็นไปได้ว่าสถานที่ที่ถูกเลือกไว้ จะมีร่องรอยพระพุทธบาทปรากฎอยู๋
    รอยพระบาทที่เขากะลา คุณคนานันท์แจ้งหลวงพี่ชัยวัฒน์ไปรึยังครับ ?


    [​IMG]

    มีการค้นพบใหม่เพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ นี่ก็เป็นรอยนึงที่จังหวัดขอนแก่น ค้นพบเมื่อ 10 ปีก่อน จารึกลงบนหินทราย

    ประวัติการค้นพบ
    จากการสัมภาษณ์นายหม้อ ปากสี อายุ 75 ปี ราษฎรหมู่ บ้านตับเต่า และเคยเป็นผู้ใหญ่บ้านแห่งนี้ให้สัมภาษณ์ว่า
    "ได้ค้นพบรอยพระพุทธบาทเมื่อประมาณ 10 กว่าปีมาแล้ว ตนเป็นผู้พบโดยบังเอิญ ขณะนั่งเล่นบริเวณลานด้านหน้าวัด เห็นหินมีลักษณะโค้ง ๆ เป็นหลุมมีต้นไม้ขึ้นอยู่ด้านบนได้ลอง ขุดลอกดินออกจึงได้พบว่าเป็นรอยพระพุทธบาท หลังจากนั้นได้ร่วมกับชาวบ้านก่อนขอบปูนซีเมนต์รอบรอย พระพุทธบาทไว้ 3 ด้าน เพื่อป้องกันมิให้ดินไหลลงไปทับถมอีก



     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffff><TD vAlign=top>
    ตามรอยพระพุทธบาท
    โดย อ. คนเมืองบัว

    [FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif][​IMG][/FONT]​
    [FONT=CordiaUPC, BrowalliaUPC, MS Sans Serif]

    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอานุภาพเป็นอย่างยิ่ง เหนือเหล่ามนุษย์ อมนุษย์ เทวดา พรหม ทั้งหลาย ด้วยพุทธบารมีนี้เอง ในสมัยพุทธกาล เมื่อใดที่พระองค์เสด็จไปโปรด ณ. สถานที่แห่งใด ผู้ที่มีความศรัทธาหมู่นั้น มักจะทูลขอรอยเงาของพระองค์บ้าง รอยพระพุทธหัตถ์บ้าง รอยพระพุทธบาทบ้าง ไว้เป็นที่สักการะบูชา เมื่อล่วงพ้นการเวลานั้นไป ขาดการดูแลต่อช่วง จึงมักอยู่ที่เร้นลับในปัจจุบัน แต่เมื่อถึงการเวลาอันสมควร กึ่งพุทธกาลแล้ว ร่องรอยต่างก็จะปรากฏ ให้ชาวพุทธได้กราบไหว้บูชากันอีกครั้ง ส่วนพระพุทธบาท พระพุทธหัตถ์ และรอยที่ประทับนั่ง ต่างๆ ที่ " คนเมืองบัว " และคณะศิษย์ ได้ค้นพบนั้น มั่นใจกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าใช้วิชาความรู้ " ฤทธิ์ทางใจ " ที่ได้เรียนรู้มาเป็นสื่อให้ได้รู้ได้เห็น

    ความดีใดที่เกิดจากการใช้ วิชาฤทธิ์ทางใจได้ค้นพบ รอยพระพุทธบาท รอยพระหัตถ์ รอยประทับนั่งของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน " ข้าพเจ้าขอบูชา พระคุณแด่หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่านซุง จ. อุทัยธานี " ที่ข้าพเจ้ามีความศรัทธาในคุณธรรมท่าน หากมีอานิสงค์ใดที่จะปรากฏขึ้น ขอให้ทุกท่านที่มาเยี่ยมชม เวป..คนเมืองบัว " ได้โปรดโมทนาเถิด
    [/FONT]
    คนเมืองบัว...

    </TD><TD>
    </TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD vAlign=bottom align=left>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    1.รอยพระพุทธบาท "เทพสถิตย์"
    http://www.konmeungbua.com/foot-thapsathid.php

    2.รอยผ่าพระหัตถ์พระพุทธเจ้า
    http://www.konmeungbua.com/foot-prahud.php

    3.รอยหัตถ์ท่านพญานาค
    http://www.konmeungbua.com/foot-payanak.php

    4.รอยพระพุทธบาท "เกาะแก้วพิศดาร"
    http://www.konmeungbua.com/foot/kohkea.php

    5.รอยพระพุทธบาท "เขาหลวง"
    http://www.konmeungbua.com/foot-khowlung.php

    6.รอยพระพุทธบาทคู่
    http://www.konmeungbua.com/foot-prabathku.php

    7.รอยพระพุทธบาท "ภูย่าอู่"
    http://www.konmeungbua.com/foot-phuyaeu.php

    8.รอยพระพุทธบาท "วัดพระนั่งดิน"
    http://www.konmeungbua.com/foot-pranangdin.php

    9.รอยพระพุทธบาท "ปรางทอง"
    http://www.konmeungbua.com/foot-phangtong.php

    10.รอยพระพุทธบาท "เขานาคเกิด"
    http://www.konmeungbua.com/foot-prabath_nakkud.php

    11.รอยพระพุทธบาท "กันทรปุระ ศรีมิ่งเมือง"
    http://www.konmeungbua.com/foot-mingmeung.php

    12.รอยพระพุทธบาทข้างขวาองค์ปัจจุบัน
    http://www.konmeungbua.com/foot-new.php

    13.พบเครื่องหมายรอยพระพุทธบาท เมื่อวันที่ 4-7 เมษายน พ.ศ.2547
    http://www.konmeungbua.com/foot-new2.php


    ที่มา http://www.konmeungbua.com/foot-kamnam.php
     
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ก่อนอื่น ต้องขอเรียนให้ทุกท่านได้ทราบก่อนว่า
    "การที่ท่านจะเป็นผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้นั้น ได้ถูกกำหนดมาโดยอำนาจของกฏแห่งกรรม "
    "การที่สถานที่แห่งหนึ่งเหมาะสมกับท่านแต่ก็อาจไม่เหมาะสมกับผู้อื่น "
    "แต่ละสถานที่ก็ยอม มีกฏ มีข้อวัตร มีแนวทางการปฏิบัติ ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นท่านก็ควรที่เลือกให้เหมาะสมกับตัวท่าน แต่แรก หรือไม่เช่นนั้นท่านก็ควรที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานที่เหล่านั้น"
    "ถ้าท่านถูกกำหนดมาให้รอดก็ย่อมมีที่ ที่เหมาะสมกับท่านอยู่แล้ว ขอให้ท่านอธิฐาน ด้วยใจมั่นที่จะพบสถานที่แห่งนั้น และรู้ได้ด้วยตัวเอง"

    สถานที่ที่เตรียมไว้เป็นที่ปลอดภัย สำหรับเหตุการณ์ในการเกิดภัยพิบัตินี้ แบ่งออกได้เป็น
    1. สถานที่ส่วนบุคคล ที่ถูกเตรียมไว้เป็นเซฟเฮาส์ ของท่านผู้มีบารมีทั้งหลาย ที่เหล่านี้เป็นที่ส่วนตัว ไม่เปิดรับบุคคลภายนอก และในบางแห่งก็ไม่แน่ว่าจะปลอดภัย (เนื่องจากอาจจะไม่มีบารมี พระ บารมีธรรมคุ้มครอง)
    2.สถานที่ส่วนบุคคล ที่เป็นสถานที่ประกอบธุรกิจ อยู่ในภาวะปรกติ แต่ท่านเจ้าของ ท่านได้ทราบ ในเรื่องภัยพิบัติ และมีใจอันเป็นกุศลที่ปรับสถานที่รองรับ ช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากเมื่อถึงเวลา ส่วนใหญ่ จะอยู่ในรูป รีสอร์ท บ้าง โฮมสเตย์บ้าง ส่วนใหญ่ท่านเจ้าของจะเป็นผู้ปฏิบัติธรรม มีญาณมีฌาน และมีจิตเมตตา และบารมีครูบาอาจารย์คุ้มครองอยู่
    3.สถานที่เปิด เช่นวัด หรือธรรมสถาน ต่างๆ ขอแยกออกเป็น สองประเภท -ประเภทที่พระหรือท่านผู้ดูแลสถานที่นั้น ท่านได้ทราบว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นและได้จัดเตรียมสถานที่ไว้บ้างแล้ว ( ที่เหล่านี้ เป็นจุดที่พวกเราจะเข้าไปช่วยได้อย่างค่อนข้างเต็มที่) -ประเภทที่ท่านผู้ดูแลสถานที่ไม่ทราบเรื่องนี้ แต่แรก แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ท่านก็ได้ ให้การช่วยเหลือด้วยเมตตา ไปตามสถานการณ์
    ที่แนะนำให้เราไปอยู่ ไปช่วยก็คือ ประเภทที่หนึ่งครับ เพราะง่ายกว่า สะดวกกว่าในการชี้แจงกับท่านเจ้าของสถานที่
    4. สถานที่เปิด เช่น โรงเรียน ศูนย์ราชการ สนามกีฬา และค่ายทหาร ที่เมื่อถึงเวลา ถ้าจุดใด ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่เสียหายก็จะถูกปรับใช้เพื่อการบรรเทาทุกข์ครับ
    ที่ประเภทนี้ ยังอันตรายเนื่องจากไม่มีบารมีพระคุ้มครองอยู่เต็มที่ และ ผู้ที่มาอยู่รวมกันก็ไม่มีศีล มีธรรม ในการอยู่ร่วมกัน อาจมีปัญหาในภายหลังตามมา

    ดังนั้นจุดที่ผมอยากจะเน้นก็คือ
    จุดที่เป็น วัด และ สถานที่ปฏิบัติธรรม เป็นสำคัญ ซึ่งจุดสังเกตุว่าที่ใดในที่เหล่านั้นเป็นที่ปลอดภัยก็คือ (จากที่พระท่านบอกมาในสมาธิ)
    -เป็นที่ตั้ง ที่สถิตย์ของ พระธาตุ พระบรมธาตุ หรือรอยพระบาทอย่างใดอย่างหนึ่ง
    -มีพระอริยสงฆ์ หรือพระสุปฏิปันโน ท่านอยู่เป็นมิ่งขวัญ แผ่ บารมีคุ้มครองอยู่
    -ในข้อแรกนั้น ท่านมีข้อแม้ว่า หากไม่มีพระอริยเจ้าอยู่ ก็ขอให้มีพระที่ท่านเป็นสัมมาทิษฐิ มีความเคารพในพระรัตนไตร เป็นปรกติ ดูแลสถานที่นั้น ที่นั้นจึงจะปลอดภัย
    สำหรับ รายชื่อสถานที่เหล่านี้ ให้ดูในหนังสือรวมพระบรมธาตุ ของกลุ่มรักษ์พระธาตุ และหนังสือตามรอยพระบาทของหลวงพี่ชัยวัฒน์ แห่งวัดท่าซุงที่ท่านได้รวบรวมไว้จนถึงเล่มสามแล้ว และที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือ มีรอยพระบาท หลายรอยที่พึ่งปรากฏขึ้น ในยุคสมัยปัจจุบันนี้ (ที่พระท่านบอก ก็คือ การประทับรอยพระบาทนั้น พระพุทธเจ้าท่านต้องอธิฐานจิตกำกับด้วยทุกครั้งไป และการประทับรอยพระบาท ที่นั้นต้องมีเหตุมีปัจจัยที่สมควรแก่การ)
    -เป็นสถานที่ที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญอยู่ สำหรับในเรื่องนี้ มีเรื่องราวยืนยันในหลายเหตุการณ์ในช่วงของการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิที่ผ่านมา เช่น
    ในฐานทัพ เรือทับละมุ จ.พังงา มีทหารเรือที่รอดตาย เพราะกอดอยู่ที่เท้าของอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร และปรากฏว่าน้ำทะเลแหวกออกเป็นที่อัศจรรย์และทหารผู้นั้นรอดตายได้เห็นกับตา มีนายทหารอีกท่านที่อยู่บนหลังคาของบ้านพัก เห็นเป็นพยานด้วยอีกท่านหนึ่ง
    บริเวณวัด โบสถ์และมัสยิด หลายแห่งใน อินโดนีเซีย และศรีลังกา น้ำทะเลได้แหวกออกเช่นกัน โดยคนที่มาอาศัยใน สถานที่ทางศาสนาเหล่านี้ล้วนรอดชีวิต กันอย่างน่าอัศจรรย์
    จากกรณีเหล่านี้จึงขอให้ท่าน ทั้งหลายได้เน้น สถานที่หลบภัยที่เป็นพุทธสถาน ธรรมสถานเป้นหลัก และตัวเลือกแรกๆ
    จากนั้นให้ท่านพิจารณาดูว่าสถานที่ที่ท่านได้เล็งอยู่นั้น สัปปายะเหมาะสมกับตัวท่านแค่ไหนอย่างไร โดยให้พิจารณาจาก
    -สถานที่นั้นปฏิบัติธรรมในสายที่ท่านนับถือหรือไม่ มีวาสนาบารมีผูกพันกับสถานที่แห่งนั้นหรือไม่ สังเกตุได้ว่าเมื่อไปถึงที่แห่งนั้นแล้ว ใจของท่านเย็น เบาสบาย มีความสุข คล้ายกับได้กลับมายังบ้านที่ได้จากกันมานาน
    -สถานที่นั้นมีข้อวัตรปฏิบัติ ที่ท่านปฏิบัติตามได้หรือไม่ หนักเกินกำลังแค่ไหน ท่านสามารถปรับตัว ปรับใจได้หรือไม่ ถ้าที่นั้น ต้องตื่นตีสาม ตีสี่ทุกวันไหวหรือไม่
    -สถานที่นั้น มีการทานเจ หรือทานปรกติ ตรงกับท่านหรือไม่
    -สถานที่นั้นมีที่พักที่อาศัยต้อนรับท่านได้หรือไม่ มีอาหาร มียารักษาโรค มีเครื่องนุ่งห่ม เพียงพอหรือไม่
    หลังจากพิจารณาได้เรียบร้อยแล้ว ก็พึง จัด พึงเตรียม ช่วยสถานที่เหล่านั้นในการรองรับผู้คนเมื่อเกิดภัยพิบัติเกิดขึ้น ทำความคุ้นเคย กับท่านเจ้าของหรือท่านที่ดูแลสถานที่นั้นๆ มีจุดใดที่ช่วย ที่ส่งเสริมให้ที่นั้นครบถ้วนบริบูรณ์ได้ก็จงพึงทำ
    แต่อย่างไรก็ตามวัตรปฏิบัติขั้นพื้นฐานสำหรับทุกๆสถานที่นั้นควรมีก็ได้แก่
    -มีความเคารพในพระรัตนไตรเป็นปรกติ
    -ศีลห้าเป็นปรกติ
    -เมตตาพรหมวิหารสี่เป็นปรกติ
    -สังคหวัตถุสี่การให้ การสงเคราะห์ ความช่วยเหลือกันมีน้ำจิตน้ำใจกันเป็นปรกติ
    -การส่งเสริมความดีของกันและกันเป็นปรกติ
    -ความไม่เพ่งโทษต่อกันเป็นปรกติ
    -การเจริญสมาธิ วิปัสนา กรรมฐานเป็นปรกติ
    เมื่อทุกสถานที่ทำได้ดังนี้ย่อมปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวงและอยู่กันอย่างสงบสุขร่มเย็นตราบจนปลอดภัย
    สถานที่ที่ได้รวบรวมไว้นี้ อาจยังไม่ครบถ้วนเนื่องจากมี สถานที่ปลอดภัยอีกเป็นจำนวนมาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...