สายพระป่าพระกรรมฐานพระทั่วไปเครื่องรางของขลัง

ปิดแล้วครับ

715.เสือโห่ แกะจากปลายเขี้ยวเสือไฟ เนื้อเหลืองอมน้ำตาลเข็ม ขนาดเล็ก เก่าดี มีอายุ ขนาดสูง 2 ซม.
“เสือ” เป็นสัตว์ที่ทรงพลังอำนาจ มีสัญชาตญาณของการเป็นนักล่าและการเอาตัวรอดได้ดี อวัยวะต่างๆของเสือที่ตายแล้ว จึงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องรางเพื่อให้เกิดอานุภาพด้านมหาอำนาจ แคล้วคลาด ป้องกันภัย โดยเฉพาะ “เขี้ยวเสือ” นั้น ได้รับความนิยมอย่างมากไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน จะเห็นว่ามีการนำเขี้ยวเสือมาทำเป็นเครื่องรางป้องกันตัว
โดยไม่ต้องผ่านการปลุกเสกก็ขลังได้ เพราะความเชื่อเกี่ยวกับเขี้ยวงานั้น คือ สามารถป้องกันภัยจากอันตรายไม่ว่าจะเป็นคุณไสยมนต์ดำ หรือภัยจากสัตว์ร้าย จึงทำให้คนในสมัยก่อนที่ต้องเดินทางในป่าบ่อยๆ มักจะพกเขี้ยวเสือติดตัว เพื่อป้องกันตนให้พ้นจากภัยร้าย
เขี้ยวเสือไฟเสือไฟ เป็นเสือที่มีขนาดลำตัวเล็ก มีความเฉลียวฉลาดปราดเปรียวว่องไว แต่ก็ดุร้ายตามสัญชาตญาณของเสือทั่วไป และมีความสามารถในการปกป้องคุ้มภัยเสือด้วยกันได้เป็นอย่างดี•คาถาพยัคฆราช (พญาเสือ) •
หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย (วัดมงคลโคธาวาส)
พระมหาเถราจารย์แห่งแผ่นดินผู้ทรงฌานอภิญญาแก่กล้า ผู้สร้างตำนานเขี้ยวเสืออันโด่งดังด้วยพลังพุทธาคมอันแก่กล้ายากที่จะหาใครเทียบ เขี้ยวสือหลวงพ่อปาน อันดับหนึ่งเบญจภาคีประเภทเครื่องรางของเมืองไทย
~กล่าวถึงพระคาถาศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อปาน~
•ตั้งนะโม ๓ จบ ฯ
•โอม พยัคโฆ พยัคฆา สุญญา ภัพพะติ อิติ ฮำ ฮึม ฮึม •ฯ

เขี้ยวเสือมีอยู่หลายประเภททั้งที่ผ่านการปลุกเสกและไม่ได้ผ่านการปลุกเสก แต่เขี้ยวเสือที่นับว่าหาได้ยากมาก คือ “เขี้ยวเสือไฟ” เนื่องจากเสือไฟ เป็นสัตว์ที่พบเจอได้ยาก คนที่จะพบเสือไฟได้จะต้องเป็นพระผู้ทรงศีล หรือคนที่มีคุณธรรม มีฤทธิ์อภิญญา มีบุญวาสนา จึงจะสามารถพบเจอกับเสือไฟได้ เพราะเสือไฟ เป็นเสือที่มีตบะบารมีอันแก่กล้า สามารถล่องหนหายตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์ จึงเป็นพญาเสือที่ไม่ว่าเสือประเภทใดๆต่างต้องเกรงกลัว
พระคาถาบทนี้ ใช้ภาวนาเช้าค่ำเป็นประจำ ๑,๓,๕,๗,๙,หรือ ๑๐๘ จบ มีตบะเดชะ
อำนาจวาสนาบารมี ประดุจดังเจ้าพยัคฆา (พญาเสือในป่า มีเดชอำนาจเป็นที่เกรงกลัวของสัตว์น้อยใหญ่ในไพรสน มีบารมีอำนาจแผ่ไปไกล ) แม้ศัตรูคิดปองร้าย ก็กลับจากร้ายกลายเป็นดี , ป้องกันคุณไสยและมนต์ดำ, สวด ๓ จบ ก่อนออกเดินทาง แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ผู้สวดประจำบังเกิดเป็นเสน่ห์เมตตาต่อคนทั้งหลาย อานุภาพมากมายจะพรรณนาได้ ฯ
ผู้ใคร่เล่าเรียนตั้งใจให้มั่น ประกอบด้วยศรัทธาน้อมระลึกถึงหลวงพ่อปาน ร่ำเรียนไว้เถิด ประเสริฐนักแลฯ

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

https://www.horolive.com/

ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญา ครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม

เปิดให้บูชา 4999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาท ครับเสือตัวนี้มีรอยจารเก่าด้วยครับ

 

716.เหรียญไฮเทครุ่นแรกหลวงพ่อโก๊ะ วัดเก้าห้อง อยุธยา ปี34
เป็นเหรียญประสบการณ์ของคนอยุธยาจริงๆ ท่านที่ขับขี่มอเตอร์ไซด์ไม่ควรพลาด และเป็นเหรียญที่มีเจตนาการสร้างบริสุทธิ์ เพื่อบูรณะอุโบสถของวัด มีพระเกจิสายอยุธยาและสายอื่นๆ ในสมัยนั้นร่วมพุทธาภิเษกกันมากมายครับ อาทิ .....หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ,
หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง
หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม
หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย เป็นต้น.....................................

ประสบการณ์เหรียญนี้เคยลงหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2534 ที่เฮลิคอปเตอร์กองทัพอากาศตกแล้วผู้สวมใส่หลวงพ่อรอดตายอย่างปฏิหารย์ และอีกหลายต่อหลายท่านในพื้นที่และนอกพื้นที่ ที่มีเรื่องราวประสบการณ์เล่าขานกันตลอด ประสบการณ์เด่นในเรื่องเดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัย ราคาให้เช่าเป็นราคาเบาๆ
เปิดให้บูชา 499 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ เหรียญสวยพระไม่ได้ใช้เลยครับ

 

717.ชุดหลวงพ่อเกษม เขมโก
เปิดให้บูชา 799 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

 

ปิดแล้วครับ
718.“ พระผงรูปเหมือนหันข้าง ซุ้มเถาวัลย์ หลวงปู่ขาว อนาลโย ปี 2517 เนื้อผงว่านผสมชานหมาก ติดเกศาเพียบ ”
พระผงพิมพ์หันข้างซุ้มเถาวัลย์หลวงปู่ขาว อนาลโย ปี17จัดสร้างโดย คณะศิษย์อุดรธานี นำโดยคุณสงวน ค้าเจริญ และ คณะฯ ในปี พ.ศ.๒๕๑๗ ถวายท่านอาจารย์ขาว อนาลโย เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกให้ รูปแบบด้านหน้า ท่านอาจารย์ขาว หันข้าง มีซุ้มเถาวัลย์ อันเป็นเอกลักษณ์ ด้านหลัง ปั๊มด้วยตัวหนังสือ พระอาจารย์ขาว อนาลโย เป็นพระอีก ๑ พิมพ์ของท่านอาจารย์ขาว ที่ไม่ค่อยพบเจอบ่อยครับ
เปิดให้บูชา 1999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาท เป็นอีกรุ่นหนึ่งของหลวงปู่ขาวที่หายากมากสร้างน้อยไม่ค่อยพบเจอบ่อยๆครับสายตรงเก็บหมดครับผม องค์นี้สวยสมบูรณ์ เกศาเยอะครับผม

 

719.พระสิวลีองค์จ้อยหลวงพ่อกวย
พระสิวลีเป็นพระอรหันต์ผู้มากด้วยลาภสักการะกว่าพระภิกษุองค์ใดในพุทธกาล พระสิวลีจึงเป็นที่นิยมสักการะบูชาเพื่อความมีโชคลาภ อุดมสมบูรณ์ตั้งแต่โบราณมาพระเกจิอาจารย์มักจะสร้างรูปสักการะทั้งแบบบูชาและแบบพระเครื่องเพื่อให้ได้บูชากัน

พระสิวลีหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท เป็นที่ได้รับความนิยมอยู่ในระดับต้นๆของประเทศ ท่านได้สร้างพระสิวลีไว้หลายแบบ เช่น แบบบูชา พระเนื้อดิน เนื้อผง มีอยู่ด้วยกันหลายพิมพ์ ท่านบอกกับลูกศิษย์ว่าให้หมั่นบูชาไว้จะมีโชคลาภสมบูรณ์ตลอด ขนากท่านยังภาวนาคาถาอยู่ทุกวัน

องค์นี้เป็นพระสิวลีหลวงพ่อกวยองค์จ้อยเนื้อดินพิมพ์มีย่ามครับ
เปิดให้บูชา 999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับองค์นี้เลียมเดิมเก่ามากครับพระสวยสมบูรณ์ครับ

 

ปิดแล้วครับ
720.พระกริ่ง8รอบครูบาดวงดีวัดบ้านฟ่อน
เนื้อทองทองเหลืองอุดผง องค์นี้มีเกศาที่ทางลูกศิษย์ได้ใส่เพิ่มเข้าไปอีกนับว่าหายากครับทิ้งไว้เริ่มมีพระธาตุเสด็จมาแล้วครับ
เปิดให้บูชา 1999บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับนับว่าหายากครับพร้อมเลี่ยมเงินสั่งทำครับ

 

ปิดแล้วครับ

721.เหรียญท้าวเวสสุวรรณรุ่นแรก
รุ่นบารมีเทาวฤทธิ์จะตุมหาราชิกาวัดสิลาอาสน์
คายนอก อ.แม่อาย จ.เชีบงใหม่ ปลุกเสก5วาระ
เนื้อกะไหล่เงินสร้าง 222 เหรียญ สวยหายากครับพิธีใหญ่ครับเปิดให้บูชา 1499 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

 

722.เหรียญรัชกาลที่ 5 (พิมพ์เล็ก) เนื้อเงินลงยาสีน้ำเงินหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
เหรียญรัชกาลที่ 5 (พิมพ์เล็ก) เนื้อเงินลงยาสีน้ำเงิน หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
เหรียญอยู่ในสภาพสวยงาม ไม่ผ่านการบูขา
เป็นเหรียญดีพิธีใหญ่หายากครับ
เปิดให้บูชา 999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับเลี่ยมกันน้ำอย่างดีครับ

 

723.ลูกแก้วสารพัดนึกหลวงปู่กอง วัดสระมณฑล อยุธยา
ประวัติหลวงปู่กอง จนฺทวํโส
วัดสระมณฑล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ข้อมูลจาก http://www.relicsofbuddha.com/marahun/page8-2-22.htm
ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย

หลวงปู่กอง จันทวังโส มีนามเดิมว่า กอง ถนอมทรัพย์ เป็นบุตรคนที่ ๒ ใน ๓ คน ของคุณพ่อฝอย และคุณแม่ทัด ถนอมทรัพย์ เกิดเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๔๔๒ ในแผ่นดินรัชกาลที่ ๕ บ้านเดิมอยู่ที่ ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ซึ่งท่านก็ได้เรียนหนังสือและจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ ๔ ที่โรงเรียนวัดบ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง นั่นเอง

มูลเหตุบรรพชา
ครั้นเมื่อมารดาของหลวงปู่เสียชีวิตลง ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร และไม่ได้ลาสิกขาจนกระทั่งอายุครบบวช เนื่องจากหาจะสึกเมื่อไร ก็มักจะเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่เสมอ ในขณะที่หลวงปู่ยังเป็นสามเณรอยู่นั้น ได้ติดตามพี่ชายไป จ.สุพรรณบุรี และอยู่วัดพระลอยกับหลวงพ่อแต้ม เมื่ออายุครบบวช จึงได้กลับไปอุปสมบท ณ วัดบ้านแก อ.แสวงหา จ.อ่างทอง หลังจากนั้นจึงได้ไปจำพรรษาอยู่ ณ วัดข่อย หรือ วัดข่อยวังปลาในปัจจุบัน

ที่วัดข่อยนี้เอง หลวงปู่ได้ศึกษาวิทยาการต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม กับหลวงพ่อเข็ม ท่านได้ศึกษาอยู่จนได้เป็น พระปลัดกอง มีหน้าที่อบรมสั่งสอนพระเณรที่วัด ซึ่งท่านเป็นพระที่มีวินัยเข้มงวดกวดขันมาก หลังจากนั้นจึงได้ลาสิกขาบทกลับมาใช้ชีวิตฆราวาส

ลาสิกขา
ในช่วงชีวิตฆราวาส หลวงปู่ได้มีครอบครัวเฉกเช่นคนทั่วไป แต่เมื่อภรรยาของท่านออกลูกสาวคนแรกก็เสียชีวิตลง ท่านจึงได้แต่งงานใหม่อีกครั้ง โดยมีบุตร-ธิดาที่เกิดจากภรรยาคนที่สองอีก ๓ คน ท่านใช้ชีวิตอยู่ที่ จ.อ่างทองระยะหนึ่ง จึงย้ายมาอยู่ที่ จ.พิจิตร ซึ่งที่นี่เอง ภรรยาคนที่สองของท่านก็ได้เสียชีวิตลงอีก ท่าานจึงเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก อีกทั้งบุตรและธิดาท่านโตพอจะช่วยเหลือตนเองได้แล้ว จึงนำไปฝากไว้กับตาและยายเพื่อให้ไปศึกษาต่อในชั้นมัธยม ส่วนท่านจึงได้กลับเข้าอุปสมบทอีกครั้ง

ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา

การอุปสมบทครั้งนี้ ท่านได้สละเพศฆราวาสของท่าน ณ วัดเทวประสาท ต.ห้วยเกต อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ในขณะนั้นท่านมีอายุได้ ๕๕ ปีแล้ว โดยมีท่านพระครูพิบูลย์ศีลสุนทรเป็นพระอุปัชฌาย์ และพระอธิการทองอยู่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฏาคม พ.ศ.๒๔๙๕ โดยได้รับฉายาว่า จันทวังโส เมื่อบวชแล้วท่านได้ศึกษาวิทยาการต่างๆจากหลวงปู่มหาทิม ซึ่งพระอาจารย์มหาทิม เป็นพระผู้มีความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม รวมถึงคาถาอาคมต่างๆ ต่อมาหลวงปู่กองจึงได้ติดตามอาจารย์มหาทิมลงมากรุงเทพ ฯ ด้วย โดยไปจำพรรษาที่วัดพระสิงห์ กรุงเทพฯ จากนั้นท่านจึงได้ไปศึกษาอบรมอยู่กับหลวงพ่อมิ ซึ่งเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์มหาทิม (หลวงพ่อมิ เป็นศิษย์ของหลวงปู่คง วัดซำป่างาม จ.ชลบุรี) เมื่ออยู่ได้ระยะหนึ่ง ท่านจึงได้แยกย้ายกับพระอาจารย์มหาทิม เพื่อไปธุดงค์แสวงหาโมกขธรรมตามป่าเขา

ในการธุดงค์ของหลวงปู่กอง ได้ปลีกวิเวกไปตามป่าเขาลำเนาไพร ตามที่สงบสงัด บางครั้งก็ได้ไปพบกับครูบาอาจารย์และสหายธรรมมากมาย ครั้นเมื่อกลับจากธุดงค์แล้ว ท่านจึงได้ไปจำพรรษาวัดโน้นบ้างวัดนี้บ้าง ตามที่สหายธรรมของท่านได้ชักชวนไป จนกระทั่งในที่สุด หลวงปู่ได้มาจำพรรษาที่วัดสระมณฑลซึ่งเป็นพระอารามเก่าแก่ในสมัยอยุธยา ซึ่งเหลือเพียงโบสถ์และพระพุทธรูปโบราณ วัดมีอาณาเขตเพียงแค่รอบโบสถ์ ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนประชาชน

ในสมัยที่หลวงปู่ออกธุดงค์อยู่นั้น หลวงปู่ได้เดินธุดงค์ไปถึงที่ถ้ำวัวแดง จ.ชัยภูมิ ณ สถานที่นั้นเองที่ท่านได้เจอกับพระอาจารย์อีกองค์หนึ่งของท่าน ที่ท่านให้ความเคารพเทิดทูนมาก นั่นคือ หลวงปู่เทพโลกอุดร ด้วยความเคารพรัก และบูชาในคุณธรรมของท่าน หลวงปู่จึงได้สร้างรูปเหมือนหลวงปู่เทพโลกอุดรขนาดใหญ่ ไว้ให้ศิษยานุศิษย์บูชาไว้ภายในโบสถ์ด้วย

หลวงปู่กอง ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดสระมณฑล จนกระทั่งละสังขาร ในวันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๖ สิริอายุได้ ๑๐๔ ปี ๙ วัน ๕๑ พรรษา

เปิดให้บูชา ลูกละ 599 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
ลูกที่1.ลูกแก้วสราพัดนึกมี โชคมีลาภ
ลูกที่2.เนื้อผงลูกนิมิตมงคล มั่งมีศรีสุข มี 2 ลูกครับ
ลูกที่3.ลูกแก้วสารพันนึก ครอบครัวเป็นสุข
ลูกที่4.ลูกแก้วสารพัดนึก ร่างกายแข็งแรง
ลูกที่5.ลูกแก้วสารพัดนึก มีความร่มเย็น
ทั้งหมดเจ้าของเดิมได้ไปทำบุญได้รับโดยตรงครับนานแล้วครับผม

 

ปิดแล้วครับ

724.เหรียญโภคทรัพย์นางกวัก ปี 2536 เนื้อทองแดง หลวงพ่อเกษม เขมโก
หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง พระผู้ทรงอภิญญาบารมี ตนบุญแห่งลานนาไทย ท่านได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาส เดินทางมุ่งหน้าสู่สุสานป่าช้า สถานที่ที่ท่านใช้ปฏิบัติธรรมตลอดอายุขัยของท่าน หลวงพ่อเป็นพระอริยะสงฆ์ที่มีวัตรปฏิบัติและปฏิปทาที่ควรแก่การกราบไหว้สักการะบูชาเป็นอย่างยิ่ง วัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตล้วนแล้วแต่ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความบริสุทธิ์แห่งมหาพุทธานุภาพ ซึ่งสร้างประสบการณ์มากมายให้กับผู้ที่ใช้บูชา วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นของดีที่เป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนทั่วไป เหรียญโภคทรัพย์นางกวัก รุ่นนะหน้าทอง เนื้อทองแดง สร้างปี พ.ศ.2536 ด้านหน้าเป็นรูปนางกวักมหาเศรษฐี ด้านหลักเป็นรูปใบโพธิ์มีอักระคาถาหัวใจพระสิวลีมหาลาภ "นะชาลีติ" เหรียญรุ่นนี้สร้างได้สวยงามมาก หลวงพ่อท่านเมตตาอธิษฐานจิตบรรจุพลังพุทธาคมให้เต็มเปี่ยม พุทธคุณสูงทางด้านโภคทรัพย์โชคลาภ ค้าขาย เจริญรุ่งเรือง

เปิดให้บูชา 499 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

 

725.เหรียญสัตยาธิษฐาน วัดพระแท่นศิลาอาสน์ จ.อุตรดิตถ์
จังหวัดอุตรดิตถ์ มีพุทธสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งนามว่า "พระแท่นศิลาอาสน์" ตัวพระแท่นเป็นศิลาแลง มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 8 ฟุต ยาวประมาณ 10 ฟุต สูง 3 ฟุต ที่ฐานพระแท่นประดับด้วยลายกลีบบัวโดยรอบ มีพระมณฑปครอบ

ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เป็นพุทธเจดีย์ เช่นเดียวกับพระแท่นดงรัง มีความเชื่อกันมาแต่โบราณว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งห้าพระองค์ในกัลป์นี้ ได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นแห่งนี้ เพื่อเจริญภาวนาและโปรดสัตว์

พระแท่นศิลาอาสน์แห่งนี้มีตำนานว่า เป็นแท่นที่พระพุทธเจ้า 4 พระองค์ และพระโพธิสัตว์ ซึ่งจะตรัสรู้ในภายหน้าอีก 1 พระองค์ ได้เสด็จมาตั้งสัตยาธิษฐานจำศีลบำเพ็ญพุทธบารมี และเมื่อได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว 4 พระองค์ทรงมาประทับนั่ง จึงเป็นเหตุให้มีพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลกันมาบูชาแท่นศิลาแลง และร่วมกันทำบุญอย่างเนืองแน่นเป็นประจำทุกปี จากทั่วทุกสารทิศ

มี การสำรวจบัญชีการรับบริจาคของวัดพระแท่นศิลาอาสน์ พบว่า ในแต่ละปีจะมีประชาชนเข้ามานมัสการและร่วมทำบุญในช่วงการจัดงานนมัสการไม่ น้อยกว่า 50 จังหวัด ทุกคนต่างยึดมั่นในคำกล่าวของบรรพบุรุษถึงอานิสงส์ของการไหว้พระแท่นครบ 3 ครั้งแล้วจะได้ไปสวรรค์

งานนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ มีมาตั้งแต่เมื่อใดไม่มีใครทราบ แต่หลักฐานที่ปรากฏในหนังสือพระราชพงศาวดารสมัยกรุงศรีอยุธยาว่า เมื่อ พ.ศ.2283 สมเด็จพระเจ้าบรมโกศ เสด็จไปนมัสการพร้อมทั้งโปรดเกล้าฯ ปฏิสังขรณ์วิหารพระแท่นศิลาอาสน์ให้มั่นคงแข็งแรงกว่าของเดิม ต่อมา พ.ศ.2313 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หลังจากไปตีชุมนุมพระฝางที่เมืองสวางคบุรีแตกแล้ว ได้สมโภชพระแท่นศิลาอาสน์ถึง 3 วัน 3 คืน
เช่นเดียวกันจากเอกสาร ประวัติพระยาพิชัยดาบหัก กล่าวถึงว่า ก่อนเป็นทหารเอกพระเจ้าตากสิน ได้หัดวิชามวยกับครูเมฆที่ท่าเสา ได้ไปเปรียบมวยที่งานพระแท่นและชนะนายถึก ศิษย์ครูนิล ซึ่งเป็นครูมวยชื่อดังของเมืองทุ่งยั้งอย่างสวยงาม จึงกล่าวได้ว่างานนมัสการพระแท่นศิลาอาสน์นั้น ได้มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ตามการสันนิษฐานของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งเสด็จมาในปี พ.ศ.2441

สำหรับ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระแท่นศิลาอาสน์ มีความสำคัญมากขึ้น เมื่อสมเด็จพระสังฆราช พระราชาคณะมานมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ และได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ รวมถึง 8 พระองค์ ต่อมา วัดพระแท่นศิลาอาสน์ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2549

ส่วนพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่เสด็จฯ มานมัสการและร่วมบูรณปฏิสังขรณ์ มีจำนวนถึง 19 พระองค์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2501

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2547

สมเด็จ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ทรงประกอบพิธียกช่อฟ้าพระวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2550 ยังความปีติยินดีต่อพุทธศาสนิกชนที่มารอเฝ้ารับเสด็จบริเวณหน้าพระวิหารเป็น จำนวนมากด้วย

พระครูถาวร ธรรมโกวิท เจ้าอาวาสวัดพระแท่นศิลาอาสน์ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จมาเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2547 พระองค์สนพระทัยในประวัติความเป็นมาของพุทธสถานสำคัญแห่งนี้ รวมทั้งประวัติของพระพุทธบาทสี่รอย หลวงพ่อธรรมจักร พุทราแขวนบาตร ล้วนมีความเป็นมาเกี่ยวข้องกับพระแท่นศิลาอาสน์แห่งนี้ทั้งสิ้น ภายหลังจากที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากลัยณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2551 วัดพระแท่นศิลาอาสน์ได้จัดพิธีทำบุญอุทิศถวายกุศลตลอด 15 วัน ในช่วงของการไว้ทุกข์จนถึงปัจจุบัน

นายธวัชชัย ฟักอังกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า วัดพระแท่นศิลาอาสน์ จัดงานนมัสการประจำปี ตั้งแต่วันขึ้น 7 ค่ำ ถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 มีพิธีเปิดงานด้วยขบวนแห่เครื่องสักการะ ขบวนศิลปวัฒนธรรม ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของประชาชนในท้องถิ่นอำเภอลับแล มากด้วยภูมิปัญญาและวัฒนธรรมทางเหนือที่อนุรักษ์กันไว้อย่างเหนียวแน่น

พิธี สำคัญอีกพิธีหนึ่ง คือ พิธีถวายหอคำแก้ว อนุสรณ์สถาน การเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เป็นที่ประดิษฐานตราสัญลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระชนมพรรษา 80 พรรษา

เหรียญสัตยาธิษฐาน นมัสการพระแท่นศิลาอาสน์ เหรียญธรรมจักร อีกด้านของเหรียญพระแท่น จารึกข้อความอักษรไทยข้างบนว่า สุจริตํ กาตพฺพํ ด้านล่างว่า วัดพระแท่นศิลาอาสน์ เราจะบำเพ็ญสุจริต ซึ่งเป็นเหรียญที่ระลึกที่มีคุณค่าในการสะสม

เปิดให้บูชา 999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

 

726.เหรียญบาตรน้ำมนต์ สารพัดนึกฉลองครบ 5 รอบ 60 พรรษา อุปสมบท
เหรียญบาตรน้ำมนต์ สารพัดนึก หลวงพ่อเกษม เขมโกปลุกเสก ปี2536 ฉลองครบ 5 รอบ 60 พรรษา อุปสมบท อีกรุ่นที่ออกแบบสวยงาม ที่สำคัญ มีประสบการณ์สุดๆครับหาไม่ง่ายนะครับ
เปิดให้บูชา 599 บาทค่าจัดส่ง 50 บาทครับ เหรียญสวยพร้อมเลี่ยมกันน้ำครับ

 

ปิดแล้วครับ

727.เหรียญหลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่นบารมี 81 เนื้อทองแดงรมดำ ปี35 สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง
หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง พระผู้ทรงอภิญญาบารมี ตนบุญแห่งลานนาไทย ท่านได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาส เดินทางมุ่งหน้าสู่สุสานป่าช้า สถานที่ที่ท่านใช้ปฏิบัติธรรมตลอดอายุขัยของท่าน หลวงพ่อเป็นพระอริยะสงฆ์ที่มีวัตรปฏิบัติและปฏิปทาที่ควรแก่การกราบไหว้สักการะบูชาเป็นอย่างยิ่ง วัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตล้วนแล้วแต่ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความบริสุทธิ์แห่งมหาพุทธานุภาพ ซึ่งสร้างประสบการณ์มากมายให้กับผู้ที่ใช้บูชา วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นของดีที่เป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ลูกหาและประชาชนทั่วไป เหรียญรูปไข่ รุ่นบารมี 81 สร้างปี พ.ศ.2535 กรมตำรวจจัดสร้าง ด้านหลังเป็นตราแผ่นดิน เหรียญรุ่นนี้ออกแบบแกะพิมพ์ได้สวยงาม หลวงพ่อท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกให้เต็มที่ทรงความศักดิ์สิทธิ์และเปี่ยมไปด้วยมหาพุทธานุภาพเป็นอย่างยิ่ง ลูกศิษย์ลูกหาผู้ที่ศรัทธาหลวงพ่อไม่ควรพลาดยิ่งหากใครรับราชการแล้วต้องมีไว้บูชา องค์นี้สภาพสวยมาก พระสวยพระดีมีคุณค่าน่าบูชา
เปิดให้บูชา 699 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

 

728.พระผงมงคลเกษม ๓ หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ปี ๒๕๒๓
พระผงมงคลเกษม ๓ หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ปี ๒๕๒๓ เนื้อผงพุทธคุณ หลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ ลำปาง เชื่อได้ว่าท่านเป็นพระอริยะเจ้ารูปหนึ่ง แม้แต่หลวงปู่ดู่ วัดสะแก และหลวงปู่บุดดา ยังให้การยกย่องนับถือ แม้ว่าท่านเหล่านนั้นจะไม่เคยเจอตัวกันมาก่อน อาจจะรู้จักกันผ่านทางจิตนั่นเอง หลวงพ่อเกษม เป็นพระที่ปฏิบัติเคร่งครัดจริงจังยากที่จะหาพระรูปใดทำได้แบบท่าน หลวงพ่อเกษม เคยได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส แต่ท่านไม่ชอบจนกระทั่งออกมาจำพรรษาอยู่ที่สุสานไตรลักษณ์เพียงรูปเดียว หลวงพ่อเกษมเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นโดยแท้จริง อันจริยาวัตรของท่านหลายอย่างยังคงเป็นคำกล่าวขวัญกันอยู่ อย่างเช่น การขบฉันของท่าน ท่านก็ฉันแต่น้อย สองสามวันท่านจะฉันเพียงมื้อเดียวโดยท่านฉันรวม คือของคาวและของหวานเทรวมกัน บางครั้งท่านยังฉันข้าวบูดอีก ท่านนั่งบริกรรมกลางแดดในฤดูร้อนจนผิวหนังไหม้ ท่านนั่งบริกรรมท่ามกลางสายฝนในหน้าฝน ท่านนั่งบริกรรมท่ามกลางอากาศหนาวเย็นของภาคเหนือ ตลอด 3 เดือนเต็ม (นั่งบริกรรมกลางแจ้งโดยไม่เข้าร่มเลย) เคยมีผู้สอบถามหลวงพ่อถึงสาเหตุที่ท่านนั่งบริกรรมกลางแจ้ง ท่านก็ตอบว่า " เพื่อให้รู้เหตุของทุกข์ จะได้รู้จักการหลุดพ้นทุกข์ " และที่น่าแปลกอีกอย่างก็คือ ระยะเวลาใน 1 ปี หลวงพ่อจะอาบน้ำเพียงครั้งเดียว และนับจากปี 2514 เป็นต้นมาหลวงพ่อเกษมไม่ได้อาบน้ำอีกเลย แต่ท่านกลับไม่มีกลิ่นตัว ไม่มีเหงื่อ แม้ว่าท่านจะออกนั่งภาวนาตากแดดก็ตามที เท่าที่ดูแล้วหลวงพ่อท่านกลับมีผิวพรรณผ่องใส หลวงพ่อเกษม เป็นหนึ่งในพรสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ไปสักการะสนทนาธรรมเป็นการส่วนพระองค์ หลวงพ่อเกษม เขมโก นับได้ว่าเป็นพระอริยะเจ้าของล้านนา ยากที่จะมีใครปฏิบัติธรรมได้เคร่งครัดแบบท่าน หลวงพ่อได้ละสังขารเมื่อ วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2539 อายุได้85ปี

เปิดให้บูชา 599 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ

 

ปิดแล้วครับ

729.เหรียญ สวัสดี พ ม ท หลวงพ่อเกษม เขมโก เนื้อทองฝาบาตรพร้อมเลี่ยม ปี ๒๕๓๓
เหรียญสวัสดี ด้านหน้า เป็น ตัว นะ ของหลวงพ่อ ด้านล่าง เขียน คำว่า พ ม ท ออกปี 2533

น่าบูชามากๆครับ

พระคาถาทั้ง 4 บท มาจากหนังสือวันเกิดครบรอบอายุ 77 ปี ( เมื่อปี 2531) ของหลวงพ่อเกษม เขมโก

พระคาถาทั้ง 4 บทนี้ มีผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อหลวงพ่อเกษม เขมโก เคยนำไปปฏิบัติแล้วได้ผลดี จนเป็นที่เลื่องลือมาแล้ว

พระคาถาบทที่ ๑ (ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วให้ว่าดังนี้)
"สิวะลีมหาเถรัง วันทามิหัง, สิวะลีมหาเถรัง วันทามิหัง, สิวลีมหาเถรัง วันทามิหัง มหาสิวลี เถโร มหาลาโภ โหติ มหาสิวะลี เถโร ลาภัง เม เทถะ"
...บทนี้ใช้สวดภาวนาประจำทั้งเช้าและเย็น เป็นคาถาโชคลาภ และเมตตามหานิยม จะทำให้ผู้ที่สวดภาวนาทำมาค้าขายดี ก่อนสวดให้ระลึกถึงพระสิวลีมหาเถระเจ้าผู้อุดมด้วยโชคลาภและหลวงพ่อเกษม เขมโกพระสุปฏิปันโนผู้ทรงความเมตตาและคุณธรรมสุง แล้วอธิษฐานขอโชคลาภตามใจปรารถนา
พระคาถาบทที่ ๒ (ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วให้ว่าดังนี้)
"พุทโธ วะโร สะติ มะโต สัพพะ อันตะรายา วินาสันตุ"
ใช้สวดภาวนา เป็นคาถาแคล้วคลาด ป้องกันสัพพะอันตรายทั้งปวง ก่อนออกจากบ้าน หรืขณะเดินทางขึ้นรถลงเรือไปเหนือล่องใต้ ให้สวด ๓ จบ ๗ จบแล้วค่อยไป อย่าลืมระลึกถึงองค์หลวงพ่อก่อนสวดทุกครั้ง

พระคาถาบทที่ ๓ (ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วให้ว่าดังนี้)
"ธัมโม มะมัง สุรักขะตุ"
ใช้สวดให้พระคุ้มครอง ป้องกันภูติผีปิศาจ ก่อนออกจากบ้านเดินทางให้สวด ๓ จบ ๗ จบ แล้วระลึกถึงหลวงพ่อเกษม เขมโกจึงค่อยไป เด็กนอนไม่หลับร้องไห้งอแงในเวลากลางคืน ให้ใช้คาถาบทนี้เป่าศีรษะเด็ก 3 ที เด็กจะนอนหลับสบาย เวลาพาเด็กเดินทางไปต่างถิ่นก็ให้ใช้คาถานี้เป่าป้องกันภูติผีปิศาจหลอกหลอน ท่านว่าชะงัดดีนักแล

พระคาถาบทที่ ๔ (ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วให้ว่าดังนี้)
"นะ โน นะ อันตะรายา วินาสันตุ"
ใช้เป็นคาถาแคล้วคลาด ป้องกันศาสตราวุธและโจรภัย อันตรายทั้งปวง ก่อนออกจากบ้านเดินทางให้สวด ๓ จบ ๗ จบ ก่อนแล้วจึงเดินทาง ในระหว่างทางก็ให้ภาวนาไปด้วยแม้นว่าจักพบอันตรายใดๆก็จะแคล้วคลาด เพราะคาถานี้ยังเป็น "นะจังงัง" อีกด้วย ท่านว่าดีนัก แต่อย่าลืมระลึกถึงหลวงพ่อเกษม เขมโก ก่อนใช้ทุกครั้ง

พระคาถาทั้ง ๔ บทนี้ หลวงพ่อเกษมท่านเมตตารจนาด้วยองค์ท่านเองทั้งสิ้น เพื่อมอบเป็นสมบัติให้กับลูกหลานในภายภาคหน้าได้ใช้กัน

จริงใจไม่ไก่กา

เปิดให้บูชา 999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับเป็นเหรียญหายากอีกรุ่นหนึ่งไม่ค่อยพบเจอครับ

 

730.พระผง หลวงพ่อสด วัดปากน้ำรุ่น 4 พิมพ์ใหญ่แจกกรรมการ จัมโบ้ 2514
พระผง หลวงพ่อสด วัดปากน้ำรุ่น 4 พิมพ์ใหญ่แจกกรรมการ จัมโบ้ 2514

พระรุ่นพิเศษนี้ สร้างขึ้นสำหรับแจกแก่เจ้าภาพผู้ทำบุญบรรจุพระ โดยเฉพาะผู้ที่บรรจุพระ 100 องค์ จะได้รับแจกพระรุ่นพิเศษนี้ 2 องค์ เป็นพิมพ์ใหญ่ 1 องค์ เป็นพิมพ์เล็ก 1 องค์

จะแจกให้เฉพาะเจ้าภาพที่บรรจุพระเท่านั้น ไม่มีการให้เช่าแต่ประการใด “สร้างขึ้นพร้อมกับพระธรรมขันธ์รุ่นบรรจุกรุ” คือในปี 2518 มีส่วนผสม กรรมวิธีเช่นเดียวกันทุกประการ
พิมพ์ใหญ่มีขนาดองค์พระกว้างประมาณ 2.7 ซม. ยาวประมาณ 3.8 ซม. หนาประมาณ 6 มม. เป็นพระนั่งสมาธิราบปางปฐมเทศนา พระหัตถ์ขวายกขึ้นจีบนิ้ว อยู่ในซุ้มข้างซุ้มมีเส้นม่านเป็นขีดๆ ฐานบัวสองชั้น

ด้านหลังเขียนเป็นอักขระขอม อ่านว่า ธรรมขันธ์ ด้านล่างต่อจากตัวอักขระพิมพ์เป็นตัว “ภ” อยู่ในวงกลมและนอกจากนี้ยังได้โรยทับทิมหรือพวกอัญมณีไว้เป็นพิเศษที่ด้านหลัง

และมีส่วนผสมของพระของขวัญรุ่น 1-2-3 และเกศาของหลวงพ่ออีกด้วย เนื้อส่วนมากเป็นสีขาว และสีเหลืองอ่อนๆ
เปิดให้บูชา 1499 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ มีซ่อมเก่าด้านล่างมุมขาวมือครับ

 

731.ตะกรุดโทนแตะกรุดโทนแดง หลวงพ่อจำลอง วัดเจดีย์แดง จ.อยุธยา ปี2548
ตะกรุด เมตตา รุ่นแรก หลวงพ่อจำลอง วัดเจดีย์แดง จ.อยุธยา ทำตามตำหรับโบราณ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ทำจากตะกั่วรีดเป็นแผ่น ลง "ยันต์เฉลียวเพชร จุ่มรักแดง ปิดทอง เหนียวไม่แพ้สีดำเลย ตะกรุด หลวงพ่อจำลอง วัดเจดีย์แดง อยุธยา สุดยอดคงกระพันชตรี หนังเหนียว หลวงพ่อจำลองเป็นผู้สืบทอดเครื่องรางของขลังอันเก่าแก่ในสมัยอยุธยา ฝึกจิตเป็นกิจวัฒต์ ตะกรุดของท่านจึงคงกระพันชาตรี และเป็นมหาอำนาจ สีแดงเมตตามหานิยม เรื่องเหนียวไม่ต้องพูดถึง ครับ ตะกรุดสีแดง เมตตามหานิยม

ตะกรุดหลวงพ่อจำลองวัดเจดีย์แดง (แดง) ทำจากตะกั่วรีดเป็นแผ่น ลงอักขระ (ยันต์เฉลียวเพชร) ม้วนกลมแล้วถักด้วยสายสิญจญ์จูงศพ นำมาลงรักแดงปิดทอง ตะกรุดของท่านทำตามตำรับโบราณซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
สรรพคุณดอกดำ คาดเอวเป็นคงกระพัน ถ้าแขวนคอเป็นมหาอำนาจ
"ส่วนดอกแดงเป็น มหานิยม"ดง หลวงพ่อจำลอง วัดเจดีย์แดง จ.อยุธยา ปี2548
เปิดให้บูชา 599 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ ยาว 3.2 ซม.ครับ

 

732.ประคำผงยาจิดามณี
เป็นประคำผงยาจินดามณีเก่า ส่วนมากเป็นของหลวงปู่บุญครับแต่ผมได้บนหิ้งมาเก่าของจริงครับ ลูกจริงสวยเพียงแต่ผมถ่ายรูปมาได้ชัดสุดเท่านี้ครับผม
เปิดให้บูชา 1499 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
รูปพื้นสีแดงตัวอย่างคล้ายๆกันครับ

 

ปิดแล้วครับ
733.พระเกศาเนื้อดินเผาครูบาบุญชุ่ม
หากจะกล่าวถึง พระสกุลลำพูน เนื้อดินเผา และลงกรุ หนึ่งในนั้นต้องมี พระคง ซึ่งเมื่อก่อนเป็นพระน้ำจิ้ม แถมบ้าง แจกบ้าง แต่ปัจจุบัน พระคงลำพูน องค์ที่สวยๆ นั้นมีการเช่าหากันหลัก "ล้านบาท " พระคงมีหลายสี แต่สีที่จัดได้ว่า หายาก และ มีราคาแพง คือ สีดำ แดง เขียว สีผ่าน หรือ สองสี
พระเครื่องของครูบาบุญชุ่ม ก็เช่นกัน มี 1 รุ่นที่มีกระบวนการคล้ายกับ พระคงลำพูน ( เนื้อดินเผา , ลงกรุ ) คือ พระเกศาเนื้อดินเผา วัดท่าต้นงิ้ว ปี 2540 ซึ่งตอนนี้ หากจะนับกันจริงๆ ตามข้อมูลเบื้องต้น มีแค่ 400 องค์ เท่านั้น ( ที่ได้มีผู้ครอบครอง ) ส่วนที่เหลือ บรรจุใต้ฐานพระประธาน 2,000 กว่าองค์
โดย ในวันที่ 9 พ.ย.61 ทางวัดฯ จะเปิดกรุพระเกศาครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ที่บรรจุใต้ฐานประธานในอุโบสถ รุ่น สร้างอุโบสถวัดท่าต้นงิ้ว ปี 2540 รวมระยะเวลาที่อยู่ในกรุ กว่า 21ปี เนื้อดินเผาแบบพระสกุลลำพูน เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมทำบุญ
กราบขอบพระคุณ พระครูปริยัติกิจพิพัฒน์ (พระมหาไพฑูรย์ วชิรญาโณ ) เจ้าอาวาสวัดท่าต้นงิ้ว (ดาราวิลาศ) ที่ให้ข้อมูล
พระปรกใบมะขาม ปี 62 ครูบาบุญชุ่ม
1.พระเกศาเนื้อดินเผาลงกรุ 1 องค์ พร้อมจีวรครูบาบุญชุ่ม
2.พระปรกใบมะขาม

เปิดให้บูชาชุดนี้ 1499 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับชุดหายากครับ

 

734.พระผงว่านพิมพ์ฤาษี ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร
พระผงว่านพิมพ์ฤาษีนี้ได้รับกับครูบาตอนออกถ้ำราชคฤาช์ที่ลำปาง อำเภองาวครับ
มีด้ายแดงพร้อมลูกอมเทียนชัย มี 2 เส้นครับหายากครับ
เปิดให้บูชา 999 บาท ค่าจัดส่ง 50 บาทครับ