เรื่องเด่น หลวงพ่อฤาษีฯกับเหล่าพระโพธิสัตว์ และพระผู้ปฏิบัติดีทางเหนือ ( เรื่องเล่าจากพระอ.เล็กวัดท่าขนุน)

พระอาจารย์เล็กเล่าให้ฟัง

ถาม: หลวงพ่อฤๅษีเคยพบครูบาศรีวิชัยไหมครับ ?
ตอบ: เคย...ท่านบอกว่าเป็นพระทองคำ ถ้าพระทองคำกับพระสุปฏิปันโนของหลวงพ่อก็เหมือนกัน คือ ต้องเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจริง ๆ ลูกศิษย์ของครูบาศรีวิชัยก็เหมือนกับลูกศิษย์หลวงปู่มั่นนั่นแหละ คือลูกศิษย์ทุกองค์นี่เป็นหลัก เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ทั้งหมดเลย

ล่าสุดก็หลวงปู่ครูบาวงศ์ที่เพิ่งมรณภาพไป รุ่นใหญ่เลยก็หลวงปู่ครูบาขาวปี รุ่นหลัง ๆ ก็หลวงปู่ครูบาบุญทืม หลวงปู่ครูบาพรหมจักร หลวงปู่คำแสนใหญ่ หลวงปู่คำแสนเล็ก หลวงปู่ครูบาชุ่ม วัดวังมุย หลวงปู่ครูบาธรรมชัย มาถึงรุ่นหลวงปู่ครูบาวงศ์ (หลวงปู่ครูบาวงศ์สมัยนั้นป็นแค่เณรเอง)

ถาม: หลวงปู่ครูบาขาวปี เท่าที่รู้ท่านไม่ได้บวชเป็นพระนี่ครับ ?
ตอบ: ก็นุ่งผ้าขาวนั่นแหละ พวกกะเหรี่ยงเอาช้างแห่ไปเลย เพราะกะเหรี่ยงเขาถือว่าถ้าห่มผ้าขาวนี่ก็คือพระของเขา เขาเลยดีอกดีใจ ตุ๊นุ่งเหลืองนั่นตุ๊ของพวกเจ้า ตุ๊นุ่งขาวของพวกเฮาเอง ตกลงว่าท่านยิ่งสึกยิ่งสบาย แต่จริง ๆ คนมันไม่มีลูกตา

ถาม: แล้วอย่างนี้ถ้าท่านไม่ใช่พระโพธิสัตว์ ท่านเป็นพระอริยะขึ้นมาในขั้นสูงสุดจนถึงมรณภาพ ?
ตอบ: สาหัส..ก็ไม่มีปัญหานี่ มีใครสึกพระอรหันต์ได้ ? เปลี่ยนได้แต่เครื่องแต่งตัวของท่าน หลวงพ่อดาบสอีกองค์หนึ่ง หลวงปู่ครูบาขาวปีวันที่ทางการไปสึกท่าน ท่านอยู่ใต้ต้นไม้ที่แห้งตาย ท่านก็ตั้งสัจจะอธิษฐานว่า ถ้าหากว่าท่านไม่ได้เป็นผู้ผิดจริง ก็ขอให้เทพยดาฟ้าดินแสดงเหตุการณ์อะไรบางอย่างให้ปรากฏด้วยเถิด พอท่านถอดสังฆาฏิออกพาดใส่ต้นไม้แห้ง ต้นไม้แตกใบใหม่เดี๋ยวนั้นเลย..!

ต้นไม้แตกใบใหม่นี่อาตมาเคยเห็นคาตาอยู่ครั้งหนึ่ง ที่วัดท่าซุงประมาณปี ๒๕๒๘ ครั้งนั้นท่านปรีชาทรงธรรม พยากรณ์ฝากโยมมาให้หลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านปรีชาทรงธรรม ก็คือ พระศรีอริยเมตไตรย ท่านบอกว่า พอถึงปีนั้น วันนั้น เดือนนั้น ศูนย์โลกุตตรพลังจะหมุนไปอยู่ที่วัดท่าซุง ถ้าถึงวันนั้น เวลานั้น หากใครที่ตั้งใจในปริยัติ คือเล่าเรียนศึกษาธรรม ปฏิบัติ คือ ตั้งใจปฏิบัติธรรม ปฏิเวธ คือ การใช้ผลที่เรียน หรือว่าผลที่ปฏิบัติมา จะมีผลมากเป็นพิเศษ

วันนั้นอาตมาก็ตั้งใจไปวัดท่าซุง เพื่อรอดูว่าจะมีอะไรบ้าง จึงเห็นคาตาเลย ต้นโพธิ์ใหญ่ที่อยู่เยื้อง ๆ จุฬามณี นึกออกไหม ? ต้นที่อยู่ข้าง ๆ โรงไฟฟ้า ตอนนั้นโรงไฟฟ้ายังไม่มี ต้นโพธิ์ทิ้งใบหมดอย่างกับตายเหลือแค่ก้าน

พอช่วยงานวัดเสร็จประมาณสี่โมงกว่า หลวงพ่อท่านมารับแขก อาตมาก็กลับที่พัก เตรียมตัวไปอาบน้ำ เมื่อเดินผ่านเห็นใบไม้ค่อย ๆ แตกขึ้นมาอย่างกับที่เขาถ่ายหนังสารคดีอย่างนั้นเลย โผล่ขึ้นมาแล้วค่อย ๆ ใหญ่ขึ้น ๆ จนกระทั่งกลายเป็นใบโตเต็มที่ เห็นคาตาภายในไม่กี่วินาที เห็นชัด ๆ เลย

ถึงได้มั่นใจว่าศูนย์โลกุตรพลังหมุนไปถึงวันนั้น เวลานั้นจริง ๆ เพราะว่าขนาดต้นไม้แห้งยังสามารถแตกใบใหม่ให้เห็นได้ แต่ถึงว่าจะโตเต็มที่ก็ยังเป็นลักษณะใบอ่อนอยู่ตามที่โบราณเขาเรียกว่า เพสลาด คือจะอ่อนก็ไม่ใช่ จะแก่ก็ไม่เชิง เป็นใบใหญ่เต็มที่แล้วแต่ยังเห็นเค้าใบใหม่ ๆ อยู่ แตกให้เห็นต่อหน้าต่อตา

ส่วนของหลวงปู่ครูบาขาวปีท่านก็อย่างนั้น พอท่านพาดสังฆาฏิไป ต้นไม้ก็แตกใบใหม่ แต่เขาก็จับท่านสึกจนได้

ถาม: แล้วที่ท่านพูดถึงพระศรีอาริยเมตไตรย ท่านใช้ชื่อว่าอะไรนะครับ ?
ตอบ: ท่านปรีชาทรงธรรม ท่านใช้เวลาในเขียนจดหมายมาหาหลวงพ่อ ไม่รู้เหมือนกันว่าติดแสตมป์อย่างไรจึงส่งมาถึงได้ เวลาท่านฝากข้าวฝากของไปวัดท่าซุงก็ไปถึงได้ เอากับท่านสิ

ถาม: แล้วมีที่อยู่ผู้ส่งไหมครับ ?
ตอบ: ไม่มี ท่านลงชื่อไปอย่างนั้น แต่หลวงพ่อท่านรู้ ท่านบอกว่านี่เป็นของพระศรีอาริยเมตไตรย แล้วหลวงพ่อท่านสร้างรูปพระศรีอริยเมตไตรยด้วยเหตุนี้แหละ เพราะว่าท่านช่วงสงเคราะห์วัดท่าซุงไว้เยอะมาก สงเคราะห์ไว้ตั้งแต่ระยะแรก ๆ เลย

ถาม: หลวงพ่อฤๅษีบอกว่า หลวงปู่ครูบาวงศ์เป็นพระโพธิสัตว์หรือเปล่าครับ ?
ตอบ: หลวงปู่ครูบาวงศ์เป็นพระโพธิสัตว์แน่นอน อีกประมาณ ๑,๐๐๐ ปี ท่านจะมาเกิดเพื่อบูรณะพระเจดีย์ชเวดากองใหม่

ถาม: ทำไมต้องสร้างเจดีย์ชเวดากองเหมือนพม่า ?
ตอบ: พระเจดีย์ชเวดากองเป็นเจดีย์ที่สำคัญมาก เนื่องจากว่าพระพุทธเจ้าในภัทรกัปทั้ง ๕ พระองค์ จะต้องมอบของใช้ หรือว่าพระธาตุส่วนใดส่วนหนึ่งเพื่อให้บรรจุไว้ที่นั่น ถ้าถามหลวงปู่ครูบาวงศ์ ท่านว่าพระเจดีย์ชเวดากองตั้งอยู่กึ่งกลางของชมพูทวีป ศูนย์กลางพอดี

-----------------------------

เก็บตกบ้านอานุสาวรีย์ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๔๖