หลวงพ่อบอก ทำงานสาธารณประโยชน์ เป็นการเร่งรัดบารมี

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 13 กันยายน 2024 at 19:10.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,842
    กระทู้เรื่องเด่น:
    93
    ค่าพลัง:
    +225,625
    messageImage_1711785894213.jpg

    หลวงพ่อบอก ทำงานสาธารณประโยชน์ เป็นการเร่งรัดบารมี



    "ถึงแม้หลวงพ่อมรณภาพแล้ว แต่ก็ยังอยู่ใกล้ลูกตลอดเวลาตามที่หนังสือเขียนไว้ว่า

    ขอลูกทั้งหลายจงอย่าถือขันธ์ 5 ของพ่อนี่เป็นสำคัญ ปฏิปทาใดที่เป็นที่ชอบใจ ไม่เกินวิสัยของลูก ขอลูกจงทำ และจงรักษาอภิญญาสมาบัติไว้

    ขณะใดที่ใจของลูกยังรักษาอภิญญสมาบัติไว้

    รักษาปฏิปทาสาธารณประโยชน์

    ขณะนั้นลูกจงภูมิใจไว้ว่าพ่ออยู่กับลูกตลอดเวลา

    อันนี้แหละมั่นใจได้เลยครับ อยากจะถามญาติโยมว่า อยากจะให้หลวงพ่อมาอยู่กับเราตลอดกาลตลอดสมัยไหม ?"

    อันที่จริงพวกเราทำอะไร ก็อยากจะให้หลวงพ่อรู้ อยากให้หลวงพ่อทราบ อยากให้หลวงพ่อโมทนา มีปัญหาอะไรก็อยากให้หลวงพ่อช่วย หลวงพ่อแก้ปัญหา สิ่งที่มันทุกข์ยากให้ผ่านพ้นไป เจตนาของหลวงพ่ออยากจะให้รักษาอภิญญาสมาบัติไว้ จะเป็นมโนมยิทธิก็ดี รักษาศีล ภาวนาก็ดี

    และอีกอย่างงานสาธารณประโยชน์

    คือหลวงพ่อตั้งศูนย์สงเคราะห์ผู้ยากจนในถิ่นทุรกันดารนี่ ต้องการสงเคราะห์คนที่ไม่มีโอกาส ทีนี้หลวงพี่ก็มีความคิดอยู่ว่าจะทำยังไง ถึงเป็นงานสาธารณประโยชน์ให้แก่คนที่ด้อยโอกาส

    ก็มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีคนที่หน่วยฝีมือแรงงานจังหวัดนครสวรรค์ คือ ชอบกัน มาหาและคุยกันบอกว่าที่หน่วยนี้ สอนอาชีพทุกอย่างตั้งแต่ช่าง ก็บอกว่าที่นี่หลวงพ่อก็สงเคราะห์เด็ก เขาก็บอกว่าเขาก็สงเคราะห์เหมือนกันพวกช่างยนต์ ช่างไฟฟ้าฯ เขาจะสอน 10 เดือน ครบ 10 เดือนแล้วออกไปทำงานได้เลย

    เราก็บอกว่า ตอนนี้หลวงพ่อก็สงเคราะห์เหมือนกันแต่เกี่ยวกับนักเรียน หลวงพี่ก็มาคิดว่า ถ้าจะแจกเป็นอาหารก็ดี เสื้อผ้าก็ดี แจกเท่าไรก็คงไม่พอหรอก เพราะว่าไปใช้ประโยชน์ได้น้อย แต่ถ้าเราสงเคราะห์เด็กอย่างนี้จะใช้ประโยชน์ได้มาก คือเขาสามารถจะช่วยเหลือตัวเองได้เลย

    ทีนี้การเรียนที่นี่ต้องมีทุนเรียน ทุนละประมาณ 7,500 บาทต่อคน จึงมาคิดว่าถ้าเรามาให้การสงเคราะห์อย่างนี้ คือเราไม่ได้จำกัดจำนวนเท่าไหร่ เราได้ทุนมา 2 คน ก็ส่ง 2 คน ได้มา 5 คน ก็ส่ง 5 คน เราไม่ได้บีบบังคับอะไร พอคุยอย่างนี้หน่วยฝีมือแรงงานก็ทำเรื่องเข้ากรมเลยว่า เราจะทำงานกับสายงานของเขา

    ที่หน่วยนี้ก็พอดีมีคนของเราไปอยู่ในนั้น คือเดิมก็จบ ป 6 นี่แหละ แต่ไปเรียนเกี่ยวกับช่างอ๊อก อ๊อกจนฝรั่งพอใจ ไปเรียนที่เมืองนอก ตอนนี้กลับมา มาเป็นอาจารย์ที่นี่ กลับมารวยเลย ฝรั่งให้เงินเดือนตั้ง 5-6 หมื่น เป็นช่างมีระดับ คือแข่งกันแล้วได้ระดับที่ 2 ของประเทศ ตอนนี้กลับมาเป็นอาจารย์อยู่ในหน่วยพัฒนาฝีมือแรงงาน

    "แล้วงานของศูนย์ฯเก่า ๆ จะทำไหมครับ ?"

    ศูนย์ ก็ทำเหมือนเดิมแหละ ตอนนี้ก็เก็บเสื้อผ้าตลอด เก็บใส่ถุงพลาสติคมัดปาก ของผู้หญิง ผู้ชาย ขนาดเด็ก ผู้ใหญ่ แยกขนาดไว้เลย ถ้ามีสาขาใดต้องการก็มอบให้ไปแจกเลย ตอนนี้มีเสื้อผ้าเป็นรถบรรทุกเหมือนกัน

    "คือไปนึกถึงได้ที่หลวงพ่อบอกว่า บารมีเร่งรัด หรือเร่งรัดบารมี คือการทำงานสาธารณประโยชน์

    จุดที่ว่านี้ก็คือตัวเร่งรัดบารมี ใช่ไหมครับ ?"

    ใช่ เพราะว่าเราทำ เราไม่ได้หวังผลตอบแทนนี่ เราเสียสละ การทำงานอย่างนี้หลวงพ่อเคยพูดเหมือนกัน ท่านบอกว่า พวกแกนี่นะถ้าทำงานสาธารณประโยชน์อย่าหวังผลตอบแทนจากคน

    ถ้าหวังผลตอบแทนจากเด็กหรือจากคน ถ้าคนคนนั้นอกตัญญูขึ้นมา เราจะเสียกำลังใจ เราจะไม่ทำงานต่อ

    ทำให้ทำทิ้งและทำเพื่อพระนิพพาน

    ถ้าเราตัดอย่างนี้กำลังใจของเราจะสูง เมื่อกระทบสิ่งไม่ถูกใจ เราก็ไม่เสียใจ เพราะเราไม่หวังผลตอบแทน

    เราหวังผลตอบแทน คือ พระนิพพานเท่านั้น



    (จากคอลัมภ์ "จากคำบอกเล่า" ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 148 มิถุนายน 2536 หน้า 94-96)
     

แชร์หน้านี้

Loading...