เมื่อก่อนเข้าใจผิดคิดว่าทำกรรมชั่วแล้วจะได้รับกรรมตอนตายแล้วตกนรกเท่านั้น

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Electronic, 4 พฤษภาคม 2013.

  1. Electronic

    Electronic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +165
    ที่จริงแล้ว ไม่ใช่นนี่หว่า เพราะตั้งแต่มีสื่อธรรมมะที่ศึกษาได้สะดวกกว่าเมื่อก่อน ถึงเข้าใจว่าอ๋อที่เรามีสุขมีทุกข์ในชีวิตปัจจุบันนั้น ล้วนเป็นผลมาจากอดีตชาติและหรือปัจจุบันชาติด้วย ดังนั้นบางคนที่ทำกรรมชั่ว แต่ไม่เห็นว่าจะได้รับความทุกข์หรือบาปกรรมอะไรเลย กลับได้ดิบได้ดี แถมเสวยสุขอีกต่างหาก นั่นก็เพราะเขายังมีบุญเก่าที่ค้ำชูอยู่ แต่คนเราก็มีวันที่ช่วงดวกตก วันนั้นแหล่ะ จะเป็นวันที่เจ้ากรรมนายเวรจะมาทวงคืนอย่างสบาย แต่บางครั้งเวรกรรมก็ไปลงกับลูกหลานแทนก็มี ช่างเป็นอะไรที่เลวร้ายสำหรับผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นเร่งทำกรรมดีจะดีกว่า ถ้าเมื่อก่อนสมัยเด็กๆ เคยทำบาปกับสัตว์ไว้หลายตัว มาคิดตอนนี้ เพราะไม่มีคนสอนบอกกล่าว ถ้ารู้ เมื่อก่อนคงไม่ทำแน่ๆ
     
  2. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    อนุโมทนา ในธรรมที่เข้าถึง
    ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิด แต่รู้ว่าผิดแล้วกลับตัวกลับใจ เหล่าบัณฑิตล้วนกล่าวสรรญเสริญ
     
  3. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    พระพุทธศาสนาได้พยายามเปลี่ยนใจให้คนเชื่อในเรื่องกรรมว่า คนเราจะได้ดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับกรรม คือการกระทำของตัวเอง ไม่สำคัญว่าตนจะเกิดมาจากไหน ไม่สำคัญว่าตนจะเกิดมาอยู่อย่างไร แต่เมื่อเกิดมาแล้วต้องขวนขวายสร้างตัวของตัวเอง คือสร้างกรรมดี สร้างกรรมใหม่ เพื่อส่งให้ตนได้มีชีวิตดี มีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นมาได้

    ถ้าเกิดมาแล้วเอาแต่ก้มหน้ารับกรรม ยอมจำนนต่อกรรมเก่าหรือเทพลิขิต ชีวิตก็จะมีแต่อับจน แต่ถ้าเชื่อการกระทำของตน มีความเพียรพยายาม มานะก่อร่างสร้างตัว ชีวิตก็จะรุ่งเรืองขึ้นได้ ถ้ามุ่งมั่นหมั่นสร้างกรรมใหม่ที่ดีตามคำสอนของพระพุทธศาสนา คนที่เกิดเป็นลูกชาวนาก็ยังสามารถเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีได้ในชีวิตนี้

    นอกจากนั้นยังต้องไม่ลืมว่า เมื่อโชคดีมีบุญเก่าส่งมาให้ได้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว ก็อย่าเอาแต่ตั้งหน้าเสวยบุญอย่างเดียว ควรตั้งหน้าแสวงบุญไปพร้อมกันด้วย ทั้งบุญเก่าบุญใหม่จะได้ส่งให้เราอยู่ดี ตายดี และไปเกิดใหม่ในที่ที่ดียิ่งขึ้นกว่าเคยด้วย
     
  4. ประปราย

    ประปราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +301
    เวรกรรม เป็นเรื่องส่วนบุคคลน่ะค่ะ ใครทำใครได้ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

    ไม่สามารถสืบทอดไปยังลูกหลานได้ค่ะ ไม่ใช่ทายาทอสูร ^^"

    เหตุที่เห็นเหมือนกรรมตกไปสู่ลูกหลาน เป็นเพราะ คนที่เกิดเผ่าพันธ์เดียวกันได้ ย่อมมีกรรมคล้ายๆกันน่ะค่ะ (อันนี้เคยอ่านมา และขอยกตัวอย่าง ตระกูลหนู จะมีคนที่สัมผัสวิญญาณง่าย สิ่งศักดิ์รักษาอยู่ มีหลายคนเลยค่ะ แล้วคุณตาก็มีความสามารถด้านนี้ อย่างนี้ ไม่ใช่เพราะบุญจากตัวคุณตา แต่เป็นเพราะลูกหลานแต่ละคน ต้องมีบุญแบบที่คล้ายๆกันน่ะค่ะ)

    ยังเป็นผู้น้อยค่ะ รู้เท่าที่พบเจอ ซึ่งก็ยังน้อย ผิดถูกประการใดก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ^^
     
  5. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    "แต่บางครั้งเวรกรรมก็ไปลงกับลูกหลานแทนก็มี ช่างเป็นอะไรที่เลวร้ายสำหรับผู้บริสุทธิ์"

    อยากบอกว่า ที่ลูกหลานต้องทนทุกข์ในการกระทำต่างๆของพ่อแม่
    ก็เพราะลูกหลานเองนั้นมีกรรมที่จะต้องมาทนทุกข์นั่นแล
     
  6. daowdeaw

    daowdeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    537
    ค่าพลัง:
    +1,558
    เรามีกรรมเป็นของตนนั้น หมายความว่า เมื่อเราทำกรรมอันใดไว้ ก็จะได้วิบากของกรรมอันนั้นเป็นสมบัติของตนแน่นอน

    คำว่า วิบาก แปลว่า ผลของกรรมก็จริง แต่หมายเฉพาะผลที่เกิดในสันดานเท่านั้นจึงจะเรียกว่า วิบาก ส่วนผลของกรรมที่เป็นภายนอก เช่นเมื่อทำดีก็ย่อมจะได้ลาภสักการะ ชื่อเสียง อะไรทำนองนี้ ผลอย่างนี้เรียกว่า อานิสงส์ หรือบางทีก็เรียกว่า ผล เพราะคำว่า ผล อาจจะหมายถึงผลที่เกิดขึ้นในสันดาน หรือหมายถึงผลภายนอกก็ได้

    แต่ถ้าพูดถึง วิบาก แล้ว หมายเฉพาะ ผลของกรรมที่เกิดขึ้นในสันดานอย่างเดียว ขอให้สังเกตว่าขนาดความหมายพื้น ๆ ขั้นต้นเช่นนี้ คนส่วนมากก็เข้าใจไม่ค่อยจะถูกต้องแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงความหมายที่ลึกซึ้งกว่านี้ ซึ่งยังมีอีกมากกว่าคนทั้งหลายจะเข้าใจอย่างถูกต้องและลึกซึ้งพอ นี่แหละที่เป็นเหตุให้คนทั้งหลายไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องนี้
     
  7. เลิฟริว

    เลิฟริว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +207
    ชีวิตที่ผ่านมาใช้ชีวิตแบบผิดๆมาตลอด จนกระทั่งมาเจอความทุกข์ถึงเข้าถึงธรรมมะได้ ตอนนี้ก้อเริ่มหมั่นทำบุญ เริ่มหัดนั่งสมาธิ หมั่นทำแต่ความดี
     
  8. พงพัน

    พงพัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +478
    อนุโมทนาสาธุ ในความเห็นที่ถูกที่ควรเป็นเช่นนั้นแล ถ้าไม่มีเหตุจะมีผลตามมาได้อย่างไรดังจะยกตัวอย่างให้เห็นดังครอบครัวนึงที่กระผมประสบมาให้เพื่อนสมาชิกพิจารณาเอาเองเทอญว่าเป็นเรื่องกฏแห่งกรรม ครอบครัวที่เห็นตั้งหน้าตั้งตาทำแต่บุญกุศลสู้อุตส่าห์ใส่บาตรเป็นประจำแทบทุกเช้า จนแม้กระทั่งยามตนเองจะแย่อยู่แล้วแต่ก็สู้อุตส่าห์เป็นห่วงพระสงฆ์องค์เณรจะไม่มีอาหารขบฉัน จนเพื่อนบ้านละแวกใกล้ต่างเป็นห่วงค่นขอดเอา"ตัวเองจะอดตายอยู่แล้ว ยังจะไปใส่บาตรอยู่ได้"ก็ยังไม่ได้ละเว้นยังคงทำอย่างต่อเนื่องเสมอมา แม้จะประสบภาวะทุกข์ยากมากเข้าๆ จะว่าเวรกรรมนำชักให้ครอบครัวนี้ได้ถูกชักจูงไปสู่ความเชื่อ"ใครก็ตามมาทางนี้แล้วจะสบายหายโรคภัยมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองมีเงินมีทอง"ซึ่งในเวลาต่อมาลูกๆของครอบครัวนี้ต่างก็แยกย้ายไปประกอบอาชีพ ตัวคุณแม่ก็มีโรครุมเร้าและประสบปัญหาในครอบครัวอย่างหนักหนาลูกๆต้องออกมาทำงานทั้งที่บางคนยังเรียนไม่จบจึงได้หันมายึดความเชื่อเช่นที่ว่า ในกาลต่อมาหลังจากนั้นไม่นานอาการโรคต่างๆก็ทุเลาลง ลูกสาวคนโตก็ไปทำงานและก้าวหน้าในสายงานบริษัทชั้นนำและสร้างบ้าน สร้างฐานะได้ในที่สุด คุณแม่ท่านนั้นจึงมักจะรำพึงรำพันให้ผู้ใกล้ชิดหรือว่าเพื่อนบ้านอยู่เสมอๆทำนองยกความดีให้กับการหันเหมานับถือ"พระศรีอาริย์"ซึ่งอย่างกระผมแม้จะไม่ได้เชี่ยวชาญหรือลึกซึ้งแต่ผมก็ค่อนข้างแน่ใจว่าในยุคสมัยที่กระผมยังเคาะแป้นพิมพ์อยู๋ขณะนี้"พระศรีอาริย์"จะยังไม่ลงมามนุษย์โลกอย่างแน่นอน และถ้าพิจารณาตามหลักเหตุผลแล้ว ถ้าไม่มีเหตุกรรมดีในอดีตมาส่งให้แล้วผลที่แกอยู่สบายเช่นปัจจุบันจะมาจากไหน ส่วนตัวแล้วได้นึกเสียดายที่แกสู้อุตส่าห์ปฏิบัติสวดมนต์ ภาวนานั้นละทิ้งหายไปหมดสิ้นหลังจากได้เปลี่ยนไปเชื่อถือลัทธิเช่นที่ว่า ทั้งที่ตัวกระผมเองก็ได้พิจารณาดูลูกคนอื่นๆที่มานับถือเหมือนกัน แต่การปฏิบัติตัวได้ไม่ดีเท่า ก็ได้รับผลไม่ดีเช่นนั้นเหมือนกันหรือทำอย่างไรก็ต้องได้อย่างนั้น การปฏิบัติตนให้สมเป็นชาวพุทธที่มีสติประกอบด้วยเหตผล ก็ต้องรอได้ปฏิบัติได้ครบถ้วนหมั่นทำทานละกิเลสอย่างหยาบ รู้จักรักษาศีล(5ในวันธรรมดาหรือศีล8อุโบสถศีลในวันพระ) เร่งฝึกสมาธิให้เกิดความสงบ และในที่สุดแห่งความสงบก็จะเกิดปัญญา ผลที่ได้ก็จะทำให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจ"กฏแห่งกรรม"และหากทำได้เช่นนี้แล้ว ผมเชื่อเหลือเกินว่าจะไม่มีคำบ่นคำว่า"ทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วได้ดี"เพราะมันขัดกันอยู๋แล้ว จะมีก็แต่"ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม"ทำดีก็ต้องได้ดี ทำชั่ว(ในที่สุด)ก็ต้องได้ชั่ว"ขอรับทุกท่าน
     
  9. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    เราทุกคนมีกรรมเป็นเผ่าพันธ์...มีกรรมเป็นของๆตน ที่สำคัญอยู่ที่วาระจิตก่อนที่จะตาย


    ด้วยค่ะ ( เท่าที่พอจะทราบ ) บางคนทำบุญมาทั้งชีวิต รักษาศีลภาวนา แต่ถ้าผึกจิตไม่เป็นเมื่อตอน


    ใกล้จะสิ้นใจ... จิตไปน้อมถึงโมหะ โทสะ โลภะ ก็สามารภนำจิตเราลงไปอบายภูมิได้ ทั้งๆที่ก็เป็นคน


    ทำบุญ " เพราะฉนั้นจิตก่อนตายก็สำคัญนะคะ "




    โดยส่วยตัวดิฉัน เชื่อเรื่องของกฎแห่งกรรมค่ะ ใครทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลของกรรม


    นั้นๆ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ไม่มีทางหนีพ้น " ถึงแม้ว่าเราจะปฏิบัติจนเจ้ากรรมนายเวร ยอมอโหสิกรรมให้


    นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะหนีกรรมพ้น เรายังคงได้รับผลของกรรมอยู่เพียงแต่อาจจะเบาบางลง


    และกรรมก็จะหยุดแต่เพียงชาตินี้ โดยที่เราต้องละลึกถึงกรรมนั้นได้จริงและอุทิศให้จนเจ้ากรรมนายเวร


    เขายอมอโหสิให้จริงๆ "




    แต่ไม่ว่าจะเป็น กุศลกรรม หรือ อกุศลกรรม ต่างก็ส่งผลให้เราเช่นกันไม่ว่าผลจะแตกต่าง

    กันมากแค่ไหน
     

แชร์หน้านี้

Loading...