เรื่องเด่น เป็นเปรตเพราะทุบพระพุทธรูป

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย สิงหนาท, 19 พฤศจิกายน 2009.

  1. สิงหนาท

    สิงหนาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    673
    ค่าพลัง:
    +4,805
    [​IMG]

    <O:p</O:p
    ที่ถ้ำเชียงดาวนี้ พระแหวนได้พบเปรตตนหนึ่ง ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ว่า <O:p</O:p
    “ ในระหว่างพรรษา วันหนึ่งประมาณ ๕ โมงเย็น ท่านกำลังเดินจงกรมอยู่ ก็มีเสียงดังโครมครามเหมือนกิ่งไม้ใหญ่หักลงมา จึงเหลียวไปดู กลายเป็นสัตว์ร่างใหญ่ร่างหนึ่งเอาไม้เกาะอยู่บนกิ่ง ห้อยหัวลงมา มีผมยาวรุงรัง เสียงร้องโหยหวน ท่านบอกว่าๆไม่นึกกลัว และไม่ได้สนใจ ยังคงเดินจงกรมต่อไป เมื่อร่างนั้นเห็นพระไม่สนใจ ก็หนีหายไป<O:p</O:p
    สองสามวันต่อมาก็ปรากฏอีก แต่พระก็เดินจงกรมโดยไม่สนใจ หลังจากนั้นจึงมาปรากฏตัวให้เห็นทุกเย็น
    แต่ไม่ได้เข้ามาใกล้พระ คงแสดงอาการเหมือนเดิมทุกครั้ง<O:p</O:p
    วันหนึ่ง ท่านได้กำหนดจิตถามไปว่า ที่มานั้นเขาต้องการอะไร ทีแรกเขาทำเฉยเหมือนไม่เข้าใจ จึงกำหนดจิตถามอีก เขาจึงบอกว่าต้องการมาขอส่วนบุญกำหนดจิตถามต่อไปว่า เขาเคยทำกรรมอะไรมา จึงต้องทุกข์ทรมานอยู่ในสภาพเช่นนี้<O:p</O:p
    เปรตเล่าถึงบุพกรรมของเขาว่า เขาเคยเป็นคนที่เชียงดาวนี้ มีอาชีพลักขโมยและปล้นเขากิน ก่อนไปปล้น เขาจะเอาดอกไม้ธูปเทียนไปขอพร และขอความคุ้มครองกับพระพุทธรูปองค์หนึ่งในถ้ำเอาทำอย่างนั้นทุกครั้ง และก็แคล้วคลาดตลอดมา<O:p</O:p
    อยู่มาวันหนึ่ง เขาไปขอพรพระพุทธรูปแล้วออกไปปล้นเช่นเคยบังเอิญเจ้าของรู้ตัวก่อน จึงเตรียมการต่อสู้ เขาถูกเจ้าของบ้านฟันบาดเจ็บสาหัส จึงหนีตายเอาตัวรอดมาได้ ด้วยความโมโหว่าพระไม่คุ้มครอง เขาจึงกลับไปที่ถ้ำแล้วเอาขวานทุบพระพุทธรูปจนคอหัก ขณะเดียวกันก็ยังคุมแค้นอยู่ ตั้งใจว่าบาดเจ็บหายแล้วจะกลับไปแก้แค้นข้าวของบ้านให้ได้ เผอิญบาดแผลที่ถูกฟันนั้นสาหัสมาก เขาจึงต้องตายในเวลาต่อมา วิญญาณเขาจึงต้องมาเป็นเปรตทนทุกข์ทรมานอยู่ที่เชียงดาวนี้ จึงได้พยายามมาขอส่วนบุญเพื่อให้พระท่านช่วยแผ่เมตตาให้จะได้คลายทุกข์ทรมานลงไปได้บ้างท่านเล่าว่า บุพกรรมของเปรตตนนั้นหนักมากเหลือเกินท่านได้รวบรวมจิตอุทิศบุญกุศลไปให้ ตั้งแต่นั้นมาร่างนั้นก็ไม่ปรากฏให้เห็นอีกแต่จะได้รับบุญกุศลเพียงใดขึ้นกับตัวเขาเอง ท่านบอกว่า เปรตตนนั้นเป็นเปรตสมัยใหม่เพราะใช้คำแทนตัวเองว่า “ผม” แต่เปรตตนอื่นๆ ที่หลวงปู่เคยพบมาจะใช้คำแทนตัวเองว่า “เรา” หรือ “ข้าพเจ้า” จึงนับว่าเปรตตนนี้เป็นเปรตสมัยใหม่<O:p</O:p
    บรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้น เมื่อมีทุกข์มาถึงตัว มักจะไม่เห็นคุณของพระศาสนา มัวเมาประมาท ปล่อยกายปล่อยใจให้ประพฤติทุจริต ผิดศีลธรรมอยู่เป็นนิสัยเห็นผิดเป็นถูก เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ต่อเมื่อได้รับทุกข์เข้า ที่พึ่งไม่มี นั่นแหละจึงได้คิดถึง พระ คิดถึงศาสนา แต่เวลาที่สายไปเสียแล้ว เรื่องความดีนั้นเราต้องทำอยู่เสมอ ให้เป็นที่อยู่ของจิตเป็นอารมณ์ของจิต ให้เป็นมรรคคือทางดำเนินไปของจิตมันจึงจะเห็นผลของความดี<O:p</O:p

    ไม่ใช่เวลาใกล้ตายจึงนิมนต์พระไปให้ศีล ให้ไปบอก พุทโธ หรือตายไปแล้วญาติจึงเคาะโลงบอกให้รับศีล เช่นนี้เป็นการกระทำที่ผิดหมด<O:p</O:p
    เหตุเพราะว่า คนเจ็บนั้นจิตมัวติดอยู่กับเวทนาไฉนจะมาสนใจใยดีศีลได้ เว้นแต่ผู้ที่มารักษาศีลมาเป็นปกติเท่านั้นจึงจะสามารถระลึกศีลของตัวได้ เพราะตนเองเคยทำมาจนเป็นอารมณ์ของจิตแล้วเท่านั้น<O:p</O:p
    แต่ส่วนมาก พอใกล้ตายแล้ว จึงมีผู้เตือนให้รักษาศีลยิ่งคนตายแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะคนตายนั้นร่างกายกับจิตใจไม่รับรู้ใดๆแล้ว<O:p</O:p
    แต่ที่ทำมาก็ยังถือว่าเป็นเรื่องดี
    ตัวอย่างเช่น พระเทวทัตทำกรรมมาจนสุดท้ายถูกแผ่นดินสูบ เมื่อร่างลงไปถึงคาง จึงระลึกถึงความดีของพระพุทธเจ้าได้แล้วขอถวายคางเป็นพุทธบูชาพระเทวทัตยังมีสติระลึกได้ จึงพอมีผลดีอยู่บ้างในอนาคตแม้เปรตตนนั้นก็เหมือนกัน ตายไปแล้วจึงสำนึกได้มาขอส่วนบุญเมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่เคยทำลายแม้กระทั่งพระพุทธรูปที่ตนเคารพนับถือ
    <O:p</O:p
    " การที่พระแผ่เมตตาให้ เขาจะได้รับหรือเปล่าก็ไม่รู้ สู้เราทำเองไม่ได้ เราทำให้ตัวเราเอง จะได้มากน้อยเท่าไรก็มีความปีติเอิบอิ่มมากเท่านั้น”

    <O:p</O:p
    จากหนังสือ ชีวประวัติ : ประสบการณ์ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ อริยสงฆ์ แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง มหานครเชียงใหม่ หน้าที่ ๒๔๕<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 พฤศจิกายน 2014
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,276
    ค่าพลัง:
    +82,733
    อนุโมทนาค่ะ...
    ที่วัดป่าวังน้ำทิพย์ฯ มีเปรตอยู่ตนนึง
    เค้ามีจมูกโตมากค่ะ
    สามารถเอากำปั้นยัดเข้าไปในรูจมูกได้สบายๆเลยค่ะ
    พี่ไม่ได้ถามพระอาจารย์ว่าเค้าทำกรรมอะไรใว้
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    โมทนาสาธุบุญครับ.....

    นอกเรื่องนิด....อยู่ลี้นี่ทันกราบครูบาวงศ์ไมครับ.....ผมศรัทธาท่านมาก....
     
  4. kriengkripob

    kriengkripob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,326
    ค่าพลัง:
    +2,048
    การฝึกจิตให้ชินกับการสร้างกุศลเป็นเรื่องดี/เอาแบบสบายๆ เบื้องต้นขอให้นึกถึงพระรัตนตรัย/บิดามารดา ก่อนออกจากบ้าน และก่อนนอน /ทำง่ายๆไปก่อนแล้วค่อยฝึกเพิ่มเติมด้านอื่นอีกเรื่อยๆ อนุโมทนา สาธุ สาธุ
     
  5. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    เจ้าของกระทู้ตอบด้วยจ้า


    สาธุ บทความมงคลด้วยครับ ไกด์คุง
     
  6. bschaisiri

    bschaisiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +106

    ว่าจะถามนะคับ ทำไมเปรตตนนั้นอยู่ใกล้วัด พระก็น่าจะเห็นน่าจะรู้จากจิต

    ทำไมพระท่านนั้นถึงทำให้เปรตตนนั้น ไปที่ชอบไม่ได้คับ หรือต้องเป็นพระท่านอื่นจึงจะทำให้เปรตตนนั้นไปที่ชอบได้ อยากทราบข้อมูลความแตกต่างของพระที่พอจะทำให้เปรตตนนั้นไปที่ชอบได้คับ
     
  7. patrarung

    patrarung สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +4
  8. nok07

    nok07 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +330

    ผู้ที่จะแผ่เมตตาทำบุญให้เปรต และมีอนิสงค์พอที่จะให้เปรต ตนนั้นๆไปสู่ภพภูมิที่ดีได้ ต้องมีความเกี่ยวพันกัน คือเคยเป็นญาติกันมาก่อน จึงจะทำให้ได้ ส่วนผู้ที่ไม่เคยเป็นญาติกันมาถึงแผ่เมตตาหรือทำบุญให้ ก็ได้แค่ช่วยเปรตตนนั้นๆ มีความสุขขึ้นมาได้บ้างเท่านั้นครับ รอผู้รู้มาตอบเพิ่ม
     
  9. Greenpleace

    Greenpleace เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2012
    โพสต์:
    895
    ค่าพลัง:
    +8,768
    พระพุทธรูป ชาวพุทธต่างก็ให้ความเคารพในฐานะองค์แทนพระพุทธเจ้า เป็นทั้งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นที่รวมศรัทธา เป็นที่พึ่งพาให้ใจคนที่หาที่พึ่ง เป็นหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่มากมายนัก

    ทำให้คนที่มองแค่ว่าเป็นเพียงปูนปั้นหรือโลหะ นั้นปรามาสได้ง่าย ก็ไม่ต่างกับการเข้าไปทำลาย
    จิตใจของชาวพุทธที่เลื่อมใสศรัทธาทั้งหมด

    เราลองไปดูในพระไตรปิฎก ยกตัวอย่างเปรตที่เคยเป็นญาติพระเจ้าพิมพิสาร ยังต้องรอผลบุญกุศล
    แม้จะทำบุญกับเหล่าพระอรหันต์ และพระพุทธเจ้าเป็นประธาน พระเจ้าพิมพิสารเองก็ได้แต่
    กรวดน้ำไปให้ เพื่อให้ได้คลายความทุกข์ไปได้บ้าง เปรตก็รับกรรมต่อไป

    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม แม้มีพระธรรมคำสั่งสอนเรื่องบาปบุญ คนก็ยังมีแต่ความเบียดเบียนกัน ไม่ว่า กาย วาจา ใจ เหมือนที่เปรตเหล่านี้ได้เคยไปเบียดเบียนคนอื่นๆมาในอดีต คนถูกที่เบียดเบียด คนเหล่านี้ก็คงได้รับความทุกข์ไม่อยากให้เปรตเหล่านี้ทำร้ายจิตใจเช่นกัน เรียกว่า กฏแห่งกรรมครับ เราต้องปล่อยวาง และตั้งอยู่ในความไม่เบียดเบียน อบายภูมิเหล่านี้จะไม่มีแก่เราในอนาคตครับ

    ทุกคนในที่นี้ก็มีโอกาส เป็นเปรตได้เเหมือนๆกัน หากตั้งอยู่ในความเบียดเบียน ด้วยกาย
    ด้วยวาจา หรือ แม้ความคิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2015
  10. sathu-sathu

    sathu-sathu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +443
    สาธุ _/\_
     

แชร์หน้านี้

Loading...