เล่นการพนันในงานศพที่วัด ผลบาปผลกรรมเป็นอย่างไร

นมัสการพระอาจารย์เจ้าค่ะ


ไม่ได้หาเรื่องข้อสงสัยให้พระอาจารย์ตอบข้อคาใจเสียนาน ไม่ใช่ไม่คิดถึงพระอาจารย์ดอกเจ้าคะ


เกริ่นตามหัวเรื่อง พระอาจารย์ต้องคิดในใจแน่นอนว่า "สงสัยมันอารมณ์หงุดหงิด น่ากลัวทิดเก๋จะไปช่วยงานศพชาวบ้านแบบไม่ถึงวันเผาไม่กลับอีกล่ะสิ"

คือตรงนั้นมันวางอารมณ์ใจได้เจ้าค่ะ เราคิดเสียว่า สามีของเรานั้นเขาไปช่วยงานแบบทุ่มสุดตัว เพราะคนตายก็คุ้นเคย ไหนๆ ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ช่วยฯ ก็ต้องช่วยเฝ้าศพให้ตลอด และใช้การตายเป็นครู พิจารณาอสุภะบ่อยๆ คงเจริญสักวันเจ้าค่ะ แต่แปลกที่ตรงทิดเก๋และพวกที่ไปนั่งเฝ้าศพแบบไม่ยอมหลับยอมนอนหลายๆ คืน พอวันเผา ไม่มีใครตื่นไปไหวสักงานเลยค่ะ

..............................................................................


คำถามคือ เมื่อก่อนที่จะมีข้อกฎหมายออกมาว่า "ไม่อนุญาตให้มีการเล่นการพนัน ดื่มสุรา ในวัด หรืองานศพ" ที่วัดทุกๆ วัดมีป้ายประกาศแทบทั้งนั้น

สมัยอยู่สุรินทร์ ไปงานศพไม่ว่าที่บ้าน หรือที่วัด เราจะคุ้นตากับการละเล่น อย่างประเพณีเขมรนะคะ จะเอาหนุ่มๆ สาวๆ มานั่งล้อมวง ข้างๆ โลงศพหลังพระสวดจบ แล้วเอาอุปกรณ์การเล่นเกมส์ คือกะลาผ่าครึ่ง เม็ดมะขาดผ่าครึ่ง มาเล่น จำชื่อไม่ได้เจ้าค่ะว่าเล่นอะไร แต่การละเล่นไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาจะเอาน้ำตั้ง ถ้าหนุ่มเสีย ให้แก้ทีละชิ้นให้สาวๆ เก็บไว้ ถ้าเหลือแต่ผ้าขะม้า ให้กลับบ้านเลย หรือลงไปช่วยงานครัวเช่นตักน้ำตักท่า ผ่ามะพร้าวขูดมะพร้าวทำกระทิ สาวๆ ถ้าแพ้ดื่มน้ำจนจุก อย่างนี้ถือถือว่าเป็นการละเล่นเพื่อให้หนุ่มๆ สาวๆ ได้รู้จักกันและหลอกให้เฝ้าศพไปในตัวใช่ไหมเจ้าคะ ถือว่าผิดศีลข้อไหนประการใดไหมคะ

.............................................................................


แต่ทีนี้มาคิวพ่อยายผีป่า แกขาเมา ไปงานไหนเขาบ่นทุกงาน แกไม่เล่น แต่แกไปยืนเป็นเกจิให้เขาบ่น เพราะแกจะบอกว่า แทงนี่สิ เล่นอย่างนี้สิ พอถึงวาระที่พ่อกำลังจะต้องตายบ้าง แกสั่งยายผีป่าว่า "งานศพพ่ออย่าให้มีการเล่นการพนันนะลูก มันไม่ดี" ก็รับปากท่าน แต่พอวันงานจริง เพื่อนพ่อกับพวกมาจากไหนไม่รู้ บางคนมาแบบไม่รู้จักใครก็มี มาหลังพระสวด (จัดที่วัด ตอนนั้นยังไม่กฎหมายห้าม)

เราไปขอร้องไม่ให้มีการกินเหล้าในวัด แต่แม่ยายผีป่านี่แหละ แกตรอมใจ เมาข้างๆ โลงคนแรก น้องสาวตั้งตัวเป็นเจ้ามือไฮโลว์ หลังจากได้รับเงินช่วยเบื้องต้นจากเจ้านาย พี่ชายสติไม่ค่อยดีแต่เล่นไพ่นับได้คล่อง ช่วยน้าสะไภ้ถือไพ่ ยายผีป่าเหนื่อยที่ต้องทำครัวสองคนกับน้องบุญธรรมก็มาที่วงการพนัน ขอร้องให้เขาเลิก โวยไปมา เขากลับบ้านหมด เป็นอันว่ามีเหลือยายผีป่่าเฝ้าศพกับแม่สองคน แต่แม่แกเมาหลับไหล เลยเหมือนเราอยู่ที่ศาลาคนเดียวเท่านั้น เลยเข้าใจว่า การเล่นการพนันและจัดเครื่องดื่มพวกเหล้าให้เขากินกันนั้น คนสมัยก่อนเขาใช้เป็นอุบายในการให้มีเพื่อนเฝ้าศพกระมัง

อยากถามว่า งานศพครั้งนี้ผลเป็นอย่างไรทางธรรมตอนที่ยังไม่มีกฎหมายออกมาห้าม


เมื่อมายุคนี้กฎหมายชี้ชัด เตือนกันทุกทาง แต่ยังมีการละเล่น

ยกตัวอย่างวัดแปลงสอง เลยบ้านยายผีป่าไปนิด เจ้าอาวาสท่านไม่ยอมให้ใครมากินเหล้า มาเล่นการพนันในวัด ไม่ว่างานอะไรท่านห้ามเด็ดขาด เลยกลายเป็นที่รู้กันว่า ที่วัดนี้ไม่ค่อยมีงานศพ จะมาก็ตอนแบกศพมาเผา เขาจัดที่บ้านกัน เพราะมันเล่นได้


แต่มีบางวัดแถวบ้านยายผีป่่าค่ะ เคยถามเจ้าอาวาสว่า ทำไมถึงปล่อยให้เล่น

ท่านตอบว่า

"กูสวดเสร็จกูก็ขึ้นกุฏิ กูขอร้องมัน มันเชื่อกูไหม จะให้กูแจ้งตำรวจมาจับพวกมัน มันก็คนกันเองทั้งนั้น ผัวมึงด้วย จะให้กูทำยังไง"


ยายผีป่าเลยอยากถามว่า

กรณีเช่นนี้ทางธรรม ผลที่จะเกิดกับทางเจ้าอาวาส พระที่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ และคนเล่น เจ้าภาพ และวิญญาณที่ตายไป ผลสรุปว่าเช่นไรเจ้าคะ


กราบขอขมาหากคำถามมิสมควรเจ้าค่ะ

 

รอคำตอบด้วยครับ

 

ทีมงานจ๋า ถ้าหลวงพี่ตอบแล้ว กรุณาติดต่อแจ้งไปยัง หมายเลข ๐๘๕-๒๒๔๘๘๗๐ ด้วยนะเจ้าคะ

 

มารออ่านคำตอบด้วยค่ะ